พระกริ่งปวเรศ รุ่นแรก พ.ศ.2434 เนื้อนวโลหะ

พระกริ่งปวเรศ รุ่นแรก ที่สร้างโดย สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ทรงเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 8 มีผู้กล่าวอ้างถึงการสร้างพระกริ่งปวเรศรุ่นแรกไว้มากมาย อ้างกันไปลอกกันมา บางคนก็อ้างมีเพียง 30 กว่าองค์ บางคนก็อ้างมี 56 องค์ ต่างๆนาๆ รายละเอียดซ้ำๆซากๆเรื่องต่างๆที่มีคนมักจะกล่าวอ้างไปมาผมจะไม่ขอกล่าวถึง

กลุ่มบุคคลที่สะสมพระกริ่งปวเรศฯ ประกอบด้วย 3 กลุ่ม
1. กลุ่มที่เชื่อตามเซียน มักอ้างตำราและหลักฐานที่เคยพบในกลุ่มของตนเอง
2. กลุ่มที่เชื่อในรูปและนาม
- รูป...ประกอบด้วยรายละเอียดเนื้อหาของวัสดุ สามารถดูได้ด้วยตา หรือใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้าช่วย
- นาม...ประกอบด้วยพิธีกรรม ผู้อธิฐานจิตเป็นต้น ทำได้โดยขอความเมตตาจาก "[FONT=&quot]พระอริยสงฆ์[/FONT]” [FONT=&quot]หลายรูปที่มี [/FONT]“[FONT=&quot]พระอภิญญา[/FONT]” ตรวจสอบพิธีสร้างและผู้อธิฐานจิตฯลฯ
3. กลุ่มนี้มีน้อยที่สุด คือ เห็นราคาถูกดี เสี่ยงๆ เก็บไว้ดู

ในกระทู้นี้ผมจะกล่าวเฉพาะ พระกริ่งปวเรศ พ.ศ.2534 เนื้อนวโลหะ หรือสัมฤทธิ์กลับดำ เพียงอย่างเดียว รูปร่างหน้าตาที่ไม่เหมือนกันจะไม่ขอนำมากล่าวถึง

รูปแรก พระกริ่งปวเรศ เนื้อ นวโลหะ สร้างเมื่อพ.ศ. 2434 องค์ซ้ายมือสีดั่งนิลดำ องค์ขวามือขัดด้วยน้ำยาขัดโลหะ wenol เสร็จใหม่ๆ จะเห็นเนื้อภายในสีออกคล้ายเงิน ปล่อยทิ้งไว้สัก 1 วัน สีผิวจะเปลี่ยนเป็นสีจำปาแก่

รูปที่ 2 เครื่อง XRF เป็นเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ที่ทันสมัยที่สุด ณ เวลานี้ ใช้เพื่อวิเคราะห์โลหะธาตุที่ผสมหลอมหล่อมเป็นองค์พระกริ่งปวเรศ พ.ศ. 2434 ว่ามีโลหะธาตุชนิดได้และปริมาณเท่าใด? ในรูปขั้นตอนแรก จะเห็นเริ่มตั้งแต่นำพระกริ่งฯวางในเครื่อง XRF เพื่อเตรียมการทดสอบ ขั้นที่ 2 ปรับตำแหน่งที่ต้องการวิเคราะห์โดยดูจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ ขั้นตอนที่ 3 สั่งให้โปรแกรมฯ ทำการวิเคราะห์ตรวจสอบโลหะธาตุ และเครื่องกำลังสแกนโดยการสร้างเป็นรูปกราฟให้ทราบว่า พบโลหะธาตุชนิดใดมีปริมาณเท่าใด?

รูปที่ 3 และรูปที่ 4 เป็นรูปที่ถ่ายจากเครื่องวิเคราะห์ XRF ว่าตำแหน่งที่ทำการวิเคราะห์คือตำแหน่งจุดใดขององค์พระกริ่งฯ ที่กำลังทำการวิเคราะห์ฯ

รูปที่ 5 เป็นภาพกราฟการวิเคราะห์แสดงถึงโลหะธาตุ ที่ตรวจพบมีพลังงานประเภทใด? และมีปริมาณเท่าใด?

รูปที่ 6 เป็นผลการวิเคราะห์ออกมาเป็นตัวเลข แสดงถึงผลการวิเคราะห์เป็น % ของโลหะธาตุแต่ละชนิดที่ตรวจพบว่ามีอะไรบ้าง

รายละเอียดหากจะพิมพ์มีมากมายสรุปแบบง่ายๆ ให้ดูจากบล๊อกของผมที่ได้เขียนขึ้นก่อนหน้านี้ ตามลิงค์นี้ พระกริ่งปวเรศ รุ่นแรก สร้าง พ.ศ.2434

วัตถุประสงค์ในการเขียนกระทู้นี้ เพื่อให้คนที่ชอบพระกริ่งปวเรศ รุ่นแรก ได้ทราบและมีโอกาสได้เก็บของดีราคาถูก ซึ่งในท้องตลาดยังพอมีอยู่บ้าง :VO

 

ได้ความรู้ดี....แต่ผมไม่มีปัญญาสามารถเก็บสะสมแบบนี้ได้
และผมไม่ใช่ครูผู้รู้หนังสือที่สามารถแต่งนิยาย หรือเขียนภาษาศัพท์สูงในสาขาวิชาต่าง ๆ
จนคนหลงไหลเคลบเคล้ม ถ้าสู้กันตรงนี้ผมไม่มีความสามารถพอที่จะสูงได้
แต่ถ้าถือกล้อง 10 เอ็กซ์ ส่องดูก็พอจะขอสู้หน่อย...
รูปเหมือนหล่อโบราณ มี 2 ชนิด คือ
*เบ้าทุบไม่มีรอยตะเข็บข้าง แต่จะมีรอยตะไบเดือยที่ก้นทุกองค์ เช่น หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน พิมพ์นิยม
*เบ้าประกบมีรอยตะเข็บซ้าย-ขวาข้างองค์พระทุกองค์ ก้นจะมีรอยเนื้อเทไม่เต็ม เช่น หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน พิมพ์ขี้ตา
จุดสังเกตสำคัญ
พิมพ์หรือรูปร่างโดยรวมของพระรูปหล่อจะต้องเหมือนกัน
รูปหล่อที่มีโค๊ด โค๊ดจะต้องคมชัดเพราะใช้ตอกด้วยโลหะ
รอยปั้มหรือรอยตะไบ ถ้าเป็นพระที่มีอายุ 20 ปีขี้นไป ควรที่จะไม่มีความคมและไปในทางเดียวกันไม่สับสน

หลักพิจารณาพระแท้ พิมพ์ถูก เนื้อใช่ ความเก่ามี
1. ถ้าพิมพ์ถูก ก็แท้แล้ว 50 %ต้องจำพิมพ์พระที่จะเช่าบูชาได้ทุกครั้งก่อนที่จะเช่าบูชาเสมอเพราะว่าถ้าพิมพ์ถูก
โอกาสพระแท้ก็มี 50 % แล้ว และถ้าพระผิดพิมพ์ก็เก๊ 100 %เลย เพราะฉะนั้น ต้องหมั่นศึกษาพิมพ์จากตำราต่าง ๆ
ให้แม่นยำหรือถ้าศึกษจากองค์จริงได้ก็ยิ่งดีครับ

2. ถ้าเนื้อใช่ก็แท้แล้ว 25 %เพื่อน ๆ ต้องจำสูตรเนื้อพระแต่ละรุ่นให้คุ้นเคย โดยศึกษาจากองค์จริงเท่านั้น
จะดูแต่รูปเพียงอย่างเดียวไม่ได้ เช่นพระเนื้อทองเหลืองของพระแต่ละชนิดไม่เหมือนกันกระแสโลหะและผิวไฟก็ไม่เหมือนกัน
ฉะนั้นถ้าเนื้อถูกกระแสและผิวไฟถูกก็แท้ขึ้นอีก 25 %ครับ

3. ถ้าความเก่ามี ก็แท้แล้วอีก 25%พระเครื่องที่มีอายุต้องมีความเก่าสมอายุด้วย ถึงแม้จะเป็นพระที่เก็บรักษาดีไม่ถูกจับต้องเลย
ก็ต้องใหม่แบบเก่า ๆ คือไม่มี ความแวววาวแล้วถ้าพิจารณาพระทุกองค์ได้ครบ 3 ข้อนี้ก็เป็นพระแท้ดูง่ายควรค่ากับการสะสมครับ

ภูมิคุ้มกันพระเก๊ ก่อนอื่นขอขยายความเรื่อง “พิมพ์ถูก”ก่อนนะครับ คงเคยได้ยินคำว่า พระผิดพิมพ์ บ่อย ๆ ใช่ไหมครับ
ซึ่งก็มีความหมายเดียวกันกับคำว่าพระเลียนแบบหรือพระเก๊นั่นเอง แล้วคำถามต่อมาก็คือแล้วจะรู้ได้อย่างไร
ว่าถูกพิมพ์หรือผิดพิมพ์ การสร้างพระทุกชนิด ทุกครั้งจะต้องมีแม่พิมพ์เสมอ แต่อาจมีหลายแม่พิมพ์ในพระชนิดเดียวกันก็ได้
เพราะฉะนั้นต้องศึกษาว่าพระชนิดนั้น ๆ มีกี่แม่พิมพ์หรือมีกี่บล็อกถ้าเป็นพระรุ่นใหม่พระที่สร้างมาจากแม่พิมพ์เดียวกัน
จะต้องมีรายละเอียดในองค์พระนั้น ๆ เหมือนกัน 100 %เช่นตุ่มนูน,ลายเส้นต่าง ๆ,รอยเนื้อเกิน เป็นต้น
ฉะนั้นพระที่มีลักษณะใด ๆ ที่แตกต่างจากพระที่มาจากแม่พิมพ์เดียวกันย่อมเป็นพระผิดพิมพ์หรือมาจากแม่พิมพ์อื่นหรือเก๊นั่นเอง
ยกเว้นการเปลี่ยนแปลงในพิมพ์ที่อธิบายด้วยเหตุผลได้
ลองอ่านและคิดไปด้วยพิจารณาไปด้วย ขอให้โชคดีและมีเก็บแต่พระแท้ดี ๆทุกคนครับ<O</O

 

ได้ความรู้ครับ....................สุดยอด

 

วิธี วิเคราะห์ น่าสนใจครับ เป็นวิทยาศาสตร์ มาอ้าง มีเครื่องไม้เครื่องมือ มีหลักการ

ถ้าได้องค์ที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์ วัด บวรมา ตรวจ ด้วยจะแจ๋วเลยครับ เพราะในหลักวิทยาศาสตร์ ที่มาสิ่งแรก คือ sample การเก็บ sample นี้เป็นสิ่งสำคัญ การเก็บบางทีต้องมี บุคคลที่สาม 3rd party มายืนยันเป็นพยาน เซ็นต์กำกับรับรอง ว่า sample นั้นเปนของจริง เก็บมาจากแหล่งจริงๆ

ตัวอย่างการตรวจปัสสาวะ( ขอโทษ อย่ามองว่าต่ำ มองว่าเป็นหลักการวิทยาศาสตร์ ) ที่บริษัท ผมทำอยู่ เราจะไม่บอกวันออกตรวจ พอถึงหน้างาน ถึงตัวพลขับ ก็ล็อกตัว พลขับ ไปปัสสาวะเดี๋ยวนั้น ใส่ขวด ขณะ ปัสสาวะ ก็มีเจ้าหน้า จป ( ชาย ) ยืนมองว่าไม่มีการเล่นตุกติก เช่น ใส่อะไรลงไป นอกจากนั้น ยังจ้างพยาบาล มาคุม ขวด อีกคน พอปัสสาวะเสร็จ เจ้าหน้าที่ จป เก็บขวด เซ็นต์กำกับ พยาบาลเซ็นต์กำกับ อาจจะใช้เลขที่แทนชื่อจริง แล้วตรวจ สีม่วงกันตรงนั้น ยืนยันกันมีพยานหลายคน เพราะถ้ามีโต้แย้งตามกฎหมาย เช่นพลขับโวยวายว่าถูกแกล้ง จะใช้อ้างอิงตามกฎหมายได้

ที่บรรยายมา เพื่อให้มีขบวนการ ยืนยันและยอมรับที่มาของ sample ว่าจริง

การเก็บ sample ตัวอย่างพวก หิน ตามแหล่ง site งาน และ ตัวอย่าง แท่งหิน จากหลุมขุดเจาะก็ทำในลักษณะเดียวกัน จะมีผู้เชี่ยวชาญ มาทำการเก็บ จะมีนักธรณีที่เชี่ยวชาญมาควบคุมการเก็บ นอกจากนั้น บริษัทยังส่งหัวหน้างาน ( Company man ) มาคุมอีกชั้น เมื่อเก็บแล้ว จะ seal แน่นหนา จดบันทึก วัน สถานที่ เวลา ตำแหน่ง ความลึก อุณหภูมิ ข้อมูลเบื้องต้นที่จำเป็น มีการเซ็นต์รับรอง หลายคน มีเอกสารกำกับชัดเจน เพื่อความแน่นอนของ sample ว่าจริง ไม่มั่ว ไม่ปนเป ไม่แหกตามา

กลับมาที่การตรวจพระของคุณน่ะครับ ด้วยความเคารพ เอาว่าวิธีการแล็บ พวกเราไม่เก่ง แต่ดูว่าวิทยาศาสตร์ อย่างน้อยมีเครื่องมือ มีหลักการ มี procedure แต่ท่านยืนยัน sample ของท่านด้วยว่านำมาจากไหน มีการยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญหรือยังว่า เป็นพระกริ่งปวเรศ จริงๆ

ยกตัวอย่างว่า ทางวัดบวรเล่นด้วย ก็ต้องมีการอนุมัติจากผู้มีอำนาจ ของวัดบวร อนุญาตให้นำไปทดสอบทางวิทยาศาสตร์ เพื่อ มีผู้ควบคุมจากวัดบวรนำมาแล็บ ทำการทดสอบ มีเอกสารควบคุมมา แล็บต้องผ่านการ certified มาว่า เครื่องมือ และบุคลากร มีความสามารถ มี procedure เป็นที่ยอมรับ เช่น ได้ ISO 17025 หรือ รับรองจากสถาบันที่เป็นกลางมีชื่อเสียง ถ้าสมมุติว่าทำแบบนี้ได้ sample จะเป็นที่ยอมรับว่า sample ของแท้ ๑๐๐ ตา แล็บก็เจ๋ง มีพยานมีการถ่ายรูปไว้ ห้องแล็บและเครื่องมือ บุคลากร เป็นที่ยอมรับ มีเอกสารรับรองมาจากพยานตามขั้นตอน

ถ้าเป็นแบบนี้ก็วิทยาศาสตร์แน่ๆครับ ต่อให้เซียนด้นเมฆ เอากล้อง zeiss ราคา หมื่นมาส่องแล้วมาเถียง ว่าเก็ ไม่น่าเชื่อถือก็คงฟังไม่ขึ้นน่ะครับ....แหะๆ

แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยความเคารพ ผมชอบคนคิดนอกกรอบ และผมชอบวิธีการของท่านจริงๆ ถ้าพัฒนา ให้วงการพระยอมรับ เราอาจจะได้ วิธีการดูพระแบบวิทยาศาตร์มาช่วยยืนยันได้ ตำรวจ ตรวจคดี ยังใช่วิทยาศาสตร์มาช่วยยืนยันข้อเท็จจริงด้านกฎหมาย แล้วทำไม ผลจากห้องแล็บจะใช้มาช่วยยืนยันความ เก็ แท้ ของพระเครื่องไม่ได้ ....มันน่าคิดน่ะครับ

เอาใจช่วยครับ ค้นคว้าต่อไปน่ะครับ แต่ถ้าร่วมกับพวกในวงการก็ดี ให้มีผู้เชี่ยวชาญดานพระเครื่องเป็นที่ปรึกษา มากกว่า หนึ่งท่านยิ่งดี นำพระแท้ๆมาวิเคราะห์ แล้วเขียนตำรา คุณเขียนขาย ผมคนหนึ่งที่จะซื้อครับ เพราะอยากอ่านครับ...แหะๆ

ป.ล. ข้อเขียนของผมเป็นแค่ความเห็นน่ะครับ เอาว่าเรามาแชร์ความเห็นกันน่ะจ้ะ

 

ขอบคุณครับพี่ อ่านแล้วเข้าใจอะไรได้ขึ้นอีกเยอะเลยครับ แต่ผมว่าคงไม่ไหว

เครื่องมือพวกนี้ราคาค่อนข้างสูง ยังไงผมก็ต้องใช้ 10x อยู่ดี 555

 

ผมมี 1 องค์ ดังรูป ขอร่วมพิสูจน์ด้วย

 

-ได้ความรู้ดีครับ เผื่อว่าอาจมีบุญได้เจอฟรุ๊คๆ ครับ

 

ดังรูปครับ...................................................................

 

เอาข้อนี้ไปครับ... ถ้าความเก่ามี ก็แท้แล้วพระเครื่องที่มีอายุต้องมีความเก่าสมอายุด้วย
ถึงแม้จะเป็นพระที่เก็บรักษาดีไม่ถูกจับต้องเลย
ก็ต้องใหม่แบบเก่า ๆ คือไม่มี ความแวววาว

 

ถ้าใครมี พระกริ่งปวเรศ รุ่นแรก พ.ศ. 2434 จริง ๆ ต้องบอกว่าโชคดี กว่ามีสมเด็จวัดระฆัง อีกนะครับ ด้วยจำนวนการสร้าง (ขนาดมีสมเด็จวัดระฆัง ยังยิ่งกว่าถูกรางวัลที่ 1 แล้วถ้ามีจักรพรรดิ์กริ่งองค์นี้ล่ะครับ) ผมเคยไปที่พิพิธภัณฑ์ของกำนันชูชาติ พุทธมณฑล 2 เห็นกริ่งองค์เป็น ๆ แล้วขนลุกเลยครับ สวยมาก ๆ องค์ใหญ่พอควร กำนันบอก มีคนให้ราคา 50 ล้าน ยังไม่ขายเลยครับ....................

 

อันนี้เห็นด้วยครับพี่ ล้าน % ของพี่ Zap สวยครับ ผมเคยยืมกริ่งของลุงแต่สายวัดบวรมาศึกษา ประมาณปี 2530

 

พระในรูปจากที่ไหนน่ะครับ

 

ยืมพระมาจากลุงครับ ยืมมาสององค์ องค์บนมี ไฝ

 

สวย ๆ ทั้งนั้นเลย..............

 

ยินดีครับท่านแรก ที่ร่วมแสดงความคิดเห็น เห็นด้วยทุกประการครับ เพราะความคิดอ่านของแต่ละคนย่อมต้องไม่เหมือนกัน อันความเชื่อจะบังคับให้เชื่อนั้นห้ามกันไม่ได้ หากได้พบของจริงสัก หลายๆ องค์วิเคราะห์พิจารณา ความคิดอ่านก็จะได้มุมมองอีกแบบหนึ่ง

เรื่องความแวววาวขององค์พระ พระเก่าทุกองค์เก่าตามอายุ หากเป็นองค์เดิมๆที่เก็บไว้ไม่ไปยุ่งหรือจับถูองค์พระยังไงก็ไม่แวววาว แต่พระส่วนใหญ่เกินครึ่งที่ผมครอบครอง ได้ถูกทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจาน เนื่องจากผมพบว่าทุกองค์มีคราบน้ำมันจึงทำการล้างออก เมื่อล้างๆไปทำให้คิดได้ว่า ผู้สร้างทาน้ำมันเอาไว้จึงหยุดล้างในส่วนที่เหลือ

 

ท่านที่ 2 แสดงความคิดเห็นได้ดีครับ

การนำองค์พระกริ่งฯของวัดบวรฯออกมาทดสอบ คงไม่ใช่ทำกันได้ง่ายๆ ยากครับเนื่องด้วยพระที่คนส่วนใหญ่เชื่อว่าราคาแพงมหาศาลจะให้นำออกมาได้ง่ายๆเช่นนั้นเหรอ?

เรื่องต้องมีบุคคลอื่นมายืนยัน ไม่มีปัญหาครับของพวกนี้ เบื้องต้นแค่เห็นรูปและเครื่องมือก็เชื่อได้แล้วระดับหนึ่ง หากเจาะลึกไปถึงเครื่องไม้เครื่องมือเหล่านั้น ก็จะทำให้ทราบว่าหน้าตาเครื่องมือและคุณสมบัติของเครื่องมือมีไว้ใช้วิเคราะห์อะไรได้บ้าง? ยิ่ง ISO ทั้งหลายไม่ต้องคุยถึง เมืองไทยมีเครื่องชนิดนี้อยู่ 100 กว่าเครื่อง มีทั้งภาครัฐและภาคเอกชนใช้ ไม่ว่าจะเป็นกรมวิทยาศาสตร์บริการ สวทช. บริษัทส่งออกอิเล็คโทนิค บริษัททำเกี่ยวกับพลาสติก บริษัททำเกี่ยวกับยางรถฯต่างๆ ฯลฯ ซึ่งต้องนำตัวอย่างของสิ้นค้าวิเคราะห์ถึงโลหะธาตุต่างๆว่่าผลิตออกมามีมาตราฐานที่จะส่งไปต่างประเทศหรือไม่ มีสารตกครั้งไม่เกินกว่าเช่น สหภาพยุโรปกำหนดไว้หรือไม่ หากบริษั่ทใดมีเครื่องมือเหล่านี้ ลูกค้าที่เป็นชาวต่างประเทศจะให้ความเชื่อถือและมีความต้องการสินค้าเหล่านี้เพราะเป็นสินค้าที่ผ่านการวิเคราะห์แล้วว่ามีความปลอดภัย

เอกสารการรับรองไม่แพงครับตัวอย่างละ 2,000 บาท

ผมนำพระกริ่งปวเรศรุ่นนี้ไปทดสอบ คนเขาทราบเห็นเป็นร้อยคน ฮือฮากันไปหมด เพราะไม่เคยเห็นใครนำพระเยอะขนาดนี้มาให้ตรวจวิเคราะห์

เรื่องความเชื่อห้ามกันไม่ได้ครับ แต่ถ้าวิเคราะห์ด้วยเหตุและผลที่มีมูลเหตุสมควรจะเชื่อได้ ทำไมละไม่ทดลองดู ผมเขียนกระทู้นี้ สาเหตุเพราะผมเชื่อและทราบว่าใช่ จึงได้อยากให้คนที่ชื่นชอบพระกริ่งปวเรศรุ่นแรกเหมือนผมได้มีโอกาส โชคดีเหมือนกับผมบ้าง เพราะในตลาดยังพอมีหลงเหลือให้เก็บได้ แต่มีไม่มาก

 

องค์นี้เป็นคนละพิมพ์กับของผมครับ รูปร่างหน้าตาแบบนี้ผมเคยเห็นในรูปหลายองค์ แต่ไม่เคยพบของจริง จึงไม่ขอแสดงความคิดเห็น

 

ครับ

ขอบคุณในความรู้ครับ คุยกับคนมีหลักการณ์นี่สนุกได้สาระดีครับ ผมได้ความรู้ทางแล็บเพิ่มขึ้นด้วย คุณเป็นคนมีความรู้และมีหลักการณ์ดีครับ มาแนววิทยาศาสตร์

ฟังดูประเด็นของคุณ Natachai สรุปแล้วว่าพระของคุณ Nattachai แท้ แล้วจึงเอามาทดสอบใช่ไหมครับ????

ส่วนประเด็นของผมแตกต่างไปตรงกันข้าม ผม ยังไม่เชื่อว่าพระกริ่ง ปวเรศ แท้ครับ แล้วจึงนำมาทดสอบ ผลการทดสอบก็ไม่ได้ยืนยันว่ามาจ่ากพระแท้

เพราะฉนั้น การทดสอบ ยังไม่ใช่ประเด็น เพราะการทดสอบคือการทดสอบว่าสิ่งนั้นคืออะไร

ในการที่ผมเขียนกระทู้ครับ พยายามจะชี้ว่า คนทดสอบ เป็นเจ้าพระเองเชื่อว่าพระแท้ บอกว่า ทดสอบเองก็ต้องบอกว่าแท้ครับ เป็นการทำเอง รับรองเอง

ต้องให้คนอื่น ( บุคคลที่สามมารับรองก่อนว่าพระแท้ ) และ แล็บก็ทำการทดสอบไปตามขั้นตอน ที่จริงคนทำแล็บไม่จำเปนต้องรู้ด้วยว่าของตัวเอง sample คืออะไร มาจากไหน แท้หรือไม่ แค่ทำไปตามหลักวิชาการแล้ว สรุปตามผลทดลอง

เมื่อสรุปว่าพระแท้ ทำการทดสอบ และบอกว่าการทดสอบจากพระแท้ อันนี้ด้วยความเคารพ ผมอาจจะยังไม่เชื่อว่าผลการทดสอบนี้เป็นผลที่ใช้ได้จริงกับพระแท้ๆครับ อย่าโกรธกัน

ถ้าจะบอกว่า แท้ ได้

๑) ต้องเอาของแท้มาทดสอบ ( แท้โดยการรับรอง ) มีผลการทดสอบ ของแท้

๒) ต้องเอาของเก็ มาทดสอบ ( เก็โดยการรับรองเหมือนกันครับ ) มีผลการทดสอบ

ยิ่งมากตัวอย่างยิ่งดี เพื่อให้ discrepancy (ที่ไม่ตรง ขัดแย้งกัน ) น้อยที่สุด

แล้วนำมาเทียบกันว่า

ของแท้ เป็นอย่างไร

ของเก็เป็นอย่างไร

ยิ่งมากตัวอย่าง คุณบอกว่ามีพระเยอะ ยิ่งน่าสนใจใหญ่ครับ เพราะผมก็ยังไม่เชื่อว่าพระกริ่งปวเรศมีเยอะครับ ที่เคยเห็นก็เห็นตามรูปถ่าย และในพิพิธภัณฑ์ บอกตามตรงไม่เคยเห็นใคร ที่เชื่อว่ามีพระกริ่งปวเรศแท้ๆ เอามาติดตัวเลยครับ แล้วเอามาโชว์คนทั่วไปเลยครับ....แหะๆ ที่เห็นมาตามรูป ตามที่เล่า มีนับองค์ได้ครับ ของสิ่งนี้เป็นตำนานพระเครื่องก่อนผมเกิดซ่ะอีก

ด้วยความเคารพ

 

พระของพี่ Zapp! ดูดีมากๆครับ เห็นแล้วอยากส่องเหลือเกิน