พระกรุณาธิคุณ หนุ่มอ้วนซึ้ง ครอบครัวปีติ

ในห้อง 'ข่าวในพระราชสำนัก' ตั้งกระทู้โดย สิงหนาท, 26 สิงหาคม 2010.

  1. สิงหนาท

    สิงหนาท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    673
    ค่าพลัง:
    +4,805
    [​IMG]

    พระกรุณาธิคุณ หนุ่มอ้วนซึ้ง ครอบครัวปีติ

    หนุ่มเมืองคอน อ้วนท้องโตและครอบครัวปลื้มปีติ พระกรุณาธิคุณฯ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัลยาสิริโสภาพรรณวดี น้ำตาไหลพราก เผย เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ขอบคุณไทยรัฐ ช่วยเสนอข่าว...

    ความคืบหน้า กรณีที่ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัลยาสิริโสภาพรรณวดี ในฐานะองค์ประธานมูลนิธิมิราเคิลออฟไลท์ ทรงรับนายอรรฐพณ แดงค้ำคุณ อายุ32 ปี คนไข้โรคอ้วนที่มีน้ำหนักตัว350 กิโลกรัม ไว้ในพระอุปถัมภ์ โดยทรงมีรับสั่งให้ ดร.มนัส โนนุช ผอ.สนง.นโยบายและแผน มูลนิธิมิราเคิลออฟไลท์ เดินทางมายังจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินการประสานงานกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการส่งตัว นายอรรรฐพณ ไปรักษาตัวที่กรุงเทพมหานคร

    ช่วงสายของวันนี้ (26 ส.ค.) บรรยากาศที่บ้านของนายอรรฐพณ เลขที่ 153/2 ถนนศรีธรรมโศก ต.ในเมือง อ.เมืองนครศรีธรรมราช เป็นไปด้วยความคึกคัก โดยเฉพาะ นายอรรฐพณ ซึ่งยอมรับว่าเมื่อคืนที่ผ่านมานอนไม่หลับ เพราะตื่นเต้นที่ได้รับการช่วยเหลือ พร้อมทั้งกล่าวว่าตนทรมานเพราะโรคอ้วนมานานหลายปี เป็นปมด้อยมาตั้งแต่เด็กๆ ถูกเพื่อนล้อและเรียกชื่อว่าไอ้อ้วนบ้าง ไอ้หมีควายบ้าง

    กระทั่งมา ล้มป่วยไม่สามารถทำงานและเดินได้ตามปกติ ต้องนอนอย่างเดียว ทำให้มีแผลกดทับตามร่างกายหลายแห่ง ไปรักษาตัวที่หาดใหญ่ หมอบอกว่าไม่สามารถรักษาให้หายจากโรคอ้วนได้ รู้สึกหมดอาลัยตายอยาก การได้รับความช่วยเหลือในครั้งนี้เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ขอกราบแทบพระบาท ในพระกรุณาธิคุณ ของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯ นายอรรฐพณ กล่าวด้วยเสียงสะอื้นสั่นเทาน้ำตาไหลพรากอาบแก้ม และนำพระบรมฉายาลักษณ์ของทูลกระหม่อมหญิงมาชูไว้เหนือศรีษะ

    นายอร รฐพณ กล่าวอีกว่าสิ่งที่ลืมไม่ได้ไปชั่วชีวิต คือหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และไทยรัฐออนไลน์ ซึ่งเป็นสื่อหนังสือพิมพ์และอินเทอร์เน็ตฉบับแรก รวมทั้งสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 เป็นทีวีช่องแรก ที่นำเสนอข่าวการล้มป่วยของตนนำเสนอสู่สาธารณะชน ทำให้มีผู้คนเดินทางมาเยี่ยมมาให้กำลังใจให้ความช่วยเหลือ คนทั้งในประเทศและต่างประเทศแสดงความจำนงค์ให้ความช่วยเหลือมามากมาย กระทั่งข่าวทราบถึงทูลกระหม่อมหญิงฯ ที่ทรงติดตามข่าว และทรงโปรดฯให้ความช่วยเหลือตนในที่สุด ส่วนบรรดาญาติๆของนายอรรฐพณ ต่างปลื้มปีติในพระกรุณาธิคุณเช่นกัน และมีการทำพิธีถวายพระพรที่บ้านของนายอรรฐพณ ทั้งนี้ญาติ เพื่อนบ้านและประชาชนที่มาเยี่ยมจำนวนมาก ได้ถวายพระพรและเปล่งเสียงทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ดังกึกก้องไปทั่วทั้งบริเวณ

    ทั้งนี้ ดร.มนัส และคณะได้เดินทางไปประชุมหารือร่วมกับ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดนครศรีธรรมราช ตัวแทน รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ตัวแทน รพ.เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ตัวแทนนายกเหล่ากาชาด จ.นครศรีธรรมราช และผู้เกี่ยวข้อง ที่ห้องประชุมสำนักงานจังหวัดนครศรีธรรมราช ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช ถนนราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมืองนครศรีธรรมราช ในที่ประชุมได้มีการมอบหมายภาระหน้าที่ในการนำผู้ป่วยเข้ารับการรักษาตัวโดย เร็วและปลอดภัย โดยจะมีคณะแพทย์ของรพ.เทศบาลนครนครศรีธรรมราช คอยดูแลอาการให้การรักษาระหว่างที่ยังอยู่ที่นครศรีธรรมราช

    ต่อมา คณะของนายมนัส ได้เดินทางไปยังบ้านของ นายอรรฐพณ โดยมีเพื่อนบ้านที่ทราบข่าวเข้าร่วมแสดงความยินดีและให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก รวมทั้งนายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมให้การต้อนรับคณะและมอบเงินช่วยเหลือครอบครัว ซึ่งที่บ้านหลังดังกล่าวได้ทำการตั้งโต๊ะหมู่บูชา พานพุ่มดอกไม้ และพระบรมฉายาลักษณ์ของทูลกระหม่อมหญิงฯเอาไว้ด้วย จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดกรวยดอกไม้ถวายราชสักการะต่อพระฉายาลักษณ์ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราช กัลยาสิริโสภาพรรณวดี นายพรเทพ แดงค้ำคุณ พี่ชายรับมอบเงินพระประทานความช่วยเหลือ

    ดร.มนัส กล่าวว่า การมาในครั้งนี้ เป็นไปตามพระประสงค์ของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯ ที่ทรงห่วงใยและต้องการรับนายอรรฐพณ เป็นคนไข้ในพระองค์ไปทำการรักษาตัวที่ รพ.จุฬาฯซึ่งทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯทรงติดต่อประสานไปยังรพ.ด้วยพระองค์ เอง เชื่อว่าหากได้รับการรักษาจะสามารถหายเป็นปกติในที่สุด ซึ่งในวันนี้หรือพรุ่งนี้คาดว่าจะนำตัวนายอรรฐพณ เดินทางไปยังรพ.จุฬาฯได้ แต่ต้องให้แพทย์ดูสภาพร่างกายว่ามีความพร้อมที่จะเดินทางในช่วงใด

    นาย ธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ในฐานะตัวแทนชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช รู้สึกซาบซึ้งในพระกรุณาธิคุณของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ ที่ทรงมีต่อนายอรรฐพณและครอบครัว

    ทางด้าน นพ.กิตติ โฆษิตรังสิกุล ผอ.รพ.เทศบาลนครนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ทางรพ.ได้รับหน้าที่ในการนำตัวผู้ป่วยส่งไปยังรพ.จุฬาฯ โดยเร็วที่สุด ซึ่งได้เตรียมความพร้อมทั้งยานพาหนะและเครื่องมือไว้เป็นอย่างดี โดยรถพยาบาลซึ่งจะมีแพทย์และพยาบาลร่วมเดินทางไปด้วย เผื่อมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง เพราะนอกจากโรคอ้วนแล้ว ผลการตรวจร่างกายล่าสุดจากห้องปฏิบัติการทางการแพทย์พบว่า นายอรรฐพณเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ โรคไทรอยด์ โรคทาลัสซีเมีย และบาดแผลกดทับหลายแห่งตามร่างกายซึ่งอาจติดเชื้อได้ทุกขณะ จะได้ให้ความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที แต่ทั้งนี้ต้องรอดูอาการว่าผู้ป่วยซึ่ง มีปัญหาระบบการหายใจ จากการที่มีผู้เข้าเยี่ยมเป็นจำนวนมาก จึงมีอาการเหนื่อย หอบ และอ่อนล้า มากกว่าปกติ แต่คาดว่าจะสามารถจัดยานพาหนะนำตัวเขาไปส่งกรุงเทพฯได้ใน 1 - 2 วันนี้


     

แชร์หน้านี้

Loading...