พระคาถาเมตตาหลวง ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 12 มีนาคม 2008.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    พระคาถาเมตตาหลวง ( หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต)

    พระญาณสิทธาจารย์ วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา


    วิธีการสวด
    ให้ไหว้พระ อรหัง สัมมาสัมพพุทโธ , นโม ๓ จบ , พุทธัง สะระนัง คัจฉามิ ฯลฯ เป็นคำเริ่มต้นก่อน


    คำสวดให้เมตตาตน อะหัง สุขิโต โหมิ, นิททุกโข โหมิ, อะเวโร โหมิ, อัพพะยาปัชโฌ โหมิ, อะนีโฆ โหมิ, สุขี อัตตานัง ปริหะรามิ,



    ๑.คำสวดแผ่เมตตา (ย่อ)
    ๑.สัพเพ สัตตาอะเวรา อัพพะยาปัชณา อะนีฆา สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ ๒.สัพเพ ปาณาอะเวรา อัพพะยาปัชณา อะนีฆา สุขี อัตตานังปะริหะรันตุ ๓.สัพเพ ภูตาอะเวรา อัพพะยาปัชณา อะนีฆา สุขี อัตตานังปะริหะรันตุ ๔.สัพเพ ปุคคะลาอะเวรา อัพพะยาปัชณา อะนีฆา สุขี อัตตานังปะริหะรันตุ ๕.สัพเพ อัตตะภาวะปะริยาปันนาอะเวรา อัพพะยาปัชณา อะนีฆา สุขี อัตตานังปะริหะรันตุ ๖.สัพพา อิตถิโยอะเวรา อัพพะยาปัชณา อะนีฆา สุขี อัตตานังปะริหะรันตุ ๗.สัพเพ ปุริสาอะเวรา อัพพะยาปัชณา อะนีฆา สุขี อัตตานังปะริหะรันตุ ๘.สัพเพ อะริยาอะเวรา อัพพะยาปัชณา อะนีฆา สุขี อัตตานังปะริหะรันตุ ๙.สัพเพ อะนะริยาอะเวรา อัพพะยาปัชณา อะนีฆา สุขี อัตตานังปะริหะรันตุ ๑๐.สัพเพ เทวาอะเวรา อัพพะยาปัชณา อะนีฆา สุขี อัตตานังปะริหะรันตุ ๑๑.สัพเพ มนุสสาอะเวรา อัพพะยาปัชณา อะนีฆา สุขี อัตตานังปะริหะรันตุ ๑๒.สัพเพ วินิปาติกาอะเวรา อัพพะยาปัชณา อะนีฆา สุขี อัตตานังปะริหะรันตุ




    ๒.คำสวดแผ่กรุณา (ย่อ)
    ๑.สัพเพ สัตตาสัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ ๒.สัพเพ ปาณาสัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ ๓.สัพเพ ภูตาสัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ ๔.สัพเพ ปุคคะลาสัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ ๕.สัพเพ อัตตะภาวะปะริยาปันนาสัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ ๖.สัพพา อิตถิโยสัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ ๗.สัพเพ ปุริสาสัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ ๘.สัพเพ อะริยาสัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ ๙.สัพเพ อะนะริยาสัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ ๑๐.สัพเพ เทวาสัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ ๑๑.สัพเพ มนุสสาสัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ ๑๒.สัพเพ วินิปาติกาสัพพะทุกขา ปะมุญจันตุ



    ๓.คำสวดแผ่มุทิตา (ย่อ)
    ๑.สัพเพ สัตตาลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ ๒.สัพเพ ปาณาลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ ๓.สัพเพ ภูตาลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ ๔.สัพเพ ปุคคะลาลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ ๕.สัพเพ อัตตะภาวะปะริยาปันนาลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ ๖.สัพพา อิตถิโยลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ ๗.สัพเพ ปุริสาลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ ๘.สัพเพ อะริยาลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ ๙.สัพเพ อะนะริยาลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ ๑๐.สัพเพ เทวาลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ ๑๑.สัพเพ มนุสสาลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ ๑๒.สัพเพ วินิปาติกาลัทธะสัมปัตติโต มา วิคัจฉันตุ



    ๔.คำสวดแผ่อุเบกขา (ย่อ)
    ๑.สัพเพ สัตตากัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะ พันธุ กัมมะปะฏิสะระณา ยัง, กัมมัง , กะริสสันติ กัลละยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
    ๒.สัพเพ ปาณากัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะ พันธุ กัมมะปะฏิสะระณา ยัง, กัมมัง , กะริสสันติ กัลละยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
    ๓.สัพเพ ภูตากัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะ พันธุ กัมมะปะฏิสะระณา ยัง, กัมมัง , กะริสสันติ กัลละยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
    ๔.สัพเพ ปุคคะลากัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะ พันธุ กัมมะปะฏิสะระณา ยัง, กัมมัง , กะริสสันติ กัลละยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
    ๕.สัพเพ อัตตะภาวะปะริยาปันนากัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะ พันธุ กัมมะปะฏิสะระณา ยัง, กัมมัง , กะริสสันติ กัลละยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
    ๖.สัพพา อิตถิโยกัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะ พันธุ กัมมะปะฏิสะระณา ยัง, กัมมัง , กะริสสันติ กัลละยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
    ๗.สัพเพ ปุริสากัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะ พันธุ กัมมะปะฏิสะระณา ยัง, กัมมัง , กะริสสันติ กัลละยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
    ๘.สัพเพ อะริยากัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะ พันธุ กัมมะปะฏิสะระณา ยัง, กัมมัง , กะริสสันติ กัลละยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
    ๙.สัพเพ อะนะริยากัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะ พันธุ กัมมะปะฏิสะระณา ยัง, กัมมัง , กะริสสันติ กัลละยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
    ๑๐.สัพเพ เทวากัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะ พันธุ กัมมะปะฏิสะระณา ยัง, กัมมัง , กะริสสันติ กัลละยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
    ๑๑.สัพเพ มนุสสากัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะ พันธุ กัมมะปะฏิสะระณา ยัง, กัมมัง , กะริสสันติ กัลละยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
    ๑๒.สัพเพ วินิปาติกากัมมัสสะกา กัมมะทายาทา กัมมะโยนี กัมมะ พันธุ กัมมะปะฏิสะระณา ยัง, กัมมัง , กะริสสันติ กัลละยาณัง วา ปาปะกัง วา ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ
    อานิสงส์เมตตาพระท่านบอกไว้ว่า สุขัง สุปติ หลับตื่นชื่นตา เสวยสุขอนันต์ ไมฝันลามกร้ายกาจ ปีศาจมนุษย์ชื่นชมหฤหรรษ์ เทวาทุกชั้นช่วยชูรักษา หอก ดาบ ยาพิษ ไฟลุก เข้ามา ครั้นถึงองค์พระโยคาย้อนกลับยับเป็นผง ใจร้ายใจบาปสันดานชั่วหยาบ ระงับดับลงด้วยพรหมวิหารา องค์พระโยคาสุกใส ใครเป็นพิศวง เมื่อตายไปไม่หลงเหมือนคนสามานย์ ส่งผลถึงอัครฐานตราบเท่านิพพานแล
     
  2. Reliquiae

    Reliquiae เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,184
    ค่าพลัง:
    +2,639
    ประวัติความเป็นมา

    พระคาถาบทนี้ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ท่านมักจะใช้ภาวนาเจริญเมตตา ไปยังสรรพสัตว์ไม่มีประมาณ ให้หมู่มนุษย์และเทวดาได้รับความร่มเย็นเป็นสุขโดยทั่วกัน พระคาถาบทนี้ หลวงปู่ขาว อนาลโย แห่งวัดถ้ำกลองเพล ได้รับถ่ายทอดไว้ และได้มอบให้กับพระญาณสิทธาจารย์หรือหลวงปู่เมตตาหลวง(สิงห์ สุนทโร) แห่งวัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม อำเภอปากช่อง จ.นครราชสีมา เพื่อใช้เป็นบทเจริญเมตตาต่อสรรพสัตว์ทั่วทุกทิศานุทิศ พระคาถาเมตตาหลวงนี้เป็นการเจริญกรรมฐานที่มีอานิสงส์ ทำให้จิตตั้งมั่นได้ถึงระดับ อัปปนาสมาธิ คือ เมตตา กรุณา มุฑิตา จิตสามารถตั้งมั่นในระดับฌาณ 3 ส่วน อุเบกขา จิตสามารถตั้งมั่นในฌาณ 4 ในหมวดกรรมฐาน 40 กอง บทนี้เรียกว่า พรหมวิหาร 4 หรือ อัปปมัญญา 4
    พระคาถานี้ศิษย์ของหลวงปู่มั่น ภูริฑัตโต ใช้แสดงโปรดเทวดา
    พระคาถานี้ไม่มีศิษย์รูปใดของหลวงปู่มั่น จดจำได้นอกจาก
    หลวงปู่ขาว อนาลโย เพียงรูปเดียวที่สามารถจดจำได้ และต่อมาได้ถ่ายทอดให้พระญาณสิทธาจารย์หรือ หลวงปู่เมตตาหลวง

    อนึ่ง การเจริญเมตตาพรหมวิหารนี้ พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงอานิสงส์ไว้ว่า เอกาทสานิสังสาฯ ปฏิกังขา พึงหวังอานิสงส์ 11 ประการคือ
    - ย่อมฝันเป็นสุข
    - ย่อมตื่นเป็นสุข
    - ย่อมไม่ฝันลามก
    - ย่อมเป็นที่รักของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย อ้างถึงหลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม ได้กล่าวไว้ในหนังสือกฏแห่งกรรมว่า เทวดามาชวนแม่ชีทองก้อนสวดมนต์ โดยสวดพระคาถาเมตตาใหญ่
    - ย่อมเป็นที่รักของอมนุษย์ทั้งหลาย
    - เทวดาทั้งหลายย่อมรักษา
    - ไฟ ยาพิษ ศาสตรา ย่อมไม่อาจกล้ำกลายได้
    - จิตย่อมตั้งมั่นเร็ว
    - สีหน้าย่อมผ่องใส อ้างถึงเหตุการณ์ตอนที่องค์ท่านมรณภาพ
    เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังได้เรียกให้ท่านเจ้าอาวาสมาดูส่วนที่ยังไม่ไหม้ไฟของหลวงปู่พบว่าส่วนนั้นยังคงอยู่สภาพเดิมและไม่แห้ง และตลอดเวลาที่เผามีน้ำไหลออกจากศพของท่านตลอดเวลาจึงเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง
    - เป็นผู้ไม่หลงใหลในการทำกาละ
    - เมื่อไม่แทงตลอดพระคุณอันยิ่ง ย่อมเป็นผู้เข้าถึงพรหมโลก
    พระพุทธพจน์สรรเสริญการเจริญเมตตา

    - ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุญญกริยาวัตถุอย่างใดอย่างหนึ่งมีอุปธิกิเลสเป็นเหตุ บุญญกริยาวัตถุนั้น ย่อมไม่ถึงเสี้ยวที่ 16 แห่งเมตตาเจโตวิมุติ

    - ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้ใดให้ทานประมาณ 100 หม้อ ใหญ่ในเวลาเช้า ผู้ใดให้ทานประมาณ100ในเวลากลางวัน ผู้ใดให้ทานประมาณ 100 หม้อใหญ่ในเวลาเย็น โดยที่สุดแม้เพียงชั่วการหยดแห่งน้ำนมแห่งแม่โค การเจริญเมตตาจิตนี้มีผลมากกว่าการให้ทานที่บุคคลให้แล้ว 3 ครั้งในวันๆหนึ่ง เพราะเหตุดังนี้เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า เราจักเจริญเมตตาเจโตวิมุติกระทำให้มาก กระทำให้เป็นประดุจยาน กระทำให้เป็นประดุจที่ตั้งอาศัยให้มั่นคง สั่งสมปรารภด้วยดี ดูก่อนภิกษุทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้แหละ

    ประวัติของหลวงปู่เมตตาหลวงโดยย่อ
    ท่านมีนามเดิมว่าสิงห์ เนียมอ้น เกิดวันที่29 ตุลาคม 2452 บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ16ปี อุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยมีพระครูพิศาลอรัญเขต( จันทร์ เขมิโย)เป็นพระอุปัชฌาย์ ศึกษาวิปัสสนากรรมฐานจากหลวงปู่ขาว อนาลโย หลวงปู่ขาวเล็งเห็นถึงปฏิภาณของหลวงปู่สิงห์ จึงถ่ายทอดพระคาถาบทนี้ให้ โดยเป็นบทที่หลวงปู่มั่น ภูริทัตโตแสดงโปรดเทวดา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 664511.JPG
      664511.JPG
      ขนาดไฟล์:
      10 KB
      เปิดดู:
      586

แชร์หน้านี้

Loading...