พระชุดครูบาออ..

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย wasan112, 13 สิงหาคม 2017.

  1. wasan112

    wasan112 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,174
    ค่าพลัง:
    +161
    ชื่อบัญชี นาย วสันต์ ปิงสอน เลขที่บัญชี 5130066332 ธนาคาร กรุงไทย สาขา ลอง โทร 0819517866 id line wasan112


    ครูบาออ ปัณฑิต๊ะ แห่งสำนักสงฆ์พระธาตุดอยจอมแวะ อ.เชียง ดาว จ.เชียงใหม่

    พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแดนเหนือ "หลวงปู่ครูบาออ ปัณฑิต๊ะ" สิริอายุ 99 ปี (นับอายุตามปีของชาวไทใหญ่) แห่งสำนักสงฆ์พระธาตุดอยจอมแวะ อ.เชียง ดาว จ.เชียงใหม่ ปัจจุบันวัตถุมงคลของท่านได้รับความนิยมอย่างมาก

    ตามประวัติท่านเป็นครูบาผู้เฒ่าที่มากด้วยวิชาขมังเวท เจ้าอาคมชาวไทยใหญ่ ปลีกตัว เร้นกายอยู่บนดอยสูงเพียงรูปเดียว

    "ครูบาออ" รูปนี้ท่านเป็นที่เคารพศรัทธาจากประชาชนรัฐไทยใหญ่มาก

    "เจ้าฟ้าแสงเชียง" เจ้าแผ่นดินรัฐฉานหรือไทยใหญ่ เป็นผู้สักสังวาลเพชรบนศีรษะท่านตอนอายุ 20 ปี เพราะโปรดที่ "นายออ" ตอนนั้นเป็นทหารกล้า นำพากองทัพไทยใหญ่รบชนะข้าศึก โดยไม่เสียกำลังพลแม้แต่คนเดียว

    จากคำบอกเล่าของท่าน "เจ้าปิ่นยา" พระสังฆราชไทยใหญ่ เป็นผู้บวชให้ เมื่อบวชแล้วท่านศึกษาอักขระ ตำราเลขยันต์ฉบับหอคำหลวง เจนจบพุทธาคม จนได้รับการวางตัว เป็นพระมหาเถระองค์ต่อไป

    ท่านเรืองวิชาตั้งแต่เป็นสามเณร ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ผู้ถูกเกณฑ์เป็นทหารไทยใหญ่ รบกับพม่า ทั้งกองร้อยรบไม่เคยแพ้ เพราะก่อนรบท่านทำน้ำมนต์และสักกระหม่อมให้เพื่อนทหารสู้กับศัตรู ปรากฏว่า ปืนทหารพม่ายิงมาไม่ออกบ้าง ออกแต่ไม่ถูกบ้าง ลูกระเบิดตกใกล้ๆ ไม่ระเบิดบ้าง แม้ตอนนี้เจ้ายอดศึก ผู้นำไทยใหญ่ ก็เคารพนับถือท่านอย่างที่สุด

    หลวงปู่ครูบาออ ปณฺฑิต๊ะ ปัจจุบันอายุย่างเข้าได้ 100 ปี

    เจ้าสำนักสงฆ์พระธาตุดอยจอมแวะ ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่

    ห่างจากตัวจังหวัดไปทางทิศเหนือโดยประมาณ 110 กิโลเมตร

    หลวงปู่ครูบาออ ปณฺฑิต๊ะ ท่านเกิดวันอังคาร เดือนสิบสองไตยใหญ่ตรงกับเดือนพฤศจิกายนของไทยเรา

    เมื่อปีพุทธศักราช 2461 ปีขาล ที่หมู่บ้านน้ำหน่อ ตำบลปางซาง จังหวัดลายข่า ประเทศพม่า(รัฐฉานไทยใหญ่)

    บิดาเป็นกำนันชื่อนายจั่นตา มารดาชื่อนางเห็งแปรมีพี่น้องร่วมกันทั้งหมด 10 คน

    หลวงปู่ครูบาออ เป็นคนที่ 10 ของครอบครัว

    ปัจจุบันพี่น้องได้เสียชีวิตไปหมดแล้วคงเหลือแต่หลวงปู่ครูบาออท่านเดียวท่านยังมีหลานๆ อยู่ในตำบลเมืองนะ

    หลายคนในปัจจุบัน ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรตั้งแต่อายุ 7 ขวบจนถึงอายุได้ 15 ปี

    เกิดสงครามโลกครั้งที่๒ท่านได้ลาสิกขาไปเป็นทหารร่วมรบกับกองกำลังทหารไทยใหญ่ในฐานะผู้นำทัพ(เทียบเท่านายพลของไทย) พอปลดจากทหารแล้วท่านได้กลับมาอุปสมบทอีกครั้งโดยมีเจ้าปิ่นยา สังฆราชของไทยใหญ่บวชให้เมื่อราวปีพุทธศักราช 2497

    ท่านเคร่งครัดในวินัยการปฏิบัติของสงฆ์เป็นอย่างยิ่ง ใช้ชีวิตสันโดษสมถะ เรียบง่ายและมีความมานะอดทนสูงที่บนสำนักสงฆ์พระธาตุดอยจอมแวะไม่มีน้ำ ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีชาวบ้านสักหลังคาเรือน แต่ท่านอยู่ได้ถือได้ว่าท่านเป็นพระเกจิสุปะฏิปันโณที่น่าศรัทธาเลื่อมใสรูปหนึ่งเลยทีเดียว ไม่ว่าใครได้พบเห็นหลวงปู่ครูบาออจะมีความศรัทธาเลื่อมใสแทบจะในทันทีแล้วตรงเข้ามากราบไหว้ด้วยใจศรัทธาเลื่อมใสโดยปกติท่านจะมีเมตตาต่อญาติโยมทุกๆคนที่เข้าไปกราบไหว้หลวงปู่ครูบาออไม่ว่าจะเป็นที่ใดก็ตามและใครก็ตามท่านจะมีเมตตาให้เสมอในด้านความเข้มขลังในวิทยาและอาคมกล่าวได้ว่าสุดยอดเลยทีเดียว

    4o.jpg



    หลวงปู่ครูบาออได้ร่ำเรียนจากตำราบ้างครูบาอาจารย์ของท่านจำนวน 9 รูป

    ปัจจุบันยังคงเหลืออยู่ ๑รูปอยู่ที่ประเทศพม่ารัฐฉานไทยใหญ่เป็นผู้ถ่ายทอดวิชาอาคมและการปฏิบัติตน

    ในแบบฉบับวิปัสสะนากรรมฐานสันโดดตอนที่เป็นทหารนั้น

    ท่านก็ยังเป็นหมอรักษาผู้ป่วยด้วยวิชาอาคมจนหายนับไม่ถ้วนจนเป็นที่เล่าขานมาทุกวันนี

    ในรอบ 1 ปีพลโทเจ้ายอดศึกผู้นำทหารไทยใหญ่รัฐฉานต้องมากราบไหว้และ

    ลงอักขระสำทับวิชาอาคมในตัวโดยอาราธนาหลวงปู่ครูบาออทำพิธีตามแบบไทยใหญ่เพื่อความเป็นศิริมงคล

    แก่ชีวิตเพิ่มความเข้มขลังขมังเวทย์อยู่ยงคงกระพันใว้ป้องกันภัยสาระพัดในสนามรบที่ล้วนมีแต่อันตรายทุกนาที

    หลวงปู่ครูบาออได้มอบหมายให้ลูกศิษย์จัดสร้างวัตถุมงคลมาหลายชนิดทั้งที่บันทึกไว้

    และไม่ได้บันทึกไว้เมื่อสร้างแล้วลงอักขระสำทับวิชาอาคมทำพิธีตามแบบไทยใหญ่แล้วปลุกเสกหลัง

    จากนั้นมอบให้ลูกศิษย์แจกจ่ายให้ทหารและชาวบ้านบ้างพ่อค้าแม่ค้าบ้างนำไปใช้จนเกิดผลสำเร็จทุกคนปัจจุบันหายากสุดๆ

    v5.jpg

    เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2556 เวลาประมาณ 12.20 น. คณะศรัทธาศิษยานุศิษย์ นำโดย คุณสุทิน แซ่ล่าย บ้านบุญนาค อ.เชียงคำ จ.พะเยา ได้มากราบนมัสการ-ร่วมทำบุญ กับหลวงปู่ครูบาออ ปณฺฑิต๊ะ วัดดอยธาตุเมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ หลังจากทำบุญเสร็จแล้วได้ออกจากวัด โดยขับรถนิสสัน นาวาร่า สีทอง เลขทะเบียน กค 1768 พะเยา ออกจากสำนักสงฆ์พระธาตุดอยจอมแวะโดยมีผู้โดยสารทั้งหมด 6 คน ได้เกิดประสบอุบัติเหตุขณะลงจากดอย รถได้เสียหลักพุ่งชนโขดหิน เพราะคนขับไม่ชำนาญทาง จนทำให้รถพลิกคว่ำหลายตลบ แต่ปรากฏว่า ทั้ง 6 คน บาดเจ็บเล็กน้อย-รอดตาย ราวปาฏิหาริย์ ทุกคนต่างเชื่อว่าเป็นเพราะบารมีหลวงปู่ครูบาออ ปัณฑิต๊ะที่ได้ี่ให้พรแคล้วคลาด ปลอดภัย และทุกคนต่างมีเฉพาะวัตถุมงคลของหลวงปู่ครูบาออ เช่น เหรียญรุ่นแรกและตะกรุดโทนหนึ่งไตรมาส เรื่องนี้ได้รับแจ้งความจาก คุณสุทิน แซ่ล่าย ถึงอุบัติเหตุครั้งนี้ โดยรับแจ้งจากสถานีตำรวจภูธร ต.นาหวาย อ.เชียงดาว ร้อยเวรผู้รับแจ้งความ คือ พันตำรวจโท ไชยา คนชอบ และดาบตำรวจ สุวรรณ เอ้ยวัน เจ้าหน้าที่ตำรวจบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เพื่อนำหลักฐานการแจ้งความไปกระกอบในการขอประกันภัยรถยนต์



    th.jpg



    ครูบาออ รูปนี้ แม้วัยชรา ก็มีวิชาดี มีบารมีมาก ท่านแบกกลด ธุดงค์จากฝั่งไทยใหญ่ พม่า มาดอยจอมแวะ เพียงรูปเดียว ค่ำไหนนอนนั่น ถ้ำลึกลับ ป่าช้ารก เป็นที่อาศัย ผจญภูตผีปีศาจ เจ้าป่าเจ้าเขา ผ่านมาได้หมด



    เจ้าฟ้าแสงเชียง เจ้าแผ่นดินรัฐฉาน ไทยใหญ่ เป็นผู้สักสังวาลเพชร บนศีรษะท่านเมื่ออายุ 20 ปี เพราะโปรดที่ครูบาออ ตอนนั้นเป็นทหารกล้า นำพากองทัพไทยใหญ่รบชนะข้าศึกโดยไม่เสียกำลังพลแม้แต่คนเดียว ตอนบวช เจ้าปิ่นยา สังฆราชไทยใหญ่ บวชให้ เมื่อบวชแล้วท่านศึกษาอักขระ ตำราเลขยันต์ฉบับหอคำหลวง เจนจบพุทธาคม จนได้รับการวางตัว เป็นพระมหาเถระองค์ต่อไป

    ท่านขมังเวทย์ เรืองวิชาตั้งแต่เป็นเณร ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ท่านถูกเกณฑ์เป็นทหารไทยใหญ่ รบกับพม่า กองร้อยของท่านทั้งกองร้อย รบไม่เคยแพ้ ไม่ตาย ไม่เจ็บ เพราะก่อนรบ ท่านทำน้ำมนต์ทั้งสักกระหม่อมให้เพื่อนทหารสู้กับศัตรู ปรากฏว่า ปืนทหารพม่ายิงมาไม่ออกบ้าง ออกแต่ไม่ถูกบ้าง ลูกระเบิดตกใกล้ๆ ไม่ระเบิดบ้าง แม้ตอนนี้ เจ้ายอดศึก ผู้นำไทยใหญ่ ก็เคารพนับถือท่านอย่างที่สุด

    r0.jpg



    เรื่องเล่าจากศิษย์กรุงเทพฯ ขึ้นดอยไปกราบท่าน ขณะคุยอยู่เห็นเมฆฝนตั้งเค้าดำทะมึน ก็จะรีบลาท่านกลับ เพราะขืนช้า ฝนตกหนัก ดินลื่น น้ำหลาก จะลงดอยไม่ได้ ท่านห้ามไม่ให้กลับ แล้วก็คว้าผ้าเช็ดปากเดินไปที่ลานดิน ท่านเอาผ้าเช็ดปาก โบกอากาศไปมาอยู่ 3-4 ครั้ง ปากก็ว่าคาถาขมุบขมิบ แล้วก็เดินกลับ!! อัศจรรย์!! เมฆฝนดำทมึน ค่อยๆ จางหายไป กลับมีแสงอาทิตย์ส่องผ่านเมฆมาแทน ปรากฏว่า ดอยจอมแวะ ทั้งดอยฝนไม่ตก แต่ตกรอบอำเภอเชียงดาวแทน แบบไม่ลืมหูลืมตา


    เรื่องเล่าจากศิษย์เชียงใหม่ นักธุรกิจน้ำดื่ม ไม่เคยรู้จักท่านมาก่อนเลย ตอนกลางคืนหลับฝันว่าได้ขึ้นไปกราบพระชรา บนดอยสูง พระรูปนี้ ในฝันจำได้แม่น เพราะท่านสักยันต์รูปสี่เหลี่ยมสีทองไว้รอบศีรษะ ตื่นขึ้นมาก็เล่าความฝันให้ลูกน้องฟัง บังเอิญลูกน้องเป็นคนเชียงดาว ก็นึกถึงครูบาออ ว่าลักษณะตรงกับในฝัน เลยพากันขึ้นดอย ไปกราบท่าน เมื่อพบหน้าก็ต้องตะลึง ขนลุกทั้งตัว เพราะครูบาออ คือพระชราที่ตนฝันถึง เพราะจำใบหน้าเหี่ยวย่นได้ ที่สำคัญจำรอยสักยันต์สี่เหลี่ยมรอบศีรษะท่านได้แม่นยำ


    เรื่องเล่าจากหลานท่านเอง หลานท่าน

    ปลูกบ้านอยู่เชิงดอย สองวันบ้าง สามวันบ้าง จะขึ้นไปกราบท่านนำน้ำบ้าง อาหารแห้งบ้าง ไปถวาย มีช่วงหนึ่ง งานมาก เลยไม่ได้ขึ้นไปหาท่าน ตอนเช้าจะออกไปรับจ้าง พอเปิดประตูบ้าน ก็เห็นครูบาออ ในมือถือกาน้ำ ออกเดินนำหน้าอยู่ ก็นึกแปลกใจว่า ท่านลงจากดอยมาได้ยังไงกัน ทางก็ไกล ทั้งลาดชัน ขึ้นลงลำบาก สักครู่ ร่างท่านก็หายไป ก็เลยตัดสินใจไม่ไปรับจ้าง แต่นำน้ำดื่มขึ้นไปหาท่านแทน พอเจอหน้ากัน ท่านก็ทักเป็นภาษาไทยใหญ่ว่า “หายไปนาน น้ำดื่มหมดแล้ว กลัวว่าเดี๋ยวจะออกจากบ้านไปก่อน ก็เลยรีบมาเตือนให้นำน้ำดื่มขึ้นมาให้ด้วย”


    เรื่องเล่าจากหลวงพี่นิ่ม พระสงฆ์รูปหนึ่ง ชอบฝากตนเป็นศิษย์หลวงปู่ หลวงพ่อต่างๆ และศึกษาทางจิตศาสตร์ สักยันต์ลงของได้ มีวิชาอาคมพอสมควร ได้ขึ้นไปกราบครูบาออ ขอเรียนวิชาด้วย ความที่อยู่บนดอยสูงภาคเหนือจึงฉันภัตตาหารแบบตามมีตามเกิด คือข้าวนึ่ง น้ำพริก ผักจิ้ม ยืนพื้น ครั้นอยู่นานเป็นสัปดาห์ก็เบื่ออาหาร ฉันได้น้อยลง ครูบาออ ท่านคงรู้อาการ เย็นวันหนึ่ง เห็นท่านเอากระป๋องพลาสติกเปล่าๆ ไปแขวนไว้บนต้นไม้ พอตอนเช้ามาท่านบอกให้ไปดูที่กระป๋อง ก็เจอคราบน้ำ และพบปลาช่อนตัวเขื่องอยู่ในนั้น 1 ตัว มีน้ำพอท่วมหลังปลา พอดีกับศิษย์ท่านขึ้นมากราบท่าน จึงนำปลาช่อนทำอาหารถวายพระ พระนิ่มเล่าว่า วันนั้นฉันอาหารได้มากเป็นพิเศษ ที่อร่อยคือ เนื้อปลาช่อนที่ครูบาออ ดักด้วยกระป๋องเปล่าบนต้นไม้กลางดอยสูง น่าแปลก ปลาช่อนนา ขึ้นไปอยู่ในกระป๋องที่แขวนไว้บนต้นไม้ กลางดอยสูงได้อย่างไร....

    ua.jpg



    เครดิต : คัดลอกบทความและรูปภาพมาจาก >>> http://goo.gl/T7FuZD
    ครูบาออ ขุนศึกไทใหญ่ให้ชินพรศิษย์เอกหลวงปู่ทิมสร้างขุนแผนพรายกุมาร
    ครูบาออขุนศึกไทใหญ่ให้ชินพรศิษย์เอกหลวงปู่ทิมสร้างขุนแผนพรายกุมารพระกริ่งชินบัญชรเชียงรุ้งหัวระมาน (หนุมาน) และสุดยอดเครื่องรางของผู้ชนะสิบทิศแมงบู๊

    ครูบาออ ปัณฑิต๊ะ สำนักสงฆ์พระธาตุดอยจอมแวะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
    เสือซ้อนเล็บ ช้างเผือกอยู่ในป่าอดีตขุนศึกไทยใหญ่
    ให้ศิษย์เอกหลวงปู่ทิม สร้างสุดยอดพระเครื่อง
    ครูบาออ ปัณฑิต๊ะ
    เล่าลือกันมานานแต่หาตัวไม่ค่อยพบไม่ค่อยเจอ เพราะชอบอยู่แต่ในป่าในถ้ำ คือภิกษุรูปหนึ่งอดีตขุนศึกไทใหญ่มีวิทยาคมสูง ตะบะเดชะแก่กล้าใครฆ่าไม่ตายอยู่ทางเหนือของไทย งานทำบุญวันเกิดผู้คนหลั่งไหล เข้าคิวยาวนับเป็นกิโล
    ระหว่างงานบุญวันเพ็ญเดือนสิบสอง ตชด.ไทยสกัดจับยาบ้าชุดใหญ่วิสามัญไป ๕ ศพ ตชด.ไทยไม่เป็นอะไรเลย แม้ถูกยิงเต็มหน้าอก กระสุนไม่ระคายผิวมีเพียงตะกรุดครูบาออกดอกเดียว มูลนิธิหลวงปู่ทิมกำลังสร้างพระกริ่งชินบัญชรหัวใจหลวงปู่ทิมจึงนำไปให้ท่านปลุกเสกเดี่ยวเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อเพิ่มพลังอานุภาพเมื่อ
    ไปพบท่านบนดอยจอมแวะ รตท.เรวัตร กิตติวุฒิกร นายตำรวจ สภอ.เมืองนะ อ.เชียงดาวที่เคยเห็นผลงานของ อ.ชินพร เมื่อร่วมกับคุณธงชัย อุดมความสุข ช่วยกันสร้างทางขึ้นถ้ำผาปล่องพัฒนาจนโด่งดังโดยสร้างเหรียญเมตตาให้หลวงพ่อสิม พุทธาจาโร ตั้งแต่ ปี ๒๕๑๗ ว่าคนนี้สร้างพระดังและมีผลงานชัดเจน
    ครูบาออจึงขอให้สร้างกุฏิให้ท่านบนดอยจอมแวะโดยเซ็นชื่ออนุญาตไว้เป็นหลักฐานเมื่อวันเพ็ญเดือนสิบสองและเมตตาเททองหล่อพระกริ่งชินบัญชรเชียงรุ้ง นำฤกษ์และปลุกเสกผงวิเศษต่าง ๆ เพื่อนำไปสร้างวัตถุมงคล โดยประกอบพิธีบรวงสรวงครูบาอาจารย์ เทพพรหมในคืนวันเพ็ญเดือนสิบสองตรงกับวันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๗
    เมื่อพบพระอริยสงฆ์ซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยบุญญฤทธ์และอิทธิฤทธิ์เช่นเดียวกับหลวงปู่ทิมผู้เป็นอาจารย์ คุณชินพรจึงยินดีรับปากช่วยท่าน วัตถุมงคลอันพิเศษสุดจึงจุติขึ้นในวันเพ็ญเดือนสิบสอง เพื่อเป็นของขวัญอันทรงคุณค่าในปี ๒๕๕๘
    พระกริ่งชินบัญชรเชียงรุ้ง ช่างฮง ศรีษะเกษออกแบบมีทั้ง ทองคำ เงิน นวะโลหะ เนื้อผงงาผสมผงพรายกุมาร ประกอบด้วย ผงงากำจัด งากำจาย งากะเด็น และวัตถุมงคลจากอนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวร เมืองนะ
    หัวระมานอิงจันทร์ หรือหนุมานอิงจันทร์หรือขุนกระบี่ผู้เรื่องฤทธิ์ใครฆ่าไม่ตายมีเมียทั้งในอากาศ บนดินและในน้ำอุดผงด้วยผงพรายกุมารและผงครูบาออ อันแรงฤทธิ
    แมงภู่ทองบนบัลลังก์ของผู้ชนะสิบทิศ ทำให้ผู้คนทั้งรักทั้งหลงทั้งชื่นชอบเป็นเมตตามหานิยมอย่างสูงสุด อุดด้วยปรอทปิดด้วยชันโรงจากเกาะกงผสมผงพรายกุมาร
    ขุนศึก (ขุนแผน) ไทใหญ่ ด้านหลังลงยันต์เป็นพระยันต์มนต์มหาจินดามณีเหมือนยันต์ของหลวงปู่ ผสมผงเทวตพลี ผงพรายกุมาร ดิน ธูป เทียน น้ำมนต์จากอนุสาวรีย์พระนเรศวร เมืองนะ และดินในถ้ำขุนแผนเมืองกาญ ทั้งพิมพ์เล็กและพิมพ์ใหญ่ ที่ฝังตะกรุดทองคำ เงิน ทองแดงและผงพรายกุมารล้วน ๆ ก็มี

    เหรียญหล่อฉลุ
    เนื้อทองทิพย์ เลข 44 ครูบาออ วัดพระธาตุดอยจอมแวะ รุ่นสุดท้ายบนดอย ก่อนหลวงปู่ย้ายไปจำวัดเพื่อพัฒนาวัดเด่นชัย อ.แม่อาย เชียงใหม่
    เนื้อทองทิพย์สร้างแค่ 500 เหรียญครับ
    ปลุกเสกวาระแรก วันที่ 18 พ.ค.
    ปลุกเสกวาระที่สอง วันที่ 28 พ.ค.

    เปิดให้บูชา 2499 บาทค่าจัดส่ง 50 บาท ทั้ง 3 องค์ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCF4490.JPG
      DSCF4490.JPG
      ขนาดไฟล์:
      121.8 KB
      เปิดดู:
      105
    • DSCF4491.JPG
      DSCF4491.JPG
      ขนาดไฟล์:
      122.8 KB
      เปิดดู:
      154

แชร์หน้านี้

Loading...