พระพุทธเจ้าเสด็จเมืองอังครัฐ

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย klu, 25 พฤศจิกายน 2006.

  1. klu

    klu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,320
    - 208 -


            พระมหาโมคคัลลาน์กราบทูลองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ในกาลหลังต่อมา ปรากฏว่าองค์สมเด็จพระประทีปแก้วมี พระพุทธประสงค์จะโปรดพระเจ้าอังครัฐ แต่ทว่าพระพุทธเจ้าเมื่อใครยัง ไม่นิมนต์ก็ยังไม่มาก่อน ก็นั่งดูศรัทธาเสียก่อน ดูซิว่าบรรดาพสกนิกรที่พระมหาโมคคัลลาน์ไปโปรดนั้นจะมีจิตเป็นกุศลเพียงใด แล้วภายในไม่ช้าในฐานะที่พระเจ้าอังครัฐเป็นผู้มีอุปนิสัย แค่ไหนรู้ไหม อุปนิสัยจะได้อรหัตผลพร้อมไปด้วยประชาชนจำนวนมาก  นี่ ที่ท่านกล่าวว่าในแหล่งแห่งจังหวัดลำพูนเป็นที่ประชุมกันของบรรดาพระอรหันต์ทั้งหลาย เอาเฉพาะพระอรหันต์นะ ที่อยู่แดนไกลประมาณถึง 700 รูป ที่เป็นพระโสดา สกิทาคานี่ยัง ไม่ได้นับ นี่น่ากลัวจะจริง เรื่องนี้ไปยันกันเข้าอีกแล้ว

            ต่อมาพระเจ้าอังครัฐก็มีความปรารถนาจะได้เฝ้าองค์สมเด็จพระประทีปแก้วโดยตรง ในการที่พระมหาโมคคัลลาน์ให้ศีล 8 ไว้  คนที่รับทุกคนในวันนั้นก็ไม่ยอมละศีล 8 เป็นอันว่างานการสร้างชาติ สร้างพลเมืองของชาติต้องระงับไปชั่วคราว แต่ไม่เป็นไร วันหลังทำกันใหม่ระงับไว้ชั่วขณะหนึ่ง

            พอถึงเวลากลางคืนวันหนึ่ง พระเจ้าอังครัฐก็ตั้งสัตยาธิษฐานว่าขอองค์สมเด็จพระพิชิตมารบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าพร้อมไป ด้วยพระพุทธสาวก ขอได้โปรดข้าพระพุทธเจ้าอีกวาระหนึ่ง เพื่อสร้างความชื่นใจให้กับบรรดาพุทธบริษัททั้งหลาย ความจริงที่ส่งพระโมคคัลลาน์มา ก็ชื่อว่าเป็นการดีแล้ว แต่ว่าบรรดาประชาชนอยากจะนมัสการพระประทีปแก้วอีกโดยตรง เพราะว่าการเห็นพระอรหันตสาวกก็ชื่อว่า เป็นผู้วิเศษ

    ---------------------------------------

    ดองไว้ หุหุหุ
     
  2. klu

    klu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,320
    - 209 -

    เกินกว่าที่จะคิดไว้ ถ้าหากว่าบรรดาประชาชนทั้งหลายได้นมัสการ องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดา และได้สดับพระธรรมเทศนาแล้ว อารมณ์จะเข้าถึงธรรมมากกว่านี้ นี่ความจริงท่านเป็นพระราชาที่ ฉลาดมาก เพราะคนในประเทศทั้งหมด ถ้าปรากฏว่าเป็นคนที่มีศีล 5 หรือทรงธรรม การปกครองประเทศก็เป็นไปด้วยความสะดวก ไม่ยากแก่การปราบปรามเพราะคนเลวไม่มี มีแต่คนดี ดีก็ตรงกับความเป็นจริง ไม่ใช่ดีค่อนข้างของความดี เมื่ออธิษฐาน แล้วก็นอนหลับไป แล้วก็ทรงพระสุบินนิมิต นอนฝัน ฝันไปว่ามีช้างเผือกเชือกหนึ่งกับบริวารอีกห้าร้อยเหาะมาสู่ดอยจอมทอง แหมขยันจริงวันนี้ ถ้าฝันเวลานี้คงจะฝันเห็นลอตเตอรี่มากกว่า แล้วบรรดาชาวเมืองทั้งหลายก็ถือดอกไม้ธูปเทียน ไปบูชาช้างเผือกกับบริวารเต็มไปหมด นี่ความฝันเป็นอย่างนั้น เวลาที่พระองค์ทรงตื่นขึ้นจากบรรทมคือจากนอนหลับ ก็ทรงดำริห์ คือคิดว่า เมื่อครั้งก่อนนั้นเรามีศรัทธาปรารถนาจะเฝ้าพระพุทธเจ้า แล้วก็จุดดอกไม้ธูปเทียนอธิษฐาน แล้วก็สู่ห้องที่นอน ห้องบรรทม ก็ทรงสุบินนิมิตฝันไปว่า เห็นพญาหงส์ทอง รุ่งขึ้นเรา ก็เห็นพระโมคคัลลาน์กับพระอรหันต์ทั้ง 4 รูป เหาะมาให้บำเพ็ญกุศล มาคราวนี้บางทีเราได้เห็นช้างเผือกอาจจะได้บำเพ็ญกุศลกับสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือมิฉะนั้น ก็ต้องเห็นพระสงฆ์ที่มีศักดาใหญ่กว่าพระมหาโมคคัลลาน์ เพราะว่าช้างเผือกนี่เป็นสัญญลักษณ์ของบุคคลผู้มีบารมีสูง ฉะนั้นพระองค์จึงโปรดให้ประชาชนจัดอาหารบิณฑบาต พร้อมไปด้วย เครื่องเข้าไว้ ว่าดีไม่ดีตอนนี้แหละพระพุทธเจ้าจะต้องเสด็จ ท่านเสด็จมาคราวนี้ต้องมีพระตามมาถึงห้าร้อยรูป ถ้าพระพุทธเจ้าไม่มาเองก็ต้องมีพระสงฆ์ผู้ทรงศักดาใหญ่เป็นหัวหน้า เพราะบรรดาประชาชนทั้งหลาย จัดเครื่อง
     
  3. klu

    klu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,320
    - 210 -

    อาหารบิณฑบาต ไว้ เพราะตั้งห้าร้อยรูปนี่ไม่ใช่เล็ก ฉะนั้นพระราชาจึงได้ทรงสั่งให้ประชาชน จัดอาหารบิณฑบาต และเครื่องสักการะ เครื่องบูชา ประชุมพร้อมกันคอยอยู่ที่ดอยจอมทอง เพราะว่าในความฝัน ฝันว่าช้างมันลงที่ดอยจอมทอง ห่างจากตัวเมืองไปนิดหน่อย และความจริง ก็เป็นดังนั้น เมื่อพระราชาพร้อมไปด้วยประชาชนทั้งหลายมาประชุมกัน ที่ตรงนั้นแล้ว ภายในไม่ช้าองค์สมเด็จพระประทีปแก้วพร้อมไปด้วยพระสงฆ์ทั้งห้าร้อยรูป ก็เหาะมาทางอากาศ แล้วก็ลงที่ดอยจอมทองจริง ๆ ฝันแม่นแบบนี้สิ ถ้าฝันสมัยนี้สิ เลขลอตเตอรี่ถูกกันเป็นระนาวไปหมด นี่บรรดาลูกหลานที่รัก พระพุทธเจ้าทรงรู้วาระทางจิต รู้จิตรู้คำพูดของบุคคล ที่พูดในแดนไกลได้อย่างไรกัน อันนี้ลูกหลานทั้งหลายโปรดทราบ ว่าพระที่ได้อภิญญาสมาบัติหรือปฏิสัมภิทาญาณ ย่อมได้ยินเสียงของคนที่พูดอยู่ไกล แสนไกล กี่พันกี่แสนโยชน์ก็ได้ยินได้ ทั้งนี้ก็อาศัยทิพยโสตญาณ คือมีหูเป็นทิพย์ ดูวิธีปฏิบัติอภิญญา 6 ในคู่มือปฏิบัติพระกรรมฐาน ว่าเขาปฏิบัติกันแบบไหนจึงได้ทิพย์โสตญาณ แล้วก็การรู้ใจนี่ลูกหลานรู้แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์สมเด็จพระประทีปแก้ว คือพระพุทธเจ้ารู้เป็นพิเศษ อันนี้เมื่อพระเจ้าอังครัฐได้ทอดพระเนตรเห็นพระพุทธองค์ พร้อมด้วยพระสาวกทั้งห้าร้อยรูป ก็เกิดศรัทธาว่าการเห็นพระพุทธเจ้านั้น รู้ทันทีว่าองค์นี้คือพระพุทธเจ้า รู้ยังไง เพราะพรรคพวกพ่อค้าก็มานั่งเทศนาเสียนานแล้ว คุยความงามของพระพุทธเ้จ้าว่างามยิ่งกว่าใครทั้งหมด ไม่มีบุคคลใดในโลกนี้ที่จะมี ความงามเสมอไปด้วยพระพุทธเจ้า มีัลักษณะสมบูรณ์บริบูรณ์ทุกประการยิ่งไปกว่านั้น องค์สมเด็จพระพิชิตมารยังมีฉัพพรรณรังสีรัศมี 6 ประการล้อมพระกายมองไปแล้วคล้ายพระอาทิตย์ทรงกลด งามยิ่งกว่าบุคคลและเทวดา และพรหมทั้งหมดที่มีอยู่ในโลก แหมสวยบอกไม่ถูก เวลานั้นพระพุทธเจ้ามาถึง
     
  4. klu

    klu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,320
    - 211 -

    แล้วก็ทรงเปล่งฉัพพรรณรังสี พระวรกายของพระองค์นี้ที่มีความสวย อยู่แล้วก็สวยหนักยิ่งขึ้น คนทุกคนมองแล้ว แหมไม่อยากให้พระพุทธเจ้าคลาดแคล้วไปอยู่ ณ ที่อื่น มีความชุ่มชื่นไปด้วยอำนาจธรรมปิติ พระราชาพร้อมไปด้วยประชาชนทั้งหลายก็พากันถวายบังคมด้วยเบญจางคประดิษฐ์ เบญจางคประดิษฐ์นี่เขาแปลว่า วางไว้ 5 จุด คือ หน้าผาก มือทั้งสอง เข่าทั้งสอง ถึงพื้นเวลาเขากราบลงไป เวลากราบลงไปไม่ใช่เอามือ รองหน้าผาก แยกมือให้ห่างกันให้หน้าผากถึงพื้น มือสอง หน้าผากหนึ่ง เป็นสาม กับเข่าอีกสองเป็นห้า อย่างนี้เรียกว่าเบญจางคประดิษฐ์ ทีนี้การกราบพระ ลูกหลานที่รัก ต้องกราบแบบนี้ถึงจะถูกแบบ

            เมื่อพระพุทธเจ้าได้ทรงประทับเรียบร้อย บรรดาประชาชนทั้งหลายมีพระราชาเป็นหัวหน้า ได้นมัสการองค์สมเด็จบรมศาสดากันแล้ว องค์สมเด็จพระประทีปแก้วจึงได้ทรงตรัสกับพระราชา คือพระเจ้าอังครัฐว่า เมืองนี้ต่อไปจะก้าวหน้าเจริญมาก เอาอีกแล้วนี่องค์สมเด็จพระประทีปแก้ว เอาอีกแล้ว มาพยากรณ์ทับพระมหาโมคคัลลาน์ลงไปอีก  แหม พระมหาโมคคัลลาน์ตอกเสาลงไปแล้วลึก 10 วา พระพุทธเจ้ามาตอก ลงไปอีกลึก 10 กิโล 10 กิโลเมตร มันก็แน่นปั๋ง ว่าโดยเฉพาะดอยจอมทองนี้จะเป็นที่ประดิษฐานพระเมาลีจอมหัวของเรา เมื่อเราปรินิพพานแล้วพระมหากัสสปจะส่งพระเมาลีจอมหัวของเรา หมายความว่ากระดูกระหม่อมน่ะ ไม่ใช่ผม ผมน่ะเขาไปเก็บไว้แล้ว เมาลีตรงนี้จอมหัวความจริงน่าจะเป็นผมมากกว่านะ โมลีนะ แต่ความจริงไม่ใช่ผมเป็นกระดูก กระดูกกระหม่อม จอมกระหม่อมหลังจากที่เรานิพพานไปแล้ว พระมหากัสสปจะส่งมา จะนำมาบรรจุไว้ หรือว่าจะเอาให้มาก็แล้วกัน แล้วต่อจากนั้นไปอีก 218 ปี จะมีพระธาตุย่อย ๆ ของเรา 5 องค์ คือว่าเมื่อเรานิพพานไปแล้ว 218
     
  5. klu

    klu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,320
    - 212 -

    ปี จะมีพระธาตุย่อย ๆ จากพระเมาลี หรือพระรากขวัญเบื้องขวา ได้แก่ ไหปลาร้าข้างขวา ได้แก่พระธาตุย่อย ๆ รวม 5 องค์ด้วยกัน จะนำมาโดยพระเจ้าอโศกมหาราชาแห่งชมพูทวีปจะเสด็จมาขุดอุโมงค์ แล้วก็บรรจุเข้าไว้ สำหรับเป็นที่นมัสการของบรรดาประชาชนทั้งหลาย นี่พระพุทธเจ้าทรงพยากรณ์ไว้เองนะ ตามตำนานเขาว่าอย่างนี้ นี่คนอ่านเชื่อ หรือไม่เชื่อ ไม่เชื่อก็ไปถามคนที่เขาเล่าให้ฟังก็แล้วกัน แต่ไม่ใช่มาถาม เจ้าลิงถุงนี่นะ ลิงถุงนี้เอาจากน้ำลายปากคนอื่นเขามานะ ไม่ใช่ตัวเองรู้ ไม่ใช่มาประกาศเป็นสัพพัญญูรู้เท่าพระพุทธเจ้า ดีไม่ดีไปอยู่กับพ่อ เทวทัต ไม่เอาละพ่อคุณเอ๋ย ให้หลวงพี่ท่านนอนสบาย ๆ อย่าไปกวนใจ ท่านเลย หลวงพี่เทวทัตน่ะ แต่ระวังนา ไม่ได้อยู่แต่เทวทัตหรอก เวลานี้ปรากฏว่าพระที่มีศักดิ์ศรีใหญ่ก็ไปแย่งที่เทวทัตอยู่หลายองค์แล้ว ไปนั่งเบียดท่านทำไม้ ไม่น่าจะไปรบกวนเลย หลวงพี่ท่านอยู่องค์เดียวสบาย ๆ ท่านอยู่กับ ท่านโกกาลิกะสองคนเป็นเพื่อนคุยกันก็ดีแล้วนี่ นี่เข้าไปอีกหลายคนก็ไป แย่งกันคุยให้มันมากเรื่องไปเปล่า ๆ ไม่น่าจะไปกวนใจท่าน

            นี่แหละ บรรดาท่านผู้อ่านและลูกหลานที่รัก การบวชเข้ามาในพระพุทธศาสนานี่ไม่ใช่ว่าดีนักนะ ถ้าเราทำดีมันก็ดีเหลือขนาด เกินที่เราคาดไว้ ถ้าเราสร้างความจังไรแล้วก็ ลูกหลานเอ๋ย ไม่ต้องห่วง ลงอเวจีสบาย ๆ ดูตัวอย่างท่านผู้ใหญ่ ผู้มีศักดิ์ศรีใหญ่เป็นทั้งจ้าวด้วยเป็นทั้งพระด้วย คือท่านพระเทวทัต เมื่อตายแล้ว....ไม่ทันจะตาย....ท่านเสด็จลงอเวจีมหานรกไป นี่ท่านเป็นจ้าวนี่ต้องใช้คำว่าเสด็จ นี่เวลาลูกหลานทั้งหลาย ถ้าเวลาจะบวชละตั้งใจไว้ให้ดี จำศัพท์ ๆ หนึ่งไว้ว่า "นิพพานสฺส สจฺฉิกิริยาย เอตํ กาสาวํ คเหตฺวา" ที่เขาแปลว่า เราขอรับผ้ากาสาวพัตร์เพื่อทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน เวลานี้การขอ เวลานี้การขอ บรรพชา
     
  6. klu

    klu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,320
    - 213 –​

    บางเหล่าเขาตัดเอาศัพท์นี้ออกไป แสดงว่าบวชตอนหลังนี่เขา ไม่ใช้กันหรอก เรื่องพระนิพพาน ไม่ใช้ถ้าลงไม่ใช้ก็ไปนรกกันก็แล้วกัน แต่อย่าไปว่าท่านนะ ท่านที่บวชประเภทนั้น ที่เขาไม่ได้ใช้ศัพท์นี้ ที่เขาปฏิบัติดีก็มีเยอะตัวอย่างในกรุงเทพฯ ในปัจจุบัน เราจะเห็นได้ง่าย ๆ  เอาที่รู้จักกันนะ ที่ไม่รู้จักก็ไม่รู้อยู่ที่ไหนมั่งนี่ พูดถึงไม่ได้ อย่างท่านพระมหาอำพัน วัดเทพศิรินทร์ อายุท่าน 70 กว่าแล้ว ตั้งท่าตั้งทางวางตัวดี ทำจิตใจเข้าถึงพระรัตนตรัย ยกพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ ยกพระธรรม พระสงฆ์เป็นที่พึ่ง ทำจิตใจเข้าถึงธรรมได้เป็นอย่างดี องค์นี้เป็นพระครู ไม่ทราบว่าพระครูอะไร แล้วอีกองค์หนึ่งก็คือหลวงพ่อใหญ่วัดบุปผาราม เจ้าคุณธรรม เจ้าคุณธรรมองค์ปัจจุบันนะ วันนี้วันที่ 12 ธันวาคม 2517 ท่านมีชีวิตอยู่ในขณะนี้ แต่ธรรมรุ่นหลังน่ะไม่รู้นะ รุ่นก่อนก็ไม่รู้ เอาธรรมรุ่นนี้ เจ้าคุณธรรมปัจจุบันนี้ ท่านเป็นเจ้าอาวาส มีอายุ 80 ปีเศษ ประกาศตัวเป็นสาวกขององค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์ เป็นที่น่ารักอย่างยิ่ง ท่านเคยมาเยี่ยมที่วัด วันนี้ก็ยังอยู่ที่วัด มาแล้วก็มาอย่างดี มายศใหญ่เต็มที่มารถ 3 – 4 ทอด คือรถพระที่นั่ง คำว่ารถพระที่นั่งก็หมายความว่า รถที่พระนั่งมานะ ท่านไม่ได้มีรถเก๋งมา ท่านมารถโดยสารมากับท่านพระครูปลัด องค์นี้พอเห็นหน้าฉันก็นึกในใจว่า เอ พระองค์นี้ น่ากลัวจะไม่ใช่พระแบบเราเสียแล้ว ถ้าเป็นพระแบบเราก็เป็นแบบเก่า เมื่อก่อนทีเดียวนั้นเราเคยปรารถนาพุทธภูมิ แล้วต่อมาในฐานะที่มีสภาวะเป็นลิง มันเอาอะไรจริง ๆ ไม่ค่อยได้นัก ก็เลยขี้เกียจเป็นพระพุทธเจ้า ละจากพุทธภูมิ ลาจากพุทธภูมิมาปรารถนาเป็นสาวกปกติธรรมดาสบายกว่า ขี้เกียจจะมีเรือพ่วง เรือโยงมาก แต่ถึงกระนั้นก็ดี อาศัยความดีขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ทั้ง ๆ ที่ไม่ตั้งใจจะมีเรือพ่วง เรือโยง เวลานี้ก็ลากไม่
     
  7. klu

    klu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,320
    - 214 –​

    ค่อยไหวเต็มที เหนื่อยจัด ไอ้เรือดีก็เต็มใจลาก สำคัญไอ้เรือรั่วนี่สิ ดีไม่ดีเราลากให้ไปข้างหน้า มันกลับหวนไปข้างหลังเสียอีก พอไปโดนเรือประเภทนี้เข้าเมื่อใด ลิงแยกเขี้ยวใส่เมื่อนั้น ไม่ต้องห่วง ไม่คบไอ้เรือเลว ๆ ประเภทนี้ ไม่เอา ถ้าขืนคบกันเรือประเภทนี้เมื่อใด เดี๋ยวลิงจะต้องไปอยู่กับเทวทัต เวลานี้ก็เอาหัวจุ่มลงไปตั้งเยอะแล้ว ดีไม่ดีพ่อดึงไปหมดตัวขึ้นไม่ได้ ดีนะ ยังใช้ทั้งมือทั้งเท้าได้ มันเกาะได้ ยังไม่ลง เอาหัวทิ่มลงไปเลยปากแล้ว ปากเวลานี้ยังอยู่ในอเวจี เพราะอะไรเพราะว่าปากมันไม่ดีน่ะซิ ไปแงะคนโน้นแงะองค์นี้เข้า พอมองหน้าพระองค์นี้เข้า ( เจ้าคุณธรรมฯ วัดบุปผารามกับท่านพระครูปลัด ) เห็นหน้าเข้าก็รู้สึกในใจว่า เอ๋ พระองค์นี้ไม่ใช่พระแบบเราสมัยปัจจุบัน เป็นพระแบบเราสมัยเก่าเสียแล้วนี่ นึกในใจว่า พระองค์นี่น่ากลัวจะปรารถนาพุทธภูมิ คือ มองหน้ามองท่าทางของท่านแล้ว มันบอกยี่ห้อ ต่อมาจึงได้ให้กานดา อามาตยกุล ไปสอบถามว่าท่านปรารถนาพุทธภูมิหรือเปล่า แต่ท่านตอบว่าอย่างไรก็ช่างท่าน แล้ววันหลังไปพบกันก็นั่งคุยกันเมื่อวันที่ 11  นี่เวลาท่านมาจนกระทั่งถึงวัด เราหาเวลาคุยกับท่านยากเต็มที ไอ้เรามันคนงานมาก ไอ้แขกน่ะไม่มีหรอก มีไทยกับเจ๊ก แต่มันเยอะเหลือ เกิน โอ้โฮ เอาเรื่องเอาราวไม่ค่อยได้ ไอ้งานก็หนัก งานบริหารก็หนัก งานเกี่ยวกับการบันทึกเสียงก็หนัก ไอ้คนไปคนมาก็หนัก เมื่อวันที่ 21  พอโผล่เข้ามา ตั้งใจว่าจะมาดูหมอดู เลยไล่ไปไล่ตะเพิดไปเลย ลิงแยกเขี้ยวเข้าใส่แถมตะคอกบอกไม่เอา ไอ้เรื่องหมอดู หมอเดา เลิก เลิก มันยุ่ง ไอ้แกจะรวยจะจนมันขึ้นอยู่กับความขยันหมั่นเพียร ยังเสือกมายุ่งกับลิงอีก ไม่ได้ ลิงไม่ยอมดูให้ แยกเขี้ยวใส่ตะเพิดไปหลายราย จำไว้ให้ดีนะ ถ้าใครไปเจอะหน้าลิงละก็ตั้งท่าให้ดีนะ ลิงมันไม่ใช่คน เป็นสัตว์
     
  8. klu

    klu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,320
    - 215 -

    หน้าขนจะเอาอะไรกับมัน ตานี้ มาถามท่าน ท่านก็ยอมรับ แล้ววาทะของท่านที่พบกันวันแรก ท่านก็คิด แล้วก็บอกว่า นี่อาจารย์ แน้ เรียกลิงเป็นอาจารย์แน่ะ เอาลิงเป็นอาจารย์ เสร็จแล้วไม่ช้าไม่นานก็เป็นลิง กันไปตาม ๆ กัน แบบหลวงพ่อเนียม กับหลวงพ่อปาน หลวงพ่อเนียม ใครก็หาว่าท่านบ้า หลวงพ่อปาน จะไปเรียนด้วย ท่านก็ว่าแกอยากบ้า ข้าบ้านี่ แกเรียนกับข้าฯ ไม่ช้าแกก็บ้า นี่หลวงพ่อเจ้าคุณธรรม วัดบุปผารามก็เหมือนกัน มาเรียกลิงเป็นอาจารย์ นี่ไม่ช้าก็เป็นอย่างลิงหรอก องค์นี้ท่าทางท่านเอาจริงเสียด้วย เวลานี้ท่านกำลังสร้างพระอุโบสถ ที่นครศรีธรรมราช ใช้เงินหลายล้านบาท ถ้าบรรดาท่านพุทธบริษัทที่อยู่ในกรุงเทพฯ ถ้ามีความประสงค์จะทำบุญกับพระละก็ ถ้าไปไกล ๆ ไม่พบ ( องค์อื่นท่านก็เป็นพระเหมือนกันนะ ) แต่ว่าองค์นี้เป็นพระที่อาตมารู้จัก และก็ท่านพระมหาอำพัน วัดเทพศิรินทร์ฯ อีกองค์ ไปทำกับสององค์นี้ บุญของท่านแรงแน่ เงินของท่านไม่เป็นหมัน เป็นอันว่าได้ชื่อว่าช่วยกันทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เพราะว่าพระที่ปรารถนาพุทธภูมินั่น แหมต้องใช้กำลังใจหนักเวลาที่ท่านมาหา ท่านบอกว่า อย่าคิดว่าท่านเป็นเจ้าคุณ เจ้าคุณท่านไม่ยอมเป็น เวลาเป็นเจ้าคุณนั่นมันถือพัด ไอ้นั่งหน้านั่งหลังท่านก็ไม่มีความประสงค์ แล้วเข้ากับคนอื่นได้ดี ทำตัวเป็นปกติ ไม่มีท่ามีทาง เป็นพระราชาคณะ พระอย่างนี้ควรกราบ ควรไหว้ ควรบูชา บูชาได้แล้ว ใครอยากบูชาพระที่ลิงรู้จัก แต่ที่ไม่รู้จักก็ยกไว้นะ ท่านก็เป็นพระเหมือนกันจะไปหาว่าท่านไม่ดีไม่ได้นะ ไม่ใช่ว่าท่านไม่ดี แต่ว่าลิงไม่รู้จัก ที่รู้จักก็รู้จักกันเข้าไส้เข้าพุง ในกรุงเทพฯ เวลานี้มีอยู่ 2 องค์ คือ ท่านพระมหาอำพัน ( ชื่อเดิมนะ ) เป็นพระครูอะไรก็ช่าง พระคงพระครูนี่ ไม่สนใจหรอก ชื่อตั้งใหม่ไม่สำคัญ สำคัญชื่อเก่า อันนี้องค์หนึ่งกับท่านเจ้าคุณธรรมฯ
     
  9. klu

    klu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,320
    - 216 –​

    วัดบุปผารามอีกองค์หนึ่ง สององค์นี่ ไปช่วยท่านได้ ท่านพระมหาอำพัน วัดเทพศิรินทร์ฯ ก็กำลังสร้างวัดอยู่โน่น ระยอง กำลังจะสร้างโบสถ์ท่านเจ้าคุณธรรมฯ เจ้าอาวาสวัดบุปผารามก็กำลังสร้างโบสถ์ และก็กำลังจะสร้างศาลาการเปรียญที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ถ้าอยากทำบุญก็ไปทำได้ไม่เสียสตางค์เปล่า นี่ไม่ได้โฆษณาให้นะ เห็นว่าเป็นพระดี ถ้าดีก็สรรเสริญ และท่านที่ดีในกรุงเทพฯ ยังมีอีกมาก แต่ยังไม่รู้จักหน้ากัน ก็ยังไม่บอก ก็ไม่รู้จักกันนี่จะบอกได้ยังไงเล่า ไอ้เรื่องตำแหน่งหน้าที่ที่ จะให้สรรเสริญเยินยอนั้น ยังก่อน ยังก่อน ต้องว่ากันถึงด้านปฏิปทา ในด้านธรรมปฏิบัติ ไอ้เรื่องตำแหน่งหน้าที่ พระราชาท่านให้ นี่เราพูดกัน ถึงเรื่องพระพุทธเจ้า เอ้า ว่าเรื่องอะไรเล่า เสร็จ ลืมแล้วมั้งโยม ไอ้หนู อีหนู นี่ลืมหมดแล้ว นี่ไอ้แป๊ะนี่มันพูดเรื่องอะไรส่งเดชไปนี่ ไอ้แป๊ะลิงเอ้าว่าใหม่

            พระพุทธเจ้าก็ทรงพยากรณ์ไว้ว่า ต่อไปในที่นี้ เมื่อเรานิพพานแล้ว พระมหากัสสปส่งพระโมลีหัว คือกระดูกกระหม่อมมาบรรจุไว้ที่นี่แล้วต่อไปเมื่อเรานิพพานไปแล้ว 218 ปี กระดูกรากขวัญเบื้องขวาคือกระดูกไหปลาร้าด้านขวากับกระดูกย่อย ๆ อีก 5 ของเราจะมาประดิษฐานอยู่ ณ ที่นี้ สถานที่นี้ จะเป็นที่บรรจุพระธาตุโดยพระเจ้าอโศกมหาราชแห่งชมพูทวีป จะเสด็จมาขุดอุโมงค์ สำหรับเป็นที่ประดิษฐานไว้ใต้พื้นดอย เมื่อทรงพยากรณ์เสร็จเท่านั้นก็ปรากฏว่ามีเทวดา 2 ท่าน หนอยแน่ นี่ตำนานบอกว่า 2 คนนี่มันใช้ได้หรือ เทวดาเค้า 2 องค์เจ้าค่ะ เพราะเขาแปลว่าประเสริฐ พระที่บวชเข้ามายังเรียกว่าองค์ บางองค์ก็แหม ปฏิปทาไม่เหมือนเทวดาเลย บางทีก็ไม่เท่าคนชั้นดียังเรียกองค์ นี่เทวดาดันเรียก 2 คน ไอ้ใครนะเป็นคนเขียน เป็นคนเขียนตำนานนี่ เขียนไม่
     
  10. klu

    klu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,320
    - 217 –​

    เป็น ก็เสือกเขียนด้วย เอ้า เขียนแล้วบอก เขียนบอก ว่าเหมือนกันพญานาคเรียก 2 ตัวได้หรือ พญานี่ต้องเรียกว่า 2 พญา ซึ่งอยู่ที่ดอยจอมทองนี้เอง เขาอยู่ใกล้ ๆ เขามาเฝ้ากราบทูลองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้ารับอาสาว่าจะรักษาดอยจอมทองเพื่อไม่ให้พระบรมสารีริกธาตุ อันตรธานหายไป จากนั้นพระเจ้าอังครัฐก็ถวายก็อาราธนาพระพุทธเจ้ากับพระสงฆ์สาวก เสด็จรับอาหารบิณฑบาต ยังสถานที่ที่ทรงโปรด โปรดตรงไหนละ ให้จัดแจงไว้ในทางทิศเหนือของดอยจอมทรง เมื่อพระพุทธเจ้ากับพระสงฆ์สาวกเสด็จรับอาหารบิณฑบาต แล้วก็เสด็จไปสู่ดอยจอมทอง แล้วก็ทรงฉันภัตตาหารที่บิณฑบาต เดี๋ยวก่อนนี่มันยังไงนี่ เมื่อพระพุทธองค์พร้อมด้วยพระสงฆ์สาวก เสด็จรับบิณฑบาต แล้ว เมื่อกี้มันฉันมันถูก ลิ้นมันไม่ถูก คือรับบาตรเขาตั้งท่าจะใส่บาตรกัน พระพุทธเจ้าพร้อมพระสงฆ์ ก็เดินรับบาตรแล้ว ก็เสด็จไปที่ดอยจอมทอง แล้วก็ฉันอาหารบิณฑบาต ที่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ คือสถานที่รับบาตร ที่รับบิณฑบาต ในปัจจุบัน เป็นวัดร้างเสียแล้ว ตรงนั้นชื่อวัดด้าง ความจริงน่าจะไปสร้างวัดเข้าสักแห่งนะ ถ้าไม่สร้างวัดก็สร้างศาลา มีพระพุทธรูปสักองค์ก็ดี ปัจจุบันเป็นวัดร้าง ชื่อว่า วัดด้าง นี่ว่าง ๆ มีสตางค์จะไปสร้างศาลาขึ้นสักหลัง สร้างพระพุทธรูปให้สักองค์ แต่ว่าน่ากลัวมันจะว่างยาก ก็ไอ้ที่ไอ้ทางที่กำลังทำนี่มันยุ่งจังเลย เวลาที่จะเสร็จมันยาก ถ้าใครมีเวลาว่างจะไปทำ ก่อนก็ได้ แต่คนที่อยู่ใกล้ ๆ รู้เรื่องแล้วควรจะไปทำนะเป็นปูชนียสถานสำคัญที่พระพุทธเจ้าเคยประทับ แล้วก็ทรงเสวยอีกที่หนึ่งก็คือ ที่ตั้งโบสถ์ (ที่ทรงเสวยน่ะ) นะ ที่รับบิณฑบาต คือที่วัดร้างชื่อวัดด้าง วัดด้างนะ (ด้าง) เมื่อรับบิณฑบาต แล้วก็มาฉันภัตตาหารที่ตรงที่ตั้งโบสถ์วัดจอมทอง พระศรีจอมทอง เสร็จจากการฉันแล้วพระพุทธองค์ก็ทรงแสดงพระธรรมเทศนา[FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ธันวาคม 2006
  11. klu

    klu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,320
    - 218 –​

    โปรดพระเจ้าอังครัฐฯ กับประชาชนแล้ว ก็เสด็จสู่ดอยอินทนนท์ (นี่บอกลัดอย่างงั้นได้เรอะ พระพุทธเจ้าเทศน์น่ะมีผลเป็นยังไงต้องบอกซี่) เทศน์จบปรากฏว่าพระเจ้าอังครัฐ ได้สำเร็จพระสกิทาคามี เออ พูดอย่างงี้ซีมันถึงจะถูก แล้วก็พระราชเทวีก็ได้พระสกิทาคามิเหมือนกัน พระราชโอรสพระราชธิดาอำมาตย์ข้าราชบริพารในจำนวน 90 ใน 100 เป็นพระโสดาบัน นอกนั้นก็ถึงสรณาคมน์ (เออ พูดอย่างนี้มันถึงจะถูก ดันพูดลัดส่งไปได้ บอกก็บอกให้มันตรง ๆ แล้วเดี๋ยวชาวบ้านเขาไปถามเข้าทีหลัง แล้วข้าจะไปจำได้อย่างไร) แล้วหลังจากนั้นแล้วองค์สมเด็จพระประทีปแก้ว ก็เสด็จไปสู่ดอยอินทนนท์ ทอดพระเนตรดูเมืองอังครัฐ แล้วก็ทรงพยากรณ์ทักเรื่องราวที่กล่าวมา ซึ่งเหมือนกับที่พระโมคคัลลาน์พยากรณ์ นี่คำพยากรณ์ของสมเด็จพระชินวรกับพระสาวกตรงกัน หลังจากนั้นองค์สมเด็จพระภควันท์ก็เสด็จสู่กรุงราชคฤห์ นี่ตอนนี้ก็เข้าเกณฑ์ 30 นาทีอีกแล้ว พักสักยก หยุดเอาไว้ตรงนี้นิดนะ เอาไว้เข้าต้นกันใหม่

    &nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;&nbsp;สำหรับตอนนี่ ให้ชื่อว่า ตอนที่พระเจ้าอังคราชบูชาพระพุทธเจ้าด้วยวัตถุ



    _______________________________


    ขอจบไว้แต่เพียงเท่านี้เน้อ
    [FONT=&quot][/FONT]
     
  12. klu

    klu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,320
    คำปรารภ + ปัจฉิมลิขิต
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Luesee.pdf
      ขนาดไฟล์:
      56.2 KB
      เปิดดู:
      116
  13. noi

    noi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,120
    ค่าพลัง:
    +47,442
    :cool: (f) (bb-flower
     

แชร์หน้านี้

Loading...