พระราชสิริชัยมุนี แม่ทัพธรรมชัยนาท

วันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2549 ปีที่ 15 ฉบับที่ 5617​

พระราชสิริชัยมุนี แม่ทัพธรรมชัยนาท

คอลัมน์ มงคลข่าวสด

พระราชสิริชัยมุนี ได้รับการยกย่องจากชาวเมืองชัยนาท ให้เป็นยอดพระเถระ ผู้เป็นที่พึ่งทางใจของชาวบ้าน เป็นผู้มีศีลาจารวัตรอันงดงาม กอปรด้วยเมตตาธรรม เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่ผู้ยากไร้

ปัจจุบัน อายุ 67 พรรษา 44 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบ้านใหม่สิริวัฒนาราม ต.บ้านเชี่ยน อ.หันคา จ.ชัยนาท และเจ้าคณะจังหวัดชัยนาท

อัตโนประวัติมีนามเดิมว่า ถนอม คงเทศ เกิดเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2482 ณ บ้านเลขที่ 1 บ้านใหม่ หมู่ที่ 11 ต.วังไก่เถื่อน อ.หันคา จ.ชัยนาท

เรียนจบชั้นประถมปีที่ 4 จากโรงเรียนวัดบ้านใหม่ ต.บ้านเชี่ยน อ.หันคา จ.ชัยนาท ออกมาช่วยบิดา-มารดา ประกอบอาชีพ ทำนาและค้าขาย

เมื่ออายุ 21 ปี ได้เข้ารับการตรวจเลือกเป็นทหารกองประจำการอยู่ จ.ลพบุรี เป็นเวลา 2 ปี

เมื่อปลดประจำการ อายุ 23 ปี เข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดบ้านใหม่ ต.บ้านเชี่ยน อ.หันคา จ.ชัยนาท เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2505 โดยมีพระสุชัยมุนี วัดท่ากฤษณา เป็นพระอุปัชฌาย์, พระปลัดประไพ อจโร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระสมุห์หมาก ธัมมกุสโล เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ได้รับฉายา "คุณธโร" หมายถึง ผู้ทรงไว้ซึ่งคุณธรรม ความดี

ภายหลังอุปสมบท ไปจำพรรษา ณ วัดประตูสาร ต.ท่าพี่เลี้ยง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม ที่วัดสุวรรณภูมิ อยู่ตรงข้ามกับวัดประตูสาร พร้อมเรียนวิทยาคมจากพระครูวิธุรสุตาคม หรือหลวงพ่อก๋ำ วัดประตูสาร และพระครูไพโรจน์อรัญญคุณ (หลวงพ่อดัด) วัดท่าโบสถ์ เป็นเวลา 6 พรรษา

จากนั้น ได้ไปร่ำเรียนกับพระวิสุทธิสารเถระ (หลวงพ่อถิน) วัดป่าเลไลย์ พ.ศ.2510 ย้ายไปจำพรรษา ณ วัดเรไร ธนบุรี เรียนบาลี, การบัญชี และแพทย์แผนโบราณที่วัดพระเชตุพน จบการบัญชีชั้นสูง ณ โรงเรียนสากลปฏิบัติการบัญชีท่าเตียน

พ.ศ.2512 ย้ายมาจำพรรษาที่วัดประตูสาร จ.สุพรรณบุรี เรียนบาลีและคาถาอาคม กับพระครูศรีรัตนาภิรัตน์ (หลวงพ่อโพธิ์) วัดพระศรีมหาธาตุ และหลวงพ่อโบ้ย วัดมะนาว อยู่ 3 ปี

พากเพียรเรียนพระธรรมวินัยจนสอบได้ชั้นประโยค 1-2

พ.ศ.2513 ย้ายมาอยู่ที่วัดบ้านใหม่สิริวัฒนาราม ต.บ้านเชี่ยน อ.หันคา จ.ชัยนาท สอบได้นักธรรมชั้นเอก วัดดอนตูม สำนักเรียนคณะจังหวัดราชบุรี และได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านใหม่สิริวัฒนาราม

พ.ศ.2516 ได้รับแต่งตั้งเป็นรองเจ้าคณะอำเภอหันคา พ.ศ.2517 เป็นพระอุปัชฌาย์

พ.ศ.2519 สอบได้ ป.ธ.6 วัดศรีวิชัยวัฒนาราม สำนักเรียนคณะจังหวัดชัยนาท ในปีเดียวกัน ได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตรรองเจ้าคณะอำเภอชั้นเอก ในราชทินนาม ที่ พระครูศรีชโยดม

ตั้งแต่ พ.ศ.2519-2523 ท่านได้ออกธุดงค์ จาก อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ไปอุ้มผาง ท่านได้มอบตัวเป็นศิษย์หลวงปู่แหวน สุจิณโณ, หลวงพ่อเกษม เขมโก และหลวงพ่อชา สุภัทโท

พ.ศ.2527 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอหันคา พ.ศ.2528 เป็นเจ้าอาวาสวัดท่ากฤษณา อ.หันคา

พ.ศ.2533 ได้รับแต่งตั้งเป็นรองเจ้าคณะจังหวัดชัยนาท พ.ศ.2536 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนาม ที่ พระสิริชัยมุนี

พ.ศ.2542 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะจังหวัดชัยนาท

พ.ศ. 2544 เรียนจบพุทธศาสตรบัณฑิต เกียรตินิยมอันดับ 2 จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จ.นครสวรรค์ และได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านใหม่สิริวัฒนาราม ต.บ้านเชี่ยน อ.หันคา จ.ชัยนาท จนถึงปัจจุบัน

เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2547 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชสิริชัยมุนี

พระราชสิริชัยมุนี เป็นพระนักพัฒนาและเป็นพระนักปกครองชั้นยอด ได้วางระเบียบการปกครองคณะสงฆ์ในสังกัดให้ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ และกฎของมหาเถรสมาคมอย่างเคร่งครัด อาทิ พระภิกษุ-สามเณรทุกรูป เมื่อมีกิจธุระสำคัญ จำเป็นต้องออกนอกพื้นที่วัด หรือไปปฏิบัติกิจนิมนต์ข้างนอก จะต้องนุ่งห่มผ้าจีวรให้เรียบร้อย คณะสงฆ์ในปกครอง จะต้องร่วมปฏิบัติกิจภายในวัด ทำวัตรสวดมนต์เช้า-เย็น ทุกรูป เป็นต้น

สนับสนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม ด้านแผนกธรรมและบาลี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2542 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน ได้จัดโครงการอบรมนักธรรมเอกก่อนเข้าสอบในสนามหลวง

นอกจากนี้ ได้จัดตั้งกองทุนสงเคราะห์นักเรียนชั้นประถมศึกษาโรงเรียนวัดบ้านใหม่ แจกทุนการศึกษาเป็นประจำทุกปี

งานเผยแผ่พระพุทธศาสนา เป็นหัวหน้าพระธรรมทูตประจำจังหวัดชัยนาท เป็นผู้อบรมศีลธรรมข้าราชการจังหวัดชัยนาท ร่วมกับคณะสงฆ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจัดประชุมโครงการ แสดงพระธรรมเทศนามหาชนก จัดประชุมฝึกอบรมพระนักเทศน์ประจำจังหวัด จัดอบรมนักเรียนเข้าค่ายโครงการพุทธบุตร แสดงธรรมเทศนาทุกวันพระ เทศนาอบรมสั่งสอนเยาวชนและประชาชนในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา อาทิ วันมาฆบูชา, วันวิสาขบูชา, วันอาสาฬหบูชา และวันอัฏฐมีบูชา

ท่านได้จัดตั้งชมรมพระพุทธศาสนาเพื่อประชาชน ภายในวัด จัดโครงการอบรมธรรมะ เผยแพร่ความรู้ต้านภัยยาเสพติด จัดตั้งสำนักวิปัสสนากัมมัฏฐาน จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติธรรม ตั้งมูลนิธิเพื่อใช้ในการเผยแผ่ธรรมะ จัดพิมพ์หลักธรรมแจกประชาชน จัดพิมพ์กฎหมายเบื้องต้น กฎมหาเถรสมาคม แจกผู้สนใจ จัดพิธีอุปสมบทและบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนด้วย

ด้านงานสาธารณูปโภค เป็นประธานคณะกรรมการดำเนินการก่อสร้างอุโบสถวัดทุ่งโพธิ์ และวัดหนองอ้ายสาม เป็นประธานกรรมการก่อสร้างสำนักปฏิบัติธรรมหนองน้ำใส ก่อสร้างศาลาสถิตธรรมวัดท่ากฤษณา, ก่อสร้างศาลาประชาธิปไตย ศาลากาญจนาภิเษก ก่อสร้างฌาปนสถานทรงไทยจัตุรมุข ศาลาสวดพระอภิธรรมกุฎีทรงไทย ตลอดจนปฏิสังขรณ์ศาลาการเปรียญ, หอสวดมนต์, กุฎีสงฆ์, อุโบสถ และอื่นๆ อีกมากมาย

งานสาธารณสงเคราะห์ ได้ทำลานตากข้าวเพื่อประโยชน์แก่ประชาชนกว้าง 40 เมตร ยาว 60 เมตร โดยเชิญชวนประชาชนทำถนน เข้าหมู่บ้านทุกสาย, สร้างศาลาที่พักริมทาง บริจาคยาและเครื่องนุ่งห่มให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย สงเคราะห์เด็กกำพร้าอนาถาให้มีการเรียนวิชาชีพ นำไปหาลี้ยงชีพเองได้ และเป็นเจ้าภาพจัดงานศพคนยากจน

กาลปัจจุบัน แม้อายุล่วงเข้าสู่วัยชรา แต่ด้วยความเมตตาที่มีต่อปวงสรรพสัตว์โลก ประกอบกับสุขภาพที่ยังแข็งแรง ทำให้ท่านยังคงมุ่งมั่นปฏิบัติศาสนกิจ เผยแผ่งานพระพุทธศาสนาอย่างมิได้หยุดหย่อน เสมอต้นเสมอปลาย ด้วยความรู้ ความสามารถและความเสียสละ ยึดมั่นที่จะสร้างสรรค์ พัฒนาสังคมให้มีความเจริญรุ่งเรือง ด้วยความรู้คู่กับคุณธรรม

สมเป็น "แม่ทัพธรรมเมืองชัยนาท" โดยแท้!!