พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 4 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 3 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong</td></tr></tbody></table>

    อรุณสวัสดิ์ วันศุกร์แห่งชาติพิเศษ วันพืชมงคล ครับ






    .
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วันนี้ ท่านใดหยุดงาน แล้วไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหน

    ลองไปเดินดูในงานมันนี่เอ็กซ์โป 2011 กรุงเทพฯ ที่อาคารชาเลนเจอร์ 2 เมืองทองธานี งานจะมีจนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2554 ครับ

    ผมทำงานปกติครับ

    .
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>'กรมฝนหลวงฯ' แนวทางพัฒนาการเกษตรที่ไม่เคยหยุดนิ่ง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการรายวัน</TD><TD class=date vAlign=center align=left>12 พฤษภาคม 2554 18:58 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>



    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>



    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>เป็นเวลากว่า 4 ทศวรรษแล้วที่พสกนิกรชาวไทยได้มีโอกาสทำความรู้จักกับนวัตกรรมที่สามารถช่วยเหลือพวกเขาได้ในยามที่ต้องประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ พื่ออุปโภคบริโภคและเกษตรกรรม อันเนื่องมาจากภาวะแห้งแล้ง ซึ่งมีสาเหตุมาจากความผันแปรและความคลาดเคลื่อนของฤดูกาลตามธรรมชาติ

    จากพระอัจฉริยภาพอันเปี่ยมล้น และการที่ได้เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนพสกนิกรในทุกภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง ทำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงรับทราบถึงความทุกข์ยากและเดือดร้อนจากปัญหาเหล่านี้ จนนำมาสู่แนวพระราชดำริงานสำคัญ อย่าง 'โครงการพระราชดำริฝนหลวง' ซึ่งเริ่มมีพระราชดำริตั้งแต่ปี 2499 ก่อนจะดำเนินการจริงตั้งแต่ปี 2512 เป็นต้นมา

    แน่นอนว่าภารกิจนี้ นอกจากจะเป็นวิทยาการใหม่ที่การผสมผสานวิถีธรรมชาติกับกระบวนการสมัยใหม่เข้าด้วยกันแล้ว ยังความสำคัญอย่างยิ่งยวดในวงการเกษตรกร เพราะได้เข้ามาช่วยพลิกฟื้นฐานะของเกษตรกรจำนวนมากให้กลับมาลุกขึ้นยืนได้อย่างเข้มแข็ง และช่วยลดความเสียหายแก่เศรษฐกิจโดยรวมของชาติเป็นมูลค่ามหาศาลในแต่ละปีอีกด้วย

    และเนื่องในโอกาสที่คณะรัฐมนตรีตัดสินใจยกฐานะของสำนักฝนหลวงและการบินเกษตรขึ้นเป็น ‘กรมฝนหลวงและการบินเกษตร’ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2554 เพื่อร่วมเฉลิมฉลองในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระชนพรรษาครบ 84 พรรษา และในฐานะที่พระองค์ทรงเป็นพระบิดาโครงการฝนหลวง

    แม้ตอนนี้จะยังอยู่ในช่วงดำเนินการ เพื่อให้ทันให้วันที่ 5 ธันวาคม แต่ก็นับเป็นนิมิตหมายอันดีที่จะน้อมนำเรื่องราวของโครงการที่ยิ่งใหญ่นี้ ตลอดจนแนวทางในอนาคตของหน่วยงานอันเนื่องมาจากพระราชดำริแห่งนี้ว่าจะพัฒนาอย่างไรจึงเป็นประโยชน์แก่มหาชนชาวสยามได้มากที่สุด

    [1]

    หากจะว่าไปแล้ว จริงๆ แนวคิดการยกฐานะของสำนักฝนหลวงฯ ขึ้นมาเป็นระดับกรมก็มีมาสักพักหนึ่งแล้ว แต่เพิ่งจะมาสำเร็จลุล่วงเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานี้เอง โดย นิวัติ สุธีมีชัยกุล รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อธิบายถึงข้อดีของความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ว่า ต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมา การดำเนินงานของหน่วยงานนี้เป็นไปอย่างไม่ค่อยสะดวกเท่าใดนัก เพราะสำนักฝนหลวงฯ นั้นอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดังนั้นการตอบสนองบางอย่างจึงไม่ได้เป็นไปอย่างทันท่วงที

    เพราะฉะนั้นเพื่อลดความยุ่งยาก และการบริหารงานที่เป็นประสิทธิภาพมากขึ้น ประกอบกับปีนี้เป็นปีมหามงคลเนื่องจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนมายุครบ 7 รอบ ทุกฝ่ายจึงเห็นตรงกันว่า ควรจะมีการผลักดันให้สำนักฝนหลวงฯ ขยับฐานะขึ้นเป็นกรม

    “จริงๆ แล้วฝนหลวงเป็นหน่วยงานเล็กๆ ที่อยู่ภายใต้สำนักงานปลัดฯ การสั่งงานจึงต้องอาศัยตั้งแต่รัฐมนตรีลงมา ดังนั้นถ้าเป็นกรมก็จะให้ทำงานคล่องตัวมากขึ้น ซึ่งถ้าพูดถึงความพร้อมก็มีพอสมควร เพราะเราก็มีศูนย์ที่เกิดขึ้นตามพระราชดำรัสอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นที่หัวหิน เชียงใหม่ หรือโคราช (นครราชสีมา) และอัตรากำลังที่ค่อนข้างชัดเจน ดังนั้นพอยกฐานะขึ้น อำนาจการสั่งการก็ทำได้เลย ไม่ต้องรอจากข้างบนเหมือนที่เป็นอยู่ทุกวันนี้”

    ขณะเดียวกัน ในแง่ของภารกิจเอง ก็ถือว่าอยู่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นงานด้านบริการประชาชน เช่น การเติมน้ำให้แก่แหล่งเก็บกักน้ำต่างๆ การบินบริการสนับสนุนการปฏิบัติงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การบินบริการสนับสนุนการปฏิบัติงานด้านการเกษตร

    แต่ในส่วนที่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาศักยภาพให้เพิ่มขึ้น ก็คืองานด้านการวิจัย ซึ่งทางสำนักฝนหลวงฯ พยายามทำมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโลกร้อน หรือภัยพิบัติที่เกิดขึ้น เช่น เรื่องลูกเห็บในฤดูฝน แต่มักจะประสบปัญหาด้านงบประมาณอยู่ตลอดเวลา

    “ที่ผ่านมา พวกงานวิจัย เรามักจะไม่ค่อยได้งบประมาณเท่าไหร่ เพราะเราอยู่ภายในสำนักปลัดฯ แต่พอยกฐานะเป็นกรม ก็จำเป็นที่จะต้องมีงานวิจัยมาประกอบให้ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งแน่นอนเมื่องานวิจัยที่เพิ่มขึ้น ก็จะส่งผลต่อเนื่องไปถึงประสิทธิภาพการทำงานของฝนหลวงที่เท่าเทียบกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น”

    [2]

    เห็นความมุ่งมั่นและปณิธานอันแน่นแน่ในการดำเนินการของสำนักฝนหลวงฯ ไปแล้ว คราวนี้จะลองหันไปพูดคุยกับผู้เกี่ยวข้องในภาคส่วนอื่นๆ กันบ้างว่า แต่ละคนนั้นจะมีความเห็นอย่างไรกับปฏิบัติการครั้งนี้

    แน่นอนว่า กลุ่มที่สำคัญที่สุดคงหนีไม่พ้นเกษตรกร ซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญที่ทำให้เกิดภารกิจฝนหลวง พนอม นาสมจิตร เกษตรกรหัวก้าวหน้า อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหนึ่งในผู้ที่เคยได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล และได้รับพระมหากรุณาธิคุณฝนพระราชทานฝนหลวงเข้าไปช่วยเหลือในช่วงหน้าแล้ง เผยความรู้สึกของการยกฐานะในครั้งนี้ว่า นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีต่อเกษตรกรทั่วประเทศไทยเป็นอย่างมาก เพราะต้องยอมรับว่า ทุกวันนี้ก็ยังมีพื้นที่แห้งแล้งอีกมากมายที่ต้องการความช่วยเหลือจากการทำฝนเทียม ดังนั้นหากยกระดับขึ้นเป็นกรม ก็จะเท่ากับมีหน่วยงานที่เข้ามาดูแลและสอดส่องในเรื่องนี้โดยเฉพาะ ซึ่งผลที่ตามมาก็คือ สามารถกระจายความช่วยเหลือได้อย่างทั่วถึงมากกว่าที่เป็นอยู่

    “เมื่อก่อนก็มีการเข้ามาทำฝนหลวง ก็ช่วยให้พวกเราได้ผลผลิตที่อุดมสมบูรณ์ แปลงไร่แปลงนาก็มีผลผลิตให้เก็บเกี่ยว พวกเราก็ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่มีโครงการช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ห่างไกลที่ตกทุกข์ได้ยาก เพราะต้องไม่ลืมว่า หัวใจของการเกษตรนั้นคงหลีกไม่พ้นน้ำ ถ้าไม่มีน้ำมาหล่อเลี้ยงพืชผลในหน้าแล้งชาวบ้านคงหมดหนทางทำกิน”

    เช่นเดียวกับ รศ.สันติ ทองพำนัก หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมชลประทาน คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่เล่าถึงความสำคัญของฝนหลวงว่า มีส่วนสัมพันธ์กับระบบชลประทานเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับประชาชนที่อยู่นอกเขตระบบการชลประทานมาก เพราะเวลาที่ฝนทิ้งช่วง ผลผลิตทางการเกษตรก็จะเสียหาย ถ้ามีฝนตกลงมาก็จะช่วยบรรเทาความเสียหายได้ คือในเขตระบบชลประทานนั้นมีระบบคลองส่งน้ำอยู่แล้ว

    “การจะกำหนดว่าจะให้ฝนไปตกในที่ใดที่หนึ่งนั้นทำได้ไม่ง่ายนัก เพราะมันมีเรื่องของกระแสลมที่อาจจะพักฝนไปในที่ที่เราไม่อยากให้ตก แต่เท่าที่ผมรู้มา มันยังมีประโยชน์ด้านอื่นๆ ด้วย เพราะฝนหลวงนี่ยังมีส่วนในการลดฝนลูกเห็บด้วยซึ่งตรงนี้นอกจากการเกษตรแล้ว มันยังช่วยเรื่องการป้องกันความเสียหายของบ้านเรือนอีกทาง”

    อย่างไรก็ตาม การยกฐานะขึ้นเป็นกรมฝนหลวงฯ ก็คงจะไม่ได้ทำให้ประสิทธิภาพหรือศักยภาพของโครงการนี้เปลี่ยนแปลงไปเท่าใดนัก เพราะต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ต่างก็ทำหน้าที่กันเต็มที่กันอยู่แล้ว ประกอบกับเทคนิคที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงคิดค้นขึ้นมาได้นั้นก็ถือว่า ค่อนข้างสมบูรณ์แบบอยู่แล้ว และยังมีการนำเอาไปช่วยประเทศอื่นๆ ด้วย
    ..........

    แม้โครงการฝนหลวงจะอยู่คู่กับสังคมไทยมาอย่างยาว แต่ประดิษฐกรรมชิ้นนี้ ก็ยังคงความจำเป็นอย่างไม่เสื่อมคลาย เพราะต้องไม่ลืมว่าเกษตรกรรมนั้นคือกระดูกสันหลังของชาติที่จำเป็นจะต้องได้รับการเอาใจใส่ดูแล

    แน่นอนว่าการปรับยกฐานะครั้งนี้ แม้เหตุผลหนึ่งจะเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบิดาแห่งฝนหลวง แต่สิ่งที่สำคัญมากไปกว่านั้นคงหนีไม่พ้น ประโยชน์ประชาชนที่จะได้รับบริการ และความช่วยเหลือจากโครงการนี้เร็วขึ้น ดังพระราชประสงค์ที่วางเอาไว้ตั้งแต่เมื่อ 55 ปีก่อน
    >>>>>>>>>>
    ………
    เรื่อง : ทีมข่าว CLICK

    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    -http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9540000058498-
























    http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9540000058498




    .
     
  4. Lee_bangkok

    Lee_bangkok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,752
    ค่าพลัง:
    +4,741
    ยินดีมากเลยนะครับที่คุณ sithiphong เมตตามมอบให้นะครับ แต่ผมอยากช่วยเรื่องค่าจัดส่งนะครับ ไม่ทราบจะโอนไปได้ไหมครับผม

    อ้างอิง:
    <table width="100%" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Lee_bangkok [​IMG]
    เรียนคุณ sithiphong ไม่ทราบว่าพอมีพระแตกหักที่สามารถนำมาเป็นมวลสารสร้างพระบ้างไหมครับผม
    </td> </tr> </tbody></table>
    สำหรับพระแตกหัก บางส่วนผมเก็บไว้ครับ

    ส่วนใหญ่ผมส่งให้ท่านประธานชมรมพระวังหน้าไปแล้วครับ

    แต่หากว่า ต้องการมวลสารในการสร้างพระ ผมมีทราย(ได้มาจากน้องท่านนึง ไปดูไบ นำทรายจากทะเล และ ทรายจากทะเลทราย มาให้ผม) อยู่จำนวนนึง , แป้งร่ำ ที่ผ่านพิธีพุทธาภิเษก(ชุดพิเศษ 3) และทรายที่หลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดรท่านอธิษฐานจิต

    หากต้องการ ผมจะส่งให้ครับ
     
  5. Lee_bangkok

    Lee_bangkok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,752
    ค่าพลัง:
    +4,741
    สวัสดียามเช้านคับทุกท่าน เมื่อวานฝนตกหนักมาก รถติดมากๆเลยนะครับ ไม่แน่ใจว่าออกต่างจังหวัดกันด้วยไหมเพราะราชการหยุดกันหลายวัน
    เมื่อวานไปทำธุระ เลยไปนั่งสมาธิด้วยเลยนะครับ
     
  6. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    โหพี่ท่าน ถ้าผมไม่ได้คำแนะนำจากพี่ท่านและพี่ๆในชมรมคอยชี้แนะป่านนี้คงเข้าป่าเข้าพงไปแล้วละครับพี่ท่าน 555
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948

    ค่าจัดส่งไม่ต้องครับ

    ไม่เคยเก็บค่าจัดส่งเลย

    มีแต่ในกลุ่มที่มาร่วมบุญค่าจัดส่งครับ

    ครั้งนี้ ค่าจัดส่งจ่ายให้เองครับ ไม่เป็นไร
    .
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    สมเด็จพระบรมฯ เสด็จพระราชพิธีพืชมงคล

    <!--Share<script src="http://static.ak.fbcdn.net/connect.php/js/FB.Share" type="text/javascript"></script> Tweet<script type="text/javascript" src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></script>-->



    [​IMG]

    [​IMG]


    สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม

    พระโคเสี่ยงทายกินหญ้า-เหล้า น้ำท่าจะบริบูรณ์ ธัญญาหารผลาหาร ภักษาหาร มังสาหารจะอุดมสมบูรณ์ การคมนาคมสะดวก การค้าขายกับต่างประเทศดี เศรษฐกิจจะรุ่งเรือง พระยาแรกนา เสี่ยงทายหยิบผ้านุ่ง พยากรณ์ว่า น้ำในปีนี้จะมีปริมาณพอดี ข้าวกล้าในนาจะได้ผลบริบูรณ์ และผลาหาร มังสาหาร จะอุดมสมบูรณ์ดี

    บรรยากาศงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ซึ่งจะมีขึ้นในเช้าวันนี้ ณ บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ จะมีการปิดการจราจร โดยเฉพาะในช่วงที่มีขบวนเสด็จของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินในพระราชพิธีพืชมงคล ในเวลาประมาณ 08.30 น.

    ซึ่งขณะนี้เหล่าข้าราชการและประชาชนบางส่วน เดินทางมารอรับเสด็จสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตลอดจนเข้าร่วมในพระราชพิธีพืชมงคล เพื่อเฝ้ารอการเก็บเมล็ดพันธุ์ข้าวที่จะใช้ว่านในพระราชพิธี ซึ่งทุกคนต่างมีความมุ่งหวังที่จะได้เมล็ดพันธุ์ข้าว นำกลับไปเพื่อเป็นความสิริมงคลแก่ชีวิต อย่างไรก็ตาม มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ได้เปิดใช้พื้นที่ในการจัดงานพระราชพิธีพืชมงคลเป็นครั้งแรก ภายหลังจากที่ได้มีการปรับภูมิทัศน์ ในช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2553


    [​IMG]

    [​IMG]


    โดยในปีพุทธศักราช 2554 ปฏิทินหลวงได้กำหนดให้วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤษภาคม 2554 เป็นวันสวดมนต์เริ่มการพระราชพิธีพืชมงคล ซึ่งประกอบพระราชพิธี ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และถือเป็นวันเกษตร สำหรับวันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม 2554 เป็นวันพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ (ไถหว่าน) ซึ่งจะประกอบพิธีบริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง

    สำหรับ เทพีคู่หาบทองปีนี้ ได้แก่ น.ส.เดือนเพ็ญ ใจคง เจ้าพนักงานธุรการชำนาญงานกรมหม่อนไหม และ นางสาวสรชนก วงศ์พรหม นายช่างโยธาชำนาญงาน กรมประมง ส่วนเทพีหาบเงิน ได้แก่ น.ส.ศิริลักษณ์ สมสกุล นักวิชาการเงินและบัญชีชำนาญการ กรมชลประทาน และ น.ส.เจษฎาภรณ์ สถาปัตยานนท์ นักวิชาการสหกรณ์ชำนาญการ กรมสงเสริมสหกรณ์ คู่เคียงจำนวน 16 คน และผู้เชิญเครื่องอิสริยยศ จำนวน 4 คน โดยมี ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทำหน้าที่เป็นพระยาแรกนา พระโคแรกนา ได้แก่ พระโคฟ้า และพระโคใส พระโคสำรอง ได้แก่ พระโคเทิด และพระโคทูน

    ทั้งนี้ พระยาแรกนา ได้ยาตราพร้อมเทพีออกจากโรงพิธีพราหมณ์ มีราชบัณฑิตและพราหมณ์ นำผ่านพลับพลาหน้าพระที่นั่ง พระยาแรกนา เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาท ถวายบังคมแล้วไปยังลานแรกนา เจ้าพนักงาน จูงพระโคเทียมแอก พระยาแรกนา เจิมพระโคและไถแล้ว จึงไถดะไป โดยรี 3 รอบ โดยขวาง 3 รอบ หว่านธัญพืช โหรลั่นฆ้องชัย แล้วไถกลบอีก 3 รอบ เจ้าพนักงานปลดพระโคออกจากแอก พระยาแรกนาและเทพีกลับไปยัง โรงพิธีพราหมณ์ พราหมณ์ เสี่ยงของกิน 7 สิ่ง ตั้งเลี้ยงพระโค ประกอบด้วย หญ้า ข้าวเปลือก เหล้า ข้าวโพด ถั่วเขียว งา และน้ำ พระโคกินหญ้า พยากรณ์ว่า น้ำท่าจะบริบูรณ์พอสมควร ธัญญาหารผลาหาร ภักษาหาร มังสาหารจะอุดมสมบูรณ์ และกินเหล้า พยากรณ์ว่า การคมนาคมสะดวก การค้าขายกับต่างประเทศดี เศรษฐกิจจะรุ่งเรือง โดย พระยาแรกนา ตั้งสัตยาธิษฐาน เสี่ยงทายหยิบผ้านุ่งแต่งกาย พยากรณ์ว่า น้ำในปีนี้จะมีปริมาณพอดี ข้าวกล้าในนาจะได้ผลบริบูรณ์ และผลาหาร มังสาหาร จะอุดมสมบูรณ์ดี

    ไอ.เอ็น.เอ็น.

    [​IMG]


    -http://hilight.kapook.com/view/58779-
















    .
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    ว่าที่นิสิตเภสัชฯ กลัวใส่ชุดไม่สวย กินยาลดอ้วนดับ

    <!--Share<script src="http://static.ak.fbcdn.net/connect.php/js/FB.Share" type="text/javascript"></script> Tweet<script type="text/javascript" src="http://platform.twitter.com/widgets.js"></script>-->


    [​IMG]




    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
    ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

    ว่าที่นิสิตเภสัช ม.มหาสารคาม กินยาลดความอ้วนดับ น้องสาวเผย พี่เคยบ่นกลัวใส่ชุดไม่สวย ซื้อยามากิน 2 เดือน ลดฮวบ 20 กก.

    เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ที่ผ่านมา สภ.เมืองร้อยเอ็ด รับแจ้งมีคนเสียชีวิตในบ้านพัก ต.เหนือเมือง อ.เมือง จึงรุดไปตรวจที่เกิดเหตุ พบศพ น.ส.ณัฐิญาภรณ์ อุดมก้านตรง อายุ 19 ปี นอนเสียชีวิตในห้องนอน ภายในห้องพบยาลดความอ้วนเม็ดเรียวสีชมพู ไม่ทราบยี่ห้อกว่า 10 เม็ด

    จากการสอบปากคำ ด.ญ.อ้อย (นามสมมติ) อายุ 10 ปี น้องสาวผู้ตายที่นอนอยู่ด้วยกันทุกวัน ทราบว่า พี่สาวเรียนจบชั้น ม.6 จากโรงเรียนชื่อดังของจังหวัด เป็นคนเรียนเก่ง เกรดเฉลี่ย 3.97 และเพิ่งติดคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เตรียมจะเข้ารายงานตัวในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ แต่พี่สาวเคยบ่นให้ฟังว่า เกรงจะสวมชุดเรียนไม่สวย เพราะเป็นคนรูปร่างอ้วน น้ำหนัก 95 กิโลกรัม จึงไปซื้อยาลดความอ้วนมากิน แต่ไม่ได้บอกให้แม่ทราบ

    ด.ญ.อ้อย กล่าวต่อไปว่า พี่สาวกินยาลดความอ้วนได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว น้ำหนักลดเหลือ 75 กิโลกรัม จนมีคนทักว่าผอมผิดหูผิตา จากนั้นพี่สาวก็เปลี่ยนยาจากตัวเดิมมากินยาสีชมพูอีกไม่ถึงเดือน โดยบอกว่า ยาตัวนี้จะทำให้น้ำหนักลดเร็วขึ้นและผิวจะขาวขึ้น กระทั่งช่วงหลังไม่ค่อยกินข้าว และเสียชีวิตในที่สุด

    ทั้งนี้ จากการชันสูตรเบื้องต้น แพทย์เชื่อว่าสาเหตุการเสียชีวิต น่าจะมาจากหัวใจล้มเหลว ส่วนจะมาจากการกินยาลดความอ้วนหรือไม่นั้น ต้องส่งศพไปผ่าพิสูจน์อย่างละเอียดอีกครั้ง



    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก มติชนออนไลน์

    [​IMG]




    -http://hilight.kapook.com/view/58778-



    .








    .
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    อยู่ให้ดีและมีความสุข
    -http://www.posttoday.com/lifestyle/health-me/กาย/88626/อยู่ให้ดีและมีความสุข-

    มาพูดกันถึงเรื่องเคล็ดลับสร้างสุขอย่างง่ายๆ แต่หนุ่มๆ อาจจะยังไม่เคยทำ....
    เรื่อง เจ้าชายกบ
    มาพูดกันถึงเรื่องเคล็ดลับสร้างสุขอย่างง่ายๆ แต่หนุ่มๆ อาจจะยังไม่เคยทำ
    เปลี่ยนงานอดิเรกใหม่ๆ ทุก 3 เดือน
    งานอดิเรกเป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณสดชื่น กระปรี้กระเปร่า การหมุนเวียนเปลี่ยนกิจกรรมงานอดิเรกไปเรื่อยๆ ไม่เพียงเปิดโอกาสให้หนุ่มๆ ทั้งหลายตั้งเป้าหมายใหม่ๆ ในทุกๆ 3 เดือน (อันเป็นกุญแจสำคัญของความสุข) แค่ตั้งเป้าหมายว่าจะต้องทำนั่นทำนี่ให้สำเร็จก็มีความสุขแล้ว งานอดิเรกใหม่ๆ ยังเปิดโอกาสให้ได้รู้จักเพื่อนใหม่ๆ มีสังคมใหม่ๆ (กุญแจสำคัญอีกดอกของความสุข) แม้ว่างานอดิเรกที่เลือกอาจจะเป็นสิ่งที่ต้องใช้สมาธินั่งง่วนทำอยู่คนเดียว แต่เชื่อเถอะว่าอย่างน้อยหนุ่มๆ ก็ต้องอยากจะเข้าเว็บบอร์ดไปพูดคุยกับชุมชนที่มีกิจกรรมเดียวกันอยู่ดีๆ อย่างน้อยก็ได้เพื่อนใหม่ทางออนไลน์ล่ะครับ
    วางแผนออกสังคม 4 วันล่วงหน้า
    บางคนอาจจะหาว่าบ้าหรือเวอร์ ทว่าการวางแผนเตรียมพร้อมสำหรับงานสังคม แม้กระทั่งแค่การนัดพบกับเพื่อนฝูงขำๆ ก็ตาม การวางแผนแบบมีเป้าหมายชัดเจนช่วยให้เมโทรกายของเรามีความสุข มากกว่าที่จะปล่อยชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวันๆ ซึ่งการเห็นภาพแบบเป็นรูปเป็นร่างก่อนในอนาคต จะเป็นเหตุช่วยขับเน้นความสุขให้เพิ่มพูน เพราะว่าจะมีการแบ่งเวลา มีการวางแผนสำหรับกิจกรรมดีๆ การใส่ใจดูแลคนที่เรารัก หรือกับหนุ่มโสดก็เป็นการวางแผนไปปาร์ตี้เพื่อเจอกับสาวใสๆ รายใหม่ๆ ไม่มีอาการไปแบบเบลอๆ ไปหาไปตายเอาดาบหน้า ซึ่งมักจะคว้าน้ำเหลวเป็นประจำ
    [​IMG]
    เตรียมวันพักผ่อนล่วงหน้า 2 เดือน
    คงไม่ต้องบอกว่าวันหยุดพักจากหน้าที่การงานบ้างนั้นดีขนาดไหน แต่ลองดูผลวิจัยของประเทศฮอลแลนด์ ปี ค.ศ. 2010 นี่เอง ที่สรุปออกมาว่าชาวดัตช์ที่เดินทางไปพักผ่อนกลับไม่ได้มีความสุขเพิ่มขึ้นเลย ก็เพราะว่าอยู่ดีๆ พวกเขาก็ปุบปับเดินทางไปเที่ยว หรืออย่างดีแค่วางแผนการเดินทางเพียงสัปดาห์เดียวเท่านั้น หลายๆ อย่างก็เลยไม่เข้าที่เข้าทาง ไม่ได้ดั่งใจสักเท่าไร เพราะฉะนั้นวางแผนล่วงหน้าอย่างน้อย 2 เดือนนะครับ หนุ่มๆ
    จัดตารางอาหารล่วงหน้า 1 สัปดาห์
    ชายหนุ่มทั้งหลายอาจจะเคยได้ยินเรื่องวิตามินนั้น วิตามินนี้จะช่วยเสริมเติมเต็มความสุข จริงๆ แล้วไม่ต้องไปหาซื้อวิตามินมากินให้เปลืองสตางค์หรอกครับ แค่สนุกสนานกับการจัดตารางอาหารล่วงหน้า 1 สัปดาห์ ก็น่าจะช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นเยอะแล้ว ก็ลองนึกเปรียบเทียบอารมณ์ตอนตื่นนอน เช้ามาต้องควานหาของกินในตู้เย็น กับอารมณ์ที่มีการเตรียมเมนูเอาไว้แล้วก็ได้ว่าห่างไกลกันลิบลับขนาดไหน ไม่มีทางอารมณ์เสียแน่นอน นอกจากนี้ ยังเป็นช่องทางในการเตรียมอาหารให้มีคุณภาพ รับประทานให้ครบ 5 หมู่ในแต่ละมื้อ แต่ละวันอีกต่างหาก
    ลิสต์สิ่งที่ต้องทำแต่ละวัน สร้างสรรค์เป้าหมายระยะสั้น-ยาว
    ดับเบิลยู. เบรัน โวล์ฟ นักจิตวิทยาชาวออสเตรียน เขียนไว้ในหนังสืออัตชีวประวัติของเขาว่า หากต้องการสังเกตลักษณะของคนที่มีความสุขจริงๆ “คุณจะเห็นเขาต่อเรือ เขียนโน้ตดนตรี สอนหนังสือลูกชาย ปลูกต้นดาเลียไว้ในสวน หรือไม่ก็ออกไปตามหาไข่ไดโนเสาร์ที่ทะเลทรายโกบี” – เขาหมายถึงคนมีความสุขมักจะมีกิจกรรมอะไรทำอยู่เสมอ พวกเขามักชอบที่ตั้งเป้าหมายในชีวิต และจะต้องทำให้สำเร็จ









    .
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    ชีวิตห่างไกลริดสีดวง
    -http://www.posttoday.com/lifestyle/health-me/กาย/88079/ชีวิตห่างไกลริดสีดวง-

    ปัจจุบันนี้โรคภัยไข้เจ็บเกิดขึ้นง่ายๆ หากไม่รู้จักดูแลตัวเองให้ดี โดยเฉพาะโรคที่มาจากเรื่องอาหารการกิน เช่น โรคริดสีดวงทวาร...
    เรื่อง.....อณุศรา ทองอุไร
    ปัจจุบันนี้โรคภัยไข้เจ็บเกิดขึ้นง่ายๆ หากไม่รู้จักดูแลตัวเองให้ดี โดยเฉพาะโรคที่มาจากเรื่องอาหารการกิน เช่น โรคริดสีดวงทวาร ที่หากรับประทานหนักแต่เนื้อสัตว์ แป้ง และไขมัน แต่บริโภคผักและผลไม้สดน้อย ก็อาจจะส่งผลให้เกิดอาการท้องผูก ถ่ายยาก จนส่งผลให้เป็นโรคดังกล่าวได้
    นพ.ณรงค์ จรัสวิโรจน์ ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ประจำโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ มาให้ความรู้ในเรื่องนี้ คุณหมอกล่าวว่า เพราะโรคนี้เป็นกันมากขึ้นในเด็กวัยรุ่น ที่พบอายุน้อยสุดในวัยเพียง 13 ปี และในวัย 40 ปี เริ่มเป็นมากขึ้นในกลุ่มหญิง-ชาย ถ้าอายุ 40 ปีขึ้นไปควรไปตรวจลำไส้ใหญ่ตอนปลายเพื่อตรวจหาริดสีดวงทวาร หรือมะเร็งลำไส้ หรือมะเร็งทวารหนัก ป้องกันไว้ดีกว่าแก้
    สาเหตุของโรค
    โรคริดสีดวงทวารหนัก เป็นโรคที่มีสิ่งผิดปกติยื่นออกมาจากร่างกาย ส่วนที่ยื่นออกมานั้นมีลักษณะเป็นติ่งเนื้อ และตำแหน่งที่เกิดคือบริเวณทวารหนักที่เป็นทางขับถ่าย ติ่งเนื้อที่ผิดปกตินี้เกิดจากการบวมและอักเสบของหลอดเลือดดำที่ผนังลำไส้ใหญ่ส่วนปลาย ซึ่งอาจเกิดขึ้นพร้อมกันหลายจุด หากเกิดกับเส้นเลือดดำที่ใต้ผิวหนังบริเวณปากทวารหนักอาจจะมองเห็นได้จาก ภายนอกเรียกว่า “ริดสีดวงภายนอก” แต่ถ้าเกิดกับเส้นเลือดดำที่อยู่ลึกเข้าไปด้านในของลำไส้ใหญ่ส่วนปลายเรียกว่า “ริดสีดวงภายใน”
    [​IMG]
    สาเหตุของริดสีดวงส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมในการขับถ่ายอุจจาระที่ต้องเบ่งถ่ายอุจจาระบ่อยๆ และนานๆ ซึ่งเกิดจากอาการท้องผูก การชอบอ่านหนังสือในขณะขับถ่าย การยืนหรือนั่งท่าใดท่าหนึ่งติดต่อกันนานๆ การกลั้นอุจจาระ เป็นต้น
    การเบ่งถ่ายอุจจาระนานๆ ทำให้แรงดันในช่วงท้องเพิ่มขึ้น หลอดเลือดดำบริเวณทวารหนักจึงเกิดการยืด โป่งพองขึ้นเป็นติ่งเนื้อ ความหนาของผนังเส้นเลือดดำจะน้อยลง เมื่อเกิดการเสียดสีกับอุจจาระที่หยาบและแข็งจะทำให้หลอดเลือดดำเกิดปริแตกหรือฉีกขาดได้ จึงเห็นเป็นเลือดสดๆ ออกมาจากทวารหนัก นอกจากนี้การร่วมเพศทางทวารหนัก ท้องผูกเรื้อรัง อาการท้องเสียเรื้อรัง ชอบใช้ยาระบายหรือยาสวนทวารอย่างพร่ำเพรื่อ ก็เป็นส่วนที่ทำให้เกิดโรคริดสีดวงทวารหนักได้
    อาการของโรค
    คือเวลาถ่ายอุจจาระจะเจ็บปวดรอบทวารหนัก มีก้อนเนื้อยื่นออกมาจากทวารหนัก รอบทวารหนักจะเปียกแฉะและคัน หลังการถ่ายอุจจาระจะมีเลือดสดๆ ออกมาทางทวารหนัก หากคลำดูบริเวณรอบๆ ทวารหนักจะรู้สึกว่ามีก้อนเนื้อนูนหรือเป็นติ่งยื่นออกมา
    ระยะของโรค
    1.ระยะเริ่มแรกที่ติ่งเนื้อยังอยู่ภายในทวารหนักจะไม่ค่อยเจ็บ แต่อาจจะมีเลือดออกเป็นบางครั้งเมื่อเบ่งถ่าย
    2.ระยะที่ติ่งเนื้อเริ่มโผล่ออกมาขณะเบ่งถ่ายอุจจาระ และจะหดตัวกลับเข้าไปภายในทวารหนักได้เอง
    3.ระยะที่ติ่งเนื้อโผล่ออกมาขณะเบ่งถ่าย แต่ไม่สามารถหดกลับเข้าไปได้เอง ต้องใช้มือดันกลับเข้าไปในทวารหนัก
    4.ระยะที่ติ่งเนื้อยื่นออกมาและใหญ่จนไม่สามารถกลับเข้าไปเองได้ ถึงแม้จะใช้มือช่วยดันแล้วก็ตาม
    การรักษา
    โรคริดสีดวงทวารหนัก ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของโรค ริดสีดวงในระยะที่ 1 หากมีการดูแลรักษาปฏิบัติตามคำแนะนำอาการเจ็บปวดและเลือดออกก็จะทุเลาและหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่ถ้าเป็นริดสีดวงระยะที่ 2 และ 3 จะใช้วิธีรักษาโดยการปฏิบัติตามคำแนะนำควบคู่ไปกับการใช้ยา สำหรับริดสีดวงในระยะที่ 4 (รุนแรง) มีเลือดไหลอยู่เรื่อยๆ ต้องรักษาโดยการผ่าตัด
    การรักษาโดยการใช้ยา ยาเหน็บทางทวารหนักเป็นยาใช้ภายนอก ประกอบด้วย ยาบรรเทาอาการปวด (ยาชา) ยาช่วยให้หลอดเลือดหดตัว ยาปฏิชีวนะและยาลดการอักเสบ ยาโรคริดสีดวงมีทั้งชนิดขี้ผึ้งและชนิดแท่ง ใช้เหน็บวันละครั้ง
    การปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันและรักษาโรค
    1.เลือกกินอาหารที่มีเส้นใยสูงเช่น ธัญพืช ผัก-ผลไม้ต่างๆ เพื่อช่วยให้ถ่ายอุจจาระได้ง่ายขึ้น
    2.ดื่มน้ำสะอาดวันละ 8 แก้วเป็นอย่างน้อยทุกวัน
    3.อย่าปล่อยให้เกิดอาการท้องผูก การเบ่งอุจจาระจะเป็นการเพิ่มอาการริดสีดวงให้มากขึ้น
    4.อย่าฝืนเบ่งอุจจาระโดยที่ไม่รู้สึกปวดถ่าย
    5.อย่าทำให้เกิดการระคายเคืองต่ออาการริดสีดวงโดยการถูรอบๆ ทวารหนักอย่างรุนแรง
    6.การออกกำลังกายจะช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ทำให้ถ่ายอุจจาระได้ง่ายขึ้น
    7.นั่งแช่ในน้ำอุ่น 10-15 นาที เพื่อลดอาการปวดริดสีดวงและการอักเสบ หากปวดมากให้กินยาแก้ปวด-อักเสบ
    8.ใช้ยาเหน็บวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอนจะช่วยให้อาการริดสีดวงดีขึ้น
    9.กินยาช่วยลดอาการคั่งของเลือด
    10.ถ้าอาการไม่ดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์ ให้ปรึกษาแพทย์























    .
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 9 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 8 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong </TD></TR></TBODY></TABLE>

    สวัสดีตอนค่ำน้อยๆ วันศุกร์แห่งชาติครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • good.gif
      good.gif
      ขนาดไฟล์:
      136 KB
      เปิดดู:
      183
    • tell..gif
      tell..gif
      ขนาดไฟล์:
      130 KB
      เปิดดู:
      230
  13. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    สวัสดีครับทุกๆท่าน วันศุกร์ ตอนค่ำๆ
     
  14. อนัตตัง

    อนัตตัง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +12
    รู้จัก ‘โฮลเกรน’ กินดีมื้อเช้า

    วันศุกร์ ที่ 13 พฤษภาคม 2554 เวลา 0:00 น
    <SCRIPT src="http://s7.addthis.com/js/250/addthis_widget.js?pub=xa-4a38f0f6636e48fa" type=text/javascript></SCRIPT> ​


    [​IMG]

    ช่วงต้นสัปดาห์ไปร่วมฟังผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการของเนสท์เล่ เผยผลวิจัยเรื่องการรับประทานอาหารเช้าของเด็กไทย พบว่า เด็กไทยวัยเรียน ช่วงอายุ 6-14 ปี ร้อยละ 20 ทานอาหารไม่ครบมื้อ และจำนวนดังกล่าว ร้อยละ 60 ไม่ได้ทานอาหารมื้อเช้า เนื่องจาก... “ตื่นนอนเช้าเกินไปจนไม่รู้สึกหิว มีเวลาทำกิจวัตรตอนเช้าไม่มาก ต้องรีบเดินทางไปโรงเรียน บางบ้านคุณแม่มีไม่เวลาเตรียมอาหารเช้าให้ หรือมีไม่ก็มีอาหารพร้อมแต่ไม่น่าทาน” ...อ่านดูตรงกับปัญหาที่เกิดขึ้นกันบ้างไหมคะ?

    โดยเฉพาะเด็กๆ ถ้าละเลยอาหารมื้อเช้า ผู้อ่านรู้หรือไม่ว่า ร่างกายจะขาดพลังงาน เนื่องจากต้องอดอาหารเป็นเวลายาวนานหลายชั่วโมง นับตั้งแต่เข้านอนไปจนถึงอาหารมื้อเที่ยง ซึ่ง ‘ทวีทรัพย์ เหลืองนทีเทพ’ ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ เตือนถึงโทษของการไม่ทานอาหารเช้าว่า ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่หากอดมื้อเช้าซึ่งสำคัญที่สุดนั้น จะไม่มีสมาธิในการเรียนหรือทำงาน สมองเฉื่อยชา สับสน หงุดหงิดง่าย ร่างกายอ่อนเพลีย

    ในทางตรงกันข้าม เด็กๆ ที่ทานอาหารเช้าเป็นประจำจะมีสุขภาพแข็งแรง สุขภาพจิตดี ความจำดี มีความสามารถในการคิดและจดจำได้ดี ทำคะแนนวิชาคณิตศาสตร์และการอ่านได้สูงกว่าเด็กที่ไม่ได้ทานอาหารเช้า เข้าสังคมและร่วมกิจกรรมได้อย่างกระตือรือร้น ส่วนประโยชน์สำหรับผู้ใหญ่ ช่วยลดโคเลสเตอรอล ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ควบคุมน้ำหนัก เสริมการทำงานระบบขับถ่าย ลดโอกาสเกิดโรคหัวใจ มะเร็ง เบาหวาน

    อาหารมื้อเช้า นอกจากต้องทานแล้วยังควรเลือกให้เหมาะสม ทั้งนี้ควรเน้นอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลเกรน ซีเรียลโฮลเกรน เพราะคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน จะถูกร่างกายย่อยอย่างช้าๆ ค่อยๆ ปล่อยพลังงานอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง จึงอิ่มนานอยู่ท้อง ไม่ต้องทานจุบจิบ

    ตัวอย่างอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนและง่ายต่อการเตรียมเพื่อทานเป็นมื้อเช้า เข้ากันไลฟ์สไตล์คนเมือง ก็คือ ‘ซีเรียล โฮลเกรน’ เป็นโฮลเกรน หรือธัญพืชเต็มเมล็ด ไม่ผ่านการขัดสี คงส่วนประกอบของสารอาหารสำคัญไว้ครบถ้วน

    ส่วนประกอบและสรรพคุณของ โฮลเกรน มีทั้งเยื่อหุ้มเมล็ด เป็นส่วนนอกสุดที่มีใยอาหาร ไฟโตนิวเตรียนท์หรือสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินบี และโปรตีน ส่วนเนื้อเมล็ด เป็นส่วนหลักของธัญพืช และแหล่งรวมของคาร์โบไฮเดรต และโปรตีนอีกเล็กน้อย และส่วนจมูกข้าว แม้จะเป็นส่วนที่เล็กที่สุดของธัญพืช แต่ก็มีสารอาหารมากกมาย ไม่ว่าจะเป็นไฟโตนิวเตรียนท์ วิตามินบี วิตามินเอ ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม ทองแดง สังกะสี และไขมันอิ่มตัวเชิงซ้อน

    เคล็ดไม่ลับในการทำอาหารมื้อเช้าด้วย ซีเรียล โฮลเกรน ให้อร่อยน่าทาน ง่ายๆ เพียงเติมนม ชนิดและรสที่ชื่นชอบ แต่ถ้ามีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวหรือเรื่องระดับน้ำตาล อาจเลือกนมพร่องหรือขาดมันเนย พวกไขมันต่ำ เติมผลไม้หั่นเป็นชิ้นสีเหลี่ยมลูกเต๋า เช่น แคนตาลูป แตงโม แอปเปิ้ล กล้วย ช่วยเพิ่มสีสันและรสชาติที่หลากหลาย ดูน่าทานยิ่งขึ้น.

    ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    “ท่าน ว.วชิรเมธี” บอกดู “ดอกส้มฯ” เป็นก็เห็นธรรม <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#CCCCCC" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">13 พฤษภาคม 2554 19:09 น.</td></tr></tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="baseline">าน ว.วชิรเมธี เผย กรรม 9 ข้อที่เป็นเหตุให้สังคมไทยต้องเข้าสู่วิกฤตอันยาวนาน และ 3 ลัทธิที่คนไทยต้องรู้ทัน พร้อมชี้การดูละครเรื่อง ดอกส้มสีทอง ถ้าดูให้เป็นก็เห็นธรรมได้ และสามารถเรียนรู้สิ่งที่ดีได้ แม้จะเป็นละครน้ำเน่า เช่นเดียวกันหากดูไม่เป็นถึงแม้จะเป็นละครน้ำดีแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์

    วันนี้ (13 พ.ค.) ที่หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ สวนรถไฟ มีการจัดเสวนาธรรมเรื่อง “สแกนกรรมสังคมไทย เจาะใจ...คุณเรยา 5 ตำราที่ชาวพุทธควรอ่าน”โดย “พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี” หรือ “ท่าน ว.วชิรเมธี” ผู้อำนวยการสถาบันวิมุตตยาลัย

    พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี กล่าวว่า เมื่อพูดกันถึงเรื่องกรรม คน ไทยมักพูดกันแต่กรรมส่วนบุคคลโดยไม่เคยมองถึงกรรมในระดับสังคม การแก้กรรมซึ่งเป็นเรื่องส่วนบุคคลนั้น หากทำถูกต้องก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ต้องไม่ลืมการแก้กรรมระดับสังคมด้วย ทุกวันนี้ สังคมไทยเต็มไปด้วยปัญหา เพราะว่าสังคมของเราได้สั่งสมเหตุปัจจัยหรือกรรมเก่าในทางที่ไม่ดีมาอย่าง ยาวนาน และตอนนี้กรรมเก่าที่เราสั่งสมมาร่วมกันกำลังแสดงผลให้คนไทยได้เห็น โดยกรรมเก่าที่ว่านั้นประกอบด้วย 9 เรื่องด้วยกัน ได้แก่

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="300"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="300"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ภาพประกอบข่าวจากอินเทอร์เน็ต</td></tr> </tbody></table></td> <td width="5">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> 1.การเลี้ยวเข้าทางผิด ซึ่งหมายถึง การใช้วิธีรัฐประหารแก้ปัญหาบ้านเมือง ซึ่งไม่เพียงแต่ไม่แก้ปัญหา แต่ยังสร้างปัญหาใหม่ไม่จบสิ้น 2.การทุจริตจนเป็นวัฒนธรรม คือ การคอร์รัปชันที่มีแพร่หลายในทุกวงการ 3.การเมืองตกต่ำล้มเหลว คือ การเมืองที่กลายเป็นธนาธิปไตยเต็มรูปแบบ ซึ่งหมายถึง การเมือง = เงิน+อำนาจ+เงิน ทำให้เจตนารมณ์ที่แท้ของการเมืองหายไป 4.ค่านิยมบิดเบี้ยวทั้งสังคม หมายถึง ยอมรับคนโกง ยกย่องคนรวยโดยไม่ถามว่ารวยมาอย่างสุจริตหรือไม่ นิยมความรุนแรงในการแก้ปัญหา

    5.การศึกษาจ่อมจมอยู่แค่ใบปริญญา คือ ผลการเรียนเด็กไทยตกต่ำ การเรียนหนังสือเพื่อเอาแต่ใบปริญญาแต่ไม่เน้นสติปัญญา มหาวิทยาลัยขายปริญญามีกันมากมาย การศึกษามีความหมายแคบและผิดเพี้ยน 6.ชาวประชาแตกสามัคคี หมายถึง ภาวะแตกสามัคคีและแบ่งเป็นเสื้อสีต่างๆ 7.เศรษฐกิจลูกผีลูกคน คือ ภาวะข้าวยากหมากแพง ช่องว่างระหว่างคนรวยคนจนห่างกันติดอันดับโลก 8.สแกนกรรมสัปดนนอกธรรมวินัย หมายถึง การเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่ไม่ถูกต้องทั้งเชิงเนื้อหาและวิธีการที่มีอยู่มากมาย 9.ภาคใต้กลียุค คือ ความรุนแรงที่ปะทุรายวันและมองไม่เห็นว่าจะยุติลงได้อย่างไร

    พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี กล่าวต่อว่า ขณะที่กรรมส่วนบุคคลที่คนไทยต้องรู้เท่าทันคือ“ลัทธินอกพุทธศาสนา 3 ลัทธิ” ที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า เมื่อใครเชื่อแล้วจะทำให้กลายเป็นนักยอมจำนนต่อชีวิต ยอมจำนนต่อปัญหา ไม่ลุกขึ้นมาต่อสู้ชีวิตและอุปสรรคซึ่งลัทธิทั้ง 3 นี้ คือ 1.ลัทธิกรรมเก่า ซึ่งเชื่อว่าทุกอย่างในชีวิตเป็นผลผลิตของกรรมเก่าจะเจริญรุ่งเรืองได้เพราะ กรรมที่ได้ทำแต่ชาติก่อน 2.ลัทธิเทพเจ้าบันดาล เชื่อว่าทุกอย่างในชีวิตเทพเจ้าลิขิตไว้แล้ว และ 3.ลัทธิบังเอิญหรือจะเรียกอีกอย่างว่า ลัทธิช่างหัวมัน เชื่อว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ไม่มีที่มา ไม่มีที่ไป มนุษย์ไม่มีทางกำหนดคาดการณ์อะไรได้ เช่น นักการเมืองจะโกงก็โกงไป ซึ่งถ้าเป็นลักษณะเช่นนี้ก็จะส่งผลให้ตนไทยเกิดความวางเฉยและใส่เกียร์ว่าง

    ผู้อำนวยการสถาบันวิมุตตยาลัย กล่าวอีกว่า ส่วน การแก้กรรมนั้นควรเริ่มด้วยการแก้ความเข้าใจที่ผิดตั้งแต่ระดับ “ถ้อยคำ” คือ ต้องสังคายนาความหมายของ “กรรม” กันให้ชัดเจนว่า กรรม หมายถึง การกระทำทางกาย วาจา และใจ ไม่ใช่เรื่องลึกลับดำมืดในทางเสียหายที่เราสร้างไว้ในชาติปางก่อนเท่านั้น แต่เน้นไปที่การกระทำทั้งที่ดี และที่ชั่วในชีวิตนี้เป็นสำคัญ และ หลักของกฎแห่งกรรมก็มีอยู่ว่า “ทำเหตุที่ดี ก็ได้รับผลที่ดี ทำเหตุที่ไม่ดี ก็ได้รับผลที่ไม่ดี” หรือ “ดีชั่ว อยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว” ในส่วนของผู้เผยแผ่พุทธศาสนา ถ้าเราเห็นว่า ท่านสอนไม่ถูก ก็ต้องช่วยกัน “ถวายความรู้” ให้พระสงฆ์และแม่ชีได้รับการศึกษาที่ดีและถูกต้อง ไม่ควรปล่อยให้ท่านบวชเอง เรียนเอง แล้วตั้งตนเป็นครูบาอาจารย์สอนผิดๆ ถูกๆ ซึ่งก่อผลเสียแก่ประชาชนในวงกว้างและระยะยาว

    “การแก้กรรมนั้นควรแก้ความเชื่อที่ผิดวามเข้าใจที่ผิดให้หันมาเชื่อ ถูกต้อง เข้าใจถูกต้อง ใช้ชีวิตถูกต้อง ดำรงชีวิตอยู่ด้วยสติปัญญา ไม่สยบยอมต่อปัญหาและอุปสรรค ไม่มองโลกและชีวิตว่าเป็นเพราะกรรมเก่าล้วนๆ โดยลืมเหตุปัจจัยอื่นๆ ที่เป็นส่วนประกอบในปัจจุบัน รวมทั้งเชื่อมั่นว่า มนุษย์สามารถลิขิตชีวิตของตนเองด้วยกรรมคือการกระทำของตนเองในชีวิตนี้ และกระบวนการทั้งหมดนี้เราต้องทำด้วยตนเอง ไม่ใช่ให้คนอื่นมาทำให้ เพราะพระพุทธเจ้าตรัสว่า ความบริสุทธิ์ หรือไม่บริสุทธิ์เป็นเรื่องเฉพาะตัว คนหนึ่งจะยังอีกคนหนึ่งให้บริสุทธิ์หาได้ไม่ หรือถ้าจะกล่าวสั้นๆ ท่าน สอนหลักกรรมเพื่อให้รับผิดชอบต่อชีวิต สู้ชีวิต ไม่ใช่เพื่อให้ยอมจำนนต่อปัญหาของชีวิต และคิดเอาง่ายๆ ว่า กรรมแก้ได้ด้วยการใช้เงินไม่กี่บาท หรือด้วยพิธีกรรมแปลกๆ ก็จบแล้วซึ่งการสอนเช่นนี้ มีแต่ทำให้คนไม่กลัวบาปกลัวกรรมเพิ่มขึ้น เพราะเห็นว่า หากทำผิด ทำชั่ว ไม่ต้องกลัว เดี๋ยวมีคนช่วยแก้ให้” พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี กล่าว

    พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี ได้เสนอแนะในการดูละครดอกส้มสีทองที่กำลังเป็นกระแสสังคมทุกวันนี้ว่า การ ดูละครนั้น หากดูเป็นก็จะเห็นธรรม เพราะเราสามารถเรียนรู้สิ่งดีๆ ได้แม้จากละครน้ำเน่าอย่างเรื่อง “ดอกส้มสีทอง” ซึ่งเป็นละครที่มีตัวอย่างในทางที่ไม่ดีอยู่หลายตอน เหมือนกับที่ดอกบัวยังสามารถงอกงามได้จากโคลนตมที่สกปรก และเช่นเดียวกัน หากเราดูไม่เป็น ต่อให้เป็นละครน้ำดีแค่ไหน ก็ไม่ได้ประโยชน์มากนัก ดัง นั้น นอกจากสังคมไทยจะต้องการละครที่มีเนื้อหาดีๆ แล้ว ก็ยังต้องการผู้ชมละครที่มีท่าที ในการดูละครที่ดี ที่มีวิจารณญาณด้วยเช่นเดียวกัน ตัวอย่างเช่น ในอดีตสมัยพุทธกาล อัครสาวกของพระพุทธเจ้ายังเคยได้รับแรงบันดาลใจดีๆ จากละครเวทีจนถึงกับออกบวชและได้บรรลุธรรม ด้วยเหตุนั้น ละครแต่ละเรื่องจึงเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามากหากรู้จักผลิตและรู้จักดู จึงขอเชิญชวนให้ทั้งผู้ผลิตและผู้ดูช่วยกันเรียกร้องคุณภาพให้กับวงการละคร โทรทัศน์ไทยให้มากขึ้น

    นอกจากนี้ พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี ยังได้แนะนำ 5 หนังสือที่ชาวพุทธควรอ่าน โดยเป็นหนังสือที่มีสาระสำคัญของพุทธศาสนาที่แท้ คือ เมื่อศึกษาเป็นอย่างดี ก็จะทำให้รู้ว่า พุทธศาสนาที่แท้ มีลักษณะอย่างไร การแก้กรรมที่ถูกต้อง ต้องทำอย่างไร ลัทธิที่สวนทางกับพุทธศาสนาท่านว่าไว้อย่างไร และการจะเป็นชาวพุทธชั้นนำต้องทำตัวอย่างไร หนังสือดีที่ชาวพุทธควรอ่านได้แก่1.พระไตรปิฎก 2.พระไตรปิฎก ฉบับสำหรับประชาชน 3.คุณลักษณะพิเศษของพุทธศาสนา 4.หลักชาวพุทธ (เกณฑ์มาตรฐานของการเป็นชาวพุทธ) 5.เชื่อกรรม รู้กรรม แก้กรรม</td></tr></tbody></table>






    -http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9540000059020-
































    http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9540000059020



    .
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    สำรวจแคมเปญแบงก์-นอนแบงก์
    ก่อนช้อปงานมันนี่ เอ็กซ์โป 2011



    ***แบงก์-นอนแบงก์ขนแคมเปญโชว์งานมันนี่ เอ็กซ์โป 2011 BKK ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-15 พฤษภาคมนี้ ณ ชาเลนเจอร์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายใต้แนวคิด “การเงินดีชีวิตดี : Better Money Better Life” มีธนาคารพาณิชย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ธนาคารของรัฐ บริษัทการเงิน (นอนแบงก์) บริษัทประกันชีวิต/ประกันภัย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) และบริษัทผู้ค้าทองคำ/โกลด์ฟิวเจอร์ส รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐ รวมกว่า 100 แห่ง เข้าร่วมงาน***


    **KBANKจัดชิงสินเชื่อบ้านดอกเบี้ย 0% 30 ปี**
    นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เครือธนาคารกสิกรไทยได้ร่วมออกบูธภายในงานมหกรรมการเงินครั้งที่ 11 Money Expo BKK 2011 ภายใต้แนวคิด “อาณาจักรเครือธนาคารกสิกรไทย ศูนย์รวมความเป็นเลิศทางการเงินครบวงจร” นำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินทุกรูปแบบ โดยเฉพาะสินเชื่อบ้านกสิกรไทย (K-Home Loan) มอบอัตราดอกเบี้ย 0% นานพิเศษ เฉพาะผู้สมัครใช้บริการภายในงาน พร้อมมอบสิทธิลุ้นรับดอกเบี้ย 0% นานสูงสุด 30 ปี จำนวน 5 รางวัล และลุ้นรับแพกเกจประกันอัคคีภัยและโจรกรรมฟรี สูงสุด 20 ปี จำนวน 5 รางวัล

    นอกจากนี้ ยังมีสินเชื่อเงินสดทันใจกสิกรไทย (K-Express Cash) อัตราดอกเบี้ย 0% นาน 2 เดือน จ่ายตรงเวลาลดดอกเบี้ยสูงสุด 15% วงเงินกู้สูงสุด 1.5 ล้านบาท, บัตรเครดิตกสิกรไทย (K-Credit Card) ให้ลูกค้าที่สมัครภายในงานและใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทยทุก 5,000 บาท ลุ้นรับสิทธิช้อปฟรีทั้งปี และของรางวัลมูลค่ารวมกว่า 6 ล้านบาท, สินเชื่อรถช่วยได้กสิกรไทย (K-Car to Cash) ให้ผู้สมัครใช้บริการภายในงาน รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษเหมา 4% ทุกรุ่นทุกปี พร้อมรับฟรี บัตรน้ำมัน ปตท.มูลค่าสูงสุด 4,000 บาท

    สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีพร้อมบริการสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยคงที่ เอสเอ็มอีกสิกรไทย (K-SME Fixed Rate Loan) สวนกระแสอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น โดยแช่แข็งดอกเบี้ยเงินกู้ให้ลูกค้าเอสเอ็มอี รับอัตราดอกเบี้ยคงที่นานสูงสุดถึง 5 ปี และทางเลือกรับอัตราดอกเบี้ยคงที่ต่ำสุด 5%

    นายชาติชาย กล่าวอีกว่า เครือธนาคารกสิกรไทยตั้งเป้าหมายลูกค้าที่จะสมัครใช้ผลิตภัณฑ์และบริการภาย ในงานกว่า 14,000 คน และ มีลูกค้าใช้บริการสินเชื่อกว่า 2 หมื่นล้านบาท



    **KTB ให้ดอกเบี้ยบ้าน 0% 3 เดือน**
    นางเยาวลักษณ์ พูลทอง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารและบริษัทในเครือนำผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินไปร่วมงานมหกรรมการ เงินและตกแต่งบูธภายใต้แนวคิด ธนาคารในสวน หรือ KTB Convenience Park เน้นโทนสีฟ้า ซึ่งหมายถึงท้องฟ้าที่สดใส บนพื้นหญ้าสีเขียว เพื่อให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ

    ในส่วนผลิตภัณฑ์และบริการของธนาคาร ผู้ที่ลงทะเบียนขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยภายในงาน และยื่นคำขอภายในเดือนกรกฎาคม 2554 พร้อมทำนิติกรรมจำนองภายใน 30 วัน นับจากวันอนุมัติ โดยธนาคารให้วงเงินกู้สูงสุดถึง 90% คิดดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือน

    ส่วน NPA มีหลากหลายประเภทในทำเลดีทั่วประเทศ จำนวนกว่า 4,000 รายการ มูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาท ให้ส่วนลดพิเศษสูงสุดถึง 40% ลูกค้าเสียค่าโอนกรรมสิทธิ์ขั้นต่ำเพียง 1% ในกรณีซื้อเพื่ออยู่อาศัย ธนาคารให้วงเงินกู้สูงสุดถึง 110% คิดดอกเบี้ย 0% ในปีแรก พร้อมยกเว้นค่าธรรมเนียมประเมินราคาหลักทรัพย์ และค่าบริการในการทำนิติกรรมจำนอง

    ในส่วนของบริษัทในเครือ บริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย กรุงไทยแอกซ่าประกันชีวิต ทิพยประกันภัย บริษัท KTAM, KTB Leasing และ KTC นำผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย เช่น บริการตรวจสุขภาพ ตรวจวัดสายตา พร้อมส่วนลดพิเศษและของสมนาคุณมากมาย เช่น กระเป๋า G2000 บัตรกำนัลเทสโก้ โลตัส กิจกรรมการแสดงจากศิลปินชั้นนำ เช่น ตอง ภัครมัย น้ำชา ชีรณัฐ เบล สุพล แหนม รณเดช พร้อมเตรียมน้ำดื่ม ปากกา พัด และกระเป๋าจำนวนมาก สำหรับลูกค้าที่มาเยี่ยมชมบูธหรือใช้บริการ

    นอกจากนี้ ธนาคารจะเปิดตัวแคมเปญ “KTB Thank You Festival” ลุ้นเบนซ์สปอร์ต และลุ้นทองคำง่ายๆ เพื่อสมนาคุณลูกค้าที่ทำธุรกรรมผ่านช่องทางต่างๆ ของธนาคาร แค่โอน จ่าย กู้ หรือทำบัตรกับธนาคาร ระหว่างวันที่ 12 พฤษภาคม - 31 สิงหาคมนี้ รับรางวัลมูลค่ารวมกว่า 5.7 ล้านบาท จำนวน 56 รางวัล ได้แก่ รถยนต์ Mercedes Benz รุ่น E250 CGI Blue Efficiency Elegance Coupe มูลค่า 4,750,000 บาท จำนวน 1 รางวัล ทองคำ มูลค่า 100,000 บาท จำนวน 5 รางวัล และทองคำ มูลค่า 10,000 บาท จำนวน 50 รางวัล



    **TMB ชูกลยุทธ์รีไฟแนนซ์**
    นายมิฮาล ซูเร็ค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานธุรกิจรายย่อย ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)(TMB) เปิดเผยว่า ความพิเศษของงาน Money Expo Bangkok 2011 จะเป็นการเสริมต่อแคมเปญ Make The Difference ที่ TMB ได้เผยแพร่ออกไปตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อตอบสนองผู้ที่กำลังมองหาข้อเสนอในการรีไฟแนนซ์บ้าน เพราะลูกค้ากลุ่มนี้มักมีความต้องการที่จะลดค่าใช้จ่ายรายเดือนที่เพิ่มขึ้น เกือบทุกวัน ซึ่ง TMB มีข้อเสนอสุดพิเศษ ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่พิเศษที่สุดในตลาด ช่วยให้ลูกค้าประหยัดได้สูงสุดด้วยการยกเว้นทุกค่าธรรมเนียมในการรีไฟแนนซ์ บ้าน และยังแบ่งเบาภาระการจ่ายประกันอัคคีภัยรายปีแทนลูกค้าอีกด้วย คิดเป็นเงินประมาณ 1,000 บาทต่อปี ต่อยอดสินเชื่อ 1 ล้านบาท

    นอกจากนี้ TMB ยังมีผลิตภัณฑ์เงินฝากออมทรัพย์ ทีเอ็มบี ดรีม เซฟวิ่ง ที่จะช่วยทำให้ทุกความฝันของลูกค้าเป็นจริงได้ด้วยการออมเงินผ่านระบบหัก เงินอัตโนมัติที่ช่วยลดความยุ่งยาก กับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ พร้อมรับเพิ่มดอกเบี้ยโบนัส สำหรับ 6 เดือนแรก นับเป็นตัวเลือกชั้นเยี่ยมสำหรับลูกค้าในตลาดขณะนี้



    **BAY จัดคอนเซปต์ “ทำให้ชีวิตสบายขึ้น”
    นายแดน ฮาร์โซโน่ ปะธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านการตลาด ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในงานมันนี่ เอ็กซ์โป ปีนี้ เครือกรุงศรีจึงได้จัดเตรียมโปรโมชันผลิตภัณฑ์ทางการเงินมากมาย ภายใต้แนวคิด KRUNGSRI : Make Your Life Simple …Make Your Life Better มอบแก่ลูกค้าที่สมัครใช้บริการในงานนี้ อาทิ “สินเชื่อบ้านกรุงศรี” อัตราดอกเบี้ย 0% 3 เดือนแรก “สินเชื่อบุคคลกรุงศรี สไมล์ แคช” อัตราดอกเบี้ย 0% 2 ดือนแรก และ 0% สำหรับค่าธรรมเนียมในการจัดวงเงินสินเชื่อกับ “สินเชื่อกรุงศรี เอเอ็มอี”

    -รับดอกเบี้ย 2 เท่าของบัญชีออมทรัพย์ เมื่อเปิด “บัญชีออมทรัพย์พเศษ กรุงศรี Max Savings” ที่ให้ชีวิตคล่องตัว เบิกถอน/โอนเงินได้ 2 ครั้งต่อเดือนไม่จำกัดวงเงิน และรับดอกเบี้ยทุกเดือน ฝาก/ถอนเงินได้หลายช่องทางทั้งเอทีเอ็ม อินเทอร์เน็ต และสาขาธนาคารทั่วประเทศ นอกจากนี้ ธนาคารยังได้นำ บญชีเงินฝากประจำทั้งแบบอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ตั๋วแลกเงิน เงินฝากเงินตราต่างประเทศ และ บัตรกรุงศรีเดบิต มาให้บริการ โดยสามารถเปิดบัญชีด้วยบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด ซึ่งไม่ต้องกรอกข้อมูลในเอกสาร พร้อมรับสมุดบัญชีเงินฝากและรับบัตรเดบิตได้ทันที

    -คาราวานบัตรเครดิตมาให้เลือกสมัครได้อย่างจุใจกว่า 10 บัตร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเคริตกรุงศรี จีอี บัตรเครดิตกรุงศรี เฟิร์สช้อยส์, เซ็นทรัล เครดิต คาร์ด, บัตรเครดิตโรบินสัน วีซ่า และ เทสโก้ เครดิต คาร์ด และโปรโมชั่นพิเศษ และรับคำปรึกษาด้านสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์จาก KRUNGSRI AUTO



    **ธนชาตพร้อมให้บริการครบวงจร**
    นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในงาน Money Expo ครั้งนี้ ธนาคารได้ใช้แนวคิดใหม่ในการเข้าไปร่วมงานครั้งนี้ โดยได้ต่อยอดความคิดในการออกแบบโครงสร้างบูธพร้อมอุปกรณ์ให้พร้อมสำหรับนำไป ใช้ให้เป็นประโยชน์กับสังคมต่อไปหลังใช้งานเสร็จ ในปีนี้ได้ใช้แนวคิด "พี่ใช้งาน น้องใช้เรียน" โดยภายหลังจากเสร็จงาน Money Expo ธนาคารจะนำโครงสร้างและอุปกรณ์ตกแต่ง ทั้งโครงเหล็กและหลังคาของบูธ พร้อม โต๊ะ เก้าอี้ ชั้นวางหนังสือและอุปกรณ์การเรียน หลอดไฟ ไปจัดสร้างเป็นอาคารเอนกประสงค์และห้องสมุด มอบให้กับโรงเรียน วัดปากด่าน ต.เสาเภา อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุอุทกภัยในภาคใต้

    ในส่วนของผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ธนาคารได้นำบริการทางการเงินครบวงจร ทั้งสินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อ SME บัตรเครดิต บัตรสินเชื่อบุคคล สินเชื่อบ้าน สินเชื่อเพื่อการศึกษา เงินฝาก หลักทรัพย์ กองทุนรวม ประกันภัย ประกันชีวิต พร้อมรายการส่งเสริมการขายครบครัน อาทิ สินเชื่อ “รถแลกเงิน” จัดแคมเปญ “ลุ้นรถ ลุ้นทอง” รับสิทธิ์ลุ้น รถยนต์ Nissan March และสร้อยคอทองคำ พร้อมรางวัลอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท เมื่อใช้บริการสินเชื่อ “รถแลกเงิน” ภายในงาน หรือ ตั้งแต่วันนี้ - 31 ก.ค. 54



    **CIMBT เปิดตัวฝาก 6 เดือนดอกเบี้ย 4%**
    นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวคิดของธนาคารในการเข้าร่วมงานมหกรรมการเงิน หรือ Money Expo 2011 คือ “ครบทุกรสชาติการเงิน ระดับอาเซียน” หรือ “The Taste of ASEAN” โดยเมนูพิเศษที่ปรุงเฉพาะเพื่องานนี้ อาทิ เงินฝากออมทรัพย์ CIMB Thai Junior Savers และ Extra Savings ดอกเบี้ย 1% พร้อมความคุ้มครองสูงถึง 1 ล้านบาท

    พร้อมกันนี้ ยังมีเมนูสินเชื่อบุคคลอัตราดอกเบี้ยพิเศษสุด ไม่ว่าจะเป็นบัตรสินเชื่อเงินสด ดอกเบี้ย 9.99% นาน 3 รอบบัญชี และสินเชื่อบุคคลผ่อนชำระรายเดือน ดอกเบี้ย 5.55% นาน 5 เดือน อีกทั้งยังมีสินเชื่อบ้านปล่อยกู้สูงสุด 105% ของราคาประเมิน นอกจากนี้ ยังมีประกันชีวิต และกองทุนรวมให้เลือกลงทุน

    นอกจากนี้ ธนาคารยังออกโปรแกรมเงินฝากพิเศษเฉพาะงานมันนี่ เอ็กซ์โป เงินฝากประจำ 6 เดือน รับดอกเบี้ยสูง 4% ต่อปี โดยผู้ที่สนใจสามารถเปิดบัญชีด้วยเงินเริ่มต้นเพียง 1 หมื่นบาท และฝากได้ถึงไม่เกิน 5 ล้านบาท จำกัด 1 ท่านต่อ 1 บัญชี โดยธนาคารได้เตรียมคูปองรับสิทธิเปิดบัญชีเงินฝากนี้ไว้สำหรับลูกค้า 1,000 รายต่อวัน รวมเป็นคูปองทั้งสิ้น 4,000 ราย ใน 4 วัน และคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้าและประชาชนผู้ร่วมงาน ทั้งนี้ ลูกค้าผู้โชคดี 4,000 รายแรก สามารถนำคูปองไปแสดงสิทธิเพื่อเปิดบัญชีที่สาขาใดก็ได้ทั้ง 151 แห่งทั่วประเทศ ของธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ได้ตั้งแต่วันที่ 12-31 พ.ค.นี้



    **SCB ชูแนวคิด “งานเดียวมีแต่ได้กับได้”
    ธนาคารไทยพาณิชย์แตรียมผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินเพื่อมอบให้แก่ ลูกค้าในงานมหกรรมการ เงิน Money Expo 2011 ภายใต้แนวคิด “งานเดียวมีแต่ได้กับได้ ที่บูธไทยพาณิชย์” โดยนำเสนอแคมเปญพิเศษมากมาย ได้แก่ “บัตรเศรษฐี รวยเบนซ์ รวยทอง รวยดอกเบี้ย“, สินเชื่อบ้าน “ได้บ้านได้รถป้ายแดง” และ “สินเชื่อ SME กู้ลุ้นรถ” และของสมนาคุณมากมาย



    **KK จัดออมทรัพย์ดอกเบี้ย 2.25%**
    นายธวัชไชย สุทธิกิจพิศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงว่า กลุ่มธุรกิจการเงินของเกียรตินาคินการเข้าร่วมงาน Money Expo 2011 ภายใต้แนวคิดที่ว่า “ให้ความสำเร็จของคุณเริ่มต้นที่นี่”

    โดยด้านเงินฝาก ธนาคาร ได้คัดสรรเงินฝาก 2 ประเภท ที่ถือว่าเป็นผลตอบแทนที่คุ้มค่า ได้แก่ เงินฝากออมทรัพย์ ดอกเบี้ยสูง 2.25% ต่อปี (สำหรับวงเงินฝากไม่เกิน 1 ล้านบาท) และถอนได้สูงสุดถึง 4 ครั้งต่อเดือน เปิดบัญชีขั้นต่ำเพียง 1 แสนบาทเท่านั้น รวมถึง KK Max 7 Plus ที่เป็นเงินฝากประจำ 11 เดือน ดอกเบี้ย 7% ต่อปี คู่กับการซื้อประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ที่ธนาคารร่วมกับบริษัทอเมริกันอินเตอร์แนชชั่นแนลแอสชัวรันส์ จำกัด โดยรับฝากเงินเท่ากับจำนวนเงินเอาประกันภัย (จำนวนเงินเอาประกันภัยขั้นต่ำ 1 แสนบาท) ชำระเบี้ยประกัน 7 ปี รับความคุ้มครองชีวิต 210% นับตั้งแต่ปีแรกไปตลอด 21 ปี และรับผลประโยชน์สูงสุดถึง 236% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ทั้งนี้ แคมเปญเงินฝากดังกล่าว ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อขอรับบริการได้ที่ธนาคารเกียรตินาคินทุกสาขาทั่ว ประเทศ

    ในส่วนของสินเชื่อ อาทิ บริการสินเชื่อรถเพื่อเงินสด KK Car Cash พิเศษ ลูกค้า 20 ท่านแรกที่ได้รับอนุมัติ รับบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 2,000 บาท รวมถึงสินเชื่อต่างๆ ที่จะมาร่วมสนำเสนอ ได้แก่ สินเชื่อธุรกิจขนาดย่อม KK SMEs, สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนส่ง ธุรกิจอพาร์ตเม้นท์ ธุรกิจสิ่งพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ และสินเชื่อเพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย

    ด้านบริการทรัพย์สินรอขาย ธนาคาร ได้นำทรัพย์สินกว่า 500 รายการ มาให้เลือกสรร ในราคาพิเศษ พร้อมวงเงินสินเชื่อสนับสนุนสูงสุดถึง 90% ของราคาซื้อขาย (สำหรับทรัพย์ราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท) อัตราดอกเบี้ย 2% 1 ปีแรก ฟรีค่าธรรมเนียมจัดการเงินกู้ ค่าประเมิน และค่าธรรมเนียมปิดวงเงินก่อนกำหนด หรือ กรณีที่ซื้อทรัพย์ที่ร่วมรายการโดยไม่ใช้สินเชื่อและโอนกรรมสิทธิ์ภายใน 30 วัน ธนาคารยังมอบส่วนลดให้อีกถึง 10,000 บาท (สำหรับทรัพย์ราคามากกว่า 500,000 บาท )



    **KTC ให้เรื่องราวดีๆ ส่งต่อถึงกันได้**
    นายปิยศักดิ์ เตชะเสน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส กลุ่มงานผลิตภัณฑ์และช่องทางจัดจำหน่าย บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)(KTC) กล่าวว่า ในปีนี้เคทีซีจะเข้าร่วมออกบูธภายใต้แนวคิด "communities of consumers ให้เรื่องราวดีๆ ส่งต่อถึงกันได้” ซึ่งต่อยอดจากนิยามใหม่ของแบรนด์ "we write the stories" โดยได้เตรียมผลิตภัณฑ์การเงินและกิจกรรมการตลาดไปนำเสนอให้กับสมาชิกและผู้ เข้าชมงานใน 3 โหมดใหญ่ๆ คือ
    1) การรับสมัครสมาชิกใหม่ บัตรเครดิต เน้นการนำเสนอกลุ่มบัตรเครดิตสำหรับผู้มีไลฟ์สไตล์การเดินทางท่องเที่ยว ช้อปปิ้งและสุขภาพ ได้แก่ บัตรเครดิตเคทีซี-บางกอก แอร์เวยส์ บัตรเครดิตเคทีซี-เจซีบี บัตรเครดิตเคทีซี-กลุ่มโรงพยาบาลในเครือดุสิตเวชการ และบัตรเครดิตเคทีซี-แคชแบค เพียงสมัครบัตรในงานและมียอดใช้จ่าย 1 ครั้งหลังบัตรได้รับการอนุมัติ รับสิทธิ์แลกซื้อบัตรห้องพักคู่รวมอาหารเช้า ที่โรงแรม Ibis พัทยา เพียง 999 บาท จากปกติ 2,900 บาท หรือแลกซื้อบัตรห้องพักคู่รวมอาหารเช้า ที่โรงแรมสปริงฟิลด์บีช รีสอร์ท (หัวหิน) เพียง 2,099 บาท จากปกติ 4,700 บาท สินเชื่อพร้อมใช้ “เคทีซี แคช รีโวล์ฟ” สำหรับพนักงานประจำที่มีรายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาท สมัครและได้รับการอนุมัติ และมียอดเงินต้นคงค้าง ไม่ต่ำกว่า 15,000 บาท ทุกวันตลอด 3 รอบบัญชีแรกนับจากวันอนุมัติ รับทันทีหม้อทอดทรงกลมมูลค่า 1,850 บาท และรับเพิ่ม เตาแม่เหล็กไฟฟ้า พร้อมหม้ออเนกประสงค์มูลค่า 3,050 บาท เมื่อมียอดเงินต้นคงค้างไม่ต่ำกว่า 18,000 บาททุกวัน โดยเริ่มนับจากวันถัดจากวันสิ้นรอบบัญชีที่ 3 ถึงวันสิ้นรอบบัญชีที่ 6
    2) แคมเปญการตลาดกับคะแนนสะสม KTC Forever Rewards นำเสนอ 2 แคมเปญใหญ่ “My Story” รับสิทธิ์แลกซื้อบัตรห้องพักคู่ 1 ใบ 3 วัน 2 คืน พร้อมอาหารเช้า และรับบัตรเงินสดมูลค่า 500 บาท ที่โรงแรมในเครือดุสิตธานีทั่วประเทศ (กรุงเทพฯ หัวหิน พัทยา ลากูน่า ภูเก็ต และดุสิต ไอส์แลนด์ รีสอร์ท เชียงราย) ในราคาเพียง 6,699 บาท + 99 คะแนนสะสม (ปกติ 26,000-38,000 บาท) เพียงรวมเซลส์สลิปที่มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตครบทุก 5,000 บาท ต่อเลขที่บัตร ระหว่างวันที่ 1-15 พฤษภาคม 2554 และ “99 คะแนนลุ้นล้านบาท” ใช้ 99 คะแนนสะสม รับทันที 2 สิทธิ์ เฉพาะในงานนี้เท่านั้น (ปกติ 1 สิทธิ์) ร่วมลุ้นรางวัลใหญ่ 10 ล้านคะแนน มูลค่า 1 ล้านบาท
    และ 3) สนุกกับกิจกรรมและเกมส์ต่างๆ



    **ธ.ก.ส.เปิดตัวเงินฝากเกษียณสุขดอกเบี้ย 8%**
    นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) เปิดเผยถึง กิจกรรมของ ธ.ก.ส.ในงานมหกรรมการเงิน ครั้งที่ 11 หรือ Money Expo 2011 ครั้งนี้ว่า จัดขึ้นภายใต้แนวความคิด “สร้างสรรค์ชีวิตที่ดีเพื่อคุณ” ซึ่ง ธ.ก.ส.ได้ปรับรูปโฉมเป็นสถาบันการเงินเพื่อคนในเมือง โดยนำผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของลูกค้าให้ดีขึ้น เช่น เงินฝากดอกเบี้ยสูง “เงินฝากเกษียณสุข (พิเศษ)” ซึ่งเปิดรับฝากเป็นระยะเวลา 3 ปี เฉพาะผู้สูงอายุ 55 ปี ขึ้นไป รับฝากขั้นต่ำ 100,000 บาท สูงสุด 1 ล้านบาท ผลตอบแทนเฉลี่ย 4.25% จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน เป็นขั้นบันได เริ่มจาก 3.25% สูงสุดถึง 8% โดยผู้ฝากสามารถมายื่นจองสิทธิการฝากได้เฉพาะภายในงาน และฝากเงินภายหลังที่สาขา ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2554 โดยจะจำกัดวงเงินการรับฝากเพียง 2,000 ล้านบาท เท่านั้น

    นอกจากนี้ยังมีโครงการเงินออมลูกรัก เงินฝากออมทรัพย์ทวีโชค และโครงการเงินฝากออมทรัพย์กระปุกผลไม้ไทย ที่ลูกค้าสามารถฝากเงินและได้รับผลตอบแทนตามเงื่อนไขของแต่ละผลิตภัณฑ์ ซึ่งลูกค้าที่ฝากเงินกับ ธ.ก.ส. ทุกผลิตภัณฑ์ภายในงานนี้ จะได้รับของชำร่วยและสิทธิพิเศษมากมาย เช่น หมอนมังคุด แก้วมัคเซรามิค, กระปุกออมทรัพย์ผลไม้ไทย, กระเป๋าผ้าช้อปปิ้ง, ผ้าขนหนู, Netbook, Mp4, External Drive, Flash Drive เป็นต้น

    สำหรับด้านสินเชื่อ ธ.ก.ส.เปิดให้บริการสินเชื่อ 108 อาชีพ ที่สอดคล้องกับทุกความต้องการของคนในเมือง ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ MRR ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่อัตราร้อยละ 7 ต่อปี พร้อมการบริการให้คำปรึกษาด้านสินเชื่อและรับขึ้นทะเบียนเป็นลูกค้า ธ.ก.ส.



    -http://www.manager.co.th/Business/ViewNews.aspx?NewsID=9540000058922-


    .













    .
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .
    <table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 7 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 5 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong, ปฐม+</td></tr></tbody></table>

    สวัสดีตอนเช้า วันเสาร์สุขสันต์ครับ














    .
     
  18. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    สวัสดีครับพี่ท่าน เตรียมตัวเดินทางไปทำหน้าที่แล้วครับพี่ท่าน กลับมาแล้วจะรายงานรายละเอียดให้พี่ท่านทราบนะครับ
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ขอให้เดินทางโดยปลอดภัยทุกประการ ไม่มีอุปสรรค ในการเดินทางและงานบุญ

    โมทนาบุญทุกประการครับ





    .
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
    [FONT=Tahoma,]"ผี"ลุ้นซิวพรีเมียร์-"เรือ"ชิงเอฟเอคัพ

    คอลัมน์ ซอคเกอร์


    <table align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="360"><tbody><tr><td align="center" bgcolor="#E0E0E0" valign="top">[​IMG]
    </td></tr></tbody></table>สัปดาห์ นี้ชี้ชะตาแชมป์พรีเมียร์ ลีก และเอฟ เอ คัพ อังกฤษ "ผีแดง" บุกเยือน แบล็กเบิร์น ขอแค่แต้มเดียวก็ฉลองแชมป์ ส่วน "เรือใบสีฟ้า" ปะทะ สโต๊ก นัดชิงเอฟเอ คัพ ส่วนบุนเดสลีกาเตะนัดสุดท้าย "เสือใต้" แย่งโควตาแชมเปียนส์ ลีก จะทำได้หรือไม่ต้องติดตาม

    วันเสาร์ที่ 14 พ.ค.2554

    พรีเมียร์ ลีก

    แบล็กเบิร์น-แมนฯ ยู - "กุหลาบไฟ" เปิดรัง อีวูดส์ ปาร์ก พบ แมนฯ ยู ว่าที่แชมป์พรีเมียร์ ลีกฤดูกาลนี้ สตีฟ คีน กุนซือกุหลาบไฟยังต้องการแต้มเพื่ออยู่รอดในฤดูกาลหน้า เกมนี้ไม่มี ไรอัน เนลเซ่น กองหลังกัปตันทีมชาวนิวซีแลนด์ที่บาดเจ็บได้ เบร็ตต์ อีเมอร์ตั้น ทำเกมคู่กับ มาร์เตน กัมป์ พีเดอร์เซ่น

    ด้านทีมเยือน ลูกทีมของ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กำลังคึก ฟอร์มแรงจริงๆ นัดล่าสุดเฉือนชนะเชลซีคู่ปรับสำคัญไปได้ 2-1 พร้อมกับโอกาสคว้าแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 19

    เกมนี้เฟอร์กี้ไม่มี ปัญหาเรื่องนักเตะโดนลงโทษ คงจัดชุดใหญ่ลุย แนวรุกน่าจะให้ เวย์น รูนีย์ คู่กับ ฮาเวียร์ เฮอร์นันเดซ เหมือนเดิม เพราะเข้าขาและลงตัว ส่วนแนวรับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ และ เนมันย่า วิดิช ยืนคู่กันได้อย่างเหนียวแน่น ตรงกลางทั้ง ปาร์ก จี ซุง, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไมเคิล คาร์ริก และ ไรอัน กิ๊กส์

    "ผี" กำลังคึก น่าจะมาคว้าชัยฉลองแชมป์ที่อีวูดส์ ปาร์กได้

    แบล็กพูล-โบลตั้น - เจ้าบ้าน ทีมอันดับ 18 เจอโบลตั้น ที่อยู่อันดับ 9 แบล็กพูลมี ชาลี อดัม กองกลางกัปตันทีมทำเกมได้อันตราย ด้านทีมเยือนฟอร์มเริ่มแผ่ว นัดที่แล้วแพ้ซันเดอร์แลนด์ คาบ้าน 1-2 เจ้าถิ่นดีพอที่จะเก็บชัย

    ซันเดอร์แลนด์-วูล์ฟส์ - ทีม "แมวดำ" หายใจโล่ง หลังจากนัดที่แล้วบุกชนะโบลตั้นมาได้ 2-1 ทะยานขึ้นมาอยู่อันดับ 12 อยู่รอดปลอดภัยแล้ว เจอทีม "หมาป่า" วูล์ฟส์ อันดับ 17 มี 37 คะแนนจาก 36 นัด ต้องการชัยชนะ เกรดบอลสูสี มีลุ้นแบ่งคะแนน

    เวสต์บรอมวิช-เอฟเวอร์ตั้น - เดอะ แบ๊กกี้ส์ เปิดบ้านพบ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ทั้งสองทีมไม่ได้ลุ้นอะไรแล้ว เวสต์บรอมวิช ในยุค รอย ฮอดจ์สัน เล่นเหนียวแน่น เกมรุกคม ปีเตอร์ โอเด็มวิงกี้ อันตราย มีสิทธิ์เฉือนชนะได้

    เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ

    แมนฯ ซิตี้-สโต๊ก - ทีม "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ เพิ่งจะคว้าสิทธิ์ไปเล่นฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีกได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากชนะสเปอร์ได้ 1-0

    นัดชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพปีนี้ เรือใบสีฟ้าจะเจอกับสโต๊ก ซิตี้ โรแบร์โต้ มันชินี่ ได้ข่าวดี คาร์ลอส เตเบซ ฟิตแล้ว พร้อมจะลงเล�น โดยในเกมที่ชนะสเปอร์ 1-0 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เตเบซ ได้ลงเป็นตัวสำรอง ต้องดูว่าจะได�เป็นตัวจริงในเกมนี้หรือไม่ ส�วน ดาวิด ซิลบา, เอดิน เซโก้ และ มาริโอ บาร์โลเตลลี่ พร�อมลุย

    ด้านทีม "ช่างปั้นหม้อ"สโต๊ก ต้องลุ้นเช็กความฟิตของสองนักเตะตัวหลักอย่าง โรเบิร์ต ฮูธ กองหลัง ที่เจ็บในเกมที่แล้ว และ แม็ตธิว เอ็ตเธริงตั้น ปีกซ้ายตัวเก๋าจะฟิตลงเล่นหรือไม่ ส่วนนักเตะตัวอื่นอยู่กันพร้อมหน้า เคนวีน โจนส์, ลอรี่ ดีแล็ป และ เจอร์เมน เพนแนนต์

    สโต๊ก เล่นเกมหนัก อันตรายทั้งลูกโต้กลับเร็ว และลูกกลางอากาศ

    คู่นี้มีสิทธิ์ต่อเวลา และอาจถึงขั้นตัดสินด้วยการยิงลูกจุดโทษ


    -http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROemNHODBNREUwTURVMU5BPT0=&sectionid=TURNd09BPT0=&day=TWpBeE1TMHdOUzB4TkE9PQ==-

    http://www.khaosod.co.th/view_news....nid=TURNd09BPT0=&day=TWpBeE1TMHdOUzB4TkE9PQ==

    .
    [/FONT]
     

แชร์หน้านี้

Loading...