"พระศรีอริยเมตไตรย์"

ปัจจุบันการอุปโลกน์คนเป็น idol นันทำได้ง่ายมาก แต่จะมีซักกี่คนที่ได้รับไปเป็นภาพที่จริง ไม่มีความเท็จเจือปน แต่ในสมัยโบราณหากผู้ใดต้องการพบพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จำต้องพบด้วยตัวเองศรัทธาเองไม่เคยมีมาปรากฏต้องมานั่งโพสต์ข้อความ หรือใช้เสียงลือเสียงเล่าอ้าง ถ่ายทอดกันให้เชื่อตามกัน การบวชก็ต้องบวชด้วยตัวเองต่อหน้าพระพุทธเจ้า ไม่มีมาสวมจีวรเขียวบ้าง ดำบ้าง หรือซ้ำร้ายโกนหัวเลียนแบบภิกษุออกหากิน พอตกเย็นกลับมานั่งก๊งเหล้าสบายใจ จริยวัตรของพระพุทธเจ้าล้วนเป็นของจริงไม่ได้เสแสร้ง ผู้เกิดศรัทธาก็เกิดจริงจากการเลื่อมใสในคำสอนไม่ต้องอาศัยสื่อไม่ต้องอาศัยผู้ใดมาชักนำให้เชื่อ ต่างกันลิบลับกับสมัยนี้ถ้าหากองค์ศาสดาของคุณต้องการเผยแผ่จริง คงต้องไปตามที่ชุมนุมชนและสร้างศรัทธาในหมู่ชนให้คล้อยตามมิใช่หลบอยู่หลังร่างอวตาร คอยชักนำให้ผู้นับถือองค์ศาสดาสมณโคดมต้องไขว้เขวอีกต่อไป

 

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

 

ลองนึกภาพที่อาจจะขัด ถ้าหากคนใส่สีเสื้อ.....อ้างว่าเขามี
("พระศรีอริยเมตไตรย์")
คุณคงไม่สนุกแน่ๆ ถ้าอยู่สีตรงกันข้าม เพราะประเด็นใครสามารถดึงตัวองค์ศาสดาได้ย่อมได้เปรียบทางการเมือง นั่นคือสีเสื้อนั่นถือว่าเล็กมากๆ
แต่ถ้าคิดให้ไกลกว่า ถ้าพุทธคริสต์อิสลามเกิดทำสงครามกันแล้ว อยู่ดีๆประเทศแถบตะวันออกกลางบอกว่าเขามีบุคคลที่เป็นเมซซายอะ และเป็นพระพุทธเจ้า หากรวมกัน
ผู้ก่อการร้ายที่อยู่ในไทยเกิด มีกำลังใจมากขึ้นเพียงเพราะองค์ศาสดาของเขา(เมซซายอะ)ปรากฏตัวและบอกให้พลีชีพเพื่ออิสลาม กลายเป็นการก่อการร้ายจะเกิดขึ้นทั่วโลกไม่เว้นและในประเทศไทย เหตูผลเพราะว่า ในประเทศนี้มีคนที่ทุกข์ยากมีแต่หนี้สิน ผิดหวัง
ล้มเหลว อยากฆ่าตัวตาย ไม่มีทางออก ไม่มีความสุขในโลกนี้แต่มีความวังจะมีความสุขในโลกหน้า แต่เกิดมีหัตถ์ของศาสดา(เมซซายอะ) ฉายแสงที่เชื่อว่ามีอยู่จริงไปโดนไปสัมผัสเขาก็ยอมตายทันทีเพื่อ องค์ศาสดา นี่แหละคือปัญหาการก่อการร้ายที่เริ่มจากศรัทธาที่ผิดผลาด และผู้เพาะศรัทธาที่ผิดพลาดก็เริ่มมาจากคนอย่างคุณ ที่เชื่อในองค์ศาสดาที่ไม่มีอยู่จริงไม่เคยปรากฏตัวให้คนเห็น มีเพียงการใช้เสียงลือเสียงเล่าอ้างบิดเบือนคำสอนทางศาสนา
และยิ่งแย่ยิ่งกว่าถ้าเกิดสงครามโลกขึ้น คนพุทธถูกกลืนเป็นมุสลิมเพราะเมซซายอะอ้างตนว่าเขาคือพระพุทธเจ้า ดึงไทยไปทำสงครามกับพวกคริสต์ ไม่ก็พวกคริสต์มีบุคคลอ้างตนเป็นเมซซายอะอ้างตนว่าเป็นพระพุทธเจ้า ดึงไทยไปทำสงครามกับมุสลิม กลายเป็นว่า
"ยักษ์ในศาสนารบราฆ่ากันตายไปกว่าครึ่ง" มากกว่า
"ยักษ์นอกศาสนารบราฆ่ากันตายไปกว่าครึ่ง"
กลายเป็นสิ่งที่จารึกไว้เป็นเรื่องตลกสิ้นดี

 

นี่ไงก็อย่างที่ น้องเหม่อลี่เขียนไว้ พระพุทธเจ้าได้ตรัสตอบคนเหล่านั้นว่า อย่าได้เชื่อถือด้วยเหตุผลต่างๆดังที่จะกล่าวต่อไปนี้คือ

อย่าได้เชื่อถือ โดยเหตุสักว่า สิ่งนี้เป็นสิ่งที่บอกต่อๆกันมา
อย่าได้เชื่อถือ โดยเหตุที่สักแต่ว่า สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เขาได้ทำตามๆกันมา
อย่าได้เชื่อถือ โดยเหตุสักว่า มันเล่าลือกันกระฉ่อนไปหมด แล้วมันต้องเป็นความจริง
อย่าได้เชื่อถือ โดยเหตุสักว่า มันมีอ้างไว้ หรือเขียนไว้ในตำรับตำรา
อย่าได้เชื่อถือ ด้วยการเดาของตัวเอง
อย่าได้เชื่อถือ ด้วยการตรึกเอาตามเหตุผลส่วนตัวของตัวเอง
อย่าได้เชื่อถือ ด้วยความคาดคะเนของตัวเอง
อย่าได้เชื่อถือว่า นี่มันเข้ากันได้กับลัทธิ ที่เรากำลังปฏิบัติอยู่เป็นประจำ
อย่าได้เชื่อถือ โดยเหตุสักว่า ผู้พูด ผู้กล่าว ผู้สอนนั้น อยู่ในฐานะที่พอจะเชื่อถือได้
อย่าได้เชื่อถือ โดยเหตุสักว่า ท่านผู้กล่าว ผู้สอนนั้นเป็นครูบาอาจารย์ของเรา
และนี่ก็อาจจะเป็นปริศนาที่พระพุทธเจ้าได้กึ่งสอนไว้แล้วเพราะกาลข้างหน้าจะมีผู้คนมากมายเดินหลงทาง ดังนั้นท่านจึงได้บอกไว้เป็นนัยสำคัญไว้ว่าอย่าเชื่อเพียงเพราะคนๆนั้นเป็นครูรึเป็นคนที่น่าเชื่อถือ ท่านให้ใช้สติ เหตุผล และให้รู้จักคิดตรองก่อนเชื่อ
เอาง่ายๆ หากคนที่คุณรัก อย่างเช่น คนรัก ภรรยา สามี พ่อ แม่ พี่น้อง ครูที่คุณเคารพ ทำผิดต่อคนอื่น แล้วมาบอกคุณโดยยกนั้นนี้มาพูดเพื่อให้ดูดีให้คุณเข้าข้าง ถามคนส่วนใหญ่จะทำอย่างไรจะเชื่อรึจะรอฟังอีกทาง รึอย่างไร โดยวิสัยมนุษญ์ส่วนมากมักจะเข้าข้างคนของตัวเองก่อน น้อยมากที่จะมีเหตุผลเอาความชอบใจมาก่อนเลย
ก็เพราะอย่างนี้ จึงมีเรื่องเสื้อสีต่างๆตามที่คุณบอก คนที่เข้าไม่มีคุณธรรมเขาก็ใช้สิ่งๆต่างๆนำมาอ้างมาเพื่อดุงใจคนส่วนมาก หาเหตุความชอบธรรมให้ตนเอง ปัญหามันก็มาจนเป็นแบบนี้ไงค่ะ

 

และก็เหมือน <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->sorakran2007<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3358182", true); </SCRIPT> ว่าไว้ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกัน หลวงพ่อจรัญท่านสอนในหลักของธรรมชาติจริงนะค่ะ อิอิ

 

คัดลอกจาก http://www.buddhawaj.org/contact_us.php


<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="90%" align=center>(พระสูตร ๑๐) ใช้คำสอนแทนพระองค์
อานนท์ ! ความคิดอาจมีแก่พวกเธออย่างนี้ว่า
ธรรมวินัยของพวกเรามีพระศาสดาล่วงลับไปแล้ว
พวกเราไม่มีพระศาสดา ดังนี้
อานนท์ ! พวกเธออย่าคิดอย่างนั้น
อานนท์ ! ธรรมก็ดี วินัยก็ดี
ที่เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้ว แก่พวกเธอทั้งหลาย
ธรรมวินัยนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอทั้งหลาย
โดยกาลล่วงไปแห่งเรา



<TBODY></TBODY>
</TABLE>

 

ฮ่า ฮ่า
สิบเท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง

 

ความรู้ความสามารถมันก็เหมือนโลกใบนี้มันเป็นของโลก ที่ว่าเป็นเหมือนโลกใบนี้เป็นของโลกใบนี้ดูดีๆมีประโยชนฺ์ เกิดมาในโลกใบนี้อยู่บนโลกใบนี้ใช้สิ่งนี้ให้เป็นประโยชน์ใช้โลกใบนี้ให้เป็นประโยชน์ใช้ปัญญาในโลกใบนี้ให้เป็นประโยชน์ใช้ภพชาติให้มันเป็นประโยชน์ใช้อัตตาให้มันเป็นประโยชน์ แต่ถ้าเอามันมาแบกมันจะหนักรุงรังไร้ประโยชน์

 

นิดๆหน่อยๆนะจ๊ะ ก็ถูกแล้วนี่ ก็เป็นไปตามกัน

อย่างที่พวกเรา ตามๆกันอยู่นี่ไง จริงปะ

คริ คริ :VO black_pig ha ha ha ha 555+

 

มาครับ เดี๋ยวผมเป็นศรีอารย์ให้แทนก็ได้เอาแต่เถียงกัน

ผมเป็นเอง!!!!

ใครเชื่อผมบ้างงงงงงง

 

ท่านไหนเป็นพระศรีฯ มา ทางนี้เถิด เรานี่แหละพระศรี ตัวจริง

ท่านมาจากไหนมิทราบ

หลักธรรม ขอข้าพเจ้าคือ..

 

ท่านที่บอกว่าท่านเป็นพระศรีท่านรู้หรือไม่ว่า

เหตุของคนที่ไม่ใช่มนุษย์ ใจของเขาไร้ความเป็นคนแต่ตัวเขาเป็นมนุษย์

เหตุว่าตัวจริงของคนคือความเป็นคนที่ไม่ใช่คนแต่คนที่เป็นคนจะไม่ใช่มนุษย์แต่เขาจะเป็น

ผู้ไม่มีความเข้าใจในธรรม เหตุที่เขารู้และอาจไม่เข้าใจในธรรม มีเหตุให้เขาใจและไร้เหตุ

ความจริวในตัวตนของธรรม เหตุใดธรรมจึงมีเหตุ ให้เกิดขึ้นและไม่เกิดขึ้นเหตุแห่งมนุษย์และคน

ท่านเข้าใจหรือไม่?

 

ฝึกฟังโดยไม่ตัดสิน ฟังให้เข้าใจความหมายลึกๆที่เขาต้องการบอก ฝึกให้ความเป็นอิสระแก่ความคิดของผู้อื่น อ่านด้วยความ"ตื่นรู้"แล้วเราจะเข้าใจว่าความเข้าใจในศาสนาอย่างที่สุด ก็คือสภาวะที่เราสามารถเชื่อมต่อกับสรรพสิ่งได้ เป็นสภาวะที่เราได้หลอมรวมกลายเป็นหนึ่งเดียวกับพระผู้สร้าง(ธรรมชาตินั่นเอง) หากเราเข้าถึงสภาวะนั้น ศาสนาหรือพระเจ้าตามที่เราเข้าใจกัน ก็เป็นแค่เพียง"สมมติบัญญัติ"ที่เราใช้เพื่อสื่อสารกันเท่านั้น มีใครสักกี่คนที่ข้าใจแก่นแท้ของแก่นธรรมของพระพุทธองค์ได้จริง เมื่อท่านอ่านพระไตรปิฎกท่านตีความหมายได้หรือไม่? ภาษาที่พระพุทธองค์ตรัสแก่พระสาวกท่านเข้าใจความหมายดีหรือ?

"ดูกรอานนท์..กำมือแห่งอาจารย์ในธรรมทั้งหลายย่อมไม่มีแก่ตถาคต..
เจริญในธรรมนะทุกๆท่าน

 

แหม่ อุตส่าปูเสื่อรอดู เอาสิพระเจ้าท่านมีธรรมใดจะบอกก็บอกมา
เราผู้น้อยน้อมรับฟังไว้ก่อนแล้วกันนะ 5555+

 

โอ้!! ว้าว ว้าว กำมือแห่งอาจารย์ในธรรมทั้งหลายไม่มีแก่คถาคต..

ไม่เคยได้ยิน เอามาโชว์หน่อยสิ!!พระไตรปิฏกเล่มไหน

ชื่อพระสูตรอะไร หน้าไหน บรรทัดที่เท่าไหร ตอนอะไร

โชว์หน่อยฮับป๋ม

 

นี่ก็อีกคน ไอ้จอมโม้ เก่งกันจัง(อ้าย ภาษาอีสานแปลว่าพี่นะฮับ ผมนับถือนะถึงพูดแบบนี้)
black_pig

 

ไปค้นดูแล้วไมเจออะ ที่ต้นฉบับพระไตรปิฏก

พระไตรปิฏกมีทั้งหมดกี่เล่ม

มีหมวดอะไรมั่ง ตอบหน่อย

ฮิว ฮิว:boo: ha ha

กำมือแห่งอาจารย์ในธรรมทั้งหลายไม่มีในคถาคต.. นั่นสิแปละว่าอะไรลือ
ท่านพระหูสูตรแปลไห้ฟังหน่อย

พระไตรปิฏกเล่มที่๑๐ พระสุตตันตปิฏก ทีฆนิกาย

[๑๑๐] ธรรมะเหล่าใดคือศีล สาธิ ปัญญา และวิมุตติ อันยอดเยี่ยม
อันมีพระโคดมผู้มียศตรัสรู้แล้ว ดังนั้น พระพุทธเจ้า จึงตรัสธรรมบอกแก่ภิษุกทั้งหลาย
เพื่อความรู้ยิ่ง พระศาสดาผู้กระทำซึ่งที่สุดแห่งทุกข์ มีพระจักษุ ปรินิพพานแล้วฯ

[๑๖๕] ดูกรอานนท์ อีกประการหนึ่ง ช้างแก้วได้ปรากฏแก่พระเจ้ามหาสุทัสสนะ
เป็นม้าขาวล้วน ศรีษะดำ มีผมเป็นพวงประดุจหญ้าปล้อง มีฤทธิ์ ไปในอากาศ ชื่อวลาหก
อัศวราช ท้าวเธอทอดพระเนตรเห็นแล้ว ทรงพอพระทัย ดำรัสว่า ท่านผู้เจริญ ถ้าได้
ฝึกหัด ลำดับนั้น ม้าแก้วนั้นก็เข้าถึงการฝึกหัดเหมือนอย่างม้าอาชานัยตัวเจริญ ที่ได้
รับการฝึกหัด เรียบร้อยดีตลอดเวลานาน ฉะนั้น ดูกาอานนท์ เรื่องเคยมีมาแล้ว พระเจ้า
มหาสุทัสสนะ เมื่องจะทรงทดลองม้าแก้วตัวนั้นแหละ ได้เสด็จขึ้นทรงในเวลาเช้า เสด็จ
เลียบตลอดปฐพีอันมีสมุทรเป็นขอบเขต แล้วเสด็จกลับมากุสาวดีรธานี แล้วเสวยพระกระ
ยาหารเช้า ดูกรอานนนท์ ม้าแก้วเห็นปานนี้ได้ปรากฏแก่พระเจ้ามหาสุทัสสนะฯ


ผมได้มาแบบนี้ ขอดูฉบับเต็มของคุณหน่อย

 

ดูจากสำนวนภาษาของท่านก็บ่งบอกอะไรได้หลายอย่าง แต่ไม่มีประโยชน์ที่จะโต้เถียง และที่เข้ามาก็ไม่มีจุดประสงค์จะอวดรู้ เพียงแต่อยากให้โอกาสเจ้าของกระทู้เขาได้สื่อเท่านั้นเอง และถ้าอยากรู้จริงๆ ก็ขอแนะนำให้ไปหาหนังสือ"อสีติมหาเถระสาวก 80 พระอรหันต์ ชีวประวัติและคำสอนของพระเถระสาวกใสมัยพุทธกาล"หน้า126ดูก็จะเข้าใจ

 

ก็ผมรู้ไง ว่าคุณกับ จขกท เป็นคนประเภทไหน

ผมจึงไช้คำพูดแบบนี้ไง ถ้าภาษาชาวบ้าน

เขาเรียกว่า ทลึ่ง ไม่รู้จักสิ่งศักสิทธิ์ ที่คนเขากราบไหว้บูชา

ไมรู้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร

ไม่รู้ว่าอะไรเป็นปูชนีย์ ที่คนทั้งประเทศไทย

เขาเคารพ บูชา คนแก่ คนเฒ่า ปู่ย่า ตายาย

เขาบูชาความดี ของพระพุทธเจ้าท่าน

นี่อะไร เอามาเล่น อ่างขนาดว่าเป็น

พระพระพุทธเจ้า เป็นพระศรีย์ จะทำไปทำไม

จะเล่นไปเพื่ออะไร ว่างมากนักหรือไง

ถึงได้มีความคิดอุตะริเช่นนี้

พุทโธอัปมาโน ธรรมโมอัปมาโน สังโฆ อัปมาโน

คุณของพระรัตนตรัยหาประมาณไม่ได้

คุณพระรัตนตรัย มีคุณกับคนไทย ทั้งชาติ ทั้งแผ่นดิน

พวกคุณเป็นใคร สำหรับผมแล้ว ก็แค่แมลงสาป

หรือเหลือบของพระศาสนา

 

เฮ้ย~~

หยุดเถอะครับผม

- -ผมแค่ลองเป็นพระศรีเท่านั้นเอง

ผมไม่เป็นละ เป็นพระศรีจริงหรือปลอมแล้วมาบอกใครก็โดนด่าอยู่ดีแหละ

พอเถอะนะ

ไม่งั้นผมจะมาเป็นแทนให้อีก