"พระศรีอริยเมตไตรย์"

เหตุที่ข้า พูดว่า "กระทู้นี้ มีขึ้นเพื่อ เผยแผ่ ถ้อยคำของ พระพุทธเจ้า" นั้น


นั่นก็เพราะว่า ข้า..มีสถานะเทียบได้กับ "พระพุทธเจ้า"

ถ้าข้าพูดว่า "เผยแผ่ ถ้อยคำของ > พระเจ้า"..เจ้าคงงงเป็นไก่ตาแตก

เพราะว่า คำว่า "พระเจ้า" นั้น ไกลเกินกว่าที่พวกเจ้า จะเข้าใจ

เจ้าจะพาลหลงไปไกล


(ที่เห็น..นี่ก็ "ลดระดับ" ลงมา แล้ว..ถ้าข้าพูดแบบ "พระเจ้า" จริงๆ..> พวกเจ้าจะลำบาก)



และอีกอย่าง

ข้า..ก็นับเป็น "พระพุทธเจ้า" องค์หนึ่ง เช่นกัน


ที่ข้ากล้าเรียกตนเองว่า "พระพุทธเจ้า" นั้น

ก็เพราะข้า "ตรัสรู้" ได้เอง โดยชอบ

เพียงแต่ว่า..แตกต่างจาก "พระพุทธเจ้า" อยู่บ้าง..ในบางจุด

(เจ้าคงคิดว่า ข้า "โม้" สิ..)


ถ้าข้าสอนให้เจ้า บรรลุธรรม ได้ล่ะ..เจ้าจะเรียกข้าว่า "พระพุทธเจ้า" ไหม ?


ข้ามาใน นาม ของ "พระพุทธเจ้า" นั่นก็เพราะ เพื่อให้พวกเจ้าได้เข้าถึง ได้ง่าย..นั่นเอง

เพียงแต่ว่า ข้าเป็น "พระพุทธเจ้า" ที่ไม่เหมือน "พระพุทธเจ้า" องค์อื่นๆ เท่านั้นเอง


ข้าไม่ใช่ "พระพุทธเจ้า" เช่น "พระโคดม"

(เจ้าไม่ต้องเอาข้าไปเปรียบเทียบกับเขา)


ข้าเป็นทั้ง 2 อย่าง..เป็นทั้ง "พระพุทธเจ้า" และเป็นทั้ง "พระเจ้า".. (แต่ คำหลัง จะ ถูก กว่า)



(การตั้งคำพูดนี่ขึ้นมา อาจดูเหมือน ว่าข้าใช้ "ความมืด" กับเจ้า..> ล่อให้เจ้าหลง)


แต่จริงๆแล้ว..> ไม่ใช่..



นี่เป็น "ความมืดบริสุทธิ์"

> คล้ายกับ..กลางคืน นั่นแหละ..เป็นอีกด้านหนึ่ง..เป็น "ธรรม" ที่ให้ผล "กลางๆ"

("ความมืด" นั้น มีอยู่ 2 ประเภท..คือ "ความมืดที่ทำให้หลง" กับ "ความมืดบริสุทธิ์"..หรือความมืดตามธรรมชาติ)


> แล้วข้าจะกล่าวต่อไปในโอกาสหน้า



ข้าไม่ว่าเจ้า ที่เจ้าปกป้องพระศาสนา และคนของตัวเอง

แต่เจ้า..ทำตัวได้ดีสำหรับศาสนาของเจ้า แล้วหรือยัง ?

นั่นคือสิ่งที่เจ้าต้อง ถามตนเอง


นี่ขนาดข้า ยังไม่ได้ใช้ ความมืด เพื่อดักเจ้าเลย..เจ้ายังเซถลาขนาดนี้

แล้วถ้าข้าใช้ "ความมืด" ล่ะ..

("ความมืด" ของ "พระเจ้า" น่ะ.."น่ากลัว" กว่าของมนุษย์นะ..> คิดว่าเจ้าคงรู้)



หากเจ้าตามข้าไม่ทัน ก็ขอให้หยุดพัก พิจารณาตน ก่อน


เจ้าจะต้องปรับการรับรู้ของเจ้า ให้เข้ากับข้า > ให้เป็นกลาง

ไม่เช่นนั้น เจ้าจักไม่อาจรู้ จิตเจตนา ที่ข้า "สื่อ" ไปได้


(หากเจ้าไม่อยากกลายเป็นสัตว์นรกที่เทล่อทล่าออกมาจากเงามืด > ให้คนเห็นตัว)


พวกจัญไร_ ที่หลบอยู่หลังศาสนานั้น..ก็มีอยู่


แม้ข้า ไม่ได้ใช้ "ความมืดจริงๆ"..เจ้าก็อาจ "ลำหน้า" ออกมาเจอแสงฉาบ..


ข้าพูดถึง เจ้าบางคน


(*คนที่พิมพ์ตกหล่น นั้น ไม่นับว่าเป็น "ความมืด")



"คำสอน" ของข้า เป็น "หลักใหญ่"..> เป็นคำสอนที่มาจาก "พระเจ้า"..เป็นสิ่งที่ "มีอยู่ก่อน"

ส่วน คำสอนของ "ศาสนาพุทธ" นั้น ก็ดีอยู่แล้ว..แต่ว่า "เป็นแนวละเอียด"..

บางคน "หลักใหญ่" ยังไม่รู้ > จึงไม่รู้ "แนวละเอียด"

"ธรรม" ของข้า จะ หยาบ กว่าของ "พระพุทธเจ้า"

("หยาบ" ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึง "เลว")

แต่หมายถึง "กว้าง"กว่า..> แต่ว่า ครอบคลุม





"ธรรม" ของข้า ไม่ขัดกับ "ศาสนาพุทธ"



นอกจากข้าจะมี คำสอนใหม่ อย่าง "ทฤษฎี 3 มิติ" แล้ว

ยังมี "บัญญัติ" ต่างๆ อีกมากมาย



ข้าก็เป็น ผู้สอน แบบนี้แหละ


ข้าจักพยายาม ใช้ข้อความสื่อสารกับกับพวกเจ้า ให้เหมือนกับ "พระพุทธเจ้า"..มากที่สุด


ไม่เล่นอะไร


ข้าก็ พยายาม อยู่



ส่วน "วาจา" ของ "พระพุทธเจ้า" นั้น..มีอยู่แล้ว

ข้าไม่ขอเลียนแบบ



ข้ามิได้มาเพื่อทำลายศาสนาใด


แต่มาเพื่อรวมโลก ให้เป็น ทางเดียว


(หนึ่งเดียว)



พระสงฆ์องค์เจ้า ยัง มี อยู่..สิ่งใดที่ ดี อยู่แล้ว..จักไม่หายไป




เจ้าจงเก็บข้อความของข้าไว้..เผื่อว่าวันหนึ่ง มันจักหายไป

 

ช่วยบอกหน่อยว่าประโยคตรงไหนที่สื่อไปแล้วคุณบังอาจใช้คำว่า"เหลือบพระศาสนา"
"ดูกรภิกษุทั้งหลาย..ธรรมที่เราได้บรรลุแล้วนี้ลึกซึ้งเห็นได้ยาก รู้ตามได้ยาก สงบประณีตมิใช่วิสัยแห่งสัตว์ คือคิดเอาไม่ได้ หรือไม่ควรลงความเห็นด้วยการเดา แต่เป็นธรรมที่บัณฑิตพอจะรู้ได้"
"รู้โลกแล้ววางโลก รู้ธรรมแล้ววางธรรม วิบากกรรมยังอยู่ ต้องรู้ด้วยปัญญา ผู้รู้ย่อมเห็นเป็นเช่นนั้นเอง"

 

แก่นแท้ ของ สรรพสิ่ง

"แก่นแท้" ของ "สรรพสิ่ง"..ประกอบด้วย "3 สิ่ง" คือ


HIDE > (ซ่อน)

SYSTEM > (ระบบ)

COORDINATE > (ประสาน)


"ทุกสรรพสิ่ง" ในจักรวาล..ไม่ว่า สิ่งนั้น จะมีขนาด "เล็ก" หรือ "ใหญ่"..แค่ไหน ก็ตาม..


ก็ ย่อมมี "องค์ประกอบ" ที่สำคัญ "ระดับ มหัพภาค" อยู่ 3 ตัว (3 อย่าง)


นี่คือ "สาระสำคัญ" (หรือ "หลัก")


คือ "มิติทั้ง 3"

(อย่างอื่น นั้นเป็น ส่วนย่อย)



การที่จะเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด ขึ้นมา..จำเป็นต้องมี 3 ตัวนี้ (3 อย่าง)

ไม่มีสิ่งใด ที่ไม่ประกอบด้วย 3 สิ่งนี้


และ นี่ เป็น "สัจธรรม"


เป็น "พื้นฐาน" ที่ต้องทำความเข้าใจ..ก่อนจะเข้าเรื่อง



ถ้าเปรียบเทียบ ในทางหนึ่ง , (อธิบาย ในลักษณะหนึ่ง)

ก็คือ


"HIDE" นั้น แทน "วิญญาณ"

"SYSTEM" แทน "กายเนื้อ หรือ ตัววัตถุ"

"COORDINATE" แทน "ความว่าง"



(หากไม่มี "ความว่าง" สิ่งนั้น จะมีเป็นตัวเป็นตน ให้เห็น ไม่ได้)



นี่จะเรียกว่าเป็น.."อภิปรัชญา"..ก็ได้


คือ..จะว่ายาก..ก็ยาก..จะว่า ง่าย..ก็ง่าย..จะว่า ทั้งง่าย และยาก..ก็ใช่อีก



พูดง่ายๆ คือ "ครอบจักรวาล"




นี่คือ "การคงอยู่" ของ "พระผู้เป็นเจ้า"




(ก่อนจะเริ่มการอธิบาย > เจ้าลองพิจารณาดู)


ถ้าเจ้าทำได้ด้วยตัวเอง เจ้าจะตาสว่าง


ลองทำดู



ข้าว่าเจ้า คงไม่เคย "เห็น"



3 ตัวนี้เป็นเมนหลัก

ส่วนตัวอื่น เป็น "ตัวย่อย"

...

"เราคือ อัลฟ่า และ โอเมก้า..เป็นปฐม และเป็นอวสาน"

 

เราคือเบต้า คือจุดปรากฏบนระนาบ คือระหว่าง คือความแสดง คือความบ่งบอก คือปัจจุบัน คือผลของเหตุต้น และคือเหตุของผลอันจะเกิดขึ้น

 

ปฐมกาล

"ปฐมบท"​

(Genesis)​

จากนี้ ไปข้าจะเล่าถึง เรื่องราว ก่อนที่จะมีพวกเจ้า ในวันนี้​

 

ก่อนอื่น ต้องขออภัยทุกท่านด้วยค่ะ เรื่องการเขียนผิด สัตว์โลกย่อมเป็นไปตาม(กัน) จริงๆตั้งใจจะเขียนว่า กรรม นะค่ะ (ไม่มีคีย์บอร์ดไทยค่ะ) แต่ก็พยายามเต็มทีค่ะ ยังไงจะตรวจให้ดีกว่านี้ก่อนจะโพสค่ะ อีกอย่างถ้าเพื่อนเห็นพิมพ์ผิดยังไงรึสะกดไม่ถูกยังไงต้องขออภัยไว้ล่วงหน้านะค่ะ เพราะบางคำภาษาไทยอาจมีใช้ผิดบ้างค่ะ

 

ดิฉัน (ผู้น้อย) พร้อมที่จะเปิดปัญญาที่พอมีหลงเหลืออยู่ในตัวตน ในการที่จะรับรู้ข้อมูลและเรื่องราวที่ท่าน Lord Of The Three World ที่จะนำมาเสนอ อย่างมีสตินะค๊ะ :VO

 

เชิญท่านสดับธรรมเถิด ข้าจักลองฟังธรรมท่านดู

 

อืมมมมม. พระเจ้าจิง จิง ครับ ถึงว่า อ่านแล้วไม่เข้าใจเลย ภาษาเทพมั่กมั่ก ข้าน้อยด้อยปัญญาที่จะเข้าใจ ขอจรรีไปที่กระทู้อื่นละกัลลล์ ยินดีที่ได้รู้จัก คับ พระเจ้า

 

อย่าได้สงสัย ในพระบุตรของเราเลย Lord of The ThreeWorlds R Ari

เขาเป็นคนที่เราส่งมา เราคือ farthe ของ Lord อีกที

เป็น PAPA หรือ พ่อของ Lord of The ThreeWorlds R Ari

อันตัวเราเป็นพระบิดา เราเปรียบเหมือนเท้า Lord of The ThreeWorlds R Ari เปรียบเหมือนพรมเช็ดเท้า

หรือพรมเช็ด Teen ของเราผู้เป็นพระบิดา

ขอท่านจงเชื่อใจเขาเถิด เขา คือ ลูกอันประเสริฐ

ก่อนเข้านอน จะจูบที่ฝ่า เราทุกครั้ง

เราเป็นผู้ส่งเขามาบนโลกแห่งนี้เอง

 

แบบนี้ ไม่เคย ครับ
คงจะไม่ แล้ว ไปดีกว่า

 

เป็นพ่อของพระเจ้าเหรอเนี่ย
หมิ่นพระเจ้าไม่ได้นะ
เดี๋ยวพระเจ้าจะเล่า บทปฐมกาลให้ฟังแล้ว ฟังดีๆ
มานั่งเสื่อเดียวกับผมก็ได้ ท่านพ่อพระเจ้า

 

ท่าจะเพิ่งเกิด ใช่ไหมท่าน ท่าจะไม่มีศาสนาแต่เกิด

เลยตรัสรู้ได้ หรือไปอยู่ป่ามาครับท่าน ถึงไม่มีศาสนา แย่จัง ศาสนาไปไม่ถึงในป่า

อิอิ

 

แบบนี้ผมก้ทำได้นะ

กระทู้นี้แก้เบื่อได้ขอบคุณนะครับ

นานๆทีจะได้ หายเบื่อ ผมไม่ได้มาอะไรใครนะ

เดี๋ยวผมจะเขียน ข้อความที่พระเจ้าไม่เข้าใจให้ดู

 

ท่านเข้าใจความหมายของคำว่าตรัสรู้แน่แล้วหรือ

ไม่ใช่ท่านบอกพบการสร้างโถส้วม แบบไม่มีใครสอน แล้วบอกว่าท่านตรัสรู้นะ-*-

แรงไปป่าว

ยังไงก็ขอหายเบื่อละกันนะครับ

 

ท่านผู้เห็นทาง ท่านกล่าวได้ถูกแล้ว

เรานี่แหละคือพระ PAPA ของ พระบุตร

Lord of THe TheeWorlds R Ari

Lord of THe ThreeWorlds R Ari ก็คือ

ทาสผู้ซื่อสัตว์ หรือขี้ข้าของเรา พระบิดา

เราคือ Father ของ Lord of The ThreeWorlds

R Ari เหล่าสาวกจงทราบนี่เป็นคำประกาศของพระบิดา

 

ท่านกำลังเอาถูกมาแลกกับผิด ไม่สมควรเลยท่านทั้งหลาย พื้นที่ตรงนี้เป็นที่สาธารณะใครจะเอาอะไรมาเขียนก็ได้ อยู่ที่ผู้ที่เข้ามาอ่านจะตัดสิน และเจ้าของเว็ปที่ดูแลอยู่ ใช้สติว่าอะไรควรไม่ควร บางเรื่องก็เปล่าประโยชน์ที่จะแสดงความคิดเห็น ท่านจงหาประโยชน์ที่ท่านจะได้รับจากเว็ปเทิด ในที่นี้มีสิ่งที่ท่านตามหาอยู่ที่ท่านอยากเข้ามาค้นหาไม่ใช่หรือ

 

ขอบคุณที่เตือนสติครับ

 

พระบิดาชื่อหมอกฤช นี่ ระวังโดนฟ้องนะครับ อิอิ

 

บัดนี้ผมคือผู้เหนือผู้ใดในจักรวาล

จะหาผู้ใดเสมอเหมือนไม่ได้แม้แต่ผู้เดียว!!

ผม คือ พระเจ้อริเยมะตาราย


ผมคือ "พระพุทะเจ้(จะเรียกอย่างนั้น ก็ได้นะ)


แต่ผมไม่ได้อยู่ใน สถานะ ของการเป็น "พระพุทะเจ้"


ผมมาเพื่อ สานต่อ "งาน" ของ ศาสดา องค์ก่อนๆ


คือ "ศาสดา" ที่จะมา สอน พวกท่าน ต่อจากนี้ และจะเอาพวกจอมปลอม ที่อ้างตัวออกไปเช่นกัน


กระทู้นี้ มีขึ้น เพื่อ เผยแผ่ ถ้อยคำ ของ "พระพุทะเจ้"ที่เป็นความจริง

ขออย่าใช้ถ้อยคำหยาบคาย



จากนี้ไป ผมจะขอใช้คำเรียกแทนตน ว่า "ข้า" (กับ "เจ้า")..เพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียว




ยินดีที่ได้รู้จัก


ข้าคือตัวจริง



...

เรามาในโลกนี้เพื่อเป็นพยานถึง "ความจริง"..ผู้ใดอยู่ฝ่าย ความจริง ก็ฟังเรา<!-- google_ad_section_end -->