พระสายหลวงปู่มั่น มีทั้งธรรมยุต และมหานิกาย

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย แดนโลกธาตุ, 8 มกราคม 2008.

  1. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    [​IMG]

    rum.jpg

    พอเข้าใจความรู้สึกครับ
    การปฏิบัติถ้ามองโดยรวม ๆ แล้ว 2 นิกาย แน่นอนย่อมมีความแตกต่างกัน สังคมของสงฆ์ก็แตกต่างกันพอควร แต่อย่างไรก็ตามก็ขึ้นอยู่กับวัด เจ้าอาวาส หมู่คณะ และตัวเราด้วยครับ

    การปฏิบัติเพื่อบรรลุธรรม ถ้าปฏิบัติถูกทางตามที่พระพุทธเจ้า นิกายไหน ก็บรรลุได้ครับ แต่เราต้องยอมรับความจริงอย่างหนึ่งว่า การเลือกเข้าอยู่ในเพศสงฆ์นั้น บางคนก็มีเป้าหมายแตกต่างกัน บางคนเพื่อศึกษาข้อวัตรปฏิบัติอันดีงาม บางคนเพื่อปฏิบัติเอามรรคผลเลย แน่นอนคณะสงฆ์ อาจารย์ผู้สอน เจ้าอาวาส สถานที่ย่อมมีผลอยู่ ผมไปวัด เห็นพระหลายรูปที่บวชเข้าไปโดยที่ไม่เลือกพิจารณาให้ดีก่อน ต้องลำบากในตอนหลัง เพราะไม่ตรงกับจุดประสงค์ที่ต้องบวชเข้าไปก็มี เช่น พระบางรูปบวชเพื่อศึกษาข้อวัตรแล้วปฏิบัติ แต่ไปอยู่กับเจ้าอาวาส อาจารย์ที่ชอบสร้างถาวรวัตถุ ก็ต้องไปทำงานก่อสร้าง จนตอนหลังก็ต้องออกจากวัด หรือสึกไปก็มี แล้วหาวัดบวช หรือ วัดอยู่ใหม่ก็มี

    ในสมัยหลวงปู่มั่น ซึ่งหลวงปู่มั่นอยู่นิกายธรรมยุกต์นั้น ตอนท่านเสร็จกิจท่านแล้ว ที่เชียงใหม่ หลวงปู่มั่นก็เคยบอกศิษย์ที่ใกล้ชิดในตอนนั้นว่า ในสมัยนั้น มีพระอรหันต์ 8 รูป ในไทยมีที่ไหนบ้าง ซึ่งก็พระนิกายมหานิกายด้วย ท่านบอกเกือบหมดครับ ยกเว้นองค์ที่ 8 ว่าคือใคร แต่คนที่อ่าน ก็พอคาดการณ์ได้ครับ ว่า องค์ที่ 8 คือใครกัน คือหลวงปู่มั่นนั้นเอง
    ต่อมาเมื่อท่านมีชื่อเสียง ลูกศิษย์มากขึ้น ก็มีพระหลายรูปอยากแปรญัตติมาเป็นธรรมยุกต์กัน แต่มีพระบางรูปที่เป็นลูกศิษย์ท่าน บวชในมหานิกาย ขอแปรญัตติเป็นธรรมยุกต์แต่ท่านไม่อนุญาต บอกให้เป็นมหานิกายดีแล้ว คือ หลวงปู่ชา ซึ่งต่อมาก็เผยแผ่คำสอนได้กว้างไกลมาก เป็นที่ยอมรับกันในหมู่พระสายหลวงปู่มั่น ยอมรับในหลวงปู่ชาด้วยครับ
    ดังนั้น เราเลือกไปที่วัด คณะสงฆ์ที่ไปอยู่ เจ้าอาวาส มีพระอาจารย์ผู้สอนอบรมเราได้มั้ย สอนเราได้ตามทางที่พระพุทธเจ้าทรงสอน ดีกว่าครับ ลองไปอยู่วัด ภาวนาตามวัดที่เราสนใจก่อน ดูข้อวัตรของพระ และอาจารย์ที่จะสอนเราได้ ลองศึกษาดู เราอยู่ได้มั้ย ท่านสอนเราได้ เอาเราอยู่มั้ยด้วย คณะสงฆ์ที่นั้นเป็นอย่างไร
    สุดท้ายก็ลองถามใจเรา เราพร้อมจริง ๆ หรือยัง ก็ต้องลองไปอยู่วัดนาน ๆ แล้วก็จะเห็นเองครับ
    หลวงปู่ชาเคยบอกว่า โคนะถ้าปล่อยวัด ยังไงก็ต้องกินหญ้า ถ้าไม่ใช่โค ไปเคี่ยวเข็ญให้กินหญ้า มันก็ไม่กิน

    ท่านหมายถึงว่า คนจะเป็นพระบวชได้ พอมาอยู่วัด ก็แสดงวิสัยที่เป็นพระได้ ไม่ต้องไปเคี่ยวเข็ญมาก ก็ปฏิบัติแล้ว พอครูบาอาจารย์สอน บอกให้ทำอะไร ก็ทำแล้วจะรู้เองว่า ที่ครูบาอาจารย์บอกนั้นมีผลอย่างไร

    อีกตัวอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดครับ คือ หลวงปู่ชาบอกให้พระลูกศิษย์ต้องไหว้กุฏิที่พักทุกครั้งก่อนเข้าออก ตอนแรกพระบางรูปไม่เข้าใจว่าทำไม แต่ก็ทำ พอทำแล้วบางรูปรู้เลย บางรูปลืม เดินออกไปแล้วไกล ก็ต้องเดินกลับที่กุฏิมาไหว้ก่อน แล้วออกไปใหม่ท่านเลยเข้าใจ ที่แท้หลวงปู่ชา ให้มีสติ ตอนอยู่ในกุฏิก็จะได้ไม่ประมาณสถานที่ เพียรปฏิบัติกัน รู้จักอ่อนน้อม จิตใจก็จะอ่อนโยนขึ้น มีสติได้ง่ายกัน เพราะถ้าไม่มีสติ ก็จะลืมไหว้เช่นนี้
    ____________________________________
     
  2. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    บวชกับพระสายหลวงปู่มั่น นิกายไหนก็ได้น่ะครับ ไม่ว่า ธรรมยุติ หรือ มหานิกาย ท่านก็ปฏิบัติงามเหมือนกันหมด แล้วท่านก็ไม่ถือนิกายด้วยครับ บางทีผมเห็นพระธรรมยุติไปอยู่กับที่วัดของมหานิกาย อันนี้คือพระป่าสายหลวงปู่มั่นน่ะครับ ท่านไม่ถือนิกายกัน ทำสังฆกรรมร่วมกันได้

    แต่ถ้าพระในเมืองนี่ เขาถือ เขาไม่ทำสังฆกรรมด้วยกัน ธรรมยุติจะถือว่ามหานิกายหย่อนทางพระวินัย น่ะครับ
     
  3. wuttichai0329

    wuttichai0329 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,016
    ค่าพลัง:
    +742
    ความจริงไม่ขึ้นอยู่กับสายครับ
    ขึ้นอยู่กับปารปฏิบัติ
    ถ้าจะแบ่งสาย ก็คือสายพระพุทธเจ้าครับ
     
  4. ศิษย์น้อย199

    ศิษย์น้อย199 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +15
    นิกายไม่สำคัญ อยู่ที่การปฏิบัติมากกว่า
    เหมือนทางไปกรุงเทพ ก็มีหลายเส้นทาง
    แม้แต่ มหายาน วัชรยาน หินยาน(เถรวาท) ก็เช่นกัน
    แล้วแต่จริต ความชอบ
     
  5. Mettigo

    Mettigo ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    121
    ค่าพลัง:
    +689
    การปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นไม้ได้อยู่ที่นิกายก็จริง แต่ถ้าต้องทำสังฆกรรมร่วมกันอาจจะไม่สะดวกอยู่บ้าง เพราะขนบธรรมเนียมของแต่ละนิกายจะแตกต่างกัน ทั้งที่โดยส่วนตัวแล้วท่านจะให้ความนับถือซึ่งกันและกันอยู่ครับ ผมเห็นในงานพิธีของทางราชการซึ่งต้องนิมนต์พระสงฆ์ทั้งสองนิกายมาปฏิบัติศาสนกิจร่วมกันท่านก็ให้เกียรติกันตามสมควรแก่ฐานานุรูปนะครับ
     
  6. นาๆจิตตัง

    นาๆจิตตัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    220
    ค่าพลัง:
    +412
    มีอยู่คราวหนึ่ง วันหนึ่ง ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นวันอาทิตย์ ข้าพเจ้า ออกไปทำธุระ..... ตาเหลือบไปเห็น
    พระภิกษุสองรูป ยืนอยู่ข้างถนน จึงได้จอดรถเผื่อว่าจะได้ไปส่งท่านทั้งสองรูป....ก็ นมัสการ ไถ่ถาม
    ท่านก็ตอบว่าจะไปนมัสการพระธาตุดอยสุเทพ......คิวรถหรือทางขึ้นไปทางไหนโยม ข้าพเจ้าก็อาสา...
    นิมนต์ขึ้นรถทั้งสองรูป ไปส่งถึงตีนดอย คิวรถขึ้นดอยสุเทพ ระหว่างทางก็พูดคุย สนทนากันไป...........
    ท่านก็เล่าว่า (ถ้าจำไม่ผิด เพราะนานแล้วพอสมควร) มาจากเชียงราย ธุดงค์มาเรื่อยจะไปหาโยม...
    ที่สุพรรณบุรี เพื่อไปปฏิบัติธรรมที่นั้น (พอสรุปได้ว่าโยมคงนิมนต์หรืออาราธนาล่วงหน้าไว้ก่อนแล้ว) ไม่มีปัจจัย
    เงินค่ารถไปถึงได้ ที่มีนี้ก็พอขึ้นรถไปกราบขออำนาจศักดิ์สิทธิ์ พระบรมธาตุดอยสุเทพช่วยดลบันดาล
    ให้สามารถไปถึงจุดหมายปลายทางได้เท่านั้น ข้าพเจ้า...ก็...... รู้สึกอึ้งพอสมควร........................
    ท่านก็เล่าต่อว่า ชอบทางสายปฏิบัติ รูปหนึ่งเป็นพระธรรมยุติอีกรูปเป็นพระมหานิกาย ธุดงค์และปฏิบัติด้วยกัน
    มาเรื่อยไปไหนไปด้วยกัน......ข้าพเจ้าก็สนทนาทางธรรมกับท่าน ก็สนทนาตอบ กลับกันไป มา
    (ก็พูดคุยต่อไปเรื่อยพอสมควร) พอถึงจุดหมายปลายทาง ข้าพเจ้าก็ถวายปัจจัยสมทบเป็นค่าเดินทาง
    ดูท่านทั้งสองรูปก็ท่าทางอึ้ง ไป เหมือนกัน จากนั้น ท่านก็ให้พร.........................

    ข้าพเจ้าคิดว่าสภาพกำแพงหรือสิ่งกางกั้น.........มันเป็นภาพลวงตา เป็นสิ่งสมมุติ
    ที่ผู้คนมักยึดติดหรือมองสภาพความเป็นจริงไม่เห็น ตราบใดที่ยังไปยึดกับสิ่งสมมุตินั้นอยู่
     

แชร์หน้านี้

Loading...