โล๊ะ!!!!! ทุกรายการ 100 บาท...เริ่มหน้า 676 เป็นต้นไป

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ญาณวโร นามะ, 4 มกราคม 2017.

  1. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,611
    ค่าพลัง:
    +4,634
    161.น้ำเต้ารุ่นแรก รูปขาวดำ หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ กทม. **แบ่งให้บูชา พีเอมหรือโทรถามครับ****มีผู้รับนิมนต์แล้วครับ**
    DSC_0084.JPG DSC_0085.JPG DSC_0086.JPG DSC_0104.JPG DSC_0105.JPG DSC_0106.JPG DSC_0107.JPG DSC_0108.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มกราคม 2017
  2. Chaztis

    Chaztis Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2016
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +55
    จองรายการที่ 90 ตะกรุด คงดวง หลวงพ่อแม้น วัดหน้าต่างนอกครับ
     
  3. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,611
    ค่าพลัง:
    +4,634
    รับทราบการจองครับ
     
  4. baimin

    baimin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,933
    ค่าพลัง:
    +14,580
    ขอจองบูชาครับ :D:D:D
     
  5. bambird69

    bambird69 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2015
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +87
    รับบูชาครับ
     
  6. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,611
    ค่าพลัง:
    +4,634
    รับทราบการจองครับ
     
  7. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,611
    ค่าพลัง:
    +4,634
    รับทราบการจองครับ
     
  8. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,611
    ค่าพลัง:
    +4,634
    162.เหรียญหล่อรูปเหมือน หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ รุ่น ทอดผ้าป่า เนื้อเงิน ปี 2534 สภาพสวย **แบ่งให้บูชา 390 บาท******คุณa...จองทางไลน์ครับ***
    DSC_0133.JPG DSC_0134.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มกราคม 2017
  9. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,611
    ค่าพลัง:
    +4,634
    163.พระเนื้อดินพิมพ์ขุนแผน พิมพ์พลายเดี่ยว เทวดา หลวงพ่อปลัดทวี วัดบ้านกร่าง พ.ศ.2492 หลวงพ่อมุ่ย, อ.นำ ,หลวงพ่อถิร ปลุกเสก หลังปั้มตราวัด***แบ่งให้บูชาเบาๆ 450 บาท*****ปิดรายการนี้ครับ**
    พระขุนแผนวัดบ้านกร่างปลัดทวี
    สร้างโดยพระปลัดทวี พระครูอาภัสศีลคุณ หลานหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่) วัดบ้านกร่าง ศรีประจันต์ สุพรรณบุรี
    ส่วนผสมหลักคือพระขุนแผนวัดบ้านกร่างที่แตกหัก จากก้นกรุประมาณ 1 โอ่งมังกร

    ได้เริ่มสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2490 ปลุกเศก ปี 2492
    มวลสารที่ใช้สร้าง
    1.พระเครื่องก้นกรุวัดบ้านกร่าง ที่แตกหัก จำนวน 1 โอ่งมังกรเป็นมวลสารหลัก และดินก้นกรุ
    2.ดิน7โป่ง ดินขุยปู 7 ทุ่ง
    3.ดินสังเวชนียสถาน 4
    4.ดินกรุพระซุ้มกอกำแพงเพชร
    5.พระรอดมหาวันที่แตกหัก และดินก้นกรุพระรอดมหาวัน ลำพูน
    6.ดิน ผงธูป เกษรดอกไม้ จากวัดพระธาตุดอยสุเทพ และวัดอื่น ๆ ทางภาคเหนือ
    7.ผงวิเศษ และผง 108 จากหลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์
    8.ผงวิเศษจากพระเมธีธรรมสาร (หลวงพ่อไสว) วัดบ้านกร่าง
    9.ผงวิเศษจากหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่
    10.ดิน ผงธูป เกษรดอกไม้ จากทางภาคอีสาน วัดใน จ. ขอนแก่น พระธาตุช่อแฮ อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี
    11.พระเนื้อดินจากกรุวัดพระรูป สุพรรณ
    12.ผงธูป พระร่วงโรจนฤทธิ์ พระปฐมเจดีย์ วัดพระนอนจักรสีห์ สิงห์บุรี พระนอน วัดพระเชตุพนฯ สมเด็จพระศาสดา วัดสุทัศน์ พระอัฏฐารส พิษณุโลก พระเเก้วมรกตในพระบรมมหาราชวัง เจดีย์ภูเขาทองวัดสะเกศ
    13. ดิน ผงธูป เกษรดอกไม้ จากพระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์
    14.ดิน 7 วัง วังบางขุนพรม วังบูรพา วังสราญรมย์ วังเทเวศร์ วังสุโขทัย วังจันทร์เกษม และพระบรมมหาราชวัง
    15.ดิน 5 ทัพ ทัพขุนช้าง ทัพขุนแผน ทัพผึ้ง ทัพหมัน ทัพหลวง
    16. ดิน 5 ถ้ำ ถ้ำมหาสนุก สระบุรี ถ้ำกินนร สระบุรี ถ้ำเขาวัง เพชรบุรี ถ้ำจอมพล ราชบุรี ถ้ำเขานกจอด กาญจนบุรี
    17.ดิน 7 สระ สระแก้ว สระคา สระยมนา สระเกษ สระหนองหลวง สระลาดสิงห์ สุพรรณบุรี สระโกษิณารายณ์ กาญจนบุรี
    18 ดิน7 ท่า ท่าช้างวังหน้า ท่าราชวรดิษฐ์ ท่าเสด็จ ท่ามะกา ท่าม่วง ท่านางเริง ท่าวาสุกรี
    19ทราย 7หาด บางแสน พัทยา หัวหิน หาดประจวบ ภูเก็ต เจ้าสำราญ แหลมสิงห์


    เริ่มสร้างตั้งแต่ปี 2490 จึงได้นิมนต์พระอาจารย์ 7 รูปมาทำพิธีปลุกเศก และบวงสรวงขณะกดพิมพ์พระ
    1.หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่
    2.หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย
    3.หลวงพ่อโต๊ะ วัดลาดตาล
    4.หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์
    5.หลวงพ่อไสว วัดบ้านกร่าง
    6.หลวงพ่อคำ วัดหน่อพุทธางกูร
    7.หลวงพ่อเปลื้อง วัดสุวรรณภูมิ
    โดยจะพิมพ์พระภายในวิหารวัดบ้านกร่าง และจะเผาพระเครื่องเฉพาะ วันเสาร์ ตามตำราโบราณ

    ได้จำนวนพระบ้านกร่างประมาณ 3 แสนกว่าองค์ครับ

    จนถึงปี 2492 จึงได้ทำพิธีพุทธาภิเษกก่อนจะนำไปบรรจุกรุเจดีย์เดิม มีพระอาจารย์มาดังนี้
    1.หลวงพ่อนำ วัดดอนศาลา พัทลุง
    2.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
    3.หลวงพ่อเปลื้อง วัดสุวรรณภูมิ
    4.หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่
    5.หลวงพ่อแขก วัดหัวเขา
    6.หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย
    7.หลวงพ่อโต๊ะ วัดลาดตาล
    8.หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์
    9.หลวงพ่อคำ วัดหน่อพุทธางกูร
    10.หลวงพ่อไสว วัดบ้านกร่าง
    มีการแจกผู้ที่มาร่วมงาน แล้วจึงนำบรรจุกรุเจดีย์เดิม

    จนปี พ.ศ. 2511 เปิดกรุ
    สมัยจอมพลถนอม กิตติขจรได้มีจดหมายมาขอพระไปแจกทหารสงครามเวียดนาม ได้เปิดกรุครั้งแรก 4000 องค์
    ครั้งที่ 2.สมัยจอมพลประพาส จารุเสถียร ได้ขอไปแจกทหารรุ่นกองพลเสือดำ จำนวน 5000 องค์
    ครั้งที่ 3 ทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 10,060 องค์
    ครั้งที่4 พ.ศ.2513 พ.อ.อำนวย สุรเชษฐ์ ค่ายจิรประวัติ นครสวรรค์ นำไปแจกทหาร 4500 องค์
    ครั้งที่ 5มอบให้ ผบ. พันกองบินยุทธการกำแพงแสน นครปฐม 1500 องค์
    ครั้งที่ 6 ปี 2523แจกทหารชายแดนอรัญญประเทศ 8900 องค์
    ครั้งที่ 7.ปี 2524 งานผูกพัทธสีมาวัดบ้านกร่าง 10000 องค์
    แล้วก็ได้ทยอยเปิดกรุออกมาเพื่อให้ประชาชนร่วมทำบุญ จนถึงปัจจุบัน



    “พระครูอาภัสศีลคุณ” หรือ พระปลัดทวี รองเจ้าอาวาสวัดบ้านกร่าง(ในสมัยนั้น) ท่านเป็นศิษย์ที่ได้รับการครอบครูจากท่านลพ.มุ่ย วัดดอนไร่ ท่านหนึ่ง ท่านได้รวบรวมพระขุนแผนกรุวัดบ้านกร่างที่แตกหัก มาบดเป็นส่วนผสมในการจัดสร้างพระขุนแผนขึ้นใหม่ โดยแกะพิมพ์เป็นศิลปะเดิม มีมากมายหลายพิมพ์ โดยสร้างมาตั้งแต่ปี๒๔๙๓ ทำพิธีพุทธาภิเษกขึ้นหลายครั้ง แต่ละครั้งมีพระเกจิอาจารย์ดังๆในจ.สุพรรณบุรีมาร่วมปลุกเสกมากมาย พระส่วนใหญ่ได้มีการนำมาให้บูชาที่วัดดอนไร่ วัดหนองบัวทอง และบางส่วนได้นำไปบรรจุกรุไว้ พิธีพุทธาภิเษกพระขุนแผนปลัดทวีครั้งหนึ่งในปี๒๕๐๐ ซึ่งลพ.มุ่ยได้รับอาราธนามาปลุกเสกพร้อมกับพระเกจิสุพรรณอีก10รูป อาทิเช่น หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ ,เจ้าคุณไสว วัดบ้านกร่าง ,หลวงตาจวน วัดไก่เตี้ย ,หลวงพ่อโต๊ะ วัดลาดตาล ,หลวงพ่อดี วัดพระรูป ,หลวงพ่อเจริญ วัดหนองนา ,หลวงพ่อฮวด วัดดอนโพธิ์ทอง ,หลวงพ่อสม วัดดอนบุบผาราม ฯลฯ
    อิทธิปาฏิหาริย์ต่อไปนี้คัดมาจากคำบอกเล่าของลุงชนะ ยางขาคีม ในพิธีปลุกเสกท่านหนึ่ง ซึ่งได้คัดลอกมาเพียงบางส่วนจากหนังสือ "พระครูสุวรรณวุฒาจารย์ หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่" ฉบับมาตราฐาน
    ดังนี้......."พอได้เวลาปลุกเสกตามหมายกำหนด พระเถระทั้งหลายก็นั่งประจำอาสนะ ซึ่งหันหน้ารายล้อมพระขุนแผนเนื้อดินเผาที่กองสุมไว้เบื้องหน้า หลวงพ่อทั้งหลายต่างเข้าสมาธิ หลับตาบริกรรมคาถาเพ่งกระแสจิตถ่ายทอดวิชาอาคมออกมาตามกรรมวิธีของแต่ละรูป ครั้น เมื่อเวลาผ่านไปนานนับชั่วโมง พระคุณเจ้าทั้งหลายต่างก็ถอนจิตออกจากสมาธิกันตามลำดับจนครบ คงเหลือแต่หลวงพ่อมุ่ย เพียงรูปเดียวที่ยังไม่ยอมถอนจากสมาธิ คงสำรวมกายอยู่ในฌานอันแน่นิ่งต่อไปอีกเป็นเวลานานโข ท่ามกลางเสียงพูดคุยระงมของญาติโยมและพระคุณเจ้าผู้ร่วมพิธีที่ต่างสนทนากัน ไปพลางๆ เพื่อรอหลวงพ่อเพียงรูปเดียว อีกราวครึ่งชั่วโมงต่อมา หลวงพ่อก็ขยับกายลืมตาส่งสัญญาณว่ากำลังถอนจากสมาธิ สองมือที่ประสานกันบนหน้าตักทั้งซ้ายและขวาก็คลายออกจากกัน ............... ในทันทีที่มือคลายออกมา หลวงพ่อก็ตบฝ่ามือทั้งสองลงบนเข่าแบบเน้นน้ำหนัก ฉับพลันทันใด พระเนื้อดินและสรรพส่งวัตถุมงคลต่างๆในท่ามกลางพระอุโบสถวัดบ้านกร่าง ก็สะท้อนรับแรงพลังขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว กระโดดกระเด็นขึ้นมากระทบกันกราว แผ่ขยายกระจายออกมาตามแรงแห่งกฤตยาคมอันแก่กล้า จากจุดศูนญกลางแผ่เป็นรัศมีกระจายขยายออกมา ณ เบื้องหน้าอาสนะของหลวงพ่อ ครอบคลุมบริเวณกินเนื้อที่เท่าผืนเสื่อ ที่ใกล้ๆ ก็กระโดดกระเด็นสูงสักศอกเศษ ที่ไกลออกมาก็ผ่อนกำลังโดดเตี้ยลงตามลำดับ ไม่เว้นแม้แต่ส่วนล่างที่ถูกทับสุมกันไว้ต่างก็ขยับตาม ส่งเสียงกระทบกันเกรียวกราวอย่างน่าอัศจรรย์ และในทันทีที่พระลอยขึ้นมา นั้น หแลวงพ่อก็ยื่นมือออกมากลางอากาศโดยเร็วพลัน คว้าพระได้จำนวนหนึ่ง ยัดลงใส่ย่าม ลุกออกมาในทันที ทิ้งไว้แต่ความอัศจรรย์แก่ผู้ที่อยู่ในพิธี ไม่เว้นแม้แต่พระเถระผู้เป็นสหธรรมิกร่วมในพิธีทั้ง10รูป โดยก่อนที่จะออกจากพระอุโบสถ พระคุณเจ้าเหล่านั้นต่างเดินอ้อมกองพระ มายังหน้าอาสนะของหลวงพ่อมุ่ย นำพระขุนแผนตรงบริเวณดังกล่าวใส่ย่ามไปรูปละ1กำมือ จนครบทุกรูป ส่วนบรรดาญาติโยมผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ในครั้งนั้น ต่างก็หยิบพระขุนแผนเอาจำเพาะเจาะจงตรงหน้าอาสนะของหลวงพ่อกันตามอย่าง

    ต่อ มาในปี๒๕๑๒ ได้มีการนำพระที่บรรจุในกรุออกมาเพื่อแจกแก่ทหารที่ไปรบเวียดนาม และประชาชนทั่วไป เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในยามศึกสงคราม พระรุ่นนี้จึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า พระขุนแผน รุ่น"กองพลเสือดำ" ในครั้ง นั้นก็ได้จัดให้มีการปลุกเสกอีกครั้ง ซึ่งหลวงพ่อมุ่ย ก็มาร่วมในพิธีปลุกเสกเช่นกัน นอกจากนั้นยังมีพระเกจิดังๆในยุคนั้นมาร่วมอีกหลายรูป อาทิเช่น หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่,หลวงพ่อแขก วัดหัวเขา,หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง,พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา ฯลฯ

    kunpan.jpg DSC_0137.JPG DSC_0138.JPG IMG_0027.JPG IMG_0024.JPG 1178689-50714.jpg IMG_0033.JPG IMG_0036.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2017
  10. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,611
    ค่าพลัง:
    +4,634
    165.พระปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์รุ่นเสาร์5 จัดสร้างเมื่อปีพ.ศ.2536 โดยท่านเจ้าคุณวิเชียร เจ้าอาวาสวัดเครือวัลย์ จัดพิธีอย่างยิ่งใหญ่ในวันอันเป็นมงคลเสาร์5 ปลุกเสกอย่างเข้มขลัง5วาระ มวลสารที่ใช้สร้างองค์พระปิดตาก็สร้างจากมวลสารชั้นยอด(ตามรายละเอียดด้านล่าง) **แบ่งให้บูชา 950บาท*****มีผู้รับนิมนต์แล้วครับ**
    ประวัติและมวลสารและพิธีการสร้าง

    พระปิดตา รุ่นเสาร์5 ปี2536 (เจ้าคุณวิเชียร วัดเครือวัลย์) รุ่นเสาร์5นี้ เป็นพิธีใหญ่เป็นรุ่นที่ผ่านการปลุกเสก 5 ครั้ง ครั้งที่1 วัดท่าซุง อุทัยธานี (100วัน หลวงพ่อพระราชพรหมยานเถระ และได้อธิฐานจิตจากหลวงปู่บุดตา ถาวโร) ครั้งที่2 วัดราษฎร์บำรุง ชลบุรี (โดยพระคณาจารย์ มีหลวงพ่ออุตตมะ เป็นต้น) ครั้งที่3 วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จ.ลำพูน (หลวงปู่ครูบาวงศ์ อธิฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว) ครั้งที่4 วัดบางพระ จ.นครปฐม (หลวงพ่อเปิ้น พร้อมพรัคณาจารย์) ครั้งที่5 วัดเครือวัลย์ ชลบุรี (เจริญพุทธคุณ 108 คาถาชินบัญชร และคาถาเงินล้าน ตลอดวันเสาร์5) สำหรับมวลสารที่ใช้ในการสร้างหลวงพ่อแก้วมีผง หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ผงหลวงปู่ภูวัดต้นสน ผงแป้งเสกของหลวงปู่บุตตา ถาวโร และเกศาของหลวงพ่อพระราชพรหมยานเถระ วัดท่าซุง ตลอดจนผงสมเด็จของวัดต่างๆ ผงคลุกรักปิดทองซึ่งกระเทาะจาก องค์พระประธานในอุโบสถวัดเครือวัลย์ เมื่อครั้งบูรณะปฎิสังขรณ์ดินจากสังเวชนียสถาน 4 ตำบล ณ ประเทศอินเดีย
    DSC_0146.JPG DSC_0149.JPG DSC_0151.JPG get_auc3_img (1).jpg get_auc3_img (2).jpg get_auc3_img (3).jpg get_auc3_img (4).jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2017
  11. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,611
    ค่าพลัง:
    +4,634
    มีผู้รับนิมนต์แล้วครับ
     
  12. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,611
    ค่าพลัง:
    +4,634
    มีผู้รับนิมนต์แล้วครับ
     
  13. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,611
    ค่าพลัง:
    +4,634
    มีผู้รับนิมนต์แล้วครับ
     
  14. anamvong01

    anamvong01 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2016
    โพสต์:
    434
    ค่าพลัง:
    +180
    ผมชำระค่าบูชาพระรายการที่ 155,158 และ 162 แล้วน่ะครับ
    ที่อยู่ ตามทาง Line ครับ
     
  15. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,611
    ค่าพลัง:
    +4,634
    รับทราบครับ ขอบคุณครับ
     
  16. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,611
    ค่าพลัง:
    +4,634
    166. สมเด็จหลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา ปี2509 พิมพ์ใหญ่ บล็อค 16จุด เป็นองค์ที่มีเม็ดแร่ติดเยอะมากครับ สภาพสวย กล่องเดิมๆ **แบ่งให้บูชา 790 บาท*****คุณanamvong01จองครับ**
    พระเนื้อผงพระพุทธโสธรปี2509แบ่งออกได้2พิมพ์คิอพิมพ์เล็ก-พิมพ์ใหญ่
    พระพิมพ์ใหญ่ยังแยกพิมพ์พระออกได้อีก3พิมพ์คือ...
    -พิมพ์ใหญ่ พิมพ์นิยม9จุด(นับจากเม็ดใข่ปลาในผ้าทิพย์)
    -พิมพ์ใหญ่ พิมพ์12จุด
    -พิมพ์ใหญ่ เนื้อหยาบพิมพ์16จุด
    เอกลักษณ์ของพระเนื้อผงปี2509 คือพระทุกพิมพ์ด้านหลังจะเรียบ
    DSC_0163.JPG DSC_0164.JPG DSC_0165.JPG

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มกราคม 2017
  17. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,611
    ค่าพลัง:
    +4,634
    167. ***ยอดมวลสาร ยอดพิธี อันศักสิทธิ์!!!*** พระสมเด็จสุคโต วัดบวรนิเวศวิหาร ปี 2517 สภาพงามเดิมๆ **แบ่งบูชา 850 บาท***ปิดรายการนี้ครับ
    พระชุดนี้นับว่าจัดสร้างได้ดีที่สุดของวัดบวร เนื่องจากในหลวงเสด็จพระราชดำเนิน เนื่องในวโรกาส ยกนพฎลพระมหาเศวตฉัตรนับว่าเป็นงานมหามงคลอันสูงสุดและที่สำคัญนพฎลพระมหาเศวตฉัตรองค์ก่อนสมัยรัชการที่5 นำมาเป็นส่วนผสมของพระสมเด็จซึ่งเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่สร้างพระกันขึ้นมาในเมืองไทย ยังมีพระศกพระพุทธสุวรรณเขต(พระหลวงพ่อเพชรที่อยู่หลังพระพุทธชินสีห์ที่ ชำรุด) เส้น เกศาพระสังฆราชในวัดบวรถึงสี่พระองค์ คือ พระเกศาสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส สมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมหลวงวชิรญาณวงศ์ สมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบันและ ผงตะไบช่อฉนวนพระกริ่งวัดบวรมวลสารสร้างพระศาสดาปี16ที่มีผงจิตรลดาด้วยแค่นี้ก็นับว่าสุดยอดของสายวัดบวรแล้ว มวลสารจากเกจิทั่วประเทศนำมาถวายฯลฯ เช่นพระธาตุจากสายพระป่า เส้นเกศาพระ อ.ฝั้น อาจาโร พระสมเด็จปริลันท์และผงสมเด็จวัดระฆังบางขุนพรหมที่ชำรุด วงการขนานพระนาม พระชุดนี้ว่าพระ 3 สมเด็จเพราะ อันประกอบด้วยผงสมเด็จโตวัดบางขุนพรหม สมเด็จปิลันท์ และสมเด็จสังฆราชองค์ปัจจุบันส่วนพิธีอธิษฐานจิต โดยประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษกในพระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร โดยสมเด็จพระสังฆราชฯ ทรงเป็นองค์ประธานฯ ในพิธีดังกล่าว มีการอาราธนาพระเถระคามวาสี และพระเถระอรัญวาสี(พระป่า) ที่ทรงกิติตคุณในทางพระกรรมฐานมาเป็นจำนวนมาก อาทิ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงปู่ฝั้น เป็นต้น เป็นพระสมเด็จ ที่มีการจัดสร้างอย่างครบถ้วนตามโบราณ ประเพณี เจตนาการสร้างบริสุทธิ์
    DSC_0166.JPG DSC_0167.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กุมภาพันธ์ 2017
  18. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,611
    ค่าพลัง:
    +4,634
    168.พระสมเด็จเกศไชโย พิมพ์7ชั้น(นิยม) วัดไชโย อ่างทอง รุ่นเสาร์5 ซุ้มจุด ปี2515 **แบ่งให้บูชา 550 บาท*****ปิดรายการนี้ครับ**
    พระสมเด็จพิมพ์เจ็ดชั้น(ซุ้มมีจุด) จัดสร้างโดยวัดเกศไชโยวรวิหาร อ.ไชโย จ.อ่างทอง เมื่อปี พ.ศ.2515 (เสาร์ห้า) องค์พระมีขนาด 2.7 x 3.7 cm โดยมีพุทธลักษณะเนื้อผงสีขาวนวล ด้านหน้าเป็นพระพุทธปางสมาธิ ฐานเจ็ดชั้น ส่วนด้านหลังเรียบ องค์พระสถาพสมบูรณ์ครับ มวลสารดี

    พระสมเด็จวัด เกศไชโย จังหวัดอ่างทองเป็นพระเนื้อปูนขาว สร้างโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรังสี) อดีตเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆษิตาราม ในสมัยรัชกาลที่ 4 กรุงรัตนโกสินทร์ พระสมเด็จวัดเกศไชโยฯ สร้างขึ้นประมาณปี พ.ศ. 2409 พุทธศิลปะอยู่ในสมัยรัตนโกสินทร์สมเด็จวัดเกศไชโย ตาม ความนิยมในวงการพระเครื่องมี 3 พิมพ์ด้วยกัน คือ

    1. พิมพ์ 7 ชั้น
    2. พิมพ์ 6 ชั้น อกตัน
    3. พิมพ์ 6 ชั้น อกตลอด

    โดยทุกพิมพ์มีลักษณะร่วมคือ อกร่อง หูบายศรี และ จะต้องมีขอบกระจกยกขึ้นเป็นฐานรองรับพิมพ์ไว้อีกชั้นหนึ่งทุกองค์

    ...... จากการบันทึกของพระยาทิศโกษา (สอน โลหะนันทน์) และนายกนก สัชฌุกร ซึ่งได้บันทึกจากการบอกเล่าของ พระธรรมถาวร จันทโชติ สามเณรที่ช่วยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรังสี) ตำผงเพื่อสร้างพระสมเด็จประมาณปี พ.ศ. 2409 ที่วัดระฆังโฆษิตารามฯ พระที่สร้างขึ้นในสมัยนั้นมีทั้ง 3 ชั้น และ 7 ชั้น ซึ่งพิมพ์ 7 ชั้น ได้นำไปบรรจุไว้ที่วัดเกศไชโยฯ จังหวัดอ่างทองพระสมเด็จวัดเกศไชโย พระยาทิพโกษาฯ ได้บันทึกไว้ว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรังสี) เป็นผู้สร้าง เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับโยมมารดา มีชื่อว่า"เกศ" และตามี ชื่อว่า"ไช" พระสมเด็จจึงถูกขนานนามตามชื่อวัดว่า " สมเด็จวัดเกศไชโย " สมเด็จพระพุฒาจารย์ ท่านสร้างพระสมเด็จพิมพ์ 7 ชั้น นี้ที่วัดระฆังโฆษิตารามฯ แล้วนำมาแจกและบรรจุไว้ในกรุวัดไชโยวรวิหาร ในคราวที่สมเด็จพระพฒาจารย์ฯ ได้สร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่วัดนี้
    DSC_0169.JPG DSC_0171.JPG 422695-557fa.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2017
  19. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,611
    ค่าพลัง:
    +4,634
    170.สมเด็จสุขะโตหลังสิงห์ หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ ปี2528 สภาพสวย **แบ่งบูชา 390 บาท *****ปิดรายการนี้ครับ**
    เนื้อหามวลสาร เพราะมีส่วนผสมของเศษพระชำรุดแตกหักตลอดจนวัสดุอาถรรพณ์และผงศักดิ์สิทธิ์ มากมาย อาทิ
    ผงสมเด็จวัดระฆัง
    ผงสมเด็จหลวงปู่ภู
    ผงพระปิลันทร์
    ผงพระวัดท้ายตลาด
    ผงวัดสามปลื้ม
    ผงพระวัดเงิน
    ผงพระวัดปากน้ำ
    ผงพระทิพย์โกษาสังฆราชแพ
    ผงชัยวัฒน์เจ้าคุณศรี
    ผงพระหลวงตาเกลี้ยง
    ผงลูกอมหลวงพ่อพริ้ง
    ผงพระหลวงพ่อทวดนวลผสมว่าน 120ชนิด
    ผงปถมังหลวงปู่สี วัดสะแก
    ผงพระสมเด็จนายพลเผ่า
    ผงพระหลวงปู่นาค หลวงปู่หิน วัดระฆัง
    ผงพระสมเด็จเกษมงคล
    ผงลูกอมยาวาสนาจินดามณีหลวงปู่บุญ
    ผงตะใบพระกริ่งพระพุทธชินราช 2485
    การปลุกเสก หลวงพ่อพรหมได้ทำพิธีการปลุกเสกเดี่ยวทุกคืนเป็นระยะเวลา ๑ เดือนเต็ม ออกให้ทำบุญเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2528
    พระเกจิอาจารย์แห่ง อำเภอบางประอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
    หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ ท่านเป็นพระที่เก่งมาก ท่านดังในพื้นที่ เก่งเวทวิทยาคมเป็นอย่างมากวัตถุ มงคลของหลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือนั้น มีมากมายหลายรุ่น ซึ่งทุกรุ่นที่ได้รับการประจุพลังจากท่านล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์มากมายโดย เฉพาะอย่างยิ่ง ในด้านคงกระพันชาตรีแล้วเรียกได้ว่าไม่เป็นสองรองใครครับเนื่อง จากท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ร่ำเรียนวิชาอาคมที่ถ่ายทอดมาจากสายวัดประดู่ ทรงธรรม สถานที่รวบรวมวิชาทางพระพุทธศาสนาพระคาถาอาคม และตำราพิชัยสงคราม ที่สืบทอดมาจากสมัยกรุงศรีอยุธยา ในสมัยนั้น และเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อขันธ์ วัดนกกระจาบอำนาจจิตของหลวงพ่อพรหม ท่านกล้าแข็งมาก ขนาดหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอกยังเอ่ย ชมท่านว่าเป็นพระหนุ่มที่อำนาจจิตกล้าแข็งถ้าหลวงพ่อจงเอ่ยชมใคร คนนั้นไม่ธรรมดาแน่นอน ด้วยอำนาจจิตที่สูงนี้ท่านเคยเสกผ้ายังให้บินดุจดังผีเสื้อมาแล้วจนเป็นที่ โจษจันจน
    ถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังได้รับคำรับรองสำทับจากหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลีอีกด้วย กระทั่งหลวงปู่สี วัดสะแก ยังกล่าวว่า ..ในอยุธยา ..ที่ว่าเหนียวว่าคงจริงๆ นั้น เห็นมีแต่ท่านพรหมรูปเดียว.. จึงทำให้มั่นใจได้ว่าพระเครื่องของหลวงพ่อพรหมบรรจุพลัง พุทธคุณอย่างเต็มที่ซึ่งวัตถุมงคลเครื่องรางของขลังที่ท่านได้ปลุกเศก แต่ละรุ่นจะได้รับพลังคงกระพันชาตรี มหาอุด แคล้วคลาด ปลอดภัย
    จึงมีประ สปการณ์ให้เหล่าลูกศิษย์ลูกหาที่เคารพศรัทธาเฝ้าตามเก็บ จนไม่ค่อยมีให้พบเห็นตามสนามเท่าไร ถึงชื่อเสียงท่านไม่ดังทะลุฟ้า แต่ก็มาแบบเงียบๆ ค่อยมาค่อยไป ซึ่งเหรียญ รุ่นแรก และเหรียญนารายณ์1 ปี 2509 ราคาเล่นหาแบบพื้นๆก็ทะลุหลักหมื่นไปแล้วครับ

    ผ่านมาแล้ว 18 ปี ร่างหลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ ไม่เน่าเปื่อย
    เมื่อ วันที่ 21 ต.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดขนอนเหนือ ต.บ้านกรด อ.บางปะอินจ.พระนครศรีอยุธยา ตามคำร่ำลือของชาวบ้านว่ามีพระเกจิอาจารย์ที่มรณภาพแล้วร่างกายไม่เน่า เปื่อย จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบที่กุฏิทรงไทยเรือนไม้สักทองยกใต้ถุนสูง ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าพระอุโบสถ ด้านบนพบโลงแก้วบรรจุร่างของหลวงพ่อพรหม ติสสเทโว หรือพระครูปลัดพรหม ที่มรณภาพเป็นเวลา 18 ปีแต่ร่างกายไม่เน่าไม่เปื่อย มีผ้าแพรสีเหลืองห่มร่างเอาไว้ โดยทางวัดได้ปิดทองที่บริเวณศีรษะของหลวงพ่อ โดยมีเครื่องอัฐบริขารตั้งอยู่ รวมทั้งสิ่งของเครื่องใช้ ใกล้กันมีภาพถ่ายหลวงพ่อพรหมสมัยมีชีวิตที่ถ่ายให้ประชาชนได้กราบไหว้ครับ
    DSC_0183.JPG DSC_0185.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2017
  20. ญาณวโร นามะ

    ญาณวโร นามะ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    29,611
    ค่าพลัง:
    +4,634
    173.พระผงรูปเหมือน 100 ปี หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต ที่พักสงฆ์สวนทิพย์ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี สภาพสวยมาก กล่องเดิม ***ให้บูชา 350 บาท*****ปิดรายการนี้ครับ**

    พระผงรูปเหมือน 100 ปี หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต ที่พักสงฆ์สวนทิพย์ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี งานมุทิตาจิต 18 กุมภาพันธ์ 2557

    'พระดี' ที่...เมืองนนท์
    หลวงปู่บุญฤทธิ์ ศิษย์สายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
    ที่พักสงฆ์สวนทิพย์ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
    จ.นนทบุรี มีพื้นที่ส่วนหนึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา สองฟากฝั่งจึงเต็มไปด้วยสวนผลไม้ต่างๆ มากมาย รวมทั้งต้นไม้ใหญ่น้อยที่สร้างความร่มรื่นเป็นอันมาก แม้ทุกวันนี้ความเจริญก้าวหน้าของบ้านเมือง ได้รุกรานแปรเปลี่ยนที่ดินจากสภาพร่องสวนให้กลายเป็นบ้านที่อยู่อาศัยอย่างหนาแน่นมากขึ้นก็ตาม แต่ยังมีอยู่อีกหลายพื้นที่ที่ยังคงสภาพความเป็นสวน มีต้นไม้ใหญ่ๆ และไม้ผลไม้ดอกให้ความร่มเย็นตลอดเวลา

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาณาเขตบริเวณของ สวนทิพย์ บ้านเจ้าพระยา ซึ่งเป็นที่ดินของลูกหลานท่านจอมพลถนอม กิตติขจร ซึ่งได้เปิดเป็นร้านอาหารไทย อยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นบรรยากาศบ้านสวน ที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ ทำให้มีอากาศที่สดชื่นอยู่เสมอ
    ด้วยความที่เจ้าของบ้านสวนทิพย์ เป็นผู้มีจิตศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างมั่นคง และมีความเคารพศรัทธานับถือพระเถราจารย์ท่านหนึ่ง ผู้มีวัตรปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเป็นอย่างยิ่ง จึงได้จัดมุมหนึ่งของสวนทิพย์ให้เป็นที่พักสงฆ์ขึ้นมา และได้กราบนิมนต์พระเถราจารย์ท่านนี้มาพำนักจำพรรษา เพื่อให้พระเดชพระคุณท่านได้มีสถานที่อันสงบเงียบ และร่มเย็น เหมาะสำหรับเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม บำเพ็ญจิตภาวนา ได้โดยสะดวก

    พระเถราจารย์ที่ว่านี้ คือ หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปณฺฑิโต (บัณฑิโต) พระวิปัสสนาจารย์กรรมฐาน (พระป่า) ศิษย์สาย พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ผู้มีปฏิปทาอันน่าเคารพศรัทธาเลื่อมใสเป็นอย่างยิ่ง
    หลวงปู่บุญฤทธิ์ เป็นชาวท่าอิฐ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ท่านเกิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๑ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๔๕๗ ปีขาล มีชื่อเดิมว่า บุญฤทธิ์ จันทรสมบูรณ์ เป็นบุตรของ หลวงพินิจจินเภท และ คุณแส (บุญสืบ จันทรสมบูรณ์)
    โยมแม่เป็นผู้มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนามาก และเป็นผู้ใฝ่ศึกษาหาความรู้อยู่เสมอ ที่บ้านจึงมีตู้หนังสือ มีหนังสือต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะหนังสือธรรมะ และบทสวดมนต์ต่างๆ ทำให้หลวงปู่มีนิสัยชอบการอ่านหนังสือมาตั้งแต่เยาว์วัย

    เมื่อเด็กๆ หลวงปู่มีผิวขาว ใบหน้าคล้ายคนฝรั่ง ผมสีแดง จนชาวบ้านชอบล้อท่านว่า เป็นลูกครึ่งฝรั่ง พอโตขึ้นมา ผมสีแดงนั้นค่อยๆ กลายเป็นสีดำ
    พอโตขึ้นมาหน่อย หลวงปู่ถูกส่งตัวเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียนหนังสือที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล สามเสน ได้เลขประจำตัว ๗๒๒ ด้วยเหตุนี้ หลวงปู่จึงมีความรู้ความสามารถทางภาษาอังกฤษ และฝรั่งเศส เป็นอย่างดี มาตั้งแต่เด็กๆ
    ต่อมาท่านได้สอบชิงทุน ก.พ. ไปเรียนวิชาโบราณคดีที่ฮานอย เวียดนาม พอเรียนจบแล้วได้เดินทางกลับเมืองไทย เข้าทำงานที่ห้องสมุดแห่งชาติ (เก่า) โดยมี พระยาอนุมานราชธน เป็นหัวหน้า และหลวงวิจิตรวาทการ เป็นอธิบดีกรมศิลปากร
    หลังจากนั้นไม่นาน ท่านได้สอบเข้าทำงานที่กองการต่างประเทศ (สมัยนั้นขึ้นกับกระทรวงมหาดไทย) ตำแหน่งล่ามภาษาฝรั่งเศส ทำงานอยู่ได้ระยะหนึ่ง ได้รับคำสั่งให้ไปประจำที่ จ.พระตะบอง (สมัยนั้นยังเป็นของไทย ปัจจุบันอยู่ในเขมร)

    ช่วงนั้นกำลังเกิดสงครามโลกครั้งที่ ๒ หลวงปู่ทำงานอยู่ได้ ๖ เดือนก็ย้ายกลับเข้ากรุงเทพฯ ๑ ปีต่อมาได้ย้ายไปอยู่ที่ จ.พระตะบอง อีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับทำหน้าที่ล่ามประจำจังหวัดหนองคาย
    และที่นี่เอง ที่หลวงปู่ได้รู้จักกับ คุณนายละเมียด สัชฌุกร ได้สนทนากันเรื่องพระพุทธศาสนา ซึ่งหลวงปู่กำลังสนใจในเรื่องนี้อยู่ และได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับพระสูตรที่สำคัญสุดในการภาวนา คือ สติปัฏฐานสูตร แต่หลวงปู่ไม่รู้จักการภาวนา และการปฏิบัติก็ยังไม่มี
    คุณนายละเมียด ท่านนี้เป็นลูกศิษย์ของ พระอาจารย์กู่ ธัมทินโน วัดป่าทุ่งสว่าง อ.เมือง จ.หนองคาย ผู้เป็นศิษย์รุ่นแรกของ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต และเป็นสหธรรมิกกับหลวงปู่เทสก์ หลวงปู่ชอบ หลวงปู่หลุย หลวงปู่ตื้อ หลวงปู่ขาว หลวงปู่ลี ฯลฯ
    พร้อมกันนั้น คุณนายละเมียดได้พาหลวงปู่ไปหาพระอาจารย์กู่ ที่วัดป่าทุ่งสว่าง วัดเล็กๆ มีศาลาอเนกประสงค์หลังน้อยๆ หลังคามุงสังกะสีผุๆ ไม่มีฝา ขณะนั้นมีชาวบ้านกำลังนั่งฟังเทศน์จากพระอาจารย์กู่ หลวงปู่ก็เข้าไปนั่งฟังด้วย

    พอท่านเทศน์จบ หลวงปู่ได้สอบถามปัญหาธรรมะต่างๆ อย่างพรั่งพรู โดยหลวงปู่บอกว่า...เหมือนยิงลูกศรไปในอากาศ...มีแต่ความว่าง พระอาจารย์กู่ ท่านไม่มีอารมณ์เลย ท่านไม่มีขัดข้องอะไร มีแต่ความเมตตา ใจเย็นสม่ำเสมอ สบาย นี่ถ้าเป็นพระบางรูป คงจะโกรธแล้ว นึกในใจว่า... พระรูปนี้ไม่ใช่พระธรรมดาเสียแล้ว
    ตรงนี้ทำให้หลวงปู่มีความประทับใจพระอาจารย์กู่มาก จึงได้ไปสนทนากับท่านบ่อยๆ จนเกิดศรัทธาอยากจะบวชขึ้นมาทันที ขณะนั้นเป็นปี ๒๔๘๙ โดยประกอบพิธีบรรพชาอุปสมบทที่วัดศรีเมือง จ.หนองคาย มีท่านพระครูเจ้าอาวาสวัดศรีเมือง และเจ้าคณะจังหวัด (ธรรมยุต) เป็นพระอุปัชฌาย์ (ต่อมาท่านพระครูรูปนี้ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ที่ พระธรรมไตรโลกาจารย์ เจ้าคณะภาค)
    หลังจากนั้น หลวงปู่ซึ่งเป็นพระบวชใหม่ได้ไปอยู่จำพรรษากับพระอาจารย์กู่ ที่วัดป่าอรุณรังษี อยู่หลังเรือนจำ นอกเมืองหนองคาย อันเป็นอีกวัดหนึ่งที่พระอาจารย์กู่ปกครองดูแลอยู่ในสมัยนั้น
    หลวงปู่เริ่มปฏิบัติธรรมภาวนาทันที โดยมีพระอาจารย์กู่คอยให้คำแนะนำ และเมื่อปฏิบัติบ่อยๆ เข้าก็เกิดความปีติ มีความรู้สึกว่า การปฏิบัติธรรมภาวนา ทำให้จิตสงบ เป็นความสุขที่หาไม่ได้ง่ายนัก
    มาถึงตรงนี้ หลวงปู่คิดว่า เราสบายแล้ว ไปเที่ยวธุดงค์ดีกว่า ไปนานหรือไม่นานก็ไม่เป็นไร ช่วงนั้นหลวงปู่มีอายุ ๓๑ ปี ใจก็คิดอยากบวชไปนานๆ เลยทำหนังสือขอลาออกงานราชการ
    เรื่องราวของหลวงปู่บุญฤทธิ์ น่าสนใจและน่าเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะชีวิตในสมณเพศของท่าน ที่ได้มุ่งมั่นในการปฏิบัติธรรมภาวนา แบบถวายชีวิตต่อพระพุทธศาสนา จนได้พบกับพระคณาจารย์สำคัญๆ ที่ล้วนเป็นพระป่า ศิษย์สายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต หลายท่านด้วยกัน
    ตลอดเวลาที่หลวงปู่บวชเป็นพระกว่า ๖๐ ปี มีเรื่องอันน่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะการปฏิบัติธรรมภาวนา การเดินธุดงค์ไปทั่วทุกแห่งหนในเมืองไทย รวมทั้งการเป็นพระธรรมทูต ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาในต่างประเทศ รวมทั้งอบรมการปฏิบัติธรรมภาวนา เริ่มจากออสเตรเลีย (พ.ศ.๒๕๑๗) เม็กซิโก สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมัน เบลเยียม ฯลฯ
    ทุกเรื่องราวที่ผ่านมา หลวงปู่ได้ทำบันทึกไว้อย่างละเอียด และได้จัดพิมพ์เป็นหนังสือ เสียงจากปากเกร็ด หนากว่า ๓๐๐ หน้า จัดพิมพ์มาแล้ว ๘ ครั้ง โดยคณะศิษยานุศิษย์ และผู้มีจิตศรัทธาเลื่อมใส ร่วมบริจาคปัจจัยเป็นทุนการจัดพิมพ์เผยแพร่

    หลวงปู่ได้กลับมาอยู่เมืองไทยเมื่อ ๕ ปีก่อน จนถึงทุกวันนี้ โดยพำนักอยู่ที่ ที่พักสงฆ์สวนทิพย์ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
    DSC_0211 (1).JPG DSC_0213 (1).JPG DSC_0214.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2017

แชร์หน้านี้

Loading...