พระ..คาถา

ในห้อง 'สมเด็จโต พรหมรังสี' ตั้งกระทู้โดย pongio, 6 พฤษภาคม 2015.

  1. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,850
    โดย สยามมีเดีย นิวส์
    16 ตุลาคม 2552

    ด้วยอนุภาพ..แห่งความศักดิ์สิทธ์ และอาถรรพ์ ของพระคาถา..ชินบัญชร เรื่องนี้เป็นเรื่อง ของคุณ อารยะ กับคุณ สมบูรณ์ หวังทวีวิทย์ เรื่องเกิดขึ้นหลายปีแล้ว คือ ประมาณปลายปี 2514 เมื่อคุณ อารยะ กับคุณ สมบูรณ์ ได้ทำการอุปสมบทลูกชายชื่อ วิวัฒน์ หวังทวีวิทย์ ที่วัดพระพุทธบาท อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ซึ่งต่อมาในปีพ.ศ. 2525 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นที่ท่านเจ้าคุณเมธีรัตนดิลก พระนวกะนิวัฒน์ ซึ่งได้มีโอกาสเดินทางไปนมัสการ พระพุทธบาทบนภูเขา ได้พบกับถ้ำที่เก่าแก่มากชื่อ “ถ้ำพระนอน” ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปใหญ่โตปางสะดุ้งมาร เรียกกันว่า “หลวงพ่อโต” องค์พระชำรุดเสียหายหลายแห่ง พระเศียรขาด พระกรรณขาดหายไป พระภิษุหนุ่มวิวัฒน์ เห็นแล้ว เกิดความสลดสังเวชใจยิ่งนัก จึงนำความไปเล่าให้คุณอารยะ ผู้เป็นบิดาทราบ คุณอารยะเกิด จิตศรัทธา จึงมอบปัจจัยจำนวนหนึ่งให้พระลูกชายไปทำการปฏิสังขรณ์ให้เต็มองค์บริบูรณ์เหมือนอย่างเดิม ตามตำนานได้กล่าวไว้ว่า ผู้ใดได้ทำการซ่อมแซม พระพุทธรูปชำรุดก็ดี สร้างพระพุทธรูปก็นี้ ย่อมได้อนิสงส์ผลบุญอยู่ในระดับหนึ่งเพราะพระพุทธรูป เป็นตัวแทนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สำหรับพุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้

    หรือผู้ใดรำลึกถึงพระพุทธเจ้าอยู่เนื่องนิตย์ทุกลมหายใจ ทั้งหมดนี้เหมือนกับเราได้อยู่ต่อหน้าพระพักตร์ ของพระพุทธองค์ด้วยศรัทธาที่ยึดมั่นต่อพระองค์ จะทำให้ได้รอดพ้นจากอันตรายทั้งปวงจากพระบารมีของพระองค์..เป็นแน่นอน

    ถ้าผู้ใดใช้ดีบุก สร้างหรือซ่อมแซมปฏิสังขรณ์ พระพุทธรูปที่ชำรุดให้บริบูรณ์ ผู้นั้นเมื่อตายไปย่อมไปเกิดเป็นเทวดา เป็นผู้มีฤทธานุภาพมาก

    ท่านผู้ใดใช้เงินสร้างหรือซ่อมแซมปฏิสังข์ พระพุทธรูปที่ชำรุดให้บริบูรณ์ ผู้นั้นเมื่อตายไปย่อมไปเกิดเป็น พระเจ้ามหาจักรพรรดิ จักเป็นใหญ่กว่าใครในแผ่นดิน

    ถ้าผู้ใดใช้ทองเหลือง หรือ ทองสัมฤทธิ์สร้างหรือซ่อมแซมปฏิสังขรณ์ พระพุทธรูปที่ชำรุดให้บริบูรณ์ ผู้นั้นเมื่อตายไป ย่อมไปเกิดเป็น บรมกษัตริย์ มีมหาสมบัติอเนกนานับประการ

    ถ้าผู้ใดใช้ศิลาหรือดินสร้างหรือซ่อมแซมปฏิสังขรณ์พระพุทธรูปที่ชำรุดให้บริบูณณ์ ผู้นั้นเมื่อตายไปแล้ว ย่อมได้เกิด เป็นท้าวอมรินทราธิราช เป็นใหญ่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

    ถ้าผู้ใดใช้ใบโพธิ์ หรือแก่นจันทน์ สร้างหรือซ่อมแซมปฏิสังขรณ์ พระพุทธรูปที่ชำรุดให้บริบูรณ์ ผู้นั้นเมื่อตายไปจักได้ไปเกิดเป็นใหญ่ในประเทศใดประเทศหนึ่ง ที่มีเอกราช ประกอบด้วย จตุรงคเสนาแสนยานุภาพ

    ถ้าผู้ใดสร้างหรือซ่อมแซมปฏิสังขรณ์พระพุทธรูปพระฉาย ผู้นั้นเมื่อตายไปแล้วย่อมไปเกิดเป็น ท้าวมหาพรหม

    อนิสงส์ที่ได้ในการซ่อมแซมพระพุทธรูปมายมาก แม้มีชีวิตอยู่ในโลก ก็จะได้รับเสียงสรรเสริญยกย่องจากคนทั่วไป มีเสน่ห์เป็นที่รักใคร่ ปราศจากอุบัติเหตุเภทภัยใดๆมากล้ำกราย ชีวิตไม่มีทางตกต่ำยากจน

    หลังจากได้ซ่อมแซมพระพุทธรูปหลวงพ่อโตเสร็จแล้ว คุณ อารยะ ได้จัดพิมพ์พระคาถา “ชินบัญชร” ของสมเด็จพระพุฒาจารย์วัดระฆัง (โต พรหมรังสี) จำนวนหนึ่ง ได้นำไปถวาย ท่านพระครูปลัดรัตนวัฒน์ (พระมหาเสวก) วัดพระพุทธบาทจำนวน 20 แผ่น โดยมัดรวมกันไว้ ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 300 แผ่น นั้นได้มอบให้ผู้ดูแล หลวงพ่อโตที่ถ้ำพระพุทธบาท ให้แจกผู้คนที่มานมัสการพระในถ้ำ

    ต่อมาได้เกิดเพลิงไหม้ขึ้นที่กุฏิไม้ของพระภิกษุรูปหนึ่งในวัดพระพุทธบาท ไฟได้ลุกลามไปถึงกุฏิเรือนไม้ที่ พระครูปลัดรัตนวัฒน์ (พระมหาเสวก) เพราะลมแรงจึงป้องกันอะไรไม่ได้ ในกุฏิมีพระสมเด็จ หนึ่งองค์ที่เก็บซ่อนไว้ ในช่องลับของเสาไม้ต้นหนึ่ง รวมทั้งตำหรับตำราคัมภีร์จำนวนมาก ของท่านปลัดรัตนวัฒน์ ถูกไฟไหม้หมดทั้งหลัง เหลือแต่เถ้าถ่าน เมื่อไฟสงบ ท่านครูปลัดกับพระเณรต่างพากันออกค้นหาพระสมเด็จ ในซากเถ้าถ่าน แต่ก็ปราศจากร่องรอย 4 วันต่อมาท่านพระครูมาค้นหาพระสมเด็จที่ซากกุฏิอีก ได้สังเกตุเห็นส่วนหนึ่งของกระดาษสีขาวโผล่มาจากเศษเถ้าถ่าน ซึ่งอยู่ลึกลงไปเกือบ 2 เมตร ท่านดีใจมากคิดว่าพบพระสมเด็จจึงเอื้อมมือไปคว้าขึ้นมา ปรากฏว่าเป็นม้วนกระดาษพระคาถา ชินบัญชร ที่ม้วนไว้ จำนวน 20 แผ่น ที่คุณอารยะ มอบให้ไว้ ท่านจึงโดนนะจังงัง ยืนตะลึงอยู่ ที่พระ คาถา ไม่ไหม้ไฟ มีรอยไหม้ไฟบริเวณขอบเล็กน้อย ข้างใน พระคาถา ทุกตัว ยังสมบูรณ์ไม่ตกหล่น รวมไปถึงชื่อพระลูกชาย ที่เขียนลงท้าย พระคาถา ยังอยู่ที่นั่น ท่านพระครูปลัดรัตนวัฒน์ ได้นำความมหัศจรรย์นี้ไปเล่าให้พระเถระในวัดฟังว่า ข้าวของทุกอย่างในกุฏิ ได้ถูกพระเพลิงผลาญวอดวาย กลายเป็นเถ้า แต่เหตุใดแผ่นกระดาษบรรจุพระ “คาถา ชินบัญชร” จึงยังอยู่ เป็นฉงนยิ่งนัก

    อันว่าความศักดิ์สิทธิ์ของพระสมเด็จวัดระฆังย่อมศักดิ์สิทธิ์ เพราะปลุกเสก บริกรรมภาวนาด้วยพระคาถา ชินบัญชร เป็นการอัดพุทธคุณลงในองค์พระ แต่พระคาถาชินบัญชร พิมพ์ใส่กระดาษเฉยๆ ไม่ได้ปลุกเสกลงไป เหตุใดถึงศักดิ์สิทธิ์ไม่ไหม้ไฟ? อ.วา อธิบายได้ไม่ยากค่ะ ว่าเพราะเป็น ของหลวงปู่โตไงคะ พุทธศาสนิกชน ผู้เคร่งต่อการปฏิบัติทั่วๆไป นำมาใช้ท่องออกจากปาก เป็นแค่ วาโยธาตุ(ลม) ไม่ได้อยู่บนกระดาษด้วยซ้ำ แต่ทำไมพระคาถาบทนี้ได้พลิกชีวิตผู้คนมามากต่อมากนับไม่ได้ จนกล่าวกันว่า ใครท่อง “พระคาถา ชินบัญชร” ได้เช้าเย็นชีวิตไม่มีทางตกต่ำเลย ...ถึงเวลากันหรือยังคะ

    เมื่อพระเถระผู้ใหญ่ในวัดพระพุทธบาทเห็นความศักดิ์สิทธิ์ ของพระคาถา เพื่อจะพิสูจน์ว่า พระคาถาบทนี้ ศักดิ์สิทธิ์จริง จึงพร้อมใจกันจุดธูปเทียน พากันสวดพระคาถา “ชินบัญชร” แล้วอธิษฐานขอให้พบพระสมเด็จในกองเถ้าถ่านด้วยเถิด

    อัศจรรย์ได้เกิดขึ้นทันตาในวันถัดมา เมื่อ สามีภรรยาคู่หนึ่งอายุประมาณ 50-60 ปีได้ขอเข้าพบท่านพระครูปลัดรัตนวัฒน์ แล้วถวายพระสมเด็จองค์นั้นคืนให้ท่าน องค์พระถูกไฟ้ไหม้ดำจนเกรียม พระครูเชื่อว่าเป็นพระของท่านจึงยอมรับไว้ สามีภรรยาคู่นั้นเล่าว่าได้พบพระสมเด็จองค์นี้ห่างจากกุฏิของท่านพระครูประมาณ 3 เมตร จึงเก็บเอาไว้ พอตกดึกคืนนั้น ทำอย่างไรก็นอนไม่หลับ เพราะรุ่มร้อนเหมือนนอนบนเตา รอ้นมากเหมือนไฟนรกลน จึงรู้ ว่าโดนอาถรรพ์ซะแล้ว ยิ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นพระสมเด็จด้วย ผิดศีลข้ออทินนาฯชัดเจน ถูกฟ้าดินลงโทษ จึงได้รีบพากันนำพระมาคืน...นี่แหละค่ะ ดูกันเอาไว้

    อาชีพที่ นิยมกันที่สุดในยุคเงินฝืดนี้ คือ งัดแงะ จะคว้าจะหยิบอะไรดูตาม้าตาเรือด้วย อย่าริเอาพระเครื่องพระบูชา หรือพระประธาน ติดมือไปเด็ดขาด จะผ่อนส่งความฉิบหายก่อนตายไปทุกชาติทุกภพ

    นับตั้งแต่คุณอารยะ และภรรยา ได้พบเห็นความมหัศจรรย์ของพระ “คาถาชินบัญชร” จึงพากันเร่งทำบุญกุศลเป็นการใหญ่ได้ท่องเที่ยวสืบถามดูว่า วัดวาอารามแห่งใดชำรุด ทรุดโทรม หรือยากจนขาดปัจจัย มีพระพุทธรูปชำรุด หรือวัตถุโบราณใดๆต้องการซ่อมแซมปฏิสังขรณ์ ต่างพากันซ่อมแซมตามกำลังมาจนปัจจุบัน

    ความเห็นส่วนตัวของเราแล้ว( อ.วา) เคยมีข้อกังขาต่อคุณอารยะเช่นกันว่า “แล้วเพราะเหตุใดเล่า? พระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันต์ธาตุ จึงเสด็จมาหาคุณอารยะได้มากมาย” คำตอบจึงอยู่ในบทนี้ ว่า เพราะคุณน้าได้ผ่านการปฏิสังขรณ์ พระพุทธรูป วัดวา มาอย่างมากมายในอดีตนั่นเอง แตกต่างกับเรา ในชีวิตเราได้ ร่วมสร้างวัดมาน้อยมาก เพราะชีวิต เกือบครึ่งชีวิตอยู่อเมริกา เป็นส่วนมาก แต่สิ่งเดียวที่เราได้ทำตั้งแต่ยังอยู่เมืองไทย ทำ อย่างมากมาย จนพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหัตน์ธาตุยังเสด็จมาอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน คือ ซ่อมแซม ปฏิสังขรณ์ จิตวิญญาณของมนุษย์ด้วยกัน ให้หันมายึดธรรมะเป็นสรณะ กับเคยช่วยชีวิตเด็กในท้องที่แม่เด็กกำลังจะเอาออกมา นับไม่ถ้วน รวมทั้งกรรมของใครก็ชอบเอาจมูกเข้าไป แหย่ รับกรรมแทนเขา บางทีพระเลี่ยมทองที่คอก็ถอดให้เขา พระบนหิ้งเขาอยากได้ก็ให้เขา คุณอารยะ ซ่อมแซมวัด เราซ่อมแซมคน..เออ..เท่กันคนละแบบ เรือลำนี้ทั้งของคุณอารยะ คุณ สมบูรณ์ จึงเต็มเปี่ยมไปด้วยบุญบารมี กำลังแล่นอย่างสง่าผ่าเผยเข้าสู่ฝั่งอย่างสงบราบเรียบ ปราศจากคลื่นลม ใดๆมารบกวน ยังจะส่งผลไปยังภพภูมิหน้า อย่างมิต้องสงสัย ส่วนของเรายังตะกายเข้าสู่เส้นชัยอยู่เมื่อไหร่เราสร้าง สำนักวิปัสสนาได้สำเร็จตามที่ลั่นสัจจะวาจาเอาไว้ เมื่อนั้น เราจึงจะ สงบได้..ถ้าไม่ตายซะอย่างเขียดมือกางตี-กางซะก่อน..เฮ้อ!!!...

    “พระคาถา ชินบัญชร” นี้ โดนเข้ากับตนเอง เช่นกัน เมื่อปี 2526 ตรงกับวันที่ 8 มิถุนายน ได้เกิดอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ของทหารระเบิดแล้วตกที่โคราช 11 ชีวิตบนเครื่องดำเป็นตอเป็นเศษเล็กเศษน้อย ตายสนิด ก่อนเสียชีวิตไม่นาน น้องชาย ไปลงน้ำมันลงยันต์สักทั่วตัว ทำอยู่ยงคงกระพัน เขาจึงถูกแบ่งเป็นแค่สองส่วนหัวกับตัว ทุกคนตายฟรีด้วยจับมือใครดมไม่ได้ น้องชายเรา ร.อ กงจักร์ แก้วคำขณะนั้นเป็น นักบินมือสอง น้องชายเพิ่งแต่งงานได้ปีเดียว มีลูกชายอายุ ได้แค่ 18 วัน ได้อุ้มลูกเพียง 2 ครั้ง ทุกอย่างบนฮ.ถูกเผาหมด น้องชายชอบสวดมนต์ จึงพก “พระคาถา ชินบัญชร” ไว้ในกระเป๋าเสื้อ โดยใส่ถุงพลาสติค เพื่อกันน้ำไว้อย่างดี เพราะชีวิตทหาร ขึ้นรถลงเรือ ไปเหนือล่องใต้ เขากลัว พระคาถา จะเปียกฝน ถุงพลาสติกกันน้ำได้ แต่ไฟ กันไม่ได้ งานนี้พระคาถา ที่อยู่ในถุงพลาสติค ไม่ไหม้ไฟยังอยู่สมบูรณ์ เช่นกัน เมื่อเขาจากไปแล้ว เขายังหาทางสื่อกับแม่มาว่า ให้แม่ทำสังฆทานชุดขาวกับสวดบทยาว ไปให้เขาด้วย (บทยาวในที่นี้ คือบทชินบัญชร) แม้แต่วิญญาณของผู้ที่ตายไปแล้ว ยังกลับมาเรียกร้องให้ใช้บทยาวสวดส่งให้ ดูเอาก็แล้วกัน แล้วคนเป็นๆอยู่ ...เอาปากไปใช้ประโยชน์ทางใด กันบ้างทำไมไม่หาอะไรที่เป็นมงคลใส่ปากกันหน่อย เพื่อเตรียมสวดส่งวิญญาณตนเองไปสู่ภพภูมิที่ดีกว่า.. เพราะตายไปอย่าหวังว่าจะมีใครทำให้อย่างถาวร ตนเป็นที่พึ่งของตนเองเท่านั้น..รีบทำกันเถิด... ดีกว่าเอาปากนี้ไปกัด ไปแดกดันแดกด่า ไปริดรอนตัดชีวิตสัตว์ ไปดื่มสุรายาเมา ไปมุสาวาท ไปสร้างเวรสร้างกรรมกันรายวัน ปากหนอปาก จะพาเจ้าลงนรก..ขอญาติโยมจงไปคิดกันดูเอง กับขอจบลงอย่างห้วนๆแค่นี้ก่อนที่ปากนี้จะพาไปโดน ใครตื-ซะก่อน...จ๋อย!!! กับขอขอบพระคุณคุณอารยะ ที่ให้ข้อมูลมา อนิสงส์ใดๆที่จะได้จากบทความนี้ ขอคุณน้าทั้งสอง รับไปเต็มๆเลยค่ะ



     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 พฤษภาคม 2015

แชร์หน้านี้

Loading...