พลิกชะตา ด้วยการบูชาดวงพิชัยสงคราม

ในห้อง 'กระทู้เก่า' ตั้งกระทู้โดย loveg, 4 ตุลาคม 2007.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. loveg

    loveg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +1,076
    เมื่อนานมาแล้วผมได้ไปที่ศูนย์การทหารปืนใหญ่จังหวัดลพบุรี ซึ่งตอนนั้นต้องไปทำหน้าที่ศึกษาและค้นคว้าเรื่องราวต่าง ๆ จากพิพิธภัณฑ์ของพระยาพหลพลพยุหเสนา ที่นั่นได้อนุรักษ์บ้านพักของท่านไว้เป็นอย่างดีครับ ทุกอย่างมีการบำรุงรักษาและทำให้ดูดีอยู่เสมอแต่รักษาและคงสภาพให้เหมือนของเดิมไว้มากที่สุด
    พิพิธภัณฑ์ของท่านแบ่งเป็นสองที่ใหญ่ ๆ คือ บริเวณบ้านและส่วนที่เก็บของเก่าเป็นอาคารชั้นเดียวติดแอร์ ซึ่งในส่วนนี้ผมได้พบกับกระดาษแผ่นหนึ่งที่ถ่ายแล้วแปะเอาไว้ที่ข้างฝาบ้านในสุด ในนั้นเขียนว่าเป็นดวงอุปสมบทของ ภิกษุพระยาพหลพลพยุหเสนา ซึ่งผมดูแล้วไม่เชื่อดั่งคำที่บอกเพราะว่า ดวงนั้นสวยเกินจริง ประกอบด้วยอักขระเลขยันต์และสองข้างนั้นมีรูปฉัตรเคียงข้าง
    ผมจำภาพนั้นติดตาแม้จะไม่รู้ความหมาย จนมาวันพฤหัสหนึ่งหลังจากที่ผมได้ไหว้ครูโหราศาสตร์แล้ว ผมก็ต้องมานั่งสมาธิที่สำนักของป้าบุษ เพราะป้าพูดเสมอว่า... คนเราจะทำนายทายทักและเรียนโหราศาสตร์อย่างได้ผล ต้องมีสมาธิ
    แต่วันนั้นในห้องสมาธิบ้านป้ามีของแปลกปลอมมา ซึ่งผมเห็นแล้วก็คุ้นตาเป็นอย่างยิ่งเพียงแต่สิ่งนั้นไม่ได้อยู่บนที่ผมเคยเห็น เพราะภาพที่เห็นที่ศูนย์การทหารปืนใหญ่นั้นเป็นแผ่นกระดาษ
    แต่นี้เป็น แผ่นทองแดง ที่มีขนาดใหญ่
    ซึ่งแผ่นนี้วางไว้หน้าพระและใส่กรอบไม้ปิดทองอย่างดี ด้วยความสงสัย (อีกแล้ว) จึงเข้าไปดูใกล้ ๆ ปรากฏว่าลวดลายที่ปรากฏอยู่นั้นไม่ได้ต่างไปกับที่เคยเห็นเท่าไรเลย
    ผมมองไปข้างล่างตรงแถวสุดท้ายมีชื่อนามสกุลของเจ้าของดวงบอกไว้ครบถ้วน ดวงผมเห็นมาเยอะกว่าเยอะแต่ดวงในลักษณะนี้ผมไม่เคยเห็นดังนั้นความสงสัยต้องเก็บไว้ก่อนหลังจากสวดมนต์เสร็จก็คงได้ถามกัน เพราะป้าเป็นคนไม่หวงวิชา
    การสวดมนต์วันนี้ยาวนานผิดปกติและตบท้ายด้วยการสวดชยันโตที่ไม่เคยมีมาก่อน
    ขณะที่นั่งกินผลไม้กัน ผมได้ถามป้าเรื่องนี้ป้าตอบผมว่า
    "เรียกว่า ดวงพิชัยสงคราม เป็นการตัดตัวเสียและทำให้ดวงตัวเองมีประสิทธิภาพมากขึ้น"
    "เป็นไปได้หรือป้า"
    "มันเป็นความเชื่อน่ะหนู แต่เรื่องนี้ก็เป็นการทำมานานแล้ว คนที่ชื่อเสียงรวมไปถึงพระบรมวงศานุวงศ์ก็ทำกันนะ"
    "โห แบบนี้คนธรรมดาทำได้เหรอ"
    "ทำได้สิ แต่เราจะมีบุญเจอคนที่ทำเป็นหรือเปล่าก็เท่านั้น เพราะคนที่ทำได้ ต้องรู้วิชาไม่น้อยนะ"
    "แล้วมันเปลี่ยนชีวิตได้เหรอ"
    ป้ายิ้มแล้วตอบว่า "มันก็อยู่ที่ศรัทธา ถ้าเราเชื่อซะ อะไรก็ดีทั้งนั้น เพราะดวงพิชัยสงครามนี้ก็มีข้อกำหนดและกฏเกณฑ์อยู่ไม่น้อยนะ คุณต้องทำบุญทำทานสวดมนต์ทำสมาธิ ไม่อย่างนั้นดวงนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย"
    ผมนั่งคิดและทบทวนเพราะสิ่งที่เห็นคือการให้คนทำดี... ดังนั้นถ้าคนเราทำดีและทำสิ่งมงคลก็คงได้เจอแต่สิ่งที่ดี ๆ ในชีวิต
    "เรื่องดวงพิชัยสงครามยังมีอะไรมากกว่านั้นไว้ว่าง ๆ ป้าจะเล่าให้ฟังละกันเนอะ"
    แค่ฟังมาเท่านี้ก็น่าสนใจแล้วครับป้า

    เทพโหรา --- www.oknation.net---
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2007
  2. loveg

    loveg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +1,076
    ตำนานดวงพิชัยสงคราม


    [​IMG]

    นานมาแล้วันเวลาได้ล่วงมาจนถึงครั้งหนึ่ง บ้านเมืองได้เกิดความระส่ำระส่ายด้วยข้าวยากหมากแพงเพราะดินฟ้าอากาศวิปริต
    ฝนไม่ต้องตามฤดูกาล ประชาชนพลเมืองได้รับความเดือดร้อนอดอยากถึงกับต้องปล้นสะดมกันกิน
    ในการครั้งนั้น ทางฝ่ายข้าศึกเคลื่อนกำลังทัพมาประชิดเมืองไว้ ในยามนั้นก็ก่อความประหวั่นพรั่นกลัวแก่บรรดาประชาชนพลเมืองและเสนาข้าราชการเป็นยิ่งนัก
    ความเห็นส่วนใหญ่ลงมติว่า
    ควรจะยอมแพ้แก้ข้าศึกเสียดีกว่า เพื่อจะได้ถนอมชีวิตข้าคนพลเมืองเอาไว้
    แต่ทว่าทางฝ่ายทหารส่วนใหญ่ยังมีหัวใจเปี่ยมด้วยเลือดและวิญญาณของนักรบที่หยิ่งในศักดิ์ศรีและ
    มีความหวงแหนอธิปไตยชาติบ้านเมือง ฝ่ายทหารจึงต่างพากันคัดค้านความเห็นไม่ควรยอมแพ้แก่ข้าศึกอย่างแข็งขัน
    โดยทหารทุกคนยินดีจะยอมตาย ยึดถืออุดมคติว่า "ตัวตายดีกว่าชาติตาย"
    องค์พระประมุขทรงเห็นชอบและสนับสนุนความคิดเห็นทางฝ่ายทหารและเพื่อเป็นการบำรุงขวัญทหาร พระองค์ได้ทรงมีพระราชโองการให้โหรจัดทำดวงชาติให้แก่แม่ทัพนายกองที่จะต้องทำหน้าที่
    คุมกำลังป้องกันชาติบ้านเมืองในครั้งสำคัญนี้ ทุกคนรักษาบูชาไว้ในพระนครซึ่งนิยมกันว่า
    ศักดิ์สิทธ์และเป็นของสูงคู่ควรบูชาไว้แต่เฉพาะพระมหากษัตริย์
    การรบได้ดำเนินไปในสภาพที่ด้อยกว่าข้าศึกทั้งกำลังคนและกำลังอาวุธ ผลจึงปรากฏว่า ในการประจัญบานแต่ละครั้ง ทหารหาญที่มีน้อยอยู่แล้วยิ่งลดน้อยถอยตัวลงไปอีกทุกครั้ง เพราะถูกลิดรอนทำลายลงด้วยกำลังของข้าศึกที่มีเหนือกว่าอยู่เรื่อย ๆ จนกระทั่งความหวังที่พอมีอยู่บ้างในตอนต้นก็ทลายหายไปหมด ทหารทุกคนทุกหัวใจต่างก็มีแต่ความทอดอาลัย
    และรอคอยแต่ว่าเมื่อไรข้าศึกจะโหมกำลังเข้ามาบดขยี้ ทำลายให้สิ้นชาติสิ้นความเป็นไทยไปเท่านั้น
    ครั้งแล้ว ก่อนนาทีสุดท้ายจะมาถึง สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดถึงก็ได้ปรากฏถึงเสียก่อนนั่นคือ
    เกิดความวิปริตท้องฟ้าและอากาศเกิดมหาวาตะอย่างรุนแรง พร้อมกับมีฝนกระหน่ำลงมาอย่างลืมหูลืมตาไม่ขึ้น ติดต่อกันอยู่ถึงสามวันสามคืน จนกระทั่งน้ำเอ่อท่วมท้นสูงถึงคอหอย
    เมื่อพายุและฝนสงบลงแล้ว ต่างคนต่างก็ได้เห็นภาพที่ไม่คเยคิดว่าจะได้เห็นก่อนแต่อย่างใด ภาพนั้นคือภาพค่ายทหารของข้าศึกพินาศภินทนาการไปหมด ด้วยอำนาจของลมพายุและกระแสน้ำ ช้าง ม้า และเหล่าทหารก็พลอยสูญชีวิตไปด้วยเป็นจำนวนมาก ที่ยังเหลือชีวิตก็อยู่ได้แต่ตะเกียกตะกายเพื่อให้รอดพ้นได้เพียงแต่ตัวไม่มีใครมีกะจิตกะใจจะรบเอาชัยต่อไปหรือ
    คิดห่วงใยอาวุธยุทธโธปกรณ์ที่จมหายอยู่ภายใต้น้ำอีกเลย
    ในการที่บ้านเมืองรอดพ้นจากเงื้อมมือข้าศึกมาได้อย่างปาฏิหารย์
    พร้อมด้วยแม่ทัพนายกองและทหารประสพชัยชนะอย่างอัศจรรย์ ทางฝ่ายข้าศึกก็ประสพความพิบัติกลับไปอย่างยับเยินในครั้งนั้น
    ฉะนั้นจึงเป็นที่เชื่อถือกันว่า เนื่องจากอานุภาพแห่งการปฏิบัติบูชาดวงชาตาที่คำนสซบรรจุไว้ในมหายันต์พุทธมนต์นั้นโดยแท้ พระมหากษัติรยิ์ได้ทรงถือเอาเหตุมงคลครั้งนั้นมาพระราชทานนามแก่ดวงชาตานี้ว่า ดวงพิชัยสงคราม
    นับแต่กาลครั้งนั้นมา ดวงพิชัยสงครามก็เป็นสิ่งที่ปรารถนาที่ต่างคนต่างก็พยายามขวนขวายหากัน เพื่อเอาไว้บูชาเป็นศิริมงคลแก่ตนเอง อันที่เชื่อถือกันว่ามีอิทธิพลทั้งในเมตตามหานิยมและทางป้องกันภยันตรายต่าง ๆ แก่เจ้าชาตาผู้ยึดมั่นในการปฏิบัติบูชา
    ดวงพิชัยสงครามนี้อันมีความหมายว่าดวงชนะศึกแต่ดั้งเดิมมานิยมกันว่าเป็นของสูงที่คู่ควรแต
    ่เฉพาะพระมหากษัตริย์เท่านั้น
    และเปนที่รู้จักกันดีแต่เฉพาะวงในคือในกรมโหรหลวงและในพระบรมมหาราชวังเท่านั้น
    แต่เดิมทีดวงพิชัยสงครามนี้ท่านว่าหาได้มีชื่อดังที่เรียกขานกันเช่นในปัจจุบันนี้ไม่ ที่มีชื่อเรียกว่าดวงพิชัยสงครามมาจากตำนานดังกล่าว
    หากดูกันเผิน ๆ จะเห็นว่ามีลักษณะเหมือนยันต์อันศักดิ์สิทธ์ทางไสยศาสตร์ เนื่องจากพฤฒาโหราจารย์ผู้แตกฉานเชี่ยวชาญในศาสตร์ท้งสามคือ พุทธศาสตร์ ไสยศาสตร์ และ โหราศาสตร์ ได้กำหนดรูปดวงชาตานี้ขึ้น โดยการนำเอาพุทธมนต์มาชัยเป็นพระคาถากำบังดวงชาตาไว้

    เทพโหรา --- www.oknation.net---
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2007
  3. loveg

    loveg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +1,076
    ดวงพิชัยสงคราม...คือดวงชะตาที่ถูกผูกขึ้นอย่างละเอียดที่สุดแบบจักรราศีซึ่งดวงพิชัยสงครามนี้อาจจะเป็นดวงชะตาของบุคคลหรือดวงฤกษ์ใน
    การกระทำการต่างๆอย่างใดอย่างหนึ่งได้ในสมัยก่อนนั้นผู้ที่จะมีดวงพิชัยสงครามได้นั้นจะต้องเป็นบุคคลระดับชั้นแม่ทัพหรือเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ขึ้น
    ไปตลอดจนกระทั่งระดับพระมหากษัตริย์สามัญชนธรรมดาหาอาจมีดวงพิชัยสงครามได้ไม่ เพราะดวงนี้จะหาคนผูกเป็นได้ยากมากอีกทั้งใช้เวลา
    ในการคำนวณมาก ระดับโหรชั้นอาจารย์ยังต้องใช้เวลาในการคำนวณถึง ๗วันจึงจะสำเร็จดังนั้นจึงจะค่อนข้างหาผู้ที่มีดวงพิชัยสงครามได้ยากมาก
    ในปัจจุบัน<o></o>

    ลักษณะของดวงพิชัยสงคราม<o></o>
    การผูกดวงพิชัยสงครามตามรูปด้านล่างมีหลักในการผูกดังต่อไปนี้...<o></o>
    .กำหนดให้ดวงราศีจักรอยู่กึ่งกลางยันต์พิชัยสงครามด้านบนของกระดาษใต้พระพุทธฉาย
    .ใต้ยันต์พิชัยสงคราม จัดเป็นยันต์รูปบัลลังก์ อยู่กลางกระดาษและทำเป็นยันต์ลดหลั่นกันลงมา ๕ ชั้น
    .เบื้องซ้ายชั้นล่างสุด ของยันต์รูปบัลลังก์เป็นหลักอินทภาส เบื้องขวาเป็นหลักบาทจันทร์ซึ่งหลักทั้งสองนี้โบราณยกย่องว่ามีความสำคัญสูงท่านจึง
    ให้สถิตย์ภายใต้เศวตฉัตร
    .กรอบของยันต์พิชัยสงครามมีพระคาถาพระเจ้าสิบหกทิศปิดไว้ทุกทิศ<o></o>
    .ยันต์พิชัยสงครามทำล้อมกรอบดวงราศีจักร เพื่อให้คุ้มครองดวงชะตา มิให้สิ่งใดสิ่งหนึ่งมาแพ้วพานได้พระคาถาที่บรรจุในยันต์พิชัยสงครามนี้
    ก็คือ "พระอิติปิโสย่างตาม้า" และสำหรับทิศแม่ธาตุทั้งสี่ของดวงพิชัยสงคราม อันได้แก่ทวารทั้งสี่คือ ดิน น้ำ ลมไฟ จะมีคาถา นะ มะ พะ ทะ ปิดไว้
    ส่วนตามมุมต่างๆของดวงพิชัยสงครามเฉพาะที่ยันต์พิชัยสงครามมีช่องโหว่อยู่ ๑๖ ช่องก็ได้บรรจุพระคาถาพระเจ้าสิบหกทิศปิดไว้ทุกช่องโดยพระ
    คาถาดังกล่าวนี้คือ "นะมะนะอะ นอกอนะกะ กอออนออะ นะอะกะอัง"
    .พระอิติปิโสแปดทิศกรอบนอกของดวงพิชัยสงครามได้บรรจุสิ่งศักสิทธิ์ป้องกันภัยพิบัติไว้ทั้งแปดทิศด้วยกันซึ่งก็คือพระคาถาอิติปิโสแปดทิศ
    .พระคาถาอื่นๆนอกจากพระคาถาดังกล่าวแล้วในดวงพิชัยสงครามยังอาจจะบรรจุพระคาถาอื่นๆลงไปได้อีกเช่นพระนวหรคุณเก้า, หัวใจพระอภิ
    ธรรมหรือพระธรรมเจ็ดคัมภีร์, พุทธรักษา, ธรรมรักษา, สังฆรักษา, ปิตารักษาและอินทรักษา, พรหมรักษา, เทวดารักษา, มาตารักษาเป็นต้น<o></o>

    [​IMG]

    จะเห็นได้ว่าการจัดสร้างดวงพิชัยสงครามขึ้นมาดวงหนึ่งนั้นจะต้องใช้เวลาและความรู้ความสามารถเป็นอย่างสูงอีกทั้งเมื่อพิจารณาถึงพระคาถาที่
    จารึกในดวงพิชัยสงครามจะเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าดวงพิชัยสงครามจัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ทำหน้าที่คุ้มครองรักษาเจ้าของดวงชะตา
    ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันอันตรายต่างๆดังนั้นถ้าผู้ใดมีดวงพิชัยสงครามเป็นของตัวเองก็จงหมั่นบูชาและภาวนาตามคาถาด้านล่างนี้เพื่อ
    เป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง...

    พระคาถาบูชาดวงพิชัยสงคราม


    (ตั้งนะโม ๓ จบ) <o></o>
    "นะโม เม สัพพะเทวานัง สัพพะคะระหะ จะ เทวานัง สุริยัญ จะ ปะมุญจะถะ ศศิ ภุมโมจะเทวานัง วุโธ ลาภัง ภะวิสสะติ ชีโว ศุกะโร จะ มหาลาภัง โสโร ราหูเกตุ จะมหาลาภัง สัพพะภะยัง วินาสสันติ สัพพะทุกขัง วินาสสันติ สัพพะโรคัง วินาสสันติลักขะณา อะหัง วันทามิ สัพพะทาสัพพะเทวามัง ปาละยันตุ สัพพะทา เอเตนะมังคะละเตเชนะ สัพพะโสตถีภะ วันตุ เมฯ"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2007
  4. loveg

    loveg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +1,076
    ด้วยการบูชาดวงชะตาแบบยันต์ดวงพิชัยสงครามนี้ มีคุณเอนกอนันต์
    ประกอบกับผมจะสร้างพระที่แกะจากหินพระธาตุถวายวัดอยู่แล้ว
    จึงมีความคิดที่จะนำเอาดวงพิชัยสงครามบรรจุไว้ที่องค์พระด้วย

    และนี่คือตัวอย่างของดวงพิชัยสงครามที่จะใส่ไว้ใต้ฐานพระ

    [​IMG]

    แผ่นดวงนี้ได้วางตากล 12 ตำแหน่งในดวงพิไชยสงครามเพื่อป้องกันการใช้ผิดวัตถุประสงค์


    และจะเพิ่มแผ่นดวงอีกหนึ่งแผ่นไว้สำหรับใส่กรอบบูชา ซึ่งจะไม่ได้วางตากลไว้

    [​IMG]

    ควรวาง "ดวงพิไชยสงคราม" ไว้บนที่สูง
    แต่ไม่ควรวางไว้ใต้ฐานพระพุทธรูป หรือวางโดยมีวัตถุกดทับ
    เนื่องเพราะในดวงพิไชยสงครามนี้ มีภาพพระพุทธพิมพ์ปางโปรดพญาชมพูบดี
    หรือ ปางบรมจักรพรรติราชาธิราช เป็นประธานอยู่แล้ว
    จึงไม่สมควรวางพระพุทธฉายา ทั้ง ๒ แบบ ๒ องค์คร่อมซ้อนกัน อันเป็นการไม่บังควรอย่างยิ่ง
    อีกประการหนึ่ง การที่มีวัตถุหนักกดทับอยู่ อุปมาเหมือนชีวิตท่าน ถูกกดดัน ตลอดเวลาด้วย


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2007
  5. loveg

    loveg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +1,076
    ดังที่ได้กล่าวไว้แล้วว่า ดวงพิชัยสงครามควรบูชาไว้ในที่สูง
    ดังนั้นจึงต้องมีแผ่นดวงไว้สองแบบ ซึ่งเป็นแบบเต็มและถูกตัดทอนบางอย่างออกสามารถดูได้จากรูป
    เนื่องจากผมจะนำดวงแบบที่ถูกทอนออกบรรจุไว้ภายในฐานพระที่แกะซึ่งอยู่ใต้องค์พระ

    และนี่คือ องค์พระพุทธสิหิงค์ ขนาดหน้าตัก 12 นิ้ว ที่ผมสั่งแกะถวายวัด
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1020833-1.JPG
      P1020833-1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      39.9 KB
      เปิดดู:
      1,003
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2007
  6. loveg

    loveg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +1,076
    ดวงพิชัยสงครามที่ถูกลดทอนยันต์ล้อมดวงจักรราศีและพระพุทธฉายออกแล้วนั้น
    ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่สมบูรณ์เพราะเมื่อถูกบรรจุไว้ภายในฐานพระก็เหมือนถูกล้อมด้วย
    พระพุทธคุณและบารมีของพระพุทธองค์ที่หาที่สุดมิได้อยู่แล้วขององค์พระพุทธสิหิงค์

    อันเนื่องมาจากตำนานพระพุทธสิหิงค์ดังจะกล่าวต่อไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2007
  7. loveg

    loveg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +1,076
    ตำนานพระพุทธสิหิงค์
    [​IMG]

    เรื่องตำนานหรือประวัติของพระพุทธสิหิงค์ ได้มีท่านผู้เรียบเรียงไว้แล้วหลายท่าน เช่น พระโพธิรังสี ปราชญ์แห่งเมืองเชียงใหม่ ได้เขียนเป็นภาษามคธ ราว พ.ศ.๑๙๖๐ และบรรยายเรื่องราว จนมาถึง พ.ศ.๒๔๕๔ สมเด็จพระบรมวงศ์เธอ กรมพระยา ดำรงราชานุภาพ ได้ทรงนิพนธ์ต่อจากพระโพธิรังสี มาจนถึงสมัย หลวงบริบาลบุรีภัณฑ์ ได้เรียบเรียงใหม่เป็นตำนานย่อ และกล่าวข้อวิจารณ์ในทางโบราณคดี
    ส่วนที่ผู้เขียนได้นำกล่าวมานี้ได้อ้างถึงตำนานพระพุทธสิหิงค์ ของพลตรีหลวงวิจิตรวาทการ เขียนขึ้นเนื่องด้วยได้มีการรวบรวมข้อเท็จจริง ที่ท่านผู้รู้ทั้งหลายเหล่านั้นได้ค้นคว้าแล้วมาเรียบเรียงไว้ให้เป็นตำนานที่อ่านง่าย เพื่อความสะดวกและเข้าใจแก่ผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาทั่วไป
    พระพุทธสิหิงค์ เป็นพระพุทธรูปที่กษัตริย์ลังกาได้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.๗๐๐ ได้อัญเชิญเข้ามาสู่ประเทศสยาม ในสมัยพ่อขุนรามคำแหง ฉะนั้น จึงต้องนับว่า พระพุทธสิหิงค์ เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของประเทศสยามอย่างแท้จริง แต่ในเมืองไทย พระพุทธรูปที่ทรงพระนามว่าพระพุทธสิหิงค์นั้นมีอยู่ ๓ องค์ ๓ แห่ง คือ
    องค์ที่ ๑ ประดิษฐานในพระที่นั่งพุทไธศวรรย์ พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร
    องค์ที่ ๒ ประดิษฐานในวิหารลายคำ วัดพระสิงห์ จ.เชียงใหม่
    องค์ที่ ๓ ประดิษฐานในหอพระพุทธสิหิงค์ ข้างศาลากลาง จ.นครศรีธรรมราช

    พระพุทธสิหิงค์ องค์ที่ ๑ เป็นพระพุทธรูปปางนั่งขัดสมาธิสูง ๙๖ ซม. หน้าตักกว้าง ๖๖ ซม. หล่อด้วยสัมฤทธิ์ ปิดทองคำเปลว พระสรีระได้สัดส่วนและงดงามที่สุดจะหา พระพุทธโบราณในเมืองไทยที่งดงาม และได้สัดส่วนเทียมพระพุทธสิหิงค์องค์นี้มิได้เลย ตามตำนานกล่าวว่าองค์นี้ศิลปะสุโขทัยประดิษฐานในพระที่นั่งพุทไธศวรรย์ กรุงเทพมหานคร
    [​IMG]
    พระพุทธสิหิงค์ องค์ที่ ๒ เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ มีความสำคัญคู่กับพระพุทธสิหิงค์ในกรุงเทพฯ และเมืองนครศรีธรรมราช เป็นพระพุทธรูปที่งดงามมาก องค์นี้ศิลปะเชียงแสน
    พระพุทธสิหิงค์เชียงใหม่ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขัดสมาธิเพชร หล่อด้วยสัมฤทธิ์ปิดทองคำเปลว หนักตักกว้าง ๔๐ นิ้ว ศิลปะเชียงแสนรุ่นแรก ปัจจุบันประดิษฐานในวิหารลายคำ วัดพระสิงห์ จ.เชียงใหม่
    พระพุทธสิหิงค์ องค์ที่ ๓ เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองนครศรีธรรมราช มีความสำคัญคู่กับพระพุทธสิหิงค์เมืองเชียงใหม่ และกรุงเทพมหานคร เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขัดสมาธิเพชร แบบขนมต้ม มีพระพักตร์กลม อมยิ้ม พระอุระอวบอ้วน หล่อด้วยสัมฤทธ์ ปิดทอง หน้าตักกว้าง ๑๔ นิ้ว สูง ๑๖.๘ นิ้ว นับเป็นพระพุทธรูปสำคัญ คู่บ้านคู่เมืองมาแต่โบราณกาล ประดิษฐานอยู่ในบุษบกไม้ ณ หอพระ ระหว่างศาลกับศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช องค์นี้ศิลปะศรีวิชัย
    พระพุทธสิหิงค์ทั้ง ๓ องค์ ๓ สมัย ๓ ภาค สร้างในสมัยเดียวกัน ผู้สร้างคือ มหากษัตริย์ลังกา ๓ พระองค์ ทรงสร้างเมื่อ พ.ศ.๗๐๐
    ตำนานของพระโพธิรังสีกล่าวว่าพระพุทธสิหิงค์ เป็นพระพุทธรูปที่ เจ้าลังกา ๓ พระองค์ ได้ร่วมพระทัยกันพร้อมด้วยพระอรหันต์ใน เกาะลังกาสร้างขึ้นราว พ.ศ.๗๐๐ โดยหมายจะให้ได้พระพุทธรูปเหมือนองค์พระพุทธเจ้าจริงๆ ถึงกับตำนานกล่าวว่า พญานาคซึ่งเคยเห็นองค์พระพุทธเจ้ามาแปลงกายให้ดูเป็นตัวอย่าง
    มาถึงสมัยพ่อขุนรามคำแหง (พ.ศ.๑๘๒๐-๑๘๖๐) มีพระภิกษุลังการ เข้าสู่ประเทศสยาม พ่อขุนรามคำแหงได้ทรงทราบกิติศัพท์เลื่องชื่อ ว่าเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์มีพุทธลักษณะที่งดงาม พ่อขุนรามคำแหง จึงทรงขอให้พระเจ้าศรีธรรมโศกราช แต่งทูตเชิญพระสาส์นไปขอประทานพระพุทธสิหิงค์จากเจ้ากรุงลังกา
    เนื่องด้วยว่าเป็นเมืองที่มีการติดต่อสัมพันธ์อยู่กับลังกาอย่างใกล้ชิด ซึ่งก็ได้ตามพระราชประสงค์ อัญเชิญมาประดิษฐานที่นครศรีธรรมราช จัดงานพิธีสมโภชใหญ่โตเป็นเวลา ๗ วัน พระเจ้าศรีธรรมโศกราชได้ให้ช่างท้องถิ่นจำลองไว้บูชา ๑ องค์ โดยกล่าวไว้ว่าพ่อขุนรามคำแหงเสด็จไปรับ พระพุทธสิหิงค์ถึงนครศรีธรรมราช ด้วยพระองค์เอง แล้วอัญเชิญมาประดิษฐาน ณ กรุงสุโขทัย พระมหากษัตริย์กรุงสุโขทัยทุกพระองค์ได้ทรงเคารพบูชาพระพุทธสิหิงค์ตลอดมา
    พระพุทธสิหิงค์ที่ประดิษฐานอยู่ที่นครศรีธรรมราชนี้ มีลักษณะ ตามแบบสกุลช่างท้องถิ่น เรียกว่า แบบขนมต้ม คือมีพระพักตร์กลม อมยิ้ม พระอุระอวบอ้วน ประทับนั่งในท่าขัดสมาธิเพชร ชายสังฆาฏิสั้นระดับพระถัน เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของ ชาวนครศรีธรรมราชเป็นพระพุทธรูปที่มีพระรูป และสัดส่วนที่งดงามมาก
    [​IMG]
    ครั้งเมื่อได้ตั้งกรุงศรีอยุธยาขึ้น ทางสุโขทัยอ่อนกำลังลง สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๑ เจ้ากรุงศรีอยุธยา ได้สุโขทัยไว้ในอำนาจเมื่อปี พ.ศ.๑๙๒๐ พญาไสยลือไทย เจ้ากรุงสุโขทัย ถูกลดตำแหน่งเป็นเจ้าประเทศราช ลงมาครองพิษณุโลก จึงได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ มาประดิษฐานไว้ที่พิษณุโลกด้วย เมื่อพระยาไสยลือไทย สิ้นพระชนม์ สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๑ ก็ทรงโปรดให้เชิญพระพุทธสิหิงค์โดยมาทางเรือลงมาไว้ที่กรุงศรีอยุธยา
    เมื่อทางกรุงศรีอยุธยาได้กรุงสุโขทัยไว้ในอำนาจแล้ว ได้จัดแบ่งการปกครอง ออกเป็นสองมณฑลคือเมืองตาก, สวรรคโลก กับพิษณุโลก เป็นมณฑลสอง ให้เจ้านายในราชวงศ์พระร่วงปกครอง พระยาธิษฐิระ ผู้ครองกำแพงเพชรนั้นปรากฏว่า ราชบุตรเลี้ยงของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๑ ปรารถนาจะได้พระพุทธสิหิงค์ไปประดิษฐานไว้เมืองกำแพงเพชร จึงให้มเหสีผู้เป็นมารดาตนขอพระพุทธรูปองค์หนึ่ง แล้วติดสินบนขุนพุทธบาลผู้รักษาพระ เลือกพระพุทธสิหิงค์ส่งไป
    เรื่องมีต่อว่า ใน พ.ศ.๑๙๓๑ นี้เองมีพระภิกษุรูปหนึ่งในเมืองกำแพงเพชรปั้นรูปจำลองพระพุทธสิหิงค์ด้วยขี้ผึ้ง และนำพระพุทธรูปจำลองนี้ไปเชียงราย เมื่อเจ้ามหาพรหมผู้ครองนครเชียงรายได้เห็นจึงชวนเจ้ากือนา พี่ชายผู้ครองนครเชียงใหม่ยกกองทัพไปกำแพงเพชรและ ขู่ขอพระพุทธสิหิงค์ พระยาธิษฐิระต้องยอมยกพระพุทธสิหิงค์ให้ไป พระพุทธสิหิงค์จึงได้ไปประดิษฐานอยู่เชียงราย ในปี พ.ศ.๑๙๓๑
    พอถึง พ.ศ.๑๙๕๐ เชียงใหม่กับเชียงรายเกิดรบกัน เชียงรายแพ้ เจ้าแสนเมืองมาเจ้านครเชียงใหม่ก็อัญเชิญ พระพุทธสิหิงค์มาประดิษฐานอยู่เชียงใหม่ราว ๒๕๕ ปี เมื่อสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ตีเมืองเชียงใหม่ได้ใน พ.ศ.๒๒๐๕ โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาประดิษฐานไว้ ณ วัดพระศรีสรรเพชรกรุงศรีอยุธยา ครั้นเมื่อกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่าครั้งที่ ๒ เชียงใหม่เป็นพวกพ้องพม่า จึงสามารถอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์กลับไปเชียงใหม่ได้เมื่อ พ.ศ.๒๓๑๐
    มาถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อเชียงใหม่ได้รวมอยู่กับคนไทยแล้ว พม่ายกกองทัพมาล้อมเชียงใหม่ สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระอนุชาธิราชกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ยกกองทัพไปขับไล่กองทัพพม่าพ้นเมืองเชียงใหม่ สมเด็จพระกรมพระราชวังบวรฯ จึงได้ทรงอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มากรุงเทพฯ (พ.ศ.๒๓๓๔) ประดิษฐานในพระที่นั่งพุทไธศวรรย์ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานอยู่จนถึงปัจจุบัน โดยนัยนี้ นับว่าพระพุทธสิหิงค์เป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของสยามประเทศ มาตั้งแต่ต้นประวัติกาล




    http://www.komchadluek.net/column/pra/2005/03/28/02.php
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2007
  8. loveg

    loveg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +1,076
    ผู้แต่งตำนานคือพระโพธิรังสีได้พรรณนาอานุภาพของพระพุทธสิหิงค์ไว้เป็นอันมาก มีข้อที่น่าฟังตอนหนึ่งกล่าวว่า

    "พระพุทธสิหิงค์หามีชีวิตได้ก็จริง แต่มีอิทธานุภาพด้วยเหตุ ๓ ประการ คือ
    อธิษฐานพละของพระอรหันต์ อธิษฐานพละของเจ้าลังกาหลายพระองค์
    และศาสนพละของพระพุทธเจ้า"


    ซึ่งหมายความว่ากำลังใจของพระอรหันต์ และกำลังใจของเจ้าลังกาพร้อมทั้งกำลังแห่งพระพุทธศาสนา กระทำให้พระพุทธสิหิงค์เป็นพระพุทธปฏิมากรที่ทรงอานุภาพ

    อีกตอนหนึ่งพระโพธิรังสี กล่าวว่า

    "พระพุทธสิหิงค์เมื่อประทับอยู่ ณ ที่ใด ย่อมทรงทำให้พระพุทธศาสนารุ่งเรืองดั่งดวงประทีปชัชวาล เหมือนหนึ่งว่าพระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์ชีพอยู่"

    ในส่วนของพลตรีหลวงวิจิตรวาทการ ผู้ซึ่งได้รวบรวมตำนาน พระพุทธสิหิงค์เองมีความเชื่อมั่นในอานุภาพ ของพระพุทธสิหิงค์อยู่มาก

    "อย่างน้อยก็สามารถบำบัดทุกข์ร้อนในใจให้เหือดหาย ผู้ใดมีความทุกข์ร้อนในใจท้อถอยหมดมานะด้วยเหตุใดเหตุหนึ่ง ถ้าได้มาจุดธูปเทียนบูชาและนั่งนิ่งๆ มองดูพระองค์สัก ๑๐ นาที ความทุกข์ร้อนในใจจะหายไป ดวงจิตที่เหี่ยวแห้งจะกลับมาสดชื่น หัวใจที่ท้อถอยหมดมานะจะกลับเข้มแข็งมีความมานะพยายาม ดวงจิตที่หวาดกลัวจะกลับกล้าหาญ ดวงจิตที่เกียจคร้านจะกลับขยัน ผู้ที่หมดหวังจะกลับมีความหวัง"

    คุณานุภาพของพระพุทธสิหิงค์ดังกล่าวมานี้ กระทำให้ท่านเชื่อเหตุผลของ พระโพธิรังสีว่าอธิษฐานพละ คือกำลังใจของพระอรหันต์ และเจ้าลังกาผู้สร้างพระพุทธสิหิงค์ได้เข้าไปอยู่ในองค์พระพุทธสิหิงค์พร้อมทั้งศาสนพละของพระพุทธเจ้า และข้อที่พระโพธิรังสีกล่าวว่า "พระพุทธสิหิงค์ประทับอยู่ใดก็เหมือนพระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ ที่นั้น"
    ข้อนี้ก็สมจริง ใครที่ได้เห็น พระพุทธเจ้าแม้แต่ยังมิได้ฟังธรรมเทศนาเลย ก็มีความสบายใจในทันทีที่ได้เห็นผู้ใดที่ได้เห็น พระพุทธสิหิงค์ย่อมได้รับผลอย่างเดียวกัน พระพุทธสิหิงค์เป็นที่เคารพสักการะบูชาของ องค์พระมหากษัตริย์ ของประชาชนชาวสยามมาเป็นเวลาช้านาน จึงกล่าวได้ว่าพระพุทธสิหิงค์เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของสยามประเทศเลยทีเดียว
    สุดท้ายนี้ต้อขอขอบคุณ นายอนันต์ แซ่ตัน หรือ โกฉ้า ผู้ร่วมดำเนินการ สร้างพระพุทธสิงหิงค์ ศิลปะขนมต้มแท้ รุ่นอุดมโชคโภคทรัพย์ ของวัดสิรินธรเทพรัตนาราม ในพระราชูปถัมภ์ ที่เอื้อเฟื้อข้อมูล "ตำนานพระพุทธสิงห์"
     
  9. loveg

    loveg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +1,076
    ซึ่งการสร้างถวายวัดของตัวผมเองในครั้งนี้ก็เ้นื่องมาจากได้รับคำสั่งจากในนิมิต ว่าให้บูชาพระพุทธสิหิงค์
    จากนั้นผมจึงรู้ว่าทำไมถึงต้องถวายองค์พระพุทธสิหิงค์ไว้ที่วัดที่ผมช่วยสร้างที่จังหวัดสุโขทัย

    ซึ่งนั่นก็มาจากคำกล่าวจากตำนานที่ว่า
    "พระพุทธสิหิงค์เมื่อประทับอยู่ ณ ที่ใด ย่อมทรงทำให้พระพุทธศาสนารุ่งเรืองดั่งดวงประทีปชัชวาล เหมือนหนึ่งว่าพระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์ชีพอยู่"

    ซึ่งองค์พระที่จะถวาย จะบรรจุองค์พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน และหากมีขนาดกว้างพอก็จะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จองค์ปฐมด้วย
    และภายในฐานองค์พระจะบรรจุพระธาตุรพะอรหันต์ต่างๆ พร้อมกับดวงพิชัยสงคราม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2007
  10. loveg

    loveg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +1,076
    จะขอกล่าวถึงว่าทำไมจึงต้องแกะองค์พระจากหินพระธาตุเขาสามร้อยยอด
    ก็ด้วยเหตุย้อนไปว่า

    พระธาตุพระปัจเจกพระพุทธเจ้า(หินพระธาตุเขาสามร้อยยอด) ตามประวัติมี
    นายพรานล่าเนื้อไปพบหินพระธาตุลักษณะนี้เข้า เมื่อลองกระเทาะออกมาแล้ว
    ลองเอาปืนยิงดู ปรากฏว่าเป็นมหาอุดยิงไม่ออกและในตอนกลางคืนก็เห็นเป็น
    ดวงไฟใหญ่หลายดวงลอยออกมาทั่วภูเขาส่องแสงสว่างทั่วทั้งหมู่บ้าน เคยมีมี
    คนนำหินลักษณะนี้ไปถามหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ว่าเป็นอะไรกันแน่
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำพอเห็นก็ยกมือไหว้ท่วมหัวแล้วบอกว่าเป็นพระธาตุปัจเจก
    พระพุทธเจ้า นับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ต่อมามีคนนำไปให้เถระทางภาคเหนือ
    ช่วยอธิฐานจิตปลุกเสก เช่น ครูบาชัยวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม
    และครูบาผัด วัดศรีดอนมูล เชียงใหม่ แต่ท่านเหล่านั้นบอกว่าไม่ต้องนำมา
    ปลุกเสกหรอกเพาระเป็นของที่สูงส่งมาก มีบางคนนำไปให้คนทรงดู คนทรง
    บอกว่าอย่านำเข้ามาเพราะแสบตา โดยแลเห็นเป็นแสงสว่างเจิดจ้า ซึ่งครูบา
    หลายท่านต่างก็ยืนยันตรงกันว่าเป็นพระธาตุที่มีพลังมากและในหนังสือมาตา
    บูชา ปิยารำลึกของคุณหญิงสุรีพันธุ์ ก็ได้กล่าวไว้เช่นเดียวกันแม้แต่ หลวงพ่อ
    ยิด วัดหนองจอก ก็เคยบอกว่าเป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ไม่ต้องปลุกเสก ส่วนครู
    บาชัยวงศ์ท่านก็ได้รวบรวมหินพระธาตุจำนวนหนึ่งตั้งไว้ให้คนสักการะบูชาที่
    วัดของท่านแม้แต่คนไต้หวันก็ศรัทธาในหินพระธาตุชนิดนี้มีการจ้างช่างในระแวก
    สามร้อยยอดแกะเป็นรูปเจ้าแม่กวนอิม นำไปสักกการะบูชาในประเทศของตน ต่อ
    มาทางอุทยานฯเกรงว่าชาวบ้านจะนำหินลงมาจากภูเขาจนหมด จึงมีการประกาศ
    ห้ามนำหินชนิดนี้ลงจากเขาอีกเป็นอันขาดซึ่งปัจจุบันค่านิยมในพระเครื่องที่แกะ
    จากหินพระธาตุนี้ค่อนข้างสูงเพราะมีประสบการณ์ป้องกันภัยดีมาก เป็นศิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัว


    ข้อมูลเพิ่มเติมที่หนังสือ พระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันตธาตุ กรุงเทพ : , 2548 384 หน้า 1 พระบรมสารีริกธาตุ พระอรหันต์ธาตุ I ชื่อเรื่อง ISBN 974-93228-1-9
    (ของคุณ ทศพล จังพานิชย์กุล) และ ชื่อเรื่อง :สมหวังร่ำรวยด้วยธาตุกายสิทธิ์
    ผู้เขียน: เวชยันต์ เรียบเรียง :จารุวัตร จันทร์โพธิ์ศรี ISBN:974-9785-66-5
    พิมพ์ครั้งที่ 1 มีนาคม 2549 (หาซื้อได้ตามรานหนังสือทั่วไปครับ)


    คุณวิเศษแห่งหินพระธาตุ

    อำนาจของหินพระธาตุเขาสามร้อยยอดนั้นมีมากมายเหลือคณานับ แต่หากจะทำ
    การสรุปอานุภาพแห่งหินพระธาตุเขาสามร้อยยอดแล้วควสามารถสรุปได้ ๙ ประการด้วยกัน คือ


    ๑.ดีทางร่มเย็นเป็นสุข บังเกิดความเย็นใจแก่ผู้ที่เนเจ้าของหากใครได้สัมผัสหิน
    เสมอๆ จะทำให้สงบในใจแก่ผู้นั้น

    ๒.ช่วยในการเจริญสมาธิภาวนา เรียกว่าเจริญในธรรม

    ๓.เป็นเมตตามหานิยมอย่างเอกอุ ทำให้ผู้ที่พบเห็นเราเกิดความรักใคร่อยากช่วย
    เหลือแต่ไม่เด่นทางเสน่หา หรือเรื่องรักใคร่ทางชู้สาว

    ๔.ดีทางคุ้มครอง เป็นแคล้วคลาด คือผู้ที่พกพาผินพระธาตุเขาสามร้อบยอดจะไม่
    พานพบสิ่งเลวร้ายอุบัติเหตุ สามารถรอดตัวโดยไม่ต้องเผชิญกับสถานการณ์เลย
    และยังดีทางคงกระพัน คือแม้ว่าต้องผจญด้วยเหตุการณ์อันไม่อาจหลบเลี่ยงได้
    แล้วก็เป็นคงกระพันรอดตัวมาได้เสมอ

    ๕.ดีทางโชคลาภ หินพระธาตุเขาสามาร้อยยอด เป็นสื่อนำสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต เรียก
    ว่า ในหินพระธาตุนั้น มีกายสิทธิ์ภาคผู้เลี้ยงรักษาอยู่ภายในผู้ที่หมั่นนำเอาหินนี้มา
    สวดมนต์ภาวนา นำมาพกติดตัวเสมอๆมักได้โชคได้ลาภไมขาดเลย

    ๖.ดีทางสมบูรณ์ด้วยสุขภาพพลานามัย เนื่องจากหินพระธาตินี้เป็นสิ่งที่สะสมปราณ
    ฟ้าดิน พระอาทิตย์ พระจันทร์ ขุนเขา ทะเล มานานนับร้อยปีพันปี นับเป็นระยะเวลา
    ไม่ได้ จึงทำให้มีพลังชีวิตแห่งจักรวาลอยู่ในตัวอย่างสูงส่ง ผู้ที่พกหินนี้หรือมีหิน
    พระธาตุอยู่ใกล้ๆตัวย่อมเป็นผู้ได้รับกระแสพลังปราณอันลี้ลับ พลอยทำให้สุขภาพ
    สมบูรณ์ห่งไกลจากโรคภัยไข้เจ็บมีอายุยืนนาน

    ๗.ดีทางเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงานประสบความสำเร็จในชีวิต หินพระธาตุเขา
    สามร้อยยอด จะมีลักษณะเด่นคือ เมื่อนำหินมาเจียแล้วจะมีลักษณะคล้ายพระ
    อาทิตย์หรือพระจันทร์ทรงกลด อันเป็นมงคลลักษณะที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของ
    ลายหิน โดยลักษณะดังกล่าวนร้ เป็นลักษณะแห่งพลังธรรมชาติที่นำพาความ
    รุ่งเรืองความสำเร็จมาสู่ผู้บูชาดังนั้นพลังลี้ลับศักดิ์สิทธิ์จากหินเขาสามใร้อยยอดจึง
    เป็นแรงผลักดันอย่างลี้ลับในการนำพาชีวิตของผู้นั้นไปสู่ความเจริญในหน้าที่การ
    งานและความสำเร็จในชีวิต

    ๘.หินพระธาตุเขาสามร้อยยอด เป็นหินแห่งญาณทัศนะ ข้อดีในความหมายนี้คือ
    ผู้ที่พกพาหินพระธาตุเป็นประจำ จะบังเกิดญาณหยั่งรู้ที่พิเศษกว่าปุถุชน สามารถรู้
    เหตุดีร้อยล่วงหน้า เนื่องจากกระแสญาณบารมีจากเทพเซียนที่รักษาหินนั้นจะคอย
    สอดญาณหยั่งรู้หรือบันดาลเทพสังหรณ์ให้แก่ผู้นั้น นับเป็นคุณวิเศษอันลี้ลับของ
    หินพระธาตุเขาสามร้อยยอด

    ๙.ค้ำคูณดวงชะตาไม่ให้ตกต่ำ คนที่รู้ว่าดวงชะตาตนเองไม่ดีหรือชงกับปีนั้นๆหาก
    ได้หินพระธาตุเขาสามร้อยยอดมาบูชา อำนาจจากอริยะธาตุแห่งหินเขาสามร้อย
    ยอดจะทำการเกื้อหนุนดวงชะตาของท่านไม่ให้ตกต่ำลงไป ผ่อนหนักเป็นเบา
    สามารถรอดพ้นจากอำนาจ จากดวงดาวหรือผ่อนปรนภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นกับตัว
    ท่านได้
     
  11. aor1411

    aor1411 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2007
    โพสต์:
    111
    ค่าพลัง:
    +172
    เข้ามาหาความรู้ครับ
     
  12. loveg

    loveg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +1,076
    และผมกำลังคิดว่าจะทำดวงพิชัยสงครามแจกให้กับผู้ที่ร่วมบุญทอดกฐิน
    โดยรายได้ส่วนหนึ่งจะแบ่งไปจ่ายค่าแกะพระพุทธสิหิงค์จากหินพระธาตุครับ

    สำหรับดวงที่จะแจกให้นี้ เป็นแบบแรกที่ลดทอนและวางตากลไว้
    สามารถนำไปทำสำเนา แล้วเมื่อมีการสร้างพระถวายวัดเมื่อไร
    ท่านก็สามารถนำไปให้หลวงพ่อท่านเจิมก่อนบรรจุลงองค์พระได้
    และทุกท่านที่ร่วมทำบุญกับผม ผมก็จะนำดวงของท่านบรรจุไว้ที่องค์นี้เช่นกันครับ

    ดูรายละเอียดได้ที่
    ขอเชิญบูชาพระพุทธสิหิงค์แกะจากหินพระธาตุเขาสามร้อยยอดบรรจุดวงพิชัยสงคราม
    http://www.palungjit.org/board//showthread.php?t=93374

    แล้วพรุ่งนี้จะนำพิธีกรรมการบรรจุดวงพิชัยสงครามมาให้อ่านกันครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2007
  13. aries

    aries เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,404
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,211
    น่าสนใจมากครับ ขอบคุณครับ
     
  14. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,157
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +29,709
    OO
     
  15. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,157
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +29,709
    OO
     
  16. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    [​IMG]ขอกราบโมทนาสาธุครับ สาธุ...
     
  17. เพชรฉลูกัน

    เพชรฉลูกัน ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    18,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +23,163
    เคยไปถามที่กทม.เรื่องผูกดวงพิชัยสงครามแบบนี้แหละครับ พอบอกราคามาก็ต้องถอย เพราะว่าคิดคาผูกดวง ลงแผ่นยันต์ สวดยัดเรียบร้อยเบ็ดเสร็จ ก็ เกือบ 20,000 ครับ.....
    ....จนได้มารู้จักท่านอ.สรวินทร์(สมาคมโหรศาตร์ภาคเหนือ วัดหม้อคำตวง เชียงใหม่) คุยท่านเรื่องนี้เพราะสนใจและศึกษามาพอควรว่าผูกแล้วบูชานั้นดีอย่างไร ก็เลยถามท่าน ตกใจครับว่าราคานั้นแตกต่างกันลิปลับเชียวครับ ถูกมากๆ เพราะท่านให้ดูตาราวิธีการผูกนั้น ก็ต้องโอ้โหครับ เพราะต้องใช้ sine cos tan องศาลิปดาละเอียดยิบ ท่านว่าเป็นการผูกดวงที่ละเอียดที่สุด ก็เลยตัดสินใจผูกดวงกับท่าน แต่ต้องให้เวลาท่านเป็นสัปดาห์เลยนะครับ เพราะว่าท่านนั้นละเอียดเรื่องฤกษ์ผานาทีมาก ท่านว่าต้องหาฤกษ์ผูก ฤกษ์จารลงแผ่นโลหะ ให้สมพงษ์และดีกับเจ้าของดวงชะตาให้มากที่สุด ไม่ใช่อยากผูกก็ผูก อยากลงก็ลง ท่านว่าจะทำก็ทำได้แต่ท่านไม่ทำ เพราะทำไปคนที่ไปบูชาจะไม่เห็นผลเสียครูหมด
    ....ใครสนใจก็ลองติดต่อสอบถามท่าน อาจารย์สรวินทร์ ได้ที่สมาคมโหราศาสตร์ไทยภาคเหนือวัดหม้อคำตวง ประตูช้างเผือก เชียงใหม่ได้เลยครับ เรื่องดวงพิชัยนั้นโบราณกาลคนที่จะมีได้ต้องระดับกษัตริย์หรือไม่ก็แม่ทัพนายกอง เท่านั้นที่จะมีได้ครับ เพราะถือเป็นศาตร์ชั้นสูงมาก เรื่องรายละเอียดและการบูชาดวงพิชัยสงครามโดยละเอียดนั้นต้องสอบถามที่อาจารย์เองนะครับ เพราะท่านให้คำตอบดีที่สุด เรื่องผูกดวงพิชัยนั้นหากไม่ถามท่านก็ไม่บอกว่าท่านผูกได้เพราะว่าต้องใช้สมาธิจิตสูงเหนื่อยมากๆและใช้เวลาเยอะ และที่สำคัญคือผิดไม่ได้เลยครับ หากสนใจก็ลองติดต่อสอบถามท่านดูเองนะครับ โทรติดต่อ อาจารย์สรวินทร์ ที่ 081-951-3764 ได้โดยตรงครับ ถ้าท่านไม่เก่งจริงผมไม่แนะนำแน่นอนครับ บอกได้เลยครับว่า คุณโย แนะนำมาจากเวปพลังจิต ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 กันยายน 2008
  18. Ugood

    Ugood ธรรมชาติ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    635
    ค่าพลัง:
    +490
    อนุโมทนา
    สาธุ
    สาธุ
    สาธุ
     
  19. พลังแห่งจิตปัจจุบัน

    พลังแห่งจิตปัจจุบัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    302
    ค่าพลัง:
    +404
    ดวงพิชัยสงคราม

    น่าสนใจมากๆ ครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...