พอนั่งสมาธินาน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ong303, 11 กุมภาพันธ์ 2018.

  1. ong303

    ong303 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2018
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +5
    พอนั่งสมาธินานๆ ผมรู้สึกเบาหัวอะคับ อยากทราบผู้รู้
     
  2. ชั่งเถอะ

    ชั่งเถอะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2017
    โพสต์:
    253
    ค่าพลัง:
    +339
    พุทโธ ต่อไปครับ ไม่ต้องสนใจ อาการปกติ
     
  3. pinit417

    pinit417 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +164
    เห็นคุณ ong303 ถามเกี่ยวกับอาการพวกนี้มา 2-3 กระทู้แล้ว..

    ขอตอบตรงๆเลยนะครับ การที่คุณใส่ใจ สนใจ สงสัย เกี่ยวกับอาการพวกนี้ จะทำให้จิตของคุณไม่เป็นสมาธิ..

    ผมเคยโพสต์ในกระทู้หนึงของคุณแล้ว..

    พุทโธเป็นเชือกยึดจิต
    สติเป็นกำลังที่ใช้ดึงเชือก
    มีเชือกไม่มีแรง ก็ดึงจิตไว้ไม่อยู่ (จิตฟุ้งซ่าน สักแต่พุทโธ ไปอย่างนั้น)
    มีแรงแต่ไม่มีเชือก ก็ไม่รู้จะเอาอะไรดึง (มีสติแต่ไม่มีเครื่องยึดจิต)

    จับเชือกให้มั่น แล้วใช้แรงดึง (สติจับที่คำภาวนา หรือลมหายใจ ให้มั่น)

    แรงน้อยก็ดึงเชือกได้น้อย (มีสติน้อย ก็จับคำภาวนาไม่ได้...หรือสักแต่ภาวนาแต่ไม่รู้ตัวหรือรู้ตัวขึ้นมาบ้างบางครั้งว่าเราภาวนาอยู่)
    แรงมากก็ดึงเชือกได้มาก (มีสติมาก ก็รู้ตลอดว่าภาวนาอะไรอยู่ทุกขณะ และจิตก็จะจับอยู่แต่คำภาวนา)
    การเพิ่มกำลังสติ หมายถึงเพิ่มความพยายาม(ความพยายามในการระลึกรู้ว่าภาวนาอยู่)

    จากข้อความข้างต้นนี้...ขณะที่คุณสงสัย...สติคุณจะลดลง คือหลุดจากคำภาวนา ..ผลที่ตามมาเชือกที่ผูกไว้กับจิตก็หลวม แรงที่จะดึงจิตไว้ก็จะอ่อนกำลังลง..จิตคุณก็ไม่สามารถรวมเป็นสมาธิได้..
     
  4. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    มือใหม่ ไม่มีครูบาอาจารย์ ไม่ได้ใกล้ชิดสายพระสายพระป่าหลวงปู่มั่นสอน ใกล้ชิดครูบาอาจารย์ที่เป็นผู้รู้ จขกท. เลยสงสัยไปหมดทุกเรื่องนั้นละครับ เหมือนที่หลายๆท่านบอก

    การปฏิบัติ ภาวนา เอาตรงๆ คือ การ ภาวนาให้ จิตสงบ สงบลงสู่ฐานของจิต จิตเข้าสมาธิเป็นจิตเป็นผู้รู้ การที่ จิตจะสงบได้นั้น เราต้องรักษาอารมณ์หนึ่ง จิตตั้งมั่น ครับ

    ถ้าเรามัวแต่เอาจิต ไปเสวยอารมณ์ตามที่ร่างกายส่งออกมา การเอาจิตไปจับอารมณ์รับรู้อาการทางกายต่างๆที่เกิด จะทำให้ จิตเคลื่อนออกจากฐาน ไม่สามารถรักษาอารมณ์หนึ่ง ให้จิตรวมลงสมาธิได้ ครับ

    แล้วเมื่อเรา ส่งจิตออก เรียกว่าไปรับรู้อาการทางกายต่างๆนาๆ ความฟุ้งซ่านก็จะตามมา แล้วก็จะกลายเป็นว่า จิตไม่ได้รักษาอารมณ์หนึ่ง จิตก็เลยไม่ลงสมาธิ เพราะจิตไม่สงบ ครับ

    ตอนภาวนา ให้มีสติ จดจ่ออยู่กับกรรมฐานกองที่เราปฏิบัติ อย่าส่งจิตออกนอก เช่นไปจับอาการ อารมณ์ เสวยอารมณ์อื่นๆ เพราะจะทำให้หลุดจาก คำภาวนา ที่เราเอา จิต สติจับอยู่กับคำภาวนา ครับ

    เราปฏิบัติกรรมฐาน เพื่อให้จิตสงบ จดจ่ออยู่กับคำภาวนา ให้จิตลงสมาธิ ไม่ได้ปฏิบัติเพื่อไปรับรู้อารมณ์เสวยอาการต่างๆนาๆ ที่มันเข้ามา ครับ

    ตอนปฏิบัติ ให้วางอารมณ์ทุกอย่างลงให้หมด ให้มีสติ อยู่กับคำภาวนา อยู่กับกรรมฐานที่ปฏิบัติ อานาปานสติ

    ถ้ามันไปรู้เห็นอะไร จิตส่งออกไปรับรู้สิ่งต่างๆนาๆ อะไรก็ตาม ให้ตัดทิ้งให้หมด แล้วกลับมา มีสติ จดจ่ออยู่กับคำภาวนา ครับ ไอ้เรื่องส่งออกนอก ไปรับรู้นั้นนี่ นี่ เรื่องพวกนี้ ขวางผลการปฏิบัติทั้งนั้น ถ้าหลงผิด ไปตามเรื่องพวกนี้ ที่ส่งจิตออกไป ไปรับรู้ หลงผิดทางไม่รู้ตัว ครับ

    อาการต่างๆที่เกิดทางร่างกายก็ดี จะอะไรก็แล้วแต่ จะเบาหวิวๆหัว หรืออะไรก็แล้วแต่ เดี๋ยวจะเยอะอีกเยอะยิ่งกว่านี้ มาหลอกเราให้เราเลิกนั่งสมาธิเพราะกลัวจะเป็นนั้นนี้ เพิ่มเข้ามา นั้นละครับ เจอเรื่องพวกนี้ อาการพวกนี้ อย่าเผลอเอาจิตไปจับตามรู้ เพราะมันจะไม่สิ้นสุด แถมขวางผลการปฏิบัติ ทำให้ติดอยู่แค่ตรงนี้ไปอีกนาน
     

แชร์หน้านี้

Loading...