เรื่องเด่น พุทธทำนาย ยุคกึ่งพุทธกาล จะเกิดภัยพิบัติและสงครามใหญ่ (ปีพ.ศ. 2560 เป็นต้นไป)

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย WebSnow, 25 สิงหาคม 2016.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สัมภาษณ์พิเศษ: อาจารย์ปริญญา ตันสกุล
    (วิทยาการอำนวยการ สถาบันพัฒนาบุคลิกภาพ มนุษย์ )

    hqdefault.jpg

    “...อาจารย์บอกว่า สาส์นจิตจักรวาล เตือนวันชำระโลก ประเทศไทยเรา ด้ามขวานจะหักเป็นสามท่อน ที่ว่าหักคือจมทะเลไปหมดเลย หลายคนก็บอก เป็นไปไม่ได้ ไม่มีทางเกิดหรอก เหมือนที่ว่ากรุงเทพเนี่ย ไม่เกิดแผ่นดินไหวหรอก ผมบอกว่าเกิด! ขนาดเมืองกาญจน์แผ่นดินไหวตั้ง 7 ริกเตอร์ กรุงเทพฯก็เตรียมตัวอันตรายได้แล้ว นี่ผมพูดในฐานะของนักวิทยาศาสตร์ทางจิตนะ ไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์ทางโลก ไม่ได้พูดทางวิทยาศาสตร์ทางกายภาพ

    โดยเหตุการณ์จะเกิดจากต้นเหตุสำคัญคือแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิดอันเนื่องมาจาก แผ่นทวีปของเปลือกโลกเคลื่อน โดยสภาพการเปลี่ยนแปลงจะเป็นไปในแต่ละพื้นที่ คือ ภาคใต้ตรงบริเวณด้ามขวาน จะเป็นพื้นดินยาวลงมาถึง จ.ประจวบคีรีขันธ์ คือส่วนที่ 1 ต่อมาส่วนที่ 2 เป็นเกาะใหญ่อยู่ตรงกลาง และส่วนที่ 3 คือที่ติดกับประเทศมาเลเซีย โดยจะมีทะเลกันหมดทั้ง 3 ส่วน เกาะภูเก็ต เกาะสมุย และเกาะน้อยใหญ่จะหายไปหมด แต่ละจังหวัดเหลือพื้นที่เพียงน้อยนิด ประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศลาว เวียดนาม กัมพูชา ก็จะจมอยู่ใต้ทะเล ส่วนพม่าตอนล่างหายไป จังหวัดทางภาคตะวันตกของไทยกลายเป็นชายทะเล ภาคเหนือจะมีแม่น้ำสายใหม่เกิดขึ้น พื้นที่ของไทยประมาณ 20% จมทะเล"


    ที่มา http://th.uncyclopedia.info/wiki/คุยเรื่องไร้ข่าว:อนาคตของโลก
     
  2. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    ข้อถกเถียงที่เกิดในโลกมนุษย์ที่ส่งผลหลัก คือเรื่องธรรมทั้งมวลและธรรมล้วนๆ เหตุการ์ณในโลกมนุษย์ย่อมสงผลถึงโลกธาตุอื่นด้วย ทั้งในสวรรค์และนรก เมื่อถกเถียงจึงวุ่นวายหาข้อยุติมิได้ โดยเฉพาะในเรื่องพระสัทธรรมและอสัทธรรม เมื่อพระสัทธรรมเริ่มเลือนลางไปจากใจของหมู่สัตว์ในโลกธาตุ กำเนิดสัทธรรมปฏิรูปขึ้นมาแทน

    หากเมื่อใดโลกบังเกิดอลัชชีสรรเสริญแต่งเติมซึ่งอสัทธรรมย่ำยีเสียแล้วซึ่งพระสัทธรรมก้าวล่วงเป็นใหญ่ในสังฆปริมณฑล ทุกภพภูมินรกสวรรค์จึงเกิดวิปริตแปรปรวนมากขึ้น จากที่เป็นอยู่ธรรมดาที่ไม่เที่ยงอย่างนั้นและอย่างนั้นอยู่แล้ว เมื่อเป็นเช่นนั้นก็ย่อมเกิดภัยพิบัติแก่โลกมนุษย์นั้นด้วย เมื่อไร้ซึ่งพระสัทธรรม อสัทธรรมโชติช่วง โลกาย่อมวินาศ ณ ครานั้น

    เมื่ออสัทธรรมกล้าแข็งถึงที่สุด เมื่อโลกธาตุทั้งหลายสั่นไหว บุคคลทั้งหลายปราถนาพระสัทธรรม จึงจะมีการถือกำเนิดจุติธรรมเป็นอิทัปปัจยตา แม้ผู้รู้แล้วยังทำได้แค่อยากและปราถนาก็ได้พึ่งธรรมพึ่งตนเฝ้าคอย เพียงเท่านั้น

    ผู้ใดเล่าหนอจะมาไถพรวนผืนดินถิ่นธรรมที่แห้งผากนี้ให้ราบลุ่มเขียวขจี
     
  3. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
  4. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    หรือจะมีผู้สนุกสนานสร้างข่าว ตัดต่อวีดีโอมา

     
  5. saman2507

    saman2507 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +9
    ธรรมะที่แท้จริงปรากฎว่าทั้งหลายจะเชื่อหรือไม่เพราะต่างจากความเชื่อเดิมๆ
     
  6. saman2507

    saman2507 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +9
    เพราะความเชื่อเดิมๆทางศาสนา
    เวลานี้หลงทางมากแล้วครับ
     
  7. พริ้วไหว

    พริ้วไหว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +334
    กำลังอ่านมาดี ๆ คุณจ่ายักษ์มาจากไหนอีกหนอ
     
  8. kojaidee

    kojaidee สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2017
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +2
  9. รัตนมหาธาตุ

    รัตนมหาธาตุ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2017
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +65
    เตรียมตัวเต็มรูปแบบ มีผู้รู้จัก" อหังการวิเศษมาร " สามารถอัญเชิญคัมภีร์ได้โดยตรง ถ้าสามารถเข้าสู่สภาวะได้เมื่อไหร่ เตรียมอพยพได้ทันที
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
  11. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    "การทำลายพระไตรปิฏกเริ่มขึ้นแล้ว การทำลายพระอภิธรรมเริ่มขึ้นแล้ว โปรดช่วยกันรักษาด้วยเถิด ต่อต้านด้วยเถิด"








    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันได้เห็นคนทั้งหลายเอาแก่นจันทน์มีราคาตั้งแสนกษาปณ์ ขายแลกกับเปรียงเน่า.


    หากไม่มีผู้ควบคุมธาตุ สรรพสัตว์ในสหโลกธาตุทั้งหลายฯ ย่อมพินาศเสื่อมสูญฯ วัฎสงสารจึงเจริญไม่สิ้นไป ควรจะบวชอุทิศผู้ใดใครกันเล่า!


    พระธรณีปวดร้าว
    ทุกครั้งที่โลกธาตุสั่นสะเทือนหวั่นไหว ด้วยการสำเร็จในการบรรลุพระสัทธรรม นั้นจะยืดเวลารักษาสภาพของโลกธาตุต่างๆไว้

    แต่ทุกครั้งที่พระสัทธรรมถูกแต่งเติมด้วยสัทธรรมปฎิรูปและถูกย่ำยีด้วยอามิสทายาทที่เนรคุณต่อพระสัทธรรมธรณีจะหวั่นไหวพินาศ(ธาตุ๔)

    และทุกครั้งที่อสัทธรรมเจริญโชติช่วงจนถึงขีดสุดก็ถึงคราวิบัติของโลก


    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรกัสสป ข้อนั้นเป็นอย่างนี้คือ
    เมื่อหมู่สัตว์เลวลง พระสัทธรรมกำลังเลือนหายไป สิกขาบทจึงมีมากขึ้น ภิกษุที่ตั้งอยู่ในพระอรหัตผลจึงน้อยเข้า สัทธรรมปฏิรูปยังไม่เกิดขึ้นในโลกตราบใด
    ตราบนั้นพระสัทธรรมก็ยังไม่เลือนหายไป และสัทธรรมปฏิรูปเกิดขึ้นในโลกเมื่อใด เมื่อนั้นพระสัทธรรมจึงเลือนหายไป ทองเทียมยังไม่เกิดขึ้นในโลก ตราบใด

    ตราบนั้นทองคำธรรมชาติก็ยังไม่หายไป และเมื่อทองเทียมเกิดขึ้น ทองคำธรรมชาติจึงหายไป ฉันใด พระสัทธรรมก็ฉันนั้น สัทธรรมปฏิรูปยังไม่เกิดขึ้นในโลก ตราบใด ตราบนั้นพระสัทธรรมก็ยังไม่เลือนหายไป เมื่อสัทธรรมปฏิรูปเกิดขึ้น เมื่อใด เมื่อนั้นพระสัทธรรมจึงเลือนหายไป ฯ

    ดูกรกัสสป ธาตุดินยังพระสัทธรรมให้เลือนหายไปไม่ได้ ธาตุ
    น้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม ก็ยังพระสัทธรรมให้เลือนหายไปไม่ได้ ที่แท้โมฆบุรุษใน
    โลกนี้ต่างหาก เกิดขึ้นมาก็ทำให้พระสัทธรรมเลือนหายไป เปรียบเหมือนเรือจะอัปปาง ก็เพราะต้นหนเท่านั้น พระสัทธรรมยังไม่เลือนหายไปด้วยประการฉะนี้


    "ดูก่อนท่านปัณฑรสฤาษี ในกาลภายหน้านั้น ภิกษุเป็นอันมาก จะเป็นคนมักโกรธ มักผูกโกรธไว้ ลบหลู่ คุณท่าน หัวดื้อ โอ้อวด ริษยา มีวาทะแตกต่างกัน จะเป็นผู้มีมานะ (ถือตัว) ในธรรม ที่ยังไม่รู้ทั่วถึง คิดว่าตื้น ในธรรมที่ลึกซึ้ง เป็นคนเบาปัญญา ไม่เคารพธรรม ไม่มีความเคารพกันและกัน

    ในกาลข้างหน้า โทษภัยเป็นอันมากจะเกิดขึ้นในหมู่สัตว์โลก ก็เพราะภิกษุทั้งหลาย ผู้ไร้ปัญญา จะกระทำ ธรรมะ ที่พระศาสดา ทรงแสดงแล้วนี้ ให้เศร้าหมอง


    ทั้งพวกภิกษุที่มีคุณอันเลว แต่โวหารจัดแกล้วกล้า มีกำลังมาก ปากกล้า ไม่ได้ศึกษาธรรมวินัย ก็จะมีขึ้น ในสังฆมณฑล ส่วนภิกษุผู้มีคุณความดี มีโวหารสมควรแก่เนื้อความ มีความละอาย ต่อบาป ไม่ต้องการ อะไรๆ ก็จะมีกำลังน้อย


    ธาตุอันตรธานปริวัตต์
    คำว่า อัตรธาน คือ ความเสื่อมสูญเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา มี ๕ ประการ คือ
    ๑.ปริยัติอันตรธาน การเสื่อมสูญแห่งพระปริยัติ
    ๒.ปฏิบัติอันตรธาน การเสื่อมสูญแห่งการปฏิบัติ
    ๓.ปฏิเวธอันตรธาน การเสื่อมสูญแห่งการสำเร็จมรรคผลนิพพาน
    ๔.ลิงคอันตรธาน การเสื่อมสูญแห่งเพศสมณะ
    ๕.ธาตุอันตรธาน การเสื่อมสูญแห่งพระบรมธาตุ



     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤศจิกายน 2017
  12. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    บาลีนั้นยังคงอยู่เพียงใด ปริยัตติก็ชื่อว่ายังบริบูรณ์อยู่เพียงนั้น. เมื่อกาลล่วงไปๆ พระราชาและพระยุพราชในกุลียุคไม่ตั้งอยู่ในธรรม เมื่อพระราชาและยุพราชเหล่านั้นไม่ตั้งอยู่ในธรรม ราชอมาตย์เป็นต้นก็ไม่ตั้งอยู่ในธรรม แต่นั้นชาวแคว้นและชาวชนบทก็ไม่ตั้งอยู่ในธรรม ฝนย่อมไม่ตกต้องตามฤดูกาล เพราะคนเหล่านั้นไม่ตั้งอยู่ในธรรม. ข้าวกล้าย่อมไม่บริบูรณ์ เมื่อข้าวกล้าเหล่านั้นไม่บริบูรณ์ ทายกผู้ถวายปัจจัยก็ไม่สามารถจะถวายปัจจัยแก่ภิกษุสงฆ์ได้ ภิกษุทั้งหลายลำบากด้วยปัจจัยก็ไม่สามารถสงเคราะห์พวกอันเตวาสิก.
    เมื่อเวลาล่วงไปๆ ปริยัติย่อมเสื่อม ภิกษุทั้งหลายไม่สามารถจะทรงจำอรรถไว้ได้ ทรงจำไว้ได้แต่พระบาลีเท่านั้น. แต่นั้นเมื่อกาลล่วงไปก็ไม่สามารถจะทรงบาลีไว้ได้ทั้งสิ้น. อภิธรรมปิฎกย่อมเสื่อมก่อน เมื่อเสื่อมก็เสื่อมตั้งแต่ท้ายมา.
    จริงอยู่ ปัฏฐานมหาปกรณ์ย่อมเสื่อมก่อนทีเดียว เมื่อปัฏฐานมหาปกรณ์เสื่อม ยมก กถาวัตถุ บุคคลบัญญัติ ธาตุกถา ธัมมสังคณีก็เสื่อม เมื่ออภิธรรมปิฎกเสื่อมไปอย่างนี้ สุตตันตปิฎกก็เสื่อมตั้งแต่ท้ายมา อังคุตตรนิกายเสื่อมก่อน. เมื่ออังคุตตรนิกายเสื่อม เอกาทสกนิบาตเสื่อมก่อน ต่อแต่นั้นทสกนิบาต ฯลฯ ต่อนั้นเอกนิบาต. เมื่ออังคุตตรนิกายเสื่อมไปอย่างนี้ สังยุตตนิกายก็เสื่อมตั้งแต่ท้ายมา.
    จริงอยู่ มหาวรรคเสื่อมก่อน แต่นั้นสฬายตนวรรค ขันธกวรรค นิทานวรรค สคาถวรรค เมื่อสังยุตตนิกายเสื่อมไปอย่างนี้ มัชฌิมนิกายย่อมเสื่อมตั้งแต่ท้ายมา.
    จริงอยู่ อุปริปัณณาสก์เสื่อมก่อน ต่อนั้นมัชฌิมปัณณาสก์ ต่อนั้นมูลปัณณาสก์.
    เมื่อมัชฌิมนิกายเสื่อมอย่างนี้ ทีฆนิกายเสื่อมตั้งแต่ท้ายมา.
    จริงอยู่ ปาฏิยวรรคเสื่อมก่อน แต่นั้นมหาวรรค แต่นั้นสีลขันธวรรค เมื่อทีฆนิกายเสื่อมอย่างนี้ พระสุตตันตปิฎกชื่อว่าย่อมเสื่อม. ทรงไว้เฉพาะชาดกกับวินัยปิฎกเท่านั้น. ภิกษุผู้เป็นลัชชีเท่านั้นทรงพระวินัยปิฎก. ส่วนภิกษุผู้หวังในลาภ คิดว่า แม้เมื่อกล่าวแต่พระสูตรก็ไม่มีผู้จะกำหนดได้ จึงทรงไว้เฉพาะชาดกเท่านั้น. เมื่อเวลาล่วงไปๆ แม้แต่ชาดกก็ไม่สามารถจะทรงไว้ได้.
    ครั้งนั้น บรรดาชาดกเหล่านั้นเวสสันดรชาดกเสื่อมก่อน ต่อแต่นั้นปุณณกชาดก มหานารทชาดกเสื่อมไปโดยย้อนลำดับ ในที่สุดอปัณณกชาดกก็เสื่อม. เมื่อชาดกเสื่อมไปอย่างนี้ ภิกษุทั้งหลายย่อมทรงไว้เฉพาะพระวินัยปิฎกเท่านั้น.
    เมื่อกาลล่วงไปๆ ก็ไม่สามารถจะทรงไว้ได้แม้แต่พระวินัยปิฎก แต่นั้นก็เสื่อมตั้งแต่ท้ายมา. คัมภีร์บริวารเสื่อมก่อน ต่อแต่นั้นขันธกะ ภิกษุณีวิภังค์ก็เสื่อม แต่นั้น ก็ทรงไว้เพียงอุโปสถขันธกเท่านั้นตามลำดับ.
    แม้ในกาลนั้น ปริยัตติก็ชื่อว่ายังไม่เสื่อม ก็คาถา ๔ บาทยังหมุนเวียนอยู่ในหมู่มนุษย์เพียงใด ปริยัตติก็ชื่อว่ายังไม่อันตรธานเพียงนั้น.
    ในกาลใด พระราชาผู้มีศรัทธาเลื่อมใสทรงให้ใส่ถุงทรัพย์หนึ่งแสนลงในผอบทองตั้งบนคอช้าง แล้วให้ตีกลองร้องประกาศไปในพระนครว่า ชนผู้รู้คาถา ๔ บทที่พระพุทธเจ้าตรัสแล้ว จงถือเอาทรัพย์หนึ่งแสนนี้ไป ก็ไม่ได้คนที่จะรับเอาไป แม้ด้วยการให้เที่ยวตีกลองประกาศคราวเดียว ย่อมมีผู้ได้ยินบ้าง ไม่ได้ยินบ้าง จึงให้เที่ยวตีกลองประกาศไปถึง ๓ ครั้ง ก็ไม่ได้ผู้ที่จะรับเอาไป. ราชบุรุษทั้งหลายจึงให้ขนถุงทรัพย์ ๑๐๐,๐๐๐ นั้น กลับสู่ราชตระกูลตามเดิม.
    ในกาลนั้น ปริยัตติ ชื่อว่าย่อมเสื่อมไป ดังว่านี้ ชื่อว่าการอันตรธานแห่งพระปริยัตติ.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤษภาคม 2020
  13. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    ทั้งพระไตรปิฏก ทั้งการทำลาย อภยปริตร ทั้งพระอภิธรรมปิฏก ทั้งพระเวสสันดรชาดก

    ได้ถูกทำลายลงตามขั้นตอน อย่างตรงในพระไตรปิฏกอย่างแม่นยำจนน่าใจหาย




    ท่านไม่เห็นแต่เราเห็น ไม่มีใครเตือนแต่เราเตือน


    เมื่อไหร่ถึงจะเชื่อเรา ท่านเอย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤษภาคม 2020
  14. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    นายมารค์เขาเป็นเพียงเครื่องจักรและกลไกในการขับเคลื่อนของกระแสธรรมเพียงเท่านั้น !

    เขาเป็นสัญญานเตือนโดยที่ไม่รู้ตนเองแก่ชาวพุทธผู้ไม่รู้ธรรม

    เขาทำกรรมทำบุญฯมาอย่างนั้นฯ รองรับอย่างนั้นมา

    แต่ไม่ใช่ในกรณีโมฆะบุรุษอลัทชีอย่างคึกฤทธิ์ ที่เป็นขุยไผ่ฆ่าต้นไผ่สร้างสัทธรรมปฎิรูป ทำลายพระไตรปิฏกทั้ง๓ ในพระพุทธศาสนา ตามพุทธทำนาย มหาสุบินชาดก และ ตามที่ในพระสูตรที่ได้แสดงไว้

    พระเถระพยากรณ์นั้นก็ใช่ เป็นโมฆะบุรุษบุคคลเดียวกันในห้วงกึ่งพุทธกาล





    http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=20&i=128
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤษภาคม 2020
  15. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    การเข้ามาในเว็บบอรด์พลังจิตของเรานั้น มีจุดมุ่งหมายเดียว คือการรักษาพระสัทธรรม ให้คงอยู่ ไม่มีเจตนาอื่น นี่คือ สัญญาของเรา ที่มีต่อเครื่องกำหนดกาลอันเป็นปเทสญานทางพระพุทธศาสนาในทุกๆพุทธสมัย อภยปริตร จะถูกทำลายลงทุกๆครั้งเมื่อถึงกึ่งรอบพุทธกาล
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    จาก เรื่อง"สัตตานังมาเกาะขันธ์๕ จนเลยเถิดไปยัง อสังขตะธรรม ถูกอวิชชามาเกาะ"

    นี่คือสัญญานอันวิปัลลาสของสำนักวัดนาป่าพง ที่ถูกต้องมิตฉัตตะ๑๐ เมื่อไหร่กันหนอ พุทธบริษัททั้งหลายฯ จะตื่นตัวไม่เพิกเฉย
    เมื่อ ไหร่ กัน หนอ จึงจะร่วมมือร่วมใจกำจัดสัทธรรมปฎิรูปนี้ มาสร้างกุศลผลบุญใหญ่ด้วยกันเถิด



    เมื่อ ไหร่ จึง จะ อุ่น ใจ ดังใน กลามสูตรที่เราเคยแสดงและวิสัชนาไว้แก่สาธุชนในกาลก่อน

    หลงเชื่อใครเสียใจมาก็มาก จะไม่ยอมหลงเชื่อเราที่ไม่ขออะไรๆบ้างเลยหรือในเรื่องนี้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤศจิกายน 2017
  17. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201
    คำทำนายอื่นอีกที่เรายังไม่เคยเห็นผ่านตาและยังไม่ได้นำมาแสดงมีอย่างนี้ด้วยหรือ?

    เหมือนที่เราแสดงไว้ขนาดนี้เชียวหรือ หรือว่า อ่านของเราแล้วไปแต่งเติมเอาใหม่ และอีกอย่างนั้น
    ขอแก้ให้ไว้ตรงนี้ ปาฎิหาริย์ทั้ง ๓ อย่างนี้สามารถทำให้เหล่าเวไนยสัตว์ทั้งหลายฯสามารถบรรลุธรรมได้ แต่ที่ทรงรังเกียจระอาใจในปาฎิหาริย์ ๒ อย่างแรกนั้นฯมีอยู่ แต่ไม่ใช่อย่างที่ใครทั้งหลายฯเข้าใจกัน


    เพราะอะไรอย่างนั้นหรือ จงพิจารณา

    ในเวลาที่สาธุการของมหาชนนั้นเป็นไป พระศาสดาทรงตรวจดูจิตของบริษัทซึ่งใหญ่ถึงเพียงนั้น ได้ทรงทราบวาระจิตของคนหนึ่งๆ ด้วยอำนาจอาการ ๑๖ อย่าง. จิตของพระพุทธเจ้าทั้งหลายเป็นไปเร็วอย่างนี้, บุคคลใดๆ เลื่อมใสในธรรมใด และในปาฏิหาริย์ใด พระศาสดาทรงแสดงธรรม และได้ทรงทำปาฏิหาริย์ด้วยอำนาจอัธยาศัยแห่งบุคคลนั้นๆ.

    เมื่อพระองค์ทรงแสดงธรรม และทรงทำปาฏิหาริย์ด้วยอาการอย่างนี้ ธรรมาภิสมัยได้มีแก่มหาชนแล้ว.

    มันเหนื่อยนะ ที่ต้องคอยเที่ยวแสดงฤทธิ์ตามอัธยาศัยแห่งสัตว์ ทังๆที่ควรจะได้ฟังธรรมแล้วปฎิบัติพิจารณาตามธรรมไป แล้วบรรลุนั้นย่อมดีกว่าประเสริฐกว่า

    ธรรมาภิสมัยได้มีแก่สัตว์ ๒๐ โกฏิในสมาคมนั้น เพราะเห็นปาฏิหาริย์ของพระศาสดาผู้ทรงทำอยู่อย่างนั้น และเพราะได้ฟังธรรมกถา.

    "จงใจทิ้งหมากปริศนาเอาไว้ให้ศิษย์คอยตามแก้ให้ตลอด สนุกสนานจริงๆนะขอรับท่าน"

    "ในท่ามกลางอายุพระพุทธศาสนา จะมีภิกษุอลัชชีใจบาปนำลัทธิลามกเข้ามาแทรกปะปน ด้วยเห็นแก่ลาภสักการะ และยศศักดิ์เอากิเลสมาเป็นบ่อนทำลายพระพุทธศาสนา จะลุกลามไปตามอารามต่างๆทำให้พระภิกษุที่ดีต้องเดือดร้อนระส่ำระสาย พลอยแปดเปื้อนมลทินไปด้วย เหล่าภิกษุอลัชชีจักกล่าวร้ายป้ายสีพระภิกษุดีๆด้วยประการต่างๆนานา เพื่อทำลายศรัทธาของสาธุชน แต่ด้วยบาปอกุศลบันดาลเขาจักทำการอันน่าบัดสียิ่งขึ้น จนประชาชนรู้ทันกลมารยาของเขาจักนั้นเขาจะพินาศไปตามๆกัน"

    ยังมีอีก

    ในความหมายของหลวงปู่มั่น ว่าช้างเผือกหนุ่มมีอภินิหารนั้น หมายถึงอภินิหาร ๓ อย่าง


    1. อิทธิปาฏิหารย์ แสดงฤทธิ์ได้นานาประการ
    2. อาเทสนาปาฏิหารย์ มีญาณรู้วาระจิตคนอื่น แล้วพูดดักใจคนอื่นได้
    3. อนุสาสนีปาฏิหารย์ มีความสามารถแสดงธรรมได้อย่างมีเหตุผล ทำให้คนที่ฟังเข้าใจในความหมายได้อธิบายธรรมหมวดที่คนเข้าใจได้ยาก มาอธิบายให้คนเข้าใจง่าย อธิบายธรรมหมวดยาว สามารถย่นย่อธรรมที่ยาว มาอธิบายโดยย่อให้คนเข้าใจได้

    ช้างเผือกตนใดหนอ?

    เรื่องบังเอิญไม่มีในโลก ถ้าเป็นการจงใจ ก็ซวยแล้วเรา ที่ต้องมารู้เห็นเรื่องแบบนี้ หวังว่าเขาจะปรากฎตนอีกไม่นาน ขอท่านจงบรรลุธรรมเร็วๆนั้นเถิด


    http://palungjit.org/threads/การมาของบุคคลที่ยิ่งใหญ่ที่จะช่วยค้ำพระพุทธศาสนา.624050/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ธันวาคม 2017
  18. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,264
    ค่าพลัง:
    +5,219
    ซวยอะไรเหรอครับ
    หรือว่าเห็นภัยล่วงหน้า

    ถ้าจะมีผู้วิเศษมาในยุคนี้จริง ๆ นะครับ สิ่งที่ผมอยากขอเลยก็คือ ให้ท่านช่วยเหาะให้คนทั้งโลกเห็นกันจะ ๆ ทีเถอะ อย่างน้อยคนในสมัยนี้จะได้เชื่อว่าเรื่องที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ยังไม่ได้นั้นมีจริง อาจจะทำให้มีคนศึกษาทางด้านนี้กันมากขึ้น บางทีอาจจะได้คนบรรลุธรรมเพิ่มมาอีกแบบฟลุก ๆ

    ส่วนศาสนาไหนจะได้คนเพื่มนั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง เพราะคนทำกรรมมาอย่างไร กรรมที่ทำมาก็พาเราไปทางนั้นแหละ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ธันวาคม 2017
  19. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201

    ซวย/ภาระที่เกินตัวขณะยังไม่บรรลุ

    เพราะไม่ฉนั้นแล้ว งานจะเข้า แค่นี้ก็อดทนอดกลั้นอยู่ในสภาพกล้้ำกลืนเต็มทนและเหลือทนในวิสัยคฤหัสถ์ฆราวาสแล้ว

    อย่าให้หลงตนเอง เพราะไม่อยากจะซวย ซวยในที่นี้คือ การแบกรับภาระที่สำคัญยิ่ง มากมายยิ่ง เกินสติปัญญาและความสามารถของตนเองในปัจจุบันกาล แต่ถ้าได้ ปาฎิหาริย์ ๓ และ ปฎิสัมภิทา ๔ /๑๖ อันสมบูรณ์ จะลงสนามทันที แบบทันตาเห็น

    ระดับ ๑ ล่างสุด /๑๖ นี่ไม่ไหวนะ
    “พาโล อปริณายโก คนโง่ไม่ควรเป็นผู้นำ”
     
  20. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +3,201


    เกี่ยวข้องกัน http://palungjit.org/threads/พบ-โบส...่า-200-ปี-แกะสลักสุดสวยงามด้วยดินทราย.631356/
     

แชร์หน้านี้

Loading...