เรื่องเด่น พุทธทำนาย ยุคกึ่งพุทธกาล จะเกิดภัยพิบัติและสงครามใหญ่ (ปีพ.ศ. 2560 เป็นต้นไป)

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย WebSnow, 25 สิงหาคม 2016.

  1. sukum2018

    sukum2018 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2018
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +5
    ผมขออนุญาตแนะนำบทสวดมนต์มหากรุณาธารณีสูตรให้สวดกัน เพราะจะถึงเวลาแล้วครับ กลียุค
    .
    1.ถึงเวลากลียุคแล้ว
    2.ww3 ก็ขู่กันไป ขู่กันมา หลายๆรอบแล้ว ไม่ต้องรอให้เขายิงนิวเคลียร์กันก่อน (เราสวดเลย)
    3.ภัยพิบัติทางธรรมชาติ(จากเจ้าหนี้เวรกรรมหมื่นๆชาติ)ก็มาเรื่อยๆ ตามข่าวต่างๆ
    ไม่ต้องรอภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ใหญ่โตระดับชาติ ให้มันเกิดขึ้นก่อน(ให้มันโดนไทยเราก่อน) (เราสวดเลย)
    4.ทุกวันนี้ก็มีสงคราม"โลภ" ขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ เต็มไปหมดแล้ว สงครามมันมีอยู่ทุกวัน ทุกที ใกล้ตัว กลางตัว ไกลตัว ฯลฯ แต่เราไม่เห็น /ไม่สนใจเอง /ไม่รู้ ฯลฯ เท่านั้นเอง (เราสวดเลย รออะไรอีก)
    5........ (เว้นไว้เพื่อพักสายตา)
    6.ล้าง(ชดใช้)เจ้าหนี้เวรกรรมของเราก่อน เป็นหมื่นๆชาติครับ
    7.เคลียร์เจ้าหนี้เวรกรรมของเราก่อน แล้วสวดมนต์บทอื่นจะง่ายขึ้นครับ
    8.ทุกที่ ทุก อจ. บอกตรงกันว่า ต้องเคลียร์เจ้าหนี้เวรกรรมของเราก่อนครับ อย่างอื่นถึงจะค่อยๆดีขึ้นครับ
    9.ซึ่งบทสวดมนต์นี้ตรง และมีพลัง แรงมากอยู่ครับ บทสำหรับเจ้าหนี้เวรกรรม โดยตรง ต้องบทนี้ครับ (เท่าที่ผมพบเจอมาครับ)
    10.ฯลฯ
    11.เจ้าแม่กวนอิมท่านบอกมา เราก็เชื่อท่านเถอะครับ สวดเถอะครับ อย่าดื้อเลยครับ
    12.พระพุทธเจ้าท่านก็ยอมรับรับรองให้(ในวีดีโอ) ก็เชื่อท่านเถอะครับ สวดเถอะครับ อย่าดื้อเลยครับ
    13.ฯลฯ ครับ
    .
    .
    ผมขออนุญาตแนะนำบทสวดมนต์ดีๆให้ทุกท่านครับ สวดกันอย่างน้อยวันละ5ครั้งครับ(หรือจะมากกว่านั้นก็ได้) เพราะ ผมเห็นในวีดีโอท่านบอกว่า เมื่อถึง "กลียุค" ให้สวดมนต์มนต์บทนี้ ดังนั้นผมว่ามันถึงเวลาสวดมนต์บทนี้กันเป็นประจำทุกๆคน และบอกต่อๆกันให้สวดมนต์บทนี้ กันเป็นประจำ แก่ทุกๆคน และ คนอื่นๆทั่วๆกันด้วยนะครับ สาธุครับ
    .
    นี้เป็นบทสวดเจ้าแม่กวนอิมพันมือครับ (มหากรุณาธารณีสูตร)
    บทนี้บูชาพระพุทธด้วย บูชาเจ้าแม่กวนอิมด้วยครับคาถาบทนี้
    บทมหากรุณาธารณีสูตร
    .
    มหากรุณาธารณีสูตร บทสวดมนต์นี้ดีครับ ขอให้ทุกๆคนได้สวดกันทุกๆวันเป็นประจำครับ (วันละ 5จบ)
    .
    มหากรุณาธารณีสูตร (ทิเบต) (วันละ 5จบ)
    (หรือจะ 7จบ / 9จบ / 21จบ / 59จบ / 108จบ แล้วแต่สะดวก)
    .
    .
    นำโม รัตนา ตายายะ นะโม อาริยะ จานะ
    สักการา เปลอ จานะ ยูฮารา จายา
    ตะทากาคะยา อะรา ฮาเต ซำ ยา ซำ พุทธายะ
    นะโม สวา ตะถาคะเตเป อะรา ฮาตะเป
    ซำ ยา ซำ พุทเธเป
    นะโม อะริยะ อวโลกิเต สวารายา
    พูทีสัตตะวายะ มหาสัตตะวายะ มหาการุณีตะยะ
    ตะติยา ทา โอม ธารา ธารา ธีรี ธีรี ธูรู ธูรู
    อิทธิเว อิทธิ จาเร จาเร ปูราจาเร ปูราจาเร
    กุสุเม กุสุมา วาเร อิทธิ มิตรี จิตติ
    จาลามะ ปานะ ยะ โชวฮา
    (5จบ)
    .
    .
    ครบ 5จบแล้วปิดท้ายด้วย
    .
    โอม นะโมอวโลกิเตศวร(๓ จบ)
    .
    ปึงซือออนีทอ ยูไล้ (๓ จบ)
    .
    .
    บทสวดมนต์มหากรุณาธารณีสูตร (ทิเบต)

    .
    (ประวัติที่มา) (5.50น.เวลาที่จะมาถึงจะถึง กลียุค)
    การ์ตูนมหากรุณาธารณียสูตร พากษ์ไทย Avalokitesvara Cartoon

    .
    .
    ผิด ถูก ประการใด ก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
    ผิด ถูก ประการใด ก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
    ผิด ถูก ประการใด ก็ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
    .
    ถ้าไม่ถูกต้องประการใดๆ ข้าพเจ้าก็ต้องขออภัยไว้นะที่นี้ด้วยนะครับ
    .
    .
    ปล.เพิ่มเติม
    ล้างชดใช้เฉพาะกรรมเก่ากี่ภพกี่ชาติเท่านั้นนะครับ
    แต่กรรมใหม่ กรรมในชาติปัจจุบันนี้ ที่คิดจะทำใหม่ ไม่สามารถลบได้นะครับ
    ไม่ทำกรรมใหม่ในชาตินี้ เป็นวิธีที่ดีวิธีที่ฉลาดที่สุดแล้วนะครับ สาธุครับ
    .
    เพจ กระทู้
     
  2. sukum2018

    sukum2018 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2018
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +5
    "รัสเซีย" ออกทีวี เตือนปชช.เตรียมพร้อม รับมือสงครามโลกครั้งที่ 3
    13 เมษายน 2561
    ช่องเนชั่น Nation Channel
    .
    https://www.msn.com/es-xl/noticias/...ียมพร้อม-รับมือสงครามโลกครั้งที่-3/vp-AAvPPmv
    .
    .
    เครดิตภาพ : สัญญาณมหากลียุค Signs of the end in Current Events
    .
    13 เม.ย. 61
    ชัยรินทร์
    พี่หมีครับ มีใครบอกวิธีเอาชีวิตรอดจากww3 บ้างมัยครับจะได้เตรียมตัวถูก
    .
    หมี CNN
    นั่งสมาธิ เจริญสติสัมปชัญญะ รู้ตัว ตื่นตัว ไม่ตกจริต ตกกะใจเกินงาม เตรียมพร้อม แต่อย่าให้เกินพอดี รู้ สำนึก เหตุผล และสิ่งจำเป็น ครองกรรมดี แบ่งปัน เมตตา จุนเจือ แล้วจะรอดจากสงคราม!
    .

    .
    .
    13 เม.ย. 61
    สมศักดิ์
    ข่าวล่าสุดสำนักข่าวในรัสเซียได้ ออกอากาศประกาศให้ประชาชนในรัสเซีย ตุนอาหารและน้ำสะอาด ตื่นตัวในการที่เคยฝึกรับมือกับสงครามนิวเคลียร์แล้ว เพราะกองเรือรบ ของอเมริกา และอังกฤษ ได้เคลื่อนตัวมาที่ มหาสมุทรอินเดียแล้ว
    .
    Jane
    ผมอ่านของเนชั่น ตอนหัวค่ำครับ กล่าวว่าออกสื่อทีวีทั่วประเทศรัสเซียเลยครับ
    .
    พิพัฒน์
    นี้แสดงให้เห็นแล้วว่า..รัสเซียมีการเตรียมการณ์ไว้อย่างดีเเละเป็นระบบ..ถ้าเกิดสงครามนิวเคลียร์ขึ้นมาเมื่อไร..ประชาชนก็สามารถหนีเข้าหลบภัยได้ท้นท่วงที..ทำให้เกืดการสูญเสียน้อยที่สุด..ผิดกับอเมริกาและยุโรปที่ยังไม่มีการเตรียมพร้อมรับมือกับสงครามนิวเคลียร์เลย..ถ้าเกืดเมื่อไรประชาชนคงลัมตายเป็นเบื่อ.
    .

    .
    .
     
  3. sukum2018

    sukum2018 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2018
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +5
    ขอให้ทุกคนสวดมนต์เพื่อให้สรรพสัตว์ทั้งหลายมีความสุขด้วยเถอะครับ(กลียุคแล้ว)
    แผ่บุญออกไปให้กว้างๆทั่วทั้งจักรวาลครับ
    .
    .
    อนุโมทนา สาธุ ครับ
     
  4. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,493
    ค่าพลัง:
    +2,364
    ครับจริงๆคนที่ทำได้โดยฝึกมาทาง อิทธิวิธีจริงๆมีเยอะนะครับ ลองหาในกูเกิ้ลดูครับ แต่อย่างว่าบางคนเห็นกับตายังไม่เชื่อเลยครับ
    อย่างเช่นคลิปนี้ครับดูให้จบนะครับ



    หรือคลิปนี้ครับ


    ถ้าเค้าไม่สนใจกันฝรั่งคงไม่หันมานับถือพุทธศาสนากันหรอกครับ แต่ว่าประชาชนส่วนใหญ่รวมถึงชาวไทยด้วยกลับคิดว่าเป็นเรื่องงมงายกันเท่านั้นเองครับท่านดังนั้นต่อให้ทำได้จริงๆคนไม่เชื่อก็คงยังไม่เชื่ออยุ่ต่อไปนั่นแหละครับแถมไม่ได้ประโยชน์อะไรด้วยครับทำไปถ้าระดับสูงๆแล้วไม่เชื่อไปปรามาสจะติดกรรมหนักอีกนะครับ

    Editเพิ่ม: อีกอย่างครับคนสมัยนี้ทำเหตุไม่ถูกผลก็ไม่ถูกครับ หากอยากเห็นระดับอิทธิวิธีจริงๆนู่นครับพระป่า พระท่านที่เอาจริงเอาจัง ไปหาท่านในเมืองอย่างมากก็สุขวิปัสโกครับ แล้วแถมบางท่านที่ไม่เชื่อก็หาว่างมงาย หรือดูคลิปก็หาว่าตัดต่อบ้างมายากลบ้างเหตุเป็นเช่นนี้ ผลก็ตามระเบียบครับไม่มีทางเข้าถึงได้เลยครับท่านส่วนกรณีฆราวาสหนักเลยครับเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าท่านไหนเป็นท่านไหนดังนั้นยากกว่าพระที่เป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ฝึกตนเองอีกครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 เมษายน 2018
  5. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,312
    ค่าพลัง:
    +5,247
    ผมได้ดูคลิปพวกนี้มาเยอะแล้วล่ะครับ
    ก็มีเชื่ออยู่ประมาณ สามสี่คลิป ว่าจริง
    รวมถึง คลิป หลวงตาลามะลอยได้ ที่ท่านได้ยกตัวอย่างมาแล้วนี้ด้วย

    คนสมัยนี้ ทำเหตุไม่ถูกผลก็ไม่ถูกนั้นก็จริงครับ แต่สิ่งสำคัญที่ทำให้เหตุไม่ถูกผลก็ไม่ถูกของคนสมัยนี้ก็คือการเคยชินกับข้อมูลที่ถูกย่อยสลายให้รับได้ง่าย มากเกินไป

    กล่าวคือ - คนสมัยนี้ เชื่อความสมเหตุสมผล ในเชิงวิทยาศาสตร์ทีี่ คนอื่นพิสูจน์ให้แล้ว (แม้มันจะไม่มีความจริงอะไรเลยก็ตาม หรือเป็นแค่สมมุติฐานก็ตามก็จะเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงหากมีเหตุผลมากพอ เช่นทฤษฏีสมคบคิดต่าง ๆ เป็นต้น) มากกว่าที่จะพิสูจน์ด้วยตนเอง ทำให้การเรียนรู้อิทธิวิธีนั้นดูไร้สาระ เพราะ คนที่ใช้อิทธิฤทธิ์ได้ ไม่สามารถอธิบายความสามารถทางฤทธิ์ให้เป็นวิทยาศาสตร์ และไม่สามารถแสดงออกมาให้เห็นเป็นรูปธรรมได้เท่าไรนัก ส่วนใหญ่ก็คงจะรู้กันเองในบรรดาคนใช้ฤทธิ์แหละมังครับ

    ผมศึกษาศาสนาพุทธระยะแรก ๆ นี่ศึกษาด้วยศรัทธาจริตเลยครับ เชื่ออย่างเดียวด้วยความไม่รู้แม้จะงมงายแค่ไหนก็ตาม ไม่สนว่าอันไหนคำสอนพุทธ อันไหนคำสอนมารครับ
    พออายุได้ 29 ปี ได้เข้าใจธรรมดาแล้วก็พบว่า

    อ่อ ที่แท้ธรรมมะนี่มันก็วนเวียนอยู่กับคำว่าธรรมดาล้วน ๆ ไม่ได้มีเรื่องราวของสิ่งที่อธิบายไม่ได้เลย อาจละเว้นบางเรื่องเช่นเรื่องจิณไตย แค่นั้นแหละ กล่าวคือ รู้ธรรมดาของสิ่งใดก็เข้าใจคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ท่านตรัสสอนไว้เกี่ยวกับเรื่องนั้น ๆ แหละครับ

    คราวนี้เลยไม่ต้องแยกคำสอนอันไหนของพุทธ อันไหนของมารแล้ว เราสามารถตัดสินใจได้เองในเบื้องต้นเลย ว่าคำสอนอันไหน ไม่ได้สอนให้รู้ธรรมดาของโลก ไม่ได้สอนให้รู้จักปล่อยวาง ไม่ได้สอนให้เห็นความจริงของโลก แล้วเกิดอาการเบื่อหน่าย ไม่ได้สอนให้แก้ปัญหาโดยใช้ปัญญา(เช่น หาพระมาใส่ กันผี กันอุบัติเหตุ) อาจจะไม่ใช่คำสอนในพุทธศาสนาหรือไม่ใช่โอวาทพระพุทธเจ้า

    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ชีวิตผมก็ยังไม่ได้ดีขึ้นน่ะนะครับ เพราะผมน่าจะมีอาการทางประสาทนิด ๆ น่ะครับ ทำให้นั่งสมาธิไม่ได้ (ตอนเด็ก ๆ ปัญญาไม่ดี + เข้ากับสังคมไม่ได้ ตอนนี้ก็เช่นกัน 555)สงสัยวาสนาในชาตินี้ผมจะมาได้แค่นี้แหละ แต่ยังไงก็ต้องเรียนรู้ต่อ เพิ่มพูนปัญญาเอาไว้ แม้ไม่ได้ทางปฏิบัติ เพื่อให้เกิด ญาณ ก็เอาทางอื่นไปก่อน(พิจารณาให้เข้าใจธรรมดาของสิ่งต่าง ๆ)

    ที่ผมอยากให้ท่านผู้นั้นเหาะให้ดูนี่ ยังอยากให้เหาะให้คนทั้งโลกดู ให้เขาพิสูจน์ จนหาข้อโต้แย่งไม่ได้จริง ๆ เป็นเรื่องเป็นราวเลยแหละครับ ยังไม่เปลี่ยนความตั้งใจหรอก เพราะผมหวังผลว่า อยากให้คนศึกษาเรื่องที่คนอื่นเรียกว่า เหนือธรรมชาติ(แต่ผมเรียกว่าธรรมชาติที่คนธรรมดายังไม่รู้จัก) กันเยอะ ๆ
    พอ คนศึกษาเรื่องนี้กันเยอะ ๆ ก็หวังผลให้คนเหล่านี้มีใครสนใจศาสนาพุทธบ้างเท่านั้นเอง (อันทีจริง ผมพูดติดตลกไปงั้น ๆ แหละครับ ถ้าเขาจะมา เขาอาจจะมาแบบเหาะไม่ได้ก็เป็นได้ ใครจะรู้)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 เมษายน 2018
  6. Sataniel

    Sataniel "วิชชาและวิมุติ"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1,493
    ค่าพลัง:
    +2,364
    ไม่ทราบว่าปัญหาต่างๆของท่านได้แก้ไปแล้วหรือยัง หากยังผมก็ขออนุญาตแนะนำว่าให้ฝึกอานาปานสตินะครับ ฝึกโดยการตามลมหายใจ โดยครั้งแรกผู้ฝึกจะไม่รู้สึกถึงลมหายใจ แต่หากทำไปเรื่อยๆ โดยพยายามตั้งสมาธิคือการพยายามที่จะรู้สึก ณ ลมหายใจ จะบริกรรมหรือไม่ก็ได้แต่ต้องมีสมาธิที่จะคงไว้เพื่ออยู่กับมัน หรือหากสัมผัสมันไม่ได้ก็แก้ปัญหาโดยการหายใจแรงๆให้เต็มปอดหรือหายใจหลายๆแบบจนกว่าจะรู้สึกถึงสภาวะของลมหายใจก่อนพอรู้แล้วจึงค่อย ตามดูลมหายใจ โดยสิ่งๆนี้เรียกว่าการเพ่ง หรือ การดู

    หากทำได้แล้วจะรู้ว่า เราจะรู้สึกถึงมันได้จากที่ปกติเราจะไม่รู้สึกถึงมัน โดยปกติจะเป็นเพียงระบบ auto ของกายเท่านั้นที่ทำการหายใจ แต่ขณะที่มีสมาธิอยู่กับลมหายใจแล้วจะสามารถรับรู้ถึงมันและรู้สึกถึงมันได้ แล้วท่านจะพบว่า ขณะที่จับลมหายใจตัวเรามาอยู่ข้างในลมหายใจจะรู้สึกและรับรู้ถึงมัน แต่ขณะใช้ชีวิตประจำวัน ตัวเรานั้นอยู่ข้างนอกรับรู้สิ่งต่างๆข้างนอก เช่นกันเรื่องที่คิดต่างๆ หรือสิ่งที่ชอบไม่ชอบต่างๆมันเกิดขึ้นเป็นธรรมดา และเรามักจะเลือกเข้าไปอยู่กับมันไปเป็นมันโดยไม่รู้ตัว

    แต่เมื่อท่านทำสิ่งนี้ได้ ท่านจะรู้ว่าท่านสามารถเลือกที่จะเป็นมันได้นั่นเองครับ โดยจากการตั้งสมาธิที่ลมหายใจ และจะดีมากหากทำสติปัฏฐานได้ คือจากการรู้สึกถึงลมหายใจ ให้เปลี่ยนเป็นการรู้สึกทั้งตัวแทน ยกตัวอย่างเวลาขับรถคนเราจะรู้สึกแค่มือ กับเท้าที่วางอยู่ตรงคันเร่งแต่ไม่รู้สึกทั้งตัวนั่นเอง หากรู้สึกทั้งตัวแล้วจะสามารถเลือกที่จะอยู่หรือย้ายออกจากเวทนานั้นๆได้ครับ หรือหากยังรู้สึกไม่เด่นก็เพิ่มการเพ่งไปอีกแล้วท่านจะพบว่ายิ่งเพ่งมากก็ยิ่งรู้สึกมาก แล้วหากมันเสถียรทั้งตัวจะเรียกว่าฌาน ซึ่งการทำเช่นนี้ได้จะทำให้ ปัญหาจิตตกที่ไม่ชอบคนอื่นๆที่มีเหตุที่ไม่ดีมาเกี่ยวดองกับเราลดไปเรื่อยๆครับเพราะว่าเรามาอยู่กับตนเองไม่ได้อยู่ข้างนอกสนใจแต่สิ่งภายนอกครับ ซึ่งผลจากการทำแบบนี้จะทำให้เรารู้ได้ด้วยตนเองเลยว่ากาย ไม่ใช่เราอย่างแท้จริงซึ่งไม่ได้เกิดจากการมโนหรือท่องตำรามา และการอยู่และย้ายนั้นหากฝึกบ่อยๆก็สามารถเลือกที่จะอยู่ กับความรู้สึกสบายได้ครับ แต่หากท่านสามารถแก้ปัญหาและทำได้แล้วก็ขออภัยด้วยครับเห็นจริตท่านค่อนข้างไม่ชอบความอยุติธรรมครับพิมเผื่อไว้ในกรณีที่ท่านยังแก้ปัญหาไม่ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 เมษายน 2018
  7. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,312
    ค่าพลัง:
    +5,247
    ไม่ทราบว่าปัญหาต่างๆของท่านได้แก้ไปแล้วหรือยัง//แก้อยู่เรื่อย ๆ ครับ เพราะเรื่องที่ทำให้ทุกข์มันสะสมมานาน

    ผมทำได้ครับ แต่ผมไม่สามารถมีสมาธิได้นาน จดจ่อที่ลมหายใจได้แป๊บเดียว ลืม เริ่มใหม่ ๆ วน ๆ อยุ่อย่างนี้แหละครับ ไม่ไปไหน (นอกจากภาวะเครียดสะสมแล้ว ยังมีภาวะความจำไม่ดี กับ สมาธิสั้นครับ เรียกสมาธิสั้นถูกเหรือเปล่าไม่รู้ คือเวลาเรียน หัวมันหลบไปคิดเรื่องที่ทำให้เราเป็นทุกข์ของมันเองอะไรประมาณนี้น่ะครับ น่าจะเรียกว่าใจลอยมากกว่า...) ส่วนหนึ่งคงมาจากโรคประสาทของผมนี่แหละครับ ส่วนการทำอาณาปาณสติ ผมชอบทำก่อนนอนเป็นนิสัย สติปัฏฐาน ก็ทำบ้าง แต่ปัญหาอาจจะเป็นที่ผมไม่ค่อยจะเข้าใจหลักปฏิบัติของการทำสมาธิอย่างถูกต้อง ด้วยกระมังครับ

    ส่วนวิธีหลบจากเวทนาผมไม่ค่อยชอบเท่าไรครับ ผมเลยเลือกที่จะพิจารณาสิ่งที่ทำให้เกิดเวทนานั้นให้เห็น ต้นสายปลายเหตุของมัน แล้วมองว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาของสัตว์โลกอย่างไรให้ได้มากกว่าที่จะหลบเวทนาไปอยู่ในฌาณ เพราะผมหลบมาเยอะแล้วจนประสาทจะแตกแล้ว แม้หลบจะไม่รู้สึก เวลาไม่หลบมันก็รู้สึกอยู่ดี ซึ่งผมก็สู้เวทนาสำเร็จไปหลายอย่างแล้วครับ
    สภาวะที่สบายสำหรับผมมันไม่ควรจะเป็นสภาวะหลบไปอยุ่ไหนแล้วแหละ มันควรเป็นสภาวะที่
    อยู่อย่างปกติได้อย่างไม่รู้สึกว่าอะไรมาเสียดแทง ทั้ง ๆ ที่มีอะไรมาเสียดแทงเราตลอดเวลามากกว่า

    พูดตามตรง ผมป่วยเป็นโรคเบาหวาน อาจตายได้ทุกเมื่อ ผมยังมีความทุกข์น้อยกว่าโดนหักอก หรือความทุกข์เพราะความแค้นฝังหุ่นจากสมัยเด็กเลยครับ

    อย่างไรก็ตามขอบคุณที่ให้คำชี้แนะเรื่องการทำสมาธินะครับ ผมเข้าใจเยอะขึ้นมากเลยทีเดียว
    ปัญหาน่าจะอยู่ที่ความใจลอยของผมนี่แหละกับอีกอย่างอาจจะบกพร่องในเรื่องทานบารมี กับปัญญาบารมีอยู่สักหน่อย เลยทำให้ผมนั่งสมาธิลงไม่ถึงฌานกับเขาสักที
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 เมษายน 2018
  8. มิกราช

    มิกราช สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2018
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +1
    https://drive.google.com/drive/folders/1t2GhfSg_DDfW_DEyXvSfzQhnTCEN9Bvr?usp=sharing



    ------พระธรรมิกราช พรรคพิทักษ์ไทย สหชาติธรรมิกราช,มาจากไหน มาจาก พุทธพยากรณ์ของพระศาสดา และ พยากรณ์ถิ่นกาขาว –นารีขี่ม้าขาว ของพระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์ ที่ได้แสดงอย่างชัดเจน รับรอง กลุ่มสหชาติธรรมิกราชทำงานในนาม พระธรรมิกราช (ในรอบพุทธศาสนา5,000ปี มีการรับรองพียงครั้งเดียวในโลกและโอกาสเดียวเท่านั้น ที่พุทธบริษัท จะมีข้ออ้างในการ สังคายนาและปฏิรูปพุทธศาสนาให้ถูกต้อง(ธรรมตามกาล )และปกป้องศาสนาจากศัตรูต่างๆได้ หากพุทธบริษัท4 พลาดโอกาสนี้ ที่พระศาสดาและพระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์รับรองไปแล้ว พุทธศาสนาจะไม่มีข้ออ้างไดรวมศาสนา และปฏิรูปสังคายนาให้ถูกต้องอีกเลย ////(หลักการพุทธศาสนาแท้จริง คือทุกข์ สมุทัย นิโรท มรรค – ให้ยึดถือการวิปัสสนากรรมฐาน เพื่อปล่อยวางจิตให้เป็นกลาง ไม่ยึดมั่นถือมั่นในตัวตน และสิ่งได ดังนั้นทุกสถานธรรม เช่นวัด ต้องมีสถานที่วิปัสสนากรรมฐานเป็นหลัก และรับ ผู้เดินทางมาเยื่ยมเยือน ทุกนิกายเพื่อแนะแนวทางวิปัสสนากรรมฐาน ส่วนการปกครอง ให้เป็นไปตาม ระบบการปกครองประเทศ และผู้มีอำนาจในถิ่นๆนั้นกำหนด พระภิกขุสงฆ์ คือประชาชนผู้ร่วมปกครองจึงสามารถยุ่งการเมืองได้ย่อมมีสิทธิ์เสรีภาพในการเลือกผู้นำประเทศ หรือเลือกตั่งได้ นี่คือธรรมตามกาล)//// ที่พระพุทธองค์เจตนา ให้ปฏิบัติในกึ่งพุทธกาลนี้ โดยพระศาสดาและพระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์ ยุ่งการเมืองได้ )////หากไม่ทำตามพระพุทธองค์ศาสนาจะถึงกาลอวสานไม่นานโดยศัตรูทางศาสนาจะเข้ามาทำลายหมดสิ้นเพราะชาวพุทธจะปกป้องตัวเองไม่ได้ และการเข้าใจผิดหลักการพุทธบริษัททำให้ศาสนาพุทธสลายไป---สมาชิก สหชาติธรรมิกราช หน้าที่คือแก้ไข ปฏิรูป สังคายนา เพื่อปกป้องพระศาสนาและประชาชนสำหรับประเทศไทย (ส่วนที่อื่นๆธรรมตามกาล ตามดุลพินิจ ของผู้นำในแต่พื้นที่แต่ละประเทศแต่ละกลุ่มซึ่งแตกต่างกันไป แต่ต้องรักษาหลักการพุทธศาสนาไว้ )การรับรองพระธรรมิกราช พุทธศาสนาคือศาสนาจริงพระผู้มีพระภาคเจ้ามีตัวตนและอิทธิฤทธิ์ต่างๆจริง (แต่พระอรหันได้เข้านิพพานไปแล้วไม่มายุ่งทางโลกอีกเลย ดังนั้นหน้าที่ปกป้องพระศาสนาจึงเป็นของคนที่มีกิเลสทำงานคือพุทธบริษัท พระโพธิสัตว์และพระอริยะ) อนาคตพุทธศาสนาจะเป็นที่ยอมรับของประชาชนทั้งโลก ด้วยหลักฐานพุทธพยากรณ์ รับรองนี้ ผู้คนจะยกย่องบูชาพระพุทธเจ้ามานับถือพุทธมากยิ่งขึ้น ดังนั้นบุคคลที่ต่อต้าน คำบอกสอนของพระศาสดาคือมาร แท้จริง ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นใครและชาวพุทธต้องต่อต้าน

    ----วิธีเข้าร่วมและการเป็นสมาชิก สหชาติธรรมิกราช คือการร่วมกระจายข่าวสารทั่วโลก เข้าร่วมขบวนการขี่ม้าขาว ร่วมฟ้องคดีกบฏโจรกาขาว ต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ และไทยเพื่อปกป้องพระศาสนา ประชาชนและประเทศ นิรโทษกรรมทางการเมืองโดยใช้ข้อมูลฟ้องของผม ธานนท์ คนขยัน ซึ่งแปลแล้วตรงกับคำพยากรณ์พระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์ ในนาม สหชาติธรรมิกราช คนหนึ่ง (แกนนำและที่ปรึกษาพิเศษของ ขบวนการขี่ม้าขาว ซึ่งจะตรงกัน ตามคำพยากรณ์ พระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์ พยากรณ์ถิ่นกาขาว นารีขี่ม้าขาว (สมเด็จพุทธาจารย์โต -หลวงพ่อฤษีลิงดำ และ อีกองค์ไม่แสดงชื่อ) ซึ่งปรากฏเป็นผู้ร่วมพยากรณ์นารีขี่ม้าขาว เป็นหลักฐานยืนยัน ตัวตนพระธรรมิกราชโพธิญาณ คือกลุ่มอุดมการณ์ทางการเมือง (หนึ่งนารีขี่ม้าขาว)--หน้าที่ของสมาชิก สหชาติธรรมิกราช (ปกป้องศาสนาและประชาชน แก้ไขกฎหมายการเมืองประเทศ ปฏิรูปพุทธศาสนา สังคายนาพระไตยปิฏก(ธรรมตามกาล) ร่วมจัดตั่งพรรค พิทักษ์ไทย สหชาติธรรมิกราช และสมาชิกท่านไดมีความพร้อมสามารถจัดตั่งพรรคได้เลยทันทีไม่ต้องปรึกษาผม และปฏิบัติงานในนาม พระธรรมิกราช ได้ต่อไปตามนโยบายพรรคและหลักการพุทธศาสนา—การช่วยเหลือประชาชนปกป้องพระสงฆ์ ประเทศชาติ ให้พ้นภัย โดยการประชาสำพันธ์ความจริงคดี กบฏกาขาว ย่อมได้กุศลมหาศาล-สหชาติธรรมิกราช ปกป้องพระศาสนา มารจะทำลายพระศาสนาไม่ได้ วัดได ต้องคดี กลุ่มการเมืองได มีภัยเพราะกบฏรัฐอิสลาม พวกกาขาว แค่เอาข้อความแผ่นพลับ (หนึ่งนารีขี่ม้าขาว) ไปแจก รอบวัด ให้คนข้างวัดรับรู้ให้ทั่วถึง ให้นักการเมืองรู้ข่าว ความศรัทธา ต่อพระสงฆ์ และพระพุทธศาสนา ความสามัคคีของประชาชนในชาติจะกลับคืนมาทันที ศัตรูทางศาสนาจะไม่สามารถแตะต้องได้ นี่คือจุดประสงค์ ของพระศาสดา และ พระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 4.jpg
      4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.1 MB
      เปิดดู:
      71
  9. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,791
    ค่าพลัง:
    +3,204
    คน30ล้านกับ1000ล้าน เห็นๆอยู่แล้วว่าไข่กระแทกหิน แค่ประกาศสงครามคนก็หนีเพียบเชื่อสิ ไม่หนีย่อมไม่เหลืออะไร?เลย อานันทะ ดูก่อนอานนท์ หลังกึ่งพุทธกาล (ช่วงหลัง พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป) จะมีความร้ายแรงมากกว่าก่อนกึ่งพุทธกาลมาก ยักษ์นอกพุทธศาสนาจะรบราฆ่าฟันซึ่งกันและกัน ต่างฝ่ายจะล้มตายกันฝ่ายละมาก ๆ สมณะ ซี พราหมณ์ จะล้มตาย จะตายไปฝ่ายละครึ่งจึงเลิกรากัน สำหรับประเทศที่นับถือพุทธศาสนาจะมีภัยเหมือนกัน แต่ไม่ร้ายแรงนัก เริ่มแต่พุทธศาสนาล่วงเลย 2,500 ปี เป็นต้นไป (ช่วงหลัง พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป) ไฟจะรุกรามมาทางทิศตะวันออก ไหม้วัดวาอาราม สมชีพรามณ์จะอดอยากยากเข็ญ ลูกไฟจะตกจากฟ้าเป็นเพลิงผลาญ เหล็กกล้าจะทะยานจากน้ำ มหาสมุทธจะชอกซ้ำ สงครามจากทั่วทิศศึกจะติดเมือง ข้าวจะขาดแคลนทั่วแคล้นจะอดอยาก ผีโขมดป่าจะเข้าเมือง พระเสื้อเมือง ทรงเมือง จะหนีเข้าไพร ผู้เป็นใหญ่มีอำนาจ จะเรียกแมลงผีเสื้อเหล็กนับแสนตัว มาปล่อยไข่เป็นไฟผลาญ ยักษ์หินที่ถูกสาบเป็นเวลานาน จะตื่นขึ้นมาอาละวาทโลก ดินฟ้าอากาศจะแปรปรวน ตลิ่งจะพัง แผ่นดินจะถล่มเป็นทะเล โลกมนุษย์จะดิ่งสู่ความหายนะ นักปราชญ์จะถูกทำร้ายให้สิ้นสูญ ในระยะนั้นศาสนาของตถาคตจะเสื่อมลงมาก เพราะพุทธบริษัท ไม่ต้องอยู่ในศีลธรรม เชื่อคำคนโกง กล่าวคำเท็จ ไม่เคารพรักธรรมนิยม คนประจบ สอพลอได้รับความเชื่อถือในสังคม ผู้ที่มีศีลธรรม ประพฤติดี ประพฤติชอบ กลับไม่มีใครเคารพยำเกรง

    ทิศนี้หรือเปล่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤษภาคม 2020
  10. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,791
    ค่าพลัง:
    +3,204
    พระพุทธพยากรณ์ สัญญานใหญ่ล้วนแต่เกิดในประเทศไทย

    คงไม่มีรุนแรงกว่านี้ เพราะยอมรับโดยทั่วกันแล้วทั้งประเทศ ว่าไม่ผิดจารีตวัตรปฎิบัติ

    อาสวัฏฐานิยธรรม
    นี้ได้บังเกิดและเป่าประกาศโจษจันโดยทั่วไปตามกาลแล้ว
    จะเกิดอะไร?ขึ้นอีก ภัยใหญ่แห่งธาตุ๔ ดินน้ำลมไฟ พระมหาเวชตราศาสตร์จะเอาอยู่ไหม?


    พุทธทำนายเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา
    ปัญหา ความเจริญหรือเสื่อมแห่งพระพุทธศาสนาท่านว่า ย่อมขึ้นอยู่กับการประพฤติปฏิบัติของพุทธบริษัททั้ง ๔ เฉพาะอย่างยิ่งภิกษุบริษัทซึ่งเป็นผู้สืบต่ออายุพระพุทธศาสนา ภิกษุประพฤติปฏิบัติอย่างไรจะชื่อว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของพระพุทธศาสนา ?
    พุทธดำรัสตอบ “......ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในอนาคตภิกษุทั้งหลายจักเป็นผู้ชอบจีวรดีงาม เมื่อชอบจีวรดีงาม ก็จักละความเป็นผู้ถือทรงผ้าบังสุกุลเป็นวัตร จักละเสนาสนะอันสงัดคือป่า และป่าชัฏ จะประชุมกันอยู่ที่บ้าน นิคมและราชธานี และจักถึงการแสวงหาไม่สมควร อันไม่เหมาะสมต่าง ๆ เพราะเหตุจีวร....
    อีกประการหนึ่ง ภิกษุทั้งหลายจักเป็นผู้ชอบบิณฑบาตที่ดีงาม..... จักละความเป็นผู้ถือเที่ยวบิณฑบาตเป็นวัตร..... จักประชุมกันอยู่ที่บ้าน นิคมและราชธานี แสวงหาบิณฑบาตที่มีรสเลิศด้วยปลายลิ้น แลจักถึงการแสวงหาอันไม่สมควร ไม่เหมาะสมต่างๆ เพราะเหตุแห่งบิณฑบาต....
    “อีกประการหนึ่ง ภิกษุทั้งหลายจักเป็นผู้ชอบเสนาสนะที่ดีงาม..... จักละความเป็นผู้ถือการอยู่ป่าเป็นวัตร..... จักประชุมกันอยู่ที่บ้าน นิคมและราชธานี แลจักถึงการแสวงหาอันไม่สมควร ไม่เหมาะสมต่าง ๆ เพราะเหตุแห่งเสนาสนะ....
    “อีกประการหนึ่ง ภิกษุทั้งหลายจักเป็นผู้คลุกคลีด้วยภิกษุณีนางสิกขมานา แลสมณุทเทส เมื่อมีการคลุกคลี... พึงหวังข้อนี้ได้ว่า เธอเหล่านั้นจักเป็นผู้ไม่ยินดีประพฤติพรหมจรรย์ จักต้องอาบัติเศร้าหมองบางอย่าง หรือจักบอกคืนสิกขา เวียนมาเพื่อเป็นคฤหัสถ์
    “อีกประการหนึ่ง ภิกษุทั้งหลายจักเป็นผู้คลุกคลีด้วยอารามิกบุรุษ แลสมณุทเทส เมื่อมีการคลุกคลี... พึงหวังข้อนี้ได้ว่า เธอเหล่านั้นจักเป็นผู้ประกอบการบริโภคของที่สะสมไว้มีประการต่าง ๆ จักกระทำนิมิตแม้อย่างหยาบที่แผ่นดินบ้าง ที่ปลายของเขียวบ้าง
    “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภัยในอนาคต ๕ ประการนี้แล.... อันเธอทั้งหลายพึงรู้ไว้เฉพาะ ครั้นแล้วพึงพยายามเพื่อละภัยเหล่านั้นฯ”
    อนาคตสูตร ที่ ๔ ป. อํ. (๘๐)
    ตบ. ๒๒ : ๑๒๔-๑๒๕ ตท. ๒๒ : ๑๐๗-๑๐๘

    49435342_190581811899688_777926372394795008_n.jpg
     
  11. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,791
    ค่าพลัง:
    +3,204
    น่าเป็นห่วงมาก ปลายปีนี้ ปีกุนเดือน ๑๑ ปีนี้รอลุ้นกันครับ ผู้ทรงปฎิสัมภิทาญานและทรงปาฎิหาริย์ ๓ ระดับสูงจะมาปรากฎตามกาลไหม?
    1432368058-1059961615-o.jpg
     
  12. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,791
    ค่าพลัง:
    +3,204
    # เวลาช่างประจวบเหมาะกันเหลือเกิน #[/QUOTE]

    50309725_190361938588342_2914587046406258688_n.jpg
     
  13. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,791
    ค่าพลัง:
    +3,204
    น่าตกใจจริงๆ อดทนได้ก็ดี ถ้าพระพุทธเจ้าทรงยังไม่เสด็จดับขันธปรินิพพาน จะมีใครกล้า เป็นท่าน ท่านกล้ากล่าวต่อหน้าพระพักตร์หรือไม่ บอกแค่เรื่องกินปลาดิบเนื้อดิบแค่เรื่องเล็กน้อย กินบุพเฟ่ต์เป็นเรื่องไม่แปลก กล้ากล่าวกราบทูลต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไหม? เราไม่กล้า

    แม้
    พระเทวทัต ผู้จะสำเร็จเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า ยังไม่OKเลย

    ขุยไผ่จะทำลายต้นไผ่ครั้งใหญ่ในสังฆมณฑล


    เรื่องราวจักมีกี่นัย ใครจะรู้ได้ ถ้าไม่ใช่เหล่าปฎิสัมภิทาผู้ต้องบุพกรรม
     
  14. ทอนเงิน

    ทอนเงิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +708
    น่าจะมาไวกว่านั้นนะครับพี่จ่า
     
  15. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,791
    ค่าพลัง:
    +3,204
     
  16. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,791
    ค่าพลัง:
    +3,204
    ของดีของโบราณเมืองอุบลฯ (ดาบตีตระกรุดทองแดงฝังสันดาบพร้อมผ้ายันต์สีแดงเก่าๆ)
    ที่บ้านผมมีดาบสัตตะโลหะอยู่หนึ่งเล่ม หายจากบ้านไป กว่า ๒๐ ปีแล้ว จะลองกลับไปค้นดูใหม่ครับ ดาบที่เดินเข้าป่าช้าหลายร้อยไร่ ข้างบ้าน แล้วเสียงแมลงแม้แต่จิ้งหรีดก็ไม่มี พอวันถัดมา ไม่ได้เอาไป ผมยังเดินไ่ม่พ้นหน้าบ้านถึง ๑๐ เมตรเลย โดนทันที วิ่งป่าราบ

    ดันเอาของที่สะกดป่าไปเดินสุ่มสี่สุ่ม๕ ประสาเด็ก เดินสะพายไปในป่าช้าเพื่อหาของป่าเวลากลางคืนคนเดียว รู้สึกว่าเหมือนยักษ์ เดินจับสัตว์กินครับ

    ถ้าหาเจอจะถ่ายภาพให้ดูครับ ถ้าไม่เจอก็ถือว่าหมดวาสนากัน
     
  17. ทอนเงิน

    ทอนเงิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +708
    เมื่อวานท่านไปโปรดที่วัดดอนธาตุอยู่ครับหลังจากออกจากวัดพระธาตุหนองบัวผ่านไปทางห้วยวังนองครับวันนี้นิมิตรดีมากๆครับลมมาได้อิอิ
     
  18. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,791
    ค่าพลัง:
    +3,204
    ไม่ได้ห่วงเรื่องแมวกินปลาดิบแล้วต้องอาบัติหรอกนะ แต่คุณจะพากันซ้ำเติมอันส่งผลร้ายแก่สรรพสัตว์ในโลกธาตุ

    เรื่องพระพูดถลากไถลนอกเรื่อง
    เล่ากันว่า ภิกษุทั้งหลายประชุมกันแล้ว กล่าวกะภิกษุหนุ่มรูปหนึ่งว่า อาวุโส ท่านต้องอาบัติชื่อนี้และชื่อนี้. ภิกษุหนุ่มตอบว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ผมเดินทางไปนาคทวีป. ภิกษุทั้งหลายกล่าวว่า อาวุโส พวกเราไม่สนใจเรื่องที่ท่านไปนาคทวีป แต่พวกเราถามท่านว่า ท่านต้องอาบัติหรือ.
    ภิกษุหนุ่ม. ท่านขอรับ ผมไปนาคทวีปแล้วฉันปลา.
    ภิกษุทั้งหลาย. อาวุโส เรื่องฉันปลาของคุณ พวกเราไม่เกี่ยว เขาว่าคุณต้องอาบัติ.
    ภิกษุหนุ่ม. ครับผม ปลาไม่ค่อยสุก ทำให้ผมไม่สบาย.
    ภิกษุทั้งหลาย. อาวุโส คุณจะสบาย หรือไม่สบาย พวกเราไม่เกี่ยว (แต่) คุณต้องอาบัติ.
    ภิกษุหนุ่ม. ขอรับ กระผมเกิดไม่สบาย ตลอดเวลาที่อยู่ในนาคทวีปนั้น.
    ด้วยเรื่องตามที่เล่ามานี้ พึงทราบว่า ชื่อว่าย่อมพูดถลากไถลไปนอกเรื่อง โดยการเอาเรื่องอื่นเข้ามาพูดซอกแซก.


    50288889_190616815229521_4031317704878063616_n.jpg

    50322088_190616775229525_434914109289398272_n.jpg

    50036223_190616741896195_4195883130625720320_n.jpg
     
  19. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,791
    ค่าพลัง:
    +3,204
    บาลีนั้นยังคงอยู่เพียงใด ปริยัตติก็ชื่อว่ายังบริบูรณ์อยู่เพียงนั้น. เมื่อกาลล่วงไปๆ พระราชาและพระยุพราชในกุลียุคไม่ตั้งอยู่ในธรรม เมื่อพระราชาและยุพราชเหล่านั้นไม่ตั้งอยู่ในธรรม ราชอมาตย์เป็นต้นก็ไม่ตั้งอยู่ในธรรม แต่นั้นชาวแคว้นและชาวชนบทก็ไม่ตั้งอยู่ในธรรม ฝนย่อมไม่ตกต้องตามฤดูกาล เพราะคนเหล่านั้นไม่ตั้งอยู่ในธรรม. ข้าวกล้าย่อมไม่บริบูรณ์ เมื่อข้าวกล้าเหล่านั้นไม่บริบูรณ์ ทายกผู้ถวายปัจจัยก็ไม่สามารถจะถวายปัจจัยแก่ภิกษุสงฆ์ได้ ภิกษุทั้งหลายลำบากด้วยปัจจัยก็ไม่สามารถสงเคราะห์พวกอันเตวาสิก.
    เมื่อเวลาล่วงไปๆ ปริยัติย่อมเสื่อม ภิกษุทั้งหลายไม่สามารถจะทรงจำอรรถไว้ได้ ทรงจำไว้ได้แต่พระบาลีเท่านั้น. แต่นั้นเมื่อกาลล่วงไปก็ไม่สามารถจะทรงบาลีไว้ได้ทั้งสิ้น. อภิธรรมปิฎกย่อมเสื่อมก่อน เมื่อเสื่อมก็เสื่อมตั้งแต่ท้ายมา.
    จริงอยู่ ปัฏฐานมหาปกรณ์ย่อมเสื่อมก่อนทีเดียว เมื่อปัฏฐานมหาปกรณ์เสื่อม ยมก กถาวัตถุ บุคคลบัญญัติ ธาตุกถา ธัมมสังคณีก็เสื่อม เมื่ออภิธรรมปิฎกเสื่อมไปอย่างนี้ สุตตันตปิฎกก็เสื่อมตั้งแต่ท้ายมา อังคุตตรนิกายเสื่อมก่อน. เมื่ออังคุตตรนิกายเสื่อม เอกาทสกนิบาตเสื่อมก่อน ต่อแต่นั้นทสกนิบาต ฯลฯ ต่อนั้นเอกนิบาต. เมื่ออังคุตตรนิกายเสื่อมไปอย่างนี้ สังยุตตนิกายก็เสื่อมตั้งแต่ท้ายมา.
    จริงอยู่ มหาวรรคเสื่อมก่อน แต่นั้นสฬายตนวรรค ขันธกวรรค นิทานวรรค สคาถวรรค เมื่อสังยุตตนิกายเสื่อมไปอย่างนี้ มัชฌิมนิกายย่อมเสื่อมตั้งแต่ท้ายมา.
    จริงอยู่ อุปริปัณณาสก์เสื่อมก่อน ต่อนั้นมัชฌิมปัณณาสก์ ต่อนั้นมูลปัณณาสก์.
    เมื่อมัชฌิมนิกายเสื่อมอย่างนี้ ทีฆนิกายเสื่อมตั้งแต่ท้ายมา.
    จริงอยู่ ปาฏิยวรรคเสื่อมก่อน แต่นั้นมหาวรรค แต่นั้นสีลขันธวรรค เมื่อทีฆนิกายเสื่อมอย่างนี้ พระสุตตันตปิฎกชื่อว่าย่อมเสื่อม. ทรงไว้เฉพาะชาดกกับวินัยปิฎกเท่านั้น. ภิกษุผู้เป็นลัชชีเท่านั้นทรงพระวินัยปิฎก. ส่วนภิกษุผู้หวังในลาภ คิดว่า แม้เมื่อกล่าวแต่พระสูตรก็ไม่มีผู้จะกำหนดได้ จึงทรงไว้เฉพาะชาดกเท่านั้น. เมื่อเวลาล่วงไปๆ แม้แต่ชาดกก็ไม่สามารถจะทรงไว้ได้.
    ครั้งนั้น บรรดาชาดกเหล่านั้นเวสสันดรชาดกเสื่อมก่อน ต่อแต่นั้นปุณณกชาดก มหานารทชาดกเสื่อมไปโดยย้อนลำดับ ในที่สุดอปัณณกชาดกก็เสื่อม. เมื่อชาดกเสื่อมไปอย่างนี้ ภิกษุทั้งหลายย่อมทรงไว้เฉพาะพระวินัยปิฎกเท่านั้น.
    เมื่อกาลล่วงไปๆ ก็ไม่สามารถจะทรงไว้ได้แม้แต่พระวินัยปิฎก แต่นั้นก็เสื่อมตั้งแต่ท้ายมา. คัมภีร์บริวารเสื่อมก่อน ต่อแต่นั้นขันธกะ ภิกษุณีวิภังค์ก็เสื่อม แต่นั้น ก็ทรงไว้เพียงอุโปสถขันธกเท่านั้นตามลำดับ.
    แม้ในกาลนั้น ปริยัตติก็ชื่อว่ายังไม่เสื่อม ก็คาถา ๔ บาทยังหมุนเวียนอยู่ในหมู่มนุษย์เพียงใด ปริยัตติก็ชื่อว่ายังไม่อันตรธานเพียงนั้น.
    ในกาลใด พระราชาผู้มีศรัทธาเลื่อมใสทรงให้ใส่ถุงทรัพย์หนึ่งแสนลงในผอบทองตั้งบนคอช้าง แล้วให้ตีกลองร้องประกาศไปในพระนครว่า ชนผู้รู้คาถา ๔ บทที่พระพุทธเจ้าตรัสแล้ว จงถือเอาทรัพย์หนึ่งแสนนี้ไป ก็ไม่ได้คนที่จะรับเอาไป แม้ด้วยการให้เที่ยวตีกลองประกาศคราวเดียว ย่อมมีผู้ได้ยินบ้าง ไม่ได้ยินบ้าง จึงให้เที่ยวตีกลองประกาศไปถึง ๓ ครั้ง ก็ไม่ได้ผู้ที่จะรับเอาไป. ราชบุรุษทั้งหลายจึงให้ขนถุงทรัพย์ ๑๐๐,๐๐๐ นั้น กลับสู่ราชตระกูลตามเดิม.
    ในกาลนั้น ปริยัตติ ชื่อว่าย่อมเสื่อมไป ดังว่านี้ ชื่อว่าการอันตรธานแห่งพระปริยัตติ.
    กี่ข้อกันแล้วครับ สำนักนี้ เหมาเพิกถอนดูหมิ่นพระราชประเพณี
    ทำลายพระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ทำลายพระไตรปิฏกสร้างสัทธรรมปฎิรูป ฯลฯ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤษภาคม 2020
  20. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,791
    ค่าพลัง:
    +3,204
     

แชร์หน้านี้

Loading...