พ.ต.อ.ร้องให้สอบ 2 พระเถระชั้นผู้ใหญ่ของเชียงใหม่ สวมบัตรประชาชนดช.ที่ตายเมื่อ 22 ปีก่อน

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ ชาวพุทธ, 8 ตุลาคม 2017.

  1. โพธิสัตว์ ชาวพุทธ

    โพธิสัตว์ ชาวพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    5,297
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,273
    ค่าพลัง:
    +9,528
    8ade0b887e0b983e0b8abe0b989e0b8aae0b8ade0b89a-2-e0b89ee0b8a3e0b8b0e0b980e0b896e0b8a3e0b8b0e0b88a.jpg

    เมื่อวันที่ 8 ต.ค. ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ พ.ต.อ.บุญเลิศ เมตตารักษ์ อดีตผกก.สภ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยนายกิตติศักดิ์ แสนทวีสุข นำหลักฐานเป็นเอกสาร ภาพถ่าย และพร้อมข้อร้องทุกข์กล่าวโทษ ให้ดำเนินคดีกับ 2 เจ้าอาวาสวัดดังในจ.เชียงใหม่ โดยวัดหนึ่งอยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่ ส่วนอีกวัดอยู่ที่อ.แม่อาย และพระทั้ง 2 รูปยังมีสมณะศักดิ์เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ด้วย ระดับเจ้าคณะอำเภอ

    de0b887e0b983e0b8abe0b989e0b8aae0b8ade0b89a-2-e0b89ee0b8a3e0b8b0e0b980e0b896e0b8a3e0b8b0e0b88a-1.jpg

    พ.ต.อ.บุญเลิศกล่าวว่า สืบเนื่องมาจากพบว่าจากข้อมูลของเอกสารทางราชการเกี่ยวกับทะเบียนราษฏร์ พบว่าเจ้าอาวาสวัดใหญ่ในตัวเมืองเชียงใหม่ มีการใช้บัตรประชาชนที่มีหมายเลขบัตรประชาชนไปตรงกับบัตรประชาชนของด.ช.ดวงดี เวียงดินดำ ซึ่งได้เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งเมื่อปี 2538 ซึ่งทางประวัติเดิมเป็นชาวบ้านหนองดินดำ ต.บ้านแก้ง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ แต่พบว่าพ่อแม่ ซึ่งสมัยนั้นบ้านอยู่ห่างไกล ไม่ได้ไปแจ้งตาย จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา ทางฝ่ายทะเบียนราษฎร์ได้รับรองการตายและออกใบมรณะบัตรให้ แล้ว

    พ.ต.อ.บุญเลิศกล่าวว่า ทั้งนี้ พบว่าเลขบัตรไปตรงกับบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าอาวาสรายนี้ ทำให้มีการสืบค้นต่อไปอีกจนพบพิรุธว่ามีการเปลี่ยนชื่อของเจ้าอาวาส และเมื่อปี 2528 มีการใช้ชื่อบัตรประชาชน และเลขบัตรของอีกบุคคลหนึ่ง ซึ่งไม่ตรงกับปัจจุบัน และเมื่อสืบค้นไปก่อนหน้านี้อีกยังพบข้อมูลที่น่าตกใจว่า ได้ใช้อีกชื่อหนึ่ง ซึ่งมีทั้งบิดา และมารดาเป็นชาวพม่าด้วย

    พ.ต.อ.บุญเลิศกล่าวว่า ทำให้เกิดข้อสงสัยในความไม่ชอบมาพากล รวมทั้งเจ้าอาวาสวัดใหญ่อีกแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอแม่อาย ซึ่งมีพื้นที่ติดชายแดนไทยพม่า ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์และสนิทสนมกันเป็นการส่วนตัว และยังเป็นส่วนผลักดันให้ได้สมณศักดิ์ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงได้รวมรวมหลักฐานเข้าร้องกับทางศูนย์ดำรงค์ธรรมเชียงใหม่ และ กอ.รมน.เชียงใหม่ ให้ตรวจสอบและดำเนินคดี กับพระทั้ง 2 รูป

    ทั้งนี้ พบว่าว่าหลักฐาน และข้อมูลต่างๆ ที่นำมาร้องเรียนเป็นความจริงจะถือว่าเป็นเป็นการสั่นสะเทือนวงการพระพุทธศาสนาของจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากปัจจุบันพบว่า เจ้าคณะสงฆ์ ในเชียงใหม่มีการแบ่งกลุ่มแบ่งสายกันอย่างชัดเจน และบางครั้งก็เกิดข้อขัดแย้งในการแต่งตั้งหรือดำรงตำแหน่งหลายๆ อย่างตั้งแต่เจ้าอาวาสวัดไปจนถึงเจ้าคณะสงฆ์พระเถระชั้นผู้ใหญ่ด้วย

    ขอขอบคุณที่มา
    https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_556982
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 ตุลาคม 2017

แชร์หน้านี้

Loading...