ภาพถ่ายวิญญาณจากร่างทรง

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย Mathura, 4 มีนาคม 2017.

?
  1. ภาพถ่ายจริง

    1 vote(s)
    50.0%
  2. ภาพถ่ายปลอม

    1 vote(s)
    50.0%
  3. ไม่แน่ใจ

    0 vote(s)
    0.0%
  1. Mathura

    Mathura นะโม แปลว่า ผู้นอบน้อม

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +13,011
    ก่อนหน้านี้ฉันได้ดูสารคดีทาง History Channel พูดถึงภาพถ่ายวิญญาณที่มีเการเก็บรักษาไว้ และเพื่อนๆมนุษย์ถ้ำห้องแล็ปพูดถึงหนังผีเรื่อง "Haunting in Connecticut" จนทำให้ฉันอดนึกถึงชุดภาพถ่ายของฮามิลตัน (T.G. Hamilton) ที่ถูกเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์ และตัดสินใจเขียนเรื่องภาพถ่ายวิญญาณจากร่างทรงในที่สุด

    ปริศนาหลายเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตนตาย วิญญาณ เรื่องผีสาง ในยุคกลาง ความเชื่อหลายอย่างดูเป็นเรื่องศํกดิ์สิทธ์ เกี่ยวข้องกับผู้ใช้เวทมนต์คาถา แม้ว่ามีการพัฒนาความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เช่นสื่อสิ่งพิมพ์ การถ่ายภาพ และความก้าวหน้าแพทย์ น่าฉงนว่าเหตุใดความลึกลับก็ยังคงครอบงำความเชื่อส่วนใหญ่ของโลกตะวันตกโดยเฉพาะหมู่ชนชั้นสูง เช่น การนำร่างของมัมมี่มาบดเป็นผงเพื่อบรรเทาโรคหัวใจ เป็นต้น ฉันฟังแล้วนึกสะอิดสะเอียนไม่น้อย ร่างของมัมมี่แห้งๆถูกเคลือบหรือทาด้วยยางไม้ ถูกบดเป็นผง แล้วกินคู่กับไวน์ กษ้ติรย์ยุโรปอย่างพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ผู้ได้รับสมญานามว่า Le roi du soleil หรือ สุริยกษัตยาธิราชเองก็ใช้ยาขนานเอกชนิดนี้

    เอเวอรี่หนุ่มแล็ปชาวฝรั่งเศสอดหัวเราะสีหน้าของฉันไม่ได้เพราะรู้ว่าฉันเคยแกล้งเอารถด่วน หรือดักแด้ทอดกรอบให้ทาน เฮ้ยนี่มันร่างกายคนตายนะ มันจะกลายเป็นการกินเนื้อคน (Cannibalism) ไหม เอเวอรี่มักรู้ว่าฉันนั้นมักยืนยันความเชื่อทางวิทยาศาสตร์มากกว่าที่จะเชื่อแบบไร้เหตุผลว่านี่เป็นปรากฏการณ์จากเรื่องลึกลับ บางทีเพื่อนๆก็มีการชวนไปทัวร์สยองขวัญพร้อมถ่ายรูปแปลกๆ ทีเรียกว่าแสงกลมๆ หากฉันจำไม่ผิด เพื่อนฝรั่งส่วนใหญ่เรียกแสงกลมๆว่า "Orb" ถือว่าเป็นปรากฏกาณ์การแสดงตัวของวิญญาณก็เป็นได้

    ฉันขำมนุษย์แล็ปจนกระทั่งวันหนึ่งได้มีโอกาสคุยเรื่องภาพแปลกๆที่เอเวอรี่ถ่ายได้ ฉันกลับมองว่ากล้องเป็นเพียงเครื่องมือจับภาพ บางทีสิ่งที่กล้องจับอาจเป็นภาพลวงตาที่เกิดขึ้นได้เช่นกัน ฉันส่ายหน้าพลางตอบเป็นภาษาฝรั่งเศสไปว่า "ฉันไม่เชื่อเรื่องพวกนี้" แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธการมีอยู่เรื่องลึกลับ เอเวอรี่หัวเราะพร้อมหยิบแฟ้มชุดหนึ่งให้ดู T. G. Hamilton และบทความวิจัย ภาพที่ได้รับการยอมรับและพิสูจน์โดยสมาคมวิทยาศาสตร์เรื่องลึกลับ เอเวอรี่ถามฉันว่าเคยเห็นรูปหรือบทความพวกนี้หรือไม่ ภาพแต่ละภาพถูกบันทีกไว้สีขาวดำ ฉันได้ยินคำว่า "Ectoplasm" เอ็คโตพลาสซึม (Ektos มาจากรากศัพท์ภาษากรีก แปลกว่า ข้างนอก รวมกับคำว่า Plasma ที่แปลว่า สิ่งที่รวมตัวเป็นรูปร่าง) โดยเชื่อว่าเป็นกลุ่มพลังงานของวิญญาณที่ไหลออกมาจากร่างทรงเมื่อร่างทรงพยายามจะติดต่อสื่อสารกับวิญญาณนั่นเอง

    ในหัวของฉันกลับนึกถึงเรื่องของโครงสร้างของเซลล์ เอเวอรี่ส่ายหัว พลางยื่นบทความและรูปให้ฉันดู ก่อนที่จะถามฉันว่าคราวนี้ฉันคิดอย่างไรกับภาพเหล่านี้ ก่อนที่จะอธิบายว่าภาพนี้มีที่มาอย่างไร หรือก่อนที่จะเล่าเรื่องราวของหมอฮามิลตัน ผู้พยายามศึกษาหรือจับภาพถ่ายวิญญาณ Ectoplasm เรามาเล่นเกมส์กันดีกว่า สมาชิก palungjit ทุกท่านคิดว่าภาพวิญญาณที่ท่านเห็นนี้เป็นภาพจริงหรือภาพปลอม

    โปรดติดตามตอนต่อไป ฮา สรุปคนเขียนขี้เกียจ
    Credit:

    1. ภาพผงบรรจุมัมมี่ใช้เป็นยารักษาโรค
    http://www.oddlyhistorical.com/2014/04/09/mummy-powder-gruesome-cure/

    2. ชุดภาพถ่ายวิญญาณของ T.G. Hamilton
    http://www.mhs.mb.ca/docs/mb_history/55/psychicresearch.shtml
    2.1 ภาพหมอแฮมิลตัน
    2.2 ภาพถ่ายจากการทดลองให้คนทรงเชิญวิญญาณ (1)
    2.3 ภาพถ่ายจากการทดลองให้คนทรงเชิญวิญญาณ (2)
    2.4 ภาพถ่ายจากการทดลองให้คนทรงเชิญวิญญาณ (3)

    3. ภาพอื่นๆ ที่ถูกเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ จาก อีแม็กาซีน แนวผี วิญญาณ และเรื่องลึกลับพิศวง Facebook (https://www.facebook.com/ethaihollow/)

    ผู้เขียนมองว่าเรื่องผีของยุโรปมีการบันทึกไว้จึงนำมาเขียนให้อ่านกัน ดังนั้นเรามาลองเล่นสนุกๆกันดีกว่านะคะ สิ่งที่สำคัญมากกว่ามองว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่ ควรใช้สติพิจารณาประกอบคู่กันด้วยค่ะ

    ขออัญเชิญคุณ Snooty, คุณ Nopphakan คุณ Devotee57 ผู้เชี่ยวชาญผีฝรั่ง คุณเทพบุตรลัลล้า และคุณวงกรตน้ำ และสมาชิกท่านอื่นๆ ร่วมสนุกกันค่ะ ผู้เขียนขออนูญาตกั๊กเรื่องส่วนที่เหลือเอาไว้ เนื่องจากไม่เก่งภาษาอังกฤษ ได้แค่งูๆ ปลาๆ เลยต้องใช้เวลาสักเล็กน้อย ฮา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2017
  2. Mathura

    Mathura นะโม แปลว่า ผู้นอบน้อม

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +13,011
    @Snooty Catnipไม่เห็นได้ผลเลยค่ะ ทดสอบแล้วมันไม่มีอการเคลิ้มหรืออย่างใด ฮา งั้นกระตุ้นต่อมอยากรู้ของผู้อ่านอีกหน่อยเป็นการคลายเครียดต่อไป

    เรามาทำความรู้จักผู้ที่ทำการทดลองและศึกษาภาพถ่ายวิญญาณกันก่อนดีกว่า คุณหมอโทมัส แฮมิลตัน (Thomas G. Hamilton) เป็นชาวแคนาดาที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นนักปรจิตวิทยาและเป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้บุกเบิกการศึกษาเรื่องผีอีกด้วย โดยเฉพาะภาพถ่ายๆเป็นพันๆรูปทีเรียกว่า "Seance" หมายถึงชุดภาพถ่ายที่มีคนรวมตัวกันเพื่อส่งสารและติดต่อกับผู้ที่จากไป พูดง่ายๆ คือไปหาร่างทรง (medium) แต่ร่างทรงของฝรั่งนั้นไม่ได้นุ่งชุดขาวห่มขาวตามความเข้าใจคนไทย นั่นเอง แต่ความพยายามที่จะจับภาพถ่ายหรือหาหลักฐานมีมาตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว

    ภาพชุดที่มีชื่อเสียงเช่น Seance ของ John Beattie Eugene เป็นต้น ดูเพิ่มเติมได้ ที่
    (เฮชทีพีพี://psychictruth.info/PHOTOGRAPHS_14.htm)

    กลับมาที่เรื่องของหมอแฮมิลตันดีกว่า มีชีวิตช่วงปีค.ศ.1873-1935 และเป็นหมอศัลยแพทย์ ตัวคุณหมอแฮมิลตันมักรวมตัวกับกลุ่มเพื่อนๆในมหาวิทยาลัย ศึกษาเรื่องสิ่งลึกลับด้วย หลังจากที่ได้รู้จักเพื่อนอาจารย์ด้วยกัน W. T. Alison งานศึกษาเรื่องเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ทางผีของหมอเป็นรูปเป็นร่างขึ้นในปี 1918 ตอนแรกเป็นเพียงแค่ความสนใจกับกลุ่มเพื่อนฝูงธรรมดาเท่านั้น

    ปี 1919 ลูกชายของหมอแฮมิลตันวัยสามขวบ เสียชีวิตดัวยโรคไข้หวัดสเปน ความโศกเศร้าเริ่มครอบงำครอบคัวและตัวคุณหมอเอง ทำให้หมอเริ่มศึกษาเรื่องลึกลับ เชื่อว่าเป็นหนทางเดียวที่จะติดต่อดวงวิญญาณของลูกชายที่จากไปได้

    การทดลองทางจิตของหมอนั้นเริ่มจากการใช้ Ouija board หรือผีถ้วยแก้วฝรั่ง การติดต่อสื่อสารผ่านร่างทรง ภายหลังตัวคุณหมอแฮมิลตันเริ่มสนใจเรื่องของการจับภาพวิญญาณ หรือพลังงานลึกลับ จึงเริ่มมีการศึกษาการทดลองเชิงวิทยาศาสตร์ทางจิตเกิดขึ้น และมีการเปิดเผยถึงผลการทดลองสู่สาธาราณชนในปี 1926


    คุณหมอแฮมิลตันบรรยายถึงการทดลองให้คนทรงติดต่อกับวิญญาณ และมีนักวิทยาศาสตร์ ทนายความที่มีชื่อเสียงคนอื่นๆ ร่วมเป็นพยานการทดสอบด้วย รวมทัังมีการบันทึกขั้นตอนการทดลองในห้องทดลอง ไม่มีใครสามารถเดินผ่านเข้าออกห้องนั้นได้ เป็นต้น ตามชุดภาพที่มีการรวบรวมไว้ใน youtube ชุดนี้ค่ะ



    จากภาพ link จะมีการถ่ายภาพชุดอุปกรณ์เครื่องมือที่ทำการบันทึกเรื่องราวของวิญญาณ สาเหตุที่การทดลองจับภาพวิญญาณของคุณหมอแฮมิลตันมีชื่อเสียงนั้นน่าจะเกิดจากตัวหมอเองเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงและทำงานอยู่ในมหาวิทยาลัย รวมทั้งได้ตีพิมพ์บทความวิชาการเกี่ยวกับการทดลองและการบันทึกเรื่องการถ่ายภาพ Ectoplasm ด้วย สำหรับตัวหมอแฮมิลตันมองว่า Ectoplasm เป็นเหมือนพลังงานจากโลกความตายไม่ใช่สสารที่ปรากฏในโลกนี้ ชุดภาพและรายละเอียดการทดลองต่างๆ ถูกเก็บรักษาไว้ที่ University of Manitoba ประเทศแคนาดา

    ช่วงที่มีการศึกษาเรื่องวิญญาณและชีวิตหลังความตาย ตรงกับสมัยสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง และผู้หญิงหลายคนอ้างว่าได้รับการติดต่อจากสามีตายในสนามรบ เป็นต้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่มีอาชีพคนทรงผุดขึ้นมาราวกับดอกเห็ด สำหรับตัวหมอแฮมิลตันและครอบครัวพยายามที่จะรับมือกับความโศกเศร้าที่สูญเสียสมาชิกคนสำคัญในครอบครัวไป จึงเริ่มทำการศึกษาเรื่องวิทยาศาสตร์ผีและสิ่งลึกลึบโดยมีการบันทึก สังเกตการณ์ ถ่ายภาพ จดผลบันทึกตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

    ผลงานทดลองที่สร้างชื่อเสียงให้กับคุณหมอคงเป็นงานทดลองในปีก 1926 และปี 1928 เนื่องจากมีนักวิทยาศาสตร์และพยานร่วมสังเกตการณ์ทดลองในครั้งนี้เช่นกันเมื่อมีการทำพิธีอัญเชิญวิญญาณในห้องมืดและถูกล็อคกุญแจไว้ ผู้ทำหน้าที่ร่วมพิธีกรรมอัญเชิญวิญญาณ

    การอัญเชิญวิญญาณของฝรั่งนั้นผู้ร่วมพิธีจะจับมือเป็นวงกลม จุดเทียนแล้วเชิญดวงวิญญาณ การทดลองครั้งนี้มีผู้เข้าสังเกตการณ์หลายคน เช่น ทนายความไอแซ็ค (Isaac Pitblado) นักโลหิตวิทยา ด็อกเตอร์บรูซ (Bruce Chown) ร่วมสังเกตหรือจับผิดเหตุการณ์ คนทรงคือนางเอลิซาเบ็ท (Elizabeth Poole) เป็นหญิงม่ายชาวสก๊อต

    ขณะนี้กำลังสู้รบกับแมวสลิดยึดคีย์บอร์ด โปรดติดตามตอนต่อไป หรือไปลองทายเล่นๆว่าภาพชุดนี้จริงหรือปลอมเอ่ย ใครมีวิธีกำจัดน้องเหมียวออกจากแป้นพิมพ์ได้บ้างคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2017
  3. Mathura

    Mathura นะโม แปลว่า ผู้นอบน้อม

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +13,011
    ภาพระหว่างการทดลองหรือการเตรียมการทดลองเชิญวิญญาณ ผู้หญิงคนกลางที่เห็นในรูปคือ นางเอลิซาเบ็ท และภาพการทดลองการสื่อสารกับวิญญาณ ที่คุณหมอแฮมิลตันและพยานคนอื่นๆ ได้ร่วมบันทึกไว้ นอกจากนั้นยังมีผู้ร่วมสังเกตการณ์อื่นๆ เช่น การทำให้โต๊ะเคลื่อนไหวโดยไม่มีคนใช้มือขยับ การสื่อสารกับวิญญาณ หรือเขียนข้อความของคนตาย แน่นอนว่าหากมีผู้ร่วมสังเกตการณ์ทางวิทยาศาสตร์ แม้ว่าการเชิญวิญญาณนั้นทำในห้องมืด อาจมีแสงสว่างจากเทียนไขบ้าง พวกทำหน้าที่สังเกตการณ์ ก็จะมีการตรวจสอบวัตถุ โต๊ะ หรือตรวจสอบว่าคุณหมอแฮมิลตันซ่อนกลโกงอะไรไว้หรือไม่ หลังจากนั้นจะมีการบันทึกภาพเพื่อบันทึกสสารที่ไหลออกมาจากร่างคนทรงตามที่ได้เห็นในภาพชุดด้านบน

    การทดลองครั้งหนึ่งเคยมี Sir Arthur Conan Doyle หรือผู้เขียนเรื่องเชอร์ล็อคโฮล์มมาร่วมสังเกตการณ์ทดลองนี้ด้วย แต่ก็หาความผิดปรกติไม่เจอแต่อย่างใด การทดลองของแฮมิลตันตอนเริ่มต้นเป็นเพียงการทดลองลับๆ รู้เฉพาะกลุ่มจนกระทั่งตัวคุณหมอได้บรรยายนเรื่องวิทยาศาสตร์เหนือธรรมชาติ บางครั้งผู้ร่วมสังเกตการณ์บอกว่า ไม่เห็นสิ่งที่เรียกว่า Ectoplasm แต่กลับรู้สึกขนลุก หรือสัมผัสได้ รวมถึงยีนยันว่าผีมีจริง

    การบรรยายของหมอแฮมิลตันถูกจัดขึ้นถึงแปดสิบหกครั้ง รวมทั้งตัวคุณหมอเองก็ได้เขียนบทความตีพิมพ์และหนังสือหลายเล่มที่เกี่ยวกับเรื่องของวิญญาณ เช่น
    Psychic Research in a Winnipeg Family: Reminiscences of Dr. Glen F. Hamilton เป็นต้น

    ขอคั่นโฆษณารอคนมาปูเสื่อก่อนค่ะ หิวข้าวแล้ว เผ่นแว้บ เดี๋ยวมาปั่นต่อ

    ภาพถ่ายจาก
    (www.mhs.mb.ca/docs/mb_history/55/psychicresearch.shtml)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2017
  4. Mathura

    Mathura นะโม แปลว่า ผู้นอบน้อม

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +13,011
    ฉันอ่านบทความและพิจารณาดูรูปมากมายพลางสงสัยว่า หมอแฮมิลตันจะเอาตัวเสี่ยงทำไม เพราะอาจถูกมองว่าเป็นเรื่องต้มตุ๋นก็ได้ ทำไมถึงกล้านำชื่อเสียงของตนเองมาเสี่ยงกับการบรรยายทางวิทยาศาสตร์ เรื่องนี้ยังคงเป็นปริศนาต่อไปหลังจากการตายของหมอแฮมิลตันในปีค.ศ. 1935 เหลือไว้เพียงหลักฐานภาพถ่าย ผลงานตีพิมพ์ที่ถูกเก็บไว้ในมหาวิทยาลัยเท่านั้น

    ผู้สนับสนุนหลายท่านเชื่อว่าภาพของหมอแฮมิลตันนั้นเป็นการทดลองและพิสูจน์เรื่องของวืญญาณตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์สมบูรณ์ที่สุด แต่ก็มีผู้คัดค้านบางกลุ่มเช่นกัน ตอนจบกระทู้หน้า ขอเชิญเพื่อนๆมาปูเสื่อรอ บอกแล้วผีของมธุรา ฉบับไร้แก่นสาร

    คุณคิดว่าภาพที่เห็นนั้นเป็นภาพจริงหรือปลอม ?

    ยังไม่เฉลยค่ะ ฮา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2017
  5. maggy chen

    maggy chen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    215
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +653
    เค๊าก็เคยโดนแมวยึดคีย์บอร์ดล่ะ แบบ คุณน้องแมวคงอยากพิมพ์มั่ง อุ๊ยแมวพิมพ์ :D
    เราคิดว่านะ วิญญาณเป็นพลังงานอย่างหนึ่ง เห็นได้สัมผัสได้
    แบบเป็นลมเย็นๆ เป็นภาพลางๆ อิอิ ฟังเขาเล่ามาอีกทีอ่ะ
    มิ ขอสัมผัสเองหรอก กลัวเหมือนกานนน บรื๋อส์:eek:
     
  6. Snooty

    Snooty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +670
    อุ๊ต๊ะ นึกว่าเข้าเว๊บผิด นี่มันเว๊บ Discovery รึป่าวอ๊ะ...ข้อมูลแน่น สาระมาเต็ม ๕๕๕๕

    ส่วนตัวเคยดูสารคดีเรื่อง Ectoplasm มาเหมือนกันในช่วงยังห้าว เอ้ย ยังเอ๊าะอยู่ มีความรู้สึกว่าจริงป่าวว้า เห็นฝาหรั่งเค้ายังเอาแนวคิดนี้ไปใช้ในซีรีย์หรือหนังด้วย แต่จำไม่ได้แล้วว่าเรื่องอะไร (เพราะนานจัด) ตอนนั้นยังสงสัยอยู่ว่าวิญญานฝรั่งทำไมมันยังกะขี้มูก :D:D แต่พออ่านและดูมากๆเข้าก็เริ่ม ไม่ใช่แร่ะ... มันออกหลอนนิดๆด้วยซ้ำ เคยดูสารคดีที่เค้าทดลองเรื่องวิญญานออกจากร่างในช่วงที่เสียชีวิตใหม่ๆ ซึ่งฝาหรั่งเค้าใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์จับคลื่นหรือพลังงานได้จริงๆ สามารถทำออกมาเป็นรูปธรรมได้ แต่ก็นะ...เรื่องแบบนี้ก็ยังมีคนไม่เชื่ออยู่ดี ก็เลยกลายเป็นเรื่องปัจจัตตังต่อไป

    แต่ส่วนตัวชอมมุมมองฝรั่งที่มักจะชอบทำการทดลองวิจัยในความเชื่อต่างๆ ไปพิสูจน์ตามสถานที่หลอนต่างๆ หรือ ไปพิสูจน์ความเชื่อที่เชื่อกันมาช้านาน ในเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ จนได้ข้อมูลมาประกอบการตัดสินใจของเรา แต่ไม่ฟันธงว่าจริงไม่จริง เพียงแต่ให้โอกาสเราได้เลือกจะเชื่อหรือไม่เชื่อ ถ้าจำไม่ผิดเค้าเคยมาพิสูจน์ที่นครวัดที่เสียมเรียบด้วย มานั่งอยู่คนเดียวดึกๆ โดยมีกล้องถ่าย เหมือนๆ รายการพี่ป๋อง ช่วงล่าท้าผีนั่นแหล่ะ บางที่ก็เห็นเจ้าตัวมีหลอน มีวิ่งอยู่นะ ๕๕๕ ขนาดฝรั่งที่เค้าไม่เชื่อๆ ไว้ก่อนก็ยังมาสัมภาษณ์ตอนท้ายรายการว่ามันต้องมีอะไรๆอยู่ (ตอนนั้นนึกอยู่ว่าจะส่งอีเมล์ไปบอกให้พวกเค้ามาทำรายการบ้านเราด้วย ตามสถานที่หลอนๆ คงต้องมีการได้วิ่งกันอย่างแน่นอน ครึครึ)

    คือ..ไม่ต้องเอาเครื่องมือมาพิสูจน์ มาวัดอะไรหรอก เพราะต่อมมโนจะทำงานทันทีที่รู้สึกได้ถึงพลังงาน ไม่ต่างจากที่เรารู้สึกร้อนเย็นนั่นแร่ะเนาะ ยังจำได้ตอนไปฝึกครั้งแรกนอกสถานที่ที่สุสานศพไร้ญาติ ที่ครูเค้าให้เราไปนั่งในคอนเทนเนอร์ที่เป็นที่พักศพก่อนจะนำไปฝังคนเดียวห้านาที คือยังไงล่ะ มาเต็มๆทั้งกลิ่นและความรู้สึก จนทำให้หัวใจเต้นระบำปานว่าจะออกมาเต้นนอกตัว เข้าใจคำว่า หัวใจหล่นไปที่ตาตุ่มก็คราวนี้แร่ะ มือเย็น เท้าเย็น คนเคยกลัวมากคงจะเก็ทเนาะ ๕๕๕ แต่ก็ทำให้เห็นกระบวนการๆปรุงแต่ง หรือง่ายๆคือ ความคิดเราเองที่หลอนตัวเอง เห็นความกลัวที่มันพีคสุดๆจนมันค่อยๆลดระดับลงมา พอไปฝึกหลายๆครั้งเข้าจึงเริ่มเก็ทว่า เออหนอ เราเองแหล่ะที่หลอกตัวเอง ความคิดตรูเองทั้งนั้น ๕๕๕

    "ความกลัวคือ ผลจากความคิดปรุงแต่ง" นี่คือสิ่งที่ตกผลึกจากการไปฝึกนอกสถานที่หลายครั้ง อิอิ

    พลังงานทั้งดีและไม่ดีเค้าก็มีอยู่แล้วเป็นปกตินั่นแร่ะ ถ้าเรามีความเป็นกลางพอเราก็จะรับรู้ได้เองตามธรรมชาติ รับรู้แล้วก็ปล่อย ก็วาง ก็จบไป จะได้ไม่ต้องไปเผลอเชื่อมเอามาเนาะ

    เอิ่ม...Catnip ไม่ได้ทำให้แมวมันนิ่งเน้อ มันยิ่งคลั่งต่างหาก ครึครึ เอาไว้ให้น้องแมวเค้าได้เล่น ได้ผ่อนคลาย ได้ออกกำลังกาย (อ๊ะ อย่าคิดลึก) ได้ขยับบ้างไรบ้าง :D:D
     
  7. Mathura

    Mathura นะโม แปลว่า ผู้นอบน้อม

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +13,011
    @Snooty นั่นแหละคือเหตุผล เจ้าของกระทู้แนวเน้นนำเสนออย่างเป็นกลาง เน้นพูดคุยธรรมดา และสติเป็นสิ่งสำคัญที่สุดค่ะ

    เรื่องจริงไม่จริงรอโพสต์สุดท้ายนะคะ ตอนนี้กั๊กพิมพ์บนมือถือลำบาก เพราะแมวยึดคีย์บอร์ด งื้อ! แต่ที่มุสนใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ เพราะเกิดจากการอ่านได้บทความเท่านั้นเอง แล้วเพื่อนมนุษย์แล็ปเคยพูดถึงให้ฟัง จึงนำมาเขียนตามที่สัญญากับคุณ Snooty ค่ะ เพียงแต่เรื่องข้างเคียงเรียงหมอนมาก่อน เพราะอึ้ง ฮา พึ่งเคยเจอคนนอนด้วย ฮา

    สำหรับเรื่องจริงหรือไม่นั้น บางครั้งอาจจะเป็นปริศนาต่อไปก็เป็นได้ หากใครเคยอ่านหนังสือโบราณ เช่น Grimoire เกี่ยวกับวงแหวนเวทมนต์ ทุกคนจะบอกว่ามีอาถรรพ์ แต่บ้างก็มองว่าเป็นเพียงบันทึกตามความเชื่อโบราณ เป็นต้น

    มุแค่บังเอิญมีเพื่อนฝรั่งกลุ่มหนึ่งที่สนใจอักขระโบราณ หรือเรื่องลึกลับ ออร่า อีกอย่างตัวเองเป็นคนชอบประวัติศาสตร์ยุโรปเพราะได้อ่านวรรณกรรมแปลบ่อยๆ จึงหยิบมาเล่าให้ฟังกันค่ะ เพื่อนฝรั่งในกลุ่มนี้ก็มักมองว่ามุแปลก เหมือนเด็กเจอสมบัติเวลาได้เห็นของเก่า และดูออกว่าอันไหนเป็นของที่ไม่ควรแตะต้อง (เปล่า...ภูมิต้านทานมาจากเพื่อนสนิท ฮา สัญชาตอญาณเอาตัวรอดมาก่อน หึหึ)

    เพื่อนเคยชวนมุไปเจอ Psychic reader ด้วย ก็ตลกดี นึกว่าจะเป็นแบบแม่หมออ่านไพ่ อ่านลูกแก้ว แต่กลับเป็นคนธรรมดาค่ะ แล้วขอจับมือมุแค่นั้นเอง แต่ภาษามุไม่ค่อยดี เลยได้แต่ยิ้มหวานกลอกตาไปมา รู้แต่ว่าเค้ากอดมุแล้วอวยพรมั้ง ก็นับว่าเป็นประสบการณ์ที่ผ่านมา แค่นั้นแหละค่ะ

    เดี๋ยวๆ Catnip มันต้องทำให้แมวเคลิ้มไม่ใช่เหรอ ทำไมแมวตัวอื่นนอนเกลือกกลิ้งแบบฟินมาก แมวสลิดของมุไม่เห็นมีปฏิกริยาเคลิ้มอะไรเลย กลุ้ม ขอตัวไปซื้อ Keyboard ก่อนนะคะ จะได้ต่อพ่วงทำงานโดยที่ไม่มีแมวมากวนได้

    ปอลอ ขอบคุณมากค่ะที่ให้ข้อมูล ยิ่งมุเองก็ถามเยอะเรื่องสถานที่ปฏิบัติธรรมเพราะรู้ว่าอากาศร้อน กลัวไมเกรนจะขึ้นเลยต้องถามข้อมูลซ่อกแซ่กมากๆ แต่กำหนดวันแล้วบอกกล่าวขอพรจากพระอาจารย์แล้ว ขอบคุณมากค่ะ ขอตัวไปทำบุญก่อนนะคะ วันนี้พระอาจารย์มากรุงเทพ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2017
  8. Snooty

    Snooty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +670
    มารอลุ้นด้วยคน แหม้ เด่วนี้มีก้งมีกั๊ก อิอิ

    ชอบอ่านเรื่องคุณมุค่ะ ชอบแนวการนำเสนอให้ใช้วิจารณจักรยานในการรับข้อมูล ไม่ได้ส่งเสริมให้หลงงมงาย ยึดติดกับเรื่องนามธรรม ที่สำคัญ ชอบความเป็นสายฮาในสายเลือด ครึครึ

    May the force be with you!!

    ปล เพื่อนฝรั่งนี่เค้าน่าจะงงๆกับความเชื่อคนไทยบ้างป่าวคะ เพื่อน snooty หลายคนถึงกับสั่นหัวและเอามาโจ๊กกันเลยทีเดียว

    ปล อยากฟังเรื่อง Grimoire ง่ะ (นะๆๆๆ---สายตาเง้างอน)
     
  9. Mathura

    Mathura นะโม แปลว่า ผู้นอบน้อม

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +13,011
    @Snooty ทำไมมันกลายเป็น Star Wars สุดยอดเรื่องผีของมุ นอกจากหนังจีนกำลังภายในโดยป๋านบ เจอคุณ Snooty กลายเป็นหนังฝรั่ง เอิ่ม ของงก่อน Grimoire เอาจริงเหรอ แต่ภาพเยอะนะ เป็นภาพวงแหวนเวทย์แล้วก็คาถาของแม่มดยุโรปนะคะ นั่น

    อย่านะ มุแพ้สายตาเหมียว ไว้กลับมาจากปฏิบัติธรรมก่อนนะคะ มุไม่เก่งเรื่อง Grimoire แต่ยอมรับว่าเคยอ่าน เพราะที่ญีปุ่นเรื่อง Grimoire มันกลับมาบูมใหม่ค่ะ เป็นเรื่องคาถาการอัญเชิญขอพรจากดวงดาวและการอัญเชิญวิญญาณ แล้วแต่ว่า Grimoire เล่มไหนนะคะ หากระดับสูงมากมุคงต้องคุยกับเพื่อนฝรั่งแล้วเค้นกลั่นเอาข้อมูลออกมา ขั้นตอนเข้าโรงงานกลั่นอาจใช้เวลา ฮา

    บังเอิญว่าเพื่อนฝรั่งไม่รู้เรื่องความเชื่อของมุ แต่มักจะเห็นมุกลิ้งกลมๆบ้าง เพราะมุรู้จักเรื่องออร่า เรื่องของภาษาโบราณ หินคริสตัล และอื่นๆ เพื่อนเลยชวนมุไปทำกิจกรรมหรือคุยกันนอกรอบบ้าง คือฟังแบบเป็นกลางไม่ขัดศรัทธา เรื่องบางเรื่องเราต้องรู้จักการใช้สติวิเคราะห์ จะเชื่อไม่เชื่อไม่เป็นไร แต่ก่อนจะแสดงความเห็นอะไรเราต้องรู้จักแยกแยะเท่านั้นเองค่ะ แต่มุก็ไม่ได้ไปร่วมพิธีกรรมอะไร นอกจากเคยได้รับเชิญไปร่วมงานปาร์ตี้ แล้วเค้ามี surprise เชิญ psychic reader มาค่ะ

    จริงๆต้องได้เจอเพื่อนฝรั่ง พวกนี้เก่ง อ่านจารึก อ่านวรรณกรรมต้นฉบับศตวรรษที่ 17 ได้สบายๆ มุส่ายหัวบอกว่าฉันทำไม่เป็นอ่ะ แต่ฉันสวดมนต์เป็น เท่านั้นแหละ เค้าฮากระจาย อีกอย่างเค้าสังเกตประคำข้อมือที่มุสวม มีคนขอยืมไปถ่ายภาพออร่าหน่อย ทั้งๆที่มันก็เป็นประคำสวดมนต์ธรรมดาที่พระอาจารย์ท่านมอบให้มุเท่านั้นเองค่ะ ก็เป็นเรื่องแปลกๆดี

    ตอนนี้มุกำลังรอมุกจากคุณ devotee57 ว่าจะปล่อยมุกอะไรอีก ฮา แต่งกลอนมาแล้ว เสียงโซปราโนก็มาแล้ว แต่เอ็คโตปลาสซึมนี่คงเล่นยาก ฮา เอาขำๆนะคะ มุเองก็เกาะอ่านเป็นพักๆ แล้วแต่เวลาว่างค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ กว่าจะนั่งรถไฟฟ้าไปที่ปฏิบัติธรรม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2017
  10. Mathura

    Mathura นะโม แปลว่า ผู้นอบน้อม

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +13,011
    ขอเฉลยเรื่องนี้สักอาทิตย์หน้าละกันเนื่องจากตัวผู้เขียนอยากนำเสนอข้อเท็จจริงที่บางส่วนเชื่อว่าภาพชุดนี้เป็นของจริงและบางส่วนเชื่อว่าเป็นของปลอมนะคะ สำหรับคุณ Snooty ที่ถามเรื่อง Grimoire มา มันคืออะไร อาจจะไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องผีสักเท่าไรนัก แต่ที่นำเรื่องนี้มาสอดแทรกไว้ในกระทู้ผีของตัวเอง เนื่องจากเป็นการตอบคำถามหรือแลกเปลี่ยนความรู้แบบฟังหูไว้หูนะคะ ฮา ขอยืมประโยคของป๋านบมาใช้หน่อยค่ะ

    Grimoire คืออะไร? เอาง่ายๆก็คือหนังสือที่รวบรวมเรื่องเวทมนต์หรือคาถาที่มีการจารึกไว้ด้วยภาษาลาตินค่ะ ตั้งแต่ยุคเรเนซองค์ ตัวอย่างหนังสือจะมีตั้งแต่พื้นฐานจนถึงการอัญเชิญเทพเทวดาและปีศาจเป็นต้น ตัวอย่างหนังสือลาตินทีถูกตีพิมพ์ เช่น Arbatel De Magia Veterum ตีพิมพ์ในประเทศสวิส ช่วงปี 1518 หากแปลเป็นภาษาอังกฤษแบบงูๆ ปลาๆ ก็คงจะเป็น "Arbatel the magic of the ancients" Arbatel คือชื่อของเทวดาที่ได้เรียนเวทมนต์ เป็นต้น แน่นอนว่าคัมภีรเวทมนต์มีหลายระดับค่ะ แต่ถูกตีพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษยุคกลาง และอธิบายลักษณะเวทมนต์ เช่นเวทมนต์ที่เกี่ยวข้องกับสวรรค์หรือพลังธรรมชาติ พวกปลุกคืนชีพบูชาซาตาน ตลอดจนการทำนายดวง การเล่นแร่แปรธาตุ และการทำยา เป็นต้น แน่นอนว่าย่อมมี่สัญญลักษณ์หรือสอนพื้นฐานการเขียนวงแหวนเวทย์ แต่เป็นหนังสือคนละชุดค่ะ จำไม่ได้แล้วเรียกว่าอะไร ขึ้นต้นด้วย S

    คนที่อ่าน Grimoire ได้นั้นมักเป็นคนเฉพาะกลุ่มค่ะ แต่ก็มีบางเล่มที่ถูกนำมาเรียบเรียงเป็นภาษาอังกฤษแบบปัจจุบันมีขายตามร้านหนังสือฝรั่ง และร้านที่ขายของ witchcraft เช่น ไม้เท้าร่ายเวทย์ เกลือ เทียนหอม สำหรับทำพิธีเป็นต้น แต่สิ่งที่น่าสนใจคือองค์ความรู้ที่ถ่ายทอดเช่นเรื่องของการอ่านดวงดาว สัญญลักษณ์ เป็นต้น อ่ะเขียนสั้นๆพอเนอะ คิดว่าตอบละเอียดแล้วแต่ที่ไม่เขียนรายละเอียดเพราะต้องคุยกับเพื่อน ต้องบอกก่อนว่าผู้เขียนเป็นคนธรรมดาค่ะ อ่านภาษาแบบกระดิกดิ๊กๆ หากเขียนรายละเอียดกลัวได้ย้ายกระทู้ไปอีกห้องน่ะสิคะ ฮา

    แต่ก็มีบางตำราที่สอนทำเครื่องสำอางแล้วต้องท่องมนต์ ขอพลังจากดวงดาวก็มี เป็นเหมือนกลอนภาษาอังกฤษสั้นๆ ก็แปลกดี ร้านค้าที่ขายของแปลกๆ บางทีก็นำเรื่องราวมาสร้างเรื่องราวหรือจุดขายให้สินค้าก็มี นับว่าเป็นกระแสแปลกๆ ดีเหมือนกันค่ะ

    เล่าเอาฮาพอเนอะ น่าจะกระตุ้นต่อมอยากรู้ไปพลางๆได้ ส่วนผู้เขียนกำลังหาทางสู้กับแมวต่อไป แล้วพึ่งเจอว่า Catnip ใช้ไม่ได้ผลกับแมวทุกตัว กลุ้ม ตอนนี้มี catboard แทนค่ะ แมวไม่เห็นนะจังงังเลยค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2017
  11. devotee57

    devotee57 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    228
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +556
    ขอสารรูป เอ้ย สารภาพว่ายังอ่านทั้งหมดอย่างคร่าวๆ ไม่ละเอียด(แอบงงเล็กน้อยถึงมากที่สุด555)
    ข้อยซิงงหลาย ด้วยไม่มีความรู้เรื่องพวกนี้เลย

    แต่แมวคุณชายเราคลั่งคื่นไช้มาก ชอบฟุดๆ มันจะกลายเป็นแมวบ้าคลุกผัก แล้วเผยอปากนิดๆ(คิดว่าเซ็กซี่เหรอ) ชอบเกลือกพริกสด พริกแห้ง ชอบดอกมะลิแห้ง(โต๊ะบูชาล้มหลายรอบเพราะมันไปเอาพวงมาลัย) ชอบยาบำรุงจีนใส่โสม catnipอะไรนี่ยังไม่เคยลอง แค่คื้นไช้ตลาดนัดพวกก็ระริกระรี้แล้ว
    พอๆเริ่มเลอะแล้ว จบประเด็นนี้

    ส่วนเรื่องเรียกอะไรต่อมิอะไรขอคุณมุนี่ทำให้นึกถึงนิยายเรื่องแมคเบท สารรูปอีกรอบว่าเคยดูสารคดีฝาหรั่ง(แต่ไม่รู้เนื้อเรื่อทั้งหมด)
    เขาว่านิยายเรื่องนี้ต้อคำสาป ก่อนจะเล่นก็ต้องแก้เคล็ดนู่นนี่ เพราะว่ากันว่าตาลุงเชคสเปียแกไปเอาเรื่องแม่มดจริงๆมาหากิน แม่มดเลยมาหาแกแล้วสาปแช่งแกกับนิยายเรื่องนี้

    แล้วยังนึกถึงพวกหนังสือภาพหรือภาษาแปลกๆที่ไม่มีใครเข้าใจและแปลได้ หรั่งก็ว่าเป็นศาสตร์ของแม่มดกับพวกเล่นแร่แปลธาตุ(อย่างเรื่อง นิโคลลัส เฟลมเมล ในแฮรรี่พอตเตอร์)
    เอาเข้าจริงถามว่าที่ไหนเก็บของเหล่านี้และมีผู้เชี่ยวชาญมากสุดคงหนีไม่พ้นสำนักวาติกัน
    ที่เป็นศูนย์บัญชาการปราบแม่มดและพวกนอกรีตทั้งหลาย แล้วก็ต้องถามทางสายยิว คาบาร่า หรือมาในรูปลักษณ์ที่ถูกดัดแปลงสอดแทรกมาเป็นไพ่ทาโรต์(ไพ่ยิปซี) เคยอ่านและลองเล่นแบบหรั่ง(แต่เราไม่ค่อยชอบ)
    เขาให้เราเหมือนถอดจิตเข้าไพ่ไปคุยกับตัวละครในนั้น เขาว่าตัวละครนั้นๆจะโต้ตอบเราและให้คำตอบแบบที่เราไม่รู้ด้วย และไพ่เองก็กุมความลับต่างๆในโลกโบราณ มีบางสำรับเป็นที่นิยมมากอย่าง ไรเดอร์ เวท ก็ถูกสร้างมาจากกลุ่มภารดรภาพแห่งรุ่งอรุณ(โกลเดน ดอว์น) ว่ากันว่ากลุ่มโกลเดนดอว์น ก็เป็นกลุ่มที่รู้ความลับต่างๆและรับไม้ต่อแบบแนวแม่มดยุคใหม่
    สมาคมสังสรรค์แบบใหม่ให้ตีเนียนไปกับยุคสมัย จนใครๆไม่สังเกตุ

    แต่เวทมนต์คาถาแบบฝรั่งนี่เขาค่อนข้างเฉพาะและนู่นนี่เยอะน่ะเราว่า ความจริงมันก็เป็นศาสตร์แขนงหนึ่ง แต่พอมีศาสนาคริสต์เกิดในยุโรปเขาก็ถือว่าพวกนี้ผิด

    จำได้ว่าตอนเด็กๆเคยอ่านเจอ ด้วง7ขา เอาไปทำอะไร จำนวนขาต่างวัตถุประสงค์ที่จะทำคุณไสยก็ต่าง(มีการส่งสัตว์เป็นคุณไสยแบบบ้านเราด้วย)

    แต่ที่เราสยองก็แบบพวกวูดู หรือตุ๊กตาน่ากลัวอย่างโรเบิร์ต หรือ แอนนาเบล ข้อยซิย่านหลายเด้
     
  12. Mathura

    Mathura นะโม แปลว่า ผู้นอบน้อม

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +13,011
    ขอว้าวให้กับแมวคลุกผัก ฮา!! น่ารักเชียว เรื่องผีอื่นๆ ตอนนี้หมดมุกค่ะ ฮา แต่สัญญาว่าจะมาเขียนตอนจบก่อนไปปฏิบัติธรรมค่ะ

    อยากลองเขียนเรื่องผีฝรั่งมั่ง ฮาเลยจับเรื่องนี้มาเขียน แต่อย่างที่บอกล่ะค่ะ เอาฮา เปลี่ยนบรรยากาศบ้างค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มีนาคม 2017
  13. devotee57

    devotee57 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    228
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +556
    ถ้าคุณมุจะเล่นผีหรั่ง เอาพวกมหกรรมผีที่หอคอยลอนดอนซิคะ มีเยอะ หลายยุคให้คุณเลือกสรร ที่ดังๆนี่ผีพระนางแอน โบลลีน ฮ็อตสุดๆ ตามปราสาทราชวังฝาหรั่งนี่อุดมไปแต่เรื่องผีๆ ทั้งขังจนตาย ทรมาณจนตายสังหารหมู่ โรคระบาด ถึงว่า บรรยากาศมันชวนวังเวงวิเวกวิเหวงโหวง พวกสร้างจากหินปูพื้นด้วนหิน ยิ่งมืดเย็นกักเก็บความชื้นอีก เคยเดินเที่ยวตอนมืด คุณเอ้ย หนังสยองฮอลลีวูดในชีวิตจริงมันเย้นเย็น:confused:ความน่ากลัวไม่ต้องพูดถึง

    เออว่าแต่พวกที่ชอบสะสมผีไว้ในคอลเลกชั่นด้วยวัตถุประสงค์ต่างๆ ทำไมไม่ลองไปปะฉะดะกับผีฝรั่งดั้งขอมั่งล่ะ หรือกลัวคุยกันไม่รู้เรื่อง:D เราไม่ได้ว่าใครน้า ถือว่าเป็นการเปิดโลกกว้างไง:D
     
  14. Mathura

    Mathura นะโม แปลว่า ผู้นอบน้อม

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +13,011
    เอิ่ม ผีลอนดอนพอทนค่ะแต่ผีลอนดอนมันต้องเลือกตัวเด็ดๆ พระนางแอนโบลีน เป็นราชินีได้แค่ 1000 วัน แล้วมีคนเห็นร่างหัวขาดวิ่งไปวิ่งมา ภาพถ่ายวิญญาณ King Henry และอื่นๆ ที่น่ากลัวก็มีผีแม่ชีอีกด้วย คงต้องกินขนมปังแปลภาษาก่อนสิคะ หรือไม่ก็ต้องไปเค้นเอาข้อมูล

    เมื่อเปรียบเทียบ skills การเจอเรื่องลึกลับ ต้องบอกว่าไม่ค่อยเจอค่ะ ส่วนมากเป็นแค่ผู้ร่วมเหตุการณ์มากกว่าสิคะ ฮา

    ปะฉะดะนี่ต้องโปเยโปโลเยมั่งคะ ตรงๆคือกลัวคุยไม่รู้เรืี่อง ฮา แค่นี้เพื่อนฝรั่งจะมองมุแปลกกว่าคนอื่นอยู่แล้วค่ะ เดี๋ยวหากสอนมุอ่านอักขระโบราณ มุจะเครียดสิคะ ฮา แค่นี้โกร๋นพอแล้วค่ะ
     
  15. Mathura

    Mathura นะโม แปลว่า ผู้นอบน้อม

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +13,011
    จริงๆในสมัยนั้นภาพ Ectoplasm บางชุดได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นของปลอม โดยผู้ที่ถูกถ่ายรูปขณะทำหน้าที่ติดต่อกับวิญญาณ จะใช้ ทิชชู่ ผ้าปูโต๊ะ ไข่ขาว เพื่อสร้างสิ่งที่ไหลออกจากร่างคนทรงออกมา สมาคมพิสูจน์เรื่องลึกลับเองก็ได้ทำการสืบสวนเรื่องการเข้าทราง แล้วพบว่าหลายกรณีเป็นเรื่องหลอกลวง ภาพของ T. G. Hamilton เองก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นของปลอมโดยใช้ทิชชู่หรือผ้าขาวบางๆ พันไว้กับรูปหัวคนที่ตัดมาจากหนังสือพิมพ์นั่นเอง

    ทว่าก็มีผู้คนจำนวนมากที่ออกมาโต้เถียงเรื่องภาพถ่ายของหมอแฮมิลตัน เนื่องจากเชื่อว่าเป็นภาพจริง เนื่องจากมีนักวิทยาศาสตร์และผู้มีชื่อเสียงหลายท่าน ได้ออกมาปกป้อง หรือผู้มีชื่อเสียงหลายคนได้มีส่วนร่วมต่อการทดลองการถ่ายภาพวิญญาณและยืนยันว่าภาพชุดนี้เป็นของจริง ภาพหลายชุดนั้นสูญหายไปและบางส่วนยังคงมีเก็บไว้ให้เห็นในพิพิธภัณฑ์เท่านั้น เรื่องนี้ก็คงเป็นปริศนาต่อไป และถือว่าเป็นภาพปริศนาอีกชุดหนึ่ง

    ข้อมูลจาก
    http://meaningandtruth.blogspot.com/2011/05/ectoplasm-real-or-fake.html
    https://en.wikipedia.org/wiki/Ectoplasm_(paranormal)
     
  16. devotee57

    devotee57 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    228
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +556
    เพิ่งเปิดเข้าไปดูคลิปเมื่อกี่ แบบงงอะ วิญญาณมีเงาตกกระทบด้วย อันนี้ต้องเข้าช่วง ทำทำไม งงกับฝรั่งเขาเจงๆ หลายภาพมันดูชัดเกิ้น ชัดแบบเหมือนเอารูปคนอีกคนแปะบนตัวป้าแกเลย
     
  17. Mathura

    Mathura นะโม แปลว่า ผู้นอบน้อม

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +13,011
    บอกแล้วกระทู้มุ เน้นนำเสนอเรื่องวิญญาณฉบับฮาและต้องใช้สติพิจารณาตามค่ะ แต่สำหรับประวัติศาสตร์การถ่ายภาพ ภาพชุดนี้ก็น่ารักษาไว้ จึงหยิบมาเขียนให้อ่านเล่นสนุกๆกันค่ะ คราวหน้าเหรอยังไม่รู้สิคะ แต่มีผีจากพระราชวังแวร์ซาย ฮา

    เรื่องต่อไปไม่มีค่ะขอกราบลาไปปฏิบัติธรรมที่อุทัยธานี
     
  18. กะปิหวาน

    กะปิหวาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2015
    โพสต์:
    130
    ค่าพลัง:
    +470
    เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ กำลัง งง!! กับภาพที่มีอะไรออกจากปาก ทำไม มีเงาด้วย มีเงาขนาดนี้ ใช้มือจับเลยได้ไหมคะ แถมมีรูปวิญญาณแต่ละท่านชัดมาก

    ปล. แซวขำๆนะคะ แค่สงสัยถ้าเห็นเงาขนาดนี้ก็น่าจะจับได้
     
  19. Mathura

    Mathura นะโม แปลว่า ผู้นอบน้อม

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +13,011
    @กะปิหวาน มุแค่สนใจประวัติภาพถ่ายค่ะ สมัยนั้นการพัฒนาเทคโนโลยีทางการถ่ายภาพค่ะ มุอยากให้คนทั่วไปก่อนจะเสพสื่อหรือข้อความ โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับผีและวิญญาณให้ใช้วิจารณญาณให้มากๆ เท่านั้นเองค่ะ แล้วมีคนขอว่าอยากอ่านเรื่องนี้พอดีค่ะ ขอบคุณนะคะที่มาร่วมแสดงความเห็น
     
  20. กะปิหวาน

    กะปิหวาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2015
    โพสต์:
    130
    ค่าพลัง:
    +470
    ค่ะคุณมุ หวานดูแล้วรู้สึกงง ว่าวิญญาณไม่น่าจะมีเงาน่ะค่ะ ร่วมแสดงความคิดเห็นสนุกๆ กันค่ะ:):)
     

แชร์หน้านี้

Loading...