ภาพถ่ายเล่าเรื่อง "ภูมิพโลภิกขุ" พระภิกษุพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ในห้อง 'ในหลวงกับพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย เต้าส่วน, 2 ธันวาคม 2010.

  1. เต้าส่วน

    เต้าส่วน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +98
    [​IMG]


    พระราชฉายาบัฏ
    ที่ 1582

    เมื่อปี 2499 แต่ปรินิพพานแห่งพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ล่วงไปแล้ว
    ในปีปัจจุบันที่ 2500 เมื่อ ณ วันจันทร์ สุรทินที่ 22 ตุลาคมมาส วัสสานฤดู
    ล่วงเวลา 4 นาฬิกา 23 นาที แต่เที่ยง
    ภิกษุ พระนามว่า ภูมิพละ อุปสมบทแล้วในพัทธสีมาแห่งวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
    ครั้นล่วงเวลา 5 นาฬิกา 43 นาที แต่เที่ยง
    ทำทัฬหิกรรม ณ พัทธสีมาแห่งพระพุทธรัตนสถาน
    มีท่านสุจิตตะ เป็นพระอุปัชฌายะ
    ท่านอุฏฐายี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ฯ

    ขอภูมิพลภิกษุนั้น จงทรงถึงความเจริญงอกงามไพบูลย์ในพระธรรมวินัย
    ที่พระตถาคตเจ้าทรงประกาศแล้ว

    อนึ่ง ขอภูมิพลภิกษุนั้น ทรงดำรงอยู่ในความเป็นอัครพุทธศาสนูปถัมภก์
    จงทรงอุปถัมภ์จัดแจงทะนุบำรุงเพื่อความงอกงามไพบูลย์แห่งพระพุทธศาสนา เทอญ ฯ


    [​IMG]
    สมเด็จพระราชชนนี ทรงจรดพระกรรไกร หลังพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
    วันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2499

    [​IMG]
    ทรงเครื่องตามแบบผู้แสวงอุปสมบท เสด็จฯ เข้าสู่พระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
    วันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2499

    [​IMG]
    หลังจากทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระสัมพุทธพรรณี พระพุทธรูปฉลองพระองค์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เป็นการส่วนพระองค์ตามราชประเพณีแล้ว สมเด็จพระราชชนนีฯ ถวายผ้าไตรเพื่อทรงขอบรรพชา

    [​IMG]
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงถือไตรเข้าไปขอบรรพชาในท่ามกลางสงฆ์ต่อสมเด็จพระสังฆราช

    [​IMG]
    สมเด็จพระสังฆราชถวายโอวาทสำหรับบรรพชา และถวายผ้ากาสายะ เพื่อได้ทรงครองอุปสมบท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ กลับเข้าในพระฉาก ทรงครองกาสาวพัสตร์ตามเพศบรรพชิต เสด็จเข้าไปรับสรณคมน์และศีลต่อสมเด็จพระสังฆราช สำเร็จบรรพชากิจเป็นสามเณรแล้ว ทรงขอนิสัยสมเด็จพระสังฆราชเป็นพระอุปัธยาจารย์ ถวายพระสมณนามว่า ภูมิพโล ทรงขออุปสมบท

    [​IMG]
    สมเด็จพระราชชนนีฯ ถวายบาตรสำหรับพระราชพิธีอุปสมบทกรรม

    [​IMG]
    พระสงฆ์ถวายการอุปสมบท โดยมีสมเด็จพระสังฆราช (หม่อมราชวงศ์ชื่น นพวงศ์ ฉายา สุจิตฺโต ป.7)
    เป็นพระราชอุปัธยาจารย์

    [​IMG]
    พระศาสนโศภน (จวน อุฏฐายี ป.9) วัดมกุฏกษัตริยาราม
    เป็นพระราชกรรมวาจาจารย์ ทูลซักถามอันตรายิกธรรม

    [​IMG]
    เมื่อทรงรับอุปสมบทเสร็จเป็นอันทรงดำรงภิกขุภาวะโดยสมบูรณ์แล้ว
    สมเด็จพระวันรัต (ปลด กิตฺติโสภโณ ป.9) วัดเบญมบพิตร พระอนุศาสนาจารย์ ถวายอนุศาสน์

    [​IMG]
    สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ถวายเครื่องบริขาร

    [​IMG]
    พระภิกษุพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยพระโศภนคณาภรณ์ (เจริญ สุวฑฺฒโน ป.9) วัดบวรนิเวศวิหาร เสด็จทางหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทรงรถยนต์พระที่นั่งเข้าไปสู่พระพุทธรัตนสถาน ทรงประกอบพิธีตามราชประเพณี มีพระเถระฝ่ายธรรมยุตนั่งหัตถบาส 15 รูป เมื่อเสร็จอุปสมบทกรรมเวลา 17:43 น. แล้ว เสด็จทรงรถยนต์พระที่นังพร้อมด้วยสมเด็จพระสังฆราช พระราชอุปัธยาจารย์ สู่วัดบวรนิเวศวิหาร

    [​IMG]


    [​IMG]
    สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เสด็จฯ พระราชทานกฐินในพระอุโบสถ วัดบวรนิเวศวิหาร
    วันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2499

    [​IMG]
    ทรงรับบิณฑบาตรในพระราชวังดุสิต
    วันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2499

    [​IMG]
    สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ์ เฝ้าในพระราชวังดุสิต
    วันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2499

    [​IMG]
    เสด็จฯ ไปถวายดอกไม้ธูปเทียนพระศาสนโศภน (จวน อุฏฐายี ป.9) พระกรรมวาจาจารย์ ฯ
    ถวายหนังสือพระวินัยมุนีฯ ถวายพระสีวลีที่ได้จากพม่าพร้อมด้วยตะลุ่มมุกเล็ก ๆ ที่วัดมกุฎกษัตริยาราม
    วันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2499

    [​IMG]
    เสด็จฯ ไปถวายดอกไม้ธูปเทียน สมเด็จพระวันรัต (ปลด กิตฺติโสภโณ ป.9) พระอนุศาสนาจารย์ ที่วัดเบญจมบพิตร
    สมเด็จฯ ถวายหนังสือ
    วันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2499

    [​IMG]
    ทรงรับอัฏฐบริขารของ พณฯ ประธานาธิบดีแห่งประเทศพม่า ที่ตำหนักเพชร วัดบวรนิเวศวิหาร
    วันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2499

    [​IMG]
    ทรงฉายพระรูปพร้อมด้วยพระเถรานุเถระทุกคณะ ที่ตำหนักเพชร วัดบวรนิเวศวิหาร
    วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2499

    [​IMG]
    เสด็จฯ ทรงอุทิศพระราชกุศลถวายสมเด็จพระราชบิดา ณ อนุสสรณี รังษีวัฒนา วัดราชบพิธ
    วันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2499

    [​IMG]
    จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีและภรรยา เฝ้าฯ ถวายดอกไม้ธูปเทียน ที่ตำหนักเพชร วัดบวรนิเวศวิหาร
    วันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2499

    [​IMG]
    ชาวอินเดียเฝ้าที่วัดบวรนิเวศวิหาร

    [​IMG]
    เสด็จพระราชดำเนินไปถวายสักการะพระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม
    เสด็จสักการะพระร่วงโรจนฤทธิ์แล้ว เสด็จฯ เข้าพระวิหารถวายสักการะพระบรมสารีริกธาตุ
    ทำวัตรแล้ว เสด็จฯ กระทำประทักษิณพระเจดีย์รอบบน (รอบละ 300 เมตร) 1 รอบ
    วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499

    [​IMG]
    ทรงสดับพระปาฏิโมกข์ ในพระอุโบสถ วัดบวรนิเวศวิหาร
    วันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499

    [​IMG]
    ทรงทูลลาสมเด็จพระราชอุปัธยาจารย์ บนตำหนักบัญจบเบญจมา
    วันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499

    [​IMG]
    ทรงเฝ้าสมเด็จพระราชอุปัธยาจารย์ บนตำหนักบัญจบเบญจมา
    วันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499

    [​IMG][​IMG]
    เสด็จฯ ออกบิณฑบาตรในถนนหลวง โดยไม่มีหมายกำหนดการ
    วันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499

    [​IMG]
    อาหารที่ทรงรับบิณฑบาตรวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499 มีเครื่องในไก่ผัดขิง 1 ห่อ ผัดถั่วฝักยาว 1 ห่อ กุนเชียงผัดหอมใหญ่กับหมู เนื้อทอด ปลาสลิดเค็มทอด ปลาทูทอด รวมอาหารคาว 7 ห่อ ของหวาน ขนมครก ถั่วแปบ ขนมบ้าบิ่น ส้มเขียวหวาน กล้วยหอม กล้วยไข่ โรตี เค็ก ขนมปังปิ้งทาเนย รวม 9 อย่าง

    [​IMG]
    ประทับในพระตำหนักปั้นหย่า วัดบวรนิเวศวิหาร โปรดเกล้าฯ ให้ฉายพระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมด้วยเครื่องบริขาร
    วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499

    [​IMG]
    บนพระปั้นหย่า วัดบวรนิเวศวิหาร
    วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499

    [​IMG]
    ทรงปลูกต้นสักข้างพระปั้นหย่า
    วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499

    [​IMG]
    ในการทรงลาผนวช
    วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499

    [​IMG]
    ทรงแถลงการลาผนวช ตำหนักเพชร วัดบวรนิเวศวิหาร
    วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499

    [​IMG]
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูหัวเสด็จพระราชดำเนินไปยังตำหนักบัญจบเบญจมา ทูลลาสมเด็จฯ พระราชอุปัธยาจารย์
    สมเด็จฯ ถวายสรงน้ำพระพุทธมนต์ ถวายพระพร

    [​IMG]
    บนที่ประทับตำหนักทรงพรต วัดบวรนิเวศวิหาร ภายหลังทรงลาผนวชแล้ว
    วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499

    [​IMG]
    พระที่นั่งอัมพรสถาน
    วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2499

    ก่อนหน้าพระราชพิธีทรงผนวชเพียงวันเดียว คือวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2499 อาการประชวรของสมเด็จพระสังฆราชเจ้าทรุดหนักลงอย่างน่าวิตก มีพระอาการไข้สูงจนถึงไม่รู้สึกพระองค์ ปรอทขึ้นถึง 40 องศาเซลเซียสเศษ เป็นที่กังวลห่วงใยกันทั่วไปว่าจะไม่สามารถเสด็จไปทรงปฏิบัติหน้าที่พระราชอุปัธยาจารย์ในวันรุ่งขึ้น ครั้นถึงวันทรงผนวช สมเด็จพระสังฆราชเจ้ากลับทรงฟื้นขึ้นเป็นปรกติอย่างน่าอัศจรรย์ และเสด็จไปทรงปฏิบัติหน้าที่พระราชอุปัธยาจารย์ได้ครบถ้วน แม้ว่าพระองค์จะต้องประทับอยู่ในพระราชพิธี ตั้งแต่เวลา 14:30 น. จนกระทั่งถึงเวลา 19:30 น. จึงเสด็จกลับถึงวัดบวรนิเวศวิหารพร้อมด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฝ่ามหาชนซึ่งแวดล้อมแน่นขนัดมาได้โดยเรียบร้อย รวมเป็นเวลาถึงห้าชั่วโมงก็ตาม ก็มิได้ทรงมีพระอาการผิดปรกติแต่อย่างใด แสดงให้เห็นถึงพระทัยอันเด็ดเดี่ยวเข้มแข็งของพระองค์ในอันที่จะทรงปฏิบัติพระกรณียะอันสำคัญนี้ให้สำเร็จลุล่วงไปให้จงได้ ทั้งนับได้ว่า เป็นพระบุญญาภินิหารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยแท้

    ขณะประทับรถยนต์พระที่นั่งกับพระภิกษุพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจากพระบรมมหาราชวังถึงวัดบวรนิเวศวิหาร ได้มีการจัดรถหมอให้แล่นตามหลังรถพระที่นั่งและให้คอยสังเกตองค์สมเด็จพระสังฆราชเจ้า ถ้าเห็นพระเศียรฟุบก็ให้รีบเข้าไปแก้ไขทันที และครั้งหนึ่งได้เห็นพระเศียรฟุบลง รถหมอจะแทรกเข้าไปอยู่แล้ว ก็พอดีเห็นเงยพระเศียรขึ้นเป็นปกติเลยไม่เกิดอลหม่าน ทราบกันภายหลังว่า ทรงก้มลงหยิบอะไรบางอย่างที่ตกลงไป

    [​IMG]

    เนื่องในการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกทรงผนวชครั้งนี้ ได้ทรงพระอนุสรณ์คำนึงถึงพระคุณูปการอันอเนกของสมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ พระสังฆราช ผู้ได้ทรงปฏิบัติหน้าที่พระราชอุปัธยาจารย์ ทั้ง ๆ ที่มีพระอาการประชวรทุพพลภาพ ได้เอาพระทัยใส่ในอันที่จะถวายความรู้ทางพุทธศาสนาและถวายโอกาสให้ได้ทรงปฏิบัติสมณกิจให้ได้ผลเต็มตามภิกขุภาวะเป็นนานับปการ จึงได้มีพระบรมราชโองการดำรัสเหนือเกล้าฯ ให้ตั้งการพระราชพิธีสถาปนาพระอิสริยศ ขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ขึ้น ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2499

    ในโอกาสเดียวกันนี้ ยังมีพระเถรานุเถระที่ได้ปฏิบัติการสนองพระเดชพระคุณเป็นพิเศษ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา คือ

    [​IMG]
    สมเด็จพระวันรัต (ปลด กิตฺติโสภโณ) สังฆนายก เจ้าอาวาสวัดเบญจมบพิตร พระอนุศาสนาจารย์ ดำรงสมณศักดิ์สุดขีดอยู่แล้ว ต่อมาเมื่อวันพระราชพิธีฉัตรมงคล 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2503 ได้รับพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์ขึ้นดำรงตำแหน่งสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 14 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

    [​IMG]

    พระศาสนโศภน (จวน อุฏฐายี) เจ้าอาวาสวัดมกุฏกษัตริยาราม พระกรรมวาจาจารย์ โปรดให้เป็น สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ต่อมาในวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2508 ได้รับพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์ขึ้นดำรงตำแหน่งสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 16 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

    [​IMG]

    พระพรหมมุนี วัดบวรนิเวศวิหาร ทำหน้าที่รับเสด็จดูแลแทนเจ้าอาวาสเป็นครั้งคราวที่เจ้าอาวาสประชวร แต่ดำรงสมณศักดิ์สูงอยู่แล้ว

    [​IMG]

    พระโศภณคณาภรณ์ (เจริญ สุวฑฺฒโน ป.9) วัดบวรนิเวศวิหาร พระพี่เลี้ยงฉลองพระเดชพระคุณใกล้ชิดตลอดเวลา เป็นพระธรรมวราภรณ์ พระราชาคณะชั้นธรรม ต่อมาในปี พ.ศ. 2515 ได้รับพระราชทานสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะที่ สมเด็จพระญาณสังวร และในวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2532 ทรงได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ สถาปนาเป็น สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก คือสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ปัจจุบัน นับเป็นพระองค์ที่ 19 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

    ส่วนพระราชาคณะในวัดบวรนิเวศวิหารรูปอื่น ๆ ก็ได้มีหน้าที่ถวายการสั่งสอนหรือสนองพระเดชพระคุณใกล้ชิดอย่างอื่น ๆ อีก ทุกรูปที่มีทางเลื่อนสมณศักดิ์ได้ก็โปรดพระราชทานเลื่อนขึ้นเป็นพิเศษในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาศก 2499 แล้วเหมือนกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ธันวาคม 2010
  2. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    *
    [​IMG]
    เว็บทางนิพพาน เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น<O:p
    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน<O:p
    ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่
    www.tangnipparn.com
    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p>ขอเชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญเว็บศูนย์พุทธศรัทธา </O:p>
    *
    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...