มาม่าเกลี้ยง น้ำดื่มขาด มีเงินก็ซื้อไม่ได้ยามเกิดภัยพิบัติ (อัพเดทที่หน้า 2)

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย karan20, 16 ตุลาคม 2011.

  1. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    น้ำสูง 2 - 5 เมตร
    สำหรับคนที่ไม่พร้อมจะอพยพ...
    ไม่ได้เตรียมเสบียงล่วงหน้า...
    มีเงินสดจำกัด


    ในระหว่างวิกฤต เราเอาอยู่ 'เอากรุงเทพไปอยู่ใต้น้ำ'

    ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน เอาตนรอดจึงมีแรงไปช่วยคนอื่น

    สำหรับคนที่ไม่พร้อมจะอพยพ...เพราะมีความจำเป็น
    เนื่องจากหลายคนไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน
    ตอนนี้หลายคนเหล่านั้นจะพบว่า ของหลายอย่างอยากจะซื้อ
    แต่ก็ซื้อไม่ได้ ถึงแม้จะมีเงินก็ตาม
    บางคนก็ตกอยู่ในภาวะขาดสภาพคล่อง ขาดเงินสด

    สมมติว่าเหตุการณ์เลวร้าย
    เราคาดการณ์ว่าการช่วยเหลือ เช่นการแจกอาหารจะไม่ทั่วถึง
    อาหารอาจขาดแคลนเป็นเวลา 1-2 เดือน

    จะทำอย่างไรดี ถ้าเตรียมเสบียงอาหารไม่ทัน
    เพราะแย่งซื้อไม่ทันหรือเพราะเง<wbr>ินสดมีจำกัด

    ด้วยงบประมาณที่จำกัดและสินค้าหลายอย่างขาดตลาด
    อย่างน้อยที่สุดให้เตรียมดังนี้... (แต่ไม่ได้แปลว่าให้เตรียมเท่านี้)

    1.เตร<wbr>ียมข้าวสาร 5 - 15 กก. / 1 คน
    2.ภาชนะสำหรับต้มน้ำท่วมให้เป็นน้<wbr>ำดื่ม
    3. ผ้าขาวบางหรือผ้าเนื้อบางสำหรับ<wbr>กรองน้ำก่อนนำไปต้ม
    4.น้ำมันพืชจำนวนมาก สำหรับทำตะเกียงและเป็นเตาใช้ต้ม<wbr>น้ำและหุงข้าว (ศึกษาวิธีการทำด้วย)
    5.ไฟแช็ค
    6. กับข้าว ถ้าเตรียมหาไม่ทัน<wbr>จริง ๆ ก็เตรียมน้ำปลา ซีอิ้ว เอาไว้คลุกกับข้าว
    7. เกลือ สำหรับทำน้ำเกลือกรณีท้องร่วง และใช้ถนอนอาหารสด กรณีที่ช่วงแรก ๆ ยังหาอาหารสดได้บ้าง
    8. น้ำตาล เพราะชีวิตไม่ควรขาดความหวาน แก้โหย แก้เพลีย
    9. เสริมโปรตีนด้วยถั่วเมล็ดแห้ง เช่น ถั่วเขียว เพาะทำถั่วงอกได้ด้วย
    10. ขวดน้ำพลาสติก 8-10 ใบ / 1 คน เพื่อทำเสื้อชูชีพ เผื่อจำเป็นต้องออกไปซื้อเสบียงหรือรับของแจก
    11. อุปกรณ์ทำความสะอาดและเก็บเศษอาหาร และการขับถ่าย ได้แก่กระดาษทิชชู่ ถุงดำ ถุงขยะ

    ทั้งหมดให้ห่ือถุงพลาสติกกันน้ำ<wbr>ไว้
    ถ้าเป็นไปได้เตรียมไว้ที่บ้าน 1 ชุด และอาจเพิ่มที่ทำงานอีก 1 ชุด
    เพราะไม่รู้ว่าเมื่อน้ำมาถึง เราจะติดค้างอยู่ที่ไหน


    ของพวกนี้ถึงน้ำไม่ท่วม ก็ยังได้ใช้
    ของอื่น ๆ ควรเตรียมไว้ด้วย แต่ไม่ขอแจกแจงซ้ำซ้อน
    เพราะท่านอื่น ๆ ได้ชี้แจงไว้แล้ว


    สำหรับท่านที่อพยพ หรือเตรียมจะอพยพ
    หรือในอนาคตจะต้องอพยพไปอยู่ตามศูนย์อพยพต่าง ๆ ที่รัฐจัดขึ้น
    หากท่านพักฟื้นคืนกำลังกาย คืนกำลังใจแล้ว
    อย่าลืมมาเป็นอาสาสมัครช่วยผู้อื่นต่อไปนะครับ


    เพิ่มเติม...

    สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับท่านที่ไม่สามารถอพยพจากกรุงเทพได้ คือ

    1. เตรียมขวดพลาสติกเปล่าพกใส่เป้ไว้ 8 - 10 ใบ
    เพื่อดัดแปลงเป็นเสื้อชูชีพแบบฉุกเฉิน

    2. ที่สูงเผื่อกรณีน้ำท่วมสูงประมาณ 5 เมตร
    สถานที่พักของท่านควรมีความสูงมากกว่าบ้าน 1 ชั้น
    แม้แต่บ้าน 2 ชั้นก็ยังมีความเสี่ยง
    ทางที่ดีคือตึกแถว 3 ชั้น หรือคอนโดตั้งแต่ชั้นที่ 3 ขึ้นไป
    แต่ไม่ควรสูงมากเกินไปเพราะลิฟท์อาจใช้งานไม่ได้


    ข่าวเพิ่มเติมจากพระอาจารย์

    พระอาจารย์บอกว่า น้ำจะเข้ากทม.เห็นชัดๆ ประมาณวันที่ 25 ตุลาคม
    และสูงมากๆ 28-29 ตุลาคม

    น้ำเหนือ จะมาประมาณ 2 เมตร
    น้ำทะเลหนุน เพิ่มมาอีกอาจถึง 5 เมตร


    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td style="border: 1px inset;" class="alt2">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Falkman [​IMG][/SIZE]

    ข้อมูลที่ทราบมาคือ

    --------------------------------------------------------------------

    วัน วันที่ 18 มิถุนายน 2554 (ท่านให้ระวังตั้งแต่ 16 มิถุนายน)
    เวลา เริ่มเที่ยงคืน - ตีสาม
    เหตุการณ์
    1. ท้องฟ้าสีแดง
    2. มีพายุเข้า
    3. ตึกสูงทรุดตัว
    4. น้ำมาจากทุกทิศ
    5. อุตรดิตถ์
    สถานที่ กรุงเทพและปริมลฑล (ต่างจังหวัดไม่ทราบเพราะไม่ได้ถาม)

    --------------------------------------------------------------------


    [FONT=&quot]วันที่ 23 เมษายน 2554[/FONT]

    [FONT=&quot]ข้อความต่อไปนี้ผู้เขียนได้รับต่อมาอีกทีจาก [/FONT][FONT=&quot]‘ท่านผู้เตือน’ [/FONT]
    [FONT=&quot]ข้อความดังกล่าวได้รับการเปลี่ยนแปลงบ้างเล็กน้อย เช่น คำสรรพนามที่ใช้เรียกแทนตัว [/FONT]
    [FONT=&quot]ข้อความบางอันที่ไม่เกี่ยวข้องกับคนส่วนใหญ่เพราะเป็นเรื่องที่เตือนเฉพาะบุคคลก็ได้ถูกตัดออกด้วย[/FONT]

    [FONT=&quot]ข้อความมีดังนี้[/FONT]

    ----------------------------------------------------------------------------------

    [FONT=&quot]ภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้จะเกิดบนแผ่นดินไทยใจกลางกรุง [/FONT]
    [FONT=&quot]มนุษย์ทุกวันนี้อยู่ด้วยความประมาท มิสนใจทำความดีกัน [/FONT]
    [FONT=&quot]ความดีไม่ทำยังทำความชั่วอีก ถ้ายังมีสติจงรีบแก้ไข[/FONT]

    [FONT=&quot]การเตรียมตัวก่อนภัยจะมาถึงตัว จงตั้งหมั่นอยู่ในความดี คิดดี ด้วยจิตใจ [/FONT]
    [FONT=&quot]อย่าทำเพียงให้ตนรอด การทำเช่นนั้นจะยิ่งไม่มีประโยชน์ [/FONT]
    [FONT=&quot]ก่อนภัยจะมาถึง จะมีพายุเข้า ฝนจะตกหนัก ลมจะแรงมาก [/FONT]
    [FONT=&quot]ฟ้าจะร้องติดต่อกันเป็นเวลานานหลายวัน บ้านเรือนจะพังด้วยรับความรุนแรงไม่ไหว [/FONT]
    [FONT=&quot]น้ำจะตีเข้ากรุงเทพทุกทิศ ผู้คนมากมายไม่ทันตั้งตัว จึงมีผู้เสียชีวิตทันทีมากมาย [/FONT]
    [FONT=&quot]ฟ้าที่ดังกึกก้องมีความรุนแรงจนทำให้แก้วหูเราแตกในทันที [/FONT]
    [FONT=&quot]ความรุนแรงทำให้ตึกสูงทรุดตัวเข้าทับกันเป็นจำนวนมาก [/FONT]
    [FONT=&quot]ถนนสีลมจะมีความรุนแรงมาก จะมีแผ่นดินไหวที่นั้นด้วย[/FONT]

    [FONT=&quot]ผู้มีบุญจงรวมตัวกัน จงช่วยกัน [/FONT]
    [FONT=&quot]ถ้าทุกคนมีความคิดที่จะให้ความช่วยเหลือกัน ไม่เห็นแก่ตัว จะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง [/FONT]
    [FONT=&quot]จงอยู่รวมกันโดยใช้สติ ให้ทุกคนนั่งสมาธิ ทำจิตให้นิ่ง คิดถึงคุณพระศรีอาริยะเมตไตรย์ [/FONT]
    [FONT=&quot]ขอบารมีพระองค์ทรงคุ้มครองและส่งบุญบารมีให้มนุษย์ผู้อื่นด้วย [/FONT]
    [FONT=&quot]ขอบุญบารมีจงถึงมนุษย์ผู้กำลังตกอยู่ในภัยพิบัติ ขอจงรอดพ้นจากภัยพิบัติเทอญ[/FONT]

    [FONT=&quot]ก่อนวันที่น้ำจะเข้ากรุงเทพสองวัน จะมีฝนตกหนัก [/FONT]
    [FONT=&quot]จนบางคนไม่สามารถจะออกไปทำงานได้ แต่ผู้ที่ห่วงงานก็จะไปทำงาน [/FONT]
    [FONT=&quot]จงระวังตัวให้มากโดยเฉพาะถนนสีลมจะมีปัญหามาก จงใช้ทางอื่น [/FONT]
    [FONT=&quot]สองวันนี้จงอย่านำรถไป มีอันตรายมากเดี๋ยวจะเป็นห่วงรถ [/FONT]

    [FONT=&quot]วันนั้นในบางสถานที่จะมีการรวมตัวกัน แต่คืนนั้นคนบางส่วนจะไม่กล้าหลับเพราะความกลัว [/FONT]
    [FONT=&quot]จงมีสติ จงเตรียมตัวให้พร้อม ข้าวปลาอาหารน้ำดื่ม [/FONT]
    [FONT=&quot]ในบางสถานที่แม้น้ำจะมากแต่ก็ไม่รุนแรง แต่เสียงของฟ้าจะดังมากจนหูแทบแตก [/FONT]
    [FONT=&quot]จงหาอะไรอุดหูไว้พอจะช่วยได้ [/FONT]
    [FONT=&quot]ความแรงของน้ำในบางสถานที่จะรุนแรงมาก [/FONT]

    [FONT=&quot]จะทำอะไรก็รีบทำเดี๋ยวจะไม่ทัน[/FONT]




    - จบข้อความ -




    ----------------------------------------------------------------------------------

    ข้อสังเกตและความเห็นจากผู้เขียน

    1. " วันที่ควรต้องระวัง 16 - 18 มิถุนายน 2554 จุดสังเกตก่อนวันที่น้ำจะเข้ากรุงเทพ 2 วัน จะมีฝนตกหนัก
    ระวังตัวให้มากโดยเฉพาะถนนสีลมจะมีปัญหามาก จงใช้ทางอื่น 2 วันนี้จงอย่านำรถไป"
    คงหมายถึง รถยนต์ส่วนตัว จะมีอันตรายมากเดี๋ยวจะเป็นห่วงรถ
    ใครที่มีรถส่วนตัวต้องเช็คเรื่องประกันรถที่ตัวเองมีอยู่นะครับว่าครอบคลุมถึงภัยจากน้ำท่วมหรือภัยพิบัติหรือไม่

    2. "ในบางที่แม้น้ำจะมากแต่ก็ไม่รุนแรง แต่เสียงของฟ้าจะดังมากจนหูแทบแตก จงหาอะไรอุดหูไว้พอจะช่วยได้"
    คงต้องหาทีี่อุดหูเตรียมไว้ใกล้ ๆ มือ อย่าเก็บไว้ลึกลับมากเดี๋ยวหาไม่เจอ หยิบไม่ทัน

    3. "อย่าทำเพียงให้ตนรอด การทำเช่นนั้นจะยิ่งไม่มีประโยชน์"
    "ผู้มีบุญจงรวมตัวกัน จงช่วยกัน ถ้าทุกคนมีความคิดที่จะให้ความช่วยเหลือกันไม่เห็นแก่ตัวจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง
    จงอยู่รวมกันโดยใช้สติ ให้ทุกคนนั่งสมาธิ ทำจิตให้นิ่งคิดถึงคุณพระศรีอาริยะเมตไตรย์
    ขอบารมีพระองค์ทรงคุ้มครองและส่งบุญบารมีให้มนุษย์ผู้อื่นด้วย
    ขอบุญบารมีจงถึงมนุษย์ผู้กำลังตกอยู่ในภัยพิบัติ ขอจงรอดพ้นจากภัยพิบัติเทอญ"
    ต้องพยามเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อที่จะไม่เป็นภาระ และพร้อมที่จะช่วยเหลือผู้ที่ไม่เตรียมพร้อม
    ถ้าเป็นไปได้ควรเตรียมอาหารน้ำดื่ม ชูชีพ ที่อุดหูและอื่น ๆ สำหรับเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นด้วย

    4. "ก่อนภัยจะมาถึง จะมีพายุเข้า ฝนจะตกหนัก ลมจะแรงมาก ฟ้าจะร้องติดต่อกันเป็นเวลานานหลายวัน"
    ถ้าวันที่ 16 - 17 มิถุนายน 2554 มีอะไรแปลก ๆ ดูท่าทางไม่ดี ให้ยึดหลักว่าไม่ประมาทและปลอดภัยไว้ก่อน น่าจะดีที่สุดนะครับ
    ควรเร่งสร้างความดีเผื่อว่าวันที่ 18 มิถุนายน 2554 จะเป็นวันสุดท้ายของบางคน

    5. [FONT=&quot]"จงอยู่รวมกันโดยใช้สติ ให้ทุกคนนั่งสมาธิ ทำจิตให้นิ่งคิดถึงคุณพระศรีอาริยะเมตไตรย์ [/FONT]
    [FONT=&quot]ขอบารมีพระองค์ทรงคุ้มครองและส่งบุญบารมีให้มนุษย์ผู้อื่นด้วย ขอบุญบารมีจงถึงมนุษย์ผู้กำลังตกอยู่ในภัยพิบัติ [/FONT]
    [FONT=&quot]ขอจงรอดพ้นจากภัยพิบัติเทอญ[/FONT]" อย่าเห็นแก่ตัว จงมีสติ
    มีคำยืนจากท่านผู้เตือนว่ายังไม่ใช่ภัยพิบัติใหญ่ครั้งสุดท้ายนะครับ ยังจะมีตามมาอีก
    ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะจบสิ้นหรือโลกจะแตก เป็นภัยพิบัติอีกครั้งหนึ่งที่มีความเสียหายมาก มีคนตายมาก


    เขียนเมื่อ 25 เมษายน 2554


    [FONT=&quot]ข้อความต่อไปนี้ผู้เขียนได้รับต่อมาอีกทีจาก [/FONT][FONT=&quot]‘ท่านผู้เตือน’ [/FONT]
    [FONT=&quot]ข้อความดังกล่าวได้รับการเปลี่ยนแปลงบ้างเล็กน้อย เช่น คำสรรพนามที่ใช้เรียกแทนตัว และอื่น ๆ แต่เนื้อหาใจความสำคัญยังคงอยู่[/FONT]
    [FONT=&quot]ข้อความบางอันที่ไม่เกี่ยวข้องกับคนส่วนใหญ่เพราะเป็นเรื่องที่เตือนเฉพาะบุคคลก็ได้ถูกตัดออกด้วย[/FONT]

    ข้อความบางส่วนอาจซ้ำซ้อนกัน เพราะเป็นการกล่าวในต่างวาระกัน
    แต่ผู้เขียนนำมารวมไว้ที่เดียวกัน โดยเปลี่ยนแปลงถ้อยคำต่าง ๆ ให้น้อยที่สุด

    [FONT=&quot]ข้อความมีดังนี้[/FONT]

    ----------------------------------------------------------------------------------

    [FONT=&quot]วันที่เกิดภัยพิบัติ วันนั้นท้องฟ้าจะเป็นสีแดงดังเลือด [/FONT]
    [FONT=&quot]ลมก็จะแรง แรงมากจนบ้านเรือนพัง ทุกคนจะอยู่ในที่ของตัวเอง[/FONT]
    [FONT=&quot]ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น จงมีสติ วันนั้นจะมีคนเสียขวัญมากมาย [/FONT]
    [FONT=&quot]คนมีสติจงเป็นกำลังใจให้คนอื่น ๆ ผู้เป็นผู้นำอย่าเสียใจให้คนอื่นเห็น พวกที่รอดจะได้เอาเป็นแบบอย่าง [/FONT]
    [FONT=&quot]หลังท้องฟ้าเปิดทุกสิ่งจะเปลี่ยนหมด ความดีจะปรากฎ [/FONT]
    [FONT=&quot]จงเตรียมพร้อม เวลาที่เกิดเป็นเวลากลางคืน ของวันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน 2554 เวลาตี 3 [/FONT]

    [FONT=&quot]วันนั้นจะเกิดลมพายุตีเข้ามาอย่างแรงทุกทิศทุกทางของจังหวัดอุตรดิษถ์ [/FONT]
    [FONT=&quot]ตีขึ้นมาจนถึงกรุงเทพ หลังจากนั้น 3 วันน้ำจะเริ่มลด [/FONT]
    [FONT=&quot]มีความสูญเสียของมนุษย์ ผู้คนบาดเจ็บล้มตายมากมาย[/FONT]

    [FONT=&quot]นับจากวันนี้จงเตรียมพร้อมรับกับภัยพิบัติเพราะมันอาจมาเร็วกว่านั้น [/FONT]
    [FONT=&quot]วันที่เกิดนั้นท้องฟ้าจะเปลี่ยนสีและจะมีลมแรงตลอดเวลา [/FONT]
    [FONT=&quot]ท้องฟ้าแดงดังสีเลือด ฝนจะตกหนักติดต่อกัน บ้านเรือนจะเริ่มพัง [/FONT]
    [FONT=&quot]น้ำจะเริ่มเข้ามาจนทำให้น้ำท่วมเต็มถนนหนทาง จะได้เห็นถึงการเปลี่ยนของท้องฟ้า [/FONT]
    [FONT=&quot]หลังจากนั้นรอบตัวของผู้ที่รอดจะมีแต่น้ำและผู้ที่บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิตมากมาย [/FONT]
    [FONT=&quot]พอน้ำเริ่มลดถนนหนทางที่ขาดอันเนื่องจากภัยพิบัติกว่าจะกลับมาใช้งานได้ดังเดิมก็หลายวัน [/FONT]
    [FONT=&quot]หลายคนที่รอดไม่สามารถไปทำงานได้เพราะสถานที่มีความเสียหาย [/FONT]

    [FONT=&quot]ในวันนั้นบางคนอาจกำลังเดินทาง ออกไปทำธุระข้างนอก [/FONT]
    [FONT=&quot]เมื่อมีลมพายุฝนก็อาจเสียหายทั้งรถทั้งคน[/FONT]
    [FONT=&quot]ตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายนเป็นต้นไปถนนอาจจะเริ่มขาดเสียหายแล้วบางส่วน[/FONT]

    [FONT=&quot]วันที่จะเกิดภัยพิบัตินั้นเป็นวันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน ตอนเที่ยงคืน [/FONT]

    [FONT=&quot]คืนนั้นจะมีบางสิ่งเข้ามา มันอาจเป็นสิ่งที่มนุษย์คิดไม่ถึงว่าจะเป็นไปได้เลยทีเดียว [/FONT]
    [FONT=&quot]คืนนั้นจะมีน้ำตีเข้ามาจากทางเหนือ เข้าด้วยความเร็วสูง [/FONT]
    [FONT=&quot]ถึงจะมีการเตรียมการอย่างไรก็ยังมีการสูญเสีย[/FONT]
    [FONT=&quot]ความแรงของน้ำจะนำเอาบ้านเรือนติดตามมาด้วย [/FONT]
    [FONT=&quot]ความเสียหายจะมากมายทั้งทรัพย์สินเงินทองและชีวิต [/FONT]
    [FONT=&quot]ถนนหนทางจะพังพินาศ แถวสีลมจะมีการทรุดตัวของตึกสูง พื้นแผ่นดินจะมีการขยับตัว [/FONT]
    [FONT=&quot]ถ้ามีตึกหนึ่งเท อีกตึกหนึ่งก็พากันล้มตามกันเป็นแถว [/FONT]
    [FONT=&quot]ลมนั้นจะเรียกว่าพายุก็ได้ ถนนเส้นสาทรก็มีผลเช่นกัน [/FONT]
    [FONT=&quot]สองฝั่งถนนจะมีแต่ผู้คนหนีตายทั้งน้ำทั้งลมรวมถึงฟ้า [/FONT]
    [FONT=&quot]ถ้าใครอยู่ในเหตุการณ์จะต้องคิดว่าตนต้องตายแน่นอน[/FONT]
    [FONT=&quot]ผู้ที่กลัวขอให้ตั้งสติ ขอพึ่งบารมีคุณพระศรีอาริยเมตไตรย์[/FONT]

    [FONT=&quot]ฝนฟ้าจะเปลี่ยนกันเป็นระยะ เช่นวันนี้ร้อนจัด อีกวันฝนตกหนัก อีกวันหนาวจัด [/FONT]
    [FONT=&quot]ถ้าเป็นแบบนี้ เตรียมได้เลย เกิดภัยพิบัติแน่ ๆ [/FONT]
    [FONT=&quot]ก่อนหน้าที่จะเกิดภัยพิบัตินั้นจะมีฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลานานหลายวัน จนน้ำในกรุงเทพเริ่มท่วมตามถนน [/FONT]

    [FONT=&quot]วันที่ 5 พ.ค. จะยังไม่เกิด แต่อาจมีพายุเข้าเท่านั้น[/FONT]

    [FONT=&quot]ไม่ว่าจะเห็นหรือได้ยินอะไรจงมีสติและระลึกถึงพระศรีอาริยเมตไตรย์ [/FONT]

    ----------------------------------------------------------------------------------


    ถ้าท่านสังเกต จะพบว่าในปฏิทินวันที่ 18 มิถุนายน ไม่ใช่วันอาทิตย์
    เรื่องนี้ผู้เขียนจะเข้ามาอธิบายอีกที อาจเป็นวันนี้ตอนเย็นหรืออาจเป็นวันพรุ่งนี้



    [FONT=&quot]ท่านย้ำว่า [/FONT][FONT=&quot]วันอาทิตย์ที่ 18 มิถุนายน ตอนเที่ยงคืน [/FONT]
    [FONT=&quot]แต่ดูตามปฏิทินวันที่ 18 เป็นวันเสาร์[/FONT]

    [FONT=&quot]เราคาดว่าตามความหมายของท่านนั้น ท่านหมายถึง [/FONT]
    [FONT=&quot]เที่ยงคืนของวันที่ 18 ซึ่งเป็นช่วงรอยต่อที่เปลี่ยนจากวันเสาร์เข้าไปสู่วันอาทิตย์[/FONT]
    [FONT=&quot](ไม่ใช่เที่ยงคืนที่เป็นรอยต่อจากวันศุกร์เปลี่ยนไปเป็นวันเสาร์)[/FONT]




    </td></tr></tbody></table>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2011
  2. somemaybe

    somemaybe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2009
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +143
    "แต่เสียงของฟ้าจะดังมากจนหูแทบแตก"

    ถ้าเมื่อก่อนฟังคงนึกหัวเราะ หลังๆมานี่เสียงฟ้าร้องที่บ้านดังมาก
    ดังมากจริงๆ และมีเสียงร้องน่ากลัวมาให้ได้ยินบ่อย ตั้งแต่ปีก่อน
    สองวันมานี่ ก็เริ่มเป็นอีก
    บางทีร้องครางมาแต่ละที บ้านตึกที่สร้างอย่้างแข็งแรง
    ลงเสาอย่างแน่นหนา
    ตัวบ้านมีแรงสั่นให้เห็นอย่างชัดเจนเลยทีเดียว

    ถ้ามีภัยทำให้วิบัติเกิดจากฟ้าโผล่มาด้วย ก็คงน่ากลัวพิลึกเชียว
    แค่เสียงก็ทำเอาบ้านจะพังได้แล้ว
     
  3. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ อริยะบุญ [​IMG]
    สงคราม ยึดเมือง....
    ไล่ตีหัวเมืองทางเหนือ แตกตายไปทุกหย่อมหน้า กลืนกินสรรพสิ่ง เมื่อหัวเมืองทางเหนือแตก มิสามารถส่งกำลังหนุนมาช่วยเมือ<wbr>งก รุงได้เป็นการตัดกำลังไปโดยปริยาย เมื่อยึดหัวเมืองทางเหนือเรียบร้อย ก็ส่งทัพหน้ามาก่อนเพื่อไล่ตีต้อนหัวเมืองๆเล็กๆ เก็บสะสมสะเบียงเรื่อยลงมา จนเข้ายึดอโยธยาหัวเมืองเอกสำคั<wbr>ญ เมื่อเข้าประชิดเมืองและยึดเมือ<wbr>งได้ก็กวาดต้อนผู้คนคนให้กระจัด<wbr>กระจาย ออกไป ไม่ให้มาช่วยเหลือกันเดือดร้อนกันทุกหย่อมหญ้า ครั้นเมื่อเข้าประชิดเมืองกรุงก็แบ่งทัพออกเป็นสอง เพื่อเข้าตีหัวเมืองฝั่งตะวันออ<wbr>ก และหัวเมืองฝั่งตะวันตก โดยมีทัพใหญ่ที่นำกำลังมาหนุนเส<wbr>ริมอีกไม่ช้า ปิดโอบล้อมเมืองกรุง ตัดเส้นทางหนี ตีโอบด้านหลังด้วยทัพมหาสมุทร กองกำลังทางอากาศก็ไม่น้อยหน้าเ<wbr>ข้าโจมตีแล้ววันแล้ววันเล่า... ใกล้แล้วซินะที่กรุงจะแตก

    PS.มันเหมือนยุทธศาสตร์ทางทหารที่เราเคยได้ยินในหน้าประวัติศาสตร์...แปลก

    </td> </tr> </tbody></table>


    สถานการณ์แบบนี้นึกถึงตอนข้าศึกล้อมกรุงศรีอยุธยา
    ผู้คนบางส่วนเชื่อมั่นว่ากำแพงเมืองจะแข็งแรงพอหยุดยั้งข้าศึก
    แต่ปรากฎว่า....

    ข้าศึกใช้วิธีขุดทางลับรอดใต้กำแพงเมือง

    เหมือนน้ำที่มุดมาตามท่อระบายน้ำ

    มีการเปิดประตูกำแพงเมืองให้ข้าศึกเข้า

    ด้วยความกลัวข้าศึกบ้าง ความโลภรับสินบนจากข้าศึกบ้าง
    เหมือนที่มีการทำลายผนังหรือคันกั้นน้ำ
    เหตุผลคือกลัวน้ำจะเข้าทำลายบ้านเรือนตัวเองหมด เลยทำลายคันกั้นน้ำให้ไหลไปที่อื่นบ้าง
    หรือจากความโลภว่าจะรับจ้างพายเรือโดยสารได้มากขึ้น ขายของบางอย่างดีขึ้น ได้กำไรมาก

    สมัยนั้นประชาชนในกำแพงพระนคร
    บางส่วนก็ประมาทและมัวเมาเพลิดเพลินกับความบันเทิง
    ท่านผู้นำมั่นใจจริง ๆ ว่าน้ำไม่ท่วมกรุง หรือแค่กลัว 'นางสนมแตกตื่นตกใจ'

    ในคราวนั้น พระเจ้าตากตีฝ่าวงล้อมออกไป
    เพื่อไปรวบรวมกำลังแล้วย้อนกลับมากู้กรุง
    ถ้าในคราวนี้ ถ้าน้ำท่วมกรุง โดยที่ศูนย์อำนวยการต่างๆ กระจุกตัวอยู่ในกรุง
    มีใครคิดตีฝ่าวงล้อมออกไปตั้งศูนย์อำนวยการอยู่ภายนอก เพื่อรอกลับมากู้กรุงบ้างหรือยัง

    ท่านใดมีกำลังทรัพย์ กำลังคน กำลังปัญญา ลองคิดการนี้ไว้บ้างก็คงดี


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2011
  4. yaba150

    yaba150 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    983
    ค่าพลัง:
    +636
    น่ากลัวมากครับ:cool:
     
  5. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    <b><big><big>วิธีป้องกันน้ำไหลย้อนขึ้นมาจากท่อระบายน้ำ</big></big></b>

    นำถุงดำมาใส่น้ำประมาณครึ่งถุง แล้วมัดปากถุงให้แน่นนำไปอุดตามท่อระบายน้ำ
    โดยนำฝาท่อออกก่อน เพื่อให้สามารถอัดถุงดำให้ก้นถุงย้อยลงไปในปากท่อ
    สามารถป้องกันน้ำที่จะขึ้นมาทางท่อได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2011
  6. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    ตอนนี้น้ำดื่มหาซื้อได้ยากมาก
    ถึงเวลาน้ำท่วมใหญ่คงจะยิ่งลำบากกว่านี้

    วิธีทำน้ำท่วมให้เป็นน้ำสะอาดด้วยพลังงานจากแสงอาทิตย์
    ช่วยให้เราได้น้ำกลั่นที่สะอาดที่สุด ปราศจากเชื้อโรคและสารเคมีปนเปื้อน

    ข้อควรระวังคือ แผ่นพลาสติกที่ใช้ควรเป็นเกรดที่ใช้กับอาหาร
    เพื่อที่จะได้ปลอดภัยจากสารเคมีในแผ่นพลาสติก

    [​IMG]


    ข้อมูลจาก Design for Disasters
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ตุลาคม 2011
  7. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    หุงข้าว ต้มมาม่าด้วยพลังแสงอาทิตย์



    แสงแดดก็หุงข้าวได้
    [​IMG]
    ข้าวที่หุงจากเตาแสงอาทิตย์
    [​IMG]




    ในกรณีที่ไฟดับ เชื้อเพลิงที่เตรียมไว้ เช่นแก๊ซและน้ำมันพืชหมด
    เราอาจใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ช่วยปรุงอาหารได้ดังนี้



    แบบที่ 1.


    เตรียมการไว้ล่วงหน้า
    1. เริ่มจากการนำกล่องกระดาษลูกฟูกมาตัด โดยออกแบบเองเลยก็ได้
    รูปทรงตามใจคุณ ควรออกแบบโดยใช้หลักการสะท้อนแสง การดูดกลืนของแสง ฉนวนความร้อน
    การรวมแสงของดวงอาทิตย์มาไว้ที่จุดเดียวกันโดยการนำแผ่นอลูมิเนียมเงามาติดแผ่นรับแสง
    และสะท้อนเข้าไปยังเตาอบแสงอาทิตย์
    เช่นอาจทำผนังเอียงเข้าหากันเล็กน้อย
    หรือทำแผ่นสะท้อนแสงเพิ่มแบบปรับองศาและทิศทางได้
    อาจใช้กระจกเงาช่วยในการสะท้อนแสงด้วย
    2. ทำการติดกระดาษฟอยด์ลงไปด้านในของกล่องเพื่อให้เกิดการสะท้อนแสงไปมาภายในกล่อง
    3. อาจนำหม้อไปพ่นสีดำ เพื่อช่วยให้เพิ่มการดูดความร้อนดียิ่งขึ้น

    เริ่มกระบวนการ
    1. ใส่ข้าวหรือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ใส่น้ำ เพื่อเตรียมหุง
    2. หาถุงพลาสติกใส หรือขาวขุ่นๆ(ใสจะดีกว่า) มาครอบหม้อเอาไว้
    เพื่อให้เกิดสภาวะเรือนกระจก อาจใช้ฝาหม้อหุงข้าวไฟฟ้าบางรุ่นที่เป็นแก้ว
    หรือใช้จานชามที่ทำจากแก้วเป็นฝาครอบก็ได้
    3. รอจนสุกขึ้นอยู่กับความแรงของแดด อาจใช้เวลานาน 1-3 ชั่วโมง
    แต่ไม่เป็นไร เราหุงไว้ล่วงหน้า เราตั้งทิ้งไว้แล้วไปทำอย่างอื่น

    ช่วงเวลาที่อุณหภูมิสูงเหมาะกับการประกอบอาหาร
    คือ 11.00น. –15.00 น. เวลาที่แสงอาทิตย์ร้อนจัด



     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ตุลาคม 2011
  8. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    หุงข้าว ต้มมาม่าด้วยพลังแสงอาทิตย์

    ในกรณีที่ไฟดับ เชื้อเพลิงที่เตรียมไว้ เช่นแก๊ซและน้ำมันพืชหมด
    เราอาจใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ช่วยปรุงอาหารได้ดังนี้

    แบบที่ 2 อ้างอิง
    หม้อหุงข้าวพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องนี้เป็นผลงานคิดค้นของคณะพลังงานและวัสดุ
    มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
    สามารถหุงข้าวได้ 500 กรัม การหุงหนึ่งครั้งสามารถรับประทานได้ 4 คนสบาย ๆ
    ส่วนผสมจะใช้ข้าว 1 ส่วนต่อน้ำ 3 ส่วน
    ผู้หุงเพียงเทส่วนผสมลงในถาดอะลูมิเนียมที่จัดเตรียมไว้แล้วปิดกระจก
    จากนั้นนำไปวางกลางแดด และให้กางแผ่นรับพลังงานแสงอาทิตย์ทำมุม 15 องศา
    (ในแนวทิศตะวันออกและตะวันตก)
    กระจกจะสะท้อนพลังงานความร้อนจากแสงแดดลงสู่ถาดอะลูมิเนียม
    ใช้เวลาประมาณ 1 -2 ชั่วโมง ก็จะได้ข้าวสวยหอมกรุ่นมาทานกันแล้ว
    [FONT=&quot]
    แบบที่ 3 อ้างอิง
    [/FONT]
    เตาแสงอาทิตย์ (solar oven)
    คืออุปกรณ์รวมแสง,รวมความร้อนจากแสง อาทิตย์แล้วส่งผ่านความร้อนนั้นมายังภาชนะทำให้อาหารสุกได้ มีหลากหลายรูปแบบแล้วแต่จะมีการออกแบบกัน แบบที่นำเสนอนี้เป็นแบบที่สร้างขึ้นเองได้ง่ายๆสามารถนำไปใช้ได้จริง

    อุปกรณ์
    -แผ่นพลาสติก ฟิวเจอบอร์ด หรือกระดาษลูกฟูก ขนาด 1×0.50 เมตร
    -อลูมิเนียมฟลอย
    -หม้ออลูมิเนียมพ่นสีด้านนอกให้เป็นสีดำ(ด้าน) ด้านในไม่ต้องพ่น
    -ถุงพลาสติกใสขนาดเอาหม้อลงไปใส่ได้
    -กาวน้ำหรือชนิดไดก็ได้ที่สามารถติดอลูมิเนียมฟลอยกับแผ่นพลาสติก ฟิวเจอร์บอร์ด ได้(ผมใช้แป้งเปียก)

    วิธีทำ
    1.ขยายแบบแล้วคัดลอกลงบนแผ่นพลาสติกฟิวเจอร์บอร์ด
    2.ตัดแผ่นพลาสติกฟิวเจอบอร์ดตามแบบ ใช้สันใบมีดคัตเตอร์กรีดตามรอยเส้นสำหรับพับ
    3.อีกด้านหนึ่ง(ตรงข้ามกับด้านที่กรีดด้วยคัตเตอร์)ทากาวแล้วติดแผ่นอลูมิเนียมฟลอย
    4.พับแผ่นพลาสติกฟิวเจอบอร์ดที่ติดแผ่นอลูมิเนียมฟลอยแล้วตามรูป
    5.ที่ช่องสลอตให้เอาปีกใส่แล้วกลัดด้วยไม้จิ้มฟันหรือตะปูตัวเล็กเพื่อกันหลุด

    การนำไปใช้
    ตัวอย่างการนำไปใช้โดยการหุงข้าว
    -นำข้าวจ้าวมาใส่ในหม้อใส่น้ำให้น้ำท่วมข้าวสูงประมาณ 1ข้อนิ้วชี้(เหมือนหุงข้าวด้วยหม้อไฟฟ้า)
    -ปิดฝาแล้วนำใส่ในถุงพลาสติกใสมัดด้วยหนังยางให้แน่น
    -นำไปวางในแผงรับแสงอาทิตย์โดยให้แผงหันหน้าเข้าหาดวงอาทิตย์
    -รอสักครู่ประมาณ1ชั่วโมงครึ่งถึง2ชั่วโมงขึ้นอยู่กับแสงแดดในวันนั้น ข้าวจะสุก

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2011
  9. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    หุงข้าว ต้มมาม่าด้วยพลังแสงอาทิตย์

    ในกรณีที่ไฟดับ เชื้อเพลิงที่เตรียมไว้ เช่นแก๊ซและน้ำมันพืชหมด
    เราอาจใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ช่วยปรุงอาหารได้ดังนี้



    แบบที่ 4
    อ้างอิง




    <table align="center" bgcolor="#ffffff" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="775"><tbody><tr> <td style="text-align: justify;" valign="top">เตาอบพลังงานแสงอาทิตย์ต้นทุนต่ำ(ไม่เกิน 500 บาท) ทำง่าย ใช้ได้นาน ปลอดสารตกค้าง
    เตา อบพลังงานแสงอาทิตย์ ผลิตจากกล่องโฟม ใช้แทนเตาอบไมโครเวฟ ได้ ในเรื่องของการ ปิ้ง ย่าง ต้ม ปลอดจากรังสีตกค้าง ปลอดภัยด้วยพลังงานธรรมชาติ 100 % จากกระทู้ฮิตของสมาชิกบอร์ด รักบ้านเกิด คนสำคัญ คุณลุงอรรถพล ศิริปุณย์ ผู้นำความรู้นี้มาเผยแพร่และบอกต่อชาวเว็บ rakbankerd.com ซึ่งได้รับความสนใจจนต้องนำมาเผยแพร่และบอกต่อถึงขั้นตอนและวิธีการทำเตาเอา พลังงานแสงอาทิตย์ ที่ทำตามได้ง่ายๆ กับต้นทุนที่แสนต่ำ ตามลำดับขั้นตอนดังนี้</td> </tr> <tr> <td><hr></td> </tr> <tr> <td align="center"> <table cellpadding="5" cellspacing="2" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="50%">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td style="text-align: justify;" valign="top" width="50%">
    ++ วัสดุ - อุปกรณ์ ++ ก็มีไม่มากค่อยๆ ติดตามไปนะครับ

    1. กล่องโฟมหรือลังโฟม ขนาด กว้าง45 ซม. ยาว 60ซม.สูง 30 ซม(พร้อมฝาหรือลังโฟมขนาดใหญ่กว่านี้ก็ได้) สามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไป หากเป็นขนาดดังกล่าวจะราคาใบละไม่เกิน 65 บาท เลือกเอาชนิดเนื้อแน่นๆ

    2. แผ่นพลาสติกหรือกระจกที่มีความหนาประมาณ 2-3 มม. ขนาดกว้างกว่ากล่องโฟมเล็กน้อย (1 แผ่นราคาไม่เกิน 200 บาท)

    3. แผ่นสะท้อนความร้อนชนิดที่มีฟองน้ำด้านหลัง 1 ม้วน ราคาไม่เกิน 150 บาท (1 ม้วนสามารถทำได้ทำได้ 2 เตา)

    4. ปี๊บน้ำมันพืช 1 ลูก ราคา 10 บาท

    5. สีสเปรย์ชนิดสีดำด้าน จำนวน 1 กระป๋อง ราคาประมาณ 40 บาท /กระป๋อง

    6.กระดาษทราย 1 แผ่น

    7. กาวแป้งเปียก

    8. แปรงสีฟันเก่า


    </td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" width="50%">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td style="text-align: justify;" valign="top" width="50%">
    วิธีการทำ :

    1. ล้างทำความสะอาดกล่องโฟมแล้วผึ่งให้แห้ง

    2. นำแผ่นสะท้อนความร้อน(ที่ใช้ติดกระโปรงรถยนต์)ชนิดที่มีฟองด้านหลังมาตัด ให้ได้ขนาดตามความกว้าง * ยาว * ฐาน ของกล่องโฟม รวมทั้งหมด เป็น 5 แผ่น ( 5 ด้าน)

    3. เมื่อกล่องโฟมแห้งสนิทดีแล้วให้นำแผ่นสะท้อนความร้อน มาทากาวแป้งเปียกตามขอบทั้งสี่ด้าน แล้วแปะด้านในกล่องให้ครบทั้ง 5 ด้าน ตามจำนวนแผ่นที่ตัด

    4. หลังเตรียมกล่องโฟม ด้วยการติดแผ่นสะท้อนความร้อนด้านในจนครบทุกด้านแล้ว ให้จัดหาตำแหน่งวางกล่องโฟม โดยการวางกล่องโฟมบนโต๊ะยกพื้น ในตำแหน่งที่ได้รับความร้อนจากแสงแดดได้ตลอดทั้งวัน การสวางกล่องโฟม ควรวางกล่อง(แนวยาว) ตามแนวทิศตะวันออก-ตะวันตก เพื่อจะได้รับแสงแดดได้สม่ำเสมอ ตลอดทั้งวัน และต้องตั้งกล่องให้มีความเอียง ประมาณ15 องศาโดยยกขอบด้านเหนือขึ้น ด้วยการตัดฝากล่องโฟมหนุนตัวกล่องขึ้น เพื่อให้รับแสงได้เต็มที่​
    </td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" width="50%">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td style="text-align: justify;" valign="top" width="50%">
    5. นำปี๊บน้ำมันพืช(สังกะสี)มาผ่าครึ่งตามแนวยาว เก็บขอบให้เรียบร้อย ป้องกันอันตรายจากการเกี่ยว-ข่วน แล้วล้างทำความสะอาด ผึ่งให้แห้ง

    6. เมื่อปี๊บแห้งแล้วให้นำกระดาษทรายมาขัดผิวปี๊บด้านนอก-ด้านใน ทั้ง 2 ซีก ให้เกิดความหยาบ เพื่อให้สีเสปร์ยยึดเกาะพื้นที่ผิวได้ง่าย(ถ้าไม่ขัดสีอาจติดไม่แน่น)

    7. นำสีสเปรย์สีดำด้าน มาพ่นลงบนผิวปี๊บทั้งด้านนอกและด้านในให้ทั่ว โดยเว้นพื้นผิวด้านนอกที่เป็นฐานไม่ต้องฉีด พักทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วพ่นซ้ำอีกครั้งหนึ่ง

    8. หาเศษวัสดุ เช่น ท่อนไม้ แต่ไม่แนะนำให้ใช้อิฐเพราะอิฐจะดูดความร้อนไว้มากเกินไปทำให้สูญเสียความ ร้อนได้ง่ายและต้องไม่ใช้วัสดุที่ไม่ทนความร้อนมาหนุน เพราะจะละลาย)มาหนุน รองปี๊บทั้งสองซีกด้านในกล่อง โดยจัดวางให้มีความเอียงไปตามกล่องโฟม(ตามรูป)

    9. จัดวางสังกระสีทั้ง 2 ซีก ลงในกล่องโฟม (เป็นถาด 2 ใบ)

    10. ปิดฝาด้วยแผ่นกระจกหรือแผ่นพลาสติกใส แล้วใช้งานเตาอบพลังงานแสงอาทิตย์เตามอัธยาศัย)

    </td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" width="50%">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td style="text-align: justify;" valign="top" width="50%">
    ** ข้อแนะนำเพิ่มเติ่มจากลุงอรรถ(ต้นตำหรับเตาอบพลังงานแสงอาทิตย์) ในการใช้งานเตาอบพลังงานแสงอาทิตย์ **

    1. ปี๊บสังกระสี(โลหะ) ที่ตัดครึ่งพ่นสีดำคือหัวใจของเตาอบนี้ เพราะเมื่อแสงแดดมากระ ทบสีดำจะเกิดความร้อน ความร้อนจะถูกดึงเก็บไว้ด้วยโลหะ(ปี๊บ) ยิ่งตากนานยิ่งร้อนมาก

    2. ความร้อนที่เกิดขึ้นเป็นพลังงานจากแสงอาทิตย์ ที่หนีออกจากกล่องโฟมได้น้อย เพราะมีแผ่นสะท้อนความร้อนและลังโฟมป้องกัน(กักกัน)ไว้

    3. พื้นลังโฟมด้านต่ำ(ทิศใต้) ควรมีแท่งไม้หรือกระดาษแข็งรองปี๊บดำ ให้ได้แนวระดับ **เมื่อเวลาตั้งหม้อข้าวน้ำจะได้ไม่หก
    4. พลังงานความร้อนจะวิ่งออกทางกระจกได้ยากดังนั้น ถ้าแดดดีอุณหภูมิในเตาอบนี้จะสูงกว่า 100 องศา ซีซี(เกินจุดเดือดของน้ำ)

    5. ไข่ที่สุกในตู้อบนี้ไข่ขาวจะไม่แข็ง แข็งแต่ไข่แดง(เหมือนไข่เต่า) อบไข่ไก่ใส่เช้าเที่ยงๆ ก็ได้กิน แล้วครับไม่ว่าจะทิ้งไข่ไว้ในเตาอบสัก 2 - 3วัน ไข่ก็จะไม่ไหม้


    </td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" width="50%">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td style="text-align: justify;" valign="top" width="50%">
    วันนี้ มีฝนตกแดดไม่แรง(ที่ประทุมไม่ค่อยมีแดด) เมื่อเช้าทำไก่อบ ใส่ในเตาอบแลงอาทิตย์ใว้ครึ่งตัว น่ากลัวไม่สุก เอาออกไปใส่ตู้เย็นแล้ว เอาหมูแดดเดียที่สุกง่ายกว่าใส่แทนไก่ตามในรูป 2 ชั่วโมงผ่านมา ปรากฏว่า หมูอบบางชิ้นหายไปเข้าท้องใครก็ไม่รู้(กินได้แล้ว)

    เนื้อหมูถูกความร้อนสูงในเตาอบ จะเห็นน้ำมันหยดลงที่ปีบ ปิ้งดี อบดี กินอร่อย ไม่ไหม้ ไม่ก่อสารพิษ แบบการปิ้งย่างชนิดอื่น


    6. ส่วนการใช้เตาอบหุงข้าว ก็ให้เติมน้ำแบบหุงหม้อข้าวไฟฟ้า แล้วเอาไปตั้งในปี๊บสีดำ (ปี๊บใส่ใว้ทั้งคู่ไม่ต้องเอาออก) ถ้าหม้อใหญ่ตั้งในเตาตอนเช้าอาจได้กินบ่าย 2 โมง ที่ดีคือไม่ต้องกลัวข้าวไหม้ เหมือนใช้เตาแก๊ส ** ที่สำคัญคือ หม้อที่จะใช้หุงข้าวหรือต้มซุบหรือต้มน้ำนั้น ด้านนอกของหม้อและฝาหม้อต้องพ่นสีดำด้านให้ทั่ว

    7. หากแสงแดดน้อยหรืออยากจะให้ร้อนเร็วๆ ขึ้นมากเกือบเท่าตัว ก็ให้ตั้งแผ่นโลหะมันวาวหรือกระจกเงาแผ่นโตๆไว้ที่ด้านทิศเหนือของตู้อบ เพื่อให้สะท้อนแสงแดดลงในตู้อบ (เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพเตาอบให้ดียิ่งขึ้น )

    8. เตาอบชนิดนี้ให้พลังงานความร้อนที่สูงมาก(ตามสภาพแดด) จึงไม่เหทาะต่อการนำไปอบ ผลผลิตทางการเกษตรบางชนิด เช่น พริก สมุนไพรต่าง เพราะจะเกิดการไหม้ได้ หากต้องการใช้จริงๆ คงต้องมีการดัดแปลงรูปแบบเพิ่มเติมกันด้วยตัวเองต่อไป

    9. ถามว่าต้องเจาะรูให้ไอน้ำออกหรือไม่ ตอบ ไอน้ำจะลอดใต้กระจกออกไปเอง ไม่ต้องเจาะรูให้ไอน้ำออก

    10. หากใช้อบหมูหมักซีอิ๊วให้ตั้งบนตะแกรงหรือด้วยกระเบื้อง(ย่งสีดำหรือสีทึบแสงยิ่งดี)

    11. ภาชนะที่จะใช้ใส่อาหารอบในตู้ ควรเป็นภาชนะที่ทนความร้อน มีสีทึบแสง เช่น จานกระเบื้องเคลือบสีดำ น้ำตาล แต่ไม่ควรใช้ภาชนะสีขาวหรือมันวาว เพราะมันจะสะท้อนแสง(ความร้อนออกไปหมด)

    12. แผ่นสะท้อนความร้อนที่เขาใช้ติดใต้กระโปรงรถยนต์นั้น มีขายที่ร้านขายอะไหล่รถยนต์ครับ แผ่นกว้าง 90 ซม.ยาว 140 ซม. ราคากรุงเทพ 150บาท/แผ่น แผ่นหนึ่งทำได้ 2 เตา

    13. ส่วนกระจกใสนั้นราคาขึ้นอยู่กับความหนา เขาจะเอากระจกขนาดใหญ่ 2 ฟุต X 3 ฟุต มาตัดแบ่งครึ่งให้เรา เป็น 2 ฟุต X 1.5ฟุต 2แผ่น ขอบกระจกโดยรอบให้ใช้อลูมิเนียมรูปตัวU ขนาด 3หุนหุ้มไว้ให้รอบกันแตก และกันบาดมือ อลูมิเนียมตัวยู นี้มีขายตามร้านทำอลูมิเนียมหรือร้านกระจก

    14. ที่แพงก็มีสองตัวนี้เลยอยากให้ทำครั้งละ 2 ตู้จะประหยัดกว่า ได้ผลแน่ หุงข้าว ปิ้ง ต้ม อบ ต้มน้ำชงกาแฟได้


    15. การติตั้งแผ่นสะท้อนแสงด้านบนของเตา ติดตั้งไว้เพื่อให้ร้อนจัดขึ้นอีก ใช้กระจกเงาถูกและดีแต่ต้องมีกรอบ และต้องมีที่ปรับมุมของแผ่น ให้ตรงกับแสงได้ตามฤดูกาล
    </td> </tr> <tr> <td align="center" valign="top" width="50%">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td style="text-align: justify;" valign="top" width="50%">
    ** สงสัยอย่างไร ก็ส่งข้อความสั้น SMS ไปสอบถามกันได้ฟรี(เฉพาะ dtac) ที่ 1677 ในรายการวิทยุร่วมด้วยช่วยกัน ช่วงของ "เกษตรวาไรตี้" ทุกวันอาทิตย์ เวลา 7.30-10.00น หรือโทรไปแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ร่วมพูดคุยกันได้ในรายการ โทร. 087 – 6776 - 000ในวันเวลาข้างบนนะครับ จะคุยหน้าไมค์ออกอากาศก็ได้นะ


    ขอให้มีความสุขและสนุกจากการทำอาหารด้วยแสงพระอาทิตย์ นะครับ หากไม่เข้าใจโทรสอบถามได้ที่ ลุงอรรถ 081 459 0671 ลอง ทำกันดูได้ผลอย่างไร เล่ากันมาบ้างนะครับขอบคุณผู้ที่ให้กำลังใจและสั่งให้ทำเผยแพร่ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ใครอยากทำขาย ลุงจะช่วยหาอุปกรณ์จัดส่งไปให้ถ้าหาไม่ได้ ในท้องถิ่น
    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ตุลาคม 2011
  10. ZZ

    ZZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    5,375
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,652
    ข้อมูลยังแน่นด้วย...คุณภาพ...เหมือนเดิม

    .
     
  11. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    เมื่อสักครู่ ศปภ. แถลงให้ความมั่นใจว่าอาหารและน้ำจะไม่ขาดแคลน
    เพราะโรงงานต่าง ๆ จะผลิตเพิ่มออกมาเรื่อย ๆ

    แต่เมื่อวิเคราะห์จาก " บางบัวทองโมเดล "
    สิ่งที่เรากังวลคือ ระบบเหล่านี้จะมีปัญหาต่างหาก
    1. ระบบการขนส่งมวลชน
    2. ระบบกระจายสินค้า
    3. การให้ความช่วยเหลือและการช่วยเหลืออพยพเป็นไปอย่างล่าช้า
    4. การแจกถุงยังชีพเป็นไปอย่างล่าช้าและไม่ทั่วถึง
    5. ร้านค้าขนาดเล็กตามถนน ตรอก ซอยต่างๆ จะไม่เปิดให้บริการ
    6. ผู้คนติดอยู่ในบ้านไม่สามารถเดินทางออกมาซื้อสินค้าได้
    7. การเบิกเงินสดจากตู้ ATM และธนาคารมีปัญหา
    8. อาจจะมีการแย่งชิง ดักปล้นชิงอาหารและน้ำดื่มระหว่างการเดินทาง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ตุลาคม 2011
  12. Me, myself

    Me, myself บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    มีเหมือนกันค่ะ เตาแสงอาทิตย์ ทำไว้เล่นๆ ตากกล้วย ตากหมูแดดเดียวมาแล้ว ก็เวิร์คอยู่ค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SO1.jpg
      SO1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      578.3 KB
      เปิดดู:
      191
    • SO01.jpg
      SO01.jpg
      ขนาดไฟล์:
      532.6 KB
      เปิดดู:
      135
    • SO02.jpg
      SO02.jpg
      ขนาดไฟล์:
      499.1 KB
      เปิดดู:
      122
  13. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    ถ้าคิดว่าจะไม่อพยพ ถ้าคิดว่าจะตั้งหลักอยู่ในบ้าน
    นี่คือสิ่งที่ต้องรู้...



    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ตุลาคม 2011
  14. Pawanrat-jin

    Pawanrat-jin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,052
    ค่าพลัง:
    +3,939
    อนุโมทนากับ เจ้าของกระทู้ค่ะ

    ข้อมูลสุดยอดจริงๆ ทุกกระทู้เลย
     
  15. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    เพาะถั่วงอกง่าย ๆ อีกแบบ


    วิธีทำ

    1. อุปกรณ์ที่ใช้
    - ถุงดำหรือถุงสีทึบๆ
    - ตะกร้าพลาติกหรือกระจาด อะไรก้ได้ที่ระบายน้ำได้
    - ตะแกรงพลาสติก ได้จากร้านขายอุปกรณ์การเกษตร
    ไ่ม่มี หาอะไรที่เป็น รูๆ แทนก็ไม่มีปัญหาค่ะ หรือไม่มีเลยก็ข้ามไป
    - กระสอบ ใครไม่มีหาผ้าที่อุ้มน้ำได้แทนค่ะ

    - ขาดไม่ได้ ก็ พระเอกของงาน ถั่วเขียว

    [​IMG]



    2. แช่ถั่วเขียว ในน้ำร้อน1ส่วน + น้ำธรรมดา3ส่วน ประมาณ 6-8 ชั่วโมง
    (แช่น้ำธรรมดาก็ได้ค่ะ ข้างบนให้ไว้สำหรับท่านที่ใจร้อน)

    ตัดก้นถุงดำเพื่อให้ระบายน้ำได้

    ตัดกระสอบ กับ ตะแกรงให้ได้ขนาดตะกร้า

    แช่กระสอบในน้ำ


    [​IMG]



    3. ลงมือทำ

    รองกระสอบใต้ก้นตะกร้า ถ้ามีมากให้รองหลายๆ แผ่น
    จะได้อุ้มน้ำ ถั่วงอกชอบน้ำมากค่ะ

    ตามด้วยตะแกรง (ไม่มีก็ข้ามเลยค่ะ)


    [​IMG]


    4. ตามด้วยถั่วเขียวให้แน่นๆ มากๆ

    เสร็จชั้นแรก

    ทำชั้นที่สอง และสาม ตามลำดับ

    กระสอบ/ตะแกรง/ถั่วเขียว

    [​IMG]


    5. ทำเป็นชั้น ประมาณ 3 หรือ 4 ชั้นก็ได้ค่ะ
    อย่าพยายามให้เกินนี้ ไม่งั้นมันจะเน่าได้

    พอเสร็จ ปิดทับด้วยกระสอบอีกที
    รดน้ำให้ชุ่ม

    จับใส่ถุงดำเลยค่ะ
    ยิ่งมืดยิ่งดี ถั่วโตไว ขาวด้วย


    [​IMG]


    6. ตั้งไว้ที่มืด หรือทึบแสง
    เปิดถุงรดน้ำบ่อยๆ (ไม่ต้องเอาตะกร้าออกมานะคะ)


    ถ้าี่ต้องการต้นอวบๆ ยาวๆ
    เคล็ดลับคือ
    ตั้งแต่วันที่สอง
    ให้ท่านจัดการถ่วงน้ำ
    ถั่วงอกจะ ทั้งยาว ทั้งอวบเลยค่ะ

    ตามรูปเลย


    พอวันที่สามก้ได้เวลา เปิดดูได้


    [​IMG]

    ชั้นข้างล่างจะโตกว่า เพราะได้รับแรงถ่วงหนักกว่าค่ะ
    แต่ถ้ามากไป ชั้นข้างล่าง จะเริ่ม เน่าก่อน

    [​IMG]


    7. นำมาตัดราก จะได้น่ากิน
    ยกขึ้นมาทั้งชั้น คว่ำลงในกะละัมัง
    แล้วก็พยายามเอาเปลือกออกให้ได้มากที่สุดค่ะ

    [​IMG]


    9. ใช้มีดคมๆตัดราก

    [​IMG]


    10. จัดการล้าง คัดเปลือกออก

    ก็จะได้ถั่วงอก ขาวๆ อวบๆ

    [​IMG]





    [​IMG]



    [​IMG]

    ข้อมูลจาก
    http://www.kroobannok.com/blog/9184
     
  16. poon-pan

    poon-pan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,292
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,115
    น้ำเปล่าขาดแคลน ?

    ผมได้โทรคุยกับน้องที่อยู่แถวสะพานกรุงธนฯ ตอนบ่าย ๆวันนี้ เห็นว่าหาซื้อน้ำขวดไม่ได้เลย
     
  17. poon-pan

    poon-pan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,292
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,115
    ผมก็ไม่รู้ว่า ศปภ. เค้าจะมีหมายเหตุตัวเล็ก ๆ อยู่ข้างล่างกับสิ่งที่เขาประกาศด้วยหรือเปล่า

    "ของทุกอย่างจะไม่มีวันขาดแคลน เว้นแต่โรงงานผลิตมันจะจมน้ำไปซะก่อน"
     
  18. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    เพิ่มเติม...

    สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับท่านที่ไม่สามารถอพยพจากกรุงเทพได้ คือ

    1. เตรียมขวดพลาสติกเปล่าพกใส่เป้ไว้ 8 - 10 ใบ
    เพื่อดัดแปลงเป็นเสื้อชูชีพแบบฉุกเฉิน

    2. ที่สูงเผื่อกรณีน้ำท่วมสูงประมาณ 5 เมตร
    สถานที่พักของท่านควรมีความสูงมากกว่าบ้าน 1 ชั้น
    แม้แต่บ้าน 2 ชั้นก็ยังมีความเสี่ยง
    ทางที่ดีคือตึกแถว 3 ชั้น หรือคอนโดตั้งแต่ชั้นที่ 3 ขึ้นไป
    แต่ไม่ควรสูงมากเกินไปเพราะลิฟท์อาจใช้งานไม่ได้


    ข่าวเพิ่มเติมจากพระอาจารย์

    พระอาจารย์บอกว่า น้ำจะเข้ากทม.เห็นชัดๆ ประมาณวันที่ 25 ตุลาคม
    และสูงมากๆ 28-29 ตุลาคม

    น้ำเหนือ จะมาประมาณ 2 เมตร
    น้ำทะเลหนุน เพิ่มมาอีกอาจถึง 5 เมตร


    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Falkman [​IMG]
    ข่าวเพิ่มเติมจากพระอาจารย์

    พระอาจารย์บอกว่า น้ำจะเข้ากทม.เห็นชัดๆ ประมาณวันที่ 25 ตุลาคม
    และสูงมากๆ 28-29 ตุลาคม

    น้ำเหนือ จะมาประมาณ 2 เมตร
    น้ำทะเลหนุน เพิ่มมาอีกอาจถึง 5 เมตร
    แล้วทางชายฝั่งให้ระวังสตอมเสริช

    จบข่าว

    ไปเก็บของต่อก่อนนะ :cool:

    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Falkman [​IMG]
    เมื่อ ก่อนตอนได้ฟัง ว่า น้ำจะท่วมขังกรุงเทพเป็นเวลานาน ยังสงสัยว่ามันจะเป็นอย่างไรหนอ แล้วก็ยังทราบอีกว่า น้ำจะขังได้ไม่ใช่น้ำที่มาจากที่เดียว คือ มาจากหลายๆ น้ำ น้ำฝน น้ำเหนือ น้ำทะเลหนุน น้ำอื่นๆ อีกที่ยังคิดไม่ได้ฯลฯ ก็ยังสงสัยอีกว่ายังจะมีน้ำอะไรจากไหนอีกหล่ะ ตอนนี้พอจะเข้าใจแล้ว :cool:

    ปล.อันนี้พระอาจารย์บอกว่า เป็นการท่วมเทียม (จำลอง) ก่อนที่ของจริงจะมา อันนี้จะท่วมจนชาวกรุงเทพจะรู้ว่ากรุงเทพอยู่ไม่ได้แล้ว เค้าจะหาทางอพยพออกจากกรุงเทพเอง แล้วอีกพักของจริงจะตามมา อันนี้แหล่ะหายนะของจริง อาจมีการสูญเสียครั้งใหญ่ ชีวิตและทรัพย์สิน

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2011
  19. ภูติอาคเนย์

    ภูติอาคเนย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    723
    ค่าพลัง:
    +1,326
    อนุโมทนาสำหรับข้อมูลการเอาชีวิตรอดครับ เห็นถั่วงอกแล้วอยากทานขนมจีนขึ้นมาทันที :D
     
  20. นิพพานะ

    นิพพานะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +527
    เรียนท่าน Karan 20 ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณท่านที่ได้ให้ความรู้ความเข้าใจในการเตรียมการทั้งทางโลกและทางธรรม ตอนนี้ผมตัดสินใจแล้วว่าจะเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดหนองบัวลำภู ในวันพรุ่งนี้ สำหรับบ้านที่ปทุมธานีที่ลำำลูกกาคลอง 7 (โครงการบ้านเดี่ยวใหม่ถมดินสูงจากท้องนาเดิมประมาณ 1.5 เมตร แล้วผมยกตัวบ้านชั้นล่างขึ้นอีก 1.5 เมตร ชั้น2 สูงจากดิน 5.5 เมตร)จริงๆแล้วผมได้เตรียมข้าวสาร อาหารแห้งไว้สำรองประมาณ 3 เดือน พร้อมทั้งชูชีพและเรือ ใช้งบเตรียมการไปหลายหมื่น แต่ดูสถานการณ์ตอนนี้ผมคงต้องสละบ้านไปต่างจังหวัดดีกว่า อย่างน้อยก็ไม่ต้องนั่งเฝ้าบ้านอีกสามเดือน ไว้กลับมาค่อยมานั่งกู้กันใหม่ (งานตอนนี้ที่บริษัทยังไม่ให้ลา แต่ผมตัดสินใจว่า ถ้าไม่ให้ลา ผมก็จะลาออก เพราะรู้อยู่แล้วว่าสู้ตอนนี้ยังไงก็แพ้ รอกลับมากู้ดีกว่า ) ถ้าใครที่คิดว่าช่วงนี้ไม่อยากอยู่กรุงเทพ แต่ไม่มีที่ไปจะไปพักผ่อนต่างจังหวัด ผมพอจะมีที่พักที่ปลอดภัยให้ แต่ท่านต้องเตรียมเต้นท์ไปด้วยนะครับและเงินสดสำรองสำหรับซื้ออาหารเอง ตอนนี้ผมช่วยได้แค่ที่อยู่อย่างเดียวครับ อย่างอื่นยังไม่พร้อมเนื่องจากเหตุการณ์มาเร็วกว่าการเตรียมพร้อมในทุกเรื่อง ใช้งบในการอยู่อาศัยที่พักไม่เกินวันละหนึ่งร้อยบาทต่อคนสำหรับซื้ออาหาร ถ้าท่านใดตัดสินใจจะไปโทรมาได้นะครับ ผมจะเดินทางพรุ่งนี้เวลา 6.00 น.วันที่ 25 ตค. 2554 (เบอร์โทรผมนะ 080-623-1618 ชาญ ) อ้อแต่ขอสำหรับท่านที่คิดว่าจะไปด้วยนะครับว่าขอให้ท่านพยายามรักษาศีล 5 ให้ได้นะครับเพื่อความเป็นอยู่ที่สงบสำหรับท่านอื่นๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...