มารมาเเล้ว กิเลสตัวเเม่สุดท้าย กามฉันทะ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย somkiatfem, 14 มีนาคม 2017.

  1. Xtrem

    Xtrem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2016
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +275
    ฌานก็ คือ กามอย่างหนึ่ง อำนาจของมันแค่หินทับหญ้า ต้องใช้อสุภะ นั้นและ คู่ปรับมัน!
     
  2. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    อันนี้ตอบง่ายครับ หลุดพ้นอยู่ในสภาวะใดก็ได้ เป็นคนธรรมดาทำล่อเเหลมเพื่อตะลุยดงกิเลสไม่มีใครว่าไม่ผิดศีลแบบพระ เลือกได้จะสงบ หรือ ลุย หรือสอนเเนะนำธรรมท่าไหนก็ได้ ที่ไหนก็ได้ ครับผม
     
  3. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    สั้นๆเลย อ่านเเล้วชอบ ขออีกมีอีกเปล่าครับเลวๆของผมอะครับ ชอบๆ
     
  4. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    อันนี้พูดถูก น่ะเเต่ก็สามารถตัดด้วยอื่นๆเช่นกันเสริมๆกันไป เช่นพิจาราณาโพรงในกระดูก ....
     
  5. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    เหรออออออออออ พ่อลูกเทพ สงสัยเป็นเทพ
    มาจุติ ๕๕๕ ดีใจแทนเวบนี้จัง ตอนนี้คุณเป็นเทพเหรอ
    ถึงรู้ว่าความเห็นมาร แต่ดูแล้ว
    คุณมัน การปฎิบัติไม่ได้ซักอย่าง
    ตาก็ไม่ดี เห็นอะไรก็แบบเพ้อเจ้อ
    ความทรงจำแทบจะไม่มี
    ตกลงสมองยังได้อยู่เนาะ ปกติคนอย่างนี้
    น่าจะเพี้ยนแล้วนะ
    แถมไร้ความสามารถทางจิตทำอะไรได้ด้วย
    ไม่ใช่ห้องนักการเมืองนะ ที่จะมาเห่า มาผิดที่เป่า๕๕๕

    ความเห็นหละอยู่ไหน
    พอเทพ กระะจอก เก่งแต่ปาก ฝ่ายเดรัชฉาน
    ส่วนตัวไปหรือเป่า อยากเจอจังเลยเทพแบบนี้

    พูดจาดูหล่อเนาะ บอกความเห็นมาร
    ไหนความเห็นเทพๆฝ่าย เดรัชฉาน ก่อนหน้านี้อยู่ไหน
    เอามาแย้งมารคนนี้หน่อยชิ
    และอยากจะขอทดทดสอบจังได้เปล่าวะ กล้าเป่า
    กรรมฐาน ๔๐ กอง รวมทั้งกรรมฐานพิเศษสำนักไหน
    ก็ได้ มารขอท้าชนเทพเดรัชฉานตัวนี้หน่อย ได้เป่า
    ลืมไปว่าพี่เพี้ยนอยู่โทษที แฮะๆ

    ตอนนี้มารขอฟังความเห็นหล่อๆเทพๆ
    ที่ได้จากการปฎิบัติจริงๆ
    มาแย้งในประเด็นนี้ในกระทู้นี้หน่อยซิ

    พูดอย่างนี้ใครก็พูดได้ ปัญหาคือ แน่จริงเป่า คริคริ
    เข้าใจจริงเป่า อย่าเก่งแต่เห่า ยัดเหยียด
    กล่าวหา ใส่ความ พูดลอยๆเหมือนเด็กแว๊น
    พูดเหมือนไม่ได้เรียนหนังสือ พูดเหมือน
    ต้นตระกูลไม่เคยสอนเรื่องมารยาทไม่เอานะครับ (^_^)

    ปฎิบัติเอานะ ไม่ได้เห่าบ๊อกๆเอาแล้วจะเก่งได้นะ
    ไม่ใช่ด่าคนอื่นลอยๆ แล้วคิดว่าตัวเองจะเก่งนะ
    ด่าแล้ว แสดงว่าคิดว่าตัวเองเจ๋งกว่า เหนือกว่าพอตัว
    พิสูจน์้หน่อย ด้วยคำสอนก็ได้ พ่อเทพเดรัชฉาน
    ไม่ต้องเล่นสดก็ได้นะ(เพราะคงทำไม่ได้ ๕๕)
    ปัญหาคือ เดรัขฉาน เข้าใจสภาวะและทำได้จริงๆเปล่า
    นอกจากด่าๆแล้วคิดว่าตรูเนี่ยหล่อเหลือเกิ๊น
    ที่ด่ามารได้ ๕๕๕๕๕๕
     
  6. ชมทรัพย์

    ชมทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    552
    ค่าพลัง:
    +248
    คุณคว่ำ มหาสติปัฏฐานสูตรลงทั้งหมดจะให้ว่าไง เอาไปพิจารณาดูนะครับ ด้วยความปราถนาดี

    สังสมสุตตะ
    http://84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=10&A=6257&Z=6764
     
  7. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035

    ไม่ต้องอ่าน เอากิริยาการปฏิบัติมาพูดกันเลยครับ
    ไม่ได้จะอ่านจะสอบนะ พ่อเทพ มันไม่ได้อ่านเสร็จ
    แล้วเลื่อนระดับ จิตตัวเองได้หรอกนะ...
    แล้วไอ้ที่บอกว่า เป็นความเห็นมาร มันผิดสภาวะ
    การปฏิบัติจริงๆตรงไหน...บอกมา อย่าพึ่งไปประเด็นอื่นๆ

    ก็มารท้า เทพแล้วไง บอกว่า กรรมฐาน ๔๐ กอง
    หรือกรรมฐานพิเศษอะไรได้หมด ว่ามาเลย
    ประเด็นอื่นๆ ค่อยว่ากัน เอาประเด็นที่มาว่า เป็นมารก่อนได้ไหม
    เห็นมาด่ามาร แสดงว่า คงเป็นเทพที่เก่งพอตัว

    มารเลยอยากลองของหน่อย เข้าใจอารมย์มารนะ คริคริ..
    อย่าก๊อบตำราไอ้ตุ๊กตาลูกเทพ
    ถ้าเป็น เทพจริงๆ ไม่ต้องก๊อบปี๊ตำรามาให้อ่าน
    หรอกนะครับ เป็นเทพยังอ่านตำราอยู่เหรอ ๕๕๕๕
    เอาสภาวะจากการปฏิบัติจริงๆซิวะ
    ...๕๕๕๕๕๕. ว่าแต่จะเข้าใจที่มารอธิบายหรือเปล่าหละ
    เป็นเทพที่ปฏิบัติจนเข้าใจสภาวะได้จริงๆไหมหละ ๕๕๕๕๕
    ไอ้เทพกิ๊กก๊อกเอ้ย...
    ...อายแทนเทพจริงๆ หน้าคงแหก
    ถ้ามีใครอ้างตัวเป็นเทพเดรัชฉาน
    แล้วเที่ยวมาเห่าหอนแบบนี้

     
  8. ชมทรัพย์

    ชมทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    552
    ค่าพลัง:
    +248
    ลองพิจารณาดูละกันครับ ถูกต้องตรงมรรคไหม
    ความเห็นผม ถ้าทำให้คุณไม่พอใจก็ขออภัยทาน ผมมันปากชั่วใจชั่วแบบนี้ ด่าได้เต็มที่ครับ เพราะมันเป็นความจริง
     
  9. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    โอเคร ส่วนตัวก็แรงไปเหมือนกัน...
    ปกติส่วนตัวจะไม่หาเรื่องใครก่อน
    ถ้าเห็นแย้งจะพยายามพูดดีๆก่อนเช่นกัน
    คุณเล่นเปิดตัวมาแรง เลยต้องขอแรงกลับบ้าง
    เอาว่าขออภัยไว้ ณ ที่นี้แล้วกันนะครับอีกรอบ..

    เอาประเด็น
    ที่เกี่ยวกับเนื้อหากระทู้แล้วกันนะครับ..
    เรื่องกามฉันทะ ที่ส่วนตัวเขียนนะครับ
    เอาเป็นประเด็นๆไป เด่วมันจะจบไม่เป็น

    ประเด็นที่ ๑ ข้าพเจ้ามีความเห็นว่า
    ให้ตัดตัวรู้ แต่บอกว่าเป็นเพียงแค่ชั่วคราว
    ตัวรู้นี้ คือ ตัววิญญานการรับรู้ ที่จะไปดึงเอาสิ่งต่างๆ
    เข้ามาจนกระทั่งเกิดการปรุงแต่งต่างๆนานานั้นหละ
    ยกตัวอย่าง เช่น เรามองเห็นเก้าอี้ แสดงว่า
    จิตส่งตัววิญญานรับรู้ ไปรู้แล้วว่าเป็นเก้าอี้
    ถ้าปรุงแต่งต่อว่าไม่ชอบ จนรู้สึกอะไรได้
    แสดงว่า ปรุ่งร่วมกับขันธ์ ๕ ส่วนนามธรรมเรียบร้อยแล้ว
    นี่คือตัวอย่างเปรียบเทียบให้เห็นภาพกว้างๆ

    ประเด็นที่ ๒ บอกว่า จะตัดกามฉันทะ จริงๆ
    ให้มาวิปัสสนาต่อซึ่งจะยังไม่ลงรายละเอียด
    ....นี่คือการแก้ปัญหาแบบถาวร

    มีแค่ ๒ ประเด็นแค่นี้หละ ที่ส่วนตัวมองว่าจะแก้ปัญหา
    ได้ คือ แบบชั่วคราว และแบบถาวร

    เลยจะถามว่า คุณเข้าใจว่าอย่างไร
    ทำไมถึงเห็นว่า เป็นความเห็นมารในตอนแรก
    ดังนั้นขอคำอธิบายด้วย ไม่ต้องอ้างมรรค
    ไม่ต้องอ้างตำรา คือคุณเห็นต่างๆ
    ในทางกิริยาตรงไหน..ที่มันไม่ถูก ให้คุณว่ามา


    และส่วนตัวก็จะยืนยันว่าจะ
    อธิบายกับคุณดีๆ
    ไม่กวนบาทาคุณอีก..
    แต่ขอให้คุณพูดด้วยเหตุด้วยผลดีๆ
    ในทางปฏิบัติเช่นกันนะครับ

    ลองว่ามา...เด่วตอนนี้ไม่ว่างแระ
    เชิญเขียนทิ้งไว้ได้เลยนะครับ
     
  10. ชมทรัพย์

    ชมทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    552
    ค่าพลัง:
    +248
    เอาเป็นว่าขอพูดสิ่งที่ผมเห็นในความเห็นของผม ที่คิดว่าเป็นที่สุดแล้วสำหรับผม ก็คือโง่เข้าใจธรรมแค่นี้นั่นแหละ (ส่วนความเห็นความเชื่อของคุณก็ไม่ก้าวก่ายครับ ขอยกไว้ก่อน)

    ธรรมทั้งหลายเมื่อดับลง ก็ดับลงที่ตัวรู้ที่สะอาดผ่องใสกว่าอะไรๆ
    ก็ตัวรู้ที่สะอาดผ่องใสกว่าอะไรๆแต่ไม่บริสุทธิ์นี้แหละ ธรรมทั้งหลายเมื่อเกิดก็เกิดจากต้นตอวัฏฏะทุกข์นี้แหละ เมื่อมันยังไม่เที่ยงแท้จึงกระเพื่อมออกไปเป็นสังขาร เกิดเป็นวิญญาณปฏิสนธิ เป็นรูปนามสายวัฏฏะทุกข์ ไม่จบสิ้น

    เลยเห็นต่างครับ

    ว่าสมาธิที่เราปฏิบัติละนิวรณ์ดับกามตัณหาอะไรๆก็แล้วแต่ลงไป ตัวนี้ก็ควรต้องยิ่งสว่างผ่องใสเด่นชัด ตัวรู้ รู้เท่าอาการมันจะไปมีโทษอะไรกับใคร ที่ควรจะตัด มีความเห็นว่าควรทำวิชาทำญาณปัญญาหรือสมาธิอะไรก็แล้วแต่ที่สามารถ ให้เกิด ให้รู้จักบ้าน รู้จักตัวรู้ ให้ตัวรู้เด่นชัด ให้ตัวรู้รู้ชัดเป็นผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน ให้สมควรแก่เหตุเป็นรู้ที่บริสุทธิ์สะอาดกว่าอะไรทั้งหมด
     
  11. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ก็พูดแบบนี้แต่แรกก็จบแล้ว..
    พูดในมุมที่ตัวเองเห็น เข้าถึงได้ก็พอแล้ว...
    จะมาอ้างอิงคำพูดผม แล้วกล่าวหา
    ฟันธงตั้งแต่แรกทำมะเขีออะไร(ช่างเถอะจบไปแล้ว)
    การไปเที่ยวตัดสิน
    ในมุมที่คนอื่นๆเห็นต่างกับตนเองแบบฟันธง...
    จะทำไปเพื่ออะไร ทำแล้วได้อะไร...ตรงนี้ต้องคิดด้วยครับ


    การจะตัดสินได้ในมุมที่เห็นต่าง ในทางปฏิบัติ
    คุณจะต้องเห็นเหมือนที่เค้าเห็นได้เช่นกัน
    และคุณต้องเห็นได้มากกว่านะครับ
    ถึงจะไปฟันธงได้..ตรงนี้พอเข้าใจที่พูดนะครับ....
    ที่ส่วนตัวพูด ไม่ได้หมายความว่า ตัวเองจะเก่ง
    หรือดี หรือมีดีอะไรนะครับ..แต่ถ้าคุณจะตัดสินใจ
    คุณต้องเห็นได้มากกว่า ที่คนนั้นเห็นเข้าใจนะครับ
    ไม่ว่าในมุมอะไรก็ตาม...


    ตำราส่วนตำรานะครับ กิริยาที่เกิดขึ้นจริงจากการปฏิบัติ
    แล้วถ่ายทอดออกมาเป็นอีกอย่างหนึ่ง...
    ธรรมะตามปกติแล้ว มันจะต้องเข้าถึงก่อน
    ถึงจะเกิดเป็นคำพูด คำเขียนมาได้
    แล้วจึงกลายมาเป็นตำรา เข้าใจที่พูดนะครับ
    ไม่งั้นมันจะกลายเป็น เพียงสมมุติที่เรารู้เข้าใจ
    แต่จิตเรามันไม่ได้เป็นอย่างที่เราพูดจริงๆ

    ไม่มีใครอยู่ๆจะนั่งเทียน เขียนตำราอะไรขึ้นมาได้หรอกครับ
    ถ้าไม่ได้ปฏิบัติมา เพราะมันไม่ใช่นิยาย หรือ การ์ตูนครับ
    ตำราทางพุทธศาสนา มันมีฐานมาจากการปฏิบัติก่อนนะครับ
    อย่าลืม ไม่ใช่เหมือนสมัยนี้ ที่เน้นเอาตำรามานำแต่ฝ่ายเดียว
    ทำให้เกิด เทพอุปโลกน์ หลอกแม้กระทั่งตัวเอง
    หลอกแม้กระทั่งชาวโลก กำเนิดเกิดขึ้นมากมายครับ
    ทั้งๆที่สภาวะจิตยังไม่พ้นแม้กระทั่งความเป็นคน เข้าใจนะครับ


    และถ้าเราไม่เข้าใจกิริยาทางจิต
    ของมันก่อน แล้วด่วนไปตัดสิน จากสัญญาเดิมในจิตเรา
    มันจะทำให้เกิดการเปรียบเทียบ แยกแยะ และชี้ชัด
    ทำให้จิตเราไม่เป็นกลางได้นั่นหละครับ
    เราก็จะพิจารณาไปในแบบที่เราเข้าใจ
    ซึ่งมันอาจจะถูกก็ได้ หรือไม่ถูกก็ได้
    นัยยะสำคัญจริงๆ คือ มันเกิดอย่างนั้นจริงๆกับตัวจิตหรือเปล่า
    และวิธีการที่นำมาจากตำราจนมาสู่การถ่ายทอด
    แม้มันจะบอกเหตุ บอกผล บอกแนวการปฏิบัติเพื่อไปให้ถึง
    แต่จิตเรา มันมีกิริยาอย่างนั้นจริงๆหรือไม่ ตรงนี้สำคัญกว่า...
    ส่วนตัวถึงกล้าท้า พวกเทพอุปโลกน์ พวกระดับสูงๆอุปโลกน์
    พวกแสดงตนประหนึ่งว่าเป็นผู้มีฤิทธิ์ทั้งหลายนั้นหละครับ

    เพราะคำพูดมันเป็นเพียงแค่ภาษาสมมุติ
    เป็นคำอุปโลกน์ขึ้นมาเพื่อให้เข้าใจได้ทางโลก
    มันจะพูดให้หล่อระดับชาติ ระดับจักรวาลแค่ไหนก็ได้ครับ
    สำคัญจริงๆคือ จิตมันมีกิริยา ที่เป็นไปอย่างที่พูดจริงๆหรือไม่
    จิตมันอยุ่ในเส้นทางกิริยาที่จะเป็นไปอย่างที่เราพูดแล้ว
    ดูหล่อๆอย่างที่เราอ้างจากตำราหรือไม่ต่างหากครับ
    ปล. เข้าใจที่สื่อนะครับ..
     
  12. ชมทรัพย์

    ชมทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    552
    ค่าพลัง:
    +248
    ครับเพ่
    สั่งสมสุตตะบ้างก็ไม่เสียหายอะไรนะครับ เอานะพอ
     
  13. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    สาธุๆ ชอบๆ
     
  14. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    อย่าเครียดมากมันไม่เหมือนการสะสมสตางค์แต่เขาอุปมาไว้เท่านั้น...ทำไปเรื่อยๆ
     
  15. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    มาเล่าต่อ มาร นี้ผมมีเหตุต้องค้าขายระยะยาวสะด้วย จะไม่คุยก็ไม่ดี เเต่ เเม่นางนี้ทำเหมือนสาว16 ต้องคุยตลอด ผมไม่ได้อ่านหนังสือ ทำงานอะไรเลย พอบอกว่ามีงาน ก็บอกว่า ผมเปลี่ยนไปก็ที่คุยตอนนั้นก็คือคุยดีๆให้สติ เเต่เธอนั้นเมาจริงๆ เหนื่อยใจเลยเหมือนมีอะไรมาเกาะเหนียวตัวลำคานเหมือนกัน ตอนนี้รู้สึกเป็นแบบนี้ เเต่ก็คุยกันแบบลึกซึ้งอยู่เหมือนกันสนิดมาขึ้นฉิบหายละกุ
     
  16. Xtrem

    Xtrem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2016
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +275
    ว่าแต่...ตกลงคุณเล่นด้วยหรือป่าวเนี้ย หรือ ทำทีเป็นว่าไม่อยากยุ่ง ไม่อยากสนใจ แต่ใจคุณมันเตลิดไปแล้ว ถ้าแบบนั้นก็หมดท่า รอมารเป็นเมีย แพ้ตั้งแต่ยังไม่ทันรบเลย.
     
  17. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    คืออย่างนี้นะ...จะเล่าอะไรให้ฟัง
    เพื่อว่าจะเก๊ทขึ้นมาบ้าง....
    ฝั่งตะวันตกก็รู้นะครับว่า อากาศมันร้อน
    แต่เค้าจะทำทุกอย่างเพื่อให้อากาศมันเย็น


    ฝั่งตะวันออก ก็รู้ว่าอากาศร้อนเหมือนตะวันตก
    แต่เค้าจะไม่ไปพยายามทำให้อากาศมันหายร้อน
    เพราะว่า รู้ว่า อากาศยังไง
    มันจะต้องร้อนอยู่แล้วโดยธรรมชาติ

    แต่จะมาเรียนรู้ มาปฏิบัติ
    เพื่อที่จะอยู่ร่วมกับอากาศที่
    มันร้อนได้อย่างไร.....

    ปัญหามันอยู่ที่อากาศภายนอกที่มันร้อน
    หรือมันอยู่ที่ใจของเราครับ

    ใจเราจะไปพยายามทำให้อากาศมันหายร้อนได้หรือครับ
    เมื่อมันเป็นธรรมชาติของมันอย่างนั้น...

    หรือเราจะมาเรียนรู้ และอยู่ร่วมกับ
    อากาศที่มันร้อนโดยธรรมชาติได้อย่างไรครับ


    เข้าใจที่ผมสื่อไหมครับ คุณ somkiatfem
    ถ้ายังไม่เข้าใจ แสดงว่าดาวโลกคงไม่เหมาะสมที่คุณจะอยู่ครับ ๕๕๕
     
  18. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    กิเลส สิ่งที่ทำใจให้เศร้าหมอง, ความชั่วที่แฝงอยู่ในความรู้สึกนึกคิด ทำให้จิตใจขุ่นมัวไม่บริสุทธิ์ และเป็นเครื่องปรุงแต่งความคิดให้ทำกรรม ซึ่งนำไปสู่ปัญหา ความยุ่งยากเดือดร้อนและความทุกข์,


    กิเลส ๑๐ (ในบาลี เดิม เรียกว่ากิเลสวัตถุ คือ สิ่งก่อความเศร้าหมอง ๑๐) ได้แก่ โลภะ โทสะ โมหะ มานะ ทิฏฐิ วิจิกิจฉา ถีนะ อุทธัจจะ อหิริกะ อโนตัปปะ


    อนึ่ง ในอรรถกถา ท่านนิยมจำแนกกิเลส เป็น ๓ ระดับ ตามลำดับขั้นของการละด้วยสิกขา ๓ (เช่น วินย.อ.1/22 ...) คือ

    ๑. วีติกกมกิเลส กิเลสอย่างหยาบ ที่เป็นเหตุให้ล่วงละเมิดออกมาทางกาย และวาจา เช่น เป็นกายทุจริต และวจีทุจริต ละด้วย ศีล (อธิศีลสิกขา)

    ๒. ปริยุฏฐานกิเลส กิเลสอย่างกลางที่พลุ่งขึ้นมาเร้ารุมอยู่ในจิตใจ ดังเช่น นิวรณ์ ๕ ในกรณีที่จะข่มระงับไว้ ละด้วยสมาธิ (อธิจิตตสิกขา)

    ๓. อนุสัยกิเลส กิเลสอย่างละเอียดที่นอนเนื่องอยู่ในสันดาน อันยังไม่ถูกกระตุ้นให้พลุ่งขึ้นมา ได้แก่ อนุสัย ๗ ละด้วยปัญญา (อธิปัญญาสิกขา)
     
  19. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    กิเลสกาม กิเลสเป็นเหตุใคร่, กิเลสที่ทำให้อยาก, เจตสิกอันเศร้าหมอง ชักให้ใคร่ ให้รัก ให้อยากได้ ได้แก่ ราคะ โลภะ อิจฉา (อยากได้) เป็นต้น


    กาม ความใคร่, ความอยาก, ความปรารถนา, สิ่งที่น่าปรารถนา น่าใคร่, กาม มี ๒ อย่าง คือ ๑. กิเลสกาม กิเลสที่ทำให้ใคร่ ๒. วัตถุกาม วัตถุอันน่าใคร่ ได้แก่ กามคุณ ๕


    กามคุณ ส่วนที่น่าปรารถนาใคร่ มี ๕ อย่าง คือ รูป เสียง กลิ่น รส และโผฏฐัพพะ (สัมผัสทางกาย) ที่น่าใคร่น่าพอใจ


    กามฉันท์, กามฉันทะ ความพอใจรักใคร่ในอารมณ์ที่ชอบใจ มีรูป เป็นต้น, ความพอใจในกามคุณทั้ง ๕ คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ (ข้อ 1 ในนิวรณ์ 5)
     
  20. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    เล่าต่อ กิเลสผมมียังไม่ได้ตัด สติผมก็เป็นเงาตามกิเลสไปดู เพียงคิดว่าจะเลือกกาม การเกิด หรือความอมตะเเห่งความสงบเเล้วก็ง่ายดายแดนนิพพานนั้น มีความงดงามเเละเเข็งเเกร่งกว่าเพชร เเละมีประกายด้วยตัวเองไม่ต้องอาศัยเเสงอาทิตย์ เเถมไม่มีใครโขมยได้เเละยิ่งไปกว่านั้น สามารถทำซ้ำได้ จากจิตสู่จิต
    คล้ายว่ากำลังเล่นกัลกิเลสเผลอๆก็มีหลุดโดนเล่นเหมือนกัน

    เมื่อวานผมสอนธรรมให้สติเห็นว่าจะเกิดเหตุใดขึ้นถ้า...เเละบอกว่าตอนนี้ชีวิตเธอนั้นกำลังไปได้ดีไม่คุ้มที่จะเเลกเลย เเละวันนี้เธอมาขอบคุณสติของผม เเละผมก็กลับสวนทางดึงเธอลงต่ำอีกครั้งอย่างเเรงตรงข้ามกับเมื่อวาน ผมรู้สึกว่าการกระทำวันนี้ผมได้2 อย่าง 1 สนองกิเลส 2 ทำให้เธอเห็นว่าเเท้จริงผมไม่ใช้คนดีอย่างที่เธอเข้าใจเพียงอย่างเดียว เพราะเธอนั้นเป็นคนสวยมากไปไหนมาไหนมีเเต่คนมองจนเป็นเหตุแก่เเฟนคู่กายทำให้ทะเลาะกัน เเต่เมื่อเธออยู่บ้านตามคำสั่งของสามีก็ยังไม่พ้นเด็กรุ่นๆ 15 ไปถึงแก่ๆ ทักทาย กระเเซกด้วยความหื่นแฝงเข้ามาทำให้เธอนั้นเบื่อหน่ายผมเองก็ได้ถามว่า สามีเธอไม่ดีอย่างไร ไปเจอได้ไงก็น่าตลกที่ตอนนั้นเธอเจอกับสามีตอนบวชมีเด็กคนนึงเเนะนำให้คุยพอดีโทรไปหาเด็กเเล้วเด็กนั้นอยู่กับพระคือสามีเธอนั้นเอง สุดท้ายสามีออกจากพระ 5555 ไม่รู้ว่าตอนนั้นสามีเธอบวสั้นหรือ ยาว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มีนาคม 2017

แชร์หน้านี้

Loading...