เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

มีคำถามครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Samarnl, 18 กันยายน 2014.

แท็ก: เพิ่มแท็ก

หน้า 22 ของ 23

MindSoul1 เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

15 กันยายน 2012

โพสต์:

295

ค่าพลัง:

+496
นิวรณ์ said: ↑

มาถึงตรงนี้

ต้องยืม ภาษาพระ บางท่าน

โยนิโสมนสิการ หากไป ตรึก จะกลายเป็นเรื่อง ปัจจัยการ เป็นเหตุเป็นผล

" ธรรมของแท้ ไม่เกิดในภพ " อันนี้ ภาษา พระท่านหนึ่ง ท่านใช้อธิบาย

" ธรรมของแท้ เหนือเหตุ เหนือผล เหนือโลก เหนือวัฏ " อันนี้ ภาษา พระอีก
ท่านหนึ่งท่านใช้

" ธรรมใดหากเกิดจากจิต ออกมาจากจิต นั่น มันคือ ส่งจิตออกนอก ฝุ้งซ่าน " อันนี้
ภาษา พระอีกท่านหนึ่งท่านใช้

ดังนั้น ธรรมะแท้ๆ เวลาฟังธรรมนั้น ได้ยินธรรมนั้น ธรรมนั้นพ้นอยาตนะ6 พ้น
การตั้งขึ้นของ" ขันธ์ " ไม่อาศัยขันธ์ ไม่อาศัย ภพ แต่ก็ ได้ยินได้ ฟังได้ ชื่นใจ

ฟังแล้วก็ต้องฟังบ่อยๆ

กว่าจะเข้าถึง การเป็นผู้ฟังธรรม ไม่ใช่ ง่ายๆ ยังมีกระแสของมัน ที่ เหนือเหตุ
เหนือผล เหนือโลก พ้นโลก เข้ากระแสธรรม
Click to expand...

เป็นภาษาเทียบเคียงสภาวะที่ลึกซึ้งมากค่ะ
พุทธวจน/จากพระโอษฐ์ 5 เล่ม : http://www.pobbuddha.com/tripitaka/*http://etipitaka.com/search*http://media.watnapahpong.org/

MindSoul1, 3 ตุลาคม 2014

#421
MindSoul1 เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

15 กันยายน 2012

โพสต์:

295

ค่าพลัง:

+496

จิตสิงห์ said: ↑

ธรรมะ คือ ธรรมชาติ

คงไม่ใช่เรื่องเหนือธรรมชาติ เหนือโลกหรอก

พุทธองค์ทรงสอนในเพ่งโลก โลกคือขันธ์ คือธาตุ คืออายตนะนี้แล

ลองค้นพระสูตรดู ว่ากล่าวเกินโลกหรือไม่
Click to expand...

 คำกล่าวว่า “เหนือธรรมชาติ เหนือโลก” เป็นเพียงภาษาเรียกเพื่อใช้สื่อให้ระลึกรู้สภาวธรรมนั้นๆ

คือ การอยู่กับโลกแต่ไม่ติดโลก เป็นเพียงการดู การรู้ การอาศัยโลกเพื่อระลึกรู้อริยสัจ
ไม่ใช่การเข้าไปยึดเกาะในโลก ไม่ใช่การเข้าไปเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับโลก
แต่เป็นการปล่อยวางขันธ์๕ ไม่อาศัยขันธ์ให้เกิดภพเกิดวัฏะ
ถ้าปฏิบัติจนเหตุปัจจัยถึงพร้อม ญาณทัสสนะจะเกิด(เข้ากระแสธรรม)โดยขันธ์๕จะดับ ไม่ใช่เกินโลก

ที่ท่านพี่นิวรณ์ ยืมภาษาพระบางท่านมากล่าว พร้อมคำขยายความ เป็นภาษาเรียกที่แจ่มแจ้งลึกซึ้งมาก


พุทธวจน/จากพระโอษฐ์ 5 เล่ม : http://www.pobbuddha.com/tripitaka/*http://etipitaka.com/search*http://media.watnapahpong.org/

MindSoul1, 3 ตุลาคม 2014

#422
ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

วันที่สมัครสมาชิก:

19 มีนาคม 2011

โพสต์:

12,302

ค่าพลัง:

+12,628

นิวรณ์ said: ↑

มาถึงตรงนี้

ต้องยืม ภาษาพระ บางท่าน

โยนิโสมนสิการ หากไป ตรึก จะกลายเป็นเรื่อง ปัจจัยการ เป็นเหตุเป็นผล

" ธรรมของแท้ ไม่เกิดในภพ " อันนี้ ภาษา พระท่านหนึ่ง ท่านใช้อธิบาย

" ธรรมของแท้ เหนือเหตุ เหนือผล เหนือโลก เหนือวัฏ " อันนี้ ภาษา พระอีก
ท่านหนึ่งท่านใช้

" ธรรมใดหากเกิดจากจิต ออกมาจากจิต นั่น มันคือ ส่งจิตออกนอก ฝุ้งซ่าน " อันนี้
ภาษา พระอีกท่านหนึ่งท่านใช้

ดังนั้น ธรรมะแท้ๆ เวลาฟังธรรมนั้น ได้ยินธรรมนั้น ธรรมนั้นพ้นอยาตนะ6 พ้น
การตั้งขึ้นของ" ขันธ์ " ไม่อาศัยขันธ์ ไม่อาศัย ภพ แต่ก็ ได้ยินได้ ฟังได้ ชื่นใจ

ฟังแล้วก็ต้องฟังบ่อยๆ

กว่าจะเข้าถึง การเป็นผู้ฟังธรรม ไม่ใช่ ง่ายๆ ยังมีกระแสของมัน ที่ เหนือเหตุ
เหนือผล เหนือโลก พ้นโลก เข้ากระแสธรรม
Click to expand...

การเข้าถึงการเป็นผู้สดับธรรมแล้วเข้าใจธรรม เป็นเรื่องยาก
แต่การหาธรรมที่เหมาะควรแก่การสดับ ยากยิ่งกว่า

เมื่อใจเบากายเบา

ธรรมแท้ว่าง, 3 ตุลาคม 2014

#423
จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

12 พฤษภาคม 2011

โพสต์:

620

ค่าพลัง:

+697
คำกล่าวว่า “เหนือธรรมชาติ เหนือโลก” เป็นเพียงภาษาเรียกเพื่อใช้สื่อให้ระลึกรู้สภาวธรรมนั้นๆ

คือ การอยู่กับโลกแต่ไม่ติดโลก เป็นเพียงการดู การรู้ การอาศัยโลกเพื่อระลึกรู้อริยสัจ
ไม่ใช่การเข้าไปยึดเกาะในโลก ไม่ใช่การเข้าไปเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับโลก
แต่เป็นการปล่อยวางขันธ์๕ ไม่อาศัยขันธ์ให้เกิดภพเกิดวัฏะ
ถ้าปฏิบัติจนเหตุปัจจัยถึงพร้อม ญาณทัสสนะจะเกิด(เข้ากระแสธรรม)โดยขันธ์๕จะดับ ไม่ใช่เกินโลก

ที่ท่านพี่นิวรณ์ ยืมภาษาพระบางท่านมากล่าว พร้อมคำขยายความ เป็นภาษาเรียกที่แจ่มแจ้งลึกซึ้งมาก
Click to expand...

หากจะสนับสนุน คำว่า “เหนือธรรมชาติ เหนือโลก”

เข้าใจว่าจะเสนอเรื่อง พ้นโลก พ้นการปรุงแต่ง เลยเถิดไปพระนิพพาน

หากอยู่ในระดับทิฏฐิผู้ข้องโลก ภาษาของที่พยายามจะสื่อ ว่า "ธรรมของแท้"ให้พ้นโลก

บางที จะกลายเป็นเรื่องเพ่งออกนอกตัวไป หรือไปไกลถึง สสัตทิฏฐิ อุเฉททิฏฐิได้

คำว่า ธรรมชาติ นั้้น จิต เจตสิก รูป ก็ชื่อว่าธรรมแท้ได้ เป็นธรรมชาติที่ทำปริญญาได้

คือ การอยู่กับโลกแต่ไม่ติดโลก เป็นเพียงการดู การรู้ การอาศัยโลกเพื่อระลึกรู้อริยสัจ
ไม่ใช่การเข้าไปยึดเกาะในโลก ไม่ใช่การเข้าไปเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับโลก
แต่เป็นการปล่อยวางขันธ์๕ ไม่อาศัยขันธ์ให้เกิดภพเกิดวัฏะ
ถ้าปฏิบัติจนเหตุปัจจัยถึงพร้อม ญาณทัสสนะจะเกิด(เข้ากระแสธรรม)โดยขันธ์๕จะดับ ไม่ใช่เกินโลก
Click to expand...

ประโยคนี้ หากอยู่ในสภาวะประจักษ์แจ้ง เกิดท่าทีวางเฉยต่อโลก

เฉยต่อการปรุงแต่ง รับรู้ธรรมชาติตามกระบวนธรรมที่เป็นอยู่ของมัน

โดยฐานะว่า มันเป็นของมันอย่างนั้น เป็นเช่นนั้น ธรรมชาติเป็นอย่างนั้น

เพราะไม่มีผู้เข้าไปกระทำ ผู้ถูกกระทำก็ไม่มี

เมื่อโลกไม่มี เหนือโลก เหนือธรรมชาติ โดยการเปรียบเทียบย่อมไม่กล่าว

ญาณทัสสนะจะเกิด(เข้ากระแสธรรม)โดยขันธ์๕จะดับ ไม่ใช่เกินโลก
Click to expand...

ประยคนี้ผ่านขั้นตอนไปเยอะ เข้าใจว่ากล่าวโดยย่อ

คำว่า ญาณทัสสนะ เป็นเรื่องปัญญาญาณหยั่งรู้สภาวะ ตามลำดับญาณ

ก็เป็นเรื่องหยั่ง นามรูป ธรรมชาติไตรลักษณ์ นั้นก็ไม่ใช่สิ่งเหนือธรรมชาติ แต่เป็นเรื่องเข้าใจธรรมชาติมากกว่า

โดยขันธ์๕จะดับ ไม่ใช่เกินโลก
Click to expand...

ดับ ก็มีหลายสภาวะ ในที่นี้ยกเรื่องขันธ์ ๕ ดับ

มีหลายๆสำนัก ที่คาดหวังในลูกศิษย์ตนประจักษ์ความดับ เป็นอัน " ผ่าน "

ก็ต้องถามว่า ผ่านอะไรมา ปัญญาหยั่งอะไร มีท่าทีอย่างไรกับธรรมชาติ

บางคนผ่านการดับมา แต่กล่าวว่า ฉันไม่รู้อะไรในความดับ เพราะขันธ์๕ดับสนิท

แล้วนึกเอาว่า นี้คือ "สภาวะพ้นโลก " ชั่วขณะ

ก็ความดับ จะแน่ใจได้อย่างไรว่าไม่ใช่ " ภวังค "

ยืมภาษาพระบางท่านมากล่าว พร้อมคำขยายความ เป็นภาษาเรียกที่แจ่มแจ้งลึกซึ้งมาก
Click to expand...

มองมุมกลับ อาจเป็นเรื่องนกไม่เห็นฟ้า ปลาไม่เห็นน้ำก็ได้

จะมองว่าลึก หรือ จะติดอยู่ในหลุมลึก ก็ลองพิจจารณาดูเถิด

แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2014

เพศสมณะ : รักษาตน ชื่อว่ารักษาผู้อื่น

จิตสิงห์, 3 ตุลาคม 2014

#424
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
MindSoul1 เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

15 กันยายน 2012

โพสต์:

295

ค่าพลัง:

+496

นมัสการพระคุณเจ้า

ถ้าแปลตรงตัวก็จะได้ความหมาย เหนือธรรมชาติ เหนือโลก นะสิคะ
ในที่นี้ไม่ได้หมายความเช่นนั้นเจ้าค่ะ
แต่เป็นความหมายของภาษาเทียบเคียง ภาษาอุปมา เจ้าค่ะพระคุณเจ้า

พุทธวจน/จากพระโอษฐ์ 5 เล่ม : http://www.pobbuddha.com/tripitaka/*http://etipitaka.com/search*http://media.watnapahpong.org/

MindSoul1, 3 ตุลาคม 2014

#425
deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

16 มกราคม 2007

โพสต์:

0

ค่าพลัง:

+805

***ดับ ก็มีหลายสภาวะ ในที่นี้ยกเรื่องขันธ์ ๕ ดับ

มีหลายๆสำนัก ที่คาดหวังในลูกศิษย์ตนประจักษ์ความดับ เป็นอัน " ผ่าน "

ก็ต้องถามว่า ผ่านอะไรมา ปัญญาหยั่งอะไร มีท่าทีอย่างไรกับธรรมชาติ

บางคนผ่านการดับมา แต่กล่าวว่า ฉันไม่รู้อะไรในความดับ เพราะขันธ์๕ดับสนิท

แล้วนึกเอาว่า นี้คือ "สภาวะพ้นโลก " ชั่วขณะ

ก็ความดับ จะแน่ใจได้อย่างไรว่าไม่ใช่ " ภวังค "
***

นมัสการครับ
ความดับ มีอาการแตกต่างกันอย่างไรครับ

deemonster, 3 ตุลาคม 2014

#426
จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

12 พฤษภาคม 2011

โพสต์:

620

ค่าพลัง:

+697

jittinon said: ↑

***ดับ ก็มีหลายสภาวะ ในที่นี้ยกเรื่องขันธ์ ๕ ดับ

มีหลายๆสำนัก ที่คาดหวังในลูกศิษย์ตนประจักษ์ความดับ เป็นอัน " ผ่าน "

ก็ต้องถามว่า ผ่านอะไรมา ปัญญาหยั่งอะไร มีท่าทีอย่างไรกับธรรมชาติ

บางคนผ่านการดับมา แต่กล่าวว่า ฉันไม่รู้อะไรในความดับ เพราะขันธ์๕ดับสนิท

แล้วนึกเอาว่า นี้คือ "สภาวะพ้นโลก " ชั่วขณะ

ก็ความดับ จะแน่ใจได้อย่างไรว่าไม่ใช่ " ภวังค "
***

นมัสการครับ
ความดับ มีอาการแตกต่างกันอย่างไรครับ
Click to expand...

อยากจะทราบจากโยม MindSoul1 ซักหน่อยก่อน

เห็นหนักแน่น ในคำว่า " เหนือธรรมชาติ เหนือโลก "

เพศสมณะ : รักษาตน ชื่อว่ารักษาผู้อื่น

จิตสิงห์, 3 ตุลาคม 2014

#427
MindSoul1 เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

15 กันยายน 2012

โพสต์:

295

ค่าพลัง:

+496
โยนิโสมนสิการ ที่กล่าวไปแล้วเองเถิดค่ะ
ถ้าไม่เห็นประโยชน์ ก็โยนทิ้งไปเจ้าค่ะ
พุทธวจน/จากพระโอษฐ์ 5 เล่ม : http://www.pobbuddha.com/tripitaka/*http://etipitaka.com/search*http://media.watnapahpong.org/

MindSoul1, 3 ตุลาคม 2014

#428
จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

12 พฤษภาคม 2011

โพสต์:

620

ค่าพลัง:

+697

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ jittinon อ่านข้อความ
***ดับ ก็มีหลายสภาวะ ในที่นี้ยกเรื่องขันธ์ ๕ ดับ

มีหลายๆสำนัก ที่คาดหวังในลูกศิษย์ตนประจักษ์ความดับ เป็นอัน " ผ่าน "

ก็ต้องถามว่า ผ่านอะไรมา ปัญญาหยั่งอะไร มีท่าทีอย่างไรกับธรรมชาติ

บางคนผ่านการดับมา แต่กล่าวว่า ฉันไม่รู้อะไรในความดับ เพราะขันธ์๕ดับสนิท

แล้วนึกเอาว่า นี้คือ "สภาวะพ้นโลก " ชั่วขณะ

ก็ความดับ จะแน่ใจได้อย่างไรว่าไม่ใช่ " ภวังค "
***

นมัสการครับ
ความดับ มีอาการแตกต่างกันอย่างไรครับ
Click to expand...

ในเมื่อไม่ได้คำตอบ จากโยม MindSoul1

ก็จะวิสัชชนาว่า

ความดับ ที่ว่าดับสนิทในนิโรธสมาบัติ หมายถึงดับขันธ์ ๕ นั้น ที่คุณโยมMindSoul1 หมายถึง

เกิดได้กับพระอานาคามี และพระอรหันต์ ฝ่ายเจโตวิมุตติ

หากใครพรรณณาความดับ ก็ควรถามเขาว่า ท่านเจริญกรรมฐานใด พิจารณาอะไร อย่างไร ด้วยคุณอะไร

คำว่า อานาคามี แปลว่าผู้ออกจากเรือนแล้ว ไม่มาข้องกามคุณแล้ว

ส่วนความดับอีกอย่างที่หลงๆกัน คือ ภวังค

จิตจะกำหนดรู้ตอนก่อนดับ แล้วไม่รู้อะไรเลย เหมือนนอนหลับสนิทแล้วตื่น สดชื่น

พวกนี้สามารถกำหนดเวลาตื่นได้

อีกกรณี ในภังคญาณ สามาถกำหนดรู้ความดับของนามรูป

เห็นสิ่งที่ถูกกำหนดดับ จิตที่กำหนดรู้ก่อนหน้าก็ดับ ด้วยจิตที่กำหนดไปรู้ความดับ

จนเห็นแต่ความดับ เป็นอารมณ์

หาก ดับ ในลักษณะพ้นการปรุงแต่ง คงไม่ใช่ดับแบบไม่รู้อะไรเลย

เพศสมณะ : รักษาตน ชื่อว่ารักษาผู้อื่น

จิตสิงห์, 3 ตุลาคม 2014

#429
paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

24 เมษายน 2011

โพสต์:

2,480

ค่าพลัง:

+1,880
จิตสิงห์ said: ↑

ในเมื่อไม่ได้คำตอบ จากโยม MindSoul1

ก็จะวิสัชชนาว่า

ความดับ ที่ว่าดับสนิทในนิโรธสมาบัติ หมายถึงดับขันธ์ ๕ นั้น ที่คุณโยมMindSoul1 หมายถึง

เกิดได้กับพระอานาคามี และพระอรหันต์ ฝ่ายเจโตวิมุตติ

หากใครพรรณณาความดับ ก็ควรถามเขาว่า ท่านเจริญกรรมฐานใด พิจารณาอะไร อย่างไร ด้วยคุณอะไร

คำว่า อานาคามี แปลว่าผู้ออกจากเรือนแล้ว ไม่มาข้องกามคุณแล้ว

ส่วนความดับอีกอย่างที่หลงๆกัน คือ ภวังค

จิตจะกำหนดรู้ตอนก่อนดับ แล้วไม่รู้อะไรเลย เหมือนนอนหลับสนิทแล้วตื่น สดชื่น

พวกนี้สามารถกำหนดเวลาตื่นได้

อีกกรณี ในภังคญาณ สามาถกำหนดรู้ความดับของนามรูป

เห็นสิ่งที่ถูกกำหนดดับ จิตที่กำหนดรู้ก่อนหน้าก็ดับ ด้วยจิตที่กำหนดไปรู้ความดับ

จนเห็นแต่ความดับ เป็นอารมณ์

หาก ดับ ในลักษณะพ้นการปรุงแต่ง คงไม่ใช่ดับแบบไม่รู้อะไรเลย
Click to expand...

....ขอโอกาสนะครับหลวงพี่................ถ้าศึกษาแบบหนอนตำราอย่างผม.....ในอริยสัจสี่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ทุกข์ควรกำหนดรู้ ทุกขสมุทัยควรละ นิโรธควรทำให้แจ้ง.......ความดับทุกข์ คือ นิโรธ...เมื่อละตัณหาอันเป็นทุกข์สมทุทัย ย่อมแจ้งในนิโรธ.............ผมเข้าใจว่าตรงนี้มากกว่าครับ เมื่อ ตัณหาอันเป้นทุกข์สมุทัยถูกละอุปาทานขันธิ์ห้าอันเป็นทุกข์ ก็ ดับไปมีข้อน่า สังเกตุ ในภาษา คิดว่า เราเข้าใจ นิโรธ และ ความดับ ในลักษณะภาษาที่ไม่ตรงกันนัก นิโรธ ดับ เย็น ตรงนี้ต้องเป็น ความรู้ จากการปฎิเวธ เป็น แน่ ครับหลวงพี่ ว่าอย่างไร แต่ถึงอย่างไรในความเห็นของผม แจ้งในความดับทุกข์ได้ แต่ไม่ได้เป็นสมุทจเฉท จึง มีการเจริญมรรรคเป็นปรกติต่อไป

แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2014

paetrix, 3 ตุลาคม 2014

#430
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

24 เมษายน 2011

โพสต์:

2,480

ค่าพลัง:

+1,880

................ทุกข์สัจ ใน นัยคือ ขันธิ์ห้าที่มีอุปาทาน หรือ เรียกว่า อุปาทานขันธิ์ห้า ถ้า ดู ใน ปฎิจสมุปบาท---ตัณหา ปัจจย อุปาทาน

paetrix, 3 ตุลาคม 2014

#431
จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

12 พฤษภาคม 2011

โพสต์:

620

ค่าพลัง:

+697

paetrix said: ↑

....ขอโอกาสนะครับหลวงพี่................ถ้าศึกษาแบบหนอนตำราอย่างผม.....ในอริยสัจสี่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ทุกข์ควรกำหนดรู้ ทุกขสมุทัยควรละ นิโรธควรทำให้แจ้ง.......ความดับทุกข์ คือ นิโรธ...เมื่อละตัณหาอันเป็นทุกข์สมทุทัย ย่อมแจ้งในนิโรธ.............ผมเข้าใจว่าตรงนี้มากกว่าครับ เมื่อ ตัณหาอันเป้นทุกข์สมุทัยถูกละอุปาทานขันธิ์ห้าอันเป็นทุกข์ ก็ ดับไปมีข้อน่า สังเกตุ ในภาษา คิดว่า เราเข้าใจ นิโรธ และ ความดับ ในลักษณะภาษาที่ไม่ตรงกันนัก นิโรธ ดับ เย็น ตรงนี้ต้องเป็น ความรู้ จากการปฎิเวธ เป็น แน่ ครับหลวงพี่ ว่าอย่างไร
Click to expand...

ลองศึกษานิโรธดู จะละเอียดกว่า

ระหว่าง นิโรธสมาบัติด้วยอำนาจฌาณ

และ นิโรธ ดับความปรุงแต่ง

ลองดู ตทังคปหาน ปัญญาไปกำหนดรู้นามรูป ประจักษ์ความดับลงชั่วขณะ

และ วิขัมภนปหาน ดับด้วยกดข่ม ลักษณะของสมาธิดับนิวรณ์ธรรม

มันมีลักษณะให้รู้อยู่

เพศสมณะ : รักษาตน ชื่อว่ารักษาผู้อื่น

จิตสิงห์, 3 ตุลาคม 2014

#432
จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

12 พฤษภาคม 2011

โพสต์:

620

ค่าพลัง:

+697

paetrix said: ↑

................ทุกข์สัจ ใน นัยคือ ขันธิ์ห้าที่มีอุปาทาน หรือ เรียกว่า อุปาทานขันธิ์ห้า ถ้า ดู ใน ปฎิจสมุปบาท---ตัณหา ปัจจย อุปาทาน
Click to expand...

ย่อแคบเข้ามาอีกหน่อย อะไรคืออุปทานขันธ์

โลภะ ทิฏฐิ หรือเปล่า ที่เป็นเครื่องหมายให้กำหนดรู้ได้

ลองดูองค์ธรรมของอุปทานขันธ์

1.กามุปาทาน(ความติดข้อง)

2.ทิฏฐุปาทาน(ความเห็นผิด)

3.สีลัพพตุปาทาน (ข้อประพฤติปฏิบัติที่ผิด)

4.อัตตวาทุปาทาน(ความยึดถือว่าเป็นตัวตน)

เพศสมณะ : รักษาตน ชื่อว่ารักษาผู้อื่น

จิตสิงห์, 3 ตุลาคม 2014

#433
จิตสิงห์ เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

12 พฤษภาคม 2011

โพสต์:

620

ค่าพลัง:

+697

นิโรธ ดับ เย็น ตรงนี้ต้องเป็น ความรู้ จากการปฎิเวธ เป็น แน่ ครับหลวงพี่ ว่าอย่างไร
Click to expand...

ไม่ทราบ มีเย็นด้วยหรอ

เพศสมณะ : รักษาตน ชื่อว่ารักษาผู้อื่น

จิตสิงห์, 3 ตุลาคม 2014

#434
paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

24 เมษายน 2011

โพสต์:

2,480

ค่าพลัง:

+1,880

จิตสิงห์ said: ↑

ย่อแคบเข้ามาอีกหน่อย อะไรคืออุปทานขันธ์

โลภะ ทิฏฐิ หรือเปล่า ที่เป็นเครื่องหมายให้กำหนดรู้ได้

ลองดูองค์ธรรมของอุปทานขันธ์

1.กามุปาทาน(ความติดข้อง)

2.ทิฏฐุปาทาน(ความเห็นผิด)

3.สีลัพพตุปาทาน (ข้อประพฤติปฏิบัติที่ผิด)

4.อัตตวาทุปาทาน(ความยึดถือว่าเป็นตัวตน)
Click to expand...

อุปาทานย่อมเนื่องอยู่กับขันธิ์ห้า(รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาน) เพราะอุปาทานย่อมไม่อยู่ที่ใหนได้นอกจากขันธิ์ห้า........สิ่งที่ถูกละเมื่อกำหนดรู้ทุกขสัจ ย่อมเป็น ตัณหา อย่างแน่นอนครับหลวงพี่

paetrix, 3 ตุลาคม 2014

#435
paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

24 เมษายน 2011

โพสต์:

2,480

ค่าพลัง:

+1,880

จิตสิงห์ said: ↑

ลองศึกษานิโรธดู จะละเอียดกว่า

ระหว่าง นิโรธสมาบัติด้วยอำนาจฌาณ

และ นิโรธ ดับความปรุงแต่ง

ลองดู ตทังคปหาน ปัญญาไปกำหนดรู้นามรูป ประจักษ์ความดับลงชั่วขณะ

และ วิขัมภนปหาน ดับด้วยกดข่ม ลักษณะของสมาธิดับนิวรณ์ธรรม

มันมีลักษณะให้รู้อยู่
Click to expand...

..........กำหนดรู้ นามรูป น่าจะเป็น ทุกขสัจที่ควรกำหนดรู้ ส่วนของตัณหาน่าจะถูกละไปเพราะ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาน นั้น ตัวอุปาทานคือ ความพอใจนันทิราคะตัณหา ในขันธิ์ห้านั้นเอง....มหาสติปัฎฐานเองคือการกำหนดรู้ทุกข์ และ ละตัณหาอุปาทาน

แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2014

paetrix, 3 ตุลาคม 2014

#436
paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

24 เมษายน 2011

โพสต์:

2,480

ค่าพลัง:

+1,880
จิตสิงห์ said: ↑

ไม่ทราบ มีเย็นด้วยหรอ
Click to expand...

...........ขอประทานโทษ ครับ พิมพื เพลินไปหน่อย ครับ

paetrix, 3 ตุลาคม 2014

#437
- ถูกใจ x 1
- ดูรายการ
deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

16 มกราคม 2007

โพสต์:

0

ค่าพลัง:

+805

จิตสิงห์ said: ↑

ในเมื่อไม่ได้คำตอบ จากโยม MindSoul1

ก็จะวิสัชชนาว่า

ความดับ ที่ว่าดับสนิทในนิโรธสมาบัติ หมายถึงดับขันธ์ ๕ นั้น ที่คุณโยมMindSoul1 หมายถึง

เกิดได้กับพระอานาคามี และพระอรหันต์ ฝ่ายเจโตวิมุตติ

หากใครพรรณณาความดับ ก็ควรถามเขาว่า ท่านเจริญกรรมฐานใด พิจารณาอะไร อย่างไร ด้วยคุณอะไร

คำว่า อานาคามี แปลว่าผู้ออกจากเรือนแล้ว ไม่มาข้องกามคุณแล้ว

ส่วนความดับอีกอย่างที่หลงๆกัน คือ ภวังค

จิตจะกำหนดรู้ตอนก่อนดับ แล้วไม่รู้อะไรเลย เหมือนนอนหลับสนิทแล้วตื่น สดชื่น

พวกนี้สามารถกำหนดเวลาตื่นได้

อีกกรณี ในภังคญาณ สามาถกำหนดรู้ความดับของนามรูป

เห็นสิ่งที่ถูกกำหนดดับ จิตที่กำหนดรู้ก่อนหน้าก็ดับ ด้วยจิตที่กำหนดไปรู้ความดับ

จนเห็นแต่ความดับ เป็นอารมณ์

หาก ดับ ในลักษณะพ้นการปรุงแต่ง คงไม่ใช่ดับแบบไม่รู้อะไรเลย
Click to expand...

นมัสการครับหลวงพี่ พอจะอธิบาย อาการเจโตวิมุตติ ได้ไหมครับ
แล้วการกำเริบกลับหมายถึง อย่างไร

deemonster, 4 ตุลาคม 2014

#438
นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

วันที่สมัครสมาชิก:

3 กันยายน 2008

โพสต์:

9,055

ค่าพลัง:

+3,471

MindSoul1 said: ↑

นมัสการพระคุณเจ้า

ถ้าแปลตรงตัวก็จะได้ความหมาย เหนือธรรมชาติ เหนือโลก นะสิคะ
ในที่นี้ไม่ได้หมายความเช่นนั้นเจ้าค่ะ
แต่เป็นความหมายของภาษาเทียบเคียง ภาษาอุปมา เจ้าค่ะพระคุณเจ้า
Click to expand...

MindSoul1 said: ↑

โยนิโสมนสิการ ที่กล่าวไปแล้วเองเถิดค่ะ
ถ้าไม่เห็นประโยชน์ ก็โยนทิ้งไปเจ้าค่ะ
Click to expand...

ตอบคำถามแรก ยัง พอครึ่งๆ

ตอบคำถามสุดท้ายนี่ ถ้า...........

ถ้าปฏิบัติมาจริง ทำการเห็นไปเลย การดับนี่ ปฐมฌาณ ก็ดับ ขันธ์ ได้แล้ว

ยิ่งคำตอบของ คนปฏิบัตินี่ สิ่งที่ไปเห็น ญาณที่เกิดจากการเห็นอันเกิดจาก
อำนาจวิปัสสนา ก็จะ " สำรอก " ญาณนั้นออกไปด้วย

เพราะอะไร

เพราะ ญาณที่เกิดจากอำนาจวิปัสสนา ก็ถูกรู้ถูกดู จึงกลายเป็นการตามเห็น
" สัญญาดับ ญาณดับ "

สัญญาดับ อีกทั้ง ญาณปัญญาก็ดับ ตรงนี้ ดับขันธ์ได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
ด้วยอำนาจ สมาธิปฐมฌาณ เด็กๆ ก็เพียงพอ

ทำการเห็น การดับไม่เหลือ ไปแบบนี้ แล้ว คอยดู การกำเริบกลับไป

" จมบัญญัติ " ซึ่ง จะมีอยู่ เอามารู้มาดู เป็นแนวต้าน ก็จะ ค่อยๆ
ชัด โยนิโสมนสิการ ที่พ้นบัญญัติ การแสดงจากสัตว์หน้าไหนทั้งนั้น

มีแต่ รอยเท้านกในอากาศ ที่แสดงธรรมให้ฟัง ตลอดเวลา มีปิติ เป็นเครื่อง
หมาย มีการเฝ้นธรรมโดยไม่ได้เจตนาจงใจจะ ปรุงการปฏิบัติ เป็นตัวแสดง
" สัมโพชฌงค์ " ฟังธรรมแท้ๆ บ่อยๆ ก็พึง พึงพยากรณ์ ความสิ้นไปของ
" ปุถุชนไม่เคยสดับ " เนืองๆ

แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ตุลาคม 2014

สงครามพระ : สาป สูญ สิ้นซาก !!!

นิวรณ์, 4 ตุลาคม 2014

#439
ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

วันที่สมัครสมาชิก:

19 มีนาคม 2011

โพสต์:

12,302

ค่าพลัง:

+12,628

นิวรณ์ said: ↑

ตอบคำถามแรก ยัง พอครึ่งๆ

ตอบคำถามสุดท้ายนี่ ถ้า...........

ถ้าปฏิบัติมาจริง ทำการเห็นไปเลย การดับนี่ ปฐมฌาณ ก็ดับ ขันธ์ ได้แล้ว

ยิ่งคำตอบของ คนปฏิบัตินี่ สิ่งที่ไปเห็น ญาณที่เกิดจากการเห็นอันเกิดจาก
อำนาจวิปัสสนา ก็จะ " สำรอก " ญาณนั้นออกไปด้วย

เพราะอะไร

เพราะ ญาณที่เกิดจากอำนาจวิปัสสนา ก็ถูกรู้ถูกดู จึงกลายเป็นการตามเห็น
" สัญญาดับ ญาณดับ "

สัญญาดับ อีกทั้ง ญาณปัญญาก็ดับ ตรงนี้ ดับขันธ์ได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
ด้วยอำนาจ สมาธิปฐมฌาณ เด็กๆ ก็เพียงพอ

ทำการเห็น การดับไม่เหลือ ไปแบบนี้ แล้ว คอยดู การกำเริบกลับไป

" จมบัญญัติ " ซึ่ง จะมีอยู่ เอามารู้มาดู เป็นแนวต้าน ก็จะ ค่อยๆ
ชัด โยนิโสมนสิการ ที่พ้นบัญญัติ การแสดงจากสัตว์หน้าไหนทั้งนั้น

มีแต่ รอยเท้านกในอากาศ ที่แสดงธรรมให้ฟัง ตลอดเวลา มีปิติ เป็นเครื่อง
หมาย มีการเฝ้นธรรมโดยไม่ได้เจตนาจงใจจะ ปรุงการปฏิบัติ เป็นตัวแสดง
" สัมโพชฌงค์ " ฟังธรรมแท้ๆ บ่อยๆ ก็พึง พึงพยากรณ์ ความสิ้นไปของ
" ปุถุชนไม่เคยสดับ " เนืองๆ
Click to expand...

ท่านนิวรณ์ ได้โปรดมาคุยอีก ลุงแมวชอบวิธีการแสดง
ธรรมของท่าน สนุกแลเข้าใจดีถึงแม้บางครั้งจะค่อน
ข้างลึกซึ้ง ก็พอเข้าใจได้อยากอ่าน อยากฟังเรื่อยๆ
ครับ ออกมาหน่อยวันพระนี่แหละยิ่งควรแสดง เพราะ
กล่าวจริง กล่าวจริง ทั้งดุ้นทั้งดุ้น

เมื่อใจเบากายเบา

ธรรมแท้ว่าง, 8 ตุลาคม 2014

#440

(คุณต้องเข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน เพื่อที่จะโพสต์)

หน้า 22 ของ 23

แชร์หน้านี้

Loading...