มีใครตัดกามฉันทะ เเล้วกินข้าวอร่อยขึ้นมั้ย d^_^b

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย somkiatfem, 21 มกราคม 2017.

  1. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    มีใครตัดกามฉันทะ เเล้วกินข้าวอร่อยขึ้นมั้ย หรือจะมีความสุขลดลงบ้างไหม หรือมากขึ้นหรือ เท่าเดิม ครับ
     
  2. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ตัดกามฉันทะต้องทำยังไงคะ ?
     
  3. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,287
    กามฉันทะคือความพอใจในกามคุณ 5 หรือก็คือพอใจกับความสุขทางกาย มันยังมีความสุขที่เหนือกว่าคือสุขจากสมาธิ การละอาจจะไม่ได้หมายถึงไม่ได้รู้สึกถึงอารมณ์ชอบใจทาง ตา หู จมูก ลิ้น สัมผัสทางกาย แต่ไม่ได้ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก ให้ความสำคัญกับสุขที่ละเอียดกว่า
     
  4. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    สุขกว่าเดิมสิ

    แต่ถ้าพูดว่า สุขกว่าเดิมโดยเอา อาการสุขแบบ
    โลกๆมา เปรียบเทียบ อันนั้นแปลว่า คิดเอา
    ไม่ใช่ปฏิบัติ

    ถ้าสุข ยิ่งกว่า คำนี้จะเหมาะสม และ เอื้อให้เหนนัยยปฏิบัติ

    ที่จะเปนการสำรอก ห่างออก

    ความห่างออก คือ จิตโน้มไปในความสงัด

    ที่นี้ ยังเหลือการโน้มเพื่อ อนาสวะ ก้จะ มั่นคง
    ในการ ไม่กลับหลัง บ่ายหน้าสู่ มหาสมุทร
     
  5. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    :):):)
     
  6. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ทำไมเราแยกไม่ออกอ่ะ เหมือนว่ากินอย่างมีสติ ความอร่อยมันน้อยลง แต่กินอย่างเพลิดเพลินมันจะอร่อยมากกกกกกกกก:p
     
  7. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    ทุกข์สุข เป็นของติดกัน พอใจไม่พอใจติดกัน เมื่อยังรู้อร่อยมาก แปลว่ายังมีอยู่มาก เเต่ใช้กำลังสมาธิ กดกิเลสไว้ จิตไปจดจ่อที่รู้การกินเพียงเท่านั้น ถูกต้องเเล้ว

    อร่อยในที่นี้ คือ ไม่ต้องใช้กำลังสมาธิมาก เพราะกิเลสน้อยลง จิตสบาย อร่อยที่ เบา เเต่ถ้าจิตต้องบังคับจิตให้รู้ว่ากินหนอๆ ถ้าไม่บังคับจิตจะบอกว่าอร่อยๆหนอ หรือไม่หร่อยหนอ จิตมันดื้อ เราเหนื่อยต้องบังคับมันเครียดอยู่ ถ้ากิเลสน้อยลงเบา ก็กินเฉยๆ ไม่เหนื่อยจิต จิตไม่ดื้อ ไม่ซนไปตามกิเลส
     
  8. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    เวลาคุณกินอาหาร ถ้าคุณรู้ว่าร่างกายและเลือดเนื้อของสัตว์ที่อยู่ตรงหน้าเหล่านั้น ต้องตายทั้งๆ ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรเลย แค่เขาเห็นว่าเอามาทำเป็นอาหารให้คนกินได้ เขาก็ฆ่าด้วยกรรมวิธีต่างๆ ทั้งๆที่ทุกสรรพชีวิตต่างก็รักชีวิตด้วยกันทั้งนั้น อย่างเราป่วยก็ยังต้องการรับการรักษาเลย และต้องอย่างถูกวิธีที่สุดด้วย เช่นนั้นแล้วในการพลีชีพของสัตว์เหล่านั้น คุณคิดว่าคุณจะกินร่างกายและเลือดเนื้อของเขาอย่างเอร็ดอร่อยเพลิดเพลินได้อีกหรือไม่ล่ะครับ เท่าที่ตัวเองรับรู้ก็คือ กินอย่างมีสติขึ้น เขาตายไม่ได้มาให้เรากินกันเล่นๆ แน่ มันไม่คุ้มกันเลย (ความเห็นส่วนตัวคิดว่า อุทิศบุญให้พวกเขาบ้างก็ดี)
     
  9. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    ถูกของคุณครับ พูดไม่ผิดเลย เเต่เหมือนจะคลาดเคลื่อนจากจุดประสงค์ของกระทู้ไป ครับ ถ้าคุณอ่านไล่ลงมาน่าจะทราบได้ว่า อร่อย คืออะไรที่ มีหลายท่านได้คุยกันมาก่อนหน้านี้ครับ อันนี้ผมพูดเพื่อจะไม่ให้กระทู้มันไหลไปนอกประเด็น ที่คุณพูดก็ถือว่าดีมาก เป็นการเสริมไปครับให้กับผู้อื่นๆที่เข้าได้รับทราบต่อไป

    เเล้วที่ผมเขียนกระทู้นี้ขึ้นมาก็อยากทราบจิตว่ามีใครจะข้าใจไปในทิศทาง การตีความหมายได้เข้าใจมากน้อยเเค่ไหน ก็อยากรู้ว่า ใครเข้าถึงแบบไหน เห็นคุยกันมาก ก็จะได้ทราบว่า คนดี ก็มีหลายจริตที่เเตกต่าง เเต่ก็ดีเหมือนกันได้ ครับ
     
  10. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    ขออนุญาตนะครับ ขอขยายในสิ่งที่ผมโพสต์ไปแล้วตามที่อ้างอิงมานี้เพิ่มเติมอีกหน่อย เพื่อการสื่อความหมายจะได้ตรงกันมากขึ้นอีกหน่อย

    ส่วนนี้เป็นส่วนพิจารณาความได้มาซึ่งอาหารเหล่านั้นตามเหตุปัจจัยครับ อาจจะไม่จำเป็นต้องมีการได้มาในลักษณะนี้เสมอไป สำหรับกรณีนี้เมื่อหยิบยกขึ้นมาพิจารณา ทำให้เกิดการตระหนักในสรรพชีวิต ต่างก็มีคุณค่าของเขา เราเอาเนื้อหนังมังสาเขามากิน ควรทำยังไง ข้อนี้จึงเป็นการชวนพิจารณาเพื่อตัดกามฉันทะ

    ทีนี้ถ้าความตระหนักได้มันเกิด มีสติสักหน่อย จิตไม่ฟูไม่แฟบ หรือรู้ฟูรู้แฟบตามความเป็นจริง กามฉันทะมันควรจะคลาย ถูกตัดออกไป ไม่มีอยู่ในอารมณ์ ก็จะเป็นคำตอบเริ่มต้นของคำถามที่ว่า มีใครตัดกามฉันทะ ตัดยังไง ..ตัดแบบนี้ไปก่อนได้ไหม

    อันนี้ก็คือ ยกประสบการณ์ตรงของตัวเองให้อ่าน ถามมาว่า..แล้วกินข้าวอร่อยขึ้นไหมฯ ก็ตอบอย่างที่ตอบครับ

    ตรงนี้เป็นเพียงข้อเสนอแนะเพิ่มเติมครับ

    ตามนั้นครับ
     
  11. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    กามฉันทะเป็นหนึ่งในนิวรณ์ห้า มีแต่ระงับนิวรณ์ ไม่มีใครตัดได้ครับ
    จิตระงับนิวรณ์ ทำให้จิตตั้งมั่น..
     
  12. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    ถูกต้องตามจิตคุณครับ

    เรียนถาม
    พระอานาคามี คือผู้มีจริตอย่างไรครับ เป็นณาญโลกี ไหมครับ

    พระพุทธเจ้ามีนิวรณ์ ไหมครับ
     
  13. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ครับ ก็ต้องไปถามพระอนาคาเองแหละครับ

    แยกกันให้ออกแหละครับ กามฉันทะ กับ กามในสังโชยน์
    มันคนละอย่างกัน...

    พระพุทธเจ้าบอกไว้
    ก่อนตรัสรู้ท่านอยู่กับลมหายใจ
    หลังตรัสรู้ท่านก็อยู่กับลมหายใจ..เป็นวิหารธรรม
    ท่านอยู่ไปทำไป..เพราท่านยังแบกขั้นห้าอยู่ ยังกิน นอน นิ...
     
  14. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    ขอบคุณครับที่มาตอบ ผมยังไม่ได้คำตอบ(กามฉันทะ กับ กามในสังโชยน์มันคนละอย่างกัน...) เเละไม่ได้รับความชัดเจน เเต่ผมถือว่าคุณตอบเเล้วขอบคุณครับ ดีครับตอบเท่าที่คุณรู้
     
  15. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ครับ นั้น คุณไปค้นหาสังเกตุเอาเองแหละครับ
     
  16. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    นิวรณ์ 5 หมายถึง สิ่งที่ขวางกั้นจิตทำให้สมาธิไม่อาจเกิดขึ้นได้ มี 5 อย่างคือ
    1.กามฉันทะ คือ ความยินดี พอใจ เพลิดเพลินในกามคุณอารมณ์
    2. พยาบาท คือ ความโกรธ ความพยาบาท ความไม่พอใจ ขัดเคืองใจ
    3. ถีนมิทธะ แยกเป็นถีนะ คือ ความหดหู่ท้อถอย และมิทธะ คือ ความง่วงเหงาหาวนอน
    4. อุทธัจจกุกกุจจะ แยกเป็นอุทธัจจะคือความฟุ้งซ่านของจิต และกุกกุจจะคือความรำคาญใจ
    อุทธัจจะนั้นคือการที่จิตไม่สามารถยึดอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้เป็นเวลานาน จึงเกิดอาการฟุ้งซ่าน เลื่อนลอยไปเรื่องนั้นที เรื่องนี้ที
    5. วิจิกิจฉา คือ ความลังเลสงสัย ไม่แน่ใจ หรือไม่ปักใจเชื่อว่าสิ่งใดถูกสิ่งใดผิด หรือควรทำแบบไหนดี จิตจึงไม่อาจมุ่งมั่นในอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่งได้อย่างเต็มที่ สมาธิจึงไม่เกิดขึ้น


    พระอรรถกถาจารย์แสดงความหมายของพระอรหันต์ไว้ 5 นัย คือ
    1. ไกลจากกิเลส
    2. กำจัดกิเลสได้หมดสิ้น
    3. เป็นผู้หมดสังสารวัฏ คือ การเวียนว่ายตายเกิด
    4. เป็นผู้ควรแก่การบูชาพิเศษของเทพและมนุษย์ทั้งหลาย
    5. ไม่มีที่ลับในการทำบาป ไม่มีความชั่วเสียหายที่จะต้องปิดบัง
    ในวิภังคปกรณ์ระบุว่า กิเลสวัตถุ 10 ได้แก่[2]
    1. โลภะ ความอยากได้
    2. โทสะ ความคิดประทุษร้าย
    3. โมหะ ความหลง
    4. มานะ ความถือตัว
    5. ทิฏฐิ ความเห็นผิด
    6. วิจิกิจฉา ความลังเลสงสัย
    7. ถีนะ ความหดหู่
    8. อุทธัจจะ ความฟุ้งซ่าน
    9. อหิริกะ ความไม่ละอายบาป
    10. อโนตตัปปะ ความไม่เกรงกลัวบาป
    สรุปว่า กามฉันทะ คือตัวกิเลส พระ อานาคามีขึ้นไป หมด กามฉันทะ ส่วนกามฉันทะมีกี่แบบก็ย้อนไปดูนิวรณ์อีกครั้ง

    สำหรับประเด็นนี้ผมก็ขอจบการพิจาราณาเพียงเท่านี้ท่านผู้เจริญก็พยายามพิจาราณาใช้ปัญญานำกันต่อไป
     
  17. กล่องไม้ขีดไฟ

    กล่องไม้ขีดไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,815
    ครับ นั้นผมสรุปที่ผมเขียน
    นิวรณ์ก็คือนิวรณ์
    สังโยชน์ก็คือสังโยชน์
    คนละอย่าง..
     
  18. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    ผมสรุปมั่ง

    สรุปว่า เจ้าของกระทู้ เมาหมัด

    ตอนแรก คงได้สดับธรรมที่ถูกต้องมา ยังพอ ทรงจำไว้ได้

    เลย ตั้งคำถามถูกต้องว่า ละ กามฉันทะ ก็แค่เรื่อง รูป รส กลิ่น เสียง
    สัมผัส ธรรมารมณ์

    จึงได้ จำกัดปัญหาลงที่ถามว่า กินข้าวอร่อย หรือไม่อร่อย

    แต่ พอเมาหมัด ก็ เกิดอาการ อนาถามีกำเริบ ละกามฉันทะ
    กลายเป็นเรื่อง จุ๊กกรู้ ไปแล้ว ( เครื่องบิน JET อร่อยหรือไม่อร่อย )

    ไม่สามารถ ทรงธรรม วินัย สัททธรรม ไว้ได้ ปราสจากสามัญผล
     
  19. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    ทีนี้ ลอง ฟัง แนว อภิธรรม กันบ้าง

    การละ กามฉันทะ ขณะกินอาหาร หรือ กล่าวในเชิง
    อภิธรรม คือ ฌาณชวนะ เกิดในขณะ กำลังกินข้าว เพราะ กำหนดรู้
    ความห่างจาก จิตที่ขึ้นวิถีด้วยราคะ

    คือ ถ้า ผู้ภาวนากำลังทานข้าว แล้ว ภาวนาไปด้วย จนจิตเห็น
    " น้ำไหล แต่ นิ่ง " จิตมีราคะ ก็รู้ว่มีราคะ จิตไม่มีราคะ ก็รู้ว่า
    ไม่มีราคะ อาหารอร่อยก็รู้ว่าอร่อย อาหารไม่อร่อยกู้รู้ว่าไม่อร่อย
    ห่างจากความอร่อย เพราะ อร่อยเป็นธรรมอันมีเจตสิกราคะสัมปยุติ
    แล้วกำหนดรู้ จะเกิด ฌาณชวนะ ในขณะวิถีจิตแห่งการภาวนั้น
    จะเกิด ปิติ ทุกครั้งที่เคื้ยว(ตัวแทบลอยจากโต๊ะ อร่อยเหาะ ก็ว่าได้)
    ถ้าโมหะไม่แทรก พาลิ้นมาให้ฟันกัดตัดวิถีเจริญเสียก่อน จิตอาจจะ
    ลงภัวงค์บาท ของ ฌาณวิถีแล้วถ้าแนบได้นานพอ อาจจะเห็นเป็น
    อุคหนิมิตว๊าบ ปฏิภาคนิมิต มอ!!! หรือ อู๊ดๆ หรือ ..........ฯลฯ

    ก็จะ ทราบเองว่า อร่อย หรือไม่อร่อย ในความเพลิน แห่ง ป่าช้า
    [ จี จี จะมีเรื่อง ปฏิฆะ อีกเหล่าหนึ่ง แต่ ขอข้าม ]

    เมื่อทราบแล้ว ก็จะรู้ได้เองอีกว่า หนทางใดควรเจริญ หนทางใดควร
    เมาหมกว่า kuรู้ kuเห็น หนาสันติ เสกอุกกาบาติ สันติ หยุกตัวมู้ แยกตัวงู
    อะระขะมื ได้บ้างไม่มากก็น้อย
     
  20. somkiatfem

    somkiatfem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2016
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +195
    สวัสดีครับ ความเห็นของคุณทำให้อมยิ่มเสมอฮ่าๆ อ่านเเล้วอยากจะเข้าใจนะครับเเต่งง " จุ๊กกรู้ " คือคุณยังเน้นเอาความคิดของตนเองนำมาเเสดงใช้ปะครับ ผมฟังเเว้ปเเล้วนึกถึง นกขัน เลยงงว่าคุณจะสื่ออะไร มันเริ่มจะห่างออกจากประเด็น ถ้าคุณยังจำได้ผมเคยบอกคุณเเล้วว่าผมมักจะงงกับความเห็นของคุณ เเต่รู้สึกว่าหลังๆผมเเว้ปไปอ่านผ่านๆรู้สึกเข้าใจความเห็นของคุณมากขึ้นผมรู้สึกดี โดยย้อนไปดูว่าความคิดของใคร อ้อ ของคุณนี้เอง d^_^b (เพิ่งกลับมาเล่นเวปนี้)

    ขอเพิ่มเติม เมาหมัดคืออะไรครับ ความคิดเเบบนี้ของคุณ คืออะไรครับ ชกต้อยหรอครับ คุณมีความคิดเกี่ยวกับชกต้อยหรอครับ ถ้ามีคนถามพระพุทธเจ้า หรือพระสงฆ์ หรือใครๆก็ตาม เเล้วไม่ตอบคนในโลกนี้คงสื่อสารกันยาก เเต่ถ้าการตอบคือการตอบโต้ ชกต้อย คือความคิดของคุณเเล้วละมั่งครับ เเต่ผมไม่แปลกใจนะครับ ถ้าในโลกนี้จะมีคนแบบคุณ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มกราคม 2017

แชร์หน้านี้

Loading...