รัตนสูตร

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 29 มีนาคม 2007.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    รัตนสูตร 寶石經 คือ พระธรรมบท ปรากฎในอรรถกถารัตนสูตร

    รัตนสูตรของพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน และเถรวาทซึ่งในเนื้อหาในพระสูตรทั้งสองนั้นตรงกัน

    เดิมกรุงเวสาลี นครหลวงแห่งแคว้นวัชชี มั่งคั่งด้วยข้าวปลาธัญญาหาร อาณาประชาราษฎร์ร่มเย็นเป็นสุข จวบจนคราวหนึ่งในสมัยพุทธกาล เกิดฝนแล้งขาดแคลนอาหารถึงขนาดคนยากจนอดตาย ซากศพถูกทิ้งเกลื่อน พวกอมนุษย์ได้กลิ่น ก็พากันเข้าไปทำอันตรายซ้ำเติมทำให้คนตายมากขึ้น อหิวาตกโรคก็เกิดระบาด ทำให้คนตายเหลือที่จะคณานับ นครเวสาลีประสบภัย ๓ ประการพร้อมกัน คือ ทุพภิกขภัย (ข้าวยากหมากแพง) อมนุษย์ภัย (ผีรบกวน) และโรคภัย (เกิดอหิวาตกโรค)

    ชาวเมืองชวนกันร้องทุกข์ต่อพระราชาว่า การเกิดภัยร้ายแรงนี้ชะรอยผู้ครองรัฐจะประพฤติมิชอบ จึงเกิดยุคเข็ญเช่นนี้ พระราชาจึงโปรดให้ชาวเมืองประชุมกันที่ศาลากลางเมือง เพื่อวิจัยความผิดของพระองค์ก็ไม่พบความผิดของพระราชาเลย จึงปรึกษากันต่อไปว่าทำอย่างไรภัยร้ายแรง ๓ ประการนี้จึงจะสงบ ผลสุดท้าย จึงตกลงให้เชิญเสด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาโปรด

    เวลานั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับอยู่ที่กรุงราชคฤห์ แคว้นมคธ ในสมัยพระเจ้าพิมพิสาร ชาววัชชีเกรงพระเดชานุภาพของพระเจ้าพิมพิสาร จึงแต่งให้เจ้าลิจฉวี ๒ องค์เป็นราชฑูตคุมเครื่องบรรณาการไปถวายพระเจ้าพิมพิสาร ทูลความให้ทรงทราบ แล้วขอพระราชทานวโรกาสกราบทูลเชิญเสด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปโปรดชาววัชชีซึ่งก็ได้รับพระราชานุเคราะห์เป็นอันดี ทูตชาววัชชีได้เข้าเฝ้าพระพุทธองค์กราบทูลเล่าความทุกข์ยาก แล้ววิงวอนเชิญเสด็จไปโปรดชาวเวสาลีให้พ้นภัย

    พระบรมศาสดาทรงสดับดังนั้นแล้ว ทรงคำนึงเห็นว่า หากพระองค์ไปกรุงเวสาลีในครั้งนี้ จะได้ประโยชน์ถึง ๒ อย่าง คือ ภัยจะสงบไปอย่างหนึ่ง และชาววัชชีได้ฟังพระธรรมเทศนาแล้วจะได้ดวงตาเห็นธรรม บรรลุมรรคผลเป็นอันมาก อีกอย่างหนึ่งนับเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการแผ่พระศาสนา จึงทรงรับนิมนต์พระเจ้าพิมพิสารทรงทราบเช่นนั้น ก็โปรดให้รีบแต่งทางเสด็จพระพุทธดำเนินระยะทางจากกรุงราชคฤห์ถึงแม่น้ำคงคา อันเป็นพรมแดนแห่งแคว้นทั้งสองนั้น ๕ โยชน์ รับสั่งให้ปราบพื้นถมดิน ทำทางให้เรียบ ให้ปลูกที่ประทับแรมทุกโยชน์ เตรียมให้เสด็จวันละโยชน์ แล้วทูลเชิญเสด็จพระสังฆาสัมพุทธเจ้าเสด็จออกจากกรุงราชคฤห์ พร้อมด้วยภิกษุ ๕๐๐ รูป มีการส่งเสด็จอย่างเอิกเกริกมโหฬาร

    ฝ่ายกรุงเวสาลีมีความยินดีหาที่เปรียบมิได้ เตรียมการรับเสด็จเป็นการใหญ่ เมื่อเรือส่งเสด็จใกล้ฝั่งวัชชีเข้าไป บัดดลก็มีเมฆฝนมืดมาทั้ง ๔ ทิศ ฟ้าแลบแปลบปลาบ ครั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงย่างพระบาทแรกเหยียบดินที่ฝั่งแม่คงคาแดนวัชชี ฝนโบกขรพรรษก็ตกพรูลงมา ใครอยากเปียกก็เปียกใครไม่อยากเปียกก็ไม่เปียก ฝนตกมากและนาน น้ำไหลนองพัดพาสิ่งโสโครกต่าง ๆ ลงแม่น้ำลำคลองไปสิ้น ก็ชุ่มเย็นและสะอาดทั่วไปในแดนวัชชี โดยเฉพาะบริเวณกรุงเวสาลีอันเป็นแดนภัย การนำเสด็จจากฝั่งแม่คงคาถึงกรุงเวสาลีเป็นเวลา ๓ วันพอดี

    ครั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จถึงกรุงเวสาลี พระอินทร์พร้อมด้วยเทพบริวารเป็นอันมากก็มา ณ ที่นั้น ทำให้พวกอมนุษย์ต้องถอยร่นหลบหลีกไปเป็นอันมากพระผู้มีพระภาคเสด็จประทับยืนที่ประตูพระนครเวสาลี รับสั่งให้พระอานนท์เรียนรัตนสูตรแล้วให้เข้าไปทำปริตรภายในกำแพงสามชั้นแห่งกรุงเวสาลี พร้อมด้วยเจ้าชายลิจฉวีทั้งหลายติดตามห้อมล้อมไปด้วย พระอานนท์เรียนจำรัตนสูตร ซึ่งพระผู้มีพระภาคประทับยืนตรัสบอกที่ประตูเมืองได้แล้ว ก็ขอพุทธานุญาตใช้บาตรของพระองค์ใส่น้ำ เดินสวดรัตนสูตรพลางซัดน้ำในบาตรไปจนทั่วพระนคร

    พอพระเถระเจ้าสวดขึ้นบทยังกิญจิ วัตตัง พวกอมนุษย์หัวดื้อที่ไม่ยอมหนีไปแต่แรก ก็ทนอยู่ไม่ไหวอีกต่อไป ชิงกันหนีออกทางประตูเมืองทั้ง ๔ แน่นอัดยัดเยียด พอพวกอมนุษย์ออกไป โรคในตัวมนุษย์ก็หาย จึงพากันลุกออกมาบูชาพระเถรเจ้าด้วยเครื่องบูชาต่างๆได้เชิญเสด็จพระพุทธองค์ไปประทับที่ศาลากลางเมือง ภิกษุสงฆ์ คณะเจ้าลิจฉวี และราษฎรก็ไปเฝ้าที่นั่น แม้ท้าวสักกเทวราชก็ทรงพาเทวดาทั้งปวงมาเฝ้าด้วย ฝ่ายพระอานนท์เที่ยวทำการรักษาทั่ว

    กรุงเวสาลีแล้วก็มาเฝ้าที่นั่นมีชาวนครเวสาลีติดตามมาเฝ้าเป็นอันมากรวมเข้าด้วยกันเป็นมหาสมาคมพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสรัตนสูตรซ้ำอีกในมหาสมาคมนั้น เมื่อจบเทศนาสรรพอุปัทวันตรายภัยพิบัติก็สงบหาย ความสวัสดีและสุขกายสบายใจแผ่ไปทั่ว พุทธเวไนยได้ศรัทธาปสาทะและเกิดความรู้ธรรมเป็นอันมาก ฯลฯ แต่นั้นฝนก็ตกต้องตามฤดูกาล พืชพรรณธัญญาหารกลับอุดมเหมือนดังเดิม ด้วยอำนาจแห่งพระพุทธปริตร คือ รัตนสูตร ดังพรรณนามาฉะนี้

    ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข.
    เหล่าภูตทั้งหลายทั้งที่อยู่ ณ ภาคพื้นก็ดี ทั้งที่อยู่ในอากาศก็ดี ที่มาชุมนุมกันอยู่ ณ สถานที่นี้ก็ดี

    สัพเพวะ ภูตา สุมะนา ภะวันตุ
    ขอหมู่ภูตทั้งปวงนั้น จงเป็นผู้มีใจดีเถิด

    อะโถปิ สักกัจจะ สุณันตุ ภาสิตัง
    และเชิญฟังคำสดุดีพระรัตนตรัย อันข้าพเจ้ากล่าวโดยเคารพเถิด

    ตัสมา หิ ภูตา นิสาเมถะ สัพเพ
    ดูก่อนภูตทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแล ท่านทั้งหลายทั้งปวง จงฟังข้าพเจ้า

    เมตตัง กะโรถะ มานุสิยา ปะชายะ
    ขอท่านทั้งหลาย จงกระทำเมตตาจิต ในประชาชาวมนุษย์เถิด

    ทิวา จะ รัตโต จะ หะรันติ เย พะลิง
    ซึ่งเขาทั้งหลาย ทำเทวตาพลีอยู่ ทั้งกลางวันและกลางคืน

    ตัสมา หิ เน รักขะถะ อัปปะมัตตา
    เพราะเหตุนั้นแล ท่านทั้งหลาย จงเป็นผู้ไม่ประมาท ช่วยคุ้มครองรักษาเขาเหล่านั้นด้วยเถิด

    ยังกิญจิ วิตตัง อิธะ วา หุรัง วา
    ทรัพย์อย่างใดอย่างหนึ่งในโลกนี้ หรือในโลกอื่น

    สักเคสุ วา ยัง ระตะนัง ปะณีตัง
    หรือรัตนะใดอันสูงค่า ในสรวงสวรรค์

    นะ โน สะมัง อัตถิ ตะถาคะเตนะ
    ทรัพย์หรือรัตนะนั้นๆ ที่จะเสมอด้วยพระตถาคตเจ้า มิได้มีเลย

    อิทัมปิ พุทเธ ระตะนัง ปะณีตัง
    ข้อนี้ จัดเป็นรัตนะอันสูงส่ง ในพระพุทธเจ้า

    เอเตนะ สัจเจนะสุวัตติ โหตุ
    ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดีจงบังเกิดมีเถิด

    ขะยัง วิราคัง อะมะตัง ปะณีตัง ยะทัชฌะคา สักยะมุนี สะมาหิโต
    พระศากยมุนีเจ้า ทรงมีพระหฤทัยดำรงมั่น ได้บรรลุธรรมอันใด เป็นที่สิ้นกิเลส เป็นที่สิ้นราคะ เป็นอมตะอย่างแท้จริง

    นะ เตนะ ธัมเมนะ สะมัตถิ กิญจิ
    สิ่งใดๆที่เสมอด้วยพระธรรมนั้น ย่อมไม่มี

    อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง
    ข้อนี้ จัดเป็นรัตนคุณอันสูงส่ง ในพระธรรม

    เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ
    ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

    ยัมพุทธะเสฏโฐ ปะริวัณณะยี สุจิง
    พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด ทรงสรรเสริญสมาธิใด ว่าเป็นธรรมอันสะอาด

    สะมาธิมานันตะริกัญญะมาหุ
    บัณฑิตทั้งหลาย กล่าวถึงสมาธิใด ว่าให้ผลไม่มีสิ่งใดคั่นได้

    สะมาธินา เตนะ สะโม นะ วิชชะติ
    สมาธิอื่น ที่เสมอด้วยสมาธินั้น ย่อมไม่มี

    อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง
    ข้อนี้ ก็จัดเป็นรัตนคุณอันสูงส่งในพระธรรม

    เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ
    ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดีจงบังเกิดมีเถิด

    เย ปุคคะลา อัฏฐะ สะตัง ปะสัตถา
    บุคคลเหล่าใด นับเรียงองค์ได้เป็น ๘

    จัตตาริ เอตานิ ยุคานิ โหนติ
    นับเป็นคู่ได้ ๔ คู่ อันสัตบุรุษทั้งหลายสรรเสริญแล้ว

    เต ทักขิเณยยา สุคะตัสสะ สาวะกา
    บุคคลเหล่านั้น เป็นสาวกของพระสุคตเจ้า เป็นผู้ควรรับทักษิณาทาน

    เอเตสุ ทินนานิ มะหัปผะลานิ
    ทานทั้งหลาย ที่บุคคลถวายในท่านเหล่านั้น ย่อมมีผลเป็นอันมาก

    อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง
    ข้อนี้ จัดเป็นรัตนคุณอันสูงส่ง

    เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ
    ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

    เย สุปปะยุตตา มะนะสา ทัฬเหนะ นิกกามิโน โคตะมะสาสะนัมหิ
    บุคคลทั้งหลายเหล่าใด ประกอบความเพียรอย่างดี ดำเนินไปในศาสนา ของพระโคดมเจ้า ด้วยใจอันมั่นคง

    เต ปัตติปัตตา อะมะตัง วิคัยหะ
    บุคคลทั้งหลายเหล่านั้น หน่วงเอาพระนิพพานเป็นอารมณ์ ได้บรรลุคุณอันควรบรรลุ คือ พระอรหัตตผลแล้ว

    ลัทธา มุธา นิพพุติง ภุญชะมานา
    จึงได้เสวยอมตะรส คือ ความสงบเย็น จากความเร่าร้อนทั้งปวง

    อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง แม้ข้อนี้
    ก็เป็นรัตนคุณอันสูงส่งในพระสงฆ์

    เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ
    ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

    ยะถินทะขีโล ปะฐะวิง สิโต สิยา จะตุพภิ วาเตภิ อะสัมปะกัมปิโย
    เสาเขื่อนที่ฝังลงดิน อย่างมั่นคงแล้ว ลมทั้งสี่ทิศ ไม่พึงทำให้หวั่นไหวได้ ฉันใด

    ตะถูปะมัง สัปปุริง วะทามิ โย อะริยะสัจจานิ อะเวจจะ ปัสสะติ
    เราตถาคตกล่าวว่า สัตบุรุษผู้หยั่งเห็นอริยสัจธรรม ก็มีอุปมาฉันนั้น นั่นแล

    อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง
    แม้ข้อนี้ ก็เป็นรัตนคุณอันสูงส่ง ในพระสงฆ์

    เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ
    ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

    เย อะริยะสัจจานิ วิภาวะยันติ คัมภีระปัญเญนะ สุเทสิตานิ
    บุคคลเหล่าใด กระทำอริยสัจธรรมทั้งหลาย ที่พระบรมศาสดา ผู้มีปัญญาอันลึกซึ้ง ทรงแสดงดีแล้ว ให้แจ่มแจ้งแก่ตนได้

    กิญจาปิ เต โหนติ ภุสัปปะมัตตา
    บุคคลเหล่านั้น ถึงจะยังเป็นผู้ประมาทอยู่มาก

    นะ เต ภะวัง อัฏฐะมะมาทิยันติ
    แต่ท่านก็ย่อมไม่ถือเอา ซึ่งภพที่ ๘

    อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง
    แม้ข้อนี้ ก็เป็นรัตนคุณอันสูงส่ง ในพระสงฆ์

    เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ
    ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

    สะหาวัสสะ ทัสสะนะสัมปะทายะ ตะยัสสุ ธัมมา ชะหิตา ภะวันติ, สักกายะทิฏฐิ วิจิกิจฉิตัญจะ สีลัพพะตัง วาปิ ยะทัตถิ กิญจิ
    สังโยชน์ ๓ ประการ คือ สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา และสีลัพพตปรามาส ซึ่งเป็นกิเลสเครื่องผูกสัตว์ไว้ในภพ อันพระโสดาบันละได้แล้ว เพราะความถึงพร้อมแห่งญาณทัสนะ

    จะตูหะปาเยหิ จะ วิปปะมุตโต
    อนึ่ง พระโสดาบันเป็นผู้พ้นได้แล้ว จากอบายภูมิทั้ง ๔

    ฉะ จาภิฐานานิ อะภัพโพ กาตุง
    ทั้งไม่อาจที่จะทำอภิฐาน คือ ฐานะอันหนัก ๖ ประการ (คือ อนันตริยกรรม ๕ และการเข้ารีต)

    อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง
    แม้ข้อนี้ ก็เป็นรัตนคุณอันสูงส่งในพระสงฆ์

    เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ
    ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

    กิญจาปิ โส กัมมัง กะโรติ ปาปะกัง กาเยนะ วาจายุทะ เจตะสา วา
    พระโสดาบันนั้น ยังทำความผิดเล็กน้อยทางกาย ทางวาจา หรือทางใจ อยู่บ้างก็จริง

    อะภัพโพ โส ตัสสะ ปะฏิจฉะทายะ
    แต่เมื่อทำแล้ว ท่านเปิดเผย ไม่ปกปิดความผิดนั้นไว้

    อะภัพพะตา ทิฏฐะปะทัสสะ วุตตา
    ความที่บุคคลเข้าถึงกระแสพระนิพพานแล้วเป็นผู้ไม่ปกปิดความผิดไว้นี้ อันเราตถาคตกล่าวแล้ว

    อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง
    แม้ข้อนี้ ก็เป็นรัตนคุณอันสูงส่งในพระสงฆ์

    เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ
    ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

    วะนัปปะคุมเพ ยะถา ผุสสิตัคเค คิมหานะ มาเส ปะฐะมัสมิง คิมเห
    พุ่มไม้ในป่า แตกยอดในเดือนคิมหันต์แห่งคิมหันตฤดูฉันใด

    ตะถูปะมัง ธัมมะวะรัง อะเทสะยิ
    พระตถาคตเจ้า ได้ทรงแสดงธรรมอันประเสริฐ

    นิพพานะคามิง ปะระมังหิตายะ
    ซึ่งเป็นหนทางให้ถึงพระนิพพาน เพื่อประโยชน์อย่างยิ่งแก่สัตว์ทั้งหลาย ก็มีอุปมาฉันนั้น

    อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง
    แม้ข้อนี้ ก็เป็นรัตนคุณอันสูงส่ง ในพระสงฆ์

    เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ
    ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

    วะโร วะรัญญู วะระโท วะราหะโร
    พระตถาคตเจ้า ทรงเป็นผู้ประเสริฐ ทรงเป็นผู้รู้สิ่งอันประเสริฐ
    ทรงเป็นผู้ให้สิ่งอันประเสริฐ ทรงเป็นผู้นำมาซึ่งสิ่งอันประเสริฐ

    อนุตตะโร ธัมมะวะรัง อะเทสะยิ
    ทรงเป็นผู้ไม่มีใครยิ่งกว่า ได้ทรงแสดงแล้วซึ่งพระธรรมอันประเสริฐ

    อิทัมปิ พุทเธ ระตะนัง ปะณีตัง
    แม้ข้อนี้ ก็เป็นรัตนคุณอันสูงส่ง ในพระพุทธเจ้า

    เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ
    ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

    ขีณัง ปุราณัง นะวัง นัตถิ สัมภะวัง
    กรรมเก่า ของพระอริยบุคคลเหล่าใดสิ้นแล้ว กรรมสมภพใหม่ย่อมไม่มี

    วิรัตตะจิตตายะติเก ภะวัสมิง
    พระอริยบุคคลเหล่าใด มีจิตอันหน่ายแล้ว ในภพต่อไป

    เต ขีณะพีชา อะวิรุฬ หิฉันทา
    พระอรหันต์เหล่านั้น มีพืชคือวิญญาณสิ้นไปแล้ว ไม่มีความพอใจที่จะเกิดอีกต่อไป

    นิพพันติ ธีรา ยะถายัมปะทีโป
    เป็นผู้มีปัญญา ย่อมนิพพาน เหมือนดังดวงประทีปที่ดับไปฉะนั้น

    อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง
    แม้ข้อนี้ ก็เป็นรัตนคุณอันสูงส่ง ในพระสงฆ์

    เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ
    ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

    ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข.
    เหล่าภูตทั้งหลายทั้งที่อยู่ ณ ภาคพื้นก็ดี ทั้งที่อยู่ในอากาศก็ดี ที่มาชุมนุมกันอยู่ ณ สถานที่นี้ก็ดี

    ตะถาคะตัง เทวะสะนุสสะปูชิตัง พุทธัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุ
    เราทั้งหลายจงนมัสการพระพุทธเจ้าผู้มาแล้ว อันเทวดาและมนุษย์บูชาแล้ว ขอความสุขสวัสดีจงมีเถิด

    ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข.
    เหล่าภูตทั้งหลายทั้งที่อยู่ ณ ภาคพื้นก็ดี ทั้งที่อยู่ในอากาศก็ดี ที่มาชุมนุมกันอยู่ ณ สถานที่นี้ก็ดี

    ตะถาคะตัง เทวะสะนุสสะปูชิตัง ธัมมัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุ
    เราทั้งหลายจงนมัสการพระธรรมอันมาแล้ว อันเทวดาและมนุษย์บูชาแล้ว ขอความสุขสวัสดีจงมีเถิด

    ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข.
    เหล่าภูตทั้งหลายทั้งที่อยู่ ณ ภาคพื้นก็ดี ทั้งที่อยู่ในอากาศก็ดี ที่มาชุมนุมกันอยู่ ณ สถานที่นี้ก็ดี

    ตะถาคะตัง เทวะสะนุสสะปูชิตัง สังฆัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุ
    เราทั้งหลายจงนมัสการพระสงฆ์ผู้มาแล้ว อันเทวดาและมนุษย์บูชาแล้ว ขอความสุขสวัสดีจงมีเถิด

    พระพุทธเจ้าได้ประทับอยู่ที่เมืองไพศาลี และตรัสเทศนารัตนสูตรทุกวันรวม ๗ วัน เมื่อทรงเห็นว่าภัยทุกอย่างสงบเรียบร้อยแล้วจึงตรัสลากษัตริย์ลิจฉวีและชาววัชชีทั้งหลายเสด็จกลับราชคฤห์ครั้งนี้ มีประชาชนมาบูชาสักการะถวายแก่พระองค์เป็นการยิ่งใหญ่ เรียกว่า "คังโคโรหณสมาคม" คือการชุมนุมใหญ่ในโอกาสที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงแม่น้ำคงคา

    จาก
    http://community.buddhayan.com/index.php?topic=189.msg838#msg838
     
  2. chanin

    chanin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2005
    โพสต์:
    675
    ค่าพลัง:
    +1,331
  3. ไห่เฉากุหลาบไฟ

    ไห่เฉากุหลาบไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    896
    ค่าพลัง:
    +2,177
    เก็บๆๆๆกระทู้
     

แชร์หน้านี้

Loading...