เรื่องเด่น รู้จักสังเกตและเอามาใช้ (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย ษิตา, 28 พฤศจิกายน 2017.

  1. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,174
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,647
    882.jpg
    รู้จักสังเกตและเอามาใช้


    ถาม : ทำไมเวลาที่เรานั่งปฏิบัติของเราเอง กับเวลานั่งฟังอาจารย์ท่านสอน จึงมีความต่างกัน เวลาฟังอาจารย์แล้วเหมือนตัวเองจะก้าวหน้า แต่เวลาทำเองกลับไม่ใช่ ?

    ตอบ : ต้องสังเกตดี ๆ เวลาที่เรานั่งฝึกปฏิบัติกับตอนที่เราฟังนั้น สมาธิเราปักมั่นต่างกันอย่างไร ตอนที่เราฟังนี่เราเงี่ยหูฟัง ถ้าหากว่าบางท่านพูดเสียงเบาเราก็กลัวไม่ได้ยิน อันนั้นก็คือสมาธิ เราจะจดจ่อปักมั่นอยู่ตรงหน้า ถ้าหากว่าเป็นอย่างนั้น ถึงเวลาเราก็เอามาใช้ในลักษณะเดียวกัน ก็คือว่าทำอย่างไรตอนนั่งภาวนา ให้สมาธิเราปักมั่นอยู่ตรงหน้า เหมือนกับตอนที่เราตั้งใจฟัง ตรงนี้คือสิ่งที่เราต้องรู้จักสังเกตและเอามาแยกแยะ

    อย่างเวลาออกบิณฑบาต ระยะนี้ฝนตก มีบ้านโยมบางหลังบันไดชันมาก ๆ แล้วก็แคบด้วย จะขึ้นจะลงต้องระวังจนตัวลีบ ไม่เช่นนั้นมีหวังหัวทิ่มลงมา ผมบอกกับพระให้สังเกตอารมณ์ใจตนเองว่า ตอนที่เดินตามถนนธรรมดากับตอนที่เดินขึ้นบันได ช่วงที่คุณขึ้นลง สติ สมาธิและปัญญาของคุณอยู่ตรงไหน สติคุณต้องรู้ระมัดระวัง..ใช่ไหม ? ไม่อย่างนั้นแล้วเดี๋ยวจะลื่น เดี๋ยวจะล้ม ขณะเดียวกันสมาธิต้องปักมั่นอยู่ตรงหน้า มีการระมัดระวัง ปัญญาก็ต้องเกิด เราจะเหยียบตรงไหน เราจะเหยียบแง่ไหนถึงจะไม่ลื่นไม่ล้ม ถ้าหากว่าสามารถรักษากำลังใจแบบเดียวกับตอนขึ้นบันได คุณจะทำท่าไหนก็รักษาสมาธิอยู่กับตัวเองได้

    เพราะฉะนั้น..เรื่องอย่างนี้ต้องบอกให้เขารู้จักสังเกต ถ้าเราไม่ได้ผ่านมาเอง จะบอกเขาไม่ถูก ถ้าเรารู้จักสังเกตและหยิบเอาส่วนที่มีประโยชน์ไปใช้ เราก็จะก้าวหน้าได้เร็ว ถ้าไม่รู้จักสังเกตก็ไปได้ยาก เรื่องของการปฏิบัติ ยิ่งทำก็ยิ่งละเอียดขึ้นไปเรื่อย ๆ แม้กระทั่งเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ปล่อยผ่านไม่ได้ เพราะว่าอาจจะทำให้เราก้าวหน้าและก็อาจจะทำให้เราถอยหลังได้

    ในส่วนของรายละเอียดที่ผิดพลาด ถ้าหากเราเผลอไปทำเข้า ก็ถอยหลัง แต่ถ้าในรายละเอียดที่ถูกต้อง ถ้าเราปฏิบัติเข้าก็จะก้าวหน้า เพราะฉะนั้น..ยิ่งทำไปยิ่งต้องช่างสังเกต หาเหตุให้เจอ ถ้าเป็นเหตุที่ดีก็ให้ทำเหตุนั้นขึ้นมา ผลดีก็จะเกิด ถ้าเป็นเหตุที่ไม่ดีก็เลิกทำ ผลร้ายก็จะไม่เกิด

    ช่วงเดินไปกับช่วงที่เดินลงบันได เราเคยสังเกตไหมว่าต่างกันอย่างไร ? ถ้าสังเกตจะเห็นว่าต่างกัน บนพื้นตรงนี้เราเดินสบาย เรารู้ว่าไม่มีอะไรสะดุด ไม่มีอะไรให้ล้ม แต่ตอนเดินลงบันไดต้องระวัง สติก็จะไปจดจ่ออยู่ตรงหน้า ถ้ายิ่งตอนมืด ๆ นี่ สายตาจะต้องตามไปด้วยว่าจะตกบันไดหรือเปล่า ? ถ้าเรารู้จักสังเกตตรงนั้น แล้วหยิบออกมาใช้ในสภาพปกติ เราก็จะเห็นว่า สติ สมาธิ ปัญญา นั้น สามารถเอามาใช้ประโยชน์ได้ในทุกสถานการณ์

    สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนมิถุนายน ๒๕๕๒ ณ บ้านอนุสาวรีย์


    ที่มา วัดท่าขนุน
     
  2. Apinya Smabut

    Apinya Smabut นิพพานังสุขัง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    1,396
    กระทู้เรื่องเด่น:
    57
    ค่าพลัง:
    +2,628

แชร์หน้านี้

Loading...