รู้จัก สัตตานัง-วิญญาณ-มรรค..ท่านจะไม่ต้องไปพึ่ง ครู-อาจารย์-พระ-องค์ไหนเลย

อ่านดีหรือยัง ผมบอกว่า มีท่าทีส่งเสริมคำกล่าวผิดเหล่านั้น แล้วตอนนี้เริ่มกลัวความผิดไง เลยรีบโยนบาปกลับไปที่พระไง ไม่เห็นตัวเองเลย เอาน่ะ คุณเดี๋ยวก็ร้อน เดี๋ยวก็กระสับกระส่าย ผมไม่คุยกับคุณดีกว่า

 

ผมหยุดละครับ-เอาแค่ทำความจริงให้ปรากฏ-ให้รู้จักจำว่า ก่อนจะกล่าวหาใคร-ต้องมีข้อมูลที่ถูกต้องก่อน-
เสียคนไปอีกคน-ธรรมที่เรียนมากี่สิบปี-ไม่มีเหลือเลย-เมื่อถึงคราวที่ต้องใช้..สัจจะธรรม เข้าต่อกร กับความไม่จริง -มายาสาไถย์-โกหกปลิ้นปล้อนเอาตัวรอด-ก้ดูกันตรงสภาวะนี้แหละครับ
TBOON.. คุณไม่เหลืออะไรไว้ให้เด็กๆในเวบนี้-นับถือเลย ส่วนผมนะ คุณไปขุดมาได้เลย ผมเสมอต้น-เสมอปลาย-สัจจะ คือ เกราะป้องกันตนเองครับ-ยกเว้นพวกคนถ่อยที่มาใส่ความเท่านั้น ขี้เกลียดตอบ

 

ดูมันโพสต์ซิครับ..เพื่อนสมาชิก ช่วยตัดสินที อิอิไปละบายครับ

 

กะทู้นี้น่าอ่านมาก..ครบการปฏิบัติเบื้องต้น-ใช้ อาณาปณสติ..เป็นเสาเขื่อน-เสาหลัก ในการดูลม-กาย ไปในชีวิตประจำวันนะคัรบ

 

ถ้าตัดตรงไหนก็ได้ ปัจจยาการ12 แล้วธรรมทั้งหลายเกิดแต่เหตุ เมื่อเหตุดับผลจึงดับ ก็ไม่ถูกต้องสิครับ

 

ตัดตรงไหนก็ได้ เป็นตำราของอาจารย์วสิน อินทรสระ ผมก็เห็นด้วยนะครับ..หมายถึงปัจจุบันธรรมที่เกิดกับ จิต คุณขณะนั้นนะครับ ให้ตัดตรง ปัจจุบันธรรมเลย ก็ไม่เห็นผิดอะไร..ในเมื่อทั้ง12 ห่วงโซ่ของ ปฏจจะสมุปบาท เขารวมกันอยู่ใน จิตปัจจุบันธรรม-ที่เกิดกับคุณแล้วขณะนั้น มองดีๆ-มองลึกๆ-นะครับ
อนึ่ง ทั้ง อจ.คึกฤทธิ์และ อจ.วศิน นั้นคือคนที่เอาตำราเรื่อง ปฏิจจะสมุปบาท มาถ่ายทอดให้เราฟัง -หากอินทรีย์เราแก่กล้ากว่า-หรืออ่อนกว่า -อจ.ท่านทั้งสองท่าน- เราก็อาจจะมองเห็นต่างไปจากที่ท่านกล่าวมา ก็ไม่น่าสงสัยอะไรครับ
ใช้คำสอนของท่าน-มาเปรียบเทียบตามอินทรีย์หรือความรู้ของเราที่ฝึกเอง อัตตาหิอัตตโนนาโถครับ ..เราต้องตรวจสอบความรู้-ที่ได้มาด้วยตัวเราเองนี่คือ ปัจจัตตัง ครับ สาธุ[/QUOTE]

 

ลวกเพ่

กำหนดรู้ ความมีอินทรีย เข้ามาแว้ว หรือฮับ

ฝาก ลวกเพ่ พินา

อินทรียอย่างไร พละอย่างนั้น ด้วย คัฟ

ที่นี้

พอพินาแล้ว

พวกที่สอนกันว่า กำลังไม่พอๆ ชัวร์ หรือ มั่วเช็ดเป็ด

ฝากพินา สรุปแจ๊บ ไม่ต้องมาบอก ด้วย ฮะ


ปล. พุทธวจนในกรณีนี้คือ "อุปสม"

 

อุปสม..คืออะไรผมยังไม่ได้ฟังเลย อจ.มาแถลงด้วย ขอฟังธรรมหน่อย สาธุ

 

ก้โพสโน้นไง

ที่ตั้งใหม่

อย่าไปตีความ

รู้ไปตามที่ ปรากฏ ดีอยู่แว้ว

อุปสม ต่อด้วย อภิญาญะ
แล้วจึง สมโพธิ

ไม่ใช่สะสม

จบลง แต่ส่วนเดียว

ปู่สังเกต .....อินทรียอย่างไร พละอย่างนั้น
ไปก่อง ไม่ต้องกังวล กลัวไม่รู้เรื่อง

 

[/QUOTE]

มีกำลังตัดเหตุตรงไหนก็ไม่มีใครว่าผิดอะไรนี่ครับตรงตามมรรคที่เรียนกันมา ตามกำลังสติ อินทรีย์พละ แต่ว่าตัดตรงไหนแล้วพังทั้งวงจรที่คุณว่านั้นไม่ถูกต้องตามธรรม ปัจจยการนั้นว่าด้วยเหตุปัจจัย เหตุส่วนไหนดับ ผลของเหตุนั้นย่อมดับไปตามลำดับ เป็นรากฐานการพิจารณาปัจจยาการที่คุณนำเสนอใช่ไหมครับ

เช่นอยู่ๆจะไปรู้เท่า ดับสังขารละเอียดก็เป็นไปไม่ได้ จะไปดับปฏิสนธิวิญญานรูปนามเวทนาเลยก็ไปไม่ถึง สติปัฏฐานตั้งที่ผัสสะเวทนาสติปัฏฐานเกิดตัณหาดับ อุปาทานภพชาติทุกข์จึงดับ แต่สังขารละเอียด รูปนาม เวทนาดับไหมครับ ก็ต้องตามเหตุที่ดับผลจึงดับไป ตามกำลังสติอินทีย์พละที่เข้าไปถึงส่วนเหตุนั้นๆ

จะให้มองดีๆมองลึก ผมก็มองได้แค่นี้จะให้ว่าไง การเข้าถึงปัจจุบันจิตปัจจุบันธรรมของคนมันไม่เท่ากัน มันไม่เท่ากันนิครับ ปัจจัตตังของคุณก็เอามาเล่าได้ไม่มีใครว่าอวดนี่ครับ เชิญ สาธุ

 

มีกำลังตัดเหตุตรงไหนก็ไม่มีใครว่าผิดอะไรนี่ครับตรงตามมรรคที่เรียนกันมา ตามกำลังสติ อินทรีย์พละ แต่ว่าตัดตรงไหนแล้วพังทั้งวงจรที่คุณว่านั้นไม่ถูกต้องตามธรรม ปัจจยการนั้นว่าด้วยเหตุปัจจัย เหตุส่วนไหนดับ ผลของเหตุนั้นย่อมดับไปตามลำดับ เป็นรากฐานการพิจารณาปัจจยาการที่คุณนำเสนอใช่ไหมครับ

เช่นอยู่ๆจะไปรู้เท่า ดับสังขารละเอียดก็เป็นไปไม่ได้ จะไปดับปฏิสนธิวิญญานรูปนามเวทนาเลยก็ไปไม่ถึง สติปัฏฐานตั้งที่ผัสสะเวทนาสติปัฏฐานเกิดตัณหาดับ อุปาทานภพชาติทุกข์จึงดับ แต่สังขารละเอียด รูปนาม เวทนาดับไหมครับ ก็ต้องตามเหตุที่ดับผลจึงดับไป ตามกำลังสติอินทีย์พละที่เข้าไปถึงส่วนเหตุนั้นๆ

จะให้มองดีๆมองลึก ผมก็มองได้แค่นี้จะให้ว่าไง การเข้าถึงปัจจุบันจิตปัจจุบันธรรมของคนมันไม่เท่ากัน มันไม่เท่ากันนิครับ ปัจจัตตังของคุณก็เอามาเล่าได้ไม่มีใครว่าอวดนี่ครับ เชิญ สาธุ[/QUOTE]

ที่โพสต์ไปละเอียดพอ-อยู่แล้วครับ ถ้าให้อธิบายยาวแน่นอนครับเอาแค่นี้ก่อนละกันคัรบ