รู้จากตำราความรู้เอาไปละกิเลสไม่ได้

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย Muang99, 9 กรกฎาคม 2014.

  1. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    กระทู้หรือโพสต์แบบไหน ที่จัดว่าเป็นธรรมทาน

    แก่นแท้ของศาสนาพุทธ สอนให้คนทำความดี ละความชั่ว และทำจิตใจให้บริสุทธิ์

    ลักษณะของกระทู้/โพสต์ ที่จัดว่าเป็นธรรมทาน :

    กระทู้/โพสต์นั้น ช่วยเผยแผ่ธรรมะของพระพุทธเจ้า หรือของพระอรหันต์ หรือของพระอริยะ หรือพระสุปฏิปันโน หรือฆราวาสนักบุญ

    กระทู้/โพสต์นั้น มีส่วนทำให้คนรู้จักละอาย และเกรงกลัวต่อบาป

    กระทู้/โพสต์นั้น เกี่ยวกับบทสวดมนต์, คาถา

    กระทู้/โพสต์นั้น สอน/แนะนำ/ให้ความรู้ ในเรื่องของหลักการทำบุญ

    กระทู้/โพสต์นั้น สอน/แนะนำ/ให้ความรู้ ในเรื่องของศีล

    กระทู้/โพสต์นั้น สอน/แนะนำ/ให้ความรู้ ในเรื่องของสมาธิ

    กระทู้/โพสต์นั้น สอน/แนะนำ/ให้ความรู้ เกี่ยวกับการเจริญกรรมฐาน

    กระทู้/โพสต์นั้น สอน/แนะนำ/ให้ความรู้ เกี่ยวกับการเจริญวิปัสสนา

    กระทู้/โพสต์นั้น ได้ช่วยต่อยอดทางธรรม ให้กับคนอื่นๆ

    ฯลฯ

    ผมอ่านดูกระทู้หรือโพสต์ ที่เว็บพลังจิต ได้โพสต์ลงให้คนอ่าน บางกระทู้/โพสต์นั้น ไม่เข้าข่ายธรรมทาน วิทยาทานก็ไม่เชิง ออกแนวเอาไว้อ่านเล่น และบางกระทู้/โพสต์นั้น ก็ไม่ค่อยได้สาระอะไร (หรืออาจเป็นเพราะผมรู้อยู่แล้ว อ่านแล้วไม่ค่อยได้ต่อยอดทางธรรม) ก่อนจะเอามาลงควรคัดกรองก่อนดีไหม? หรือจะทำแบบที่ผ่านมา คือตามใจคนโพสต์ก็ตามใจน่ะ

    ควรหาแบบพิเศษๆ มาลง ที่ไม่ค่อยมีที่อื่น หรือแสดงธรรมเองได้ยิ่งดี แบบที่คนอื่นเขาสามารถหาผ่าน Google ได้กลาดเกลื่อนก็ไม่จำเป็นต้องนำมาลงแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มกราคม 2017
  2. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    ธรรมทั้งปวงไม่ควรยึดมั่น

    ปัญหา มีบางคนกล่าวว่า หัวใจของพระพุทธศาสนา คือ “ธรรมทั้งปวงที่ไม่ควรยึดมั่น” ดังนี้ พระพุทธองค์ตรัสเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้อย่างไร ?

    พุทธดำรัส ตอบ “.....ดูก่อนจอมเทพ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ได้สดับว่า ธรรมทั้งปวงไม่ควรยึดมั่น ถ้าข้อนั้นภิกษุได้สดับแล้ว ภิกษุนั้นย่อมทราบชัดธรรมทั้งปวงด้วยปัญญาอันยิ่ง ครั้นทราบชัดธรรมทั้งปวงด้วยปัญญาอันยิ่งแล้ว ย่อมกำหนดรู้ธรรมทั้งปวง ครั้นกำหนดรู้ธรรมทั้งปวงแล้ว เธอได้เสวยเวทนาอย่างใดอย่างหนึ่ง สุขก็ดี ทุกข์ก็ดี มิใช่ทุกข์มิใช่สุขก็ดี เธอย่อมพิจารณาเห็นว่าไม่เที่ยง พิจารณาเห็นความหน่าย พิจารณาเห็นความดับ พิจารณาเห็นความสละคืนในเวทนาทั้งหลายนั้น เมื่อพิจารณาเห็นดังนั้น ย่อมไม่ยึดมั่นสิ่งอะไร ๆ ในโลก เมื่อไม่ยึดมั่นย่อมสะดุ้งหวาดหวั่น ย่อมดับกิเลสให้สงบได้เฉพาะตัว และทราบชัดว่าชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี ดูก่อนจอมเทพ กล่าวโดย่อด้วยข้อปฏิบัติเพียงเท่านี้แล ภิกษุชื่อว่าน้อมไปแล้ว ในธรรมเป็นที่สิ้นแห่งตัณหา มีความสำเร็จอันยิ่งยวด ถึงที่สุดอันยิ่งยวด เป็นผู้ประเสริฐกว่าเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ฯ ”

    จูฬตัณหาสังขยสูตร มู. ม. (๔๓๙)
    ตบ. ๑๒ : ๔๗๐-๔๗๑ ตท.๑๒ : ๓๘๒-๓๘๓
    ตอ. MLS. I : ๓๑๐-๓๑๑

    Cr : ธรรมทั้งปวงไม่ควรยึดมั่น
     
  3. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    ของที่กินไม่รู้จักอิ่ม

    ปัญหา ของอะไรบ้าง ที่มนุษย์เสพแล้วไม่รู้จักอิ่ม ไม่รู้จักพอ ?

    พุทธดำรัสตอบ “..... ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความอิ่มในการเสพสิ่ง ๓ อย่าง ไม่มี ๓ อย่างเป็นไฉน คือ ในการเสพความหลับ ๑ ในการดื่มสุราและเมรัย ๑ ในการเสพเมถุนธรรม ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความอิ่มในการเสพสิ่ง ๓ อย่างนี้แล ไม่มี ฯ

    อติตตสูตร ติ. อํ. (๕๔๘)
    ตบ. ๒๐ : ๓๓๕ ตท. ๒๐ : ๒๙๒-๒๙๓
    ตอ. G.S. I : ๒๓๔-๒๔๐

    Cr : ของที่กินไม่รู้จักอิ่ม
     
  4. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    nt238.gif

    ขอในสิ่งที่ไม่ควรขอ

    ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่อัคคาฬวเจดีย์เมืองอาฬวี ทรงปรารภกุฏิการสิกขาบทที่ภิกษุชาวเมืองอาฬวีพากันสร้างกุฏิด้วยการเที่ยวขอไม่มีขีดจำกัด เป็นเหตุให้ชาวเมืองอาฬวีเดือดร้อนเห็นพระภิกษุที่ไหนก็กลัวหลบหนีหน้าไปหมด พระองค์จึงตรัสติเตียนพวกภิกษุว่า " ภิกษุทั้งหลาย ขึ้นชื่อว่าการขอ อย่าว่าแต่มนุษย์เลย แม้พวกนาคในนาคภิภพ ก็ไม่ชอบใจ " แล้วทรงนำอดีตนิทานมาสาธก ว่า...

    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระโพธิสัตว์เกิดเป็นพราหมณ์ในตระกูลมั่งคั่งมีทรัพย์สมบัติมากตระกูลหนึ่ง ท่านมีน้องชายอยู่คนหนึ่งรักกันมาก ต่อมาเมื่อมารดาบิดาเสียชีวิตแล้ว พราหมณ์สองพี่น้องก็พากันสละทรัพย์สมบัติบริจาคทานออกบวชเป็นฤาษีบำเพ็ญพรตอยู่ฝั่งแม่น้ำคงคา ฤาษีพี่ชายอยู่ทางทิศเหนือของแม่น้ำ ส่วนฤาษีน้องชายอยู่ทางทิศใต้ของแม่น้ำ

    อยู่มาวันหนึ่ง พญานาคมณิกัฏฐะได้แปลงเพศเป็นชายหนุ่มเที่ยวเล่นไปตามฝั่งแม่น้ำคงคา ผ่านไปถึงอาศรมของฤาษีผู้น้องจึงแวะเข้าไปสนทนาปราศรัยด้วยเกิดความสนิทสนมคุ้นเคยชอบพอกันกับฤาษีผู้น้องนั้น จึงเทียวมาเยี่ยมเยือนทุกวันมิได้เว้น เมื่อสนทนาเสร็จก่อนจะกลับก็จะคืนร่างเป็นพญานาคเอาขนดหางตะหวัดรัดรอบฤาษีแผ่พังพานไว้เหนือหัวด้วยความสิเนหาในฤาษีนั้น นอนพักอยู่หน่อยหนึ่งแล้วค่อยคลายร่างออกไหว้ฤาษีแล้วจึงกลับนาคพิภพ จะเป็นเช่นนี้ประจำ

    ฤาษีนั้นทุกครั้งที่ถูกรัดตัวเกิดความกลัวจึงกินไม่ได้นอนไม่หลับจนร่างกายซูบซีดผ่ายผอมลงทุกวัน วันหนึ่ง ท่านได้แวะไปหาฤาษีพี่ชาย เล่าเรื่องให้ฟังแล้วปรับทุกข์กับพี่ชายว่า " ผมไม่อยากให้พญานาคมาหาผมเลย พี่ช่วยผมหน่อยซิ" พี่ชายถามว่า " พญานาคเวลามา มีเครื่องประดับอะไรไหมละ" " ประดับแก้วมณีมาครับพี่" ท่านตอบพี่ชาย ฤาษีพี่ชายจึงแนะนำว่า " เมื่อพญานาคมาถึงอาศรมของท่าน ยังไม่ทันได้ไหว้ ท่านก็ขอแก้วมณีของมันเลย มันก็จะหนีไป วันที่สองพอมันมาถึงประตูอาศรมเท่านั้น ท่านก็เอ่ยปากขอแก้วมณีของมันอีก พอถึงวันที่สาม ท่านไปยืนดักรอที่ฝั่งแม่น้ำ พอมันโผล่หัวขึ้นจากฝั่งแม่น้ำเท่านั้น ท่านก็เอ่ยปากขอแก้วมณีอีก ทีนี้แหละมันก็จะไม่มารบกวนท่านอีกเลย "

    ฤาษีผู้น้องได้ทำตามนั้น ในวันที่ ๓ พญานาคขณะยืนอยู่ในน้ำเมื่อถูกฤาษีขอแก้วมณีอีก จึงพูดว่า " ท่านฤาษี ข้าวและน้ำอันไพบูลย์ยิ่งมีแก่ข้าพเจ้าก็เพราะแก้วมณีดวงนี้ ข้าพเจ้าจักให้แก้วมณีแก่ท่านได้อย่างไร ท่านก็ยิ่งขอหนักขึ้น ต่อแต่นี้ไปข้าพเจ้าจักไม่มาอาศรมของท่านอีกแล้วละ เมื่อท่านขอแก้วมณีดวงนี้ทำให้ข้าพเจ้าหวาดเสียวเหมือนชายหนุ่มถือดาบอันคมกริบ "

    กล่าวจบก็ดำน้ำลงไปนาคพิภพไม่กลับมาที่นั้นอีกเลย

    ฝ่ายฤาษี เมื่อพญานาคไปแล้วไม่มาหาอีกกลับคิดถึง เกิดความเศร้าเสียใจมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม จึงยิ่งซูบผอมลงไปมากกว่าเดิมอีก หลายวันต่อมาฤาษีพี่ชายอยากจะทราบเรื่อง จึงแวะมาที่อาศรมน้องชาย เมื่อเห็นน้องชายแล้วยิ่งตกใจจึงถามถึงสาเหตุ ฤาษีน้องชายจึงตอบเป็นคาถาว่า
    " บุคคลไม่ควรขอสิ่งที่รู้ว่าเป็นที่รักของเขา
    อนึ่ง เพราะขอเกินไปย่อมเป็นที่เกลียดชัง
    นาคราชถูกฤาษีขอแก้วมณี จึงไม่หวนกลับมาให้ฤาษีเห็นอีกเลย
    "

    ฤาษีพี่ชายได้ปลอบน้องชายให้หายเศร้าเสียใจแล้วจึงกลับอาศรมของตน ฤาษีสองพี่น้องบำเพ็ญฌานสมาบัติได้ไปเกิดในพรหมโลกในที่สุด

    * เรื่องที่ ๓ ในสังกัปปวรรค หน้า ๒๒ - ๒๙ พระสูตรและอรรถกถาแปล ขุททกนิกายชาดก เล่มที่ ๓ ภาคที่ ๔

    ที่มา : หนังสือนิทานชาดก เล่มที่ ๒ โดย พระมหาสุนทร สุนฺทรธฺมโม (เสนาซุย)

    Cr : ขอในสิ่งที่ไม่ควรขอ
     
  5. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    การเกิดเป็นผู้ชายนั้น จัดว่ามีบารมีมากกว่าผู้หญิง

    ในสถานปฏิบัติธรรม ที่เขาที่สวยงาม ที่ จ.กาญจนบุรี ฝ่ายผู้ปฏิบัติธรรมผู้หญิง จะต้องไหว้ผู้ปฏิบัติธรรมผู้ชาย เพราะถือว่าผู้ชายนั้นมีบุญบารมีมากกว่า

    และผู้ชายนั้น สามารถบวชเป็นพระได้ แต่ผู้หญิงไม่สามารถบวชเป็นพระได้
     
  6. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    กำลัง ๕ ของสตรี

    ความทุกข์โดยเฉพาะของสตรี

    "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความทุกข์โดยเฉพาะของสตรี (มาตุคาม) ๕ อย่างเหล่านี้ ซึ่งสตรีได้รับต่างหากจากบุรุษ คือ

    ๑. สตรีเมื่อเป็นสาวไปสู่สกุลแห่งสามี ย่อมพลัดพรากจากญาติทั้งหลาย นี้เป็นทุกข์โดยเฉพาะของสตรีข้อแรก ซึ่งสตรีได้รับต่างหากจากบุรุษ
    ๒. สตรีย่อมมีระดู (ประจำเดือน) นี้เป็นทุกข์โดยเฉพาะสตรีข้อที่สอง ซึ่งสตรีได้รับต่างหากจากบุรุษ
    ๓. สตรีย่อมมีครรภ์ (ตั้งครรภ์) นี้เป็นทุกข์โดยเฉพาะของสตรีข้อที่สาม ซึ่งสตรีได้รับต่างหากจากบุรุษ
    ๔. สตรีย่อมคลอดบุตร นี้เป็นทุกข์โดยเฉพาะของสตรีข้อที่สี่ ซึ่งสตรีได้รับต่างหากจากบุรุษ
    ๕. สตรีย่อมทำหน้าที่บำเรอบุรุษ นี้เป็นทุกข์โดยเฉพาะของสตรีข้อที่ห้า ซึ่งสตรีได้รับต่างหากจากบุรุษ
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความทุกข์โดยเฉพาะของสตรี ๕ อย่างเหล่านี้แล ซึ่งสตรีได้รับต่างหากจากบุรุษ."

    กำลัง ๕ ของสตรี

    "ดูก่อนภิกษุทั้หลาย กำลัง ๕ ของมาตุคามเหล่านี้ คือ

    ๑. กำลังคือรูป
    ๒. กำลังคือทรัพย์
    ๓. กำลังคือญาติ
    ๔. กำลังคือบุตร
    ๕. กำลังคือศีล
    นี่แลคือกำลัง ๕ ของสตรี
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สตรีประกอบด้วยกำลัง ๕ เหล่านี้แล้ว ย่อมเป็นผู้องอาจ ครองเรือน, ย่อมข่มสามี ครองเรือน, ย่อมครอบงำสามี ครองเรือน."

    บุรุษประกอบด้วยอะไรจึงครอบงำสตรีได้

    "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุรุษประกอบด้วยกำลังข้อเดียว ก็ครอบงำสตรีได้ กำลังข้อเดียว คือ อิสสริยพละ กำลังคือความเป็นใหญ่ สตรีที่ถูกกำลังคือความเป็นใหญ่ครอบงำแล้ว กำลังคือรูปก็ต้านทานไม่ได้ กำลังคือทรัพย์ก็ต้านทานไม่ได้ กำลังคือญาติก็ต้านทานไม่ได้ กำลังคือบุตรก็ต้านทานไม่ได้ กำลังคือศีลก็ต้านทานไม่ได้."

    Cr : กำลัง ๕ ของสตรี
     
  7. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    พระครูบาพรชัย วรปัญโญ วัดพระธาตุหมอกมุงเมือง อรหันต์ตนบุญ พระโปรดโลก แห่งจังหวัดเชียงราย ที่หลวงพ่อฤาษีฯพยากรณ์ไว้ให้ลูกศิษย์คณะหนึ่งตามหาเพราะมีบุญร่วมกัน ท่านพยากรณ์ว่าจะมีพระอรหันต์มาอยู่ที่ชายแดน อ.เทิงกับอ.พญาเม็งราย ให้ตามหาให้เจอ และก่อนหลวงพ่อดาบส สุมโน อาศรมไผ่มรกต จะมรณะภาพบอกไว้ว่าหากสิ้นท่านให้ขึ้นหาองค์นี้....ครูบาท่านบอกว่า "ใครมีบุญก็ไปพบท่านเองครับไม่ต้องชวน"...

    พระผงรูปเหมือนพระครูบาพรชัยนี้ สร้างโดยศิษย์ก้นกุฏิหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ มาถวายครูบา ซึ่งมวลสารที่ได้นำมาสร้างพระนี้ได้แก่...

    - ผงไม้จันทร์หอมจากพม่าและอินเดีย
    - ผงไม้กาฝาก
    - ผงจักรพรรดิหลวงปู่ดู่
    - พระบรมสารีริกธาตุ
    - เกศาพระครูบาพรชัย
    - และอื่นๆอีกมากมาย ฯลฯ

    พระผงทั้งหมดนี้เก็บไว้ในโบสถ์สมเด็จองค์ปฐมฯทรงเครื่องบรมจักรพรรดิ มาเป็นระยะเวลา 2 ปีกว่า ซึ่งในโบสถ์นี้เป็นที่ทำวัตรของครูบาทั้งเช้า และเย็นของทุกวัน

    ถ้าสนใจเช่าบูชาพระผงครูบาพรชัย ก็ไปดูได้ที่กระทู้นี้ครับ :
    http://palungjit.org/threads/พระผงครูบาพรชัย-วรปัญโญ-วัดพระธาตุหมอกมุงเมือง.574679/
     
  8. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    [​IMG]
    อย่างที่ตั้งกระทู้ครับ....กับ "ล๊อกเก็ตครูบาพรชัย วรปัญโญ" วัดพระธาตุหมอกมุงเมือง อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย..ท่านผู้จัดสร้างตามขอสร้างมากว่าสองปีเมื่อปีที่แล้วท่านถึงอนุญาตให้สร้างได้ โดยกำหนดให้สร้างเพียง 2557 อันตามปีที่ท่านอนุญาต โดยไม่ให้สร้างเกิน....ช่างที่จัดทำขอสร้างเผื่อกันเสียจากเผา ท่านไม่อนุญาตบอกให้สร้างเท่านั้น ทำออกมาเสร็จช่างยกมือใส่หัวครับ เพราะว่าล๊อกเก็ตทุกอันไม่มีเสียมีแตกแม้แต่อันเดียว จนช่างกล่าวว่า "ครูบาองค์นี้ไม่ธรรมดา" เพราะปกติหากเผาแล้วอย่างน้อยต้อง20-40 เปอร์เซ็นต้องเสียหายบิ่นชำรุดหรือแตกแต่ของครุบาสมบูรณ์หมดทุกอันซึ่งช่างก็ไม่เคยเจอเช่นกัน......ถ้าถามตัวผมแล้วผมรับใช้ครูบามานานกว่าสิบห้าปีแล้วครับ เห็นคนมาพึ่งบารมีท่านมากมายจนนับไม่ไหวตั้งแต่เจ้าใหญ่นายโตจนถึงยาจกเข็ญใจท่านเมตตาหมดไม่มีเลือกชั้นวรรณะ ล๊อกเก็ตรุ่นแรกองค์ละสามหมื่นสี่หมื่นมีคนบูชานะครับขอบอกเพราะประสบการณ์เล่าไม่จบ เจ้าของธุรกิจใหญ่ของเมืองไทยหากเอ่ยชื่อแล้วเป็นต้องร้องอ๋อกันทุกคนยังแขวนเดี่ยวล็อกเก็ตครูบาครับเพราะบารมีท่านพลิกธุรกิจที่ย่ำแย่ไม่ไหวแล้วให้กลับกลายมามีผลกำไรมหาศาล
    ......ล๊อกเก็ตชุดนี้มีคนสร้างถวายครูบาเพื่อหาปัจจัยสร้างหอคำหลวงที่วัด โดยแบ่งเป็นสองอย่างคือ 1.หลังแผ่นทองคำ และ2.หลังแผ่นทองแดง ล็อกเก็ตรุ่นนี้ไม่มีการโฆษณาประกาศใดๆคนที่รู้เท่านั้น เอาเป็นว่า"คนมีบุญวาสนาเท่านั้นถึงจะได้ห้อยของท่าน" เพราะกว่าจะได้สร้างแต่ละครั้งถ้าครูบาไม่อนุญาตไม่มีทางที่จะได้สร้างแอบสร้างมีแต่อันเป็นไปทั้งสิ้น(เรื่องจริงครับ)
    .......ท่านเสกเมื่อวันพฤหัสที่แล้วด้วยองค์ท่านเองแบบเรียบๆง่ายๆ แล้วออกให้บุชาวันศุกร์ ข่าวเร็วมากครับคนมาจากทุกสารทิศใกล้ไกลแย่งกันหูดับตับไหม้ 5วันจาก 2557 องค์ วันนี้เหลืออีกเพียง 400 องค์เท่านั้นครับ.....แม้แต่พระสังฆะผู้ใหญ่บางองค์ถึงขั้นฝากพระผู้น้อยมาบูชาเลยทีเดียวครับ บารมีครูบาท่านมีเพียงใดผมก็สุดประมาณได้เอาเป็นว่ารูปท่านแม้แต่ไฟยังไม่สามารถเผาผลาญได้ก็แค่นั้น คนตกต่ำท่านก็ช่วยให้พลิกฟื้นได้ คนที่บูชาของท่านมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง ปัญหาต่างๆในชีวิตคลี่คลายอย่างอัศจรรย์ ใครบูชาของๆท่านท่านตามดูแลตลอดครับรับรองได้.....ไม่รู้นะส่วนตัวผมเชื่อว่าของๆครูบาท่านใครบูชาแล้วไม่ดีเป็นไม่มีครับ และนี่เป็นครั้งแรกที่ครูบาท่านให้ใช้ยันต์ประจำตัวองค์ท่านคือ "ยันต์พระเจ้าเปิดโลก"ประดิษฐานด้านหลังล๊อกเก็ต ซึ่งครูบาเคยบอกไว้ว่าเอายันต์นี้เข้าไปที่ไหนเปิดหมด ทำอะไรก็เปิดทางดีหมด และอีกหนึ่งมวลสารสำคัญก็คือ "เกศาขององค์ครูบาเอง" ท่านไม่หวงครับแต่หากท่านไม่ให้แม้แต่เส้นเดียวก็ไม่มีใครกล้าเอา ผมถืออว่าเป็นของสูงสุดและสุดยอดของครูบาท่านแล้วครับ

    ที่มา : http://palungjit.org/threads/ของจริงนิ่งเป็นใบ้-ล๊อกเก็ตสร้าง2557-องค์-ไม่ต้องโปรโมท9วันหมดเกลี้ยง-ไม่ธรรมดาแน่นอนครับ.546204/
     
  9. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    ท่านที่สนใจล๊อกเก็ตครูบาพรชัย วรปัญโญ มีให้เช่าบูชาครับ ติดต่อหาผมได้ทาง PM หรือทางมือถือครับ
     
  10. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    วันเวลาชีวิตขัยของคนมีขีดจำกัด และไม่มีใครอยู่เกินกว่า 150 ปี

    บางคนมาเกิด ได้สรรสร้างสิ่งดีงาม ได้สร้างบุญ ได้ช่วยเหลือคนมากพอสมควร

    บางคนมาเกิด ได้เพียงช่วยตนเอง คนในครอบครัว และเพื่อนบางคนเท่านัั้น

    บางคนมาเกิด ได้ช่วยตนเอง ได้ช่วยคนอื่นๆ ที่ไม่ใช่แต่เพียงญาติ หรือเพื่อนของตนเอง ซึ่งนับว่ามีบารมีกว้างไกล

    สำนึกของคนธรรมดาสามัญ กับผู้เกิดมาช่วย หรือผู้มีจิตพระโพธิสัตว์ ช่างแตกต่างกัน ส่วนใหญ่นั้นไม่มีจิตของพระโพธิสัตว์ เกิดมาเพื่อทำงาน หาเงิน มีครอบครัว เกิดมาเพียงหวัง เพื่อจะเอา เพื่อจะได้ ความคิดอยากช่วยคนอื่นนั้นมีน้อย

    จิตลึกๆ ของผู้มีจิตพระโพธิสัตว์นั้น อยากช่วยคน เมื่อได้ช่วยแล้วก็มีความสุขใจ และอยากช่วยคนให้ได้มากๆ

    ผู้มีความเป็นพระอริยะบุคคล ก็จะเข้าใจความคิดของพระอริยะบุคคลด้วยกัน

    ผู้มีจิตพระโพธิสัตว์ ก็จะสามารถเข้าใจ ความคิดของพระโพธิสัตว์ด้วยกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มกราคม 2017
  11. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    เมื่อมาเกิดแล้วต้องอาศัยกายธาตุ สร้างความดี

    เมื่อมาเกิดแล้ว ก็จะมีกายธาตุ ภูมิของมนุษย์นั้น เป็นสิ่งที่เทวดา-นางฟ้า อยากมาเกิดมากที่สุด ดั่งที่เขาพูดกันว่า สุขติของเทวดา คือมนุษย์

    เพราะการเกิดเป็นมนุษย์นั้นมีกายธาตุ สามารถบำเพ็ญสร้างความดี เจริญภาวนา และสามารถบรรลุธรรมได้เร็ว แต่ภูมิของพระพรหม นั้นต้องเป็นพรหมชั้นสูงบางชั้น ที่ไม่ต้องมาเกิดเป็นมนุษย์ สามารถไปพระนิพพานได้ แต่ใช้เวลาบำเพ็ญบารมียาวนานมาก ส่วนเทวดานั้นไม่อาจบำเพ็ญในลักษณะของกายทิพย์ เพื่อไปสู่พระนิพพาน

    พญานาคก็ปรารถนาการเกิดเป็นมนุษย์

    เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์ หากมาเกิดเป็นราชา จะมีพละกำลังมหาศาล ในการสร้างความดี หรือช่วยเหลือคนได้มากสุดๆ

    หากเกิดแล้วมาเป็นพระสงฆ์ ก็สามารถช่วยเหลือคนได้มากเช่นกัน

    แต่หากเป็นคนธรรมดา ก็ต้องใช้ความเพียรพยายามมาก เพราะไม่ค่อยมีฐานส่งกำลัง เช่น ไม่ค่อยมีเงิน ไม่ค่อยมีบริวาร ไม่ค่อยมีชื่อเสียง ฯลฯ

    เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์แล้ว ก็ใช้กายหยาบหรือกายธาตุในการไปทุกแห่งหนที่ต้องไป เพื่อสร้างความดี ผจณความลำบาก

    การมาเกิดนั้น สวรรค์เปิดกว้าง อยู่ที่เจ้าตัว จะเป็นผู้เลือกสร้างความดี หรือความชั่ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มกราคม 2017
  12. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    ถึงเวลาก็จะเปิดกระทู้ใหม่แล้ว อาจเป็นภายในห้องนี้
     
  13. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    ทุกวันนี้.jpg
     
  14. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    หลายวันก่อน ได้สวดมนต์บทใหญ่ เพื่อช่วยบรรเทาภัยฝนตกน้ำท่วม เห็นผลเป็นที่น่าพอใจมาก

    และเรื่องราวเหล่านี้เป็นปัจจัยตัง

    ในวันที่ได้สวดมนต์บทใหญ่(พระคาถาศักดิ์สิทธิ์) และกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ว่าวันนั้น จะมีฝนตก 60-70% ปรากฎว่าวันนั้นฝนตกไม่มาก หรือตกประมาณ 5-10%

    แต่ในวันที่ไม่ได้สวดมนต์บทใหญ่(พระคาถาศักดิ์สิทธิ์) และกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ว่า วันนั้นจะมีฝน 60-70% ฝนก็ตกพอควร เช่น ตกถึง 20-25% หรือเกินกว่านั้น

    ส่วนเรื่องอื่นๆ อย่าไปรู้เลย ไม่สมควรที่คนทั่วไปควรรู้ เอาเวลาทำมาหากิน หาเงิน ก็เพียงพอสำหรับบุคคลทั่วไป
     
  15. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    24 สรรพคุณและประโยชน์ของมัลเบอร์รี่ ! (Mulberry)

    B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%881.jpg
    Mulberry
    มัลเบอร์รี่ (Mulberry) หรือ หม่อน (ภาคอีสานเรียกว่า “มอน”) ที่เรารู้จักกันจะมีอยู่ 2 ชนิด คือ หม่อนหรือมัลเบอร์รี่ชนิดที่ปลูกไว้เพื่อรับประทานผลเพียงอย่างเดียว ซึ่งมีชื่อสามัญว่าBlack Mulberry และมีชื่อวิทยาศาสตร์ Morus nigra L. จัดอยู่ในวงศ์MORACEAE ผลสุกจะเป็นสีดำมีรสเปรี้ยวอมหวาน นิยมนำมารับประทานและนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ

    ส่วนอีกชนิด คือ หม่อนที่ปลูกไว้เพื่อการเลี้ยงไหมเป็นหลัก มีชื่อสามัญว่า White Mulberry และมีชื่อวิทยาศาสตร์ Morus alba L. ชนิดนี้ใบจะมีขนาดใหญ่กว่าและออกใบมากกว่า ใช้เป็นอาหารเลี้ยงไหมได้ดี แต่ผลจะมีขนาดเล็กกว่า เมื่อสุกจะมีรสเปรี้ยว ใช้รับประทานได้เช่นกัน แต่ไม่เป็นที่นิยมเท่าชนิดแรก และยังมีชนิดอื่น ๆ อีกหลายชนิดครับ เช่น Red Mulberry ที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Morus rubra L. เป็นต้น

    Mulberry.jpg
    สรรพคุณของมัลเบอร์รี่
    1. ผลมัลเบอร์รี่มีรสเปรี้ยวหวานเย็น มีสรรพคุณช่วยดับร้อน คายความร้อนรุ่ม ช่วยขับลมร้อน ช่วยบรรเทาอากากระหายน้ำ ทำให้ชุ่มคอ และทำให้ร่างกายชุ่มชื่น[1],[2],[4],[6]
    2. ผลนำมาต้มกับน้ำหรือเชื่อมกินเป็นยาแก้ธาตุไม่ปกติ[3],[4]
    3. ผลมีสรรพคุณช่วยบำรุงหัวใจ[6]
    4. มัลเบอร์รี่มีสรรพคุณช่วยทำให้เส้นประสาทตาดี ทำให้สายตาแจ่มใส หูตาสว่าง ร่างกายสุขสบาย[2],[6]
    5. ผลมีสรรพคุณช่วยแก้อาการท้องผูก และยังมีเมล็ดที่ช่วยเพิ่มใยอาหาร[2],[3],[4]
    6. ผลนำมาต้มกับน้ำหรือเชื่อมกินเป็นยาระบายอ่อน ๆ[3],[4]
    7. ผลมัลเบอร์รี่มีฤทธิ์เป็นยาเย็น ออกฤทธิ์ต่อตับและไต มีสรรพคุณช่วยบำรุงตับและไต ช่วยรักษาตับและไตพร่อง[1],[2],[4]
    8. ช่วยแก้ข้อมูลข้อเท้าเกร็ง แก้ไขข้อ โรคปวดข้อ[2],[4],[6]
    9. ช่วยบำรุงเส้นผมให้ดกดำ ป้องกันผมหงอกก่อนวัย[6]
    10. ในประเทศจีนจะใช้ผล กิ่งอ่อน เปลือกราก และใบเป็นยาบำรุงกำลัง รักษาโรคเกี่ยวกับทรวงอก แก้ไอ หืด วัณโรคปอด การสะสมน้ำในร่างกายผิดปกติ ขับปัสสาวะ และรักษาโรคปวดข้อ[4]
    หมายเหตุ : การใช้ตาม [2] ผลแห้งให้ใช้ครั้งละ 10-15 กรัม นำมาต้มกับน้ำรับประทาน หรือใช้เข้าตำรับยาตามตามต้องการ (ตามตำรับยาระบุให้ใช้ผลหม่อนหรือผลมัลเบอร์รี่ ชนิดที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Morus alba L.)[2]

    ประโยชน์ของมัลเบอร์รี่
    1. มัลเบอร์รี่มีสาร Anthocyanins ในปริมาณมาก โดยสารชนิดนี้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์หลายอย่าง เช่น ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน ต่อต้านอาการขาดเลือดในสมอง ป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง เป็นต้น[5],[6]
    2. มัลเบอร์รี่มีสาร Deoxynojirimycin ที่เป็นตัวช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้[5],[6]
    3. มัลเบอร์รี่มีกาบา (GABA) ที่เป็นตัวช่วยลดความโลหิต[5],[6]
    4. มัลเบอร์รี่มีสาร Phytosterol ที่สามารถช่วยลระดับคอเลสเตอรอลได้[5],[6]
    5. มัลเบอร์รี่มีสาร Polyphenols ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์กับร่างกาย[5],[6]
    6. สารประกอบฟีนอลในมีอยู่ในผลมัลเบอร์รี่ สามารถช่วยต้านอนุมูลอิสระ ต้านอาการอักเสบ อาการเส้นเลือดโป่งพอง และยับยั้งเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสได้[5],[6]
    7. สาร Quercetin และสาร Kaempferol ที่มีอยู่ในผลมัลเบอร์รี่เป็นสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ ที่สามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ โรคความดันโลหิต ช่วยทำให้หลอดเลือดแข็งแรง เลือดหมุนเวียนดี ป้องกันการเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือด ป้องกันการดูดซึมของน้ำตาลในลำไส้เล็ก ยับยั้งการเกิดสารก่อมะเร็งเม็ดเลือด มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ ช่วยยืดอายุเม็ดเลือดขาว และลดอาการแพ้ต่าง ๆ[5],[6]
    8. มีวิตามินเอที่ช่วยในด้านการบำรุงสายตา ป้องกันการเกิดต้อกระจก ช่วยบำรุงเหงือกและฟัน บำรุงผิวพรรณ และลดการอักเสบของสิว
    9. วิตามินบี6 ในผลมัลเบอร์รี่ มีประโยชน์ในด้านการบำรุงเลือด ตับ และไต ช่วยลดอาการปวดประจำเดือน และลดการเกิดสิว
    10. มัลเบอร์รี่มีวิตามินซีสูง ที่เป็นตัวช่วยป้องกันหวัด ภูมิแพ้ วัณโรค โรคปอด เชื้อไวรัส และช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย
    11. มัลเบอร์รี่กรดโฟลิกสูง ซึ่งกรดโฟลิกนั้นสามารถช่วยทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงเจริญได้เต็มที่ ทำให้เซลล์ประสาทไขสันหลังและเซลล์สมองเจริญเป็นปกติ และช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง[5],[6]
    12. นอกจากนี้ลูกมัลเบอร์รี่ยังกรดอะมิโน วิตามินและแร่ธาตุอีกหลายชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามินเอ วิตามินบี แคลเซียม ธาตุเหล็ก โพแทสเซียม แมกนีเซียม โซเดียม สังกะสี ฯลฯ[5],[6]
    13. บางรายงานระบุว่ามัลเบอร์รี่สามารถช่วยแก้อาการเมาค้าง และช่วยผ่อนคลายความเครียดได้
    14. ผลมัลเบอร์รี่สามารถนำมาแปรรูปเป็นอาหารหรือผลิตภัณฑ์ได้หลายชนิด เช่น แยมหม่อน เยลลี่หม่อน ขนมพาย ข้าวเกรียบ ไอศกรีมหม่อน หม่อนแช่อิ่ม หม่อนอบแห้ง ลูกอมหม่อน น้ำหม่อน ไวน์หม่อน เป็นต้น[5]
    คุณค่าทางโภชชนาการของมัลเบอร์รี่ ต่อ 100 กรัม
    • พลังงาน 43 กิโลแคลอรี่
    • คาร์โบไฮเดรต 9.8 กรัม
    • น้ำตาล 8.1 กรัม
    • ใยอาหาร 1.7 กรัม
    • ไขมัน 0.39 กรัม
    • โปรตีน 1.44 กรัม
    • เถ้า 0.69 กรัม
    • วิตามินเอ 25 หน่วยสากล
    • เบต้าแคโรทีน 9 ไมโครกรัม
    • ลูทีน และ ซีแซนทีน 136 ไมโครกรัม
    • วิตามินบี1 0.029 มิลลิกรัม (3%)
    • วิตามินบี2 0.101 มิลลิกรัม (8%)
    • วิตามินบี3 0.62 มิลลิกรัม (4%)
    • วิตามินบี6 0.05 มิลลิกรัม (4%)
    • วิตามินบี9 6 ไมโครกรัม (2%)
    • วิตามินซี 36.4 มิลลิกรัม (44%)
    • วิตามินอี 0.87 มิลลิกรัม
    • วิตามินเค 7.8 ไมโครกรัม
    • โคลีน 12.3 มิลลิกรัม (3%)
    • แคลเซียม 39 มิลลิกรัม (4%)
    • ธาตุเหล็ก 1.85 มิลลิกรัม (14%)
    • แมกนีเซียม 18 มิลลิกรัม (5%)
    • ฟอสฟอรัส 38 มิลลิกรัม (5%)
    • โพแทสเซียม 194 มิลลิกรัม (4%)
    • โซเดียม 10 มิลลิกรัม (1%)
    • สังกะสี 0.12 มิลลิกรัม (1%)
    • ทองแดง 0.06 มิลลิกรัม
    • ซีลีเนียม 0.6 ไมโครกรัม
    % ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ (ข้อมูลจาก : USDA Nutrient database)

    ที่มา : 24 สรรพคุณและประโยชน์ของมัลเบอร์รี่ ! (Mulberry)

    หมายเหตุ : น้ำมัลเบอร์รี่ (Mulberry) สามารถหาซื้อได้ที่ได้ Lotus Express (เป็นน้ำมัลเบอร์รี่ (Mulberry) แบบ 50% ขายที่กล่องละประมาณ 77 บาท
     
  16. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    กระทู้ส่วนใหญ่ในห้องนี้ และอาจมีอีกในหลายห้อง เป็นกระทู้ร้าง เพราะไม่มีการเพิ่มเนื้อหา หรืออื่นๆ อาจเป็นภาระให้กับตัว Server ทำให้กินพื้นที่ โดยไม่ค่อยมีประโยชน์

    ขุมสมบัติของเว็บพลังจิต ก็คือ กระทู้ที่มีคุณค่าของสมาชิก ที่ได้เคยลงเอาไว้ แม้จะผ่านล่วงเลยเกิน 2 ปีก็ยังมีคุณค่า เพราะธรรมะไม่มีวันล้าสมัย แต่คนเรามักแต่จะมองไปข้างหน้า รอแต่จะก็อปจาก Facebook หรือจากเว็บ tnew.com

    ของตัวเองก็มีคุณค่า แต่มักมองข้าม สิ่งนั้นก็คือ กระทู้เก่าแก่หรือหรือกระทู้เก่าของท่านสมาชิกทั้งหลายที่ได้เคยสร้างสรรค์ ทำไว้ให้แล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กุมภาพันธ์ 2017
  17. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,230
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,514
    กระทู้นี้เป็นกระทู้เก่าแก่ มียอดคนดูมากสุดของห้องนี้ แต่ก็ไม่เคยได้รับให้เป็นกระทู้เด่น
     
  18. wisutsak

    wisutsak สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2018
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0

แชร์หน้านี้

Loading...