ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดลงถมมหาสนองเป่าแล่นฟ้าคล้อยยอมตาม(บัญชาฟ้าสอพลอ) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    พรุ่งนี้จะลงตะกรุดตัวครูชนิดหนึ่งของพ่ออาจารย์ ....ที่ท่านเรียกว่าตะกรุดวัฏจักรย่อย ###อะไรคือวัฏจักรย่อยและมันสำคัญขนาดไหนติดตามกันดีๆนะครับ ของมีน้อยไม่พอนับด้วยนิ้วมือจริงๆ
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดตัวครูดัชนีปฐมภูมิดับย่อยวัฏจักร(คลายปมคลี่พันธนาการตัดการจองจำ)

    *** ในมหาวัฏนั้นย่อมมีวัฏจักรย่อยประกอบรวมกันอยู่มากมาย

    พ่ออาจารย์ท่านว่าในห้วงเวลาหนึ่งที่พวกเราลงมาเกิดกันนี้ มันเป็นเพียงเวลาสั้นๆของเทพ,พรหมเท่านั้น อย่างที่เราทราบกันดีว่าในภพที่เราอยู่นั้นจะมีภพภูมิทั้งหลายซ้อนทับกันและหมุนวนวัฏจักรดำเนินท่วงทำนองของการเกิด,ดับไปด้วยกัน หากแต่ต่างกันที่ข้อกำหนดของเวลาเท่านั้น ด้วยเราท่องเที่ยวไปในอาการที่เป็นวัฏฏะ คือหมุนวนอยู่ในการเวียนว่ายตายเกิดหมุนวนอยู่เช่นนั้นตราบเท่าที่ยังตัดกิเลส,กรรม,วิบากไม่ได้ ดังนั้นเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นกับแต่ละคนก็ดำเนินอยู่บนพื้นฐานของเวลาที่ไหลไปในวัฏจักรเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์หรือกิจกรรมใดๆก็ดีทั้งที่เราอยากให้เกิดหรือไม่อยากให้เกิดก็ดี,ที่เราพอใจหรือไม่พอใจก็ดี,จะเป็นสุขหรือเป็นทุกข์,เป็นสิ่งที่เราต้องการปรารถนาหรือไม่ เมื่อมีการเริ่มต้นก็ต้องมีจุดจบในตัวเองและในบางทีกระแสเวลาอาจจะดึงหมุนเข้าไปสู่จุดเริ่มต้นนั้นอีก พ่ออาจารย์ท่านเรียกเหตุการณ์เหล่านี้ว่าวัฏจักรย่อยที่จะกระตุ้นเร่งเร้าให้มหาวัฏจักรใหญ่เกิดการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะช้าจะเร็วก็ตาม

    เช่นนั้นชีวิตเล็กๆของเราย่อมตกอยู่ในวงจรที่ซับซ้อนเหล่านั้น เวลาเธอมีทุกข์หรือเหตุการณ์ไม่พึงใจไม่พึงปรารถนาเรื่องเหล่านั้นมันก็ยังเกิดซ้ำๆวนเวียนไปไม่รู้จบบางคนเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ยังเกิดขึ้นอีกทำให้การใช้ชีวิตนั้นยากเย็นเต็มทีจะพิจารณาสิ่งใดหนอก็เจอแต่เรื่องลำบากใจ จะแก้ไขสิ่งใดก็อึดอัดเต็มทน ###แล้วจะทำอย่างไรล่ะจึงจะสามารถตัดวงจรแห่งสังสารวัฏได้แม้จะเป็นการตัดช่องน้อยแต่พอตัว พอให้รอดให้ได้ลืมตาได้หายใจกันบ้างก็ยังดี

    ครานี้พ่ออาจารย์ท่านจึงได้นำตะกรุดพิเศษที่ทำไว้ออกมา ท่านว่าวิชานี้ใช้เพื่อเปิดวงจรย่อยให้กับตัวเอง ให้เราได้มีโอกาสกำหนดและลิขิตวัฏจักรที่เราจะเดินและเปลี่ยนมันด้วยตัวเองเพราะปกตินั้นมหาวัฏย่อมผูกพันธ์และโดนจองจำภายใต้เงื่อนไขพันธะของเวลา ซ้ำยังประกอบด้วยภพภูมิต่างๆอันจะมาซ้อนทับเหลื่อมล้ำกันมากมายทำให้ปัจจัยของเวลานั้นใหญ่และทรงพลังมากขึ้นไปอีกเพราะความแตกต่างของระบบเวลาในวัฏจักรย่อยต่างๆนั้นไม่ได้เสมอกันเลย เรื่องเลวร้ายต่างๆเมื่อเกิดขึ้นมันจึงดำเนินไปตามระยะเวลาของมันตั้งแต่ต้นจนจบจะเห็นว่าเราเป็นเพียงผู้อยู่ในเงื่อนไขของกาลเวลา ไม่สามารถเอาตัวรอดหรือตัดผ่านวงจรที่เกิดขึ้นออกมาได้ ทีนี้ตามหลักไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ และปัญญาที่ประกอบด้วยโลกุตตรมรรคเก้าย่อมสามารถตัดวงจรของสังสารวัฏได้ส่วนความสัมพันธ์และการตัดวงจรสังสารวัฏตามหลักอริยสัจสี่คือทุกข์,สมุทัย,นิโรธ และมรรคนั้นต้องดูที่กรรม เพราะมีกิเลสเป็นสาเหตุของการเกิดกรรมและกรรมเป็นสาเหตุให้เกิดวิบากวนเวียนอยู่ในสังสารวัฏจนกว่าจะบรรลุพระนิพพานอันเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดของชีวิต

    ด้วยการบรรลุนั้นย่อมไม่ง่ายเลยหากบารมียังไม่ถึงพร้อม ชนทั้งหลายก็จะขวนขวายในกิจและหน้าที่ดำเนินชีวิตบนภาระของตนในแต่ละวันให้ผ่านไปอย่างดีที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาโดยทั่วไปจึงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมหาวัฏจักรได้นอกจากจะทำด้วยวิปัสสนาญาณหรือ..เสด็จพระใหญ่ท่านใช้อำนาจแห่งโลกุตตรเพื่อตัดวงจรสังสารวัฏอันจะมีผลสืบทอดไปถึงกรรมวิบากที่เราวนเวียนประสบอยู่ พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าตัดวงจรสังสารวัฏปุ๊ปไอ้ตัวกรรมวิบากที่เราเจออยู่นี้มันก็หยุดทันทีเลยนะไม่ได้ไหลไปตามกระแสเวลาของมันอีก มันจะดับ,จะหยุดและตัวเราจะได้ประโยชน์นั่นก็คือการพ้นทุกข์ แม้ไม่ใช้พ้นจากกองกิเลสบรรลุมหานฤพานแต่ก็ยังเป็นการออกจากทุกข์และเริ่มวัฏจักรย่อยที่เราเป็นผู้สร้างผู้ดำเนินด้วยตัวเราเองได้ จะได้เริ่มได้ทำให้มันดีที่สุดดั่งที่เราตั้งใจคิด ตั้งใจจะกระทำนั่นเอง สูตรที่นำไปสู่การหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวงและสามารถตัดวงจรแห่งสังสารวัฏคือกิเลส,กรรม,วิบากได้นั้นจึงเป็นเรื่องที่คนทั่วไปทำไม่ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าเสด็จพระใหญ่ท่านไม่เมตตาจริงๆอันนี้ยังนับว่ายาก แม้องค์พระทั้งหลายท่านก็ยังละวางเอาไว้ด้วยเรื่องแห่งสังสารวัฏในมหาวัฏจักรนั้นย่อมไม่ใช่กิจธุระของท่าน

    อันปกติในโลกมนุษย์นี้ส่วนมากผู้ที่มาเกิดก็จำแนกออกได้ด้วยสองหลักใหญ่ๆนั่นก็คือ ผุดขึ้นมาหรือเกิดลงมา แม้ค่าของความเป็นคนจะมีอยู่เท่ากันแต่อย่าลืมวิสัยอันเป็นของติดตัวหรือของเก่าของตนเอง คนที่ผุดขึ้นมานั้นย่อมแน่นอนว่าเคยก่อกรรมทำเข็ญมามากไม่ได้คำนึงถึงบุญบาปใช้ชีวิตผูกติดอยู่แต่กับอกุศล พอถึงกาลกิริยาย่อมหนีไม่พ้นอบายภูมิทั้งสี่ นี่ตรงนี้พอกรรมหมดกำลังบุญก็จะเห็นจะส่งผลจึงได้มาเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง แต่บาปกรรมที่ติดตัวอยู่ก็ตามมาติดๆให้เกิดมาแล้วต้องได้รับทุกข์สาหัสทั้งหลาย บางคนเกิดมาพิการเกิดมาไม่สมประกอบหรือมีร่างกายอัปลักษณ์ ทั้งหลายเหล่านี้ล้วนเป็นผลติดตามตัวเองทั้งสิ้นในขณะที่บางคนเกิดมาแล้วเจอแต่ความสุขอันปราณีตนั่นก็เพราะบุญเก่าเขาตามสนอง ตามปรุงแต่งให้ชีวิตเขาดำเนินไปอย่างปรกติสุข ให้สังเกตุได้เลยว่าเวลาเรามีทุกข์หรือมีปัญหานั้นไม่ใช่เพียงตัวเราคนเดียวเสียเมื่อไหร่ที่ต้องเผชิญกับปัญหา หากแต่คนรอบข้างก็ยังโดนไปด้วยจะเป็นในแง่ของภาระหรือร่วมกันแก้ก็ดี นั่นก็เพราะทุกคนมีวงจรกรรมที่ผูกมาร่วมกันตั้งแต่ในระดับตัวตนจนโตไปถึงในระดับประเทศนั่นทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านอยากเห็นชีวิตคนโดยรวมนั้นมีสุขแบบปรกติ ไม่ต้องจมกองทุกข์หรือหาทางออกให้พ้นจากบ่วงกรรมวิบากไม่ได้ ด้วยศิษย์ทั้งหลายนั้นที่เป็นคนดีและตั้งใจทำความดีจริงๆก็มีอยู่หากแต่ชีวิตของเขาไม่ได้ดีเพราะไม่มีของเก่าหนุนส่ง ทำให้ไม่มีกำลังใจที่จะประกอบกรรมดีกันต่อไป พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ขอเมตตาเสด็จพระใหญ่ให้ท่านช่วย ท่านก็ให้พ่ออาจารย์ลงตะกรุดวัฏจักรย่อยนี่เสียซักครั้งเพื่อเปิดโอกาส,เปิดวงจรกาลเวลาและวัฏจักรสำหรับคนใช้จะได้คลายปมคลี่พันธนาการตัดการจองจำของตัวเอง

    เพื่อจะเริ่มสร้างชีวิตที่ดีให้เกิดสุขอันปราณีตให้ชนนั้นได้เสวยสมบัติอันประเสริฐสุดท่านว่าตะกรุดนี้มีอานุภาพมากดุจว่านั่นทีเดียว เสด็จพระใหญ่ท่านว่าตะกรุดวัฏจักรย่อยนี้จะดำเนินลีลาแห่งภพให้ชีวิตเราสูงขึ้นดุจพระเจ้าจักรพรรดิที่เสวยสมบัติไม่บกพร่องหรือดุจองค์อมรินทร์จอมสวรรค์ที่มีทิพยสมบัติอันรุ่งเรืองเหนือทวยเทพทั้งหลายทีความสุขความสำราญดั่งรูปพรหมเช่นนั้น แต่ทว่าให้พึงจดจำกันให้ดีว่าสรรพสิ่งใดๆก็ตามเมื่อรุ่งเจริญไปแล้วย่อมไม่ตั้งอยู่เช่นนั้นถาวรณ์ ที่จะเที่ยงแท้ยั่งยืนเรื่อยไปตลอดกาลนั้นเป็นไม่มี สิ่งที่จะดีที่สุดเที่ยงแท้ที่สุดนั่นก็คือตนพึ่งตน ตะกรุดนี้เป็นเพียงตะกรุดที่จะเปิดทาง เปิดช่องช่วงชิงโอกาสและความสุขสบายมาให้เรา เมื่อได้โอกาสนั้นตัวเราเองก็ต้องประกอบกรรมดีหมั่นสร้างกุศลด้วยไม่ใช่ใช้ชีวิตเละเทะเหลวไหลอย่างนี้ไม่ต้องเอาไปใช้เลย พ่ออาจารย์ท่านว่าเพื่อจะได้เกิดประโยชน์ใหญ่แก่ตนได้อาศัยสรรพสิ่งทั้งหลายในโลกเป็นเครื่องอาศัยเป็นเครื่องมือสำหรับสร้างบารมี เช่นนั้นคนใช้ตะกรุดนี้จึงถือคติที่ว่าสมบัติทั้งหลายนั้นเป็นของกลาง,ของโลก เป็นเพียงเครื่องมือที่จะช่วยให้เราสร้างบุญกุศลได้สะดวกสบายมากขึ้นเช่นนั้น ท่านว่าไอ้ความสะดวกสบายนี้อย่าไปยึดติดมันเป็นแก่นสารทีเดียวให้จำไว้ว่าเรามีภาระที่ต้องพึ่งตัวเองอยู่ เราต้องแสวงหาสิ่งที่เป็นสาระของชีวิตเข้ามาพอกพูนขัดเกลาสติปัญญาของตัวเองอยู่เรื่อยๆ

    เพราะการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสารเป็นสิ่งที่น่ากลัวเป็นสิ่งไม่เที่ยงแท้แน่นอนและไม่ปลอดภัยเลย ทุกชีวิตต้องท่องเที่ยวไปเกิดในสุคติบ้าง,ทุคติบ้างตามกรรมที่เผลอกระทำกันแต่งแต้มเข้าไปจะทุกข์ก็ดีจะสุขก็ดีสลับกันไปอยู่เช่นนี้ ดังนั้นการที่เสด็จพระใหญ่ท่านจะช่วยให้พ้นจากภัยในวัฏสงสาร จะดับย่อยวัฏจักรเพื่อตัดการจองจำให้กับเรานั้นตัวเราเองก็อย่าลืมจุดหมายที่แท้จริงในการเกิดเป็นมนุษย์ด้วย ว่าเรามีหน้าที่อย่างไรจะต้องไปให้ถึงฝั่งพระนิพพานอันเป็นเอกันตบรมสุขได้อย่างไร จะสะสมบารมีให้เต็มได้อย่างไรสิ่งเหล่านี้ล้วนต้องทำด้วยตัวเองทั้งสิ้น อย่าได้ประมาทในการสั่งสมบุญบารมี ทั้งทาน ศีล ภาวนานั้นก็อย่าละเลย เพราะที่ไปของสรรพสัตว์ทั้งหลายย่อมมีคติไม่แน่นอน บ้างก็ไปนรก บ้างก็กำเนิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน บ้างก็เกิดในเปรตวิสัยคือคติของพวกเปรตและอสุรกาย บ้างก็ไปเกิดเป็นมนุษย์ และคติที่สูงไปกว่านั้นคือเหล่าเทวดาซึ่งหมายรวมเอาทั้งที่เป็นพรหมและอรูปพรหม ที่ไปของสัตว์ที่ยังอยู่ในวัฏฏะมีเพียงเท่านี้ไม่ยิ่งไปกว่านี้ท่านจึงปรารถนาจะให้มีที่ไปที่ดีและสมบูรณ์ไม่ต้องพัวพันจองจำอยู่ในทุกขเวทนานับชาติไม้ถ้วน

    นี่คือโอกาส ...พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าเราไม่ทำไว้แล้วใครจะทำ เพราะสรรพสัตว์ทั้งหลายที่ยังเวียนวนอยู่ในสังสารวัฏนี้ดุจเหมือนถูกขังอยู่ในคุกขนาดใหญ่ ท่านอุปมาว่าเป็นเหมือนเชลยศึกที่ถูกจองจำ เป็นประดุจโคงานที่เขาเทียมไว้หรือเป็นดุจวัวที่ผูกหลักเอาไว้ เช่นนั้นตะกรุดนี้จึงเป็นเครื่องดับย่อยวัฏจักรและตัดการจองจำทั้งหลายที่พันธนาการจิตวิญญาณของเขาอยู่เพื่อเปิดให้เขาได้ลืมตาอ้าปากได้สร้างวัฏจักของตนเองอันเปรียบตัวเขาในโลกนั้นเป็นดั่งพระจักรพรรดิ,ดั่งองค์อมรินทร์ที่บริบูรณ์ด้วยความสุขเช่นนั้น ท่านว่านี่จึงเป็นโอกาสเป็นทางให้ได้สร้างบารมีกันสืบไป หากใครจะกินจะใช้แต่เพียงเท่านี้ชาตินี้ก็ช่างเขา เพราะภพชาติหนึ่งของมนุษย์นี้ก็เปรียบเสมือนการหลับของเทวดาเสียตื่นนึงพอตื่นมาก็เริ่มต้นกันใหม่ ถ้าเขาฉวยโอกาสพอได้ดีมีกำลังทรัพย์มากรู้จักทำบุญกับพระศาสนาหมั่นอบรมจิตใจบ่มเพาะปัญญาตนเองเขาก็จะมีคติมีที่ไปที่ดีขึ้นสูงขึ้นนับชาติไม่รู้จบ แต่ถ้าเขาได้โอกาสแล้วเขายังหลงระเริงเช่นนั้นก็ย่อมไม่มีโอกาสใดๆอีก ท่านว่าช่วยกันได้แค่นี้ ทุกอย่างในสังสารวัฏนั้นใช่ว่าจะประคองไปมอบให้ถึงมือกันได้

    ตะกรุดนี้ท่านว่าสร้างยากมากอย่างแท้จริง เสด็จพระใหญ่ท่านให้สงวนวิธีทำเอาไว้ทุกอย่าง พ่ออาจารย์ท่านว่าแค่พระยันต์ด้านในก็ไม่มีภาษาใดๆที่มนุษย์ยุคไหนจะเข้าใจได้แล้วเพราะเป็นอักขระวิธีปฐมแรกเริ่มของพ่อพระพุทธท่านโดยเฉพาะ ทั้งเวลาทำท่านก็ต้องนำตะกรุดมาวัดเทียบกับนิ้วชี้(ดัชนีของท่านเอง) เป็นคติว่าจะได้ชี้สั่งคนอื่นได้ตลอดเวลา ทั้งยังมีขั้นตอนที่ปราณีตอย่างการแช่น้ำว่าน คลุกผงยันต์ เข้ามวลสารศักดิ์สิทธิ์ อาบว่านยา ท่านว่าทุกอย่างทำได้ยากมากในสิ่งที่เสด็จพระใหญ่ท่านสั่งให้หาแต่ละอย่าง ยังดีที่เราพอมีเก็บไว้อยู่บ้างจึงทำได้ ถ้าสั่งให้หาเดี๋ยวนี้และทำเดี๋ยวนี้เอาว่าถอดใจได้เลย ว่านแต่ละอย่างยาแต่ละตัวนั้นล้วนแต่ครูในโลกทิพย์ท่านเอาออกมาให้ทั้งสิ้นต้องเก็บมาทั้งชีวิตเท่านั้น

    ตะกรุดนี้สำคัญมากเพราะท่านทำเทียบกับดัชนี ท่านว่าแม้ตอนเสกเสด็จพระใหญ่ท่านก็นำตะกรุดแต่ละดอกเทียบกับดัชนีของพระองค์ท่านทีละดอกทั้งนั้น เช่นนั้นตะกรุดนี้นอกจากมีคุณวิเศษดังกล่าวข้างต้นแล้วยังใช้ชี้ธรรม,ชี้ทางสว่างได้อีกด้วย ตะกรุดนี้เป็นสัญลักษณ์บอกถึงการสิ้นสุดของการเดินทาง,บอกถึงจุดหมาย,ถึงความสำเร็จ ในวงจรของเวลานั้นท่านว่าเมื่อแรกเริ่มจะเหนื่อยต่อเมื่อสิ้นสุดเท่านั้นจึงจะพอหายใจได้สบายกันบ้าง เช่นกันตะกรุดนี้ก็เปรียบดั่งจุดสิ้นสุดคือจุดที่เราสบายที่สุดนั่นเอง ด้วยเสด็จพระใหญ่ท่านเทียบตะกรุดกับดัชนีให้ทีละดอก เช่นนั้นจึงใช้ชี้ได้สารพัด ท่านว่าถ้าใช้ชี้ให้พรตัวเองก็จะให้ทรัพย์ได้เร็วกว่าทุกสิ่ง ชี้ให้สำเร็จก็สำเร็จทุกประการ ชี้เพื่อขอพรใดๆก็ให้พรได้ทันใจทันคิด ชี้ไปที่ไหนที่นั่นจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง(จริงๆแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าเสด็จพระใหญ่ท่านทำให้ด้วยประสงค์จะชี้ให้พ้นทุกข์,พ้นความขัดข้อง) แต่เราคนใช้จะเอาไปอธิษฐานใช้อะไรมันก็อีกเรื่องหนึ่งเพราะว่าไอ้ตัวทุกข์นั้นมันก็ครอบคลุมวิบากกรรมทุกอย่างอยู่แล้ว เรียกว่ามีผลสืบทอดกันไปเป็นช่วงๆจะกล่าวว่านี่เอาไปชี้ทีก็ลดวิบากกรรมไปได้อย่างหนึ่งนั้นก็ได้ ะชี้ให้รวย,ชี้ให้เลื่อนตำแหน่ง,ชี้ให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ,ชี้ให้หายจากโรคเวรโรคกรรมก็ได้ ท่านว่ามีอานุภาพดุจเสด็จพระใหญ่ท่านชี้ท่านให้พรประสิทธิ์กับเราด้วยตัวท่านเอง

    อันคำว่า"พร"นี้ เมื่อให้แล้วจะถอนไม่ได้มันเป็นบาปเพราะเทพ,พรหมและองค์พระนั้นท่านจะถือคติว่าเมื่อเขียนด้วยมือแล้วจะลบด้วยเท้าไม่ได้ ดั่งพ่อแม่ที่ให้พรลูกให้มีความเจริญรุ่งเรือง แล้วพอโมโหจะถอนพรก็จะถอนไม่ได้ด้วยจะเป็นบาปอย่างร้ายแรง เช่นนั้นทั้งองค์พระ,เทพ,พรหมทั้งหลายก็ดีเมื่อให้พรแก่ผู้ใดแล้วก็ย่อมประสิทธิอยู่เช่นนั้นจะถอดจะถอนไม่ได้เลย ดั่งตะกรุดนี้ท่านท่านทำไว้เพื่อให้ผู้ใช้ได้ชี้ตัวเอง ได้ให้พรตัวเอง ท่านว่าคิดเอา ปรารถนาเอาแต่สิ่งที่ดีที่เป็นสิริมงคลกับตัวเองอย่าไปขออะไรอันน่ารังเกียจ จะมีผลดุจเสด็จพระใหญ่ท่านให้พรกระทำอนุโมทนาให้เราด้วยตัวท่านเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าหมั่นชี้หมั่นให้พรแก่ตัวเองไปเรื่อยๆติดอะไรเจออะไรคับข้องใจก้ชี้เข้าไป ชี้ตัวเองก็ให้พรตัวเอง ชี้งาน ชี้กิจการก็เปิดทางเปิดอุปสรรคชี้ทางสว่างให้แก่ชีวิตตัวเองอยู่เช่นนั้น ท่านว่าชี้ได้เรื่อยไปทั้งตะกรุดยังจะดับย่อยวัฏจักรทำให้เราเป็นคนใหม่ในแบบคนเก่าที่มีชีวิตสุขได้มากขึ้นและสบายได้มากกว่าใคร ดุจเราอยู่ในโลกในวัฏจักรอันมีเราเป็นใหญ่แต่ผู้เดียวเช่นนั้น

    นอกจากนี้ด้วยอานุภาพของดัชนีนั้นยังถือเป็นมหาปราบชั้นสูง เหนือเทพ พรหม ยมยักษ์ทั้งปวง เพียงอาราธนาติดตัวไปศัตรูหมู่มารทั้งหลายก็พ่ายแพ้แก่บารมี จะมีชัยยะ,มีเดช,มีศรี,มีตบะเดชะ และเป็นมหาอำนาจแก่ผู้พบเห็น ถ้าถึงคราวจำเป็นเจอหมู่มารรุกรานก็ให้อธิษฐานตะกรุดเป็นดั่งนิ้วเพชรที่ชี้ไปต้องหมู่มารใดๆย่อมพินาศสูญสิ้น ท่านว่าอย่าชี้ไปเรื่อยเพราะเพียงพกไว้ก็เจริญก้าวหน้ามากพอดูอยู่แล้ว ทั้งจะปราบศัตรู,ปราบอุปสรรคที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้าให้กับเรา,ทั้งจะสะกดสิ่งไม่ดี,สะกดเหตุเสื่อมทั้งปวง

    คาถาบูชา
    พ่ออาจารย์ท่านว่าให้ยกตะกรุดไหว้เหนือหัวนึกถึงเสด็จพระใหญ่เ้พียงเท่านั้นก็ขลังกว่าว่าคาถาพันบท เพราะเสด็จพระใหญ่ท่านกำกับผู้ใช้เอาไว้ว่าเวลาใช้ "ให้นึกถึงเรา"

    ### ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าลงยากและทำยากที่สุด ยิ่งต้องเข้าผง เข้ามวลสาร เข้าว่านยา อาบน้ำว่านกว่าจะสำเร็จแต่ละสูตรนั้นไม่ง่ายเลย ต้องใจเย็นๆรอจนแห้งแล้วค่อยๆทำทีละขั้น ท่านจึงทำได้ทั้งหมดหกดอกเท่านั้นและท่านใช้อาราธนาไว้จี้หรือชี้ให้พรตัวเองเป็นตะกรุดประจำตัวของท่านดอกหนึ่ง จึงมีให้บูชาเพียงห้าดอก ท่านว่าแต่ก่อนเราตั้งราคาไว้นับแสน เพราะไม่คิดว่าจะทำแบบนี้ได้อีกเมื่อไหร่ ไม่รู้ครูท่านจะยอมทำให้อีกชาติไหน แต่ปัจจุบันนั้นเสด็จพระใหญ่ท่านกระตุ้นให้เอาออกไปให้คนที่เขาตกอยู่ในสภาวะการณ์อันเป็นทุกข์ตรงกับอิทธิคุณตะกรุดนี้ได้ใช้ ท่านว่าดุจรอเวลาสุกงอมจนได้ที่แล้วมีเจ้าของครบแล้วท่านจึงให้เอาออกเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านจึงให้เอาออกมาในราคาปกติ(พูดได้เลยว่าถ้าไม่ถึงเวลามีเงินก็ยังเอายากจริงๆ) ตะกรุดนี้ให้บูชาเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนสร้างเมรุเผาศพที่ชำรุดตามวัดทุรกันดารสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดตัวครูดัชนีปฐมภูมิดับย่อยวัฏจักร(คลายปมคลี่พันธนาการตัดการจองจำ) บูชา 4,000 บาท

    61298006-2357390854336520-2148184397684146176-n.jpg
    60871327-288786288672947-1367080389440438272-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤษภาคม 2019
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ตะกรุดตัวครูดัชนีปฐมภูมิ...ดอกนี้ถือว่าเป็นตะกรุดประสบการณ์(เพราะประสบการณ์ของพ่ออาจารย์ที่ท่านใช้เองท่านว่าขอเป็นต้องได้ ท่านจึงใช้ตะกรุดของท่านขอพรของท่านเป็นประจำ)

    *** แอบบอกไว้นะครับ ว่าไม่ดีจริงท่านไม่ใช้ขอพรเองแน่นอน
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้เดี๋ยวจะทยอยตอบคำถามให้เรื่อยๆนะครับ จะฝากอะไรก็ PM ไว้เลย
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    แจ้งการส่ง EMS
    พี่สุทธิธรรม ED 8156 3575 8 TH

    พี่วีรพล ED 8156 3576 1 TH

    *** ยอดใหม่ที่แจ้งโอนไว้เดี๋ยวพรุ่งนี้เริ่มส่งให้นะครับ
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    เหตุผลที่คนขยันสามารถสร้างโชคเองได้

    1. คุณจะไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่

    คนขยันหรือคนที่มุ่งมั่นจะสนุกทุกครั้งที่ได้เห็นตัวเองทำอะไรใหม่ๆ ได้สำเร็จ ..พวกเขาจะผลักดันตัวเองตลอดเวลาไปสู่คำตอบที่ดีกว่า,สถานที่ที่ดีกว่า,กลุ่มคน(สภาพแวดล้อม)ที่ดีกว่า หรือแม้แต่โอกาสที่ดีกว่า ..สิ่งที่คนภายนอกเห็นคือดูเหมือนว่าเขาโชคดีกว่า แต่เปล่าเลย!..

    “You won’t go anywhere standing still”

    2. ใจคุณจะโฟกัสไปในสิ่งที่ดีกว่าเสมอ

    ล้มเหลวหรอ?.. ก็เริ่มใหม่ซิ ทำอันใหม่ให้ดีกว่าซิ..

    นั่นคือสิ่งที่เราจะได้ยินจากปากคนขยันหรือคนที่มุ่งมั่น ไม่ใช่ว่าเขาไม่กลัวความล้มเหลวหรอกนะครับ เพียงแต่เขารู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ควรให้ความสนใจมากกว่า..

    "ท้อได้แต่ห้ามนาน เหนื่อยได้แต่ห้ามเลิก" ..อะไรคือสิ่งที่เราควรทำถัดไปหลังจากนี้เพื่อให้ชีวิตเดินเข้าใกล้เป้าหมายมากกว่า? -- คิด!..

    3. กล้าเผชิญหน้ากับความผิดพลาด

    ทัศนคติเกี่ยวกับความผิดพลาดคุณจะแตกต่างจากคนธรรมดาอย่างสิ้นเชิง .."ไม่กลัวที่จะทำพลาด เพราะอย่างน้อยก็ได้รู้ว่ามีอีกหนึ่งวิธีที่ใช้ไม่ได้ จะได้ไม่เสียเวลาอีก!"

    การที่คุณถลำลึกกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนโงหัวไม่ขึ้น มันเป็นอุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางไม่ให้คุณสำเร็จ และบางครั้งเหตุผลมันก็ง่ายมาก "ก็ทำมาตั้งเยอะแล้ว ทำๆ ต่อไปอีกหน่อยคงจะเจอสิ่งที่ถูกต้องเองแหละ"
    แมนๆ ไปเลย.. ก็มันผิดพลาดอ่ะ เดี่ยวเรารับผิดชอบเอง! แล้วเริ่มต้นใหม่กับสิ่งที่ดีกว่าเถอะ..

    “I haven’t failed. I have just found 10,000 ways that won’t work” – Thomas Edison

    4. ทำไมอ่ะ? ทำไมอ่ะ?

    คำถามนี้คุณจะได้ยินบ่อยมากจากปากคนขยันหรือคนที่มุ่งมั่นจริงๆ ..ก็แหงล่ะเขาคงไม่ทุ่มแรงและเวลาไปกับเรื่องที่ไม่มีเหตุผลหรอก จริงไหม?

    ก่อนที่จะเริ่มต้นลงมือทำอะไรจริงจัง ให้พิจารณาดูก่อนครับ "มันใช่สิ่งที่เราควรให้ความสนใจไหม?" .."มันจะช่วยให้เราเข้าใกล้เป้าหมายที่มีมากขึ้นหรือเปล่า?"

    ถ้าใช่!.. ก็ทำซะ แต่ถ้าไม่ใช่ก็หลีกเลี่ยงไป แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ก็ให้คนที่อยากทำหรือถนัดที่จะทำมากกว่าคุณเข้ามารับผิดชอบ เท่านั้นแหละครับ..

    5. เปิดโอกาสตัวเองได้ปล่อยของในทุกที่ที่มีโอกาส

    ต่อให้คุณเก่งมาจากไหน มีชื่อเสียงมาจากไหน แต่เมื่อคุณก้าวเข้ามาในอีกสถานที่หนึ่งซึ่งไม่มีใครรู้จักคุณเลย.. เราก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่งครับ

    เว้นเสียแต่ว่า.. คุณจะแสดงให้คนอื่นได้รับรู้!

    "โชคดีไม่ได้วิ่งเข้าหาประตูบานที่สวยที่สุด แต่เป็นประตูบานที่เปิดอยุ่ต่างหากล่ะ!"

    อยากได้โอกาสที่ดีหรอ?.. ก็ออกไปคว้ามันมาซิ!

    b475bf7c9427a179e31fda933bba992b.jpg
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ศิระ ED 8156 2558 8 TH

    พี่ภิญโญ ED 8156 2559 1 TH

    พี่พจน์ ED 8156 2560 5 TH
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    มีคนถามหาของหลักร้อยกันมาเยอะเพราะออกทีไรก็หมดไปทันที เดี๋ยวจะยกมาพูดคุยกันพรุ่งนี้อีกทีนะครับ
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    อะไรเอ่ย...เวลาเสกพ่ออจารย์ท่านต้องกางมุ้งครอบกลัวมันจะบินหนี วันนี้เดี๋ยวมาติดตามพูดคุยกันนะ
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา เทพรับสาสน์เต่าทองเทวดาล้างซวยให้โชค(แว่วเสียงกะซิบ,สดับ,รับปากคำ)

    อะไรเอ่ย...เวลาเสกพ่ออจารย์ท่านต้องกางมุ้งครอบกลัวมันจะบินหนี
    วิชาเต่าทองนั้น
    ไม่ค่อยมีใครทำกันและคนเห็นก็จะดูแคลนไม่รู้ค่า แต่พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าทำแล้วต้องเอาให้สุดๆใช้กันเห็นผลคาตานั่นจึงจะทำ เพราะวิชาเสกเต่าทองนั้นไม่ใช่ของเล่นหากแต่มีอานุภาพเป็นยอดและทำยากมากกว่าการเสกวัว,ควายธนูเหล่านี้มากนัก ในอดีตนั้นท่านว่าหลวงพ่อใบวัดดอนยอก็เคยทำไว้จนโด่งดังไปถึงต่างประเทศ แต่สมัยนี้หาดูกันก็ยังยากจะหาเต่าทองที่ทำและเสกเต็มวิชาได้นั้นแทบไม่มีเลย ท่านว่าเต่าทองนั้นเป็นเครื่องรางที่มัดีอยู่ในตัวเองคนสมัยโบราณนั้นเชื่อกันสืบมาว่าแค่มันปรากฏตัว แค่ได้เห็นมันก็จะทำให้เราโชคดี,มือขึ้นเพราะมันจะนำโชคดีและเรื่องมงคลมาให้เรา ประกอบกับตัวเต่าทองนั้นเมื่อนำมาทำเป็นเครื่องรางยังมีคุณวิเศษอีกมาก พ่ออาจารย์ท่านว่ามันปรับตัวอยู่ได้ในทุกสถานที่ทั้งยังพัฒนารูปแบบการหากินได้ตลอดไม่ว่าจะตกลงไปในที่คับแคบแค่ไหนก็ไม่เป็นอุปสรรคกับระบบการใช้ชีวิตของมันเช่นนั้นจึงเชื่อว่าเครื่องรางนี้จะช่วยให้คนใช้นั้นหากินได้ง่ายขึ้น,คล่องขึ้นปรับตัวได้แม้เจอสถานการณ์ที่เป็นอันตรายหรือบีบบังคับเป็นเรื่องยากเพียงใดก็ตามท่านว่าย่อมไม่คนามือหรือเป็นสิ่งขัดขวางได้เลย ด้วยเต่าทองนั้นเป็นแมลงนำโชคใครเผลอไปฆ่ามันก็จะนำโชคร้ายมาสู่ตัวเอง คนสมัยก่อนเขาเชื่อว่าถ้าเต่าทองบินมาเกาะแขนใครคนนั้นจะได้พบคู่ครองในไม่ช้า จากคติเหล่านี้พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ปกปิดและค่อยๆสร้างเต่าทองวิชาออกมาให้คนได้นำไปบูชากันอยู่เรื่อยๆ ซึ่งก็ปรากฏว่าเต่าทองของท่านนั้นเด่นด้านโชคลาภอย่างถึงที่สุด จนคนใช้ต่างโจษขานกันว่า"แค่บูชาไปก็ถูกหวยติดๆกันหลายงวด บางคนเอาไปนอนฝันเห็นเทวดามาบอกว่าจะให้ถูกหวยติดกันเจ็ดงวดก็ถูกจริงๆ" แม้เอาไว้ทำกิจการงานใดๆก็จะมีคู่ค้า,ลูกค้าเยอะกว่าเดิม มีรายได้,รายรับเยอะกว่าเดิมเช่นนั้น…นี่แหละคือยอดแห่งแมลงนำโชค

    ด้วยเต่าทองนั้นมีนิสัยเป็นนักล่าที่เก่งกาจและกินจุ พ่ออาจารย์ท่านว่าคนเอาไปใช้จึงได้รู้ได้เห็นกันว่ามันช่วยหากินเก่งขนาดไหนเห็นตัวเล็กๆเช่นนั้นมันกินอาหารกินเพลี้ยได้หลายพันตัว ทั้งยังเก่งในการข่มขู่สัตว์รอบข้างไม่ให้กล้าเข้ามาใกล้ได้อีกด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าสีและจุดของเต่าทองนี่แหละที่เป็นเสมือนสาสน์เอาไว้ข่มขู่ผู้อื่นให้อยู่ห่างๆไม่ต้องมายุ่งมารังแกตัวของมัน จึงเรียกได้ว่าเป็นเครื่องรางที่มีครบทั้งด้านเมตตา,มหาเสน่ห์,การทำมาหากิน,การคุ้มครองป้องกัน...### แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าแท้จริงแล้วมันคือผู้ส่งสาสน์ของพระเจ้า ผู้ที่บูชาแมลงเต่าทองนี้จะสังเกตุได้ว่าเวลาขอหรือมีความปรารถนาสิ่งใดก็ตาม เอ๊ะ ทำไมแค่คิดหลายๆเรื่องมันจึงออกมาดูดี,มันจึงสำเร็จได้ง่ายๆแปลกๆไม่ต้องใช้ความพยายามมากเหมือนแต่ก่อน นั่นก็เพราวิชาสร้างเต่าทองนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าก็เหมือนสร้างเทพรับสาสน์นั่นเองเช่นนี้จึงทำยาก เพราะเขาจะรับฟังคำขอความคิดและคำอธิษฐานผู้บูชาส่งตรงให้ถึงเทพเจ้าโดยตรงตามหน้าที่เขา...ดังนี้อะไรๆจึงสำเร็จได้โดยง่ายเพราะเทพเจ้าทั้งหลายจะคอยช่วยเหลือ พ่ออาจารย์ท่านจึงกล่าวแบบง่ายๆถ้าใครมาถามว่าเต่าทองวิชาของท่านดีอย่างไรท่านว่าก็เป็นสัญลักษ์ของความช่วยเหลือจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพระเจ้า,เป็นเทวดา คิดเอาเองเถิดว่าดีอย่างไร

    เมื่อนำมาทำเป็นเครื่องรางให้บูชาติดตัวนั้น เต่าทองน้อยๆนี้ยังมีคุณวิเศษอันแปลกประหลาดอีกประการหนึ่งด้วยก็คือช่วยลดปัญหา ใครที่มีปัญหาชีวิตหมักหมมมาเยอะๆนี่ท่านว่าต้องรีบแก้ก่อน เพราะเต่าทองวิชานั้นจะช่วยลดปัญหาซ้ำยังกู้วิกฤติต่างๆในชีวิตคนใช้ให้ผ่านไปได้อย่างง่ายๆ เรื่องที่หนักก็ลดลง ยิ่งชีวิตใครทำงาน,เสี่ยงโชคเจอแต่เรื่องเจ๊งเรื่องขาดทุนทั้งหลายนั้นท่านว่าปิดประตูเจ๊งกันไปได้เลยถ้าเขาได้พบกับเต่าทองวิชานี้ชีวิตจะยกขึ้นมาให้สมบูรณ์ ให้จำไว้ว่าเมื่อเต่าทองเข้าบ้านจะเจอแต่เรื่องดีๆ เช่นนั้นเมื่อเต่าทองอยู่กับเราจึงเป็นกำลังที่จะขับเคลื่อนสิ่งดีๆเข้ามาหาเรา ความหวัง,ความปรารถนาใดก็ดีถ้าเราอยู่กับเต่าทองวิชานี้ไปตลอดพ่ออาจารย์ท่านว่าจะได้อย่างที่หวัง จะเจอแต่ความโชคดีความรุ่งโรจน์ไม่รู้จบ ยิ่งใครหมั่นจับหมั่นลูบเขาเล่นก็เหมือนดุจว่ามือตัวเองได้จับโชคลาภแก้เคล็ดที่ว่าซวยว่าพลาดทั้งหลาย เงินทองจะเข้ามือตราบใดที่ในมือมีเต่าทองวิชาท่านว่านั่นแหละกำลังจะได้รับทรัพย์ในเวลาอันใกล้ ด้วยเต่าทองวิชานั้นเป็นสื่อกลางระหว่างมนุษย์กับเทพเจ้า ดังนั้นผู้บูชาเขาพ่ออาจารย์ท่านจึงมักเน้นย้ำว่าให้อธิษฐาน(กระซิบความปรารถนา)บอกความต้องการหรือขอสิ่งที่เราอยากจะขอต่อเทพเจ้ากับเต่าทอง ให้เป็นภาระของเต่าทองที่จะนำคำอธิษฐานของเราลอยล่องไปสู่สวรรค์ชั้นฟ้า...ดุจความเชื่อที่ว่าเทวดาจะรับสาสน์ทุกอย่างและจะให้ผู้รับทุกอย่างดั่งคำที่เต่าทองนำขึ้นมาเช่นนั้น

    เมื่อจะทำเป็นเครื่องราง พ่ออาจารย์ท่านย่อมคำนึงถึงประโยชน์ในการใช้งานจริงเป็นหลักใหญ่ เช่นนั้นท่านจึงลงคาถาต่างๆปลุกเสกเต่าทองวิชานี้ให้มีคุณครบเครื่องรอบด้านครอบจักรวาลเลยทีเดียว ทั้งในด้านการทำมาค้าขายให้โชคให้ลาภ,เรียกโชคลาภหรือลูกค้าเข้าหา,ให้ทำมาค้าขายคล่อง,ธุรกิจเจริญก้าวหน้ารุ่งเรือง,ให้ชีวิตมีแต่เจริญขึ้นไปไม่มีเสื่อม,มั่งคั่งมั่นคง,ปกป้องคุ้มครองป้องกันภัย..ท่านว่าพกติดตัวไว้คุ้มครองป้องกันภัยได้นานาประการอย่าไปดูถูกเขาว่าตัวเล็ก เห็นแบบนี้เธอรู้มั๊ยว่าพวกเขาเยอะแค่ไหน ก็เต่าทองวิชานี้เทวดาทั้งหลายทุกชั้นล้วนแต่เมตตาเอ็นดูดุจญาติสนิทมิตรสหายตนเราจึงบอกว่าอย่าประมาทกับสิ่งเล็กๆ ทั้งยังลงให้เป็นเมตตามหานิยมใครพบเห็นก็บังเกิดความรักใคร่เอ็นดูตามคุณลักษณะของเต่าทองวิชาท่านว่าหากบูชาดีจะมีแต่โชคมีลาภไม่ขาดทั้งค้ำคูณเจ้าของ มีฤทธิ์ทำให้เกิดโชคลาภน้อยใหญ่บันดาลทรัพย์สินเงินทองจากหน้าที่การงานมีโชคบอกลาภอยู่เป็นประจำ ช่วยในการค้าขายเรียกลูกค้าเข้าหาได้เป็นอย่างดี เวลาเราไปไหนก็ดีเต่าทองวิชานี้เขาจะใช้จิตวิญญาณของตนเองติดตามให้การช่วยเหลือด้วยพ่ออาจารย์ท่านลงวิชาสำคัญไว้ให้กระแสชีวิตของเต่าทองวิชานั้นเชื่อมต่อกับผู้ใช้เพื่อจะได้ใช้งานได้เป็นประโยชน์สูงสุดและซึมซับพลังเข้ากับเขาได้อย่างแน่นแฟ้น ท่านว่ากระแสชีวิตของเรากับเขาจะเชื่อมต่อกันนี่ถ้าใครจิตดีแค่มองเขาก็จะรู้สึกได้ว่าเขาพูดหรือสื่อสารอะไรกับเรา

    นอกจากนั้นเต่าทองวิชาเมื่อพกติดตัวแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากจะใช้แก้เคล็ดล้างซวยให้โชคดียังใช้ปรับแก้ฮวงจุ้ยส่งเสริมข้อด้อยยกให้เด่นให้รุ่งได้อีกด้วย ใครที่ดวงชะตาตกอับมีเคราะห์หรือสถานที่อาถรรพณ์ทำมาหากินไม่ขึ้นสามารถแก้ให้มีความรุ่งเรืองได้ในเวลาไม่นานนักไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางด้านโชคลาภ,กิจการไม่ดี,ธุรกิจไม่เจริญก้าวหน้า ท่านว่าใช้ปรับแก้ได้ได้ตั้งแต่งานหรือธุรกิจเล็กๆไปจนถึงขนาดใหญ่ๆทีเดียว คนที่เก็บเงินไม่อยู่,ทำมาหากินไม่ขึ้น,ทำคุณคนไม่ขึ้น,เจ้านายเพื่อนฝูงไม่รัก,มีดวงไม่ดีในเรื่องความรักทั้งหมดเหล่านี้รวมไปถึงคนประเภทที่ใจร้อนหรือสถานที่อันมีธาตุร้อนซึ่งจะทำให้เสียเรื่อง,เสียงานเสียการ,อยู่ไม่เป็นสุข,ไม่สบาย ท่านว่าให้ใช้เต่าทองวิชานี้ติดตัวหรือติดบ้านจะสามารถช่วยให้มีความสงบร่มเย็นขึ้นมาได้ ด้วยเต่าทองวิชานั้นถือได้ว่าเป็นของดีมีเทวดารักษามีความศักดิ์สิทธิ์ให้คุณทางหนุนส่งดวงชะตาให้อุดมด้วยความสงบร่มเย็นค้าขายดีมักมีโชคลาภมีลาภลอยปรับชีวิตให้ดีขึ้นตามธรรมชาติหรือสภาวะการณ์และสิ่งแวดล้อมที่เราเป็นอยู่ นอกจากนั้นยังใช้ได้ทั้งกันและแก้ อาถรรพณ์ในสถานที่มีธาตุร้อนผู้ใดมีไว้ครอบครองจักมีความสงบร่มเย็นในชีวิต หากนำเต่าทองวิชานี้เก็บไว้ในที่เก็บเงินจะช่วยทำให้ส่งเสริมให้มีโชคลาภเข้ามาไม่ขาดสาย

    พ่ออาจารย์ท่านกำชับให้หาเต่าทองไม้แกะสลักมาเก็บไว้ให้ท่านทำพิธีชุบและปลุกเสกทำการประจุพลังลงอาคมตั้งธาตุทั้งสี่(ดิน,น้ำ,ลม,ไฟ)และเปิดอาการทั้งสามสิบสองจนครบให้กับเต่าทองวิชาตั้งแต่หัวจรดขาอนุโลมและปฎิโลมจนครบสามสิบสองครั้ง แล้วจึงเรียกจิตเรียกนามอัญเชิญดวงวิญญาณของเต่าทองวิชาให้มาสถิตอยู่ในหุ่นเต่าทองนี้ พ่ออาจารย์ท่านกำชับไว้แต่แรกว่าให้กางมุ้งครอบตอนทำพิธีด้วยเพราะว่าถ้าเสกเสร็จแล้วเต่าทองวิชานั้นจะเป็นของทิพย์เป็นของเทวดา เขาจะบินกลับและเทวดาท่านก็จะเอากลับคืนไปเช่นนั้นตอนเสกท่านจึงกางมุ้งครอบไว้และลงคาถาอาคมที่มุมทั้งสี่ทิศป้องกันเทพและเพชรพญาธรทั้งหลายมาโขมยของหรือทำให้เสียพิธี และเพื่อให้เต่าทองนี้บังเกิดฤทธิ์เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าพ่ออาจารย์ท่านจึงได้กำหนดพลังลมหายใจให้กับเต่าทองให้มีชีวิตทีละตนเพื่อให้เป็นเครื่องรางที่มีฤทธิ์แรงด้านโชคลาภและช่วยทำมาหากิน ท่านนำไปปลุกเสกจนร่างเต่าทองนี้คลานเคลื่อนไหวดุจมีชีวิตและต้องเสกต่อไปจนมันบินได้ ท่านว่าต้องเสกจนเต่าทองบินได้,เดินได้,ดำน้ำได้เท่านี้จึงเป็นอันใช้ได้ พอเสกเสร็จก็ตามเก็บกันภายในมุ้ง ท่านว่าไม่มีตัวไหนอยู่บนพานซักตัว

    เมื่อเสกเต่าทองวิชาเสร็จแล้วท่านจึงนำไปติดกับตะกรุดที่ท่านทำและเสกไว้เรียบร้อยแล้วอีกหนหนึ่งนั่นก็คือ
    - ตะกรุดเรียกเงินมา พ่ออาจารย์ท่านว่า"เงินย่อมต่อเงิน เงินย่อมเรียกหาเงิน" ตะกรุดนี้จึงดลบันดาลไม่ให้เงินหรือทรัพย์สมบัติของคนใช้ลดลงเหมือนหาดทรายที่น้ำพัดเท่าไหร่ทรายก็ไม่พร่อง ไม่ให้ธนสารสมบัติลดลงเกินวังน้ำถึงแม้มีลงก็ต้องขึ้นเต็มขอบฝั่งฉันใดก็ฉันนั้น ตะกรุดนี้ท่านลงให้ครบเพราะเสกใส่วิชาทำตะกรุดสาลิกาผสมลงไปด้วย จึงเป็นทั้งเสน่ห์ เมตตา ท่านว่ายิ่งโชคลาภนี้ยิ่งดีมาก จะค้าขายก็ดี ยิ่งพูดยิ่งเจรจาอะไรกับใครยิ่งมีแต่เรื่องดีๆยิ่งพูดยิ่งรวยแค่อ้าปากก็ได้เงินแบบนั้น ทั้งอธิษฐานจิตปลุกเสกให้ชนะทุสิ่งทุกอย่างแม้กระทั่งใจของคน จะเอาไปใช้ทางใดก็สุดแล้วแต่เพราะเป็นมหาลาภ,กลับร้ายกลายเป็นดี,ผ่อนหนักเป็นเบาดุจแก้วสารพัดนึกอธิษฐานได้ร้อยแปดประการ นอกจากนั้นท่านยังลงกันคุณไสยทั้งเสริมดวงให้ดีขึ้น,ปกป้องจากภัยร้าย,สะท้อนสิ่งชั่วร้ายที่เข้ามาออกไปให้หมด พ่ออาจารย์ท่านว่าลงเอาไว้ครบเพราะตั้งใจจะติดเสริมอานุภาพให้เต่าทองวิชานั้นใช้ได้ทุกด้าน


    วิธีใช้
    ให้เรียกเขาว่า...พ่อเต่าทองจ๋าไปอยู่กับฉันนะ แล้วให้ตอบรับเองว่าฉันจะไปอยู่ด้วยจ๊ะแล้วฉันจะไปช่วย(จะให้ช่วยด้านไหนก็ตอบเอาเอง)ทำมาหากินหาเงินหาทองทำให้ร่ำรวยนะจ๊ะ
    - สำหรับขั้นตอนการขอโชค ให้นำกระดาษมาเขียนเลขศูนย์ถึงเก้าทำสามชุดแล้วใส่ในพานหรือภาชนะที่ไม่เคยผ่านการใช้งานอย่างอื่นมาก่อน จากนั้นให้เราอาบน้ำให้สะอาดแต่งกายให้เรียบร้อย แล้วตั้งนะโมสามจบสวดต่อด้วย พุทธังสรณังคัจฉามิ ธัมมังสรณังคัจฉามิ สังฆังสรณังคัจฉามิ พร้อมนั่งสมาธิเสียเล็กน้อย จากนั้นให้ว่าลูกขอบารมีพ่อเต่าทองวิชาและเทวดาทั้งหลายให้ช่วยดลบันดาลให้ลูกหยิบได้เบอร์หวยประจำงวดวันที่..เดือน.. ปี.. แล้วจากนั้นนำเต่าทองกวนในม้วนกระดาษ ที่พานซ้ายสามครั้ง,กลางสามครั้ง,ขวาสามครั้ง เสร็จแล้วกลั้นหายใจหยิบเบอร์มาสามใบ(พานละใบ)แล้วจึงนำเบอร์ไปซื้อหวย ถ้าประสบความสำเร็จให้ใส่บาตรทำบุญให้เต่าทองวิชาและเทวดาเขาด้วย
    - เมื่อจะใช้ข่มศัตรู ท่านว่าถ้าเป็นคดีความให้เอาเต่าทองวิชาทับชื่อของผู้ที่ขัดแย้งกับเราเอาไว้เขาจะขัดแย้งกันเองจนเลอะเลือนจับต้นชนปลายไม่ถูกและแพ้คดีไปในที่สุด แม้จะข่มศัตรูก็ใช้ได้ดังนี้เช่นกัน


    พ่ออาจารย์ท่านว่าเสกมาให้ดีแล้วเต็มวิชาแล้ว ที่เหลือก็คือการนำไปใช้ยิ่งใครที่ทำงานขาดทุนหรือเจอปัญหาทางเศรษฐกิจส่งผลแบบกว้างๆแก้ไขไม่ถูกท่านว่าให้เร่งอาราธนาเต่าทองนี้เถิดเอาติดตัวไปไหนมาไหนไม่ต้องกลัวอันตราย จะทำการค้าขายก็ใช้ได้ผลดีเมื่อจะเข้าหาเจ้านายหรือจะให้คนมีเมตตาลืมความโกรธไปชั่วขณะก็ยังใช้ได้ จะทำให้มีโชคลาภหลั่งไหลมาดังที่กล่าวว่า"ทรัพย์สินเงินทองหลั่งไหลมาดุจนทีธารท่วมท้นอย่ารู้ขาดสูญเลยนา" ด้วยเต่าทองวิชาจะล้างซวยช่วยให้พ้นเคราะห์ ให้คนที่หากินลำบากเห็นเงินทองง่ายขึ้นมีกินไม่มีอด ทั้งเป็นมหานิยมโชคลาภเรียกทรัพย์เสริมหน้าที่และการงานให้เจริญรุ่งเรือง,เสริมความเป็นมงคลทั้งหลายในบ้านเรือน,คุ้มครองป้องกันคุณไสยต่างๆวิชาต่างๆเสนียดจัญไรทั้งหลายไม่ให้เข้าใกล้ ดั่งปกาศิตที่พ่ออาจารย์ท่านกล่าวไว้ ว่า...แว่วเสียงกระซิบ,สดับ,รับปากคำ ###นั่นคือความต้องการและคำอธิษฐานของเราแม้จะเบาดั่งเสียงกระซิบเขาก็ได้ยินได้สดับและรับปากคำของเราที่ขอที่ต้องการนั้นส่งต่อถึงทวยเทพทั้งมวล

    คาถาบูชา
    สิริโภคานะมาสะโย นะชาลิติจะมหาลาโภ นะชาลิเตจะมหาลาภัง สังชาลิเตจะมหาโภคัง ปุริโส อิตถีโย เมตตาจิตตังปิยังมะมะ สัพเพโวรา พะหูโจรา สัพเพชะนา พะหูชะนา สัพพะศัตรูวินาสสันติ

    *** เต่าทองวิชานี้ตามที่ครูท่านโองการไว้พ่ออาจารย์ว่าจะดีมากยิ่งกว่าทวิทวีหากได้บูชาเป็นคู่ ซึ่งจะเปิดให้บูชาเฉพาะทาง PM เท่านั้น ท่านว่าเต่าทองนั้นเขามีคู่บุญคู่พันธะของเขาทุกตัว ถ้าใครยังไม่ใช่บุคคลที่สมควรจะได้เขาก็จะมองไปว่าเป็นเรื่องไร้สาระหรือไม่เห็นคุณค่าอยู่เช่นนั้น

    ร่วมทำบุญบูชา เทพรับสาสน์เต่าทองเทวดาล้างซวยให้โชค(แว่วเสียงกะซิบ,สดับ,รับปากคำ) บูชา 900 บาท

    61680384-361150941421563-1795727067703148544-n.jpg 61844113-361038874763419-4524545929470017536-n.jpg
    61451858-628088651041197-8519230488185929728-n.jpg
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    แบ่งๆกันไปนะครับรายการนี้คนละตัวสองตัวอย่าเหมาเยอะ
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    แจ้งการส่ง EMS
    พี่คณพศ ED 8156 0907 2 TH

    พี่เมธี ED 8156 0908 6 TH

    พี่ภาคภูมิ ED 8156 0909 0 TH

    พี่วุฒิชัย ED 8156 0910 9 TH

    พี่กฤตยชญ์ ED 8156 0911 2 TH
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    อรุณสวัสด์ครับ

    ช่วงนี้แปลกๆ มีคนโทรมาถามว่าพ่ออาจารย์ท่านรับทำของมั๊ย พอคุยๆไปก็ตกใจแต่ละเรื่อง...หมดคำจะพูดจริงๆ อันนี้ต้องบอกไว้เลยว่าท่านไม่ได้รับทำคุณไสยนะครับ ยิ่งพวกกระทำด้วยไสยดำ,คุณผีหรือของต่ำด้วยยิ่งไม่ทำเลย

    วันนี้ก็ฝากคำถามไว้ทาง PM ได้ปกตินะครับจะทยอยตอบให้เรื่อยๆแต่ถ้าเป็นเรื่องด่วนโทรมาก็ได้
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ปากไว ใจเร็ว สองคำนี้ฟังดูไม่ค่อยจะดี ...แต่มีดีอย่างไรเดี๋ยวรอพูดคุยกัน
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    พูดคุยรอบเช้า
    เมื่อคืนมีคนเล่าให้ฟังว่าพลองตีเทพแรงมากพอได้พัสดุที่ส่งไป พี่เค้าว่าแรงนะวางบนมือสัมผัสได้เลย รู้สึกถึงพลังข้างในแผ่ออกมา(แรงจนบูชาเพิ่ม) ซึ่งปกติพี่คนนี้ไม่ค่อยคุยกับผมเรื่องพลังงานแบบนี้เท่าไหร่เลยรู้สึกว่าน่าจะแรงจริงๆ***ถึงบอกกันแต่แรกว่าอย่าดูถูกสิ่งเล็กๆ

    อีกรายหนึ่ง พี่ท่านนี้ได้รีดแผ่นทองคำมาเพื่อให้พ่ออาจารย์ท่านทำตะกรุดจิ๋วเป็นตะกรุดทองคำเอาไว้ตกฝังโดยม้วนทับกันสองแผ่น ซึ่งผมจำได้ว่าท่านเก็บไว้เสกนานเอาการทีเดียวแม้จะเป็นแค่ตะกรุดดอกจิ๋วนี่แหละ ซึ่งท่านลงอะไรไว้ถามท่านก็ไม่ค่อยอยากจะบอกจนท่านเพิ่งมาเฉลยเมื่อวานก่อนก็พอดีกับที่พี่เค้าเล่ามาว่าตะกรุดจิ๋วเวลากำทำสมาธิ (คงรู้สึกแปลก)ทำไมคลื่นรัศมีพลังงานแผ่กว้างมาก หมุนวนจากภายในออกนอกบ้างแล้วก็ดึงกำลังภายนอกกลับเข้าด้านในบ้าง พี่เค้าก็คงจะงงงเพราะผมเองยังงงเลยว่าท่านลงอะไรทำอะไรให้จนมาถึงบางอ้อท่านเฉลยก็คลายใจกันไป แต่ก็เชื่อแน่ว่าครูท่านทำให้จริงและพิถีพิถันมากจริงๆแม้แต่กับตะกรุดฝังดอกเล็กๆเท่าปลายเข็ม

    อีกรายนี่โคตรเฮงมาติดๆกันตั้งแต่ใช้น้ำมัน...(ขอปิดชื่อไว้) พี่เค้าว่าไม่เคยเล่นหวยถูกเลยแถมรู้สึกช่วงนี้ดวงห่วยๆ ต้องใช้คำว่าห่วยมากลงทุนอะไรทุกครั้งก็ไม่เคยได้ผลตอบแทนในราคาสูงสุดเหมือนคนอื่นเขา ได้ก็ได้แบบครึ่งๆกลางๆ พอมาได้น้ำมันพ่ออาจารย์พี่เค้าว่าทะลุเป้ามาเดือนนึงฟันกำไรไปเจ็ดแสนไวกว่าเล่นการพนัน แถมหวยก็ถูกมาสองงวดติดๆไม่รู้เลขมันมาจากไหนแต่หวยจะออกทีไรมีคนมากะซิบบอกทุกที


    ก็เอามาพูดคุยกันรอบเช้าส่วนเรื่องที่ค้างไว้ว่าทำไม ปากไว ใจเร็ว สองคำนี้ที่ฟังดูไม่ค่อยจะดี ...แต่มีดีอย่างไร ทั้งๆที่คนปากไวใจเร็วนั้นส่วนใหญ่จะพินาศเพราะอารมณ์แล้วก็ฉิบหายเพราะปากคิดอย่างไรก็ไม่น่ามีเรื่องดีๆเกิดขึ้นได้ ..แต่อย่าลืมว่านั่นเป็นเฉพาะคน แล้วถ้าไม่ใช่คนล่ะ...เดี๋ยวมาติดตามพูดคุยเรื่องปากไว..ใจเร็วที่เป็นเรื่องตลกๆแบบน่ารักๆในมุมของพ่ออาารย์กันนะครับ

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    ที่ผ่านมาชอบมีคนถามว่าเวลาเช่าเครื่องมงคลไปบูชา ช้นนี้ต้องห้อยต้องใส่ตลอดมั๊ย ก็จะบอกกันไปตามความเป็นจริงของแต่ละชนิด

    แต่ครั้งนี้เดี๋ยวจะมาคุยเรื่องตะกรุดชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นตะกรุดที่จำเป็นจะต้องติดตัวตรงส่วนไหนของร่างกายก็ได้ แต่ต้องติดเอาไว้ตลอด(พ่ออาจารย์ว่าที่จริงจะถอดมันก็ง่าย) แต่ที่จำเป็นต้องใส่ไว้ตลอดไม่ควรถอดออกมาง่ายๆนั้นเพราะอะไร....ทำไมถึงสำคัญจนน่าแปลกใจขนาดนี้ เดี๋ยวมาติดตามกันดีๆนะครับ
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    เดี๋ยวมาติดตามพูดคุยกันนะครับ เกี่ยวกับตะกรุด...ที่จำเป็นต้องคาดและควรคาดติดตัวเป็นประจำตลอดเวลา ทุกเวลาเพราะมีผลให้บางสิ่งในตัวเราค่อยๆเจือจางเบาบางลงไปได้ ดังพ่ออาจารย์ท่านอุปมาว่าเหมือนเอาหมึกดำไปเจือจางในท้องพระมหาสมุทร เอาเป็นว่าในความรู้สึกคนใช้ถ้าได้ใส่คงไม่อยากจะถอดหรือยากที่จะถอดต่อให้ไปขอให้ถอดก็ตาม....จะเป็นอะไรมาลุ้นกัน
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    หลายคนทักมาถามเพราะอยากรู้ก่อนคร่าวๆว่าตะกรุดรุ่นนี้มีดีขนาดไหน ก็จะบอกตามที่พ่ออาจารย์ท่านกำชับไว้สั้นๆว่า"คนไม่ดีไม่ได้ใช้" เพราะเป็นตะกรุดสายโหดที่ท่านว่าทำเอาไว้ให้รบ แต่ไม่ใช่รบกับคนอื่นหากเป็นรบกับ...ในตัวเอง ซึ่งตอนเสกตะกรุดนี้ท่านบอกว่ เราทำให้คนที่มีกิเลสอยู่ในโลกโลกีย์ใช้ เราไม่ได้ปลุกเสกเพื่อให้คนเอาไปใช้แล้วกลายเป็นพระอรหันต์ชาตินี้หรือว่าเดี๋ยวนี้....จะเป็นตะกรุดอะไรติดตามกันดีๆ
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    แจ้งข่าวเรื่องตะกรุด

    อันนี้เห็นว่ามีคนสนใจกันมากและไลน์มาสอบถามกันเต็มไปหมด ก็เลยแจ้งไว้เสียก่อนจะได้รู้ทั่วๆกันว่าวันนี้ยังไม่เปิดให้จอง เพราะพ่ออาจารย์ท่านว่าวันนี้มีฤกษ์จันทร์ดับ จะทำพิธีขอเงินพระจันทร์แล้วก็จะเสกตะกรุดให้ด้วยในวันอมาวสีนี้ เพื่อเป็นกฤติยามคมแฝดเสริมตะกรุดชุดนี้ให้คนใช้โชคดีขอเงินได้เงินขอโชคได้โชค ...คิดว่าน่าจะโดนใจใครหลายๆคนมากขึ้นทีเดียว
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดล้างหนี้เวรซ้อนธาตุซ้อนขันธ์บรรเทาความเดือดร้อนทั้งผอง(ผงมหานาวาพุทธรักษา)

    ชีวิตคนปกตินั้นย่อมหนีไม่พ้นความทุกข์แลเดือดร้อนเป็นเรื่องสามัญ ด้วยปัญหา,เรื่องไม่ดี,เรื่องอัปมงคล,เรื่องเลวร้ายต่างๆที่เกิดขึ้นกับชีวิตนั้นมีอยู่มาก อาทิ ป่วยเป็นโรคร้ายรักษาไม่หาย,ถูกโกง,ถูกใส่ร้ายป้ายสี,บุตรไม่รักดี,ครอบครัวแตกแยก,คนรักนอกใจ,ทำมาหากินไม่ขึ้น,ไม่พบความเจริญ...สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นผลของกรรมที่ตนเคยสร้างไว้กับคนอื่นทั้งสิ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเพราะถูกเจ้ากรรมนายเวรตามทวงกรรมชั่วที่ตัวเคยทำไว้สิ่งอันวิบัติทั้งหลายจึงเกิดขึ้นทีละเรื่องๆอย่างช้าๆ ทีนี้เจ้ากรรมนายเวรนั้นก็อุปมาได้กับสุนัขไล่เนื้อท่านว่ามันจะตามเราไปทุกภพทุกชาติอย่างไม่ลดละ เมื่อใดที่เราอ่อนล้า(กำลังบุญอ่อนแรง)และสบโอกาสมันก็จะเข้างับกัดกินเราอย่างไร้ความปรานี เช่นนั้นปัญหาที่มีคนมาปรึกษามากมายท่านว่าต่างคนก็ต่างชีวิตย่อมมีปัญหาแตกต่างกันไป หากแต่เมื่อพิจารณาดูแล้วจะพบว่าทุกปัญหาล้วนมีสาเหตุมาจากต้นตอเดียวกันทั้งสิ้น ท่านว่าถ้าบอกว่าง่ายมันก็ง่ายที่จะแก้ แต่ถ้าแก้ผิดจุดทั้งชาติมันก็แก้ไขอะไรไม่ได้

    เมื่อพิจารณาดูแล้วพ่ออาจารย์ท่านเห็นว่าคนเรานั้นมีหนี้เวรหนี้กรรมที่ก่อไว้ตามภพชาติที่ตนเกิด พอกรรมส่งผลมันก็เปลี่ยนทะเลชีวิตให้เชี่ยวกรากดุจช่วงเวลาที่ตนเองเข้าไปในมหาวายุ ทั้งแดด,ทั้งคลื่น,ทั้งลมล้วนแต่พร้อมจะทับถมเข้ามาในเวลาเดียวกัน ด้วยกรรมนั้นเป็นเสมือนสุนัขล่าเนื้อไม่ว่าเราจะอยู่ภพไหนในร่างใดมันก็ตามกลิ่นเราถูก พ่ออาจารย์ท่านจึงเรียกกรรมเหล่านี้ว่าเป็นหนี้..หนี้ของเวรที่ต้องชดใช้..เป็นหนี้ที่ซ้อนอยู่ในร่างกายรวมกับตัวของเรา..เป็นหนี้ที่ซ้อนธาตุซ้อนขันธ์ของเราอยู่ พูดเช่นนี้ก็คือแยกกันไม่ออกขาดกันไม่ได้นั่นเอง มีทางเดียวที่จะแก้ไข นั่นก็คือไปหยุดให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายเขาเลิกเพ่งโทษ,เลิกติดตามทวงบัญชีหนี้ที่เราก่อไว้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เราเคยทำร้ายหรือสร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้เขาก็ดี ถ้าคลายความอาฆาตแค้นลงได้และเขายอมให้อภัย นั่นจึงจะเป็นการหยุดคราเคราะห์ทั้งหลาย เป็นการแก้ที่ต้นเหตุอย่างแท้จริง ตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าสิ่งที่จะเอาชนะความอาฆาตพยาบาทได้ก็มีเพียงการเจริญเมตตาให้เขาเท่านั้น ทีนี้หลายๆคนพอรู้ว่าตนอยู่ในช่วงชีวิตที่ร้ายมากกว่าดีก็เลยขยันทำบุญอุทิศให้เขากันใหญ่โดยไม่ได้สนใจว่าเขาจะรับบุญหรือไม่ บางทีก็พาลไปทำให้เขานึกถึงอดีตทวีแรงแค้นแรงอาฆาตมากขึ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าบางอย่างถ้าเขาตั้งใจจะล้างผลาญเราจริงๆนั้นไปพูดดีๆเขาก็ไม่ฟังเราหรอกต่อให้ไปกรวดน้ำทำบุญให้เท่าไหร่เขายิ่งจะคว่ำขันไม่รับอยู่อย่างนั้น นั่นหมายถึงว่าอำนาจบุญของเราที่ส่งไปเมื่อเทียบกับปัญหาที่เราก่อนั้นยังไม่พอ แรงเมตตาน้ำใสใจจริงของเราเมื่อเทียบกับความอาฆาตของเขานั้นยังเทียบกันไม่ได้ จึงพาลให้มรสุมทั้งหลายตามเข้ามาถาโถมอีกหลายระรอก เป็นสาเหตุที่คนเข้ามาปรึกษากันเป็นส่วนมากว่าทำไมทำบุญแผ่เมตตาแล้วปัญหาถึงเลวร้ายลงและหนักหน่วงมากขึ้นทุกที

    ในส่วนของวิชาที่พ่ออาจารย์ท่านทำเป็นเครื่องมงคลไว้นั้นก็เห็นจะมีแต่"ตะกรุดล้างหนี้เวรซ้อนธาตุซ้อนขันธ์"เท่านั้นที่จะรั้งและแก้ไขปัญหาได้ถึงต้นตอและแก้ได้ตรงจุด พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้สร้างยากอย่างแท้จริงเพราะอยู่ดีๆนึกอยากจะทำนึกอยากจะเขียนนั้นทำไม่ได้เลย แม้ฝืนทำไปก็หาได้มีอานุภาพควรแก่การนำไปใช้ไม่ เมื่อจะทำแล้วจึงต้องสร้างให้คู่ควรให้สำเร็จผลอย่างแท้จริงซ้ำเสด็จพระใหญ่ท่านยังให้คาถาในการลงจารและผูกตะกรุดด้วย จะบอกว่านี่คือกำลังบุญของมหาพุทธะ(เสด็จพระใหญ่)ที่ท่านแผ่เมตตาไว้ภายในตะกรุดนี้ เป็นกำลังบุญที่สั่งสมมาผ่านกาลเวลาแทบจะเรียกว่าอนันตกาล ด้วยกำลังนั้นจะปลดเงื่อนแก้จิตอันอาฆาตพยาบาททั้งหลายลงแบบส่งตรงถึงตัวทันทีเช่นนั้นก็ย่อมได้ เป็นกระแสมหาเมตตาใหญ่ที่อุปมาดั่งมหาสมุทรอันหล่อเลี้ยงแผ่นดินทั้งสี่ทวีปจะได้ชักนำได้นำพาไปปลดเปลื้องเจือจางความขุ่นแค้นหมองมัวทั้งหลายเหล่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นเครื่องมงคลที่ได้จากการเจริญเมตตาด้วยความจริงใจและบริสุทธิ์ใจจริงๆขององค์มหาพุทธะ ด้วยกระแสแห่งเมตตานั้นความเดือดร้อนทั้งผองอันส่งผลมาแต่กรรมและเจ้ากรรมยายเวรทั้งหลายย่อมคลี่คลายไปทีละชั้นอย่างช้าๆ เมื่อเจ้ากรรมยายเวรนั้นรับรู้ถึงกระแสธรรมและความเมตตาเขาจะเต็มใจให้อภัยและหยุดให้ร้ายแก่เราเมื่อนั้นจึงเรียกว่าตัดเวรกรรมได้อย่างแท้จริงและเป็นการตัดที่ต้นตอออกไปทั้งหมด

    ...ทำไมต้องคลี่คลายอย่างช้าๆ ท่านว่ากรรมนั้นก็เหมือนเปลือกหุ้มตัวเอาไว้ ถ้าถามมาว่าทำไมก็ต้องย้อนถามกลับไปว่าไอ้เปลือกที่หุ้มตัวเราอยู่นี่มีไม่รู้กี่ร้อย.พัน..หมื่นชั้นก็เท่านั้น อย่าลืมว่าเราไม่ได้เพิ่งเกิดแต่เรานั้นเวียนว่ายกันมาในวัฏสงสารนับชาติไม่ถ้วนประมาณกันไม่ได้เรียกว่าทำกรรมสร้างเวรมาไม่รู้ตั้งกี่ชาติ ไอ้ที่จะปลิดเปลือกออกชั้นหนึ่งแล้วเรื่องจบทันทีท่านว่าคงมีแต่คนโกหกเท่านั้นถึงจะพูดได้ ด้วยกรรมแต่ละอย่างมันก็นอนนิ่งรอเวลาสนองและให้ผลของมันอยู่ดั่งสุนัขล่าเนื้อที่จะคอยตามกลิ่นเรา พอมันรู้ว่าเราอยู่ไหน..มันจะกัดเราเมื่อไหร่นั่นก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น ทีนี้ต้องพึงรู้เอาไว้ว่าไอ้สุนัขล่าเนื้อที่พูดถึงกันอยู่นี่มันไม่ได้มีแค่ตัวเดียวและบางทีมันก็ไม่ได้มาแค่ตัวเดียว บางครั้งมันก็มากันเป็นฝูงรุมขย้ำเราเพราะกรรมบางอย่างนั้นมันเป็นกรรมซ้อนกรรมมีผู้เกี่ยวข้องและเดือดร้อนเป็นทอดๆอย่างนี้ เช่นนั้นตะกรุดนี้จึงจำเป็นต้องคาดไว้ตลอดเวลาไม่ควรจะถอดออกในกรณีใดๆทั้งสิ้น...ท่านว่าพอจะกระจ่างแจ้งแก่ใจกันหรือไม่

    ด้วยปรารถนาให้ความสำเร็จนั้นเกิดขึ้นกับเธอเสมอไม่ถูกจำกัดไว้เพียงหนทางที่เลือกเดิน ท่านจึงให้อาราธนาตะกรุดนี้ติดตัวตลอดเวลาเพราะจะได้ไม่เป็นกังวลและไม่ต้องเสียเวลาไปนั่งแก้กรรมให้โดนหลอกหรือถูกต้มถูกตุ๋นที่ไหน ตะกรุดนี้นอกจากใช้แก้กรรมแล้ว...ยังดีทางขจัดหนี้สินอีกด้วย พราะท่านลงไว้ให้มนุษย์ใช้เพื่อออกจากพันธนาการ ดังนั้นทั้งภาระและหนี้สินที่พันธนาการเราอยู่หรือไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดย่อมได้รับอานิสงค์ไปทั้งหมดเช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้แต่คำสาปและความผิดพลาดทั้งหลายอันปรากฏในอดีตสิ่งเหหล่านั้นก็นับด้วยพันธนาการทั้งสิ้น...เห็นหรือยังว่าควรกันหรือไม่ที่จะถอดตะกรุดนี้ให้พ้นตัว ท่านว่าตะกรุดนี้เสด็จพระใหญ่ท่านให้ทำเขึ้นเพื่ออำนวยผลดีสำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงชีวิตใหม่ให้ดีขึ้น แม้จะเป็นการพลิกดวงชะตา,แก้ไขกรรมเก่า,ทุกข์,โทษ,เคราะห์ทั้งปวง,ให้ปลดหนี้สินล้างมลทินทั้งปวง พ่ออาจารย์ท่านยกตัวอย่างว่าคนที่เสวยกรรมต่างๆเช่นกรรมจากการฆ่าทำให้สุขภาพไม่ดีสามวันดีสี่วันไข้ เมื่อติดตัวไว้จะลดวิบากกรรมต่อเนื่องด้วยกระแสเมตตาจิตจะผ่อนผันบรรเทาช่วยให้ผู้ที่ได้บูชามีร่างกายแข็งแรงมีสุขภาพดีขึ้น เพราะเช่นนั้นไม่ว่าจะเป็นผลพวงและผลกระทบต่างๆอันเกิดจากวิบากกรรมมาตัดรอนก่อให้เกิดวิบากกรรมต่อเนื่อง ส่งผลให้การงานติดขัดทำอะไรก็ไม่ประสบผลสำเร็จบ้าง,ขาดคนอุปถัมภ์บ้างท่านว่าคนเหล่านี้ถ้าเจอสถานการณ์เช่นนี้แล้วทำบุญเก่ามาไม่ดีชีวิตจะตกต่ำมาก หลายคนหาทางออกไม่ได้ก็เครียดมีทั้งทำร้ายตัวเองไปจนถึงฆ่าตัวตาย บางคนจากฐานะดีๆกลายเป็นสิ้นเนื้อประดาตัวก็มีมาแล้วเพราะขาดแรงบุญหนุนนำ เช่นนั้นตะกรุดนี้จึงเป็นทั้งกำลังบุญและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่จะหนุนนำตัวเธอออกจากต้นตอของปัญหา เพราะเป็นของมงคลเฉพาะทางอันมีหน้าที่แก้กรรมและหนุนนำเปิดโอกาสให้คนสร้างบุญซึ่งท่านตั้งใจยกตะกรุดนี้มาสร้างโอกาสให้แก่คนที่ชีวิตหนีปัญหาไม่พ้นทั้งหลายด้วยมีกรรมซ้อนกรรมซ้อนธาตุซ้อนขันธ์จริงจะได้ใช้กระแสแห่งมหาเมตตาใหญ่นั้นช่วยป้องกันภัยแก้ไขเวรกรรม

    ทั้งนี้ตะกรุดนั้นจะไม่สมบูรณ์ขึ้นเลยหากขาดผงวิเศษชุดสำคัญที่พ่ออาจารย์ท่านเอาแร่ต่างๆมาลบผงสำเภาทอง ผงที่มีพุทธคุณวิ่งหา,วิ่งเข้า,วิ่งชนความสำเร็จแต่เพียงอย่างเดียว หากเจออุปสรรคปัญหาขวางกั้นก็ให้หลบเบี่ยงพ้นไปไม่ย่างกรายมายุ่งกับเราดุจเราควบคุมสำเภาอันเป็นนาวาวชีวิตให้หลบพ้นหรือพุ่งชนก็ได้ตามใจหมาย ท่านว่าผงนี้เป็นมหามงคลนักเพราะเวรกรรมทั้งหลายบรรดามีเป็นอเนกชาตินั้นก็เหมือนท้องน้ำที่ไม่มีประมาณ ดังนั้นจึงใช้ตะกรุดนี้แก้เคล็ดดุจว่า"น้ำคอยพยุงเรือฉันใด แม้กรรมทั้งหลายก็ต้องเกื้อหนุนเราด้วยฉันนั้น" เป็นเคล็ดที่ว่าเปลี่ยนเคราะห์ให้เป็นโชคดี ทั้งเรือนั้นยังหนุนชีวิตเราดุจมีพาหนะที่ใช้ผ่อนแรงเวลาเราเดินทางแหวกว่ายไปหาธงแห่งความสำเร็จ ที่ควรเหนื่อยก็ไม่เหนื่อย,ที่ไกล,ที่ยาก,ที่ลำบากลดทอนเวลาก็มีแต่จะเร็วและสะดวกขึ้น ท่านนำผงธูปที่จุดตอนเข้ากรรรมฐานมาผสมกับผงดินที่ประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า,ผงดินใจกลางองค์พระปฐมเจดีย์,ทองคำเปลวที่ติดเสาหลักเมืองจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ,ผงไม้เสากุฏิอาจารย์มั่น,ข้าวตอกพระร่วงบนพระแท่นดงรัง,แร่เกาะล้าน,แร่เหล็กน้ำพี้,แร่ขี้เหล็กไหล,แร่เหล็กเปียก,ผงแร่กายสิทธิ์ทุกตระกูล,ผงเหล็กยอดปราสาท ยอดเจดีย์ เหล็กบ่อน้ำพี้ เหล็กตรึงปั้นลม,กาฝากไม้มงคล,ว่านยาผีหัวลู,ผงยาสุระสะตี่,ผงยันต์อาง,ผงส้มป่อยเดือนห้า,ผงใบหนาด,ผงหญ้าคา,ผงต้นล้านผีพ่าย,ผงไพลดำ,น้ำมะพร้าว,ผงอิทธิเจ,ผงปถมัง,ผงมหาราช,ผงพุทธคุณ,ผงตรีนิสิงเห นอกจากนั้นเพื่อที่จะลบผงสำเภาทองนี้เสด็จพระใหญ่ยังสั่งให้ท่านหามวลสารสำคัญอีกสองชนิดมาผสมลงไปด้วยก่อนจะคลุกคลีปั้นเป็นแท่งผงแล้วทำการลบยันต์ ซึ่งผงทั้งสองก็คือผงเม็ดพุทธรักษากับผงกะลามหาอุตม์
    - เม็ดพุทธรักษา เป็นเม็ดไม้มงคลที่มีฤทธิ์อยู่ในตัวมีพุทธคุณปกป้องสิ่งเลวร้ายและรักษาความเป็นมงคลไว้เชื่อกันว่าพุทธคุณของเม็ดพุทธรักษานั้นไม่มีอำนาจใดๆมาตัดรอนหรือลบล้างได้นอกจากอำนาจของกฏแห่งกรรมเท่านั้น เช่นนั้นท่านจึงให้ใส่ผงเม็ดพุทธรักษาเพื่อหนุนแรงเสริมกำลังในตะกรุดด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าอุปสรรคและการกระทำทั้งหลายจะได้ย่อยยับไปด้วยอำนาจแห่งเม็ดพุทธรักษานี้ส่วนอะไรที่เกินกรรมก็ให้เป็นเรื่องของตะกรุดไปเพราะเขาจะหนุนจะทำงานกันเป็นทอดๆ ท่านว่าผงพุทธคุณที่สร้างจากเม็ดพุทธรักษานั้นผู้ใดมีไว้ครอบครองจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองด้วยลาภ,ยศ,สุข,สรรเสริญ แม้การสร้างพระสมัยโบราณครูบาอาจารย์ก็นิยมกันมากไม่ว่าจะเอามาตำแล้วผสมลงไปในเนื้อพระเช่นนั้นสูตรทำผงพระของโบราณจารย์จึงมีพุทธคุณสูงมากเช่นนั้น แต่เม็ดพุทธรักษานั้นหาได้ยากมากเรียกว่าในหลายร้อยหลายพันต้นจะหาต้นที่ออกเป็นเม็ดนั้นยากมาก โดยส่วนมากแล้วจะเอาเม็ดพุทธรักษามาทำเป็นประคำหรือเอามาทำเป็นเม็ดกริ่งบรรจุลงไปในองค์พระมากกว่าพระกริ่งคลองตะเคียนอันมีอานุภาพลือลั่นเช่นนั้น
    - กะลามหาอุตม์ เป็นกะลาที่ไม่มีตาและไม่มีปากจัดได้ว่าหายากที่สุดแต่มีพุทธคุณมากใช้ได้หลายทางแม้แต่เป็นมหาลาภ ว่ากันว่าในลูกมะพร้าวหนึ่งแสนถึงหนึ่งล้านลูกจะเจอกะลามหาอุตม์แบบนี้เพียงหนึ่งหรือสองลูกเท่านั้น หายากมากกว่ากะลาตาเดียวหลายเท่านักพุทธคุณนั้นเด่นมากทางด้านโชคลาภ ค้าขาย เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ มีคุณให้ลาภแก่ผู้ครอบครองสูงมาก ใช้แก้ดวงตกได้ผลชะงัด ด้วยกะลามหาอุตม์หายากมากกว่ากะลาตาเดียวมากพุทธคุณจึงโดดเด่นและทำขลังได้มากกว่ากะลาตาเดียวหลายเท่าทวีคูณ ว่ากันว่าแม้ผู้ที่จะได้ครอบครองวัตถุมงคลที่ทำจากเนื้อกะลามหาอุตม์ ย่อมต้องเป็นผู้มีบุญวาสนาเท่านั้น
    ผงนี้ท่านว่าตอนเสกแล้วเอามาอุดตะกรุดนั้นท่านเน้นให้ครบหมดทั้งเรื่องเสริมดวง,ปัดเคราะห์,ล้างกรรม,พลิกดวงชะตาชีวิตจากร้ายกลายเป็นดี สำหรับคนที่มีเคราะห์มีกรรมทำมาหากินไม่คล่อง,ดวงไม่ดีพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกท่านว่าตะกรุดนี้จะผ่อนให้หมดเลยจากเรื่องที่หนักจะกลายเป็นเรื่องเบามีแต่สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต สำหรับคนที่มีแรงบุญมีวาสนาดีดวงดีอยู่แล้วก็ช่วยส่งเสริมให้ยอดดียิ่งๆขึ้นไปไม่ดีเท่าเดิมไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่เรียกว่าใช้ส่งเสริมฐานะความเป็นอยู่หน้าที่การงานให้เจริญยิ่งๆขึ้นไปไม่รู้ยากรู้จนเลย เจริญในลาภยศทุกประการคุ้มกันเสนียดจัญไรได้สารพัด กันคุณไสยนานาประการบูชาติดตัวจะเป็นเมตตา


    พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้ถึงจะเป็นมหาเมตตาที่ใช้คลี่คลายวิบากกรรมก็จริง แต่หากถ้าผู้ใดคิดร้ายต่อเราผลนั้นก็จะสะท้อนกลับไปถึงผู้นั้นข้าศึกพ่ายแพ้ไปสิ้นมิอาจทำอันตรายแก่เราได้เพราะท่านลงไว้ให้ใช้ได้ในชีวิตจริง(ท่านย้ำตรงนี้มากว่าห้อยต้องไม่หนักคอเปล่าเพราะสังคมสมัยนี้การแข่งขันมันสูง) ท่านว่าขอให้ใจเรานิ่งอย่างเดียว***ขอให้เชื่อมั่นเท่านี้แม้จะมีอุปสรรค์อันตรายบาปเคราะห์รบกวนสักเท่าไหร่ก็ดีก็จะสามารถฝ่าฟันไปได้ จะเป็นที่รักของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย จะเป็นคนมีบารมีมีวาสนามาหนุนมาผลักดันเราอยู่เรื่อยๆ ทั้งยังใช้อาราธนาคุณพระให้บรรเทาโรคภัยแก้กรรมโรคพิสดารต่างๆที่แพทย์หาสาเหตุไม่เจอ มีพุทธคุณล้นเหลือแล้วแต่จะปรารถนาเอาเถิด จะใช้แก้คุณไสย์,เสนียดจัญไร,คุณผีคุณคน,เคราะห์ร้ายดวงตก,พกติดตัวจะเป็นมหานิยม,กันสิ่งชั่วร้ายต่างๆมีคุณอนันสมปราถนาทุกประการแล...ตะกรุดชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่าผู้ใดที่ได้ไปครอบครอง ขอให้ตั้งมั่นด้วย “คุณธรรม” พุทธคุณในตะกรุดจะหนุนนำและดลบันดาลให้อุดมไปด้วยโภคทรัพย์และโชคลาภ ชีวิตจะมีแต่ความสุขความร่มเย็น ปัดเป่าภัยพิบัติต่างๆนานา สมกับชื่อตะกรุดล้างหนี้เวรซ้อนธาตุซ้อนขันธ์บรรเทาความเดือดร้อนทั้งผอง

    คาถาบูชา
    ปฐมพุทธะเตชะ นะโมพุทธายะ นะรานะระรัตตังญาณัง นะรานะระรัตตังหิตัง นะรานะระรัตตังเขมัง วิปัสสิตังนะมามิหัง

    ท่านว่าหากจิตใจไม่เป็นปรกติรู้สึกร้อนใจหรือหรือสังหรณ์ใจกระวนกระวายใจแปลกๆก็ให้อาราธนาตะกรุดด้วยพระคาถานี้ ลางร้ายทั้งหลายจะเสื่อมสูญไป อาการจิตใจที่กระวนกระวายก็จะกลับมาเป็นปกติ หากมีสิ่งปองร้ายอันเกิดจากอวิชชา,คุณไสย,มนต์ดำหรือลมเพลมพัดใดๆอยู่ในร่างกายเราท่านว่าเพียงคาดตะกรุดไว้ ทุกสิ่งเหล่านั้นจะค่อยๆเสื่อมๆค่อยๆเจือจางหายไปจากตัวเราเองอย่าได้เดือดเนื้อร้อนใจใดๆเลย เช่นนั้นตะกรุดนี้จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคาดและควรคาดติดตัวเป็นประจำตลอดเวลา,ทุกเวลาเพราะมีผลให้แรงกรรมในตัวเราค่อยๆเจือจางเบาบางลงไปได้ ดังพ่ออาจารย์ท่านอุปมาว่าเหมือนเอาหมึกดำไปเจือจางในท้องพระมหาสมุทร ที่ว่าดำว่าเข้มนั้นมันก็ค่อยๆละลายหายไปเพราะไม่มีมหาสมุทรใดในโลกจะกว้างใหญ่และยิ่งใหญ่ไปกว่าน้ำใจของพระพุทธเจ้าแล้วเช่นนั้น ทั้งตะกรุดนี้ท่านยังย้ำว่า"คนไม่ดีไม่ได้ใช้" ถึงมีตาเขาก็มองไม่เห็นเพราะเป็นตะกรุดสายโหดที่ท่านว่าทำเอาไว้ให้รบ แต่ไม่ใช่รบกับคนอื่นหากเป็นรบกับพันธสัญญาและเวรกรรมในตัวเอง ซึ่งตอนเสกตะกรุดนี้ท่านบอกว่า เราทำให้คนที่มีกิเลสอยู่ในโลกโลกีย์ใช้ เราไม่ได้ปลุกเสกเพื่อให้คนเอาไปใช้แล้วกลายเป็นพระอรหันต์ชาตินี้หรือว่าเดี๋ยวนี้ เพราะท่านหมายใจจะให้คนมีโอกาสได้สร้างบุญมีกำลังต่อทางเดินชีวิตตัวเองให้ดีที่สุด

    ***ตะกรุดล้างหนี้เวรซ้อนธาตุซ้อนขันธ์บรรเทาความเดือดร้อนทั้งผอง(ผงมหานาวาพุทธรักษา)นี้ พ่ออาจารย์ท่านให้ออกให้บูชาเพียงห้าดอกเท่านั้น ท่านว่าตะกรุดนี้แต่แรกเริ่มแล้วเสด็จพระใหญ่ท่านก็ตรวจดูสัตว์โลกที่ท่านสมควรจะโปรดเอาไว้ทั้งหมดตามพุทธกิจ...จึงเรียกว่าทำเท่าที่ผู้มีวาสนาได้พบเจอได้มีโอกาสบูชาเท่านั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าให้เป็นเรื่องของสิ่งที่ท่านลิขิตเอาไว้ใครรู้ค่าก็คนนั้นแหละมาเอาไป ท่านให้ส่งจองเฉพาะทาง PM เท่านั้นรายได้ร่วมบุญไถ่ชีวิตโคกระบือสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดล้างหนี้เวรซ้อนธาตุซ้อนขันธ์บรรเทาความเดือดร้อนทั้งผอง(ผงมหานาวาพุทธรักษา) บูชา 4,000 บาท

    62028021-1046685505535267-3032578151738769408-n.jpg 62155747-481613315932902-4668714409500082176-n.jpg
    61538844-1187332838112416-3827294204128657408-n.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...