ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดเว้นกระทำห้ามทำร้ายชุดปิดตำนานตัว"แก้"(ผนึกเหล็กไหลตาไฟกบิลมุนี) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,306
    ค่าพลัง:
    +17,478
    - ประสบการณ์น้ำมัน

    เมื่อวานพอดีมีพี่ผู้หญิงคนนึงที่บูชาน้ำมันอาญาสิทธิ์ตราประทับไปทักมาถามว่ากินได้ทุกวันไหม เราก็บอกว่ากินได้เรื่อยๆ

    วันนี้พี่เขาก็ทักมาบอกว่าเมื่อวานลองกินดูแล้ว , เราก็ถามว่าเป็นไงบ้าง , พี่เค้าว่าตัวเขามีอาการปวดหลังเรื้อรังจากหมอนรองกระดูกทับเส้นมานานหลายปีแล้ว เมื่อวานลองกินน้ำมันเข้าไปรู้สึกว่าปวดร้อนและร้าวไปทั่วหลังนานเป็นชั่วโมง ก่อนนอนได้นั่งสมาธิตามปกติ จู่ๆหลังก็เบาขึ้น อาการปวดหายไปเยอะเลย

    ซึ่งผมก็ได้ถามพี่เขาว่ากินแบบไหน แต้มอาหารหรือหยดใส่น้ำหรือกินเป็นช้อน พี่เขาบอกว่าใส่ช้อนลงไปหน่อยนึง กินนิดเดียวประมาณหยดเดียวลองกินดู

    *** ก็เป็นประสบการณ์เกี่ยวกับน้ำมันที่ไลน์เข้ามาเล่ากันไว้ รายนี้ก็ขอให้อาการปวดทั้งหมดหายไวๆนะครับ ส่วนใครเป็นโรคอะไรที่มองไม่เห็นจะลองอธิษฐานทานดู หรือจะเอามานวดๆดูก่อนก็ได้ อันนี้พ่ออาจารย์ท่านย้ำไว้ถ้าอยู่ดีๆกินเลยมันก็จะให้ผลดีในระดับนึง แต่ถ้าก่อนกินเราสวดมนต์ เราอธิษฐานขอยาจากพระ จากพระรัตนตรัย จากครูบาอาจารย์ให้รักษาเราบอกอาการท่านไปจะเป็นโรคภัยก็ดี โรคเวรโรคกรรมก็ดี อันนี้ก็จะเห็นผลไวขึ้นอีกระดับนึง
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,306
    ค่าพลัง:
    +17,478
    ใครที่รอสัตว์เทพพยนต์แบบปั้นชุดจิ๋ว เดี๋ยวเย็นนี้มาติดตามพูดคุยกันนะครับ รายการนี้ราคาจะเบามาก เอาเป็นว่าใครไวใครได้นะ
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,306
    ค่าพลัง:
    +17,478
    พรุ่งนี้ใครชอบสัตว์เทพพยนต์ชุดจิ๋วแบบซ่าๆติดตามกันนะครับ แอบบอกเลยว่าไม่ใช่วัวหรือควาย แล้วหลักๆเลยก็ไม่ได้พกไว้เพื่อรบกับใครเพียงอย่างเดียว ท่านว่ารบเป็นเรื่องรองๆ
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,306
    ค่าพลัง:
    +17,478
    ร่วมทำบุญบูชา หุ่นอิทธิฤทธิ์ผกผันค้ำคูณลัคนาชะตารุ่งโรจน์(พญานอเดียวย้อนรอยแทงสวนกลับ)

    วิชาเสกพญานอเดียวพ่ออาจารย์ท่านว่ามีมานานหนักหนาเสมอด้วยการทำเสือ ทำสิงห์ ทำวัว ทำควายธนูทีเดียว มีตั้งแต่การกำหนดหัวใจพระคาถาและมวลสารต่างๆ หากแต่การที่จะหามวลสารหรือผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจที่จะทำนั้นย่อมหาได้ยากยิ่งนัก พญานอเดียวในตำนานเป็นสัตว์ที่มีอายุยืนยาว ทรหด อดทน และมีอำนาจในตัวมันเองถึงขนาดว่าแม้พญาเสือ,สิงห์และสัตว์ที่ดุร้ายยังยำเกรงไม่กล้าทำร้ายมัน พ่ออาจารย์ท่านว่าการเสกพญานอเดียวนั้นแตกต่างจากการทำสัตว์เวทย์ชนิดอื่นๆไปไกลเพราะครูแต่เดิมท่านถือกันนักหนาว่าพระเพลิงทรงบันดาลให้บังเกิดแรดขึ้นมาเพื่อเป็นพาหนะ ดังนั้นพญานอเดียวจึงเกิดจากธาตุไฟที่ร้อนแรงที่สุดยิ่งกว่าไฟของสุริยเทพ เป็นธาตุไฟแห่งเพลิงพิธีที่โชติช่วงที่สุดเมื่อปรากฏขึ้นคราใดเหล่าทวยเทพทั้งหลายย่อมกระทำสักการะบูชาในไฟของพระอัคนี ด้วยมีเพลิงแห่งพระเพลิงอยู่กับพญานอเดียวเช่นนั้นจึงถือว่าเป็นสัตว์แทนตัวของเทพเจ้าคือพระเพลิงหรือพระอัคนีนั่นเอง

    ความพิเศษของพญานอเดียวนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าสามารถป้องกันศัตรูแทงข้างหลังได้ ท่านว่ายิ่งแทงเราแรงเท่าไหร่เขาก็ยิ่งสวนกลับแรงเท่านั้น ทั้งยังสามารถปัดเป่าลางร้าย เผาผลาญพลังงานที่ก่อให้เกิดโรคภัยหรือเหตุวิกฤติปัจจุบันทันด่วนต่างๆ โดยเฉพาะภัยจากคู่แข่ง จะเรียกว่าเป็นที่หนึ่งในเรื่องป้องกันและการสวนกลับก็ไม่ผิด พ่ออาจารย์ท่านว่าพญานอเดียวนั้นต่างจากพวกสัตว์ที่เสกด้วยวิชาธนูและพยนต์ทั้งหลาย ที่มีไว้รบหรือตั้งรับเสียส่วนใหญ่ เพราะพญานอเดียวนั้นจะนำโชค นำพาโอกาส นำพาความรุ่งเรืองมาสู่คนที่เป็นเจ้าของ ด้วยเกิดจากเพลิงพิธีแห่งพระอัคนีจึงมีอำนาจในการสร้างสรรค์และทำลายล้างไปพร้อมๆกันไม่ใช่จะเป็นพนักงานล้างผลาญแต่อย่างเดียว ซ้ำคุณลักษณะนิสัยของเขายังเต็มไปด้วยโลกทัศน์ที่ดีเพราะเขาจะสงบและมองเราเป็นมิตรพร้อมที่จะเข้าไปสนับสนุนเราอยู่เสมอ ทั้งยังมีความอบอุ่นเยือกเย็นพ่ออาจารย์ท่านว่านี่เสกพญานอเดียวแล้วจิตผ่อนคลายมากใครที่เอาไปใช้ลองดูได้เลย พวกที่พกเครื่องรางแล้วชีวิตร้อนๆทั้งหลายนี่ลองใช้พญานอเดียวดูจะรู้ว่าไม่ร้อนเลยซ้ำอะไรที่หนักๆในชีวิต ที่มันตึงมันจะแตกเหล่านั้นจะผ่อนคลายลง ใช้อธิษฐานไปในการผูกสมัครรักใครก็ได้ ใช้เชื่อมความสัมพันธ์กับคนที่เราหมายตาเป็นพิเศษก็ได้ หรือใช้ให้บรรยากาศในครอบครัวเราผ่อนคลายไม่แตกร้าวก็ได้ คนที่บูชาไปจะรู้ว่ากำลังของพญานอเดียวนั้นเขาหนุนเราให้กล้าแสดงออกมากขึ้น ทั้งใครที่มีโรคเกี่ยวกับระบบเลือดทั้งหลายหรือระบบการทำงานของอวัยวะน้อยใหญ่ในร่างกายทรุดโทรมท่านว่าให้อาราธนาพ่อพญานอเดียวนี้ไปเถิดพลังงานของเขาจะเสริมสร้างและช่วยในการผลิตเม็ดเลือดต่างๆเอาว่าทำให้ระบบสมดุลย์และไหลเวียนได้สะดวก

    พญานอเดียวเป็นสัญลักษณ์อันทรงพลังของการคุ้มครองให้พ้นจากอันตรายและอุบัติเหตุทุกรูปแบบ ทั้งยังช่วยยับยั้งและกำจัดผู้ที่มีเจตนาร้ายซึ่งเข้ามายุ่มย่ามในชีวิตเราหรือทำร้ายคนในครอบครัวของเราได้ ท่านว่าปกติเขาก็เป็นสัตว์ที่แข็งแกร่ง,อดทน,บึกบึนอยู่แล้ว เมื่อทำเป็นหุ่นอิทธิฤทธิ์จึงมีคุณครบทั้งเรื่องเมตตามหานิยม,มหาอำนาจ,วาสนา,เสริมบุญญาธิการ,หนุนดวงชะตาความสามารถให้ได้เป็นเจ้าคนนายคน,ป้องกันอันตรายอันเกิดจากอัคคีภัย,ป้องกันอันตรายจากศัตรู,ป้องกันผีร้ายและคุณไสย,ป้องกันชีวิตที่โดนแทงข้างหลัง,เป็นปฏิปักษ์กับศัตรูของเราพร้อมจะเล่นงานสวนกลับตลอดเวลา...ท่านว่าเขาใช้ได้ครอบคลุมทุกด้าน คนพกจะรู้แก่ใจว่าเขาปกป้องเราได้ขนาดไหนไม่ว่าจะเป็นเรื่องจากการปล้นชิงและอุบัติเหตุ ทั้งยังมีพรวิเศษแห่งพระอัคนีที่จะเปลี่ยนพลังงานอันชั่วร้ายให้กลายเป็นดี ใครที่โดนกลั่นแกล้งหรือมั่นใจว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องต่างๆเช่นการเผชิญหน้ากับปัญหาในที่ทำงาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมืองหรือเรื่องส่วนตัวเพราะโดนเพื่อนร่วมงานที่ไร้ศีลธรรมแว้งกัดไม่เลิก ท่านว่าลองเอาพญานอเดียวไปใช้ดูอุปมาเหมือนหมามันกัดมาก็กัดเราไม่เข้าแถมยังจะมีเหตุให้โดนแสงสวนกลับไปปางตายเรียกว่าทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้นทีเดียว

    สิ่งที่ค่อนข้างพิเศษของพญานอเดียวนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่ายังมีอีกหลายเรื่องชนิดที่ว่าคนใช้จะรู้สึกว่าใช่และหลงรักเขาเลยเพราะเขาเป็นสัตว์ที่น่ารัก และเขามีประสาทสัมผัสในการดมกลิ่นไวมากจึงตื่นตัวอยู่ตลอดเวลาไม่มีซึมหรือปล่อยให้เหตุร้ายเกิดขึ้นโดยที่ไม่ทันระวังตั้งตัวเช่นนั้นเพราะนี่เป็นสัญชาติญาณดิบของเขา โดยปรกติแล้วเขาจะชอบอยู่ในที่อุดมสมบูรณ์ในป่าดงดิบใกล้แหล่งน้ำโคลนตมเมื่อทำพญานอเดียวแล้วพ่ออาจารย์ท่านจึงถือเป็นคติว่าที่ใดก็ตามที่เขาอยู่ต้องอุดมสมบูรณ์,ต้องมีการเปลี่ยนแปลงจะยากจนข้นแค้นต่อไปมิได้ท่านว่านี่เขาใช้พญานอเดียวแก้เคล็ดชีวิตที่ตกต่ำอับเฉาได้ถึงขนาดนี้ ทั้งเป็นสัตว์วิเศษที่ถือศีลกินแต่ใบไม้และผลไม้ไม่เบียดเบียนใครจึงนิยมว่ามีอำนาจตบะต่างจากสัตว์ทั้งหลายทั้งยังมีฤทธิ์มากกว่าเสือสิงห์ใดๆทั้งสิ้น

    พ่ออาจารย์ท่านปั้นพญานอเดียวจากผงวิเศษแรดหนังหนารวมกับมวลสารต่างๆที่ท่านทำขึ้นมากมายหลายสิบชนิดจนท่านว่าเราจำไม่ได้แล้ว แต่ที่ท่านไม่ลืมเลยนั่นก็คือนอแรดเพราะท่านเอามาเผาไฟพลีกรรมถวามแก่พระอัคนีเอาผงเถ้านอแรดนั่นเเหละมาปั้นพญานอเดียวนี้ ท่านว่ารู้กันหรือไม่นอของแรดนี้จัดเป็นของหายากมากๆที่คนโบราณนับถือ ว่ากันว่าในทางโชคลาภค้ำคูณให้คุณทางด้านหนุนชะตาดีทางโภคทรัพย์แล้วแม้ธาตุกายสิทธิ์ทั้งหลายก็ไม่มีสิ่งใดเสมอด้วยนอแรดเลย บูรพาจารย์แต่ครั้งโบราณท่านยกย่องกันหนักหนาว่าดีเสียยิ่งกว่าเพชรตาแมวซะอีก มีบันทึกในใบลานทั้งของไทยและลาวกล่าวถึงอาถรรพ์นอเดียวนี้เอาไว้ว่าบ้านใดมีนอแรดสีธรรมชาติบุษราไว้ในบ้านแม้ฝนที่ตกลงหลังคาบ้านหลังนั้นไหลไปสู่ที่ใด น้ำนั้นก็จะนำความเป็นมงคลแลความเจริญรุ่งเรืองไปสู่ที่นั้นๆด้วย นั่นคือนแแรดเพียงหน่อเดียวกลับมีรัศมีครอบคลุมบ้านทั้งหมด มีอานุภาพมากขนาดเปลี่ยนหยาดฝนที่ตกรดบ้านให้เป็นน้ำมนต์นำความเจริญรุ่งเรืองเข้ามาได้ แต่โบราณถือว่านอแรดนี้มีราคาแพงถึงขนาดตั้งชื่อให้ว่าทองคำดำทีเดียว เพราะว่าเป็นของมีค่าแพงกว่าทองคำหลายเท่าตัวชนิดที่ว่าหาทองเท่ากำปั้นยังหาง่ายกว่า ด้วยคติที่ถือว่าแรดนั้นเป็นสัตว์ลับแลไม่ได้พบเห็นกันง่ายๆบางทีหากสะกดรอยตามมันไปอยู่ดีๆเดินไปสามวันมันก็หายไปเฉยๆไร้ร่องรอยไม่ปรากฏแม้แต่รอยเท้า ด้วยแรดบรรพกาลนั้นเป็นพาหนะของพระอัคนีเช่นนั้นแรดทั้งหลายจึงมักได้รับการคุ้มครองจากเจ้าป่าและเลือกมันเพื่อใช้เป็นพาหนะ ท่านว่าแรดนั้นต้องมีนอเมื่อนำนอมาสร้างเป็นพญานอเดียวแน่นอนว่าเขาจะเป็นสัตว์เลี้ยงที่หนุนส่งตัวเรามากๆ ท่านเปลี่ยนนอแรดทำเป็นผงปั้นพยนต์พญานอเดียวจึงถือว่าเป็นการนำของกายสิทธิ์มาสร้างหุ่นกายสิทธิ์เป็นเคล็ดที่โบราณถือว่าเป็นกายสิทธิ์ซ้อนกายสิทธิ์หุ่นนั้นจะมีพลังวิเศษทวิทวีเพิ่มพูนเป็นเท่าตัว

    ด้วยพญานอเดียวเป็นหุ่นค้ำคูณนำพาสิริมงคลหนุนเสริมให้คนใช้เจริญก้าวหน้า พ่ออาจารย์ท่านว่ายิ่งนอแรดที่ท่านเอามาใช้ทำผงปั้นหุ่นนั้นยังเป็นของที่ชาวลับแลมอบให้กับท่านไว้ซึ่งใครได้ครอบครองจะไม่มีวันพบกับคำว่าตกอับเด็ดขาด พญานอเดียวนอกจากจะไวต่ออันตรายและปัญหาที่เข้ามาหาเราในทุกทางแล้ว ยังดีทางป้องกันเราได้ทุกอย่างสมกับชื่อที่เขาเป็นเสมือนรถถังหุ้มเกราะนั่นทีเดียว นอกจากมีฤทธิ์มากยังเด่นทางโภคทรัพย์,หนุนดวงไม่ให้ตก,ทั้งผลักดันเป็นบันไดให้เราเหยียบขึ้นไปจนถึงที่สุดแห่งเจริญรุ่งเรือง,ทั้งปัดเป่าให้แคล้วคลาดพ้นภัยอันตรายทั้งหลาย,แม้เล่นทางด้านเมตตามหานิยมก็ไม่เป็นสองรองผู้ใด

    ท่านปั้นพญานอเดียวปั้นไปเสกไป ท่านว่าเสกเสร็จก็เชิญเหล่าฤาษีมาช่วยกันเสกอีกคำรบหนึ่ง ต่อมาก็เชิญพระเพลิงมาปลุกพลังงานให้อีกคำรบหนึ่งจึงเสร็จครบถ้วนกระบวนความ เพราะเป็นเครื่องรางเฉพาะสายที่เน้นใช้ทางอิทธิฤทธิ์ท่านว่าจะเสกแบบพระก็ไม่ได้และจะเชิญครูพระทั้งหลายมาทำให้ก็ไม่ได้ ถือว่าเป็นของเฉพาะสายเฉพาะตัวจริงๆด้วยเป็นสัตว์เทพของพระเพลิงทั้งยังสามารถเดินเข้าออกแดนลับแลได้ดั่งใจนึกซ้ำโอกาสที่จะได้เจอพญานอเดียวตัวจ่าฝูงนั้นยังยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร พ่ออาจารย์ท่านว่าพญานอเดียวนี้เสกทุกตัวให้เป็นตัวจ่าฝูงทั้งหมด เสกให้มีฤทธิ์เหมือนปฐมกาลยามที่พระอัคนีใช้เพลิงพิธีสรรค์สร้างแรดขึ้นมาในตำนานกล่าวว่าเหล่าสัตว์วิชาธนูและของทนสิทธิ์กายสิทธิ์ต่างๆล้วนมีมากมายหลายชนิด แต่ละชนิดก็มีคุณลักษณะพิเศษพิสดารเหนือสามัญธรรมดาในจำนวนสัตว์เหล่านี้ท่านว่าหากขาดพญานอเดียวไปแล้วไซร้ตำนานที่เป็นตำนานในหมู่สัตว์ลึกลับก็ยังถือว่าไม่อาจสมบูรณ์ได้ ในกระบวนการของอาถรรพ์ทั้งหมดผู้รู้ต่างยกย่องนอแรดว่าประเสริฐและให้คุณหนักเสียยิ่งกว่าเพชรตาแมว และเหนือกว่านั้นนอแรดนั้นต้องได้มาจากเมืองลับแลโดยชาวลับแลอีกด้วยจึงจะมีอาถรรพ์เหนือสามัญธรรมดามีฤทธิ์ดีเด่นกว่าของวิเศษทั้งหมด เมื่อนำมาทำหุ่นพญานอเดียวเขาจะหนุนดวงชะตา ค้ำคูณเจ้าของมิให้ตกต่ำหรือมีอันเป็นไปตามลัคนาราศีที่ผันเปลี่ยนไปในห้วงเวลาต่างๆ เรียกว่าผกผันค้ำคูณให้มีชะตาที่รุ่งโรจน์ดุจเปลวไฟของพระอัคนีให้เป็นคนเหนือดวง ด้วยดวงชะตาคือแผนที่ชีวิตจะมีวิถีชีวิตอย่างไร มีบุญวาสนาหรือมีกรรมแค่ไหน รุ่งโรจน์หรือคับแค้นอย่างไรทุกอย่างย่อมเป็นไปตามระเบียบ หากแต่หุ่นพญานอเดียวนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเขาครอบครองเพลิงปฐมกาลแห่งการสร้างสรรค์และทำลายล้างของพระอัคนีเช่นนั้นคนใช้ย่อมเหนือดวงทั้งยังผกผันวิกฤติให้กลายเป็นโอกาสอยู่เนืองๆทั้งท่านได้ลงกำกับเป็นพิเศษให้ของอาถรรพ์เสริมด้วยผงอาถรรพ์และคุณวิชาตลอดจนแรงครูแห่งพระอัคนีหนุนนำชะตาคนใช้ ทั้งพญานอเดียวนี้ยังเป็นเจ้าแห่งภูติพรายที่ภูติพรายทั้งหลายและจิตรูปมายาทั้งปวงในโลกวิญญาณนั้นเกรงกลัว

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเราทำหุ่นพญานอเดียวนี้ให้สำหรับผู้ที่อยากเป็นยอดคนหมดจากนี้ไปอย่าได้ไปแสวงหาที่ไหนอีกเพราะนอแรดที่คนลับแลเอาออกมาให้เองนั้นมีน้อยพอๆกับหางกิเลนกับเขามังกรนั่นเอง ใครที่มีพญานอเดียวไว้ครอบครองจะสามารถขอสิ่งใดก็ได้จากพระเพลิง ด้วยตบะบารมีของพระเพลิง เทพทั้งหลายย่อมจะดูแลรักษาเราเป็นอย่างดีไม่ว่าจะสัญจรไปที่ใดก็ตาม จะต้องให้ความช่วยเหลือไม่ว่าบุคคลที่ครอบครองจะเป็นคนดีหรือคนไม่ดีเรียกว่าช่วยโดยปราศจากเงื่อนไขใดๆด้วยแต่เดิมแรดก็มีตบะสูงเพราะเขากินแต่พืชอยู่แล้ว เมื่อร่วมกับเพลิงและตบะของพระอัคนีด้วยเช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงถือว่าหุ่นแรดนี้เป็นของมีค่ามาก ผู้ใดมีโอกาสได้ครอบครองย่อมมีความเกี่ยวข้องผูกพันสร้างบารมีร่วมกันมากับพระอัคนีแต่ปฐมกาล ท่านว่าจะเคยเป็นบริวาร เป็นลูกเป็นหลาน เป็นเผ่าพันวงศ์วานร่วมชาติกันมาแต่ปางก่อนอย่างแน่นอน หาไม่แล้วจะไม่มีโอกาสได้พบเจอและครอบครองของพญานอเดียวกายสิทธิ์ที่นำพาความเจริญรุ่งเรืองเช่นนี้

    พ่ออาจาย์ท่านนำพญานอเดียวมาผูกไว้กับตะกรุดมารุมมะตุ้มทุกตัว ท่านว่าจะเสริมคุณด้านเมตตาเรียกคนเข้าหา นำพาสิ่งดีๆเข้ามาหาเราได้อีกเยอะด้วยตะกรุดจะบันดาลให้เกิดเหตุการณ์ที่คนทั้งหลายจะมารักมาชอบเรา ท่านว่ามีคนรักดีกว่ามาคนเกลียด ยิ่งมีคนรุมรักมันก็จะดีกว่าคนรุมเกลียด เพราะคนเขารักเราเขาก็เอื้อประโยชน์ให้กับเราคอยช่วยเหลือเป็นหูตาเส้นสายให้เรา เมื่อเราได้ใจเขาอะไรมันก็ง่ายไปหมด เป็นเมตตาแบบหาตัวจับยาก เช่นนั้นพญานอเดียวตัวจ่าฝูงจึงมีฤทธิ์จูงให้ชนทั้งหลายเข้ามาคลอเคลียอยากชิดใกล้มารุมมะตุ้มรักเราเอ็นดูเราเช่นนั้น จะดึงดูดใจคนให้รู้สึกดีประเภทที่ว่าเราทำอะไรเล็กๆน้อยๆเขาก็มองเราดีแล้วเก็บเอาไปซาบซึ้งนึกถึงไม่เสื่อมคลาย เรียกว่าเห็นแต่คุณไม่เห็นโทษ ดูดดื่มดึงดูดใจอยู่กับความทรงจำดีๆเราทำอะไรก็ต้องจิตต้องใจไปเสียหมด พ่ออาจารย์ท่านว่าพญานอเดียวสามารถบันดาลได้ทุกสิ่งให้วิ่งเข้ามาไม่ช้าไม่นาน เมื่ออาราธนาให้ขอกับพ่อพญานอเดียวเขาดีๆให้หนุนนำพาตัวเราไปสู่สังคมที่ดี ด้วยปกตินั้นพญานอเดียวก็ได้ชื่อว่าเป็นยอดแห่งความอดทนอยู่แล้ว เมื่อทำกิจใดๆแล้วหากไม่สำเร็จก็จะไม่ท้อถอย ถ้าใครเอาไปใช้หนุนวาสนาตัวเองเขาก็จะขับเคลื่อนดวงชะตาราศี นำพาวาสนาให้ดวงดี,ดวงรุ่งเป็นดาวที่ไม่ตกไม่ดับแสงอยู่อย่างนั้น ท่านว่าลองดูได้ชีวิตใครที่เข้าขั้นซวยไปแล้วให้พกพญานอเดียวดูซักวันหนึ่ง พออีกวันไม่ต้องพก ท่านว่าเพียงแค่นี้จะเห็นความแตกต่างของชีวิตได้ราวกับหน้ามือและหลังมือ

    คาถาบูชา
    กะนะอะหาคุณา โสสะอะนิ ปะสิสะ สิขิสังมิ อะ อิ อา อี ออ แอ อึ อือ อุกาโรโหตุสัมภะโว


    พญานอเดียวนี้ท่านเคยให้ฝรั่งคนหนึ่งนำไปบูชา ท่านว่าฝรั่งคนนี้ไม่ใช่พุทธศาสนิกชนทั้งยังเป็นคนประเภทที่ว่าไม่นับถือศาสนาใดๆเป็นคนไร้ศาสนาไม่เชื่อในพระเจ้าหรือสิ่งที่มองไม่เห็นเช่นนั้น เมื่อเขาประสบกับปัญหาธุรกิจล้มละลายจนมีเพื่อนคนไทยแนะนำว่าให้ลองหาของวิเศษเมืองไทยไปใช้ดู พอดีกับวาสนาที่เขาได้มาเจอพ่ออาจารย์ท่านช่วงที่ออกกู้ว่านยาต่างๆท่านพิจารณาแล้วเห็นว่ามีวาสนากับพญานอเดียว ทั้งยังไม่ใช่รูปพระและเทพเจ้าต่างๆที่จะไม่นำพาศรัทธาของเขาได้ ท่านจึงได้มอบพญานอเดียวตัวที่ท่านพกใช้อยู่ให้ไปบูชาเมื่อฝรั่งคนนั้นได้ของไปใช้ก็ปรากฏว่าธุรกิจที่กำลังจะย่อยยับอับปางพังพินาศลง กลับฟื้นตัวขึ้นมาในระยะเวลาอันสั้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาฝรั่งคนนี้ถึงแม้จะไม่ศรัทธาในพระเจ้า เป็นคนไม่มีศาสนา แต่เขากลับศรัทธาในพญานอเดียวและบูชาเป็นอย่างดีเสมือนเพื่อนที่จะอาศัยพึ่งพิงกันในยามยาก เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงพูดเสมอว่าพญานอเดียวนี้ไม่ว่าใครก็ใช้ได้ จะเป็นคนดี คนชั่ว หรือแม้แต่คนไม่มีศาสนาก็ยังใช้ได้เพราะเขาช่วยโดยไม่เลือกเช่นนี้

    *** พญานอเดียวพ่ออาจารย์ท่านปั้นได้ไม่มากเพราะมวลสารมีจำกัด รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้บูชาให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วย ท่านจะได้ทำการประสิทธิให้ใช้กันได้สืบต่อไป ท่านว่าแม้เจ้าของตายก็ยังสืบทอดในวงศ์ตระกูลได้ ///รายการนี้ท่านว่ายิ่งเลี้ยงเยอะก็ยิ่งดีกับงานและกิจการของตนเอง รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กไร้โอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา หุ่นอิทธิฤทธิ์ผกผันค้ำคูณลัคนาชะตารุ่งโรจน์(พญานอเดียวย้อนรอยแทงสวนกลับ) บูชา 1,500 บาท

    96.jpg
    58374135-377208146336785-5589083376561684480-n.jpg image.jpg
    57368818-1240046176145992-2190883966108565504-n.jpg
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,306
    ค่าพลัง:
    +17,478
    พญานอเดียวรายการนี้รับฝากเลี่ยมนะครับ
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,306
    ค่าพลัง:
    +17,478
    สวดมนต์ช่วยให้สุขภาพดีได้จริงไหม

    พุทธศาสนาได้กล่าวไว้ว่า สุขภาพที่ดี คือ ใจที่แข็งแรงกับร่างกายที่แข็งแรง

    การสวดมนต์ คือ การที่ใจได้ใช้สติกับปัญญากำกับเสียงของบทสวดมนต์ เมื่อใจได้ใช้สติกับปัญญากำกับที่เสียงของบทสวดมนต์นั้น ใจจะมีสมาธิที่ว่าง มั่นคง และสงบได้อย่างง่าย หากได้ปฏิบัติควบคู่กับการเจริญอานาปานสติ คือ การฝึกลมหายใจเข้าและลมหายใจออกให้ลึกยาว เมื่อหายใจเข้าร่างกายจะได้รับออกซิเจนและเมื่อเปล่งเสียงหรือหายใจออกร่างกายก็ได้ขจัดคาร์บอนไดออกไซด์ เพราะฉะนั้นยิ่งสวดมนต์ใจก็ยิ่งบริสุทธิ์และในขณะเดียวกันร่างกายก็ได้ความสะอาดเนื่องจากเราได้ขจัดมลพิษ

    นอกจากนั้น การสวดมนต์อย่างศรัทธาเป็นประจำทำให้ใจมีที่พึ่งทางใจ ส่งผลต่อผู้สวดให้เป็นคนอบอุ่น สุขุม เยือกเย็นและเบิกบานได้อย่างยิ่ง

    การสวดมนต์ได้มี 3 รูปแบบ ดังนี้
    1. การสวดมนต์ด้วยตัวเอง นับเป็นรูปแบบของการสวดมนต์ที่ดีที่สุด ที่ร่างกายได้หลั่งสารซีโรโทนิน และใจได้รับประโยชน์จำนวนมากดังกล่าว
    2. การฟังผู้อื่นสวดมนต์ เมื่อผู้ที่ได้ฟังผู้อื่นสวดมนต์นั้นเขาก็จะมีสมาธิ เสียงสวดมนต์ของผู้อื่นที่มีจังหวะนุ่มและทุ้มจะช่วยให้ใจกับร่างกายของผู้ที่ได้ฟังนั้นเข้าถึงสมาธิได้ดีขึ้น
    3. การสวดมนต์ให้ผู้อื่นฟัง ใจของผู้ที่สวดมนต์ให้ผู้อื่นได้ฟัง ถือว่าได้ปรารถนาให้ผู้อื่นมีความสุขมีสภาพจิตใจที่ดี โดยคลื่นของเสียงสวดมนต์นั้นถือเป็นคลื่นบวกที่ได้ส่งพลังให้ผู้ที่ได้ฟังมีสภาพของใจที่ดีได้เช่นเดียวกับใจของผู้ที่สวดมนต์เองนั้น

    การแพทย์แผนปัจจุบันได้ชี้ว่า ใจเป็นสิ่งที่สำคัญที่ทำให้ร่างกายได้เกิดโรคและร่างกายได้ปราศจากโรค ตัวอย่าง โรคหัวใจ โรคปวดศีรษะ โรคหอบหืด โรคกระเพาะอาหารและโรคระบบทางเดินอาหาร เป็นต้น ที่ได้เกิดจากสภาพของใจที่ผิดปกติหรือใจที่มีความเครียด และใจที่มีอารมณ์โกรธ เป็นต้น ตรงข้ามกับร่างกายที่มีภูมิต้านทานที่ดี ที่เกิดจากสภาพของจิตใจที่ปกติหรือใจที่มีเมตตา และใจที่ได้ให้อภัย เป็นต้น

    ที่สาเหตุดังกล่าวได้ทำให้การแพทย์ได้สนใจรักษาโรคภายในรูปแบบใหม่โดยไม่ต้องใช้ยา แต่ได้สร้างเสริมปัจจัยที่ได้ทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานดีขึ้นหรือได้ทำให้ร่างกายได้รักษาตัวเองมากขึ้น

    รศ.ดร.สมพร กันทรดุษฎี เตรียมชัยศรี อดีตหัวหน้าภาควิชาการพยาบาลสาธารณสุข คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ชี้ว่า การสวดมนต์ นับเป็นวิธีหนึ่งของการปฏิบัติสมาธิ ที่ได้เป็นการปฏิบัติสมาธิโดยการใช้เสียง ซึ่งได้กระตุ้นการทำงานของตัวรับสัญญาณของร่างกายให้ผลิตสารเคมี สารไฟฟ้า สารสื่อประสาทและโปรตีนบางตัวที่การสั่นสะเทือนของเสียงที่ได้เป็นจังหวะที่ดีได้ควบคุมใจกับร่างกายให้สมดุล

    เพราะฉะนั้น คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าที่ได้มีกว่า ๒,๕๐๐ ปี ที่ว่าใจที่มีกิเลสไม่ดีเป็นสาเหตุของทุกข์หรือโรคก็เป็นความจริง ใจกับร่างกายที่ได้ผ่อนคลาย นับเป็นสิ่งที่สำคัญที่ได้ช่วยป้องกันและรักษาโรค วิธีที่ใจกับร่างกายได้ผ่อนคลายที่การแพทย์แผนปัจจุบันได้สนใจได้อย่างพิเศษ คือ การสวดมนต์ เป็นต้น

    พุทธศาสนาได้มีบทสวดมนต์ให้เราได้เลือกจำนวนมาก และการสวดมนต์อย่างน้อยที่สุดวันละประมาณ 10 นาทีก่อนนอน เพื่อได้ระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณและพระสังฆคุณ เป็นทางเลือกหนึ่งที่เราควรทำ

    เมื่อใจของเราสงบและปราศจากกิเลสไม่ดีหรือใจของเราได้ผ่อนคลายเต็มที่ ใจของเราก็มีสภาพที่ละเอียด ประกอบกับเมื่อเราได้นอนหลับเต็มที่ใจของเราก็มีความสุข การนอนหลับนั้นเป็นการที่ใจกับร่างกายได้พักผ่อนอย่างแท้จริง เพื่อให้เราได้พร้อมทำงานหรือเผชิญกับปัญหาต่างๆหลังจากที่เราตื่นนอน ใจกับร่างกายของเราจะได้มีพลังอดทนและมีสุขภาพจิตดีได้พร้อมๆกัน

    557000001349001.jpg
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,306
    ค่าพลัง:
    +17,478
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ชัยวัฒน์ EW 4027 3841 8 TH

    พี่นวรัตน์ EW 4027 3842 1 TH
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,306
    ค่าพลัง:
    +17,478
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    พญานอเดียวที่จัดส่งไปให้ อันนี้แจ้งไว้นะครับว่ามีทั้งแบบตัวใหญ่ไปถึงตัวใหญ่มากแล้วก็ตัวเล็กนิดนึงคละๆกันไป เรียกว่าท่านปั้นตามอารมณ์ท่าน ก็จะส่งคละๆกันไปตามที่ท่านหยิบให้นะครับ
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,306
    ค่าพลัง:
    +17,478
    แจ้งการส่งems
    พี่วิชัย EW 4027 6876 3 TH

    พี่ศิระ EW 4027 6877 7 TH

    พี่พรเทพ EW 4027 6878 5 TH
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,306
    ค่าพลัง:
    +17,478
    มีถามหาพยนต์พ่อยักษ์เข้ามาก็หมดไปนานมากแล้วครับ มีแต่พยนต์จ้าวมหาภูติซึ่งไม่ใช่ยักษ์แต่เป็นพยนต์ที่พ่ออาจาร์ท่านจำลองปางมหาเทพมาสร้างขึ้นที่เรียกว่ารุ่นมามืดไปสว่าง..(อย่างไรเอาไว้ติดตาม) ท่านว่าเธอจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่ ไม่ได้บังคับให้ต้องมาเชื่อมาสนใจ เพราะจ้าวมหาภูติคือของจริงที่ไม่ต้องอิงหรือเกาะกระแสใดๆ ของแบบนี้ต้องบูชาเองจึงจะรู้ด้วยตนเองว่าดีอย่างไร ซึ่งท่านสร้างด้วยผงยา...สำคัญ ดั่งคำที่องค์ปฐมท่านว่าไว้ว่าผงยานี้ตั้งแต่โบราณนั้นใครพบยานี้ไม่ได้ใช้บูชาเหมือนคนสิ้นวาสนา ส่วนใครที่ได้ใช้อาราธนาผู้นั้นดุจดังได้พระโสดาแล พูดง่ายๆคือพยนต์นี้แม้แต่พ่ออาจารย์ท่านยังใช้โดยให้เหตุผลว่าทำอะไรเพื่อคนอื่นมาก็เยอะขอทำให้ตนเองเอาไว้ใช้แบบสุดๆบ้าง. ***แอบบอกไว้ว่าพิมพ์สวยมากเหมือนเทวรูปของอินเดียเลย
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,306
    ค่าพลัง:
    +17,478
    ร่วมทำบุญบูชา เทพพยนต์ปฐมโลกีย์จ้าวมหาภูติพระแผลงนามบัญญัติอัตตา,กุศล,สำเร็จ(มามืดไปสว่าง)
    "หุ่นเทพพยนต์นี้ พ่ออาจารย์ท่านจำลองปางของมหาเทพเมื่อครั้งปราบตรีปุราสูรมาสร้าง" ตรีปุราสูรคืออสูรสามตนได้แก่วิทยุนมาลี,ตารกักษะ,วีรยาวณะ เป็นบุตรของตารกาสูรที่ถูกพระขันธกุมารสังหารไป ตรีปุราสูรนี้นับว่าเป็นจ้าวอสูรที่สำคัญมากเพราะเทพทั้งหลายฆ่าไม่ตายด้วยเธอขอพรพระพรหมนานถึง3,000ปี โดยได้ปราสาทสามหลังอันปราสาททองนั้นตั้งอยู่บนสวรรค์,ปราสาทเงินตั้งอยู่ในอากาศ,ปราสาทโลหะตั้งอยู่ในโลกมนุษย์ ปราสาททั้งสามนี้จึงเรียกรวมกันว่าตรีปุระหรือเมืองสามเมือง(โดยทุกๆหนึ่งพันปีเมืองทั้งสามนี้ถึงจะโคจรเรียงกันเป็นเส้นตรง) ผู้ที่จะสังหารตรีปุราสูรได้จะต้องสามารถฆ่าอสูรทั้งสามพร้อมทำลายเมืองทั้งสามได้ในเวลาเดียวกัน กล่าวคือต้องทำลายให้ครบเพียงการโจมตีครั้งเดียวเท่านั้น ด้วยพรของพระพรหมนี้จึงเกิดเมืองลอยฟ้าทั้งสามรวมไปถึงทิพย์ยานมากมาย ส่วนจ้าวอสูรทั้งสามก็มีฤทธิ์มากนักเที่ยวไล่จับเทวดาสำคัญๆมาควบคุมเป็นเชลยใส่ในคุกไว้ทั้งหมด ตั้งแต่พระคเณศ,เทวฤาษีนารท,พระอินทร์,พระยม,พระวรุณ,พระพาย,พระกาฬ,ท้าวกุเวร,พระอาทิตย์,พระจันทร์....(โดนกันหมดสวรรค์นั่นเลย) จนพระศิวะเจ้าได้สั่งให้พระวิศวกรรมสร้างรถม้าจากทองคำให้พระพรหมาเป็นสารถีและสร้างมหาธนูกับลูกศรให้พระศิวะ พระศิวะและเหล่าเทพจึงบุกไปที่เมืองตรีปุระในช่วงเวลาที่ทั้งสามเมืองเรียงตรงกัน พระองค์จึงยิงธนูใส่เมืองทั้งสามเพื่อทำลายที่คุมขังเหล่าเทพและยังสังหารตรีปุราสูรและวงศ์อสูรทั้งหมดรวมถึงทำลายเมืองลอยฟ้าทั้งสามอันเป็นปราการที่ไม่มีวันตีแตกไปพร้อมๆกันด้วยธนูดอกเดียวดั่งคำพรของพระพรหม พ่ออาจารย์ท่านถือคติว่าเทพพยนต์นี้มีอำนาจยิ่งใหญ่เพียงยิงศรครั้งเดียวก็ทำลายเหตุแห่งความเสื่อม ความทุกข์ร้อน ต้นตอแห่งอสัตย์ธรรมได้ครบทั้งสามโลกในเวลาเดียวกัน ทำลายไปทั้งหมดทั้งจ้าวอสูร,บริวาร,ไพร่พล,ปราสาทราชวังไม่มีเหลือเถ้าธุลี ซ้ำยังได้คืนอิสระให้กับเหล่าเทพเจ้าทั้งหลาย เช่นนั้นท่านจึงจำลองปางพระแผลงของมหาเทพอันเป็นมหามงคลของการทำลายล้างเพื่อปลดแอกสถานการณ์กดดันอันกักขังเหนี่ยวรั้งแลคืนอิสระแก่สรรพชีวิตมาสร้างเทพพยนต์ชั้นครูของท่าน

    ด้วยสายธารแห่งกาลเวลาเป็นสิ่งคําจุนโลกใบนี้เอาไว้ มันมิได้อยู่ไกลออกไปจนสุดขอบฟ้าแต่กลับอยู่ใกล้ตัวของทุกคน ทุกๆการเคลื่อนไหวของทุกสิ่งทุกอย่างต่างผลักดันกาลเวลาให้เดินหน้าต่อไป กาลเวลาจึงเหมือนกับสายน้ำที่ไหลไปข้างหน้าเป็นดั่งเครื่องคุมขังเหนี่ยวรั้งเราไว้ในวังวนของอัตตาแลวัฏจักร สายธารแห่งกาลเวลามิอาจมองเห็นและไม่มีสีสันแต่สิ่งมีชีวิตทั้งหมดล้วนจ่อมจมอยู่ในกระแสธารอันเชี่ยวกรากนี้ แท้จริงแล้วโลกใบนี้เปรียบเสมือนกระดานหมากรุกขนาดใหญ่สิ่งมีชีวิตทั้งหมดล้วนเป็นเพียงตัวหมากซึ่งเคลือนที่ไปตามกฏเกณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นกฎแห่งฤดูกาล,กฎแห่งกาลเวลาทุกคนต่างก้าวเดินไปตามกฏทั้งสิ้น ไม่ว่าพวกเขากําลังมีชีวิตอยู่,ไม่ว่าพวกเขาจะตกตายลง พวกเขาย่อมแหวกว่ายอยู่ในห้วงกระแสธารแห่งกาลเวลาสายนี้นั่นเอง เพราะนั่นคือกฏ ด้วยความมืดก็มีกฎของความมืด แสงสว่างก็มีกฎของแสงสว่าง เช่นนั้น อันชนทั้งหลายนั้นยังเกี่ยวข้องกับโลก,ยังแสวงหาเพื่อเรื่องทางโลก,และยังอยู่ในกฏอันเป็นธรรมดาโลก ภาวะความเป็นไปที่ยังวนเวียนอยู่ในภพสามคือ กามภพ,รูปภพ,อรูปภพนี้ ก็เปรียบเสมือนปราสาทกลางหาวทั้งสามของตรีปุราสูรที่ไม่มีวันตีแตกและจองจำกักขังได้แม้กระทั่งเทพเจ้า ด้วยทุกชีวิตยังเกี่ยวข้องอยู่กับเรื่องกาม ตัณหา ทิฏฐิ อวิชชา พูดให้ง่ายคือยังมีเรื่องเกี่ยวกับกามารมณ์ทั้งรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส เหล่านั้น คนที่ยังมีกิเลสอยู่ก็จะปรุงแต่งกันไปต่างๆนานา เพราะมันเป็นความขวนขวายเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นอย่างหนึ่ง ทั้งอยากเป็นอย่างคนอื่นโดยไม่รู้ว่ามันเป็นไปได้หรือไม่ เมื่อเป็นแล้วมันเป็นสุขหรือทุกข์ แต่อารมณ์ที่อยากได้อย่างเขาอยากมีอย่างเขาก็สร้างแรงบันดาลใจให้กับชนทั้งหลาย

    เมื่อจะก้าวเดินต่อไปให้ถึงทางโลกุตระ เพื่อความพ้นโลก,เหนือโลก พ่ออาจารย์ท่านว่าเช่นนี้พื้นฐานชีวิตก็ควรจะบริบูรณ์และถึงพร้อมเสียก่อน ม้จะอยู่กับมันแต่ก็ย่าไปยึดติดมันเพราะสรรพสิ่งทั้งหลายล้วนเป็นสิ่งที่จะย่อยยับไป เช่นนั้นศาสตร์การสร้างจ้าวมหาภูติอันเป็นร่างปรากฏ,เป็นที่ตั้งอยู่แห่งบุญบาปและผลแห่งบุญบาปนั้น ท่านจึงนำมาใช้ด้วยเห็นเหตุสำคัญว่ามนุษย์ทั้งหลายยังเกี่ยวข้องกับโลก,ยังตั้งอยู่ในโลก,ยังเปลี่ยนแปลงตามกระแสโลก ทั้งนี้เมื่อชีวิตยังดำรงค์อยู่ในภาวะที่ผูกอินทรีย์ไว้ จิตของเราการกระทำของเราจึงมีขอบเขต มีความสามารถ เช่น ตัวเราอยู่ในวิสัยที่จะทำเรื่องต่างๆได้หรือเป็นเรื่องเหลือวิสัยที่จะทำได้เพราะตัวเราอยู่ในกฏหรือกระแสธารแห่งกาลเวลาอันเชี่ยวกรากที่คุมขังไว้ เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงได้สร้างจ้าวมหาภูติอันจะอธิษฐานขอกำลังแห่งครูพระศิวะเจ้าเพื่อทำลายเครื่องพันธนาการชีวิตเหล่านั้น ท่านว่าแม้ชีวิตเราเปรียบดั่งใบบัวอันไม่เคยปฏิเสธน้ำฉันใด แต่ต่อไปนี้น้ำก็ไม่อาจชำแรกติดอยู่ในใบบัวได้ฉันนั้นดุจดั่งบัณฑิตไม่จำเป็นต้องดัดจริตปฏิเสธโลกียวิสัยหากแต่ควรฝึกใจอย่าให้ติดมัน

    เมื่อครูพระสยม(พระศิวะ)ท่านรับจะช่วยทำเทพพยนต์ชุดนี้ ท่านจึงให้คติว่าเป็นของชุดพิเศษที่ทำให้คน มืดมา สว่างไป(ตโม โชติปรายโน)เอาไปใช้ ด้วยเหตุว่าถ้าเปลี่ยนชีวิตคนให้มืดมาสว่างไปได้อย่างอื่นก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงอีก เพื่อให้ชนทั้งหลายที่ได้ใช้จ้าวมหาภูติมีหนทางสว่างไปในภายหน้า ไม่อับจนเกิดเป็นคนมืดมน ไม่เกิดมาเสียเปล่าเพราะไม่รู้เดียงสาอะไรเลย เหมือนกับมดกับปลวกมืดตื้อไปหมด,พูดอะไรก็ไม่รู้เรื่องรู้ราว,เรื่องศีลเรื่องธรรมกล่าวไปก็ไม่นำพา ด้วยเข้าใจว่าตัวเองโง่เง่าเต่าตุ่นไม่มีสติปัญญาแล้วก็เลยไม่ทำความดีต่อไป เห็นว่าหมดวิสัยของตัวแล้วจึงซ้ำเติมตัวเองให้โง่ให้ทึบให้ตื้อเข้าไปอีกเรียกว่ามืดมาแต่ต้นแล้วก็มืดต่อไปอีก พ่ออาจารย์ท่านว่าคนเราเกิดมาทุกคนต้องมืดมนด้วยกันทั้งนั้น ไม่ใช่สว่างมาแต่เบื้องต้น ใครเกิดมาจะรู้จักดี ชั่ว ฉลาดเฉลียวมาแต่เบื้องต้นนั้นไม่มีหรอก ถึงชาติก่อนจะสร้างวาสนามาดีแล้วก็ตาม กลับมาเกิดใหม่ก็ต้องมาเริ่มหัดเอาใหม่ แต่นิสัยเป็นเหตุให้วาสนาที่ติดตัวนั้นถึงพร้อมได้ดีมากกว่าคนอื่นที่ไม่ได้ทำมา เช่นนั้นท่านจึงขอให้ครูพระสยมมีโองการมนต์พยนต์ชุดนี้เพื่อเปลี่ยนนิสัยอันติดตัวมารวมถึงชะตาวาสนาที่มืดทึบ แม้จะติดอยู่ในความมืดบอดทั้งหลายต่อไปนี้มีคติเดียวนั่นคือต้องมืดมาสว่างไปเท่านั้น ด้วยเป็นเทพพยนต์เมื่อเราบูชาแล้วชนทั้งหลายจะให้ความยำเกรงเป็นอย่างมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าจ้าวมหาภูติรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ท่านใช้เองจนเห็นประสบการณ์มากมาย เอาเป็นว่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับท่านนั้นล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องอัศจรรย์ทั้งสิ้น ยากที่จะหาคำตอบทางวิทยาศาสตร์อธิบายได้ทุกอย่าง แม้แต่กระทั่งขอโชคลาภ,ขอความเจริญรุ่งเรืองจากท่านก็มีให้เห็นมาไม่ใช่น้อยกลายเป็นเรื่องเด็กๆไปเลย แต่สิ่งสำคัญที่สุดของการจะบูชาท่าน ก็คือต้องมี “สัจจะ” พูดจริง ทำจริง จะมาทำเป็นตลกบิดเบือนไม่ได้ พูดแล้วต้องปฏิบัติตามคำพูดที่พูดออกไปให้ได้ ถ้าสามารถรักษาสัจจะได้ท่านก็จะคุ้มครองรักษาเรา แต่หากเป็นคนโลเล พูดจาตลบแตลง พูดวันนี้อย่าง พรุ่งนี้อย่าง หาสาระแก่นสารไม่ได้ท่านว่าอย่าใช้(ถ้าไม่ใช่เรื่องจำเป็นหรือแค่เราปากพล่อยพูดไปเรื่อยก็อย่าไปอธิษฐาน)

    ในมวลสารของจ้าวมหาภูตินั้นท่านใช้ผงมหาภูติของเศรษฐีในอดีตถึงสิบหกคนตามตำรับโสฬสเศรษฐีมหาศาลมาทำ รุ่นนี้ท่านว่าเป็นผงสำคัญที่ท่านรับมาจากครูที่สอนท่านซึ่งได้รวบรวมและส่งต่อกันมาหลายชั่วคนในบรรดาครูที่รับสืบวิชา ท่านว่านี่ไม่ใช่ผงผีผงกระดูกนะ หากแต่เป็นผงลบวิชาโสฬสเศรษฐีมหาศาลซึ่งครูท่านจะเลือกเศรษฐีที่เป็นศิษย์อุปถัมภ์ และต้องมีวาสนาดีและมีลักษณะเป็นมงคลจริงๆ(ด้วยเศรษฐีนั้นมีอยู่เกลื่อนทุกยุคไปแต่จะหาคนที่มีบารมีมาก มีของเก่าเยอะ มีวาสนาทำมาดี มีลักษณะดี เช่นนี้ย่อมหายากยิ่งกว่าสรรหาช่างเผือกในป่าดง)ไปขอให้เขาหยดเลือดใส่ผงนี้บอกเขาว่าจะขอเอาวาสนาเขาไปช่วยคนในชั้นหลังบ้างจะทำวิชาเก็บไว้ซึ่งเขาต้องมอบให้ด้วยความเต็มใจเท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นเคล็ดการเอาสัญญา,เอานิสัย,เอาวาสนา,เอาบุญบารมีของเศรษฐีมหาศาลผ่านทางสายโลหิตที่ข้นกว่าน้ำใดๆมาผูกวิชาไว้เป็นการทำอาถรรพ์ให้คนใช้รวยไปอีกสิบหกชาติ ที่ไม่รวยก็ต้องรวย ทั้งผงนี้ยังได้อัญเชิญปู่โสมเฝ้าทรัพย์-ปู่โสมเรียกทรัพย์มาทำวิชาด้วย ท่านว่าระหว่างกดพิมพ์ก็ต้องลงอาถรรพ์วิชาเทพพยนต์ที่เป็นวิชาอันพระอินทร์ท่านผูกไว้กำกับไปพร้อมกัน ดังนั้นพยนต์นี้นอกจากจะดีทางวิชาอาถรรพ์ของครูพระสยมแล้วยังดีทางรับทรัพย์-เรียกทรัพย์อีกด้วย ไม่ว่าจะเพิ่มทรัพย์สินในบ้าน,ธุรกิจการงาน,ขอให้ทำมาค้าขึ้น,ค้าขายคล่อง,เรียกทรัพย์,เรียกโชคลาภ,ติดต่อธุรกิจต่างๆ... ท่านว่าไม่พูดเยอะ เอาว่าใช้ไปเถิดขอให้เป็นงาน ทำอะไรอยู่ล่ะ ไอ้ที่ทำๆมันจะคล่องตัวมากขึ้น ไม่ฝืด ไม่เคือง ไม่ชะงักงัน ไม่หยุดอยู่กับที่ทั้งนั้น

    พยนต์ชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านได้นำผงยาสำคัญและตะกรุดชุดฝังไปด้วย นั่นคือ
    - ผงยาเทพนิมิตอภิรมย์ ใส่ขวดเฉพาะทำการฝังให้ทุกองค์ด้วย ซึ่งผงยานี้ท่านว่าให้พกอธิษฐานไว้เพราะมันมีฤทธิ์รุนแรงเป็นที่สุด ใช้ได้สารพัดประโยชน์เพียงแค่พกก็เป็นมงคลขับชะตาราศีให้ขึ้นสูงสุดดั่งมีพรหมมาลิขิตจับยกวาสนาให้เรา ดั่งมีเทพมานิมิตให้กิจทั้งหลายของเราสมปรารถนา ทั้งหมายปองต้องจิตผู้ใดท่านว่าต่อให้คนนั้นมีคนรักอยู่แล้วเขาก็ต้องแตกหักกับคนที่รักอยู่(อันนี้ท่านไม่แนะนำให้ทำจึงให้เพียงพกก็พอ) ท่านว่าแค่พกก็ดีแล้ว..ดีมากๆแล้วดุจพกยาแฝด,ยาเสน่ห์,ยาดักวาสนานั่นเลย ทั้งยังเป็นเสน่ห์กับคนที่ใช้ของเสน่ห์ไม่ขึ้น เป็นเหตุแห่งความเจริญในชีวิตเรา ในสถานที่ซึ่งเราอยู่ พกติดตัวไว้กลับดวงร้ายให้กลายเป็นดีแก้โรคทางประสาทจิตหลอนนึกคิดเพ้อฝันไปเอง ท่านว่าผงยานี้พกไว้กับตัวมีอานุภาพมากเพราะคุณครูวิชาท่านแทรกซึมพลังงานผ่านตัวเราลงไปอย่างลึกซึ้ง ท่านปรารถนาจะให้คนใช้มีแต่คนรักมากๆยิ่งไม่มีคนเกลียดนั่นยิ่งดี ทั้งยังอาศัยอำนาจครูยาขับชะตาราศีหนุนดวง,พลิกดวง,กลับดวงไปพร้อมๆกันด้วย ดั่งคำที่องค์ปฐมท่านว่าไว้ว่าผงยานี้ตั้งแต่โบราณนั้นใครพบยานี้ไม่ได้ใช้บูชาเหมือนคนสิ้นวาสนา ส่วนใครที่ได้ใช้อาราธนาผู้นั้นดุจดังได้พระโสดาแล(ท่านว่ามีค่ามากปานนั้น) ในส่วนการเข้ายาและเครื่องยานั้นท่านจะไม่บอกกล่าว ท่านว่าของแต่ละอย่างต้องหากันทั้งชีวิตทั้งสิ้น เราทำให้ดีแล้วถ้าเขาไม่เอาก็เรื่องของเขา แต่ยานี้มีดีอยู่ข้อหนึ่งนั่นคือมันเป็นโฉลกมงคลกับผู้พกพา หากใครได้พกแล้วมันจะดึงโชคเข้ามาอยู่เรื่อยๆ ดั่งคำว่าวันนี้โชคดีพรุ่งนี้ก็ยังโชคดี ด้วยไม่ใช่ยาของมนุษย์หากแต่เป็นของเทวดาใช้ แก้ได้หมดทั้งมนต์ดำ คุณไสย์ ของดำ ของเขมร แขก ลาว พม่า มอญ ไทใหญ่...ขับอาถรรพ์ร้ายในชีวิตได้ทั้งสิ้น
    - ตะกรุดปฐมโลกีย์มหาสำเร็จ อันมีคุณดึงคนให้นิยมเราทั่วโลก ทั้งผลักดันให้มีบารมี,มียศศักดิ์สูงเที่ยมฟ้า ต่อให้ผู้มีอำนาจวาสนาก็มายอมลงให้แก่เรา ให้มีคนอุปถัมภ์ทั้งกลางวันกลางคืนอุปมาว่าช่วยเหลือแม้กระทั่งยามหลับหรือยามตื่น หมายตาทำกิจใดย่อมสุขสมหวัง ต้องรวยเงินทอง,รวยคนรัก,รวยคนอุปถัม ท่านลงเป็นตะกรุดชุดค้ำไว้ ท่านลงตะกรุดปฐมโลกีย์มหาสำเร็จไว้เป็นดอกกลาง ท่านว่านี้ดั่งตัวเราจะเอียงซ้ายเอียงขวาก็ไม่ได้ จะล้มบนล้มล้างก็ไม่ได้ เพราะนี้ฉันลงไม้เท้ามหาเถรค้ำไว้หมดแล้วทุกทางเลยมันจะไปล้มไปเอียงได้อีกท่าไหนก็ลองดูต่อไปเรื่องทางโลกโลกีย์ทั้งหลายมีคติอย่างเดียวคือต้องสำเร็จเท่านั้น ทั้งยังทำมหาจักรวัชรนาทอีกดอกหนึ่งหนุนฐานเอาไว้ดุจว่าตัวเธอนี้ได้เหยียบอยู่บนอาวุธทำลายล้างที่จะผันให้เดินก้าวหน้าไร้อุปสรรคไปได้ตลอดรอดฝั่ง,ทั้งหนุน,ทั้งพยุงไว้ให้ฐานมั่นคงราบเรียบไม่มีสะดุด,ไม่ทรุดตัว จักรนี้ถ้าใช้เป็นท่านว่าอันตรายวิชานี้ฆ่าและทำลายคนได้ง่ายๆเลย แต่ท่านลงไว้ให้มีผลเฉพาะกับศัตรูเราเท่านั้น

    ท่านลงธาตุสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ ก่อบังเกิดปลุกเสกด้วย ขันธ์ห้า อาการสามสิบสอง แล้วตรึงวิชาคาถาเอาไว้กันคัดกันถอน ท่านว่าให้เอาไปใช้ในทางที่ดีอย่าไปทำร้ายใคร บางคนใช้ไปในทางไม่ดีทำหุ่นสาปแช่งให้ศัตรูเจ็บป่วย ฉิบหาย อันนี้ไม่ดีไม่แนะนำ แต่บางคนรั้นก็เอาไปสาปแช่งคนอื่นนี่ไม่ดี เอาเป็นว่าหุ่นนี้ฉันทำให้เป็นหุ่นอธิษฐานตามความประสงค์ของเราจะให้เป็นไปต่างๆนานาตามประสงค์ อยากจะใช้อย่างไรก็ให้เป็นไปตามบัญชานั้น ท่านนำไปปลุกเสกริมน้ำตรงบริเวณที่แม่น้ำไหลทวนกระแสคือมีกระแสน้ำตีกลับปรับทิศทางเป็นวังวน ท่านว่าต้องเพียรหาสถานที่เช่นนี้ถึงสามสิบสองแห่งเท่าอาการหุ่นทำพิธีอธิษฐานไปเรื่อยๆ ท่านถือเป็นเคล็ดที่ว่าน้ำตีกลับน้ำวนกลับคือให้กลับร้ายกลายเป็นดี ใครทำไม่ดีจะสะท้อนย้อนกลับไปหาคนทำ ทั้งหุ่นเทพพยนต์จะรับเคราะห์แทนเมื่อเราดวงตก,โชคไม่ดี,ใครที่คิดไม่ดีคิดทำร้ายจะสะท้อนกลับตีกลับไปหาคนนั้น เขาจะคอยช่วยเหลือเราไม่มีพิษภัยใดกับเราเมื่อนำติดตัวไว้ก็จะเสริมดวง เสริมบารมีให้กับเรา ทำได้ทั้งปกป้องคุ้มครองขับไล่สิ่งอัปมงคลสิ่งชั่วร้าย,ภูตผี,คุณไสย,คุณผี,คุณคน,ลมเพลมพัดและสิ่งที่ไม่ดีต่างๆ ทั้งยังหาเงินเก่งสามารถบอกโชค บอกลาภ แก่ผู้เป็นเจ้าของได้อีกด้วยเขาจะมาปรากฏตัวในความฝันเป็นคนแก่บ้าง,หนุ่มบ้างหรือเด็กบ้าง บอกโชคบอกลาภให้เห็นช่วยให้มีทรัพย์สินลาภผลเงินทองโชคลาภ พ่ออาจารย์ท่านว่าลงไว้ทั้งหมดทั้งกันไฟ,กันฟ้า,กันลม,กันภัยทางน้ำ,กันโจร ท่านลงวิชาพัดโบกลงไปด้วย นอกจากนั้นยังเป็นเงาเป็นตัวตายตัวแทน,เป็นตัวรับเคราะห์แทนดั่งวิชาพยนต์โบราณที่ใครบูชาไว้ก็เสมือนมีเงาคอยตามตัว เพื่อปกป้องคุ้มครองภัยต่างๆ คอยรับเคราะห์รับผลแทนเราทั้งสิ้น เวลาที่ต้องแข่งขันกับผู้อื่นไม่ว่าทั้งโดยตรงหรือโดยอ้อมท่านว่าพกไปเถิดควรมีไว้เป็นอย่างยิ่งจะชนะเหนือคู่แข่งขันทั้งหลาย

    ท่านว่าเสกจนล้นไม่รู้จะล้นอย่างไรแล้วเอาไปใช้เถิดถึงเวลาใช้เดียวรู้เอง ถึงเวลามีภัยไม่ต้องกลัว กันได้หมดทั้งรังสีโรคระบาด เรียกเงิน,เรียกงาน,เรียกทรัพย์,ช่วยเหลือคน ท่านว่ามีมาก บอกไปยาวๆก็ไม่หมด เอาว่าดีกว่าที่เธอคิดกันเยอะก็แล้วกันเพราะท่านกำกับเทพพยนต์ไว้ให้ช่วยชีวิตคนใช้ให้ราบรื่น ไปอยู่กับเขาต้องทำให้เขารวยล้นเหลือเท่านั้น ท่านลงให้ครบทั้งมหาบุญฤทธิ์ มหาอิทธิฤทธิ์จะทำอะไรก็ให้บอกกล่าวกับพ่อหุ่นท่านเมื่อเรื่องสำเร็จแล้วก็จงให้จงทำอย่างที่พูดไว้(ในกรณีบนท่าน) ไม่ว่าจะหาความรักหรือหาทรัพย์สินใดๆเมื่อได้สมหวังแล้วก็จงดูแลเลี้ยงดูหรือรักษาทรัพย์นั้นเอาไว้ให้ดี ให้จำไว้ตลอดว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่เราหามาคนเดียว แต่เป็นสิ่งที่เรากับจ้าวมหาภูติท่านช่วยกันหามา***ถ้าคิดได้อย่างนี้ไม่หลงไปตามกระแสโลกพ่ออาจารย์ท่านว่ามันมีแต่เจริญ พ่ออาจารย์ท่านว่าทำไว้ให้ครบทุกอย่างแล้วอย่างที่ไม่เคยมีปรากฏมาก่อนในแผ่นดิน ทั้งปัเคราะห์,ปัดศัตรูลงไว้ครบถ้วน

    ด้วยเป็นหุ่นพยนต์แรงครูหรือเทพพยนต์ที่ไม่มีผงผี ผงพรายแม้แต่น้อน ท่านใช้กำลังและขอบารมีพระพุทธเจ้า,พระปัจเจกพุทธเจ้า,พระอรหันต์มาเป็นต้นธาตุต้นธรรมจนมั่นใจในดวงศีลดวงธรรมอันเป็นฐานกำลังของเทพพยนต์โดยเฉพาะ ทั้งอัญเชิญครูพระสยมมาแบ่งกำลังประสิทธิ์ทำวิชาให้เหมือนครั้งสังหารตรีปุราสูร ผูกลงวิชาเหมือนปู่พระอินทร์ท่านผูกหุ่นพยนต์องค์ต้น เช่นนั้นผู้บูชาจึงมีกำลังเทวดาเข้าพิทักษ์รักษาตามกำลังวันไม่มีเสื่อมมีคลาย เอาไปอธิษฐานให้ดีใช้ไม่มีข้อห้าม พกได้เลยตลอดเวลา
    ***นอกจากนี้เสด็จพระใหญ่ยังให้พ่ออาจารย์ท่านมนต์พระคาถาหัวใจพระพระจูฬปันถกอีกห้าแสนจบ ท่านว่าหากผู้ใดรู้เคล็ดวิชานี้อัญเชิญหัวใจพระจูฬปันถกมาสถิตอยู่ในตัวหุ่น เมื่อเราอธิษฐานอะไรกับหุ่นเทพพยนต์นี้ เมื่อเราใช้เขาทำงานสิ่งใดก็ดี จะให้รักษาบ้าน ร้าน อาคาร ป้องกันโจร ขโมย หรือแสวงหาทรัพย์ ถ้ามีคนร้ายมันจะเห็นหุ่นเป็นตัวเราหลากหลายนับประมาณมิได้ไม่กล้าเข้าไปใกล้เลย เวลาที่เราขออะไรกับพ่อหุ่นจากเดิมที่หุ่นเราเหมือนมีคนๆเดียวคอยช่วยเหลือก็จะกลายเป็นมีร้อยคน หมื่นแรง แสนกำลังเข้ามาช่วยเรา มาทำงานต่างๆให้เราพร้อมกันดุจพระเถระเจ้าท่านจำแลงกายเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่านี่เป็นเคล็ดเสกปิดท้ายที่เสด็จพระใหญ่ท่านว่าจำเป็นต้องทำ เพราะหุ่นเทพพยนต์นี้จะมีกำลังมากทวิทวีเก่งกว่าเดิมอีกนับแสนๆเท่าจากเดิมที่ว่าเก่งแล้ว..พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ต้องเสียเวลาพูด เขาจะมีร่างแบ่งไปอีกนับหมื่นนับแสนร่างเช่นนั้น

    หุ่นเทพพยนต์จ้าวมหาภูตินั้นไม่ต้องเลี้ยงต้องเซ่นเพราะเป็นพยนต์เทพ เน้นแต่การบอกกล่าวหากเกิดเหตุการณ์อะไรไม่ดีก็บอกให้ท่านจัดการไปได้เลย(แต่มีข้อห้ามอยู่อย่างหนึ่ง ในส่วนของปลายธนูที่เล็งไปนั้นไม่จำเป็นอย่าไปอธิษฐานเล็งใส่ใคร หรือไปเล็งให้ใครเขาฉิบหายเลยเพราะนั่นคือทั้งชีวิตเขา หากเราห้อยหรือพกบูชาก็ไม่มีอะไร แต่หากเราตั้งใจเล็งพร้อมอธิษฐานสาปแช่งเช่นนั้นท่านว่ามันมีอาถรรพ์อยู่มากที่ปลายธนูนี้ ถ้าเลือดตาไม่กระเด็นหรือไม่โดนใครทำร้ายมาอย่างถึงที่สุดจริงๆอย่าไปทำเขาเลย)

    คาถาบูชา
    จิเจรุนิจิตตัง เอหิจตุระภูตา เอหิสะมาคะมา จิตของพระแผลงจ้าวมหาภูติจงมาทำตามบัญชา มานิมามา .....(อธิษฐานบัญชาได้ทุกสิ่ง)

    *** จ้าวมหาภูตินี้พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ต้องไปพูดเยอะ เฉพาะค่าเสกค่าพิธีที่ทำให้ไปแค่นั้นเขาก็คุ้มแล้วเพราะเราตั้งใจทำไว้ใช้งานเองด้วยจริงๆ ท่านสร้างไว้ทั้งหมดหกองค์ มีให้บูชาเพียงห้าองค์เท่านั้น รับจองเฉพาะทาง PM ผู้สั่งจองให้แจ้งชื่อนามสุกลไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะทำการประสิทธิ์ให้ต่อไป ท่านว่ารายการนี้ใช้ตกทอดกันในวงศ์สกุลได้หรือหากจะเปลี่ยนมือก็บอกกล่าวท่านเอา รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กไร้โอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา เทพพยนต์ปฐมโลกีย์จ้าวมหาภูติพระแผลงนามบัญญัติอัตตา,กุศล,สำเร็จ(มามืดไปสว่าง) บูชา 4,000 บาท

    57798791-352275422062745-8567926269042229248-n.png 57761921-464083407669285-7903289863921729536-n.png
    57652759-400438110687393-4565317057578532864-n.jpg
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,306
    ค่าพลัง:
    +17,478
    มีบอกมาว่าอ่านเรื่องจ้าวมหาภูติจบยังไงก็ต้องเอา อันนี้ก็เลยกะจะพูดไว้ตั้งแต่เปิดจองแล้วว่าคนที่อ่านจบ และอ่านๆดี ถือเป็นโอกาสอย่างหนึ่ง เพราะมีเครื่องรางไม่กี่อย่างที่พ่ออาจารย์ท่านเลือกนำมาใช้เองรวมไปถึงมั่นใจ..จนเรียกได้ว่าเป็นความเด็ดเดี่ยวที่เด็ดขาดมากๆอย่างไม่เคยเจอที่ท่านจะพูดถึง จึงบอกคร่าวๆว่าอ่านกันดีๆ
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,306
    ค่าพลัง:
    +17,478
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่นฤชา EW 4027 4194 7 TH

    พี่ปกรณ์เกียรติ EW 4027 4195 5 TH

    พี่วิชัย EW 4027 4196 4 TH
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,306
    ค่าพลัง:
    +17,478
    พรุ่งนี้ส่งของครบทุกรายการนะครับทั้งที่ฝากเลี่ยมกับไม่ได้เลี่ยม ส่วนคนที่ขอยอดพญานอเดียวเข้ามายอดที่ผมเต็มแล้วนะครับ ติดจองหมดเลยไม่มีของจริงๆถึงได้บอกว่าอย่าช้า
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,306
    ค่าพลัง:
    +17,478
    แจ้งการส่งems
    พี่นฐมน EW 4027 9174 0 TH

    พี่ศิระ EW 4027 9175 3 TH

    พี่วุฒิชัย EW 4027 9176 7 TH

    พี่ปกรณ์เกียรติ EW 4027 9177 5 TH

    พี่พรเทพ EW 4027 9178 4 TH

    พี่ธนากร EW 4027 9179 8 TH

    พี่สรวุฒิ EW 4027 9180 7 TH
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,306
    ค่าพลัง:
    +17,478
    รายการเทพพยนต์ยอดจองเต็มนะครับ ใครที่สนใจทักมาอันนี้เต็มจริงๆ ส่วนเรื่องอื่นๆเดี๋ยวทยอยตอบให้แล้วก็ติดตามคุยกันพรุ่งนี้นะครับ
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,306
    ค่าพลัง:
    +17,478
    - ใครที่ชอบอำนาจของพญาช้างติดตามกันให้ดีๆ

    ที่ถามกันมาแต่ก่อนว่าพ่ออาจารย์ท่านทำพยนต์ช้างหรือเปล่า ท่านว่าไม่มีไม่เคยทำ ซึ่งผมก็ตอบไปตามนั้นมาตลอด หากแต่ท่านว่าพยนต์ที่เป็นสัตว์นั้นท่านไม่ได้ทำ แต่ท่านทำพระโพธิสัตว์ในรูปสัตว์นั่นก็คือนาฬาคิรีกุญชรโพธิสัตว์..ซึ่งท่านว่าจะไปเรียกพระองค์เป็นสัตว์นั้นย่อมไม่ได้เพราะท่านเป็นอรรคบุรุษในสิบองค์พระมหาโพธิสัตว์แห่งดุสิตสวรรค์ที่จะลงมาสร้างบารมีในศาสนานี้
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,306
    ค่าพลัง:
    +17,478
    แจ้งการส่งEMS

    พี่ทวีพงษ์ EW 4027 7408 3 TH

    พี่ชัยวัฒน์ EW 4027 7409 7 TH

    พี่ภาคภูมิ EW 4027 7410 6 TH
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,306
    ค่าพลัง:
    +17,478
    ร่วมทำบุญบูชา พระผงคชศาสตร์พญาโพธิสัตว์นาฬาคิรีกุญชร(พี่ช้างธนปาลกะ)
    แค่ท่านกับเราเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
    "ครั้นรุ่งขึ้นเป็นเวลาเช้าพระดาบสธรรมเสนบรมโพธิสัตว์นั้นก็เหาะมายังสำนักสมเด็จพระโกนาคมนเจ้าพร้อมด้วยพระอริยสาวก แล้วก็เข้าไปกราบนมัสการแทบพระบาทมูลแห่งสมเด็จพระสัพพัญญู พิจารณาดูทวัตติงสมหาบุรุษลักษณะแล้วก็เกิดความโสมนัสยินดีขึ้นมา จึงกราบทูลอาราธนาพระโกนาคมนเจ้าให้ตรัสพระสัทธรรมเทศนาฯ ครั้งนั้นสมเด็จพระผู้ทรงพระภาคเจ้าจึงทรงพระมหากรุณาตรัสพระสัทธรรมเทศนาว่าฯ ดูก่อนธรรมเสนดาบสผู้เจริญบัดนี้สมควรตัวท่านจะพินิจพิจารณาซึ่งกิริยาอันจะให้ไปสู่เมืองแก้วคือพระอมตมหานครนิพพานจึงจะชอบแก่ตัวท่านฯ จึงมีพระพุทธฎีกา ตรัสเป็นนัยคัมภีรภาพด้วยประการดังนั้น พระธรรมเสนดาบสได้สดับก็บังเกิดความเลื่อมใสศรัทธา คิดว่าจะตัดซึ่งเศียรเกล้าออกกระทำสักการบูชาพระสัทธรรมเทศนาแห่งสมเด็จพระโกนาคมนเจ้าเถิด จึงกระทำอธิษฐานเล็บของพระองค์ให้คมดุจดาบ ตรัสซึ่งเศียรเกล้าให้ขาด แล้วก็วางไว้ในฝ่าพระหัตถ์ชูขึ้นกระทำสักการบูชาสมเด็จพระพุทธเจ้า กล่าวเป็นพระคาถาตั้งความปรารถนาว่า พระองค์ทรงพระนามว่าพระโกนาคมนเจ้าได้ตรัสรู้เป็นพระสัพพัญญูผู้ประเสริฐแล้ว นานไปในอนาคตกาลเบื้องหน้า ข้าพระบาทขอปรารถนาให้ได้สำเร็จพระศรีสรรเพ็ชญ์พุทธเจ้าพระองค์หนึ่งด้วยศีลทานของข้าพระบาทนี้ อนึ่งเล่าพระองค์ผู้ทรงพระมหากรุณาเป็นที่พึ่งแก่ไตรโลกแล้วจะล่วงลับดับขันธ์เข้าสู่เมืองแก้วก่อนข้าพระบาทเล่า ข้าพระบาทขอปรารถนาให้สำเร็จพระนิพพานในกาลเบื้องหน้าด้วยเดชะผลศีลทานของข้าพระบาทในครั้งนี้ฯ"

    ด้วยคติการบูชาพญานาฬาคิรีกุญชรโพธิสัตว์ หรือที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าเทพบุตรธนปาลกะซึ่งจะเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตวงศ์นั้นจะยังกุศลให้เกิดขึ้นมหาศาล ทั้งยังให้ไม่อด ไม่อยาก ไม่ยาก ไม่จน ไม่อัตคัดข้นแค้น ทำกิจการหรือบำเพ็ญบารมีได้อย่างราบรื่น จะเกิดลาภสักการะไหลหลั่งมาไม่มีประมาณทั้งยังใช้เสริมมงคลต่างๆ ด้วยเป็นศาสตร์ที่รุ่งเรืองและนับถือในหมู่ชนชั้นสูงสุดเท่านั้น เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจสร้างพระผงคชศาสตร์นี้เป็นพิเศษด้วยจะได้เชิญเทพบุตรธนปาลกะซึ่งเป็นเอกอัครบุรุษอุดมวงศ์ในสิบองค์โพธิสัตว์ดุสิตสวรรค์ อันพระพุทธองค์ได้รองรับแล้วเมื่อเกิดเป็นช้างนาฬาคิรีนั้นว่าท่านมีบุญไม่น้อยเลย ให้แสดงมหากรุณาลงมาสร้างบารมีสั่งสมไปชั่วกาลในศาสนาสมเด็จพระชินสีห์เจ้าอีกวาระหนึ่ง

    นอกจากนั้นท่านยังผสมผสานพุทธคุณจากการลบผงพญาคชสารเชือกสำคัญต่างๆนอกจากผงวิชาของช้างนาฬาคิรีแล้วไว้ในวาระเดียวกันด้วย ไม่ว่าจะเป็นพญาฉัททันต์โพธิสัตว์,ช้างเอราวัณ,ช้างปาลิไลยกะ...เป็นต้น พอจะยกตัวอย่างได้ดังนี้
    - คติการบูชาพญาช้างฉัททันต์นั้น ท่านเป็นพระโพธิสัตว์เมื่อคราวพระพุทธเจ้าเสวยพระชาติเป็นพญาช้างอยู่ในป่าหิมพานต์ มีกายขาวดั่งเงินยวง เท้าแดง ปากแดง งาฉายรังสีแสงเป็นหกสี มีกำลังมาก มีบริวาร 8000 เชือก บูชาพระปัจเจกพระพุทธเจ้าทั้ง 500 พระองค์อยู่เป็นนิจสะสมบารมีธรรมมากมาย ท่านว่าวิชานี้เป็นวิชาสายหลวงพ่อเดิมมีพุทธคุณมากสามารถบันดาลให้ได้ทุกสิ่งที่ขอ
    - ส่วนช้างเอราวัณนั้นเป็นพาหนะของพระอินทร์ ถือว่ามีอานึภาพมากสามารถเหยียบไปได้ทุกหนแห่ง ทั้งบนดิน,บนผิวน้ำ,และในอากาศ ด้วยคติว่ามีพละกำลังที่มากมายมหาศาลทั้งสามารถทำลายสรรพสิ่งให้ย่อยยับไปได้โดยไม่ต้องใช้เวลาเท่าใดนัก แต่เนื่องจากเป็นสัตว์ที่เกิดจากการจำแลงกายของเทพคือเอราวัณเทพบุตรดังนั้นจึงไม่ค่อยได้เห็นท่านสำแดงฤทธานุภาพไล่ทำลายสิ่งต่างๆให้ปรากฏเท่าไหร่นัก ทั้งนี้วิชาการสร้างช้างเอราวัณนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าแท้จริงแล้วเป็นของสูง มีอาถรรพ์มาก มีฤทธานุภาพมาก จึงเป็นเรื่องที่เสี่ยงมากตามไปด้วย ถ้าทำขึ้นมาด้วยความรู้จริง วิชาถึง เกิดผลดีก็ดีไป แต่ถ้ารู้ไม่จริง ทำไม่ดี ไม่เหมาะไม่ควร เกิดเป็นผลร้ายกับคนใช้ขึ้นแล้วก็จะควบคุมไม่อยู่


    โดยปรกติแล้วช้างเผือกนั้นคือสัญลักษณ์แห่งความรู้และการเกิดสิริมงคล ดั่งความฝันของพระพุทธมารดาคืนก่อนวันเสด็จลงจากดุสิตสวรรค์ของพระโพธิสัตว์เจ้า พระนางก็ทรงพระสุบินถึงช้างเผือกมอบดอกบัวให้พระนางโดยดอกบัวอันหมายถึงความบริสุทธิ์และความรู้ ทั้งในไตรภูมิ ยังเชื่อกันว่าช้างเผือกนั้นเป็นหนึ่งในสมบัติของพระเจ้าจักรพรรดิ ได้แก่ ภริยาที่สมบูรณ์,ขุมสมบัติเหลือคณานับ,ที่ปรึกษาแผ่นดินที่ดี,ม้าที่วิ่งเร็ว,กฎการปกครองที่ดี,แก้วแหวนอันเป็นสิ่งสำคัญ,ช้างเผือกที่สง่างาม” ส่วนเรื่องพุทธคุณนั้นถือว่าช้างเป็นสัตว์ใหญ่ มีพลังอำนาจลึกลับในตัว เมื่อได้บูชาจะก่อให้เกิดความเป็นสวัสดิมงคลทั้งแก่บุคคลและสถานที่ เป็นนิมิตรหมายแห่งความยิ่งใหญ่,ความอุดมสมบูรณ์,ความมั่งคั่งรุ่งเรือง อันหาที่สุดมิได้ อีกทั้งช่วยเสริมบารมีของผู้ที่ได้ครอบครองตลอดจนดีเด่นไปในทางทางมหาอำนาจปราบข่มศัตรู เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจสร้างพญานาฬาคิรีกุญชรนี้เป็นกรณีพิเศษเพื่อหวังผลในการเกื้อหนุนชีวิตผู้ใช้โดยตรง

    ท่านว่าวิชาช้างแต่ละประเภทนั้นมีคุณต่างกันไป แต่โดยรวมแล้วช้างเหล่านี้เหมือนกันคือมีครบทั้งอิทธิฤทธิ์และบุญฤทธิ์ ด้วยพวกเขานั้นเป็นสัตว์ที่มีรูปร่างสูงใหญ่ทั้งมีนิสัยอ่อนโยน,เป็นมิตรและไม่ดุร้าย ทั้งช้างยังเป็นสัตว์ที่กินพืชเป็นอาหารจึงไม่คุกคามชีวิตสัตว์โลกอื่นๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อสร้างเป็นช้างเทพบุตรธนปาลกะแล้ว ท่านจะลงมาช่วยสนับสนุนในเรื่องของความสูงใหญ่คือดันเรา,ชูเราขึ้นไปให้สูงที่สุด เปรียบเป็นภูเขาสูงใหญ่ที่มั่นคงอันจะเป็นร่มเงาและที่พึ่งของเราต่อไปภายหน้า ทั้งยังช่วยให้จิตใจปลอดโปร่งเติมเต็มสติปัญญา ท่านว่าพกไว้กับตัวนี่ถ้าใช้คำว่าเธอจะฉลาดขึ้นไม่รู้ว่าจะเชื่อกันมั๊ย ด้วยท่านมีพละกำลังมหาศาลและมีรูปร่างสูงใหญ่แต่ข้างในลึกๆกลับไม่ดุร้ายไม่ทำร้ายผู้อื่นง่ายๆรวมถึงไม่ไปรบกวนผู้ใดก่อนไม่ตอแยกับใครนั่นแหละ เพราะฉะนั้นคนที่บูชาท่านให้จำเอาไว้ว่าท่านจะดันเราอย่างเดียว ดันไม่หยุด ดันไปเรื่อยๆจนกว่าชีวิตเราจะมีอำนาจเป็นของตัวเอง มีความสำเร็จใหญ่โตดั่งที่ปรารถนาทั้งท่านจะช่วยปัดเป่าภัยอันตรายทั้งปวงไม่ให้เข้ามายุ่งกับเรา รวมถึงขัดเกลาสติปัญญาและความคิดให้แหลมคม ทั้งยังเป็นเหตุ,เป็นบ่อเกิด,เป็นกำลังอันจะนำพาโชคลาภวาสนาฉุดกระชากลากดึงให้เข้ามาถึงตัว ท่านธนปาลกะกำหนดให้พ่ออาจารย์ท่านแกะพิมพ์รูปช้างนาฬาคิรีโดยให้มีใบหูยาวใหญ่เพื่อคนบูชาท่านจะได้ป้องกันตัวได้ดุจช้างที่สะบัดใบหูปรกข้างตัว หรือด้านข้างบนของขา,หางซึ่งยาวจรดพื้นต้องแกว่งไกวตวัดขึ้นไม่อยู่นิ่งเพื่อป้องปัดเป่าเสนียดจัญไรทั้งหลาย,งวงก็ต้องยาวจรดพื้นแลตวัดเข้าหาตัวเพื่อจะดึงโชคและสิริมงคลเข้ามาถึงตัวเราด้วยวาสนากำลังพญานาฬาคิรีกุญชรโพธิสัตว์เ,งาช้างจะต้องมีลักษณะแหลมคมปลายโค้งเชิดขึ้นเพื่อที่จะเอาไว้พุ่งชนศัตรูหรือคู่ต่อสู้เป็นมหาปราบมีอานุภาพทำลายล้างสูงสุด

    ท่านได้รวบรวมมวลสารสำคัญต่างๆมาผสมกับผงคุณวิชาสายพญาช้างที่ท่านลบไว้ทั้งไคลพระเจดีย์เจ็ดวัด,ไคลเสมาเจ็ดวัด,ไคลโบสถ์เจ็ดวัด(ถือตามตำราโบราณว่าพญาช้างที่สร้างจะได้มีกำลังเจ็ดช้างสารอันเกรียงไกร)นำมาผสมกับผงอิทธิเจ,ผงมหาราช,ไม้พญาช้างหลง(ดีเด่นด้านมหาเสน่ห์ยิ่งนัก),ผงไม้เสาตะลุงช้าง,ว่านชะดองชา,ว่านพญาลิ้นดำ...ท่านนำมวลสารต่างๆมาผสมกับผงสำคัญต่างๆของพญาช้างเผือก ได้แก่
    - ผงงาช้างศึก อันเป็นสัญลักษณ์ความบริสุทธิ์และเป็นมงคล ผงนี้ท่านธนปาลกะได้เสกให้ก่อนนำมาผสมคราวหนึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าท่านทำให้เป็นกาลเฉพาะเน้นทางพลังอำนาจสะกดให้คนอื่นเชื่อฟังทั้งยังช่วยฟันฝ่าอุปสรรคให้แคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งหลาย ท่านเสกให้พร้อมกำกับว่าให้ใส่ไปทั้งหมดเพื่อคนใช้ต่อไปจะได้เอาชนะเหล่าศัตรูหมู่มารที่ผจญเวร,ผจญกรรมกันในชีวิตได้ไม่ยาก(พ่ออาจารย์ท่านว่าผงงาสำคัญนี้จะต้องใช้งาช้างศึกโบราณมาลงอาถรรพ์เท่านั้น ทั้งต้องเป็นช้างเผือกด้วย นอกจากงาช้างที่ออกศึกงาธรรมดายังใช้ไม่ได้) ทั้งนี้ยังเป็นเคล็ดที่จะทำให้ผู้ครอบครองชนะการทำศึก,การแข่งขันได้ครั้ง
    - ขนหางช้างเผือก ท่านว่าช้างเป็นสัตว์ใหญ่เป็นตัวแทนของอำนาจ ท่านธนปาลกะท่านได้เสกให้สำเร็จก่อน ท่านว่าขนหางช้างเผือกนี้ท่านลงให้ครบทั้งปัดเป่าเสนียดจัญไร,อุปสรรคขัดขวางทั้งหลาย เมื่อนำมาเป็นมวลสารแล้วผู้บูชาติดตัวจะได้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายที่มองไม่เห็น ทั้งจะปลอดภัยจากการเดินทางสัญจรในแต่ละวันอันจะเหยียบย่างเข้าไปในถิ่นอาถรรพ์ที่ต่างๆ ท่านว่าลงให้ครบหมดจะใช้ป้องกันคุณไสยก็กันได้ทุกชนิด ทั้งยังช่วยปัดเป่ารังควานจากภูตผีปีศาจและสัตว์ร้ายได้อีกด้วย(ท่านว่าแม้เจ้ากรรมนายเวรมารังควานก็ปัดออกไปได้ ท่านธนปาลกะท่านลงให้ครบถึงขนาดนั้น มากกว่านี้ไม่สามารถพูดได้) ให้บูชากันดีๆท่านว่าองค์มหาโพธิสัตว์ท่านเมตตาทำให้หมดแล้วติดตัวไว้จะทำให้สามารถหยั่งรู้เภทภัยต่างๆล่วงหน้าได้ เสมือนตัวเองมีสัมผัสพิเศษทั้งยังป้องกันเหตุอันตรายระงับไว้ไม่ให้เกิดขึ้น ด้วยขนหางช้างเป็นสัญลักษณ์ความรักและความภักดีท่านว่าใส่ลงไปหนนี้ก็เพื่อให้พี่ช้างท่านรักเราเต็มที่นั่นเอง
    - ผงรกช้างผือก เป็นของมงคลอันน่าอัศจรรย์ซึ่งคนโบราณผู้เฒ่าผู้แก่เชื่อกันว่าผู้ใดได้ครอบครองพกพา กช้าง จะบันดาลโชคลาภขั้นสูง,เรียกโชค,เรียกลาภ และยังสามารถเร่งโชค,เร่งลาภ เข้ามาสู่ตัวผู้ครอบครองอย่างน่าอัศจรรย์ใจเป็นยิ่งนัก พ่ออาจารย์ท่านขอเมตตาท่านธนปาลกะลงวิชาให้ก่อนจะนำมาเป็นมวลสาร ท่านว่าผงรกช้างนี้ท้าวเธอท่านทำให้เป้นพิเศษเพราะเป็นของที่จะดึงจะฉุดวาสนาช่วยเหลือคนได้ ทั้งคนที่หมด,คนที่ไม่มี,คนที่ยังไม่ถึงเวลาบุญพาวาสนานำส่งทั้งหลายก็ยังเร่งเวลาให้โชคดีเข้าถึงตัวได้ ท่านว่าผสมไปให้ทั้งหมดพกเอาไว้จะไม่มีอับจน เงินทองจะไหลมาเทมาเป็นระยะไม่ขาดสายกินใช้ไม่หมด คนที่ทำมาหากินไม่คล่อง,โชคลาภไม่ค่อยมี,การงานตกต่ำ,ทำอะไรก็ติดขัด,ชักหน้าไม่ถึงหลัง,เป็นหนี้เป็นสิน,เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ท่านว่าหมดปัญหา ต่อไปจะมีมาเรื่อยๆ หมดแล้วก็มีมาใหม่เป็นวงจรหล่อเลี้ยงชีวิตดั่งรกช้างสายใยแห่งพระมหาโพธิสัตว์ที่จะหล่อเลี้ยงชีวิตเราเช่นนั้น
    - ผงเชือกปะกำ ท่านธนปาลกะได้ลงอาถรรพ์ให้สามารถป้องกันคุณไสย์หรือวิชา,โรคร้ายและการกระทำที่เขาปล่อยมาในอากาศที่เรียกว่าลมเพลมพัดได้ ทั้งยังเป็นมงคลมาก (ท่านธนปาลกะท่านอุปมาไว้น่าฟังว่าเอาไว้จับอะไรที่จับยาก,ตึงมือ,เกินวาสนาตัวเองที่จะรับ ต่อไปจะได้สัมผัส,ได้ครอบครอง,เป็นของเราอย่างง่ายดาย ก็ลำพังเชือกนี้มีอำนาจคล้องช้างที่ได้ชื่อว่าดุ ว่ามีอาถรรพ์มากได้อย่างไร ต่อไปสิ่งที่ยากๆเธอก็เอามาได้เช่นนั้น) พ่ออาจารย์ท่านว่าปกติแล้วก็มีอำนาจมากภูตผีปีศาจและคุณไสยเกรงกลัวยิ่งกว่าเทพศาสตราวุธ ทั้งใช้ล้างอาถรรพ์อะไรที่ว่าเฮี้ยนๆได้ฉมังนัก บ่วงบาศก์หนังปะกำยังเด่นด้านเมตตามหานิยมอีกด้วย ถือเป็นของมงคลยิ่งนักทั้งด้วยความที่เป็นบ่วงบาศก์ในตัวมันเองยังจะคล้องจะนำพาให้เกิดโชคลาภ ทำมาค้าขึ้นไม่อดอยากเป็นสิ่งมงคลที่ให้โชคลาภสุขสมหวังให้สมดังใจปราถนา
    ท่านเน้นมวลสารอาถรรพ์และว่านยาเพื่อจะทำให้เป็น เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ควบคู่ไปกับวิชาอาถรรพ์ของพญาช้างที่เป็นมหาอำนาจอย่างถึงที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าจะได้ครบเครื่องส่งผลในด้านการเจรจา การค้าขาย โชคลาภให้เป็นนะจังงัง ให้ผู้ที่ได้ยินเสียงเกิดความนิยมชมชอบควบคู่กันไปด้วยทั้งหมด ทั้งยังคุ้มครองป้องกันภัยต่างๆยามเมื่อมีภัยมาถึงตัว
    **ท่านว่าพระผงนี้สำคัญนักเพราะผู้ใดมีไว้เขาจะมีพละกำลังดุจพญาช้างสาร มีวาสนาบารมีเพิ่มขึ้นเจ็ดเท่าห่างไกลกับผู้อื่นเจ็ดช่วงตัวจนตามกันไม่ทัน ดั่งคำที่ว่าแข่งเรือแข่งพายนั้นแข่งได้แต่แข่งบุญแข่งวาสนานั้นแข่งกันไม่ได้

    พ่ออาจารย์ท่านว่าพญาช้างที่สร้างนี้เป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ให้พกไว้กับตัวพี่ช้างเขาจะเป็นพาหนะอันประเสริฐนำโชค,นำวาสนามาให้เราสิ่งใดที่ขาดก็ให้บอกพี่ช้างขอท่านว่าให้ยื่นงวงออกไปหยิบมาให้ ใครที่ชีวิตตกอับหาความมั่นคงไม่ได้ ยังใช้ชีวิตอยู่ในมุมที่ไม่มั่นคงไม่แข็งแรงหรือมีเภทภัยต่างๆคอยกัดกินตัวเราทำร้ายตัวเรา พร้อมจะพิฆาตเราให้ย่อยยับลงไป ท่านว่าให้ใช้พี่ช้างเขาเถิดท่านสามารถป้องกันเสนียดจัญไรให้เราได้ แม้จะเจ็บไข้ได้ป่วยไม่แข็งแรงประเภทสามวันดีสี่วันไข้ก็ให้ขอบารมีพี่ช้างเขาปัดรังควานทั้งหลายออกไปก็จะกลับมาแข็งแรงไม่เจ็บไข้ได้ป่วยบ่อยๆอีก ท่านว่าใช้ได้หมดทั้งสิ้นขอแค่เรารู้ตัวว่าชีวิตตัวเองเป็นอย่างไรโดนรังควานอยู่หรือไม่ จะเป็นที่เจ้ากรรมนายเวรหรือเปล่าที่ทำให้เราหากินไม่ขึ้นดังนี้ ทั้งพี่ช้างยังจะคอยนิมิตบอกเหตุเภทภัยที่จะเกิดขึ้นแก่เราให้รู้ตัวล่วงหน้าด้วยสัญชาติของเขา พ่ออาจารย์ท่านว่าช้างนั้นจะมีสัญชาติญาณพิเศษเขาจะรู้ล่วงหน้าทั้งหมดหากจะมีภัยเข้ามถึงตัวผู้เลี้ยงดูเขา พี่ช้างนี่ก็เช่นกัน ไอ้ชีวิตที่ว่าแย่ๆปัญหาเยอะๆต่อไปจะคลี่คลายไปทั้งหมดเอง*** หากปรารถนาสิ่งใดให้ลูบหลังพี่ช้างเพื่อกระตุ้นให้ก่อเกิดสิริมงคลทั้งโชคลาภเงินทองและความร่ำรวย,ความสำเร็จ ท่านว่ายิ่งลูบเจ้าของยิ่งพบกับความสุข,ความสำเร็จ,ความเจริญรุ่งเรือง ยิ่งก้าวหน้าก้าวไกลประสบความสำเร็จครบถ้วนสมบูรณ์ตามความสมควรในกิจการที่กระทำอยู่

    - พญาช้างฝังตะกรุดต้านเคราะห์กรรม
    ปกติวิชานี้พ่ออาจารย์ท่านหวงมากเพราะเป็นสิ่งที่จะหน่วงเหนี่ยวเกี่ยวพัน ผูกรัดมัดตรึงชีวิตคนไว้ไม่ให้วิบัติได้ ท่านว่าเสกก็ยากแสนลำบากอุปมาดั่งวัฏจักรที่หมุนวนเช่นสายน้ำหลากหล่นไหลไม่มีวันหยุด แต่ผู้พกตะกรุดนี้ก็ยังรักษาตัวยืนอยู่ได้มั่นคงไม่คลอนแคลนท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงของชีวิตที่โหมซัดเข้ามาเช่นนั้น เขาจะต้านความแรงของเคราะห์กรรมไว้ ไม่ให้เราไหลลงไป,ไม่ให้เราล้มลงไป,ไม่ให้เราทรุดตัวไป พูดง่ายๆคือไม่ร่วงหล่นลงไปจะยืนเด่นเป็นสง่าเหนือปัญหาอุปสรรค,เหนือเคราะห์กรรมแลทุกข์ภัยทั้งปวง
    พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่ออธิษฐานจิตนั้น
    ท่านธนปาลกะท่านลงมาทำให้เต็มที่ และกล่าวว่าไม่ต้องเชิญผู้ใดมาช่วยเพิ่มอีก"เพียงแค่ท่านกับเราเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว"

    เคล็ดการบูชา
    พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าไม่พกติดตัวหากแต่จะตั้งบูชาก็ให้หาน้ำสะอาดวางไว้ให้ท่านซักแก้วด้วย จะได้แก้เคล็ดชีวิต อุปมาดั่งแก้วน้ำนั้นเป็นอ่างน้ำ เป็นบ่อเงินบ่อทองพี่ช้างท่านจะได้ใช้งวงจับและดึงดูดโชคลาภ เงินทอง ความร่ำรวย ความมั่งคั่ง และโอกาสที่ดีๆทั้งหลายมาวางไว้ให้กับเราได้ง่ายขึ้น ตอนอธิษฐานวางแก้วน้ำก็ตั้งจิตดีๆพูดเองเออเองไปว่าแก้วนี้คือบ่อวาสนา,บ่อสิริมงคลให้พี่ช้างใช้งวงจับวาสนามาป้อนให้ผมถึงปาก...ท่านว่าพูดเองเออเองไปเดี๋ยวได้เรื่อง พี่ช้างที่กำลังดูดน้ำเข้าปากก็คือพี่ช้างที่กำลังดูดเงินทองตามความประสงค์มามอบให้เรานั่นเอง

    คาถาบูชา
    นะโมตัสสะมัย นาฬาคิริงศะวะราย ฉัททันต์โพธิสัตโต โพธิสัตตะวาย มหาสัตตะวาย นะมะพะทะ

    ***พ่ออาจารย์ท่านว่าคนบูชาเป็นเครื่องรางก็ใช้ได้ทุกอย่างทันที แต่คนที่สะสมบารมีและต้องการเพิ่มพูนบารมีของตนเองให้ขยายออกไป,แผ่ไปมากขึ้นเรื่อยๆถือดั่งคติพระเจ้าจักรพรรดิว่ายิ่งมีช้างเผือกมาอุ้มสมในบารมีมากเท่าใดยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้นจะเพิ่มบารมี,เพิ่มพละกำลังในการต่อสู้กับปัญหารุมเร้าต่างๆเป็นการสร้างอาถรรพ์ให้ชีวิตตนเองเจริญรุ่งเรืองสืบไป(ท่านว่าจะใช้กี่เชือกตามความเหมาะแก่บุญบารมีตนก็ถามใจตัวเองเอา เดี๋ยวเทวดาเขาบอกเอง) คนที่บูชาท่านไปก็ให้เรียกว่า "พี่ช้าง" ท่านว่าเลี้ยงไปเรื่อยๆเถิดพอเราเจริญขึ้นพี่ช้างก็จะยิ่งมีเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆจะเงาขึ้นบ้าง,อ้วนขึ้นบ้าง,จ้ำม่ำขึ้นบ้างต่างๆนี้เลี้ยงๆดูแลกันไปเดี๋ยวจะเห็นเป็นอัศจรรย์เอง ท่านว่าขอให้บอกกล่าวท่านขอให้ท่านช่วย ขอพลังจากท่าน เช่นไปทำงานมาเหนื่อยมากก็พูดกับท่านไปว่าพี่ช้างผมเหนื่อยจังเลย...เพราะอะไร อยากได้งานใหญ่ อยากมีอะไร..ทำไมเพราะอะไร ชีวิตเหน็ดเหนื่อยอย่างไร เจออะไรมา ทั้งหมดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าให้บอกกล่าวกับพี่ช้างเขาได้เลยจะปัญหาอะไรทั้งความรัก,สุขภาพ,หน้าทมี่การงาน,ไร้ดวง,ไร้คู่,กระเป่าแห้ง,ไม่มีโชคลาภ ท่านว่าขอให้พูดให้บอกกล่าวก็พอ รับสั่งจองเฉพาะทาง PM ผู้บูชาให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วยพ่ออาจารย์ท่านจะประสิทธิให้เพื่อเป็นสิริมงคลแก่เราสืบไป ปัจจัยส่วนหนึ่งร่วมบุญไถ่ชีวิตโคกระบือในโอกาสต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระผงคชศาสตร์พญาโพธิสัตว์นาฬาคิรีกุญชร(พี่ช้างธนปาลกะ) บูชา 2,500 บาท

    58610227-291174938501192-2907855071716835328-n.jpg 58444483-2183424121969492-1761447451950055424-n.jpg
    58902149-318993975386898-1149621062758039552-n.jpg
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,306
    ค่าพลัง:
    +17,478
    ใจสบาย
    ใจสบายมีความหมายต่อชีวิตมาก เมื่อใดใจไม่สบาย แม้ร่างกายจะสมบูรณ์ ชีวิตก็ไร้ความหมาย เมื่อใดสุขสบายใจแล้ว แม้ร่างกายจะพิการบ้าง ก็หาความสุขได้ไม่ยาก ความสุขของมนุษย์อยู่ที่ใจสบาย มิใช่มีทรัพย์มากกว่า มีเกียรติสูงกว่า เพราะส่วนใหญ่ การมีทรัพย์มาก มีเกียรติมาก มักก่อความไม่สบายใจเสมอ ปัญหาสำคัญจึงอยู่ที่ว่า เราจะอยู่อย่างไรให้ใจสบาย จะอยู่อย่างไรให้ใจเป็นสุข

    ในหลักพระพุทธศาสนาสอนว่า ละชั่ว ทำดี ทำใจให้ผ่องใส สองข้อแรกเป็นเหตุให้ใจสบายแน่นอน แต่บางครั้ง การตั้งใจทำดีแท้ๆ ก็ยังมีเหตุให้ใจไม่ผ่องใส ทำให้ไม่สบายใจอยู่ก็มีมาก ด้วยเหตุนี้ พระพุทธองค์จึงตรัสเพิ่มอีกเป็นข้อที่สาม เน้นลงไปที่ความผ่องใสของใจ แปลว่า แม้จะไม่ทำชั่ว ตั้งใจทำดีเต็มที่แล้ว เท่านั้นยังไม่พอ เรา ยังต้องดูอีกว่า ดีที่ทำนั้น ได้ทำให้ใจของเราผ่องใสหรือไม่ หรือว่าทำไปแล้วยังขุ่นมัวอยู่เพราะดีที่ทำ แล้วก็มาบ่นว่า ทำดีไม่ได้ดีทำคุณคนไม่ขึ้น เมื่อใจไม่สบาย มนุษย์ก็เริ่มเครียด และเครียดสะสม จากวันเป็นเดือนเป็นปี เป็นชีวิต จะเห็นได้ว่า ทุกวันนี้ มนุษย์เรามีความเครียดเพิ่มมากขึ้นตลอดไม่เคยลด เพราะไม่ทราบอุบายที่จะทำใจให้สบาย


    ๑. การพูดถึงปัญหาเพียงครั้งเดียวก็เกินพอ ส่วนวิธีแก้ปัญหาต้องพูดแล้วพูดอีกคิดแล้วคิดอีก
    มนุษย์เราส่วนมาก ที่ใจไม่สบาย ก็เพราะชอบพูดแต่ปัญหา พูดแล้วพูดอีก เจอหน้ากันอีก ก็พูดเรื่องเดิม พูดสิบครั้ง ก็โกรธสิบครั้ง ถูกไฟเผาไหม้ไปสิบครั้ง เรื่องควรจะจบกลับไม่ยอมจบ ไฟที่กำลังจะมอด ก็ถูกเติมเชื้อให้ลุกโชนขึ้นอีก แม้นำความไปพูดกับคนอื่น ก็ทำให้เกิดอารมณ์โกรธเกลียดเคียดแค้นไม่สิ้นสุด และสุดท้ายก็กลายเป็น “โอษฐภัย” ไปโดยไม่รู้ตัว อยากให้ใจสบาย ให้พูดถึงปัญหาเพียงครั้งเดียว และแสวงหาวิธีแก้ปัญหาให้มาก

    ๒. คิดบวกต่อคนอื่นให้มากเข้าไว้
    การคิดบวก เป็นอุบายสำคัญในการดำรงชีวิต คนคิดบวก มักมีกำไรในชีวิต ส่วนคนคิดลบ พูดลบ ชีวิตมักขาดทุน การคิดบวกต้องฝึกฝน เพราะมนุษย์ส่วนมาก มักจินตนาการไปในทางลบ เมื่อเราคิดลบต่อเขา เขาก็คิดลบต่อเรา คิดดูเถิดว่าอะไรจะเกิดขึ้น เรื่องเล็กจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาทันที เรื่องไม่เป็นเรื่อง ก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตลุกลามไม่มีวันจบสิ้น ไม่เคยมีใครที่จะเอาชนะคนโกรธด้วยการโกรธตอบ พระพุทธองค์ตรัสสอนว่า พึงชนะคนไม่ดีด้วยความดี พึงชนะคนตระหนี่ด้วยการให้ พึงชนะคนโกรธ ด้วยการไม่โกรธตอบ ถามว่าทำยากไหม ตอบว่า ทำยาก หากไม่เคยทำ สิ่งเหล่านี้อยู่ที่การฝึกฝนกระทั่งเกิดความคล่องตัวในวิธีคิด

    ๓. ไม่ต้องกลัวว่าใครจะดีกว่าเรา
    เรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งของมนุษย์คือ เห็นใครได้ดีกว่าแล้วเป็นทุกข์ ถ้าจะบอกว่าเป็นธรรมชาติของมนุษย์ ก็ดูจะประเมินคุณค่าต่ำเกินไป ข้าพเจ้าอยากพูดว่า จริงๆ แล้วมิใช่เป็นธรรมชาติ หากแต่เป็นความเคยชินที่มนุษย์สร้างขึ้นมาอย่างต่อเนื่องแล้วไม่มีใครแก้ไข การพยายามฝึกคิดว่า ขอให้คนอื่นดีกว่าเรา ชื่นชมเขาเมื่อ เขาดี เพียงแค่ชื่นชม เราก็เป็นสุข เขาก็สบายใจ ในทางตรงกันข้าม ถ้าเราอิจฉาเขา ใจเราก็ไม่สบาย ใจเขาเองก็เกิดการต่อต้าน สุดท้ายก็ไม่สบายใจทั้งสองฝ่าย เมื่อเราได้ดีบ้าง ก็ถูกต่อต้านกลับ ด้วยเหตุนี้ พระพุทธองค์จึงตรัสสอนเรื่อง “มุทิตาจิต” คือเมื่อเห็นเขาได้ดี ก็ขอให้พลอยยินดีกับเขาด้วย เราต้องฝึกหัดยกย่องชื่นชม โดยไม่ต้องกลัวว่า ใครจะได้ดีกว่าเรา แล้วใจเราก็จะสบาย

    ๔. พึ่งตนให้มาก ไม่คิดหวังพึ่งคนอื่นตลอดเวลา
    เรื่องการพึ่งตนนี้ เป็นเรื่องสำคัญมาก มนุษย์เราส่วนใหญ่ชอบพึ่งคนอื่นบางครั้งเราก็คิดว่า เขาน่าจะให้เราพึ่งพาอาศัยได้ แต่สุดท้ายก็เปล่าประโยชน์คือเสียใจกลับมา ในทางกลับกัน เราน่าจะคิดใหม่ว่า ทำอย่างไร เราจะพึ่งตนได้และเป็นที่พึ่งของคนอื่นด้วย การคิดพึ่งตนและให้คนอื่นมาพึ่งเราได้ ถือเป็นหัวใจสำคัญในการป้องกันไม่ให้เกิดทุกข์ ไม่ให้เกิดความผิดหวัง ให้เราคิดว่า แม้ในโลกนี้ จะมีเพียงเราคนเดียว เราก็จะดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างปลอดภัยผู้ฝากความหวังไว้กับคนอื่น จะผิดหวังเสมอ บางคน เราคิดว่า เขาสมหวังแล้ว เขามีมากแล้ว เราควรจะไปขอพึ่งพาอาศัยเขา แล้วก็ฝากความหวังไว้กับเขา แต่เอาเข้าจริง ปรากฏว่า ผิดหวังหนักกว่าเดิม การฝากความหวังไว้กับคนที่ยังไม่สมหวัง เราจะผิดหวังยิ่งกว่าเขาหลายเท่า คนที่เราคิดว่าเขารวยอาจจะจนกว่าเราก็ได้ คนที่เราคิดว่า เขาสมหวัง อาจจะผิดหวังยิ่งกว่าเราก็ได้การฝึกใจให้รู้จักคิดพึ่งตน และกวักมือเรียกคนอื่นให้มาพึ่งเรา จึงถือว่าเป็นการสร้างฐานความคิดที่สำคัญ ในการป้องการใจไม่ให้ตก “หลุมพลางของทุกข์”

    557000001349001.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...