ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดเว้นกระทำห้ามทำร้ายชุดปิดตำนานตัว"แก้"(ผนึกเหล็กไหลตาไฟกบิลมุนี) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    อรุณสวัสดิ์นะครับ

    นั่งเปิดข้อความอ่านเห็นหลายคนขอบูชาพลองตีเทพแบบเเยกเดี่ยวเฉพาะ...จะเอาไปใช้งาน ซึ่งผมยังตอบหรือให้ความเห็นอะไรไม่ได้ก็เอาไว้ติดตามพูดคุยกันก่อนนะครับ
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    เรื่องพลองตีเทพแบบเเยกเดี่ยวมีคนบอกว่าแบบฝังพระใช้ไม่สะดวก คือใช้ลำบาก อยากได้ไว้ใช้ต่างหากแบบเทพศาสตราขนาดเล็กพกง่ายๆหยิบมาใช้ง่ายๆหรือเลี่ยมเฉพาะให้ลูกให้เมียใส่ อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับวิธีใช้งานของแต่ละคน ซึ่งพลองตีเทพนี้ท่านกำชับว่าเป็นอาวุธที่มีจิตวิญญาณของเค้าเองแต่งานแกะมือขนาดเล็กแบบนี้แถมพ่ออาจารย์ท่านต้องแกะเองทุกชิ้นแล้วก็เสกเองชนิดแกะไปเสกไปยิ่งเล็กก็ยิ่งทำยากและทำได้น้อย เพราะท่านไม่ได้จ้างใครเขามาแกะให้ท่านทำของท่านเองได้แค่ไหนเอาแค่นั้นต้องทำเองทุกขั้นตอน...ดังนั้นของจึงมีน้อยมากๆถ้าอยากได้กันก็จะออกให้บูชาเท่าที่มี แต่ย้ำไว้ว่าน้อยจริงๆแล้วจะลงรายละเอียดให้อีกที
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    มีคนเล่าให้ฟังว่าหมูนารายณ์ที่เลี้ยงไว้ปกติช่วงนี้อยากลองพกติดตัวเวลาทำงาน ที่เห็นชัดคือชีวิตมวลรวมมันง่าย,คล่องขึ้นเยอะ แถมเงินทองก็เข้ามาเพิ่มง่ายขึ้นเรื่อยๆ

    ถ้าไม่พกติดตัวมันจะแบบดีทั้งบ้าน แต่ไม่ชัดเจนเป็นรายบุคคล หมูนารายณ์นี่เอาเรื่องเลย ***ก็นำมาเล่าต่อ เพราะเห็นสมควรที่จะนำมาใช้ผลัดๆกันอย่าวางไว้เฉยๆ
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    ร่วมทำบุญบูชา พลองประหารเทพ,ตีเทพ(ไพรีพิฆาต)

    "เทพมาตีเทพ มารมาตีมาร ใช้ตีกำราบสั่งสอนหรือกำจัดได้ทั้งสิ้น"
    เสด็จพระใหญ่ท่านให้แกะด้วยไม้กำจัดและจะทำให้ พ่ออาจารย์ท่านว่าพลองนี้เปรียบเสมือนตัวแทนการปราบปรามและสามารถใช้อธิษฐานขจัดอุปสรรคตต่างๆโดยเฉพาะเจ้ากรรมนายเวรที่กลั่นแกล้งเราตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ไม่อยู่ในทำนองคลองธรรม เพราะเจ้ากรรมนายเวรและจิตวิญญาณทั้งหลายจะเกรงกลัวพลองนี้นักดุจเห็นพลองประหารเทพนั่นทีเดียว(ด้วยเทพนั้นท่านว่าเป็นคำจำกัดความไว้เรียกรวมๆหมายถึงตัวตนที่มีฤทธิ์มากยากที่เราจะแตะต้อง ตัวตนเหล่านั้นเรียกรวมๆว่าเทพ ส่วนพลองตีเทพนั้นก็เป็นสิ่งที่เอาไว้ใช้ลงโทษเทพเหล่านั้นนั่นเอง)

    ด้วยพลองตีเทพนั้นเป็นศาสตราแห่งอำนาจและมีอำนาจบงการจิตใจสรรพสิ่งจึงถือเป็นอำนาจอย่างแท้จริงที่สุด เขาจะมีประสาทสัมผัสและจะคอยสังเกตดูผู้ที่พกพาเขาตลอดเวลา ถ้าคนใช้มีชีวิตที่ดียิ่งเป็นคนดีเขาก็จะอยู่เป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจเคียงข้างกายจะดลบันดาลให้ชีวิตมีความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า แต่ถ้าคนใช้เลวทรามอย่างถึงที่สุดพ่ออาจารย์ท่านว่าพลองนี้เขาจะไม่อยู่ด้วยนานเดี๋ยวเดียวเขาก็จะหายไปเพราะคนๆนั้นชีวิตจะเสื่อมลงเรื่อยๆกลับกันในขณะที่สุจริตชนถือหรือนำไปใช้พ่ออาจารย์ท่านแย้มคร่าวๆว่าความฝันของเขาจะเป็นจริง พลองตีเทพนี้จะกลายเป็นพลองสมปรารถนาอยู่ส่งเสริมเขา

    นอกจากนั้นพลองยังใช้ข่มพลังร้ายทั้งหลายรอบตัวสะกดเอาไว้ไม่ให้กำเริบได้อีกด้วย ท่านว่าเวลาจะใช้ถนัดมือไหนก็ถือไว้มือนั้น...จะใช้ก็ต่อเมื่อเอาไว้ปราบอย่างรุนแรง ปราบทุกชนิดเพราะพลองนี้มีอานุภาพเน้นในเรื่องปราบอย่างรุนแรง,ปราบภูติผีปีศาจ###ปราบแม้กระทั่งเรื่องร้ายและเหตุการณ์ทั้งหลายที่ผ่านเข้าชีวิต และที่ดีกว่านั้นคือพลองตีเทพนอกจากใช้สะกดพลังร้ายรอบๆตัวแล้วยังเป็นเทพศาสตราที่พ่ออาจารย์ท่านว่าสร้างมาให้เป็นคู่ปรับกับพลังวัฏจักรโดยเฉพาะ นั่นคือพลังของวิถีดวงดาวต่างๆที่จะผันเปลี่ยนเส้นทางดวงชะตาคนให้ตกต่ำหรือเรียกสั้นๆว่าพลังดาวพิฆาตซึ่งดาวพวกนี้จะแผ่พลังคอยกัดกินคอยพิฆาตชีวิตคน...พลองตีเทพนั้นจะสะกดพลังงานดาวพิฆาตพลังงานที่สร้างเรื่องร้ายแรงเหล่านี้ให้สยบลงได้(รวมไปถึงเรื่องร้ายที่เกิดจากวิญญาณ...พ่ออาจารย์ท่านว่าเจ้ากรรมนายเวรเทวดาก็นับ)

    นอกจากนี้ยังใช้ไล่ผีได้ทุกสัญชาติ จะไม่พกติดตัวก็ได้เพราะเขามีชีวิตยกเว้นมีเหตุหรือทำพิธีปราบวิญญาณร้ายนี่ท่านว่าต้องใช้ รวมไปถึงสถานที่ใดที่เราไปข้องเกี่ยวที่มันมีอาถรรพ์มากๆอย่างทางสามแพ่ง,ช่องลม,สุสาน,โบสถ์,วัด,โรงพยาบาลหากได้ต้องอาถรรพ์หรือพักอาศัยหันหน้าชนกับสถานที่เหล่านี้ย่อมเป็นเรื่องร้ายมากกว่าดี แต่พ่ออาจารย์ท่านว่าพลองตีเทพนั้นเอาอยู่เพราะท่านเคยลองให้คนที่บ้านอยู่ตรงข้ามร้านขายโรงศพเอาไปใช้ท่านว่าไม่ต้องไปติดสิงห์ติดคันฉ่องอะไรเลยมีแค่พลองตีเทพนี้หันหน้าต้านพลังร้ายเดี๋ยวนี้กลับเจริญกว่าเก่ารวยกว่าเมื่อก่อนแบบคาดไม่ถึง ***นอกจากนี้พลองตีเทพยังมีอำนาจลึกลับในการดึงดูดคนที่มีอำนาจสูงลงมาเป็นบริวารให้กับเราได้และยังทำให้เราเจริญก้าวหน้าในยศถาบรรดาศักดิ์และอำนาจวาสนาที่จะพุ่งทยานขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่นนั้นเสด็จพระใหญ่ท่านจึงเสกและกำชับพ่ออาจารย์ท่านเสมอว่าให้เก็บเอาไว้ให้ดีเพราะพลองนี้มีจิตวิญญาณและมีเจ้าของทุกเล่ม ก็ขนาดว่าแม้ดวงดาวที่ส่งผลร้ายกับมนุษย์ก่อให้เกิดความเดือดร้อนก็ยังสะกดดาวร้ายเหล่านั้นได้ ทีนี้อย่างอื่นก็ย่อมสามารถสะกดได้ทุกเรื่องที่เป็นเรื่องร้ายเช่นกัน

    ท่านว่าพลองตีเทพนี้ใครใช้เป็นจะมีผลดีมากเพราะนอกจากเราใช้เองแล้วยังสามารถใช้อธิษฐานช่วยเหลือมนุษย์หรือแผ่อานุภาพไปถึงภพภูมิต่างๆได้อย่างน่าอัศจรรย์ แม้อธิษฐานใช้คราวใดก็ทำได้เต็มกําลังทั้งรุนแรงและดุดันอย่างถึงที่สุด ใช้ได้ทั้งป้องกันและปราบปรามทุกสิ่งที่ไม่ดีรวมทั้งคุณไสยอวิชชาทุกชนิด เป็นการปราบด้วยธรรม,ปราบด้วยบารมีที่เสด็จพระใหญ่ท่านลงไว้ให้จึง เรียกว่าทั้งปราบและโปรดไปพร้อมๆกัน

    พ่ออาจารย์ท่านว่าพลองตีเทพนี้คนที่ใช้เป็นจะสามารถส่งจิตกำกับพลองออกไปได้ไกลมาก...แม้ตัวเราอยู่ตรงนี้จะกำหนดจิตไปที่ไหนก็ได้ท่านว่าตีได้ไกลถึงพรหมโลกทีเดียว ###ด้วยพลองนี้ท่านห้ามนำมากวัดแกว่งเล่นเด็ดขาด พ่ออาจารย์ท่านว่าเสด็จพระใหญ่ท่านกำชับไว้หนักหนาหากนำมากวัดแกว่งเมื่อใดโลกทิพย์รอบด้านจะสั่นสะเทือน พอเราแกว่งพลองเขาจะได้ยินเสียงดังเลื่อนลั่นเหมือนสายอสุนีบาตตกต้องโลกของเขา ท่านว่าเช่นนั้นจึงห้ามแกว่งเล่นหรือถือไปเล่นมั่วๆเพราะต่างภพต่างภูมิเขาจะเดือดร้อนกันได้ ให้เพียงอธิษฐานใช้ท่านว่าจะได้ใช้แต่อาราธนาแผ่กำลังฤทธิ์กวาดไปตามที่เราต้องการ

    พลองนี้ทรงพลังเป็นสัญลักษณ์ของผู้นำ,การปราบ,การอัญเชิญพลังสวรรค์ ###ท่านว่าพลองนี้เป็นเหตุแห่งความเจริญดึงคนให้ขึ้นมาเป็นผู้นำได้ ทั้งในการอธิษฐานจิต,สวดมนต์,ทำสมาธิ,หรือประกอบพิธีใดๆหากในมือเราถือพลองตีเทพไว้จะสามารถอัญเชิญพลังสวรรค์มาโปรดตัวเองได้ท่านจึงนับพลองนี้ว่าเป็นเทพศาสตราที่แรงมากปกติจะไม่เอาออกมาให้ใช้ ด้วยพลองนี้มีอำนาจมากแม้เอาไปใช้ทางทำมาหากินก็สามารถใช้เรียกคนให้มาชุมนุมได้ช่วยเรียกลูกค้าเข้ามาหาเราได้อย่างนี้ ด้วยเป็นสิ่งต้องห้ามไม่เหมาะที่จะเอาไปใช้เล่นๆเพราะสามารถใช้ทำอาถรรพ์ได้

    พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าใครมีศัตรูนี่ให้เอาพลองวางบนโต๊ะหันด้านคมของพลองออกไปหน้าบ้าน(ในกรณีศัตรูอยู่บ้านตรงข้าม) หรือจะเอาข้าวสารใส่ชามแล้วเอาพลองปักไว้ให้ด้านคมชี้ขึ้นข้างบนจุดธูปปักไปดอกนึง ระหว่างปักธูปให้นึกถึงหน้าของคนที่เป็นศัตรูของเรารอจนกว่าธูปจะไหม้หมดจากนั้นจึงน้าข้าวสารไปโยนให้ไก่กินศัตรูเราจะพินาศสิ้น
    - ถ้าเราเป็นฝ่ายถูกทำร้ายแต่เรามีพลองตีเทพรักษาอยู่ พลองจะสั่นเตือนเราตลอดเวลามีเหตุการณ์ร้ายแรงให้เรารู้ตัวล่วงหน้า
    - หากมีคนปล่อยของทำร้ายหรือมีคนรังแกเราท่านว่าพลองจะสั่น เราจะรู้สึกเหมือนโดนไฟดูดบางทีก็เหมือนสมองได้ยินเสียงฟ้าร้องคำรามทั้งๆที่บรรยากาศปกติ ท่านว่านั่นแหละสิ่งที่เขาทำร้ายเราต่างๆนั้นพลองเขาจะสนองให้ย้อนกลับไปหาคนทำ
    - เเม้มีคนสาปแช่งเรา พลองย่อมสนองกลับคำสาปนั้นให้ไปหาคนทำพร้อมทั้งคุ้มครองรักษาผู้เป็นเจ้าของไว้
    - ถ้าเป็นเราเองที่ตั้งใจจะทำร้ายคนอื่น ท่านว่าตอนทำนั้นหากพลองตีเทพสั่นให้หยุดทำเสีย เพราะฝ่ายนั้นเขามีบารมีมากพอที่จะต่อต้านได้ แล้วพลองเราสั่นแปลว่าฝ่ายตรงข้ามมีของกัน ให้เลิกทำโดยการถอนออก
    - พลองนี้สามารถใช้ป้องกันและแก้คุณไสยได้จะช่วยป้องกันให้บ้าน,จะช่วยป้องกันตัวคน,จะช่วยให้วิถีแห่งดวงดาวที่สร้างเหตุการณ์เรื่องร้ายไม่ส่งผลหาเรา
    - ใครที่โดนรังแกแต่ทำอะไรเขาไม่ได้เพราะอีกฝ่ายมีของแก้ มีครู,มีเทวดารักษาคุ้มครองท่านว่านี่แหละให้เงื้อพลองขึ้นแล้วนึกเอาว่าเราใช้พลองทุบหัวเขา ยิ่งเขาทำเรารังแกเรามากเท่าไหร่ตัวเองก็จะโดนกลับไปเท่านั้น ทั้งครูและเทวดาอีกฝ่ายหนึ่งนั้นก็ไม่สามารถจะพิทักษ์รักษาได้
    - ถ้าเราเป็นคนดีอยู่ในศีลในธรรมพลองจะชอบใจดั่งได้อยู่กับกัลยาณมิตร เขาจะช่วยเราเรื่องงานให้เจริญขึ้น อันนี้ก้ขึ้นอยุ๋กัยว่าเราทำมาหากินอะไร เขาจะเรียกให้คนมาอุดหนุนส่งเสริมไม่ขาดสาย


    *** พลองตีเทพนั้นเป็นของมีชีวิตสื่อตรงกับใจคนถือ ท่านว่าคาถาไม่ต้องใช้เพราะเป็นของสำเร็จอธิษฐานเอาได้เลย ขอให้ทำตัวดีๆแล้วชีวิตจะดีมาก,จะได้ดี,จะพุ่งแรงอย่างไร้สิ่งฉุดดึง ท่านว่าพลองนี้ทำยากเพราะเป็นงานแกะมือขนาดเล็กแบบนี้แถมพ่ออาจารย์ท่านต้องแกะเองทุกชิ้นแล้วก็เสกเองชนิดแกะไปเสกไปก่อนนจะเชิญเสด็จพระใหญ่มาทำให้ งานแกะแบบนี้ยิ่งเล็กก็ยิ่งทำยากและทำได้น้อยเพราะท่านไม่ได้จ้างใครเขามาแกะให้ท่านทำของท่านเองได้แค่ไหนเอาแค่นั้นต้องทำเองทุกขั้นตอน...ดังนั้นของจึงมีน้อยมากๆถ้าอยากได้กันก็จะออกให้บูชาเท่าที่มีซึ่งก็มีเท่าที่เห็น ใครมีวาสนาก็มาเอาของตัวเองไปใช้เพราะเขาเป็นของที่รอเจ้าของ รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ### ถ้าใครจะวางอาถรรพ์ในบ้านหรือจะแก้ไขสยบพลังดึงดูดความเจริญ ให้ปักพลองไว้ในข้าวสารวางไว้ทั้งสี่มุมของบ้านหรือสถานที่อยู่ของเรา ท่านว่าที่แห่งนั้นจะเป็นอาณาเขตของเรา เราอยู่ก็จะเจริญรุ่งเรืองเทพผีใครมาไม่ดีนี่เขาเข้าไม่ได้ทั้งสิ้น

    ร่วมทำบุญบูชา พลองประหารเทพ,ตีเทพ(ไพรีพิฆาต) บูชา 900 บาท

    61132169-2374452499508314-9132590386861047808-n.jpg 60788776-2205468286430028-4399255518628020224-n.jpg
    60895626-389563064978345-5256746104346640384-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤษภาคม 2019
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    แจ้งการส่งEMS
    พี่สุรศักดิ์ ED 8156 0155 5 TH

    พี่ธนากร ED 8156 0156 4 TH

    พี่ศิระ ED 8156 0157 8 TH

    พี่นฤชา ED 8156 0158 1 TH
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    เห็นคำถามเลยยกมาพูดไว้ พลองตีเทพท่านว่าใช้ปล่อยไปปกป้องตัวเราได้เหมือนวัวและควายธนู แต่ว่าไม่ต้องเลี้ยงเพราะเป็นอาวุธ
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    ช่วงนี้มีคนถามหาพญางั่งนั่งแพะซึ่งเป็นของเก่าที่หมดไปนานแล้วมาเยอะมาก ผมยอมรับเลยว่ารายการนี้คลาสสิคมากแล้วก็เป็นที่ถามถึงมาตลอดแต่ก็หมดไปนานมากแล้ว รายการนี้ไม่มีแล้วนะครับ
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    แจ้งการส่งems
    พี่สุทธิธรรม ED 8156 1380 6 TH

    พี่แมน ED 8156 1381 0 TH

    พี่พรเทพ ED 8156 1382 3 TH

    พี่ศิระ ED 8156 1383 7 TH
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    - วิชาลงนิ้วเพชรพระอิศวร

    ...ในอดีตนั้น พ่ออาจารย์ท่านเคยลงทำไม้ครูฝังไว้ในพระยาธรรมิกราชจนเป็นที่กล่าวขวัญกันมามากแล้ว
    ด้วยไม้ครู ท่านว่าสร้างและทำยากมาก วิชานี้เป็นวิชาของหลวงปู่ภู วัดอินทร์ มีอาถรรพ์วิชาแรงกล้ายิ่งนักดุจเทพศาสตราวุธ นอกจากนั้นไม้ครูก็มีความหมายตรงตัวคือไม้ของครู ไม้นี้จะดึงให้ครูบาอาจารย์มาปกปักรักษาเจ้า พ่ออาจารย์ท่านว่าท่านต้องนั่งแกะไม้ครูนี้จากไม้อาถรรพ์ที่ครูมานิมิตรให้ไปเอา และยังลงพระนามทำอาถรรพ์เพิ่ม ยัติใส่เข้าไปทั้งสองด้านไม่ว่าต้นว่าปลาย เพื่อให้สำเร็จเป็นไม้ครูนิ้วชี้เพชรพระอิศวร

    ซึ่งจะมีอิทธิคุณต้นชี้ตายปลายชี้เป็น ท่านว่าเมื่อฝังลงไปแล้วเวลาจะใช้ก็ให้ตั้งจิตดีๆระลึกถึงครูสมเด็จโตและหลวงปู่ภูเป็นที่สุด แต่อย่าเอาไปใช้ผิดวัตถุประสงค์เด็ดขาด เพียงพกไว้ก็เป็นสิริมงคลมากพอแล้ว ภูติผีเทวดาเค้าจะขยาดไม่กล้ารังแกเราได้เลย ไม้ครูนี้อยู่ที่ไหนใครก็เกรงกลัวทั้งนั้นทำอะไรก็ง่ายดายไปหมด เก็บเอาไว้ไปชี้ตัวเอง ชี้ทุกวันอธิษฐานในสิ่งที่ดีงามระหว่างชี้ปลายไม้เข้าหาตัว ให้ดี ให้สำเร็จ ให้เป็นเลิศกว่าคนอื่นหมื่นแสน

    อย่าเอาไปใช้รังแกคนอื่น ชี้ตายชี้ความพินาศให้กับคนอื่น ห้ามเอาไปเคาะพระเคาะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ศาลเจ้าศาลพระภูมิเด็ดขาด พ่ออาจารย์ท่านว่าจะเป็นการรบกวนท่านเหล่านั้น ถ้าเป็นเจ้าที่เจ้าทางก็ถึงกับอยู่ไม่ได้เลยทีเดียว ท่านว่าฝังไว้อีกนัยน์หนึ่งก็เพราะเป็นสื่อระหว่างศิษย์กับครู เราอธิษฐานไว้ ใครได้ไปก็เหมือนเป็นศิษย์สมเด็จพระยาธรรมิกราชท่านแล้ว มีไม้ครูนี้เชื่อมจิตเชื่อมใจ เป็นอาญาสิทธิ์ของครูที่จะช่วยเหลือปกปักรักษาเจ้าไม่เกรงเทวดาฟ้าดินที่ไหนทั้งนั้น ท่านว่าไม้ครูของหลวงปู่ภูนั้นหาของแท้ยากมาก ท่านจะทำไว้ให้เพียงหนเดียว ใช้แทนกันได้


    ...นี่คือวิชานิ้วเพชรพระอิศวรที่ครั้งหนึ่งพ่ออจารย์ท่านเคยลงทำไม้ครูไว้ ที่ยกมาพูดถึงหนนี้อันที่จริงไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันเลยหากแต่เป็นวิชาเกี่ยวกับดัชนีเหมือนกัน เพราะเป็นวิชาที่ใช้ในการชี้...เหมือนกันก็เลยยกเรื่องนิ้วเพชรพระอิศวรมาคุยเกริ่นนำไว้ก่อนคร่าวๆ จะเป็นอะไรนั้นต้องติดตามกันเอารับรองว่าน่าอัศจรรย์กว่าวิชานิ้วเพชรแน่นอน

    0a-Lord-Rama-and-Lord-Shiva.jpg
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    ปกตินั้นตะกรุดแค่ท่านจารก็นับว่าขลังสุดๆแล้ว แต่หนนี้ตะกรุดนั้น....ท่านต้องเพียรนั่งเข้าผงยันต์... เข้าผงยา... เข้าผงว่าน..ต่างๆ กว่าจะสำเร็จตรงตามที่ครูท่านสั่งเพราะกว่าจะได้ผงแต่ละชิดทั้งการลบยันต์,การทำยา,การหาว่านนั้นไม่ง่ายเลย ถือว่าเป็นยอดตะกรุดที่เป็นเอกลักษณ์ทางพุทธคุณสุดๆจริงๆ พรุ่งนี้ติดตามกันดีๆ
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    แจ้งการส่งems
    พี่สุรศักดิ์ ED 8156 2380 3 TH

    พี่ธีรนนท์ ED 8156 2381 7 TH

    พี่ธนากร ED 8156 2382 5 TH
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    พรุ่งนี้จะลงตะกรุดตัวครูชนิดหนึ่งของพ่ออาจารย์ ....ที่ท่านเรียกว่าตะกรุดวัฏจักรย่อย ###อะไรคือวัฏจักรย่อยและมันสำคัญขนาดไหนติดตามกันดีๆนะครับ ของมีน้อยไม่พอนับด้วยนิ้วมือจริงๆ
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดตัวครูดัชนีปฐมภูมิดับย่อยวัฏจักร(คลายปมคลี่พันธนาการตัดการจองจำ)

    *** ในมหาวัฏนั้นย่อมมีวัฏจักรย่อยประกอบรวมกันอยู่มากมาย

    พ่ออาจารย์ท่านว่าในห้วงเวลาหนึ่งที่พวกเราลงมาเกิดกันนี้ มันเป็นเพียงเวลาสั้นๆของเทพ,พรหมเท่านั้น อย่างที่เราทราบกันดีว่าในภพที่เราอยู่นั้นจะมีภพภูมิทั้งหลายซ้อนทับกันและหมุนวนวัฏจักรดำเนินท่วงทำนองของการเกิด,ดับไปด้วยกัน หากแต่ต่างกันที่ข้อกำหนดของเวลาเท่านั้น ด้วยเราท่องเที่ยวไปในอาการที่เป็นวัฏฏะ คือหมุนวนอยู่ในการเวียนว่ายตายเกิดหมุนวนอยู่เช่นนั้นตราบเท่าที่ยังตัดกิเลส,กรรม,วิบากไม่ได้ ดังนั้นเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นกับแต่ละคนก็ดำเนินอยู่บนพื้นฐานของเวลาที่ไหลไปในวัฏจักรเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์หรือกิจกรรมใดๆก็ดีทั้งที่เราอยากให้เกิดหรือไม่อยากให้เกิดก็ดี,ที่เราพอใจหรือไม่พอใจก็ดี,จะเป็นสุขหรือเป็นทุกข์,เป็นสิ่งที่เราต้องการปรารถนาหรือไม่ เมื่อมีการเริ่มต้นก็ต้องมีจุดจบในตัวเองและในบางทีกระแสเวลาอาจจะดึงหมุนเข้าไปสู่จุดเริ่มต้นนั้นอีก พ่ออาจารย์ท่านเรียกเหตุการณ์เหล่านี้ว่าวัฏจักรย่อยที่จะกระตุ้นเร่งเร้าให้มหาวัฏจักรใหญ่เกิดการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะช้าจะเร็วก็ตาม

    เช่นนั้นชีวิตเล็กๆของเราย่อมตกอยู่ในวงจรที่ซับซ้อนเหล่านั้น เวลาเธอมีทุกข์หรือเหตุการณ์ไม่พึงใจไม่พึงปรารถนาเรื่องเหล่านั้นมันก็ยังเกิดซ้ำๆวนเวียนไปไม่รู้จบบางคนเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ยังเกิดขึ้นอีกทำให้การใช้ชีวิตนั้นยากเย็นเต็มทีจะพิจารณาสิ่งใดหนอก็เจอแต่เรื่องลำบากใจ จะแก้ไขสิ่งใดก็อึดอัดเต็มทน ###แล้วจะทำอย่างไรล่ะจึงจะสามารถตัดวงจรแห่งสังสารวัฏได้แม้จะเป็นการตัดช่องน้อยแต่พอตัว พอให้รอดให้ได้ลืมตาได้หายใจกันบ้างก็ยังดี

    ครานี้พ่ออาจารย์ท่านจึงได้นำตะกรุดพิเศษที่ทำไว้ออกมา ท่านว่าวิชานี้ใช้เพื่อเปิดวงจรย่อยให้กับตัวเอง ให้เราได้มีโอกาสกำหนดและลิขิตวัฏจักรที่เราจะเดินและเปลี่ยนมันด้วยตัวเองเพราะปกตินั้นมหาวัฏย่อมผูกพันธ์และโดนจองจำภายใต้เงื่อนไขพันธะของเวลา ซ้ำยังประกอบด้วยภพภูมิต่างๆอันจะมาซ้อนทับเหลื่อมล้ำกันมากมายทำให้ปัจจัยของเวลานั้นใหญ่และทรงพลังมากขึ้นไปอีกเพราะความแตกต่างของระบบเวลาในวัฏจักรย่อยต่างๆนั้นไม่ได้เสมอกันเลย เรื่องเลวร้ายต่างๆเมื่อเกิดขึ้นมันจึงดำเนินไปตามระยะเวลาของมันตั้งแต่ต้นจนจบจะเห็นว่าเราเป็นเพียงผู้อยู่ในเงื่อนไขของกาลเวลา ไม่สามารถเอาตัวรอดหรือตัดผ่านวงจรที่เกิดขึ้นออกมาได้ ทีนี้ตามหลักไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ และปัญญาที่ประกอบด้วยโลกุตตรมรรคเก้าย่อมสามารถตัดวงจรของสังสารวัฏได้ส่วนความสัมพันธ์และการตัดวงจรสังสารวัฏตามหลักอริยสัจสี่คือทุกข์,สมุทัย,นิโรธ และมรรคนั้นต้องดูที่กรรม เพราะมีกิเลสเป็นสาเหตุของการเกิดกรรมและกรรมเป็นสาเหตุให้เกิดวิบากวนเวียนอยู่ในสังสารวัฏจนกว่าจะบรรลุพระนิพพานอันเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดของชีวิต

    ด้วยการบรรลุนั้นย่อมไม่ง่ายเลยหากบารมียังไม่ถึงพร้อม ชนทั้งหลายก็จะขวนขวายในกิจและหน้าที่ดำเนินชีวิตบนภาระของตนในแต่ละวันให้ผ่านไปอย่างดีที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาโดยทั่วไปจึงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมหาวัฏจักรได้นอกจากจะทำด้วยวิปัสสนาญาณหรือ..เสด็จพระใหญ่ท่านใช้อำนาจแห่งโลกุตตรเพื่อตัดวงจรสังสารวัฏอันจะมีผลสืบทอดไปถึงกรรมวิบากที่เราวนเวียนประสบอยู่ พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าตัดวงจรสังสารวัฏปุ๊ปไอ้ตัวกรรมวิบากที่เราเจออยู่นี้มันก็หยุดทันทีเลยนะไม่ได้ไหลไปตามกระแสเวลาของมันอีก มันจะดับ,จะหยุดและตัวเราจะได้ประโยชน์นั่นก็คือการพ้นทุกข์ แม้ไม่ใช้พ้นจากกองกิเลสบรรลุมหานฤพานแต่ก็ยังเป็นการออกจากทุกข์และเริ่มวัฏจักรย่อยที่เราเป็นผู้สร้างผู้ดำเนินด้วยตัวเราเองได้ จะได้เริ่มได้ทำให้มันดีที่สุดดั่งที่เราตั้งใจคิด ตั้งใจจะกระทำนั่นเอง สูตรที่นำไปสู่การหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวงและสามารถตัดวงจรแห่งสังสารวัฏคือกิเลส,กรรม,วิบากได้นั้นจึงเป็นเรื่องที่คนทั่วไปทำไม่ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าเสด็จพระใหญ่ท่านไม่เมตตาจริงๆอันนี้ยังนับว่ายาก แม้องค์พระทั้งหลายท่านก็ยังละวางเอาไว้ด้วยเรื่องแห่งสังสารวัฏในมหาวัฏจักรนั้นย่อมไม่ใช่กิจธุระของท่าน

    อันปกติในโลกมนุษย์นี้ส่วนมากผู้ที่มาเกิดก็จำแนกออกได้ด้วยสองหลักใหญ่ๆนั่นก็คือ ผุดขึ้นมาหรือเกิดลงมา แม้ค่าของความเป็นคนจะมีอยู่เท่ากันแต่อย่าลืมวิสัยอันเป็นของติดตัวหรือของเก่าของตนเอง คนที่ผุดขึ้นมานั้นย่อมแน่นอนว่าเคยก่อกรรมทำเข็ญมามากไม่ได้คำนึงถึงบุญบาปใช้ชีวิตผูกติดอยู่แต่กับอกุศล พอถึงกาลกิริยาย่อมหนีไม่พ้นอบายภูมิทั้งสี่ นี่ตรงนี้พอกรรมหมดกำลังบุญก็จะเห็นจะส่งผลจึงได้มาเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้ง แต่บาปกรรมที่ติดตัวอยู่ก็ตามมาติดๆให้เกิดมาแล้วต้องได้รับทุกข์สาหัสทั้งหลาย บางคนเกิดมาพิการเกิดมาไม่สมประกอบหรือมีร่างกายอัปลักษณ์ ทั้งหลายเหล่านี้ล้วนเป็นผลติดตามตัวเองทั้งสิ้นในขณะที่บางคนเกิดมาแล้วเจอแต่ความสุขอันปราณีตนั่นก็เพราะบุญเก่าเขาตามสนอง ตามปรุงแต่งให้ชีวิตเขาดำเนินไปอย่างปรกติสุข ให้สังเกตุได้เลยว่าเวลาเรามีทุกข์หรือมีปัญหานั้นไม่ใช่เพียงตัวเราคนเดียวเสียเมื่อไหร่ที่ต้องเผชิญกับปัญหา หากแต่คนรอบข้างก็ยังโดนไปด้วยจะเป็นในแง่ของภาระหรือร่วมกันแก้ก็ดี นั่นก็เพราะทุกคนมีวงจรกรรมที่ผูกมาร่วมกันตั้งแต่ในระดับตัวตนจนโตไปถึงในระดับประเทศนั่นทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านอยากเห็นชีวิตคนโดยรวมนั้นมีสุขแบบปรกติ ไม่ต้องจมกองทุกข์หรือหาทางออกให้พ้นจากบ่วงกรรมวิบากไม่ได้ ด้วยศิษย์ทั้งหลายนั้นที่เป็นคนดีและตั้งใจทำความดีจริงๆก็มีอยู่หากแต่ชีวิตของเขาไม่ได้ดีเพราะไม่มีของเก่าหนุนส่ง ทำให้ไม่มีกำลังใจที่จะประกอบกรรมดีกันต่อไป พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ขอเมตตาเสด็จพระใหญ่ให้ท่านช่วย ท่านก็ให้พ่ออาจารย์ลงตะกรุดวัฏจักรย่อยนี่เสียซักครั้งเพื่อเปิดโอกาส,เปิดวงจรกาลเวลาและวัฏจักรสำหรับคนใช้จะได้คลายปมคลี่พันธนาการตัดการจองจำของตัวเอง

    เพื่อจะเริ่มสร้างชีวิตที่ดีให้เกิดสุขอันปราณีตให้ชนนั้นได้เสวยสมบัติอันประเสริฐสุดท่านว่าตะกรุดนี้มีอานุภาพมากดุจว่านั่นทีเดียว เสด็จพระใหญ่ท่านว่าตะกรุดวัฏจักรย่อยนี้จะดำเนินลีลาแห่งภพให้ชีวิตเราสูงขึ้นดุจพระเจ้าจักรพรรดิที่เสวยสมบัติไม่บกพร่องหรือดุจองค์อมรินทร์จอมสวรรค์ที่มีทิพยสมบัติอันรุ่งเรืองเหนือทวยเทพทั้งหลายทีความสุขความสำราญดั่งรูปพรหมเช่นนั้น แต่ทว่าให้พึงจดจำกันให้ดีว่าสรรพสิ่งใดๆก็ตามเมื่อรุ่งเจริญไปแล้วย่อมไม่ตั้งอยู่เช่นนั้นถาวรณ์ ที่จะเที่ยงแท้ยั่งยืนเรื่อยไปตลอดกาลนั้นเป็นไม่มี สิ่งที่จะดีที่สุดเที่ยงแท้ที่สุดนั่นก็คือตนพึ่งตน ตะกรุดนี้เป็นเพียงตะกรุดที่จะเปิดทาง เปิดช่องช่วงชิงโอกาสและความสุขสบายมาให้เรา เมื่อได้โอกาสนั้นตัวเราเองก็ต้องประกอบกรรมดีหมั่นสร้างกุศลด้วยไม่ใช่ใช้ชีวิตเละเทะเหลวไหลอย่างนี้ไม่ต้องเอาไปใช้เลย พ่ออาจารย์ท่านว่าเพื่อจะได้เกิดประโยชน์ใหญ่แก่ตนได้อาศัยสรรพสิ่งทั้งหลายในโลกเป็นเครื่องอาศัยเป็นเครื่องมือสำหรับสร้างบารมี เช่นนั้นคนใช้ตะกรุดนี้จึงถือคติที่ว่าสมบัติทั้งหลายนั้นเป็นของกลาง,ของโลก เป็นเพียงเครื่องมือที่จะช่วยให้เราสร้างบุญกุศลได้สะดวกสบายมากขึ้นเช่นนั้น ท่านว่าไอ้ความสะดวกสบายนี้อย่าไปยึดติดมันเป็นแก่นสารทีเดียวให้จำไว้ว่าเรามีภาระที่ต้องพึ่งตัวเองอยู่ เราต้องแสวงหาสิ่งที่เป็นสาระของชีวิตเข้ามาพอกพูนขัดเกลาสติปัญญาของตัวเองอยู่เรื่อยๆ

    เพราะการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสารเป็นสิ่งที่น่ากลัวเป็นสิ่งไม่เที่ยงแท้แน่นอนและไม่ปลอดภัยเลย ทุกชีวิตต้องท่องเที่ยวไปเกิดในสุคติบ้าง,ทุคติบ้างตามกรรมที่เผลอกระทำกันแต่งแต้มเข้าไปจะทุกข์ก็ดีจะสุขก็ดีสลับกันไปอยู่เช่นนี้ ดังนั้นการที่เสด็จพระใหญ่ท่านจะช่วยให้พ้นจากภัยในวัฏสงสาร จะดับย่อยวัฏจักรเพื่อตัดการจองจำให้กับเรานั้นตัวเราเองก็อย่าลืมจุดหมายที่แท้จริงในการเกิดเป็นมนุษย์ด้วย ว่าเรามีหน้าที่อย่างไรจะต้องไปให้ถึงฝั่งพระนิพพานอันเป็นเอกันตบรมสุขได้อย่างไร จะสะสมบารมีให้เต็มได้อย่างไรสิ่งเหล่านี้ล้วนต้องทำด้วยตัวเองทั้งสิ้น อย่าได้ประมาทในการสั่งสมบุญบารมี ทั้งทาน ศีล ภาวนานั้นก็อย่าละเลย เพราะที่ไปของสรรพสัตว์ทั้งหลายย่อมมีคติไม่แน่นอน บ้างก็ไปนรก บ้างก็กำเนิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน บ้างก็เกิดในเปรตวิสัยคือคติของพวกเปรตและอสุรกาย บ้างก็ไปเกิดเป็นมนุษย์ และคติที่สูงไปกว่านั้นคือเหล่าเทวดาซึ่งหมายรวมเอาทั้งที่เป็นพรหมและอรูปพรหม ที่ไปของสัตว์ที่ยังอยู่ในวัฏฏะมีเพียงเท่านี้ไม่ยิ่งไปกว่านี้ท่านจึงปรารถนาจะให้มีที่ไปที่ดีและสมบูรณ์ไม่ต้องพัวพันจองจำอยู่ในทุกขเวทนานับชาติไม้ถ้วน

    นี่คือโอกาส ...พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าเราไม่ทำไว้แล้วใครจะทำ เพราะสรรพสัตว์ทั้งหลายที่ยังเวียนวนอยู่ในสังสารวัฏนี้ดุจเหมือนถูกขังอยู่ในคุกขนาดใหญ่ ท่านอุปมาว่าเป็นเหมือนเชลยศึกที่ถูกจองจำ เป็นประดุจโคงานที่เขาเทียมไว้หรือเป็นดุจวัวที่ผูกหลักเอาไว้ เช่นนั้นตะกรุดนี้จึงเป็นเครื่องดับย่อยวัฏจักรและตัดการจองจำทั้งหลายที่พันธนาการจิตวิญญาณของเขาอยู่เพื่อเปิดให้เขาได้ลืมตาอ้าปากได้สร้างวัฏจักของตนเองอันเปรียบตัวเขาในโลกนั้นเป็นดั่งพระจักรพรรดิ,ดั่งองค์อมรินทร์ที่บริบูรณ์ด้วยความสุขเช่นนั้น ท่านว่านี่จึงเป็นโอกาสเป็นทางให้ได้สร้างบารมีกันสืบไป หากใครจะกินจะใช้แต่เพียงเท่านี้ชาตินี้ก็ช่างเขา เพราะภพชาติหนึ่งของมนุษย์นี้ก็เปรียบเสมือนการหลับของเทวดาเสียตื่นนึงพอตื่นมาก็เริ่มต้นกันใหม่ ถ้าเขาฉวยโอกาสพอได้ดีมีกำลังทรัพย์มากรู้จักทำบุญกับพระศาสนาหมั่นอบรมจิตใจบ่มเพาะปัญญาตนเองเขาก็จะมีคติมีที่ไปที่ดีขึ้นสูงขึ้นนับชาติไม่รู้จบ แต่ถ้าเขาได้โอกาสแล้วเขายังหลงระเริงเช่นนั้นก็ย่อมไม่มีโอกาสใดๆอีก ท่านว่าช่วยกันได้แค่นี้ ทุกอย่างในสังสารวัฏนั้นใช่ว่าจะประคองไปมอบให้ถึงมือกันได้

    ตะกรุดนี้ท่านว่าสร้างยากมากอย่างแท้จริง เสด็จพระใหญ่ท่านให้สงวนวิธีทำเอาไว้ทุกอย่าง พ่ออาจารย์ท่านว่าแค่พระยันต์ด้านในก็ไม่มีภาษาใดๆที่มนุษย์ยุคไหนจะเข้าใจได้แล้วเพราะเป็นอักขระวิธีปฐมแรกเริ่มของพ่อพระพุทธท่านโดยเฉพาะ ทั้งเวลาทำท่านก็ต้องนำตะกรุดมาวัดเทียบกับนิ้วชี้(ดัชนีของท่านเอง) เป็นคติว่าจะได้ชี้สั่งคนอื่นได้ตลอดเวลา ทั้งยังมีขั้นตอนที่ปราณีตอย่างการแช่น้ำว่าน คลุกผงยันต์ เข้ามวลสารศักดิ์สิทธิ์ อาบว่านยา ท่านว่าทุกอย่างทำได้ยากมากในสิ่งที่เสด็จพระใหญ่ท่านสั่งให้หาแต่ละอย่าง ยังดีที่เราพอมีเก็บไว้อยู่บ้างจึงทำได้ ถ้าสั่งให้หาเดี๋ยวนี้และทำเดี๋ยวนี้เอาว่าถอดใจได้เลย ว่านแต่ละอย่างยาแต่ละตัวนั้นล้วนแต่ครูในโลกทิพย์ท่านเอาออกมาให้ทั้งสิ้นต้องเก็บมาทั้งชีวิตเท่านั้น

    ตะกรุดนี้สำคัญมากเพราะท่านทำเทียบกับดัชนี ท่านว่าแม้ตอนเสกเสด็จพระใหญ่ท่านก็นำตะกรุดแต่ละดอกเทียบกับดัชนีของพระองค์ท่านทีละดอกทั้งนั้น เช่นนั้นตะกรุดนี้นอกจากมีคุณวิเศษดังกล่าวข้างต้นแล้วยังใช้ชี้ธรรม,ชี้ทางสว่างได้อีกด้วย ตะกรุดนี้เป็นสัญลักษณ์บอกถึงการสิ้นสุดของการเดินทาง,บอกถึงจุดหมาย,ถึงความสำเร็จ ในวงจรของเวลานั้นท่านว่าเมื่อแรกเริ่มจะเหนื่อยต่อเมื่อสิ้นสุดเท่านั้นจึงจะพอหายใจได้สบายกันบ้าง เช่นกันตะกรุดนี้ก็เปรียบดั่งจุดสิ้นสุดคือจุดที่เราสบายที่สุดนั่นเอง ด้วยเสด็จพระใหญ่ท่านเทียบตะกรุดกับดัชนีให้ทีละดอก เช่นนั้นจึงใช้ชี้ได้สารพัด ท่านว่าถ้าใช้ชี้ให้พรตัวเองก็จะให้ทรัพย์ได้เร็วกว่าทุกสิ่ง ชี้ให้สำเร็จก็สำเร็จทุกประการ ชี้เพื่อขอพรใดๆก็ให้พรได้ทันใจทันคิด ชี้ไปที่ไหนที่นั่นจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง(จริงๆแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าเสด็จพระใหญ่ท่านทำให้ด้วยประสงค์จะชี้ให้พ้นทุกข์,พ้นความขัดข้อง) แต่เราคนใช้จะเอาไปอธิษฐานใช้อะไรมันก็อีกเรื่องหนึ่งเพราะว่าไอ้ตัวทุกข์นั้นมันก็ครอบคลุมวิบากกรรมทุกอย่างอยู่แล้ว เรียกว่ามีผลสืบทอดกันไปเป็นช่วงๆจะกล่าวว่านี่เอาไปชี้ทีก็ลดวิบากกรรมไปได้อย่างหนึ่งนั้นก็ได้ ะชี้ให้รวย,ชี้ให้เลื่อนตำแหน่ง,ชี้ให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ,ชี้ให้หายจากโรคเวรโรคกรรมก็ได้ ท่านว่ามีอานุภาพดุจเสด็จพระใหญ่ท่านชี้ท่านให้พรประสิทธิ์กับเราด้วยตัวท่านเอง

    อันคำว่า"พร"นี้ เมื่อให้แล้วจะถอนไม่ได้มันเป็นบาปเพราะเทพ,พรหมและองค์พระนั้นท่านจะถือคติว่าเมื่อเขียนด้วยมือแล้วจะลบด้วยเท้าไม่ได้ ดั่งพ่อแม่ที่ให้พรลูกให้มีความเจริญรุ่งเรือง แล้วพอโมโหจะถอนพรก็จะถอนไม่ได้ด้วยจะเป็นบาปอย่างร้ายแรง เช่นนั้นทั้งองค์พระ,เทพ,พรหมทั้งหลายก็ดีเมื่อให้พรแก่ผู้ใดแล้วก็ย่อมประสิทธิอยู่เช่นนั้นจะถอดจะถอนไม่ได้เลย ดั่งตะกรุดนี้ท่านท่านทำไว้เพื่อให้ผู้ใช้ได้ชี้ตัวเอง ได้ให้พรตัวเอง ท่านว่าคิดเอา ปรารถนาเอาแต่สิ่งที่ดีที่เป็นสิริมงคลกับตัวเองอย่าไปขออะไรอันน่ารังเกียจ จะมีผลดุจเสด็จพระใหญ่ท่านให้พรกระทำอนุโมทนาให้เราด้วยตัวท่านเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าหมั่นชี้หมั่นให้พรแก่ตัวเองไปเรื่อยๆติดอะไรเจออะไรคับข้องใจก้ชี้เข้าไป ชี้ตัวเองก็ให้พรตัวเอง ชี้งาน ชี้กิจการก็เปิดทางเปิดอุปสรรคชี้ทางสว่างให้แก่ชีวิตตัวเองอยู่เช่นนั้น ท่านว่าชี้ได้เรื่อยไปทั้งตะกรุดยังจะดับย่อยวัฏจักรทำให้เราเป็นคนใหม่ในแบบคนเก่าที่มีชีวิตสุขได้มากขึ้นและสบายได้มากกว่าใคร ดุจเราอยู่ในโลกในวัฏจักรอันมีเราเป็นใหญ่แต่ผู้เดียวเช่นนั้น

    นอกจากนี้ด้วยอานุภาพของดัชนีนั้นยังถือเป็นมหาปราบชั้นสูง เหนือเทพ พรหม ยมยักษ์ทั้งปวง เพียงอาราธนาติดตัวไปศัตรูหมู่มารทั้งหลายก็พ่ายแพ้แก่บารมี จะมีชัยยะ,มีเดช,มีศรี,มีตบะเดชะ และเป็นมหาอำนาจแก่ผู้พบเห็น ถ้าถึงคราวจำเป็นเจอหมู่มารรุกรานก็ให้อธิษฐานตะกรุดเป็นดั่งนิ้วเพชรที่ชี้ไปต้องหมู่มารใดๆย่อมพินาศสูญสิ้น ท่านว่าอย่าชี้ไปเรื่อยเพราะเพียงพกไว้ก็เจริญก้าวหน้ามากพอดูอยู่แล้ว ทั้งจะปราบศัตรู,ปราบอุปสรรคที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้าให้กับเรา,ทั้งจะสะกดสิ่งไม่ดี,สะกดเหตุเสื่อมทั้งปวง

    คาถาบูชา
    พ่ออาจารย์ท่านว่าให้ยกตะกรุดไหว้เหนือหัวนึกถึงเสด็จพระใหญ่เ้พียงเท่านั้นก็ขลังกว่าว่าคาถาพันบท เพราะเสด็จพระใหญ่ท่านกำกับผู้ใช้เอาไว้ว่าเวลาใช้ "ให้นึกถึงเรา"

    ### ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าลงยากและทำยากที่สุด ยิ่งต้องเข้าผง เข้ามวลสาร เข้าว่านยา อาบน้ำว่านกว่าจะสำเร็จแต่ละสูตรนั้นไม่ง่ายเลย ต้องใจเย็นๆรอจนแห้งแล้วค่อยๆทำทีละขั้น ท่านจึงทำได้ทั้งหมดหกดอกเท่านั้นและท่านใช้อาราธนาไว้จี้หรือชี้ให้พรตัวเองเป็นตะกรุดประจำตัวของท่านดอกหนึ่ง จึงมีให้บูชาเพียงห้าดอก ท่านว่าแต่ก่อนเราตั้งราคาไว้นับแสน เพราะไม่คิดว่าจะทำแบบนี้ได้อีกเมื่อไหร่ ไม่รู้ครูท่านจะยอมทำให้อีกชาติไหน แต่ปัจจุบันนั้นเสด็จพระใหญ่ท่านกระตุ้นให้เอาออกไปให้คนที่เขาตกอยู่ในสภาวะการณ์อันเป็นทุกข์ตรงกับอิทธิคุณตะกรุดนี้ได้ใช้ ท่านว่าดุจรอเวลาสุกงอมจนได้ที่แล้วมีเจ้าของครบแล้วท่านจึงให้เอาออกเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านจึงให้เอาออกมาในราคาปกติ(พูดได้เลยว่าถ้าไม่ถึงเวลามีเงินก็ยังเอายากจริงๆ) ตะกรุดนี้ให้บูชาเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนสร้างเมรุเผาศพที่ชำรุดตามวัดทุรกันดารสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดตัวครูดัชนีปฐมภูมิดับย่อยวัฏจักร(คลายปมคลี่พันธนาการตัดการจองจำ) บูชา 4,000 บาท

    61298006-2357390854336520-2148184397684146176-n.jpg
    60871327-288786288672947-1367080389440438272-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤษภาคม 2019
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    ตะกรุดตัวครูดัชนีปฐมภูมิ...ดอกนี้ถือว่าเป็นตะกรุดประสบการณ์(เพราะประสบการณ์ของพ่ออาจารย์ที่ท่านใช้เองท่านว่าขอเป็นต้องได้ ท่านจึงใช้ตะกรุดของท่านขอพรของท่านเป็นประจำ)

    *** แอบบอกไว้นะครับ ว่าไม่ดีจริงท่านไม่ใช้ขอพรเองแน่นอน
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้เดี๋ยวจะทยอยตอบคำถามให้เรื่อยๆนะครับ จะฝากอะไรก็ PM ไว้เลย
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    แจ้งการส่ง EMS
    พี่สุทธิธรรม ED 8156 3575 8 TH

    พี่วีรพล ED 8156 3576 1 TH

    *** ยอดใหม่ที่แจ้งโอนไว้เดี๋ยวพรุ่งนี้เริ่มส่งให้นะครับ
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    เหตุผลที่คนขยันสามารถสร้างโชคเองได้

    1. คุณจะไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่

    คนขยันหรือคนที่มุ่งมั่นจะสนุกทุกครั้งที่ได้เห็นตัวเองทำอะไรใหม่ๆ ได้สำเร็จ ..พวกเขาจะผลักดันตัวเองตลอดเวลาไปสู่คำตอบที่ดีกว่า,สถานที่ที่ดีกว่า,กลุ่มคน(สภาพแวดล้อม)ที่ดีกว่า หรือแม้แต่โอกาสที่ดีกว่า ..สิ่งที่คนภายนอกเห็นคือดูเหมือนว่าเขาโชคดีกว่า แต่เปล่าเลย!..

    “You won’t go anywhere standing still”

    2. ใจคุณจะโฟกัสไปในสิ่งที่ดีกว่าเสมอ

    ล้มเหลวหรอ?.. ก็เริ่มใหม่ซิ ทำอันใหม่ให้ดีกว่าซิ..

    นั่นคือสิ่งที่เราจะได้ยินจากปากคนขยันหรือคนที่มุ่งมั่น ไม่ใช่ว่าเขาไม่กลัวความล้มเหลวหรอกนะครับ เพียงแต่เขารู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ควรให้ความสนใจมากกว่า..

    "ท้อได้แต่ห้ามนาน เหนื่อยได้แต่ห้ามเลิก" ..อะไรคือสิ่งที่เราควรทำถัดไปหลังจากนี้เพื่อให้ชีวิตเดินเข้าใกล้เป้าหมายมากกว่า? -- คิด!..

    3. กล้าเผชิญหน้ากับความผิดพลาด

    ทัศนคติเกี่ยวกับความผิดพลาดคุณจะแตกต่างจากคนธรรมดาอย่างสิ้นเชิง .."ไม่กลัวที่จะทำพลาด เพราะอย่างน้อยก็ได้รู้ว่ามีอีกหนึ่งวิธีที่ใช้ไม่ได้ จะได้ไม่เสียเวลาอีก!"

    การที่คุณถลำลึกกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนโงหัวไม่ขึ้น มันเป็นอุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางไม่ให้คุณสำเร็จ และบางครั้งเหตุผลมันก็ง่ายมาก "ก็ทำมาตั้งเยอะแล้ว ทำๆ ต่อไปอีกหน่อยคงจะเจอสิ่งที่ถูกต้องเองแหละ"
    แมนๆ ไปเลย.. ก็มันผิดพลาดอ่ะ เดี่ยวเรารับผิดชอบเอง! แล้วเริ่มต้นใหม่กับสิ่งที่ดีกว่าเถอะ..

    “I haven’t failed. I have just found 10,000 ways that won’t work” – Thomas Edison

    4. ทำไมอ่ะ? ทำไมอ่ะ?

    คำถามนี้คุณจะได้ยินบ่อยมากจากปากคนขยันหรือคนที่มุ่งมั่นจริงๆ ..ก็แหงล่ะเขาคงไม่ทุ่มแรงและเวลาไปกับเรื่องที่ไม่มีเหตุผลหรอก จริงไหม?

    ก่อนที่จะเริ่มต้นลงมือทำอะไรจริงจัง ให้พิจารณาดูก่อนครับ "มันใช่สิ่งที่เราควรให้ความสนใจไหม?" .."มันจะช่วยให้เราเข้าใกล้เป้าหมายที่มีมากขึ้นหรือเปล่า?"

    ถ้าใช่!.. ก็ทำซะ แต่ถ้าไม่ใช่ก็หลีกเลี่ยงไป แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ก็ให้คนที่อยากทำหรือถนัดที่จะทำมากกว่าคุณเข้ามารับผิดชอบ เท่านั้นแหละครับ..

    5. เปิดโอกาสตัวเองได้ปล่อยของในทุกที่ที่มีโอกาส

    ต่อให้คุณเก่งมาจากไหน มีชื่อเสียงมาจากไหน แต่เมื่อคุณก้าวเข้ามาในอีกสถานที่หนึ่งซึ่งไม่มีใครรู้จักคุณเลย.. เราก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่งครับ

    เว้นเสียแต่ว่า.. คุณจะแสดงให้คนอื่นได้รับรู้!

    "โชคดีไม่ได้วิ่งเข้าหาประตูบานที่สวยที่สุด แต่เป็นประตูบานที่เปิดอยุ่ต่างหากล่ะ!"

    อยากได้โอกาสที่ดีหรอ?.. ก็ออกไปคว้ามันมาซิ!

    b475bf7c9427a179e31fda933bba992b.jpg
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ศิระ ED 8156 2558 8 TH

    พี่ภิญโญ ED 8156 2559 1 TH

    พี่พจน์ ED 8156 2560 5 TH
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    มีคนถามหาของหลักร้อยกันมาเยอะเพราะออกทีไรก็หมดไปทันที เดี๋ยวจะยกมาพูดคุยกันพรุ่งนี้อีกทีนะครับ
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,480
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    อะไรเอ่ย...เวลาเสกพ่ออจารย์ท่านต้องกางมุ้งครอบกลัวมันจะบินหนี วันนี้เดี๋ยวมาติดตามพูดคุยกันนะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...