ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดลงถมมหาสนองเป่าแล่นฟ้าคล้อยยอมตาม(บัญชาฟ้าสอพลอ) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 10 เมษายน 2015.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา มงคลเจริญทรัพย์ประสิทธิเวทย์มหาคุรุศุกรจารยะ(นางสุพรรณมัจฉา)


    ที่สุดแห่งฤทธิ์แรงครูในศาสตราพระเวทย์ อันจะช่วยดับร้อนผ่อนเย็นให้สำเร็จผลตรงตามจริตปรารถนา พ่ออาจารย์ท่านมีดำริว่า ในปัจจุบันนี้คนกำลังขาดความสุข แม้ในคนที่แสวงหาที่พึ่งทางใจทั้งหลาย บางพวกเขาก็ไม่ได้มีจิตตั้งมั่น ปราศจากสัมผัสพิเศษใดๆที่จะทำให้สื่อหรือเข้าถึงครูพระและครูเทพต่างๆได้ ท่านจึงได้สร้างคุรุผู้วิเศษที่มีตัวตนและสถานะหน้าที่พิเศษขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อเจริญศรัทธาและความเป็นศุภมงคลด้วยแรงครูจะได้ดลช่วยเหลือในกิจต่างๆของผู้ที่จริตเขานั้นเข้าถึงครูได้ยาก


    ด้วยพื้นฐานของความเป็นมนุษย์นั้น ยังต้องมีอารมณ์ ความต้องการ ความปรารถนา หรือจุดหมายการกระทำให้สำเร็จผลตรงตามจริตของหลายๆคนต่างกันไปในหลายๆเรื่อง หลายๆสถานการณ์ บางทีก็เป็นเรื่องยากในการอธิษฐานใช้เครื่องมงคล เพราะหลายๆคนนั้นรู้ว่าเรื่องที่ตัวเองอยากได้ อยากเอานั้น มันไม่ใช่เรื่องที่ถูกที่ควร แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นเรื่องชั่วช้าหรือผิดบาปในทีเดียว บางเรื่องก็เต็มไปด้วยกิเลส ตัณหา ความทะเยอทะยาน แต่ก็ไม่ทำ ไม่คิด ไม่ดำเนินการต่อไปให้ถึงที่สุดไม่ได้เพราะเหนือสิ่งอื่นใดเลยก็คือความจำเป็น จำเป็นต้องทำ ต้องได้ ต้องมีอย่างเสียมิได้เพราะความเป็นมนุษย์นั่นเอง

    หลายๆคนบอกว่าขอกับเครื่องมงคล ขอกับครูได้บางครั้งก็ละอาย ไม่กล้าขอไม่กล้าใช้หรือจะออกวาจาพึ่งท่าน เพราะสามัญสำนึกมันบอกอยู่ว่าไม่ใช่เรื่อง ไม่ใช่หน้าที่ ไม่คู่ควร ยิ่งครูพระครูเทพที่ดูสูงส่งด้วยแล้วบางกิจก็ไม่อยากขอบารมีท่านจริงๆ ด้วยเหตุผลประการต่างๆ จึงปรารถนาอย่างยิ่งที่จะมีสิ่งใดอันพอจะแก้วิตก หรือช่วยในเรื่องต่างๆที่มันเกี่ยวข้องกับปัญหา ความต้องการ ความอยากทั้งหลายที่มันไม่ค่อยจะถูกทำนองคลองธรรมนี้หรือไม่ จากตรงนี้หากพิจารณาในความเป็นมนุษย์แล้ว ขึ้นชื่อว่าคน และนิสัยคนเลยจริงๆ ตลอดชั่วทั้งชีวิตหนึ่งจะมีใครดีได้ทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์หรือเปล่า บางเรื่องถึงมันไม่ถูกต้อง เป็นความอยาก ความปรารถนา ความทะเยอทะยานทั้งหลาย แต่หากมันสำเร็จก็ไม่ใช่ว่าเราจะเลว ขึ้นชื่อว่าคนย่อมปรารถนาเพียงให้ตนมีชีวิตที่ดีขึ้น บางคนมีสติตื่นรู้เสียด้วยซ้ำ แต่ชะตากรรมมันก็ไม่ใช่เื่องที่จะเลี่ยงได้ ด้วยทุกคนมีครอบครัว มีภาระ และมีชีวิต ยังไม่ขาดหรือหมดสิ้นความปรารถนา ละแล้วซึ่งกิเลส วางแล้วซึ่งอารมณ์ทั้งหลาย เพราะแบบนี้ทุกคนจึงได้ชื่อว่าเป็นคนเป็นมนุษย์

    พ่ออาจารย์ท่านว่าหลายๆคนที่มีความในใจ มีความปรารถนาอันเกิดจากกิเลสตัณหาซึ่งเป็นสามัญปกติของอารมณ์มนุษย์นั้น บางครั้งการดำเนินชีวิตก็เจืออารมณ์ด้วยโทสะ ด้วยโลภะ พอไปอธิษฐานกับเครื่องมงคลต่างๆจิตมันแกว่ง ไม่นิ่งไม่มีสมาธิ มีแต่อารมณ์ต่างๆเหล่านี้ทั้งความโลภ โกรธ หลง ตัณหา ที่เทวดาท่านไม่รับท่านว่าที่จริงมันก็ไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด เพราะตัณหานั้นเป็นสิ่งที่ต้องมาก่อนนิพพานอยู่แล้ว เป็นสิ่งที่มีในความเป็นมนุษย์ โลภะ โทสะ โมหะ ราคะ สิ่งต่างๆอารมณ์บรรดามีเหล่านี้มันเจือและซึมซับอยู่ในชีวิตคนแบบแยกไม่ได้ ต้องใช้ปฏิบัตการทางโยคะ การฝึกจิตให้ตื่นรู้เท่านั้นถึงจะแยกออกได้ แต่ทั้งนี้หากเพ่งหาการสำเร็จประโยชน์ต่างๆบรรดามี ในสิ่งที่กลางๆ ไม่ถึงกับถูกบริสุทธิ์ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องผิด เป็นไปเพื่อการยังชีพ การดำเนินนาฏลีลาท่วงทำนองของชีวิต เป็นไปเพื่อการดำรงค์สถานะอยู่ เป็นไปเพื่อการสร้างพื้นฐานครอบครัวส่งต่อวงศ์ตระกูล ท่านว่าจริงๆแล้วนั้นเครื่องมงคลที่ตอบรับคำขอเช่นนี้ก็มีอยู่ และเป็นบรมครูชั้นสูงที่ได้รับมอบหมายหน้าที่นี้ตลอดจนสิทธิพิเศษต่างๆจากพระผู้เป็นเจ้าโดยตรงอีกด้วย ท่านดูแลและเป็นใหญ่เหนืออารมณ์ปรารถนาที่เจือด้วยกิเลสและความรู้สึกต่างๆเหล่านี้ เป็นบรมครูที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากครูพระและเทพเจ้าทั้งหลาย ทั้งยังได้ชื่อว่าหากหยิบจับงานใดหรือลงมือช่วยเหลือใครแล้ว ท่านจะทำอย่างเต็มที่ และไม่เคยละทิ้งหน้าที่เลย

    มหาคุรุศุกรจารยะ หรือที่เรียกกันสั้นๆว่าพระศุกร์บ้าง อสูรคุรุศุกราจารย์บ้าง นามต่างของท่านมีแยกย่อยออกไปอีกหลายนามตามสถานการณ์ต่างๆด้วยเป็นเทพเจ้าองค์สำคัญ พ่ออาจารย์ท่านว่า สมัยนี้คนมักขาดความสุข ครูองค์นี้นอกจากแบกรับหน้าที่อันยิ่งใหญ่แล้ว แม้นามท่านก็เป็นมหามงคล เติมเต็มสิ่งที่ขาดในชีวิตคนคือความสุขนั้นเช่นกัน


    มหาคุรุศุกรจารยะนั้นได้ชื่อว่าเป็นเทพฤาษีที่ทรงฤทธิ์และมีวีรกรรมมากมาย ได้ชื่อว่าเป็นดาวที่สว่างสุกใสที่สุด เป็นนพเคราะห์ที่มีกำลังสูงสุด อยู่ใกล้โลกหรือเป็นครูที่อยู่ใกล้มนุษย์ที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าด้วยหน้าที่อันยิ่งใหญ่นั้น หลายคนอาจจะมองว่าท่านเป็นเพียงครูเหล่าอสูร แต่โดยเนื้อแท้แล้ว ท่านรับผิดชอบและได้รับความไว้วางใจสูงสุดจากพระผู้เป็นเจ้าให้กระทำหน้าที่นี้แทนพรองค์

    พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์พระศุกร์นั้นท่านมีปกติวิสัยจิตใจเปี่ยมด้วยเมตตากรุณาอยู่เป็นนิตย์ เป็นผู้ดำเนินบนหนทางความสงบ ท่านว่าแท้จริงแล้วไม่เพียงแค่มีหน้าที่สำคัญอันจะพิทักษ์รักษาเขาพระสุเมรุที่เป็นแกนหลักของจักรวาล แต่องค์พระศุกร์นั้นยังเป็นมหาโยคี เป็นศิษย์เอกของพระศิวะเทพหรือครูพระสยมด้วย ความนัยน์เรื่องนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าลึกซึ้งยิ่งนัก ด้วยท่านมีหน้าที่อันยิ่งใหญ่คือรักษาเขาพระสุเมรุอันเป็นหลักโลกค้ำสวรรค์หรือแกนมหาจักรวาล ท่านจึงได้รับหน้าที่สำคัญอันพิเศษ พร้อมกับพรอันประเสริฐจากพระศิวะมหาเทพ ซึ่งเป็นหน้าที่สำคัญด้วยไม่มีใครจะมาทำแทนท่านได้นอกจากองค์มหาเทพนั่นเอง

    ครูพระสยมได้มอบหมายหน้าที่ให้แก่ศิษย์เอกผู้นี้คือสถานะอสูรคุรุศุกรจารยะ นั่นคือให้องค์พระศุกร์นั้นไปสั่งสอนศาสตร์ต่างๆทั้งพระเวทย์และการปกครองรวมถึงมหาศาสตร์ทั้งหลายให้ฝ่ายอสูร ทั้งอบรมคุณธรรมจริยธรรมให้ศิษย์ทั้งหลายตั้งมั่นอยู่ในความดีงามตามระดับและภูมิความรู้ของเหล่าอสูรเทพ เป็นผู้ชี้ทางสูงสุด ดำรงค์ฐานะและเอกสิทธิ์สูงสุด ตลอดจนเป็นที่เกรงขามและเป็นตัวตนแห่งความเคารพศรัทธาอันสูงสุดของฝั่งเทพอสูร ทั้งนี้องค์พระสยมยังประสาทยกฐานะพระศุกร์ขึ้นเป็นอสูรคุรุศุกรจารยะ อันมีเกียรติยศยิ่งใหญ่ มีศักดิ์และฤทธานุภาพเสมอด้วยพระพฤหัสบดีผู้เป็นครูแห่งทวยเทพทุกประการ พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าโดยแท้จริงแล้วหน้าที่นี้ แต่เดิมครูพระสยมท่านต้องทำเสียเอง ด้วยความวางใจในศิษย์ผู้นี้ ท่านจึงมอบหน้าที่ให้พระศุกร์เป็นตัวแทนทำหน้าที่แทนพระองค์ท่านนั่นเอง

    นอกจากนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้ายังมอบของขวัญล้ำค่า โดยรับปากว่าจะมอบสิ่งนี้ให้แก่พระศุกร์เพียงผู้เดียวในสามโลก นั่นก็คือมนต์มฤตสัญชีวินีอันเป็นมนตร์ชุบชีวิต พ่ออาจารย์ท่านว่ามนต์นี้ศักดิ์สิทธิ์เสียยิ่งกว่าน้ำอมฤตของฝั่งเทวดาเสียอีก อันปกติแล้วมนต์นี้จะมีผู้ถือครองเพียงคนเดียวนั่นก็คือองค์พระสยมนั่นเอง และที่เหนือไปกว่านั้นอันชนทั้งหลายไม่พึงทราบพึงรู้กัน นั่นก็คือความมั่งคั่ง ด้วยคนส่วนใหญ่ที่อยากรวยก็มักจะบูชาพระธนบดีหรือท้าวเวสสุวรรณกันถ้วนหน้า พ่ออาจารย์ท่านว่า ที่จริงแล้วองค์พระศิวะผู้เป็นเจ้า ได้ประสิทธิประสาทมอบพรเป็นทรัพย์สมบัติทั่วพื้นพิภพให้พระศุกร์เป็นผู้ครอบครอง ให้นามใหม่ว่าสุบดีผู้เป็นใหญ่ในโภคทรัพย์ที่แม้แต่ท้าวกุเวรหรือเวสสุวรรณผู้มั่งคั่งก็ยังด้อยกว่าตัวท่าน กล่าวกันว่าความมั่งคั่งของมหาคุรุศุกราจารย์นั้นเป็นของจริงเสียยิ่งกว่าจริง นั่นคือแม้แต่ท้าวเวสสุวรรณยังต้องมาหยิบยืมในทรัพย์สมบัติท่านไปใช้เลยทีเดียว นอกจากนี้ครูพระสยมท่านยังประสาทสติปัญญาความฉลาด ความสามารถในการรจนาโศลกบทกลอนพระคัมภีร์ต่างๆ รวมไปถึงประสาทพรให้พระศุกร์นี้มีอายุยืนยาว เป็นศุภเคราะห์ที่มีรัศมีสุกสว่างมากที่สุด

    พ่ออาจารย์ท่านว่าสถานะการดำรงค์อยู่ของพระศุกร์นั้น หลายๆอย่างคือท่านทำหน้าที่แทนองค์พระศิวะเจ้าหรือครูพระสยมนั่นเอง ด้วยสถานะการดำรงค์อยู่ของเหล่าเทพอสูร อันเป็นตัวแทนของความมัวเมา ความลุ่มหลง โลภะ โทสะ โมหะ ราคะ ตัณหาทั้งหลายท่านเป็นครูผู้เป็นใหญ่เหนือสถานะและสภาวะแห่งอสูรเหล่านั้น แม้ผู้ใดที่ปรารถนาจะมีความสุขความเจริญในเรื่องทรัพย์และสมบัติต่างๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าควรจะบูชาพระศุกร์เป็นอย่างยิ่ง

    หากยังรู้ตัวอยู่ว่าตนมีกิเลส มีความปรารถนาอันแตกต่างกันไปในสถานการณ์ทั้งหลายที่เจือด้วยอารมณ์ความโลภ โกรธ หลง ราคะ ตัณหา มีความปรารถนาในสมบัติหรือโภคสมบัติทรัพย์สินเงินทอง ความสุข ความเจริญ ความสะดวกสบายในวิถีชีวิต พ่ออาจารย์ท่านว่านี่เป็นหน้าที่ของครูพระศุกร์ท่าน ท่านว่าตรงนี้สำคัญเลยเทพองค์อื่นก็ให้ไม่ได้ เพราะเป็นหน้าที่ของมหาคุรุศุกรจารยะผู้นี้ที่จะทำให้ความปรารถนาอันเจือด้วยอารมณ์ต่างๆนั้นสัมฤทธิ์ผล พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าใจเขานั้นไม่หลอกตัวเองก็คงจะรู้ใจตัวเองดีว่าอารมณ์ความปรารถนาต่างๆของเขาบริสุทธิ์พอหรือเจือด้วยอารมณ์แฝงทั้งหลาย

    พ่ออาจารย์ท่านจึงได้สร้างอิทธิมงคลสักการะขึ้นเพื่อให้ผู้ปรารถนาที่จะมีความสุข ความเจริญ ในเรื่องทรัพย์และสมบัติต่างๆ มีคติที่เจือด้วยกิเลสตัณหาได้สมหวัง นอกจากนี้ท่านว่าครูพระศุกร์ยังให้คุณด้านสตรีและคู่ครองอีกด้วย

    ท่านได้รวบรวมผงมวลสารวิเศษทางกลับดวง หนุนดวง พลิกดวง ทนสิทธิ์ที่ผิดธรรมชาติ ที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นได้แต่ก็เกิดขึ้นโดยโลกวิสัย มาอธิษฐานเสกสะเดาะพระเคราะห์ต่างๆตามกรรมวิธีเหนือโลก สวดบรรจุพลังจักรวาล พลังดวงดาว พลังเคลื่อน พลังดูด ท่านว่าต้องให้ดีตั้งแต่ยังเป็นผง จะทำครูองค์สำคัญต้องเสกให้ใช้ได้ตั้งแต่ยังเป็นผงนี่ทีเดียว ก่อนที่ท่านจะนำมากดพิมพ์โดยท่านแกะพิมพ์ให้มหาคุรุศุกราจารย์ประทับโคอุสุภราช

    พ่ออาจารย์ท่านกล่าวถึงมงคลเจริญทรัพย์ประสิทธิเวทย์ของท่านว่า แท้จริงแล้วฉันถือว่าองค์พระศุกร์นั้นท่านมีมนต์ชุบชีวิต ก็ชีวิตใครหลายๆคนที่แห้งเหี่ยว ที่ตายไปแล้ว ที่หมดความหวังสิ้นหนทางแล้ว ด้วยอำนาจพิเศษที่ได้รับมาโดยตรงจากพระผู้เป็นเจ้า พระองค์สามารถชุบให้กลับมาดีมาเจริญได้ แม้จะเร่งให้รวยเจริญในโภคสมบัติก็ทำได้ด้วยท่านมีอาญาสิทธิ์เป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติทั้งหมดในพื้นพิภพถึงขนาดที่ว่าถ้าใครจะบูชาเทพองค์ใดเพื่อความร่ำรวยความเจริญรุ่งเรืองยังต้องทำกันในวันศุกร์เพื่อหวังพึ่งอิทธิพลของท่าน นอกจากนี้ท่านยังเป็นครูเสน่ห์ ถึงกับว่าถ้าจะเข้าหาหรือเอาดีทางด้านรักใคร่นี่ต้องพึ่งพระศุกร์กันทีเดียว

    ประกอบกับใครที่มีศัตรูหมู่มารมุ่งร้ายทั้งต่อหน้าและลับหลัง ด้วยบารมีมหาคุรุศุกราจารยะนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องเข้าใจเสียหน่อยสำหรับผู้บูชา คือท่านเป็นครูที่ให้คุณมาก ใครที่ท่านอุปถัมภ์หรือพกมงคลเจริญทรัพย์นี้ แม้มีศัตรูมุ่งร้ายหากมันไม่กลับเนื้อกลับใจ ศัตรูนั้นจะถูกทำลายแบบช้าๆด้วยการทรมานในประการต่างๆไม่ว่าจะโรคภัยไข้เจ็บ การกดดวงชะตาให้ไม่มีเทพหรืออสูรหน้าไหนกล้าล่วงเกินค้ำจุน จนท้ายที่สุดก็คือการทำลายฐานดวงชะตาให้มีอันเป็นไปแบบช้าๆ ในทางกลับกันพ่ออาจารย์ท่านว่าที่ท่านสร้างครูผู้เป็นใหญ่เหนือเทพอสูรผู้นี้ขึ้นมา ก็เพราะท่านมีความสามารถเป็นเอกในการปรับเปลี่ยนชะตาวาสนาของผู้ที่อยู่ในอุปถัมภ์ของท่าน ทั้งยกดวงค้ำชะตา ปรับฐานดวงชะตาให้จำเริญขึ้นทั้งยศศักดิ์ ให้สำเร็จในเรื่องความรักดั่งใจปรารถนา ทั้งนี้แม้เทพอสูร อสูรราช ยักษ์ รากษส มาร ปีศาจ อสุรกายทั้งหลาย ก็ไม่อาจทำร้ายหรือเล่นงานเราได้ด้วยอำนาจฝ่ายลบต่างๆซ้ำยังสนับสนุนคอยเปิดทางช่วยเหลือเราเพราะพวกเค้าเทิดทูนในองค์พระศุกราจารย์นั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าใครกลัวพระราหูเล่นดวงนี่เลิกกลัวได้เลย เพราะพระราหูก็เป็นเทพอสูรและยังเป็นศิษย์ของพระศุกร์ด้วย

    เมื่อท่านกดพิมพ์สร้างเครื่องมงคลนี้พ่ออาจารย์ท่านได้นำสิ่งมงคลสักการทั้งหลายฝังไปพร้อมกันดั่งต่อไปนี้

    - นางสุพรรณมัจฉา ท่านนำไม้ตะเคียนอายุหลายร้อยปีที่อยู่ใต้น้ำอันมีญาณแม่ตะเคียนมาแกะเป็นแม่สุพรรณมัจฉาขึ้น และอธิษฐานจิตปลุกเสกรูปนามจนสำเร็จในน้ำตาปลาพะยูนอันถือว่าเป็นเชื้อสายเงือกนั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ท่านทำนางสุพรรณมัจฉาฝังไว้ที่องค์พระศุกร์นั้นเพราะท่านจะสะท้อนถึงเสน่ห์แห่งความงาม ชวนให้หลงใหลเคลิบเคลิ้ม เป็นตัวแทนหญิงสาวและความลุ่มหลงอันเป็นอำนาจขององค์พระศุกร์ แต่ในทางกลับกันด้วยหุ่นนางสุพรรณมัจฉาอันพ่ออาจารย์ท่านได้ลงอาถรรพ์ปลุกเสกไว้นั้น ท่านว่าท่านลงวิชาเสน่ห์นางปลาไว้ แม้ใช้พกติดตัวก็จะเป็นเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามและเพศเดียวกัน เป็นเมตตามหานิยมสูงมาก เด่นด้านโชคลาภค้าขาย ติดต่อการงานดีมาก นอกจากนี้ยังเป็นเสมือนธงกฐินรูปนางปลาคนที่ได้ไปบูชา ติดบ้านเรือนร้านค้า จะมีเงินทองไหลมาเทมาไม่ขาดสาย ดั่งงานกฐินของตามวัดต่างๆที่มีแต่คนนำเงินทองข้าวของเครื่องใช้ลาภสักการะต่างๆมาให้ด้วยจิตศรัทธา ท่านว่ารูปนางปลานี้มีอานุภาพเสมอพกธงกฐินเรียกคน เรียกลาภสักการะนั่นติดตัวทีเดียว แม้จะอาราธนาให้เอาน้ำมันหอมลูบที่ตัวนางแล้วภาวนาว่า" โอมมัจฉาธารา ราคะตัณหา ธะนังโภคัง ทุสะมะนิ " ท่านว่าปรารถนาสิ่งใดก้บนบอกจิตแม่สุพรรณมัจฉาเอาเถิด
    - ผงปลดหนี้ ตั้งตัว ต่อลาภ เป็นการทำผงด้วยการใช้ว่านยาตำรับครูสมเด็จชั้นสูง พ่ออาจารย์ท่านว่าทำยากมากเพราะต้องแสวงหาว่านยาเฉพาะอันไม่อาจเปิดเผยได้ตามตำรับสมเด็จมาปลุกเสกลงอาถรรพ์วิชาก่อนจะบดและตากแห้งแล้วนำมาปั้นเป็นแท่งว่านก่อนจะเขียนแบบลบถมเป็นผงสำเร็จปลุกเสกไว้อีกคำรบหนึ่ง อันผงนี้ก็มีคุณตรงดัวดั่งชื่อนั่นคือปลดหนี้ ตั้งตัว ต่อลาภ ท่านว่าชีวิตคนถ้าได้สามเรื่องนี้ ความสุขสบายก็หนีไปไหนไม่พ้น ท่านว่าเราพูดอะไรมากไม่ได้เพราะครูท่านไม่ให้พูดหรือหลุดออกไป เอาว่าใครมีหนี้ไม่มีทางออกก็มาเอาไป ใครตั้งตัวไม่ได้ล้มๆลุกๆยืนไม่มั่นคงเสียทีก็ต้องใช้เหมือนกัน แม้คนที่ลาภสักการะมาๆหายๆไม่ต่อเนื่องขัดสนฝืดเคืองก็ต้องพึ่งผงตัวนี้เช่นกัน อธิษฐานระลึกพระคุณสมเด็จบรมครูขรัวโตให้ดี รับรองว่าชีวิตจะเบิกบานด้วยสุขที่เกิดจากลาภสักการะแบบก้าวกระโดด
    - ตะกรุดเจริญทรัพย์ พ่ออาจารย์ท่านว่าได้ลงยันต์เจริญทรัพย์มีลาภผลต่อเนื่องไว้พร้อมกับเชิญบารมีองค์พระศุกร์มาสำเร็จตะกรุด ที่ท่านลงตะกรุดนี้เนื่องจากตั้งใจจะให้สืบเนื่องกับคุณวิเศษในองค์พระศุกร์ซึ่งท่านเป็นใหญ่เหนือโภคสมบัติทั้งพื้นพิภพ เป็นเจ้าแห่งทรัพย์ที่มั่งคั่งเหนือท้าวเวสสุวรรณ เพื่อนำบารมีองค์ท่านมาเปิดทางทรัพย์ และประสิทธิพรแห่งทรัพย์สมบัติให้กับผู้ครอบครอง
    - ตะกรุดประสิทธิเวทย์ ตะกรุดนี้เป็นของเฉพาะทางสำคัญนัก ด้วยพ่ออาจารย์ท่านได้ลงหัวใจพระศุกร์ตามตำรับสำเร็จลุนแห่งนครจำปาศักดิ์ พร้อมกำกับด้วยตัวยันต์ประสิทธิเวทย์วิชาทั้งหลาย ด้วยองค์ครูพระศุกร์นั้นท่านเป็นยอดตำรับและผู้รู้แจ้งของศาสตร์ในแขนงต่างๆ ตะกรุดนี้เป็นเหมือนหัวใจที่จะขับเคลื่อนให้มงคลสักการะนี้มีจิตเทพฤาษีของพระศุกราจารย์ในเบื้องต้น เป็นดั่งตัวแทนองค์ครูที่จะอยู่กับศิษย์ตลอดไป ทั้งยังช่วยให้ผู้บูชาใช้บทเวทย์ประสิทธิผลสัมฤทธิ์ได้ทุกแขนง มีความเจริญในการใช้แลอธิษฐานจิต ทั้งยังมีสัมผัสพิเศษในโชคชะตา มีญาณหยั่งรู้เหตุการณ์สำคัญต่างๆล่วงหน้าเป็นพักๆตามความรู้สึกของตนด้วย
    - ตะกรุดหัวใจเทวดาให้พร พ่ออาจารย์ท่านลงตะกรุดทองแดงดอกจ้อยฝังกำกับไว้ด้านหน้า เพื่อให้การอธิษฐานการขอกับองค์เทพพระศุกร์นั้น ส่งผลและให้ผลแบบฉับพลันทันทีท่านว่าแบบขอได้ไหว้รับนั่นแหละอธิษฐานอะไรจะได้ไม่ต้องรอกันนาน

    พ่ออาจารย์ท่านสร้างมงคลเจริญทรัพย์ประสิทธิเวทย์มหาคุรุศุกรจารยะ(นางสุพรรณมัจฉา)นี้ ในปางทรงโคอุสุภราชซึ่งเป็นพระโคอันเป็นศูนย์รวมแห่งสิริมงคล ท่านว่าท่านทำให้เป็นนัยยะของคนที่ได้ไปใช้ ด้วยว่ามงคลนี้คือความสุข ความสมปรารถนานั่งทับบนมหาสิริมงคลเป็นมิ่งขวัญที่จะดลดูด ขับเคลื่อนพลังงานความสุขเข้ามาเติมเต็มในชีวิตโดยอาศัยอาญาสิทธิ์แห่งมหาคุรุศุกรจารยะนั่นเอง และโคนี้ท่านก็เสกให้เป็นเทพพาหนะ มีความสามารถเหมือนวัวธนูทุกประการใช้อธิษฐานปกป้องคุ้มตัวได้ หากแต่ไม่ต้องเลี้ยงเพราะเป็นเทพเดรัจฉาน เป็นพาหนะเทพขององค์พระศุกร์ท่าน

    คาถาบูชา(ตั้งใจภาวนาฤฤา มหาฤฤาให้จิตสงบก่อนว่าคาถาเชิญบารมีพระศุกร์คุ้มเกรง)
    ฮีมะกุนดามีนาลาพลัม ไดยานัมพาลามัมกูลุม ซาวาชาจาปาวาตารัม บัคคาวัมพานามามยาฮัม โอม ฮีม ซีม ศุกรายา นะมาฮา (โอมฤฤา มหาฤฤา สรเวโพยะ ศุกระจารยะโพยะ เว สา โร อุ ทะ สะ สะ สะ สะ พะ ระ สะ นมัช)

    * มงคลเจริญทรัพย์ประสิทธิเวทย์มหาคุรุศุกรจารยะ พ่ออาจารย์ท่านว่าเราทำไว้สำหรับคนที่ติดโลกแต่อยากเหนือโลก สร้างไว้ให้เป็นคติ เป็นครูของคนที่ปรารถนาความสุขในวิถีมนุษย์ ซึ่งท่านทำไว้ทั้งหมดหกองค์ สำหรับผู้บูชาท่านว่าให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วย ท่านจะทำการเจิมบอกกล่าวฝากฝังกับมหาคุรุให้เปิดทางความสุขเป็นการเฉพาะบุคคล รายได้ร่วมไถ่ชีวิตโคกระบือเป็นกุศลการให้ชีวิตในโอกาสต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา มงคลเจริญทรัพย์ประสิทธิเวทย์มหาคุรุศุกรจารยะ(นางสุพรรณมัจฉา) บูชา 4,000 บาท


    image.jpg image.jpg 1403875688.jpg SAM_5484.jpg SAM_5485.jpg 359px-_Shukra_graha.jpg Prasuk_view.gif sook.jpg d2c3e0bb6e394c285166acd011bbc2c7--thai-thai-thai-art.jpg
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดดอกครูสูตรพระเจ้าขับเสนียดปัดรังควานอุดผงเพลิงไฟประลัยกัลป์(ปราบเทวดา)
    พ่ออาจารย์ท่านจัดสร้างตะกรุดดอกครูนี้ขึ้นมาเพื่อให้สืบทอดและคลี่คลายปัญหา บรรเทาทุกข์โศกความเดือดเนื้อร้อนใจแก่ผู้คนที่ได้ไว้บูชา ท่านว่าวิชาตำรับนี้เดิมทีเป็นของชั้นสูง จะลงจะทำให้เฉพาะเจ้านายและบุคคลชั้นสูงเป็นเจ้าปกครองจริงๆ ท่านว่านี่ไงเพราะมันสูงมากจนไม่ลงมาถึงมือชนหมู่อื่นจึงไม่ปรากฏว่าจะมีครูบาอาจารย์ท่านใดมักจะทำกันนัก พ่ออาจารย์ท่านว่าเพราะเป็นวิชาที่มีเดชแลอานุภาพมาก จึงไม่ปรากฏว่าจะมีผู้ใดคู่ควรนัก

    ในปัจจุบันนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาแต่ละแขนงถ้าช่วยคนได้ก็ไม่จำเป็นต้องมานั่งสงวนไว้ ท่านว่าความต้องการเดิมของครูบาอาจารย์เจ้าของวิชาท่านก็ไม่ได้คิดที่จะหวงหรือเลือกที่รักมักที่ชังใดๆ หากเพียงแต่ต้องการให้วิชานั้นตกถึงมือเฉพาะกับคนที่ดีจริงๆ ท่านจึงได้ทำการขอจากดวงวิญญาณครูบาอาจารย์ บรมครูเจ้าตำรับเจ้าวิชา ว่าจะลงตะกรุดนี้เสียชุดหนึ่งไว้โปรดคนทั่วไปจะทำเพียงเท่านี้แล้วไม่ทำอีก กอปรกับเสด็จพระใหญ่ท่านเมตตาให้ลงวิชาขับเสนียดปัดรังควานของท่านไว้ด้วย ซึ่งวิชาทั้งสองนี้ส่งเสริมกันอย่างแท้จริงพ่ออาจารย์ท่านจึงได้ทำตะกรุดนี้ไว้เสียชุดหนึ่ง

    ตะกรุดนี้เป็นของสูง พ่ออาจารย์ท่านว่าทำยากนัก เพราะต้องเริ่มแต่เอาตะกั่วขอมโบราณพันปีที่ได้ผ่านพิธีกรรมต่างๆอันถูกฝังไว้ใต้ปราสาทขอมตั้งแต่สมัยขอมเรื่องอำนาจมาแช่น้ำมนต์ดับล้างคุณฝ่ายอวิชชาตลอดจนอาถรรพ์ร้ายทั้งหลายแล้วจึงหลอมรีด ทำการจารลงถมด้วยพระยันต์ร้อยแปด นะปถมัง14 ก่อนจะหลอมรีดเป็นแผ่นตะกรุดอีกครั้งหนึ่ง

    ลำพังแผ่นตะกรุดนี้ท่านว่าก็ทำยากแล้วเพราะต้องให้ดีตั้งแต่เนื้อในโดยแท้จริง ท่านเปรยว่าถ้าใครตาดีจิตสว่างก็ดูเอาเอง แผ่นตะกั่วธรรมดาที่ไหนจะสว่างมีอานุภาพมากขนาดนั้น มีอักขระยันต์นับร้อยพัน มีวิชาต่างๆ มีคุณทุกอย่างดีทุกทางด้วยบทวิชาและพระพุทธคุณด้านต่างๆ ดีไม่ต่างจากพระกริ่งเลยทีเดียว

    พ่ออาจารย์ท่านได้เลือกฤกษ์ยามมงคลตามครูบังคับเพื่อที่จะลงพระยายันต์ชั้นสูงทั้งสองด้าน ท่านว่าตะกรุดนี้มีอุปเท่ห์แลวิธีใช้มากมาย ล้วนแต่เป็นเรื่องที่เป็นสิริมงคลแก่ตัวผู้ครอบครองทั้งสิ้น หากแม้นพกพาอาราธนาไม่ทำการใดก็ยังได้ชื่อว่าดี เป็นที่รักแก่ชนทั้งหลายในมหาทิศทั้งสี่นี้ไม่มีใครกล้าเกลียด ทั้งยังกันกระทำด้วยคุณไสยมนต์ดำกันลมเพลมพัดต่างๆบรรดามี หากเลื่อนลงมาอาราธนาอยู่ในระดับเอวแล้วท่านว่าจำเริญนัก มือของเค้าจะจับแต่เงินแต่ทอง เจริญรุ่งเรืองในวิชาชีพและการประกอบอาชีพทั้งหลาย ไม่พักต้องกลัวเกรงที่จะต้านจะแข่งขันกับผู้ใดเพราะวิชานี้ท่านว่าเอาชัยได้ไม่รู้แพ้แม้แต่ศึกมนุษย์หรือกองทัพเทวดา ท่านว่าลำพังอย่าว่าแต่คนมีสมองสองมือจะมาท้าแข่งขันด้วยเรา ต่อให้กองทัพเทพยกมาแข่งด้วยก็ยังไม่ต้องกลัว ทั้งยังใช้แก้อาถรรพ์ในประการต่างๆได้ไม่ว่าจะอาถรรพ์ที่เกิดจากผงคุณวิชาทั้งหลายอันเค้ากระทำมาทั้งใส่น้ำหรือกระทำประการต่างๆให้เข้าให้หาอยู่ในร่างกายของเรา ทั้งอาถรรพ์การแก้รูปฝังรอยที่จะทำให้เราสียสติ สติวิปลาสไป ตลอดจนแก้อาถรรพ์ปอบและภูติผีวิญญาณอันจะหาคนสืบทอดเผ่าพันธ์ตนทั้งหลาย ท่านว่าแก้ได้ทั้งสิ้นเพียงแค่อาราธนาพกพาและหมั่นใช้ตะกรุดทำน้ำพระพุทธมนต์ดื่มกินท่านว่าเพียงเท่านี้ย่อมดีนัก

    เมื่อท่านลงพระยันต์ทำการเทียบครูเชิญครูปลุกเสกตะกรุดอีกวาระหนึ่งนั้น ท่านว่าไม่แปลกใจเลยที่ชนทั้งหลายจะเจริญขึ้นได้อย่างน่าประหลาดใจและทำไมแต่เดิมนั้นจึงได้จำกัดไว้แต่เพียงเจ้านายและเจ้าปกครอง เพราะว่าตะกรุดนี้มีอานุภาพมากมีอิทธิคุณสูงยิ่งนัก ควรใช้และตกถึงมือเฉพาะผู้มีวาสนาและบารมี ท่านว่าหากจิตตั้งมั่นและมั่นใจในตะกรุดนี้มากเท่าไร ยิ่งเหมือนเสือติดปีกมากขึ้นเท่านั้นไม่พักต้องพูดถึงเรื่องจะะหนุนจะดันขึ้นด้วยดวงชะตาพาส่งใดๆ แต่วิชานี้เป็นวิชากลับชะตาพลิกวาสนาคนใช้กันได้เลยทีเดียว

    พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้มีอุปเท่ห์ใช้มากมาย ดังต่อไปนี้

    - ตั้งสติให้นิ่งมีสมาธินำตะกรุดวนใบหน้าตามเข็มนาฬิกาสามรอบตอนตืนเช้า หลังจากชำระร่างกายเสร็จแล้วให้พึงกระทำ จะบังเกิดสง่าราศี ในวันนั้นจะมีเมตตามหานิยมทำกิจใดก็ง่ายไปหมด แม้ประกอบกิจหรืออาชีพใดย่อมถึงแก่ความเจริญรุ่งเรือง บังเกิดเกียรติยศใหญ่ เป็นที่นับหน้าถือตามีชื่อเสียงขจรไกล
    - นำตะกรุดมาวนบริเวณหัวใจท่านว่าศัตรูทั้งหลายไม่พยาบาทอาฆาตด้วยเรา จะรักดั่งเลือดในอก แม้โกรธกันแต่ปางไหนก็กลับใจเป็นมิตร เปี่ยมด้วยเมตตาอาทรฉันนั้น
    - นำตะกรุดมาถูสัมผัสบริเวณฝ่ามือ ท่านว่าจะจำเริญในลาภยศ มือจะได้จับเงินจับทอง มีโชคลาภเข้ามาเสมอไม่ว่าน้อยว่ามาก ไม่ว่าขึ้นว่าแรม เข้ามาอยู่ไม่รู้ขาด
    - นำตะกรุดขึ้นเสยผมปัดออกไปด้านหลัง ท่านว่าขับเสนียด ปังรังควาน ไล่อุบาทว์ทั้งหลายอันติดอยู่ในร่างกายราแต่ละวันก็ดี หรือที่สะสมมาก็ดี พิฆนะจัญไรทั้งหลายล้วนกลายเป็นมงคล
    - แม้ในครั้งที่สอง ก็ให้นำตะกรุดยกขึ้นเสยผมไปด้านหลัง ท่านว่าครั้งนี้หากทำได้ ในวันนั้นคนจะเป็นมิตรกับเรา หากมีใครคิดร้าย จ้องทำร้าย ให้ร้ายเราโดยประการต่างๆ เขาจะแพ้ภัยตัวเขาเองตกอยู่ในห้วงกรรมเป็นไปตามผลกรรมที่เค้าคิดจะประทุษร้ายเรา ศัตรูมีอันพินาศเป็นไปด้วยประการต่างๆแล
    - แม้ในครั้งที่สาม ก็ให้นำตะกรุดยกขึ้นเสยผมไปด้านหลัง ท่านว่าครั้งนี้เรียกสิริมงคล ให้ลาภสักการะ ยศ สุข สรรเสริญบรรดามีวิ่งเข้ามาหาเราในวันนั้นไม่ว่าจะยามหลับยามตื่นย่อมเป็นสุข
    - แม้ในครั้งที่สี่ ก็ให้นำตะกรุดยกขึ้นเสยผมไปด้านหลัง ท่านว่ากันสารพัดโพยภัยในมหาทิศทั้งสี่ เป็นมหาคลาด ให้รอดจากอุปัทวอันตรายทั้งหลาย ทั้งโจรภัย วินาสภัย อัคคีภัย ราชภัย
    - แม้ในครั้งที่ห้า ก็ให้นำตะกรุดยกขึ้นเสยผมไปด้านหลัง ท่านว่าทำครั้งนี้ในวันนั้นมีกิจอันใดก็ดี ให้ปรารถนาตั้งจิตอธิษฐานเอาเถิด หากทำครบห้าครั้งในหนึ่งวันย่อมจำเริญเกียรติยศ ประสบความสำเร็จในกิจที่พึงกระทำตามแต่จะอธิษฐาน
    - ถ้าฝันไม่ดี มีอาการหวาดผวา เห็นลาง เงื่อน เค้า ความอัปมงคลจะบังเกิดแก่ตน ท่านว่าให้เอาน้ำหนึ่งขัน อาราธนาตะกรุดแช่ไว้แล้วอธิษฐานถึงเค้า เงื่อน ลาง แห่งความอัปมงคลทั้งหลาย ฝันอันวิปริตอาเพศทั้งหลาย แล้วอาบน้ำขันนั้นเถิด ความหวาดกลัว หวาดผวา อาเพศ อัปมงคลใดๆ จะเสื่อมถอยไปตามคำอธิษฐาน
    - ถ้าผีเข้าคนหรือคิดว่าถูกคุณไสยใดๆ ท่านว่าให้นำขึ้นมาน้ำอธิษฐานถวายพระพุทธเจ้าระลึกถึงพระพุทธคุณ แล้วจึงลาน้ำนั้น นำตะกรุดนี้แช่ลงไป เอาไปกินเอาไปอาบ เอาไปรดหัวคนที่ถูกกระทำเถิด หากมีอาถรรพ์ใดๆก็หลุด หากมีวิญญาณใดๆสิงสู่อยู่ก็ย่อมออกทันทีด้วยพุทธานุภาพและคุณวิชา
    - ถ้าต้องเคราะห์เจ็บป่วยด้วยโรคภัย โรคา พยาธิ ไม่ว่าจะมนุษย์ก็ดี สัตว์ต่างๆทั้งหลายก็ดี ท่านว่าอธิษฐานบรรเทาโรคและอาการเจ็บป่วยให้ดี ขอน้ำยารักษาโรคแล้วสวดพุทธคุณนำตะกรุดลงแช่น้ำ แล้วก็ให้ดื่มกินน้ำนั้นเถิด โรคภัย โรคา พยาธิทั้งหลายจะบรรเทาลง แม้ได้อาบน้ำโสรจสรงตะกรุดอีกวาระหนึ่งท่านว่าย่อมหายแล
    - ถ้าไปบ้านหรือสถานที่อันมีคนตายหรือเสียชีวิต เลยสามวันไปแล้ว ท่านว่าให้รีบอาราธนาตะกรุดทำน้ำมนต์อาบทีเดียว หากไม่ทำก็จะเจ็บไข้ได้ป่วย สิ่งที่ควรจะได้ก็ไม่ได้ ไม่มีโชคลาภใดๆ
    - หากไปบ้านเรือนอื่นที่มีสตรีตั้งครรภ์ ด้วยว่าไปเยี่ยมหรือมีเหตุให้เข้าไปก็ดี ท่านว่าให้เร่งเอาตะกรุดอาราธนาทำน้ำมนต์อาบเสีย อย่าให้พ้นสิบสองวัน จะทำให้เสียเดช เสียตบะในตนเอง
    - หากไปบ้านเรือนอื่นที่มีการมงคลสมรสก็ดี ท่านว่าให้เร่งเอาตะกรุดอาราธนาทำน้ำมนต์อาบเสีย อย่าให้พ้นในแปดวัน จะทำให้เสียเดช เสียตบะในตนเอง
    - หากได้สังวาสกับสตรีที่มีประจำเดือน ท่านว่าจะเป็นเสนียดนัก ให้เร่งเอาตะกรุดอาราธนาทำน้ำมนต์อาบเสีย อย่าให้พ้นห้าวัน จะทำให้สุขภาพร่างกายอ่อนเพลีย กำลังถดถอย อายุสั้นลง
    - ตะกรุดนี้ท่านว่าให้หมั่นอาราธนาทำน้ำมนต์อาบเถิด จะให้ดีอาทิตย์หนึ่งต้องอาบให้ได้สามวัน คือวันอังคาร วันเสาร์ แลวันอาทิตย์ ท่านว่าสามวันนี้ดีประเสริฐกว่าทุกวันแล
    - ในการอาบน้ำมนต์นั้น ท่านว่าจะให้ผลสัมฤทธิยิ่งขึ้นไปอีกตามตำรับครูบาอาจารย์ได้กำหนดไว้ ก็ให้ทำโดยเคร่งครัดเพือสิริมงคลและราศีแก่ตนเอง ดั่งที่บูรพาจารย์ โบราณจารย์ต่างๆได้ทำไว้ถวายเจ้านายและเจ้าปกครองต่างๆ เพื่อได้ทำการอาบน้ำมุรธาภิเษก เป็นมงคลและเกียรติยศยิ่งด้วยประการทั้งปวง
    - วันอาทิตย์ ท่านว่าหันหน้าไปทิศตะวันออก จักจำเริญยศได้เป็นใหญ่ ก้าวหน้าในอาชีพที่ทำ
    - วันจันทร์ ท่านว่าหันหน้าไปทิศเหนือ จักมีลาภผล ความมั่งคั่ง
    - วันอังคาร ท่านว่าหันหน้าไปทิศใต้ จักมีชัยยะ ชนะไพรีไม่รู้พ่าย ศึก ศัตรูใดก็หักเราเอาชัยมิได้ แข่งขันสิ่งใดย่อมชนะเขาทั้งหมด
    - วันพุธ ท่านว่าหันหน้าไปทิศเหนือ จักมีลาภสักการะนานา
    - วันพฤหัส ท่านว่าหันหน้าไปทิศเหนือ จักร่มเย็น ครอบครัวเป็นสุข ไม่ทะเลาะเบาะแว้ง สามัคคีกลมเกลียวกัน
    - วันศุกร์ ท่านว่าหันหน้าไปทิศตะวันออก จักอยู่ดีกินดี มีโชคลาภตามปรารถนา
    - วันเสาร์ ท่านว่าหันหน้าไปทิศตะวันตก ทุกข์จะหาย บาปเคราะห์จะคลาย ล่วงเคราะห์ พ้นทุกข์ทั้งมวล

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเพราะเป็นตะกรุดที่มีอานุภาพมาก มีวิธีใช้สลับซับซ้อน จึงไม่แปลกใจที่โบราณจารย์แต่เก่าก่อนท่านจะไม่ได้ทำหรือมอบให้ผู้ใด แม้จะให้ยังต้องมอบให้เฉพาะบุคคลไป เป็นของคู่กายมีไว้ใช้ประจำตัวเจ้านายพระองค์นั้นๆ ดังนั้นเมื่อท่านเมตตาทำและปลุกเสก ซ้ำยังเชิญเสด็จพระใหญ่ท่านสงเคราะห์อีกวาระหนึ่งนั้น ท่านว่าเราก็จะถือคติตามบูรพาจารย์ คือตะกรุดนี้ทำให้คนได้ดีพลิกวาสนาชะตากลับได้ แต่ก็ต้องถือและใช้เป็นของใช้เฉพาะตน ไม่ใช้ร่วมกับคนอื่นเด็ดขาด ทำให้คนอื่นได้ แต่ให้คนอื่นใช้ตะกรุดหรือนำไปทำแบบเราไม่ได้ ท่านว่าถือได้ก็จะยิ่งขลังขึ้นไปอีกเป็นเท่าทวี หากเปลี่ยนมือหรือสืบทอดก็ให้จุดธูปสักการะครูบาอาจารย์บอกกล่าวเปลี่ยนเจ้าของถือครองไป

    ท่านว่าแม้ตัวตะกรุดก็ยังมีอานุภาพมากเช่นนี้ และในภายหลังท่านได้นำผงกสิณธาตุของพระอริยสงฆ์เหนือโลกถึงสามรูปบรรจุไว้ภายในพร้อมกับผงเพลิงไฟประลัยกัลป์ของท่านอีก ท่านว่าผงที่บรรจุลงไปนั้น เป็นผงที่เกิดต่างกรรมต่างวาระของพระอริยเจ้าสามรูป นั่นคือหลวงพ่อโอภาสี หลวงพ่อกบเขาสาริกา และหลวงปู่สรวง เป็นผงที่เกิดจากการเจริญเตโชกสิณบริกรรมของพระอริยเจ้า เรียกว่าผงสำเร็จกสิณก็ได้ ตะกรุดนี้จึงมีบารมีครูบาอาจารย์ทั้งสามรักษาอยู่ ซ้ำยังเพิ่มพุทธานุภาพการขับวิชาของตะกรุดนั้นอยู่ภายในให้แรงยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อรวมกับผงคุณวิชาเพลิงไฟประลัยกัลป์ของท่านด้วยแล้ว ยิ่งดีทางขับเสนียด ดับล้าง ถอดถอนอาถรรพ์สารพัด ทั้งอวิชชา คุณไสย คุณผี คุณคน คุณเทวดามิจฉาทิฏฐิ อสูร ยักษ์ เดรัจฉานต่างๆครบถ้วนทุกประการ

    พ่ออาจารย์ท่านลงตะกรุดสำคัญนี้ไว้ทั้งหมดแปดดอก ท่านว่าครูพระเบื้องบนให้ทำได้เพียงเท่านี้เพราะเจ้าของที่คู่ควร เป็นของๆเค้าที่จะสืบทอดในวงศ์ตระกูลนั้นมีอยู่เพียงแปดคน ท่านว่าของใครรู้ตัวว่าตรงตามจริตตนเองก็มาเอาไป ที่ใช่ก็จะได้ครอบครอง

    คาถาบูชา (ท่านว่าตะกรุดนี้เป็นของสูงและมีพรรณคุณวิเศษ ปกติแล้วไม่ต้องใช้คาถาใดเพียงแค่พุทโธและระลึกถึงพระพุทธคุณเท่านั้น แต่หากปรารถนาจะอาราธนาก็ให้ใช้คาถาของพระมหาชวนหรือหลวงพ่อโอภาสีได้ เพราะตอนเสกท่านก็มาเสกมาทำให้เหมือนกัน)
    อิติสุคโต อรหังพุทโธ นะโมพุทธายะ ปฐวีคงคา พระภุมมะเทวา ขะมามิหัง

    * ตะกรุดดอกครูสูตรพระเจ้าขับเสนียดปัดรังควานอุดผงเพลิงไฟประลัยกัลป์(ปราบเทวดา)นี้ พ่ออาจารย์ท่านทำวิชาไว้แปดดอก ผู้ที่จะบูชาให้แจ้งชื่อสกุลทาง PM ไว้ได้เลย พ่ออาจารย์ท่านว่าเราจะประสิทธิให้เฉพาะบุุคคล ให้เขาเอาไปพลิกวาสนา ชนะเคราะห์กรรม จำเริญในลาภยศบารมีสืบไป รายได้ร่วมสมทบทุนสร้างพระเจดีย์ตามวาระที่ท่านมอบทุนสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดดอกครูสูตรพระเจ้าขับเสนียดปัดรังควานอุดผงเพลิงไฟประลัยกัลป์(ปราบเทวดา) บูชา 3,000 บาท

    035.jpg SAM_5488.jpg SAM_5489.jpg view_resizing_images.jpg tnews_1511081032_7820.jpg image.jpg
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญหล่อมหาศักติพระเจ้าเงินตราสืบชะตารุกฆาต(ประสิทธิพรชัย)


    พ่ออาจารย์ท่านได้สร้างมงคลธาตุกายสิทธิ์นี้ไว้นานแล้ว สังเกตุได้จากเวลามีคนถามหาพระเจ้าเงินตรานั้น ถึงจะบอกไปว่ามีเนื้อพิเศษ เนื้อธาตุกายสิทธิ์อยู่แต่ก็ยังไม่เปิดให้ร่วมบุญกันนั่นเอง

    สืบเนื่องจากแรกเริ่มเดิมทีนั้น พ่ออาจารย์ท่านได้สร้างตะกรุดมหาสัตว์ปราบพิภพ(รุกฆาต)ขึ้นมาก่อน โดยทำตามวิชาเสด็จพระใหญ่ ซึ่งตะกรุดนี้นับว่ามีความสำคัญมากและนับว่าลึกลับอย่างยิ่ง ท่านบอกว่าชีวิตคนเรานั้นเมื่อแรกเกิดก็เหมือนผ้าขาว แต่พอเจริญวัยขึ้น ผ่านวิกฤติ ความสุข ทุกข์ ความอยากได้ใคร่ดี ตัณหามากมีต่างๆ ผ้าที่เคยขาว บัดนี้มันไม่ขาวเสียแล้ว มันถูกแต่งแต้มไปด้วยสีสันต่างๆมากมาย เปื้อนจนล้างไม่ออก ชีวิตที่เปื้อน ที่สกปรก สูญเสียสมดุลเสียความบริสุทธิ์ ถูกอวิชชาตัณหาครอบงำ ท่านว่าแม้มีบารมีเก่าทำมาดีเป็นสิบโกฏิร้อยโกฏิ หรือมีบารมีใหม่ที่พร้อมส่งผลด้วยบุพกรรมความดีความชอบทั้งหลาย สิ่งเหล่านี้มันก็ไม่ให้ผล เหมือนภาชนะที่สกปรกแม้เอาสีใดๆไปแต้มไปเจิมมันก็ปรากฏให้เห็นยาก ด้วยภาชนะนั้นมีความสกปรกแปดเปื้อนจนไม่อาจจำแนกได้แล้วนั่นเอง แม้ทวยเทพหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายก็ไม่พึงใจด้วยร่างกายอันปฏิกูลนั้น

    พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ทำตะกรุดมหาสัตว์ปราบพิภพ(รุกฆาต) ตามสูตรเสด็จพระใหญ่ขึ้น ซึ่งวิชานี้ท่านว่าเสด็จท่านให้ไว้แก้เคล็ด เป็นวิชาที่ปรับเปลี่ยนกฏแห่งกรรมในวัฏสงสาร ให้โอกาสสรรพชีวิตได้เริ่มต้นใหม่ จากที่แปดเปื้อนก็เปลี่ยนให้ขาวสะอาดด้วยพุทธานุภาพและมายาศาสตร์คติแห่งคุณวิชา ซึ่งตะกรุดสำคัญนี้ ท่านว่าต้องใช้ผ้าขาวม้ามาตัดทำลงสูตรวิชา ท่านจึงได้กราบบูชาบูรพาจารย์บรมโพธิสัตว์ นำผ้าขาวม้าที่เจ้าปู่ชัยพรหมเคยใช้เคยสรง กราบขออนุญาติท่านนำมาตัดทำ ท่านว่าผ้านี้มีดีอยู่หลายส่วน ดังนี้

    - ผ้าขาวม้านั้น อุปเท่ห์ก็เปรียบเหมือนม้า เป็นผ้าพยนต์ผืนครูที่เจ้าปู่ชัยพรหมเคยใช้และเสกไว้ดีแล้วด้วยบารมีมหาโพธิสัตว์ใหญ่ ม้าคือสัตว์ที่เคลื่อนที่ได้เร็ว ปราดเปรียว มีกำลังมุ่งไปข้างหน้า และม้าก็เป็นคติของเหล่ามหาโพธิสัตว์ว่าเป็นสัตว์ที่พิเศษ เพราะเป็นพาหนะที่มหาสัตว์เจ้าใช้เสด็จหนีออกจากวัฏสงสารสู่ร่มผ้ากาสาวพัสตร์นั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านจึงถือคติว่าใช้ผ้าขาวม้าของมหาโพธิสัตว์เจ้า ก็เหมือนเรามีม้าวิเศษ ที่จะนำพาให้ล่วงทุกข์ สำเร็จประโยชน์ใหญ่ได้เช่นกัน
    - ผ้าขาวม้านั้น ต้องจำเพราะเจาะจงตัดเฉพาะช่องที่ขาวสะอาดเท่านั้น ช่องที่มีสีอื่นๆล้วนใช้ไม่ได้ ท่านว่าเปรียบผ้าขาวม้าดุจชีวิตคน เพื่อจะแก้เคล็ดปรับเปลี่ยนกฏแห่งกรรมในมหาวัฏ สร้างและเปิดโอกาสให้สัตว์ล่วงทุกข์จากบุญกิริยาที่กระทำไว้ แม้ชีวิตจะเคยล้ม เคยลุก โคลงเคลงไม่มีเสถียรภาพ แม้ชีวิตจะแปดเปื้อนมาซักเท่าไหร่ ด้วยคติแห่งคุณวิชาและอำนาจของบูรพาจารย์เหนือโลกก็ปรับเปลี่ยนให้ผ้าที่สกปรกใสบริสุทธิ์ดุจผ้าขาว ให้ชีวิตที่เลอะเทอะกลับสู่จุดที่ดีงามมากที่สุดเหมือนเมื่อแรกกำเนิดฉันนั้น
    - ผ้าขาวม้านั้น เป็นผ้าที่เจ้าปู่ชัยพรหมท่านเคยใช้เคยทรง เป็นผ้าศักดิ์สิทธิ์ที่ซึมซับรัศมีตลอดจนพลังงานชีวิตของท่านมานาน ด้วยท่านใช้ผ้าขาวม้าพยนต์ที่เสกไว้ดีแล้วผืนนี้ไม่เคยเปลี่ยนผืนเลย ดังนั้นผ้าขาวม้านี้พ่ออาจารย์ท่านจึงว่าเป็นของสำคัญนัก ด้วยมีรัศมีและบารมีมหาสัตว์เจ้าประสิทธิอยู่นั่นเอง เป็นพลังงานขับเคลื่อนที่ยิ่งใหญ่ที่จะช่วยกดดันและลดทอนพลังงานฝ่ายต่ำ พลังงานด้านมิจฉาทิฏฐิ พลังงานเลวและเสนียดจัญไรต่างๆ ขับล้างให้เหลือแต่สิริมงคล

    เมื่อท่านลงวิชาแล้วจึงเชิญเจ้าปู่ชัยพรหมหรือองค์มหาโพธิสัตว์ใหญ่สำคัญแห่งพุทธภูมิและเสด็จพระใหญ่ประสิทธิวิชาอีกคำรบหนึ่ง วิชานี้ท่านว่าเป็นวิชารุกฆาต นั่นคือกินเขาไปเรื่อย แม้รุกเข้าไปในแดนศัตรูมีอันตรายรอบด้านก็ยังเอาชัยเขาได้ ท่านว่ากินแล้วกินอีกเป็นการรุกคืบเพื่อความสำเร็จเพื่อการณ์ใหญ่ พ่ออาจารย์ท่านเปรียบชีวิตคนก็เหมือนกลชะตาบนกระดานม้าหมากรุก ถ้าไม่กินเค้าก็ย่อมถูกเค้ากิน ดังนั้นท่านจึงทำตะกรุดสำคัญขึ้นเป็นตะกรุดผ้าพยนต์ผืนน้อยๆที่ชื่อว่ามหาสัตว์ปราบพิภพ(รุกฆาต) ท่านว่าตะกรุดนี้ดีและแปลก อยู่ที่ไหนไม่ว่าถิ่นใครก็กินเขาหมด สำเร็จประโยชน์ ได้ทุกสิ่งเช่นนี้นั่นเอง มีแต่รุกไปไม่ถอยหลังกลับ ท่านว่าด้วยอาถรรพ์แห่งคุณวิชาพกเอาไว้เถิด เดี๋ยวจะรู้เองว่ากินเขาได้ กินหมดทั้งกระดานนั้นเป็นอย่างไร แต่ให้พึงสังวรณ์ไว้ว่ากระดานที่จะเดินจะกินเขานี้มันไม่ใช่เกมส์ แต่เป็นหมากกระดานชีวิต เดินไปไหนทำอะไรก็รุกฆาตมีแต่จะเจริญก้าวหน้าตามลำดับไม่ถดถอย แก้ดวงแก้อาถรรพ์ชีวิตที่แปดเปื้อนมีมลทินอย่างใหญ่หลวงให้บริสุทธิ์ ถึงพร้อมแก่โอกาสและวาสนาที่ได้ประพฤติมาตามบุพกรรม

    ท่านได้ลงตะกรุดผ้าพยนต์สำคัญดอกน้อยนี้แล้วก็มีดำริว่าควรจะให้ใช้คู่กับอะไร ก็ปรากฏว่ามีนิมิตให้ท่านสร้างมหาลักษมีเทวีขึ้นเพื่อประสิทธิตะกรุดนี้ไว้ พ่ออาจารย์ท่านจึงไม่มีความลังเลเลยแต่อย่างไร

    พ่ออาจารย์ท่านได้สร้างสิ่งที่เรียกว่าพระเจ้าเงินตราขึ้น ซึ่งท่านว่าแต่เดิมนั้นวิชานี้มีการสถาปนาไว้ในยุคสมัยอาณาจักรศรีวิชัยไศเรนทร์วงศ์ ของพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ซึ่งในยุคนั้นเศรษฐกิจการค้าการเดินเรือได้เฟื่องฟูถึงขีดสุด พ่อค้าสำเภาทั้งหลายล้วนเป็นมหาเศรษฐีกันแทบทั้งสิ้น ซึ่งเขาเหล่านั้นได้บูชาวัตถุสิ่งหนึ่ง นั่นคือพระเจ้าเงินตรานี่เอง ซึ่งได้ปรากฏหลักฐานเป็นพระพิมพ์ เป็นรูปท้าวกุเวร(เวสสุวรรณ) คชลักษมี(มหาศักติ)

    พ่ออาจารย์ท่านเมื่อได้ทราบเเล้วว่าครูต้องการให้ทำอะไรท่านก็ดำเนินการขออนุญาติเเละทำ โดยที่ท่านได้ขอความเห็นชอบจากพระเเม่ลักษมีก่อน ซึ่งท่านได้กล่าวว่า พระลักษมีนั้นคืออำนาจแห่งมหาศักติมวลพลังงานของมหาจักรวาลที่เป็นรูปแทนแห่งทรัพย์สินเงินทองทั้งหมดและยังสามารถขจัดสิ่งที่เรียกว่าคราวซวย เคราห์กรรมทั้งหลายตลอดจนประทานโชคลาภแก่ผู้บูชาได้ หากผู้ใดไม่มีลักษมีประจำตัว ไม่มีลักษมีในบ้าน หรือเผลอสติลบหลู่ดูถูกเทพมารดาองค์นี้แล้ว ตรงกันข้ามความซวยและเคราห์กรรมทั้งหลายจะมาหยิบยื่นให้เขา บุคคลผู้นั้นจะต้องพบกับภัยพิบัติอันมีเหตุมาจากมหาพระเคราะห์ที่ยิ่งใหญ่นั่นคือพระเสาร์ ซึ่งเป็นดาวบาปเคราะห์ที่ส่งอานุภาพร้ายแรงสูงสุดหนักกว่าพระศุกร์หรือพระราหูทั้งสิ้น แต่เมื่อรับพระลักษมีเเล้ว อำนาจของมหาเคราะห์แห่งพระเสาร์ก็จะสิ้นสุดไป

    มนุษย์ทั้งหลายมักจะรู้เพียงว่ามหาลักษมีนั้นท่านเป็นชายาเอกเเห่งองค์พระนารายณ์เท่านั้น แต่มหาลักษมีนั้นนอกจากจะเป็นเทพที่อำนวยโชคลาภสูงสุดเเก่ผู้บูชาแล้วในขณะเดียวกันยังมีพระรูปสวยงามที่สุด อ่อนหวานที่สุดด้วยในหมู่พระเเม่เจ้าทั้งสาม อันได้แก่ อุมาเทวี มหาลักษมี พระสุรัสวดี เเละพระโฉมของพระนางนั้นยังงดงามเกินกว่าเหล่าอับสรสวรรค์และนางฟ้าทั้งหมดอีกด้วย

    ท่านว่าการสร้างเทวีมหาลักษมีในครั้งนี้นั้นท่านใช้ขี้ผึ้งมานั่งปั้นนั่งแกะ เมื่อสำเร็จแล้วจึงนำหุ่นเทียนนั้นไปแช่ในน้ำทิพย์มนต์อยู่เกือบขวบปี ชักยันต์นะสำเร็จ นะมหากำเนิด ใส่ในหุ่นเทียนและน้ำทิพย์มนต์นั้น เพื่อให้เป็นกฤติยาคมแฝด ท่านว่าเหรียญนี้ดีตั้งแต่ยังเป็นหุ่นเทียนมีอานุภาพมากถึงปานนั้น

    พ่ออาจารย์ได้กล่าวว่าพระเจ้าเงินตรานี้ มีอานุภาพมากแม้เคราะห์หามยามร้ายที่สุด แม้ประธานเเห่งดาวบาปเคราห์อันให้โทษสูงสุดเช่นพระเสาร์ ก็ไม่สามารถส่งผลกับตัวคนที่บูชาได้ ซ้ำพระเสาร์เองยังเปิดทางเปิดโชคลาภให้เเบบสูงสุดอีกด้วย

    เนื้อแท้นั้น มหาลักษมีเทวีนี่แหละที่กุมกลไกเเห่งโชคลาภวาสนาของมนุษย์ชาติเอาไว้ ซ้ำยังเลือกที่จะอนุเคราะห์ให้ความช่วยเหลือใครก็เป็นดุลย์พินิจของพระองค์ท่านด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่า เชื่อมั๊ย แม้เเต่จะหาคู่ครองที่ดี ให้สมกับเป็นกุลสตรี ให้มีพร้อมซึ่งทรัพย์สินเงินทอง ก็ต้องขอจากท่าน ให้ท่านดลบันดาลให้คนเเบบบนั้นเข้ามาในชีวิตเรารักเราสนใจเรา ถือเป็นเทพที่ให้การอุปถัมภ์ในเรื่องความรักได้ดีที่สุด คนสมัยโบราณนี่ถ้าอยากได้ความรักได้สามีได้ภรรยาที่สมบูรณ์พร้อม ไม่ใช่คู่นอนกันฉาบฉวยก็ยังต้องขอกับพระแม่เจ้านี่แหละ

    มหาลักษมีนั้นท่านสงเคราะห์ไม่เลือกไม่ว่าจะหญิงหรือชาย เพราะท่านมีอารมณ์ความเมตตาแสดงออกมาเนืองๆ ผู้บูชาให้เรียกท่านว่าแม่ ใช้คำว่าแม่เเทนการระลึกถึงท่าน ให้ความรักความเคารพท่านอย่างสูงสุดแล้วจะเห็นเอง ที่เรียกว่าแม่รักลูก แม่หวงลูก แม่ตามดูแลลูกนั้นเป็นอย่างไร แม่เห็นลูกเจ็บลูกจนไม่ได้ แม่เห็นชีวิตลูกตกต่ำมิได้ พ่ออาจารย์ท่านว่านี่คือมหาลักษมีประทานพรอย่างแท้จริง

    ท่านให้ข้อคิดว่า พระรุ่นนี้มีอาถรรพ์แรงอย่างเเท้จริง ผู้บูชาไปติดตัวเป็นเสน่ห์เมตตามหานิยมอย่างมาก แม้ปรารถนาสิ่งใดให้อธิษฐานพระแม่เจ้าจะตอบรับคำขอนั้นๆ

    เมื่อท่านได้สร้างและหล่อหลอมเทวีมหาลักษมีขึ้นด้วยธาตุกายสิทธิ์สำคัญแล้ว ท่านจึงนำผงสำคัญต่างๆมาอุดด้านหลัง เช่น ผงเงินล้านของหลวงพ่อปานที่ใช้อุดในพระพิมพ์ทรงสัตว์ ผงเอกลาภเรืองยศ ผงโพธิสัตว์ค้าสำเภา ผงทศชาติเงินไม่ขาดมือ ผงเร่งลาภ ผงมารุมให้ทรัพย์ ผงราชาโชค ผงสิบสองนักษัตร ผงพญาหนูขนคำ ผงเงาะถอดรูป ผงนารายณ์นั่งเมือง ผงนาคราชคายแก้ว ผงอุดมทรัพย์ ผงขอลาภพระฉิมพลี ผงสิทธิลาภเจริญยศ ผงยันต์พระฤาษีตาไฟ ผงหัวใจกวักทรัพย์ ผงพระเจ้าค้าคำ ... ท่านว่าลงผงไว้มากเหลือเกินจนจำไม่ได้แทบทั้งหมด เอาผงนี้มานั่งสวดหนุนดวงหนุนโชคนับหมี่นรอบแสนรอบ ก่อนจะทำการผสมและอุดฝัง

    ท่านอุดผงและฝังตะกรุดสำคัญเช่นตะกรุดมหาสัตว์ปราบพิภพ(รุกฆาต) ควบคู่ไว้กับตะกรุดวิชาสืบชะตาดอกสำคัญที่ใช้ทุนสูงและทำยาอย่างยิ่งของท่าน เนื่องจากต้องบีบอักขระและใช้ปราณใช้สมาธิอย่างมากในการลงจึงทำให้ตะกรุดสืบชะตานี้เป็นตะกรุดที่แก่คุณวิชาอย่างแท้จริง

    วิชาสืบชะตาที่จะนำมาพูดคุยกันในวันนี้คือวิชาที่พ่ออาจารย์ท่านถนัดมากที่สุด พ่ออาจารย์ท่านมักทำวิชาสืบชะตา แต่ท่านก็ไม่ได้ทำบ่อยนอกจากจะสงเคราะห์คนเป็นบุคคลไป ถึงขนาดที่ว่าบางทีเดือดร้อนอย่างไรท่านก็ไม่ทำให้เลยนั่นก็มี เพราะเหตุผลว่าวิชาของท่านนั้นมีอานุภาพใหญ่มีวิธีการยุ่งยาก ใช้ทุนสูง และทำยาก


    ท่านว่าคนเรามักจะมีสิ่งที่เรียกว่าความซวย ดวงอาภัพ หรือการประสบเคราะห์กรรมตามวาระของตน มีตั้งแต่เคราะห์เล็กๆน้อยๆจนไปถึงเรื่องใหญ่ๆเช่นเสียสุขภาพ เสียมิตรภาพ เสียทรัพย์สิน เสียใจ เสีความรู้สึก เสียคนรัก เสียบุคคลอันเป็นที่รัก เสียชีวิต ท่านว่าไอ้ของเสียๆที่ไม่ช่วยให้ชีวิตรู้สึกดีทั้งหลายเหล่านี้เราเรียกรวมกันว่าเคราะห์ ทีนี้พอมีเคราะห์คนก็อยากจะล่วงเคราะห์หนีเคราะห์ขึ้น จึงมาประกอบพีธีสืบชะตา เพื่อที่จะทำให้ดวงดี คลายเคราะห์เสริมสร้างกำลังใจต่างๆกัน เป็นสัจธรรมความจริงอยู่อย่างหนึ่งว่าในปีๆหนึ่งนั้นไม่มีใครที่จะไม่ซวยหรือไม่มีเรื่องเสียใจซ้ำซากเลย นั่นก็เป็นเหตุที่ว่าเมื่อประกอบพิธีปีหนึ่งไปแล้ว ปีต่อไปก็ต้องมาเข้าพิธีอีก ปีต่อๆไปก็ต้องมาอีก ตัวมาไม่ได้ก็ต้องฝากชื่อวันเดือนปีเกิดทำพิธีกันให้วุ่นไป เพื่อจะได้มีกำลังใจล่วงเคราะห์ตัวนี้

    พ่ออาจารย์ท่านว่าพิธีก็เป็นส่วนของพิธี วิชาก็เป็นส่วนของวิชา มีความแตกต่างแต่เหมือนกันในบางลักษณะ ดังนั้นท่านที่เรียนและทำวิชาสืบชะตามาจึงได้สืบสานตำรับตำราไว้และทำให้เฉพาะเป็นรายบุคคลไป ด้วยเหตุผลที่ว่าวิชาสืบชะตาของท่านนี้ แตกต่างจากการไปเที่ยวประกอบพิธีทุกๆปีต้องทำไปตลอดทั้งชีวิตอย่างมาก ท่านว่าถ้าต้องไปทุกปีแบบนั้นมันเสียเวลา ต่ในส่วนของวิชานี้ขอแค่พก ยึดถืออาราธนาก็จะหนุนดวงชะตาให้ล่วงทุกข์ล่วงเคราะห์ได้ทั้งปีและยาวไปตลอดชีวิตตราบที่มีลมหายใจ ไม่ใช่แค่การเสริมกำลังใจ แต่เป็นพุทธานุภาพและเทวานุภาพขององค์พระและเทพพรหมต่างๆที่จะช่วยหนุนไม่ให้เราตกต่ำลงด้วยคุณของวิชา

    พ่ออาจารย์ท่านพูดไว้อย่างน่าคิดและน่าสำรวจตนเองว่า วิชาสืบชะตาของฉัน มันเป็นวิชาที่สร้างและเปิดโอกาสให้กับชีวิตคน อะไรที่มันหายมันหมด ไม่มีทางเป็นไปได้ทำไปก็มีแต่เหนื่อยกับเสียเวลาเปล่า คือชีวิตนี้มันหมดแล้ว รอไปทำไปก็เท่านั้นเพราะมันหมดไปแล้วไม่มีโอกาสอีกแล้ว แต่วิชาสืบชะตานี้ อย่างที่ว่ามันเป็นวิชาที่ใช้เปิดและสร้างโอกาส กับไอ้สิ่งที่อยากจะไขว่คว้า ที่มันหมด มันไม่มี มันไปไม่ถึงนั่นแหละ

    ประกอบกับการทำวิชาท่านว่ายากนักเพราะท่านต้องมานั่งชำระแผ่นโลหะใช้น้ำมนต์ร้อยแปดวัด น้ำผุดสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ตลอดจนน้ำมนต์บ้านนายธนาคารบ้านมหาเศรษฐีมาเป็นเชื้อชำระแผ่นโลหะ แต่ที่ยากไปกว่านั้นก็คือการตั้งสมาธิเพ่งกระแสจิตว่าคาถาเรียกสูตรอักขระเลขยันต์ลงจารในช่องตามกลวิชาถึงเก้าสิบกว่าอักขระตามสูตรยันต์ ท่านว่าที่ว่ายากเพราะไอ้ที่จารนี้เราจารลงในแผ่นโลหะขนาดเล็กบีบอักขระมากๆพอม้วนเป็นตะกรุดแล้วก็มีขนาดประมาณหนึ่งนิ้ว ท่านว่าสมัยนี้ใครจะมานั่งบีบนั่งจารเช่นนี้ไม่มีอีกแล้ว ท่านว่าที่ต้องบีบต้องจารต้องเพ่งสมาธิกันมากๆนั้น ก็เพราะว่าเราตั้งใจทำให้ใช้ติดตัว ทำให้เค้าพกอาราธนาให้เขาได้ดี ทำให้เอาไปสืบอายุ สืบชะตา สืบวาสนา สืบบารมี ไม่ให้มันหมดมันพร่อง ที่ว่างอยู่กลวงอยู่ก็ให้เป็นมรรคเป็นผลให้มันฟูมันเต็ม ท่านจึงเมตตานั่งบีบอัขระลงจารและทำพิธีลงมนต์สืบชะตาต่อวาสนาให้อย่างดี ท่านว่าอย่าว่าแต่เราผู้อายุมากมาทำเช่นนี้เลย ต่อให้อายุน้อยๆก็ไม่มีใครเขาอยากจะทรมานสังขารมาทำ เช่นนี้จึงไม่ได้ลงแจกหรือจะทำให้ใครก็ได้ พูดให้ถูกคือคนที่ถือวิชาสืบชะตาของท่านนับหัวได้และมักมีเรื่องเล่าอัพเดทมงคลชีวิตกันเสมอๆ จึงทำให้ท่านจดจำได้ว่าวิชานี้ดีหรือมีอานุภาพมีประสบการณ์กันอย่างๆไร

    ในวาระนี้ท่านถือว่าท่านทำให้เฉพาะกิจ ทำให้กับคนที่วาสนาเปิด มีดวงที่จะรวย จะเป็นคนประสบความสำเร็จ เป็นเจ้าคนนายคนอาราธนา ถ้าใครดวงปิดวาสนาปิดต่อให้เขาเห็นตำตาเขาก็ไม่รู้ค่า ย่อมจะทิ้งจะปล่อยไปเหมือนเจ้ากรรมนายเวรบังตา ท่านว่าทำให้กับคนที่เค้าคู่ควรกับมหาลักษมีได้ไว้บูชา

    ท่านได้ปลุกเสกเหรียญหล่อสำคัญนี้อยู่สองปีเชิญครูและประสิทธิวิชาหาลาภ เร่งลาภ ได้โชคลาภวาสนาต่างๆอยู่นาน ท่านว่านี่สำคัญนะเป็นทั้งธาตุศักดิ์สิทธิ์แลมวลสารพิเศษมากมาย รูในโลกทิพย์ท่านโสมนัสยินดีกันอย่างมาก ท่านประสิทธิพลังร่วมกันสร้างบุญบารมีนับหมื่นนับแสนเพื่อช่วยให้มวลสัตว์ล่วงทุกข์ครั้งนี้ในรูปของมหาลักษมี ทำครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งสำคัญเพราะเป็นรูปอาถรรพ์ที่ส่งผลต่อชะตาการเงินและทรัพย์สินของผู้ถือครองอย่างแท้จริง ท่านว่าชีวิตเคยเป็นอย่างไรมาฉันไม่รู้ รู้แต่ว่าแรงครูและอานุภาพแห่งคุณวิชาสำคัญทั้งสองนั้นพลิกชะตาชีวิตได้ง่ายเหมือนตัวเองลองยกมือมาพลิกกลับเช่นนั้นฉันบอกได้เท่านี้


    คาถาบูชา
    โอม ชยะ ศรี ลักษมี มาตา โอม ศรี ลักษะมิไย นะมะห์ โอม มหาลักษะมิไย นะโมนะมะห์ โอม วิษณุปรียาไย นะโมนะมะห์ โอม ธะนะประทาไย นะโมนะมะห์ โอม วิศวาจะนันไย นะโมนะมะห์
    *ตั้งจิตขอพรแห่งชัยชนะในการเสี่ยงโชค การงาน โภคทรัพย์เงินทอง ตั้งจิตขอพรดังนี้ โอม ไชยะ ปัทมาวิศาลักษิ ไชยะตวัมศรี ปติปริเย ไชยะมาตา มหาลักษมี สะมะสะระณะ วันณะวะธาระนี

    * พ่ออาจารย์ท่านสร้างเหรียญหล่อมหาศักติพระเจ้าเงินตราสืบชะตารุกฆาต(ประสิทธิพรชัย)ไว้ทั้งหมดหกองค์ รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น สำหรับผู้ที่จะบูชาพ่ออาจารย์ท่านให้แจ้งชื่อสกุลวันเดือนปีเกิดไว้ด้วย ท่านจะเป่ามนต์สืบชะตาประสิทธิให้พร้อมกับเทวีมหาลักษมี ท่านว่าจะได้สืบบุญต่อยอดความมั่งคั่ง เปิดทางชีวิตในทุกๆด้านถือว่าทำให้เป็นของขวัญปีใหม่หนนี้ รายได้ร่วมสมทบทุนสร้างพระใหญ่ประดิษฐานในวัดทุรกันดารสืบไป


    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญหล่อมหาศักติพระเจ้าเงินตราสืบชะตารุกฆาต(ประสิทธิพรชัย) บูชา 4,000 บาท


    image.jpg SAM_5490.jpg SAM_5493.jpg SAM_5495.jpg porpan.jpg 619172-img-1339390725-1.jpg 10676138_808314599239410_2202677293306947775_n.jpg
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา ขุนแผนบรมครูพรายทิพย์พระเจ้าข้ามโลกทรงมหาปาฏิหาริย์(ฝังผงจอมภพซุ้มวิมานฟ้าครอบแท่งยาแฝดคลั่งรักสั่งรวย)


    เปิดศักราชใหม่นี้พ่ออาจารย์ท่านมีดำริและความตั้งใจที่จะนำพระมหาพุทธพิมพ์สำคัญ ที่ใช้ความละเอียดพิถีพิถันในทุกขั้นตอนการสร้างออกมาให้ร่วมทำบุญเป็นมหามงคลของชีวิต โดยองค์พระสำคัญนี้ทุกขั้นตอนท่านตั้งใจสร้างตามดำรัสของเสด็จพระใหญ่อย่างแท้จริง

    เมื่อแรกท่านมีความคิดจะทำพระขุนแผนนั้น ท่านตั้งใจจะลงวิชาทางมหาเมตตา มหาเสน่ห์ มหาประสาน มหานิยม มหารัก มหาหลง ให้ครบถ้วนจบกระบวนความ แต่เมื่อเริ่มทำแล้วด้วยแรงครูและความเมตตาของเสด็จพระใหญ่ ท่านได้ให้พ่ออาจารย์แก้แบบอยู่เนืองๆ จนถึงกับท่านออกปากว่าทีแรกตั้งใจจะทำพระพิมพ์ธรรมดา แต่ทำไมทำไปทำมาถึงออกมาเป็นแบบนี้ได้อย่างน่าฉงน

    พระขุนแผนพิมพ์สำคัญนี้เรียกว่าเป็นของสำคัญนักที่ได้อุบัติขึ้นมา เป็นพิมพ์พระเจ้าข้ามโลกทรงมหาปาฏิหาริย์อยู่ในซุ้มขุนแผน ท่านว่าเสด็จพระใหญ่ท่านสั่งไว้แต่เริ่มว่าถ้าจะทำพระพิมพ์นี้ให้สำเร็จ ต้องทำให้เป็นทิพย์ ท่านจะช่วยในส่วนนั้นเอง พ่ออาจารย์ท่านจึงแกะพิมพ์ตามพุทธนิมิตเป็นรูปองค์พระบรมครูทรงเสด็จลงจากบันได้แก้วบนยอดเขาสิเนรุราช โดยซ้ายขวานั้นมีรูปเทพพนมเป็นตัวแทนของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในหมื่นโลกธาตุ ท่านว่าเบื้องซ้ายนั้นคือตัวแทนของท้าวสหัมบดีพรหมและเหล่ามหาพรหมสุทธาวาสตลอดจนพรหมทั้งหมื่นโลกธาตุที่ตามเสด็จพระศาสดา ส่วนเบื้องขวานั้นคือองค์อมรินทร์เป็นตัวแทนของเทพยดาเจ้าทั้งหมื่นโลกธาตุเช่นกัน

    ด้วยคติที่ว่า เมื่อทำขุนแผนปางพระเจ้าข้ามโลกทรงมหาปาฏิหาริย์แล้ว จะเป็นเสน่ห์ยิ่งกว่าเสน่ห์ใดๆ เหนือกว่าพลังของพรหม ของเทพ ของพราย หรือแม้แต่อำนาจที่จะพึงมีในพระพิมพ์ปกติ ด้วยเมื่อพระศาสดานั้นแสดงยมกปาฏิหาริย์ ขณะที่ทรงประทับณ.บันได้แก้วอันองค์อมรินทร์เนรมิตรให้เพื่อเสด็จลงจากดาวดึงส์ ตอนนั้นทรงแสดงมหาโลกวิวรณปาฏิหาริย์เปิดโลกทั้งสามให้รู้แจ้งมองเห็นซึ่งกันและกันโดยตลอดทั้งเบื้องบนและเบื้องล่าง การกระทำมหาปาฏิหาริย์ท่านกลางหมู่เทพพรหมบรรษัทนั้น พระตถาคตเจ้าทรงมีพระสิริราศีสรรพโสภาคงดงามเลิศล้ำกว่าปกติ ประกอบด้วยพุทธรัศมี สง่า งดงาม และสงบ เกินกว่าเทพเจ้าทั้งหมื่นโลกธาตุ และหมู่มหาพรหมผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหมดจะแสดงความงดงามเช่นนั้นออกมาได้ แม้มนุษย์ เทพทั้งอสงไขยโกฏิ ตลอดจนท้าวมหาพรหมทั้งหลายมีท้าวสหัมบดีเป็นปฐมก็ยังเพ่งพินิจชื่นชมในพระรูปอันเฉิดฉายนั้นตะลึงค้างไม่วางตา แม้กระทั่งพระอรหันต์เองอย่างพระธรรมเสนาบดีสารีบุตรยังบังเกิดปิติมีความยินดีสุดประมาณ เอ่ยวจีขานกล่าวสรรเสริญสมเด็จพระบรมโลกนาถว่าสง่า สงบ งดงาม อย่างน่าอัศจรรย์เกินกว่าเทพพรหมบรรษัททั้งหลาย กอปรกับเสด็จพระใหญ่ท่านได้ดำรัสให้ทำพระพิมพ์นี้อย่างมีนัยยะเป็นกฤติยาคมแฝด ด้วยว่าเบื้องหลังทางเสด็จนั้นได้ทำพิมพ์เป็นบันไดรองรับพระบาทไว้ด้วย

    ตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านพูดไว้อย่างน่าฉงนเพียงคำสั้นๆ ท่านว่าเสด็จพระใหญ่กล่าวไว้ดังนั้น ว่า"ชีวิตที่ไม่มีที่เหยียบที่ยืน จะคิดทำอะไรก็ลำบาก" ท่านได้พิจารณาแล้วก็เห็นตรงกัน ด้วยว่าสัตว์นั้นแม้มีความเพียร พยายามให้เหนื่อยปานจะตายเช่นใด หากไม่มีที่ให้เหยียบให้ยืน ไม่มีบันไดชีวิตให้ก้าวขึ้นไปอย่างมั่นคงแล้ว ก็พลันแต่จะต้องกะโดดบ้าง สะดุดบ้าง ล้มบ้าง ดุจมนุษย์อยากจะไปยืนอยู่บนท้องฟ้า ก็ต้องใช้สมองใช้ความคิด เจอเขาก็ต้องปีนไป ที่คิดไม่ออกก็ต้องเจ็บตัวเปล่า แต่ถ้าทางเดินที่อยากจะไปเหยียบนั้นมีบันไดรองรับ ค่อยๆก้าวเดินอย่างมั่นคงไปทีละก้าวจะต่างกันอย่างไรกับที่ต้องพยายามเองทั้งหมด

    ความสำคัญของพระพิมพ์นี้ท่านว่าเราไม่ได้ทำไว้ให้คนที่อยู่ดีมีสุขใช้ ไม่ได้ทำไว้ให้เป็นเพียงขุนแผนเพื่อไปสังวาสกับใคร แต่เสด็จพระใหญ่ท่านตั้งใจให้ทำไว้เพื่อแก้กฏของกรรม ให้คนมีที่ยืน มีที่เหยียบ มีบันไดทิพย์ก้าวขึ้นไปด้วยกำลังของตนอย่างมั่นคง เป็นบันไดทิพย์ที่พระอินทร์มาเนรมิตให้ เป็นเส้นทางอันประเสริฐที่จะก้าวไปพร้อมกับแรงครูและเทพยดาเจ้าขับหนุน ให้สำเร็จทุกกิจ ทุกความปรารถนา เสมอองค์พระศาสดาบรมไตรโลกนาถได้ประทับยืนและเสด็จบนบันได้แก้วอันองค์อมรินทร์เนรมิตถวายอย่างมั่นคง ด้วยพุทธานุภาพแม้รับไปก็จะค่อยๆคลายกฏของกรรมออก กฏใดที่ผูกมัดรัดตัวจะย่อหย่อนลง ท่านว่าไม่ได้ไปทำลายหรือริดรอนนะเพราะผิดกฏมหาวัฏจักร แต่จะคลายตัวลงจนสิ้นกำลัง อะไรที่ว่ายากในชีวิต ไม่เคยได้รับ ไม่เคยสำเร็จ ต้องเหนื่อยน้ำตาเป็นสายเลือดก็ยังไม่ได้รับ เมื่อกฏของกรรมที่ผูกมัดคลายตัวก็จะได้ขึ้นมาทันที ด้วยบารมีพระเจ้าข้ามโลกนี้ แม้ภพภูมิทั้งหลายก็ยังข้ามมาแล้ว ประสาอะไรกับเคราะห์กรรมและอุปสรรค ที่สำคัญนี่เป็นพระขุนแผนเปิดโลกด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของทิพย์มีกำลังมาก เวลาเสกนี่ต้องเปิดทั้งหมดเลยทั่วทุกแดนโลกธาตุ เมื่อได้ไว้บูชาก็จะเปิดทางสว่างไม่มีหนทางมืดบอดอีกต่อไป

    พ่ออาจารย์ท่านได้รวบรวมมวลสารต่างๆเพื่อจัดสร้าง ดังต่อไปนี้ ผงสมเด็จวัดระฆัง ผงยาวาสนาจินดามณีหลวงปู่บุญวัดกลางบางแก้ว ผงพระพุทธคุณคาถาลบมือหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ผงพรายกุมารหลวงปู่ทิมวัดละหารไร่ ผงทำพระหลวงพ่อกวยวัดโฆสิต ผงจักรพรรดิ์หลวงปู่ดู่วัดสะแก ผงคู่ชีวิตสายหลวงพ่อพิธวัดฆะมัง ผงวิเศษ 5 ประการ ผงพุทธคุณนะหน้าทองพระลักษณ์หน้าทอง ผงอิทธิเจเสน่ห์กล ผงสาวสามหมู่บ้านกินน้ำบ่อเดียวกัน ผงพระสีวลีเร่งลาภ ผงมนต์พระกาฬสะท้อนกลับ ผงบทพระอิติปิโสธงชัย(ถอยหลัง) ผงมหาหลงใจขาด ผงทวิมหาภูติทองคำ ผงว่านสำคัญ 108 ชนิด ผงกรุบางขุนพรหม ผงดินก้นกรุและพระกำแพงซุ้มกอแตกหัก น้ำทิพย์มนต์ธรรมชาติที่ผุดเองตามถ้ำและเศียรพระพุทธรูปต่างๆ พยองคำ สีผึ้งผีหุงหลวงปู่ทิมวัดละหารไร่ สีผึ้งเขียวท่านพ่อทาบวัดกะบกขึ้นผึ้ง สีผึ้งช้างตกมัน สีผึ้งจันทร์เพ็ญ น้ำมันกฤษณา น้ำมันพระเจ้าตาก.....

    ท่านได้นำผงวิเศษทั้งหมดมาปั้นรวมกันแล้วเสกด้วยวิชาปถมังโลกีย์ก่อนจะกดพิมพ์ ท่านว่าวิชานี้สำคัญนัก แม้ถึงขนาดขอทานพิการทุพพลภาพก็ยังจะได้คู่ในเร็ววัน เป็นวิชาทางมหาชิด มหาหลง พกพาไปจะทำให้คนหันมาสนใจตัวเราเป็นที่สะดุดตาอย่างประหลาด เมื่อสะดุดตาเขาย่อมให้ความสำคัญและมีเราอยู่ในใจเช่นนั้น

    ขุนแผนบรมครูพรายทิพย์พระเจ้าข้ามโลกทรงมหาปาฏิหาริย์นั้น ด้านหลังจะฝังของสำคัญสามอย่างดังนี้
    - ผงจอมภพซุ้มวิมานฟ้าครอบ เป็นผงสำคัญที่เสด็จพระใหญ่ท่านประทานให้แก่พ่ออาจารย์โดยตรง อันผงวิเศษนี้เป็นของสำคัญมากท่านได้นำมาบรรจุไว้ด้านหลังองค์พระ ด้วยว่าจะช่วยค้ำจุนเหล่าผู้ที่มีกำลังน้อย กำลังใจไม่ถึง ท่านว่าผงทุกขวดนั้นเป็นผงวิภูติของเสด็จพระใหญ่ ต้องมีบุญบารมีและผูกพันธ์กันอย่างมากกับพระองค์นะถึงจะได้ครอบครองท่านเรียกสั้นๆว่าผงจอมภพ คือจะช่วยให้เป็นใหญ่ในภพภูมิ มีรากฐานมั่นคงสืบทอดกันไปนับอายุคน ด้วยผงนี้แหละที่จะเป็นสิ่งสำคัญ เล่นกันตรงๆเลยกับอำนาจกฏแห่งกรรมทั้งหลาย ตลอดจนเป็นตัวดึงดูดให้สร้างและเพิ่มบารมีอย่างไม่รู้จบ ท่านว่าคิดเอาแล้วกัน แค่ผงนี้ฝังไปในองค์พระ องค์พระก็มีวิมานแก้วเก้าประการอันปราณีตและละเอียดสูงสุดครอบเอาไว้แล้ว เป็นนิมิตสิริมงคลอันจะบังเกิดแก่ผู้บูชา ไปไหนก็มีวิมานครอบ เทวดาครูพระครูเทพตามรักษานับแสนโกฏิ
    - แท่งยาแฝดคลั่งรักสั่งรวย แท่งยาสั่งเสน่ห์ที่พ่ออาจารย์ท่านอธิษฐานถวายเสด็จพระใหญ่และครูสมเด็จให้อธิษฐานจิตต่างกรรมต่างวาระ ท่านว่าเสด็จพระใหญ่ท่านรับยาชุดนี้แล้วเมตตาอธิษฐานจิตให้หลายวาระอยู่เนืองๆ ด้วยท่านมีโองการไว้ว่ายานี้เป็นของโบราณมีฤทธิ์เป็นเลิศทางสะกด สามารถสั่งจิตใจและพฤติกรรมของสรรพชีวิตได้ ท่านว่าหากใช้เป็นก็ดี หากใช้ไม่เป็นแม้จะสั่งให้ตายก็ยังถึงตาย ดังนั้นพระองค์จึงอธิษฐานจิตให้หลายวาระโดยใช้พลังงานพื้นฐานของยาเป็นสิ่งขับเคลื่อนความปรารถนา อารมณ์ ความต้องการของมนุษย์ ในชั้นหลังนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงเรียกแท่งยาเหล่านี้ว่ายาสั่งรวยหรือแท่งยาทิพย์พระเจ้าสั่งรวย แท่งยาที่เปลี่ยนยาจกยังกลายเป็นเศรษฐีมหาศาล ซ้ำยังมีอานุภาพทางเมตตามหาเสน่ห์สูงสุด พ่ออาจารย์ท่านเมตตาหักแท่งยานี้มาฝังในองค์พระเพื่อตัดปัญหาการนำไปใช้ผิดที่ผิดทางทั้งหลาย
    - ตะกรุดสะเดาะเคราะห์ ท่านว่าเป็นของสำคัญให้ติดตัวไว้จะได้หน้าใสไม่อมทุกข์ วิชานี้จะปราบสิ่งเลวร้าย ตัดกรรมร้ายหนุนส่งกรรมดีในห้วงเวลาที่เหมาะที่ควร ตัดอุปสรรคเรื่องติดขัดรบกวนใจทั้งหลาย ท่านว่าเกิดมาเป็นมนุษย์นี้มีวันไหนหนีพ้นกันบ้าง เคราะห์กรรม ปัญหาชีวิต ปัญหาครอบครัว ปัญหาการงาน ลืมตาตื่นมายังไม่ทันทำอะไรสมองก็คิดเห็นปัญหาขึ้นมาเต็มไปหมด พ่ออาจารย์ท่านว่าชีวิตเช่นนี้ย่อมไม่ดี ไม่มีเวลาจะเป็นสุขใดๆแน่นอน ท่านจึงทำตะกรุดพิเศษนี้ฝังไว้ให้ในพระพิมพ์พิเศษเฉพาะกาลนี้ให้คุณหนุนส่งกัน

    ขุนแผนรุ่นนี้เป็นพรายทิพย์นะ พรายทิพย์ของฉันคือเทวดาไม่ใช่ผี ขุนแผนอย่างนี้พิมพ์นี้ไม่ใช่เป็นพรายทิพย์เท่านั้นแต่เป็นพรายทิพย์ที่มีนับล้านโกฏิ แม้อยู่ที่ไหนเทพยดาเจ้าก็อยากจะลงมากระทำนมัสการหรือปรารถนาจะอยู่ใกล้ๆเพื่อชื่นชมพุทธบารมีในมหาปาฏิหาริย์

    พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าพระพิมพ์พิเศษนี้ "จะเป็นพระพิมพ์ที่จะสร้างคนให้เป็นจอมคน" สร้างคนให้เป็นตำนานอย่างแท้จริง ท่านว่าทำยาก ไม่ใช่ยากเพราะทำให้เป็นทิพย์ แต่ยากเพราะต้องเสกในสถานที่ต่างๆตามความเหมาะสม และยากเพราะเป็นพระที่จะสร้างคน สร้างเนื้อ สร้างตัว ลดทุกข์ คลายเคราะห์ เป็นมหาเมตตาใหญ่ไม่มีทิพยภาวะใดมาเบียดเบียนมีแต่จะหนุนส่งกันสูงขึ้นไปถึงเทวโลก พรหมโลก และในนิพพาน ครูทุกพระองค์จะหนุนและยื่นมือรับพร้อมส่งต่อขับดันเราทุกชั้นทุกทอดด้วยความรัก ความยินดี ดังนั้นพระนี้จึงมีเจ้าของถือครองแต่เบื้องอดีตกาลอันมีบุญสัมพันธ์กับเสด็จพระใหญ่ทุกองค์ ท่านพูดมาอย่างน่าประหลาดว่า "มีแต่ผู้ที่ลงมาจากเบื้องสูง ลงมาเพื่อสร้างบารมีถึงจะทันเห็นทันได้เท่านั้น"

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเปิดศักราชใหม่ จะให้ดีไปทั้งปี ดีไปทั้งชีวิต ก็จะให้ร่วมบุญกัน แต่เราสร้างไว้ได้ไม่มาก เพียงแค่หกองค์เท่านั้น เพราะเป็นของสำคัญที่ไม่ใช่ว่าจะไปอยู่กับใครก็ได้ เป็นพระเปิดโลกและข้ามโลกไปพร้อมๆกัน ถึงขนาดที่พ่ออาจารย์ท่านกล่าวรองรับว่านี่เป็นพิมพ์ขุนแผนที่ประเสริฐที่สุดในชีวิตของฉัน

    คาถาบูชา
    ปฐมพุทโธ พระสัทธัมมะรังสี มุนิโน มัตถะเกสุภัง

    * พ่ออาจารย์ท่านว่า องค์พระนี้ฉันไม่ต้องทำอะไรอีกแล้ว เป็นของทิพย์ เป็นของสำเร็จ ดังนั้นจะแต้มเจิมสรรเสริญพุทธคุณให้เพียงเท่านั้น ขอให้ใช้ด้วยจิตที่เชื่อมั่น อย่านำไปใช้ผิดที่ผิดทางทำเรื่องไม่สมควรก็พอ รับสั่งจองเฉพาะทาง PM ผู้จองแจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วย รายได้ร่วมสมทบทุนหล่อพระใหญ่และพระประธานตามชนบทต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ขุนแผนบรมครูพรายทิพย์พระเจ้าข้ามโลกทรงมหาปาฏิหาริย์(ฝังผงจอมภพซุ้มวิมานฟ้าครอบแท่งยาแฝดคลั่งรักสั่งรวย) บูชา 4,000 บาท


    035.jpg Capture.png in_4.jpg SAM_5499.jpg SAM_5500.jpg image.jpg hqdefault.jpg pic-25231-1.jpg lp-guay.jpg
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา ลูกสะกดทุกข์ฝังตะกรุดเม(มหาสะท้อน)

    เป็นที่จับตารอกันมายาวนาน สำหรับตะกรุดมหาสะท้อนแต่ละสูตรซึ่งนานทีปีหนจะมีออกมาให้ร่วมทำบุญบูชากันซักครั้ง เพราะพ่ออาจารย์ท่านไม่ทำพร่ำเพรื่อนั่นเอง

    ในการสร้างวิชามหาสะท้อนครั้งนี้ ท่านเมตตาทำมาในรูปแบบลูกสะกด พ่ออาจารย์ท่านว่าลูกสะกดนี้เป็นของสำคัญสายเสด็จพระใหญ่ เพราะต้องหามวลสารลบผงทำผงไว้ให้เป้นผงสำเร็จในระดับแรกก่อน ท่านเรียกผงนี้ว่าผงสะกดทุกข์ เมื่อลงผงสะกดทุกข์เสร็จแล้วจึงจะนำมาปั้นเป็นลูกสะกดโดยสอดตะกรุดเมหรือมหาสะท้อนไม้ภายใน

    อันลูกสะกดทุกข์นี้ ท่านว่าใช้ได้สารพัดครอบฟ้าคลุมดิน อะไรที่เกี่ยวกับทุกข์มันสะกดไว้ได้ทั้งสิ้น เป็นการทำวิชาเพื่อข่มใส่ ให้หยุด ให้รั้ง ให้ชะลอไว้ ให้ทุกข์และความตึงเครียด ความศร้าหมองทั้งหลายชะลอตัว ท่านว่าผงนี้ทำยาก ทำได้ไม่มาก เพราะชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าสะกดทุกข์ สะกดความทุกข์เข็ญทั้งหลาย ผงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าลองพกไปดูเถิด นอกจากสะกดทุกข์แล้วยังจะทำให้จิตใจสดชื่น ทำให้ใจสูง มีกำลังใจมากอย่างน่าประหลาด

    ดังนั้นจึงจำเป็นต้องนำมาปั้นทำเป็นลูกสะกดทุกข์สอดตะกรุดเมไว้ภายใน พ่ออาจารย์ท่านว่าโดยปกติแล้วตะกรุดมหาสะท้อนธรรมดาก็แรงพอใจอยู่แล้ว แต่ลูกสะกดทุกข์ที่มีมหาสะท้อนนี้ยิ่งกว่านั้นเพราะใช้กันและแก้ได้แม้กระทั่งตัวทุกข์ของสรรพสัตว์

    โดยปกติสำหรับตะกรุดมหาสะท้อนนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าจะเน้นทางปกป้องคุ้มกันตลอดจนคุ้มครองและให้ผลสะท้อนกลับเท่านั้น ซึ่งต่างจากลูกสะกดทุกข์ฝังตะกรุดเมนี้เพราะตำรับนี้จะมีครบรสในลูกเดียว ท่านว่าได้ไม่ต้องห้อยกันหลายอย่างบูชากันหลายดอก เพราะท่านทำให้ยิ่งกว่ามหาสะท้อนเสียอีก


    ตะกรุดเมนี้เราทำไว้ให้ใช้กัน สะท้อนโรคเวรโรคกรรมได้ทั้งสิ้น ไม่มีข้อแม้ใดเลยเพราะเป็นกันสะท้อนที่สำเร็จด้วยคุณแห่งวิปัสสนาขององค์พระทั้งแสนโกฏิ การสำเร็จตะกรุดมหาสะท้อนด้วยคุณแห่งวิปัสสนาขององค์พระแสนโกฏิอันมีสมเด็จองค์ปฐมเป็นอาทินั้น นอกจากยากและใช้เวลานานแล้ว แต่ผลที่ได้ท่านว่าก็คุ้มกับเวลาที่เสียไปหลายปี เพราะท่านว่าจะอธิบายให้เข้าใจกันแบบง่ายๆ ให้ดูองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไว้เวลามีคนคิดร้ายหรือกระทำการณ์ใดๆหมายรังแกพระบรมศาสดา ท่านว่าสิ่งนั้นย่อมสะท้อนย้อนกลับไป ไม่ต้องรอชาติหน้าฉันใด ผลกรรมนั้นเห็นคาตากันในชาตินี้ ตะกรุดมหาสะท้อนที่สำเร็จด้วยบารมีองค์พระทั้งแสนโกฏิในนิพพานก็มีคุณเช่นนั้น ท่านว่าบอกได้เท่านี้นะ

    เนื่องจากเป็นของสำคัญและทำได้น้อย พ่ออาจารย์ท่านว่าพูดมากไม่ได้ คนเอาไปเค้าก็รู้เองเห็นเอง ชื่อเขาก็บอกตรงๆอยู่แล้วว่าลูกสะกดทุกข์ ดังนั้นคนมีความทุกข์ก็ต้องใช้ และคงเป็นครั้งเดียวที่เราจะทำตะกรุดมหาสะท้อนในรูปแบบลูกสะกดทุกข์เช่นนี้

    เพราะว่าของแบบนี้เขามีเจ้าของทุกคน อย่าปรามาส อย่าดูถูก นี่แหละเล็กดีแต่รสโต มีอานุภาพเกินตะกรุดเมปกติไปมากมาย ด้วยเสด็จพระใหญ่ท่านเมตตาทำให้เอง ลำพังผงสะกดทุกข์นี้ก็ไม่ธรรมดาแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าเราขอเสด็จท่านไว้ ให้คนเอาไปใช้ต่อเติมความสุข ต่อชะตาวาสนาตน ลูกสะกดนี้อย่าเอาไปใช้รังแกใคร อย่าเอาไปสะกดหรือกลั่นแกล้งใคร ท่านว่านอกจากสะกดทุกข์แล้วมันยังสะกดได้ทุกสิ่งด้วยเช่นภยันตรายต่างๆ แต่ตรงนี้เราจะไม่พูด เพราะพูดเยอะไปคนจะเอาไปเล่นไปทำโทษแก่ชีวิตสัตว์ทั้งหลายเช่นนี้ย่อมไม่จำเป็นต้องใช้

    คาถาบูชา
    อิติปิโสภะคะวา สัมมาที่ไหน สัมไปที่นั่น นะอยู่หัว โมอยู่ท้าย ศัตรูคิดร้าย มรณะสันติ โอม มะกระดอนศรทอง เมสัมมุกขา สัพพาหะระติ เตสัมมุกขา ขอให้สะท้อนย้อนกลับไป ด้วยเดชเดชะแห่งมะอะอุนี้เทอญ

    * ลูกสะกดทุกข์นี้ พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ทั้งหมด 9 ลูก ให้สั่งจองบูชาเฉพาะทาง PM เท่านั้น

    ร่วมทำบุญบูชา ลูกสะกดทุกข์ฝังตะกรุดเม(มหาสะท้อน) บูชา 500 บาท


    newchin9.jpg SAM_5502.jpg SAM_5503.jpg 7_B1.jpg
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญ"พ่อ"ตราล้างบาปเปลี่ยนวัฏฏปกาศิตพระหระสดาจารประทับวาสุกรีนาคราช(ฝังมหาภูติโลกันต์)

    แรกเริ่มนั้น พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจเพียรใช้ผงวิเศษ ว่านยา ลบผงมหาคุณทั้งเก้าสาย เก้าวิชา เก็บไว้รอโอกาสสร้างเครื่องมงคลชั้นสูง ด้วยเป็นการลงผงมหาวิเศษเรียกสูตรชักยันต์เก้าชนิด มีคุณต่างๆกันไปก่อนจะนำมารวมเป็นผงโถหนึ่งนั้นเอง อันผงมหาคุณทั้งเก้าสายนั้นประกอบไปด้วย

    - ผงกันปีศาจ กันภูติผี สัมภเวสี อสุรกายทุกชนิด ผงนี้จะกันการทำร้ายจากมือมืด หรือสิ่งมีชีวิตที่มองไม่เห็นในจำพวกมิจฉาทิฏฐิทั้งหมด
    - ผงกันเดรัจฉาน ใช้กันสัตว์เดรัจฉานต่างๆอันจะเป็นอุบัติเหตุให้เกิดแก่ชีวิตด้วยการทำร้ายเรา เช่น ช้าง โค กระบือ เสือ สิงห์ต่างๆบรรดามี
    - ผงกันข่ม ใช้กันข่มจกผู้มีอำนาจมากกว่า รวมไปถึงการกลั่นแกล้งต่างๆให้ชีวิตเราวิบัติจากทั้งไสยศาสตร์ การกระทำมนุษย์และอานุภาพดวงดาวต่างๆ ท่านว่ากันข่มทั้งหมด ไม่ให้มีสิ่งแวดล้อมใดมาสะกด มาข่ม มากดหัวกดชีวิตเอาไว้
    - ผงกันศาสตราวุธ ท่านว่าผงตัวนี้ปืนผาหน้าไม้ ศาสตราวุธทั้งหลายเมื่อทำร้ายเรา จะไม่ปรากฏอันตรายแก่ชีวิต เอาตัวรอดได้ ไม่ตายด้วยศาสตราวุธทั้งปวง
    - ผงเข้าหาเจ้านาย ผงนี้ทำไว้สำหรับเวลาเข้าหาผู้ใหญ่ หรือจะสมาคมด้วยคนชั้นสูงก็ดี ผู้มีอายุมากกว่าก็ดี พูดอะไรไปเขาเชื่อหมด เขาเมตตาเราดุจลูกในไส้ เลือดในอก อุปมาดุจว่าแม้มีความผิดถึงที่ตายก็ยังฆ่าไม่ลง เอาไว้ใช้ในการงาน ในชีวิต จะทำอะไรคนเขาจะโอนอ่อนผ่อนปรนให้อย่างน่าประหลาด
    - ผงเรียกลาภ ผงนี้หาลาภดี ค้าง่ายขายคล่อง ทำอะไรได้ผลเกินตัว ได้กำไรสูงไม่มีขาดทุน ท่านว่าสูตรนี้จำเอาไว้ไม่มีขาดทุน จะเอาไปใช้ทางไหนก็เรื่องของเธอ
    - ผงค้าสำเภา อันนี้สำคัญ สำเร็จงานใหญ่ ได้จับธุรกิจใหญ่ ดึงดูดโชคลาภใหญ่หลวง เรียกว่าประสบความสำเร็จใหญ่ ไปอยู่ถิ่นใด จะจรไปไหนก็ได้ดีทุกที เป็นเอกทางมหาลาภอย่างที่สุด
    - ผงมหาเสน่ห์ ผงนี้ลงไว้ด้วยสูตรสาวสามหมู่บ้านกินน้ำบ่อเดียวกัน เป็นมหาเสน่ห์ถึงขนาดว่าภรรยาทั้งหลายอยู่รวมกันได้ไม่ตีกันถึงแม้ผู้หญิงจะถือคติเสียทองเท่าหัวไม่ยอมเสียผัวให้ใครก็ตาม นั่นคือรักและหลงจนลืมโกรธเป็นเสน่ห์ถึงปานนั้น
    - ผงอริพ่าย ผงนี้สำคัญที่สุด ลงยาก ท่านว่าลงไว้รับกับทุกสถานการณ์ ผงนี้อยู่ไหนทำอะไรก็ชนะเขาทั้งหมด ศัตรูพ่ายแพ้ แข่งยังไงแกล้งอย่างไรก็ไม่มีวันชนะ ทำร้ายเราไม่สำเร็จเลย ท่านว่าโลกต่อไปเบื้องหน้าจะยิ่งน่ากลัว จะหาคนที่อยู่โดยไม่มีศัตรูนั้นยาก ต่อไปนี่แค่เขม่นตากันก็เกลียดชังกันแล้ว เรียกว่าเกลียดกันดื้อๆ ท่านว่าผงนี้จึงสำคัญมากเพราะใช้รับได้ทุกสถานการณ์
    ผงมหาคุณสำคัญทั้งเก้าประการนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าทำยากมาก พอเอามารวมกันก็เสกเก็บไว้ยาวนานเพื่อจะทำเครื่องมงคลที่เหาะสมเสียครั้งหนึ่ง ปรากฏว่ามีคณะมาขอผงวิเศษไปสร้างพระเครื่อง ท่านพิจารณาแล้วว่าผงของเราก็มีอานุภาพมาก จึงเมตตาจะตักไปให้เขาซักช้อนหนึ่งผสมเป็นมวลสารทำพระเขา ท่านว่าไม่รู้ด้วยเหตุผลกลใดก็ดี ตอนเปิดขวดนั้นเขาบ่นกันอุบว่าผงเข้าตา คงจะกระเด็นหรือมีแรงอัดอากาศในขวดอันนี้ก็ไม่ทราบ แต่เรื่องที่น่าแปลกก็คืออยู่ดีๆทุกคนพูดกันหมดในลักษณะที่เหมือนกัน นั่นคือมองเห็นฤาษี เทวดาต่างๆที่มาเฝ้ามาอารักขาพ่ออาจารย์ท่านจนร้องโวยวายและบอกกันต่อๆมาว่ามึงเห็นมั๊ย นั่นยักษ์เทวดา นั่นฤาษี นั่นเทพอะไร คุยกันจนพ่ออาจารย์ท่านระลึกได้ว่าจะปล่อยไปเช่นนี้ไม่ได้ จึงได้อธิษฐานจิตซัดน้ำมนต์ล้างตา ล้างอาถรรพ์วิชาออกไป ท่านว่าผงนี้สำคัญนะพอลองเอามาทาตาก็รู้ว่าสำคัญเลย อะไรที่ไม่เคยรู้ ไม่เคยเห็น ไม่เคยได้ ไม่เคยมี เปิดหมด ให้รู้ ให้เห็น ให้ได้ ให้มี สำคัญตรงนี้ ท่านว่าจะเก็บไว้ก็เป็นอันตรายมองเห็นไปทั่วเช่นนี้คนเขาจะหาว่าบ้า ท่านจึงเทหมดทั้งขวดเพื่อทำผงอุดครูพระสยมองค์สำคัญชุดนี้ด้วยผงวิชามหาคุณทั้งเก้าประการนั่นเอง

    " มีของทำนองแบบลอยเคราะห์หรือรับบาปแทนตัวเองมั๊ย เนื่องจากบางเรื่องพระหรือเครื่องมงคลทางพุทธศาสนาก็ยังข้องแวะติดอยู่ในกฏของกรรม เกินกรรมไม่ได้ แล้วทีนี้ไอ้ตัวเคราะห์มันก็หนัก วิบากปรรมก็มาเต็มๆ เรียกว่าเอาแค่ผ่อนลงเล็กน้อยก็รู้ว่ผ่อน แต่ก้ยังเรียกว่าหนักจนไม่อยากอยู่ในสภาพนี้อยู่ดี " ....แน่นอนว่าถ้าถึงขนาดนั้นเครื่องมงคลทางพุทธย่อมไม่มี แต่พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าสายพระเวทย์ สายครูพระสยมนี่ก็อีกเรื่องหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านยกครูพระสยมเป็นครูใหญ่และมักเรียกแทนท่านว่า"พ่อ" ท่านได้กล่าวถึงครูใหญ่หรือพ่ออยู่เนืองๆ ท่านกล่าวว่าครูพระสยมคือตัวแทนของมหากรุณาที่พร้อมจะเสียสละและรับความเจ็บปวดแทนสรรพชีวิตทั้งหลายด้วยความรักอันยิ่งใหญ่เพื่อให้ได้มาซึ่งสันติ ความสุข ความเจริญ ด้วยเหตุนี้ท่านจึงได้สร้างมงคลศักดิ์สิทธิ์เฉพาะกาลชนิดหนึ่งขึ้นมา ด้วยเหตุที่ว่าเพื่อเป็นตัวแทนครู เป็นการระลึกถึงครู ให้บูชาครู อย่าดูถูกครู นึกถึงครูแล้วจะได้ดี หมดหนี้สินเป็นเศรษฐีมหาศาล มีความสุขในห้วงชีวิต ด้วยว่าครูนั้นจะรับความเจ็บปวด ความทุกข์ โทษ เคราะห์ภัย อุบาทว์ พิฆนะจัญไร หายนะ ท่านจะกลืนกินอัปมงคล อวมงคลทั้งหลายไว้ด้วยความรักอันใหญ่หลวง เพื่อสิริ เพื่อมงคล เพื่อสันติ เพื่อความสุข เพื่อความเจริญ ที่จะพึงบังเกิดมีในชีวิตของลูกน้อยนั่นเอง

    สำหรับครูพระสยมรุ่นนี้เรียกว่าท่านตั้งใจทำวิชาเฉพาะ ตั้งใจเชิญเพื่อให้คนใช้ลอยเคราะห์และพ่ออาจารย์ท่านตั้งใจสร้างเพื่อการรับบาปแทนลูกๆเลยก็ว่าได้ ถึงขนาดมีคำพูดที่ว่า " พระรับบาปรึ ...พระที่จะคอยรับให้ทั้งร้อยแบบนั้นไม่มีหรอกคุณ แต่ถ้าพ่อน่ะมี พ่อพระสยมชุดเฉพาะนี่นะ"

    แต่เดิมนั้น พ่ออาจารย์ท่านเมื่อได้รับโองการครูให้ทำพระทางลอยเคราะห์นี้ ท่านก็ตั้งใจจะปั้นหุ่นครูพระสยมขึ้นมาซักรุ่น แต่พอทำไปแล้วก็ต้องหลอมใหม่เนื่องจากครูบอกว่าใช้ไม่ได้ ท่านว่าใครไม่เป็นเราไม่รู้หรอกว่ามันยากตั้งแต่คิดจะเริ่ม ไอ้ทำของจะลอยเคราะห์ล้างบาปกรรมแบบนี้เริ่มมาก็ยากแล้ว เราปั้นถึงเก้าครั้งก็ต้องหลอมหุ่นเทียนทิ้งทั้งเก้าครั้ง เพราะองค์พระสยมบอกว่าใช้ไม่ได้แล้วกว่าจะปั้นเสร็จได้แต่ละครั้งก็ไม่ใช่ง่าย จนครั้งที่สิบท่านเมตตาจึงบอกใบ้ให้เราว่าให้ทำในปางที่ท่านดื่มพิษครากวนเกษียรสมุทรเพื่อรับเคราะห์ภัยไว้กับตัวเองแทนคนทั้งโลก แทนเทพเจ้าทั้งหลาย แทนสรรพชีวิตทั้งหมดในมหาจักรวาลเพื่ออานิสงค์แห่งการเกิดขึ้นครั้งนี้ ในรูปนี้ของเราจะได้รับเคราะห์ภัยและบาปอกุศลธรรมทั้งหลายแทนลูกๆที่บูชาไว้กับตัวเอง พ่ออาจารย์ท่านจึงได้แบบมาปั้นว่าควรทำอย่างไร แล้วก็ทำสำเร็จโดยโองการครูตรงกับที่ท่านยอมรับ พ่ออาจารย์ท่านว่ายากนะ ไม่ใช่สักแต่ว่าจะทำ แต่การทำให้ครูพระสยมท่านยอมรับนั้นไม่ใช่ของง่าย

    ทำไมต้องเป็นเหรียญ"พ่อ" พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าครูพระสยมนั้น ได้มีโองการเฉพาะ ให้ทำวัตถุที่มีอานุภาพใช้ล้างบาป เปลี่ยนแปลงกฏมหาวัฏฏขึ้นมาเป็นการเฉพาะดยกำหนดรูปแบบให้ทำเป็นปางที่พระองค์ท่านทรงกลืนพิษอันมีอานุภาพร้ายแรงที่สุดในหมื่นจักรวาลอันเกิดแต่เกษียรสมุทรรวมกับพิษของพญาวาสุกรี พ่ออาจารย์ท่านว่าเหรียญนี้เมื่ออาราธนา ย่อมมีจุดหมายใหญ่อยู่ประการเดียวนั่นคือการรับเคราะห์ รับกรรม โดยพ่อนั้นจะกลืนทุกข์ กลืนวิบัติอาเพท ทำลายเคราะห์โศก ปิดที่ชีวิตที่มืดบอด กำจัดบาป ทำลายล้างบาป ประทานพรให้พ้นจากบาปและอกุศลกรรมต่างๆของลูกทั้งหมดทั้งสิ้น ด้วยว่าองค์พระสยม คือครูองค์เดียวที่สามารถรับและกำจัดบาปได้ ซ้ำยังพาและผลักดันให้ชีวิตดำเนินต่อไปในจุดที่เกิดการเปลี่ยนแปลงของมหาวัฏจักร โดยปรับเปลี่ยนชีวิตที่หลุดพ้นจากบาปและอกุศลกรรมเสียใหม่


    ท่านว่าปกติแล้ว คนที่ใช้หรือมีอะไรดีๆเค้ามักจะไม่บอกกัน แต่วาระนี้ท่านจะเปิดให้รู้ให้เห็นถึงอานุภาพที่อยู่เหนือบาปทั้งหลายนั้น ว่าทำไมต้องเป็นองค์พ่อหรือครูพระสยมเท่านั้น และต้องเป็นเฉพาะปาง เฉพาะกาล เฉพาะวาระที่ท่านเปิดให้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์พระศิวะหรือครูพระสยมนั้นมีตัวตนและคุณสมบัติที่เป็นดาวข่มและทำลายล้างบาปทั้งมวลโดยตรง คือ
    เป็นสดาจาร พ่อคือพระเป็นเจ้าที่มีการกระทำอันสูงสุด
    เป็นอกลมัย พ่อคือผู้ไร้บาป
    เป็นสรวปาปหร พ่อคือผู้ทำลายล้างบาปทั้งหลาย
    เป็นหระ พ่อคือผู้มีอำนาจกำจัดบาปทั้งหมด
    เป็นมุกันทะ พ่อสามารถประทานพรให้พ้นจากบาป
    เป็นตมิศรหา พ่อมีอำนาจทำลายความมืด
    เป็นโศกนาศัน พ่อมีอำนาจทำลายความโศก
    เป็นสรวารถปริวรตัก พ่อมีตัวเป็นตนต้นเหตุของการเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง
    เป็นวิฆันนาคัน พ่อมีอำนาจทำลายอุปสรรคร้ายทั้งหมด

    ดังนั้นเพื่อจะเอาชนะกรรมลิขิต บาปเคราะห์ ดาวข่ม ตลอดจนอำนาจของพรหมลิขิต เทพลิขิตชะตา ตลอดจนมหาวัฏฏทั้งหลาย แล้วนำชีวิตออกไปสู่การเริ่มต้นใหม่ การเปลี่ยนแปลงโดยมีองค์พระศิวะหรือครูพระสยมเป็นต้นเหตุของทุกเรื่องทุกสิ่งทุกอย่าง พ่ออาจารย์จึงได้จัดหามวลสารธาตุกายสิทธิ์มาหลอมสร้างและเชิญครูขึ้นมา ลงพระเวทย์สวรรค์ เวทย์ดึกดำบรรพ์เฉพาะด้าน เฉพาะทางอันมีอานุภาพทางล้างบาปเคราะห์แบบที่ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือน ก่อนจะเทผงมหาคุณวิเศษทั้งเก้าชนิดที่รวมตัวกันจนมีอานุภาพแปลกประหลาดเกิดขึ้นอุดฝังไว้ด้านหลัง


    อันเหรียญ"พ่อ"ตราล้างบาปเปลี่ยนวัฏฏปกาศิตพระหระสดาจารประทับวาสุกรีนาคราช นั้น พ่ออาจารย์ทำเป็นเศียรวาสุกรีนาคราชปรกเหนือพระเศียรครูขึ้นไป ท่านว่าวาสุกรีนาคราชนี้ก็คือสร้อยพระศอของครู นอกจากเป็นเทพเดรัจฉานแล้วยังเป็นอาวุธ เป็นมหาสังวาลย์ที่มีอานุภาพล้างโลกได้ชนิดหนึ่ง อันพญาอนันตนาคา พญาวาสุกรีนาคานั้นก็เปรียบดั่งบรรพบุรุษ เป็นดั่งเทพเจ้าของเผ่าพันธุ์นาคา พญาอนันต์นั้นก็อยู่กับพระวิษณูส่วนพญาวาสุกรีก็อยู่คู่องค์ศิวะ และเมื่อกวนเกษียรสมุทรครานั้น ก็ใช้พญาวาสุกรีนี่เองแทนเชือกชักวนภูเขามันทร พ่ออาจารย์ท่านว่าอันพญาวาสุกรีนั้น เป็นมหานาคดึกดำบรรพ์เช่นเดียวกับพญาอนันตนาคราช ซ้ำยังเป็นมหาราชาของหมู่นาคทั้งปวง พญาอนันต์นั้นมีฤทธิ์เป็นไฟประลัยกัลป์ แต่พญาวาสุกรีนั้นมีมหาพิษร้ายแรงที่สุดในหมู่นาคดึกดำบรรพ์ตลอดจนวงศ์วานนาคทั้งหลาย ด้วยว่าตนมีฤทธิ์มากเกินพี่น้องทั้งหมดแม้แต่พญาอนันตนาคราช ทำให้ถูกยกไว้ในตำแหน่งสูงสุดนั่นคือจอมกษัตริย์นาคาเมื่อพญาอนันต์ละทางโลกไปอยู่วิมานพระนารายณ์แล้ว พญาวาสุกรีก็เบื่อหน่ายทางโลก มีอุปนิสัยยินดีทางการภาวนาเจริญฌานสมาบัติ องค์ศิวะท่านจึงรับไว้เปรียบดั่งเป็นสัญลักษณ์ของพระองค์ พ่ออาจารย์ท่านว่ายุคนี้นาคหรือเทพเดรัจฉานจะขึ้นมารักษาและให้คุณกับมนุษย์ หนนี้เมื่อใครบูชาองค์ครูพระสยมโดยตรงนั้นก็จะได้พรจากพญาวาสุกรีมหานาคดึกดำบรรพ์จอมกษัตริย์นาคาไปในตัวด้วย ด้วยว่าพญานาคนั้นมีฤทธิ์มาก ให้คุณแก่ผู้บูชาให้มีชีวิตร่มเย็นเป็นสุข ทั้งยังเป็นเอกทางโภคสมบัติ ด้วยดูแลสมบัติต้นกำเนิดของโลกในแดนบาดาล พ่ออาจารย์ท่านว่าเอาท่านไปก็เหมือนเปิดดวงทางโชคลาภด้วย และท่านยังมีมหาพิษมีฤทธิ์ร้ายแรงจนองค์พระสยมท่านต้องรับไปอยู่ด้วยเป็นฤทธิ์เดชที่เทวดาตลอดจนสรรพชีวิตทั้งหลายกลัวเกรงกันมาก นั่นก็คือกลัวการดับสูญเพราะมหาพิษนั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าพญาวาสุกรีนี้เชิญยากนะ จะหานาคที่มีฤทธิ์มากจนครุฑอย่างพญาสุเรนทร์ทำอะไรไม่ได้ก็ต้องท่านวาสุกรีนี่แหละ รักความยุติธรรม รักสันโดษ แต่น้ำใจในคอในอกนั้นก็บู๊สุดๆเหมือนกัน ชนิดที่ว่าลองปกปักรักษาชีวิตใครแล้ว ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมารังแกเขาได้ง่ายๆ


    เหรียญหล่อพระหระสดาจาร เหรียญพ่อ หรือตราล้างบาปก็เรียกนี้ ด้านหลังนอกจากผงมหาคุณเก้าประการแล้ว ยังฝังของศักดิ์สิทธิสามอย่างคือ

    - ลูกอมผงห้ามจน ท่านว่าเหนือกว่าโภคทรัพย์ธรรมดาก็ต้องห้ามจนนี่แหละ เอามาฝังครูพระสยมดุจปกาศิตสาปไว้ว้าห้ามจน คือจนไม่ได้ และไม่มีวันจนนั่นเอง จนในที่นี้คือจนด้วยทรัพย์สิน จนด้วยปัญหาหนทางในการดำรงค์อยู่ การดำเนินชีวิต ท่านว่านี่คือห้ามไว้แล้วนะ ทางจนไม่เปิด เข้าไปไม่ได้ เช่นนั้นก็เหลืออยู่ทางเดียว นั่นคือสุข สมบัติ พิพัฒนมงคลทั้งหลาย ท่านว่าห้ามจนนี่ก็ปิดประตูทุกข์ไปแล้วอย่างหนึ่ง
    - พยนต์มหาภูติโลกันต์ ท่านใช้ผงยาดำมหากาฬที่ท่านเพียรทำโดยมีความนัยน์สำคัญซ่อนเร้นขึ้นมา พยนต์มหาภูติโลกันต์นี้ ท่านทำจากผงดำมหากาฬหรือจะเรียกพยนต์มหากาฬก็ได้ ท่านว่าพยนต์นี้เป็นทั้งยิดัม ทั้งธรรมบาล มีฤทธิ์มาก เป็นพยนต์เทพเจ้า แทนตัวของเทพมหากาฬทางทิเบต อันมหากาฬนี้นอกจากเป็นธรรมบาลแล้ว ยังปกครองดูแลสมบัติเบื้องล่างทั้งในโลกในบาดาลทั้งหมด มีพญานาคทั้งหลายเป็นบริวาร เป็นเทพแห่งโชคลาภและความมั่งคั่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าพยนต์สำคัญอันมีชื่อมหากาฬจากผงมหากาฬนี้ ด้วยมีชื่อพ้องกับมหากาลนามของครูพระสยม ท่านจึงนำมาฝังไว้รวมกัน ให้รักษาตัวผู้ใช้และควบคุมดวงของโชคลาภความมั่งคั่งทั้งหลายให้มีเข้ามาเนืองๆ ท่านว่าพกไว้ไม่ต้องเลี้ยงต้องเซ่นเพราะเป็นเทพชั้นสูง อธิษฐานให้ท่านช่วยเปิดดวงเปิดทางให้เราก็พอ
    - ยาเทวีสิบสองนางหรือยานางสิบสอง พ่ออาจารย์ท่านนำแท่งยาสุระสะติ่ของเก่า ซึ่งหาได้ยาก เป็นยาเก่าที่ปรุงมาแต่โบราณของบูรพาจารย์พม่า ไม่ใช่ยาใหม่รึปรุงใหม่ที่มีขายแต่อย่างใดท่านว่าของใหม่นั้นทำอย่างไรก็เทียบของเก่าของโบราณไม่ได้ ท่านนำแท่งยามาฝนเอาผงนวดรวมกับสีผึ้งเทียวท่านพ่อท่อทาบแล้วปั้นเป็นเม็ดๆไว้ ท่านว่าลำพังยาสุระสะติ่นี่ก็เป็นปิยะสุดๆแล้ว รวมกับสีผึ้งเขียวนี่อีก ท่านพูดไปหัวเราะไป เราเองก็คิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะเป็นปิยะขนาดไหน เอาว่าเทวดานางฟ้ายังหลงเท่านี้ก็พอ ยานี้ที่เรียกว่ายานางสิบสองก็เพราะทำจากยาสุระสะติ่ของเก่าของโบราณ ซึ่งนางสุระสะติ่นั้นก็คือพระแม่สุรัสวดีนั่นเอง เป็นครูใหญ่ทางสายวิชาพม่า ไทใหญ่ ที่เรียกนางสิบสองเพราะด้วยสายวิชานั้นเชื่อว่านางมีสิบสองปาง มีนางสุระสะติ่ทั้งหมดสิบสองคน จึงเป็นสิบสองกำลังของพระแม่แห่งภูมิปัญญาความรู้ที่จะช่วยและเกื้อกูลลูกที่ศรัทธา ท่านว่าพกไว้นะดี ยานี้สมองจะปลอดโปร่ง คิดอะไรก็ออกสมัยนี้เขาเรียกว่าเก็ท คือคิดออกแต่เรื่องดีๆ คิดแล้วทำชีวิตก็ยิ่งดี จะนำชีวิตไปสู่ความเจริญทางภูมิปัญญามีวิวัฒนาการด้านความคิดสติปัญญาแตกแขนงไปไม่รู้จบ ซ้ำยานี้อยู่กับใครนอกจากจะเป็นปิยะเป็นที่รักของมนุษย์เทวดาแล้ว คนผู้นั้นจะมีสิริ เป็นทั้งเสน่ห์และเดช อำนาจครบถ้วนไม่มีอะไรจะเปรียบอยู่ในตัวเอง ท่านว่าคิดเอานะทั้งเสน่ห์เดชะตบะอำนาจรวมอยู่พร้อมๆกัน เช่นนี้จะหามีที่ไหน เป็นอะไรที่น่ากลัวมากๆเพราะทั้งหลงทั้งกลัวทั้งเกรงใจเกิดขึ้นพร้อมกันหมดเลย

    คาถาบูชา
    โอม นะ มะ ศิ วา ยะ (สวดสั้นๆเพียงเท่านี้ก็ได้เช่นกัน)
    - เมื่อใดพบปัญหาหนัก หาทางออกไม่ได้ ชีวิตถึงคราวมืดบอก ให้ยกองค์เทวรูปพระหระสดาจารขึ้นจบหัว สวดอาราธนาดังนี้จนหลับไป ท่านว่ายิ่งทำมากๆชีวิตยิ่งดี ถ้าไม่มีปัญหาอะไรแล้วทำได้ก็ยิ่งจะเจอแต่สิ่งดีๆ
    โอม นาเคนทะระ หารายะ ตะริโลจะนายะ ภัสมางคะ ราคายะ มะเหศะวะรายะ นิตยายะ ศุทะธายะ ทิคัมพะรายะ ตัสไม นะการายะ นะมะศิวายะ มันทากินี สะลิละ จันทะนะ จะระจิตายะ นันทิศะวะระ ประมาถะ มะเหศะวะรายะ มันทาระปุษปะ พะหุปุษปะ สุปูชิตายะ ตัสไม มะการายะ นะมะศิวายะ ศิวายะ เคารีวัทนาพะชะวะ รินทะ สูระยายะ ทักษะ ธะวะระ นาศะกายะ ศรีนีละกัณทายะ วะรึษะ ธะวะชายะ ตัสไม ศิการายะ นะมะศิวายะ วะสิษฐะ กุมโภทะภะวะ เคาตะมารยะ มุนีนะทะระ เทวาระจิตะ เศขะรายะ จันทราระกะ ไวศะวานะระ โลจะนายะ ตัสไม วาการายะ นะมะศิวายะ ยักษะ สะวะรูปายะ ชะตาธะรายะ ปินากะ หัสตะตายะ สะนาตะนายะ ทิวะยายะ เทวายะ ทิคัมพะรายะ ตัสไม ยะการายะ นะมะศิวายะ

    * พ่ออาจารย์ท่านทำมงคลพระหระสดาจารไว้ทั้งหมดแปดองค์ และท่านต้องการเก็บไว้กับตัวองค์หนึ่ง ดังนั้นจึงมีให้ร่วมทำบุญเจ็ดองค์ สำหรับผู้ต้องการจะบูชาก็สั่งจองไว้ทาง PM พร้อมกับชื่อวันเดือนปีเกิด พ่ออาจารย์ท่านจะอธิษฐานฝากครูพระสยมให้ล้างบาปเปลี่ยนแปลงมหาวัฏฏของแต่ละคน ทั้งยังจะฝากฝังกับพยนต์เทพยิดัมให้ด้วย ท่านว่าใครพบเจอก็ถือว่าชีวิตนั้นท่านเปิดให้แล้ว รายได้ร่วมสมทบทุนบริจาคผ้าห่มและเสื้อกันหนาวแก่ชาวดอยและชาวเขาในโอกาสต่อไป


    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญ"พ่อ"ตราล้างบาปเปลี่ยนวัฏฏปกาศิตพระหระสดาจารประทับวาสุกรีนาคราช(ฝังมหาภูติโลกันต์) บูชา 4,000 บาท


    1403875688.jpg image.jpg image.jpg image.jpg 111156-pic-7.jpg 800px-6-armiger_Mahakala.jpg 20663596_1557383634326670_8733899494984720536_n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กรกฎาคม 2023
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดไขรหัสกุญแจไสยศาสตร์พระธรรมบันดาล

    "กุญแจมีไว้ทำอะไร ก็ไอ้สิ่งที่ติดอยู่ เปิดไม่ออก เข้าไม่ได้ ปิดตาย ถูกซ่อน ถูกบัง ถูกผนึก ถูกกั้น ถูกกักไว้ กุญแจมันก็มีไว้ไข หงายสิ่งที่คว่ำ เปิดสิ่งที่ปิดนั่นไงล่ะ"


    พ่ออาจารย์ท่านกล่าวถึง"ตะกรุดไขรหัสกุญแจไสยศาสตร์พระธรรมบันดาล"ไว้ ว่าเป็นตะกรุดยุคเก่าของท่าน เป็นตะกรุดที่ไม่ใคร่จะสวยงามนักเพราะทั้งทุบทั้งรีดดูบี้ๆบุบๆแต่ขลังยิ่งนัก

    วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจลงอย่างมากด้วยเป็นวิชาเก่าแก่ซึ่งท่านได้มาแต่สมเด็จพระสังฆราชสุกไก่เถื่อน ประทานให้โดยเฉพาะอย่างแท้จริง ท่านว่าทำยากนะแต่เรามีวิธีทำให้สำเร็จได้ แต่ก็ตลกดีเพราะตะกรุดนี้คนทำไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่ได้ทำ

    ท่านบอกว่าตะกรุดนี้อย่าไปบรรยายเขามาก ให้พูดคร่าวๆถ้าเขามีบุญพึงรู้พึงเห็น ก็จะเข้าใจเอง พ่ออาจารย์ท่านเรียกขานองค์พระสังฆราชสุกไก่เถื่อนว่าอาจารย์ปู่ ด้วยท่านเป็นพระอาจารย์ในบรมครูสมเด็จ ท่านพูดถึงอาจารย์ปู่อยู่บ่อยๆว่าท่านมีเมตตาเป็นเลิศยิ่งนัก ทรงคุณธรรมพรหมวิหารชนิดที่ยากจะหาใครมาเปรียบเสมือนได้ เกี่ยวกับวิชาทำตะกรุดนี้ก็เป็นด้วยภูมิความรู้และวิปัสสนาธุระที่ยิ่งใหญ่ของท่าน ทำให้ญาณทัศนะของท่านกว้างอย่างมาก วิชาทั้งหลายก็ดุจใบไม้ประดับยอดมหาพฤกษาที่ท่านเลือกจะปลิดจะเด็ดมาให้ใช้ซักใบตามความเหมาะสม

    ในห้วงชีวิตมนุษย์อันดุจว่ายอยู่ในทะเลใหญ่นั้น ไม่เพียงแต่ต้องออกแรงว่ายทวนคลื่นฝ่าฟันไป ในบางจังหวะก็อาจเจอทั้งคลื่นลมซ้ำเติม บางโอกาสก็อาจเจอขอนไม้เจอที่ที่เกาะหรือยึดรั้งพอบรรเทาความเหนื่อยความล้าได้ ท่านว่าอาจารย์ปู่นั้นได้เคยคุยและปรารภเรื่องนี้กับท่าน ซึ่งแต่แรกท่านก็เข้าใจว่ามันเกี่ยวข้องด้วยกุศลและอกุศลกรรมตลอดจนกรรมบันดาลทั้งหลาย แต่องค์บรมครูนั้นท่านว่ามันก็ไม่จริงเสมอไป เพราะทุกสิ่งขึ้นอยู่ด้วยโอกาสและจังหวะชีวิต ที่เธอเคยถามว่าทำไมคนชั่วเขาได้ดีล่ะ ทำไมบางคนมองยังไงเพ่งยังไงก็ไมเห็นกรรมอันเป็นกุศลใดๆจะส่งผลได้ ศาสนาก็ไม่นับถือถึงได้ดี เจริญขึ้นๆไม่ตกต่ำลง ท่านว่ามันก็เป็นด้วยวิสัยของโลกอย่างนึง สิ่งนี้เรียกว่าโอกาสและจังหวะที่ดีของบทละครชีวิตนั่นเอง

    ตะกรุดไขรหัสกุญแจไสยศาสตร์พระธรรมบันดาลนั้น วิชานี้บรมครูหรืออาจารย์ปู่ท่านให้ไว้ เพื่อเป็นตัวช่วยเหลือสำหรับคนที่ไม่มี ไม่เจอ ไอ้สิ่งที่เรียกว่าโอกาส และไม่เคยรู้สึกว่าชีวิตตัวเองมีจังหวะหรือทางรอดที่ดี ท่านว่าตะกรุดนี้สำคัญนะเปรียบดั่งกุญแจที่ไขชีวิตอันปิดตายของคนด้วยอำนาจของมายาศาสตร์และไสยศาสตร์ ให้ชีวิตได้เจอโอกาสและจังหวะที่ดีซ้ำยังหนุนด้วยวิชาธรรม เป็นตัวธรรมที่จะบันดาลให้สำเร็จในกิจธุระต่างๆ ท่านว่าไขออกแล้วแค่พบเจอ เอาไม่ได้ ทำไม่สำเร็จมันก็สิ้นประโยชน์ แต่สิ่งนี้ไขออกแล้วยังต้องเอาได้และทำสำเร็จด้วย ซึ่งเป็นอานุภาพแห่งพระอัครธรรมอันยิ่งใหญ่ เป็นไปตามกาล ตามธรรมชาตินั่นเอง

    ตัววิชานี้ พ่ออาจารย์ท่านเมตตานำมาลงเป็นตะกรุดเต็มสูตรขนาดแผ่นใหญ่ๆ ทั้งพับทั้งรีดก่อนม้วนเพื่อให้มีขนาดเล็กที่สุดเหมาะแก่การใช้งาน เป็นตะกรุดเปลือยๆดูไม่น่าสนใจอะไรแต่ก็มีอานุภาพที่ตะกรุดสวยๆหรือตะกรุดชนิดอื่นไม่มี ดั่งที่ท่านว่ามันเป็นของเฉพาะ "เฉพาะคนที่เห็นโอกาสเท่านั้น"

    ท่านว่าตะกรุดนี้เราทำไว้ไม่ได้มากมีทั้งหมดแค่หกดอก เป็นวิชาอาจารย์ปู่ แรกเริ่มเดิมทีนั้นก็ตั้งใจจะทำไว้ใช้เองและให้กับคนที่เขาเดือดร้อน หากแต่พอทำเสร็จครูท่านกลับบอกว่าคนทำห้ามใช้ ท่านก็เลยเชิญครูทั้งอาจารย์ปู่ทั้งครูสมเด็จมาเสกเก็บไว้เรื่อยๆ

    " จนท่านได้มีโอกาสไปเชียงใหม่เพื่อจะทำธุระและไปต่อที่เพชรบูรณ์เก็บหาว่านยา ด้วยว่าแรงเหวี่ยงของโลกนั้นน่าอัศจรรย์ ทำให้ท่านได้พบเจอกับพ่อค้าคนหนึ่ง และคนๆนั้นทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนก็ได้มานั่งปรับทุกข์กับท่าน คล้ายอยากจะหาคนระบายพอมาเจอคนไม่รู้จักแล้วคุยถูกคอเกิดอาการเลื่อมใสก็อยากจะเล่า ท่านว่าเราก็ฟังเขา คนๆนี้ไม่รู้จะทำงานทำการอะไร ก็เขาว่ามันไม่รู้จริงๆจะให้ทำอย่างไร เมื่อไม่รู้ก็ไปเป็นพ่อค้าขายพระอยู่ที่ตลาดทิพย์เนตร ทำๆไปก็ไม่รุ่ง ทำแล้วไม่รวยแถมยังมีแต่คนด่าคนตามล่าอีก เพราะไม่เชี่ยวชาญเผลอเอาของปลอมไปขายคนใหญ่คนโต ก็มานั่งปรับทุกข์กับท่านว่าไม่เอาแล้วทางนี้ ผมจะทำอาชีพอะไร จะทำงานอะไรดี ท่านมองแล้วก็ให้เกิดธรรมสังเวช แต่การดำรงชีวิตของคนนั้นจะมานั่งกินกาแฟทำตัวลอยไปลอยมาไม่มีหลักเสวยบุญเก่าก็ไม่ได้ เมื่อพิจารณาแล้วท่านนึกถึงตะกรุดนี้ขึ้นมาทันทีว่าก่อนมาครูท่านเตือนให้พกไปเสกที่เชียงใหม่ด้วย ตามวิสัยของท่านที่ชอบหาป่า หาเขา หาดอยที่เงียบสงบ มีพลังธรรมชาติยิ่งใหญ่ เหมาะแก่การชุมนุมเทพเทวาครูบาอาจารย์เพื่ออธิษฐานเครื่องมงคลเสมอมา ท่านจึงมอบตะกรุดให้พ่อค้าพระเครื่องนี้ทำบุญบูชาไปดอกนึงพร้อมกับย้ำเตือนเขาว่า หากเกิดนิมิตใดก็ดี หรือมีความรู้สึกอย่างไรก็ดีให้เชื่อตัวเอง นั่นไม่ใช่สิ่งเหลวไหล ไม่ใช่เรื่องไร้สาระ เมื่อพบกับตะกรุดนี้โอกาสได้เกิดขึ้นแล้ว ประตูได้เปิดออกแล้ว

    .......ล่วงเลยไปเกือบสองปี พ่อค้าพระท่านนี้ก็ได้ติดต่อพ่อค้าพระคนนี้ก็ได้ติดต่อกลับมา พ่ออาจารย์ท่านว่าเขาเชื่อเรา เขาเล่าว่าพอได้ตะกรุดไปตกกลางคืนนอนฝัน เหมือนไปนั่งกินกาแฟพูดคุยกับผู้ชายแก่ๆเป็นใครก็ไม่รู้เกี่ยวกับชีวิตตนเองเหมือนคุยกะพ่ออาจารย์ บุคคลลึกลับนั้นได้พูดได้สอนเขาว่าให้หาฐานลูกค้าจากคนรู้จักอย่างไร ให้ประกอบอาชีพอะไร อยู่ดีๆก็มานั่งบรรยายอย่างละเอียดพร้อมทั้งบอกว่าต้องทำทีละขั้นแบบไหนๆ เขาว่าแปลกจริงๆ ซึ่งตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าก็ประตูนั้นเปิดแล้ว อานุภาพแรงธรรมก็บันดาลให้เป็นไปแบบที่ควรจะเป็น ภายในสองปีจากพ่อค้าพระที่ล่มจมไปแล้วกลายเป็นคนมีธุรกิจประสบความสำเร็จในการขายอาหารเกี่ยวกับยามีบริษัทต่างชาติสนใจอยากซื้ออยากร่วมทุน ปัจจุบันนี้ยังเพิ่งไปเปิดโรงงานน้ำแข็งเพิ่ม เรียกว่าพอไขออก พอประตูเปิดทำอะไรก็รุ่ง ท่านว่านั่นเขาว่าเขาทำตามความรู้สึกพาไป อานุภาพตะกรุดเขาน่าอัศจรรย์ถึงเพียงนี้ เช่นนั้นเราถึงรู้ว่าเพราะเราไม่ได้เอาดีทางโลกครูถึงห้ามใช้ "

    กุญแจมีไว้ทำอะไร ก็ไอ้สิ่งที่ติดอยู่ เปิดไม่ออก เข้าไม่ได้ ปิดตาย ถูกซ่อน ถูกบัง ถูกผนึก ถูกกั้น ถูกกักไว้ กุญแจมันก็มีไว้ไข หงายสิ่งที่คว่ำ เปิดสิ่งที่ปิดนั่นไงล่ะ ตะกรุดนี้ก็เป็นดุจเครื่องมือที่จะใช้เปิด ทำให้สิ่งที่ปิดไว้ล็อคไว้ด้วยความตั้งใจหรือการกระทำหรือกฏของกรรมใดๆก็ดีหลุดออกมา ทำให้คลายให้หลุด ให้เห็นสิ่งที่เผยออก แย้มออก พ่ออาจารย์ท่านว่าในห้วงชีวิตคนนั้นคลื่นลมมันมาก แต่หากอาราธนาตะกรุดนี้ไป เราขออย่างเดียว นั่นคือตัวรู้ที่ผุดขึ้นในความคิด ในจิตวิญญาณของตนเองนั้น จงเชื่อและกระทำเถิด เชื่อมั่นในจิตสำนึกและพลังศักดิ์สิทธิ์ที่เข้ามาดลบันดาลจิตใจและชีวิตตนเอง เพราะ ช่อง ทาง โอกาส ทุกสิ่งได้เปิดขึ้นแล้ว

    อันตะกรุดดุจกุญแจที่ใช้ไขชีวิตให้เปิดหนทางอันปิดตายนั้น ท่านว่าคนนั้นมีรหัสกรรมต่างเพศต่างเผ่าพันธุ์กันไป มีความผันผวนด้วยกระแสคลื่นลมต่างกัน มีหนทางให้เดินต่างกัน ดังนั้นทางรอดและวิธีแก้ไขย่อมต่างกัน ขอเพียงเชื่อใจ เชื่อความรู้สึก เชื่อครู ถึงแม้จะมองไม่เห็นสัมผัสไม่ได้ หากแต่เคารพและศรัทธาแล้วครูย่อมไม่ไปไหนหรืออยู่ห่างไกล ท่านย่อมแฝงอยู่ในความคิดและจิตวิญญาณของเรา เมื่อจังหวะ ช่วงเวลาที่เหมาะที่ควรมาถึง ท่านก็จะเปิดเผยทางเดินของชีวิตให้กับเรา

    พ่ออาจารย์ท่านว่าหากหมั่นไหว้หรือศรัทธาและกล้าที่จะทำจะเปลี่ยนชีวิตตนแล้วทุกอย่างไม่ใช่เรื่องยากเลย ท่านว่าตะกรุดนี้เป็นของเฉพาะกาล เฉพาะโอกาส ท่านทำไว้เท่านี้ ทำครั้งเดียวและจะไม่ทำอีก ด้วยว่าห้วงกรรมของสัตว์นั้น โดยปกติแล้วโอกาสและจังหวะล้วนขึ้นอยู่กับวาสนา ท่านว่าเราเข้าไปอุ้มเขาไว้ไม่ได้ทั้งโลกหรอก ด้วยบุญสัมพันธ์เป็นปฐมก็มีคนเพียงหยิบมือเล็กๆที่พอจะให้วิชาและครูบาอาจารย์ท่านช่วยท่านหยิบยื่นโอกาสให้

    คาถาบูชา
    ปทุมะยะถา โภกะนุทังสุคันธัง ปาโตสิยา ผุลละมะ วิคะตะคันธัง อังคีระสัง ปัสสะวิโรจะมานัง คัภปันตะมาทะทิจจะ วันตะลิกเขติ

    พ่ออาจารย์ท่านว่าผู้มีปัญญา รู้สิ่งที่ติดขัดคั่นขวางย่อมรู้เองเห็นเอง เพราะโอกาสนั้นไม่ได้เป็นของทุกคน ตะกรุดนี้ท่านว่าพูดมากไม่ได้เพราะมันเกินกรรม เป็นตัวช่วยเครื่องไขเครื่องนำออกอย่างวิเศษ ดุจกุญแจที่จะช่วยให้เราผ่านสิ่งที่ปิดกั้นไปอย่างง่ายดาย สิ่งเหล่านี้บางคนติดอยู่ทั้งชีวิต บางคนต้องใช้ความพยายามใช้แรงอย่างมากเพื่อที่จะแง้มจะเปิด ท่านว่าก็นั่นแหละ ตรงๆนี่คือกุญแจไขประตูมหาวัฏจักรก็ไม่ผิด ไม่ใช่ของใครก็ได้ แต่ผู้เป็นเจ้าของจะพึงรู้พึงเห็นค่าด้วยตัวเอง มันใช้ได้มาก ใช้ผ่าใช้ฝ่าไปได้ทุกปัญหาไม่ใช่เฉพาะวันเวลาหนึ่งๆ เพราะชีวิตคนนั้นล้วนต้องการโอกาสและทางออกในทุกๆวัน ยิ่งพัฒนาปัญหาก็จะยิ่งใหญ่ขึ้นให้ลับคมสติปัญญาเป็นเงาตามตัว

    ท่านพูดอย่างง่ายว่า ถ้าใครพร้อมที่จะเปิดโอกาส เปิดประตูชีวิตตัวเองก็ค่อยมาเอาไป

    * ตะกรุดนี้มีให้บูชาทั้งหมดห้าดอก พ่ออาจารย์ท่านว่าของดีไม่จำเป็นต้องสวยแต่ต้องเอาให้ขลัง เปิดจองเฉพาะทาง PM สำหรับคนที่จะบูชาให้แจ้งชื่อนามสกุลมาด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะนำผงจักรพรรดิ์อธิษฐาน เมตตาใส่ไว้ให้ในตะกรุดทุกดอกก่อนจะอุดปิดตะกรุดเพื่อหนุนเสริมกำลังวาสนาบารมีของคนใช้ ด้วยกำลังพระจักรพรรดิราชอันยิ่งใหญ่นั่นเอง รายได้สมทบทุนเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มแก่ชนเผ่าน้อยยากไร้ด้อยโอกาสในลำดับต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดไขรหัสกุญแจไสยศาสตร์พระธรรมบันดาล บูชา 4,000 บาท


    gr03_c03.jpg patriarch04.jpg SAM_5519.jpg SAM_5520.jpg SAM_5521.jpg thumb-key.png open_door-t2.jpg
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา มงคลเครื่องสูงพระพิมพ์ทรงสัตว์ไก่หางพวง(จักรพรรดิแก้วยอดยิ่งฟ้า)

    ตั้งแต่เริ่มดำเนินกระทู้มา หนึ่งในคำถามที่หลายๆคนมักจะถามก็คือพ่ออาจารย์ท่านจะไม่สร้างพระพิมพ์ทรงสัตว์ไว้ให้ใช้แทนของหลวงพ่อปานกันเลยหรืออย่างไร คงสืบเนื่องจากของเก่านั้นมูลค่าสูงมาก ยิ่งทรงไก่หางพวงสวยๆแท้ๆก็ขึ้นหลักล้านไปแล้ว และศิษย์สืบทอดอย่างหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านก็ไม่ได้สร้างเพราะไม่ปรารถนาจะทำให้ทับรอยครูบาอาจารย์ มีแต่จะเสกไว้บ้าง ด้วยสูตรการสร้างพระพิมพ์ทรงสัตว์นั้นเป็นสูตรที่ตายและสาปสูญไปกับองค์หลวงพ่อปานอย่างแท้จริง ถึงจะมีการย้อนรอยย้อนยุคอย่างไรก็ยังคงทำไม่ได้อย่างแน่นอน ดังนั้นจึงไม่สำคัญที่ว่าใครจะสร้างหรือจะเสก เพราะทำอย่างไรก็มีเพียงพุทธคณแต่มิได้เสมอเหมือนของเดิมนั่นเอง


    ด้วยว่าพระพิมพ์ทรงสัตว์นั้น การจะทำให้ขลังก็ต้องใช้ผงวิเศษที่เรียกว่าผงหัวใจสัตว์ คนจะทำได้ต้องมีสมาบัติแปด แม้จะลบผงก็ยังต้องใช้มานะอุตสาหะวิริยะบารมีเพียรเสกเจ็ดวันเจ็ดคืน พ่ออาจารย์ท่านว่าเจ็ดวันนี้จะต้องอยู่ในสมาบัติตลอดถอนไม่ได้เลยเพื่อจะสำเร็จผงนี้ ท่านว่าพูดกันตรงๆคือน้ำไม่ดื่มข้าวไม่กินไม่ต้องลุกไปไหนนั่นเอง ท่านเองก็มีประสงค์อยากจะทำไว้ให้เป็นเกียรติยศซักครั้ง แต่ติดที่ผงวิเศษหัวใจสัตว์อันเป็นสุดยอดความลับที่สูญไปพร้อมกับกายสังขารหลวงพ่อปานนั่นเอง ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องนี้มันก็ไม่ได้ยากอะไร ท่านได้เชิญหลวงพ่อปานมาถามเอา โดยสัญญากับท่านไว้ว่าจะสร้างเพื่อสืบวิชาเพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้นด้วยสังคมในปัจจุบันนั้นการติดต่อสื่อสารการทำมาหากินมันยากขึ้นลำบากขึ้น พร้อมกับรับปากท่านตามที่ท่านขอคำสัญญากับพ่ออาจารย์ว่าให้สร้างเพียงครั้งเดียวจะไม่ทำ ไม่ลงผงนี้อีกเด็ดขาด วิชานี้จะให้ตายไปกับตัวแล้วท่านจะมาเป็นกำลังให้อีกแรง ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านก็รับปาก หลวงพ่อท่านก็เมตตาอนุเคราะห์โดยให้เลือกเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นในจำนวนสัตว์วิเศษอันมีหัวใจต่างๆกันทั้งหกชนิด ตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเราไม่ต้องเลือกเลย เราขอหัวใจทรงไก่นี่แหละเพราะตั้งใจจะทำไว้ให้คนยกระดับขยับฐานะกัน เขาจะได้ลืมตาอ้าปากได้

    ทั้งนี้พ่ออาจารย์ท่านได้เมตตาสร้างพระพิมพ์ทรงสัตว์ตามตำรับหลวงพ่อปานขึ้นจริงเพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้น เพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่ชีวิตท่าน โดยท่านบอกว่าเราไม่ได้ทำเป็นพระเนื้อดินปกตินะเพราะจะเป็นการทาบทับรอยเท้าครูบาอาจารย์ เราไม่ประสงค์ให้เป็นเช่นนั้น ท่านว่าท่านได้ทำการแกะพระตามตำรับพิชัยสงครามผสานเคล็ดวิชาพระพิมพ์ทรงสัตว์เข้าไปด้วย ซึ่งมีขั้นตอนพิธีกรรมและส่วนประกอบต่างๆยุ่งยากมากมาย

    โดยท่านกำหนดองค์พระไว้ตามที่เสด็จพระใหญ่ท่านเมตตาแนะเคล็ดให้ ว่าให้ทำเสมือนอง์พระแก้ว ท่านก็มาพิจารณาจึงรู้ว่าเสด็จท่านคงจะเปรียบกับองค์พระแก้วมรกตนั่นเอง ซึ่งหากทำแล้วต้องทำให้ดี ต้องเชิญเทวดารักษาบ้านรักษาเมืองมาคอยดูแล เพราะองค์พระแก้วนี้เป็นของสำคัญเป็นจุดศูนย์รวมศรัทธาของพระศาสนา และเหนืออื่นใดจะขออะไรก็ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าตอนนั้นเราก็มาคิดว่าจะทำเป็นเนื้อผงดีหรือไม่แต่ใจจริงก็ไม่อยากให้ทาบทับรอยเท้าบูรพาจารย์ท่านจึงตัดสินใจว่าทำทั้งทีก็ให้เป็นมหาสิริมงคลแก่ผู้มีไว้ครอบครองสุดๆไปเลย

    โดยท่านได้นำคัมภีร์สร้างพระภควัมบดีตำรับพิชัยสงครามมาแปลงโดยยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้แต่เพิ่มในส่วนของผงวิเศษและทนสิทธิ์เข้าไป เริ่มตั้งแต่การหาไม้ที่มีอาถรรพ์เป็นมงคลต้องตามตำราและมีฟ้าผ่ากระเด็นเองโดยไม่ได้ไปเลื่อยไปตัดแต่อย่างใด ทั้งนี้ท่านเมตตาใช้กิ่งพระศรีมหาโพธิ์โดยต้นมหาโพธิ์นี้เป็นหน่อเดิมของต้นจริง อันกิ่งมหาโพธิ์สำคัญนี้ชี้ไปทิศตะวันออกและที่สำคัญต้องอสนีบาตตกลงมาตรงตามตำราท่านจึงพลีกิ่งมาเพื่อเอาไว้ใช้ในยามสำคัญ พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าอันมหาโพธิ์นี้คือไม้ที่ให้การปกป้องเป็นพยานในการรู้แจ้งของพระมหาบุรุษ ซ้ำกิ่งโพธิ์ที่ชี้ไปทิศตะวันออกอันต้องมหาอสนีบาตตกลงเองนั้น เป็นของสำคัญที่ฟ้าท่านเมตตาผ่าให้เห็น มอบให้ประจักษ์แก่สายตา มีอานุภาพมากด้วยสามารถเปลี่ยนแปลงสิ้งที่เลวร้ายให้ดีขึ้นได้ ดุจว่าตายลงแล้วก็ยังฟื้นตัว ฟื้นคืนชีวิตได้เรียกว่าชี้คนตายให้เป็นก็ยังได้ ซ้ำยังมีพลังงานของมหาอสนีบาตสถิตย์แอบแฝงอยู่ อันสายฟ้านี้ก็เหมือนอาวุธพระอินทร์ราชาแห่งปวงเทพ มีพลังแข็งกล้าที่สุดในอาวุธทั้งสี่ประการ เสนียดจัญไรภูติผีคุณไสย สิ่งใดๆก็ดีล้วนหวาดกลัวอำนาจของสายฟ้านี้ทั้งสิ้น

    พ่ออาจารย์ท่านได้นำกิ่งมหาโพธิ์สำคัญนั้นมาแกะเป็นพิมพ์องค์พระแก้วประทับอาสนะทรงไก่หางพวงอันเป็นเอกลักษณ์ของท่านโดยทำตามเคล็ดเสด็จพระใหญ่เพื่อสร้างเพื่อบูชาคุณบูรพาจารย์และจะได้ขอบารมีพระแก้วให้คนใช้ปรารถนาสิ่งใดก็ได้ ก็สำเร็จมโนรสดั่งใจปรารถนา ท่านทำการแกะพระทั้งหมดทั้งสิ้นได้เก้าองค์ ท่านว่าทำยากเพราะแม้แต่จะแกะก็ยังมีฤกษ์ยามบังคับ พอแกะเสร็จก็ต้องเตรียมยาเจ็ดสิ่ง ได้แก่กระทืบยอด ทรงบาดาล หงอนไก่ หญ้าใต้ใบ.... ทำการบดเพื่ออุดลงในองค์พระ

    การทำเครื่องยาเพื่อมาอุดองค์พระให้ได้ดั่งตำรานั้นท่านว่าไม่ใช่จะทำแค่เก็บๆ ตากแห้งมาก็ใช้ได้ ยังต้องนั่งเสก นั่งบดยาลงยันต์ตั้งแต่หินบดตั้งเครื่องสักการะบูชาครูทั้งสำรับและบายศรี เอาพระยันต์มานั่งถมยาให้ครบจนร้อยแปดคาบ อุดเสร็จก็เสกอีกพันคาบ พ่ออาจารย์ท่านว่าแน่ไม่แน่ก็เป็นตำราทำพระที่ขุนแผนตอนมีชีวิตอยู่เองยังต้องทำใช้อาราธนาไว้เป็นพระคู่กาย

    ท่านว่าเฉพาะองค์พระและเครื่องยาที่ทำตามพิธีกรรมก็มีอานุภาพสูงมากแล้ว อันองค์พระนี้มีพุทธานุภาพจะหาที่อุปมามิได้เลย แม้สัมผัสถูกเรือนใดก็เป็นสิริมงคลแก่เรื่อนยิ่งนัก กันเสนียดจัญไร ทั้งโรคเจ็บไข้ภัยพิบัติทั้งปวง แม้ผู้ใดได้ถือครองดุจว่าได้บรรลุโสดาบันมีเกราะคุณธรรมรักษาตัว ทั้งยังปิดอบายภูมิ ท่านว่าใช้ได้ครบถ้วนทุกประการ เป็นทั้งมหากำบังเจอศัตรูหรือภัยพิบัติเขาจะมองไม่เห็นตัวเรา แม้อาราธนาพระแช่น้ำมัน น้ำมันนั้นก็จะเป็นมหาวิเศษนำมาทาตัวเป็นที่เสน่หาแก่อิสตรีและเพศตรงข้าม ตลอดจนเป็นที่เมตตาแก่ขุนนางท้าวพระยาหรือผู้เป็นใหญ่ทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านว่าอุปเท่ห์องค์พระมีมากเหลือเกินถึงขนาดว่าถ้าเอาพระอมไว้ในปากแม้จะฆ่าก็ยังไม่ตายหนีรอดออกมาได้ ก็ด้วยนี่เป็นตำราเอกแม้แต่ขุนแผนยังต้องแต่งองค์พระมาใช้ตลอดชีวิต วิเศษถึงปานนั้นจะไม่ดีได้อย่างไร

    แต่พ่ออาจารย์ว่า เราจะสร้างตัวแทนของพระแก้วมรกต สร้างพระทรงสัตว์พิมพ์ไก่หางพวงบูชาคุณบูรพาจารย์นั้น ลำพังแค่ผงยาเจ็ดประการที่จะใช้อุดก็ยังน้อยไป ท่านได้เมตตานำพระบรมสารีริกธาตุซึ่งท่านอาราธนาเก็บไว้หัวนอนของท่านนำมาทำการอัญเชิญประจุลงในองค์พระแก้วสำคัญนี้ด้วย......โดยท่านได้การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งท่านได้มาจากองค์พระเดชพระคุณพ่อแม่ครูอาจารย์หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล ซึ่งท่านรักและเก็บไว้บูชาต่างหน้าครูบาอาจารย์เสมอมา บรรจุไว้ในองค์พระทุกองค์ โดยเสด็จพระใหญ่ท่านเมตตาแนะแนวทางให้ลงยันต์สำคัญไว้เพื่อจะใช้บรรจุพระธาตุ ดุจบรรจุไว้ในองค์พระเจดีย์ อันวิชาเลขยันต์รวมไปถึงพระบรมสารีริกธาตุนี้มีอานุภาพใหญ่มาก จะได้เป็นเสมือนตัวแทนร่างกายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อครั้งยังดำรงค์พระชนม์อยู่เป็นพุทธเนรมิตอันมีพระบรมสารีริกธาตุคอยขับเคลื่อนพุทธานุภาพอยู่ภายใน พ่ออาจารย์ท่านก็ได้ทำตามนั้น ท่านว่าทำทั้งทีจะได้ไม่ทับรอยเท้าบูรพาจารย์และยังเป็นเอกลักษณ์ของเรา ก็ต้องทำให้ดีสุดๆชนิดที่ว่าต่อให้ทำซ้ำอีกครั้งก็ไม่มีวันได้เหมือนเดิมกันไปเลย

    ด้วยผงวิเศษและเครื่องยานั้นมีหลายประการนอกจากยาเข้ายันต์เจ็ดชนิดนั้นแล้วยังไม่รวมไปถึงผงวิเศษอื่นๆและเครื่องยาต่างๆมากมาย ได้แก่

    - ผงวิเศษหัวใจสัตว์พิมพ์ทรงไก่ เรียกว่าเป็นผงที่พ่ออาจารย์ท่านทำไว้ให้เป็นตำนานอย่างแท้จริง เป็นผงที่เกิดจากสมาบัติแปด และวิริยะอุตสาหะบารมีที่ต้องนั่งเข้าสมาบัติถึงเจ็ดวันเจ็ดคืนเพื่อจะสำเร็จผงนั้น สมกับมโนปณิธานตอนท่านเลือกหัวใจสัตว์ต่อองค์หลวงพ่อปานในนิมิตว่า "เราไม่ต้องเลือกเลย เราขอหัวใจทรงไก่นี่แหละเพราะตั้งใจจะทำไว้ให้คนยกระดับขยับฐานะกัน เขาจะได้ลืมตาอ้าปากได้" เพราะการทำมาหากิน โชคลาภวาสนาการเงินนั้นสำคัญ และพระพิมพ์ทรงไก่มีสิ่งนั้น ผงวิเศษหัวใจสัตว์พิมพ์ทรงไก่ มีดีทางการทำมาค้าขาย และเมตตามหานิยม โดยคนโบราณสังเกตจากพฤติกรรมของไก่มาประกอบ เปรียบเทียบไก่ฝูงหนึ่ง มักมีตัวผู้เป็นจ่าฝูงเพียงตัวเดียว แต่มีตัวเมียล้อมรอบนับสิบ อานุภาพพระพิมพ์ทรงไก่มีคุณดั่งแก้วสารพัดนึก นึกสิ่งใดย่อมสมปรารถนาในสิ่งนั้นทุกอย่าง ขอเพียงให้ศรัทธาเชื่อมั่นไว้เถิด จะเกิดลาภผลอย่างประเสริฐ ทั้งเป็นทางอยู่ยงคงกระพัน เป็นเมตตา เป็นมหาอำนาจ มีตบะเดชะ แม้มีบูชาไว้และหมั่นภาวนาพระคาถาให้ได้ทุกวันแล้วไซร้ย่อมเป็นเจ้าคนนายคน ไม่มีวันอับจน มีผู้คนเมตตาอุปถัมภ์โดยตลอดแล
    - ผงเขี้ยวงูจงอาง พ่ออาจารย์ท่านได้นำเขี้ยวงูจงอางที่ฟักไข่จนตัวตายคาไข่ที่ฝัก นำมาบดเป็นผงบรรจุเข้าไปในองค์พระ ท่านว่าผงเขี้ยวงูนี้เราทำตามตำรับหลวงปู่เฒ่ายิ้ม เป็นของศักดิ์สิทธิ์ด้วยอาถรรพืที่แม่มีความรักต่อลูกเรียกว่ารักจนยอมตาย ย้อนกลับไปสมัยสมเด็จพระร่วงเจ้าผู้มีวาจาสิทธิ์อันจะได้สถาปนามหาอาณาจักรนั้น ท่านก็มีของคู่บุญญาธิการติดตัวมาเช่นกัน นั่นคือเขี้ยวงูใหญ่เท่าผลกล้วยหอม อันผงเขี้ยวงูนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่ามีอำนาจสะกดได้ทั้งป่าทั้งฟ้าทั้งดิน ภูติผีปีศาจตลอดจนเทวดาเกเรกลัวกันมาก หากได้นำมาบดทำอาถรรพ์ลงวิชาอย่างถูกต้องยิ่งมีอานุภาพมาก ท่านว่าไม่ต้องคิดอะไรไปไกล ก็ขนาดเป็นเมืองขึ้นของขอมยังปลดแอกตั้งตัวเป็นกษัตริย์ประกาศเอกราชได้ ท่านว่ามีอำนาจ มีบารมีมากนัก ท่านใส่ไว้ให้ตั้งตัวกันได้ทุกคน พร้อมขอบารมีองค์พระร่วงเจ้าประสิทธิ์เขี้ยวงูนี้ก่อนลบยันต์ทำการบดป่นผง ท่านว่าพ่อพระร่วงท่านห่วงลูกหลานมากถึงขนาดว่าอันสายเลือดสืบเนื้อเชื้อชาติไทยนั้นทิ้งกันไม่ได้ ท่านว่าไม่ต้องพูดอะไรมาก คิดเสียว่าเป็นสิริมงคลจะได้มีพ่ออยู่ใกล้ๆ
    - ผงไม้คานแม่หม้าย ท่านได้นำไม้คานแม่หม้ายคือคานที่ใช้หาบของขายรวมไปถึงไม้สากกะเบือแม่หม้ายที่สามีตายวันเสาร์เผาวันอังคารมาอุดลงไปด้วย ท่านว่าตามตำรับทำพระปิดตาหลวงปู่ยิ้มวัดหนองบัวสองสิ่งนี้จะขาดเสียมิได้เลย เพราะเป็นของอาถรรพ์ สามารถถอดถอนและแก้คุณไสยมนต์ดำต่างๆได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าต่อไปคนจะใช้ชีวิตกันยาก แม้โลกเข้าสู่ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป แต่ใจคนกลับใฝ่ต่ำ มุ่งร้าย คิดที่จะทำลายกันตลอด ทั้งยังรื้อฟื้นไสยศาสตร์มนต์ดำอวิชชาต่างๆออกมา ที่ควรสูญหายหรือสิ้นสุดไปก็กลับแสวงหาสืบทอดกัน ท่านว่าต่อไปเดรัจฉานวิชาเหล่านี้จะมีมาก เมื่อท่านจะทำพระสำคัญท่านจึงต้องบรรจุผงนี้ไว้อย่างขาดเสียมิได้ ท่านว่าอีกร้อยปีพันปี ใครมีพระองค์นี้ก็เปรียบเสมือนลูกพระพุทธเจ้า ดุจเป็นพระโสดาบันจะไม่มีสิ่งใดต่อให้เทวดาก็ยังรังแกไม่ได้
    - ผงตระกูลเหล็กไหล พ่ออาจารย์ท่านชอบสะสมธาตุกายสิทธิ์ต่างๆตามที่ท่านจะหามาเก็บไว้ เนื่องด้วยการทำเครื่องมงคลทั้งหลาย ท่านมักจะตั้งใจทำให้ดีที่สุด ท่านจึงมักจะนำพวกเหล็กไหลใส่ลงไปด้วย ผงตระกูลเหล็กไหลนั้นเป็นผงสำคัญ เพราะท่านบอกว่าเป็นผงที่รวมเหล็กไหลทุกตระกูลที่ท่านมี ท่านว่าเหล็กไหลก็คือธาตุกายสิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้า ไม่ใช่ไหลเข้าไหลออกแต่งนิทานมีกันทั่วไปเช่นทุกวันนี้ ท่านว่าเหล็กไหลจริงๆนั้นเป็นของคู่บารมีของผู้มีบุญญาธิการไม่ใช่สิ่งใดจะมาวัดหรือมีขายกันให้เกลื่อนไปได้ อันผงตระกูลเหล็กไหลนี้ท่านว่าเราก็พิเคราะห์อยู่ในที แม้บรรจุลงองค์พระไปก็เสริมสร้างกายสิทธิ์ในองค์พระ ทำให้พระสำคัญนี้มีเทพพรหมรักษา และผู้ได้บูชาย่อมเป็นมหาสิริมงคล มีบารมี มีบุญญาธิการดุจได้ครอบครองเหล็กไหลนั่นทีเดียว ท่านว่าเป็นกฤติยาคมแฝดยากจะอุปมา
    - ผงคตวิเศษ คตศักดิ์สิทธิ์ เป็นทนสิทธิ์ตามตำรับคตของเจ้าปู่ชัยพรหมนั้น ล้วนเป็นของที่มีอิทธิฤทธิ์พิศดาร ซ้ำยังแฝงด้วยอานุภาพของเทพพรหมไม่มีประมาณ พ่ออาจารย์ท่านว่าผงคตเหล่านี้จะขาดเสียไม่ได้ ด้วยว่าเป็นหนึ่งในมวลสารตั้งต้นที่จะให้เกิดอานุภาพ ซ้ำยังให้มีกฤติยาคมแฝดด้วยคตนี้อยู่กับผู้ใดก็จะให้คุณแก่เจ้าของอย่างถึงที่สุด ไม่เลือกด้วยว่าจะดีหรือชั่วก็จะรักษาพิทักษ์ตามหน้าที่ไม่มีวันทอดทิ้ง พ่ออาจารย์ท่านว่าจิตใจคนหยั่งยาก คนสมัยนี้เราก็ไม่รู้ว่าใครเค้าจะดีหรือชั่ว ต่อให้เป็นคนดีแล้วอย่างไร จิตใจบางวันก็พลั้งเผลอหลงลืมขาดสติ ท่านจึงได้บรรจุผงคตวิเศษร้อยแปดประการของเจ้าปู่ชัยพรหมลงไป ท่านว่าไม่นับพลังศักดิ์สิทธิ์แล้ว อย่างน้อยองค์พระนี้ก็จะได้มีวิสัยของคต นั่นคือปกปักรักษาและตอบสนองผู้ใช้ไม่เลือกทั้งสิ้น ท่านว่าเทพยดาที่รักษาคตนี้ล้วนมีนิสัยเหมือนพระพุทธเจ้าอยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือโปรดไม่เลือก คนดีท่านก็โปรด คนชั่วท่านก็โปรดนั่นเอง
    - ผงว่านยาวาสนามหาอุดม เป็นตำรับว่านของพ่ออาจารย์ท่าน เพื่อสืบทอดเสริมสร้างวาสนาบารมีให้ผู้พกหรือบูชา อันเคล็ดวิชาสายมหาอุดมนี้ท่านว่าถือเป็นที่สุดจริงๆทั้งความเจริญ ความอุมสมบูรณ์ด้วยสิริและความสุขต่างๆบรรดามี เอาว่าครบและสมบูรณ์พร้อม ผงยานี้กู้ยากเก้บยากประกอบด้วยว่านยานับสิบ แค่คิดถึงเวลาเสาะหาก็ยากลำบากโดยแท้แล้ว เป็นของมีอาถรรพ์มาก ท่านว่าบรรจุไว้เพื่อให้องค์พระจะได้เปิดวาสนาพลิกชะตากรรมของผู้บูชาได้

    ลำพังองค์พระและผงยาทั้งเจ็ดชนิดก็มีอานุภาพสุดประมาณแล้ว แต่พ่ออาจารย์ท่านยังได้เมตตาเพิ่มเติมผงสำคัญต่างๆบรรดามีอีกหกประการเพื่อให้พระพิมพ์ทรงสัตว์ประทับไก่ของท่านนั้น เป็นเอกลักษณ์และใช้แทนของเก่าได้อย่างแท้จริง ท่านว่าพระแบบนี้ทำได้ครั้งเดียว

    เมื่อสร้างองค์พระแล้วก็ต้องเจาะคว้านเนื้อข้างในออก นำตะกรุดสำคัญบรรจุห่อพระบรมสารีริกธาตุไว้ภายใน ตามด้วยผงคุณวิเศษทั้งหกชนิด ปิดท้ายอุดผนึกด้วยผงยาทั้งเจ็ดประการที่บดยารอไว้พร้อมทั้งแผ่นโค้ดที่ท่านเมตตาจารด้วยแก้วหนุนธาตุปิดไว้

    พ่ออาจารย์ว่าการทำพระครั้งนี้ยากนักเพราะทุกอย่างล้วนมีขั้นตอนและพิธีกรรม และยากเพราะจะทำให้มีอานุภาพมากดุจพระแก้ว ท่านว่าพูดมากไม่ได้แต่พอบอกได้คร่าวๆ เพราะผงคุณวิเศษพิมพ์ทรงสัตว์นั้นก็ได้หลวงพ่อปานท่านช่วยสำเร็จให้อีกคำรบหนึ่ง ต่อเมื่อเป็นองค์พระแล้ว ก็ชุมนุมพระพุทธเจ้าและเหล่าเทพพรหมมามืดฟ้ามัวดิน ท่านว่ายังดีที่ได้ท้าวปชาบดีมหาพรหมท่านรับเป็นแม่งานให้ ยิ่งตอนบรรจุคุณเพื่อให้เกิดเป็นพระแก้วนั้นทั้งพระพุทธเจ้า พระปัจเจกโพธิเจ้า พระอรห้นต์ มากันนับแสนโกฏิยากที่จะประมาณ เอาว่าขนาดท้าวปชาบดีมหาพรหม ท้าวผกาพรหม ท้าวสหัมบดีมหาพรหม เหล่าพรหมผู้ใหญ่ทั้งมวลยังแทบไม่มีที่จะนั่งทีเดียว ซ้ำเมื่อเสร็จพิธีเสด็จพระใหญ่ท่านยังมีดำรัสเรียกขานนามขององค์พระไว้เป็นเกียรติประวัติว่า"พระจักรพรรดิแก้วยอดยิ่งฟ้า" พ่ออาจารย์ท่านว่านับเป็นสิริมงคลสูงสุดอย่างแท้จริง

    อานุภาพพระพิมพ์ทรงไก่มีคุณดั่งแก้วสารพัดนึก นึกสิ่งใดย่อมสมปรารถนาในสิ่งนั้นทุกอย่าง ขอเพียงให้ศรัทธาเชื่อมั่นไว้เถิด จะเกิดลาภผลอย่างประเสริฐ ทั้งเป็นทางอยู่ยงคงกระพัน เป็นเมตตา เป็นมหาอำนาจ มีตบะเดชะ แม้มีบูชาไว้และหมั่นภาวนาพระคาถาให้ได้ทุกวันแล้วไซร้ย่อมเป็นเจ้าคนนายคน ไม่มีวันอับจน มีผู้คนเมตตาอุปถัมภ์โดยตลอดแล เรียกว่าจัดครบจัดเต็มเพื่อให้เป็นเอกลักษณ์พระพิมพ์ทรงสัตว์ของท่านเลยทีเดียวก็ว่าได้ ....ท่านพูดถึงพระพิมพ์ทรงสัตว์ของท่านว่าแม้ใครทันได้รู้ ได้เห็น ได้ครอบครอง ก็นับเป็นเกียรติประวัติในชีวิต อย่าเพิ่งตายรึไปไหนเสียถ้ายังไม่ได้ใช้ ยังไม่รวย

    คาถาบูชา(นะโมสามจบ)
    โอม ยัม ไศวาหะสุมุปาสะเต ศิวะอิติ พรหมเหติ เวทานติโนเพาทะธาหะ พุทธอิติประมาณะปะฏะวะหะกะระเตติ ไนยายิกาหะ อรหันนิตะยะถะไยนะ ศาสนะรัตตาหะกรรมเมติ มีมานะสะยัมหะโสยัมโน วิทะธาตุวานยะฉิตะผะลัม ไตรโลกยะนาโถหะริหะ

    * พ่ออาจารย์ท่านสร้างพระพิมพ์ทรงสัตว์ไก่หางพวงนี้ไว้ได้ทั้งหมดเก้าองค์ แต่น่าแปลกใจที่เมื่อประกอบพิธีเสร็จกลับมีองค์พระเหลือเพียงแปดองค์ ท่านว่าบูชาครูไปองค์หนึ่งพร้อมกับชี้ขึ้นไปบนฟ้า ซึ่งท่านบอกว่าองค์พระทุกองค์นั้นมีเจ้าของทั้งสิ้น เพราะเป็นพระที่จะสร้างปัจจุบันและอนาคตไปพร้อมกับผู้ที่ได้ครอบครอง ท่านว่าเราพูดอะไรมากไม่ได้มันหนักปาก สำหรับผู้ที่จะบูชาก็เปิดจองเฉพาะใน PM ท่านที่จองก็ให้แจ้งชื่อสกุลไว้ด้วย เพราะพ่ออาจารย์ท่านจะทำการเจิมเบิกเป็นสิริมงคลให้อีกคำรบหนึ่ง รายได้ร่วมสมทบทุนวิหารทานในวัดที่ขาดแคลนเสนาสนะต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา มงคลเครื่องสูงพระพิมพ์ทรงสัตว์ไก่หางพวง(จักรพรรดิแก้วยอดยิ่งฟ้า) บูชา 4,000 บาท


    [​IMG] [​IMG]
    [​IMG] [​IMG] 27152776_203702293701415_1420526825_n.jpg 27157800_203702290368082_60953590_n.jpg [​IMG]
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดสร้อยสนกลบทเก้าเลิศภพจบแดน(ชุดประวัติศาสตร์พิฆาตไพรี)

    สืบตำนานครู ...พ่ออาจารย์ท่านได้สร้างตะกรุดมหาวิเสสอันมากด้วยอุปเท่ห์ในพระพุทธคุณขึ้น ด้วยท่านพิจารณาเห็นแล้วว่าตะกรุดสำคัญนี้มีกำลังมากและหากลงอักขระวิเสสเก้ากลบทนำมาปลุกด้วยพระคาถาศักดิ์สิทธิ์เฉพาะทั้งเก้าบทนั้น ตะกรุดนั้นจะมีคุณมากด้วยเป็นของค่าควรเมืองทีเดียว

    พ่ออาจารย์ท่านว่าแต่โบราณสืบมานั้นบทอิติปิโสสร้อยสนทั้งเก้า เป็นบทพุทธคุณที่มีคุณค่ามากหากจะนำมาภาวนา แต่ถึงกระนั้นในปัจจุบันก็หาผู้สืบทอดได้ยาก และเป็นการยากยิ่งกว่าเมื่อจะภาวนาให้เกิดมรรคเกิดผลตามคุณพระคาถา พ่ออาจารย์ท่านจึงเมตตานำมาทำให้เป็นตะกรุด เพื่อหวังให้ผู้บูชานั้นสามารถอธิษฐานใช้งานได้ง่ายขึ้น เป็นของสำเร็จที่ทำมาดีแล้ว สำเร็จแล้ว ใช้ได้เลยไม่ต้องภาวนาแต่อย่างใด

    อันวิชาอิติปิโสสร้อยสนมหายันต์ทั้งเก้ากลบทนั้นเป็นวิชาในตำนาน พ่ออาจารย์ท่านว่าเห็นเป็นตะกรุดโดดๆดอกเดียวเช่นนี้ แต่ด้านในนั้นมีถึงเก้าพระยันต์ไม่รวมตัวล้อมหรืออื่นๆอีก เอาว่าฉันทำมาไม่หนักคอเปล่า ซึ่งแต่ละแบบก็เรียกว่ามีอานุภาพมากเมื่อสำเร็จเป็นเครื่องมงคลที่พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจจารและเสกอย่างดีจึงมั่นใจในพุทธคุณได้แน่นอน

    อันวิชาทั้งเก้านี้มีคุณและมีชื่อเป็นอเนกประการแตกต่างกันไป จำแนกได้ดังนี้

    - กระต่ายแฝงคอ ท่านว่าตัวนี้เป็นแคล้วคลาด ทำอะไรเสี่ยงภัย เสี่ยงอันตรายไม่เจ็บเนื้อเจ็บต้ว ไม่เดือดเนื้อร้อนตัว แม้มีอัยอันตรายบังเกิดแก่ชีวิตก็เข้าไม่ถึงตัว อุปมาดั่งว่าไปสงครามที่มีการรบพุ่งกัน แม้ปืนต่างๆยิงมาก็ไม่ถูกแ้ปลายเส่นขนเราเลย

    - ฝนแสนห่ารำเพย ท่านว่าตัวนี้ใช้สะเดาะ เวลาติดอยู่ในสถานการณ์ไม่พึงประสงค์หรือหาทางออกไม่ได้ ก็จะเจอช่องเจอลู่ทางโดยง่าย ไม่มีปัญหาเหนี่ยวรั้งฉุดดึงเราไว้นาน ประดุจแม้ว่าต้องพันธนาการอันโหดร้ายก็ยังสะเดาะให้คลายออกจากสถานการณ์นั้นได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าชีวิตคนถ้ามัวแต่ทับถมซ้ำซากกับปัญหาเก่าปัญหาใหม่ชีวิตมันจะหาที่เจริญไม่ได้

    - กลิ่นไตรภพจบสกล ท่านว่าตัวนี้เป็นมหาวิเสสอย่างแท้จริง แม้ชีวิตเต็มไปด้วยขวากหนามอุปสรรคอันตราย หรือต้องผจญด้วยศัตรูที่คิดร้ายมีพิษสงมากก็ทำอันตรายเราไม่ได้แพ้ภัยตัวเองทั้งสิ้น ดุจเดินเข้าหาเหยียบขวากหนามผจญด้วยสัตว์มีพิษมีคมทั้งหลายก็ล้วนทำอันตรายเนื้อตัวเราไม่ได้เลย ทั้งยังเป็นที่เสน่หาน่าชมเชยหลงใหล ถึงขั้นเสน่หาอาลัย ไม่เบื่อไม่คลาย ไม่ปรารถนาที่จะห่างไกลแก่ผูงชนและเพศตรงข้ามทั้งหลายซึ่งเราปรารถนา

    - ทำการใหญ่ ท่านว่าตัวนี้สำคัญศัตรูหมู่มารที่ผจญเราด้วยเวรกรรมกฏแห่งกรมหรือกฏแห่งปัจจุบันที่กระทำก็ดี จะทำร้ายเราไม่ได้ เสียรูปไม่นับเป็นขบวนทีเดียว มีอานุภาพมากดุจทำศึกแม้ศึกยังไม่เริ่มศัตรูก็ระส่ายระส่ำเช่นนั้น ท่านว่าชีวิตคนก็เหมือนศึกสงคราม เรื่องทางโลกมีแต่คู่แข่งทั้งนั้นตั้งแต่เรียนเป็นเด็กน้อยจนไปถึงเติบโตทำงานมีอาชีพสร้างครอบครัว ที่จะไม่แข่งขันดุจผจญศึกสงครามนั้นไม่มี ท่านว่าคิดเอาแล้วกันว่าถึงเวลาทำการใหญ่ ถึงเวลาเอาชัยประสบความสำเร็จแล้วรึยัง ท่านว่าชีวิตตัวเองก็ต้องคิดเอง นอกจากนี้ด้วยคุณวิชายังมีคุณถึงขนาดว่าแม้ผู้ใดก็ตามเป็นศัตรูเรา มีจิตคิดร้าย คิดไม่ซื่อกับเรา เพียงแค่เห็นตัวเราก็จะประหม่าสยองพองขนสยดสยอง พ่ออาจารย์ท่านว่ามีอำนาจเป็นที่คร้ามเกรงแก่บุคคลทั้งหลาย บุคคลใดชีวิตมีจุดหมาย คิดจะทำการใหญ่ ผจญด้วยข้าศึกศัตรูในสงครามชีวิต สงครามธุรกิจต่างๆประดามีทั้งในวงสังคมหรือราชการ ควรยิ่งที่จะต้องบูชาไว้

    - กระทู้เจ็ดแบกฤทธิรณ ท่านว่าตัวนี้เหมือนคนอมตะดีๆนี่เอง ไม่ถึงที่ตายทำอย่างไรย่อมไม่ตาย ที่ว่าจะตายก่อนกรรมไปเป็นผีเป็นสัมภเวสีรอเวลานั้นไม่มี ต่อให้ทิ้งระเบิดมากลางอากาศ หรือใครจะสั่งจำสั่งฆ่าทุบตีอย่างไร ท่านว่าอันตรายมันพ้นร่างกายเราหมด เฉี่ยวไปพลาดไป ดุจเวรกรรมเคราะห์ร้ายหนักหนาอันใด แม้จะเกิดก็มีอันให้พลาดไปเช่นนั้นมาไม่ถึงไม่โดน ซ้ำยังมีคุณมากแม้ใครโกรธเคืองกันมาท่านว่าเห็นหน้าแล้วเมตตาโกรธไม่ลง ทำเป็นใช้เป็นพ่ออาจารย์ท่านว่านี่นับว่าอันตรายอย่างยิ่งทีเดียว เพราะสามารถนึกให้คนที่รักที่ชอบมาหาเราได้ แม้ไม่มาก็ให้เป็นไปถึงขนาดเป็นบ้าคลั่งไคล้ในจิตวิญญาณเสียสติดำรงค์ไว้ไม่ได้กลายเป็นคนวิกลจริตไป

    - กลืนอากาศ ท่านว่าตัวนี้มีฤทธาอานุภาพอย่างมาก ก็ถึงขนาดดำน้ำดำดินล่องหนหายตัวได้ ดุจว่าศัตรูคิดร้ายมองไม่เห็นตัวเรา แม้นจวนตัวจริงๆก็ย่อมผ่านเราเลยเราไปแบบมองหาอากาศธาตุ ท่านว่าใครไม่ได้เรียนลึกซึ้งแค่ถือตะกรุดดอกนึงจะให้ดำน้ำดำดินเดินอากาศได้นั้นย่อมเป็นไปไม่ได้ แต่เอาว่าศัตรูหรือภัยอันตรายที่จวนตัวจะมองเราเหมือนอากาศและผ่านเราไปแบบอากาศนั่นเอง แม้นเป็นถ้อยเป็นความกันอยู่ มีปากเสียงหรือถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล ท่านว่าสูญความ ถ้อยความทั้งหลายปัญหาทั้งปวงบรรดามีย่อมสูญหายอย่างน่าอัศจรรย์ ดุจถามหาอากาศ เอาผิดกับอากาศเช่นนั้น

    - ปราบจักรวาล ตัวนี้สำคัญยิ่งยวด พ่ออาจารย์ว่าปราบได้ทั้งจักรวาลทำอะไรชนะหมดแพ้ไม่เป็น มีอำนาจเกรงขามดุจกระทำบรรลือสีหนาท แม้จะลงเล่นการพนัน เสี่ยงโชค เสี่ยงดวงทั้งหลาย ท่านว่าเล่นไปเถอะ เอาตะกรุดใส่น้ำมันหอมเจิมหน้าเจิมตัวพูดได้ว่าทั้งชีวิตมีแต่ความสุขสดชื่นเบิกบานใจ ที่จะเหนื่อยจะเสียพนันมานั่งกังวลนั้นเป็นไม่มี แม่ใครมีถ้อยมีความโกรธเกลียดกันอยู่ท่านว่าเอาตะกรุดทำน้ำมนต์พรมๆใส่หัวเขาเห็นหน้าเรา ล้วนมีแต่รอยยิ้มจะยินดีรักกันเสมอประดุจบุตรแลธิดาตัวเอง แม้อาราธนาตะกรุดใส่ในแป้งหอมหรือน้ำมันมาทาตัวท่านว่าเป็นเสน่ห์ยิ่งนักรักกันสิ้นทั้งบ้านหลงใหลเราทั้งครอบครัว ท่านว่าตัวนี้สำคัญนักแม้แต่จะชุบจะปลุกแต่งคนธรรพ์ให้มีฤทธานุภาพ ทำให้เป็นมหาปราบจักรวาล จะแต่งไปทำร้ายผู้ใดก็ล้วนทำได้

    - สูบมหาสมุทรอลวล ตัวนี้มีฤทธานุภาพมาก แม้อยู่บนแผ่นพื้นปฐพี หากมีไพรี มีใครคิดทำร้ายเราเขาจะฝันจะรู้สึกเหมือนโดนพยนต์ต่อแตนกัดต่อยอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ว่าเป็นคนจะไม่เหยียบดินนั้นเป็นไม่มี แม้จะผจญด้วยผู้ใดก็จะสูบเอาโชคลาภวาสนาเขามาเพิ่มพูนให้ตนเองสิ้น ท่านว่าตัวนี้มีฤทธิมากหากทำเป็น ใช้เสกหวายฟาดสมุทรสาครให้แห้งเหือดได้ จะเกิดทุกข์เข็ญแก่สัตว์ผู้ยากด้วยปราศจากธารากระแสสินธิ์อันเป็นบ่อเกิดแห่งชีวิตที่ใช้ดื่มกินจำนวนมาก ท่านว่าเป็นอันตรายและไม่มีความจำเป็นต้องทำ จำจะใช้เพียงอานุภาพทางดับล้างศัตรูเท่านั้นพอ

    - สมุทรเกลื่อนกระจาย ท่านว่าให้เอาตะกรุดนี้ปักไว้ในกองถั่วเขียว แล้วเอาถั่วนั้นโปรยไปเถิดปรารถนาที่ดินหรือบ้านเมืองล้วนเป็นของเราสิ้นได้บ้านได้เมืองแล ตัวนี้ท่านว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนไปคงไม่มีใครมายกบ้านยกเมืองให้เราฟรีๆ เอาว่าปรารถนาอยากได้ที่ใครเขาไม่ขายให้ก็ไปทำดังนี้ก็ได้ หรือแม้แต่ปรารถนาจะให้จิตวิญญาณในสถานที่นั้น ทั้งจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ จิตวิญญาณปฐพีตลอดจนถึงจิตวิญญาณเจ้าของที่นั้น ตรงที่เราอยู่ เราทำงาน เราอาศัยอยู่ หรือเราต้องเข้าไปเกี่ยวข้องเพื่อผลประโยชน์ใดๆก็ดี ให้เขารักเรา เมตตาเรา จดจำเรา ให้คุณช่วยเหลือเฉพาะเราอย่างเต็มที่ ก็ให้เอาถั่วนั้นโปรยไปในสถานที่นั้นเถิด ผืนดินตรงนั้นจะตอบสนองให้คุณและเป็นสิริมงคลแก่การมาหา การอยู่อาศัย การประกอบกิจการ การทำงานของเราหนักหนา

    พ่ออาจารย์ท่านว่าอันตะกรุดสร้อยสนกลบททั้งเก้านี้ แม้ข้อใดข้อหนึ่งก็ล้วนแต่มีอานุภาพเฉพาะด้านเฉพาะทางของเขาอย่างน่าอัศจรรย์ใจ เมื่อมาประกอบรวมทั้งเก้าชนิด เก้าคุณวิเศษที่รวมกันอันหาได้ยากยิ่งในเครื่องมงคลใดๆจึงนับได้ว่าเป็นเอกเลิศภพจบแดน เป็นของวิเศษที่ยากจะหาใดมาเทียบพุทธคุณอย่างแท้จริง พ่ออาจารย์ท่านว่ากว่าจะทำให้เสร็จ ให้สำเร็จ ให้เอาไปใช้กันได้นี้ก็เสกมานานจนครบ ต้องไล่ไปทีละกลบท ทำไปเป็นอย่างๆไม่ใช่สักแต่หลับตาเสกแล้วมันจะเสร็จแต่อย่างใด ท่านว่าทำไว้ให้เป็นชุดประวัติศาสตร์ สร้างเพื่อเป็นตำนานอันชนที่ได้ไปต้องกล่าวขานถึงแบบไม่รู้จบ

    ท่านว่าแรกเริ่มเคยทำเป็นสังวาลย์เก้าสายอยู่เช่นกัน มีอิทธิคุณมากใช้ได้ทุกทางตามอุปเท่ห์นั้น ท่านเรียกว่าสังวาลย์พิฆาตไพรี แต่ท่านก็ไม่ได้ลงให้ใครมากเพราะท่านว่าเสกยากเหลือใจ ชั้นหลังนี้มาคิดจะทำให้ปรากฏเป็นทางการซักรุ่นหนึ่ง ท่านว่าจะให้ทำเป็นสังวาลย์คนก็จะไม่คาดกันเพราะมันหมดยุคสมัยจะสะพายแล่งออกไปนอกบ้านกันแล้ว ท่านจึงใช้ความเพียรจารกดอักขระให้สังวาลย์เก้าดอกนี้รวมอยู่ในดอกเดียวเพื่อความสะดวกและถนัดในการใช้ของผู้บูชา โดยท่านเรียกตะกรุดนี้สั้นๆว่าตะกรดพิฆาต ท่านว่าต่อไปหากกล่าวถึงตะกรุดพิฆาตคนจะต้องรู้จัก และเป็นยอดปรารถนาของคน เพราะพุทธคุณอเนกประการบรรดามีแต่ละอย่างนั้น ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ยากจะหา และสำคัญต่อชีวิตคนบูชาอย่างแท้จริง

    ซ้ำยังเป็นเมตตาอย่างสูงที่ท่านได้อธิษฐานจิตเสกปิดตะกรุดชุดนี้ให้ในฤกษ์พิเศษ นั่นคือเมื่อคืนซึ่งตรงกับขึ้น15ค่ำเดือน3 ที่มีเหตุการณ์จันทรคราสหรือราหูอมจันทร์เต็มดวง ท่านว่าจับยามไล่เสกไปตามลำดับตั้งแต่ตอนราหูจับจันทร์ ราหูกลืนจันทร์ ราหูคลายจันทร์ ท่านว่าการอธิษฐานจิตวาระนี้ทำให้เป็นพิเศษโดยกำลังโพธิสัตว์อันจะสงเคราะห์รื้อขนสัตว์โลกออกจากทุกข์ เพื่อเป็นสิริมงคล เสริมดวงชะตา ตะกรุดดอกนี้จะได้มีคุณวิเศษด้านหนุนดวง แก้ทางคนดวงตก แก้ทางคนทำมาหากินไม่ขึ้น ทำอะไรก็ไม่ขึ้น ใช้ของก็ไม่ขึ้น อะไรที่ติดขัดท่านว่ามันจะคลายออก บาปเคราะห์ ลางชั่วร้าย อวมงคลใดๆ อันใดจักมี อันนั้นจักหายไป ด้วยบารมีสงเคราะห์ของพระราหูผู้เป็นมหาโพธิสัตว์ใหญ่แห่งไตรภูมิ

    คาถาบูชา
    โอม นะโม สิทธิกาลังสะหุม เอตัง พุทธานะสาสะนัง ทิปะทุตะจะ วันนะ วัสสะ

    * พ่ออาจารย์ท่าตะกรุดนี้ทำยากและฤกษ์เสกปิดก็ไม่ได้มีบ่อยๆ ท่านทำไว้ทั้งหมด 7 ดอก สำหรับผู้ที่มีวาสนาทั้งเจ็ดคน ใครต้องการสั่งจองก็เปิดรับจองเฉพาะทาง PM โดยให้แจ้งชื่อนามสกุลกำกับไว้ด้วย ท่านจะเป่ามนต์พระราหูสำทับและคลุมตะกรุดชุดนี้ด้วยบารมีมหาโพธิสัตว์ใหญ่ให้อีกวาระหนึ่ง รายได้สมทบทุนอาหารและเครื่องนุ่งห่มตามวัดและชาวเขาในที่ทุรกันดารต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดสร้อยสนกลบทเก้าเลิศภพจบแดน(ชุดประวัติศาสตร์พิฆาตไพรี) บูชา 3,500 บาท

    image.jpg e0b89ae0b8b2e0b8a3e0b8a1e0b8b510e0b897e0b8b1e0b8a8e0b899e0b98c1.jpg
    27583791_207107593360885_653429537_n.jpg e0b8a0e0b8b2e0b89ee0b8a7e0b8b2e0b894e0b888e0b8b4e0b895e0b8a3e0b8.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2021
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา พระขุนแผนชัยวรมันมหานาถผงพันพรายพฤกษา(อัปสราเนรมิต)


    พ่ออาจารย์ท่านได้สร้างพระขุนแผนตำรับขอมโบราณไว้ ด้วยการทำวิชาและสืบต่ออารยธรรมขอมโบราณในพระโพธิสัตว์ชัยมหานาถหรือพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 โดยขุนแผนที่ท่านกดครั้งนี้ท่านได้รวบรวมมวลสารอาถรรพ์ที่ปลุกเสกกำกับอาถรรพ์ราชาเวทย์ไว้ในยุคบายนขององค์โพธิสัตว์ชัยมหานาถมาป่นเป็นผงมวลสาร อาถรรพ์ราชาเวทย์ คือเวทย์ที่เป็นใหญ่กว่าเวททั้งหลายทั้งปวง เป็นใหญ่กว่าคาถาทั้งปวงในภัทรกัป มีผลานิสงค์อันยิ่งใหญ่ เป็นการรวมบารมีแห่ง การอุบัติขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งห้าพระองค์ อุบัติเกิดความสมบูรณ์เติมเต็ม อุบัติสัญญา อุบัติแห่งขันธ์ที่บริบูรณ์ รวมไปถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ พระปัญญาคุณ พระบริสุทธิคุณ และพระมหากรุณาธิคุณ ด้วยอานุภาพแห่งวิชาอาถรรพ์นั้นจะมุ่งส่งเสริมผู้บูชา แม้บูชาไว้ในเคหะสถานก็เป็นมงคลอันยิ่งใหญ่ บูชาติดตัวหมั่นระลึกถึงก็จะลุถึงซึ่งอำนาจเป็นใหญ่กว่าคนทั้งปวง เรียกว่าเป็นเจ้าเป็นราชาแห่งสถานที่และสรรพชีวิตทั้งหลายโดยคติทางมายาศาสตร์

    ท่านได้กระทำไปตามวิธีของขอมโบราณ เมื่อจะสร้างพระขุนแผนรุ่นนี้ โดยตั้งใจทำผงพรายที่มีฤทธิ์รุนแรงกว่าพรายมนุษย์อันมีขั้นตอนและพิธีกรรมยุ่งยากขึ้นมา พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าผงพันพรายพฤกษา เมื่อจะทำท่านได้รวบรวมมวลสารต่างๆเช่นรังผึ้งป่าขวางตะวันเก้ารังต้มให้เป็นขี้ผึ้ง ผสมด้วยว่านดอกทอง เสน่จันทร์ทั้งห้า สาวหลง นางล้อม ขุนแผนสะกดทัพ ยอดรักซ้อน เถาวัลย์หลง เครือเขาหลง เครือร้อยปลา ไม้ไก่กุ้ก ยอดสวาท ยอดกาหลง ยอดมะรุม ดอกรักซ้อน ครั่งพุทรา กาฝากมะยม กาฝากรักซ้อน ไม้มะเด้าป่า..... นำทั้งหมดมาต้มหุงเข้ากับน้ำมันเสน่ห์และสีผึ้งต่างๆ ดังนี้

    - น้ำมันพรายแม่ตะเคียนทอง
    - สีผึ้งเจ้าจันทร์พามานะ
    - น้ำมันมหาเสน่ห์
    - น้ำมันช้างผสมโขลง
    - น้ำมันเสน่ห์แม่ม่าย
    - น้ำมันหนูกินนมแมว
    - น้ำมันแกแล
    - น้ำมันกามสูตร
    - น้ำมันนางครวญ
    - น้ำมันสาริกาหลงรัง
    ซึ่งในขั้นตอนการหุงนั้น พ่ออาจารย์ท่านเมตตาบอกกล่าวว่าต้องคอยใส่ผงมวลสารอาถรรพ์ต่างๆทางด้านเสน่หาเมตตาลงไปด้วย ที่พอจะเปิดเผยได้ก็ได้แก่ ผงนะอกแตก ผงสาลิกาป้อนเหยื่อ ผงมหาเสน่ห์เรียกจิต ผงม้าเสพนาง ผงมหากำเนิด ผงพญาเทครัว ผงกำเนิดเทวดามหาเสน่ห์ ผงกามคุณโยนีเข้าหา.... ท่านว่าหุงด้วยไฟพระเวทย์ มีทั้งว่านยาบังคับตลอดผงทั้งหลายในตำรับการทำผงยาแฝดที่ไม่สามารถเปิดเผยได้อีกมากทั้งตัวผู้และตัวเมีย เครื่องยาต่างๆสารพัดเหล่านี้ท่านว่ามันมากมายพอที่จะเรียกว่าพันพรายพฤกษาทีเดียว เพราะว่านยาทั้งหลายล้วนแต่มีเทพ มีวิทยาธรเฝ้ารักษา มีวิธีการในการพลีการเอาต่างๆกันไปต้องใช้เวลาในการเก็บรวบรวม

    เมื่อหุงเสร็จนั้นท่านนำขี้ผึ้งที่หุงได้มาปั้นเป็นหุ่นสตรี ปลุกเสกเรียกจิต เรียกนาม ตั้งธาตุ หนุนธาตุ หนุนอาการทั้งสามสิบสอง ผูกด้ายสยุมพรเสกให้ครบพิธีอีกเจ็ดรอบในวันทั้งเจ็ด ในพิธีนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าสำคัญนักเพราะต้องอัญเชิญพระอินทร์ท่านลงมาทำให้จึงสำเร็จ ท่านว่าหุ่นนี้เอาจริงๆแล้วพระอินทร์ท่านก็เมตตาทำให้แทบทั้งหมด กล่าวคือในพิธีปลุกหุ่นนั้นต้องเชิญพระอินทร์ลงมากำกับหุ่น พระอินทร์ผู้เป็นเจ้าที่มีอัปสรบริวารและเหล่าสนมชายาหลายร้อยล้านนางนั่นแหละ พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อหุ่นนี้จะกำเนิดขึ้น พระอินทร์ท่านต้องเอาดาวบนฟ้ามานิรมิตรให้ เป็นรูปนางอัปสรปรากฏขึ้นในหุ่นนั้น โดยท่านเรียกตามชื่อที่พระอินทร์ท่านตั้งให้แต่เริ่มว่าพี่ประกายดาว หรือแม่ดุจดาว เป็นอัปสรที่เกิดขึ้นจากพลังของพรายธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ เกิดในไฟพระเวทย์ ญัตติขึ้นเพื่อให้เกิดอิทธิฤทธิ์บันดาลและอานุภาพศักดิ์สิทธิ์ เหนือกว่าพรายมนุษย์และสิ่งมีชีวิตพื้นฐานทั้งหลาย

    เมื่อจะสร้างขุนแผนนั้น พ่ออาจารย์ท่านมีดำริให้สร้างอยู่ในรูปพิมพ์ขุนแผนพรายกุมาร โดยท่านนำผงอาถรรพ์ราชาเวทย์มาผนวกเข้ากับมวลสารหุ่นพรายประกายดาวหรืออัปสรที่เกิดจากการรวมพลังของพรายธรรมชาตินี้ ท่านว่าขุนแผนนี้จะมีฤทธิ์มากและเฮี้ยนยิ่งนักในคุณของอาถรรพ์วิชาและอาถรรพ์พรายที่เป็นสื่อเหนี่ยวนำผู้บูชา ท่านว่าพรายนั้นใช้ง่ายทำอะไร ขออะไรก็จะสำเร็จไว ใช้ให้ทำอะไรก็ได้เรื่องไว โดยเฉพาะกับแม่ดาว เมื่อนำมาผนวกพลีเป็นมวลสารสร้างขุนแผนแล้วจะเฮี้ยนขึ้นอีกมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่ออยู่ในรูปพิมพ์องค์พระขุนแผนหรือรูปของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรงนี้สัญญาความจำได้หมายรู้ได้เกิดขึ้นแล้ว สัญญาของแม่ดาวที่ยึดติดกับพระศาสนา จะคอยค้ำจุนช่วยเหลือสร้างสมวาสนาและกุศลบารมีในประการต่างๆตามที่วิถีชีวิตของผู้ใช้จะพาไป

    แม่ดาวนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่ามีอานุภาพในทางเสน่ห์สูงสุด ชอบเห็นคนรักกันและทำให้คนรักกัน ชอบเห็นคนยิ้มแย้ม ชอบทำให้คนมีความสุข พ่ออาจารย์ท่านว่าใครที่อธิษฐานขอบารมีแม่ดาวนี้ ให้เพียรขอเพียรใช้ไปเถิด จะทางด้านเมตตา มหานิยม โชคลาภ รักใคร่ลุ่มหลงอธิษฐานใช้ได้เลย ท่านว่าติดตัวไปได้ทุกที่ไม่มีเสื่อม จะลอดราว ลอดสะพานหรือเข้าที่อโคจรล้วนแต่ไม่เสื่อมทั้งสิ้น มีคุณมาก พ่ออาจารย์ท่านว่า "ก็ธรรมชาติอันยิ่งใหญ่นี้มีทั้งคุณอนันต์และโทษมหันต์ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตามเธอเคยเห็นธรรมชาติเสื่อมอำนาจของมันลงหรือไม่แม่ดาวนี้ก็เช่นกัน ที่สำคัญที่สุดคือเธอชอบสร้างชอบทำให้ชีวิตคนมีความสุข"

    ความสุขในชีวินคนคืออะไร แต่ละคนนั้นล้วนมีเป้าหมายและการกระทำ หน้าที่และชีวิตแตกต่างกันไป ดังนั้นความสุขของคนจึงต่างเรื่องต่างสถานะไม่เสมอกัน แต่ท่านว่าอะไรคือความสุขของเราก็ให้บอกกับพี่ดาวท่านไปเถิด แล้วสิ่งนั้นจะเกิดกับตัวเราบ่อยขึ้นมากขึ้นจนน่าฉงน

    สำหรับพระขุนแผนพี่ดาวนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นพระพิมพ์สากลคือสร้างขึ้นมาในรูปพิมพ์ทรงพรายกุมาร ท่านว่าพรายพี่ดาวคือพรายพระเวทย์ เป็นพรายที่แรงที่สุดและไม่มีอันตรายใดๆกับผู้ใช้ไม่ว่าจะการสิงสู่กินตัวและอาถรรพ์พิษร้ายทั้งหลาย

    พรายพระเวทย์นี้มีอานุภาพมากดุจการชุบกายสิทธิ์หรือให้กำเนิดเทวดามาทีเดียว ไม่ใช่พรายธรรมดาสามัญ สามารถบอกกล่าวได้ ไปกับเราได้ในทุกที่ทั้งวัดและศาสนสถานต่างๆ เป็นกายสิทธิ์ มีทิพย์อำนาจของตนเอง ไม่ต้องเซ่นสิ่งใดๆ หากเพียงเชื่อมต่อกันด้วยกุศลผลบุญเท่านั้น เมื่อกระทำบุญสร้างกรรมดีใดๆก็ให้อธิษฐานถึงพี่ดาวเขาและแผ่ออกไปให้เขา ท่านว่ายิ่งใช้ ยิ่งทำ พี่ดาวเขาจะยิ่งมีฤทธิ์ ยิ่งแรง ตัวบุญนี้ก็เป็นเหมือนอานุภาพของเทวดา เขาจะขวนขวายช่วยเราไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อยแต่อย่างใด ในกรณีที่เรานึกถึงเค้าบ่อยๆก็เหมือนคนที่คิดถึงกัน จิตสัมผัสถึงกัน เป็นเกลอสนิทมีมิตรภาพต่อกัน เขาจะช่วยเหลือเราอยู่ร่ำไป

    พ่ออาจารย์ท่านว่าให้ทำเพียงเท่านี้ เพียงระลึกถึงกันบ่อยๆ มีความปรารถนาดีเป็นอารมณ์พื้นฐานในใจของเรา สำหรับพี่ดาวนี้ความรู้สึกของคนใช้สำคัญที่สุด ถ้าเราหวังดีกับเค้าเค้าก็จะหวังดีกับเรา แต่ถ้าเราไปเฉยๆกับเค้าไม่คิดถึงเค้า เค้าก็จะเฉยๆกับเราเช่นกันเหมือนไปไหนไปด้วยแต่ต่างคนต่างอยู่ หากเราคิดถึงเขาหวังดีกับเค้าหมั่นอุทิศบุญแผ่เมตตาพูดถึงแต่ชื่อเค้า เช่นนี้เค้าย่อมรักเราเป็นที่สุด ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าพรายของเราหรือพี่ดาวนี้มีแต่ดี มีแต่ทำให้คนเจริญและมีความสุขอย่างรวดเร็ว ที่จะกินตัวนั้นเป็นไม่มี

    ด้วยว่าเป็นพราย เรื่องไหนพระหรือเทพช่วยไม่ได้ เขาจะช่วยเราได้ อยู่กับเราและรับรู้เรื่องต่างๆของเราได้ดีกว่า เหมือนคนในวัฏจักรเดียวกัน อยู่บ้านหลังเดียวกันย่อมผูกพันธ์และเข้าถึงกันมากกว่าท่านว่าเปรียบให้ฟังง่ายๆเช่นนี้ เวลาเราขอให้ใครช่วยเราขอคนในบ้านย่อมไวและสะดวกทันใจมากกว่าไปขอคนละหมู่บ้าน ท่านว่าพี่ดาวนี่แรงและเร็วคนใช้มีแต่จะได้ดี ถึงขนาดว่าถ้าจะเสมอตัวไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปลี่ยนแปลงเลย นั่นต้องเป็นคนไร้ความรู้สึก รักใครไม่เป็น ไม่รู้จักการระลึกนึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างแท้จริง

    พระผงพิม์ขุนแผนนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเปิดบารมีของพี่ดาวเขาให้คนรู้คนเห็นและบูชากัน สำหรับคนที่ชอบสายพราย ครูพรายแรงๆ แต่ปลอดภัย เน้นความแรง ให้คุณหนัก และไม่มีอันตรายร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยท่านสร้างขึ้นมาสองเนื้อ ท่านว่าก็เลือกบูชากันตามใจชอบ จะได้เข้าถึงและบูชากันได้ทั่วๆ ประกอบด้วย
    - องค์บรมครูเนื้อพรายประกายดาวบรมครูแก่หัวเชื้อพรายฝังเหรียญหล่อกายสิทธิ์ เนื้อนี้จะสร้างไว้ทั้งหมดเจ็ดองค์ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นองค์ท๊อปของรุ่น เหมือนเครื่องยนต์ที่ติดเทอร์โบเอาไว้ให้คนชอบอะไรแรงๆไวๆ โดยองค์พระกดพิมพ์จากเนื้อหามวลสารที่แก่ว่านและน้ำมันอาถรรพ์ตลอดจนสีผึ้งเจ้าจันทร์ แก่หัวเชื้อพรายพระเวทย์ประกายดาว ตรงกลางอกจะฝังเพชรน้ำค้างที่หลวงปู่ดู่อธิษฐานจิตไว้ เสริมอานุภาพดุจแก้วสารพัดนึกส่งผลตอบสนองผู้ใช้ได้รวดเร็วอีกทีหนึ่ง ด้านหลังจะเป็นหุ่นพี่ดาวที่พ่ออาจารย์ท่านปลุกเสกลงขันธ์ห้าลงอายตนะสิบสองไว้ ท่านว่าเป็นพรายนิสัยดีแสดงฤทธิ์แสดงตัวได้ทำอะไรรวดเร็ว
    - องค์พิเศษเนื้อพรายประกายดาวแก่ผงวิเศษ เนื้อนี้จะสร้างไว้ทั้งหมดเก้าองค์ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นส่วนของชวนมวลสารที่นำมาคลุกเคล้าผสมผงวิเศษที่เหลือจากการปั้นหุ่นพี่ดาว ท่านว่าผงแต่ละชนิดก็แรงๆทั้งนั้น โดยองค์พิเศษนี้กลางอกจะฝังบุษราคุมอธิษฐานจิตของหลวงปู่ดู่ไว้มีอานุภาพดุขแก้วารพัดนึกเช่นกัน

    คาถาบูชา
    อาราธนา นะสุนะโมโล อิถีจังงัง อุกะปะ อุกะมะ แม่ดาวมานิมา นะมะพะทะ นะสโหมติด
    ว่าคาถา อุม้ะตวนมหาตวน ตวนเตียงเจิต ตวนเตียงเทลิม ตวนเตียงมะนายเดิม ตวนเตียงจีโดน ตวนเตียงจีตา ตวนเตียงจะแก ตวนเตียงชมา เตียงเอ้าะเรือลเคนีย มินกวงกะเม็งมูย อุมะสิทธิสวาหะ

    * รับสั่งจองเฉพาะทาง PM สำหรับผู้สั่งจอง ท่านให้แจ้งชื่อสกุลไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะทำการเจิมเปิดจิตพี่ดาวให้ เพื่อความไวในการอธิษฐานใช้บูชาเป็นการเฉพาะคน รายได้ร่วมบริจาคเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กพิการและด้อยโอกาสต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระขุนแผนชัยวรมันมหานาถผงพันพรายพฤกษา(อัปสราเนรมิต) องค์บรมครู 3,500 บาท

    ร่วมทำบุญบูชา พระขุนแผนชัยวรมันมหานาถผงพันพรายพฤกษา(อัปสราเนรมิต) องค์พิเศษ 1,500 บาท


    [​IMG] [​IMG]
    [​IMG] [​IMG]
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874

แชร์หน้านี้

Loading...