ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดวางแหพระเจ้าเหวี่ยงกวาดสังสารวัฏ พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    คนสมัยนี้แบบนี้มีเยอะเลย เรื่องหนี้ไม่ยืม ไม่ก่อดีที่สุดครับ
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    ก็มีข่าวดีมาแจ้ง สำหรับคนที่ถามหาพระขรรค์หรือรอของที่ใช้แทนพระขรรค์ได้ พ่ออาจารย์ก็ให้เอาสุดยอดเทพศาสตราวุธในคติพราหมณ์ออกมาให้ได้ใช้กัน รายการนี้บอกไว้เลยว่าทำยากกว่าพระขรรค์หลายเท่า ซ้ำยังเป็นของสูงมาก งานนี้ใครที่ชอบสายอาวุธวิเศษและพลังงานลี้ลับต้องเกาะขบวนไว้แน่นๆไม่งั้นมีตกรถแน่นอน;)
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ของที่โอนไว้จะส่งให้รอบวันจันทร์นะครับ

    ส่วนใครที่ชอบอาวุธหนักๆ สายแข็ง สิ่งที่เป็นอำนาจของครู อำนาจของพระผู้เป็นเจ้า ที่กำหนดสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อมอบให้กับศิษย์ได้ใช้อำนาจของพระองค์เสมือนเป็นสิ่งแทนครู อันนี้ก็เกาะขบวนกันดีๆเพราะพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าของสิ่งนี้แม้คิดสร้างหรือไปทำกันเอาเองก็ทำได้แต่รูปภายนอก แต่ไม่อาจใช้ได้ เพราะอำนาจของครู อำนาจของพระเป็นเจ้านั้นท่านต้องใช้ออกและมีโองการเอง อยู่ดีๆเราจะทำก็ทำไม่ได้ และท่านหมายตาตั้งใจจะมอบให้กับใครนั้น ทุกสิ่งเบื้องบนกำหนดไว้หมดแล้ว

    image.jpg
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    เดี๋ยวมาติดตามพูดคุยกันนะครับ ศาสตราวุธชิ้นนี้เหมาะกับคนชอบของแรงๆจริง แรงอย่างไร ...พิเศษอย่างไร บอกได้คำเดียวว่าพีคสุดๆ ซ้ำพ่ออาจารย์ท่านยังให้บูชาแค่หลักร้อย แค่ท่านนั่งแต่งนั่งฝนที่ละเล่มก็นับว่าคุ้มแล้ว เพราะทำยากกว่าจะได้แต่ละเล่ม
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    อ่านกันก่อน

    พรุ่งนี้ติดตามกันให้ดี บอกได้แค่ว่ามียอดเข้ามาทันทีที่แจ้งว่าพ่ออาจารย์จะให้นำเทพศาสตราออกมาอีกรอบ แต่ขออนุญาติยั้งๆกันไว้ก่อนนะ ขอให้ใช้สิทธิ์ทีเดียวพร้อมกัน ใครไม่ทันก็พลาดไป หนนี้ผมจะไม่กั้กไม่เก็บให้แบบทุกที วันนี้เอาข้อมูลคร่าวๆมาให้อ่านกันก่อน...(อ่านให้ดี)


    ก็ศาสตราวุธอันใดเล่าที่ขึ้นชื่อว่าเป็นยอดกว่าเทพศาสตราทั้งปวง เพราะ.....

    ก็ศาสตราวุธอันใดเล่าที่ผู้ถือครองประดุจได้รับอาญาสิทธิ์จากพระเป็นเจ้า ได้ชื่อว่าถือครองอำนาจส่วนหนึ่งของพระผู้เป็นเจ้ามาใช้งาน เพราะ....

    ก็แล้วศาสตราวุธอันใดที่มีอานุภาพร้ายกาจฉกาจฉกรรจ์ สามารถทำลายได้ถึง 14 โลกธาตุให้พินาศฉิบหายเป็นจุลมหาวิจุลไปพร้อมกัน ...(พ่ออาจารย์ท่านว่าเทพศาสตราอื่นๆทั่วไปนั้นเต็มที่ก็ทำลายโลกธาตุได้เพียงหนึ่ง)

    ก็แล้วเทพศาสตรานั้นได้ชื่อว่ามีอานุภาพอันหาประมาณมิได้ ถึงขั้นที่ว่าแม้นำไปเคาะเครื่องราง หรือวัตถุมงคลใด สิ่งที่ถูกเคาะนั้นก็จะทวิทวีทบทูนกลิ่นอายความศักดิ์สิทธิ์แลอานุภาพเพิ่มขึ้นมาได้อีกขั้นหนึ่ง(พ่ออาจารย์ท่านจึงมักนำมาเคาะของที่ท่านใช้หนละ108ครั้ง ท่านว่าไม่ควรเกินไปกว่านี้)

    * เทพศาสตรานั้นได้ชื่อว่าเป็นอำนาจสูงสุดของพระเป็นเจ้าที่จะมอบให้แก่มนุษย์ เพื่อใช้อำนาจนั้นแทนพระองค์

    * เทพศาสตรานั้นได้ชื่อว่าเป็นเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดในหมื่นโลกธาตุ แม้อำนาจของเทพศาสตราทั้งปวงก็ไม่สามารถล่วงเกินได้

    * เทพศาสตรานั้นใช้ได้ทั้งสร้างคุณประโยชน์และบันดาลมหันตโทษ เป็นได้ทั้งพรและคำสาปให้ผู้ใช้งานได้ใช้อำนาจนั้น

    * เทพศาสตรานั้นสามารถถอดถอนคำสาปแช่ง วาจาสัตย์สาบาน ทั้งปัจจุบันและอดีตกาลได้ ล่วงอำนาจเทพศาสตราทั้งหลาย


    คุณแห่งเทพศาสตราชิ้นนี้มีมากเป็นเอนกอนันต์ ซ้ำยังมีวิธีใช้ที่พิศดารด้วยมหิทธิฤทธิ์ประการต่างๆ นับว่าเป็นชุดของรักของหวงของพ่ออาจารย์ท่าน ที่ท่านมักจะหยิบขึ้นมาทำอาถรรพ์ให้พรคนอื่นซักครั้งแม้นานๆทีหนหนึ่ง เพราะหากใช้งานออกไปแล้วแม้ด้วยคำพูดคนธรรมดาไร้ศีลธรรมหากแต่กล่าวพร้อมกับชูปกาศิตแห่งเทพศาสตราล้วนแต่เป็นวาจาสิทธิ์ทั้งสิ้น เช่นนั้นเทพศาสตรานี้พ่ออาจารย์ท่านว่าคนที่ได้มาเห็นท่านว่านับเป็นบุญตาของเขา แต่หากคนที่ได้นำไปใช้นั้นท่านว่าถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะคนที่จะมีบารมีครอบครองได้ ต้องเรียกว่าบุคคลนั้นเป็นคนที่ฟ้าคัดสรรค์แล้ว ***เคล็ดการใช้และรายละเอียดต้องติดตามให้ดี โดยเฉพาะพวกที่มีกรรมเก่าเยอะ พวกชีวิตที่เคยโดนสาปแช่งมานับแต่อดีตกาล เคยไปกล่าวคำสาบานติดหนี้เวรกรรมร้อยชาติพันชาติต่างๆทั้งหลาย พลาดหนนี้ถือว่าเสียโอกาสนัก

    118756197.jpg
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    ก็มีคนทักไลน์มาบอกว่าเปิดคอมรอตั้งแต่ตี 5 บอกว่าครูท่านไปตามให้เอาไว้ให้ได้ เขาว่าถ้าไม่ได้ปัญหาชีวิตก็แก้ไม่ตก ก็ติดตามกันในรอบวันนี้นะครับ
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ไม้ครูสมประสงค์ไศวะภูมิมณฑลมเหศวรอัสตรา (พรหมทัณฑ์)
    เกี่ยวกับไม้ครูนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเจ้านายและผู้มากบารมีรวมไปถึงเจ้าสำนักการศึกษาอาคมทั้งหลายมักนิยมถือ เรียกว่าต้องมีไว้ประจำการเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้นั่นทีเดียว ด้วยการสร้างไม้ครูนับเป็นรูปธรรมแบบหนึ่งของจิตวิญญาณในองค์ปถมัง ดุจเทียบเคียงไม้ครูนั้นกับเรือนกายมนุษย์ ประกอบด้วยองค์นะต่างๆเช่น องค์นะไม้เท้ามหาเถร องค์นะไม้เท้าค้ำฟ้า องค์นะทันฑะ...ผูกวิชาไว้อย่างลึกซึ้ง

    ในบรรดาไม้ครูทั้งหมดนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ทำยากที่สุดก็คือการสถิตย์จิตวิญญาณและแก่นแท้ของไม้เท้าแห่งพระบรมบิดาพรหมเทพ อันไม้เท้านี้ได้ชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของการควบคุมนามธรรมในจักรวาลทั้งความมืด แสงสว่าง ความดี ความชั่ว ความสุข ความเดือดร้อน เคราะห์ร้าย ภัยพิบัติ..... (สิ่งที่เป็นนามไร้รูปร่างแตะต้องไม่ได้เช่นนั้น) ทั้งยังควบคุมอำนาจและความเป็นสิริมงคลทั้งปวง ซึ่งไม้เท้านั้น ปรากฏในชื่อพรหมทัณฑ์นั่นเอง

    พ่ออาจารย์ท่านมีดำริว่า ปัจจุบันนี้คนเราเดือดร้อนกับนามธรรมกันมาก จะสุขก็นามธรรม จะทุกข์ก็นามธรรม จะได้ดีหรือจะวิบัติล้วนเกิดขึ้นจากนามธรรมที่สัมผัสแตะต้องไม่ได้เหล่านี้ทั้งสิ้น พ่ออาจารย์ท่านจึงมีดำริที่จะสร้างไม้ครูพรหมทัณฑ์ขึ้นมาเพื่อให้ชนทั้งหลายได้ใช้อำนาจนั้นควบคุมนามธรรมอันเป็นความสุข เพื่อประโยชน์ใหญ่ในการกำจัดและลดทอนความทุกข์ยากทั้งหลาย จึงได้ขอเมตตาจากครูบรมพรหมสหัมบดี ซึ่งครูท่านก็รับทำให้ด้วยความเต็มใจ ซ้ำยังบอกพ่ออาจารย์อีกว่าให้เชิญครูพระสยมท่านมาลงด้วยไม้ครูนี้ถึงจะมีฤทธิ์ในการทำลายล้างวิบากกรรมเก่าได้แลจะเป็นมากกว่าพรหมทัณฑ์

    เมื่อได้รับโองการพ่อครูท่านจึงขอเมตตาครูพระสยมโดยท่านได้อนุญาติให้ทำได้ซ้ำยังจะทำมเหศวรอัสตราอันเป็นสุดยอดเทพศาสตราทำลายล้างไร้รูป ที่ก่อเกิดจากพลังของดวงเนตรทำลายล้างจักรวาลวิบัติของครูพระสยมผสมหลอมรวมเข้ากับอำนาจตบะญาณโยคีที่ท่านบำเพ็ญมานับเวลาประมาณมิได้ ท่านว่าพรหมทัณฑ์นี้จะมีอานุภาพมากซ้ำยังแฝงมเหศวรอัสตราเป็นฤทธิ์เป็นเดชในตัวไม้ครูนั้น

    โดยธรรมชาติ ไม้ครูสมประสงค์(ไม้เท้าพรหมทัณฑ์)นั้น ปรากฏเป็นวัตถุทางกายภาพอันใช้ควบคุมนามธรรม มีขึ้นด้วยพระเป็นเจ้าปรารถนาที่จะใช้ไปในการรักษาสัจจะและธรรมมะให้คงอยู่คู่จักรวาล อานุภาพของพรหมทัณฑ์นั้นท่านว่าเป็นสุดยอดเทพศาสตรา เพราะมีแรงต้านทานเทพศาสตราได้ทุกสิ่งไม่เว้นแม้แต่ศรพรหมมาสตร์และศรปาศุปัตอันเป็นศรล้างสามโลกของครูพระสยม นอกจากป้องกันเทพศาสตราชั้นสูงสุดด้วยกันได้แล้วกลับกัน ตัวพรหมทัณฑ์เองนั้นยังมีอำนาจถึงขั้นสามารถทำลายได้ถึง 14 โลกธาตุให้พินาศฉิบหายเป็นจุลมหาวิจุลไปพร้อมกัน (พ่ออาจารย์ท่านว่าเทพศาสตราทั้งหลายอย่างมากก็แค่ทำลายโลกธาตุได้เพียงหนึ่ง)

    จึงเป็นที่รู้กันว่าในบรรดาเทพศาสตราทั้งหลายนั้นจะหาญหาสิ่งใดมาเทียบพรหมทัณฑ์นั้นหาได้ไม่ ทั้งเป็นเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดในหมื่นโลกธาตุ สำหรับผู้ที่ถือพรหมทัณฑ์นั้นดุจได้รับการป้องกันแวดล้อมอยู่ในปราการเหล็กที่หาญหักไม่ลง ซ้ำอำนาจของพรหมทัณฑ์นั้นยังเป็นอาญาสิทธิ์ที่พระเป็นเจ้าให้กับผู้ถือครอง ปรากฏว่าผู้ครอบครองพรหมทัณฑ์นั้นยังมีอำนาจใช้พรหมทัณฑ์ลงโทษได้แม้แต่พระอินทร์และเหล่าเทพเจ้าทั้งมวล ดังนั้นหากพูดถึงพรหมทัณฑ์ที่เกิดขึ้นจากอำนาจตบะของครูพระสยมกับครูบรมพรหมรวมกันแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าจึงเป็นสุดยอดอำนาจของเทพศาสตราที่จะกดขี่ได้ทุกเผ่าพันธุ์สมกับความเป็นพรหมทัณฑ์อย่างแท้จริง

    การสร้างไม้ครูนั้น พ่ออาจารย์ท่านจึงประณีตและพิถีพิถันตั้งแต่การหาธาตุกายสิทธิ์ การรีดธาตุเพื่อจารอักขระหล่อหลอมบังคับตามตำรา รวมถึงการกำกับอาถรรพ์ต่างๆทุกชนิดท่านว่าทำยาก เพราะไอ้คำว่าครูคำนี้มันไม่ได้มีไว้โก้ๆ แต่คำว่าครูก็คือเป็นระดับครูบาอาจารย์ เป็นครูเขาทั้งหมดทั้งของมนุษย์และเทวดา และไม้ครูก็คือไม้ของครู คนที่ถือไม้ครูก็คือคนที่ได้อาญาสิทธิ์ของครู มีอำนาจของครู ท่านว่าสืบไปเบื้องหน้าไม้ครูอย่างพรหมทัณฑ์นี้อีกร้อยปีก็ไม่มีคนทำให้สำเร็จได้

    พวกเธอรู้มั๊ยว่าพรหมทัณฑ์นั้นต่างจากไม้ครูปกติเช่นไร
    - ผู้ใดถือครองพรหมทัณฑ์ ...คือคนผู้นั้นได้รับการเลือก ความไว้ใจจากพระผู้เป็นเจ้า บุคคลนั้นนับเป็นคนที่ฟ้าคัดสรรค์แล้ว
    - ผู้ใดถือครองพรหมทัณฑ์ ...ได้ชื่อว่าถือครองอำนาจส่วนหนึ่งของพระผู้เป็นเจ้าอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อนำมาใช้งาน คนผู้นั้นประดุจได้รับอาญาสิทธิ์จากพระเป็นเจ้า
    - ผู้ใดถือครองพรหมทัณฑ์ ...เสมือนได้ที่สุดของเทพศาสตรา เพราะพรหมทัณฑ์นั้นคืออำนาจสูงสุดแล้ว ที่พระผู้เป็นเจ้าจะสามารถให้ได้ไว้แก่มนุษย์อันทรงตบะหรือเป็นที่น่าพึงใจ เป็นอำนาจสูงสุดของพระองค์ ที่จะให้คนที่พระองค์เลือกเพื่อใช้งานแทนพระองค์


    อันพรหมทัณฑ์นั้นแม้ผู้ใดได้ชูขึ้นพร้อมเอ่ยวาจาเช่นไร ทุกสิ่งย่อมเป็นไปตามนั้น ด้วยคำพรและคำสาปจากพรหมทัณฑ์ย่อมเป็นประกาศิตของทุกสรรพสิ่งในหกภพภูมิ เป็นประกาศิตมั่นคงดั่งเหล็กเพชรลิขิตแผ่นผาที่สรรพสัตว์ทั้งหลายไม่ว่าจะมนุษย์หรือเทวดาไม่กล้าฝ่าฝืน เพราะสิ่งนี้คืออาญาสิทธิ์สูงสุดที่พระผู้เป็นเจ้าได้ประทานไว้ให้แก่มนุษย์ สามารถใช้ลงโทษสรรพชีวิตในวัฏจักรสงสารได้ไม่เว้นแม้แต่ทวยเทพ

    ดั่งวลีของพ่ออาจารย์ที่ว่า
    " ทั้งชะตาคน ชะตาฟ้า ล้วนอยู่ใต้พระบัญชาของพรหมลิขิต แต่ประกาศิตหกภพย่อมอยู่ภายใต้อำนาจของผู้ครอบครองพรหมทัณฑ์ทั้งสิ้น "

    แม้การลงโทษด้วยพรหมทัณฑ์ก็ยังถือเป็นการลงโทษอย่างประเสริฐ เป็นการสาปแห่งพรหมนับเป็นโทษอย่างสูงที่สุด ดังนั้นพรหมทัณฑ์หรือไม้ครูของพ่ออาจารย์นี้ก็คือไม้ที่ครูสร้างให้กับลูกศิษย์ เป็นอำนาจของครู ต้องสร้างตามโองการไม่ใช่นึกจะทำจะเสกก็ทำได้เลย เพราะไม้ครูนี้เป็นอำนาจของพระเป็นเจ้าที่มอบให้แก่ศิษย์นั่นเอง

    โดยปกตินั้นไม้ครูจะมีอำนาจต้นชี้ตายปลายชี้เป็นท่านว่าแม้พรหมทัณฑ์นี้ก็เช่นกัน อันว่าไม้เท้าแต่เดิมนั้นจะใช้ในการพยุงค้ำยันร่างกาย ที่พ่ออาจารย์ท่านสร้างไม้เท้าพรหมทัณฑ์นี้ให้คนติดตัวก็เพื่อเขาจะได้เอาไปพยุงค้ำจุนไม่ให้ตัวเองตกต่ำ ไม่ให้ชีวิตตกลง ดิ่งลง วิบัติลง ท่านว่าเช่นนี้เราจึงค้ำเขาไว้ด้วยอำนาจแห่งพรหม แห่งไม้ค้ำพรหมทัณฑ์นั่นเอง

    อันพรหมทัณฑ์นี้เมื่อสถิตย์อยู่กับผู้ใด ย่อมเป็นศุภมงคลในกายบุคคลนั้นเพราะเขาจะปกป้องคุ้มครองรักษาไม่ให้ภัยร้ายต่างๆมากล้ำกรายได้ ซ้ำหากเราคิดหรือหวังสิ่งใดแล้วอธิษฐานเบื้องหน้าไม้เท้าพรหมทัณฑ์ ทุกสิ่งนั้นต้องเป็นไปเสมอใจทั้งสิ้น ท่านว่าครูเขาลงมาทำให้แล้วก็เอาไปใช้ให้ดีเถิด หมั่นชี้ตัวเอง สาปตัวเองนั่นแหละไม่ต้องไปยุ่งกับคนอื่นเขา สาปให้ตัวเองรวย ให้ตัวเองสูงส่ง ได้ดี ตามแต่ใจปรารถนา ท่านว่าคนมีปัญญา เขาจะรู้ว่าควรชี้ควรพูดอะไร

    โดยทั่วไปคุณของไม้ครูนั้นจะมีอานุภาพดุจฝอยท่วมหลังช้างแม้ผู้ใดมีไว้ทำกิจการใดก็ทวีคูณพูนผล ศัตรูหมู่มารไม่กล้ากล้ำกราย ติดตัวไปทางใดก็เกิดลาภผลบริบูรณ์ ขจัดภัยจากภูผีปีศาจ คุณไสย เสนียดจัญไร สิ่งอาถรรพณ์ทั้งหลายทั้งปวง เป็นสุดยอดมหาบารมี เสริมโชคลาภ ทั้งยังให้แคล้วคลาดจากอุปัทวอันตราย เป็นของศักดิ์สิทธิ์มีฤทธิ์มาก แม้จะใช้ในทางอิทธิฤทธิ์ทางมหาอำนาจ ปราบศัตรู ทำให้ศัตรูเกรงกลัว ไม่คิดต่อสู้ ฆ่าศัตรูให้ตายโดยไม่ต้องใช้อาวุธ ท่านก็ว่าทำได้ด้วยการอธิษฐานระลึกถึงพระแม่ธรณีให้มาช่วยกำจัดศัตรูที่เข้ามาเบียดเบียน หากว่าศัตรูผู้รุกรานล่วงล้ำเขตแดนเข้ามาขอให้พ่ายแพ้ ให้เจ็บ ให้ตาย หรือมีอันเป็นไปต่างๆ นานา นอกจากนั้นสามารถกำจัดขับไล่ภูตผีปีศาจ ดั่งตำราว่าชี้ต้นตาย คือถ้าหากชี้ด้วยต้นไม้ครูทำให้ข้าศึกมีอันเป็นไปเป็นมหาอำนาจข่มนาม ในส่วนปลายนั้นใช้ในการสร้างสรรค์สวัสดิมงคล การให้พรทั้งความสุข ความเจริญ ทั้งใช้แก้ถอดถอนของดำ ของต่ำ คุณไสยอวิชชา ให้พรให้มีอายุมั่นขวัญยืน มีโชคลาภ ชี้อธิษฐานรักษาโรคภัยที่เบียดเบียนมนุษย์ ตำราจึงว่าชี้ด้วยปลายเป็น

    ซ้ำไม้ครูของพ่ออาจารย์นั้นท่านว่าให้เอาปลายไม้จรดหน้าผากใช้ถอดถอนคำสาปแช่ง วาจาสัตย์สาบาน ทั้งปัจจุบันและอดีตกาลได้ โดยเฉพาะคนที่มีกรรมเก่าเยอะ คนที่ชีวิตเคยโดนสาปแช่งมานับแต่อดีตกาล เคยไปกล่าวคำสาบานติดหนี้เวรกรรมร้อยชาติพันชาติต่างๆทั้งหลาย ท่านว่าพรหมทัณฑ์นั้นควบคุมนามธรรมย่อมผ่อนคลายและปลดเปลื้องสิ่งต่างๆได้ หากหมั่นทำบ่อยๆทุกสิ่งก็จะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ถ้าผลของคำสาปหรือคำสาบานที่ติดตัวมารุนแรงท่านว่าก็ให้ทำไปเรื่อยๆเขาจะผ่อนอำนาจคลี่คลายลง แต่หากผลที่แสดงนั้นไม่รุนแรงมากเพียงครั้งเดียวท่านว่าก็ถอดถอนได้ ขึ้นอยู่กับแรงอาฆาตและกรรมสัมพันธ์

    นอกจากนั้นปลายไม้ครูท่านว่ายังใช้จุ่มแช่น้ำมันจันทร์เอาไว้เจิมอุณาโลมที่หน้าผากตนเองเป็นการเรียกขวัญ ล้างอาถรรพ์ ทั้งยังเกิดพลังเมตตามหานิยมเป็นที่สุดอีกด้วย ท่านว่าทำได้ด้วยตนเอง ทำได้ทุกวัน และที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดนอกจากใช้เจิมเรียกขวัญตัวเองแล้วแม้นำไปเคาะเครื่องรางหรือวัตถุมงคลใด สิ่งที่ถูกเคาะนั้นก็จะทวิทวีทบทูนกลิ่นอายความศักดิ์สิทธิ์แลอานุภาพเพิ่มขึ้นมาได้อีกขั้นหนึ่ง(พ่ออาจารย์ท่านจึงมักนำมาเคาะของที่ท่านใช้หนละ108ครั้ง ท่านว่าไม่ควรเกินไปกว่านี้)

    ซ้ำพ่ออาจารย์ท่านยังทำไม้ครูนี้ให้มีลักษณะคล้ายเสาหลักเมืองด้วย ท่านว่าเพื่อจะได้ให้เป็นที่สถิตย์ของผู้มีอำนาจเหนือธรรมชาติที่ปกป้องคุ้มครองเราอยู่ ทั้งเทพที่คอยดูแล พ่อซื้อแม่ซื้อ เจ้าบุญนายคุณ รวมถึงเทพที่ท่านเมตตารักษาเราทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นจิตวิญญาณบรรพบุรุษหรือเทพที่เราบูชาก็ดี

    **** ท่านว่าหากใครที่ดวงไม่ดีแต่กำเนิด เป็นดวงยาจก ผ้าขาด ทำอะไรก็ไม่รวย พยายามเท่าไหร่ก็เหนื่อยเปล่า ท่านว่าไม้ครูนี้ทำไว้ให้แก้เคล็ดอาถรรพ์นั้ได้น ท่านให้หากระธางธูปใบเล็กๆ นำชื่อวันเดือนปีเกิดของต้นรองไว้ใต้ก้นกระถางแล้วจึงใส่ผงขี้ธูปให้เต็ม นำไม้ครูนี้ปักไว้กลางกระถางธูป(ไม้ครูที่นำไปปักไม่ควรชักออกมาใช้งานอีกให้แข็งปักคาขี้ธูปไปเช่นนั้นและกระถางนี้ไม่ควรเอามาใช้จุดธูปอีก)
    พ่ออาจารย์ท่านว่าให้ปักไว้เป็นหลักเรือน ซึ่งท่านให้เหตุผลว่า คนเรานั้นมีปัจจัยสี่ที่สำคัญอันดับแรกเลยก็คือที่อยู่อาศัย เราจึงต้องให้ความสำคัญต้องให้ความเคารพต่อหลักบ้านหลักเรือน เพราะโบราณว่าบ้านเมืองมีขื่อมีแป แต่ว่าในปัจจุบันคนมักมองข้ามสิ่งเหล่านี้ไป จึงทำให้หาความสุข ความเจริญได้ยากมาก เช่นกันกับคนไม่มีหลักชีวิตก็โลเลลอยเคว้งคว้างไปตามกระแสกรรมหาที่ยึดเกาะอะไรให้มั่นคงไม่ได้ ท่านว่าบ้านไม่มีหลักอยู่ไปเรือนก็พังทลาย ชีวิตคนไม่มีหลักอยู่ไปก็ไร้แก่นสาร ยิ่งคนที่ดวงตกดวงแตกหรือดวงอาภัพมาตั้งแต่เกิดด้วยแล้วท่านว่าให้ทำตามนี้ จะมีกินมีใช้สบายอยู่กันไปสืบลูกสืบหลาน ทุกข์ทั้งหลายจะกลับกลายเป็นความสุขสวัสดิ์พิพัฒมงคลและเจริญสุขขึ้นในทุกๆประการ


    พ่ออาจารย์ท่านว่าไม้ครูนี้หากนำไปใช้ปักค้ำชะตาถ้าปักอยู่ที่ไหนตรงนั้น แม้พระศิวะก็ต้องเข้ามาดูแลเทวดาเกเรภูตผีปีศาจเขาก็เกรงกลัว
    *** ข้อควรจำ
    · - ไม้ครูนั้นเป็นของมีจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ จะจดจำและซื่อสัตย์กับเจ้าของผู้ใช้งานเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น คนอื่นไม่สามารถใช้ได้ และเราก็เอาไปใช้เพื่อคนอื่นไม่ได้(ท่านว่าครูท่านจำเป็นต้องให้ข้อจำกัดเอาไว้บ้างไม่เช่นนั้นจะมีอำนาจโกงเขามากเกินไป)
    - หากใช้ปักค้ำชะตาในกระถางธูป พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าปักไว้เพียงตรงกลางกระถางก็จะพลิกกลับดวงชะตาเราได้ทันที แต่หากมีไม้บริวารปักไว้ครบสี่ทิศในกระถางนั้น รวมเป็นไม้ครูห้าจุดท่านว่าสถานที่นั้นจะบริบูรณ์ดั่งเขาไกรลาสเป็นหลักโลกเช่นนั้น สถานที่นั้นจะเป็นไศวะภูมิมณฑล แม้ครูพระสยมก็ต้องตามปกปักรักษาทั้งตัวเราและที่อยู่ของเราให้เจริญขึ้นอีกนับร้อยนับพันปี (หลักของโลกไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็เจริญมั่นคง แข็งแกร่ง ไม่เคยปรากฏว่าล้มมาก่อน อุปมาไว้ว่าถ้าโลกไม่แตกหลักก็ไม่ล้มชีวิตก็พุ่งขึ้นอย่างเดียวเท่านั้น เคล็ดนี้ครูพระสยมท่านบอกมาว่าถ้าทำอาถรรพ์ไศวะภูมิมณฑลเช่นนี้ดวงชะตาเขาท่านจะรับเอาไว้อุปถัมภ์เอง แม้เกิดกี่ชาติก็ต้องตามไปอุปถัมภ์กันทุกชาติเช่นนั้น)

    *** ไม้ครูนี้พ่อาอจารย์ท่านว่า****อย่างน้อยก็ควรมีไว้ใช้คนละสองเล่ม หนึ่งคือเพื่อใช้งาน อีกหนึ่งคือปักหลักชะตา

    คาถาบูชา
    โอม อะคะหึม อะคะหัม อึอะอำ อะอิอุ อะอิอุ อะอิอุ (ภาวนาไว้ไม้ครูจะยิ่งมีฤทธิ์ทบทวี ใช้ภาวนายามเคาะเพิ่มฤทธิ์สิ่งต่างๆก็ได้)

    อะบรมพรหมมา ศัตรูพ่ายพังกำจัดออกไป ศัตรูประลัยวินาศสันติ
    อิอิศรา ศัตรูพ่ายพังกำจัดออกไป ศัตรูประลัยวินาศสันติ
    อุพระนารายณะ ศัตรูพ่ายพังกำจัดออกไป ศัตรูประลัยวินาศสันติ (ชี้ต้นตาย ใช้ในการเอ่ยคำสาป)

    ก่อนออกเดินทางไปทำงานทั้งกิจธุระใดๆก็ตาม หรือหมายใจจะปราบปรามให้ชนะสิ่งใดให้เอาไม้เท้าครูปักลงดินแล้วระลึกถึงพระแม่ธรณี ถ้ารู้จักชื่อให้เพ่งไปหาศัตรูผู้นั้นถ้าไม่รู้จักชื่อแต่รู้ว่าอยู่ทิศใดก็ตามให้เพ่งไปทิศนั้น โดยการหายใจเจริญสติจนกว่าจะสงบเป็นอารมณ์เดียวกัน แล้วตั้งใจอีกครั้งหนึ่ง “อะยายา มนุสสานัง ภควา ชังงัง โสปิติอิ” ให้ภาวนาหลายๆครั้งจนกว่าสงบนิ่งแล้วค่อยเดินทางไป แต่หากรู้จักชื่อศัตรูให้ใช้คาถานี้ “อะยายา มนุสสานัง ภะคะวา ชังงัง โสปิติอิ อ้ายหมา....อึมรณัง ว่าหลายๆครั้งชั่วอึดใจแล้วอธิษฐาน (จงใช้กับศัตรูผู้อาฆาตที่มาเบียดเบียนเรา ตั้งใจฆ่าเราเราจึงทำเมื่อเขาเลิกคิดร้ายต่อเราแล้วให้อธิษฐานแก้ให้เขาเสีย)

    ถ้าจะรักษาพวกโดนผีเข้าเจ้าสิงอยู่ในตัวคนให้เอาหัวไม้เท้าเคาะเบาๆไปที่คนเป็นหรือที่เขาเจ็บปวด ทั้งนี้ใช้กับตัวเองก็ได้ด้วย ให้ว่าพระคาถาเช่นเดียวกันว่า “มนุสสานังเป็นอมนุษสานัง” เคาะไปทั่วตัวจนกว่าผีนั้นจะออกไปแล้วให้เอาปลายไม้วนรอบศีรษะแล้วปักที่หัว ว่า “สมุหะเนยยะ สมุหะนะติ สีมาคะตัง พันทะ เสมายัง สะมะหะนิตัพโพ เอวังเอหิ นะเคลื่อน โมถอน พุทคลอน ธาเคลื่อน ยะเลื่อน หลุดหาย” จบแล้วชักไม้ขึ้นสะบัดไปทางปลายเท้าของคนไข้ 3 ครั้ง ผีไม่กลับเข้ามาอีก

    หากจะใช้ทางเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ ในเรากำหนดรู้นึกถึงบุคคลที่เราต้องการอาทิเช่น ผู้หญิงหรือญาติผู้ใหญ่ เราก็ต้องส่งกระแสจิตไปตามความปรารถนาจับไม้เท้านำมาวางไว้ ที่หัวใจแล้วระลึกถึงคุณท้าวมหาพรหมสหัมบดีไว้ในทุกลมหายใจเข้าออก ตอนหายใจเข้าให้ว่า พรหมมา พ่อพระพรหม พ่ออยู่กับลูกจิตพ่อพันธ์ผูกเหมือนจิตคุณพ่อคุณแม่ ตอนหายใจออกให้ว่า พรหมมา คุณแม่พระพรหม แม่ไปไหนแล้ว กลับมาหาลูกจิตแม่พันธ์ผูกอยู่กับลูกเหมือนจิตแม่กับพ่อระลึกจบแล้วหายใจเข้าแล้วกลืนน้ำลายลงไป ให้ทำแบบนี้บ่าอยๆหลายๆครั้งพร้อมด้วยแกว่งไม้ครูกลับเข้ามาหาตัวเรา พร้อมกำหนดกลืนกินความเคารพ กลืนความนับถือ กลืนความรักใคร่กลืนความเสน์หาลงไป(ให้กลืนจริงๆ)แล้วแต่ปรารถนา

    หากสงสัยว่าตัวเองถูกกระทำย่ำยีหรือดวงตกโชคร้ายขอให้ตั้งจิตระลึกถึงครูพระสยม พร้อมทั้งครูบาอาจารย์แล้วภาวนาพระคาถาในใจว่า “ศิวายานะมะคะ” ภาวนาไปเอาไม้เท้าตั้งเข้าตรงหน้าผากเราแล้วเอาไม้นั้นลูบลงไปปลายมือ ปลายเท้าหลายๆครั้ง


    ร่วมทำบุญบูชา ไม้ครูสมประสงค์ไศวะภูมิมณฑลมเหศวรอัสตรา (พรหมทัณฑ์) บูชา 900 บาท

    image.jpg
    41782930_332745137479982_3913187910756597760_n.jpg
    41751596_261119738070347_3055012513977466880_n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2018
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ผมไล่ตอบ PM ให้ครบทุกคนแ้วนะ เห็นมีประสบการณ์แจ้งมาด้วยว่าถูกหวยฉลากกินแบ่งสองหมื่นบาท เพราะขอจากองค์พระไพรีพินาศตอนจะหยิบฉลาก ;)
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้เดี๋ยวทยอยส่งของให้นะ
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ฐิตกาญจน์ EV 4402 4442 1 TH

    พี่ธีรนนท์ EV 4402 4443 5 TH

    พี่อัครพงศ์ EV 4402 4444 9 TH

    พี่ศิระ EV 4402 4445 2 TH

    พี่ปภัสสร EV 4402 4446 6 TH

    พี่อนุวัฒน์ EV 4402 4447 0 TH

    พี่รุ่งเรือง EV 4402 4448 3 TH

    พี่สุรวุฒิ EV 4402 4449 7 TH

    *** ที่ค้างไว้ส่งวันพรุ่งนี้ต่อนะครับ ทยอยๆ
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    แรงบันดาลใจ

    ไม่ว่าใครก็ตาม ก่อนที่จะประสบความสำเร็จได้นั้น จำเป็นอย่างมากที่ต้องอาศัยแรงบันดาลใจ เพื่อช่วยเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต

    แต่หลายคนย่อมมีเป้าหมายและวิธีในการเลือก สร้างแรงบันดาลใจที่แตกต่างกันฉะนั้น การสร้างแรงบันดาลใจจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนที่ต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต เพื่อให้ชีวิตของเรามีแรงขับเคลื่อนที่มากพอและต่อเนื่อง

    วันนี้ก็จะมาแนะนำเทคนิคดีๆ ในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเองแบบง่าย ๆ ด้วย10วิธีดังนี้

    1.มีเป้าหมายและวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน ก่อนจะพิชิตเป้าหมาย ต้องรู้ก่อนว่า เป้าหมายของเรานั้นคืออะไร เป้าหมายที่ชัดเจนทำให้เรารู้ว่าต้องการจะเป็นอะไร ผู้ที่ไม่มีเป้าหมายในชีวิตก็เหมือนคนที่ไม่มีแรงผลักดัน ขาดแรงจูงใจ และจะไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต

    2.การเขียนเป้าหมาย คือการสร้างภาพความฝัน ที่เราเองต้องการอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะตอนก่อนเข้านอน ในโลกนี้มีกฎแห่งการดึงดูด หากหมกมุ่นครุ่นคิดเรื่องใดเป็นประจำ ก็มักจะได้สิ่งนั้น ดังนั้นวิธีง่ายๆ จงคิดถึงมัน จึงฝันถึงมัน จงจินตนาการถึงเป้าหมายของเราบ่อยๆ แล้วชีวิตของคุณก็จะเดินทางไปสู่เป้าหมายหรือความฝันของตนเองได้สำเร็จในที่สุด “ฝันให้ไกล...แล้วไปให้ถึง”

    3.การอ่านหนังสือดีๆ หนังสือที่ดีสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับเราได้ ผู้นำในหลายๆประเทศได้อ่านเรื่องเรื่องของบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ทางการเมือง ผู้นำประเทศเหล่านั้นจึงได้สร้างแรงบันดาลใจในตัวเองขึ้น เขาเหล่านั้นจึงเกิดความต้องการที่จะเป็นผู้นำประเทศเหมือนกับชีวประวัติของผู้นำในหนังสือบ้าง

    4.จดบันทึก คนประสบความสำเร็จส่วนใหญ่จะใช้เวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมงต่อวัน ในการคิดเพื่อที่จะคิดอย่างมีประสิทธิภาพ การจดบันทึกจะช่วยให้เราจำสิ่งๆนั้นได้ดีขึ้นหลายเท่า นอกจากนี้คุณยังสามารถจดบันทึกเรื่องราวต่างๆ เช่น ความสำเร็จ ความล้มเหลว ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับเราได้เมื่อเราได้ย้อนกลับมาอ่านอีกครั้งหนึ่ง

    5.การหาแบบอย่างหรือบุคคลตัวอย่าง โดยเฉพาะบุคคลที่ประสบความสำเร็จหรือบุคคลที่เราอยากจะมีชีวิตแบบเขาก็เป็นอีกทางหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจขึ้นภายในตนเอง ศึกษาว่าเขามีแนวคิด แนวปฏิบัติอย่างไรจึงประสบความสำเร็จเราก็สามารถนำเอามาสร้างแรงบันดาลใจเพื่อต้นแบบสู่ความสำเร็จของเราได้

    6.รู้จักบริหารเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพและชาญฉลาด ทุกคนในโลกนี้มีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากันหมด แต่สิ่งที่ทำให้เกิดความแตกต่างคือ ใครใช้เวลาที่มีอยู่นั้นได้คุ้มค่ากว่ากัน ได้ทุ่มเทเวลาทั้งหมดไปกับเป้าหมายของตนหรือไม่ เมื่อตระหนักได้ตามนี้จะทำให้รู้ว่าควรมุ่งมั่นต่อเป้าหมายของตนและดำเนินชีวิตได้ดียิ่งขึ้น

    7.ความผิดพลาดมีไว้ให้เรียนรู้ ไม่ได้มีไว้ให้เจ็บช้ำหรือโศกเศร้าเสียใจ แน่นอนว่าเราทุกคนไม่สามารถห้ามการเสียใจหรือโศกเศร้าเมื่อเกิดความผิดพลาดได้ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ เมื่อรู้ว่าผิดพลาดแล้วให้คิดหาสาเหตุของความผิดพลาดนั้น แล้วนำมาปรับปรุงแก้ไขไม่ให้เกิดขึ้นได้อีก

    8.ควรสร้างทัศนะคติแบบ “ฉันทำได้” นี่คือหนึ่งในทัศนะคติที่สำคัญที่สุดในการที่จะประสบความสำเร็จ คนเรามีโอกาสเข้ามาในชีวิตมากมายแต่หลาย ๆ คนก็ได้ปฏิเสธโอกาสเหล่านั้นด้วยคำว่า “ทำไม่ได้” ซึ่งทำให้หลายๆ คนล้มเหลว เมื่อเราคิดว่า “เราทำได้” ร่างกายทุกอย่างก็จะเกิดการตอบสนองต่อความคิดนี้และเราก็จะเห็นเราสามารถทำสิ่งต่างๆได้ ซึ่งจะก่อให้เกิดแรงบันดาลใจที่จะทำสิ่งต่างๆให้ประสบความสำเร็จ

    9.มองโลกในแง่ดี คนมองโลกในแง่ดี มักมีโอกาสดีกว่าคนอื่น เพราะเมื่อมองทุกอย่างเป็นบวก ก็ช่วยให้มีสุขภาพจิตดี ความคิดโปร่งใส และทำให้เกิดจินตนาการและแรงบันดาลใจที่ดีเกิดขึ้นมาได้

    10.ทำสิ่งที่ไม่เคยทำ ไปในที่ที่ไม่เคยไป เมื่อไหร่ที่ชีวิตได้ลองทำหรือได้ไปในสถานที่แปลกใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจแล้วล่ะก็ ความเบื่อหน่าย อาการเนือยๆ มันจะหายไปภายในพริบตาเดียว คุณจะรู้สึกว่าชีวิตยังมีอะไรที่น่าค้นหาอีกเยอะ แล้วแรงบันดาลใจจะหลั่งไหลพรั่งพรูเข้ามาอย่างไม่ขาดสายเลยทีเดียว

    แรงบันดาลใจไม่ต้องไปซื้อหาหรือหยิบยืมใครที่ไหน มันล้วนแต่อยู่ในตัวของเรา เพียงแต่เราจะมีเทคนิควิธีการในการดึงมันขึ้นมาใช้ได้อย่างไร หากคุณกล้าที่จะเลือกและเดินไปข้างหน้า ควรวางเป้าหมายให้ชัดเจน และนำสิ่งต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิตปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นการเรียนรู้และประสบการณ์ หมั่นสร้างแรงบันดาลเพื่อผลักดันตัวเองจนไปสู้เส้นทางแห่งความสำเร็จ


    สิ่งที่สำคัญที่สุดในการประสบความสำเร็จคือการสร้างความชัดเจนให้กับตัวเราเองและเลือกวิธีที่จะไปให้ถึงเป้าหมายด้วยความกล้าในตัวคุณเอง

    “เดินไปข้างหน้า คว้ารางวัลแห่งความสำเร็จด้วยความมั่นใจ”

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    มีบางคนฝากของมาเสกก็เลยมีเรื่องให้เล่าพอดี

    เพราะมีอยู่เหรียญนึงพ่ออาจารย์ท่านหยิบออก ท่านว่าเสนียด เราก็งงเพราะทำไมพ่ออาจารย์ท่านถึงพูดแรงและตรงได้ขนาดนี้ จึงเกิดคำถามในใจแล้วก็รอจนท่านเสกให้เสร็จจึงได้ถามท่าน

    ได้ถามถึงเหตุที่ท่านหยิบเหรียญนั้นออกแยกไว้ว่าทำไมต้องแยก มีอะไรผิดปกติมั๊ย ท่านว่าของสิ่งนี้ไม่สมควรทำออกมาเลย ไม่สมควรตั้งแต่คิดจะสร้าง ท่านให้เหตุผลว่าเหรียญบางอย่างนั้นยกยันต์ต่างๆมาใส่กันมั่วไปหมด เอาความสวยงามเข้าว่า ยิ่งเยอะยิ่งดี เพราะคนจะเห็นว่าขลัง ทั้งที่ความจริงยันต์ตัวเดียวกับยันต์พันตัว ถ้าคนทำเป็นยันต์ตัวเดียวก็ดีกว่ายันต์นับพันนับหมื่น แต่ในที่นี้ตัวยันต์บางตัวก็ไม่สมควร ไม่บังควรที่จะใส่ในเหรีญพระสงฆ์หรือแม้กระทั่งเหรียญรูปเทวดาพระพิฆเนศ พระนารายณ์ต่างๆ พูดไปท่านก็ชี้ให้ดูว่าเห็นมั๊ย แค่มียันต์ตัวนี้ก็ใช้ไม่ได้แล้ว เพราะยันต์บางตัวนั้นเค้ากำหนดไว้นับร้อยนับพันปีว่าให้ใช้ได้เฉพาะรูปพระพุทธเจ้า ด้วยยันต์บางตัวนั้นลายลักษณ์ของเขาก็สืบทอดมาแต่พุทธกาล

    และพระยันต์บางตัวก็ไม่ได้อนุโลมเลยให้เอามาทำวัตถุมงคลเพื่อให้คนพก ครูบาอาจารย์เจ้าของวิชาเค้ากำหนดไว้แต่ต้นว่าไม่ควรมีปรากฏในร่างกายมนุษย์ ไม่อนุโลมทุกกรณี ก็ในเมื่อไม่ควรมีปรากฏในร่างกายมนุษย์ แล้วยังจะรั้นหาทางเอามาใส่ในร่างกายมนุษย์ไปทำไม เอามาทำวัตถุมงคลดั่งนี้ก็เพื่อให้คนใส่ เช่นนี้จะเรียกว่าเสนียดได้หรือไม่ ของบางอย่างไม่ใช่จะมองว่าพุทธคุณดีเป็นของสูงก็เอามารวมกันได้มั่วๆเสมอไป

    ในเมื่อไม่บังควร เพราะเขาผิดข้อกำหนด ผิดมติ ละเมิดข้อห้ามทุกอย่างของครูบาอาจารย์เช่นนี้ ทั้งไม่ได้ใช้กับรูปพระพุทธเจ้า แถมยันต์นี้ยังเอามาใช้กับเทพซึ่งไกลกับพระไปมาก ซ้ำยังเป็นยันต์ที่ห้ามชนทั้งหลายพกเพราะความเป็นมนุษย์ไม่ได้มีความคู่ควรหรือสมควรเลย ในเมื่อมันผิดตั้งแต่วางรูปแบบอย่างนี้ เช่นนี้จะเรียกว่าเสนียดได้หรือไม่ ท่านว่าเราก็ไม่รู้ว่าคนคิดกับคนเสกนั้นเขาได้คุยกันบ้างมั๊ย หรือว่าคนทำเห็นอะไรดีอะไรสวยก็จะเอาวางรวมๆกันได้ ตัวเจ้าของเหรียญก็ไม่ได้ตรวจเช็คพระยันต์เลยได้ชื่อว่าเสกถึงเวลาก็เสกขายไป


    * มันทำให้ได้ข้อคิดว่า ของบางอย่างเห็นสวยๆก็อันตรายเหมือนกัน ในที่นี้จะไม่ระบุชื่อเหรียญหรือหลวงพ่อนะครับ แต่เอามาเล่าให้ฟังว่าแบบนี้ก็มีเพื่อให้เป็นข้อคิด ว่าก่อนจะเช่าอะไรอย่างมองแต่เพียงความสวยงาม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2018
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ตอนนี้ของดรับจองกับสำรองไม้ครูก่อนนะครับ ยอดเต็มแล้วไว้ถ้าคนที่ไม่ชัดเจนผมได้ให้สิทธิ์ท่านที่สำรองไว้
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่เมธี EV 4403 9085 2 TH

    พี่รุ่งเรือง EV 4403 9086 6 TH

    พี่พรเทพ EV 4403 9087 0 TH

    พี่ปภพ EV 4403 9088 3 TH

    พี่นฐมน EV 4403 9089 7 TH

    พี่นัฐวุฒิ EV 4403 9090 6 TH
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    พูดคุยรอบเช้า

    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้ก็มาพูดคุยกันต่อ เห็นมีคนฝากคำถามไว้ว่าเรื่องของการสร้างพระนั้น พระโรงงานต่างจากพระปั๊มมืออย่างไร

    อันนี้ก็จะมาพูดคุยกันแต่ขอแยกเป็นสองกรณีนะครับ ต้องเข้าใจไว้ด้วยว่าพระปั๊มมือบางวัดก็มีคันโยกมีเครื่องปั๊มเพื่อความสะดวกและทำเอาปริมาณ หรือพูดง่ายๆก็คือทำครบวงจรแบบโรงงานก็มี จึงจะแยกให้ชัดเจนระหว่างพระแบบนั้นกับพระที่พ่ออาจารย์ท่านนั่งปั้นนั่งพิมพ์ของท่านเอง

    แน่นอนว่าพระโรงงานก็คือพระที่ปั๊มตามใบสั่ง ปั๊มอย่างเร่งรีบโดยใช้ปูนเป็นส่วนผสมหลักเยอะกว่าชนวนมวลสารมงคลต่างๆ หรือในบางทีอาจจะไม่ใส่เลยตามที่โฆษณาไว้ บางที่แย่หน่อยใช้ปูนผสมขี้เลื่อยไม้แทนก็มี พอพระออกมาแล้วคนส่องก็อุปทานเห็นจุดดำๆนั่นนี่ก็บอกว่าเป็นมวลสาร ทั้งนี้เหตุที่เขาต้องเร่งรีบก็เพราะเมื่อผสมเนื้อแล้วปูนมันก็มีเวลาเซตตัวของมัน และพระที่ใช้ปูนมาก อันนี้จำไว้เลย มันจะสวยงาม ติดพิมพ์คมชัด ปั๊มขึ้นรูปง่าย
    (แบบที่บางท่านคอมเม้นต์มาว่าอยากให้พ่ออาจารย์ทำระกดพิมพ์แบบเด้งๆเอามันแบบชัดๆ สวยๆไปเลยซักรุ่น แต่ก็ยังไม่มีออกมาซักครึ่งรุ่นตรงนี้ก็คร่าวๆว่าเราไม่ตอบรับเพราะพ่ออาจารย์ท่านว่าเรากดพิมพ์โดยมือของเรา ใช้บล๊อกไม้แกะแบบสมเด็จโตยุคแรกๆ ค่อยๆทำตามมวลสารที่ผสมไป เช่นนี้มันจะทำได้อย่างไรในเมื่อพระของท่านเน้นมวลสาร ทีหลังคนคอมเม้นต์มา ผมจะให้เขาเอาปูนห้อยคอให้เข็ดจริงๆรับรองว่าสวยคมแน่ๆ) รู้ดังนี้แล้วเวลาเห็นพระไม่สวยก็ควรจะดีใจไว้นะครับ เพราะแน่นอนว่าเนื้อของท่านไม่ใช่ปูน 90 -100 เปอร์เซ็นต์แบบที่องค์สวยๆเขาผสมกัน

    และข้อแตกต่างที่ผมเรียกว่าเป็นเสน่ห์ของพระพิมพ์ ระหว่างพระโรงงานกับพระที่กดมือ เสน่ห์ตัวนี้ที่หายไปก็คือความขลัง แน่นอนว่าโรงงานเขาไม่มีพิธี ไม่มีมานั่งบริกรรมคาถาระหว่างปั๊มไปทีละองค์แน่นอน ในขณะที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าตั้งแต่ตำผงทั้งสากทั้งครกต้องลงยันต์ ทั้งบล๊อกแม่พิมพ์ก็ต้องนำมาชุบน้ำเทพมนต์พุทธมนต์ เรียกว่าเสกกันยันอุปกรณ์

    ตำก็เสก นวดเนื้อพระก็เสก พอได้ก้อนมวลสารก่อนนำมาปั๊มท่านก็เอามาแผ่ลงเหล็กจารมหายันต์ มหาสูตรของท่านเสียหนหนึ่งแล้วจึงกดพิมพ์ บางทีก็ดวงอริยสัจ บางครั้งก็ธาตุกรณี บางครั้งก็พุทธเมตตา บางครั้งก็โสฬสมงคล ขึ้นกับตอนนั้นฤกษ์ยามอะไรและท่านกำลังกดพระอะไรท่านก็จะพิจารณาลงเหล็กจารที่ก้อนผงต่างๆกันไป ก่อนจะกดไป ย้ำไป คลึงไป ระหว่างย้ำๆคลึงๆก็ภาวนาคาถาหัวใจพระสูตรต่างๆไป ไม่รีบ ไม่เร่ง แต่เผ็ดร้อนทุกขั้นตอน นั่นคือท่านทำให้ขลัง แม้จะล้างจะขัดแม่พิมพ์แต่ละทีก็ยังใช้น้ำมนต์ธรณีสารมาล้างมาขัดก่อนจะปั้นผงพระทำองค์ใหม่ก็ย้อนไปวิธีเดิมอีก

    ดังนั้นพระผงของพ่ออาจารย์ท่านจึงขลังตั้งแต่ยังเป็นผงเพราะท่านตั้งใจทำของท่านคนเดียวตามวิธีกรรมของท่านไม่ให้คนอื่นมายุ่ง ซ้ำแม้มีโรงานปั๊มพระติดต่อมาว่าให้พ่ออาจารย์ท่านปั๊มทีเยอะๆไปเลย เสกทีเดียว จะได้ขายถูกๆขายเยอะๆตามปกติพระพิมพ์ของวัดต่างๆก็ทำกันแบบนี้ อยากผสมมวลสารอะไรเดี๋ยวผมผสมให้ ท่านก็ปฏิเสธไปแบบนิ่มๆว่าเรายังทำไหว

    ท่านมักจะพูดว่า " ก็ไอ้ของแบบนั้น มันมีให้เห็นดาษดื่นกันอยู่ทั่วแผ่นดิน ทำไมเราต้องไปทำตามเขาด้วย เอกลักษณ์ของเรา ตัวตนของเราเป็นดั่งนี้ทำไมต้องซ้ำกับใคร พระของเรา เราทำทุกขั้นตอนให้ดี ให้เต็มที่ ทำด้วยศรัทธาเหมือนยุคทวาราวดีโน่นประไร เช่นนั้นคนทำก็ได้บุญ คนใส่ก็ได้บุญ พระของเราไม่ใช่พระเข้าเครื่องปั๊ม ไม่ใช่ทั้งพระปั๊มมือโดยใช้คันโยก ของแบบนั้นตราบใดที่เราพอเหลือกำลังอยู่บ้าง จะไม่ทำเสียแม้สักครึ่งค่อนองค์ "

    * ก็เอามาพูดคุยกันรอบเช้านะครับ เกี่ยวกับลักษณะการปั๊มพระว่าพระโรงงานกับที่พ่ออาจารย์ทำต่างกันอย่างไร ใครมีไว้จะได้นั่งยิ้มนอนยิ้มภูมิใจได้ ทั้งเวลาใส่ห้อยไปไหนก็สบายใจแบบประหลาดๆ ด้วยพระผงของท่านนั้นท่านทำแบบเต็มคุณภาพเพราะกว่าจะได้แต่ละองค์นั้นบอกได้คำเดียวว่าไม่ง่ายเลย
    บางคนบอกว่าเอาพระองค์อื่นมาสลับห้อยก็ไม่เหมือนใส่ของพ่ออาจารย์ท่านไม่รู้เป็นอะไร บางทีออกเดินทางไปไกลจะถึงแล้วก็ยังต้องรีบกลับบ้านไปเปลี่ยนสร้อยพระทั้งที่กำลังจะถึงออฟฟิศก็มี

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กันยายน 2018
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    เริ่มมีประสบการณ์ไม้ครูกันแล้ว ใครจะเล่าอะไรก็แจ้งฝากไว้เลยนะครับ เดี๋ยวจะเลือกเรื่องเด่นๆเอามาลง

    แล้วก็มีคนสอบถามพร้อมกับตัดพ้อว่า อยากได้พระผงของพ่ออาจารย์บ้าง แต่ที่ออกมาทุกรุ่น ส่วนใหญ่จะมีค่ากำนลครูอยู่ที่สี่พันทั้งนั้น หลายๆคนว่าบุญไม่ถึง บางอย่างเก็บเงินรอ พอได้เงินครบของก็หมด ไม่มีของแล้ว เลยอยากขอให้พ่ออาจารย์ท่านออกพระผงซักรุ่นให้เป็นขวัญกำลังใจคนที่งบไม่เยอะ อันนี้ก็ติดตามไว้เดี๋ยวจะมาแจ้ง
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    แจ้งการส่งems
    พี่เสฏฐณันฐ EV 7736 4370 8 TH

    พี่นฤชา EV 7736 4371 1 TH
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ผงน้ำมัน

    ใครที่ชอบพระผง ใครที่ไม่ค่อยมีงบ พรุ่งนี้ต้องติดตามกันให้ดีๆเลย เพราะว่าพ่ออาจารย์ท่านให้เอาพระรุ่นสำคัญชนิดหนึ่งของท่านออกมาให้บูชา

    .....พระรุ่นนี้อย่าดูถูกว่าราคาเบาแล้วจะไม่ใช่ของดี จริงอยากให้หลายๆคนมองข้ามไปเยอะๆนะ จะได้เหลือไว้ให้คนที่ไม่ค่อยมีงบพอจะบูชากันได้นานๆ เพราะพระรุ่นนี้ถึงราคาจะเบาแต่ก็หนักพุทธานุภาพแบบเฉพาะทางและพิเศษ ด้วยพ่ออาจารย์ท่านใช้น้ำมัน...(ของเฉพาะกาล)นำมาทำ ซึ่งน้ำมันตัวนี้มีอายุเกินร้อยปีเป็นของตกทอดแต่อาจารย์ของท่าน ท่านว่าเป็นน้ำมันที่ในปัจจุบันนั้นถึงจะมีทรัพย์ มีเงิน มีตำรา รู้วิธีทำอย่างไรก็ไม่มีวันทำให้สำเร็จได้ และในอนาคตนั้นยิ่งไม่มีทางเกิดขึ้นอีกอย่างแน่นอน

    น้ำมันนี้ หลายๆคนที่เขารู้ เขามาขอบูชาต่อแม้ซักหลอดก็พร้อมจ่ายหลายๆพันถึงหลายๆหมื่น แต่พ่ออาจารย์ท่านก็ไม่ให้ใครนำออกไป หรือไม่ให้ใครใช้เสียซักหยดนึง ท่านว่าคนเอาไปโดนเนื้อตัวมันจะอันตรายเพราะมันแรงเกินไป ท่านจึงนำมาผสมสร้างพระและขอบารมีพระไว้ทั้งหมด

    วิชาน้ำมันของพ่ออาจารย์นั้นแรงแบบลูกโดด ยิ่งขึ้นชื่อว่าเป็นน้ำมันตั้งแต่ยุคบูรพาจารย์ด้วยแล้วคงไม่ต้องกล่าวอะไร พ่ออาจารย์ท่านพูดให้เราดีใจไว้ว่าพระองค์หนึ่งๆนั้น ท่านผสมน้ำมันเกินหลอดที่คนมาขอเช่าราคาเป็นพันเป็นหมื่น ท่านใส่เยอะมากจนเรียกได้ว่าเทหมดหน้าตักทีเดียว

    พระรุ่นนี้จึงเหม็นและมีกลิ่นแรงมากชนิดเหม็นติดมือ แต่ของเหม็นนี่แหละที่หมักด้วยอาคมมานับร้อยปี มันก็มีกลิ่นหืนเป็นธรรมชาติของน้ำมันนั่นเอง อย่าได้ดูถูกของเหม็นๆเชียว ดูอย่างสมเด็จเหม็นหลวงพ่ออุ้นนั่นแรงอย่างไร พระบางอย่างยิ่งกลิ่นแรงพุทธคุณก็ยิ่งสูง น้ำมันนี้ที่พ่ออาจารย์ท่านนำมาผสมสร้างพระให้ก็เช่นกัน

    เรียกว่าถ้าเทียบกับราคาที่ให้บูชากับราคาที่คนขอเช่าน้ำมันประวัติศาสตร์นี้แล้ว มันเกินคุ้มไปมากเลยทีเดียวเพราะพ่ออาจารย์ท่านเทนวดผงในปริมาณที่เยอะมากต่อพระหนึ่งองค์

    หากใครอยากรู้ว่าเป็นน้ำมันอะไร ทำไมในปัจจุบันและอีกร้อยปีต่อจากนี้จะไม่มีใครทำน้ำมันเช่นนี้ได้อีก แรงอย่างไร และองค์พระที่เหม็นติดมือนั้นพ่ออาจารย์ท่านทำไว้พิเศษเพื่อให้เราได้ของดีสุดๆไว้แขวนกันขนาดไหน พรุ่งนี้...ห้ามพลาดกันนะ บอกได้คำเดียวว่าน้ำมันตัวนี้แรงมากถ้าใครพอมีงบก็เก็บเอาไว้เถอะเผื่อลูกเผื่อหลานเผื่อคนในครอบครัวเขาด้วย บอกได้คำเดียวว่าแรงขนาดที่ตอนทำนั้นพ่ออาจารย์ท่านยังสะดุ้ง ท่านว่า " น้ำมันเขากัดมือ ไอ้...เขาหยอก "(ไม่ใช่น้ำมันพราย)


    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กันยายน 2018
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา พระผงมหาบุรุษสร้างคนยอดขุนพลดับดาว(ผงน้ำมันตบะพยัคฆ์มหาสิงหนาท)

    เมื่อพูดถึงพระยอดขุนพลแล้วย่อมหมายถึงพระที่มีอานุภาพเป็นยอด เพราะคำว่า “ขุนพล” นี่ถือว่าเป็นยอดอยู่แล้ว แต่นี่เป็นยอดยิ่งกว่าจึงเรียกว่า “ยอดขุนผล” กล่าวง่ายๆพ่ออาจารย์ท่านว่าการจะสร้างพระให้คนใส่แล้วเอ่ยยกนามว่ายอดขุนพลได้ พระนั้นจะต้องช่วยเขาได้ คำว่าช่วยคือช่วยจากคนให้เป็นยอดคน ยอดบุรุษ เปลี่ยนจากสามัญให้เป็นบุรุษผู้ยิ่งใหญ่คู่ควรแก่ความเป็นยอดในทุกๆด้าน เพื่อในกาลเบื้องหน้าคนผู้นั้นเขาจะได้ทำประโยชน์อันยิ่งใหญ่แก่มหาชน สมกับชื่อชั้นของยอดคนที่คู่ควรกับยอดขุนพลนั่นเอง

    พ่ออาจารย์ท่านสอบทานบารมีของพระยอดขุนพลทุกยุคทุกสมัย ซ้ำยังตรวจอานุภาพของพระยอดขุนพลที่อาจารย์ชุมสร้างไว้ ท่านว่าพอรู้แล้วว่าบูรพาจารย์เขาเสกอย่างไรเราก็จะทำให้ได้ดีดุจของเดิม เพื่อให้ชนยุคนี้ได้มีโอกาสใช้อาราธนาทดแทนกัน ซึ่งพ่อครูท่านว่าพระยอดขุนพลนั้นมีพุทธคุณเน้นหนักทางด้านเมตตาเป็นพิเศษ พร้อมทั้งแคล้วคลาดคงกระพัน ทั้งยังเสริมส่งความเป็นผู้นำ ความเป็นหัวหน้า เป็นเจ้าคนนายคน ท่านว่าให้จำไว้นะ พระยอดขุนพลแท้ๆคือพระที่หนุนชีวิตจากคนให้เป็นยอดคน ซึ่งการจะเป็นยอดคนได้ก็ต้องมีบารมี ด้วยมนุษย์นั้นเกิดมาเพื่อสร้างบารมี ทั้งยังมีคุณเป็นมหาอำนาจอย่างถึงที่สุด เมื่อไล่ลำดับสอบทานแล้ว พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจแกะบล๊อคก่อนจะนำมาชุบและทำตามวิธีทำขลังของท่าน ท่านว่าหนนี้ที่เราทำยอดขุนพล ทำยอดพระขึ้นมา เราจะลงวิชาเสือกลับใจเอาไว้ด้วย ด้วยวัฏจักรสงสารนี้ไม่ว่าชนหน้าไหนจะต่ำหรือสูงเพียงใด ชีวิตเขาล้วนมีภัยแฝงมาในหลายรูปแบบ ท่านว่าวิชานี้จะเปลี่ยนผู้ที่คิดทำร้ายให้มาทำดีต่อเรา เปลี่ยนมุมมอง เปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อเราให้เขามองเราดีขึ้น พอเขาเห็นเราดีจากที่คิดทำร้ายก็จะกลายเป็นส่งเสริมกัน เรียกว่าคิดร้ายได้ แต่ยิ่งคิดยิ่งทำร้ายไม่ลงเพราะเขาจะเห็นข้อดีต่างๆของเราแทนแบบนี้

    ท่านว่าพระยอดขุนพลของท่านนั้นทำยากอย่างมากเพราะท่านตั้งใจเสกในฤกษ์ที่ดีที่สุด นั้นคือทำในฤกษ์วันเสาร์5 (นับสิบปีถึงจะมีสักครั้ง) แต่บางปีโชคดีก็มีฤกษ์อยู่บ้างซึ่งมีฤกษ์คราใดท่านก็จะยกยอดขุนพลมาอธิษฐานตลอด เพื่อให้องค์พระนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยอานุภาพอย่างสูงสุด มีครบทั้งเมตตามหานิยม เสริมบารมี เป็นมหาอำนาจแก่ทุกชีวิตทั้งหญิงและชาย เป็นที่คร้ามขาม หวั่นเกรง เกรียงไกร มีวาสนาบารมีดังกษัตริย์แต่โบราณ ทั้งยอดขุนพลนั้นท่านว่ายังใช้อาราธนาติดตัวเพื่อกำจัดโรคภัยได้อีกด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าการจะเป็นคนที่สมบูรณ์ เป็นยอดคนนั้นแน่นอนว่าในร่างกายต้องมีกำลังวังชา ไม่มีโรคภัยเบียดเบียน ถ้าคนไหนเจ็บไข้ได้ป่วยร่างกายเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคต่างๆยอดคนมันก็เกิดขึ้นมาไม่ได้ ดังนั้นคนที่เจ็บไข้ได้ป่วยท่านจึงให้อาราธนาไว้เพื่อสังเคราะห์และแก้กันโรคภัย ทั้งโรคที่เกิดจากธรรมชาติแวดล้อม รวมไปถึงโรคเวรโรคกรรม แม้คนที่คนถูกคุณผี ถูกคุณไสย์มนต์ดำแฝงไว้ในรางกาย ก็แก้ออกขับออกได้ผลชงักดีนัก

    ทำไมยอดขุนพลจึงสร้างคนให้เป็น..ยอดบุรุษได้
    การสร้างพระยอดขุนพลของพ่ออาจารย์นั้นท่านสร้างด้วยผงน้ำมันตบะพยัคฆ์มหาสิงหนาท เรียกสั้นๆเข้าใจตรงกันง่ายๆเลยก็คือทำด้วยน้ำมันเสือ หากแต่น้ำมันเสือของพ่ออาจารย์นั้นกลับเป็นน้ำมันเสือที่ตกทอดมาแต่บูรพาจารย์ของท่าน ซึ่งมีอานุภาพสูงและรุนแรงมากและที่สำคัญน้ำมันเสือตำรับนี้ท่านว่าต่อให้เรียนรู้ไว้ก็ไม่สามารถสร้างให้เลิศเลอ เทียบเท่า หรือเสมอเหมือนได้อีก

    เพราะการทำน้ำมันเสือตำรับนี้นอกจากใช้เสือสี่ขาแล้วยังต้องใช้เสือสองขาด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าสมัยนี้มันไม่มีหรอกไอ้เสือทั้งหลาย มีก็แต่โจรกระจอก เจ้าพ่อ แล้วก็มิจฉาชีพเต็มบ้านเต็มเมือง จึงกล่าวได้ว่าปิดตำนานการสร้างน้ำมันตบะพยัคฆ์ของจริงๆทิ้งไปได้เลย

    การทำน้ำมันตบะพยัคฆ์สูตรนี้ต้องใช้น้ำมันของเสือที่ดุๆ ซึ่งคนโบราณจะเรียกโจรที่มีศีลธรรม แบบนี้เขาจะเรียกว่าเสือ แต่ถ้าไม่มีศีลธรรมเขาก็จะเรียกว่าโจร เพราะเสือมีศีลมีการจำศีล ถึงจะเป็นโจรแต่ก็มีเกียรติ มีศักดิ์ศรีมีคุณธรรมที่ต้องยึดถือปฏิบัติ แม้เสือจะมีความดุร้ายแต่เมื่อใดที่มันมีศีล มันรู้จักคุณธรรม รู้จักการจำศีลมันก็จะกลายเป็น“พญา”ของเสือทั้งหมด

    พ่ออาจารย์ท่านเผยว่า ต้องใช้น้ำมันของไอ้เสือเช่นนี้ที่แก่ตายด้วยตบะตนเองนี่แหละ ถือว่ารอดพ้นจากราชภัย จากตำรวจทหารมาได้ทั้งชีวิต ไอ้ที่โดนยิงตายนั้นท่านว่ารักษาตัวเองไม่รอดถือว่าใช้ไม่ได้ ต้องเอาไอ้คนที่รอดมาได้เท่านั้น เพราะนั่นย่อมเป็นเสือที่มีอาคมและอำนาจมาก ต้องเอาน้ำมันเสือสองเท้านี้มาหุงผสมกับกับน้ำมันเสือสี่เท้าที่แก่และตายลงเองไม่ได้ถูกพรานจับล่าฆ่าทิ้ง ท่านว่าต้องใช้เสือทั้งสองชนิดนี้ถึงจะเป็นที่สุดแห่งน้ำมันตบะพยัคฆ์ เมื่อได้ครบทั้งสองแล้ว ให้เอามาหุงเข้ากับน้ำมันที่ได้จากราชสีห์ตายโหงในวันเสาร์ เช่นนี้จึงจะเข้าตำราเป็นน้ำมันเสือที่เป็นเสือไปถึงจิตวิญญาณแค่หยิบมาพกพาไว้ก็ช่วยเพิ่มตบะ อำนาจ บารมีของคนใช้ไปได้ไกลหลายขุม เห็นหน้าเป็นมหาจังงัง ทำอะไรไปไหน เอ่ยปากกับใครล้วนมีแต่คนเกรงอกเกรงใจ เป็นมหาอำนาจถึงขนาดปิดปากไม่กล้าให้วาจาหลุดออกมาขัดใจเราแม้เพียงครึ่งคำ เป็นที่ครั้นคร้ามแก่อสุรกายภูติผีไม่เว้นแม้เทพเทวดาทั้งปวงเพราะทำด้วยตบะของสัตว์อันเป็นราชาผู้พิทักษ์ผืนป่ากับตบะของเสือผู้แกล้ากล้าในอาคม(ท่านว่านี่ไม่ใช่น้ำมันพรายนะ เพราะวิญญาณเสือนั้นไปเกิดทั้งหมดแล้ว เหลือไว้แต่เสือที่บูรพาจารย์ท่านผูกพยนต์กำกับไว้กับอำนาจสูงสุดของตบะแห่งชาติพยัคฆราชทั้งสามเท่านั้น)

    ด้วยเป็นน้ำมันที่ผู้เข้มขลังขมังเวทย์ มีฤทธิ์ในการสะกดข่มอาถรรพ์ดุร้ายของพญาเสือทั้งสามชนิดลงได้ ท่านได้เมตตาแสวงหามวลสารมาเข้าว่านยาที่หายากในอดีตทำการอธิษฐานบารมีหุงไว้เพื่อทำน้ำมันตบะเสือที่เป็นน้ำมันมหาอำนาจตัวที่แรงที่สุด ดุที่สุด ร้ายกาจที่สุดซ้ำได้รับการยอมรับนับถือว่าเป็นน้ำมันตัวสูงสุดแล้วของสายมหาอำนาจ ใช้สะกด ข่มสัตว์ได้ถ้วนทั่ว ซึ่งแม้แต่พ่ออาจารย์ท่านก็ยังทำให้ดีเสมอกันไม่ได้ด้วยท่านไม่มีใจคิดจะทำและกาลสมัยไม่เอื้ออำนวยให้ทำ กอปรกับในชั้นหลังมีคนรู้กันเยอะว่าท่านมีน้ำมันตบะเสือของครูเก่าไว้บูชาจึงมาขอเช่าขอแบ่งในสนนราคาค่อนข้างสูงเพื่อแลกกับปริมาณน้ำมันเพียงเล็กน้อย ท่านกลัวว่าคนจะเอาไปใช้ในทางที่ผิดทั้งยังจะเข้าเนื้อเข้าตัว ท่านจึงตัดรำคาญนำน้ำมันมาขออาราธนาพุทธบารมีครอบไว้พร้อมทั้งเอามาสร้างพระยอดขุนพลอันเป็นที่สุดแห่งยุค เพื่อให้พญาเสือทั้งสามได้ช่วยเหลือหนุนนำผู้ครอบครองต่อไป


    พ่ออาจารย์ได้นำน้ำมันพญาเสือนี้มาผสมกับผงพุทธคุณ ผงมงคลโสฬส ผงนะปัดตลอด ผงมหาลาภ ผงโภคทรัพย์ ผงกวักทรัพย์ ผงมหาปราบ ผงมหาอำนาจ และนำมาเข้ากับผงมหาสูตรหัวใจตบะพยัคฆ์ ที่ดีทางตบะเดชะทั้งข่มศัตรูให้กลัว เป็นมหาจังงัง เป็นมหาละลวยอย่างถึงที่สุด ทั้งยังใส่ผงยันต์ตัวเกิด คือให้กำเนิดได้ในทุกสรรพสิ่งเป็นมงคลสูงสุด พร้อมทั้งเข้าด้วยผงเขี้ยวเสือกลวง ผงลูกกรอกเสือโคร่ง และยาเสือสูตรพม่าที่เป็นอำนาจถึงขนาดที่ว่าคนใดได้อาราธนาพกไว้ ตัวยังไปไม่ถึง แค่ได้ยินชื่อหูก็ตั้งหางก็ตก เพียงได้กลิ่นก็หวาดกลัวจิตตกสยองพองขนเช่นนั้น พ่ออาจารย์ว่าท่านทำให้เป็นที่สุดของมหาอำนาจอย่างแท้จริง เพราะคนเราถ้ามีอำนาจอยู่ในตัวเองแล้ว แน่นอนว่าแม้ปรารถนาทุกสิ่งในปฐพี ก็ไม่มีสิ่งใดคลาดเคลื่อนไปได้จากความปรารถนาเลย พ่ออาจารย์ท่านได้นำผงทั้งหมดนี้มาเข้ากันแล้วนำมาคลุมด้วยผงหัวใจยอดศีล หัวใจศีล 227 ข้อทั้งหมด ท่านว่านี่แหละที่สุดแล้ว เพราะหากเสือมีศีลมันก็จะกลายเป็นพญาเสือ แรงทั้งฤทธิ์ทั้งคุณธรรม แถมยังเต็มที่กับการช่วยคนยกคนให้เป็นยอดคนนั้นด้วย

    ด้านหลังพ่ออาจารย์ท่านฝังเหรียญหล่อเสือเฒ่านอนกินและกำกับตะกรุดหัวใจพญาเสือสมิงเอาไว้ ท่านเสกอำนาจตบะเสือลงหัวใจเรียกอาการไว้ครบทั้งหมด เป็นรูปพญาเสือสมิงที่คาบเหยื่อคาปาก พ่ออาจารย์ท่านว่าเสือเฒ่านอนกินคือเสือที่มีตบะสูงสุด เป็นราชาของทั้งป่าอย่างแท้จริง กล่าวอีกมุมหนึ่งคือเสือที่อยู่มาจนแก่เฒ่ามีอำนาจตบะสูงพอที่จะสะกดได้ทั้งป่า แม้นอนอยู่ในรังเฉยๆก็มีเหยื่อวิ่งเข้ามาถึงปาก มาพลีกายสังเวยตัวเอง ยอมให้แม้กระทั่งชีวิตตนเองเช่นนั้น ท่านว่าคนเอาไปใช้นี่สำคัญนักอยากกินอะไรก็ได้กิน ซ้ำเขายังมาให้กินถึงที่ ให้สร้างมโนภาพเปรียบตัวเองเป็นเสือไว้ อยากกินอะไร กินใคร สะกดข่มใคร อยากได้อะไรก็ให้นึกถึงสิ่งนั้นเป็นเหยื่อแล้วกลืนลงไป พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นแหละเขาจะมาให้กินถึงที่ทีเดียว เป็นวาสนาปากอย่างแท้จริง ท่านไม่ให้พูดมากไปกว่านี้เพราะตั้งใจจะให้คนที่ใช้ได้ใช้สติตริตริงกันเอาเอง ท่านว่าพูดมากไปเดี๋ยวพวกจะเอาไปใช้เกินกรรม ไปขย้ำ ไปกินอะไรที่ไม่สมควรกันทั้งหมด

    ด้วยท่านนำน้ำมันมาหมักผงไว้ เพราะเป็นน้ำมันเก่านับร้อยปีจึงมีกลิ่นหืนเป็นธรรมดา ท่านจึงเรียกผงชุดนี้ว่าผงเหม็นและยังอุทานว่าผงเหม็นนี่แหละแรงกัดมือ ท่านพูดเปรยๆว่าไอ้ผงเหม็นแบบนี้แหละแรงนัก เพราะไอ้ที่คนว่าเหม็นแต่เทวดาเขากลับว่าหอม เห็นเขามองผงนี้กันทำตาโตเท่าไข่ห่าน แม้เทวดายังอิจฉาที่ตัวเองไม่มีร่างมนุษย์ในชาตินี้ ไม่มีโอกาสได้พระผงแบบนี้ ไม่มีโอกาสใช้ยอดขุนพลสร้างคนเพื่อสร้างบารมี

    พ่ออาจารย์ท่านนำพระยอดขุนพลชุดนี้มาเสกเก็บไว้ในวันเสาร์ห้าจนฟ้าลั่นกลางวันแสกๆแล้วก็เก็บเอาไว้เสกต่อมาอีกเรื่อยๆ เสกจนมีฝูงผึ้งบินมาล้อมมาเกาะตามตัวท่านจนดูดำๆด่างๆเป็นจุดๆเต็มไปหมด แต่ผึ้งเหล่านี้ที่จะทำร้ายหรือต่อยท่านทำอันตรายให้เกิดขึ้นกับท่านแม้แต่ซักตัวเดียวก็หาได้ไม่ ท่านนั่งอธิษฐานจนผึ้งเหล่านี้ค่อยๆบินหายกลับไปทั้งหมด ท่านว่านี่แหละยอดขุนพลเรา แม้สัตว์มีพิษมีเหล็กใน ดุจคนมีอันตรายมีความร้ายกาจซุกซ่อนไว้ ต่อให้มารุมล้อมนับสิบนับร้อยเขาก็ไม่ทำอันตรายแก่เรา ท่านว่าให้คนเขาไปใช้เพื่อสร้างบารมีของตนให้เต็ม ให้เป็นยอดขุนพล เป็นยอดคนไปทุกชาติเช่นนั้น

    ด้วยนิมิตมงคลปรากฏขึ้นหลายประการ พ่ออาจารย์ท่านจึงได้นำองค์พระอาราธนาดับแสงดาวบนท้องฟ้าแล้วท่านก็เปรยว่านี่แหละของดี ใช้ดับทุก ดับร้อน ดับภัย ดับอันตราย ดับสิ่งไม่ดีได้ทั้งสิ้น ไม่ว่าดาวดวงไหน(ท่านหมายถึงคน)ที่ว่าจรัสแสงจะมาแข่ง มาทาบรัศมีเราเขาย่อมทำไม่ได้เลย หากอยู่ใกล้เราแสงของเขาย่อมลดทอนและดับไปเช่นนั้น พร้อมกันนั้นท่านยังเตือนว่าการดับดาวบนท้องฟ้านั้นเราเพียงทำเพื่อทดลองดูอานุภาพและทำวิชาเท่านั้นเพราะเรื่องแบบนี้คนทั่วไปไม่สมควรกระทำเลย ด้วยว่าเมื่อดับลงแล้วก็ต้องทำให้แสงกลับคืนมาได้ด้วย หากเผลอไปดับและทำให้คืนมาไม่ได้ก็จะติดกรรมใหญ่และเป็นกรรมหนักหนาสาหัสแก่ชีวิตติดตัวไปหลายภพชาติ

    คาถาบูชา
    พุทธะเสฏโฐ มะหานาถัง วัณณะโก สิงหะนาทะกัง พุทธะสิระสา เตเชนะ มาระเสนา ปะราชัยยัง ชัยยะ ชัยยะ ภะวันตุ เม (ภาวนา ภู ภิ ภุ ภะ พยัคโฆจะ วิรุณเจวะ)

    * พ่ออาจารย์ท่านว่าพระยอดขุนพลนี้เป็นพระสร้างคนที่ทำมาเพื่อช่วยคนอย่างแท้จริง ท่านจึงพิมพ์ขึ้นไว้ได้ไม่มากเพียงแค่น้ำมันหมด ทั้งท่านยังนอธิษฐานกับครูบาอาจารย์ทั้งหลายว่าให้คนที่มีวาสนาได้เป็นยอดคนในเบื้องหน้าเท่านั้นได้นำไปอาราธนาบูชา

    ร่วมทำบุญบูชา พระผงมหาบุรุษสร้างคนยอดขุนพลดับดาว(ผงน้ำมันตบะพยัคฆ์มหาสิงหนาท) บูชา 2,500 บาท


    42114289_2203489796539770_3850200398589591552_n.jpg 42189072_320031238771393_7819457294919270400_n.jpg
    tnews_1474957998_1218.jpg
    42059116_2138616193057291_2424195639123378176_n.jpg
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,721
    ค่าพลัง:
    +18,229
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ปกรณ์เกียรติ EV 4403 7941 5 TH

    พี่เกษมธิดา EV 4403 7942 9 TH

    พี่กรธัช EV 4403 7943 2 TH

    พี่สุเมธ EV 4403 7944 6 TH
     

แชร์หน้านี้

Loading...