ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดวิฬาร์ย่ำเหยียบเงาหมื่นกฏไม่ใช่เรื่องของเรา(เงาปรากฏรวยอมตะ) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 10 เมษายน 2015.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา พระขุนแผนแสนนางล้อมรักผงทวิมหาภูติทองคำ(พระเจ้าทรงมหาโลกวิวรณปาฏิหาริย์)

    โดยปกตินั้นพ่ออาจารย์ท่านมักจะเจอปัญหาสำหรับคนใช้ของไม่ขึ้นอยู่บ่อยๆ ซึ่งปัจจัยเกื้อหนุนต่างๆนั้นก็มาจากเหตุต่างๆทั้งศรัทธาไม่มั่นคง หรือแม้กระทั่งเป็นผู้มีตำหนิในร่างกาย เป็นด้วยเหตุผลกลกรรมประการต่างๆ สำหรับเรื่องเกี่ยวกับมหาเสน่ห์นี้ ท่านจะเป่ามนต์ขุนแผนเปิดโลกให้โดยเฉพาะเจาะจง เพื่อแก้ทางสิ่งต่างๆ ก็ปรากฏว่าสำเร็จถึงขั้นได้เสียทุกรายไป


    สำหรับวิชาขุนแผนเปิดโลกนั้น ก็เป็นวิชาที่ท่านเอามาทำพระพิมพ์เฉพาะของท่านเช่นกัน เรียกว่าท
    อดสายตาออกไปนับแต่ในอดีตจนกระทั่งปัจจุบันก็ยังไม่เคยทีใครทำพระพิมพ์เช่นนี้ เพราะว่าหากจะสำเร็จพระขุนแผนเปิดโลกแล้ว นอกจากจะต้องทรงมนต์ขุนแผนเปิดโลก ในเรื่องของการเสกไม่ใช่ว่าเสกที่ไหนก็ได้ ไม่ใช่ขุนแผนที่เป็นขุนผีต้องเสกในป่าช้าใช้อาถรรพ์วิญญาณสัมภเวสีเข้าช่วย แต่เป็นของที่จะต้องทำเฉพาะกาล เฉพาะวาระ และเฉพาะสถานที่พิเศษจริงๆ

    พ่ออาจารย์ท่านจึงมีดำริจะทำเครื่องมงคลให้เป็นที่สุดในตระกูลขุนแผนของท่าน ถึงขนาดที่ว่านำผงวิชาที่ทำไว้ในอดีต อันเป็นผงเสน่ห์ที่ให้คุณรุนแรงออกมาเป็นมวลสารประกอบทีเดียว ท่านได้ตั้งใจแกะพิมพ์ขึ้นเป็นพิเศษให้เป็นเอกลักษณ์ของท่านเอง ตลอดจนแม้เวลาอธิษฐานจิตปลุกเสก ท่านยังใส่วิชา"นะเม"ลงไปด้วยเพื่อแก้ทางคนที่ใช้ของเสน่ห์ไม่ขึ้นลอดจนเร่งผลทางด้านเมตตา เสน่ห์ โชคลาภความเจริญต่างๆให้บังเกิดขึ้นพร้อมกัน


    โดยท่านได้แกะแม่พิมพ์เช่นพระขุนแผนทรงพรายกุมารหรือพรายใหญ่ของหลวงปู่ทิม แต่เปลี่ยนองค์พระด้านในนั้น เป็นประทับยืนทรงมหาโลกวิวรณปาฏิหาริย์แทนปางนั่งปกติ พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าครูบาอาจารย์เราเคยสั่งไว้ ถ้ามีโอกาสให้ทำขุนแผนโดยลงวิชาพระเจ้าทรงมหาโลกวิวรณปาฏิหาริย์ให้ได้ เพราะจะเป็นเสน่ห์ยิ่งกว่าเสน่ห์ใดๆ เหนือกว่าพลังของเทพ ของพราย หรือแม้แต่อำนาจที่จะพึงมีในพระพิมพ์ปกติ


    พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าวิชาพระเจ้าทรงมหาโลกวิวรณปาฏิหาริย์นั้น เป็นยมกปาฏิหาริย์ ขณะที่ทรงประทับณ.บันได้แก้วอันองค์อมรินทร์เนรมิตรให้เพื่อเสด็จลงจากดาวดึงส์ ตอนนั้นทรงแสดงมหาโลกวิวรณปาฏิหาริย์เปิดโลกทั้งสามให้รู้แจ้งมองเห็นซึ่งกันและกันโดยตลอดทั้งเบื้องบนและเบื้องล่าง การกระทำมหาปาฏิหาริย์ท่านกลางหมู่เทพพรหมบรรษัทนั้น พระตถาคตเจ้าทรงมีพระสิริราศีสรรพโสภาคงดงามเลิศล้ำกว่าปกติ ประกอบด้วยพุทธรัศมี สง่า งดงาม และสงบ เกินกว่าเทพเจ้าทั้งหมื่นโลกธาตุ และหมู่มหาพรหมผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหมดจะแสดงความงดงามเช่นนั้นออกมาได้ แม้มนุษย์ เทพทั้งอสงไขยโกฏิ ตลอดจนท้าวมหาพรหมทั้งหลายมีท้าวสหัมบดีเป็นปฐมก็ยังเพ่งพินิจชื่นชมในพระรูปอันเฉิดฉายนั้น แม้กระทั่งพระอรหันต์เองอย่างพระธรรมเสนาบดีสารีบุตรยังบังเกิดปิติมีความยินดีสุดประมาณ เอ่ยวจีขานกล่าวสรรเสริญสมเด็จพระบรมโลกนาถว่าสง่า สงบ งดงาม อย่างน่าอัศจรรย์เกินกว่าเทพพรหมบรรษัททั้งหลาย


    พ่ออาจารย์ท่านว่าเรียนมาแล้วถ้าไม่ทำก็แล้วไป แต่ถ้าจะทำก็ต้องทำให้ดีที่สุด สำหรับพระขุนแผนที่จะเอามหาบารมีเมื่อทรงแสดงโลกวิวรณปาฏิหาริย์มาใช้นั้น จะทำเล่นๆไม่ได้เลย เพราะพระเจ้าทรงมหาปาฏิหาริย์นั้นจะว่าเป็นเสน่ห์ก็เป็นเสน่ห์สูงสุด ถึงกระทั่งทำให้สามโลกตะลึงงันกับรูปโฉมได้ ไม่เว้นแม้เทพบดีทั้งหลาย มหาพรหมทั้งหลายหรือพระอรหันต์ก็ตามที ท่านว่าเปิดโลกก็คือเปิดทั้งหมด เปิดดวง เปิดให้เห็น ให้ดีขึ้นในทุกทาง

    ท่านจึงนำธาตุกายสิทธิ์มาหลอมหล่อเป็นพระขุนแผนพิมพ์พิเศษนี้ พร้อมกับอธิษฐานจิต อธิษฐานธรรมเสกเก็บเอาไว้ในฤกษ์ยามที่ต้องที่ควร นานนับเนื่องสองปี จนท่านมีดำริกับศิษย์ที่ทำธุรกิจอยู่ในประเทศอินเดียให้เป็นธุระพาท่านไปรัฐอุตตรประเทศในบริเวณที่ตั้งเมืองสังกัสสะนครแคว้นปัญจาละ สถานที่อันพระเจ้าได้แสดงมหาโลกวิวรณปาฏิหาริย์ให้ปรากฏแก่ตาโลก เพื่อจะทำการปลุกพลังจักรวาล ชุมนุมเทพยดา อธิษฐานจิตเชิญอำนาจพุทธบารมีสำเร็จพระพิมพ์เป็นการเฉพาะในสถานที่ที่เชิงบันได้เงินทองแก้วได้จรดพื้นปฐพี ตามที่พระเจ้าอโศกมหาราชได้บันทึกไว้ว่ามีเชิงบันไดทั้งสามอยู่แม้ขุดลึกลงไปก็จะลึกลงไปถึงเมืองบาดาลแต่เพียงนั้น จนพระองค์ต้องทำอุโบสถคลุมเชิงบันได้ไว้ ก่อนจะล่มสลายหายไปตามกาลเวลาในชั้นหลัง ท่านเลือกทำเงียบๆ เดินทางแต่ผู้เดียวเพื่อความสงบและสงัดของท่านโดยให้ศิษย์เป็นธุระจัดเตรียมสิ่งต่างๆรอไว้ให้ ทั้งนี้ท่านได้พลีมวลสารสำคัญกลับมาด้วย

    ท่านว่าเสกที่ไหนก็ไม่เหมือนที่นี่ จะให้สำเร็จให้แรงก็ต้องมาทำตรงนี้ จึงเป็นเหตุผลที่ท่านเดินทางไปเพื่อสำเร็จพระพิมพ์พิเศษของท่านที่มีดำริว่าทั้งชีวิตนี้คงทำได้เพียงครั้งเดียว เมื่อทุกสิ่งสำเร็จแล้วท่านจึงนำพระพิมพ์ที่เสกไว้มาอุดผงและฝังของมงคลด้านหลัง

    โดยท่านนำมวลสารที่พลีกลับมา นำมาบดเป็นผงเข้ากันกับมวลสารที่ท่านทำไว้แล้วเรียกว่าผงมหาหลงใจขาด เป็นผงมีลักษณะสีเทาดำ ซึ่งท่านว่ากว่าจะได้มานั้นท่านทำได้ลำบากยิ่งนัก เพราะต้องเริ่มกันตั้งแต่เลี้ยงว่าน ดูแลว่านแบบพิเศษทีเดียว โดยใช้ตั้งแต่ดอกไม้ทอง เสน่ห์นางล้อม ว่านจันทร์แดง จันทร์ขาว เครือเถาหลง ดอกบัวแฝด และตัวยาอื่นๆ มาเข้ากับผงมหาปถมัง 9 วรรค ตรีนิสิงเห ผงเสริมดวงชะตา นะปัดตลอดและผงวิชามหาเสน่ห์ทั้งหมด นำมานวดกับดินเจ็ดโป่งปั้นเป็นแท่งอีกทีหนึ่ง โดยนวดเข้ากับน้ำตาหญิงสาวพรหมจรรย์ที่ผสมไว้กับน้ำผึ้งเดือนห้าและน้ำค้างกลางหาว ก่อนจะนำมาลงวิชา"นะเม"อันพิศดารของท่าน และนำผงที่ได้ทั้งหมดมาปั้นรวมกันอีกคำรบหนึ่งเป็นรูปตุ๊กตาชายหญิง เสกให้มีจิตใส่ธาตุปรุงวิชา กำกับด้วยจิตตานุภาพให้ตุ๊กตาชายหญิงเคลื่อนเข้าหากันทีละน้อยๆ จนกอดรัดพันตูไม่แยกออกจากกันในที่สุดเป็นเคล็ดที่ว่าไม่ว่าอยู่ทางไหนก็ต้องวิ่งเข้าหาเรา จะชายก็ดี จะหญิงก็ดี ล้วนแต่เต็มใจรักใคร่ชอบพอในตัวเรา แนบสนิทไม่ห่างไกลแยกกันไม่ออกดุจตุ๊กตาคู่นั่นทีเดียวจึงจะถือว่าสำเร็จ พ่ออาจารย์ท่านจึงนำตุ๊กตานั้นมาบดเป็นผงอีกคำรบหนึ่งเรียกว่าผงมหาหลงใจขาด ท่านว่าที่ตั้งชื่อนี้ก็เพราะมีคุณตามชื่อนั่นเลย คือหลงจนขาดใจนั่นเอง เป็นวิชาทำตุ๊กตาเสน่ห์ที่ท่านประยุกต์มาใช้ทำผงอีกคำรบหนึ่ง ท่านว่าวิชาผูกหุ่นทำตุ๊กตาเสน่ห์เหล่านี้ หากใครทำไม่เป็นก็จะเป็นเดรัจฉานวิชานำไปกระทำกับคนอื่นได้ แต่หากรู้จักทำแล้ววิชาเช่นนี้จะให้เกิดคุณกลายมาเป็นมวลสารที่ทรงพลังเกื้อหนุนค้ำจุนผู้บูชาก็ย่อมได้

    จากนั้น ท่านจึงนำผงที่ได้รับการผสมไว้แล้วมาอุดด้านหลังฝังลงไปด้วยของสำคัญสามสิ่ง
    1. แก้วสารพัดนึก เป็นเพชรเม็ดเล็กๆที่พ่ออาจารย์ได้เคยมอบถวายไว้ให้ครูสายกรรมฐานของท่านเมตตาอธิษฐานจิตไว้ตั้งแต่หลวงปู่ขาว หลวงปู่ฝั้น ตลอดจนหลวงพ่อฤาษีลิงดำก็ได้เมตตาด้วย และยังเอ่ยปากกำชับว่าเป็นเสียยิ่งกว่าแก้วสารพัดนึกแล้ว ไม่มีอะไรให้เสกลงไปทับได้อีกแล้ว พอแล้ว พอแล้ว พ่ออาจารย์ท่านจึงเรียกว่าแก้วสารพัดนึก ซึ่งเป็นชุดที่ท่านหวงเป็นพิเศษ ท่านได้เมตตานำมาฝังไว้กับองค์พระด้วย ท่านว่าคนเราเสน่ห์อย่างเดียวก็อยู่ไม่ได้ เวลาจะอธิษฐานอะไรให้จ้องที่เพชรนี้ ท่านว่าบอกกล่าวองค์พระและเทวดาข้างในเถิด ขอได้ทุกเรื่อง จะงาน จะเสี่ยงดวง โชคลาภ หาความเจริญ หาความรัก หาสิ่งที่ไม่สมหวังหรือผิดหวังอะไร แต่นี้ไปจะสมดั่งใจนึกเสมอปากคำว่าสารพัดนึกของพระอรหันต์นั่นทีเดียว
    2. ขวดบรรจุผงทวิมหาภูติทองคำ เป็นผงวิเศษที่พ่ออาจารย์ท่านยืนยันว่าไม่เป็นอันตรายกับคนใช้ทั้งสองชนิด คือผงพรายกุมารของหลวงปู่ทิม และผงพรายทองคำของหลวงปู่ชื่น ท่านนำผงเพียวๆเลยทั้งสองชนิดฝังลงกันไปให้เห็นๆ โดยไม่ได้นำผงทั้งสองนี้ไปผสมในมวลสารที่อุดด้านหลังแต่อย่างใด หากแต่เลือกที่จะฝังไว้ ท่านว่าเพราะผงมหาหลงใจขาดนั้นลำพังก็แรงเหลือใจน่าดูอยู่แล้ว ยิ่งผงชุดนี้โดยเฉพาะผงพรายกุมารเป็นผงชุดที่หลวงพ่อสาครท่านย้ำให้เก็บไว้ให้ดี เพราะเป็นผงที่ท่านลองวิชาสมัยเรียนกับหลวงปู่ทิมและนำมาผสมกับผงหัวเชื้อหลวงปู่ทิมไว้ด้วย ท่านว่าผงเช่นนี้ไม่เคยให้ใคร พ่ออาจารย์ว่าคนที่ได้ไปนั่นนับว่ามีบุญอย่างยิ่งทีเดียว ผงมหาภูติทั้งสองนั้นไม่ใช่สัมภเวสีหรือพรายทั่วไป แต่เป็นจิตแห่งมหาภูติกึ่งเทวดามีบารมีมาก จึงบนบอกกล่าวได้แรงและเร็วไม่มีอันตรายหรือรบกวนผู้ใด ไม่บดบังชะตาชีวิต ไม่กินตัว ไม่ซ้ำเติมเวลาเราตกต่ำ มีแต่ช่วยกันเท่าที่จะทำได้ยิ่งกว่าเพื่อนรู้ใจคอยให้คุณเราสถานเดียว ซ้ำด้านบนนั้นพ่ออาจารย์ยังนำว่านยามหาเสน่ห์สูตรหงส์ร่อนมังกรรำของท่านที่ท่านแสวงหาไว้บรรจุไว้ด้วย ท่านว่าวิชานี้ถือว่าแรงมาก แรงกว่าทุกสาย ทุกแขนง ถึงขั้นว่าแก้ไขไม่ได้ทีเดียว จึงได้นำไปบรรจุไว้ในขวดให้บูชา ท่านว่าเพียงแค่พกก็เป็นเสน่ห์ดึงดูดถึงที่สุดแล้ว
    3. ตะกรุดนะเม วิชาตะกรุดที่พ่ออาจารย์ท่านลงจารใส่แผ่นเงินเสริมลงไป นอกจากจะเป็นเสน่ห์อย่างถึงที่สุดแล้วยังเร่งผลเร่งพลังงานของมวลสารเดิมและสิ่งต่างที่อยู่ในองค์พระทั้งหมดให้เร็วและแรง วิชานะเมนี้ท่านว่ายังเป็นวิชาแก้ทางคนที่ใช้ของเสน่ห์ไม่ขึ้นทั้งหลายด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าคนที่กำลังแสวงหา.. คือแสวงหาสิ่งต่างๆทางโลก ไม่ว่าจะความรัก ความมั่นคง โชคลาภ วาสนา คู่อุปถัมภ์ จะลงหลักปักฐาน ทุกสิ่งทุกทาง วิชานะเมนี้ครอบคลุมเรื่องทางโลกเสียทั้งหมด เอาว่าสำเร็จเร็วและแรงตราบใดที่ยังมีความต้องการ ตราบใดที่ยังแสวงหา ยิ่งปรารถนาก็ยิ่งมีผลถึงเพียงนั้น


    จากนั้นท่านจึงนำมาอธิษฐานจิตอีกกว่าขวบปีด้วยวิชาแสนนางล้อม ตลอดจนกำกับวิชาทุกด้านทุกทางใส่ไปจนครบ ท่านว่าทำเต็มที่ มีทุกด้าน ครบรส ขุนแผนของท่านนั้นนอกจากเสน่ห์แล้ว ใช้แล้วโชคลาภมาทุกทาง เงินทองไม่ขาดมือ ท่านว่ากว่าจะสำเร็จได้ต้องนั่งตรวจกันทีละองค์เลย องค์พระนั้นมีวิมานเพชรครอบทุกองค์ มีมหาพรหมจำแลงมารักษาพร้อมบริวารทุกองค์ เรียกว่าองค์นึงนั้นข้างในวิมานอยู่กันแน่นขนัดทีเดียว


    พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ทั้งหมด 9 องค์ โดยตัวท่านนั้นได้นำไปพกอาราธนาเองหนึ่งองค์ท่านว่าเก็บไว้เป็นที่ระลึกเพราะพระเช่นนี้แค่คิดจะสร้างก็ไม่ง่ายเลย และท่านถึงกับออกปากว่ารุ่นนี้แรงนัก ถ้าจะเปรียบพลังงานก็เป็นองค์บรมครูทุกองค์เสมอกัน เช่นนั้นจึงเหลือให้ร่วมทำบุญกันทั้งหมดแปดองค์


    คาถาบูชา
    นะโมพุทธายะ นะสุนะโมโล นะเมติสัมภะโว จิเจรุนิจิตตัง เจตสิกกังรูปัง นิพพานัง ตังนิพพุตัง ทะนะมะพะ ปฐวีธาตุทีฆังวา พะกะสะจะชีวังจะตะติ โอมจิตติจิตตัง จิตมนุษย์หญิงชายทั้งหลายทั่วทั้งแผ่นดิน เอหิมานิมามา มีจิตมารักกูทุกผู้ทุกคน อุอะมะเกลื่อนกล่นกันมา อะมะอุรักกูอย่าขาด สัพพะรักกู มหารักกู ภวันตุเม


    * พระขุนแผนแสนนางล้อมรักนี้สำหรับผู้ที่จะบูชาให้แจ้งมาเฉพาะทาง PM เท่านั้น พร้อมกับบอกชื่อนามสกลให้พร้อมสรรพ พ่ออาจารย์ท่านจจะเจิมน้ำมันสาริกาป้อนเหยื่อ และอธิษฐานผงอิทธิเจเสน่ห์กลเจิมนมัสการองค์พระให้ทุกองค์ รายได้จากการบูานั้นร่วมสมทบทุนการศึกษา สำหรับเด็กด้อยโอกาศสืบต่อไป


    ร่วมทำบุญบูชา พระขุนแผนแสนนางล้อมรักผงทวิมหาภูติทองคำ(พระเจ้าทรงมหาโลกวิวรณปาฏิหาริย์) บูชา 4,000 บาท
    035.jpg 125012e6.jpg paragraph_400_443.jpg hqdefault_1.jpg
    SAM_5243.jpg SAM_5248.jpg
    image.jpg 7492593910_f66e28b161.jpg image.jpg
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดมหาศาสตร์โยนีคลั่งรัก(ฟ้าสั่งรวย)

    พ่ออาจารย์ท่านอธิบายว่าวิชาเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องทะลึ่งหรือสิ่งผิดแต่อย่างใด โยนีนี้เป็นสัญลักษณ์ของเพศหญิง หรือเปรียบแทนแม่ผู้ให้กำเนิด แม้แต่ในคัมภีร์พระเวทย์นับแต่ยุคโบราณก็มีกล่าวถึงหลายครา ท่านว่าโยนีคือต้นกำเนิดแห่งชีวิต ทุกสิ่งถ้าปราศจากชีวิตนั่นคือสิ่งที่ตายแล้ว ไม่อาจจะเจริญหรือมีพัฒนาการใดๆได้ ซ้ำโยนี้นี้ยังเป็นตัวแทนของพลังงานแห่งมหาศักติและองค์เทวีทั้งหลายด้วย พลังงานแห่งมหาศักติและมหาเทวีนั้นคือรูปของการสร้างสรรค์ เป็นพลังยิ่งใหญ่ที่ไม่หยุดนิ่งสามารถเคลื่อนไหวไปได้ทั่วหมื่นจักรวาล

    มหาศาสตร์โยนีนี้จึงมีความสำคัญมาก เพราะเชื่อกันว่าหากปราศจากโยนีแล้วความเป็นบุรุษเพศก็จะไร้ค่าและหมดความหมายไป ท่านว่าวิชานี้จึงมุ่งเสริมให้ใช้ได้ทั้งชายและหญิงทีเดียว และเมื่อจะสร้างท่านพิจารณาแล้ว จึงได้ใช้ความรู้เก่าซึ่งนับว่าครูแรงที่สุดเมตตามาใช้ทำการสร้างและปลุกเสก


    พ่ออาจารย์ว่าวิชามหาศาสตร์โยนีคลั่งรักนั้น ท่านจะลงวิชาซึ่งเป็นโยนีมหาภูติเอาไว้ วิชานี้ท่านได้มาสมัยธุดงค์เป็นวิชาของเหล่าเพชรพญาธรที่จะมาจารึกไว้ตามผนังถ้ำให้พวกฤาษีได้เห็นได้เรียน ตลอดจนให้ผู้มีบุญที่คิดว่าจะรับวิชาได้ ได้เห็นได้รู้ นำไปใช้ให้เกิดคุณประโยชน์ ท่านว่าวิชาเหล่านี้ย่อมมีพลังสูงสุด ต่างจากวิชาที่เรียนหรือศึกษากันโดยทั่วไปอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากครูเค้าแรง ท่านว่าเรียนได้ครั้งเดียว เมื่อไปดูอีก ทุกสิ่งย่อมอันตรธานหายไปดั่งเช่นไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน

    พ่ออาจารย์ท่านทำอย่างพิถีพิถัน โดยตะกรุดมหาศาสตร์โยนีคลั่งรัก(ฟ้าสั่งรวย) นั้นจะแบ่งออกเป็นสองส่วน จะขอกล่าวถึงก่อนเป็นส่วนๆไป ในระดับแรกเราก็จะมาพูดถึงวิชาโยนีก่อน ท่านว่าท่านทำตามวิชาศักดิ์สิทธิ์ที่กล่าวไว้ข้างต้น นำมาผสมผสานกับศาสตร์วิชาโยนีสายเขมรกลั่นกรองออกมา โดยท่านกล่าวว่ามหาโยนีนี้คือเครื่องรางที่มีอำนาจของเทพเจ้าฝ่ายมหาศักติทั้ง 108 องค์หนุนส่งไหลเวียนอยู่ จะไม่แรงได้อย่างไรก็ในเมื่อมีแม่ที่เก่งกล้าในทุกทางสารพัดอยู่ร่วมกันถึงปานนั้น เพื่อให้ได้เครื่องรางทางเสน่ห์ที่แรงที่สุด ปลุกเสกเรียกธาตุมหาโลกียะทั้งสี่ใส่อาการจนครบ ท่านว่าเครื่องมงคลนี้พระสงฆ์องค์เจ้าจับไม่ได้เลย อย่าแม้แต่คิดจะนำไปใช้ เดี๋ยวผ้าเหลืองจะร้อน วัวเขานิ่ม(สตรีเพศ)จะมาขวิดเอาไปกินเสียหมด


    ด้านอานุภาพนั้น ตะกรุดมหาศาสตร์โยนีคลั่งรักนี้ใช้ได้หลายอย่าง พ่ออาจารย์ท่านว่าจะใช้ให้เจริญทางโลกก็ได้ จะเล่นทางเสน่ห์เมตตาก็ย่อมได้ เพราะท่านเสกเน้นด้านเสน่ห์ รัญจวนจิตอย่างแรงให้ครอบคลุมทุกเพศทุกวัย พกพาอาราธนาไว้จะทำให้คนอื่นมองเห็นเราดูดีขึ้นเพราะพลังแห่งมหาศักติคือพลังที่อ่อนโยนจะช่วยให้เราดูหนุ่มขึ้นหรือสาวขึ้นกว่าปกติ หรือแม้จะใช้อธิษฐานให้ดลใจคนที่เราหมายปองก็ย่อมได้ ท่านว่าคำว่าคนที่หมายปองนั้นไม่จำเป็นต้องรักใคร่ชอบพอ
    ถึงจะอาภัพคู่ รูปไม่สวย ไม่หล่อไม่น่าพึงใจก็เปลี่ยนเป็นเจริญใจได้ จะใช้ในการงานการเข้าหาคน อธิษฐานให้แม่โยนีดลจิตดลใจเขาก็ได้ มีอำนาจพลังลึกลับในการจูงจิต จูงใจ ผูกจิต ผูกใจคน กระตุ้นให้เค้าอยากรู้จักเรา สนใจเรา ใกล้ชิดเรา ท่านว่าใช้ไปเรื่อยๆจะรู้เอง ท่านเรียกว่าแรงสั่งได้ สะกดให้ลุ่มหลงก็ได้ ออกได้ทุกทางตามแต่ใจจะปรารถนา

    นอกจากนี้มหาศาสตร์โยนียังมีคุณด้านอื่นๆเสริมอยู่ในตัวเองอีกด้วย ท่านว่ากันคุณกันของ การกระทำทางไสยศาสตร์ทั้งหมดไม่ต้องห่วง รับรองว่าไม่ได้กิน ซ้ำเมื่อใดที่พกตะกรุดนี้อยู่ผีสางทั้งหลายย่อมไม่ปรากฏตัวมาหลอกหลอน หรือแม้แต่จะคิดทำร้ายรังแกเราได้เลย ที่สำคัญกว่านั้นท่านว่าโยนีนี้ท่านตั้งใจทำมาก เพราะมันเป็นวิชาพิเศษที่หาไม่ได้จากที่ไหน คือมีพลังอำนาจในการดูดทำลายเรื่องอัปมงคลต่างๆ แม้พกไว้กับตัวใครที่ว่าป่วยหน้าดำ มีเรื่องไม่ดี ต้องอุบาทว์ ชีวิตซวย มีสิ่งผิดปกติในร่างกายทุกสิ่งนั่นแหละท่านว่าจะถูกดูดทำลายให้เสื่อมถอยกำลังไปหมด เป็นดาวข่มอวมงคลทั้งหลายอย่างแท้จริง เพื่อแก้ทางไม่ให้เรามีสิ่งใดมาปิดกั้นขัดขวาง จะได้รับพลังได้โดยง่าย ปรารถนาสิ่งใดจะใช้ทำอะไรล้วนสำเร็จทุกประการ


    นอกจากนี้ยังใช้ทางโชคลาภได้ จะค้าขายก็ดีหรือแสวงหาโชคลาภก็ดีท่านว่าใช้ได้หมด เสกให้เกื้อหนุนดวงชะตา ใครที่คิดว่าชีวิตอดอยาก เงินทองฝืดตัว ทำมาหากินติดขัด นี่แหละท่านว่าของแก้ทาง รับรองว่ามีกินไม่อด เงินทองไม่ขาดสภาพคล่อง มีดีทางโชคลาภอยู่แล้ว ทำมาหากินราบรื่นไม่ติดขัด ท่านว่าถ้าใช้เรื่องเสี่ยงโชค มีแต่ดีกับได้ทุกทาง ท่านว่าไม่อยากจะพูดเลยแต่ก็จะบอกไว้คร่าวๆ ตะกรุดนี้เวลาพกพาไปในสถานที่ต่างๆที่มีการฝังของฝังอาถรรพ์ไว้ ท่านว่าต่อให้ของที่ไหนแรงๆก็เถอะรับรองว่าสะกดหรือข่มเราไม่ได้ทั้งนั้นในมหาทิศทั้งสี่นี้ไปได้กลับได้อย่างปลอดภัยทุกที่


    นอกจากนั้น พ่ออาจารย์ท่านยังได้ลงวิชาปถมังสูงสุดในสายหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าเสริมไว้ในแผ่นทองเหลืองด้วย ท่านว่าวิชานี้มีสามระดับหาคนเรียนสำเร็จและทำได้จริงยาก ท่านว่าหลวงปู่ศุขใช่ว่าจะดีแต่ทางเหนียว แต่ท่านทำได้ทุกทาง ด้านโชคลาภนี้ก็หาตัวจับยากเช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าจะเล่นแต่เสน่ห์อย่างเดียวก็ไม่งาม ยุคนี้สมัยนี้ต้องรวย ต้องมีกินด้วย ท่านจึงทำตะกรุดที่เรียกว่าฟ้าสั่งรวยตำรับหลวงปู่ศุขม้วนทับไว้คู่กัน


    ท่านว่าวิชานี้เป็นศาสตร์วิชาโบราณ เป็นอีกหนึ่งคุณวิชาที่มีดีครบหมด เมตตาก็มี แต่ทว่าที่เด่นและแรงแซงหน้าทางอื่นก็คือโชคลาภ ท่านว่าตะกรุดฟ้าสั่งรวยนี้เน้นทางหาเงินหาทอง ให้ผู้ใช้เจริญในเงินทองทรัพย์สมบัติบริบูรณ์ ให้รุ่งเรืองเป็นมหาจำเริญขั้นสูงสุด ท่านว่าตะกรุดฟ้าสั่งรวยนี้สมัยก่อนหลวงปู่ศุขท่านจะทำให้พวกเศรษฐี คนธรรมดาไม่มีหวังจะได้เห็น เพราะว่าเค้าจะแข่งความร่ำรวยกัน ใครมีตะกรุดนี้เงินทองเหมือนอยู่ใกล้มือ ทำอะไรก็ทางสะดวกไม่ไกลเกินเอื้อม เป็นเคล็ดลับที่เศรษฐีสมัยก่อนไม่นิยมบอกหรือพูดต่อกัน เรียกว่าใช้จนตายไปกับตัว


    วิชาฟ้าสั่งรวยนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าแรงนัก จะไม่แรงได้อย่างไร ท่านว่าชีวิตคนนั้นประกอบด้วยตัณหาทั้งสาม คือความอยากในอารมณ์รักใคร่หนึ่ง ความอยากในอารมณ์อยากมีอยากเป็นหนึ่ง ความอยากในอารมณ์ที่ไม่อยากมีไม่อยากจะเป็นหนึ่ง ท่านว่าตะกรุดฟ้าสั่งรวยคือวิชาที่เสริมตัณหาทั้งสามนี้ให้บริบูรณ์ พูดให้ครบคือได้ในสิ่งที่คิด ห่างไกลในสิ่งที่ไม่พึงใจ ก็แล้วมันจะไม่ดีได้ยังไง ก็ในเมื่อมันตอบสนองความคิดจิตวิญญาณตัณหาคนใช้ถึงปานนั้น


    วิชานี้ท่านว่านอกจากจะเป็นสิ่งที่ถูกปกปิดแล้วยังเป็นวิชาที่แปลกพอๆกับศาสตร์มหาโยนีเลยทีเดียว ท่านจึงตัดสินใจนำมารวมกัน เพราะตะกรุดฟ้าสั่งรวยนั้น ก็เหมือนกับชื่อคืออยู่ดีๆฟ้าก็สั่งให้คนๆนี้รวย มันเป็นพลังวิชาแบบปาฏิหาริย์ ตั้งแต่สมัยหลวงปู่ศุขแล้วท่านก็ไม่ได้ทำให้ใครมาก เพราะผู้รับก็เหมือนภาชนะที่จะรองรับปาฏิหาริย์ฟ้า เป็นชีวิตที่จะต้องเกิดปาฏิหาริย์ ถ้าเดิมชีวิตเค้าไม่ดีก็เรียกว่าจะพลิกกลับจากหน้าเป็นหลังมือทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าจะเจริญขึ้นเป็นลำดับ ต่อชาติ ต่อภพไป เช่นว่าคนยากจนจะเป็นเศรษฐี เศรษฐีจะเป็มหาคหบดี มหาคหบดีจะเป็นขุนนางเจ้าพระยามหาอำมาตย์ เจ้าพระยามหาอำมาตย์จะเป็นกษัตริย์ กษัตริย์จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์ ท่านว่านี่คือวงจรชีวิตที่ต้องเกิด ถ้าชาตินี้จบลงที่ตรงไหน ก็ไปเริ่มใหม่ที่ชาติหน้าไม่มีถอยกลับจนกว่าจะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์นั่นเอง


    พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้ใช้ง่ายๆ นั่นคือหากเราอยากบูชาคุณของอิตถีเทพนารีด้านใน ก็ให้หาสำรับขนมหวาน พวกเครื่องทองยิ่งดี คือทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง เม็ดขนุนต่างๆ มาไหว้บูชาครู


    ลำดับต่อไปเมื่อจะใช้ ท่านว่าตะกรุดนี้ใช้ได้สุดที่จะอธิษฐานกันเลย หากพกแล้วยังรู้สึกว่าไม่แรงสมใจ อยากจะเร่งอีกหน่อย อยากให้แรงกว่านี้อีกนิด ท่านว่าเมื่อเลี่ยมให้เจาะรูที่ปลอกตะกรุดไว้ ถ้าจะเอาด้านเสน่ห์ก็ให้เซ่นด้วยเหล้าขาว โดยเอาเหล้าขาวหยอดลงไปในรูที่เจาะ หรือว่าถ้าวันไหนต้องการทางด้านโชคลาภเงินทองแบบเร่งด่วน ก็ให้ประพรมด้วยน้ำหอมฉีดใส่รูนั้นเช่นกัน


    ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์บอกว่ายิ่งใช้ยิ่งมีแต่จะดีจะแรงขึ้น ไม่ต้องการการดูแลรักษาแต่อย่างใด ยิ่งไหว้ด้วยเครื่องทองต่างๆก็ยิ่งครูแรง ยิ่งใช้เซ่นเหล้าเซ่นน้ำหอมก็ยิ่งแรงเสริมไปอีก พกไว้ในที่ต่ำได้ท่านว่าถ้าร่นไว้ระดับเดียวกับจุดเพศเราตรงนี้ไม่ได้ลามกหรืออนาจารแต่อย่างใด ท่านว่าจะยิ่งแรง ยิ่งดูดขับสิ่งไม่ดีทั้งหลายได้มากขึ้น เรียกว่าแก้ไขจากภายในก็ไม่ผิด ท่านว่าถ้าใครเห็นว่าพกแล้วเสน่ห์แรงไปจะปวดหัวควบคุมไม่ไหว ก็ให้ร่นตะกรุดออกมาภายนอก คือใส่ในระดับการคาดตะกรุดปกติเพียงเท่านี้ก็จะทุเลาลงถ้าร่นตะหรุดมาภายนอกก็จะเหมาะกับการหาโชคลาภเน้นๆแทน ท่านว่าปรับใช้ตามแต่สถานการณ์นั่นเลย


    คาถาบูชา
    โอม อุอุ อะอะ มหาภูตา ปริภูเต ภูติ เวสันติ มะมะมามา โยนิโส ธะฮีนะ สวาหับ


    พ่ออาจารย์ท่านทำการเสกปิดในวันวาเลนไทน์ ที่เรียกว่าเป็นวันและเวลาที่มีพลังงานแห่งความปรารถนา ความรักของมนุษย์ที่รุนแรงเป็นพิเศษ ประกอบกับเป็นตะกรุดที่คุณวิชานั้นแรงมากแต่เดิมอยู่แล้ว ท่านว่าเสกจนตัวท่านนั้นรู้สึกได้เลยว่าวิชานี้ทำแล้วเหนื่อยจริงๆเรียกว่าถึงกับไข้ขึ้นทีเดียว ท่านว่าวิชาแบบนี้ต่อไปท่านจะไม่ทำอีก เพราะเป็นวิชาที่ฝืนวัฏฏะสงสารมากเกินไป ก็แค่อยากเห็นคนใช้มีชีวิตที่ดีขึ้น มีความสุขความสบายมากขึ้น ท่านจึงตั้งใจว่าจะทำเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ท่านว่านี่คือหนึ่งในตำนาน หลังจากนี้จะมีเสียงเรียกร้องให้สร้างอีกมากเพราะคนที่เค้าใช้ ได้เห็น ได้รู้ กับเนื้อกับตัวก็จะอยากมีอยากได้เอาไว้ให้คนที่เค้ารัก ให้คนในครอบครัวใช้บ้าง ท่านว่าหลังจากนี้จะไม่มีอีกซักครึ่งรุ่น เพราะมันทำยากยิ่งเสกก็ยากขึ้นไปอีก ท่านว่าทำครั้งเดียวจบ เพราะครูเบื้องบนคงไม่พอใจแน่หากเราจะทำของแบบนี้ขึ้นมาเป็นครั้งที่สอง มันหนักเกินไป ของเช่นนี้ปกติมนุษย์แล้วไม่มีที่จะได้ใช้ได้เห็น แม้สมัยหลวงปุ่ศุขก็ยังต้องเลือกคนรับคนให้เช่นกัน ดังนั้นท่านจึงอธิษฐานฝากครูพระ ครูเทพทั้งหลาย ให้ดลใจผู้ที่มีวาสนากับเครื่องมงคลให้รีบรู้และรีบมารับไป


    * ท่านประกอบพิธีจัดสร้างไว้ทั้งหมด 8 ดอก รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น สำหรับผู้จองให้แจ้งชื่อ นามสกุลมาด้วย ท่านจะทำพิธีเป่ามนต์มหากำเนิดผ่านรูตะกรุด และจะสระสรงตะกรุดด้วยน้ำปรุงอีกคำรบหนึ่งเป็นการเบิกฤกษ์ให้ก่อนนำไปใช้กัน รายได้ทั้งหมดท่านจะมอบให้สถานพญาบาลที่ขาดแคลนอุปกรณ์และเตียงพักผู้ป่วยต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดมหาศาสตร์โยนีคลั่งรัก(ฟ้าสั่งรวย) บูชา 4,000 บาท
    1357988146.jpg 701465050.jpg 118756197.jpg SAM_5251.jpg SAM_5250.jpg SAM_5249.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มีนาคม 2020
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา พระผงจักรพรรดิชำระเคราะห์กรรม(สมเด็จบรมพุทโธ 1 )
    พระสมเด็จบรมพุทโธ 1 หรือที่พ่ออาจารย์ท่านมักจะเรียกติดปากว่าพระผงจักรพรรดิ์ชำระเคราะห์กรรม เพราะว่ามวลสารในองค์พระนั้นพ่ออาจารย์ท่านใช้ผงจักรพรรดิ์ชำระเคราะห์กรรมมาดำเนินการจัดสร้าง

    พระผงรุ่นนี้เป็นพระสำคัญ เพราะท่านสร้างไว้ตามคำสั่งของหลวงพ่อฤาษีลิงดำเมื่อก่อน ว่าถ้ามีโอกาศให้สร้างพระปางที่สมเด็จองค์ปฐมประทับร่วมกันกับองค์ปัจจุบันไว้ด้วย ซึ่งเมื่อตอนนั้นหลวงพ่อฤาษีได้มอบผงวิเศษให้ขวดนึงโดยบอกพ่ออาจารย์ว่า ไม่นานเธอจะได้เห็นว่าคนที่เรียกว่าทุกข์ว่าร้อนนั้นจะเป็นยังไง นี่เป็นผงสำคัญได้มาตั้งแต่สมัยหลวงพ่อปาน ถ้ามีโอกาศได้สร้างสมเด็จทั้งสอง(องค์ปฐมและองค์ปัจจุบัน)ค่อยเอาออกมาใช้ ซ้ำท่านยังมอบผงแร่มาให้อีกจำนวนหนึ่งโดยท่านเรียกว่าแร่เงินไหลมา

    พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าหลวงพ่อไม่ได้บอกว่าผงนี้เรียกว่าอะไร บอกแค่ว่าเป็นผงเก่าหลวงพ่อปาน สั่งแต่เมื่อถึงคราวที่ทำพระสองสมเด็จก็ให้เอาออกมาใช้ เหมือนท่านจะรู้ได้ด้วยญาณล่วงหน้าว่าเราต้องทำแน่ พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้เมื่อได้รับมาท่านก็นำมาเก็บไว้ เพราะตั้งใจจะดูพุทธคุณว่าเป็นผงอะไรดียังไง หลังจากท่านตรวจสอบแล้วและลองนำผงนี้เพียงเล็กน้อยผสมปูนขาวปั้นๆเป็นลูกอมไปแจกให้คนดวงแตก ชีวิตพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก ทำอะไรไม่เจริญ ผิดหวังกับการงาน ผิดหวังกับความรัก ผิดหวังกับชีวิต ทุกข์เพราะเรื่องในครอบครัว ท่านว่าลองแจกคนที่ได้ชื่อว่าทุกข์หาสุขไม่เจอในแต่ละประเภทไป ตอนนั้นท่านว่าใครดวงดีเราไม่แจก แจกเฉพาะคนที่แย่สุดๆเท่านั้น ปรากฏว่าทุกคนดีขึ้นฉับไว ดีขึ้นพลิกกลับทันตาเห็น แต่พอเอาลูกอมผงวิเศษนี่ออกก็กลับมาแย่เหมือนเดิม ท่านจึงรู้ว่าผงนี้ชะรอยจะไม่ใช่ผงธรรมดาทั่วไป จนกระทั่งหลวงพ่อปานมาปรากฏในนิมิตของท่านบอกกล่าวกับท่านว่าผงนี้เรียกว่าผงชำระเคราะห์กรรม ให้สร้างพระเก็บไว้ให้ลูกๆสายบุญ เพราะในอนาคตคนจะตกต่ำและเคราะห์กรรมจะซ้ำเติม ผงนี้เราทำไว้เพือรอกาลนั้น

    ท่านจึงนำผงจักรพรรดิ์อันมีอานุภาพมากของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก มาผสมกับผงชำระเคราะห์กรรมของหลวงพ่อปาน ก่อนที่จะปั้นรวมกันเป็นแท่งลบยันต์หัวใจสำคัญๆต่าง ท่านว่าชักยันต์ทีนึงก็ปั้นใหม่ครั้งนึง ต้องทำเช่นนี้ถึง 62 ครั้ง จนสำเร็จเป็นผงจักรพรรดิ์ชำระเคราะห์กรรมนั่นเอง โดยท่านได้นำผงวิเศษมาชักยันต์ต่างๆดังนี้ 1.หัวใจพระพุทธเจ้า 2.หัวใจนิพพานสูตร 3.หัวใจอิติปิโส 4.หัวใจพระโมคคัลลาน์ 5.หัวใจพระสารีบุตร 6.หัวใจมงกุฏพระเจ้า 7.หัวใจสัตว์ 8.หัวใจพระการังสี 9.หัวใจวิรูปักเข 10.หัวใจนางพระธรณี 11.หัวใจกาสัก 12.หัวใจมนุษย์ 13.หัวใจพระวิธูรบัณฑิต 14.หัวใจพญามาร 15.หัวใจพระมโหสถ 16.หัวใจสัตนาเค 17.หัวใจพระหมอ 18.หัวใจปถมัง 19.หัวใจพระวินัย 20.หัวใจพระเจ้าองค์ปฐม 21.หัวใจพญานาค 22.หัวใจจะนะ 23.หัวใจพระนารายณ์ 24.หัวใจกุศล 25.หัวใจพระแม่คงคา 26.หัวใจพระกกุสันโธพุทธเจ้า 27.หัวใจสัมพุทเธ 28.หัวใจมหาคงคาเดือด 29.หัวใจพระมาลัย 30.หัวใจองค์ศีล 31.หัวใจพระพุทธเจ้าทั้งห้า 32.หัวใจมาติกา 33.หัวใจธาตุกรณี 34.หัวใจสนธิ์ 35.หัวใจโลกทั้งสาม 36.หัวใจอาการ32 37.หัวใจอิทธิเจ 38.หัวใจศีล 39.หัวใจพระฉิมพลี 40.หัวใจพระขันธกุมาร 41.หัวใจสามเณร 42.หัวใจเต่ากัสสโป 43.หัวใจพระทีปังกร 44.หัวใจสามเณร 45.หัวใจอุลลุม 46.หัวใจพระพุทธกัสสปะ 47.หัวใจหนุมาน 48.หัวใจยะโตหัง 49.หัวใจพระปิติ 50.หัวใจอิสิ 51.หัวใจฆเตสิ 52.หัวใจพระมหาชนก 53.หัวใจอิติปิโสถอยหลัง 54.หัวใจพระเคราห์บาปเคราะห์ 55.หัวใจชายหญิง 56.หัวใจพระอาทิตย์เทวา 57.หัวใจพระจันทร์เทวา 58.หัวใจพระอังคารเทวา 59.หัวใจพระพุธเทวา 60.หัวใจพระพฤหัสเทวา 61.หัวใจพระศุกร์เทวา 62.หัวใจพระเสาร์เทวา

    พ่ออาจารย์ว่ากว่าจะสำเร็จผงจักรพรรดิ์ชำระเคราะห์กรรมนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะท่านต้องเดินยันต์ทำวิชาต่างๆถึง 62 ครั้งซึ่งแต่ละพระยันต์และหัวใจต่างๆก็มีคุณมากล้นค่าควรเมืองทั้งสิ้น ท่านว่าต้องเพียรทำแรมปีจึงจะได้มวลสารสำคัญสำหรับทำพระชุดนี้ หลังจากนั้นท่านจึงขอนิมิตครูเพื่อจะแกะแม่พิมพ์ขึ้น โดยท่านก็ได้รับคำแนะนำต่างๆและแกะแม่พิมพ์เป็นเสด็จพระใหญ่นั่งซ้อนกันกับองค์ปัจจุบัน
    - ประการแรกท่านว่า ที่ครูตั้งใจแสดงนิมิตให้นั่งซ้อนกันแบบนี้ เพราะการนั่งซ้อนกันก็เหมือนคนมีเงา คนมีเงาก็คือคนมีชีวิต คนเป็นไม่ใช่คนตาย เวลาได้ไปใครที่ชีวิตแห้งเหี่ยว ตายด้านไปแล้วจะได้พลิกกลับขึ้นมามีชีวิตแบบฉับพลันทันที
    - ประการที่สอง เสด็จพระใหญ่หรือองค์ปฐมนั้นทรงประทับปางนั่งเมืองหรือจะเรียกว่าพระเจ้าครอบเมืองก็ได้เพราะตอนแกะแม่พิมพ์นั้นท่านว่าต้องลงมนต์พระเจ้าครอบเมืองไว้ด้วย ปางนี้มีอำนาจราชศักดิ์มาก เปิดทางอำนาจวาสนา ตลอดจนโชคลาภทรัพย์สินต่างๆมาถึงคนใช้ ท่านว่าคนเรามีเงินทองและอำนาจวาสนาครบมือแล้วชีวิตจะขาดอะไรอีก ต่อไปได้ดีก็อย่าทิ้งความขยัน เพราะพระปางนี้ท่านทำให้คนใช้สบาย ไม่ว่าทำอะไรก็ต้องสำเร็จและพบเจอแต่เรื่องสบาย กลัวแต่ว่าจะสบายจนลืมตัว
    - ประการที่สาม สมเด็จองค์ปัจจุบันทรงนั่งขัดสมาธิเพชรในปางเพชรกลับ ท่านว่านี่ท่านตั้งใจทำตามคำสั่งครูข้างบนเลยทีเดียว เพราะนี่เป็นยุคของสมเด็จองค์ปัจจุบันท่าน จะให้คนใช้พระที่ได้ผลมากที่สุดต้องสร้างให้ตรงกับยุคของพระศาสนา องค์ปัจจุบันนั้นทรงประทับสมาธิเพชร นั่งต้านรับกระแสเคราะห์กรรมในปางเพชรกลับ นั่นคือทุกสิ่งในปัจจุบันนั้นจะกลับจากร้ายกลายเป็นดี จากหน้ามือเป็นหลังมือ ที่ว่าดีที่ว่ารวยอยู่แล้วก็กลับให้ดีมากขึ้นไปอีก พ่ออาจารย์ท่านว่ามีแต่ได้กับดี


    เมื่อท่านแกะแม่พิมพ์เสร็จแล้ว ท่านได้นำผงวิเศษที่เรียกว่าผงจักรพรรดิ์ชำระเคราะห์กรรมนี้มาผสมกับมวลสารผงวิเศษทั้งห้าประการ และขอบารมีแห่งพระอรหันต์เจ้ายุคกึ่งพุทธกาลคือองค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต โดยการบอกกล่าวท่านนำมวลสารสำคัญของท่านมาใช้ผสมลงไปอีกคำรบหนึ่ง นั่นก็คือไม้แหย่แย้ที่ท่านได้รับมอบสืบมานั่นเอง ซึ่งไม้แหย่แย้ชุดนี้นั้นเป็นของสำคัญของหลวงปู่มั่นอย่างแท้จริง เป็นไม้ซึ่งมีคุณวิเศษที่หลวงปู่มั่นได้นำติดองค์เข้ามาจากประเทศลาวมีอานุภาพมาก คิดหวังสิ่งใดก็จะดึงดูดเข้ามาหาเรา ผูกติดกับเรา เรียกว่าสำเร็จทุกอย่างตามปรารถนาทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าไม้แหย่แย้ที่ไหนก็ไม่มีอานุภาพแบบนี้ เพราะนี่เป็นของเก่าตกทอดมาแต่หลวงปู่ขาว ที่สำคัญหลวงปู่มั่นท่านวางจิตและทำมาดีแล้วนั่นเอง นอกจากนั้นท่านยังได้นำมาเข้ากับผงเปิดโลก ผงเสริมบารมี ผงราหูคายดวงท่านว่าผงนี้สำคัญมากเนื่องจากพระราหูนั้นหลังจากเสวยอายุใครแล้ว เมื่อท่านคายดวงออกมายามนั้น เวลานั้นคือเวลาของความโชคดีท่านว่าผงนี้ท่านลงไว้ให้จะได้โชคดีกันตลอดเวลา และยังมีผงต่างๆอีกทั้งผงแก้วแปดประการ ผงมหาพรหมโสฬส ผงมหาบุรุษแปดจำพวก ผงนารายณ์มหาปราบจักรวาล ผงมหาสะเดาะบาปเคราะห์ ผงกลับดวงพลิกชะตา เป็นต้น ผสมเข้ากับว่านยาที่เก่งมีฤทธิ์มีตัวมีครูเพชรพญาธรรักษา และนำมาผสมกับผงคตกายสิทธิ์ที่มีอานุภาพเสมอเหล็กไหลและมีดวงจิตเทพพิทักษ์อยู่ทั้ง 108 ชนิด

    หลังจากนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงได้กดพิมพ์องค์พระขึ้น โดยองค์สมเด็จบรมพุทโธที่หนึ่งนั้น พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจลงตะกรุดไว้ฝังสามชนิดด้วยกัน โดยตะกรุดทั้งสามนั้นท่านได้ลงใส่แผ่นตะกั่วซึ่งรีดมาจากตะกั่วขอมโบราณพันปี ซึ่งท่านนำมาทำพิธีลงถมและรีดซ้ำแล้วซ้ำอีก โดยตะกั่วชุดนี้ท่านว่ามีอานุภาพมากแต่เดิม ซ้ำยังใช้ซึมซับรับพลังพุทธคุณได้มากกว่าตะกั่วทั่วไป โดยท่านลงตะกรุดไว้ถึง 3 ชนิด ดังนี้
    - ตะกรุดเม วิชาตะกรุดเมหรือมหาสะท้อนก็เรียก พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้จะทำให้สิ่งไม่ดีทั้งหลายห่างไกลออกไปจากตัวของผู้ที่มีความเคารพและเชื่อมั่นในสมเด็จองค์ปฐม ท่านว่าโดยปกติคนเรานั้นเมื่อได้ชื่อว่าเป็นคนแน่นอนว่าต้องดำเนินชีวิตอยูาบนกระแสกรรมเจอเรื่องแย่เรื่องดีปนกันไป แต่ด้วยฤทธิ์ของตะกรุดเมนี้จะทำให้สิ่งไม่ดีต่างๆทั้งที่ตาเนื้อเรามองเห็นหรือมองไม่เห็นก็ตาม สิ่งต่างๆนั้นจะแพ้ภัยตัวเขาเองทั้งสิ้น พ่ออาจารย์ว่าแท้จริงแล้ววิชาตะกรุดเมคือกำลังมหาสะท้อนของสมเด็จองค์ปฐม หากผูกอยู่เฉยๆก็นับได้ว่ามีอานุภาพมหาศาลอยู่แล้ว แต่หากเชิญมาฝังมาบรรจุลงในสมเด็จองค์ปฐมด้วย ยิ่งจะมีอำนาจทวิทวีความศักดิ์สิทธิ์มากขึ้นไปอีกหลายเท่านัก ท่านว่าทำไว้ให้ได้ใช้ป้องกันตัวเอง
    - ตะกรุดเรียกเงินมา วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านลงด้วยคาถาพระปัจเจกโพธิ์ของหลวงพ่อปานและกำกับด้วยคาถาเรียกเงิน ได้เงิน และมหาโชค มหาชัยอีกคำรบหนึ่ง ซึ่งพุทธคุณของตะกรุดเรียกเงินมานั้นท่านว่าจะทำให้ลาภผลการเงินคล่องมือไม่มีสะดุด ซ้ำยังใช้เสี่ยงโชคหรือจะอธิษฐานหาลาภลอยต่างๆก็ได้ เป็นของดึงดูดเงินทองเข้าสู่ตัวเราดั่งแสนห่าฝนตกต้องตัว ดั่งฝนใบไม้ร่วงที่จะร่วงหล่นอยู่ตลอดเวลาทุกวันไม่ขาดระยะ คนที่ไม่เคยมีโชคก็จะได้โชค คนที่ดวงขาดลาภก็จะมีลาภ
    - ตะกรุดกลับชีวิต ท่านว่าท่านนำนะสำคัญต่างๆ 9 นะ ท่านเรียกว่ามหากลับ ของพระเถระสำคัญต่างๆทั้ง 9 องค์มาลงไว้ในตะกรุดดอกเดียว ได้แก่ สังฆราชสุก ขรัวโต หลวงพ่อเงิน หลวงพ่อกลั่น หลวงพ่อเดิม หลวงปู่ศุข หลวงพ่อแก้ว หลวงพ่อปาน หลวงพ่อทบ ท่านว่านะมหากลับทั้ง 9 วิชานี้ ลำพังแต่ละวิชาก็ได้ชื่อว่าเอกอุแล้ว เป็นตะกรุดที่ทำยากมากเพราะกว่าจะว่าคาถาลงจารให้เล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเรียกสูตรตรึงวิชาเอาไว้ กว่าจะสำเร็จเป็นตะกรุดกลับชีวิตนั้นท่านว่าดอกนึงไม่ง่ายเลยเห็นดอกเล็กๆแต่ทำยากน่าดู ตะกรุดนี้ท่านว่าตรงตามชื่อ เมื่อใช้เพียงแค่นึกถึงบูรพาจารย์ทั้งหลาย ท่านว่าง่ายๆแค่นั้นรับรองว่าชีวิตเปลี่ยน ตะกรุดนี้ท่านว่าพกไว้ได้เดือนนึงก็ดีเดือนนึง พกไว้ได้ปีนึงก็ดีปีนึง พกไว้ได้ตลอดชีวิตก็ดีขึ้นตลอดไป มีแต่ดีกับดีห้ามหายอย่างเดียวเท่านั้น


    นอกจากนี้ด้านหลังขององค์พระนั้นพ่ออาจารย์ท่านยังฝังมหากุมาร หรือมหาพรหมสนังกุมารเอาไว้ด้วย ท่านว่ามหาพรหมสนังกุมารนับเป็นมหาพรหมปัญจสุทธาวาสที่มีบารมีคับฟ้าคับแผ่นดินจริงๆ เป็นกุมารที่ทำยากมากเพราะกว่าจะทำได้ก็ต้องเจรจากับพระองค์ท่านเสียก่อน โดยพ่ออาจารย์ท่านตั้งใจไว้ว่าจะทำมหากุมารระดับสูงสุด ที่ให้แต่คุณไม่มีโทษกับผู้ถือครอง เรียกว่ามีดีลูกโดดและมีบารมีทรงอิทธิฤทธิ์มากที่สุด โดยพ่ออาจารย์ท่านใช้ไม้รักแดงท่อนสำคัญของท่านเป็นไม้รักแดงท่อนเล็กๆที่หลวงปู่ฝั้นท่านเคยหยิบและยื่นมาให้พ่ออาจารย์ท่านเก็บไว้ ท่านรู้ว่าไม้รักนี้องค์หลวงปู่ท่านลงไว้ดีแล้ว ท่านจึงเก็บเอาไว้มาตลอด เมื่อคราวนี้เห็นว่าจะทำมหาพรหมกุมารซึ่งท่านคิดว่าเป็นของสูง ก็ต้องใช้ของสูงที่มีบารมีของพระอรหันต์มาทำ ท่านจึงนำไม้รักแดงนั้นมาแกะมหาพรหมกุมารแช่ไว้ใ
    นน้ำมันว่านสกัดทั้ง 108 ชนิด น้ำมันนี้ท่านว่าเหมือนสายน้ำแห่งชีวิตคอยหล่อเลี้ยงมหากุมารอยู่ตลอดเวลาให้มีอานุภาพสูงยิ่งขึ้นไปอีก ท่านว่ากุมารนี้ท่านเสกและเชิญมาอย่างดี มีแต่คุณไม่มีโทษ มีทั้งญาณของพระอรหันต์และมหาพรหมอยู่ด้วยกัน ให้รักษาดีๆ เวลาจะทำบุญก็อย่าลืมบอกกล่าวท่านให้มาร่วมอนุโมทนาบุญกับเรา และขอท่านตรงๆเลยเมื่อเราทำบุญต่างๆว่าขอให้ท่านอวยพรเรา และพรใดก็ตามที่ท่านประสิทธิ์ประสาทกับเรา เราขออนุญาติรับพรนั้น พ่ออาจารย์ว่าเช่นนี้แล้วยิ่งคนขยันทำบุญเท่าไหร่ก็ยิ่งได้เปรียบเท่านั้น เพราะท่านจะมาอนุโมทนาและประสาทพรให้ตลอดนั่นเอง

    เมื่อกดพิมพ์พระนั้นพ่ออาจารย์ได้นำแผ่นทองคำเปลวที่ลงวิชานะไสยาสน์กลับเอาไว้มาปิดทองลองพิมพ์นำฤกษ์ที่องค์พระทุกองค์ทั้ง 9 องค์นั้นด้วย ท่านว่าวิชานี้กลับร้ายกลายเป็นดีทั้งร้อยแปดพันประการ เร็วและแรงมาก นอกจากนั้นท่านยังได้นำผงอิทธิเจแดง ซึ่งเป็นยอดผงชั้นครูท่านว่าธรรมดาอิทธิเจก็มีผลทางเสน่ห์และมหานิยมอย่างยิ่งแล้ว ยิ่งอิทธิเจแดงซึ่งทำได้ยากกว่ามากนี้ไม่ต้องสงสัยเลย เพียงแค่นำมาเจิมไว้เป็นหัวเชื้อเท่านั้น ท่านว่าร้อยขุนแผนก็ไม่แรงเท่าผงอิทธิเจแดงล้วนๆแบบนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากนี้สีแดงเป็นสีมงคลดึงดูดโชคลาภอย่างดีอีกด้วยท่านเลยนำมาเจิมไว้เป็นการแก้เคล็ดคนใช้ไปในตัวก่อนจะโรยแร่เงินไหลมาให้โชคลาภ ความโชคดีต่างๆไหลเข้าไม่ไหลออก ไหลมาสู่ผู้ใช้อีกคำรบหนึ่ง


    พ่ออาจารย์ท่านว่าพระสมเด็จบรมพุทโธ หรือพระผงจักรพรรดิ์ชำระเคราะห์กรรมนี้ เป็นพระสำคัญมากอย่างยิ่ง เนื่องจากมีองค์ปฐมซึ่งเป็นผู้เริ่มพุทธวงศ์ประทับอยู่ซ้อนรูปกับองค์ปัจจุบัน ท่านว่าเป็นพระที่ดึงบารมีจากองค์ปฐมจนถึงองค์ปัจจุบัน ทั้งในอดีตกาล จนถึงปัจจุบันกาล และระหว่างอดีตกาลนั้น ทุกพระองค์ไม่ว่าจะบำเพ็ญบารมีแบบใดทั้งปัญญาธิกะ วิริยะธิกะ และศรัทธาธิกะดึงมาสัมผัสกายมนุษย์ของผู้บูชา จึงเป็นพระที่มีอำนาจพุทธคุณสูงมาก ท่านว่าพระผงจักรพรรดฺืชำระเคราะห์กรรมนี้ไม่ใช่แค่ชื่อหรือรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น จักรพรรดิ์ในที่นี้คือผู้ที่อยู่จุดสูงสุดและแน่นอนว่าพระจักรพรรดิ์ในที่นี้นั้นก็หมายถึงเหล่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายนั่นเอง บุคคลใดที่จะเหนือกว่าพระพุทธเจ้านั้นเป็นไม่มี พ่ออาจารย์ว่าพระนี้ให้บูชากันดีๆ หมั่นเจริญพุทธคุณไว้จะมีอานิสงค์มาก ดังนั้นคาถาบูชา ท่านว่าให้อาราธนาแค่พระพุทธคุณก็เหลือกินแล้วนั่นเอง


    คาถาบูชา
    อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถาเทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ
    ภาวนาโดยย่อ อะสังวิสุโลปุสะพุภะ


    * พระสมเด็จนี้พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้เก้าองค์เท่านั้นและเนื่องจากมีให้บูชาไปบ้างแล้วจึงทำให้พระมีจำนวนน้อย จะให้บูชาเฉพาะทาง PM เท่านั้น เมื่อจะบูชาท่านว่าให้แจ้งชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิดไว้ด้วย ท่านจะทำการผูกดวงชะตาจารใส่ตะกรุดเปิดดวงโภคทรัพย์เนื้อตะกั่วขอมโบราณพันปี ซึ่งท่านทำและลงวิชาไว้ดีแล้วทั้งดวงราชาโชคและโภคทรัพย์ โดยท่านจะนำดวงคนใช้มาจารลงไปอีกคำรบหนึ่งและเสกปิดอธิษฐานจิตแถมไปให้ใช้คู่กัน ท่านว่าจะได้เปิดดวงคนใช้ให้ถือของขึ้น ใช้ขึ้น ได้มีโชคมีลาภสมควรแก่อัตภาพของการเกิดเป็นมนุษย์ทุกคน


    ร่วมทำบุญบูชา พระผงจักรพรรดิชำระเคราะห์กรรม(สมเด็จบรมพุทโธ 1 ) บูชา 4,000 บาท
    Our_real_Father_in_Nibbana.jpg 035.jpg 1060355374_o.jpg paragraph_400_443.jpg 2016_02_12_08_26_27.jpg 1377605394_4_o.jpg SAM_5261.jpg SAM_5255.jpg SAM_4989.jpg Capture.png
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดพระธรรมศาสตร์บรมครูมหาสัปตฤาษี(สอดพยนต์มารฟ้า)

    พ่ออาจารย์ท่านว่าฤาษีนั้นคือผู้บำเพ็ญพรตเป็นที่นับถือในเหล่าเทพยดาและมนุษย์ทั้งหลาย ซึ่งแต่ละองค์ยิ่งบำเพ็ญสมาบัติมีบารมีมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีฤทธิ์และคุณวิเศษสั่งสมเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว พ่ออาจารย์ท่านว่าครูฤาษีนั้นมีมากมายหลายพระองค์นับร้อย นับพัน แต่จะเรียกรวมๆกันเฉพาะองค์สำคัญได้ 108 พระองค์ ท่านว่าที่เหนือไปกว่านั้นก็ยังมีบรมครูมหาสัปตฤาษีอยู่ ซึ่งมหาสัปตฤาษีนี้บางทีท่านก็จะเรียกว่าคณะผู้ยิ่งใหญ่ทั้ง 7 ก็เรียก ไม่เช่นนั้นบางครั้งท่านก็จะเรียกย่อๆเพียงครูฟ้าทั้ง 7


    คณะผู้ยิ่งใหญ่หรือครูฟ้าทั้ง 7 นี้พ่ออาจารย์บอกว่าเป็นเจ้าในบรรดาฤาษีทั้งหมด เพราะเป็นที่เคารพและเกรงกลัวในเหล่าพรหมฤาษีและเทวะฤาษีด้วยกันด้วยเป็นที่รู้กันดีว่าครูฟ้าทั้ง 7 นั้นเป็นคณะที่มีบารมีและทรงอิทธิฤทธิ์มากกว่าผู้ใดไหนอื่นในบรรดาฤาษีทั้งหมด เรียกว่าไม่ว่าจะเป็นฤาษีชั้นไหนก็ตามก็ยังเกรงกลัวคณะสัปตฤาษีนี้ จะเห็นว่ามีเหตุการณ์สำคัญ พิธีสำคัญ ตลอดจนถึงการเกิดของวีรบุรุษต่างๆ มักจะถูกโยงไปให้เกี่ยวข้องกับมหาสัปตฤาษีไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่ามหาสัปตฤาษีนี้มีอำนาจมากถึงขนาดที่แม้พระผู้เป็นเจ้าทั้งสามก็ยังเคารพให้เกียรติ

    ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านได้สร้างตะกรุดวิชาธรรมขั้นสูงไว้ โดยการขออนุญาติและเชิญบารมีของมหาสัปตฤาษีทั้ง 7 ได้แก่ พระมรีจิ พระอัตริ พระอังคีรส พรหมฤาษีนารท พระกศยปเทพบิดร พรหมฤาษีวสิษฐ พรหมฤาษีวิศวามิตร ซึ่งท่านได้เรียกขานนามของตะกรุดนี้ว่าวิชาพระธรรมศาสตร์บรมครูมหาสัปตฤาษี

    ตะกรุดพระธรรมศาสตร์บรมครูนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นตะกรุดสำคัญที่สุด ที่ช่วยให้คนใช้ชนะใจตัวเอง ชนะทั้งการกระทำและความคิดในใจ คิดสิ่งใดประสงค์อย่างใดก็ชนะในสิ่งนั้น ท่านว่าวิชานี้สำคัญนักฟังเหมือนจะง่ายแต่ความหมายลึกซึ้งกินใจเพราะผู้ใดชนะใจตนได้ก็เหมือนผู้นั้นได้เหยียบโลกทั้งโลก ได้ครอบครองทุกสิ่งในโลกนั่นเอง ท่านว่าเพียงอาราธนาตะกรุดให้ติดตัวผู้นั้นถือได้ว่าเป็นบุคคลพิเศษ เนื่องจากเขาจะได้รับทิพย์อำนาจโดยตรงจากคณะครูฟ้าหรือผู้ยิ่งใหญ่ทั้ง 7พูดได้อย่างง่ายว่ารับทิพย์อำนาจของมหาสัปตะฤาษีทั้งคณะไว้ในกายซึมซับอยู่ในจิตเรา ติดตัวไปเป็นศิษย์มีครู มีกำลัง มีทิพย์อำนาจนี้ติดตัวทุกภพชาติ ไม่ต่ำกว่าคนไม่จนกว่าเขาแรงครูจะช่วยเกื้อหนุนให้รุ่งเรือง ยิ่งหากบุคคลนั้นตั้งมั่นอยู่ในศีลสัตย์กตเวทีด้วยแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่ายิ่งมีอำนาจมากขึ้น เรียกว่าตัวของเราเองนั่นแหละเป็นตัวแทนครูมหาสัปตฤาษีเลยทีเดียว มีอำนาจมากขนาดที่ว่าสามารถทำสิ่งใดก็ตามเสมือนด้วยครูบาอาจารย์หรือเหล่ามหาฤาษีกระทำได้ ท่านว่ายิ่งเป็นคนดีมากก็จะยิ่งมีฤทธิ์มากเป็นเงาตามตัว หากหมั่นเจริญกรรมฐานวิปัสสนากระแสพลังทิพย์อำนาจของคณะผู้ยิ่งใหญ่ทั้ง 7 นี้ก็จะเป็นพลังที่จะช่วยเปิด ช่วยชี้นำทำให้ประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว

    พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้เป็นของสำคัญนัก อันว่าพระธรรมย่อมเป็นที่พึงใจและหมายปองของผู้รู้ธรรม ตะกรุดนี้ก็เช่นกันแม้นพกไว้กับตัวจะดึงดูดให้คนชั้นสูง คนดี คนที่มีพื้นฐานสังคมหรือชีวิตที่ดีมาอยู่รอบตัวเรา ท่านว่าใช้คำว่ารุมตอม รุมตามไม่ห่างกายเลยทีเดียว หากปรารถนาจะเล่นทางเสน่ห์มหานิยมท่านว่าได้สมปรารถนานั่นแล ซ้ำด้วยทิพย์อำนาจของตะกรุดยังจะขับพลังงานออกมาให้เป็นศรีเป็นสิริมงคลกับเราทุกยามทุกเมื่อด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าตอนลงตะกรุดนั้นท่านเสกหนุนดวงล้อมด้วยเลข 8 ตัว หมายถึงสัญลักษณ์ของคนที่เกิดวันต่างๆทั้งแปดวัน(รวมพุธกลางคืนหรือพระเกตุด้วย) ท่านว่าที่ทำอย่างนี้มีสองเหตุผลคือเพื่อให้คนที่เกิดไม่ว่าวันใดก็ใช้ได้สามารถรับทิพย์อำนาจจากบรมครูได้ กับอีกสาเหตุหนึ่งคือเมื่อใช้แล้วต้องดีต้องได้ผลในทุกทิวาราตรี ปิดทางตัน ปิดปัญหาไปเลย เรียกว่าไม่มีวันไหนที่จะใช้ไม่ได้ผลหรือตะกรุดไม่ออกฤทธิ์

    ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าอยู่ที่ใจของคนใช้ ถ้าไม่หวังเรื่องเสน่ห์เจ้าชู้ยักษ์แล้วหากถือครองธรรมดาก็จะดีเด่นในเรื่อง โชคลาภ โภคทรัพย์นำความสุข ความก้าวหน้า ความมั่นคงมาให้ท่านว่าคอยดูเถิดพกๆอาราธนาไปจะมีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นกับตัวในไม่ช้าไม่นานเพราะมันดีทุกทาง ท่านว่าพูดได้แค่จะได้ในสิ่งที่คิดอย่างคาดไม่ถึง แม้หวังโชคลาภจากเงินทองหรือลาภทางสัตว์สองเท้าก็ตามย่อมสำเร็จได้ดั่งใจ ท่านว่าคนเรามีสิ่งที่ปรารถนาทุกคน แต่จำไว้ว่าอย่าไปคาดหวังว่าจะได้ ต้องได้ แล้วมันจะได้เองอย่างคาดไม่ถึงเรียกได้ว่าได้แบบฟลุ้คๆท่านบอกว่านี่คือเคล็ดการใช้ตะกรุด ใช้ได้ทุกทางทำตัวแบบนี้จะมีแต่ได้กับดี นอกจากนี้แล้วแม้ด้านปัดตลอดคลาดแคล้วผองภัยท่านว่าก็ลงไว้ด้วย เดินทางไปในที่ใดก็แคล้วคลาดปลอดภัยที่หนักหนาสาหัสก็เปลี่ยนให้บางเบาดุจขนนกนั้นทีเดียว

    ตะกรุดพระธรรมศาสตร์บรมครูนี้พ่ออาจารย์ลงใส่แผ่นตะกั่ว ท่านประกอบพิธีตามฤกษ์เชิญครูเสกปิดในวันคเณศจตุรถี ท่านว่าทำอย่างดีจนเต็มกำลัง เป็นตะกรุดที่หุ้มไว้ด้านนอก ส่วนด้านในนั้นเป็นตะกรุดเงินที่ท่านลงวิชาพยนต์มารฟ้าไว้

    พ่ออาจารย์ท่านได้พูดถึงวิชาพยนต์มารฟ้านี้ว่าเป็นวิชาสำคัญทางฝ่ายเหนือ ไม่ค่อยมีผู้รู้หรือปรากฏคนเรียนและทำกัน บางที่ก็เรียกว่าพยนต์พญามาร ท่านว่าเมื่อจะทำแม้ผูกอย่างไรพยนต์ย่อมได้ชื่อว่าเป็นเพียงหุ่นพยนต์ธรรมดา แต่กลับกันพยนต์มารฟ้าของท่านนี้คือพยนต์ที่ท่านเชิญบารมีของพญามารหรือท้าวมาลัย หนึ่งในมหาโพธิสัตว์สำคัญทั้งสิบมาลงและสำเร็จตะกรุดด้วย พยนต์นี้จึงเป็นเทพพยนต์ที่วิชาพยนต์พญามารทั่วไปไม่สามารถทำได้หรือเปรียบได้นั่นเอง

    ท่านว่าเทพพยนต์นั้นย่อมต่างจากพยนต์ธรรมดาไกลกันไปหลายขุม ขึ้นชื่อว่าพยนต์นั้นเราย่อมสามารถร้องขอความช่วยเหลือเขาได้ทุกอย่าง พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ต้องลงตะกรุดพยนต์มารฟ้าไปด้วยนั้น ก็เพราะคนใช้เป็นสำคัญนี่เอง คนปกติคนธรรมดาไม่ใช่พระอริยะสงฆ์ แน่นอนว่าย่อมมีความปรารถนา ความต้องการ มีกิเลสที่แตกต่างกันไปหลากหลาย บางครั้งคุณพระ คุณครู ก็ไม่สามารถช่วยได้ เรื่องบางเรื่องมันจำกัดความช่วยเหลือของท่านจริงๆ ในขณะเดียวกันเรื่องบางเรื่องแม้กุมารทองหรือหุ่นพยนต์ธรรมดาก็ตึงมือหรือเกินกำลังมากไปที่จะไปข้องเกี่ยวเพราะเขาไม่มีพลัง ไม่มีบารมีแบบครูเทพครูพรหม พ่ออาจารย์ท่านรู้ปัญหาข้อนี้ดีท่านจึงทำพยนต์มารฟ้าหรือที่เรียกว่าเทพพยนต์ขึ้นมาเพราะว่าเป็นพยนต์ที่ผูกขึ้นเฉพาะทางสามารถช่วยหรือขอแล้วแต่จะอธิษฐานได้ทุกสิ่งไม่ติดข้อห้ามอะไรเช่นครูพระหรือครูเทพทั่วไป ซ้ำยังมีกำลังเป็นเลิศด้วยต่างจากกุมารทองหรือหุ่นพยนต์ปกติเนื่องจากแหล่งกำเนิดพลังงานคือองค์ท้าวมาลัยนั่นเอง เป็นพยนต์ที่เกิดจากพลังบารมีของท้าวมาลัย พ่ออาจารย์ท่านพูดติดตลกไว้ว่าแน่นอน ทั้งสามภพหกภูมินี้ที่จะหาพยนต์มีฤทธิ์เสมอเทพพยนต์นั้นเป็นไม่มี เป็นพยนต์ที่มีฤทธิ์อำนาจเสมอด้วยจอมฟ้าพญามารพระโพธิสัตว์องค์สำคัญแห่งอนาคตวงศ์นั่นเอง ท่านว่าถ้าเป็นพยนต์เทพธรรมดาก็แล้วไป แต่นี่เป็นมหาโพธิสัตว์ที่เปี่ยมเมตตาชอบสร้างบารมีช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ มันมีความต่างกันอย่างแยบคายในตัวเองของพยนต์เทพโพธิสัตว์นั้น ย่อมตอบสนองความต้องการและช่วยเหลือคนใช้งานเขาได้เป็นอย่างดี


    พยนต์มารฟ้านี้พ่ออาจารย์ท่านพูดถึงอานุภาพว่า แม้เราไม่ได้ขอหรือใช้งานเค้า เค้าก็จะเป็นองครักษ์คอยพิทักษ์ปกป้องเราดุจเงาตามตัวทีเดียว คอยป้องกันปัดเป่าซึ่งอันตรายทั้งหลาย ป้องกันศัตรูหมู่มารทั้งหลายที่คิดร้ายให้แพ้ภัยตัวเอง ทั้งยังเฝ้าทรัพย์สมบัติต่างๆ แม้หากหวังด้านเจริญรุ่งเรืองเมื่อจะไปที่แห่งใดหรือไปทำการเสี่ยงโชคก็ให้ขอเอากับพยนต์มารฟ้านี้ว่าให้ช่วยพ่อให้ได้โชคลาภตามที่ปรารถนา ท่านว่าก็รับโชครับลาภดีนัก แม้จะอธิษฐานขอนิมิตก็ย่อมได้ ท่านว่าเมื่อมีเหตุร้าย หรือมีภัยใหญ่หลวงต่างๆ พยนต์มารฟ้านี้เขาจะมาเข้านิมิตแสดงเหตุเตือนภัยแก่เราเพื่อให้เราระวังหรือหลีกเลี่ยงการกระทำในจังหวะนั้นๆไป พ่ออาจารย์ท่านลงวิชาพยนต์มารฟ้านี่ใส่แผ่นเงินเป็นไส้ไว้ภายใน ท่านว่าทำยากเพราะมีตัวตนและมีฤทธิ์มาก เวลาเราไปไหนเค้าจะเหาะตามไปเฝ้าเราทีเดียว มีอานุภาพมากแม้เทพยดาในภูมิพื้นปฐพีทั้งหลายก็ไม่สามารถขัดขวางได้

    ตะกรุดพระธรรมศาสตร์นี้ พ่ออาจารย์ท่านทั้งอุดและฝังของมงคลไว้สองชนิด ท่านว่าเพื่อเพิ่มความแรงให้มีอานุภาพเร็วและไวกว่าปกตินั่นเอง นั่นคือผงวิเศษและสีผึ้ง
    - ผงอิทธิเจมหานิยมหลวงปู่อ่อน พ่ออาจารย์ว่าหลวงปู่อ่อนนั้นเก่งเรื่องผงมาก เป็นเกจิยุคเก่า ท่านว่าผงอิทธิเจนี้ลำพังว่าลบยากหาคนทำได้น้อยแล้ว แต่ใครก็ทำเสมอหลวงปู่อ่อนไม่ได้ ท่านว่าแม้แต่หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธ์ ที่แก่กล้าพุทธาคมมีชื่อเสียงโด่งดัง เวลาจะทำพระยังต้องมาขอผงนี้ที่หลวงปู่อ่อนลบไปผสมทำพระของท่าน เพราะหลวงพ่อเดิมท่านเคารพผงหลวงปู่อ่อนขนาดนี้ว่าขลังมากศักดิ์สิทธิ์มาก หลวงปู่อ่อนท่านมักจะลบผงเวลากลางคืน ผงท่านขลังอย่างยิ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้ผสมให้ใครกินก็ต้องรับเลี้ยงเค้าทีเดียวเพราะท่านแช่งของท่านไว้ เคยมีคนนำไปผสมให้ไก่กินเพราะกลัวไก่หาย ดีหน่อยที่ไก่ไม่ใช่มนุษย์มีอายุขัยจำกัดเพราะตายเร็ว ปรากฏว่าหลังจากที่ไก่กินผงเข้าไปก็เดินตามเจ้าของเป็นเงาตามตัว ไปไหนไปด้วย ผิดท่าผิดสังเกตุหลงหัวปักหัวปำขนาดนั้น ท่านว่าแม้พกไว้กับตัวก็เป็นมหานิยมอย่างที่สุด ท่านว่าในอดีตนั้นจอมเจ้าชู้ทั้งหลายเล่นผงหลวงปู่อ่อนทั้งนั้น เพราะผสมให้คนกินเค้าก็รักและหลงเรายิ่งนักชนิดตามไปหาเราไม่ยอมแยกห่างกันเลย หรือจะผสมให้หมาแมวกินมันก็ภักดีกับเราเช่นกันถึงขั้นหึงเจ้าของไล่ทำร้ายคนมาเข้าใกล้ทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านมีผงหลวงปู่อ่อนอยู่จำนวนหนึ่ง ท่านจึงนำมาผสมกับยาแดงมหาปิยะสิทธิของบูรพาจารย์ท่านในฝั่งพม่าซึ่งทำได้ยากมากเป็นยาแดงมหาปิยะสิทธิของเก่ามีแรงครูสูงอย่างยิ่ง เป็นวิชาเสน่ห์ยาแฝดทางฝั่งพม่ามีส่วนผสมของยาอาถรรพ์มากมายหลายชนิดซึ่งยาแต่ละชนิดก็ปรุงได้ยากแตกต่างกันไปรวมไปถึงว่านต่างๆตามสูตรกว่าจะได้ยาแดงมหาปิยะสิทธิหรือผงเสน่ห์ยาแฝดสายพุกามประเทศนี้ท่านว่ายุ่งยากลำบากยิ่งนัก มีอานุภาพเรียกคนรักใช้มัดจิตมัดใจ เป็นเสน่ห์อย่างที่สุด พ่ออาจารย์ท่านนำมาผสมกัน ท่านว่าบรรจุลงขวดไม่ต้องใช้ตัวผสานอะไรเลย เอาเเรงๆแบบผงหัวกะทิล้วนๆนี่แหละ ท่านว่าผสมและอุดผนึกปิดไว้ให้ที่หัวตะกรุด ท่านว่าแค่พกก็ยอดขลังแล้วไม่ต้องไปแกะออกมาเพราะมันแรงเกินไปเอาแค่พกก็พอ ท่านว่าผงหลวงปู่อ่อนนี้เวลาจับก็ต้องล้างมือให้สะอาดห้ามไปจับโดนใครหรือหยิบอะไรให้ใครกินต่อไม่เช่นนั้นเขาจะหลงเรายันตาย ท่านว่ามันจะเป็นบาปติดตัว ท่านจึงนำผงล้วนๆที่ผสมยาแดงมหาปิยะสิทธินี้ผนึกไว้ ให้ได้พกได้ใช้ได้มีวาสนาครอบครองเป็นบุญแก่ตัวเป็นมหานิยมชมชอบอย่างถึงที่สุด ท่านว่าให้มีบุญครอบครองผงสำคัญที่แม้แต่หลวงพ่อเดิมยังให้ความนับถือกัน

    - สีผึ้งพญากาหลงหลวงพ่อกวย พ่ออาจารย์ท่านว่าสมัยก่อนคนไปหาจะเอาสีผึ้งหลวงพ่อกวยต้องเอาขี้ผึ้งไปให้ท่านเสก แต่ว่าสีผึ้งที่ท่านทำไว้เองก็มีเช่นกัน เนื่องจากท่านปลูกต้นกาหลงและมักจะนำดอกกาหลงนี้มาทำสีผึ้ง พ่ออาจารย์ท่านจึงเรียกสีผึ้งหลวงพ่อกวยว่าสีผึ้งพญากาหลง กล่าวกันว่าสีผึ้งที่หลวงพ่อกวยทำจากดอกกาหลงนี้ ใครได้ไปเป็นได้เมียมากกว่าหนึ่งทุกคน มีอภินิหาริย์มาก ถึงขนาดที่ว่าใครใช้ผิดศีลผิดธรรมนำไปหวังแต่จะเล่นสาวจะไม่มีโอกาสได้ครอบครองสีผึ้งท่านอีกเลย เพราะท่านจะให้ทีละน้อย แม้ใครนำไปใช้ทางไม่ดี มาขอท่านอ้อนท่านใหม่ท่านก็จะไม่ให้อีกแล้ว จะให้ก็เพียงหางของสีผึ้ง คือนำสีผึ้งขยี้ๆเสกใส่น้ำมันใส่ผมให้แทน ท่านว่าสีผึ้งหลวงพ่อกวยท่านทำท่านเสกด้วยอำนาจจิตล้วนๆ มีมวลสารง่ายๆแค่ดอกพญากาหลงแต่กลับขลังอย่างถึงที่สุด มีพลังลุ่มหลงลึกซึ้งอย่างน่าประหลาด มีเกียรติคุณปรากฏไปทั่วทำให้มีคนต้องการสีผึ้งของหลวงพ่อกวยกันมาก แต่ท่านก็ไม่ให้ใครเพราะเห็นอันตรายที่เกิดขึ้นต้องมาคอยนั่งรดน้ำมนต์ถอนเสน่ห์ให้ แม้ใครมาขอท่านก็จะให้เพียงหางสีผึ้ง หรือไม่ก็ให้ไปซื้อขี้ผึ้งมาให้ท่านเสกเองต่างหาก พ่ออาจารย์ท่านได้รับสีผึ้งพญากาหลงของหลวงพ่อกวยมาขันหนึ่งซึ่งหลวงพ่อกวยปกติจะไม่ให้ใคร ท่านว่าให้เก็บไว้เมื่อจะใช้ต้องพิจารณาให้ดีตามแต่จะเอาไปใช้ ครั้งนี้พ่ออาจารย์ว่าสีผึ้งเก่านี้ยิ่งเก็บกลิ่นก็ยิ่งหืนเล็กน้อย ก็ของหลายสิบปีแล้ว เก็บไว้จนน้ำมันระอุออกมาบางทีก็มี ท่านเลยแบ่งสีผึ้งพญากาหลงนี้มาอุดตะกรุดพระธรรมศาสตร์ทุกดอกด้วย ท่านว่าหวงไว้ก็ไม่ช่วยอะไร สู้อุดๆให้คนเอาไปใช้ให้มันหมดไปดีกว่าจะได้ไม่ต้องมีภาระมานั่งเฝ้าของใคร พ่ออาจารย์ท่านว่าสีผึ้งพญากาหลงนี้ท่านไม่ได้อุดให้น้อยๆนะ ทุกดอกท่านว่าอุดให้ในปริมาณเป็นตลับทีเดียว นั่งควักนั่งปั้นใส่ไม่มีหวงจะเก็บไว้แต่อย่างใด ท่านว่าต่อให้เธอเกิดทันหลวงพ่อกวยไปขอกับท่าน ท่านก็ไม่มีทางให้เยอะขนาดนี้ พ่ออาจารย์ว่าอุดให้อย่าไปทะลึ่งควักออกมาใช้ แค่พกให้เป็นสิริมงคลแก่ชีวิตตัวเองก็พอ นอกจากนี้ท่านยังทำตะกรุดนะเข้าหาฝังไว้ในสีผึ้งที่อุดตะกรุดอีกคำรบหนึ่งด้วย

    ตะกรุดพระธรรมศาสตร์นี้เป็นตะกรุดสำคัญเนื่องจากมีมวลสารของครูบาอาจารย์ยุคเก่าที่แรงและมีอิทธิคุณสูงอยู่มาก จึงทำให้ท่านสามารถสร้างบูชาครูไว้ได้เพียง 9 ดอก ที่ผ่านมามีคนรู้ว่าสีผึ้งหลวงพ่อกวยผงหลวงปู่อ่อนอยู่ในนี้ก็มีคนพยายามจะขอเหมาบูชาไปทั้งหมด แต่พ่ออาจารย์ท่านไม่ยอม ท่านว่ามันจะเอาไปทำไม่ดีท่านจึงไม่ให้เค้าแม้แต่ดอกเดียวเลย ท่านว่าตะกรุดพระธรรมศาสตร์นี้มีแรงครูสูงมาก ครูเลือกเจ้าของ มีเจ้าของแล้วทุกดอก ถึงเวลาเค้าก็จะมารับเอง

    คาถาบูชา
    โอมฤฤา มหาฤฤา อิทธิฤทธิ มหาสะปะตะสิทธา ทิพจักขุง มหาไตรโลกานัง มหาภูเตระสาวะกัง พุทธะอรหัง นะมะพะทะ จะพะกะสะ อิติ อิติ สุคะโต หุลุ หุลู สวาหายะ
    เรียกพยนต์มารฟ้า กุโรระกะยะวะ

    * ตะกรุดพระธรรมศาสตร์บรมครูมหาสัปตฤาษีนี้ พ่ออาจารย์ท่านสร้างขึ้นทั้งหมด 9 ดอก รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้ที่จองให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วย ท่านจะเจิมตะกรุดด้วยผงอิทธิเจให้อีกคำรบหนึ่ง รายได้จากการบูชาท่านจะนำไปสมทบทุนสร้างพระมหาเจดีย์ในถิ่นทุรกันดารสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดพระธรรมศาสตร์บรมครูมหาสัปตฤาษี(สอดพยนต์มารฟ้า) บูชา 4,000 บาท
    6995156_5.jpg das_beste_bild2.jpg Picture_004.jpg SAM_5269.jpg SAM_5270.jpg SAM_5272.jpg SAM_5267.jpg SAM_5266.jpg 619172_img_1339390725_1.jpg
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา มงคลว่านดอกทองยอดอิสีอรชุนเข้านางสามตัณหา(ยาภารตะสั่งเสน่ห์)
    ศิลปะศาสตร์ตลอดจนวิชาทั้งหลายนั้น ย้อนกลับไปคงปฏิเสธไม่ได้ว่าเหนือกว่าไสยศาสตร์ของขอมที่เรารู้จักและนิยมใช้กันมาตลอดเนื่องจากความเกี่ยวเนื่องทางอารยะธรรมนั้น ก็ยังมีวิชาสายภารตะ หรือไศวะศาสตร์สายฮินดูอยู่ ซึ่งเป็นต้นตำรับอย่างแท้จริงที่พวกขอมโบราณรับเอามาอีก แต่วิชาเหล่านี้นอกจากมีความรุนแรง ชัดเจน รวดเร็วเห็นผลอย่างมากแล้ว แน่นอนว่าหาคนรู้และเรียนได้ยากเช่นกัน ต่างจากวิชาทั่วไปโดยปกติอย่างสิ้นเชิง

    พ่ออาจารย์ท่านได้ปรุงยาภารตะสั่งเสน่ห์ขึ้นมานานนักหนาแล้ว เรียกว่าเป็นวิชาที่ยากและซับซ้อนมากที่สุด เพราะท่านทำแบบเต็มสูตร ท่านว่ายาภารตะสั่งเสน่ห์นี้ไม่ใช่แค่นึกจะทำก็หามวลสารมาผสมนั่งเสกๆเอาหรือใครจะทำก็ทำได้ มันมีวิธีการและขั้นตอนที่ยุ่งยากกว่านั้น ท่านว่าทุกสิ่งต้องดูมิติของดวงดาว ต้องทำในฤกษ์ในยามที่ดวงดาวมีกำลังส่งผลอย่างเด่นชัด เป็นเรื่องละเอียดอย่างมาก เช่นต้องหามวลสารเมื่อราหูอมจันทร์เท่านั้นทำให้ตอนนั้นถ้าท่านไม่มีความตั้งมั่นจริงๆย่อมไม่สามารถกระทำได้เลย ดีที่ว่ามีราหูอมจันทร์เกิดขึ้นเนืองๆ แล้วยังต้องหุงมวลสารในกำลังพระราหูเพื่อจะเน้นอำนาจจากดาวราหูส่งผลให้มีอานุภาพทางกามราคะ กามตัณหาความลุ่มหลงมัวเมาต่างๆ และนำมาเสกในฤกษ์ที่มีอิทธิพลของดาวศุกร์ เพื่อจะให้แสดงผลในเรื่องการเงินความมั่งคั่งร่ำรวย ความรักชายหญิง เครื่องเพศ กามราคะ ท่านว่าในส่วนของวิชาทุกอย่างเคร่งครัดอย่างมาก หากอธิษฐานจิตเฉยๆเสกอย่างไรก็เสกไม่ขึ้น ไม่มีทางสำเร็จยาภารตะสั่งเสน่ห์นี้ได้ ยานี้ท่านว่ามีความแตกต่างในตัวเองสูงมาก เป็นมนต์สูงสายขาวใช้ได้ไม่เป็นอันตรายกับตัวเองแน่นอน ท่านว่าเราทำให้ไม่เพียงแต่ทำตรงตำรา แต่ยังทำให้เกินตำราอีกด้วยท่านว่าในอดีตนั้นยาสั่งเป็นสิ่งที่น่ากลัวนัก พ่ออาจารย์ท่านว่านี่ยังแค่ไสยศาสตร์แบบไทยๆเรานะ แล้วลองย้อนขึ้นไปของเขมรดูสิ จากนั้นก็ย้อนขึ้นไปถึงวิชาแขกฮินดูแดนภารตะอีกคำรบหนึ่ง ท่านว่าแน่นอนวิชาเขมรย่อมแรงอย่างยิ่งแต่หากเทียบกันแล้วก็ยังสู้ของแขกไม่ได้ แรงครูเค้าก็แรงกว่า ท่านว่ายาภารตะสั่งเสน่ห์นี้แรงกว่ายาสั่งที่ปรุงธรรมดาร้อยเท่าพันเท่า เพราะมวลสารนั้นมีตั้งแต่ของสูงชนิดตาเห็นก็ไม่มีปัญญาเอาได้ ของที่ประดิษฐานอยู่กลางฟ้าบ้าง แม้ตัวขี้ผึ้งที่ผสมลงไปนี้ท่านก็ไม่ได้ใช้ขี้ผึ้งธรรมดามาทำ ท่านนำขี้ผึ้งน้ำตานางมัทรีมาทำ ซึ่งมันมีอาถรรพ์สูงมากในตัวเองอยู่แล้วจึงกล่าวได้ว่าเป็นเสน่ห์เหนือมหาเสน่ห์เลยกว่าได้ ท่านว่าขี้ผึ้งน้ำตานางมัทรีนี้แค่นี้ก็ปวดหัวแล้วเพราะไม่ใช่ของที่จะเดินเข้าไปขอวัดไหนก็ได้ แต่เราต้องทำไปถวายเองต้องเสาะหาสิ่งอาถรรพ์มาปั้นเทียนทำสารพัดกว่าจะได้สิ่งที่เรียกว่าน้ำตานางมัทรี ท่านว่าทุกอย่างที่นำมาทำนั้นท่านพยายามจะให้มีอิทธิคุณแฝดอย่างแรงสูงสุดในสายขาวสายเทพเจ้าไม่มีให้ไปยุ่งกับซากศพ กับของต่ำหรือต้องเสกในป่าช้าแต่อย่างใด เพราะว่าจะนำเรื่องไม่ดีที่เรียกว่าซวยมาถึงคนใช้ ทุกอย่างเป็นปริศนาต้องตีต้องคิดขบด้วยปัญหาให้แตกฉานกว่าจะเข้าใจและเตรียมตัวออกไปตามหาได้จึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ท่านว่าไม่เพียงเท่านี้ แต่ท่านยังนั่งลบผงวิชาเสน่ห์ที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดทางโซนของเราถึงสิบชนิด เสาะหาว่านยาเฉพาะทางเพื่อนำมาบดทำผงปั้นแท่งดินสอ ก่อนจะลบยันต์กระดานชนวนนวดกับยาภารตะไปด้วย ทั้งวิชาอีหง่างโบราณ พระศรีสะแลงแงง อีเป๋อ ม้าเสพย์นาง หมูเสพย์เสือ ช้างผสมโขลง พญาเขาคำ อิ้นแก้ว วัวกินนมเสือ หนูกินนมแมว ซึ่งแต่ละวิชานั้นพูดได้คำเดียวว่าอย่างแรงแม้ได้ซักตัวหนึ่งก็เป็นยอดคนมีคุณวิเศษในตัวเองอยู่แล้ว แต่นี่รวมกันถึงสิบชนิดท่านว่าถ้าคนจะเอาดีทางโลกไม่สามารถมองข้ามได้เลยทีเดียว ท่านว่าเน้นเอาคุณวิชาทำให้อย่างเต็มที่ พ่ออาจารย์ท่านว่ายานี้เป็นของวิเศษนัก ท่านได้นำมาบรรจุใส่ขวดเล็กๆไว้ ท่านว่ามันมีอำนาจเกินยาสั่งที่คนไทยเข้าใจไปมากโข ด้วยแรงครูแห่งมหาเทพทั้งหลายลงประสิทธิ์แฝงพลังอย่างแรง ท่านว่าถึงขนาดดาวบนฟ้าแม้ปรารถนาก็ต้องได้ ของสูง ของที่ไม่มีปัญญาเอา หมายปองดอกฟ้า คนที่ชาติตระกูลสูงกว่าเราทั้งหลาย เมื่ออยากรักก็ต้องได้รักสมใจเช่นนั้น นอกจากนี้ยังเป็นยาสั่งรวย ยาเปลี่ยนชีวิตด้วย ท่านว่าสั่งฟ้าสั่งรวยได้ตามใจ ถึงขนาดว่าสั่งอะไรได้อย่างนั้น คนไม่มีวาสนาจะไม่พาลพบยาสวรรค์โอสถของพระเจ้าเช่นนี้แน่นอนทีเดียว ท่านว่าวิสัยของเราให้พูดหรืออธิบายคงจะไม่งามให้เอาไปใช้เองเถิด


    พ่ออาจารย์ท่านได้นำมาบรรจุไว้ในขวดเล็กๆเพราะยามีน้อย ท่านว่าเชื่อมั๊ย ยานี่แม้นำไปทำพระ ปั้นให้ได้ก้อนกลมๆเป็นมวลสารเท่าปลายเข็มหมุดผสมลงไปในพระหมื่นองค์ พระทั้งหมื่นนั้นก็ยังได้ชื่อว่าเป็นเสน่ห์อย่างถึงที่สุด ท่านว่ายานี้เมื่อทำเสร็จ เคยนำไปขอเมตตาพระอาจารย์ฝั้นท่านพิจารณา ท่านเห็นแล้วสีหน้าท่านเปลี่ยนไปเลย ท่านว่าตอนนั้นเราสนใจแต่ทางโลก ทำยาที่จะเปลี่ยนชะตามนุษย์ขึ้นมาจึงได้แต่ส่ายหัวเพราะไม่ใช่วิสัยของท่าน พ่ออาจารย์ว่าเอาตรงๆคือไม่มีใครเขาทำกัน ท่านว่ายานี้ให้คุณมากแล้วก็เป็นอันตรายมาก อันตรายคือท่านกลัวจะมีคนอุตริไปปั้นให้คนกิน ท่านจึงนำมาบรรจุใส่ขวดไว้ฝังในพระอีกชั้นหนึ่ง ท่านว่าเพียงพกอาราธนาเท่านั้นพอ ขอให้ทำเพียงแค่นั้นอย่าใช้ทางอื่นนอกจากพก เพียงเท่านี้ก็แรงเหลือใจแล้ว หมื่นยาเสน่ห์ร้อยยาสั่งก็สู้ยาภาระตะสั่งเสน่ห์นี้ไม่ได้

    หลังจากนั้นพ่ออาจารย์จึงได้แกะแม่พิมพ์ขึ้นมาอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยใช้แม่พิมพ์พระผงพรายกุมารพิมพ์เล็กของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่มาเป็นแบบอย่าง แต่ท่านขยายให้ใหญ่ขึ้นพอจะฝังของอาถรรพ์ได้ และปรับเปลี่ยนสิ่งที่สมควรจะเปลี่ยน ท่านว่านี่ไม่ใช่พระ ไม่มีข้อจำกัดของพระ เพราะท่านตั้งใจจะทำให้คนใช้แรงแบบสุดๆไปเลย ท่านจึงปรับจากพิมพ์พระพุทธเจ้า เป็นยอดฤาษีอรชุนบรมครูเสน่ห์อันแรงฤทธิ์แทน ท่านว่าเป็นยอดฤาษีอรชุนองค์นี้แหละที่เป็นแรงครูหนุนอยู่เบื้องหลังของสรรพศาสตร์วิชาการมนต์เสน่ห์ทั้งปวง คนจะใช้ของเสน่ห์ขึ้นหรือไม่ก็อยู่ที่ท่าน พ่ออาจารย์รู้ถึงคุณวิเศษและความแรงอย่างลูกโดดของยอดฤาษีองค์นี้ดีจึงตั้งใจทำเอาไว้ โดยกำหนดให้มีนางสามตัณหาล้อมรอบซ้ายขวาและนอนอยู่เบื้องล่าง

    พ่ออาจารย์ท่านให้เหตุผลว่า ขึ้นชื่อมนุษย์ยังทำงานหล่อเลี้ยงชีวิต ยังมีความคิด มีจิตวิญญาณ มีความทะเยอทะยาน ต้องการจะเอาดีทางโลก อย่างไรเสียก็ไม่หลุดพ้นจากตัณหาทั้งสาม นั่นคือนางทั้งสาม และทั้งนี้นางทั้งสามยังได้ชื่อว่ามีอำนาจเหนือมนุษย์และเทพพรหมโดยตรงอีกด้วย เมื่อได้รับการสนับสนุนจากสามนางนี้แล้วพ่ออาจารย์ว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ นางทั้งสามมีชื่อเรียกต่างกันดังนี้ อันได้แก่


    - ตัณหา ซึ่งตัณหาตัวนี้ไม่ได้พูดให้ทะลึ่งหรือมองไปเรื่องกามเท่านั้นแต่พูดโดยรวมคือ ความอยากทั้งหมด คือเราต้องการจะได้ อยากจะมี อยากจะเป็นอย่างไร นี่คืออานุภาพของนางตัณหา หมายถึงให้ได้ ให้สำเร็จกันในสิ่งที่คิดสิ่งที่ทำ

    - ราคะ นางตัณหาองค์ที่สองนี้ก็เช่นกันหากเล่นด้านเสน่ห์เมตตาก็ยังต้องมีราคะ มีความกำหนัด ยินดีในบ่วงกาม พ่ออาจารย์ว่ามันก็เป็นวิสัยปกติของมนุษย์ไม่ใช่พระอริยะเจ้าก็ยังต้องมี อานุภาพของนางตัณหาองค์นี้พ่ออาจารย์ท่านว่าจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จในความรัก สุขสมเรื่องคู่ครอง มีชีวิตคู่ที่ดี มีความรักที่บริสุทธิ์

    - อรดี นางตัณหาองค์ที่สาม พ่ออาจารย์บอกว่าลึกซึ้งมาก ใครที่มีความฝัน เดินทางตามหาฝัน เดินไปบนความต้องการและมุุ่งมั่นของตนเอง นี่ต้องใช้อานุภาพของนางอรดีเข้าช่วยเพราะจะได้สมใจปรารถนา ถ้าไปหวังเรื่องเสน่ห์ก็จะออกแนวมีแต่หญิงสาวมากมายมาติดพันเต็มไปหมด แต่ถ้าจะเอาดีทางหน้าที่การงาน สร้างฐานะทำความฝันให้เป็นจริงท่านว่าก็สำเร็จอีกเรื่องหนึ่ง มันอยู่ที่จิตตั้งต้นของผู้บูชาเท่านั้น

    พ่ออาจารย์ท่านทำครูฤาษีเสน่ห์หรืออิสีอรชุนผู้ทรงพระเวทย์เข้านางตัณหาทั้งสามนั้น เพราะท่านว่าคนใช้ขุนแผนล้วนติดที่รูปลักษณ์ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะเอาดีทางโลกได้อย่างไร พลังงานมันไปไม่สุด ช่วยเหลือกันไม่ได้เต็มที่ แต่ฤาษีนั้นท่านยังยุ่งเกี่ยวกับกิจทางโลกได้ทุกกิจยิ่งเป็นบรมครูที่ดูแลควบคุมศาสตร์ทางด้านนี้โดยเฉพาะแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง พ่ออาจารย์ท่านว่าการเข้านางของฤาษีอรชุนนั้นท่านสื่อความหมายให้ถึงใจของคนใช้โดยเฉพาะ นั่นคือ การเข้าไปหาให้สำเร็จในทุกกิจทางโลก เติมเต็มทุกสิ่งที่ขาดที่พร่องไป ยิ่งเอายิ่งได้ ยิ่งขาดยิ่งเต็ม ก็แล้วทุกวันนี้มีใครยินดีหรือพอใจในตัวเองบ้าง ก็ทุกคนนั้นแหละล้วนมีสิ่งที่ขาด มีไฟชีวิต มีความฝันปรารถนาที่จะทำทั้งนั้น

    พ่ออาจารย์ท่านได้นำมวลสารเฉพาะทางเรียกว่าไม่สามารถเปิดเผยได้เลยแม้แต่น้อย เป็นมวลสารลับที่ลับที่สุดจริงๆ ประมาณว่ายอดของความลับสูตรของบรมครูเลยทีเดียว แต่เอาว่าแรงแน่ไม่มีของต่ำหรือของอาถรรพ์แต่อย่างใด พอจะบอกได้คร่าวๆแค่เพียง มีพืชพรรณอาถรรพ์ ว่านเก่งมีฤทธิ์มีตัวมีเพชรพญาธรรักษา ตลอดจนผงยาต่าง ท่านเรียกว่ายาสิบหกภาษา หมายถึงยาวิเศษสิบหกชาติพันธุ์เป็นการเรียกให้ครอบคลุมชาติพันธุ์สิ่งมีชีวิตทั้งหมด ท่านว่าผงยาเหล่านี้แรงสะเทือนอารมณ์กันเลยทีเดียว ตลอดจนผงวิเศษต่างๆมาผสมกันโดยเน้นใช้เนื้อว่านดอกทองเป็นหลัก


    ลำพังว่านดอกทองนี้ก็แรงพอดูแล้วท่านว่า ตั้งแต่สมัยโบราณเชื่อกันว่า ถ้าใครได้สัมผัส ได้กลิ่นหอมของว่านชนิดนี้ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย จะทำให้ผู้ใช้มีเสน่ห์ น่ารัก น่าคบหามากขึ้นคืออันนี้พูดแบบอ่อนที่สุดแล้วนะเอาว่าเขาอยากจะเข้าหาเราแล้วกัน ความจริงมันรุนแรงกว่านั้นเยอะถึงขั้นเลยเถิดไปไกลทีเดียว เอาแค่อย่างอ่อนๆเพราะท่านว่าไม่สามารถพูดได้เต็มที่ เอาว่าใครเห็นจะรักจะชอบ หากใช้กับคนรัก ไปไหนแล้วจะต้องกลับมาเชยชม กินอยู่หลับนอนอยู่ด้วย ดังนั้นครูบาอาจารย์แต่โบราณจึงนิยมนำมาทำมวลสารพระในตระกูลขุนแผนอย่างมาก ไม่เว้นแม้แต่ขุนแผนหลวงปู่ทิมก็ตาม เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ และว่านนี้ก็ยังมีหลายตัวหลายตระกูล มีความแรงแตกต่างกันไป พ่ออาจารย์นำว่านดอกทองที่ท่านปลูกและกู้เองทุกตระกูล ซึ่งเป็นว่านที่เปี่ยมด้วยฤทธิ์ของเพชรพญาธรซึ่งมีอานุภาพมากกว่าว่านดอกทองปกติมาพลีหั่นบดลงเป็นผงเพื่อสร้างพระครั้งนี้

    นอกจากนี้ องค์อีสีอรชุนสามตัณหา นอกจากจะฝังยาภารตะสั่งเสน่ห์แล้วยังฝังสิ่งมงคลสักการะอีกสองชนิดคือ


    - กาลปักษา พญานกแห่งกาลเวลา ผู้อยู่เหนือกาล อยู่เหนือธรรมชาติ สัญลักษณ์แห่งผู้บำเพ็ญพรตอันหมายใจจะช่วยเหลือมนุษย์ให้ได้พบสุขสมหวังในกิจที่ตนต้องการ พ่ออาจารย์ท่านว่ากาลปักษาเป็นบรมครูที่สำคัญนักและยุคนี้ท่านยังมีหน้าที่ช่วยเหลือมนุษย์โดยตรง มีหลายสำนักที่บูชาท่านไปเข้าใจว่าเป็นครูกายแก้วบ้าง เป็นนกออกบ้าง เป็นอะไรก็ตามที่ดูหน้าเกลียดน่ากลัวอยู่ไม่น้อยทีเดียวตามจินตนาการของเค้าผิดกับรูปกายที่แท้จริงของท่าน ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่ากาลปักษานั้นคือผู้ที่อยู่เหนือกฏของกาลเวลา เป็นพลังอำนาจที่วิเศษโดยแท้จริง เพราะสามารถยุ่งเกี่ยวและแก้ไขสิ่งที่อยู่ในอำนาจของตนเองได้ นั่นคือ อดีต ปัจจุบัน อนาคต ไม่ว่าจะของใครก็ตามที ใครที่บูชากาลปักษานั้น พ่ออาจารย์ว่าแม้จะมีอนาคตที่มืดมัว ย่ำแย่อับเฉาไร้สิ้นหนทางเพียงใดก็ตาม เค้าย่อมแก้ไขเปลี่ยนแลงให้เรายิ่งกว่าพลิกลับพื้นพระธรณี กาลปักษานี้นอกจากจะเข้าไปยุ่งเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ทั้งสามกาลแล้ว ยังมีเสียงที่วิเศษอีกด้วย นั่นคือจะร้องออกมาอย่างใดก็จะเป็นอย่างนั้น จะพลิกคว่ำพื้นปฐพีทำลายนภากาศก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลยเพียงแค่ร้องออกมา พ่ออาจารย์ท่านใช้รากรักแดงในแผ่นดินปราสาทขอมอาถรรพ์มาแกะเป็นกาลปักษาขึ้นในรูปกึ่งคนกึ่งนกมีปีกยาวสยายคล้ายดั่งองค์พญาครุฑที่สำคัญท่านทำให้อยู่ในลักษณาการที่กาลปักษากำลังแหงนคอกู่ร้องอยู่ตลอดเวลาด้วย ท่านว่าเสียงของเขามีฤทธิ์ขนาดทำให้จักรวาลสั่นสะเทือนได้นับประสาอะไรกับแค่ร้องให้รวย ให้สำเร็จ อยากสำเร็จสิ่งใดก็อธิษฐานได้เลยเพราะนี่คือกาลปักษากู่ร้องรับสิ่งที่เราคาดหวังตลอดเวลา หรือก่อนทำอะไรก็ตามเมื่อมีนิมิตได้ยินเสียงนกร้องแล้วจงรีบไปทำเถิด วันนั้นย่อมเป็นวันดีทั้งวันอย่างแท้จริง ที่ท่านแกะกาลปักษาให้อยู่ในรูปแบบครุฑนี้นอกจากเขามีลักษณะคล้ายกันแล้วอีกสาเหตุหนึ่งคือเพื่อแฝงอำนาจบารมีองค์ครุฑเข้าไปอีกคำรบหนึ่งด้วย ให้คนใช้เจริญที่สุด ดีที่สุด อยู่สูงที่สุดไม่ร่วงไม่หล่นลงมาด้วยพลังแฝงขององค์ครุฑนี้

    - ตะกรุดมหาเถรตบะแตก พ่ออาจารย์ท่านลงวิชาอันได้ชื่อว่าเป็นยอดแห่งเสน่ห์ที่แรงที่สุดถึงสี่ชนิดลงไป นั่นคือนางอกแตกแหกอกนาง ยันต์ปาราชิก พระฤาษีตบะแตก พระเจ้าเรียกนางภิกขุนี ท่านว่าสี่ตัวนี้แต่ละตัวล้วนเป็นยอดเสน่ห์ในขั้นที่ว่ารุนแรงทั้งนั้นไม่ต้องกล่าวถึงเลยเมื่อนำมารวมกันทั้งสี่ชนิด พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้อย่าให้พระจับเลย แม้พระก็ทำวิชาเหล่านี้ไม่ได้มันผิดครู ยันต์บางตัวชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าแค่พระทำหรือพระจับก็จะวิบัติในสมณะเพศถึงขั้นปาราชิก เนื่องจากวัวเขาอ่อน หรือสตรีเพศจะเข้าหาถึงที่ทำให้ต้องสึกหาออกไป เป็นที่สุดของตะกรุดในสายวิชาทางเสน่ห์อย่างแท้จริง พ่ออาจารย์ท่านว่าท่านทำให้ดีแล้ว อยู่ที่ตัวคนใช้ ของทุกสิ่งลงให้ครบหมดแล้ว จะไปเอาดีทางโลก จะใช้อย่างไรก็พิจารณากันเอง

    คาถาบูชา(ให้ระลึกถึงความปรารถนาที่ต้องการให้สำเร็จบอกกล่าวพ่อปู่อรชุนและกาลปักษา ไม่ใช่รูปพระไม่ต้องขึ้นนะโม)
    โอมกามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา ตัณหาตันหิ ตันหิตัณหา นะโสหังตัง สะสิสุสะอาวะสะหะ สะสิมังสิอะวิสิเม 3 จบ

    เครื่องมงคลนี้พ่ออาจารย์ว่าเป็นสิ่งที่อยู่เหนือสิ่งที่พระเครื่องหรือพุทธวิสัยจะทำได้ เป็นของที่มีแรงครูสูง เนื่องจากเป็นของเฉพาะกาลที่ท่านตั้งใจสร้างขึ้นเพื่อไว้ใช้ผนึกยาภารตะสั่งเสน่ห์อันสำคัญของท่านอย่างแท้จริง พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ได้เพียง 8 องค์เท่านั้น ท่านว่าคนที่มีวาสนา มีลิขิตให้สัมพันธ์กับกาลปักษานั้นย่อมมี ที่ผ่านมาชื่อของท่านหรือกาลปักษานั้นไม่เป็นที่ปรากฏนักเนื่องจากเพราะหาคนรู้จักท่านไม่ได้และเข้าไม่ถึง ครั้งนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นยิ่งกว่าเปิดบันทึกตำนาน เพราะเรื่องราวของท่านจะเป็นที่โจษขานกันมากขึ้นในวงกว้างต่อไปอย่างแน่นอน


    * สำหรับผู้ที่ต้องการจะบูชา ให้เฉพาะคนที่PM มาจองเท่านั้น และเมื่อบูชาแล้วต้องให้บอกชื่อนามสกุลพร้อมวันเดือนปีเกิดด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะทำพิธีพิเศษให้ด้วยการประสิทธิ์มนต์คายตรีซึ่งเป็นเวทย์บรรพกาล พร้อมนำผงอิทธิเจที่ผสมผงสินธูระมาอธิษฐานจิตด้วยพิธีกรรมของพราหมณ์บอกกล่าวกับองค์มหาเทพอ่านมนต์คายตรีขึ้น เพื่อจะเจิมเบิกดวง ถอนคำสาป ดับล้าง ถอนอาถรรพ์ทั้งปวงที่มีมาในชีวิตประสิทธิ์ให้ตกถึงมือคนใช้อีกคำรบหนึ่ง รายได้ร่วมทำบุญแจกทุนการศึกษษเด็กด้วยโอกาสทางสังคมสืบไป

    ร่วมทำบุญบูชา มงคลว่านดอกทองยอดอิสีอรชุนเข้านางสามตัณหา(ยาภารตะสั่งเสน่ห์) บูชา 4,000 บาท
    image.jpg 10110108.jpg 235963.jpg SAM_5274.jpg SAM_5279.jpg user312858_pic140863_1301551199.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มีนาคม 2020
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดพระเจ้าซ้อนเงาตำรับสำนักพระราชวังเขมรโบราณ(เงาะถอดรูป)
    พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาเงาะถอดรูปนี้จะหาคนที่ทำเป็นและทำได้จริงนั้นหายากอย่างยิ่ง แต่เดิมนั้นเป็นวิชาที่บรมครูผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายมักจะนิยมหยิบนำมาใช้กัน วิชานี้ท่านว่าคุณพ่อศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่านั้นก็เก่งอย่างหาตัวจับยาก แม้แต่หลวงปู่ยิ้มวัดหนองบัวก็ยังทำได้ขลังเช่นกัน ท่านว่าแม้สายวัดประดู่โรงธรรมก็ยังมีวิชานี้ ซึ่งทุกที่แต่ละตำรับนั้นครูบาอาจารย์ท่านจะเพิ่มเติมเคล็ดหรือวิธีการสร้างให้แตกต่างกันไป พ่ออาจารย์ท่านว่าทั้งคุณพ่อศุขและพ่อเฒ่ายิ้มนั้นมีแนวทางคล้ายกันอยู่แต่ก็มีความต่างอยู่ในตัวเอง ท่านจึงนำวิชาของทั้งสองสายมาบูรณาการและเรียกวิชานี้ว่าพระเจ้าซ้อนเงา ท่านว่าลำพังเคยสร้างก็เพียงเสี้ยววิชาหรือใช้คาถานำมาเสกเฉยๆก็นับว่าพุทธคุณสูงแล้ว และสำนักต่างๆก็มักจะทำกันเพียงเท่านี้ ไม่มีที่จะสร้างเงาะถอดรูปตัวเต็ม เพราะมันยากและวุ่นวายมากนั่นเอง แต่ในวาระนี้พ่ออาจารย์ท่านมีดำริจะสร้างบูชาคุณครูวิชาเสียชุดหนึ่ง

    ท่านตั้งใจจะลงตะกรุดตัวนี้ให้มีลักษณะเล็กๆเพื่อที่จะได้สะดวกต่อการพกพาและนำไปใช้ กล่าวให้เข้าใจคือนอกจากวิชาพระเจ้าซ้อนเงาหรือเงาะถอดรูปที่ท่านลงแล้ว ท่านยังเมตตานำแผ่นทองเหลืองมาชักพระยันต์ลงวิชา.....(บางอย่าง)*ท่านว่าวิชานี้ท่านไม่สามารถบอกชื่อได้เพราะเป็นวิชาของขอมโบราณ มีอุปเท่ห์ในการชักยันต์ที่ยากลำบากและกว่าจะสำเร็จนั้นยากเลือดตาแทบจะกระเด็นทีเดียว ท่านว่าวิชานี้ต้องไปนั่งจารนั่งลงอยู่ในประสาทขอมโบราณ โดยเลือกฤกษ์ยามให้ตรงกับเวลาที่สงัด เมื่อคิดจะทำจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ท่านว่าความยากอยู่ในระดับที่เรียกว่าลงผูกอาถรรพ์เลยทีเดียว ท่านว่าวิชานี้ปกติจะสืบทอดต่อกันมาและใช้กันเฉพาะในสายของสำนักพระราชวังแต่โบราณ ไม่เคยปรากฏว่าจะได้มาตกถึงมือคนนอกเพราะเค้าหวงแหนและบดบังกันมาก

    จะกล่าวถึงวิชาเงาะถอดรูปนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าหลายคนมักจะไปนึกถึงนิยายรจนาเลือกคู่ไป ที่ไปนึกถึงมนต์จินดามณีก็มี ในครั้งหลังนั้นท่านว่าครูบาอาจารย์ทั้งหลายถึงกับอุปโลกเป็นเรื่องเดียวกับจินดามนต์ไปเลยก็มาก ท่านว่าความจริงแล้ววิชาเงาะถอดรูปเป็นวิชาที่ต้องใช้ความเพียรอย่างมาก เนื่องจากเวลาลง ทุกตัวอักขระต้องจรดเหล็กจารว่าพระคาถาเฉพาะทุกตัวไม่มีขาดหรือคลาดเคลื่อน แม้ชักยันต์ก็ต้องว่าสูตรชักยันต์เฉพาะทางของเค้า มีคาถาลงและเสกซับซ้อนมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าอย่าเห็นกันว่าเป็นตะกรุดดอกเล็ก นี่แหละทำยากกว่าสร้างพระเสียอีกแต่ท่านก็ตั้งใจทำ ท่านว่าทำไว้ให้ดู ให้คนมีวาสนากับคุณพ่อศุขและพ่อเฒ่ายิ้มท่านเอาไปใช้ ทุกดอกล้วนมีตราบัญญัติมีเจ้าของครอบครองเขาทั้งสิ้น


    โดยวิชาเงาะถอดรูปนั้น พ่ออาจารย์ว่าอย่างแรกเลยที่จริงแล้วมันเป็นวิชาเสน่ห์เห็นพบสบตาให้เกิดจิตปฏิพัทธ์ในใจ ให้หลงรูปของเรา ซึ่งวิชานี้เป็นวิชาที่ให้ผลในวงกว้าง ท่านว่าแม้ไม่สวยไม่หล่อ แต่พอเค้าเห็นเราเท่านั้นจิตใจเขามันจะแกว่ง ต้องมอง อยากมอง อยากจ้องคนที่มีวิชานี้ จ้องเข้าไปแล้วให้เกิดความชื่นชมนิยมยินดี จ้องเข้าไปแล้วหากมีวาสนาต้องกันย่อมมีจิตหลงใหล จ้องเข้าไปแล้วอดใจไม่อยู่เก็บความรู้สึกไม่ได้เช่นนั้น นอกจากนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าความจริงแล้ววิชาของคุณพ่อศุขและปู่เฒ่ายิ้มนั้น มิได้หวังแค่อานุภาพพทธคุณฉาบฉวยแต่เรื่องโลกีย์วิสัยแต่อย่างใด เงาะถอดรูปคือถอดออกทั้งหมด เกิดเป็นคนใหม่ รูปใหม่ โฉมใหม่เลยทีเดียว ท่านว่าพลิกฟื้นคืนกลับถึงปานนั้น เพราะเป็นวิชาที่สูงมาก เมื่อทำต้องเสี่ยงบารมี นำเอาบารมีของแต่ละชาติในสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย ดึงบารมีท่านลงมาอาบมาฉาบมาเคลือบตะกรุดนี้ มีแรงครูสูงมากถึงขนาดรับรองได้เลยว่าย่อมทำให้ความปรารถนาทุกประการนั้นกลายเป็นเรื่องจริงและเกิดผลสำเร็จได้ ท่านว่าคุณของวิชามันซึมซับไม่ใช่ส่งผลเฉพาะกับรูปกายเท่านั้นที่ว่าทำให้คนอยากมองอยากเห็น แต่มันซึมลึก ซึมลงไปถึงจิตวิญญาณจนถึงขั้นที่ว่าเมื่อแตกกายย่อยยับดับสังขารลงแล้วยังจะตามคุ้มครองไปถึงชาติหน้าภพหน้า และยังเป็นปัจจัยติดตัวทำให้พบพระศาสนาในสมเด็จพระศรีอาริย์เป็นที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าเห็นหรือไม่ คุณวิชามันค่อยๆถอดทีละชั้นทีละชาติภพถอดจนกระทั่งมีนิพพานเป็นที่ไปในศาสนาสมเด็จพระศรีอาริย์สัมมาสัมพุทธเจ้าทีเดียวนี่แหละคือเงาะถอดรูป


    นอกจากนั้นท่านว่าโดยเนื้อแท้แล้ววิชาเงาะถอดรูปท่านกล้าพูดได้เลยว่าไม่มีใครใช้แล้วจนลงหรือมีเท่าเดิมกันซักคน เพราะมันเป็นวิชาเรียกลาภอยู่ที่ไหนทรัพย์สินเงินทองไม่ขาด ปิดช่องทางจนหรือกระเป๋าแห้งไปเลย ท่านว่าใช้ได้หมด ใช้ทางเรียกทรัพย์เป็นมหาลาภ ชนะคู่แข่ง ไม่มีศัตรูมารบกวน ใช้ได้แม้กระทั่งอาราธนาแช่น้ำ ใช้น้ำนั้นถอดถอนอวมงคลทั้งหลายทีเดียว


    แต่คนมักไม่รู้ โง่เขลาเบาปัญญาคิดเพียงแต่เสน่ห์ชู้สาว โดยท่านว่าวิชานี้มีอำนาจรุนแรงมาก แม้แต่แขกทางใต้หรือเหล่าโนราห์ต่างๆก็ยังต้องมาเรียนดัดแปลงไปใช้ให้คนติดคนชมคนนิยมในตัวตนของตน ท่านว่าถ้าเทียบก็แรงกว่าขุนแผนทั้งหลายอยู่มากทีเดียว


    ท่านว่านี่เพียงแต่อำนาจพุทธคุณของตะกรุดเงาะถอดรูปเท่านั้น แต่ท่านเพิ่มในส่วนที่แตกต่างกันและเป็นข้อดีหนุนส่งกันของวิชาทั้งสองสายทั้งคุณพ่อศุขและปู่เฒ่ายิ้มลงไปจึงเกิดเป็นวิชาพระเจ้าซ้อนเงาขึ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าทำยากมากใช้แทนของคุณพ่อศุขและปู่เฒ่ายิ้มได้อย่างสนิทใจ * ท่านว่าตะกรุดนี้สำคัญนัก เมื่อได้ไปแล้วให้เอาไปแช่น้ำผึ้งเสียก่อนซักสามวัน เขาจะเสพย์น้ำผึ้งเข้าไปและเคลือบอาบฉาบทาน้ำผึ้งด้วยอำนาจศักดิ์สิทธิ์ของพุทธบารมี เมื่อครบกำหนดแล้วให้เอาน้ำผึ้งที่แช่ตะกรุดนั้นมาดื่มกิน ตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าอำนาจแห่งวิชาส่วนหนึ่งจะถูกขับเข้าไปอยู่ในตัวของเราซ้อนร่างซ้อนเงาของเราทำให้เราเป็นผู้ทรงวิชาเงาะถอดรูปไปโดบปริยาย ตรงนี้แม้วันไหนเราไม่ได้พกตะกรุดก็ยังใช้อานุภาพนั้นได้ดุจเดียวกัน หากยิ่งอาราธนาตัวตะกรุดไว้ด้วยเรากับเขาก็จะเป็นอันหนึ่งเดียวกันโดยสมบูรณ์ ท่านว่าให้ทำครั้งแรกครั้งเดียว หรือจะทำกินทุกครั้งตามแต่สะดวกก็แล้วแต่ เมื่อทำแล้วก็ให้นำตะกรุดมาล้างให้สะอาดก่อนจะตากให้แห้งแล้วอาราธนาพกต่อไป


    พ่ออาจารย์ท่านลงวิชาเงาะถอดรูปเต็มสูตรนั่งภาวนาพระคาถาชักพระยันต์ต่างๆ ท่านว่าทำยาก จะทำให้เต็มสูตรเช่นนี้ครั้งเดียวในชีวิตแล้วจะไม่ขอทำอีก เพราะเป็นวิชาที่ต้องเสี่ยงบารมี และมีผลกับคนใช้สืบต่อไปจนถึงยุคศาสนาพระศรีอาริย์ทีเดียว ท่านว่าไม่ใช่ของทำเล่นๆ ซ้ำวิชาอาถรรพ์ที่ลงทับหุ้มตะกรุดด้านนอกนั้น ท่านว่ายิ่งทำยาก ท่านว่าวิชานี้จะปรับสมดุลย์ขับล้างสิ่งไม่ดี ซ้ำยังปรับให้อยู่ในระดับที่พอดีไม่มากไปหรือน้อยไป ท่านว่าเกินไปก็ไม่ดี น้อยไปก็ไม่ดี การจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จได้ ทุกสิ่งต้องอยู่ในระดับที่พอดี วิชาอาถรรพ์นี้ความจริงจะเรียกว่าใช้แก้อาถรรพ์ก็ได้ ท่านว่าตะกรุดอาถรรพ์นี้มีคุณอยู่มากแต่จะพูดได้เพียงคร่าวๆเท่านั้น หลังจากนั้นต้องใช้เองเห็นเองท่านว่าจึงจะดีที่สุด พ่ออาจารย์ทานปรารภว่าการแก้อาถรรพ์นั้นคือแก้ที่เกี่ยวพันสืบเนื่องมาแต่ชาติกำเนิด ท่านว่าจุดนี้มีกันทุกคน เป็นอัฉริยภาพของครูบาอาจารย์นับพันปีที่คิดกระบวนการวิชานี้ขึ้นมา แต่ไม่ได้แพร่หลายเพราะต้องการใช้กันเอง ใช้เป็นรายบุคคลไป ไม่มีการสืบทอดเป็นของสาธารณะ พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ทำกันถึงขนาดนั้นสืบทอดมาแต่ในวังของเขมรโบราณ เพราะสมัยยุคขอมนั้นกษัตริย์จะยกตัวเทียบเท่าเทพเจ้าหรือพระโพธิสัตว์ต่างๆ ดังนั้นเขาจะมีชุดกระบวนการวิชาต่างๆที่ใช้แก้อาถรรพ์อันติดมาแต่ชาติกำเนิดของตนเอง ท่านว่าพูดได้เพียงเท่านี้ ต้องมีวาสนามีบุญต้องกันมีความสัมพันธ์กับแรงครูและคุณวิชาจริงๆจึงจะได้มาเห็นและนำไปบูชา


    ตะกรุดนี้เนื่องจากพ่ออาจารย์ท่านมีดำเริว่าทำยากจริงๆ ท่านจึงลงไว้เพียง 8 ดอก และท่านจะออกให้ร่วมบูชากันเพียง 7 ดอกเท่านั้น โดยท่านว่าขอเก็บไว้เอง เอาไว้ดูเป็นที่ระลึกเสียดอกหนึ่ง เพราะทำครั้งนี้สำหรับวิชาที่ลงเต็มสูตรเช่นนี้ย่อมไม่มีครั้งที่สองอีกอย่างแน่นอน


    นอกจากนี้พ่ออาจารย์ว่าด้วยตำรับของพ่อเฒ่ายิ้มนั้น ท่านว่าหากอยากให้มีคุณวิเศษสูงยิ่งขึ้นไปอีก คือแรงกว่าเดิม ดีกว่านี้ต้องผสานทำวิชาพระลักษณ์หน้าทองลงไปด้วย กล่าวคือให้จัดเครื่องเซ่นอาหารคาวหวานต่างๆตามธรรมเนียม นำหัวโขนพระลักษณ์ที่ผ่านพิธีไหว้ครูและเคยใช้ในการแสดงมาแล้ว นำมาเซ่นตามธรรมเนียมแล้วค่อยลอบเข้าด้านหลังขูดเอาทองเฉพาะที่ปิดหน้าผากระหว่างจุดกึ่งกลางคิ้ว ต้องใช้เฉพาะจุดนี้เท่านั้น นำผงทองนั้นมาผสมกับดินสอพองปั้นเป็นแท่งไว้แล้วจึงลงวิชาพระลักษณ์หน้าทองลบทำผง ก่อนจะนำมาอุดที่ตะกรุดอีกคำรบหนึ่งท่านว่านี่คือสูตรปู่เฒ่ายิ้มซึ่งต่างจากของคุณพ่อศุข และเมื่อจะทำแล้ว ท่านว่าก็ควรทำให้แรงที่สุด ไหนๆก็ทำแล้วจะครึ่งๆกลางๆได้อย่างไร พ่ออาจารย์ท่านจึงทำให้ตรงตามวิชาเพื่อให้ของสิ่งนี้มีอิทธิคุณรุนแรงขึ้นกว่าเดิม ท่านว่าความจริงแค่วิชาเงาะถอดรูปก็แรงเหลือกินแล้ว นี่ยังมีผงสำคัญที่อุดนี่อีก พ่ออาจารย์ท่านว่าเอาไปอธิษฐานใช้ไ้ดทุกประการสุดแต่ความปรารถนานั่นแหละ


    คาถาบูชา
    - อาราธนาตะกรุด โส ภะคะวา อิติปิวิชชาจะระณะสัมปันโน พุทโธ รูปงาม เหมือนรูปพระพรหม พุทธัง มะ รูปงามเหมือนรูปพระอินทร์ พุทธะสัง รูปงามเหมือนโฉมพระนารายณ์ จะแปลง ลงมา เหมือนเทวดาสวาหะ อะวิสุนุสสานุสสติ ติวาปิภะ
    - ภาวนาเน้นเสน่ห์เมตตา ธะนังสุก๊ะริ สวาหุม


    * พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจจะให้บูชากันในราคาที่ไม่แพงแต่เนื่องจากตัวตะกรุดมีจำนวนน้อยและยังเป็นของเฉพาะทางทีมีคุณลักษณะเป็นเอกลักษณ์มีความแตกต่างกับตะกรุดทั้งหลาย ท่านจึงให้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น โดยรายได้ทั้งหมดท่านจะนำไปสมทบโครงการแจกทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาศสืบต่อไป


    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดพระเจ้าซ้อนเงาตำรับสำนักพระราชวังเขมรโบราณ(เงาะถอดรูป) บูชา 1,000 บาท

    15_02_15_06_04_03_2.jpg 1359528843.jpg SAM_5287.jpg 1295014515.jpg h7_lak1.jpg
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา มงคลเทวะนาคาครุฑามนสาเทวี(เจ้าแม่โปรดสามภพฝังน้ำมันฝ่าวิกฤติ)
    พ่ออาจารย์มักกล่าวถึงมหาเทวีพระองค์นึงอยู่เสมอ ซึ่งท่านบอกว่าในยุคปัจจุบันนี้ เป็นยุคที่พระนางมีอำนาจอย่างเต็มที่ โดยมหาเทวีที่ท่านกล่าวถึงนั้นก็คือมนสาเทวีนั่นเอง พ่ออาจารย์บอกว่าพระนางเป็นมหาเทวีซึ่งมีศักดิ์เป็นพระธิดาในพระศิวะเจ้าพระองค์เดียว เฉกเช่นเดียวกับพระพิฆเนศและพระขันธกุมารซึ่งเป็นเทวโอรส พูดให้เข้าใจอย่างง่ายเลยก็คือพระนางเป็นน้องสาวร่วมบิดาในเสด็จพี่ทั้งสองนั่นเอง

    โดยท่านมักกล่าวถึงพระนางว่ามนสาเทวีหรือมาริษาก็เรียก ว่าเป็นมหาเทวีที่มีรูปลักษณ์งดงามอ่อนหวานจนถึงกับเป็นที่กล่าวขวัญแม้ในมวลหมู่เทพเจ้าและพระเป็นเจ้าทั้งหลาย ว่ามนสาเทวีนี้คือมหาเทวีผู้มีความงามเป็นที่หนึ่งไม่มีสองทีเดียว ด้วยอุปนิสัยส่วนตัวของพระนาง พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าพระนางเป็นเทวีพระองค์เดียวที่เลือกจะอยู่กับมนุษย์ กล่าวคือใช้ชีวิตอยู่กับมนุษย์ในโลกของมนุษย์


    พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าโดยปกตินี้พอพูดถึงเทวดาเราก็ต้องนึกถึงเรื่องสวรรค์ ซึ่งเทพทั้งหลายเหล่านั้นเขาก็จะอยู่ในโลกในภพภูมิของเขา ที่อาจซ้อนกับของเราหรืออยู่ไกลจากเราโดยส่วนมากมักเป็นเช่นนี้ ไม่ปรากฏมีว่าจะมีเทพหรือเทวีองค์ใดที่ปรารถนาจะอยู่กับมนุษย์ เช่นพระเป็นเจ้าทั้งหลายก็จะมีโลกซึ่งเป็นมิติส่วนตัวที่ซ้อนทับอยู่ในสถานที่ต่างๆเช่นพรหมโลก วิษณุโลก ศิวะโลกดังนี้ แต่มนสาเทวีนั้นด้วยอุปนิสัยส่วนตัวของพระนาง พระนางมีมโนปณิธานแรงกล้ามากที่จะลงจากศิวะโลกมาอยู่กับมนุษย์โดยพระนางนั้นไม่ได้อยู่ในมิติเอกเทศน์เหมือนพระพิฆเนศหรือพระขันธกุมาร แต่พระนางเลือกจะสถิตย์ในโลก ในที่ซึ่งมีบุคคลบูชาพระนาง ท่านจะนั่งอยู่ในใจของพวกเขา อยู่ในฐานะของมหาเทวีซึ่งจะประทานพรถ้วนทุกประการแก่มนุษย์ซึ่งมีศรัทธาในพระนางอย่างแท้จริง

    มนสาเทวีนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าองค์ของท่านมีนิสัยขี้เล่นอยู่มาก โดยท่านมักจะมีการสื่อสารกับพ่ออาจารย์ท่านเสมอ เช่นว่ามีสายญาณผ่านมาแล้วจะทักทายกันจนบางครั้งพ่ออาจารย์ท่านต้องไปหาขนมโมทกหรือขนมของพวกฮินดูหลายชนิดมาเตรียมไว้ให้พระนางเสมอๆ ท่านว่าเขาแซวเราหนักมาก ผ่านมาทีไรก็จะพูดทำนองว่าที่นี่ไม่มีขนมให้กินเลยหรอบ้าง ถามหานมถามหาสิ่งต่างๆบ้าง โดยพ่ออาจารย์ท่านมักจะกล่าวลอยๆว่าขอความช่วยเหลือเขาไว้เยอะก็เลยต้องให้กำลังใจเขาหน่อย ท่านพูดอย่างมีนัยย์แอบแฝงซึ่งก็ได้ความว่าท่านมักจะฝากมนสาเทวีนี้ให้ค่อยช่วยเหลือมนุษย์หรือเรื่องทุกข์ใจต่างๆของคนทั้งหลายที่ฝากมาไว้กับท่านเสมอๆ ซึ่งพระนางก็ได้ทำอย่างรวดเร็วฉับพลันทันทีจนเกิดการทวงขนมกันบ่อยขึ้นและบ่อยขึ้น ซึ่งพ่ออาจารย์ว่าเอาเข้าจริงๆที่ซื้อมาไหว้นั้นตัวมหาเทวีท่านก็ไม่ได้กินหรอก เพราะว่าท่านเป็นเทพท่านเพียงแค่รับน้ำใจตลอดจนไมตรีจิตของเราซึ่งมันก็ควรต้องให้เพราะขอความช่วยเหลือท่าน มันเป็นการแสดงออกถึงน้ำใจของเราในเรื่องการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมด้วยการถวายขนมนมเนยอันประณีตเหล่านี้

    พ่ออาจารย์ท่านรู้ถึงมหาอิทธิฤทธิ์ของพระแม่เจ้าพระองค์นี้ดีอย่างยิ่ง เพราะท่านสามารถช่วยคนได้ทุกเรื่องเรียกว่าไม่เลือกงานหรือคำอธิษฐานทีเดียวว่าจะเป็นอย่างไร ท่านจึงได้นำมหาธาตุกายสิทธิ์ต่างๆทั้งเหล็กไหลขาววัชรธาตุ หยาดน้ำฟ้ทวาราวดี ปรอทสำเร็จหลวงปู่ละมัย และที่สำคัญนอกจากนั้นท่านยังนำของสุดหวงของท่านซึ่งท่านกล่าวคร่าวๆแต่มีความหมายลึกซึ่งถึงสองสิ่งนั่นคือ ปรอทสำเร็จของพระครูเทพโลกอุดร กับปรอทอากาศซึ่งท่านทำพิธีขอมาจากมหามุนีบาบาจีซึ่งเรียกให้ถูกก็คือครูพระสยมซึ่งอวตารมาอยู่ในฐานะของคุรุเทพนั่นเอง ท่านได้นำของที่ได้ชื่อว่าทรงฤทธิ์ที่สุดในหมื่นจักรวาลของสายโลกียะและโลกุตระหล่อหลอมทำพิธีหุงธาตุก่อนเทหล่อด้วยเป็นรูปพระนางมนสาเทวี โดยเมื่อหล่อหลอมเสร็จแล้วท่านจึงได้นำมากำกับอัญเชิญพร้อมกับบอกกล่าวให้พระนางออกไปช่วยคนทั้งหลายตามจุดประสงค์แรกเริ่มของตัวพระนางเอง ซึ่งแรกเริ่มนั้นมีตัวรู้ผุดขึ้นมาในใจว่าพระนางอุบัติขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือศานุศิษย์ช่วยเหลือมนุษย์ชาติอย่างแท้จริง


    พ่ออาจารย์ว่าน้องสาวพระพิฆเนศพระองค์นี้ประมาทไม่ได้เลยเพราะแก่นแก้วนัก แม้ทางฝั่งอินเดียธิเบตเนปาลต่างๆก็ให้การยอมรับและบูชาอย่างแพร่หลายขยายวงกว่างอย่างผิดหูผิดตาต่างจากเทพเทวะพระองค์อื่น นั่นก็เพราะการที่พระนางขอได้ทุกอย่างและช่วยเหลือเต็มที่ไม่ขัดจุดประสงค์ของผู้บูชานั่นเอง จึงทำให้มีแต่คนกล่าวขานถึงพระนางกันแบบปากต่อปาก พร้อมกับรูปกายอันเป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากเทพเทวะทั้งหมดอีกส่วนหนึ่ง


    นั่นคือพระนางมนสาเทวีนั้นจะมีอยู่สองปาง พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าปางหนึ่งจะมีลักษณะเป็นเทพนารี ซึ่งจะมีรูปร่างสวยสดงดงามเป็นที่สุดเป็นมหาเทวีซึ่งมีพญานาคทั้งหลายเป็นบริวารดังนั้นจึงมักปรากฏว่าพระนางนำพญานาคหรืองูต่างๆมาใช้ประดับพระวรกายและทำเป็นมงกุฏบ้าง ก็เพราะเมื่อพระนางลงมาสถิตย์อยู่ในโลกมนุษย์นั้น ทำให้เผ่าพันธุ์เทพเดรัจฉานซึ่งสถิตย์ซ้อนภูมิอยู่ในโลกมนุษย์อย่างพญานาคราชทุกตระกูล ต้องมาคอยดูแลรับใช้ด้วยเกรงบารมีของพระนางซึ่งอยู่ในระดับพระเป็นเจ้านั่นเอง

    กับอีกปางหนึ่งพระนางจะอยู่ในรูปลักษณ์ของเทพอสูร เรียกว่าในมวลเทวะและเทวีทั้งหมดนอกจากพระพิฆเนศพี่ชายก็มีมนสาเทวีผู้น้องสาวนี่แหละที่มีรูปกายเป็นเอกลักษณ์ที่สุด นั่นคือพระนางจะมีลักษณะท่อนบนเป็นเทวีแสดงอำนาจและบ่งบอกถึงความเป็นเผ่าพันธุ์เทวะ และมีท่อนล่างเป็นพญานาคตลอดจนมีปีกเป็นพญาครุฑ และมีพญานาคปรกพระเศียรเช่นเดียวกับพระวิษณุนารายณ์ บ้างก็ห้าเศียรบ้าง เจ็ดเศียรบ้าง เก้าเศียรบ้างหรือจะพันเศียรบ้าง ขึ้นอยู่กับว่าในเวลานั้นๆเป็นวาระของพญานาคองค์ใดที่มาคอยถวายการปฏิบัติพระนาง พ่ออาจารย์ท่านว่ารูปลักษณ์ของพระนางนั้นคือการแสดงออกของตัวตนที่มีจิตวิญญาณของภพทั้งสาม นั่นคือรูปของเทวีซึ่งแสดงถึงเผ่าพันธุ์เทวะอันเป็นใหญ่ในโลกทั้งมวลถ้วนหมื่นจักรวาล กับรูปของพญานาคอันเป็นผู้ปกครองเหนือสายน้ำทั้งปวง และปีกของพญาครุฑอันเป็นเจ้าแห่งนภากาศ เช่นนี้พระนางจึงมีชื่อปรากฏว่าเทวีสามภพด้วยสถานภาพพิเศษต่างจากพระเป็นเจ้าทั้งหลายคือจะไปอยู่ไหนก็ได้ไปสถิตย์ได้ทั่วทั้งหมดด้วยว่าสามภพนี้คือที่ของพระนางนั่นเอง แต่พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจะเรียกให้ถูกควรเรียกว่าเทวีโปรดสามภพมากกว่า เพราะพระนางช่วยดะไปหมดท่านว่าเวลาช่วยแล้วท่านสนุก การช่วยเหลือมนุษย์ก็เหมือนการละเล่นของพระนางนี่เองเฉกเช่นประวัติศาสตร์และกาลเวลาต่างๆก็เป็นเพียงละครฉากหนึ่งของพระเป็นเจ้าทั้งหลายเช่นนั้น


    พ่ออาจารย์ท่านจึงเลือกสร้างรูปพระนางในปางของเทพอสูรเพื่อให้เปล่งอานุภาพสูงสุดนั่นเอง ท่านว่ารับรองได้เลย งานนี้มีคนได้ปลื้มใจอีกมากแน่นอนเพราะเขาจะระลึกถึงมนสาเทวีและจะรู้ได้ด้วยตัวเขาเองว่านี่แหละคือสิ่งที่ตามหา ที่หัวใจเรียกร้อง มหาเทวีผู้อยู่เหนือโลกทั้งสามผู้ที่ชอบช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์องค์นี้แหละที่เราควรพึ่งควรยึดถือควรแก่การทำสักการะ


    หลังจากนั้นท่านจึงได้รวบรวมผงวิเศษทั้งหมดโดยใช้เฉพาะผงที่ลบถมโองการสรรเสริญเทพเจ้าต่างๆของทางฮินดูโดยเฉพาะ ผสมกับผงธาตุผงวิชาซึ่งท่านทำไว้ต่างหากตามสายมหาศิวะโยคะโดยพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าเป็นของที่อยู่เหนือโลกทั้งสิ้น ท่านหยั่งรู้ด้วยนิมิตถึงพระนางว่าเมื่อจะทำพระผงเพื่ออัญเชิญพระนางเข้าซุ้มประดิษฐาน โดยท่านแกะบล๊อคแม่พิมพ์เป็นเทวาลัยเพื่อที่จะได้เชิญพระนางนั้นเข้าไปสถิตย์ โดยท่านให้เหตุผลว่าเป็นความต้องการของมหาเทวีท่านเอง เพื่อที่จิตท่านจะได้ติดอยู่ในเทวาลัยสถิตย์เป็นศรีเฉลิมเกียรติยศเป็นมิ่งขวัญอยู่คู่ชีวิตผู้บูชาตลอดไป เพราะเมื่ออัญเชิญเข้าเทวาลัยแล้วพระนางย่อมไม่ไปไหนอีกนั่นเอง โดยพ่ออาจารย์ท่านว่าทำยากเอาการเพราะพระนางทิ้งปัญหาไว้ให้สามอย่างให้ตีความให้แตก นั่นคือปีกพญาสุบรรณ กายสังขารของพญานาค และดวงจิตเทพเจ้า พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องตีปริศนาเหล่านี้นำเอาของที่ได้ชื่อว่าทั้งหายากและปรากฏยากทั้งสามสิ่งในโลกเพื่อมาเป็นมวลสารในการสร้าง


    เมื่อสร้างแล้วมงคลเทวะนาคาครุฑามนสาเทวีนี้ พ่ออาจารย์ท่านได้ฝังของสำคัญลงไปสามสิ่งด้วยกันนั่นคือน้ำมันฝ่าวิกฤติ ตะกรุดบุญบันดาล ตะกรุดชำระเคราะห์ ซึ่งสิ่งต่างๆนับได้ว่าเป็นของวิเศษอย่างยิ่งเลย เนื่องจากมีอิทธิคุณเฉพาะทางทั้งสิ้น ได้แก่
    - น้ำมันฝ่าวิกฤติ พ่ออาจารย์ท่านได้นำน้ำมันสังคโลกของหลวงพ่อปาน มาผสมกับน้ำมันในตำนานนั่นคือน้ำมันวิเศษของหลวงพ่ออินทร์ วัดเกาะหงส์ ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ผู้ถ่ายทอดวิชาหุงน้ำมันให้หลวงพ่อเมี้ยนวัดโพธิ์กบเจาจนน้ำมันหลวงพ่อเมี้ยนท่านมีชื่อเสียงโด่งดังนั่นเอง น้ำมันฝ่าวิกฤตินี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นน้ำมันปาฏิหาริย์เพราะใช้ได้ทุกเรื่องอย่างจริงจังสมกับที่ตั้งชื่อให้นั่นแหละว่าฝ่าวิกฤติ ใครที่อับจนหนทางหาทางออกไม่เจอ ท่านว่าอธิษฐานพกไว้กับตัวจะสว่าง เจอทางออกหมด ตัวนี้ใครทุกข์มานี่หลุดหมดเลยนะแก้ไขได้หมด ที่มีหนี้ ที่ล้มถึงกับพินาศล่มจมก็ฟื้นคืนมาได้ โดยในขวดน้ำมันฝ่าวิกฤตินี้ท่านได้นำทรายเสกของท่านเจ้ามา วัดสามปลื้ม กับผงแร่เงินไหลมาผสมไปด้วย และที่สำคัญที่สุดคือตะไบชนวนพระกริ่งพรหมมุนีแท้ๆของสมเด็จพระสังฆราชแพ ท่านว่าวิชาเสกพระกริ่งของสมเด็จพระสังฆราชแพนั้นไม่มีใครเหมือน พระกริ่งท่านอยู่กับใครมีแต่ฉุดดวงเปลี่ยนดวงคนทุกคน ไม่มีใครตกต่ำซักคนมีแต่ต้องเป็นเศรษฐีและมหาเศรษฐีเท่านั้นปัจจุบันแม้คนธรรมดาจะหาดูยังยาก ท่านว่าถ้าพูดถึงในเรื่องคุณวิชาพระกริ่งนั้นแม้นำมาตะไบเป็นผงแล้ว พุทธคุณก็มีเท่าเดิมไม่ได้ลดลงเลย ท่านจึงผสมลงไปด้วยโดยกล่าวว่าจะได้แรงเสมอกัน ท่านว่านี่ใช้แทนกริ่งพรหมมุนีราคาหลักแสนหลักล้านได้เลย และที่สำคัญท่านลงตะกรุดให้เป็นหัวใจของน้ำมันฝ่าวิกฤติด้วย โดยว่าสูตรหัวใจโพธิสัตว์เสกมนต์เชิญครูประจุฤทธิ์ของสิบมหาโพธิสัตว์ในอนาคตวงศ์ใส่ลงไปด้วย ท่านว่าจะได้ดีกับคนใช้เพราะมหาโพธิสัตว์ทั้งสิบนั้นขออะไรก็ได้ท่านเมตตาทุกคนเสมอหน้ากันหมด
    - ตะกรุดบุญบันดาล ท่านว่าวิชานี้แปลก ด้วยว่าบุญนั้นเป็นที่มาของสมบัติพัสถานความสุขสบายต่างๆ เป็นทางให้ไปสวรรค์ เป็นสิ่งนำพาเราไปสู่สุขคติ พ่ออาจารย์ท่านว่าบุญนั้นบันดาลได้ทุกสิ่งด้วยกฏธรรมชาติในตัวของมันเอง วิชาลงตะกรุดบุญบันดาลนั้นพ่ออาจารย์ว่าทำยาก ท่านจึงไม่ลงไม่ทำเป็นสาธารณะหรือทำเป็นจำนวนมากเพราะต้องเลือกคนใช้โดยท่านกล่าวว่าตะกรุดวิชานี้มีตราบุญบัญญัติผู้เป็นเจ้าของทุกดอก ท่านว่าขอให้ทำบุญหมั่นให้ทานไม่ว่าจะเล็กน้อยหรือทานที่ยิ่งใหญ่ ให้แต่พอดีอย่าให้ตัวเองเดือดร้อนเพียงเท่านั้น บุญจะต่อบุญออกไปเรื่อยๆทำให้บันดาลทุกสิ่งที่ปรารถนาเป็นไปได้จริงตามนั้น พ่ออาจารย์ว่าวิชานี้แม้สมบัติเทวดาก็ถือครองได้ ขอให้หมั่นทำบุญทานการกุศลให้เป็นปกติก็พอ
    - ตะกรุดชำระเคาะห์กรรม เป็นส่วนหนึ่งของวิชาพระเจ้าชำระเคราะห์กรรม ท่านว่ามันต้องทำวิชาไปคู่กันเพื่อให้องค์พระสำแดงอานุภาพได้สูงสุด ท่านว่าเอาง่ายๆแบบเห็นตาเปล่ากันเลยอาราธนาพระองค์นี้ที่ท่านลงตะกรุดชำรเคราะห์ฝังไว้ ใครที่ชีวิตเจอเรื่องซวยๆเป็นประจำ ให้สังเกตุดูได้ว่ามันจะค่อยๆลดลงๆอย่างผิดปกติจนถึงหมดไปเลยทีเดียว


    พ่ออาจารย์ท่านสร้างมงคลเทวะนาคาครุฑามนสาเทวีไว้ได้ทั้งหมด 8 องค์ เปิดให้ร่วมทำบุญบูชาเฉพาะทาง PM เท่านั้น ท่านว่าสิ่งสำคัญเลยที่ต้องจำไว้ *มหาเทวีนี้เราใช้ใจระลึกถึงท่านแม้ลืมคาถาท่านก็ไม่โกรธ เราผู้เป็นเจ้าของเป็นศิษย์ของท่านก็ยังระลึกถึงยังเชื่อมต่อกับท่านอยู่เสมอ แต่การที่เราบูชาจะขออะไรจากใครก็ควรรู้ในสิ่งที่ท่านชอบและไม่ชอบเอาไว้ด้วย นั่นคือหากจะขออะไรท่านเป็นเรื่องเป็นราวให้บนขนมโมทก จำเอาไว้พ่ออาจารย์ท่านว่าหาซื้อได้ง่ายๆตามพวกพาหุรัดแถวนั้นจะมีขายเต็มไปหมดเพราะแขกอยู่กันเยอะ เอาแค่ขนมแค่นั้น หากไม่ได้ขนมอันนี้ก็สำคัญเลยถ้ามันไกลหรือเดินทางลำบากจริงๆก็เอาเพียงนมโคสด ขอย้ำว่าต้องเป็นรสจืดธรรมชาติเท่านั้นถวายท่านตามปกติ และเมื่อบูชาไปพ่ออาจารย์ท่านจะมอบผงสินธูระที่เป็นผงแดงให้ไปพร้อมกับองค์พระด้วย ท่านว่าก่อนเลี่ยมนั้นให้เราอธิษฐานฝากเนื้อฝากตัวฝากชีวิตกันให้ดี เสร็จแล้วให้เรานำผงสินธูระนั้นละลายน้ำเล็กน้อยไปเจิมไว้ที่บริเวณหน้าผากของพระนาง เป็นการเบิกความรู้สึกและสัญญาซึ่งกันและกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าเขาจะช่วยเราดุจเลือดในอก รักเราดุจลูกทีเดียว

    คาถาบูชา

    โอม ศรีมหามาตา มัลชา เดวี นะโม นะมะฮา

    * รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น โดยผู้จองให้แจ้งชื่อสกุลไว้ด้วย พ่อาอจารย์ท่านจะเจิมบอกกล่าวพระแม่ให้ก่อนคำรบหนึ่ง ปัจจัยจากการบูชาร่วมสนับสนุนทุนการศึกษษให้กับนักเรียนด้อยโอกาศต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา มงคลเทวะนาคาครุฑามนสาเทวี(เจ้าแม่โปรดสามภพฝังน้ำมันฝ่าวิกฤติ) บูชา 4,000 บาท
    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มีนาคม 2017
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดขอมโบราณลงถมมหาทุคคตะกลับชาติ(เกิดใหม่รวยล้าน)

    สืบเนื่องจากมีหลายคนถามถึงตะกรุดแบบพิเศษ นั่นคือการทำตะกรุดโดยใช้การลงถมตามกรรมวิธีศาสตราพุทธาคมโบราณซึ่งพ่ออาจารย์ท่านไม่ได้เปิดให้บูชาตะกรุดประเภทนี้มาเป็นเวลากว่าขวบปีแล้ว ประจวบกับท่านเห็นว่าปัจจุบันนั้นสมควรจะนำออกมาให้บูชาได้ ด้วยท่านได้รับอนุญาติและมติจากครูบาอาจารย์ในโลกทิพย์ ถึงความทุกข์ยากและภัยอันจะอุบัติกับมนุษย์ในเบื้องหน้า

    พ่ออาจารย์ท่านจึงนำตะกรุดชุดพิเศษที่ได้ชื่อว่าทำยากที่สุดออกมาให้ร่วมทำบุญ ซึ่งตะกรุดชุดนี้ท่านได้เอาตะกั่วขอมโบราณพันปีที่ขุดได้ใต้ปราสาทขอมโบราณอันมีคนนำมามอบให้ โดยท่านว่าตะกั่วขอมนี้มีความศักดิ์สิทธิ์มากเนื่องจากผ่านพิธีกรรมซึมซับอานุภาพแห่งเทพยดาต่างๆมานานนับพันปี เมื่อได้มาท่านจึงนำมาประสระล้างอาถรรพ์และนำไปหลอมรีดเป็นแผ่นนตะกั่วอย่างหนาก่อนจะนำมาทำการลงถมด้วยวิชาศาสตร์พิชัยสงครามต่างๆครบถ้วนกระบวนยุทธิ์ ไล่ตั้งแต่ลงอักขระเรียกสูตรรัตนมาลา มหาองการสิบสามบท มหาปราบ มหาระงับ มหาจักรพรรดิ์ สุริยาทรงรถ พระอาทิตย์ทรงกลด เดือนตะวันเบิกเมฆและใส่กลบทนารายณ์อวตารทั้งแปดภาค รวมไปถึงอิติปิโสกลบทสำคัญอีกหลายสิบพระคาถาอันได้ชื่อว่าค่าควรเมืองยิ่ง พ่ออาจารย์ท่านเพียรจารปลุกเสก นั่งหลอม ส่งรีด ลงจารใหม่ ทำเช่นนี้ซ้ำไปซ้ำมาจนได้ 108 ครั้งลังจากนั้นท่านจึงรีดแผ่นตะกั่วขอมโบราณนี้อีกคำรบหนึ่งก่อนนำมาแช่น้ำทิพย์มนต์โดยท่านเรียกพิธีนี้ว่าชุบแผ่นดิน ทำพิธีมุรธาภิเษก เปรียบแผ่นตะกั่วนั้นดุจผืนแผ่นดินอันรองรับจอมเขาและมหาสมุทรเพื่อให้เหมาะสมที่จะลงจารประทับมหายันต์สำคัญลงบนแผ่นตะกั่วอันเปรียบกับพื้นสุวรรณปฐพีนั้นทีเดียว

    ด้วยมติแห่งครูบาอาจารย์พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ปลกพระเวทย์สำคัญขึ้นมา ท่านเรียกว่ามหาทุคคตะกลับชาติ โดยท่านอธิบายว่าอันมหาทุคคตะนั้นก็คือยอดของคนเข็ญใจเลยทีเดียวกล่าวให้เข้าใจโดยง่ายก็คือในมหาทิศทั้งสี่นี้จะหาใครลำบากหรือน่าเวทนามากกว่ามหาทุคคตะนี้ไม่มีอีกแล้ว มหาทุคคตะกลับชาตินั้นคือวิชาที่ว่าด้วยการสำเร็จผล เปลี่ยนกลับชีวิตด้วยอำนาจพุทธบารมีตลอดจนบารมีของพระอรหันต์เจ้าองค์สำคัญต่างๆ ท่านว่าวิชาเช่นนี้กระทำได้ยากเพราะมีอานิสงค์มาก เนื่องจากมีอานิสงค์ทันตาเห็นนั่นคือต้องเปลี่ยนเดี๋ยวนั้น ต้องสำเร็จผลเดี๋ยวนั้น เสมือนได้ถวายมหาทานแก่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสมือนพระอินทร์ได้ถวายทานพระมหากัสสปะหลังออกนิโรธสมาบัติ เสมือนได้รับพระพระสีวลีมหาเถระ พระมหากัจจายนะ แลพระอนุรุทธศากยะเช่นนั้น


    พ่ออาจารย์ว่าวิชาเช่นนี้หาได้ยากและทำยาก เพราะต้องลงนะสำคัญที่ท่านเรียกว่านะพระพุทธบาทลงไป ท่านว่านี่คือสิ่งสำคัญและเป็นสิริมงคลนัก เพราะเป็นสัญลักษณ์ของมหาบุรุษเป็นสัญลักษณ์ของพระพุทธเจ้ามีอานุภาพมากเสมอด้วยรอยพระพุทธบาทอันสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงอธิษฐานประทับไว้ทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อได้อาราธนาหรือพกติดตัวและน้อมใจมั่นตั้งจิตสักการะบูชาแล้ว การบูชาย่อมมีอานิสงค์เป็นมหัศจรรย์ ดังนี้
    - ปิดหนทางอบายภูมิทั้งสี่ มีแต่การอุบัติในภพภูมิที่สูงขึ้นจนกว่าจะถึงพระนิพพาน
    - เสมือนได้เห็นและคอยอุปัฏฐาก ถวายบูชาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยตรงมีอานิสงค์ไม่มีประมาณ
    - ดุจว่าได้เดินตามรอยบาทและแนวทางแห่งพระตถาคตเจ้าไม่ออกนอกเส้นทางสัมมาปฏิบัติ
    - เป็นการเปิดทางบุญ เมื่อได้ใกล้ชิดกับสมเด็จพระบรมศาสดาแล้ว ก็เสมือนตัวเรานั้นได้บำเพ็ญบุญกิริยา ด้วยกาย วาจา ใจ ไม่ว่าจะทำสิ่งใดล้วนเป็นบุญทั้งสิ้น
    - ปรากฏเกียรติยศชื่อเสียงเป็นที่เลื่องลือ
    - ปรากฏญาณ ปัญญา ฉลาดยิ่งกว่าบุคคลทั้งหลาย
    - อุปาทวภยันตรายก็ดี โรคภัยไข้เจ็บก็ดี ศัตรูทั้งหลายก็ดี อันใดจักมี อันนั้นจักหายไป
    - ย่อมสุขสมบูรณ์ปรากฏด้วยทรัพย์สิ่งของ เงินทอง ธนสารสมบัติอันเป็นของตนเอง
    - อุดมด้วยตบะฤทธิ์เดช ไม่เสื่อมถอย
    - ประสบสุขในสังสารวัฏมีบุญญาภิสมภารมากยิ่งกว่ามนุษย์แลเทวดาทั้งปวง
    - เมื่อถึงที่สุดแห่งทุกข์จะกระทำให้แจ้งในปฏิสัมภิทา 4 วิโมกข์ 8 และอภิญญา 6


    ท่านว่าเมื่อลงนะพระพุทธบาทแล้วท่านต้องกำหนดจิตเชิญครูในพระนิพพาน เชิญสมเด็จองค์ปฐมขอพุทธานุญาติให้ประชุมสภาพระผู้พิชิตมารสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งปวง เพื่อจะบอกกล่าวและขอพุทธบารมี ท่านว่าเมื่อกำหนดจิตดูนั้นพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ท่านก็จะเมตตามาอธิษฐานประทับรอยพระบาทลงไปทับซ้อนกันไปเรื่อยๆค่อยๆกระทำไปทีละองค์จนครบถ้วนทุกพระองค์ ถึงแม้จะเป็นเวลาในโลกทิพย์ก็ยังกินเวลาพอสมควร พ่ออาจารย์ท่านว่าเพราะเช่นนี้ เพราะเราต้องการจะรองรับพุทธบารมีให้ได้มากที่สุด จึงจำเป็นต้องใช้แผ่นตะกั่วที่ทำขึ้นจากตะกั่วขอมโบราณพันปี ซึ่งเป็นวัตถุที่รองรับและกักเก็บอานุภาพได้ดีที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อเสร็จพิธีตรงนี้แล้วรอยพระพุทธบาทนี้ถือว่าเป็นของสำคัญ เป็นมหากายสิทธิ์โดยธรรมชาติ ท่านว่าแม้เหล็กไหลน้ำหนึ่งก็ยังไม่มีคุณประเสริฐเทียบเท่า หากไปประดิษฐานอยู่ที่แห่งใดหรือกับใคร เทพยดาตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายย่อมติดตามคอยอารักขารอยพระบาทตลอดจนผู้บูชานั้นให้เจริญยิ่งขึ้นไปอีกโสตหนึ่ง


    เสร็จแล้วท่านจึงลงอาถรรพ์วิชาทุคคตะกลับชาติ ท่านว่าวิชานี้เป็นวิชาที่เปลี่ยนกลับได้ทุกสิ่ง ให้ดีขึ้น เจริญขึ้น ซึ่งท่านว่าลงได้ยากเพราะต้องลงล้อมทั้งหน้าและหลัง ซ้ำต้องลงองค์พระไว้อีกสี่องค์ ทั้งนี้องค์พระทั้งสี่นั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อลงก็ต้องกำหนดจิตนึกถึงองค์ท่าน นั่นคือ
    - องค์พระมหากัสสปะ
    - องค์พระอนุรุทธะ
    - องค์พระสีวลี
    - องค์พระมหากัจจายนะ
    ซึ่งพ่อาจารย์ว่าพระมหาเถระทั้งสี่นั้นล้วนแค่มีคุณานุภาพมากเป็นเอนกปริยาย องค์พระมหากัสสปะนั้นก็ชอบเข้านิโรธสมาบัติใช้การโปรดสัตว์ด้วยบิณฑบาตรทานหลังออกจากนิโรธสมาบัตินั้นเปลี่ยนคนเข็ญใจเป็นคหบดีมามากกว่ามาก แม้องค์พระอนุรุทธะก็เป็นพระผู้ไม่รู้จักคำว่าไม่มี ไม่ได้ ไม่รู้ยากรู้จน ส่วนองค์พระสีวลีกับพระมหากัจจายนะเถระนั้นก็เป็นผู้อุดมด้วยลาภสักการะมีบารมีเฉพาะทางเป็นที่สรรเสริญยิ่งนัก ท่านจึงอาราธนาคุณแห่งพระมหาเถระทั้งสี่นี้ให้มาโปรดและช่วยเหลือคนให้รอดพ้นจากภัยพิบัติและภัยอันเกิดจากความตกต่ำทางเศรษฐกิจที่จะบังเกิดขึ้นในอนาคตกาล


    พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้สำคัญนัก หากผู้มีศรัทธาแรงกล้า แม้ได้พบเห็นก็เสมือนหนึ่งได้เห็นพระตถาคตเจ้าแล้ว เขาจะเกิดปิติด้วยศรัทธาและนำไปกราบไหว้กระทำสักการะบูชาสรรเสริญพระพุทธคุณ พ่ออาจารย์ท่านว่านี่เป็นวิชาของพระพุทธเจ้าโดยเฉพาะที่ได้แสดงไว้เพื่อหวังอนุเคราะห์สัตว์ทั้งหลายอันเป็นพุทธเวไนย สิ่งที่จะเกิดขึ้นนับจากนี้ไปเป็นสิ่งเหนือธรรมชาติที่จะรู้ได้เฉพาะตน โดยสัตว์ทั้งหลายอันเป็นพุทธเวไนยนั้นนั่นคือผู้ที่มีแต่สมเด็จพระตถาคตเจ้าเท่านั้นที่จะโปรดให้บรรลุธรรมได้แม้พระอรหันต์ทั้งหลายก็ไม่อาจโปรดให้บรรลุธรรม ท่านว่าบุคคลใดที่เข้าถึงด้วยศรัทธา เมื่อเขาอยู่ในโลกมนุษย์ก็ย่อมถึงซึ่งมนุษย์สมบัติทั้งปวง แม้ธาตุสังขารแตกดับล่วงไป ย่อมไปเสวยทิพย์วิมานในสวรรค์มีอำนาจมากในเทวโลกหากละจากสวรรค์แล้วย่อมถึงที่พระเจ้าจักรพรรดิราชสมบูรณ์ด้วยรัตนะทั้งเจ็ด พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้เราอยากจะบอกและย้ำว่าเป็นตะกรุดสำคัญมากเพราะมันล้างและเปลี่ยนชะตากรรมของคนได้ทันทีนับแต่ชาตินี้ถึงชาติภพหน้า หากเขามีศรัทธามั่นคงในพระพุทธคุณมากพอ ซึ่งวิชานี้ท่านว่าไม่ใช่ของที่จะพบเห็นกันได้ง่าย แม้ครูบาอาจารย์ท่านหรือสมเด็จในนิพพาน ต้องการจะให้ผู้ใดพบหรือผู้ใดเห็น ก็จะเห็นจะรู้และเข้าใจถึงพระพุทธคุณเฉพาะตัวผู้นั้น ด้วยบุญสัมพันธ์อันจะได้เกื้อกูลสืบเนื่องกันมา

    พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ท่านกล่าวมากไม่ได้เพราะเป็นความลับเบื้องบน ท่านมีเพียงหน้าที่ทำให้กับคนที่คู่ควรเท่านั้น ซึ่งเสด็จพระใหญ่ท่านจะพิจารณาของท่านเองว่าใครควรเห็น ควรพึงใจ เห็นประโยชน์ใหญ่อันจะบังเกิดกับตนในเบื้องหน้า เอาว่าสมชื่อทุคคตะกลับชาติ(เกิดใหม่รวยล้าน)นั่นพอ ไม่ว่าจะเคยเจออะไร จะตก จะต่ำ จะแย่มาจากไหน หากเชื่อว่าตัวเองเปลี่ยนได้ เชื่อว่าจะดีขึ้นได้ ทุกสิ่งย่อมเป็นไปตามนั้นฉับพลันทันที ได้เกิดใหม่ มีชีวิตใหม่ ลืมความทุกข์กันทุกคน


    คาถาบูชา
    อิมัง พุทธปาทัง สัจจะ คาระเวนะ วันทานะ นะมามิหัง ทุติยัมปิ อิมัง พุทธปาทัง สัจจะ คาระเวนะ วันทานะ นะมามิหัง ตะติยัมปิ อิมัง พุทธปาทัง สัจจะ คาระเวนะ วันทานะ นะมามิหัง สาธุ มหาโลกัง สัพพะพุทธานัง ปาทะเจติยัง ชินะธาตุ จะ ฐะเปตฺวา อะหัง วันทามิ ทูระโต อะหัง วันทามิ สัพพโส


    ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีพุทธานุภาพสูงมาก ทั้งยังสมบูรณ์ด้วยสาวกบารมีแห่งองค์พระอรหันต์ที่ได้ชื่อว่าอุดมด้วยลาภสักการะสำคัญทั้งสิ้น ท่านว่าทำยากเสกยาก เพราะหาฤกษ์แทบจะไม่มี แต่เมื่อทำเสร็จท่านว่ามันก็คุ้มกันกับที่รอคอย ตะกรุดเช่นนี้ท่านว่าหากจะติดตัวก็ดียิ่งเพราะจะได้เจริญพุทธานุสติตลอดเวลา แต่หากจะไปกระทำสักการะบูชาก็ให้หาผ้าขาวปูรอง วางตะกรุดไว้ บูชาด้วยดอกมะลิและน้ำสะอาดเถิดไม่ว่าจะบูชาด้วยวิธีไหนหากตั้งใจกระทำสักการะบูชาย่อมมีอานิสงค์มาก ยิ่งกว่าคำว่าค่าควรเมืองทีเดียว


    * พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้นอกจากตัวท่านแล้วก็มีเจ้าของที่คู่ควรทั้งสิ้นหกคน ดังนั้นท่านจึงขออนุญาติเสด็จพระใหญ่ลงไว้ทั้งสิ้นเจ็ดดอก โดยตัวท่านได้นำไปสักการะบูชาของท่านเองดอกหนึ่งด้วย ท่านว่าวิชานี้เป็นสิ่งที่เกิดจากพุทธนิมิต ท่านจึงมั่นใจมากว่าพุทธานุภาพนั้นต้องการจะสงเคราะห์สัตว์เฉพาะกาลเฉพาะวาระจริงๆ ท่านทำไว้เปิดให้บูชาทั้งสิ้นหกดอก ซึ่งคนใกล้ชิดที่รู้ข่าวก็เริ่มจองกันเข้ามาบ้างแล้วแต่ท่านก็พิจารณาให้รับเป็นรายบุคคลไป รายการนี้หากใครจะบูชาให้ส่งรายละเอียด วันเดือนปีเกิดตลอดจนชื่อสกุลไว้เฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้จากการบูชาร่วมบริจากบุญวิหารทานต่อไป


    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดขอมโบราณลงถมมหาทุคคตะกลับชาติ(เกิดใหม่รวยล้าน) 3,000 บาท

    035.jpg 1392008998.jpg SAM_5290.jpg SAM_5291.jpg [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา พระเจ้าเหยียบเมืองประจัญบานฝังงั่งล่อฟ้า(ขุนแผนออกศึก)

    วิชาในการสร้างการทำพระขุนแผนนั้น พ่ออาจารย์ท่านบอกกล่าวว่ามีอยู่หลายชนิด แต่ที่เป็นพระสำคัญและหาคนทำได้น้อยและเมื่อทำก็ไม่ทำกันเต็มวิชาจริงๆ นั่นคือพระขุนแผนประจัญบานนั่นเอง ขุนแผนประจัญบานหรืออีกนามที่ทานเรียกขานว่าขุนแผนออกศึก พ่ออาจารย์กล่าวว่าฟังดูแล้วเหมือนทำให้คนไปรบนะ แต่ที่จริงพระนี่เราก็ทำให้คนเขาเอาไปรบจริงๆนั่นแหละ ไม่ใช่ด้วยว่าเป็นการรบเช่นศึกสงครามที่ไหน แต่เป็นการรบเพื่อเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของสัตว์ทั้งหลายในสังสารวัฏ ด้วยการดำรงค์ชีพอยู่ในโลกปัจจุบันนี้นอกจากเราจะต้องรบหรือสู้กับผู้อื่นแล้ว เรายังจะต้องสู้กับใจตนเองอีกด้วย ท่านว่าให้ถามใจตัวเองดู หากเราไม่สู้ทุกวันนี้เราจะอยู่ได้หรือไม่ ดังนั้นพระเจ้าเหยียบเมืองประจัญบานหรือขุนแผนออกศึกนี้ท่านว่าไม่ว่าจะศึกไหน จะศึกรัก ศึกชีวิต ปัญหาการทำมาหากิน ศึกทุกอย่างที่เราต้องเข้าไปเผชิญอยู่ในสถานการณ์นั้นๆ เอาว่าได้ชัย ชนะได้ทุกศึกทีเดียว ท่านว่าแม้แต่ความรักสมัยนี้ยังต้องแย่งกันเลย ไม่มีอะไรที่ไม่มีการแข่งขันหรือได้มาง่ายๆ ดังนั้นขุนแผนออกศึกนี้จึงเป็นพระที่ท่านสร้างเพื่อจะเติมเต็มชัยชนะให้แก่ผู้บูชานั่นเอง


    พิมพ์พระสำคัญไฉน
    ทำไมพระขุนแผน ถึงเป็นรูปขุนแผนขี่ช้าง ดูแปลกตากันหรือไม่ มีขุนแผนสำนักใดทำกันเช่นนี้ พระขุนแผนออกศึกนี้ แต่เดิมพ่ออาจารย์ท่านตั้งใจจะทำเป็นพิมพ์องค์พระพุทธธรรมดา แต่บรมครูมหาพรหมแห่งปัญจสุทธาวาส คือท้าวสหัมบดีนั้นได้เมตตานิมิตรูปมงคลให้ ท่านว่าพิมพ์พระพิมพ์นี้ลึกซึ้งนัก สมกับที่ท่านตั้งใจจะทำวิชาขุนแผนออกศึกจริงๆ พ่ออาจารย์ท่านว่ารูปมงคลนี้สำเร็จด้วยแรงครูมีความหมายต่างๆประดามี และเมื่อสร้างเมื่อทำนั้นคุณครูท่านได้ลงมาประสิทธิ ท่านว่าเป็นของสำเร็จมีฤทธิ์แรงนัก ซึ่งขุนแผนออกศึกนั้นมีอานุภาพสำคัญด้านต่างๆ ดังต่อไปนี้

    - ช้างเป็นสัตว์มงคล สื่อถึงความอุดมสมบูรณ์เป็นมหาอุดม ท่านว่าเปลี่ยนชีวิตคนที่ตกต่ำให้บริบูรณ์ขึ้นจนถูกเติมเต็มไปด้วยความสุข พ่ออาจารย์บอกว่าตรงนี้สำคัญเพราะเมื่อทำพระ องค์บรมพรหมท่านให้เราเสกลงหัวใจพญาช้างปาลิไลย์ ไว้ที่ตัวช้างด้วย ซึ่งพญาช้างปาลิไลย์นี้เป็นมหาโพธิสัตว์ใหญ่อันจะได้ตรัสเป็นสมเด็จพระสุมังคลสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตกาล ท่านว่าเป็นมหาสัตว์ที่มีบารมีมาก สามารถรื้อถอนขนถ่ายนำสัตว์ออกจากทุกข์ได้ ดังนั้นพระรุ่นนี้อยู่กับใคร ติดตัวผู้ใดรับรองว่าทุกข์หาย เคราะห์จาง ความเศร้าโศกสิ่งใดบรรดามีจะบรรเทาเบาบางลงตามลำดับ ด้วยว่ามหาสัตว์นั้นจะรื้อขนนำพาชีวิตไปสู่แสงสว่างจนกระทั่งมีชีวิตที่อุดมสมบูรณ์เป็นปกติสุขนั่นเอง

    - ช้างเดินทัพ หมายถึงช้างมีลักษณะก้าวเดินไปข้างหน้า ท่านว่าชีวิตคนใช้ย่อมต้องก้าวหน้า ท่านอธิษฐานฝากครูและมหาโพธิสัตว์เอาไว้ว่าจะให้เขาถอยหลังไม่ได้ ลืมตาตื่นมื้อนี้หรือวุ่นรุ่งพรุ่งนี้ ไม่ว่าจะลืมตาตื่นวันใดมีแต่ต้องก้าวหน้าต่อไปทุกวันไม่หยุดอยู่กับที่หรือถอยลงเหว ท่านว่าฝากให้มหาโพธิสัตว์ท่านรับเป็นภาระในการสงเคราะห์คนหนนี้

    - ช้างเหยียบเมือง องค์พระขุนแผนออกศึกนั้นเป็นพระที่พ่ออาจารย์ลงวิชาสำคัญไว้หลายประการ หนึ่งในนั้นคือช้างเหยียบเมือง ท่านว่าช้างเป็นสัตว์ใหญ่ หากเป็นช้างธรรมดาก็มีเดินกันขวักไขว่ถมไป แต่หากเป็นพระคชาธารช้างศึกแล้วการได้เหยียบเมืองหรือเข้าเมืองแล้วนั้น นั่นหมายถึงชัยชนะ พ่ออาจารย์บอกว่าช้างเหยียบเมืองนี้คือวิชาที่หนุนนำพาเราไปสูชัยชนะ ไม่ว่าจะทำอะไรทั้งสิ้น เอาว่าต่อไปนั้นแพ้ไม่เป็น จะจีบเขาก็เป็นต่อเขา จะทำงานหรือเข้าแข่งด้านธุรกิจ ด้านการเจรจา จะเข้าสังคม หรือทำสิ่งใดต่างๆบรรดามีก็ตาม ที่มีคู่แข่ง ท่านว่าชนะหมดเห็นชัยชนะตั้งแต่ยังไม่เริ่มทีเดียว

    - พิฆาตไพรี พญาช้างเป็นสัตว์ใหญ่ดุร้าย แม้เดินไปแห่งใดสัตว์น้อยใหญ่ย่อมตระหนกและหวาดกลัวในอานุภาพ ย่อมถอยร่นห่างหนีไม่เอาชีวิตมาใกล้ พ่ออาจารย์ท่านว่าช้างนี้ท่านผูกไว้ดีแล้ว ศัตรูหมู่มารทั้งหลายทำอันตรายเราไม่ได้เขาเกรงพ่อพลายนี้จะกะทืบเสียหมด พระนี้ให้เอาติดตัวไว้อย่าให้ห่างท่านว่าพิฆาตไพรีพินาศราพนาศูร แม้เจ้ากรรมนายเวรจะอาฆาตกันมาแต่ชาติไหนเขาก็เกรงใจเรา ไม่ทำร้ายหรือเล่นตุกติกกับชีวิตเราได้เลย ที่ว่าเกรงใจเรานี้คือไม่ใช่เขาเกรงใจฉัน แต่เขาเกรงใจช้างดุๆเชือกนี้เกรงใจปาลิไลย์บรมโพธิสัตว์นี้

    - ขุนแผนขี่ช้าง ท่านว่าขึ้นขี่คือได้ครอบครอง ดุจว่าตัวคนใช้นั้นต่อไปจะได้ครองแต่ความสุขมีชีวิตสมบูรณืไปด้วยธนสารสมบัติและสุขสวัสดิ์ทุกประการจากคนธรรมดาจะกลายเป็นคนมีวาสนาดุจท้าวพระยาเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่แต่เพียงเท่านั้น นี่ยังเป็นเล่ห์กลทางเสน่ห์เมตตาด้วย ขุนแผนก็ดุจตัวของเรา ขี่ช้างก็คือการได้ปฏิสัมพันธ์กับคู่ครองที่ดี ซึ่งใครที่ยังไม่มีคู่หรือหวังสูงจะจีบดอกฟ้านั้น ท่านว่านี่เหมาะนัก เพราะช้างเป็นสัตว์ใหญ่มีอำนาจวาสนามาก ท่านว่าจะได้เจอคนดีมีอำนาจวาสนาและชักพาให้ชีวิตเราเจริญรุ่งเรือง พ่ออาจารย์ว่าพระรุ่นนี้ดีมาก ใครที่คิดจะเจอแบบเล่นๆ คนที่เค้าจะเข้ามาหลอกเรา มาทำให้เราเสียทรัพย์เสียชื่อเสียงทุกสิ่ง ครูท่านปัดทิ้งไปหมดเลย ท่านว่าเรื่องไม่ดีจะไม่มีโอกาสเกิดแม้แต่เพียงเริ่มทีเดียว


    เมื่อท่านนำไม้ขนุนมาแกะบล๊อคเสกแม่พิมพ์ตามพิธีกรรมเสร็จแล้วท่านว่าจะทำพระสำคัญท่านจึงตั้งใจนำผงสำคัญมาผสม ทั้งว่านยาที่ท่านปลูกและกู้เองตามพิธีกรรมไว้ ซึ่งว่านนั้นจะประกอบไปด้วย ว่านดอกทอง ว่านเสน่จันทร์ ว่านเทพรัญจวน ว่านสาริกาลิ้นทอง ว่านกระแจะจันทร์ ว่านช้างผสมโขลง ว่านขุนแผน ว่านเมตตาใหญ่ ว่านจูงนาง ว่านสาวหลง ว่านนางล้อม ว่านนางเกี้ยว ว่านแสนนางล้อม ว่านห้าร้อยนาง ผงจันทร์ชมด ผงจันทร์ใด ผงจันทร์ดี ผงจันทร์แดง ผงจันทร์ขาว ท่านได้นำผงว่านต่างๆเหล่านี้เป็นมวลสารตั้งต้น และผสมด้วยผงดินเจ็ดปราสาทขอมโบราณสมัยพระเจ้าชัยวรมันซึ่งท่านได้เดินทางไปพลีมา เป็นดินปราสาทบริเวณที่ทำพิธีกรรมท่านว่ามีอาถรรพ์ราชาเวทย์สูงและรุนแรงยิ่งนักอาถรรพ์ตัวนี้จะหนุนคนให้ขึ้นสู่ที่สูง เป็นผู้นำเป็นจอมคน ประเสริฐเลิศยิ่งกว่าคนทั้งหลาย นำมานวดกับผงวิเศษซึ่งได้มาแต่พนมกุเลนมเหนทรบรรพต พ่ออาจารย์บอกว่าผงนี้เราก็ไม่รู้ว่าผงอะไร แต่ไปเจอมาเทวดาเขานิมิตให้ไปขุด เคยนำไปให้ครูบาอาจารย์ดูตอนนั้นท่านว่าจะถวายหลวงพ่อฤาษีไว้ให้ท่านสร้างพระส่วนนึง กับจะเอามาเก็บไว้ทำพระสมเด็จองค์ปฐมส่วนนึงแต่หลวงพ่อท่านปรามไว้ก่อน ท่านว่านี่มันผงนางอัปสร ของนับร้อยนับพันปีนี้ไปเอามาจากไหน ตอนนั้นพ่ออาจารย์ก็เรียนไปว่าได้มาแต่มเหนทรบรรพต ท่านจึงปรามว่าผงนี้ให้เก็บไว้ เขาเอาไว้ทำพระเจ้าชู้ ถ้าไม่ใช่เราแล้วอย่าให้พระรูปใดจับอีก เดี๋ยวจะหมดบุญไม่ได้ครองผ้ากาสาวพัสตร์กันเสียเปล่า พ่ออาจารย์ท่านก็เก็บผงนางอัปสรไว้จนท่านทำพระขุนแผนออกศึกนี้ ท่านว่าท่านเทหมดหน้าตักเลย มีเท่าไหร่ใส่หมด พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนางอัปสรนี้เชื่อได้เลยว่าแม้แต่เราก็ทำไม่ได้ เนื่องจากสำเร็จด้วยบรมครูยุคเก่านับพันปีล่วงมาแล้ว ประกอบกับท่านตั้งใจไว้แต่แรกจะไม่ใส่ลงไปในเครื่องมงคลที่เป็นรูปสมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดา ก็มาโอกาสนี้ที่ได้ทำพระขุนแผนออกศึก ท่านว่าไม่ใช่รูปพระศาสดาแต่อย่างใด ท่านเลยใส่ให้เต็มๆเลย ท่านว่าใช้ผงล้วนๆนวดกับน้ำมันช้างตกมันทีเดียว

    สำหรับองค์พระขุนแผนออกศึกรุ่นนี้นั้น พ่ออาจารย์ว่าท่านทำจนสำเร็จแต่เบื้องต้นแล้วนั่นคือมติฟ้าหรือเจตนาของครูบาอาจารย์ที่ท่านสร้างตามมติของบรมพรหม แล้วก็มาพิมพ์ทรงที่ต้องมีการวางอาถรรพ์เสกแม่พิมพ์ตั้งแต่เริ่ม ตลอดจนกระทั่งมวลสารต่างๆที่ท่านว่ายอดขลังคือขลังเหนือขลัง ท่านว่าแม้ไม่เสกก็ยังขลัง ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ท่านว่าตัวท่านเองนั้นทำไม่ได้แน่นอนถ้าไม่ได้แรงครูช่วยเหลือหนุนนำให้พบกับมวลสารต่างๆ นอกจากนี้พระเจ้าเหยียบเมืองประจัญบาน (ขุนแผนออกศึก)นั้น ยังฝังของสำคัญต่างๆลงไปด้วย ดังนี้

    - พญางั่งล่อฟ้า พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าหลายคนมักจะเคยใช้งั่ง แต่ไม่รู้จักงั่งหรือบางคนอาจจะรู้จักก็จะรู้จักโดยส่วนเดียว นั่นคือรู้เพียงว่าพ่องั่งนั้นเกิดมาตามเจตน์จำนงค์ขององค์พระศิวะเจ้า เริ่มจากเป็นชายเข็ญใจ สร้างรากฐานด้วยการมีภรรยาไปเรื่อยๆจากสามัญชนจนถึงเจ้าหญิงแคว้นต่างๆ จนตัวเองยกลำดับกลายเป็นราชบุตรเขย เป็นราชา เป็นมหาจักรพรรดิ์ แหวกกฏเผ่าพรรณวรรณะอย่างสิ้นเชิง เหตุการณ์ต่างๆนี้ทำให้มีคนเคารพท่านจนหล่อรูปท่านมากพกและเผยแพร่กันสืบมา แต่หลังจากนั้นพ่ออาจารย์ว่า เมื่อท่านตาย ด้วยกำลังแห่งองค์พระศิวะเจ้าทำให้รูปกายท่านนั้นกลายเป็นเทพวิญญาณ คอยช่วยเหลือบุคคลที่เคารพท่าน ทีนี้เมื่อมีคนเคารพมากขึ้น ท่านก็มีบารมีมีอิทธิฤทธิ์สูงยิ่งขึ้น จนตอนนั้นเองท่านก็มาพิจารณาตัวเอง ว่าการจะดำรงอยู่ด้วยทิพย์สภาวะโดยปราศจากหน้าที่นั้นเป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง ระหว่างที่ท่านหันซ้ายทีหันขวาทีคิดว่าจะทำอะไรดีนั้น ตอนนั้นเองพระกาฬก็มาหาท่าน พ่องั่งหรือพญาหง่างนี้ท่านเป็นเพื่อนสนิทเป็นเกลอกันกับพระกาฬแห่งยมโลก ซึ่งเราทั้งหลายจะรู้จักพระกาฬกันเป็นส่วนมากว่าเป็นบริวารของพญายมราช ทีนี้พระกาฬก็ชักชวนท่านให้เข้าสู่แดนยมโลกพาไปฝากตัวกับพญายมราช ซึ่งพญายมราชก็เต็มใจรับอย่างยิ่ง นับจากนั้นพญาหง่างหรือพ่องั่งก็กลายเป็นมือขวาของพญายมตั้งแต่นั้นมา พ่ออาจารย์ท่านว่าพญาหง่างนั้นได้มาหาท่าน บอกกับท่านว่าท่านเห็นนรกมาทุกขุมแล้ว เห็นคนตกนรกหมกไหม้ ทีนี้แม้สวรรค์ท่านก็ไปมาแล้วเนื่องจากท่านเป็นนิรมาณกายแห่งพระศิวะเจ้าจึงมีอำนาจสามารถเข้าสวรรค์ได้ทุกชั้นทุกภพ ท่านจึงปรารถนาจะให้คนที่บูชาท่านได้พ้นทุกข์ พ้นจากอบายภูมิเหล่านี้ พ่ออาจารย์จึงขออนุญาติพญาหง่างว่าจะแกะรูปท่านไว้ ให้ท่านไปช่วยเหลือคนและจะสอนให้เค้าทำความดีซึ่งท่านก็ยอมรับ พ่ออาจารย์จึงได้นำไม้ช่อฟ้าวัดระฆังของสมเด็จโตซึ่งท่านหั่นไว้เป็นชิ้นเล็กๆ ท่านว่าไม้ส่วนนี้แต่แรกท่านไม่คิดจะนำมาใช้เพราะว่ามันเล็กเกินไปนั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านนำมาแกะเป็นพ่องั่งหรือพญาหง่าง โดยทำตามที่ท่านบอกคือให้แกะเป็นตัวท่านและยกมือสองมือขึ้นมากวักเข้าหาตัว พ่ออาจารย์ท่านว่าไม้มันเก่ามากหมดยางไปแล้วพอเอามาแกะเป็นองค์เล็กเช่นนี้ยิ่งทำได้ยาก แต่ก็น่าแปลก เพราะปรากฏว่าทำได้และมีความชัดเจนทุกองค์ โดยพ่ออาจารย์ได้เชิญพญาหง่างให้จุติปฏิสนธิลงในรูปนี้และช่วยกันเสกจนเกิดเสียงเกรียวกราว พ่ออาจารย์ท่านว่าท่านเรียกว่างั่งล่อฟ้าเพราะแกะจากไม้ช่อฟ้า แต่พญาหง่างท่านเรียกว่างั่งล่อนางฟ้าตามประวัติชีวิตของท่าน ท่านว่างั่งนี้อยู่ที่ไหนท่านจะไปกวักไปหาไปเรียกสิ่งๆต่างตามที่คนเขาปรารถนาตามที่เขาต้องการให้เขามีความสุขครบถ้วนบริบูรณ์ แต่ท่านว่าคนเราเมื่อมีความสุขแล้ว เมื่อสำเร็จแล้ว ท่านว่าท่านขอไว้อย่างหนึ่ง นั่นคืออย่าลืมตัว อย่าลืมความทุกข์ เมื่อทุกสิ่งได้แล้ว ดีขึ้นแล้ว ก็ให้เร่งแสวงหาบุญทานการกุศลอันจะทำให้ตนไปจุติในสุขคติโลกสวรรค์เสีย ท่านว่าอยากให้นรกที่ท่านดูแลอยู่นั้นมันว่างเปล่าไม่มีสัตว์ตกไปใช้กรรมเหลือเกิน ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านก็รับว่า พระรุ่นนี้ท่านอธิษฐานจิดตไว้ให้ตกถึงเฉพาะคนที่คู่ควรเท่านั้น คนที่เดินบนสายบารมี ดังนั้นพญาหง่างไม่ต้องเป็นห่วงไป ไม่มีใครลืมตัวแน่นอน

    - ตะกรุดนางอกแตกเต็มวิชา พ่ออาจารย์ท่านว่าครูบาอาจารย์แต่โบราณนั้นท่านมักจะใช้วิชานางอกแตกโดยถือว่าเป็นยอดของเสน่ห์ ซึ่งก็เป็นวิชาที่ก่อให้เกิดประสบการณ์เป็นอย่างมากแก่ผู้นำไปใช้ชนิดหัวกะไดไม่แห้งเป็นหนุ่มทรงเสน่ห์กันทีเดียว แต่จะมีใครรู้บ้างว่าวิชานางอกแตกเหล่านั้น เป็นเพียงวิชาเพียงเศษเสี้ยวหาใช่ตัวเต็มแต่อย่างใด พ่ออาจารย์ท่านว่าแต่ละครูบาอาจารย์นั้นท่านก็จะเรียนมาต่างกันไป บางคนก็ได้ยันต์ตัวผู้ บางคนก็ได้ยันต์ตัวเมีย แล้วก็ใช้กันเฉพาะเท่านั้นแต่เรียกว่าตะกรุดนางอกแตกเสมอกัน ท่านว่ามาครั้งนี้ท่านทำพระสำคัญ คือพระขุนแผนออกศึก ท่านจึงจะลงตะกรุดนางอกแตกเต็มวิชาไว้เสียวาระหนึ่ง ท่านว่าเราลงใส่แผ่นเงิน ลงไปทั้งตัวผู้ตัวเมียทีเดียว ท่านว่าเมื่อลงเต็มวิชานั้นอานุภาพย่อมมากกว่ของเก่าที่ลงครึ่งๆกลางๆอย่างประมาณไม่ได้ ทั้งนี้ท่านว่าให้อาไปใช้เอง จะได้รู้ ได้เห็นเอง ว่าที่เรียกว่า นางอกแตก แหกอกนาง คิดถึงเราปานจะขาดใจนั้นเป็นอย่างไร

    - ผงไม้อาถรรพ์กามสูตร พ่ออาจารย์ท่านได้นำผงไม้อาถรรพ์นี้มาจากแดนเขมรโบราณ ท่านว่าไม้นี่สำคัญนักไม่ได้ทะลึ่งแต่อย่างใด โดยท่านเรียกว่าผงไม้กามสูตร เนื่องจากตอนนั้นท่านได้นิมิตจากเทพธิดาที่รักษาเทวรูปนางอัปสร ซึ่งเป็นนางอัปสรที่กำลังทำการบำเรอเทพเจ้า พ่ออาจารย์ว่าท่านให้เอาท่านไปด้วย พ่ออาจารย์ท่านจึงทำการพลีและตัดไม้ที่เป็นรูปนางอัปสรนั้นมาเสี้ยวหนึ่ง และพอท่านจะกลับไปตัดมาเพิ่มอีกทีก็ปรากฏว่านางอัปสรไม้นั้นได้อันตรธานหายไปแล้วดุจว่าไม่เคยมีปรากฏมาก่อน พ่ออาจารย์ว่าอย่างกับผีหลอกตอนกลางวัน เศษไม้นั้นท่านจึงได้นำมาตะไบทำผงเรียกว่าผงไม้อาถรรพ์กามสูตร พ่ออาจารย์ท่านว่าพกไว้เถิดดีนักทางเสน่ห์เมตตา แม้จะปรารถนาบนบานขอลาภขอสิ่งใดก็ได้ เทพธิดาเขาย่อมช่วยเราเต็มที่ พ่ออาจารย์ท่านว่าอย่าได้ประมาทไป เห็นเช่นนี้แรงกว่าผงพรายผงผีเสียอีก เพราะเป็นของลับแลเป็นของพวกบังบด หากไม่มีวาสนาต้องกัน จะได้เกื้อหนุนกันหาอย่างใดก็หาไม่เจอและไม่มีวันได้ครอบครอง

    - ผ้าเช็ดหน้าขุนแผน เป็นผ้าที่ครูบาวัง วัดบ้านเด่น ทำวิชาอาถรรพ์ลงมนต์วิเศษเอาไว้ พ่ออาจารย์ท่านว่าครูบาวังนั้นเป็นตำนานของวิชาม้าเสพย์นางเลยก็ว่าได้ แต่เหนือกว่าวิชาม้าเสพย์นางก็คือการทำผ้าเช็ดหน้านี้ ถ้าให้เปรียบกันก็ดุจว่าเป็นยอดวิชา ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านเรียกของท่านเองว่าผ้าเช็ดหน้าขุนแผน เป็นผ้าธรรมดาไม่ใช่ผ้าผีหรือผ้าห่อศพแต่อย่างใด แต่เป็นผ้าอาถรรพ์วิชาที่ใช้ซับพระพักตร์พระเจ้าหรือพระพุทธรูป 108 องค์ ก่อนนำมาลงอักขระกระทำวิชาปลุกเสก แม้ผู้ใดได้พกได้ใช้ก็จะมีสง่าราศีดุจขุนแผนทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาผ้าเช็ดหน้านี้เป็นวิชาที่ครูบาวังท่านหวงแหนมาก ถึงขนาดว่าไม่แม้แต่จะทำบ่อยหรือถ่ายทอดให้ใครเลยทีเดียว ท่านว่าเพราะเป็นมหาเสน่ห์ใหญ่ เป็นมหาเมตตาใหญ่ จะเป็นอันตรายแก่ชนทั้งผองด้วยผู้ใช้ควบคุมอารมณ์ปรารถนาไม่ได้ พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ทำการพลีขออนุญาติครูบาวังนำผ้าเช็ดหน้าสำคัญผืนนี้ที่ท่านได้ตกทอดมา ทำการตัดและแปะลงไปที่องค์พระขุนแผนออกศึกของท่านทุกองค์ พ่ออาจารย์ท่านว่าอย่าดูถูกแม้จะเป็นผ้าผืนเล็กๆ แต่ก็มีฤทธิ์เสมอกับผืนใหญ่ที่สมบูรณ์นั่นเลยทีเดียว ท่านว่าผ้าอย่างนี้พลิกแผ่นดินก็หาไม่เจอ


    คาถาบูชา
    นะนะนะ นะมะอันยัง สาระสาติ สาลิสาตัง ปิยังมะมะ นะพุทธังเทพรัญจวนปั่นป่วนจิต นะจงงงโมจังงัง พุทธหลงไหลอ่อนระทวยไปทั้งกายา ธาท้าวพญาเสน่หารักใคร่ ยะหญิงสาวแก่แม่หม้าย ร้องไห้มากอดรัดมัดสวาทติดพิศวาทจับใจ หลงไหลแนบเนื้อ โมธัมมังเห็นหน้ากูนั่งนิ่งอยู่ไม่ได้ ร้องไห้มาหากู


    พ่ออาจารย์ท่านได้ทำการกดพิมพ์เบิกฤกษ์ไว้และทำการเสกมาเรื่อยๆโดยเน้นฤกษ์เสน่ห์และฤกษ์เศรษฐีทั้งหมด ประกอบกับฤกษ์เสาร์ห้าที่ผ่านมาพ่ออาจารย์ท่านก็นำมาเสกครบทุกฤกษ์ ท่านว่าท่านได้แต่เชิญครูบาอาจารย์มาเสกเพราะท่านไม่มีอะไรที่จะเสกเข้าหรือแทรกซึมลงไปได้แล้วนอกจากเจริญเมตตาแผ่ออกไป นื่องจากพระรุ่นนี้ครูท่านทำให้เองทั้งหมด เรียกว่าเป็นพิธีการของโลกทิพย์เลยทีเดียว และท่านก็ถือโอกาศในฤกษ์เสาร์ห้านั้น นำพระขุนแผนออกศึกมาเจิมด้วยน้ำมันช้างผสมโขลงทีละองค์อีกด้วย


    ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านได้สร้างพระเจ้าเหยียบเมืองประจัญบานฝังงั่งล่อฟ้า(ขุนแผนออกศึก)นี้ไว้ทั้งหมด 8 องค์ โดยท่านได้นำไปมอบให้แก่บุคคลที่มีเชื้อสายสำคัญซึ่งร่วมทำบุญมาหนึ่งองค์ ตลอดจนท่านเก็บไว้เองหนึ่งองค์ ดังนั้นจึงเหลือให้ร่วมทำบุญทั้งหมด 6 องค์นั่นเอง


    * เปิดจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าพระของท่านนั้นเป็นพระพิมพ์ชาวบ้าน รูปทรงแปลกตา แต่จะไปสะกดความรู้สึกของผู้ที่มีวาสนาต้องกันด้วยว่าองค์พระนั้นมีเจ้าของทุกองค์ ถ้ามีวาสนาต้องกันก็จะได้ไปบูชา สำหรับผู้ที่สั่งจองนั้นท่านให้แจ้งชื่อนามสกุลมาด้วย เพราะท่านจะทำการเจิมบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในให้อีกคำรบหนึ่ง รายได้จากการบูชาร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กยากไร้ต่อไป


    ร่วมทำบุญบูชา พระเจ้าเหยียบเมืองประจัญบานฝังงั่งล่อฟ้า(ขุนแผนออกศึก) บูชา 4,000 บาท

    C3925353-5.jpg 7_B1.jpg image.jpg SAM_5294.jpg SAM_5295.jpg vessandorn.jpg
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดเวทย์สวรรค์สารพัดขอ(ชุดพิเศษเนื้อกั่วขอมโบราณลงถม )
    หนึ่งในวิชาพระเวทย์เเต่โบราณ วิชาขั้นสูงสุด ที่หาคนรู้ได้ยาก คนศึกษาได้ยากเเทบจะหายสาบสูญไปเเล้ว

    วิชาทำตะกรุดนี้ถือเป็นการทำตะกรุดครูอีกประเภทของพ่ออาจารย์ที่ว่าด้วยวิชาในหมวดของพระเวทย์สวรรค์ซึ่งเป็นวิชาพระเวทย์เเต่โบราณกาล ปกติท่านจะไม่โปรดนำมาทำมาใช้ซักเท่าไหร่ วิชานี้อักขระที่ใช้เขียนไม่ใช่ตัวธรรมหรือตัวขอม เเต่เป็นอะไรที่ล้ำเเละลึกกว่านั้น ชื่อก็บอกอยู่เเล้วว่าเป็นเวทย์สวรรค์เป็นวิชาของเทวดาเขาใช้กัน นับเป็นโอกาสดีที่พ่ออาจารย์ได้เมตตาทำตะกรุดนี้ให้พวกเราได้เป็นคนใช้ได้เป็นผู้ถือครอง


    พ่ออาจารย์กล่าวว่า" เธอเคยได้ยินวิชาหมากินความคิดของสายอีสานมั๊ยอันนั้นก็เอาไว้ขอเหมือนกันนะ แต่อันนี้คนละเรื่องเลย พุทธคุณคล้ายกันเเต่หนักหน่วงกว่า เอ่ยปากภาวนาขออะไรก็เเล้วเเต่กับตะกรุด ปรารถนาสารพัดที่มีต้องได้ ต้องเห็นผล นี่คือเวทย์สวรรค์ตัวนี้มันให้ผลเเรงเเละไวเเต่ต้องไม่เกินกรรมของเรา "


    ชีวิตคนเรามีความต้องการความปรารถนาไม่รู้จบ จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีวิชาเเละเครื่องรางที่ทำให้เขาได้ในสิ่งที่คิดไปซะหมด เเน่นอนว่ายุ่งไม่รู้จบ วิชาต่างๆจึงถูกเก็บถูกปิดไม่ถ่ายทอดกันเช่นพระเวทย์สวรรค์วิชานี้ ไม่มีการถ่ายทอดเลยเเละก็ห้ามเราถ่ายทอดให้ตายไปกับตัวเราเหมือนกัน


    วิชานี้ขออะไรได้ สารพัดขอเลยเธอเอ๋ย ขอได้ยิ่งกว่าเม็ดกรวดเม็ดทรายในท้องมหาสมุทร มันอันตรายตรงนี้ วิชานี้จะเเรงมากหรือน้อยมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรานะ มันขึ้นอยู่ที่ใจคนใช้ที่ต้องเชื่อมั่นเจ้าตะกรุดนี้โดยปราศจากเหตุผล เเบบว่าเชื่อเต็มร้อยนั่นเเหละมั่นใจมาก มันจะเเรงไม่เเรงเเค่ไหนอยู่ที่ใจคนใช้เลย อันนี้บอกไว้ก่อนว่าถ้ามั่นใจสนิทใจมากก็ยิ่งขอได้ไวมากสำเร็จผลมาก ที่ว่าเป็นดาบสองคมก็เพราะน้ำใจคนนี่มันน่ากลัวมันไม่ได้มีจำกัดนะ ถ้าศรัทธาเชื่อมั่นเเละถือขึ้นมันก็จะยิ่งทับทวีเเละยิ่งขึ้นเอาขึ้นเอา ทีนี้เเหละจะเปรียบให้เห็นภาพก็เหมือนเล่นลมบนบินสูงอย่างพญาครุฑเลย


    ก็ตามที่บอกว่าเป็นวิชาของเทวดา เทวดาเขาใช้กัน วิชาเหล่านี้จึงไม่มีปะปนหรือมีให้เห็นเเพร่หลายนัก เราเองก็เลือกคนให้เพราะว่ามันเเรงเท่ากับใจคนใช้ เเล้วคนส่วนมากที่กล้ามาเอาใจเขาก็เเรงมันก็ยิ่งเสริมยิ่งผลักให้สำเร็จไปกันใหญ่ เเต่เราก็ต้องดูจริตคนนะ ต้องไม่มากไปไม่มักใหญ่ใฝ่สูงถึงจะให้เขาเอาไปบูชาได้ ถามว่าใช้ได้เเค่ไหนขออะไรได้ ให้ใช้ใจเราเป็นมาตรฐานว่าควรจะขอมั๊ยดีกว่า ขอได้ให้อยู่ในกรอบสิ่งที่ดีงามเเละความเจริญก้าวหน้าของตนเอง


    ทีนี้มาดูกันต่อ วิชานี้ถ้าเราเอาไปขอซี้ซั่ว มันได้มั๊ย มันก็ได้ เเต่ได้เวรกรรมติดมาด้วย ก็บอกเเล้วว่าเป็นวิชาของเทพยดาเขาใช้กัน มันไม่ใช่วิชาของมนุษย์ ไปไหนเขาก็ตามกันไปเป็นสื่อให้เราเข้าถึงเขาง่ายว่าก็ว่าเถอะ ไอ้ของเเบบนี้เวลาได้มันได้มากเเต่ถ้าเอาไปใช้ผิดมันจะเจ็บมาก เวรกรรมจะสนองไว

    วิชานี้แปลกนะ เวลาเราลงจะเป็นเสมอๆ น้ำมูกน้ำหูน้ำตาจะไหลมาเองแบบอัตโนมัติ ถ้าไปทำให้ใครเห็นเขาจะนึกว่าเราบ้า นั่งเขียนภาษาอะไรก็ไม่รู้ขอมก็ไม่ใช่ธรรมก็ไม่ใช่ เขียนไปร้องไห้ไปมีปิติตั้งไว้สูงถึงขนาดนั้น กว่าจะเสร็จดอกนึงนี่ก็เล่นเอาเหนื่อยมาก เพราะไปเเตะของสูง วิชาของเบื้องบนเขา


    และวิชานี้ที่ใช้ขอได้สารพัดมันธรรมดาซะที่ไหน ต้องลงเต็มแผ่นทั้งหน้าหลังทีเดียวไม่ใช่เขียนไม่กี่ตัว กว่าจะได้คนทำร่างกายก็เเย่ ถ้าสั่งปั๊มก็ไม่ได้เรื่องอีกเพราะสูตรการลงเรารู้อยู่เเก่ใจว่ามันต้องทำยังไง ต้องทำมาจากมือของเราจะเเค่ปั๊มมาเป่าก็ไม่ได้


    ทีนี้เราก็เเค่ปรารถนาให้คนได้ไปเขาใช้ให้ถูกทำนองคลองธรรมเเค่นั้น มนุษย์นี่มีปากมีความปรารถนา ตะกรุดนี่เหมาะกับคนช่างขอ ขอไปเถอะ ขอจนกว่าจะได้เเละอย่าหยุดที่จะขอ ถ้าขอเเล้วยังไม่ได้ให้ตัดพ้อน้อยเนื้อต่ำใจว่าออกไปเลยนั่นเเหละได้เเน่ แบบขอมานานแล้วไม่ได้ซักที ทีนี้ก็บ่นได้แล้วเปลี่ยนจากขอมาเป็นบ่นตัดพ้อไปเลย เทวดาบางทีเขาก็ยึกยักลังเล เเต่เขากลัวอบายภูมิถ้าเราตัดพ้อว่าเค้ารับรองว่าไม่กล้าไม่ช่วย ประสงค์จะสื่อจะขอองค์ไหนก็ออกนามท่านไปเลย เพราะเวทย์สวรรค์นี้สื่อได้หมด

    ถ้าเรื่องมันใหญ่มันพูดกันยาก อยากเห็นผลไวมาก ให้เอากระถางธูปมา เอาตะกรุดนี่ปักไว้ จุดกลางเเจ้งนะ ธูป36ดอก จุดบอกเขาไปพอธูปหมดให้เก็บตะกรุดทันที ได้เรื่องเเน่ เเค่ขอธรรมดาลำพังตะกรุดนี้ก็ขึ้นชื่อว่าเเรงมากเเล้ว

    ตะกรุดนี้ให้คาดไว้ติดเนื้อติดตัวห้ามต่ำกว่าเอวนะ มันจะไม่ดี เป็นตะกรุดที่ม้วนหนาน้ำหนักเอาเรื่องอยู่ ทำให้เห็นให้รู้ไว้ว่าของสูงเเละพระเวทย์ดึกดำบรรพ์ที่อาถรรพ์เเรงให้คุณมหันต์เหล่านี้ยังไม่ได้หายไปไหน เเต่เเค่ไม่ปรารถนาที่จะทำบ่อยก็เท่านั้น


    ท่านว่าวิชาเหล่านี้มีคนสืบทอดน้อย ทำไว้ให้ดูจะบูชาหรือไม่ไม่ได้ว่า เเค่ให้รู้ว่าของจริงเเบบนี้ยังมีอยู่จริง เเละถ้าไม่ทำมันก็จะตายไปพร้อมกับคนที่เรียน

    * ในวาระโอกาสเวลาปัจจุบันนี้ พ่ออาจารย์ท่านได้รับทราบจากที่หลายคนพูดถึงเกี่ยวกับตะกรุดเวทย์สวรรค์กันเข้ามา ว่ามีน้ำหนักมากเกินไป ดอกใหญ่เกินไป ยากลำบากในการพกพาอย่างยิ่งเพราะเวลาท่านทำ อย่างต่ำก็แปดนิ้วบ้าง สิบนิ้วบ้าง สิบสองนิ้วบ้าง อาศัยคำนวณตามฤกษ์ยามต่างๆ ดังนั้นในวาระนี้ท่านจึงเมตตาอาศัยความเพียรและวิริยะอุตสาหะอย่างยิ่ง ได้ทำการบีบอักขระเพื่อจะลงจารให้ดอกเล็กที่สุด จนได้ขนาดที่ต้องการคือประมาณ 4 นิ้ว ให้สะดวกแก่การพกพา
    โดยครั้งนี้วัสดุที่ท่านนำมาใช้ลงมหาเวทย์ดึกดำบรรพ์นั้น ก็คือแผ่นตะกั่วขอมโบราณพันปีลงถม ซึ่งเป็นตะกั่วที่ผ่านพิธีทางพราหมณ์มาตั้งแต่ยุคขอมโบราณ มีพลังงานปราณเทพแฝงอยู่อย่างเข้มข้น พ่ออาจารย์ว่านี่แหละของดีเหมาะแก่การนำมาลงตะกรุดเวทย์สวรรค์ที่สุด เหมาะสมและตรงงานที่สุด
    ซึ่งตะกรุดเวทย์สวรรค์นี้ท่านก็ทำให้ในวาระพิเศษ ไม่เพียงเท่านั้นเพื่อความแรงอย่างถึงที่สุด ท่านยังเมตตานำมาถักเชือกคลุกน้ำหมากลงผงวิเศษห้าประการตามสูตรบูรพาจารย์คือองค์สมเด็จโตอีกด้วย จะเห็นว่าแม้จะเป็นดอกเล็กท่านก็ตั้งใจทำมากทีเดียว ท่านว่าไม่ได้ต่างจากดอกใหญ่แต่อย่างใด มีแต่จะเยอะกว่า เพราะว่าตอนทำนั้นพอดีตะกั่วขอมที่ลงถมไว้มันเหลือ ท่านว่าจึงทำได้ พอทำไปได้ 5 ดอก ท่านว่าครูก็ให้หยุดเสียแล้ว อย่างที่บอกไว้ว่าวิชาเวทย์สวรรค์นี้เป็นพระเวทย์ดึกดำบรรพ์ไม่เหมือนวิชาอื่น ดังนั้นจึงหาคนที่จะได้ครอบครองยากเป็นเงาตามตัว ท่านว่าครูบาอาจารย์เบื้องบนท่านเมตตาอนุโลมให้เพียงเท่านี้ก็ต้องเอาเท่านี้ ดังนั้นตะกรุดวาระพิเศษนี้จึงมีให้ร่วมทำบุญกันเพียง 5 ดอกเท่านั้น

    คาถา

    ท่านว่าไม่ต้องใช้ ที่ให้ใช้ก็คือการขอการคุยกับตะกรุดนี่เเหละ ตะกรุดนี่มีตัวรู้มีจิตวิญญาณ เป็นภาชนะรองรับชั้นดี ถ้าเราใส่กำลังใจเเละความรู้สึกลงไปมาก สิ่งที่ขอมันก็เห็นผลมาก เป็นสูตรการใช้ที่ขึ้นอยู่กับกำลังใจเราเลย ไม่ต้องไปมองใครที่ไหนวิชานี้คือตัวเราล้วนๆ นี่มันดีเเบบนี้ ถ้ามั่นใจใจตัวเองนั่นเเหละแรง

    * ตะกรุดเวทย์สวรรค์สารพัดขอวาระพิเศษนี้ มีให้ร่วมทำบุญกันทั้งหมด 5 ดอก ดังนั้นใครที่ต้องการบูชาก็ให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ รายการนี้รับจองทาง PM เท่านั้น รายได้นำไปสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดเวทย์สวรรค์สารพัดขอ(ชุดพิเศษเนื้อกั่วขอมโบราณลงถม ) บูชา 4,000 บาท

    image.jpg vishnu.jpg SAM41511_Gd_BWY.jpg SAM41481oc_Vw_Y.jpg SAM_5297.jpg image.jpg 100000103f.jpg C3925353-5.jpg 387493_447968921943171_651656208_n.jpg krishna01.jpg Picture-004.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มิถุนายน 2023
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,717
    ค่าพลัง:
    +18,229

แชร์หน้านี้

Loading...