ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดลงถมมหาสนองเป่าแล่นฟ้าคล้อยยอมตาม(บัญชาฟ้าสอพลอ) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    วันนี้จะลงของให้หลังห้าทุ่มนะครับ ติดธุระจริงๆชนถึงเช้าไปพิษณุโลกด้วย ใครนอนดึกก็ติดตามกันนะ ถ้าไม่ไหวค่อยมาดูตอนเช้าแต่รับรองแบบยอมใจเลยว่า พ่ออาจารย์ท่านปล่อยของโหด(พิเศษสุดๆ)มาก
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา พระผงยกชีวิตองค์ธรรมราชปิดเคราะห์ปัดขวากหนาม(เหยียบเซียน)

    ปฐมเหตุแห่งการสร้างพระรุ่นเหยียบเซียนนี้ เพราะพ่ออาจารย์ท่านมีดำริว่าคนที่เกิดมาและมีศรัทธาในศาสนาสมเด็จพระตถาคตเจ้านั้นมีอยู่มากมายนับประมาณมิได้ หากแต่ชนทั้งหลายเหล่านั้นย่อมมีกำลังใจไม่เสมอกัน มีบารมีไม่เท่ากัน อันพระธรรมเทศนานั้นก็โปรดได้เฉพาะคนที่อบรมบารมีมาเต็มแล้วเรียกว่ารู้ได้เฉพาะคนตามบุญวาสนาที่สั่งสมมา ท่านจึงสรุปง่ายๆเรียกรวมเรื่องต่างๆเหล่านี้ว่ากำลังใจคนที่มีกำลังใจสูงย่อมเข้าถึงพระธรรมโดยง่าย ในขณะเดียวกันคนที่กำลังใจยังไม่มั่นคงก็ต้องใช้วัตถุเป็นเครื่องจูงใจให้ยึดเกาะเช่นนั้น ดั่งที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านเนรมิตดอกบัวทองคำโปรดลูกนายช่างทองเป็นเหตุให้เขารู้จักเพ่งกสิณจนได้ฌาณได้บรรลุพระอรหันต์เช่นนี้ก็มี นั่นคือกุศโลบายของการใช้วัตถุเพื่อโน้มนำจิตวิญญาณเป็นเครื่องจูงใจให้คนบรรลุเป้าหมายยิ่งใหญ่ในภาคหน้า

    เพื่อดำริการอันควรนั้นโดยชอบ การสร้างพระเครื่องสำคัญนี้ท่านจึงพิจารณาจะทำให้เป็นกฤติยาคมแฝด...กอปรกับเวลาและจังหวะที่บรรจบกันซึ่งสมเด็จองค์ปฐมท่านได้บอกการณ์ในอนาคตกับพ่ออาจารย์ท่านไว้ ว่า "ต่อไปนี้เหตุในกรุงจะวุ่นวายน่าดู ถึงยามนั้นให้เธอทำสิ่งอันควรค่าแก่การสักการะบูชาไว้ยกชีวิตคนซักหน่อย ถ้าเข้าเกณฑ์เมื่อไหร่ฉันจะมาบอกเธออีกที" นับจากนั้นพ่ออาจารย์ท่านก็พิจารณาตลอดมาว่าจะทำพระพิมพ์เช่นใดดีเพราะท่านเจาะจงอย่างยิ่งที่จะผนวกความตั้งใจแรกเริ่มลงไปด้วย นั่นคือสร้างพระให้คนที่เค้ามีกำลังใจไม่มั่นคง มีบารมีไม่พอ สู้ใครเขาไม่ได้ คนประเภทนี้ต้องเอาไปใช้..และต้องดีขึ้น ไม่มีเลยที่จะต้องหลบต้องใช้ชีวิตแบบเกรงใจโชคชะตาไปวันๆนึง จนเสด็จพระใหญ่ท่านประทานพุทธนิมิตให้พ่ออาจารย์ท่านจดจำไว้เพื่อสร้างพระพิมพ์ พร้อมกับปกาศิตเจริญพรสำทับเอาไว้ว่า"บัดนี้ ศาสนิกชนทั้งหลายย่อมทุกข์ใจด้วยเหตุแห่งการยังชีพมากขึ้น แต่เอาเถอะคนที่ไม่มีแรงฉันจะยันกลับไปให้เอง"(ท่านจึงกำชับพ่ออาจารย์ว่าจะปล่อยให้ชาวพุทธจนอยู่มากขึ้นเรื่อยๆแบบนี้ไม่ได้) เช่นนั้นจึงเป็นปฐมเหตุของการเปิดตำนานสร้างพระผงเหยียบเซียน

    กว่าจะเป็นพระผงเหยียบเซียนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะสมเด็จองค์ปฐมท่านสั่งให้พ่ออาจารย์ท่านลบถมผงยกชีวิตขึ้นมาก่อน ต้องค่อยๆเขียนผงไปทีละกระดานลบถมเอาอณูผงเหล่านั้นมาปั้นรวมกันเป็นพระเกศมาลา พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องเพียรลบเพียรปั้นไปให้ได้ถึงหนึ่งร้อยแปดพระเกศ ซึ่งพระเกศมาลานี้เมื่อทำเสร็จแล้วสมเด็จองค์ปฐมท่านก็ได้พาคณะพระพุทธเจ้าในแต่ละยุคทั้งร้อยแปดพระองค์มากำกับทำวิชาไว้ พ่ออาจารย์ท่านว่าหนึ่งเกศนั้นก็เป็นตัวแทนของพระรัศมีที่แตกต่างกันไปในพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ ซึ่งผงยกชีวิตที่พ่ออาจารย์ท่านลบถมนี้ท่านว่ากระทำได้ยากมาก สมัยทำผงท่านต้องไปหาโบสถ์ร้างอันสงัดไร้สิ่งรบกวนนั่งทำผงอยู่เดือนละสามวันบ้าง,ห้าวันบ้าง,สิบห้าวันบ้าง รวบรวมไปเรื่อยๆจนกว่าจะครบ ในระหว่างทำผงนี้จะเจรจากับใครหรือติดต่อใครไม่ได้เลยและยิ่งกว่าสิ่งอื่นใดนั้นเวลาที่ทำผงนี้ต้องใช้แรงครูสูงมากท่านว่าต้องเชิญองค์พระมาช่วย ตัวฉันจะกินอาหารขบฉันใดๆไม่ได้เลย อธิษฐานดื่มได้แต่น้ำให้หนักท้องแทนการกินอาหารอยู่เช่นนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าพอได้ผงยกชีวิตมาทำเป็นเกศพระสำเร็จทั้งสิ้นแล้วก็ต้องพลีเกศนั้นทำผงปั้นแท่งชนวน ดุจดึงเอากำลังองค์พระและรัศมีของเหล่าพระพุทธเจ้าทั้งร้อยแปดรวมกำลังกันลบผงปิดเคราะห์อีกวาระหนึ่ง...ท่านว่านี่เล่าให้ฟังคร่าวๆฉันพูดเหมือนง่ายแต่เวลาทำจริงปีนึงก็ไม่เสร็จ

    ท่านได้นำผงวิเศษมาเข้ากับผงต่างๆที่สมเด็จองค์ปฐมท่านให้พ่ออาจารย์เตรียมไว้ ได้แก่ เปลือกต้นศรีมหาโพธิ์,ดินสังเวชนียสถานสี่ตำบล,ทรายเสก,ผงรกเเมว,ผงตะไบพระกริ่งใหญ่ราชวงศ์ถัง,ผงว่านร้อยแปด,ผงดินกากยายักษ์,ลูกอมเทียนชัย,ผงเทพมณีโครต,ผงไม้จันทร์หอม,ผงกาฝาก,ผงงาช้าง,ผงอิทธิเจ,ผงรัตนมาลา,ผงปัถมัง,ผงมหากัน,ผงสาริกา,ผงมหาเสน่ห์,ผงนารายณ์กลืนจิต,ผงนารายณ์แปลงรูป,ผงขี้เหล็กไหล,ผงแร่เหล็กน้ำพี้,ผงแร่เกาะล้าน,ผงแร่ดูดทรัพย์,ผงแร่สำเร็จ,แร่ทองในถ้ำศักดิ์สิทธิ์,ผงแร่เหล็กเปียก,ผงแร่เงินแร่ทองแร่เงิน(จากภูเขาควาย),ผงไม้มงคลเก้าชนิด,ผงแร่พระอุปคุต,ผงกระดูกเสือเสก,ขี้ซี,ขี้ธูป,พลอยเสก,เพชรหน้าทั่ง,ผงกสิณ,ผงรังชันโรงใต้ดิน,ผงไม้ไผ่ต้นมหาอุต,ว่านไพรดำ,ดินร้อยโป่ง,ชานหมากฤาษี,ผงกะลาตาเดียว... ท่านนำมวลสารสำคัญมาเข้ากับผงเก่าบรมครู ได้แก่ ผงอังคารธาตุพระกรรมฐาน,ผงปถมังของสมเด็จโตวัดระฆัง,ผงพุทธคุณของหลวงปู่เฒ่ายิ้มวัดหนองบัว,ผงวิเศษของหลวงปู่ขาว,ข้าวก้นบาตรหลวงปู่ขาว,จีวรหลวงปู่ขาว,ประคำผงยาหลวงปู่บุญ,ผงยาหลวงปู่ชา,ผงไม้คานโบสถ์เก่าวัดระฆัง,ผงแป้งเสกหลวงพ่อสดวัดปากน้ำ,ผงรากรักซ้อนหลวงพ่อดิ่ง,สีผึ้งเขียวหลวงพ่อทาบ

    เมื่อได้ผงวิเศษแล้ว พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจพิมพ์พระตามเจตนา ท่านว่าทำพระหนนี้เรื่องอื่นฉันลงไว้ครบหมดแต่ฉันขอสมเด็จองค์ปฐมท่านว่าให้ช่วยทำให้เด่นๆเลยสามเรื่องคือต้องยกชีวิตคนขึ้นมาได้,ทั้งต้องปิดเคราะห์และปัดขวากหนามทั้งหลายได้ ซึ่งพระองค์ท่านก็ทำให้อย่างดีแต่ท่านเน้นหนักไปทางลาภสักการะด้วยท่านว่าปิดเคราะห์ปัดภัยไร้อุปสรรคแล้วชีวิตก็ปลอดโปร่งท่านจึงลงทางโชคลาภให้หนักมาก
    - พระที่ทำจากผงยกชีวิตนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อจะใช้เพียงยกองค์พระขึ้นจบหัวว่านะโมให้ได้สามจบ น้อมใจไปในอารมณ์อ่อนน้อมและเคารพต่อองค์พระศาสดาแล้วจึงอธิษฐานให้องค์พระธรรมราชท่านสงเคราะห์เรื่องใด(จะปิดเคราะห์ปิดกรรมสิ่งใดเร่งด่วนเฉพาะกาลก็สุดแต่จะอธิษฐานทั้งสิ้น) จะปรารถนาลาภอย่างไร จะเอาอะไร จะทำอะไรท่านว่าก็สุดแล้วแต่จะขอองค์พระธรรมราชท่านสงเคราะห์เถิด แต่อย่าลืมนึกถึงพ่อพระพุทธท่าน นึกถึงพระพุทธเจ้า ขอบารมีพระพุทธเจ้าท่าน
    - ที่เรียกว่า
    รุ่นเหยียบเซียนนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าแท้จริงแล้วเราไม่อยากให้พวกเธอประมาท แต่หนนี้ให้ถือว่าจะยอมบอกเอาไว้ก็แล้วกัน คิดซะว่าเล่านิทานให้ฟังเล่นๆเป็นเรื่องที่คนแก่อย่างฉันพูด ส่วนเธอจะเชื่อหรือไม่นั่นก็เรื่องของเธอ พระผงรุ่นนี้ขึ้นชื่อว่าเคราะห์ทั้งหมดนี่กันหมดเลย องค์ปฐมท่านว่ามาอย่างนี้ พอท่านบอกแบบนี้แล้วเทวปุตมารในอำนาจแห่งพญามาราธิราชก็ปรากฏตัวขึ้นมา ท่านขานรับว่าท่านมีหน้าที่ส่งเคราะห์ เคราะห์ที่เกิดกับคนและสัตว์โลกทั้งหมดนี่เค้าบอกว่าเป็นหน้าที่ของเค้าเอง ทีนี้สมเด็จองค์ปฐมท่านก็เรียกตัวเข้ามาบอกกับเทวปุตมารว่าพระผงยกชีวิตนี้สร้างขึ้นจากเกศมาลาพุทธะทั้งร้อยแปด ใครก็ดีที่มีองค์พระอยู่ก็ช่วยยกให้เขาได้หรือไม่ ยกเว้นชีวิตของเขาไปซะอย่าไปซ้ำเติมเขาเลย เพราะคนที่จะได้ไปนั้นฉันก็เห็นว่ามีบุญหนุนนำอยู่ในทีไม่ถึงขั้นสิ้นไร้วาสนาหรอกนะ เขาก็รับว่าถ้าคนที่เอาไปเคารพพระพุทธเจ้าแบบที่เขาเคารพ และเมื่อเข้าสู่เกณฑ์เคราะห์กรรมต่างๆก็ดีให้เค้าสักการะองค์พระและนึกถึงพระพุทธคุณ เช่นนี้เค้าจะหลีกทางให้ ยิ่งถ้าเคราะห์ถึงกรรมถึงวาระของมันถาโถมมารุนแรงจริงๆไม่สามารถหนีพ้นได้ตามกฏสังสารวัฏสมเด็จองค์ปฐมท่านก็จะช่วยสงเคราะห์เอง แต่จำเป็นต้องหมั่นอาราธนานึกถึงองค์พระทั้งเช้าและเย็น ท่านว่านึกเป็นพุทธานุสตินึกถึงพระได้ยิ่งมากยิ่งดีเช่นนี้จะมีผลไว ด้วยปิดเคราะห์กรรมได้เช่นนี้แม้เทพก็ยังยกประโยชน์ให้ท่านจึงเรียกชื่อว่าพระผงรุ่นเหยียบเซียน

    พระผงสำคัญนี้พ่ออาจารย์ท่านเน้นย้ำว่าสารพัดจะใช้ด้วยองค์ธรรมราชนั้นมีอานุภาพไม่มีประมาณ คุณเอาไปจะอธิษฐานอย่างไรก็สุดแล้วแต่เป็นทั้งมหากำบังก็ได้ ปิดตาคนก็ได้ หลบศัตรูก็ได้จะเอาลาภสักการะก็ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าอันนี้จะลงไว้เป็นพิเศษเพราะสมเด็จองค์ปฐมท่านว่า "พระองค์นี้จะใช้ดีทางมีลาภผลมาก ทั้งอาชีพการงานการเงินย่อมคล่องตัวให้เงินไหลมาเทมาให้ความปรารถนาทุกอย่างจงสำเร็จกิจทุกประการ" พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ใช่แต่เพียงเท่านั้นองค์พระธรรมราชนี้แม้นอาราธนาไว้ในคอเมื่อใดยังมีผลเป็นอเนกประการพอจะยกตัวอย่างได้เช่น
    - ใช้ป้องกันอันตรายและดึงดูดสิ่งๆดีๆมาสู้ผู้ครอบครอง
    - หากมีผู้ปองร้ายหรือทำลายเราด้วยอวิชชา การกระทำนั้นจะสนองกลับไป
    - กันภัยที่มองไม่เห็น
    - ยาสั่ง ยาพิษ ทำอันตรายไม่ได้
    - ผู้ที่คิดร้าย ผลร้ายย่อมตามสนอง
    - ศัตรูแพ้ภัยตนเองทำอันตรายมิได้
    - หากมีผู้ท้าทายหรือมีคู่ประชันขันแข่ง กำลังเขาจะถดถอยจนยอมหลีกทางไปโดยดี
    - หากศรัทธามั่นคงในองค์พระหมั่นเจริญสติจะเป็นผู้มีวาจาศักดิ์สิทธิ์
    - กันรังสีต่างๆ กันโรคภัยต่างๆ
    หากชีวิตมีปัญหาติดขัดสิ่งใดท่านว่าให้อาราธนาพระผงยกชีวิตยึด
    เอาองค์พระธรรมราชเป็นที่พึ่งก็จะพ้นภัยได้เพราะท่านปิดเคราะห์ทั้งสิ้นไม่ให้มาต้องตัวเราได้เลย อาราธนาไปที่ใดดุจมีเกราะแก้วกำบังตัวทั้งเป็นดั่งกำแพงแก้วเจ็ดชั้นมาขวางกั้นหมู่มารทั้งหลาย

    สมเด็จพระศรีอาริย์กวาดผ่านยุค
    ด้านหลังนั้นพ่ออาจารย์ท่านฝังหุ่นพระศรีเอาไว้ แต่เป็นหุ่นสมเด็จพระศรีที่ทำวิชาแก้เคล็ดทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ฉันไม่ได้อวดอุตรินึกอยากทำก็ทำ แต่สมเด็จพระศรีท่านให้ฉันลองทำไว้ด้วยมีของใช้ได้พอดี เดิมวิชานี้มีสืบทอดกันต่อๆมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยหรือศรีสัชนาลัยนั่นทีเดียวเป็นวิชาของสมเด็จพระร่วงเจ้า ทำสืบทอดกันมาเรียกพระร่วงกวาดลานเช่นนั้น ต่อมาแม้หลวงพ่อกวย,หลวงพ่อแช่ม,หลวงพ่อน้อยยอดบูรพาจารย์ท่านก็ยังทำยังสร้างไว้ให้เห็น พ่ออาจารย์ท่านว่าทีแรกฉันมีไม้เคาะหัวคนนี่แหละ ไม้นี้ไม่ใช่ไม้วิเศษอะไรหรอกหากแต่เป็นด้ามไม้กวาดที่ฉันตัดเอามาใช้สงเคราะห์คน เพราะด้ามไม้กวาดนี้พระอรหันต์ของฉันคือองค์หลวงปู่ขาวท่านเคยใช้ทำกิจวัตรอยู่เป็นประจำ ซ้ำท่านยังยื่นมาให้ฉันบอกว่าเอาไว้กวาดทุกข์ออกจากใจเพียงแค่นั้นฉันก็ถือว่ามันวิเศษมากแล้ว ก็พอดีกับสมเด็จพระศรีท่านเตือนฉันว่าด้ามไม้ที่ฉันใช้จี้กวาดไล่ทุกข์โศกโรคภัยให้คนอื่นนั้น ให้ตัดแบ่งมาทำเครื่องมงคลและท่านจะลงวิชาให้เรียกว่าพระศรีอาริย์กวาดผ่านยุค พ่ออาจารย์ท่านว่าเดิมทีวิชานี้คนจะทำได้ต้องได้สมาบัติแปดประการ เวลาทำก็ต้องเข้าสมาบัติทำเช่นนั้น ก็พอดีกับที่สมเด็จพระศรีท่านว่างานนี้สบายเลยเพราะพระอรหันต์ท่านทำไว้รอฉันแล้ว...เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงเข้าใจว่าไม่มีสิ่งใดบังเอิญโดยแท้จริงเพราะหลวงปู่ขาวท่านตั้งใจทำให้เสกให้แต่แรกแล้วดังนี้ หุ่นพระศรีที่แกะเป็นรูปพระถือไม้กวาดนั้นจึงใช้ได้ทั้งกวาดทุกข์,กวาดโศก,กวาดโรค,กวาดภัย..กวาดทิ้งไปจากชีวิต ขานรับกับพุทธคุณแห่งองค์พระธรรมราชที่จะปิดเคราะห์,ปิดทุกข์,ปิดภัยเช่นนี้

    ### องค์พระธรรมราชปิดเคราะห์ด้านหน้า พ่ออาจารย์ท่านฝังว่านยาสำคัญที่สมเด็จองค์ปฐมสั่งให้พ่ออาจารย์ท่านเข้าป่าไปพลีออกมา ท่านว่าว่านนี้ข้างบนเขาไม่ให้พูดถึงแต่ฉันบอกเธอได้แค่ต้องเอามาทำวิชาก่อนไม่ใช่ง่ายเลย เพราะจะเอาไว้เหยียบเคราะห์แลทุกข์โศกต่างๆ เหยียบแบบราบคาบสยบหมดสิ้นเท่านั้น ส่วนด้านหลังนั้นท่านฝังก้อนแร่ในเขาอาถรรพ์ต่างๆไว้เก้าจุด ท่านว่าแร่กายสิทธิ์ทั้งเก้านี้เป็นตัวแทนเทพนพเคราะห์ทั้งเก้าพระองค์ เมื่อเราอาราธนาองค์พระอยู่ท่านจะปิดจะกวาดเคราะห์ภัยทั้งหลายแม้อำนาจแห่งดวงดาวหรือเทพนพเคราะห์ก็ยังต้องหลีกยกชีวิตให้เราเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าทำอาถรรพ์ไว้แล้วให้ดีทุกวัน ได้ทุกอย่าง

    พระผงคุณวิชายกชีวิตนี้ พ่ออาจารย์ท่านเสกเก็บไว้เชิญครูเชิญองค์พระมาทำวิชาให้ในพิธีสำคัญเสมอๆจนสมเด็จองค์ปฐมท่านบอกให้พ่ออาจารย์เอาออกไปช่วยคนได้แล้ว เพราะเวลานี้คนจะทำมาหากินใช้ชีวิตได้ลำบากขึ้นด้วยทุกอย่างเข้าเกณฑ์แล้ว ต่อไปพระเช่นนี้จะมีแต่เศรษฐีที่ได้ใช้ เพราะคนที่เอาไปเขาจะไม่รู้ยากรู้จน

    คาถาบูชา (จะบนสิ่งใดองค์พระให้บนด้วยการปิดทองคำเปลวถวาย)
    สัพพะสุขขะสวัสดิ มหาลาภา มหาเดชา มหายะสา มหาโภคา มหาปัญญา พุทธิธรรมราชา ประสิทธิภะวันตุเม


    *** พระผงยกชีวิตองค์ธรรมราชปิดเคราะห์ปัดขวากหนาม(เหยียบเซียน)นั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นพระคู่บารมีของคนที่เป็นเจ้าของ เป็นของคู่บุญ คู่วาสนา ไม่ใช่ของที่ใครใคร่อยากจะครองก็ได้ครอง หากไม่มีพันธะแลความผูกพันธ์กันมากับพ่อแม่ครูอาจารย์ย่อมไม่สนใจของวิเศษสิ่งนี้เลย พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ทั้งหมดเจ็ดองค์ แต่มีให้บูชาเพียงสี่องค์เท่านั้น รับจองเฉพาะทาง PM ผู้บูชาท่านให้แจ้งชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด(เวลาตกฟากถ้ามี) เอาไวด้วย ท่านจะเชิญครูประสิทธิให้เป็นรายบุคคลอีกคำรบหนึ่ง รายได้ร่วมสมทบทุนโครงการอาหารกลางวันเด็กนักเรียนชาวเขาสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระผงยกชีวิตองค์ธรรมราชปิดเคราะห์ปัดขวากหนาม(เหยียบเซียน) บูชา 4,000 บาท

    64743508-327094454867284-5529147692061556736-n.jpg 64720923-340249476668752-2165790800070311936-n.jpg
    64697295-914743768862766-8762242426443137024-n.jpg
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    หลายๆคนเจอกรณีเหตุการณ์พามาจริงๆ มีทั้งพ่อพระศรีไปปลุก(คงจะเป็นศิษย์ในบารมีของท่าน)ตื่นมานั่งอ่านดึกๆแล้วจอง อีกคนก็ฝัน..ตื่นมาจองตีสี่กว่า เรื่องแบบนี้ถ้าไม่มีแรงครูคงเป็นไปไม่ได้เลยเล่าๆแล้วขนลุกเดี๋ยวจะหาว่าพูดไป พระยกตัวยกชีวิตแบบนี้ พ่ออาจารย์ท่านก็บอกแต่แรกว่าพระท่านสงเคราะห์ แถมท่านยังทำทั้งปิดเคราะห์กับกวาดกรรมกวาดเพื่อให้ผ่านพ้นยุคสมัย มีบารมีพอที่จะได้เกิดในยุคสมเด็จพระศรีท่าน ...จุดนี้คือสิ่งสำคัญจริงๆ เพราะผมเองก็ยังหวังตั้งปรารถนาจะเกิดในยุคท่านอยู่เลย ก็เอาเป็นว่าขึ้นอยู่กับวาสนาคนแล้วเพราะครูท่านทำมารอไว้แล้ว อาหารบางอย่างถ้าจับป้อนถึงปากคนก็จะไม่รู้ค่าไม่เต็มใจกลืน

    เดี๋ยววันนี้จะทำบุญเผื่อนะครับ
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้เดินสายทำบุญต่อ ใครจะฝากคำถามก็ข้อความทPM ไว้นะครับ
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้ลาทำบุญวันสุดท้าย พรุ่งนี้เริ่มส่งของให้ปกตินะ
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ช่วงนี้มีแต่คนถามหาตะกรุดชุดหนุนดวง ยังไม่มีออกนะครับนอกจากจะสั่งทำ
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ธีรนนท์ ED 8156 9650 5 TH

    พี่ปกรณ์เกียรติ ED 8156 9651 9 TH

    พี่ศิระ ED 8156 9652 2 TH

    พี่พรเทพ ED 8156 9653 6 TH

    พี่ภาคภูมิ ED 8156 9654 0 TH

    พี่ปภัสสร ED 8156 9655 3 TH

    พี่ธนากร ED 8156 9656 7 TH
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ก็มีประสบการน้ำมันแจ้งเข้ามาแต่ยังไมนำมาเล่านะครับ ขออุบไว้ก่อน สำหรับพรุ่งนี้ใครที่รอของดีหลักร้อยเดี๋ยวได้เฮกันแน่นอนเพราะจะลงจองตะกรุดขนาดเล็กที่ได้ชื่อว่าทำยากที่สุด ง่ายๆเลยคือกว่าจะได้แต่ละแผ่นพ่ออาจารย์ท่านบอกอยู่ตลอดว่าไม่ใช่เสกได้ก็ทำได้ ตะกรุดตัวนี้ไม่ได้ยากตอนทำตะกรุดแต่เป็นตะกรุดที่ทำยาก...ก่อนจะม้วน กว่าจะม้วนได้นั้นเรียกว่าต้องเสกให้เสร็จตามตำราทีละแผ่น แล้วก็ไม่ใช่การเสกทีเดียวก็เสร็จเลยยังต้องทำตามเคล็ดต่างๆอีกเรียกว่าทำวันนึงได้แผ่นนึงก็ไม่ผิด กว่าจะได้ทีละแผ่นสะสมมาเรื่อยๆนั้นทำกันนับเดือนนี่แค่วิธีเสกก่อนม้วนยังขนาดนี้... ใครชอบของทำยากและแก่อิทธิคุณพรุ่งนี้ติดตามดีๆ
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้ติดตามกันดีๆนะ จะลงสายหน่อย
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดตัวครูมหากวักบาตรสัมฤทธิ์ (คุณพระมาโปรด)

    "ตะกรุดตัวนี้เป็นตะกรุดทิพย์นะ"
    วิชาทำตะกรุดคุณพระมาโปรดนี่พ่ออาจารย์ท่านว่าลึกซึ้งอย่างมาก เพราะกว่าจะทำได้แต่ละแผ่นไม่ใช่แค่ลงจารแล้วเสกเท่านั้นก็จะเสร็จ หากแต่ยังมีเคล็ดต่างๆอีกมากที่ต้องทำให้ตรงตามครูสั่ง ท่านว่านอกครูไม่ได้เลย ดังนั้นตะกรุดนี้จึงพูดได้แต่เพียงกว่ากว่าจะม้วนได้นั้นยากนัก

    ตะกรุดคุณพระมาโปรดนี้ทำได้ยากนัก พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นของคุณพระ สมเด็จองค์ปฐมท่านให้พ่ออาจารย์ลงจารแผ่นทำสะสมไว้ ด้วยอาศัยพุทธกิจที่ทรงบำเพ็ญอยู่ทั้งห้าอย่าง ซึ่งเป็นกิจวัตรหลักของพระพุทธเจ้าทุกองค์ที่ทรงทำอยู่ทั้งกลางวันและกลางคืนให้เป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของเวไนยสัตว์ทั้งหลาย ด้วยพระพุทธเจ้าทุกพระองค์นั้นทรงสำเร็จกิจส่วนพระองค์นั่นคือมีอัตตหิตประโยชน์หรือประโยชน์ของพระองค์เองเต็มเปี่ยมบริบูรณ์ดีแล้วหลังจากบรรลุพระโพธิญาณตัดสิ้นอาสวะกิเลสให้หายขาดไป เช่นนั้นท่านจึงใส่ใจในประโยชน์ของชาวโลกเพื่อสร้างสันติสุขให้บังเกิดขึ้นกับโลกด้วยการนำพาสรรพสัตว์ทั้งหลายให้หลุดพ้นจากทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน เช่นนี้จึงถือเป็นพุทธกิจที่พระองค์จะโปรดเวไนยสัตว์ทั้งหลายบางทีก็เสด็จโดยปกติแต่บางทีก็ทรงกระทำปาฏิหาริย์แตกต่างกันไปเพื่อเจริญศรัทธาแก่สาธุชนทั้งหลาย ด้วยพระพุทธเจ้าทุกพระองค์นั้นจะทรงใช้ทิพย์จักษุสอดส่องทั้งหมื่นโลกธาตุแผ่ข่ายพระญาณออกไปตรวจดูสรรพสัตว์ที่มีบุญญาธิการได้สร้างสมคุณงามความดีไว้ดีแล้ว ท่านจะดูว่ามีบุญมากพอที่จะบรรลุธรรมาภิสมัยหรือไม่ อย่างไร หากมีวาสนาแล้วแม้อยู่ไกลเพียงใด แม้อยู่ต่างภพ,ภูมิหรือมิติพระองค์ก็จะเสด็จไปโปรดไม่เลือกย่อท้อต่อระยะทางไกลใกล้นั้นเลย พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดคุณพระมาโปรดนี้ก็เช่นกันเป็นตะกรุดที่จะมีไว้ใช้กันเฉพาะผู้ที่ถูกเลือกสรรค์เท่านั้น ให้คุณพระท่านโปรดท่านสงเคราะห์ให้มีโอกาสได้รับความสุขได้รับกุศลกรรมตอบแทนความยากลำบากไม่เลือกว่าจะเป็นวิธีธรรมดาหรือว่าได้มาโดยปาฏิหาริย์ ดั่งพุทธกิจแห่งองค์พระตถาคตเจ้าที่ต้องการจะช่วยเหลือทุกๆคนโดยไม่ย่อท้อ

    สมเด็จองค์ปฐมท่านให้พ่ออาจารย์ลงวิชาบาตรสัมฤทธิ์เอาไว้ ท่านว่ามีวิชาบาตรนี้คิดทำสิ่งใดก็สัมฤทธิ์ผล ดั่งที่ทราบกันดีแล้วว่าบาตรนั้นเป็นของใช้ส่วนตัวสำหรับพระภิกษุและพระภิกษุทั้งหลายก็ได้รับการอบรมสืบต่อกันมาให้ดูแลรักษาบาตรที่ใช้นั้นเป็นอย่างดี เรียกว่าบาตรของตนก็ต้องรักษาให้ดีที่สุดด้วยคตินับแต่โบราณที่นิยมรักษาสืบทอดกันมาว่าพระหนึ่งรูปจะมีบาตรได้เพียงหนึ่งใบเท่านั้น

    ดังนั้นวิชาบาตรสัมฤทธิ์นี้จึงเป็นวิชาเปิดบาตร เปิดทางความอุดมสมบูรณ์ทั้งทรัพย์สินเงินทองสิ่งก่อสร้างทั้งหลายให้พรั่งพร้อมด้วยจตุปัจจัย ดุจได้รับลาภสักการะมากมายทั้งจากมนุษย์และเทวดาไม่รู้จบสิ้น ทั้งการบิณฑบาตรนี้ก็เป็นทั้งพุทธประเพณีที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ทรงทำสืบทอดกันมาตลอด แม้ในพระภิกษุก็รับประเพณีนี้สืบต่อกันมา สมเด็จองค์ปฐมท่านจึงแนะนำพ่ออาจารย์ว่า "บาตรนั้นเป็นเครื่องมือสำหรับโปรดสัตว์วิชาบาตรสัมฤทธิ์นี้ก็เช่นกัน เป็นวิชาที่จะใช้โปรดสัตว์ทั้งหลายให้แปรเปลี่ยนไปสู่หนทางที่ดี" แม้ในบางบุคคลที่มีกรรมอันแก้ได้ยาก มีกรรมหนักอันรุนแรง ท่านว่าคนเหล่านี้ก็ต้องอาศัยวิชาบาตรสัมฤทธิ์ช่วยแก้ไข ด้วยบาตรนั้นใช้โปรดเวไนยสัตว์ ดังนั้นสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายเมื่อมาอยู่ในบาตรนี้ย่อมแปรเปลี่ยนเป็นของดีทั้งสิ้น ใครที่ชีวิตมีเรื่องรบกวนรุมเร้ามากก็ให้อธิษฐานเอาเรื่องและความกังวลทั้งหลายใส่ลงในวิชาบาตรสัมฤทธิ์นี่เสีย ท่านว่าสิ่งที่ไม่ดีคุณพระท่านก็เปลี่ยนให้ดีได้ แม้คาดเอาไว้เฉยๆก็ยังแก้ชงเปลี่ยนปัญหาชีวิตให้เจอแต่ความสุขได้

    ทั้งวิชาบาตรสัมฤทธิ์นี้ยังช่วยแก้ไขแม้แต่อาถรรพ์ต่างๆทั้งในตัวเองและรอบๆตัวได้ ท่านว่าไม่เพียงแต่แก้อาถรรพ์แก้ชงเท่านั้น ต่อให้ใครถูกผีเข้าเจ้าสิง เอาตะกรุดนี้ไปสวมคอเถิด ดุจเธอเอาบาตรสัมฤทธิ์ไปครอบหัวเขาอย่างนั้น ดังนั้นนี่จึงเป็นวิชาแก้ปมอาถรรพ์ทุกสิ่ง ในทางกลับกันตัวเธอที่สวมตะกรุดนี้ก็จะมีกำลังใจสูงขึ้น นั่นเพราะอะไร *** พ่ออาจารย์ท่านว่าคนมีไหวพริบเขาจะรู้ทันทีว่าเวลาแรงครูประสิทธิ์ประสาทชัยมงคลนั้นเป็นอย่างไร เพราะวิชาบาตรสัมฤทธิ์นี้หากเธอนำมาคล้องคอก็เท่ากับว่าเธอเอาบาตรครอบหัวดุจครอบครูอยู่ตลอดเวลาเช่นนั้น ด้วยบาตรเป็นสิ่งที่ใช้รับความอุดมสมบูรณ์ทั้งหลาย เป็นสิ่งที่พระใช้ฉันกันทั้งเช้าทั้งเพลเช่นนั้นจึงถือว่าเป็นสุดยอดโภคทรัพย์ชักนำให้แรงครูหนุนเป็นมหาเศรษฐี ดุจดั่งชีวิตของพระที่ทั้งชีวิตมีบาตรเพียงใบเดียวตั้งแต่บวชจนมรณะภาพก็ใช้เพียงบาตรนั้นเลี้ยงชีพ ใส่ทั้งข้าวปลาอาหารใส่ทั้งปัจจัยต่างๆใส่สารพัดตลอดชีวิตก็ไม่เคยเต็มซักที สมเด็จองค์ปฐมท่านว่าวิชาบาตรสัมฤทธิ์นี้ดุจเสกบาตรแห่งพระตถาคตเจ้ามีคุณอนันต์ดุจว่าบาตรใบเดียวใช้เลี้ยงได้ทั้งวัด เช่นนั้นเรื่องอื่นจึงนับไม่เป็นอันใด พ่ออาจารย์ท่านว่าลำพังชีวิตเราครอบครัวเราใช้เพียงวิชาบาตรนี้ก้หาเลี้ยงได้บริบูรณ์ทั้งสิ้น

    วิชาบาตรสัมฤทธิ์นี้ดีอย่างไร วิเศษแค่ไหน พ่ออาจารย์ท่านว่าหากไม่มีบาตรความอุดมสมบูรณ์และโภคทรัพย์ต่างๆย่อมไม่ต่างจากสิ่งว่างเปล่าเพราะไม่มีสิ่งใดจะมีฤทธิ์มารองรับสิ่งเหล่านี้ได้ดีกว่าวิชาบาตรสัมฤทธิ์ ไม่มีบาตรทุกสิ่งย่อมคว่ำตกหกคะเมนสูญหายไปในอากาศเช่นนั้น เช่นนั้นวิชานี้จึงวิเศษทางโปรดสัตว์,โปรดชีวิต เป็นตัวช่วยชั้นครูที่จะหนุนเราโปรดเราให้มีกินมีใช้ไม่รู้จบสิ้น โปรดให้เกิดโภคทรัพย์มหาศาลดั่งปาฏิหาริย์ที่ได้รับจากการสร้างกุศลกรรม ทั้งเรียกหา ทั้งเร่งให้มา ทั้งรองรับความพรั่งพร้อมในจตุปัจจัยทั้งหลายมากมายสุดจะประมาณดั่งบาตรสัมฤทธิ์ที่เลี้ยงคนได้ทั้งชีวิตแม้ใส่เท่าไหร่ก็ไม่มีวันเต็มเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าหลักๆนะพูดสั้นๆเลยคือเหลือกินเหลือใช้

    ...กว่าจะม้วนเป็นตะกรุด
    ตะกรุดรุ่นนี้ที่ว่าทำยากเพราะพ่ออาจารย์ท่านทำคนเดียวไม่ได้ ด้วยสมเด็จองค์ปฐมท่านให้เคล็ดและวิธีการสร้าง นอกจากการลงจารคาถาวิธีกำหนดจิตต่างๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าพอรู้ปุ๊ปก็รู้เลยว่าตะกรุดแบบนี้ท่านกะจะให้ทำครั้งเดียวแน่ๆเพราะกว่าจะได้แต่ละดอกนั้นไม่ง่ายเลย ฉันต้องลงจารและเสกแผ่นตะกรุดจนสำเร็จก่อน จากนั้นก็ให้พระที่มาเรียนวิชาฝากท่านไป บอกว่าทุกเช้าให้เอาแผ่นยันต์พระคาถานี้หนึ่งแผ่นใส่ไว้ก้นบาตรก่อนออกไปบิณฑบาตร ให้ทำเช่นนี้เรื่อยๆไปวันละแผ่นและต้องทำทุกแผ่น เป็นเคล็ดที่ว่าพระออกบิณฑบาตรนั้นคือการโปรดสัตว์ท่านว่าตะกรุดนี้อยู่ในบาตรก็เช่นกัน นั่นคือออกไปโปรดสัตว์จริงๆพอพระเปิดบาตรทีก็ได้อาหารบิณฑบาตรทันที พ่ออาจารย์ท่านว่านี่คือการโปรดสัตว์เปิดทางโชคลาภต้องทำอยู่เป็นเดือนวันละแผ่นกว่าจะได้ครบ ท่านที่มาเรียนยังพูดติดตลกว่าไม่รู้ครึ้มอกครึ้มใจอะไรเอาแผ่นยันต์ของพ่อครูรองก้นบาตรญาติโยมใส่กันพูนบาตรเต็มย่ามทุกวัน แม้แต่รถที่ขับผ่านไปแล้วยังจอดลงมาใส่แถมได้ถังสังฆทานมาอีกวันละใบสองใบเป็นเช่นนี้อยู่ทั้งเดือน ท่านว่าต้องรีบบิณรีบกลับวัดเพราะไม่มีมือจะหิ้ว เดินออกไปนิดเดียวก็เต็มแล้ว

    นอกจากนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าแค่โปรดสัตว์รับบาตรนั้นยังใช้ไม่ได้เพราะกว่าจะสำเร็จได้ม้วนตะกรุดกันนั้น สมเด็จองค์ปฐมท่านให้ทำตามเคล็ดของท่านทุกอย่างทีเดียว เราก็ขอให้พระรูปเดิมท่านช่วยเอาแผ่นยันต์นี้อีกหนหนึ่งไปวางไว้ใต้ผ้ารับประเคน ท่านว่า
    กางผ้ารับประเคนแล้วสอดแผ่นยันต์นี้ไว้ด้านใต้ให้ทำเช่นนี้วันละแผ่นเวียนไปจนครบแม้ตัวท่านไม่อยู่หน้ากุฏิก็ยังวางทิ้งไว้เช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าคุณพระรูปนั้นท่านดีใจใหญ่เลยท่านว่าพ่อครูทำยันต์อะไรสอนผมบ้าง เพราะพอสอดแผ่นยันต์ไว้ใต้ผ้าวันๆนึงเหมือนเรามีเครื่องเรียกลาภสักการะเลย ขนาดตัวผมไม่อยู่วางผ้ารับประเคนไว้เฉยๆกลับมาเห็นยังมีปัจจัยวางไว้บ้าง,มีน้ำปานะบ้าง ท่านว่ามีแม้แต่เครื่องชงกาแฟไม่รู้ว่าใครเขาแห่กันเอามาถวายได้ทุกวัน บางวันคิดๆว่าเราขาดสิ่งใดอยู่ดีๆก็มีคนเอามาให้เป็นแบบนี้อยู่ทั้งเดือน ปกติพระไม่อยู่โยมเขาก็กลับ แต่ตั้งแต่วางแผ่นยันต์ไว้ใต้ผ้ารับประเคนก็เจอแต่เรื่องแปลกๆทุกวันเต็มไปหมด พ่ออาจารย์ท่านว่าผ้ารับประเคนนี้เป็นเคล็ดที่เสด็จพระใหญ่ท่านให้ทำเพราะเป็นผ้าที่มีไว้แต่รับอย่างเดียว รับ รับ รับและรับเข้าไม่มีไหลออก แม้ตัวเราอยู่เฉยๆกับที่ก็มีคนถ่อมาหา ถ่อมาให้เรารับ มาประเคนให้ถึงมือ มอบให้ถึงที่ เช่นนั้นวิชาบาตรสัมฤทธิ์นี้สมเด็จองค์ปฐมท่านจึงเจาะจงให้ทำอาถรรพ์กับผ้ารับประเคนทีละแผ่น ดุจวิชานี้เป็นสายใยที่จะเชื่อมชีวิตเข้ากับสมบัติต่างๆให้ความปรารถนาให้ทรัพย์สินและปัจจัยสี่ที่ต้องการวิ่งเข้ามาหาเราเอง ให้เราได้สิ่งที่อยากได้อย่างสะดวกสบาย จะมีคนมาหา มีทางมาให้เดิน เป็นที่มาของการเพิ่มพูนความสุขตลอดไป

    พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดตัวนี้เป็นของทิพย์เพราะกว่าจะเสกกว่าจะม้วนได้ไม่ใช่ง่ายเลย พอได้กลับมาแล้วยังต้องอาราธนาสมเด็จองค์ปฐมท่านทำวิชาให้อีกวาระหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์พระนั้นท่านบอกว่าตะกรุดนี้มีนางฟ้ารักษาอยู่ทุกดอกชื่อ"นิลบรรพตเทพสุดา" เรียกว่าแม่เทพสุดาก็ได้ เพราะเป็นชื่อเต็มของนางฟ้าที่คนนิยมบูชาหรือที่พวกเธอรู้จักกันในชื่อนางกวักเป็นชื่อปางเทพของท่าน นี่สมเด็จองค์ปฐมท่านเจาะจงเลยให้ท่านมารักษาตะกรุดนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าจะได้นำมาซึ่งแก้วแหวนเงินทอง กวักมาซึ่งสรรพสมบัติศฤงคารแลโภคทรัพย์ทั้งหลาย ทั้งยังอำนวยศรีสวัสดิ์ปัดสรรพภัยทุกประการ ท่านว่านี่แม่นางฟ้าเค้าจะกวักมาลงบาตรโดยตรงเลย ทั้งกวักทั้งเรียกให้เข้ามาหาเป็นตัวช่วยชั้นดี พวกเธอเอาไปใช้เถอะจะได้รู้จักคำสักสองคำที่ว่า "กินไม่หมด" กับ "ยังไม่พอ" นั้นเป็นอย่างไร ท่านจะรักษาเราให้มีโชคลาภประสบแต่ความโชคดีทั้งดึงดูดให้คนรักใคร่เมตตา เอาไปใช้เถอะจะเป็นเรื่องหน้าที่การงานหรือดลจิตดลใจให้ผู้บังคับบัญชาและเจ้านายเมตตาสงสาร ท่านว่าใช้ได้หมด ใช้กันให้ดีเพื่อผลประโยชน์แก่ตัวเองจะช่วยให้เธอโชคดีดึงดูดสิ่งที่คู่ควรได้มากและไวขึ้น

    ตะกรุดคุณพระมาโปรดนี้ นอกจากมีคุณวิเศษและวิธีการสำเร็จที่ซับซ้อนแล้วผู้ได้พกไว้ยังเป็นเมตตาอย่างเอกด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าเธอเคยได้ยินมั๊ย เวลาพระท่านมาโปรด ท่านจะพูดจะขออะไร ท่านจะพูดว่าขอบิณฑบาตรนะหรือขอบิณฑบาตรเถอะโยม เช่นนี้เป็นใจอ่อนทุกรายต้องเกรงใจหน้าพระกันอยู่หลายส่วน พ่ออาจารย์ท่านว่าที่จะขอบิณฑบาตรนี้ก็คือสิ่งที่ไม่ดีของเรา สิ่งไหนไม่ดีในตัวเราท่านว่าให้คุณพระบิณฑบาตรลงในตะกรุดวิชาบาตรสัมฤทธิ์เสียให้หมด อะไรที่ไม่ดีนั้นอย่าได้เอาติดตัวไปเลย ไม่ว่าจะความแค้น,ความอาฆาต,พยาบาท,จองเวรใดๆ..สิ่งที่ไม่ดีทั้งสิ้นทิ้งมันไปเสีย ทั้งวิชาบาตรสัมฤทธิ์นี้จะแปรเปลี่ยนพลังร้ายที่คุณพระท่านบิณฑบาตรจากเราไปให้เป็นพลังมงคลนำพาเราไปในหนทางที่ดี เช่นนั้นจึงกล่าวได้ว่าอะไรที่ไม่ดีไม่งามก็ให้พระท่านบิณฑบาตรไว้ เพราะเราเป็นผู้ที่ถูกเลือก ผู้ที่ได้รับการโปรดอยู่เช่นนั้น

    ทั้งนี้เมื่ออาราธนาตะกรุดคุณพระมาโปรดพ่ออาจารย์ท่านว่าให้สังเกตุตัวเองดูสิ่งหนึ่ง วันไหนที่เอามาคล้องคอเธอจะรู้สึกได้ทันทีว่าจิตใจเธอนั้นเบิกบานแจ่มใส ไม่มีความเศร้าหมอง ท่านว่าตรงนี้ใจที่เบิกบานจะมีพลังงานมากจะทำงานทำสิ่งใดก็ได้รับผลดีเพราะเธอมีพลังใจ คุณพระท่านจะรักษาไปทุกเรื่อง พ่ออาจารย์ท่านว่าเธอสังเกตุเอาเองนะแต่ฉันจะบอกคร่าวๆ ถ้าเป็นอย่างอื่นที่เกินกำลังเทวดาส่วนใหญ่มักจะปล่อยวาง แต่อย่าลืมว่าตะกรุดนี้มีนางฟ้าสำคัญอยู่ท่านจะช่วยทุกเรื่อง ให้อาราธนาไว้ติดตัวสู้กับพิษเศรษฐกิจดู และทั้งนี้พุทธคุณแห่งตะกรุดยังเป็นไปเพื่อสันติสุขของสรรพสัตว์ทั้งหลายอย่างแท้จริง เพื่อให้เจริญศรัทธาได้อย่างมั่นคงในคุณพระและพระศาสนา พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้ไม่ต้องบนต่อให้ได้ทรัพย์ถูกหวยมีปัจจัยเท่าไหร่ก็ไม่ต้องบน แต่หากจะตอบแทนคุณพระคุณครูบาอาจารย์ ก็ให้กระทำความดี หมั่นปฏิบัติธรรมขององค์พระศาสดาถวายเป็นพุทธบูชาดีกว่าอามิสบูชาทั้งหลายทั่วไป เท่านี้ก็เป็นการตอบแทนคุณครูและคุณพระแล้วอย่างแท้จริง ขอให้ท่านรักษาให้ดี เก็บไว้ในที่อันสมควรจะนำมาแขวนคอก็ได้ จะมิรู้จักอด,อยาก,ยากจน,ความสิ้นหวัง,ความล้มเหลวใดๆเลย

    พ่ออาจารย์ท่านปรารถนาจะให้คนนำไปใช้ทำกิจการใดก็จะมีแต่รุ่งเรืองเจริญก้าวหน้า มีโชคมีลาภเงินทองไหลมาเทมา อุดมสมบูรณ์ด้วยโภคทรัพย์ ทำกิจการค้าขายก็ให้ซื้อง่ายขายคล่อง อยู่ที่ไหนก็มีแต่คนรักใคร่เมตตา ไม่อด ไม่อยาก ไม่ยาก ไม่จน ไม่ขัดสนด้วยประการทั้งปวง... ดังนั้นท่านจึงว่าตะกรุดนี้มีผลทางโชคลาภและการเงินมากใครได้ใช้ได้บูชาจะร่ำรวยใหญ่ไม่มีทางอดอยากขัดสนเลย วิชาบาตรสัมฤทธิ์ของสมเด็จองค์ปฐมนี้ ท่านว่ากว่าจะทำได้แต่ละดอกนั้นนับว่ายากนักและก็คงไม่มีใครทำอีกแต่บัดนี้เราก็ได้ทำให้เกิดขึ้นแล้ว เพื่อให้เป็นที่พึ่งที่ระลึกถึงบาตร ถึงคุณพระ ถึงการทำทานทำคุณงามความดี ท่านว่าเสด็จพระใหญ่ท่านอธิษฐานไว้ให้คนที่ใช้บูชาทำมาหากินคล่องตัวทุกคน ให้รวยใหญ่,ให้ประสบความสำเร็จไม่รู้จักคำว่ายากว่าจนเลย ทั้งทรัพย์สินการงานการเงินก็ให้ไหลมาเทมาเพิ่มขึ้นมากล้นทุกอย่างไปสมดั่งเจตนา

    คาถาบูชา
    # พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของทิพย์ยกตะกรุดไหว้จบหัวแล้วใช้ได้เลย

    *** ตะกรุดสำคัญนี้ท่านว่ามีเจ้าของ มีผู้จับจองและมีผู้รับไปใช้แน่นอนแล้วทุกดอก ท่านว่าไม่ต้องกังวลเลย รุ่นนี้ต่อไปจะมีค่ามากกว่าทองคำเธอคอยดูเถอะ ใครที่เขามีเขาได้ใช้แม้เอาทองมาแลกเขาก็ไม่ขายไม่ให้หลุดมือไปได้เลย ตะกรุดตัวครูมหากวักบาตรสัมฤทธิ์นั้นรับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุน ทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดตัวครูมหากวักบาตรสัมฤทธิ์ (คุณพระมาโปรด) บูชา 900 บาท

    65237596-371622630220165-1966997581644955648-n.jpg
    64990535-381702106031046-8077255998122754048-n.jpg
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ตะกรุดรุ่นนี้ใช้ดีมากๆ มีน้อยจริงๆ วันนี้เดี๋ยวจะทยอยตอบ PM กันให้ครบนะครับ
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ช่วงนี้มีประสบการณ์น้ำมันเข้ามากันมากขึ้นเรื่อยๆทั้งทาทั้งฉีด หลายๆคนบอกว่าทาแล้วแทบจะใช้ได้เรียกว่าทันใจเลย ใครมีก็ลองเอาไปอธิษฐานใช้กันนะครับ จะฝากคำถามก็ PM ไว้นะ
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ความเป็นมนุษย์ เป็นลาภอันสูงสุดในชาตินี้

    สิ่งที่แก้ตัวไม่ได้ในปัจจุบันได้แก่การเกิด คือการเกิดมาแล้วจะเป็นสัตว์หรือเป็นมนุษย์ย่อมแก้ไขไม่ได้ ในชาติหนึ่งๆ เหมือนสอบ ไล่ชั้นนั้นๆ เมื่อสอบตกในขณะนั้นแล้ว จะขอสอบแก้ตัวใหม่ย่อมไม่ได้ ต้องเรียนต่อไปอีกจนมีภูมิความรู้ควรจะสอบและโอกาสอำนวยแล้ว จึงจะสอบได้อีก ถ้าสอบได้ก็เลื่อนชั้นขึ้นไป

    เราเกิดมาเป็นมนุษย์และสัตว์ จะถูกหรือผิดก็เกิดมาแล้ว เป็นสัตว์ประเภทใดก็เป็นเต็มที่ เป็นคนชั้นไหนก็เป็นคนเต็มที่ ถ้าขาดตกบกพร่อง อวัยวะส่วนใดขาดเต็มที่ จะแก้ไขรูปร่างและส่วนบกพร่องของอวัยวะให้สมบูรณ์ก็แก้ไขไม่ได้ ถ้าเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยอวัยวะก็เป็นเต็มที่ สิ่งเหล่านี้ถ้าส่วนใดบกพร่อง ย่อมแก้ไขลำบาก ไม่เหมือนเครื่องอะไหล่ ของเครื่องจักรเครื่องยนต์ ซึ่งมีขนาดพอหาซื้อได้ ในห้างร้านต่างๆ เพราะสิ่งเหล่านี้มีไว้เป็นสินค้าทั่วๆไป ไม่เหมือนอวัยวะ ของคนและสัตว์ซึ่งเป็นอวัยวะที่จำเป็นและเป็นสิ่งจำเพาะ แม้จะมีสำรองอยู่บ้างก็เป็นสิ่งปลอมแปลง ไม่เหมือนธรรมชาติดั้งเดิมแท้ และใช้ก็ไม่ดีและมั่นคงเหมือนอวัยวะเดิม

    เพราะฉะนั้น ท่านจึงไม่ให้ประมาทในคุณค่าแห่งการเกิดของตน กำเนิดที่ต่ำเช่นสัตว์มีมากเหลือประมาณ ไปที่ไหนเจอแต่สัตว์ ในน้ำก็มี บนบกก็มี บนต้นไม้ ชายเขา ใต้ดิน บนอากาศ มีเกลื่อนไปหมด เพราะกำเนิดต่ำ สัตว์เกิดได้ง่าย แต่มนุษย์เราเกิดยากกว่าสัตว์ ฉะนั้น ความเป็นมนุษย์จึงเป็นลาภอันสูงสุดในชาตินี้

    คำว่า “มนุษย์สมบัติ” จึงหมายเอาอวัยวะที่สมบูรณ์ประจำชาติของมนุษย์ไม่บกพร่องส่วนต่างๆ ของร่างกายและวิกลจริต ส่วนสมบัติตามมาทีหลังนั้นเป็นส่วนหนึ่งต่างหากจากมนุษย์สมบัติอันแท้จริง ไม่เป็นของจำเป็นยิ่งกว่าความมีอวัยวะอันสมบูรณ์ เป็นต้น อวัยวะสมบัตินี้เป็นสมบัติก้นถุงแท้ คือเป็นทุนที่จะให้บำเพ็ญประโยชน์ในทางโลกและทางธรรมได้ตามความปรารถนา ทั้งเป็นเครื่องมืออันดีเยี่ยมในการสร้างโลกและสร้างธรรม เพื่อสวรรค์สมบัติและนิพพานสมบัติ เพราะเป็นศูนย์กลางแห่งภพชาติทั้งมวล สามารถสร้างตัวให้ดีเด่นได้ทั้งทางโลก ทางธรรม ผู้ทำตัวให้ต่ำลงไป จนเป็นที่ดูถูกเหยียดหยามของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เนื่องจากการดัดแปลงตัวเองไปในทางผิด โดยมีความคิดผิดเป็นเจ้าเรือน ผู้จะทำตัวให้ดีและเด่นขึ้นเป็นลำดับ จำต้องดัดแปลงตัวเองให้ถูกทาง ผลย่อมเป็นความสุขความเจริญคืบหน้าตามลำดับแห่งเหตุที่ทำไว้ดีแล้ว ไม่ว่าวันนี้วันหน้า ชาตินี้ชาติหน้า ความสุขความเจริญต้องอาศัยผลที่เราทำจากคนคนเดียวนี้แล เป็นเครื่องตามสนองในภพนั้นๆ

    ด้วยเหตุนี้ ความเป็นมนุษย์จึงอยู่ในความนิยมของโลก ว่าเป็นภพชาติที่สูงและเป็นที่รวมแห่งความดีทั้งปวงไว้ด้วย เช่น พระศาสนา เครื่องหล่อหลอมมนุษย์ให้เป็นคนดีก็รวมอยู่ที่นี่ แม้พระพุทธศาสนาซึ่งเป็นศาสนาที่เยี่ยมด้วยเหตุผลก็มีอยู่กับมนุษย์เรา พระพุทธเจ้าก็มาตรัสรู้ในแดนแห่งมนุษย์เรานี้ พระสาวกเกิดเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์แล้ว จึงสามารถปฏิบัติธรรมจนได้ตรัสรู้ตามพระพุทธเจ้า ฉะนั้น ความเป็นมนุษย์จึงเป็นผู้มีภาชนะอันดีสำหรับรับรอง ทั้งกองสมบัติเงินทองของมีค่าในโลก ทั้งโลกุตรภูมิสมบัติ จึงควรภาคภูมิใจในบุญวาสนาของตนที่พบพระพุทธศาสนา อันเป็นศาสนาที่บริสุทธิ์ทั้งเหตุทั้งผล

    การกล่าวทั้งนี้มิได้ตำหนิศาสนาใดๆ ว่าไม่ดี เพราะศาสนาใดก็ดีด้วยกัน เนื่องจากไม่ได้สอนคนให้ชั่ว แต่ความดีนั้นมีสูงต่ำต่างกัน คุณภาพของศาสนาจึงต่างกัน พระพุทธศาสนานี้สามารถสอนคนให้เป็นคนดีเยี่ยมได้ ทั้งความประพฤติและความรู้ความเห็นภายในใจ จนกลายเป็นใจวิเศษและอัศจรรย์เหนือใจสามัญธรรมดา เพราะการอบรมจากธรรมของจริงอย่างประเสริฐ คือพระพุทธศาสนา


    ฉะนั้น จึงควรเห็นคุณค่าในตัวเราและชีวิตจิตใจซึ่งครองตัวอยู่ขณะนี้ พยายามอบรมดัดแปลงวิถีทางเดินของชีวิตและจิตใจให้เป็นไปด้วยความสม่ำเสมอและราบรื่น ทั้งทางโลกและทางธรรม จะมีความสุขกายสุขใจ อยู่ในโลกนี้ก็เห็นประจักษ์ใจ ถ้ามีธรรมเครื่องดัดแปลงให้ถูกทางจะไปโลกหน้าก็คือใจดวงกำลังดัดแปลงอยู่ ณ บัด นี้ จะเป็นผู้พาไป ไม่มีสิ่งใดจะไปโลกหน้าได้ นอกจากจิตดวงเดียวซึ่งเป็นของละเอียดยิ่งนี้เท่านั้น

    เราทุกท่านต่างก็เป็นนายช่างผู้ฝึกฝนอบรมตนอย่างไรจะเป็นที่มั่นใจ โปรดกระทำลงไปจนสุดความสามารถในขณะมีชีวิตอยู่ ถ้าชีวิตหาไม่แล้วจะสุดวิสัย เพราะร่างกายแตกสลาย ต้องหมดทางเดินทันทีที่ชีวิตสิ้นสุดลง การบำเพ็ญความดีทุกประเภทเป็นต้นว่าเคยบำเพ็ญทาน รักษาศีล และเจริญภาวนาก็ทำต่อไปอีกไม่ได้ ทำให้ขาดไปเสียทุกอย่าง

    เราจึงไม่ควรเห็นสิ่งใดว่าเป็นของมีคุณค่ายิ่งกว่าใจ ซึ่งกำลังรับผิดชอบในสมบัติทุกสิ่งอยู่เวลานี้ แม้เราจะเสาะแสวงหาสิ่งใดมาเพื่อบำบัดร่างกายและจิตใจให้มีความสุขเท่าที่ควรจะเป็นได้ แต่เราอย่าลืมตัวถึงกับได้ผิดพลาดไปกับสิ่งนั้นๆ จนถอนตัวไม่ขึ้น เพราะอำนาจความอยากเป็นเจ้าของเรือนใจ ถ้าได้รับการอบรมอยู่เสมอ อย่างไรก็ไม่ตกต่ำและถอยหลังมาสู่ความทุกข์และความต่ำทรามต่างๆ ที่ไม่พึงปรารถนา จะก้าวไปทีละเล็กละน้อย และก้าวไปเสมอจนถึงจุดประสงค์จนได้

    ผู้มีความเจริญรุ่งเรืองทั้งทรัพย์ภายนอกและทรัพย์ภายใน คือคุณสมบัติของใจ ท่านเจริญรุ่งเรืองได้เพราะการฝึกฝนดัดแปลง
    อย่าเข้าใจว่าเป็นไปจากเหตุอื่นใดทั้งสิ้น เพราะกายวาจาใจเป็นสิ่งอบรมดัดแปลงได้ด้วยกัน ไม่เช่นนั้น จะหาคนดีคนฉลาดไม่ได้ในโลกมนุษย์เรา และจะไม่ผิดอะไรกับสัตว์ที่มิได้ฝึกหัดดัดแปลงเลย สิ่งที่จะทำให้คนดีคนชั่วได้จึงขึ้นอยู่กับการฝึกหัดดัดแปลงตัวเอง ตามใจชอบ ผลก็กลายเป็นคนดีคนชั่ว และสุขทุกข์ขึ้นมาเป็นเงาตามตัว


    ฉะนั้น การไม่ปล่อยตัว คือให้อยู่ในกรอบของการสังเกตสอดรู้ของตัวเสมอ นั่นแลเป็นทางเจริญก้าวหน้า ผู้ชอบความเจริญก้าวหน้าจงเป็นผู้สงวนตน

    อนึ่ง ธรรมเครื่องขัดเกลามนุษย์และสัตว์ให้เป็นคนดีและสัตว์ดีตามฐานะของตนนั้น มีอยู่กับทุกคน ไม่ว่านักบวชและฆราวาสหญิงชาย ขึ้นอยู่กับความขยันหมั่นเพียร ความอดทน ความดีความชั่วขึ้นอยู่กับตัวผู้ชอบทำ ทำที่ไหนก็ได้ ไม่นิยมว่าในบ้านนอกบ้าน ในวัดนอกวัด ในน้ำ บนบก เพราะต้นเหตุความดีและชั่ว มันอยู่กับตัวของผู้ทำ ไม่ได้อยู่ที่อื่นใดทั้งนั้น


    557000001349001.jpg
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่นฤชา ED 8156 9987 2 TH

    พี่สุทธิธรรม ED 8156 9988 6 TH

    พี่นฐมน ED 8156 9989 0 TH

    พี่ณธพรหม ED 8156 9990 9 TH

    พี่บุญชนะ ED 8156 9991 2 TH

    พี่ศิระ ED 8156 9992 6 TH

    พี่เมธาพันธ์ ED 8156 9993 0 TH

    พี่ฐิตกาญจน์ ED 8156 9994 3 TH

    พี่วิศณุกร ED 8156 9995 7 TH

    พี่สิวริศร ED 8156 9996 5 TH

    พี่พชร ED 8156 9997 4 TH
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ใครรอตะกรุดหนุนดวงยังไม่มีนะครับ แต่มีของที่ใช้แก้ดวงดับ ดวงแตก ดวงอับแสง... เหล่านี้เดี๋ยวพรุ่งนี้ติดตามกันดีๆ บอกได้คร่าวๆว่าทำยากกว่าตะกรุดมาก
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ฝึกสติ เพิ่มศักยภาพสมอง?

    การทำสมาธิ (Mediation) การมีสติ (mindfulness) การคิดเชิงบวกหรือมองโลกในแง่ดี (hard optimism) สามารถเพิ่มศักยภาพของสมองให้มีความยืดหยุ่น (Neuroplasticity)

    คำว่า Neuroplasticity “ความยืดหยุ่นของสมอง” ความเชื่อเดิมที่ผ่านมาในอดีตที่ว่า ศักยภาพสมองของมนุษย์เราตั้งแต่เกิดเป็นเช่นไรก็เป็นเช่นนั้น แต่ในปัจจุบัน ความเชื่อเช่นนั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว เราสามารถเพิ่มศักยภาพของสมองให้มีความเปลี่ยนแปลงไปในรูปแบบที่ครั้งหนึ่งเคยเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ นั่นคือการหาแนวทางปฏิบัติเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของสมอง หรือBrain plasticity หรือ Neurplasticity ก็จะสามารถทำให้สมองเปลี่ยนแปลงได้ตลอดชีวิต โดยการปฏิรูปตัวเองให้มีการสร้างส่วนเชื่อมต่อ หรือ “connections” ระหว่างเซลล์ประสาทนั่นเอง

    มีปัจจัยอะไรบ้าง ที่สามารถทำให้สมองเกิดการเปลี่ยนแปลงได้บ้าง?

    นอกเหนือจากปัจจัยทางพันธุกรรมแล้ว มีปัจจัยต่างๆ ที่อยู่รอบตัวของเรา รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ของคนเราต่างมีบทบาทต่อการทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสมองได้ทั้งนั้น เช่น

    1. ในตอนเริ่มต้นของการมีชีวิต: สมองของคนเราก็เริ่มมีการพัฒนา หรือเปลี่ยนแปลงตัวของมันเองตามธรรมชาติ

    2. ในตอนที่สมองได้รับบาดเจ็บ: จะมีการชดเชยสมองส่วนที่เสียไปโดยสมองส่วนที่ดี หรือกล่าวง่ายๆคือให้สมองส่วนที่ดีได้ทำงานมากขึ้น

    3. ในระหว่างที่เป็นผู้ใหญ่: เมื่อคนเรามีการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ การจดจำสิ่งใหม่ๆ การฝึกปฏิบัติตัวเพื่อสร้างภาวะสุขภาพจิตที่ดี ด้วยการทำสมาธิ (Mediation) การมีสติ (mindfulness) การคิดเชิงบวกหรือมองโลกในแง่ดี (hard optimism) ทำให้มีการสื่อสารระหว่างเซลล์ประสาทเพิ่มมากขึ้น เป็นการกระตุ้นให้สมองเกิดการเปลี่ยนแปลง (neuroplasticity) ได้เป็นอย่างดี….วันนี้เราจะนำเสนอแนวคิดเรื่องนี้กันค่ะ

    สติ มองโลกแง่ดี ทำให้สมองมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างไร?
    การเพิ่มประสิทธิภาพของสมอง ด้วยการเพิ่มภาวะความยืดหยุ่นตัวของสมอง (neuroplasticity) นึกภาพดูค่ะ สมองของคนเรามีสองส่วนที่สำคัญคือ สมองซีกซ้ายและขวา โดยลอจิก การทำงานของสมองซีกซ้ายพัฒนาทักษะทางความคิดวิเคราะห์ การคำนวณ ในขณะที่สมองซีกขวาใช้พัฒนาทักษะด้านศิลปะ ปรัชญา ความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ ขณะเดียวกัน คนเรามีแนวโน้มที่จะใช้สมองซีกใดซีกหนึ่งเป็นระยะเวลานานตามความชำนาญของตนเอง ดังนั้น การเพิ่มศักยภาพของสมองให้มีมากขึ้น จำเป็นต้องมีความสมดุลสองด้านค่ะ

    คุณหมอรีเบกกา แกรดดิ้ง ได้เขียนหนังสือเล่มหนึ่งชื่อว่า "You Are Not Your Brain" เขากล่าวว่า ปัจจุบันวงการวิชาการวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ได้มีทิศทางเปลี่ยนไป ในการฝึกเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในสมองได้นั้น จะโฟกัสไปที่การสำรวจความคิดลึกๆของตนเอง (deeper thought) ตามสภาพความเป็นจริง จากผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ตีพิมพ์ในวารสาร Neuroimage Journal ปี ค.ศ. 2008 กล่าวว่าในภาพแสกน MRI สมองของผู้มีภาวะซึมเศร้าทางคลินิก จำนวน 10 ราย พบเซลล์สมองส่วน hippocampus ฝ่อไป แต่หลังจากการฝึกเพียง 8 สัปดาห์ สมองส่วน hippocampus ของผู้เข้าร่วมการศึกษา มีความหนาแน่นและขนาดโดยรวมเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ การค้นพบที่ไม่น่าเชื่อนี้หมายความว่า การฝึกปฏิบัติดังกล่าวต่อเนื่องในชีวิตประจำวันจะช่วยเพิ่มศักยภาพสมองให้มีความยืดหยุ่นขึ้นมาได้

    ต่อมาในปี ค.ศ. 2012 ได้มีรายงานผลการศึกษาในกลุ่มตัวอย่างกว่า 1000 ราย ของโรงเรียนแพทย์ยูซีแอลเอ พบว่า การฝึกสติ (mindfulness) การปล่อยวาง (Empathy) การมีสติรู้ตนเองตลอดเวลา (Self awareness) การคิดเชิงบวกหรือมองโลกในแง่ดี (hard optimism) สามารถทำให้สมองส่วน corpus callosum แข็งแรงขึ้น หนาขึ้น และเชื่อมต่อได้ดีขึ้น โดยจะเห็นได้ชัดเจนจากภาพสแกนสมองด้วยเครื่อง FMRI (FMRI: Functional Magnetic Resonance Imaging เป็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้นจาก MRI ซึ่งเป็นเพียงภาพนิ่ง ให้กลายเป็นเป็นภาพแบบ real time ณ. เวลาที่ต้องการ อันเป็นผลที่เกิดจากการแลกเปลี่ยนประจุไฟฟ้าอิเลคตรอนของสนามแม่เหล็กที่จับภาพปริมาณออกซิเจนระหว่างเซลล์ “แบบตัวเป็นๆค่ะ”) ซึ่งแสดงถึงการเชื่อมต่อของเส้นประสาทในสมองมีมากขึ้น ขณะเดียวกัน จากภาพสแกน MRI ที่เป็นภาพนิ่ง พบสมองมีความหนามากขึ้น นั่นแสดงว่า โครงสร้างแบบนี้เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ในการทำให้สมองของคนเราสามารถสื่อสารกันได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน อันเนื่องมากจากการวิ่งของกระแสไฟฟ้าในสมองให้มีการเชื่อมต่อถึงกันระหว่างเซลล์สมองมากขึ้น เป็นการค้นพบอันมหัศจรรย์ ที่ทำให้สมองมีศักยภาพเพิ่มขึ้นจากการมีภาวะความยืดหยุ่นตัว อาจกล่าวได้ว่า สมองบริเวณดังกล่าว “มีชีวิต” ขึ้นมาทันที

    อย่างที่ ดร.ซารา ลาซาร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ได้ยืนยันว่า การฝึกปฏิบัติดังกล่าวต่อเนื่องทำให้สมองส่วนฮิบโปแคมปัส มีความเข็งแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบกันดีว่า สมองส่วนนี้เป็นศูนย์กลางของความจำของมนุษย์ (Memories center) ดังนั้น การเพิ่มศักยภาพสมองส่วนนี้จึงสามารถเปลี่ยนสมองคนเรา ให้เก็บแต่ความทรงจำด้านบวก และสร้างเป็นความสุขถาวรให้กับคนผู้นั้นตลอดเวลานั่นเอง


    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ปกติคนที่ดวงตกเวลาสอบถามก็จะแนะนำให้ทำตะกรุดหนุนดวงกัน แต่ถ้าเรื่องมันหนักมากหรือดูแล้วถึงขั้นดวงช้ำ,ดวงแตก,ดวงร้าว,ดวงเสีย,ดวงพินทุบาทว์..ดวงจัญไรเหล่านั้น ท่านว่าถ้าหนักถึงปานนี้อานุภาพตะกรุดหนุนดวงก็เอาไม่อยู่เหมือนกันเพราะมันไม่ใช่แค่ดวงตกแล้วหากแต่บางคนพร้อมจะตายวันตายพรุ่งได้เสมอ ตรงนี้ไปทำตะกรุดหนุนดวงที่ไหนๆกันแม้ทำไปก็ช่วยให้ดีขึ้นได้แบบแค่พอหายใจแต่ไม่ได้หนุนหรือส่งให้ดีขึ้นพรวดพราด เช่นนั้นดวงเหล่านี้จึงจำเป็นต้องรีบแก้ไขแต่จะแก้อย่างไร ใช้อะไรแก้ พ่ออาจารย์ท่านได้ศึกษาและซุ่มทำของบางอย่างเพื่อใช้แก้ปัญหาเหล่านี้มานานมาก ใครที่ไม่อยากเสี่ยงกับปัญหาเรื่องดวงเดี๋ยวก็ติดตามกันดีๆนะครับวันสองวันนี้
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้มาติดตามพูดคุยกันนะ
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    พอลงเรื่องราวเกี่ยวกับเครื่องรางที่ใช้แก้กันดวงแตกเหล่านี้ก็มีคนทักมาว่าอยากเหมาไปแจกคนงาน แจกลูกน้อง รายการนี้เดี๋ยวคุยกันก่อนนะครับ สิ่งนี้พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่า "พระป้าย" แต่ความเป็นจริงแล้วไม่ใช่ป้ายอะไรเลยท่านน่าจะเรียกตามลักษณะ ก็เดี๋ยวติดตามพูดคุยกันเรื่อยๆบอกได้แค่ว่าทำยากและใช้ทุนเยอะจริงๆ
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,481
    ค่าพลัง:
    +17,874
    "หากได้บูชาพระป้ายทุกอย่างจะดีขึ้น" พระป้ายของพ่ออาจารย์คืออะไร... อันนี้ใครที่จะเช่าพรุ่งนี้อยากให้ตั้งใจอ่านกันจริงๆเพราะว่าของแบบนี้จะย้อนหลังไปสักร้อยปี หรือสืบต่อไปในอนาคตอีกสักร้อยปีที่จะมีใครเมตตาทำให้เช่นนี้แบบพ่ออาจารย์ท่านอีกเชื่อว่าหาได้ยากแน่นอน เพราะนี่เป็นวิชาของท่าน เป็นตำรับของท่านอย่างแท้จริง ใครที่กลัวดวงจะตกในแต่ละปี หรือที่ทุกข์กว่าดวงตกมากๆเลยพรุ่งนี้ติดตามกันดีๆนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...