ร่วมทำบุญบูชา ชุดลองพิมพ์ปัดเสนียดพระธนบดีเปิดคลังพ่อเศรษฐี(ยอดขุนคลังกายสิทธิ์) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    พรุ่งนี้จะลงเครื่องรางที่ได้ชื่อว่าควรมีไว้เพื่อประโยชน์ของตนเองอย่างมากที่สุด แอบแย้มๆว่ารายการนี้ทำยากแค่ผงสองตัวที่อุดรวมกันก็น่าสนใจมากแล้ว และรายการนี้ท่านก็ให้ออกในราคาไม่สูงด้วย ใครที่มีปัญหาในเรื่องกำลังของจิตและรู้ตัวว่าจิตตัวเองไม่มีกำลังเหมือนคนอื่น เดี๋ยวติดตามรายการนี้กันอีกที
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดแฝดเนื้อธาตุอาถรรพ์เพิ่มพูนกำลังจิตตานุภาพคลายข้อจำกัด (กลับดำเป็นขาว,กลับผิดเป็นถูก)

    " หากจิตของตัวเองไม่ดีไม่มีพลังทำอะไรไปมันก็พังก็ไม่ดีทั้งนั้น...จึงเป็นตะกรุดที่มีไว้เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองอย่างถึงที่สุด "
    ตะกรุดที่พ่ออาจารย์ท่านอาราธนาคู่กายเสมอ
    ด้วยครูท้าวสหัมบดีพรหมท่านเมตตาให้พ่ออาจารย์ลงวิชาในสายของท่าน โดยใช้ชนวนอาถรรพ์คราวสร้างพระเจ้าสัวมาหลอมรีดเป็นแผ่นตะกรุด ด้วยชนวนนั้นมีเชื้อ มีชาติ มีสัญญา มีอานุภาพที่เปลี่ยนคนสร้างคนได้ ท่านใช้ตะกั่วเก้าโกฏิของเจ้าสัวโบราณมาทำ ท่านว่าเรารวบรวมไว้ เอาแค่โกฏิเค้ามาเป็นสื่อเป็นชนวนให้ตรงตามตำราเท่านั้นไม่ได้มีกระดูกหรือมวลสารอาถรรพ์ใดๆ ท่านว่าลำพังโกฏินี่ก็อาถรรพ์มากพอแล้ว กว่าจะเจรจาจนได้มาต้องหาโกฏิใหม่ไปเปลี่ยนให้เค้า ซึ่งเศรษฐีทั้งเก้านี้ท่านว่าได้แก่

    - เศรษฐีคุณพระ เป็นถึงท่านเจ้าคุณมีทรัพย์สินและบริวารมาก คนใช้จะเจริญด้วยยศศักดิ์
    - เศรษฐีที่ดิน เป็นเจ้าของที่ดินมหาศาล คนใช้จะได้มีที่ดินทำกินมีบ้านช่องเป็นของตัวเอง
    - เศรษฐีพ่อค้าทอง เป็นเจ้าของร้านทองชื่อดัง ท่านว่าคนใช้จะได้จับเงินทองไม่ขาดมือทำมาหากินอะไรก็ซื้อง่ายขายคล่อง
    - เศรษฐีสวนส้ม สมัยก่อนใครมีสวนส้มยิ่งทำเป็นกิจการใหญ่โตส่งออกถือว่ารวย ท่านว่าคนใช้นั้นจะได้มีทรัพย์ ทรัพย์ที่มีจะได้ออกดอกออกผล
    - เศรษฐีนายหน้า มีวาสนาได้ด้วยการพูดจาติดต่อประสานงาน ท่านว่าจะได้เปิดและเพิ่มวาสนาคนใช้ให้ติดต่อสื่อสารเจรจางานใดๆก็สำเร็จร่ำรวย
    - เศรษฐีเจ้าปัญญา เป็นชีวิตที่เรียนเก่ง ได้ดีเพราะมีปัญญามาก สอบได้เป็นอันดับแรกของจังหวัด กลายเป็นเศรษฐีเพราะวาสนาบวกกับสติปัญญาที่สูงส่งเกินมนุษย์ ท่านว่าคนใช้จะได้มีปัญญา รู้ทันคำพูดและมีความคิดฉลาดหลักแหลม
    - เศรษฐีโรงบ่อน เป็นเจ้าของบ่อนพนันท่านว่าคนผู้นี้มีอำนาจ วาสนา บารมีครบถ้วน การจะเป็นเจ้าของบ่อนที่ท้าทายอำนาจรัฐได้ย่อมไม่ธรรมดา ท่านว่าคนใช้จะได้มีบารมีมากเช่นเดียวกัน
    - เศรษฐีเจ้าสำราญ เป็นคนที่ได้ดีเพราะแต่งเมีย เหมือนหนูตกถังข้าวสาร อยู่เฉยๆโชคลาภ ทรัพย์สิน ศฤงคาร ความสุขทุกประการก็มากองอยู่ตรงหน้าโดยไม่ต้องหาต้องลงแรงทำอะไร ท่านว่าคนใช้จะได้สะดวกสบายทำอะไรลื่นไหล ได้ลาภได้ทรัพย์กันง่ายๆ
    - เศรษฐีเหมืองแร่ แร่ธาตุทั้งหลายเป็นทรัพย์ในดินเป็นสิ่งที่เกิดที่งอกเงยตามธรรมชาติ แต่ก็ไม่ได้มีในดินทุกที่ การเป็นเศรษฐีเป็นเจ้าสัวเพราะทรัพย์สินที่เกิดที่งอกขึ้นเองในที่ดินตนนับว่าเป็นวาสนาแต่เดิม ท่านว่าทำอะไรจะได้งอกเงยและทรัพย์จะเกิดขึ้นได้เอง
    ชนวนชุดนี้เกิดจากบารมีอันสั่งสมไว้นับชาติไม่ถ้วนของเหล่าเจ้าสัว โดยท่านนำตะกั่วโกฏิเหล่านั้นมาหลอมรีดไล่เอาตะกันออกจนบริสุทธิ์ ก่อนจะนำมาลงถมด้วยยันต์สำคัญต่างๆดังนี้
    ดวงประสูติ ดวงตรัสรู้ ดวงปรินิพพาน ยันต์พระพุทธเจ้าถอดรูป ยันต์พระพุทธเจ้าแปลงรูป ยันต์พระพุทธเจ้าแบ่งภาค ยันต์พระพุทธเจ้าเปล่งรัศมี ยันต์พระพุทธคุณ108 ยันต์มหาจักรพรรดิ ยันต์รัตนมาลา ยันต์มหาปราบ ยันต์มหาระงับ ยันต์คู่ชีวิต ยันต์ตารางเพชร ยันต์เฉลียวเพชร ยันต์เกราะเพชร...ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านปกติจะหวงชนวนชุดนี้มากมีไม่กี่ครั้งที่ท่านจะนำชนวนอาถรรพ์เช่นนี้มาสร้างเครื่องมงคล ซึ่งหนนี้ท่านก็ได้นำมาหลอมรีดเป็นแผ่นตะกรุดสำคัญด้วยเหตุว่าต้องการทำของที่
    "เปลี่ยนคนสร้างคนได้"

    เครื่องรางที่มีไว้เพิ่มพลังจิตตานุภาพในตัวเอง

    ตะกรุดนี้เปรียบเสมือนสิ่งที่ใช้ควบคุมพลังงาน เป็นตัวสั่งการพลังงานในรูปแบบต่างๆให้แปรเปลี่ยนสภาพไม่ว่าจะการเกิดขึ้น,ตั้งอยู่และดับไป เช่นนั้นตะกรุดวิชาขององค์พรหมสูงสุดจึงมีพลังถ่ายทอดและควบคุมซึ่งกันและกันแบบเป็นลูกโซ่ พ่ออาจารย์ท่านว่าทุกสิ่งในห้วงมหรรณพนี้ล้วนขับเคลื่อนด้วยพลังงานและเชื่อมผ่านส่งต่อแบบมีผลกระทบซึ่งกันและกัน ### ถ้าเราควบคุมสิ่งหนึ่งสิ่งใดไม่ได้ชีวิตเราก็จะล้มทั้งกระดาน ล้มต่อไปเป็นทอดๆแบบตัวต่อโดมิโน เช่นนั้นทุกกระบวนการตั้งแต่การเกิดขึ้นของชีวิตไปจนถึงการคงอยู่และดับสลายจึงถูกกำหนดขึ้นด้วยธรรมชาติตามรูปแบบวงจรของแต่ละคน เพราะชีวิตของแต่ละคนนั้นย่อมมีระบบและโลกของตนเองต่างกันไปในขณะที่เราเป็นสิ่งมีชีวิตซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับพลังงาน,ธาตุทั้งสี่ไปจนถึงพลังแห่งดวงดาวและกระแสวัฏจักรได้ ท่านว่าสังเกตุง่ายๆเลยเพราะสิ่งเหล่านี้มีผลกับชีวิตเราโดยตรงเช่นนั้นเราจึงเปลี่ยนแปลงในทุกๆวันเปลี่ยนสภาพดำเนินไปสู่จุดแตกดับตลอดเวลา ...เพราะธรรมชาตินั้นให้ผลโดยตรงกับชีวิตของเรา เช่นนั้นเราจึงอาศัยกำลังธรรมชาติมาเปลี่ยนวงจรในตัวเองได้ ซึ่งสิ่งที่จะทำให้เราเปลี่ยนแปลงไปได้นี้ท่านว่าก็คือพลังจิตตานุภาพ

    ด้วยสรรพสิ่งล้วนถูกสั่งการโดยพลังงานและส่งผลกระทบต่อมหาธาตุและการเปลี่ยนแปลงในวงจรชีวิตอย่างเป็นระบบ เช่นนั้นผู้มีกำลังทางจิตเข้มแข็งจึงได้เปรียบกว่าคนอื่นเวลาทำสิ่งเดียวกันอยู่เสมอ นั่นก็เพราะพวกเขาเหล่านี้จะควบคุมพลังงานที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆในชีวิตตัวเองได้ แต่การฝึกเพื่อให้จิตเกิดพลังนั้นในหลายๆปัจจัยบางคนก็ไม่สามารถสัมผัสได้เลย ครูบรมพรหมท่านจึงโองการให้พ่ออาจารย์ท่านลงตะกรุดชุดพิเศษที่เพียงนำติดตัวไว้ ด้วยเวทย์สวรรค์สูตรเฉพาะด้านในนั้นเขาก็จะขัดเกลาทั้งยังป้องกันเราจากสิ่งรบกวนต่างๆทางจิตไม่ให้มีสิ่งใดมาตกกระทบจนชีวิตต้องหันเหแย่ลงไป ท่านว่าใจเราจะสบายขึ้นไม่หนักหน่วงกับภาระในชีวิต ### ยิ่งหากเรานึกถึงแต่สิ่งดีๆด้วยแล้วจิตเราก็จะยิ่งมีพลังมากขึ้น ท่านว่าคิดเรื่องดีๆต่อตนเองและผู้อื่นซักร้อยเรื่องในขณะที่พกตะกรุดนี้ พลังความคิดก็จะเปลี่ยนเป็นกำลังบริสุทธิ์ยกระดับพลังจิตตัวเอง ในขณะเดียวกันคนที่ไม่มีตะกรุดต่อให้คิดสิ่งดีๆซักร้อยอย่างพันอย่างมันก็เป็นได้แค่ความคิดไม่ได้ส่งผลให้ชีวิตตัวเองเปลี่ยนแปลงอะไร ทั้งนี้ตะกรุดเพิ่มกำลังจิตตานุภาพจึงเป็นเสมือนตัวแทนที่ใช้เชื่อมและยกระดับพลังจิตของเราเองหากอาราธนาติดตัวแล้วท่านว่าจะช่วยให้เราเองมีสมาธิมากกว่าคนอื่นหลายเท่าตามคุณวิชาและแรงครูขององค์สหัมบดีพรหม ซึ่งท่านประสงค์จะให้ใช้ตะกรุดนี้เป็นกุญแจยกระดับจิตยกระดับชีวิตพัฒนากระบวนการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากพลังงานธรรมชาติ จะควบคุม,ยกระดับ,ทำลายหรือเปลี่ยนสิ่งต่างๆท่านว่าคนที่จิตมีกำลังมากพอล้วนกำหนดชะตาชีวิตในแบบที่อยากเป็นได้ทั้งสิ้น หากแต่เรานั้นขาดสิ่งที่จะควบคุมเขาให้เป็นไปตามกลไกความคิดของเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าชีวิตคนก็เหมือนตัวต่อที่ต้องคอยต่อออกไปเรื่อยๆ กลไกในการควบคุมกำลังนี้ก็เหมือนกันมันต้องใช้ให้ต่อเนื่องและส่งผลเชื่อมต่อกันเป็นลูกโซ่จึงจะมีผลชัดเจน เช่นนั้นครูท่านจึงให้วิชามาสองแบบเพื่อใช้ให้คนที่ไม่มีโอกาสหรือไม่มีของเก่าทำมาและเหล่าคนที่สัญญาความจำได้หมายรู้ยังไม่เปิด ได้ใช้งานเพื่อเพิ่มกำลังจิตกำลังความคิดตัวเอง

    เมื่อชีวิตเราเข้าถึงจุดกำเนิดก่อเกิดพลังงานที่จิตเราเองควบคุมได้ เราก็จะเข้าใจว่าโลกนี้มีเรื่องต่างๆนับไม่ถ้วนที่เราสามารถทำได้ สิ่งที่เราไม่เคยทำไม่เคยคิดไม่มีหนทางและยังมองไม่เห็นด้วยมีข้อจำกัดทางสติปัญญา สิ่งที่ไม่เคยไม่อาจคิดหรือเข้าใจได้ ตรงนี้กำลังทางจิตเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วมันก็จะชี้นำเราไปสู่ความรู้ใหม่ๆเสมอ ยิ่งจิตมีกำลังมากระดับสติปัญญาก็ยิ่งสูงสามารถเข้าใจเรื่องที่ลึกและละเอียดได้มากเป็นเงาตามตัว ด้วยธรรมชาตินั้นยิ่งใหญ่มากเราจึงต้องพัฒนากำลังจิตตานุภาพและสติปัญญาของตนเองให้เพิ่มขึ้นและมากขึ้น(ท่านว่าหากไม่ขัดเกลาเกิดกี่ชาติก็เป็นอยู่เช่นนี้ไม่ได้ยกระดับพัฒนาตัวตนไปตามภพภูมิต่างๆที่สูงขึ้นอย่างที่ควรจะเป็น เรียกว่าเสียเวลาเกิด) พ่ออาจารย์ท่านว่าหากเราใช้และเล่นเป็นเราจะไม่หยุดอยู่เพียงข้อจำกัดว่าโลกมีเท่านี้แค่นี้ ด้วยเราจะรู้เองว่ามีมิติอื่นๆซ้อนทับโลกและที่อยู่อาศัยของเราอีกมากซึ่งทุกมิตินั้นก็มีพลังงานดำเนินวนไปตามวัฎจักรของเขาแบบเราเช่นกัน เช่นนั้นเมื่อจิตเรามีพลังปัญญาเราได้รับการขัดเกลาและพัฒนาแล้วเราก็จะเข้าใจธรรมมชาติทั้งยังใช้กำลังนั้นขับเคลื่อนการดำรงค์อยู่ของตนเองได้

    ด้วยพลังจิตของเรานั้นเชื่อมโยงกับกำลังธรรมชาติ เช่นนี้ตะกรุดแฝดเนื้อธาตุอาถรรพ์จึงเปรียบเสมือนเครื่องควบคุมและขับผ่านกระแสพลัง นอกจากเราจะรับรู้ได้ถึงมิติและกลุ่มก้อนพลังงานทั้งหลายเรายังอาจจะยืดอายุตนเองให้ยาวนานขึ้นด้วยตัวเรามีพลังชีวิตเพิ่มมากขึ้น(ไม่เกินกรรม) พอเราสั่งสมสิ่งที่เป็นกำลังของจิตเราได้เราก็จะรู้เห็นสิ่งที่พลังงานธรรมชาติบังตาเราไว้ได้มากขึ้น ทั้งหากเรามีกำลังทางจิตแกร่งกล้าเราก็สามารถควบคุมและเปลี่ยนแปลงมันได้ ด้วยธรรมชาตินั้นมีต้นตอเกิดขึ้นจากความว่างเปล่า ทุกสิ่งย่อมดำเนินไปเข้าหาจุดเสื่อมสลาย หากแต่สิ่งที่อยู่เหนือกำลังนั้นขึ้นไปกลับไม่ใช่สิ่งที่ไร้ตัวตนหรือมีการเปลี่ยนแปลงใดๆอีก พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้เราเองก็ต้องไปให้ถึงจุดนั้นเช่นกัน ดังนั้นการพัฒนาทางจิตจึงเป็นสิ่งสำคัญ เมื่อจิตมีกำลังแล้วจะฝึกใช้พลังเล่นฤทธิ์ทำให้จิตตนมีฤทธิ์ นึกคิดสิ่งใดเป็นไปตามความต้องการจะฝึกมโนมยิทธิหรือทำให้แตกฉานในอิทธิวิธีก็ได้ เรียกว่าเมื่อจิตตานุภาพมีกำลังกล้าเรื่องทิพยอำนาจ,ทิพยโตหรือจักษุก็ดีย่อมจะพัฒนาไปตามจิตที่ละเอียดมากขึ้น กระบวนการตื่นรู้ ความจำ ความคิด ความรู้สึกล้วนพัฒนาทั้งหมดเพราะจิตเป็นพลังงาน ป็นพลังที่ควบคุมสมองโดยตรงเช่นนั้นจิตจึงทำได้หลายอย่างทั้งการปกปักคุ้มครองและทำสิ่งที่ต้องการรวมไปถึงสะกดข่มศัตรูทำให้ผู้อื่นเกิดความเกรงใจเลื่อมใสหรือจะใช้ทางบำบัดรักษาอาการต่างๆก็ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าจิตที่มีพลังนั้นทำได้ทุกอย่าง

    เช่นนั้นท่านจึงต้องการให้จิตของพวกเรานั้นมีพลังโดยตัวมันเองเพื่อที่จะได้พึ่งตัวเองและพัฒนาตัวเองได้มากที่สุดท่านจึงลงตะกรุดแฝดด้วยวิชาครูบรมพรหมทั้งสองสูตรและม้วนเข้าหากันอุดผงลับเฉพาะไว้ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นยันต์แบบไหนอุดผงอะไรครูท่านให้ปิดปากให้สนิท ท่านว่าวิชาสำคัญนี้ต้องตายไปกับตัวเท่านั้น เช่นนั้นจึงบอกกันได้แค่เรื่องการอาราธนาไปใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงตนเองให้มีพัฒนาการไปสู่ความรู้แจ้งเห็นจริง เมื่อตัวปัญญาเกิดญาณทัศนะก็จะเปิดขึ้น เราจะมีความเข้าใจถึงความเป็นธรรมชาติและเข้าใจรอบรู้เกี่ยวกับสรรพสิ่งที่วันนี้เรามองว่าเป็นเรื่องเหนือโลก....ท่านว่าคนใช้เป็นเขาจะพัฒนาตัวเองไปถึงจุดที่เหนือโลกนั้นขอเพียงแค่พกไว้ยกระดับกำลังจิตตัวเองทุกเช้าค่ำเอาติดตัวไว้เช่นนี้ ข้อดีอุปมาเปรียบเทียบกับสิ่งใดไม่ได้เลยเราบอกได้แค่ว่าจิตที่มีพลังพร้อมจะพัฒนาในทุกด้านนั้นมันเหนือโลกและพร้อมที่จะพ้นโลกพูดได้เท่านั้น ผู้ที่อาราธนาจะไม่สามารถนำพลังจิตไปใช้ในทางที่ผิดได้นอกจากการพัฒนาส่งเสริมจิตวิญญาณและเปลี่ยนแปลงให้ชีวิตตนเองดีขึ้น *** พ่ออาจารย์ท่านย้ำข้อนี้มากที่สุดเพราะกำลังทางจิตนั้นหากนำไปใช้ผิดที่ผิดทางย่อมก่อเกิดเภทภัยแก่ตนทั้งยังสร้างเวรกรรมไม่รู้จบสิ้น เช่นนั้นท่านจึงไม่ปรารนาจะเห็นใครตายไม่ดี ท่านว่าของบางอย่างก็ต้องจำกัดไว้เพื่อการพัฒนาเท่านั้น พัฒนาและควบคุมพลังงานไปดังใจคิดและแสดงฤทธิตามอิทธิวิธีควบคู่กับการถือศีลถือธรรมไม่ออกนอกกรอบเพื่อจุดหมายเดียวกันคือพระนิพพาน ท่านว่าผู้ที่มีกำลังทางจิตมากมีปัญญามากจะฉลาดรอบรู้ในความทุกข์คือรู้เท่าทันทุกข์ไม่เอาตัวเองเข้าหาความทุกข์และเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ทั้งยังเข้าถึงความเป็นทิพย์สามารถรู้อดีตและเห็นอนาคตบางช่วงบางตอนพร้อมทั้งเหตุผลที่ทำไมจึงเป็นแบบนั้นเพราะเหตุใดจึงเกิดเรื่องเช่นนั้นท่านว่าจิตจะหยั่งรู้และเข้าใจได้ แม้แต่จะอ่านใจคนบางครั้งมองๆคนอื่นก็รู้สิ่งที่คนอื่นกำลังคิดเช่นนี้ ท่านว่าพูดถึงตรงนี้พอเพราะคนที่กระทำให้แจ้งในอิทธิวิธีอย่างแท้จริงแล้วเขาจะมีพลังเปลี่ยนธรรมชาติและเหาะเหิรเดินน้ำหายตัวหรือพูดคุยกันในระยะไกลเหล่านี้ย่อมทำได้แต่มันก็ไม่ได้ทำกันง่ายๆหรือเปลี่ยนแปลงไปสู่จุดนี้ได้ทันทีต้องอาศัยเวลาการหมั่นขัดเกลาอย่างยิ่งยวด แต่เราก็ต้องว่าตามกันเป็นขั้นๆค่อยๆพัฒนาไปซึ่งตะกรุดตัวนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นโอกาส...เป็นโอกาสที่ครูบรมพรหมท่านให้เวทย์สวรรค์ตัวนี้มาเพื่อพัฒนากำลังจิตตานุภาพโดยเฉพาะ แต่ก็ต้องรู้ว่าถนนนั้นมีหลายสายใครจะใช้ไปทางไหนเพื่ออะไรก็เป็นเรื่องของแต่ละคน จุดหมายใครจะอยู่แค่ไหนก็เป็นความต้องการของเขา ขอแค่เพียงให้จิตมีกำลังสามารถควบคุมความคิดให้สงบได้ มีสติรู้เท่าทันความคิดตัวเอง มีสมองปลอดโปร่งไร้สิ่งเหนี่ยวนำฉุดรั้งอารมณ์ทั้งหลาย ทำให้เราตื่นให้ชีวิตสว่างไม่ฟุ้งซ่าน พ่ออาจารย์ท่านว่ามีเพียงเท่านี้ก็ดีกว่ามนุษย์ที่เดินสวนกันไปๆมาๆไม่รู้เท่าไหร่แล้ว

    ด้วยสรรพสิ่งนั้นมีสองด้านเสมอเสมือนฉากขาวกับดำ(สื่อถึงพลังกายสิทธิ์ของผงที่อุดในตะกรุด) ท่านว่าหากด้านใดมากไปก็เพิ่มด้านตรงข้ามเข้าไปเสริมหากน้อยไปก็เสริมถ่วงดุลย์กันให้พอดีเช่นนี้จึงเรียกว่ากลับดำเป็นขาวเข้าสู่จุดสมดุลเพื่อให้จิตวิญญาณของเราปกติมากที่สุดไม่ร้อนรนด้วยสิ่งผูกรัดต่างๆที่สะสมมาเวลาเราใช้ชีวิต จิตที่ปกติสงบสุขไม่ฟุ้งซ่านเช่นนี้จึงจะสร้างพลังและก่อให้เกิดฤทธิทางใจต่างๆได้มากมาย พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้เราบอกได้แค่เพียงไม่ใช่ลงเหล็กจารก็เสร็จเพราะท่านว่าเราทำเองไม่ได้ ต้องเชิญครูแฝงร่างให้องค์พรหมท่านจารของท่านเองแม้ผงที่อุดก็เป็นกฤติยาคมแฝดที่จะแก้อาถรรพ์คนที่ฝึกจิตไม่สงบ จิตไม่มีกำลัง ใช้พลังทางจิตเหล่านี้ไม่ได้ เพื่อจุดประสงค์จะให้ผู้อาราธนามีพลังจิตที่แข็งกล้าให้พัฒนาตนเองไปสู่จุดที่มีสมาธิโดยไม่ต้องหลับตา ท่านว่าเมื่อไปเรียนกสิณการเพ่งธาตุต่างๆก็จะทำได้ไวขึ้น ทั้งเกิดความรู้แจ้งในสรรพสิ่งควบคุมความคิดตนเองได้อันนำไปสู่การฝึกตน..ทั้งรู้ใจคนรู้ความคิดรู้เท่าทันตัวเอง(สำคัญที่สุด) รู้ความคิดสัตว์เวลาได้ยินหมาเห่าก็รู้ว่ามันอยากบอกอะไรเช่นนี้ท่านว่าเมื่อจิตมีพลังและเข้าสู่กระบวนการพัฒนามันก็จะค่อยๆพัฒนาไปทั้งชีวิต แม้ตายตกไปสิ่งที่ติดตัวนี้ก็จะอุบัติพร้อมกับเราในชาติใหม่ไม่ได้หายไปไหนเป็นพื้นฐานของเรา

    ตะกรุดแฝดคู่นี้พ่ออาจารย์ท่านเปรียบเสมือนแสงสว่างในแสงสว่างท่านเรียกว่าแสงเหนือ ที่จะช่วยให้คนรู้จักควบคุมพลังทางจิตและนำออกมาใช้ได้ ทั้งยังเข้าใจธรรมชาติสามารถทำตนให้เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติจนพัฒนาไปสู่ความเปลี่ยนแปลงดั่งใจนึก พ่ออาจารย์ท่านว่าแรกก็จะค่อยๆค่อยๆ ค่อยค่อยเปลี่ยนไปตามพัฒนาการของตัวเรา เอาว่าชีวิตต้องเปลี่ยนไปในทางที่ดีที่สุดแน่นอน ทั้งความคิดยังจะเห็นจริงตามความเป็นไปของธรรมชาติไม่ว่าจะธาตุในวัตถุต่างๆทั้งรูปนามพลังงานการเปลี่ยนแปลงไปตามกฏแห่งไตรลักษณ์ เราจะเห็นตัวเราหมุนตามโลกไปพร้อมๆกับการฝึกตนตลอดเวลา เมื่อถึงจุดที่สมควรแก่ช่วงเวลาในชีวิตก็จะละซึ่งสังโยชน์ล่วงถึงประโยชน์ยิ่งใหญ่ เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงกล้ากล่าวได้ชัดเจนว่าตะกรุดนี้เป็นเครื่องรางที่เหมาะจะพกเอาไว้เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองอย่างถึงที่สุด เพราะเกิดมาชาติมนุษย์นั้นไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการฝึกจิตพัฒนาตนเองอีกแล้ว

    ท่านว่าหนนี้ครูพรหมท่านขอไว้ไม่ให้ลงรายละเอียดใดๆเกี่ยวกับวิชาเลยจริงจึงทำได้แต่บอกเล่าข้อดีและสิ่งที่จะเป็นเมื่ออาราธนาติดกายเสมอเท่านั้น ท่านว่าต้องพกและควรพกซึ่งท่านเองก็พูดมากไปกว่านี้ไม่ได้ แต่ท่านกล่าวย้ำแค่ว่า "จะกลับดำเป็นขาวกลับผิดเป็นถูก กลับชีวิตให้อยู่ในความสุขควรคู่กับสิ่งที่คู่ควรยิ่งๆขึ้นไป ยิ่งจิตมีกำลังมากขึ้นเท่าไหร่สิ่งที่คู่ควรนั้นก็จะยิ่งสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว" วิธีใช้ ท่านว่าจะพกติดกระเป๋ากางเกงก็ได้ไม่ได้ห้าม หากแต่ต้องนำติดตัวเสมอไม่ควรถอดแม้เวลาไหน ยิ่งติดตัวได้บ่อยหรือมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีกับตัวเองมากขึ้นเท่านั้นเพราะจิตจะพัฒนาไปไม่มีขาดช่วง คนที่พัฒนาได้ตลอดแม้แต่เวลานอนหลับนั่นคือการทำงานไม่หยุดพัก การขัดเกลาสม่ำเสมอ เช่นนั้นผลที่ได้ย่อมมากกว่าคนอื่น คาถาท่านว่าไม่ต้องใช้หากอยากท่องก็ท่องเพียง อรหัง รู้ ตื่น เบิกบาน ย้ำๆซ้ำๆวนไปมาเพียงเท่านี้

    *** ตะกรุดแฝดเช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านทำไว้ไม่กี่ดอก ท่านว่าทำได้น้อยเพราะผงทำยากและชนวนทำแผ่นตะกรุดก็หมด ท่านว่าไม่ต้องไปรีบขายใครเขา เพราะคนที่เห็นค่าตัวเองจริงๆเขาจะมาเอาไปใช้กันในหมู่ญาติวงศ์ของเขา ส่วนคนที่ไม่ให้ค่าไม่คิดว่าตัวเองจะพัฒนาไปได้เขาจะไม่มองตะกรุดเช่นนี้เลย รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ก่อนส่งพ่ออาจารย์ท่านจะบอกกล่าวครูพรหมประสิทธิให้อีกวาระหนึ่ง รายได้ร่วมสมทบทุนวิหารทานสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดแฝดเนื้อธาตุอาถรรพ์เพิ่มพูนกำลังจิตตานุภาพคลายข้อจำกัด (กลับดำเป็นขาว,กลับผิดเป็นถูก) บูชา 2,500 บาท

    79436627-2188974848063353-636229384050573312-n.jpg 80116884-512888605968864-5589418091952996352-n.jpg 79253920-816774902078560-8133737330621022208-n.jpg
    78711916-1156751577856838-1260773519298396160-n.jpg










     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    รายการนี้ถ้าถามอะไรกันลึกๆก็ตอบได้ตามที่ท่านบอกคือ ท่านว่า ไม่ต้องไปรีบขายใครเขา เพราะคนที่เห็นค่าตัวเองจริงๆเขาจะมาเอาไปใช้กันในหมู่ญาติวงศ์ของเขา ส่วนคนที่ไม่ให้ค่าไม่คิดว่าตัวเองจะพัฒนาไปได้เขาจะไม่มองตะกรุดเช่นนี้เลย
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่เมธาพันธ์ EI 4838 2207 3 TH

    พี่พรเทพ EI 4838 2208 7 TH

    พี่ศิระ EI 4838 2209 5 TH

    พี่ณธพรหม EI 4838 2210 0 TH

    พี่พรหมพล EI 4838 2211 3 TH
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    ตะกรุดเขียนฝันนั้นก็มีเล่าประสบการณ์เข้ามาสองท่านแล้ว

    ท่านแรกเล่าว่าพอได้มาก็เขียนความปรารถนาแบบกว้างๆยัดใส่ตะกรุดแล้ววางบนหัวนอน คืนนั้นฝันคล้ายตนเองบวชเป็นพระ โดยครูบาอาจารย์ที่พ้นโลกแล้วมาเป็นอาจารย์ให้หลายท่าน ทั้งในฝันยังสอนการใช้ชีวิตแบบพระ ข้อวัตรปฎิบัติไหนจะสอนให้ระวังการต้องอาบัติ พี่เค้าว่าฝันยาวๆทั้งคืนจนสายก็ไม่หยุดฝัน แม้สะดุ้งตื่นก็ยังฝันต่อในเรื่องเดิม *** พี่ท่านนี้เค้าบอกว่าในใจของเขาปรารถนาอยากบวชเพื่อสิ้นภพจบเชื้อแต่โอกาสยังไม่เหมาะยังไม่ถึงเวลา ครูบาอาจารย์ท่านทราบเรื่องในใจท่านเลยพาไป....ฝันยาว

    ส่วนอีกคนรายนี้ก็เขียนความปรารถนาใส่ตะกรุดยัดไว้ใต้หมอนเหมือนกัน น้องคนนี้เล่าว่าเขาเองก็ฝันแต่เหนืออื่นใดคือเพื่อนที่เค้าแอบชอบกลับมาเล่าให้ฟังว่าฝันเช่นกัน ตัวน้องคนนี้ฝันว่าตัวเองไปมีอะไรลึกซึ้งกับเพื่อนและในวันเดียวกันเพื่อนก็ฝันว่ามีอะไรลึกซึ้งกับเขาเหมือนกันแล้วมาเล่าให้เขาฟัง...เล่ามาแบบนี้ผมก็พอจะเดาทางได้ว่าใครแอบชอบใครและเขียนฝันอะไรลงไป ก็ได้แต่หวังเอาไว้ว่าจะได้สมหวังกันจริงๆไวๆเพราะอีกฝ่ายก็น่าจะรู้ตัวแล้ว


    เกี่ยวกับตะกรุดเขียนฝันนั้น หากใครได้ใช้ก็ต้องย้อนถามว่าฝันเรื่องอะไร พอฝันแล้วเดี๋ยวก็เริ่มพัฒนากันขึ้นไปเรื่อยๆ .....แล้วชีวิตคุณล่ะมีความฝันอะไรที่ทำไม่ได้บ้างหรือเปล่า
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    แจ้งการส่งems
    พี่ธีรนนท์ EI 4838 2351 6 TH

    พี่มยุรี EI 4838 2352 0 TH

    พี่ภิญโญ EI 4838 2353 3 TH

    พี่ณธพรหม EI 4838 2354 7 TH

    พี่นฐมน EI 4838 2355 5 TH

    พี่ฐิตกาญจน์ EI 4838 2356 4 TH
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้ติดตามพูดคุยกันนะ
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ทวีพงษฺ์ EI 4838 4087 1 TH

    พี่ศิระ EI 4838 4088 5 TH
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    พรุ่งนี้เดี๋ยวติดตามพูดคุยกันเรื่องพ่อ...เทพ(องค์นี้มีลุ้นกันทุกสายแน่นอน)
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้จะมาติดตามพูดคุยกันเรื่องบรมครูซึ่งพ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าพ่อเหนือเทพ โดยมีนัยยะสำคัญว่าเป็นบรมครูที่รวมกำลังทุกสายทั้งพุทธ-ฮินดู เลยซึ่งครูองค์นี้เก่งมาก
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    เดี๋ยวช่วงวันพรุ่งนี้ พ่ออาจารย์ท่านอนุญาติให้นำองค์เหล็กธาตุกายสิทธิ์ของเจ้าปู่บรมพรหมสหัมบดี(พรหมสูงสุด)ที่ท่านครอบครองไว้บางชนิดออกให้ร่วมบูชากัน ซึ่งองค์เหล็กนี้ท่านทำฐานประดิษฐานและอุดผงสำคัญไว้ให้ใช้เฉพาะห้อยคอเท่านั้น *** รายการนี้เป็นของมีคุณค่าทางจิตสูงมากใครได้ไปนับเป็นมงคลอย่างแท้จริง
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    ร่วมทำบุญบูชา มหาธาตุสำเร็จองค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณในบาตรช่อฟ้า(องค์ธาตุแห่งอาตมัน)

    เหล็กวิชาองค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณ
    ในสภาวะสูงสุดของอนันตจักรวาลนั้น มีมหาชีวะที่ทรงพลังงานบริสุทธิ์อยู่สภาวะหนึ่ง ที่แม้แต่พระผู้เป็นเจ้าทั้งสามเองก็ยังเพียรทำตบะเพื่อให้เข้าถึงและเป็นหนึ่งเดียวกับมหาอานุภาพนั้น สิ่งนั้นกล่าวได้ว่าเป็นดวงพระวิญญาณสูงสุดแห่งมหาจักรวาลที่ได้ให้กำเนิดพระผู้เป็นเจ้าทั้งสามขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่อันแตกต่างกัน ซึ่งดวงพระวิญญาณนี้พ่ออาจารย์ท่านจำกัดความให้สั้นๆว่า ดวงชีพนิรันดร์หรือองค์อาตมภูวญาณนี้ เพราะอยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง แม้แต่พระผู้เป็นเจ้าทั้งสามเองเมื่อถึงกาลถึงวาระที่พันธะหน้าที่หมดไป ก็ยังต้องกลับเข้าไปรวมกับองค์อาตมภูวญาณเช่นกัน

    การดำรงค์อยู่ในสภาวะพระผู้เป็นเจ้าสูงสุดยิ่งกว่าท้าวมหาพรหม..ยิ่งกว่าเทพเจ้านี้ ท่านคือพลังธรรมชาติที่มีชีวิตนั่นเอง เพราะท่านดำรงค์อยู่ได้ด้วยตนเอง,ไม่มีขอบเขตจำกัด,อยู่เหนือทุกกฏ,ไม่สามารถทำความเข้าใจได้...แต่ก็ปรากฏพระองค์ในทุกแห่ง ในที่ทุกสถานเช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านได้เห็นพระรูปอันน่าตะลึงลานนั้นซึ่งครูพระสยมเคยอนุญาติให้ท่านดูด้วยว่าองค์อาตมันได้ปรากฏรูปทางกายภาพแล้วจะมีพระวรกายเช่นใด ท่านว่ามีพระพักตร์และพระกรมากมายไปหมด รัศมีนั้นส่องสว่างเกินกว่าเทวะใดๆ แต่ละพระกรนั้นล้วนทรงถือสิ่งอันเป็นความหมายมงคลต่างๆ รูปกายท่านคือปรพรหมสูงสุด(ไม่ใช่พระพรหม 1 ใน 3 พระผู้เป็นเจ้าของพราหมณ์ ซึ่งพระศิวะ พระนารายณ์ พระพรหมนั้นก็เป็นเพียงพระภาคหนึ่งขององค์อาตมันเท่านั้น) เช่นนั้นสภาวะอาตมันนั้นจึงถือเป็นสภาวะของการหลุดพ้นโดยแท้จริง ท่านเป็นผู้ตั้งฟ้า ตั้งดิน ตั้งกฏต่างๆ ...สถาปนาพระศิวะ พระนารายณ์ พระพรหม ด้วยเป็นมหาเทพที่อยู่กับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่และอยู่แม้กระทั่งในตัวพวกเราทุกคน

    พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจระลึกถึงพระรูปองค์อาตมันที่ท่านเคยเห็นและขอกับพระรูปนั้นว่าจะกระทำให้เป็นเกียรติยศกับชีวิตท่านสักหนหนึ่ง ### ท่านจึงได้ขอธาตุกายสิทธิ์ที่เป็นธาตุขององค์ปฐมพรหมซึ่งท่านเนรมิตแทนตัวเองแม้อยู่ในความดูแลของท่านใดซึ่งดูแลอยู่ท่านก็จะขอมาบูชาไว้....จนครูใหญ่บรมพรหมสหัมบดีท่านได้ตอบสนองความต้องการนำมหาธาตุของปฐมพรหมบางส่วนมามอบให้กับพ่ออาจารย์(โดยพ่ออาจารย์ท่านว่านานมาแล้วท่านจำแลงเป็นชีปะขาวเอามาให้ฉันรักษาไว้โดยบอกแค่ว่าต้องเก็บไว้ในที่สูงเท่านั้น) ด้วยว่ายังไม่เคยมีใครได้สักการะธาตุแห่งองค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณกันเลย เพราะนี่คือสิ่งสูงสุดที่เต็มไปด้วยอาถรรพ์มากที่สุด ทำไม่ดีพลีไม่ถูกคนทำคนเสกแย่ใจหายเลยทีเดียว ซ้ำที่ผ่านมาท่านยังได้ขอกำลังแห่งองค์ปรพรหมอาตมันกับมหาธาตุเพื่อให้ประสิทธิ์ทำวิชาลี้ลับอันเกินกำลังในภพภูมิที่ท่านสัมผัสได้ไว้อยู่ตลอด เวลาท่านลงเสกเครื่องมงคลต่างๆ ***บางครั้งท่านก็ใช้องค์เหล็กชุดนี้เป็นสื่อกับองค์ปรพรหมเช่นนั้น

    องค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณนั้นพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าเป็นพระรูปที่ปรากฏทางกายภาพ แม้เหล่าพระเป็นเจ้า เทพเจ้า ฤาษีสิทธิ์ที่ไหนพบเห็นก็ต้องกราบไหว้นบนอบหมอบคลานด้วยทรงไว้ซึ่งศักดิ์และอาญาสิทธิ์สูงสุด สรรพชีวิตล้วนเกรงเดชพระองค์กันถึงปานนั้น ด้วยว่าเป็นผู้รู้ราตรีนาน เป็นสภาพธรรมมะที่แท้ของมหาจักรวาล เมื่อท่านปรากฏรูปเป็นธาตุกายสิทธิ์ก็เพื่อให้เป็นเทวานุสติแก่ผู้ศรัทธา ด้วยว่าพระองค์นั้นคือสภาพธรรมสูงสุดเป็นพลังชีวิตที่รักษาสมดุลย์แห่งธรรมของการค้นพบพระสัจธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย

    องค์เหล็กวิชาอันเป็นตัวแทนปรพรหมนี้ เมื่อผู้ใดได้พบได้อาราธนาจะผ่านพ้นเหตุการณ์วิปริตผิดธรรมชาติต่างๆไปโดยง่าย แม้ภัยธรรมชาติก็หาได้กล้ำกราย เป็นที่เกรงอกเกรงใจแม้แต่เหล่าเทพยดาเรียกว่าอยู่เหนือผู้อื่นกว่าเขาหมด และยังเสริมพลังงานธาตุพลังงานชีวิตให้กับตัวเองอย่างมหาศาล ด้วยว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหลายล้วนมีเชื้อแห่งอาตมันนั้นอยู่ในตนเองทั้งสิ้น จะมีความคิดเห็นที่ถูกที่ควร มีญาณทัศนะกระจ่างสว่างใส มีจิตรู้ในตนเองที่บริสุทธิ์มากขึ้น จะปรารถนาอยากจะกระทำความดี จะปรารถนาการเข้าถึงอมฤตธรรม จะหิวกระหายในคุณธรรมทั้งความคิดเห็นอกุศลมืดบอดจะค่อยๆหมดไป แม้ปรารถนาจะเอาดีทางโลก ก็ได้ดีได้พบความสำเร็จโดยง่ายดุจเหล่ามหาบุรุษ แม้ประสงค์จะเอาดีทางธรรมก็จะเห็นสัจธรรมมีสติตั้งมั่นเดินไปบนหนทางที่ถูกต้องไวกว่าคนอื่น จะไม่มีวันตกต่ำลงกว่าเดิมแม้อธิษฐานขอพรกับพระองค์ก็จะเห็นความศักดิ์สิทธิ์ในองค์ธาตุของปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณอย่างรวดเร็ว แม้เทพเจ้ามิจฉาทิฏฐิหรือสิ่งเลวร้ายทั้งหลายทั้งฝ่ายพุทธและฝ่ายไสยครอบคลุมทั้งหมดจะไม่กล้าแสดงฤทธิ์ต่อต้านอวดดีฉุดรั้งอีกต่อไป ด้วยนบนอบและเกรงกลัวในองค์องค์ธาตุของปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณหรือองค์อาตมันดวงชีพนิรันดร์ยิ่งนัก นอกจากนั้นแม้ท่านจะขอพรกับเทพพระองค์ใดก็ย่อมสำเร็จได้โดยง่ายด้วยเค้าเกรงใจในองค์ปรพรหมสูงสุดของเขากันทั้งนั้น

    ด้วยอจินไตยเป็นสิ่งเกินหยั่งคาด
    ดวงธาตุนี้ก็เช่นกัน
    พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากเป็นกายสิทธิ์ธาตุแห่งองค์อาตมันแล้วยังมีเหล่าทิพย์กายของมหาพรหมคอยรักษา โดยเฉพาะครูใหญ่องค์สหัมบดีพรหมเช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงกล่าวเป็นนัยน์ๆว่าองค์ธาตุนี้ใครได้ครอบครองถือว่าได้ของดีหลายต่อเลย ด้วยครูพรหมสหัมบดีนั้นเป็นบรมครูผู้ยิ่งใหญ่และประเสริฐสุดในฝ่ายพรหมของพระพุทธศาสนา เป็นเจ้าแห่งพรหมโลกผู้อาราธนาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าออกโปรดเวไนยสัตว์ด้วยพระเมตตาของพระองค์ ทั้งยังเป็นบรมครูผู้เป็นใหญ่เป็นผู้นำแห่งหมู่มหาพรหมสุทธาวาส เป็นพรหมผู้ได้ชื่อว่ามีรัศมีรุ่งเรืองที่สุด...เป็นใหญ่สูงสุดเปรียบดั่งกษัตริย์เหนือกษัตริย์..เทพเจ้ายิ่งเทพเจ้าในหมู่พรหม ท่านเป็นผู้ซึ่งได้รับการอ่อนน้อมการกราบไหว้บูชาทุกภพภูมิ และเมตตารักใคร่สรรพสัตว์ผู้ทุกข์ยากมากที่สุดก็คือท้าวสหัมบดีพรหมผู้เป็นบรมครูใหญ่ของพ่ออาจารย์พลนั่นเอง

    บรมพรหมสหัมบดีนั้นมีความผูกพันธ์กับพ่ออาจารย์มากด้วยแรงครูของสายพรหมปัญจสุทธาวาสนี้ท่านบอกว่ามีดีทุกด้าน ขอได้ทุกอย่าง ท่านว่าเธอเชื่อมั๊ย คนเราเกิดมาไม่พ้นกรรม ไม่มีวัตถุมงคลใดช่วยเรื่องกรรมได้ เเต่พระพรหมเหล่านี้ไม่ใช่แบบนั้นโดยเฉพาะ...ครูสหัมบดีพรหม อิทธิคุณท่านพลิกฟ้าพลิกดินเปลี่ยนชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ ใครที่มีกรรมหนักตามสนอง ถ้าครูท่านเมตตาก็จะช่วยให้เบาบางได้มีโอกาสทำคุณงามความดีชดเชยบาปกรรมทั้งหลาย เรียกได้ว่าผ่อนหนักเป็นเบาจากเรื่องร้ายๆก็จะค่อยๆจางหายไป ถ้ายังมีบุญเเละความดีอยู่ท่านก็จะช่วยให้ได้รับอานิสงค์ของผลบุญนั้นไวขึ้น นี่บารมีพระพรหมสหัมบดีดีอย่างนี้ท่านสถิตย์อยู่ในอกนิฏฐาสุทธาวาสมหาพรหม พูดง่ายๆคือชั้นสูงสุดเป็นภพภูมิแห่งรูปพรหมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชั้นปัญจสุทธาวาสและทั้งหมดของรูปาวจรภูมิ แม้แต่พระอินทร์หรือท้าวสักกะเทวราชแห่งดาวดึงษ์ ก็ยังตั้งความปรารถนาขอมาเกิดเป็นพรหมชั้นนี้

    นอกจากนี้องค์ธาตุยังมีพระญาณของเหล่าอกนิฏฐามหาพรหมคอยรักษา พรหมอกนิฏฐ์นี้เป็นพรหมชั้นผู้ใหญ่ที่อุบัติมาจากพระอริยบุคคลระดับอนาคามี ที่มีอินทรีย์ คือสัทธา วิริยะ สติ สมาธิ และปัญญาแก่กล้าบริบูรณ์ทุกส่วน แต่มีปัญญาโดดเด่นที่สุด จัดอยู่ในกลุ่มพระอนาคามีระดับสูงสุดมีชื่อเรียกเฉพาะว่าอุปหัจจปรินิพพายีหมายถึงผู้จวนจะถึงปรินิพพาน กับอันตราปรินิพพายี คือผู้ปรินิพพานในระหว่างหมายถึงไม่อยู่เป็นมหาพรหมจนครบอายุขัยแห่งมหาพรหมนั้น เมื่อถึงวาระเเละจบภารกิจก็จะเข้านิพพานเลย *** มหาพรหมอกนิฏฐ์เหล่านี้ท่านว่าทุกพระองค์ล้วนสูงสุดและสูงส่งมีอำนาจมากล้นพ้นประมาณ ซึ่งมหาพรหมอกนิฏฐาสุทธาวาสนี่แหละที่มักลงมาถ่ายทอดวิทยาการต่างๆให้มนุษย์โลกเพื่อจะได้เอาไว้ใช้ปรับตัวเวลาเผชิญปัญหาเหตุการณ์ซับซ้อนต่างๆได้ ทั้งยังคอยเป็นห่วงมาบอกข่าวแจ้งข่าวล่วงหน้าเสมอๆแม้สมเด็จพระบรมศาสดายังได้ยืนยันเอาไว้เองว่าพรหมเหล่านี้แหละที่มักรอบรู้ถึงการบรรลุธรรมขั้นต่างๆของมนุษย์ที่มนุษย์เองยากนักจะรับรู้ได้.... พ่ออาจารย์ท่านว่าแค่อาราธนาดวงธาตุติดคอไว้เถอะเอาว่าครูท่านไม่ทิ้งและยังห่วงเรามากๆ ท่านไม่ไปไหนเลยจะคอยวนเวียนช่วยเราอยู่ใกล้ๆ ยิ่งแต่ละพระองค์ท่านชอบช่วยโลกโปรดมนุษย์อยู่แล้วถ้าเรามีทุกข์ยากอะไรก็ให้บอกกับท่านเลยถือว่าเป็นงานท่านเป็นภาระของท่านโดยตรง พ่ออาจารย์ท่านว่าเห็นดวงเล็กๆเช่นนี้เหมือนมีร้อยแรงพันแรงคอยโอบอุ้มเราเพราะจิตเหล่าอกนิฏฐ์พรหมท่านคอยรักษามหาธาตุแห่งอาตมันอันถือเป็นสิ่งสำคัญของเหล่าพรหมทั้งหลาย(ท่านว่าห้อยแล้วไม่หนักคอดั่งห้อยสร้อยแขวนท้าวมหาพรหมนับร้อยนับพันเส้น)

    ด้วยสภาวะของดวงธาตุแห่งอาตมันและเหล่ามหาพรหมนั้นท่านรักและเป็นห่วงมนุษย์มาก มากพอกับที่พ่อคนหนึ่งจะรักและเป็นห่วงลูกที่พรากไปจากอกได้ จะเลวชั่วหรือยากดีมีจนก็เป็นเพราะกรรมเเละการกระทำของเราปรุงเเต่ง เเต่ในบางเรื่องบางปัจจัยหากลูกๆนึกถึงพ่อท่านก็จะสามารถช่วยให้ผ่านพ้นเเละเปลี่ยนเเปลงชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ อย่าลืมว่าท่านคืออาตมันและเหล่าพรหมสูงสุดที่ทรงอภิสิทธิ์เด็ดขาดและรุนแรงที่สุด

    ...ต้องเก็บไว้ในที่สูงเท่านั้น
    เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงนำไม้ช่อฟ้าสมเด็จโตที่เหลือเล็กน้อยมาแกะเป็นรูปบาตรบรรจุองค์ธาตุไว้ ด้วยท่านถือว่าไม้ช่อฟ้าเป็นของสูงมากคือสูงสุดในอุโบสถแล้วมีอาถรรพ์มากซ้ำยังหาได้ยากอย่างยิ่ง มีพลังของครูสมเด็จโตท่านในปริมาณมากเพราะเมื่อท่านลงอุโบสถทำวัตรสวดมนต์ปลุกเสกพระอัญเชิญเทวดาไม้เหล่านี้ก็ได้ซึมซับพลังงานเหล่านั้นไปครั้งเเล้วครั้งเล่ายุคเเล้วยุคเล่า และบาตรก็ยังนับว่าเป็นของสูงซึ่งเมื่อพระเปิดบาตรเมื่อใดก็มีข้าวล้นบาตรเมื่อนั้น เป็นเคล็ดให้ผู้มีอันจะกินทั้งหลายมีกินไม่รู้จักหมดสิ้น บาตรช่อฟ้านี้จะบันดาลให้ผู้บูชามีลาภผลสุขสมหวังถ้วนทุกประการ สิ่งใดที่ปิดอยู่ก็ให้ท่านสงเคราะห์เปิดให้ เปิดแล้วต้องได้รับ ต้องอิ่ม ต้องสมบูรณ์พูนสุขครบถ้วนนั่นเอง

    ท่านลบถมผงพระอนุรุทธเปิดบาตรเอาไว้ด้วยเป็นวิชาที่หาคนทำคนสืบทอดได้ยากเป็นวิชาสายครูพระอนุรุทธะเถระ ท่านจึงทำผงสำคัญอุดไว้ให้จนล้นบาตร ผงนี้ท่านว่าผู้ใดได้บูชาเเล้วชีวิตจะมีเเต่ความเจริญในลาภสักการะมิรู้ขาด จะมีจะได้สมประสงค์ทุกสิ่งที่พึงจะปรารถนา ถือว่าเป็นยอดวิชาที่สร้างขึ้นเพื่อช่วยยื้อความเป็นอยู่คนใช้จริงๆ ท่านว่าชีวิตนี้จะไม่รู้จักคำว่าไม่มี คำหนึ่งคำว่า "ไม่มี" คำนี้ไม่ได้หมายเฉพาะลาภสักการะนะเเต่รวมไปถ้วนทุกอย่างวิชานี้ของท่านตกอยู่กับผู้ใดจะมีจะได้ในทุกสิ่งที่ปรารถนาไม่เพียงเเต่โชคลาภวาสนาเเต่ยังรวมไปถึงสิ่งต่างๆ เอาเป็นว่าสำเร็จดั่งใจคิดฝันก็เเล้วกัน ทุกสิ่งอย่างจะไม่รู้เลยคำว่าไม่มีคืออะไร ตัวไม่มีนี่หน้าตาเป็นอย่างไรเพราะทุกสิ่งที่มีพระประสงค์ต้องมี ต้องได้ ท่านว่าวิชาบาตรพระอนุรุทธเถระนี้อยากได้อะไรก็ขอกับบาตรต่อให้เป็นสิ่งที่ไม่มีในโลกมนุษย์ เทพเจ้าทั้งหลายก็ต้องรีบมาเนรมิตรให้ฉับพลันทันที บาตรอยู่ในทิศไหนก็มีทุกสิ่งตรงนั้นเป็นหน้าที่ของเทพยดาเเถบนั้นไปเลย

    ท่านทำบาตรด้วยไม้ช่อฟ้าที่นับเป็นของสูงค่า ทั้งยังลบผงทำวิชาชั้นสูงบรรจุไว้ให้เป็นกฤติยาคมแฝด เมื่อใส่บรรจุองค์ธาตุอาตมันไปจึงนับว่าได้บรรจุองค์ธาตุไว้ในของสูงที่สร้างมาจากที่สูง(ยอดฟ้า ยอดอุโบสถ) ### รายการนี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีเพียงไม่กี่องค์เท่านั้น ท่านให้แบ่งๆกันไปบูชาเพราะเป็นของสูงที่ท่านไม่สามารถสร้างขึ้นมาได้เอง จึงให้บูชาได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ท่านว่าของเช่นนี้เป็นของคู่บารมีนะ อยู่ที่ว่าบารมีของใครเค้าจะถึงพร้อม ถ้าไม่ใช่เจ้าของก็จะไม่สนใจเลยเพราะเขาจะอุปถัมภ์เฉพาะผู้ที่คู่ควรเท่านั้น

    คาถานมัสการ
    โอม ยัมไศวาหะ สะมุปาสะเต ศิวะอิติ พรหมเหติ เวทานติโนเพา ทธาพุทธอีติประมาณะปะฎะวะหะ กรเตติ ไนยายิกาหะ อรหันนิตยะถะไญนะ ศาสะนะระตาหะ กรรมเมติ มีมานสกาหะ โสยัมโน วิทะธาตุวานณะ ฉิตะผะลัม ไตรโลกยะนาโถ หะริหะ
    โอม เทวะ มหาเทวะ ปรมัติอาตมภูว มหาอธิบดีไตรโลกาธาตุโอม ฤ ฤา มหา ฦ ฦา


    เมื่อองค์อาตมันสำเร็จธาตุลงเป็นกายสิทธิ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าของประเภทนี้ถ้าเราพกติดตัวเขาจะช่วยเราได้มากกว่าเราไหว้เราขอกับรูปพระรูปเทพทั้งหลาย เพราะเขาเป็นกายสิทธิ์เป็นของกลางๆ เหมือนเราจะดีหรือชั่วจะต่ำหรือสูงจะประเสริฐหรือจะแย่ ขอให้ศรัทธาและกราบขอจากองค์อาตมันท่าน ด้วยความที่เป็นกายสิทธิ์สำเร็จธาตุ ท่านจะช่วยไม่เลือก..และไม่รอ

    *** รายการนี้พ่ออาจารย์ท่านให้บูชาเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้บูชาให้แจ้งชื่อสกุลเอาไว้ด้วย รวมทั้งความปรารถนาที่จะบอกกล่าวกับครูอาตมัน รายได้ร่วมสมทบทุนเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา มหาธาตุสำเร็จองค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณในบาตรช่อฟ้า(องค์ธาตุแห่งอาตมัน) บูชา 2,500 บาท

    79352275-535842380331717-4422382461523066880-n.jpg 79852682-3502124103161516-2908084422970441728-n.jpg
    80423001-676748676189879-6166153537479770112-n.jpg
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    รายการนี้ส่วนตัวผมเหมือนเห็นสิ่งที่เป็นที่สุดของปีนี้จริงๆเพราะเป็นของพิเศษสำหรับคนที่พิเศษจริงๆ ซ้ำพ่ออาจารย์ท่านยังหวงมาก ใครได้รายการนี้ไปแนะนำเลยให้ขอลาภจากท่านเสร็จแล้วเลี่ยมจับขอบทองขึ้นคอเลย เพราะขนาดกำลังดีไม่ใหญ่ไม่หนักคอ
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ภิญโญ EI 4838 1483 7 TH

    พี่กฤตยชญ์ EI 4838 1484 5 TH

    พี่ธนากร EI 4838 1485 4 TH

    พี่กานต์ธิดา EI 4838 1486 8 TH
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    พูดคุยรอบเช้า

    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้จะพูดคุยกันเรื่องสิ่งที่เรียกว่าผิดครู เพราะพอดีมีหลายท่านชอบขอให้จารเครื่องมงคลหลังเสกเสร็จซึ่งอันนี้พอจะทำได้อยู่บ้าง แต่ก็มีอีกกรณีหนึ่งคืออยากฝากของที่อื่นมาให้ท่านจารให้อันนี้ปกติแล้วท่านจะไม่ทำเลยท่านว่ามันไม่สมควรมากๆหรือแม้ท่านจะทำจริงๆท่านก็ต้องอธิษฐานขอขมาครูบาอาจารย์ต้นสายของสายนั้นๆก่อนจึงจะทำได้ ท่านว่าถ้าจะเอาจริงๆแล้วไม่ทำและไม่ควรเลยจะดีที่สุดเพราะของที่ไม่ควรทำพอเอามาให้ทำนี้ ถึงเราทำสนองความต้องการไปมงคลมันก็ไม่เกิดขึ้น

    เหนือสิ่งอื่นใดเลยพระผงส่วนมากของท่านส่วนใหญ่ท่านทำจะหนักผงวิเศษ ซึ่งผงเหล่านี้ท่านมักพูดเสมอว่าทำยากเช่นนั้นท่านจึงบอกเสมอว่า "ห้อยพระเราองค์หนึ่งก็เหมือนห้อยตะกรุดร้อยดอกพันดอก" เพราะผงแต่ละอย่างที่ทำมาผสมต้องทำตามตำรา พ่ออาจารย์ท่านว่ากว่าจะลบกว่าจะได้ผงซักช้อนหนึ่งนั้นเธอรู้มั๊ยว่าใช้เวลานานเพียงใด ต้องท่องคาถากี่จบ ต้องลบกันกี่ครั้ง ต้องเรียกสูตรภาวนาไปในตัวเป็นการทำสมาธิ ผงบางชนิดกว่าจะลบจะทำได้ก็อาศัยความตั้งใจอันแรงกล้าของท่าน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยเพราะท่านทำท่านเน้นใส่ผงมากๆจึงยิ่งใช้เวลาลบนานมาก เช่นนั้นเราคนใช้ก็ควรจะมั่นใจและรู้ค่า ไม่จำเป็นว่าต้องไปให้ใครลงหรือหาใครมาจารหรือขอให้ท่านจารเพิ่มให้เพราะลำพังผงที่ท่านใช้ทำพระต้องเรียกว่าสมัยนี้ส่วนมากเขาไม่มานั่งทำกันแล้ว

    เช่นนั้นของที่ท่านทำท่านจึงพูดได้เต็มปากว่าเสกเต็มแล้ว เพชรอยู่ที่ไหนก็เป็นเพชร ที่จะไปลอดราวผ่านที่อโคจรแล้วกลัวเสื่อมกลัวไม่ขลังต่างๆ ท่านว่าอย่าไปคิดมันเหมือนการปรามาสครูบาอาจารย์ ถ้าฉันจะทำของออกมาเพียงเพื่อให้เสื่อมกับเรื่องแค่นี้ฉันจะทำไปทำไม เช่นนั้นท่านจึงบอกเสมอว่าพุทธคุณเทวคุณนั้นไม่เสื่อมหรอก แต่ที่เสื่อมคือตัวคนใช้ เพราะความรู้สึกมันขัดด้วยอารมณ์และความคิด ที่เราปรุงแต่งไปเองว่าไปลอดราวไปเข้าที่อโคจรไปทำนั่นนี่มาของต้องเสื่อม ใจเรามันก็สั่งแล้วว่าของต้องเสื่อม ใจก็ระแวงสงสัยในพุทธคุณ ทีนี้กำลังใจไม่เกิดศรัทธาไม่มีก็เหมือนเครื่องรับสัญญาณที่บกพร่องต่อให้สัญญาณมาเต็มมาแรงแค่ไหนถ้าตัวรับเสื่อมใช้งานไม่ได้มันก็รับไม่เข้าแบบนี้ กรณีเหล่านี้ไม่ใช่ต้องแก้ไขที่เครื่องมงคลแต่ต้องแก้ที่ใจที่ความคิดเราเอง

    ดังนั้นจึงต้องถามว่ามีศรัทธามั๊ย ถ้าตัวศรัทธาเต็มอยู่ของเหล่านี้ที่ท่านเสกและเชิญครูเสกกำกับไว้จะไม่เสื่อมเลยท่านว่าทำยังไงก็ไม่เสื่อมต่อให้เอาของต่ำของสกปรกแค่ไหนมาราดพุทธคุณก็ยังเป็นพุทธคุณเสมอ จะเสื่อมในกรณีเดียวนั่นก็คือตัวของเราไม่ได้ศรัทธาแล้วหรือเราใช้ชีวิตผิดที่ผิดทางไปมากออกนอกเส้นไปไกลมากๆจนของเหล่านี้ช่วยไม่ได้แล้วจริงๆไม่ได้แก้ไขตัวเองที่ต้นเหตุเหล่านี้แหละเครื่องมงคลจึงไม่แสดงอิทธิคุณอย่างที่ควรจะเป็น แต่หากเรามีศรัทธาแล้วอะไรก็จะง่ายขึ้นมาทันทีเพราะศรัทธานั้นมันสอดรับกับคำว่าปาฎิหาริย์ สองอย่างนี้สอดรับกันยิ่งมีสิ่งแรกมากสิ่งที่สองก็ยิ่งตามมามากเป็นเงาตามตัว

    วัตถุมงคลที่อื่นก็เหมือนกัน หลายๆครั้งมีคนส่งมาอยากให้พ่ออาจารย์ท่านเสกลืม เสกไว้ยาวๆ อยากให้ลงให้ใหม่ ซึ่งถ้าท่านขัดไม่ได้ท่านก็จะทำให้เพราะเกรงใจกันกลัวจะเสียกำลังใจหรือทำเพื่อความสบายใจของคนที่ส่งมา แต่เชื่อเถอะว่าวัตถุมงคลเหล่านั้นแม้เป็นของที่อื่นหากเจ้าของเขาสร้างและทำมาอย่างดีแล้วก็ไม่จำเป็นต้องมาแห่เสกแห่เป่าที่ไหนเลย เพราะคนทำเขาจะรู้ว่าแค่ไหนจึงจะใช้ได้เขามั่นใจแล้วเขาจึงออก

    วันนี้ก็พูดคุยกันสบายๆรอบเช้านะครับ เพื่อความสบายใจเพราะเห็นบางทีหลายคนถามหลายคนสงสัยอยากให้พ่ออาจารย์ท่านเป่ามนต์กันเสื่อมบ้างอะไรบ้าง ซึ่งเรื่องเหล่านี้ผมจะยกมาพูดกันเป็นช่วงๆว่าสบายใจได้ไม่เสื่อม ทำยังไงก็ไม่เสื่อมถ้าจะเอาประโยคของท่านเลยคือต่อให้เอาประจำเดือนสตรีราดลงไปก็ยังไม่เสื่อม เพราะของเหล่านี้สำเร็จด้วยพุทธคุณท่านเชิญพระพุทธเจ้ามาทำให้ เช่นนั้นหากจะพูดถึงเรื่องเสื่อมก็ต้องคิดให้หนักกันว่าพุทธคุณเสื่อม พระศาสดาเสื่อม...หรือใจเธอเสื่อม การห้อยเครื่องมงคลทั้งหลายก็ดีพ่ออาจารย์ท่านจะเน้นย้ำว่าให้หมั่นสวดมนต์ทำสมาธิไปด้วยจะได้มีสติจับจ่ออยู่กับอารมณ์การเกิดดับในความรู้สึกในลมหายใจตนเองพิจารณาร่างกายไปเรื่อยๆ ไม่ต้องเอาจิตเอาสติออกไปคิดเรื่องรอบตัว สมาธิมันจะได้อยู่กับตัวเองอยู่กับกองสังขารพิจารณาไปจนปัญญามันเกิด *** เดี๋ยวติดตามตอนที่สองจะมาพูดคุยกันในเรื่องวัตถุมงคลนั้นจัดเป็นไสยศาสตร์แลอวิชชาหรือไม่

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ธันวาคม 2019
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่อัครพงศ์ EI 4838 3398 6 TH

    พี่ศิระ EI 4838 3399 0 TH

    พี่พรหมพล EI 4838 3400 6 TH

    พี่พรเทพ EI 4838 3401 0 TH

    พี่กฤตยชญ์ EI 4838 3402 3 TH

    พี่สุรวุฒิ EI 4838 3403 7 TH

    พี่ณธพรหม EI 4838 3404 5 TH
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    พูดคุยยามเช้า

    อรุณสวัสดิ์ครับ

    ก็มาเข้าเรื่องกันเลยเกี่ยวกับเรื่องเครื่องรางและวัตถุมงคลนั้นจัดเป็นไสยศาสตร์และอวิชชาหรือไม่
    เรื่องนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องแยกออกไปอีกสองกรณี นั่นคือ

    - ผู้สร้าง
    - ผู้ใช้

    ในกรณีของผู้สร้างนั้นก็ต้องดูว่าเขาเสกด้วยอะไรเขามีฐานความรู้มาทางไหน ถ้าสร้างและเสกด้วยพุทธคุณ ด้วยคำด้วยมนต์ของพระพุทธเจ้า สร้างเพื่อความปรารถนาดีเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น เหล่านี้ย่อมไม่ถือว่าเป็นไสยศาสตร์และอวิชชาแต่อย่างใด เพราะเขาทำไปเขาก็ระลึกถึงพุทธคุณไป ทำด้วยสมาธิและศรัทธาที่เขามีต่อพระศาสดาแบบนี้ ในขณะที่อีกแบบหนึ่งทำมาเพื่อมีเจตนาทำร้ายประสงค์ร้ายต่อผู้อื่นอันนั้นก็จะจัดเป็นเดรัจฉานวิชาถ้าแบบนั้นแหละถึงจะเรียกว่าเป็นไสยศาสตร์และอวิชชา แต่ถ้าคนทำไม่ได้มีจุดประสงค์หรือเจตนาใดๆให้เป็นไปเพื่อความมัวเมา หากแต่ทำเพื่อระลึกถึงครูบาอาจารย์คุณพระคุณเทพพรหมเหล่านี้และสืบสานปลูกฝังความศรัทธาลงไป ประสงค์จะให้คนรู้จักศรัทธามีที่ยึดเหนี่ยวหมั่นเจริญสติ เช่นนี้ก็ไม่ผิดท่านว่าต้องแยกให้ออก คำว่าสูงกับคำว่าต่ำนั้นมันมีสิ่งแบ่งแยกและเห็นกันได้ชัดเจน

    อีกกรณีนั่นก็คือผู้ใช้ ตัวนี้สำคัญที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าจะสูงจะต่ำก็ตอนเอาไปใช้งานนี่แหละ ถ้าผู้ใช้ลุ่มหลงมัวเมาจนตัวปัญญาไม่บังเกิดแล้วจากสิ่งที่เป็นมงคลก็อาจจะดลอัปมงคลสู่ตัวเองได้ นั่นคือการขาดสติลุ่มหลงจนแยกแยะไม่ได้ แต่หากผู้ใช้เอาไปเพื่อเจริญสติระลึกถึงครูบาอาจารย์เอาไปนั่งกำหนดลมหายใจพิจารณากองสังขาร ขอแรงครูขอบารมีครูเกื้อหนุนชีวิตให้รู้เท่าทันจิตและความคิดตัวเอง เอาไปเพื่อทำให้ประโยช์เกิดแก่ตนเอง ดั่งได้อยู่กับพระได้อยู่กับครูใช้ชีวิตเจริญในไตรสิกขามีพร้อมทั้งศีลสมาธิปัญญาแบบนี้ นั่นแหละถึงจะเป็นมงคลโดยแท้จริงไม่ใช่ห้อยไว้ถ่วงคอเสียเปล่า

    พ่ออาจารย์ท่านว่ามันพัฒนากันได้ ตัวเราจะเดินในทางสายกลางมรรคแปดเพื่อให้มีความรู้แจ้งในไตรสิกขาเพียงเท่านี้ก็ครอบคลุมทั้งหมด เพราะศาสนาของเรานั้นเรากล้าพูดได้เต็มปากเลยว่ามีดีกว่าคนอื่นตรงอริยสัจสี่ แต่ตัวคนปฏิบัตินั้นไม่จำเป็นต้องไปจำแนกอะไรจำอะไรให้วุ่นวายเลย เพราะธรรมของพระพุทธองค์ทั้งแปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์นั้นท่านสรุปรวมไว้หมดแล้ว เป็นยอดของธรรมใดๆเพียงแค่สามคำ นั่นคือ ศีล,สมาธิ,ปัญญา ถ้าเอาไปแลัวหมั่นเจริญสติเดินทางผลักตัวเข้าหาธรรม ละอายชั่วกลับบาปรักษาศีล หมั่นฝึกสมาธิพอจิตนิ่งก็พิจารณากองสังขาร พิจารณาอยู่แต่ในร่างกายเราให้เห็นทุกข์..เห็นแจ้งในอริยสัจ ตัวปัญญาโดยชอบมันก็จะเกิด เช่นนี้กรณีของคนใช้จึงถือเป็นสิ่งสำคัญ ท่านว่าจะดีหรือชั่วจะต่ำหรือสูงจะมัวเมาหรือหลุดพ้นก็ขึ้นอยู่ที่คนใช้ ดังนั้นจะเป็นอวิชชาหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์และการกระทำของคน

    เมื่อใช้เครื่องมงคลแล้วรู้ดีรู้ชั่วหรือไม่ รู้แล้วดับอารมณ์ดับความคิดที่จะก่อให้เกิดเหตุร้ายหรือผลเสียแก่ตัวเองได้หรือไม่ พ่ออาจารย์ท่านว่ายิ่งกว่าการห้อยพระก็คือมีพระอยู่ในใจ ถ้ายังไม่มีพระในใจก็ฝึกก็ทำเริ่มจากวันนี้เพิ่มสติใส่ชีวิตไปทีละเล็กละน้อย ให้มีสติประคับประคองความคิดและลมหายใจอยู่ตลอดเวลา นั่นคือรู้เท่าทันตัวเองอยู่ทุกขณะจิต โดยเครื่องมงคลนั้นจะเป็นสิ่งเตือนใจให้เราเห็นดีเห็นชอบ เห็นแล้วก็นึกถึงคุณพระคุณเทพพรหมและครูบาอาจารย์ทั้งหลาย เป็นอุบายธรรมให้จิตเราจดจ่อไม่หนีไปจากพระรัตนตรัย ให้ความรู้สึกเราวนเวียนอยู่กับการเจริญสติประคับประคองระดับคุณธรรมในใจตนเอง .....เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงย้ำเสมอว่าเมื่อได้ของดีมาแล้ว ตัวเองก็ต้องรู้จักทำตัวให้คู่ควรด้วย วันนี้ก็พูดกันไว้คร่าวๆก่อนนะครับ เดี๋ยวจะมาเจาะลึกลงไปอีกทีหนึ่ง


    เดี๋ยวเย็นนี้มาติดตามพูดคุยกันเรื่องพ่อ..เหนือเทพกันต่อนะครับ

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่วุฒิชัย EI 4838 3572 1 TH

    พี่ทวีพงษ์ EI 4838 3573 5 TH

    พี่ธนากร EI 4838 3574 9 TH

    พี่ธีธัช EI 4838 3575 2 TH

    พี่นวรัตน์ EI 4838 3577 0 TH
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    เกี่ยวกับพ่อ..เหนือเทพนั้น เป็นเครื่องรางที่มีไว้เพื่ออนาคต..หรือสำหรับคนที่มีอนาคต เดี๋ยวพรุ่งนี้ติดตามพูดคุยกันนะ
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,302
    ค่าพลัง:
    +17,478
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญหล่อจันทร์ฉายพ่อเหนือเทพพระอวโลกิเตศวร (พระศรีสลับกลับคลาดดับกลับอนาคตกาล)

    สำหรับอนาคต...ของผู้ไร้อนาคต
    อย่างที่ทราบกันว่าเศรษฐกิจในระดับกลางและระดับล่างตอนนี้แย่มากนิ่งมากไม่ขยับเลย พ่ออาจารย์ท่านเห็นว่าคนจะไร้อนาคต และมีชีวิตกันแบบไร้ทิศทาง(อยู่แบบตามมีตามเกิด) ท่านจึงได้อนุญาติให้นำเครื่องมงคลที่สร้างเพื่อเปลี่ยนแปลงอนาคตออกมา นั่นก็คือองค์พ่อเหนือเทพหรือที่รู้จักกันในนามพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์

    พ่อเหนือเทพ
    ซึ่งมหาโพธิสัตว์องค์นี้พ่ออาจารย์ท่านคุ้นเคยกันดีและเรียกท่านว่าพ่อเหนือเทพ เพราะเป็นพระโพธิสัตว์ที่มีผู้เคารพศรัทธามากที่สุด(จึงมีบารมีมากที่สุดในบรรดาโพธิสัตว์) ด้วยท่านเป็นองค์กำลังของมหากรุณาธิคุณของพระพุทธเจ้าทั้งปวง ทั้งเป็นผู้ที่คอยเฝ้ามองจากเบื้องบนหรือจะเรียกว่าพระผู้ทัศนาดูโลกก็ได้นั่นคือท่านคอยเฝ้าดูแลสรรพสัตว์ที่ตกอยู่ในห้วงทุกข์นั่นเองด้วยเป็นผู้เพ่งสดับเสียงแห่งโลกสดับฟังเสียงคร่ำครวญของสัตว์โลกที่กำลังตกอยู่ในห้วงทุกข์เพราะพระองค์ทรงไว้ซึ่งความกรุณาอันไพศาลไม่มีขอบเขตเพื่อจะคอยสอดส่องดูแลปลดเปลื้องทุกข์ของสรรพสัตว์เสมอ พ่อเหนือเทพนั้นเป็นผู้ที่สามารถบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณคืออาจจะเป็นพระพุทธเจ้าเมื่อใดก็ได้แต่ทรงยับยั้งไว้เนื่องจากความกรุณาสงสารต่อสรรพสัตว์ ทั้งพ่ออาจารย์ยังตอกย้ำว่าท่านมีอภินิหาริย์มากด้วยเป็นสมันตมุขคือปรากฏพระพักตร์อยู่สอดส่องไปทั่วทุกทิศอาจแลเห็นทั้งหมด

    พ่อเหนือเทพท่านเป็นพระธยานิโพธิสัตว์ ซึ่งพระโพธิสัตว์ประเภทนี้มิใช่พระโพธิสัตว์ผู้กำลังบำเพ็ญบารมีเพื่อแสวงหาดวงปัญญาอันจะนำไปสู่ความรู้แจ้งหากแต่เป็นพระโพธิสัตว์ผู้บำเพ็ญบารมีบริบูรณ์ครบถ้วนแล้ว(เต็มแล้ว)จึงสำเร็จเป็นพระธยานิโพธิสัตว์หรือพระโพธิสัตว์ในสมาธิโดยยับยั้งไว้ยังไม่เสด็จเข้าสู่พุทธภูมิเพื่อจะโปรดสรรพสัตว์ต่อไปอีกอย่างไม่มีที่สิ้นสุด พระธยานิโพธิสัตว์นี้เป็นทิพยบุคคลที่มีลักษณะดังเทพยดา มีจิตเข้าสู่ภูมิธรรมขั้นสูงสุดและทรงไว้ซึ่งพระโพธิญาณอย่างมั่นคงจึงมีสภาวะที่สูงกว่าพระโพธิสัตว์ทั่วไป โดยพระธยานิโพธิสัตว์มักจะมีภูมิหลังที่ยาวนานเป็นพระโพธิสัตว์เจ้าที่สำเร็จเป็นพระโพธิสัตว์มาเนิ่นนานนับแต่สมัยพระอดีตพุทธเจ้าองค์ก่อนๆสุดจะคณานับเป็นกาลเวลาได้ โดยพ่อเหนือเทพหรือพระอวโลกิเตศวรนั้นท่านเป็นพระธรรมกายโพธิสัตว์จึงมีฐานะสูงกว่าพระโพธิสัตว์ชั้นสามัญอื่นๆ ทั้งยังเป็นอกชาติปฏิพัทธะ(เกิดอีกชาติเดียวก็เข้าสู่การตรัสรู้ทันทีเช่นเดียวกับพระศรีอาริยเมตตรัย) ทรงได้สดับหฤทัยธารณีและบรรลุถึงภูมิที่แปดแห่งพระโพธิสัตว์เจ้า

    พ่อเหนือเทพนั้นท่านได้รับธรรมจักรมาโดยตรงจากพระพุทธเจ้าและเป็นผู้นำในการรักษาพระพุทธศาสนาและหมุนธรรมจักรต่อไป ท่านมีปกติประทับอยู่ณ.สุขาวดีพุทธเกษตรคอยช่วยพระอมิตาภพุทธะโปรดสรรพสัตว์ที่ตกอยู่ในห้วงทุกข์ และเนื่องจากเป็นพระธยานิโพธิสัตว์จึงมีความเป็นมาอันยาวนานสุดจะคาดคำนวณได้นับแต่สมัยของพระวิปัสสีพุทธเจ้าเป็นต้นมาก็ทรงได้โปรดสัตว์มาเป็นลำดับจนถึงบัดนี้อันเป็นกาลสมัยของพระสมณโคดมศากยมุนี โดยท่านถูกวางตัวไว้เพื่อจะตรัสเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าภายหลังการดับขันธปรินิพพานของพระอมิตาภะณ.สุขาวดีพุทธเกษตร(พระอมิตาภพุทธะเป็นพระพุทธเจ้าในอดีตย้อนไปก่อนหน้าพระโคตมพุทธเจ้าไป 10 กัป) พุทธเกษตรหรือวิสุทธิภูมิเกิดขึ้นด้วยอำนาจบารมีของพระอมิตาภพุทธะอาจเรียกว่าสุขาวดีก็เพราะผู้อยู่ในดินแดนนี้ย่อมไม่มีความทุกข์เลยหากแต่เสวยสุขอยู่เสมอ

    ด้วยมหากรุณาที่เล็งเห็นสรรพสัตว์ยังตกอยู่ในโมหะอวิชชาทำให้ต้องทนทุกข์อยู่ในวังวนแห่งสังสารวัฏยากจะหลุดพ้นไปได้เช่นนั้นพ่อเหนือเทพท่านจึงโปรดปวงสัตว์ให้เห็นธรรมพ้นทุกข์ด้วยพระเมตตากรุณาเพราะทรงปรากฏพระกายได้ทั่วทุกหนทุกแห่งที่มีสัตว์ตกอยู่ในห้วงทุกข์ เช่นนั้นท่านจึงโปรดให้พ่ออาจารย์หล่อรูปของท่านไว้ในปางบุรุษ(ไม่ใช่สตรีหรือปางเจ้าแม่กวนอิม) เพื่อจะได้สดับเสียงแห่งทุกข์ของผู้เดือดร้อนและคอยเรียกหาพระองค์ด้วยท่านยังทรงไว้ซึ่งความอ่อนโยนเป็นพิเศษดังเช่นความรักของมารดาที่มีต่อบุตรซึ่งพร้อมจะเข้าหาผู้ระลึกถึงเสมอด้วยท่านตั้งปณิธานไว้ว่า “ในอนาคตกาลข้าพเจ้าจะยังประโยชน์สุขให้เกิดแก่สรรพสัตว์ได้" เป็นความตั้งใจอันยิ่งใหญ่ของพระโพธิสัตว์ ### องค์พ่อเหนือเทพนั้นท่านดำรงค์อยู่สูงกว่าโพธิสัตว์ทั้งหลายเพราะท่านได้รับประทานพระปัญญาคุณ,พระสันติคุณ และพระกรุณาธิคุณทั้งสามประการนี้จากพระพุทธเจ้าโดยตรง เพราะเมื่อท่านตั้งปณิธานโปรดสรรพสัตว์นั้นพระพุทธเจ้าทั้งปวงทุกพระองค์ในทศทิศก็เปล่งแสงโอภาสเรืองรองมาต้องวรกายแห่งพระโพธิสัตว์และฉายรัศมีไปยังโลกธาตุต่างๆอย่างปราศจากขอบเขต

    อานุภาพแห่งพ่อเหนือเทพนั้นมีเป็นเอนกประการ พ่ออาจารย์ท่านว่าพ่อเหนือเทพท่านสั่งให้สร้างรูปท่านเพื่อจะโปรดสัตว์ที่มีบุญวาสนานำพาให้มาต้องกันและอยู่ในข่ายพระญาณอันจะได้พึ่งบารมีของท่านโดยเฉพาะ โดยรูปหล่อนี้เมื่ออาราธนาติดตัวย่อมมีคุณวิเศษดังนี้
    - หากเธอได้รับความทรมานจากทุกข์ทั้งหลายอยู่ สรรพทุกข์ของเขาก็จะปลดหลุดพ้นไป
    - หากหมั่นน้อมจิตเข้าหาเปล่งวาจานมัสการ ท่านจะสดับดูแลซึ่งเสียงของเราในทันที
    - จะไม่เป็นอันตรายด้วยอาวุธหรือการทำร้ายใดๆด้วยเดชแห่งพระโพธิสัตว์พระองค์นั้น
    - จะไม่เป็นอันตรายด้วยมหาอัคคีด้วยเดชแห่งพระโพธิสัตว์พระองค์นั้น
    - จะไม่เป็นอันตรายด้วยอุทกภัยหรือตกไปในมหาสาครอันล้ำลึกด้วยเดชแห่งพระโพธิสัตว์พระองค์นั้น
    - หากต้องการทรัพย์สินศฤงคารอันมีสุวรรณ,หิรัญ,ไพฑูรย์,บุษราคัม,เพทาย,เพชร,นิล,จินดามณีรัตน์ชาติเป็นอาทิ ก็จะได้สมใจด้วยเดชแห่งพระโพธิสัตว์พระองค์นั้น
    - หากชีวิตถูกย่ำยีโดยอสูรและปีศาจร้ายก็จะรอดพ้นจากอสูรภัยได้ด้วยเดชแห่งพระโพธิสัตว์พระองค์นั้น
    - ยักษ์มารทั้งหลายทั่วมหาตรีสหัสสโลกธาตุ แม้ดวงจักษุอันดุร้ายก็ยังมิกล้าจะแลดูมายังตัวเราด้วยเดชแห่งพระโพธิสัตว์พระองค์นั้น
    - ถ้ามีศัตรู มีผู้มุ่งร้ายหรือกระทำการประทุษร้ายก็จะหลุดพ้นจากความพินาศไปได้ด้วยเดชแห่งพระโพธิสัตว์พระองค์นั้น
    - หากมีโทษกรรมทรมานจะได้รับความอิสระด้วยเดชแห่งพระโพธิสัตว์พระองค์นั้น
    - หากถูกจองจำในเครื่องพันธนาการอยู่เครื่องจองจำพันธนาการเหล่านั้นจักภินทนาการลงด้วยเดชแห่งพระโพธิสัตว์พระองค์นั้น
    - หากชีวิตเราตกอยู่ในภัยอันตราย
    ### แม้ทั่วทั้งมหาตรีสหัสสโลกธาตุก็หาผู้ใดให้ความช่วยเหลือไม่ได้ ขออย่าได้กลัวให้อธิษฐานต่อองค์พ่อเถิด ด้วยมหาสัตว์พระองค์นั้นทรงมีพระมหากรุณาซึ่งจะปลดเปลื้องเหตุความหวาดกลัวต่างๆได้
    - หากมีอารมณ์มักมากในกามราคะก็สามารถห่างไกลจากกามราคะได้ด้วยเดชแห่งพระโพธิสัตว์พระองค์นั้น
    - หากมีอารมณ์มากไปด้วยโทสะก็สามารถห่างไกลจากโทสะได้ด้วยเดชแห่งพระโพธิสัตว์พระองค์นั้น
    - หากมีอารมณ์มากไปด้วยโมหะก็สามารถห่างไกลจากโมหะได้ด้วยเดชแห่งพระโพธิสัตว์พระองค์นั้น
    - หากปรารถนาบุตรชายอันสมบูรณ์ด้วยบุญญาธิการและปัญญา บุตรหญิงที่ทรงลักษณะสิริโสภาคย์มีบุญอันกระทำไว้แล้ว ก็ให้ขอจากพระโพธิสัตว์พระองค์นี้เถิด

    ด้วยพ่อเหนือเทพท่านจะกระทำซึ่งหิตานุหิตประโยชน์อันมากมายแก่ผู้ที่ระลึกถึงด้วยมีพระเดชานุภาพอันพิลึกโอฬารเช่นนี้ รูปหล่อพ่อเหนือเทพนี้ท่านว่าคนที่จะได้ไปย่อมต้องมีบุญสมภารอันจะประมาณมิได้ แม้ได้บูชาสักการะและปรนนิบัติถวายสิ่งอุปโภคบริโภค มีภัตตาหาร เสนาสนะ เภสัช แด่พระโพธิสัตว์ชั่วระยะกาลเวลาหนึ่งเขาจะมีบุญญาภิสมภารเสมอได้สร้างบุญไว้นับอสงไขยโกฏิกัลป(คนที่ไม่มีบุญไม่มีวาสนาในชะตาตัว ถ้ารู้ว่าบุญน้อยก็ให้ตั้งข้าวน้ำกระทำสักการะบูชาพ่อเหนือเทพให้ดี)เพราะจะเกิดกุศลผลบุญอันนับมิได้ประมาณมิได้

    ด้วยพ่อเหนือเทพท่านท่องเที่ยวโปรดสัตว์ในมหาตรีสหัสสโลกธาตุ พ่ออาจารย์ท่านว่าหากบุคคลใดมีวาสนากับพระพุทธเจ้าที่จะได้รับการโปรดโดยพุทธกายแล้ว นั่นจะเป็นหน้าที่ของพ่อเหนือเทพท่านที่จะปรากฏรูปพุทธกายขึ้นมาโปรดสัตว์ นอกจากนั้นหากผู้ใดมีวาสนาจะได้รับการโปรดโดยพุทธสาวกไม่ว่าจะเป็นภิกษุหรือเทพเจ้าอินทร์พรหมแลพราหมณ์และจักรพรรดิ ไม่ว่าจะนาคยักษ์คนธรรพ์อสูรกุมารมโหราค...ท่านว่ามีวาสนาอย่างไรพ่อเหนือเทพท่านก็จะปรากฏรูปกายขึ้นมาเพื่อโปรดเรา เฉพาะเรา ตรงกับวาสนาเราเช่นนั้น *** นี่คือสิ่งที่องค์พ่อท่านคล้อยตามวาสนาเพื่อจะโปรดและถอดถอนเรา ไถ่เราออกจากความทุกข์ยากทั้งปวงให้ได้ ทั้งยังจะแสดงธรรมแก่เราสมควรแก่วาสนาด้วย

    ด้านหลังอุดด้วยผงสลับ,กลับ,คลาดซึ่งใช้ให้ตัวเราคลาดแคล้วกับเคราะห์กรรมหลักและเศษกรรม เคราะห์หามยามซวยทั้งหลายที่มาเกิดกับตัวเรานั้นจะถูกสลับสับเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะมันจะหนีจะย้ายจากตัวเขาไปลงอยู่กับเหล่าคนที่มีกรรมอกุศลร่วมกันแทนจึงเรียกได้ว่าสลับ กลับ คลาดทั้งหมด
    - สลับ คือสับเปลี่ยนตัวตน
    - กลับ คือย้อนเจตนาและการกระทำกลับไปให้ผู้ทำ
    - คลาด คือคลาดแคล้วเนื้อตัว ไม่ได้กล้ำกรายให้ต้องทุกข์ โทษ ภัย
    นอกจากจะเปลี่ยนชีวิตให้กลับตาลปัตรแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าตรงนี้ต้องทำความเข้าใจไว้ ว่ามันกลับเฉพาะอกุศลกรรมและเคราะห์ภัยรวมไปถึงเศษกรรมหากแต่กุศลกรรมก็ยังเสวยกันได้อย่างปกติมิใช่บางเรื่องดีอยู่แล้วจะกลับไปเลวลง เพราะผงลบวิชานี้ถูกลิขิตไว้แล้วให้คนใช้ต้องพุ่งขึ้น สูงขึ้น ไม่ตกต่ำลงเท่านั้น นอกจากสลับ กลับ คลาดตัวบุคคลแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่ายังย้อนกลับทุกความคิดปองร้ายและการกระทำด้วยคุณไสย อวิชชา เจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ให้กลับคืนเข้าหายังผู้กระทำด้วย แม้ใครจะเล่นงานเราก็เข้าผิดที่ผิดทาง ทำอะไรเราก็ทำผิดตัวผิดตนวนอยู่แบบนั้น มันจะเป็นเช่นนั้นอยู่ร่ำไป วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามันไม่ได้ไปหยุดยั้งกรรมไม่ให้เกิด แต่มันกลับสับเปลี่ยนให้ตกกับคนที่มีกรรมร่วมกัน ให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างที่ควรจะเป็นแทนนั่นเอง แต่เหนือสิ่งอื่นใดเลยผงนี้ใช้ชำระจิตวิญญาณของผู้อาราธนาด้วย ท่านว่าคำๆนี้เป็นมิติที่กว้างและลึกมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าคนเราทุกวันนี้ผ่านการเกิดมาแล้วไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ เป็นมากันหมดตั้งแต่สัตว์เดรัจฉาน สัตว์นรก มนุษย์ เทวดา พระราชา...เรียกว่าอยู่กันมาหมดทุกภพูมิ ทุกโลก ทุกโกฏิจักรวาล ไม่มีจะว่างเว้นการมีชีวิตอยู่และล้มหายตายจากแม้ซักวินาที จิตวิญญาณตัวนี้ของแต่ละคนล้วนแต่ตรากรตรำกรำชีวิตกันมาหนักหนา ใช้งานกันมามากมายจนตกตะกอนอกุศลมูลทั้งหลายแปดเปื้อนเนื้อตัว ท่านว่าคิดดูเถิด ถึงเวลาชำระมันบ้างหรือยัง หรือจะปล่อยให้ตายไปแบบเปื้อนๆ แล้วก็เกิดใหม่แบบเปื้อนๆเลอะๆเช่นนี้สั่งสมไปเรื่อยๆ ***ผงนี้ต้องเสกจนกระทั่งฟ้าผ่าผิด ฟ้าต้องผ่าและต้องผ่าผิดที่ผิดทางตามครูพระสยมท่านกำหนดไว้จึงจะสำเร็จโดยสายฟ้านั้นพ่ออาจารย์ท่านเปรียบไว้กับการลงทัณฑ์ของสวรรค์ เป็นเคล็ดที่ว่าแม้ทัณฑ์สวรรค์ฟาดลงมาก็ยังไม่ถูกไม่โดนเนื้อตัวเสมอด้วยเคราะห์กรรมและเศษกรรมทั้งหลาย ท่านว่าต้องเสกจนฟ้าผ่าฟ้าฟาดลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า ฟาดอย่างไรก็ไม่ถูกไม่โดนมณฑลพิธีทำได้เพียงฟาดพื้นที่โดยรอบเท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้กว่าจะเสกสำเร็จได้จึงนับว่าเป็นของที่เสี่ยงตายทำมาให้ใช้กันโดยเฉพาะ คิดแล้วก็ยังอดใจหายไม่ได้กว่าจะทำสำเร็จจนเสกเก็บไว้ยาวๆ เพราะถ้าพลาดก็คือเราตายมันท้าทายถึงขนาดนั้น ดังนั้นจึงพลาดไม่ได้เลย
    ท่านนำผงวิชาสำคัญมาเข้ากับผงเหล็กไหล ผงเหล็กไหลฤาษี ผงเหล็กไหลเงินยวง ผงเหล็กไหลตาแรด ผงตะไบเหล็กน้ำพี้ ผงเพชรหน้าทั่ง ผงพระธาตุอรหันต์ ผงพระธาตุสีวลี ผงพระธาตุข้าวบิณ ผงพระธาตุเขาสามร้อยยอด ผงแก่นไม้สัก ผงลูกมณีโคตร ผงมณีรัตนะ ผงหงอนพญานาค ผงแก้วขนเหล็ก ผงแร่บางไผ่ ผงหยกพันปี ผงขมิ้นหิน ผงข้าวตอกพระร่วง ผงคดกะลา ผงกะลาตาเดียว ผงสะเก็ดดาว ผงหินขวานฟ้า ผงกัลปังหา ผงข้าวสารดำ ผงดอกไม้หิน ผงเพชรน้ำค้าง ผงลูกธนูคนธรรพ์ ผงงาช้างพรายกระเด็น ผงแร่อาถรรพ์ภูเขาควาย


    และพ่อเหนือเทพท่านโองการให้แกะรูปพระศรีอาริย์ผู้เป็นเอกชาติปฏิพัทธะเช่นเดียวกับตัวท่านฝังไว้ด้านหลัง ### แต่ท่านให้เคล็ดว่าต้องแกะเป็นรูปตอนท่านสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าแล้วไม่ใช่รูปโพธิสัตว์เพื่อเป็นการแก้เคล็ดคนที่ไม่มีวาสนาไร้อนาคตทั้งหลายได้มาบูชา จะได้มีอนาคตก้าวไกลไม่หยุดนิ่ง ด้วยพระศรีอาริย์เมตไตรย์ท่านอยู่ในกาลในวาระที่มีพุทธทำนายมีพระชาติแน่นอนเเล้ว ดังนั้นจึงรับภาระหน้าที่โดยตรงในการสงเคราะห์โลก สงเคราะห์สัตว์ทั้งหลาย ด้วยกำลังและอำนาจบารมีของพระองค์
    รูปนี้อ้างอิงถึงพุทธบารมีและอนาคตกาลที่จอมเทพแห่งดุสิตสวรรค์นามว่าพระศรีอาริย์ จะได้ลงมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า รูปเหมือนนี้พ่ออาจารย์ได้ลงหัวใจเอาไว้ท่านว่าสำคัญนัก เปรียบดุจญาณและบารมีขององค์พระศรีจริงๆเลยทีเดียว ใครปรารถนาอะไรอธิษฐานบอกกล่าวพระองค์ได้ ขอได้ทุกเรื่องแม้เเต่จะขอตั้งสัตย์อธิษฐานจะทำความดีเพื่อให้เกิดทันยุคพระศรีอาริย์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแห่งอนาคตวงศ์ก็ยังได้ ด้วยบารมีของพระศรีอาริย์นี้หากหนุนเสริมผู้ใดแล้ว ย่อมประสบโชคดี ได้ลาภ มีวาสนาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว คนจีนถึงชอบและบูชาพระศรีอาริย์กันมากจนสับสนกับพระสังกัจจายน์ ซึ่งพระศรีอาริย์แบบคนจีนนั้นจะเป็นพระอ้วนพุงพลุ้ยลงพุงให้อานิสงค์เรื่องโชคลาภไม่ต่างจากพระสังกัจจายน์เลยทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านรู้วิธีทำรู้เคล็ดลับที่จะทำ เมื่อทำแล้วคนได้ไปต้องตั้งตัวได้ ร่ำรวยเป็นเจ้าสัวท่านถึงจะทำ
    เมื่อญาณแห่งสมเด็จพระศรีอาริย์ท่านลงมาสงเคราะห์ตัวเราพร้อมกับองค์พระอวโลกิเตศวรผู้มีคุณและมีสถานะเป็นเอกชาติปฏิพัทธะเช่นเดียวกัน จึงเป็นฤกษ์และวาระมงคลแก่ผู้ได้ไว้ครอบครองอย่างหาที่สุดไม่ได้

    ทั้งพ่ออาจารย์ท่านยังได้นำรูปหล่อจันทร์ครึ่งเสี้ยวที่ท่านเสกเก็บไว้มานานฝังลงไปด้วย จันทร์เสี้ยวนี้ท่านหล่อมาจากแผ่นชนวนทองเหลืองอันท่านลงยันต์เกี่ยวกับวิชาความรู้ในสายโชคลาภและโภคทรัพย์ไว้ทั้งหมด เรียกได้ว่ามีรูปหล่อจันทร์ฉายนี้เสมอด้วยพกตะกรุดมีวิชาเร่งเงินทองอยู่กับตัวนับร้อยพัน ทั้งท่านยังได้นำมาอาบแสงจันทร์ทำพิธีขอเงินพระจันทร์ทุกๆปี ลงเสกทั้งในฤกษ์จันทรคราสและสุริยคราส ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านได้อธิบายว่าที่ต้องเสกในฤกษ์อาทิตย์สิ้นแสงด้วยนั่นก็เพราะแต่โบราณนั้นถือนัก ว่าธาตุเย็นเป็นธาตุที่ให้ผลทางด้านโชคลาภโภคทรัพย์ ซึ่งมีอริก็คือธาตุที่เป็นความร้อน การที่ต้องเสกในวันพระอาทิดย์ดับแสง ก็เพื่ออาศัยปรากฏการณ์ธรรมชาตินี้ให้เกิดอำนาจและพลังศักดิ์สิทธิ์สูงสุด เพราะเชื่ออย่างยิ่งว่าเมื่อพระอาทิตย์สิ้นแสงแล้วเป็นเวลาที่วิชาแห่งไสยเวทย์จะมีกำลังแรงกล้าและทรงอำนาจของที่ทำพิธีในเวลานี้จะศักดิ์สิทธิ์มาก ซ้ำยังถือคติดับร้อนผ่อนเย็นเอาความร้อนออกไปให้เหลือไว้เเต่ความเย็นเหลือไว้ แต่โชคลาภโภคทรัพย์ไม่มีสิ่งอันทำให้ขัดข้อง และเหนืออื่นใดนั้นการเสกในฤกษ์สุริยุปราคายังให้ผลทางด้านชัยชนะด้วย มันทำให้ชนะศัตรูคู่แข่งคนที่เขาได้บูชาวัตถุมงคลชุดนี้ไปจะชนะศัตรูคู่แข่งทั้งหลาย มีคนคอยให้ความช่วยเหลือค้ำจุน คอยสนับสนุน เห็นมั๊ยว่าถ้ามีแต่โชคลาภมันก็ไปต่อไม่ได้อยู่ดี คนเราจะได้ดีจะต้องรู้จักกับคำว่าชัยชนะ มีคนคอยหนุนคอยเสริมเป็นฐานให้เรา สุดท้ายชีวิตเขาก็จะพบกับความมั่นคง ทั้งท่านยังได้ลงตะกรุดเพิ่มพระยันต์เพื่อช่วยเร่งลาภผลให้ต่อเนื่องเข้าไป ไม่หยุดชะงัก ไม่ขาดตอน อีกสองดอก

    คาถาบูชา
    นโม อารยาวโลกิเตศวราย โพธิสตฺตวาย

    รูปหล่อพ่อเหนือเทพนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่ามีบารมีของสุดยอดมหาโพธิสัตว์ที่ได้ชื่อว่ามีเมตตามากที่สุดและมีบารมีเต็มทั้งสองพระองค์อยู่ด้วยกัน ซึ่งท่านก็มีเจตนามั่นคงที่จะไปดูแลคุ้มครองลูกหลานอันอยู่ในโพธิวงศ์เป็นหน่อเนื้อบุคคลซึ่งมีวาสนาบุญสัมพันธ์กัน ทั้งนี้พ่ออาจารย์ท่านได้แจ้งเอาไว้ว่าถ้าเป็นเจ้าของเขาจะมาอาราธนาเอง ไม่มีลูกคนไหนที่ปฏิเสธสายสัมพันธ์พ่อลูกนี้ได้หรอก หากมีบุญสัมพันธ์แล้วยังไงก็ต้องเชิญท่านไปใจเขาจะรู้เองว่าพ่อของเขารออยู่ตรงนี้

    *** รายการนี้ท่านทำไว้เพียงห้าองค์เท่านั้น รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้บูชาให้แจ้งชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิดเอาไว้ด้วย รวมไปถึงความปรารถนาที่ลูกอยากจะฝากเนื้อฝากตัวและบอกกล่าวกับองค์พ่อท่านว่าให้แจ้งกันเข้ามาด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะทำการประสิทธิให้และบอกกล่าวฝากฝังลูกไว้กับพ่อเหนือเทพทีละองค์ รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญหล่อจันทร์ฉายพ่อเหนือเทพพระอวโลกิเตศวร (พระศรีสลับกลับคลาดดับกลับอนาคตกาล) บูชา 4,000 บาท

    80634272-2218975518204308-3348791708702736384-n.jpg 80415743-749238082209554-4337021618602639360-n.jpg
    80188225-455246765399323-7561876204823773184-n.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...