ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดลงถมมหาสนองเป่าแล่นฟ้าคล้อยยอมตาม(บัญชาฟ้าสอพลอ) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    รายการนี้แนะนำว่า เฉพาะตะกรุดที่ท่านผูกให้ด้านหลังก็คุ้มค่าเกินราคาไปมากแล้ว เพราะเป็นตะกรุดที่ทำยากและก็ตั้งราคาไม่ถูกมาหลายปี ท่านไม่รู้จะให้บูชาอย่างไรเลยลงความเห็นว่าเป็นสายครูพระนารายณ์เหมือนกันจึงนำมาผูกกันไว้เสียทีเดียว เรียกว่าแรงยกกำลังสองชุดนี้ของจึงมีน้อยเพียงหยิบมือ
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    พระรัศมี

    พระรัศมีทั้งหกมีความสวยงามน่าทัศนาอย่างยิ่ง ลีลาที่แผ่ซ่านออกจากพระวรกาย ถ้าใครเห็นแล้วไม่อยากละสายตาแม้แต่วินาทีเดียว ยิ่งเห็นยิ่งปีติ....

    สีเขียวเหมือนดอกอัญชัน ดอกบัวเขียว ดอกผักตบ แววหางนกยูง และปีกแมลงภู่ เวลาที่แผ่ซ่านจากพระวรกายก็จะออกทางพระเกศาและพระโลมา (ผมและขน) ตามร่างกาย สีเหลืองเหมือนดอกกรรณิการ์และทองชมพูนุท ออกจากพระวรกายทางพระปฤษฎางค์ (หลัง) ซึ่งเมื่อออกแล้วสามารถแผ่ไปทั่วทิศ

    สีแดง เหมือนน้ำครั่ง หิงคุ ดอกชบา และทับทิม แผ่ซ่านออกจากพระมังสะ (เนื้อ) พระโลหิต สีขาวเหมือนดอกพุดและสังข์ ออกจากพระวรกายทางพระเนตรขาว และพระทนต์

    สีแสด เหมือนดอกอังกาบ ดอกชบาเทศ ดอกเทียนไทย และดอกทองฟ้า ซึ่งออกแสงเหมือนทองแดงที่ขัดอย่างดี แผ่ซ่านออกจากพระวรกายทางข้อพระหัตถ์และ นขะพระบาท (ข้อมือและเล็บเท้า) สีประภัสสร คล้ายดาวประกายพรึกและแก้วผลึก แผ่ซ่านจากพระอุณาโลม ณ พระพักตร์

    พระรัศมีที่ออกก่อนคือสีเขียวสี ตามด้วยสีเหลือง สีแดง สีขาว สีแสด และสีเลื่อมพราย (ประภัสสร) เป็นลำดับ ในหลากหลายลีลาท่าทางที่แตกต่างกันไป บางกลุ่มส่ายไปส่ายมา บางกลุ่มขึ้นบนลงล่าง ลงล่างแล้วขึ้นบน มองแล้วละลานตา

    บางกลุ่มบาง บางกลุ่มหนาแน่นประสานกันไปมา บางกลุ่มพุ่งไปข้างหน้า บางกลุ่มพุ่งไปข้างหลัง บางกลุ่มหยุดนิ่งสงบอยู่กับที่ บางกลุ่มพุ่งขึ้นบน บางกลุ่มดิ่งลงข้างล่าง เป็นต้น ใครเห็นแล้วไม่เกิดอัศจรรย์ใจก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว

    ขอบอกอีกครั้ง พระรัศมีดังกล่าวใช่ว่าจะได้เห็นกันทุกคน ผู้ที่จะมีโอกาสได้เห็นต้องเป็นบุคคลที่มีบุญมีวาสนาพอสมควร และต้องเป็นผู้ที่พระพุทธองค์ทรงปรารถนาจะที่ให้เกิดขึ้นปรากฏกับเขาผู้นั้นจริงๆ คือบุคคลที่ต้องการเทศนาโปรด

    แล้วพระฉัพพรรณรังสีนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร เชื่อว่าหลายคนอยากรู้ เพราะพระรัศมีที่เกิดจากพระวรกายของพระพุทธเจ้ามีความพิเศษแตกต่างจากรัศมีของเหล่าเทวดาและพรหมมาก ซึ่งของเทวดาและพรหมไม่อาจเทียบพระพุทธเจ้าได้ในทุกมิติ ทั้งความสวย การแผ่รัศมีออกจากกาย

    รัศมีของเทวดาและพรหมสว่างไสวเหมือนกัน แต่ไม่สว่างเท่าพระฉัพพรรณรังสีของพระพุทธเจ้า ของพระพุทธเจ้าไม่มีขีดจำกัด สามารถส่องสว่างไปทั่วจักรวาล ทว่าในขณะเดียวกันหากทรงพระประสงค์ให้ปรากฏในวงจำกัดก็ทรงทำได้

    ทีนี้มาว่ากันต่อถึงพระฉัพพรรณรังสีแต่ละอย่างว่าเกิดขึ้นมาด้วยอานุภาพอะไร

    เริ่มที่พระรัศมีสีเขียวเกิดขึ้นด้วยอำนาจแห่งทาน กล่าวคือพระพุทธเจ้าเมื่อครั้งเป็นพระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็น “พระเจ้าสีพี” ทรงควักพระเนตรออกให้เป็นทานแก่พระอินทร์ ซึ่งจำแลงตัวเป็นพราหมณ์มาขอ

    สีเหลือง จากการที่ได้เฉือนเนื้อของพระองค์ให้กับพระอินทร์ซึ่งจำแลงเพศเป็นช่างทองตีแผ่แผ่นทองติดปิดพระพุทธรูป เมื่อครั้งเป็นวิริยบัณฑิต สีแดง จากการเอามีดผ่าอกยกหัวใจให้ปรุงเป็นยาแก่มารดาของตนซึ่งถูกงูกัดตายแล้วให้ฟื้นขึ้นมา เมื่อครั้งเสวยพระชาติเป็นชีวมานพและปทุมกุมาร

    สีขาว จากการพระราชทานช้างเผือกปัจจัยนาเคนทร์แก่เมืองกาลิงคะ เมื่อครั้งเป็นพระเวสสันดร สีแสด จากการเชือดเนื้อให้เป็นทานแก่ยักษ์กินเป็นอาหาร เมื่อครั้งเสวยพระชาติเป็นวิทยาธรได้

    และพระรัศมีสีประภัสสร เกิดขึ้นจากการสละร่างกายโดยทอดกายลงไปในไฟที่พระอินทร์ก่อขึ้นให้เนื้อเป็นทานแก่พราหมณ์คนหนึ่ง เมื่อครั้งเสวยพระชาติเป็นกระต่าย ชื่อ “สสบัณฑิต”...


    557000001349001.jpg
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ตะกรุดสาลิกาป้อนเหยื่อเริ่มมีคนเล่าประสบการณ์กันเเล้ว บางคนว่าห้อยแล้วเมตตาหนักกว่าพวกขุนแผนสายพรายที่เคยใส่ ก็ลองห้อยกันดูนะครั ยังไงตะกรุดก็เป็นแรงครูท่านสงเคราะห์ไม่ใช่คุณผีคุณพราย ไม่กินตัวแน่นอน
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    มีคนถามหาอยากได้ชุดคุ้มๆแบบตะกรุดสาลิกาป้อนเหยื่ออีก ผมก็ไม่ทราบว่าท่านมีอะไรแบบนี้อีกมั๊ย ก็รอกันนะครับถ้ามีวาระมีโอกาสจะมาแจ้งไว้
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่วิศณุกร EI 3836 6473 2 TH

    พี่นฐมน EI 3836 6474 6 TH

    พี่กฤตยชญ์ EI 3836 6475 0 TH
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    หลายคนถามหาของหลักๆกันเข้ามาก็เผอิญท่านจะให้ลงของแปลกๆอยู่พอดี เอาไว้ติดตามรอบเย็นกันดีๆ แต่จะใบ้ให้คร่าวๆเพราะผมคิดว่าสิ่งนี้ค่อนข้างแปลก ### พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นเครื่องมงคลสำหรับคนพูดน้อย(ไม่ชอบอธิษฐาน,ไม่ชอบขอ,ขอไม่เป็น) เรียกว่าเก็บความปรารถนาความตั้งใจไว้ในใจไม่ค่อยแสดงออก ไม่ค่อยอยากรบกวนครูบาอาจารย์ หรือไม่ขอสิ่งใดง่ายๆ....

    ท่านว่าเครื่องมงคลตัวนี้
    ทุกความปรารถนาคือความว่างเปล่า *** ยิ่งขอยิ่งเงียบแต่กลับกันอย่างถึงที่สุดในกรณีที่เราเงียบ เราไม่คิด ไม่ปรารถนาเลย เรียกว่าห้อยเขาไว้แล้วก็ใช้ชีวิตของเราไปเฉยๆไม่ต้องขอไม่ต้องอยาก ไม่ต้องไปตั้งความหวังกับเขา นั่นแหละทุกสิ่งที่เราเพียรพยามจะทำให้ได้ก็จะสำเร็จ ท่านว่าไม่ใช่เรื่องเล็กๆแค่เรื่องสองเรื่อง ต่จากที่เคยเห็นคนใช้ต้องเรียกว่าจะมีดีเข้ามานับพันนับหมื่นเรื่อง พูดง่ายๆคือมีแต่เรื่องดีๆนั่นเอง

    ...เช่นนั้นใครที่ถามหาของหลักๆหรือชอบของแปลกๆเอาไว้ติดตามกันรอบเย็นนะครับ
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดดอกครูเขียนฝันใจปรารถนาธรรมนิรมิต - ได้ดั่งใจ (ทุกสิ่งไม่เกินเอื้อม,ฝันที่เป็นจริง)

    "วิชาของโยคะนิทรา(ภาคหนึ่งของพระแม่ทุรคา)"

    ด้วยเหล่าครูบาอาจารย์ในแดนทิพย์ท่านเล็งเห็นว่าปัญหาความเสื่อมโทรมและทุกข์ยากของผู้คนนั้นกำลังจะแผ่ขยายมายังศิษย์ทั้งหลาย ท่านเมตตาด้วยว่ายังมีบางคนที่ลุกขึ้นสู้ถึงแม้จะมีฐานะยากจนหรือประสบชะตากรรมอันยากลำบากแต่ก็มีความขยันอดทน และตั้งใจเดินตามความใฝ่ฝันที่ดีของตนเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าเหล่าทิพย์กายทั้งหลายท่านยังเมตตาอยู่ตรงนี้เพราะคนที่มีฝันเหล่านั้นเมื่อฝันแล้วเดินตามจึงจะเกิดพลังงานสร้างสรรค์เหนือพรหมหรือกรรมลิขิต เรียกว่าชีวิตยังมีไฟเพียงมุ่งเดินไปตามฝันก็จะพบแสงสว่าง เช่นนั้นครูท่านจึงให้วิชามาชุดนึงซึ่งพ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าชุดฝันที่เป็นจริง ท่านว่าให้เอาไว้ใช้ช่วยคนที่เขาไม่ย่อท้อเพื่อดึงเขาเข้าสู่ทางแห่งความสำเร็จ ในขณะเดียวกันวิชาชุดนี้จะมีอานุภาพมากยิ่งขึ้นทางด้านระบบความคิด เพราะแรงครูจะช่วยจุดประกายความคิด ควบคุมพลังงานด้านบวกทุกๆสิ่งมาเกื้อกูลเราโดยตรง ท่านว่าไม่ว่าเราจะเป็นใครจะมีความฝันอย่างไรวิชาชุดนี้ย่อมทำฝันของเราให้เป็นจริงได้

    พ่ออาจารย์ท่านว่าโดยปกติคนนั้นย่อมมีความปรารถนาไม่สิ้นสุด มีความคิดที่จะทำนั่นทำนี่อยู่ตลอดเวลา บางคนก็ละเมอเพ้อพกในสิ่งที่ไม่มีวันเกิดขึ้นได้ จึงเรียกว่ามีทั้งคนประเภทที่สามารถทำให้ความฝันเป็นจริงได้ผ่านการกระทำของตนเอง(เป็นประเภทคิดแล้วลงมือทำ) กับอีกประเภทนึงคือฝันเกินจริงเป็นเพียงจินตนาการที่ตนติดอยู่ในความปรารถนานั้น ด้วยพ่ออาจารย์ท่านเข้าใจว่าการทำความฝัน,ความคิด,ความปรารถนา(ที่เราตั้งไว้ให้เป็นเป้าหมายสูงสุดของชีวิต)นั้นให้เป็นจริงมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ก่อนที่เราจะผ่านไปยังจุดที่สูงที่สุดได้เราต้องผ่านอะไรมา ต้องแลกมาด้วยอะไร บางคนอาจจะเเลกมาด้วยอุปสรรคและความยากลำบากมากมายกว่าจะพบความสำเร็จ ตรงนี้พอทำได้ใจมันก็ปิติเกิดความภูมิใจในตนเอง ท่านว่าคนประเภทนี้ต่อให้ตัวเขาไม่มีอะไรเลยเขามีแต่พลังใจที่เข้มแข็งเขาก็เดินก้าวออกไปได้ ใช้ใจที่เข้มแข็งไม่ย้อท้อต่อความลำบากเป็นจุดยืนและใช้กำลังใจจากคนรอบตัวที่รักเราหวังดีกับเรามาเป็นแรงผลักดันคอยสนับสนุนส่งเราอีกต่อหนึ่ง เรียกว่ามีทั้งกำลังภายนอกและภายในหนุนกัน *** ถึงแม้จะประสบความสำเร็จแต่เส้นทางนั้นกลับไม่ง่ายเลย พ่ออาจารย์ท่านว่าคนที่มีแต่แรงใจอย่างนี้ย่อมเหนื่อยมากและใช้เวลานานมากเกินไปเช่นกัน

    เช่นนั้นตะกรุดครูธรรมนิรมิตนั้นจึงเป็นเครื่องมงคลที่จะชักนำเราไปสู่ความฝันขั้นสูงสุดแบบที่ไม่ต้องรอเวลาไม่ต้องใช้กำลังเกินตัว ท่านว่าด้วยความสำเร็จนั้นมันมีอยู่หลายแบบ แต่เนื่องจากเรานั้นเป็นมนุษย์ดังนั้นรู้ไว้เลยว่าทุกอย่างมันเป็นความว่างเปล่าอะไรที่อยากอะไรที่ต้องการมันมักจะไม่ได้มา ส่วนอะไรที่เราไม่คิดไม่ปรารถนานั่นย่อมได้มาง่ายๆ เช่นนั้นพอคนเราตั้งปณิธานตั้งความหวังไว้แล้วเดินไปตามฝัน เส้นทางนั้นจึงมักเปนอะไรที่ยากเป็นพิเศษ พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นเพราะเราเป็นมนุษย์ส่วนความสำเร็จ(ที่ยิ่งใหญ์ไม่ใช่ได้ในเรื่องฉาบฉวย)นั้นเขาเป็นนามธรรมเป็นกฏของวัฏจักร ดังนั้นความฝันที่จะสำเร็จได้จึงเป็นนามธรรมที่สูงส่งยิ่งเกินกว่าความคิดเหลวไหลที่ไขว่คว้าไม่ได้ ทีนี้เมื่อมนุษย์เอาตัวเองเข้าไปหาไปไขว่คว้านามธรรมเช่นนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากและเกินกำลัง แต่ด้วยแรงครูของตะกรุดนั้นท่านจะเอื้อให้ปัจจัยทั้งปวงเกิดขึ้นได้เพื่อดึงเอามโนและความคิดของเรามาทำให้มันเป็นจริงในโลกแห่งความจริง ท่านจึงเปรียบตะกรุดนี้ว่าสำคัญนักด้วยเขาเป็นปัจจัยที่จะสร้างตัวตนของเรา สร้างความคิดเราให้ปรากฏในโลกความจริง ในขณะเดียวกันมโนความคิดของเราก็เป็นปัจจัยที่จะถูกป้อน เป็นพลังงานให้เขาเช่นกัน จึงเรียกได้ว่าเป็นการทำงานที่เกื้อหนุนซึ่งกันและกันอย่างแท้จริง

    ตะกรุดธรรม...ปัจจัยที่จะสร้างตัวตนของเราในโลกแห่งความจริง
    ไม่ว่าจะเป็นจินตนาการหรือความฝันง่ายๆแต่ทำไม่ได้ แม้กระทั่งเรื่องฝันอันสูงสุดที่ตั้งไว้เป็นเป้าสุดท้ายในชีวิตว่าชาตินี้ต้องทำให้ได้เพราะเป็นเรื่องอันยากที่มนุษย์จะทำ ไม่ว่าจะเรื่องใดนั่นก็ล้วนเป็นความปรารถนาที่จะจุดไฟในชีวิตของตัวเราอยู่ลึกๆทั้งสิ้น แต่ทุกคนคงรู้ดีกันอยู่ว่ามันก็เป็นเพียงแค่ความฝัน *** บางคนนั้นเหนื่อยเพราะเดินตามฝันมามากและเข้าใจแล้วว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะทำตามฝันให้สำเร็จหรือเป็นจริงได้ บางคนนั้นยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ด้วยอาชีพกับสิ่งที่คิดนั้นเป็นคนละเรื่องกันเลยจึงไม่มีโอกาสเดินตามความตั้งใจของตนเอง ด้วยพันธะต่างๆมากมายที่เกี่ยวรัดพัวพันเนื้อตัวและชีวิตเราอยู่ บางครั้งจึงทำได้เพียงเสียดายและเสียใจทำได้เพียงแค่ยืนมองฝันนั้นอยู่ในความคิดในขณะที่บางคนยืนมองความฝันนั้นหลุดลอยไป บางทีเห็นคนอื่นทำในสิ่งที่เราคิดไว้จนสำเร็จก็ยังทอดถอนใจว่าทำไมคนๆนั้นถึงไม่ใช่ตัวเรา
    ในขณะที่คนอีกประเภทหนึ่งนั้นก็มีความฝันซึ่งไม่ได้ทำไม่ได้รับการเติมเต็มเหมือนกัน หากแต่ต่างกับประเภทแรก
    เพราะความฝันเขาเป็นเพียงความคิดเพ้อเจ้อ ซ้ำเขายังหลอกตัวเองอยู่เสมอด้วยว่าไม่ได้ทำก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร ชีวิตทุกวันนี้ที่เป็นอยู่ในตอนนี้ก็มีความสุขดี...เราเพียงพออยู่แค่นี้มันก็โอเคแล้วนะ....ท่านว่าคนแบบนี้นี่แหละน่ากลัวเพราะเขาหลอกได้แม้กระทั่งตัวเองเพื่อความสบายใจของเขา ไม่ได้เอาความคิดมาจุดพลังไฟเป็นประกายกับชีวิต ปล่อยมันไปกับตรรกะผิดๆเพราะในใจลึกๆแล้วตัวเองย่อมรู้ดีที่สุดว่าเราพอใจชีวิตจริงหรือ พอใจแล้วหรือที่ตัวเองยังห่วยอยู่ ยังก้าวไปได้ไม่สุดทั้งที่ตนมีแรง ยังไม่ประสบความสำเร็จ คนแบบนี้เรียกด้ว่าไม่รู้จักตัวเองถึงเขาจะหลอกตัวเองได้แต่ก็ต้องใช้ชีวิตเสแสร้งค้างคาใจไปวันๆอยู่เช่นนั้นไปจนตาย
    อาการค้างคาใจและปล่อยไปเหล่านี้ มันทำให้เราเดินวนอยู่ในเกมส์ชีวิตที่เราเล่นไม่ชนะ ใช้ชีวิตอยู่ในสิ่งก่อสร้างที่ยังสร้างไม่เสร็จดุจนั่งอยู่ในบ้านที่ไม่มีหลังคาพอฝนมันตกฟ้ามันผ่าก็กังวลหาทางรอดไปวันๆ ด้วยความฝันนั้นถึงบางทีพอทำจริงๆแล้วอาจจะดูยากเกินไป บางคนพยามจนเหนื่อยแทบตายก็ไปไม่ถึงเสียทรัพย์สินลงทุนลงแรงไปเปล่าๆ ความคิดว่าเราเสียดายเวลาเสียดายนั่นนี่ไปเรื่อยมันจึงเป็นความคิดที่เราบั่นทอนกำลังใจตัวเอง
    พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากไม่มีปัจจัยบวกแล้วเรายังสร้างปัจจัยลบมาปิดตายความปรารถนาตัวเองด้วย เช่นนั้น
    ### สิ่งที่สำคัญที่สุดเลยหากจะเดินไปให้สุด ไปยืนอยู่ในจุดสูงสุด คว้าเอานามธรรมที่ยิ่งใหญ่ดึงมันลงมา สิ่งสำคัญนั้นก็คือปัจจัยบวก..ปัจจัยที่จะเป็นพลังช่วยสร้างตัวตนของเราขึ้นมาในโลกแห่งความจริง(เพราะบางคนนั้นความฝันเขายิ่งใหญ่แต่ในความจริงตัวตนเขาเป็นเพียงนายกอ นายขอ ที่ไม่มีใครรู้จัก)จึงเรียกว่าไร้ตัวตนในโลกจริง ยิ่งคนที่คิดว่าฝันไม่มีทางเป็นจริงหรือเคยสู้แล้วแต่ทำไม่ได้ไปไม่ถึงจึงเลือกที่จะหยุดและจบมันไว้ พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นเพราะคิดแต่จะดิ้นรนไป เหมือนเดินขึ้นทางลาดชันที่มีหินกลิ้งพร้อมทับเราตลอดนั่นคือคนลงทุนในเรื่องเสี่ยง ไม่มีปัจจัยรอบตัวคอยสนับสนุน หากแต่ตะกรุดดอกครูนี้เขามีกำลังสนับสนุนเราให้ความฝันเปลี่ยนถ่ายปัจจัยเกื้อกูลกันในโลกจริง ดั่งเราจะมุ่งหน้าขับรถไปในถนนที่ลาดยางแล้วไร้อุปสรรคไร้อันตรายไร้คู่แข่งเช่นนั้น

    ชีวิตใครที่หมดหวัง หมดสิ้นกำลัง...แลหยุดเดินแล้ว อาจด้วยเพราะเดินไปได้ไม่สุด นั่นก็เพราะตัวเขาขาดพลัง ซึ่งตะกรุดใจไม่ปรารถนานี้จะเป็นดั่งกุญแจเพียงดอกเดียวที่ใช้ไขเปิดชะตาเรา ผลักให้เราเข้าใกล้ความฝันช่วยให้เรามีความคิดบวกเอาชนะความคิดและจิตใจตัวเองเป็นปฐมก่อนจะเอาชนะทุกสิ่งในโลกแห่งความจริง ท่านว่าขอแค่เพียงเราลงมือและอาราธนาตะกรุดไว้ปัจจัยเสี่ยงต่างๆในชีวิตจะจางลางเลือนไป ขอแค่เรากล้าในสิ่งที่ถูก คุณของตะกรุดนั้นจะผลิดอกออกผลให้เราเห็นให้เราค้นหาอีกตัวตนนึงที่ซ่อนอยู่ในตัวเองของเราเจอ ทั้งปลดปล่อยตัวเราออกจากโลกแห่งความฝัน โลกที่ปิดตาย โลกที่ไม่มีทางเกิดขึ้นได้จริง เขาจะชนเข้ากับทุกอย่างเพื่อให้ได้มาในทุกสิ่งที่เราปรารถนา ขอเพียงตัวตนของเรามีความต้องการและมีความพร้อมที่จะรับทุกอย่างเพื่อเป้าหมาย ท่านว่า *** หากใครรู้ตัวนั่นนับว่ายังทันให้รีบอาราธนาเสียแต่ตอนนี้ไม่มีคำว่าสาย ด้วยความปรารถนาให้ชีวิตตนสมบูรณ์นั้นไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องที่มีวันหมดอายุ ไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับอายุขัยว่าจะหนุ่มจะแก่ทุกคนมีความฝันได้หมด ทั้งฝันเรื่องการทำงานการประสบความสำเร็จต่างๆในขณะที่ความสำเร็จบางคนไม่อยู่ที่การเสี่ยงดวงเสี่ยงโชคนั่นก็มี ด้วยตะกรุดนี้จะนำเราเข้าหาสุขที่แท้จริง สุขอันเกิดขึ้นจากฝันที่สมปรารถนา ทั้งยังจะเป็นเกาะเพชรกำแพงเห็ลกป้องกันตัวเรายามเจออุปสรรคทั้งหลายในปัจจัยเสี่ยงรอบตัว

    ตะกรุดฝันนี้พ่ออจารย์ท่านว่าอย่าเห็นเป็นตะกรุดแล้วจะคิดว่าเป็นเพียงท่อนเหล็กธรรมดา ด้วยเขานั้นมีจิตวิญญาณมีชีวิต เขาจะคอยช่วยเติมเต็มให้เราสมหวังในความฝันไม่ว่าจะเรื่องความรักหรือเรื่องอะไรก็ดี เพียงใจเรามีปรารถนาเพียงเท่านั้นไม่ต้องพูดไม่ต้องขอก็ได้ดั่งใจ ใครได้ไว้บูชาจะเกิดความเจริญรุ่งเรืองมีโชคลาภไม่ขาดดั่งอยู่ในแผ่นดินที่พลิกกลับหน้าดินเพื่อประโยชน์สูงสุดของเราและถูกยกให้สูงขึ้น จะมีอำนาจวาสนาบารมี มีคนนับหน้าถือตาอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งยังใช้สะกดให้คนเชื่อฟังอยู่ในอำนาจของเรา ท่านว่าติดตัวไว้เถิด *** ใครที่ดวงตก ทำมาหากินไม่ขึ้น ไม่เคยมีโชคเลย ท่านเปิดดวง ลงวิชาเบิกฟ้า ใช้ทั้งฤกษ์โจรเพื่อให้เราทำตามความฝันได้ง่ายๆ ทำอะไรก็สำเร็จง่ายดายได้สิ่งที่ต้องการจากคนอื่นง่ายๆเหมือนเขาโดนโจรปล้น บางคาถาบางวิชาก็ลงในฤกษ์เศรษฐีบ้าง ราชาฤกษ์บ้าง กว่าจะได้ตะกรุดดอกนึงนั้นท่านว่าไม่ง่ายเลยแต่ละตัวต้องรอฤกษ์ยามทั้งสิ้นกว่าจะผูกตะกรุดได้ดอกนึงท่านต้องลงเป็นสิบวิชาตามที่ครูสั่ง ท่านว่าตะกรุดนี้ใครมีไว้จะรุ่งเรือง เอาชนะคนใจแข็ง เอาชนะคนรัก เหนือคู่แข่ง เหนือศัตรู แม้ลงมือทำอะไรย่อมกินใจผู้อื่น ขอเพียงมีความปรารถนาไม่ว่าจะเรื่องใดตะกรุดนั้นจะดักมาให้ทุกสิ่ง ดั่งตัวเราเปรียบว่าไม่ต้องขอไม่ต้องอธิษฐานไม่จำเป็น เพียงเราใช้ชีวิตของเราไปตะกรุดเขาก็จะนำมาความปรารถนาซึ่งก็คือเหยื่อมาให้เราถึงที่ท่านว่าตะกรุดนี้อยู่ที่ไหนชีวิตไม่มีตกอับ

    วิชานี้ในอดีตพ่ออาจารย์ท่านตั้งค่ากำนลครูไว้สูงมากถึงดอกละห้าหมื่นบาท ท่านว่าที่ตั้งราคานี้ไม่ใช่เพราะเราโลภ แต่ท่านตั้งให้รู้ว่าตะกรุดนี้มีค่ามากนักพอที่จะทำตามความฝันของคนให้เป็นจริงได้ด้วยความสำเร็จอย่างสูงนั้นเป็นของสูงค่าเหนือทุกสิ่ง จะเห็นว่าท่านตั้งราคาไว้สูงลิบมากกว่าตะกรุดหลักๆของท่านทุกชนิด ซ้ำยังไม่ให้วางไม่ให้ลงเพราะกลัวใจคนเขาไม่รู้ก็จะพูดไปเรื่อย ท่านว่าเอาจริงๆนอกจากทำยากแล้ว ตะกรุดนี้อย่างอื่นไม่มีอะไรยากเลยเพราะใช้ก็ง่ายทั้งยังช่วยให้ชีวิตเปลี่ยนไปแบบง่ายๆ ท่านว่ามีดีเสมอใจขอแค่เรามีฝันเรามีไฟ ใจเรามีกำลังใจฮึดสู้มากเท่าไหร่เขาก็ดีมากเป็นเงาตามตัวเราเพียงนั้น เพราะใช้ง่ายๆอย่างนี้ท่านจึงตั้งราคาไว้สูงด้วยไม่ปรารถนาจะให้คนเอาไปใช้กันง่ายๆ ท่านว่าคนไม่รู้ค่าได้ไปก็เสียดายขอ

    วิธีใช้
    ตะกรุดดอกนี้ท่านว่าใจเราปรารถนาอะไรในโลกนี้ไม่มีใครรู้กับเรา ให้เอากระดาษเขียนความปรารถนาในใจของเรายัดไว้ใส่ตะกรุด เป็นเคล็ดว่าความในใจของเราทั้งโลกนี้เรารู้เขารู้ ใส่ใจของเราลงไปใส่ความปรารถนาเราไปในตะกรุด ปรารถนาสิ่งใด..ปรารถนาผู้ใดทุกอย่างจะสำเร็จไวดั่งต้องมนต์โดนอาถรรพ์ จะทำให้ฝันของเรานั้นเป็นจริง พ่ออาจารย์ท่านว่าเขียนในสิ่งที่ควรเขียนย่อมไม่มีสิ่งใดเกินเอื้อม

    ตะกรุดนี้ท่านให้ใช้เพื่อช่วยให้ฝันเป็นจริง เพราะครูเบื้องบนท่านรับรู้และรับทราบว่าตอนนี้ทุกคนมีความคิดหากแต่ทำไม่ได้ จึงติดกันอยู่ในความคิดความฝัน ได้แค่คิดแต่ไปไม่ถึง ครูท่านจึงให้พ่ออาจารย์ท่านนำตะกรุดนี้ออกมาให้ใช้กันทั้งยังกำชับไว้ว่าให้ลดค่ากำนลครูลงพอดีๆเพราะเวลานี้คนที่เขาได้ไปจะรู้ค่าและเห็นค่าในตัวตะกรุดอย่างแน่นอน ที่จริงท่านกำชับว่าไม่ต้องไปพูดหรือไปบอกอะไรเขามาก บอกไว้แค่เป็นตะกรุดฝันก็พอ (ทีแรกผมเองยังคิดเลยว่าถ้าพิมพ์สั้นๆมาว่าตะกรุดฝันแค่นั้นใครจะเข้าใจกับท่านได้) จึงได้ขอให้ท่านลงรายละเอียดพอสมควร ซึ่งท่านก็ให้รายละเอียดมาคร่าวๆ ท่านว่าเอาไปใช้เถิดไม่มีสิ่งใดเกินเอื้อม เขาจะสานฝันและเติมเต็มความปรารถนาของเราให้ถึงฝั่ง
    ### พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้ตอนทำที่ว่ายากเพราะเสี่ยงตายทำ ตอนกำหนดฤกษ์ลงเป็นครั้งๆยังไม่เท่าไหร่ แต่พอครูซึ่งเป็นทิพย์กายทั้งหลายท่านบอกวิธี ตอนแรกเราก็ใจหายเพราะต้องไปขอขมาแม่พระธรณีก่อน จากนั้นจึงนั่งใช้หัวแม้เท้าปิดปากรูแมงมุมชนิดนึง(เป็นอาถรรพ์ลับหากแต่แมงมุมยักษ์ชนิดนี้มีพิษกัดคนถึงตาย) พ่ออาจารย์ท่านว่าเช่นนี้จึงเรียกว่าเสี่ยงตายทำต้องตัดกังวลทิ้งไปเลยดั่งยกชีวิตให้ครูท่านแล้วต้องเชื่อใจกันเพราะในรังของมันไม่ได้มีแค่ตัวเดียว เช่นนี้ท่านจึงตั้งค่ากำนลครูไว้สูงและไม่อยากออกให้ใครใช้ เพราะตะกรุดนี้ตอนทำต้อแลกมาด้วยชีวิตตัวเอง ใครเอาไปใช้ก็ต่อความฝันต่อชีวิตเขาได้ด้วยว่าตะกรุดนี้นอกจากเขียนฝันเขียนความปรารถนาจะเป็นจริงแล้ว ท่านว่าหากเหลือบ่ากว่าแรงจริงให้เอาตะกรุดปักแม่พระธรณี(แผ่นดิน)...แล้วขออะไรกับแม่พระธรณีย่อมได้ทั้งสิ้น

    *** คาถา พ่ออาจารย์ท่านว่าของที่มีชีวิตคาถานั้นไม่จำเป็นเลย เพียยงจดจำวิธีใช้เอาไว้และพกติดกายอย่าให้ห่าง เวลานอนก็ให้นำตะกรุดสอดไว้ใต้หมอนท่านว่าจะไม่ฝันเรื่องไร้สาระทั้งยังง่ายต่อการเกิดเทพสังหรณ์หรือฝันที่จะเกิดขึ้นจริงเป็นการบอกเตือนเหตุการณ์ล่วงหน้าในชีวิตเรา

    ### ตะกรุดเขียนฝันนั้น พ่ออาจารย์ท่านทำไว้เพียงหกดอกด้วยเนื้อตะกั่วสูตรลับ(หลอมรีดจากจะกั่วขอมโบราณผสมกับแร่โคตรเศรษฐีและเงินพดด้วงอาถรรพ์)ก่อนนำมาทำการลงถม ด้วยท่านใช้ประจำตัวอยู่หนึ่งดอกจึงมีให้บูชาเพียงห้าดอกเท่านั้น รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM ท่านว่าผู้บูชาให้แจ้งชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิดไว้ท่านจะทำการบอกกล่าวแก่ครูโยคะนิทราให้อีกคำรบหนึ่ง รายได้ร่วมสมทบทุนไถ่ชีวิตโคกระบือสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดดอกครูเขียนฝันใจปรารถนาธรรมนิรมิต - ได้ดั่งใจ (ทุกสิ่งไม่เกินเอื้อม,ฝันที่เป็นจริง) บูชา 4,000 บาท

    78320550-417737962444238-5182273695011307520-n.jpg
    78398167-749749938841382-1731343940273045504-n.jpg
    74484502-740727786336012-7153707466771922944-n.jpg
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    มีเล่าประสบการณ์เข้ามาเยอะ เดี๋ยวจะรวบรวมไว้อันไหนเล่าต่อได้ก็จะนำมาลงนะครับ
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    หมากทุย

    ในตำรับเครื่องรางของขลังไทยนั้น ท่านได้บอกไว้ประการหนึ่งว่า อันต้นไม้ใดก็ดีที่อยู่ดี ๆ ก็มีอันเป็นยืนตายแห้งทั้ง ๆ ที่ผืนดินก็อุดมสมบูรณ์ดีไม่มีวี่แววแห่งโรคต้นไม้นั่นแหละเรียกกันว่า “ต้นไม้ตายพราย” จะเป็นหมากตายพราย มะยมตายพราย หรือไม้ไผ่ไม้รวกตายพรายก็เหมือนกัน นำเอาชิ้นส่วนของมันมาทำเครื่องรางของขลังได้อย่าทิ้งให้เปล่าประโยชน์ไป ที่ไม่เข้าหลักก็มีเพียงกล้วยตานี้ตายพรายเท่านั้น ที่เขาไม่ค่อยจะนิยมเพราะถือว่าเป็นอวมงคล เหมือนคนออกลูกตายทั้งกลมนั่นแหละ

    พูดถึงต้นหมากนั้นตามปกติตายยากจะมีอายุยืน ที่จะตายได้ก็มีเพียงน้ำท่วมขังนาน ๆ หรือไม่ก็ถูกลมพัดหักกลางต้นอันนี้ตายแน่นอน แต่ถ้าหมากนั้นอยู่ดี ๆ ก็ตายแห้งกรอบเหลืองทั้ง ๆ ที่จั่นติดลูกดกพราว หมากนั้นเป็น “หมากตายพราย” ให้นำมาทำเครื่องรางที่เรียกว่า “หมากทุย” และหมากทุยนั้นก็คือเครื่องรางที่เกิดจากการเอาลูกหมากตายพรายขนาดย่อมมาประกอบพิธีซึ่งยุ่งยากพอสมควร จึงทำได้ยากและต้องอาศัยฝีมือของท่านพระอาจารย์ทำเป็นหลัก

    เท่าที่ได้สำรวจในแวดวงนักนิยมสะสมเครื่องรางของขลังนั้น จะมีเพียงสองสำนักที่ได้รับความนิยมสูงและแพร่หลายได้แก่ของสำนักวัดหนัง บางขุนเทียน โดยท่านเจ้าคุณพระภาวนาโกศลเถระ (เอี่ยม) อดีตเจ้าอาวาสและอีกสำหนักหนึ่งคือ หลวงพ่อทอง วัดดอนสะท้อน แต่สำนักหลังนี้จะมีอายุการสร้างหลังกว่าของวัดหนัง บางขุนเทียน

    ท่านเจ้าคุณเฒ่านั้นท่านเป็นพระเถระที่ประกอบไปด้วยอำนาจจิตอันสูงส่ง เดิมทีท่านเป็นพระอธิการธรรมดา ๆ ทว่าท่านมีอภินิหารในพระเครื่องรางมากมาย จนกระทั่งเล่าลือไปถึงพระบรมมหาราชวัง ขุนน้ำขุนนางและเชื้อพระวงศ์ต่าง ๆ ได้เดินทางมาขอพระเครื่องรางของท่านไปใช้เป็นอันมาก แม้แต่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ได้ทราบเสด็จเป็นการส่งนพระองค์ไปนมัสการท่านเจ้าคุณเฒ่าที่วัดหนัง

    ดังนั้นเมื่อท่าเจ้าคุณเฒ่า วัดหนัง ได้มีโอกาสรับเสด็จพระพุทธเจ้าหลวงอีกครั้งพระคุณท่านก็ได้รับการถวายจีวรแพร และสิ่งอื่น ๆ ด้วยที่ทรงซื้อมาจากฝรั่งเศสพร้อมกับพระราชทานสมณศักดิ์ให้เป็นพระราชาคณะที่เจ้าคุณพระภาวนาโกศลเถระ ตั้งแต่นั้นมา

    การสร้างหมากทุยนั้น ประการแรกท่านจะให้ศิษย์ไปขึ้นต้นหมาก เพื่อเอาลูกหมากที่ตายพรายลงมา และลูกหมากนั้นจะต้องเป็นลูกหมากอ่อนที่มีขนาดเล็กพอเหมาะ ส่วนการจะขึ้นไปนั้นท่านจะสอนคาถาภาวนาให้ เมื่อเวลาขึ้นต้นหมากก็ต้องภาวนาทุกช่วงเวลาไต่ ครั้นพอถึงแล้วก็ไม่ให้เอามือเด็ดแต่ให้ใช้ปากคาบแล้วดึงจนลูกหมากขาดแล้วเวลาคาบไว้ในปากพร้อมกับภาวนาคาถากำกับทุกช่วงไปการขึ้นครั้งหนึ่งจะได้ไม่กี่ลูกเท่านั้น

    เมื่อได้ลูกหมากตายพรายมาแล้วก็เปิดจุกด้านบนคว้าเอาเนื้อหมากด้านในออกให้หมด จากนั้นจึงเอาเม็ดพระธาตุ (หรือถ้าไม่มีก็เอากระดาษสาลงพระนามพระพุทธเจ้าด้วยอักขระแทน) เมื่อทำการปลุกเสกแล้วก็บรรจุไปด้านในแทนให้เต็ม จากนั้นก็เอาชันโรงใต้ดินมาอุดปิดทับด้านบนให้แน่น เพื่อป้องกันความชื้นและพวกตัวแมลง

    การปลุกเสกกำกับด้วยพลังจิต จนเกิดอุดมนิมิต เป็นว่าลูกหมากนั้นลุกขึ้นตั้งได้เอง จึงถอนจิตแล้วนำไปถักเชือกหุ้มอีกชั้นหนึ่งแล้วลงรักเคลือบผิว ทำห่วงด้านบนเพื่อใช้สำหรับคล้องคอ เพราะภายในได้บรรจุพระนามพระพุทธเจ้าสำคัญ ๆ ไว้ จึงไม่สมควรจะนำมาคาดเอว หรือห้อยพวงกุญแจ เป็นสิ่งที่ไม่ควรอย่างยิ่งทีเดียว

    อานุภาพการใช้ได้กล่าวไว้ว่าเมื่อนำติดตัวจะช่วยป้องกันทางด้านมหาอุด คงกระพัน แคล้วคลาด และยังป้องกันภูตผีปีศาจ เมื่อมีสิ่งนี้พยายามหมั่นปลูกเสกกำกับด้วยคาถาพระเจ้าห้าพระองค์ว่า “นะโมพุทธายะ” อยู่เสมอ ๆ

    หลักการดูหมากทุย ประการแรกให้ดูลักษณะภายนอกก่อนว่าจะต้องมีลักษณะป้อมตัวโตเรียวมาทางก้น คล้ายกับลูกหมาก แม้จะถักหุ้มก็ยังคงมีลักษณะเค้าให้เห็นถ้ากลมอาจจะเป็นลูกอมผงวิเศษที่ถักหุ้ม ซึ่งมีราคาถูกกว่าหมากทุย ประการที่สองให้ดูรักที่ลงเอาไว้จะต้องแห้งสนิทห่วงด้านบนมีทั้งสองห่วง ทองแดงถักเชื่อมกับเชือกและที่เป็นห่วงเชือกถักในตัว ขนาดไม่เป็นมาตรฐานแต่ไม่ใหญ่มากเท่ากับลูกหมากดิบธรรมดาทั่วไป ส่วนลายถักเป็นเครื่องสังเกตอีกประการหนึ่ง สำหรับในรายที่ใช้จนเชือกถักขาดหมด จะเห็นเนื้อในเป็นผิวหมากแห้งเหี่ยวไม่สด ชันโรงที่ปิดจะแห้งไม่เปียกเยิ้ม ส่วนของเทียมนั้นจะสดและใหม่กว่าเห็นได้ชัด รูปที่นำมาประกอบเรื่องเป็นภาพของแท้จากวัดหนังทั้งสิ้น

    การอารธนาใช้วิธีดังนี้

    ตั้งนะโมสามจบและระลึกคุณพระศรีรัตนตรัย คุณบิดามารดา ครูบาอาจารย์ และเรียกชื่อผู้เป็นเจ้าของหมากทุยที่ท่านนับถืออยู่เป็นที่สุด แล้วใช้คาถามงกุฎเพชร พระพุทธเจ้า จากนั้นหนุนด้วยคาถามหาอุดดังนี้

    “นะอุด โมอัด พฺทยัด ธาปิด ยะมิดชิดปิดปากกระบอก นะ พุทธผัดผิด ปิดด้วยนะโมพุทธายะ”


    557000001349001.jpg
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่สุรวุฒิ EI 3836 6685 2 TH

    พี่พิศิษฐ์ EI 3836 6686 6 TH

    พี่วิระพัฒน์ EI 3836 6687 0 TH

    พี่ศิระ EI 3836 6688 3 TH

    พี่ณธพรหม EI 3836 6689 7 TH
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ธันวาคม 2019
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้เดี๋ยวจะมาพูดเรื่องพระผง "รุ่นฆ่าวิชา" ติดตามกันดีๆนะครับ
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    แจ้งการส่ง ems
    พี่ภาคภูมิ EI 3836 9173 8 TH

    พี่พรหมพล EI 3836 9174 1 TH

    พี่ฐิตกาญจน์ EI 3836 9175 5 TH

    พี่ศิระ EI 3836 9176 9 TH

    พี่ทวีพงษ์ EI 3836 9177 2 TH

    พี่พรเทพ EI 3836 9178 6 TH
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    ใครที่รอพระผงรุ่น"ฆ่าวิชา"นี้ ก็ได้ข่าวดีซ้อนสองมาให้ลุ้นกันเลย เพราะรุ่นนี้จะได้บูชาไปพร้อมกับปี่เซี๊ยะที่ทำวิชาตำรับของพ่ออาจารย์ จะดีอย่างไรรอลุ้นกันนะครับ
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    สอบถามกันมามาก ก็พูดคุยกันคร่าวๆไว้ก่อนพระผงรุ่นฆ่าวิชานี่เหมาะกับคนที่มีศัตรูเยอะๆ ทั้งศัตรูที่มองเห็นและมองไม่เห็น
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    ร่วมทำบุญบูชา พระผงเจตน์จำนงค์สวรรค์องค์ธาตุฆ่าวิชาทรงกิเลนฟ้าสวรรค์ (ปี่เซี๊ยะมหายันต์เรียกทรัพย์แม่หนุนลูก)

    "องค์ธาตุนี้เหมาะกับคนที่มีศัตรูเยอะๆ ทั้งศัตรูที่มองเห็นและมองไม่เห็น"

    องค์ธาตุหรือเหล็กไหลธาตุกายสิทธิ์อันหล่อเลี้ยงโลกตัวนี้ พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่า "มหาธาตุฆ่าวิชา" ท่านว่าเนื้อเหล็กไหลชุดนี้ท่านได้มาจากพม่านับว่ามีปาฏิหาริย์มากทางด้านดับล้างศัตรูคู่อริ แม้เป็นยอดคนทรงอาคมมีวิชามีบารมีมากเพียงใดหากมาประทุษร้ายคิดไม่ชอบกับเราพระเวทย์นั้นก็เสื่อมถอยหมด ท่านจึงแปลกใจในอานุภาพองค์เหล็กอย่างมาก จนได้สอบถามสมเด็จองค์ปฐมบรมครู ซึ่งท่านก็ให้นามเรียกองค์เหล็กนี้ว่ามหาธาตุฆ่าวิชา ...ด้วยองค์ธาตุนี้มีคุณจำเพาะพิเศษเหมาะจะใช้ล้างอาถรรพ์ในร่างกายคนหรือสถานที่ต่างๆที่มีอาถรรพ์มาก # ร่วมไปถึงกายสังขารใดที่ปนเปื้อนด้วยอวิชชาการกระทำสั่งสมมานับแต่อดีตชาติมิอาจสำนึกรู้ได้ อาถรรพ์และอวิชชาที่ขัดขวางให้เจ็บไข้ได้ป่วย ขัดขวางการทำมาหากิน ขัดขวางความสำเร็จในทุกสถาน ทั้งคุณผี,คุณเจ้า,คุณเทวดา,คุณปีศาจทั้งหลายที่รังแกเราจะกระทำต่อตัวเราหรือสถานที่ของเราไม่ว่าจะที่ทำมาหากินที่ดินหรือบ้านเรือนก็ดี สิ่งเหล่านั้นจะจางลับดับหายไปและจะมากระทำต่อเราไม่ได้อีกเลย(เรียกว่าไปแล้วไปลับไม่กลับมาทักทายเราเรื่อยๆนั่นแหละ) ท่านว่านี่แหละชีวิตใครที่ว่าเดือดร้อนหรือคับขันให้เชิญองค์ธาตุฆ่าวิชาไปบูชา ศัตรูจะทำอันตรายอะไรเราไม่ได้เลยทั้งที่ตามองเห็นและมองไม่เห็น(พ่ออาจารย์ท่านว่ามันลึกล้ำมากกว่าคำว่าศัตรูเพราะแท้จริงองค์เหล็กยังกำราบอวิชชาคำสาปและอาถรรพ์แต่ปางบรรพ์ในเนื้อตัวของคนห้อยด้วย) แม้บุคคลใดที่เล่นคุณวิชาหรือมีของดีรักษาตัวก็จะมาแข่งวาสนาบารมีกับเรานั้นไม่ได้ ด้วยองค์ธาตุท่านกำจัดไม่มีเหลือ ทั้งนี้หากองค์ธาตุได้ปราบปราม,ข่มเหง,ผูกมัดหรือขับไล่แก้ไขแก่สิ่งใดในชีวิตเราแล้วท่านว่าไม่ต้องกลัวว่าจะตกเป็นเวรกรรมต่อกัน เพราะองค์ธาตุฆ่าวิชานี้เป็นยอดกายสิทธิ์สายบารมี สด็จพระใหญ่ท่านบอกเราว่าเขาจะขับความพยาบาทให้จางหายไม่อาฆาตจองเวรต่อกันทั้งองค์ธาตุนี้จิตของเขายังแผ่กำลังกุศลตั้งจิตของเขาให้อภัยไม่ผูกติดพยาบาทสิ่งใดก็ตาม จึงเป็นของอาถรรพ์ที่ทรงกำลังทั้งยังอยู่เหนือกฏของเวรกรรมอย่างแท้จริง ท่านว่าใครที่กลัวๆว่าจะใช้ของแล้วจะติดเวรกรรมกับผู้อื่นต้องใช้องค์ธาตุที่ให้คุณเช่นนี้

    พ่ออาจารย์ท่านได้เชิญองค์ธาตุนี้มาฝังไว้ในพระผงเจตน์จำนงค์สวรรค์ทรงกิเลนฟ้าของท่าน โดยเจาะจงฝังองค์ธาตุไว้ใต้ที่ประทับพระศาสดา และตั้งสถิตย์อยู่บนหลังกิเลนฟ้าสวรรค์ ท่านว่า *** วิชาสร้างองค์พระเจตน์จำนงค์สวรรค์นั้น คือการนำกำลังของเจตนาความตั้งใจมุ่งหมาย หรือจงใจจะกระทำให้เป็นไป เป็นเจตนาของสวรรค์ที่จงใจจะโปรดเราแม้ขัดกับพรหมลิขิตหรือกรรมบันดาลต่างๆ...ท่านว่าเรื่องมันใหญ่แต่เราพูดได้แค่คร่าวๆเท่านี้เสด็จพระใหญ่ท่านให้เลี่ยงไปพูดอย่างอื่นดีกว่าท่านว่าให้เขารู้แค่เท่านี้ นอกเหนือจากนี้ผู้ใดอาราธนาองค์พระก็เสมือนอยู่ในบัญชรแวดล้อมของเหล่าพระพุทธเจ้าและพระอสีติมหาสาวกทั้งหลายตลอดเวลา ดุจมีดวงแก้วเจตน์จำนงค์สวรรค์จะใช้ทางอธิษฐานบอกกล่าวต่อเจตน์จำนงค์ของโลกและสวรรค์โดยตรงก็ได้หรือจะอาราธนาเปิดภูมิปัญญาและวิปัสนาของตนก็ได้ โดยผู้ที่อาราธนาองค์พระนั้นจะมีญาณทัศนะเฉพาะตนที่กระจ่างเเจ่มชัดขึ้นกว่าเดิมดุจสัมผัสพิเศษได้ถูกขัดเกลา ทั้งจะชักนำตัวเองไปสู่หนทางของความสุขอันประเสริฐ ชีวิตจะไม่ตกต่ำหรือหยุดอยู่จุดเดิม แม้ภูติผีปีศาจก็ไม่กล้าเข้าใกล้ สิ่งที่ขัดขวางหรือคนที่เป็นภัยคอยทำอันตรายจะทำลายเราไม่ได้เลย ปัญหาและข้อขัดข้องในชีวิตทั้งหลายจะจืดจางหายไป..จะใช้เรียกโชคลาภใดๆก็ง่ายดุจใจปรารถนา

    พ่ออาจารย์ท่านได้รวบรวมมวลสารมงคลต่างๆ เช่น พญากาฝากที่เป็นสิริมงคล108,คดไม้มงคล108,ไม้มงคลที่ตายพราย108,ว่าน108,เกสร108,ไม้ไผ่ตัน,ไม้รวกตัน,คดข้าวสารดำ,ข้าวสารหิน,สมุดใบข่อยใบลานเก่า,ผงธูปบูชาพระ,ข้าวสุกก้นบาตรพระพุทธเจ้า,กะลาตาเดียว,กะลาไม่มีตา,คดมะพร้าว,กิ่งโพธิ์นิพพาน,ไม้ไก่กุก,ปูนากระตุกเดือน5,กบจำศีลเดือน5ตายคารู,เขี้ยวงูจงอางที่ฝักไข่จนตายคาไข่,ไม้คานคุก,ไม้คานประตูคุก,ชันโรงกลางแจ้ง,ไม้คานแม่หม้าย,สากกะเบือแม่หม้าย,ไม้คานและสากกะเบือของหญิงที่ตายวันเสาร์เผาวันอังคาร,เขาควายเผือกฟ้าผ่า,เขี้ยวเสือโปร่ง,เขี้ยวหมูตัน,คดสมองวัว,คดขนุน,งาช้างดำ,งากำจัด,งากำจาย,งาช้างน้ำ,เขากวางคุด,เขากระจงคุด,งูปากเป็ด,ตะไคร่โบสถ์,ตะไคร่เสมา,ตะไคร่เจดีย์,กระเบื้องหลังคาโบสถ์,ดินสังเวชนียสถาน,เพชรน่าทั่ง,ดินกากยายักษ์,เหล็กสังขวานร,เหล้กน้ำพี้,รังเหล็กไหล,ข้าวตอกพระร่วง,จิ้งจกสองหาง,จิ้งจกห้าหาง,อัญมณี,ตะไคร่หลักเมือง,น้ำฝนกลางหาว,ผงพุทธคุณ,ผงปถมัง,ผงอทธิเจ,ผงตรีนิสิงเห,ผงมหาราช.. ท่านว่ากว่าจะรวบรวมมวลสารจนครบตามตำราพ่ออาจารย์ท่านว่าเราต้องเจออาถรพพ์อะไรมามากมายเเละยากกว่านั้นก็คือการบดเป็นผง ของบางอย่างกว่าจะบดได้ไม่ใช่เรื่องง่าย จึงกินเวลาหลายสิบปี เมื่อรวบรวมผงได้แล้วท่านจะนำมาปั้นเป็นแท่งชนวนลงวิชาหมื่นกาลผันชีวิต ท่านว่าวิชานี้สามารถใช้แปรเปลี่ยนเหตุของทุกข์ได้นับหมื่น ไม่ว่าจะเหตุของทุกข์ที่เชื่อมโยงกับกาลเวลาใดทั้งในอดีตและปัจจุบันย่อมแก้ไขได้ แปรเปลี่ยนได้ ผกผัน กลับตาลปัตได้เช่นนั้น เรียกว่าอะไรที่มันดีก็ดีดให้มันดีกว่าเดิม อะไรที่มันแย่มีต้นเหตุมาจากกรรมนำพาแต่ชาติก่อนๆหรือหาสาเหตุไม่ได้ก็ผันกลับให้มันดีขึ้นมาได้ วิชานี้ท่านว่าเป็นวิชาเอาไว้กลับวาสนาชะตาคนที่ร้ายก็เปลี่ยนให้ดี

    พระผงเจตน์จำนงค์สวรรค์นั้นท่านทำวิชากิเลนฟ้าสวรรค์เป็นฐานแบกองค์ธาตุและองค์ธรรม(สมเด็จองค์ปฐม)เอาไว้ด้วย ท่านว่าทำเช่นนี้จึงครบทั้งธาตุและธรรมพระผงรุ่นนี้จึงเป็นสิ่งแทนครูแทนใจขององค์ต้นธาตุต้นธรรมเมื่ออาราธนาจึงได้ชื่อว่าครูอยู่ครบทั้งธาตุทั้งหลายยังมาชุมนุมเกื้อหนุนเราทั้งสิ้น นอกจากนี้วิชากิเลนตำรับพ่ออาจารย์ท่านก็ยังให้คุณมากดั่งที่ทราบกันดี..ว่า
    หากกล่าวถึงกิเลนนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นสัตว์สวรรค์ที่มีตัวตนอยู่จริงเพราะท่านเคยเห็นมันมาก่อนและท่านก็รู้ว่าหากใครมีวาสนาดีพอจะได้เห็นกิเลนแล้ว ชีวิตจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
    ด้วยเชื่อว่ากิเลนนั้นมีลักษณะของสัตว์มงคลห้าชนิดรวมกัน คือ หัวมังกร เขายูนิคอร์น ตัวเป็นกวาง มีเกล็ดเหมือนปลา มีหางเหมือนวัว และยังเกิดจากธาตุทั้งห้า คือ ดิน, น้ำ, ไฟ, ไม้ และทอง ผสมกันจึงเป็นสัตว์สวรรค์ชนิดเดียวที่มีความสมดุลย์ของเบญจธาตุซ้ำยังมีอายุอยู่ได้ถึงหลายพันปีและถือว่าเป็นยอดแห่งสัตว์ทั้งหลาย เป็นสัญลักษณ์แห่งคุณงามความดี เมื่อจะปรากฏให้เห็นครั้งใดก็จะเกิดผู้มีบุญมาปกครองบ้านเมืองให้อยู่เย็นเป็นสุขเมื่อนั้น ดั่งในยุคของฝูซีเป็นผู้ปกครองโลกกิเลนได้ปรากฏตัวขึ้นที่แม่น้ำฮวงโห หลังกิเลนมีลายอักขระจารึกซึ่งต่อมาได้พัฒนากลายมาเป็นตัวอักษร กิเลนจึงถือเป็นหนึ่งในสี่สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ ด้วยกิเลนเป็นสัญลักษณ์ของวาสนาและความมั่นคง ซ้ำพ่ออาจารย์ท่านว่ายังใช้ป้องกันสิ่งอัปมงคลได้ เรียกได้ว่ากิเลนเมื่อปรากฏขึ้นที่ไหนหมายถึงสถานที่นั้นกำลังจะมีเรื่องมงคลเกิดขึ้น หรือผู้ใดได้เห็นกิเลนบุคคลผู้นั้นก็จะมีแต่โชคดีไม่มีเรื่องร้าย ซ้ำพลังงานของกิเลนยังจะช่วยกรองและขจัดสิ่งอัปมงคลต่างๆให้พ้นตัวไปแลจะนำเอาความโชคดี ข่าวดีมาให้ด้วยเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี
    ด้วยคุณลักษณะดังกล่าว ทั้งยังมีนิสัยเชื่องและเป็นมิตรกับมนุษย์ แม้จะมีฤทธิ์มีอำนาจแต่ก็ไม่เคยทำร้ายคน ไม่ทำลายต้นไม้ใบหญ้าจึงได้รับการยกย่องว่าเป็นสัตว์ที่มีคุณธรรม พ่ออาจารย์ท่านว่ากิเลนนั้นเป็นสัตว์ห้าธาตุที่เหนือกว่าเทพพิทักษ์ประจำธาตุทั่วๆไปจึงมีขนห้าสีปรากฏอยู่กลางหลัง ซ้ำยังมีกำลังนำธาตุทั้งห้ามาเล่นฤทธิ์ได้เช่นพ่นน้ำ พ่นไฟ ทำเสียงคำรามเหมือนฟ้าดินแปรปรวน มีเขาเป็นอาวุธวิเศษ คนจีนโบราณเรียกกิเลนว่าเหรินโซ่ว ด้วยเพราะกิเลนมีนิสัยประหลาดไม่เคยทำร้ายใครถึงขนาดที่ว่าจะไม่เดินเหยียบย่ำลงไปในใบหญ้าที่ยังเขียวสด อีกทั้งไม่เหยียบย่ำแมลงเล็กๆที่มีชีวิตนี่จึงเป็นคุณลักษณะทางเมตตาที่กิเลนแสดงออกอย่างใหญ่หลวงต่อสรรพชีวิต ต่างจากสัตว์เทพชนิดอื่น ด้วยเป็นสัตว์มีเมตตาสูง มีใจอารี ไม่ทำร้ายมนุษย์และสัตว์ทั้งหลาย พ่ออาจารย์จึงใช้ฤทธิ์ของกิเลนที่มีครบทั้งห้าธาตุทั้งยังมีลักษณะเชื่องด้วยเมตตาแลเป็นมิตรกับมนุษย์อย่างที่สุดมาสร้างเป็นฐานรององค์ธาตุองค์ธรรม
    นอกจากกิเลนเป็นสัตว์ที่มีเมตตามีคุณธรรมสูงอีกทั้งซื่อสัตย์ แม้ในเรื่องการสลายพลังงานพิฆาตเขาก็ยังทำได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญ ตั้งแต่ทำเครื่องมงคลอันมีลักษณะเฉพาะเกี่ยวข้องกับพลังงานลบทั้งหลายก็ทำได้เพียงการขับดันดูดกลืนถ่ายเทให้เกิดสมดุลย์ทำได้เพียงกลับสถานการณ์เลวร้ายให้ค่อยๆดีขึ้น แต่กับกิเลนนั้นเค้ามีสายเลือดพิเศษและมีพลังเฉพาะตัวของเขาจะเรียกว่ามีคุณเฉพาะทางก็ได้นั่นคือการสลายพลังพิฆาต ไม่ใช่การดูดขับปรับสมดุลย์แต่เป็นการสลายทิ้งไปเฉยๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าเธอพอจะนึกออกมั๊ย สลายก็คือหมดไป อยู่ดีๆมันก็หมดไปไอ้ตัวเคราะห์ร้ายทั้งหลายนั่นแหละ คือไม่ใช่มันไม่เกิดนะแต่มันหมดมันจึงเกิดไม่ได้ กิเลนจึงนับว่าแตกต่างกับสัตว์อื่นๆเช่นเสือสิงห์ มังกรแลสัตว์เทพทั้งหลายดังนี้ และผู้รู้มักจะใช้กิเลนเป็นเทพพิทักษ์คือใช้ไปในทางปกปักรักษามากกว่านำไปใช้ทำลายล้างผลาญใคร ด้วยเป็นสัตว์เทพที่ให้คุณอนันต์ชนิดที่แม้เทวดาหรือโพธิสัตว์ยังปรารถนาจะได้มาเลี้ยงไว้เพื่อดึงดูดสิริมงคล เพราะกิเลนนั้นนอกจากเขาจะสลายพลังพิฆาตแล้ว เมื่อเขาสลายพลังงานนั้นหมด พลังของเขาจะเริ่มดึงดูดสิ่งดีๆเข้าหาผู้ดูแลเป็นระบบของเขาด้วย
    ด้วยเป็นสัตว์เทวะที่คอยปราบปรามความชั่ว คอยปกป้องคนดี และมอบความโชคดีให้คนเหล่านั้น เช่นนั้นใครที่ได้บูชากิเลนจึงนับว่าเป็นโชคอย่างมหาศาล เพราะกิเลนเป็นสัญลักษณ์ของการเกิดโชคลาภและวาสนาที่จะดีดสูงขึ้นอย่างมากมายมหาศาลจนน่าประหลาดใจเช่นนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าด้วยปกตินิสัยสัตว์เทพตัวนี้จะรักสิ่งสวยงาม รักทรัพย์สมบัติและของมีค่าเช่นนั้นจึงถือว่าเขาแสวงหาทรัพย์ทั้งหลายเก่งกว่าผู้ใด เพราะในที่สิงสถิตย์ของเขาแม้จะเป็นที่นอน ที่นั่ง หรือที่ซึ่งเขาจะยืนเป็นประจำนั้นล้วนแต่ต้องมีทรัพย์สินเงินทองมณีจินดาอันสูงค่าทั้งหลายวางกองไว้ ด้วยนิสัยกิเลนนั้นจะเรียกว่ามักใช้ชีวิตอยู่บนกองเงินกองทองก็ไม่ผิด เช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจทำรูปกิเลนหนนี้ ด้วยนอกจากจะตั้งใจสลายพลังงานพิฆาตดึงดูดโชคดีแล้ว ยังเป็นเมตตามหานิยมอย่างสูงจนน่ากลัว และปรับวาสนาคนให้ผกผันมาใช้ชีวิตอยู่บนกองเงินกองทองเช่นกิเลนฟ้าได้ ด้วยปกติกิเลนนั้นจะนั่งทับเงินทองของมีค่าต่างๆจึงถือเป็นเคล็ดที่จะใช้เพื่อดึงดูดโชคลาภและรายได้ให้ไหลเข้ามาเหมือนกระแสน้ำ ช่วยให้คนเลี้ยงประสบความสำเร็จทั้งมีวาสนาบารมีให้ชีวิตมีความมั่นคง

    *** กิเลนตำรับพ่ออาจารย์ท่านนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าคนที่เหมาะจะใช้กิเลนของฉันนั้นมีทั้งหมดสองประเภท นั่นคือคนที่โชคร้ายตั้งแต่เกิด กับคนที่เพียรกระทำตามความฝัน ทำอย่างดีที่สุดแล้ว และอยากจะประสบโชควาสนานี่จึงเอากิเลนฉันไปใช้ได้ ส่วนคนที่งอมืองอเท้าไม่ทำอะไรอย่าเอาไป ด้วยกิเลนถือว่าเป็นยอดแห่งสัตว์ทั้งหลาย เป็นสัญลักษณ์แห่งคุณงามความดี พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ฉันทำกิเลนในครั้งนี้ใครที่มีกิเลนของฉันต่อไปเขาจะเกิดความรู้แจ้งบางอย่าง สิ่งใดที่เป็นปัญหาเขาจะแก้ไขได้ คนเหล่านี้ต่อไปจะพึ่งพาตนเองได้ เธอจงจำเอาไว้ให้ขึ้นใจเถิดว่ากิเลนของฉันนั้นจะนำสิ่งมงคลดึงเข้ามาหาตัวเธอ ด้วยปกติชีวิตคนนั้นมักจะแหวกว่ายฟันฝ่าไปหาโชคลาภวาสนา พยายามทุกทางเพื่อจะไปหาความสำเร็จ แต่คุณวิเศษในตัวกิเลนนั้นเมื่อเค้าอยู่คู่กับเธอแล้วไอ้สิ่งที่พวกเธอทั้งหลายตามหานั่นแหละที่มันจะต้องเปลี่ยนมาตามหาเธอแทน พอจะเข้าใจหรือไม่ว่าไม่ใช่เราที่ต้องไปไขว่คว้าแต่เป็นตัววาสนาต่างหากที่มันจะพยายามไขว่คว้าเข้ามาให้ถึงตัวเรา เช่นนั้นฉันจึงถือว่ากิเลนของฉันได้นำความสุขแลความเป็นมงคลมาสู่มนุษย์แล้ว ถ้าเธอเป็นคนมีจิตใจดีกิเลนนั้นจะสงสารให้ความช่วยเหลือ สำหรับมิตรกิเลนเขาจะปฏิบัติตัวอย่างมิตรและให้ความเป็นมิตรที่ซื่อสัตย์หมดหัวใจ แต่สำหรับศัตรูของเธอนั้นเขาจะตอบโต้เหมือนดั่งศัตรูของเขาเช่นกัน รับรองว่าใครที่กิเลนโต้ตอบเช่นศัตรูนั้นไม่มีดีให้เหลือแน่นอน
    ด้วยกิเลนนั้นเป็นต้นกำเนิดของแผนภูมิสวรรค์ทั้งแปดทิศ หรือที่คนพอจะนึกภาพออกคือยันต์แปดทิศนั่นเองด้วยที่หลังของกิเลนนั้นจะมียันต์แปดทิศประทับไว้เช่นนั้นจึงถือเสมอว่ากิเลนนั้นเป็นผู้มอบแผนภูมิสวรรค์ เป็นผู้มอบความรู้ มอบภาษา มอบตัวอักษรให้กับมนุษย์ ซึ่งต่อมาตัวอักษรนั้นก็พัฒนาขึ้นเป็นองค์ความรู้ในด้านต่างๆ เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงว่าเขาเป็นสัตว์เทพที่ผูกพันธ์กับการใช้ชีวิตของมนุษย์โดยตรงมาตั้งแต่ต้นต่างจากสัตว์เทพตัวอื่นๆที่ไม่ไยดีมนุษย์ เพราะเขาสามารถบัญชาได้ทั้งห้าธาตุ และยังเป็นผู้มีคุณูปการใหญ่หลวงต่อมนุษย์โลก ให้เธอคิดกันให้ดีว่ามีวันไหนบ้างที่เธอไม่พูด ไม่ใช้ภาษา ไม่ได้ใช้ชีวิตโดยอาศัยองค์ความรู้อยู่ภายใต้สวรรค์แห่งนี้ นั่นย่อมไม่มีเช่นนั้นกิเลนจึงมีพลังทางด้านความคิดและสติปัญญาอันสูงส่ง แม้ผู้ใดได้ครอบครองชีวิตเขาก็อยู่เย็นเป็นสุข ด้วยกิเลนกำเนิดจากธาตุทั้งห้าคือ ดิน น้ำ ไฟ ไม้และทองรวมกัน ตัวเขาจึงเป็นความกลมกลืนของสรรพสิ่ง ทั้งยังทรงไว้ซึ่งความอุดมสมบูรณ์ในทุกที่อันเขาสถิตย์อยู่ มีทั้งความแข็งแกร่ง ทรงพลัง มั่นคงและยั่งยืน เรียกว่าสถานะของกิเลนเทียบเท่ามังกรเลยทีเดียวด้วยเป็นสัตว์สวรรค์ที่ให้คุณเรื่องโชคลาภทรัพย์สินและยังถือเป็นสัตว์สวรรค์ชั้นสูงในห่วงโซ่อาหาร จึงเป็นธรรมดาที่ผู้มีบารมีกิเลนเกื้อหนุนจะเจริญในกิจการที่กระทำอยู่มากเพราะเขาเป็นตัวแทนแสดงถึงอำนาจและยศศักดิ์เรียกว่าใครที่ชีวิตยังไม่เจริญนี่จะไต่เต้าไปได้ไกลมาก ส่วนใครที่ขึ้นไปแล้วแต่ยังไม่สุดเขาก็จะดันให้ขึ้นไปได้อีก ซ้ำบารมีกิเลนเมื่อปรากฏที่ไหนสถานที่นั้นจะผูกสมัคร รักใคร่ กลมเกลียวกันอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข
    ด้วยกิเลนนี้มีความเชื่อว่าแค่ได้เห็นก็เป็นบุญตา หากได้พบก็ถือเป็นวาสนาเปลี่ยนชีวิต เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงถือเป็นเคล็ดสร้างกิเลนขึ้นมาเพื่อให้คนใช้พบเห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ท่านว่าขอแค่ได้เห็นได้มองทัศนาก็นับว่าชีวิตเปลี่ยนกลับวาสนา บางคนรู้จึงเอามาดูบ่อยๆ แน่นอนว่าการใช้เพียงแค่เราหยิบเขามาดูบ่อยๆแค่นั้นก็นับว่าเปิดประตูความโชคดีแล้ว แม้จะหมั่นพูดหมั่นคุยกับเขาได้อันนั้นก็จะยิ่งดีขึ้นไปอีก หากว่าวันใดเขาปรากฏตัวในนิมิตหรือในความฝันแน่นอนว่าวันนั้นจะได้ลาภใหญ่หรือมีวาสนาไม่คาดฝันมาถึงตัว


    ด้านหลังนั้นท่านได้ฝังปี่เซี๊ยะลูกขี่แม่เอาไว้ ท่านว่าเป็นกำลังของมารดาที่จะคอยปกปักคุ้มครองลูก เป็นห่วงลูก จับลูกอุ้มใส่หลังอย่างไม่ถือตัวทั้งยังยกลูกให้สูงเหนือกว่าตนเอง ตรงนี้ท่านว่าเป็นกฤติยาคมแฝดของการป้องกันและผลักดันตัวเรา ดั่งเรามีกำลังของแม่ยกเราไว้เสมอ ด้วยรักที่มารดามอบให้ย่อมอบอุ่นจริงใจและบริสุทธิ์ที่สุดฉันใดพลังนั้นก็สนองถึงตัวเราแบบไม่หวังผลใดๆเช่นกัน ทั้งนี้ปี่เซี๊ยะนั้นปกติเขาจะคอยเรียกโชคลาภทำให้การทำมาหากินธุรกิจการค้าที่เราทำอยู่ให้ดีขึ้นด้วยเขาเป็นสัตว์ที่มีญานวิเศษมีทั้งอำนาจจากมังกร มีพลังปราบปรามได้ทั่วไปดั่งสิงโต ทั้งเป็นราชาแห่งผืนฟ้าไปได้ในทุกที่ดั่งพญาอินทรีย์ เป็นตัวแทนของยศถาบรรดาศักดิ์ ที่มาพร้อมความยั่งยืนร่ำรวยและชื่อเสียง ทั้งยังมีตาทิพย์มองเห็นในที่มืดและมองเห็นสิ่งชั่วร้ายได้ นอกจากนี้หางสามารถขจัดปัดสิ่งชั่วร้ายขณะเดียวกันก็กวาดโชคลาภเข้าตัวด้วย
    พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้ใช้ปี่เซี๊ยะธรรมดาส่วนมากก็ให้ผลแค่เสมอตัว แต่หากใช้ปี่เซี๊ยะคู่แม่ลูกนั้นจะโดดเด่นเป็นเลิศกว่าปกติอุปมาดั่งเอากำลังสุนัขมาเทียบกับช้างสารเช่นนี้ย่อมเห็นได้ว่าไกลกันมาก ที่ให้ผลดังนี้ก็เพราะว่าความรักและความผูกพันธ์ของแม่ลูกนั้นมีกำลังมากกว่ารักใดๆในโลก เขาจะรักษาทรัพย์สินและโชคลาภของเราไว้ ขจัดความยุ่งยากในชีวิตเราออกไป ทั้งช่วยให้มั่งคั่งร่ำรวยและใช้กำราบอัปมงคลความชั่วร้ายทั้งหลายได้ และเหนือสิ่งอื่นใดเขายังซื่อสัตย์และเชื่อฟังเจ้าของมากๆ
    ปี่เซี๊ยะที่ท่านลงตั้งธาตุขึ้นรูปปลุกเสกลงอาการไว้และสร้างจากแผ่นยันต์เรียกทรัพย์เข้าด้วยวัชรธาตุนี้เป็นของศักดิ์สิทธิ์มาก(ท่านว่าแม้ยอดหยกหรือทองคำก็ไม่อาจเทียบได้ ด้วยปี่เซี๊ยะของเรานั้นตั้งต้นด้วยแรงครู แรงวิชาเรียกทรัพย์ตลอดจนกายสิทธิ์ธาตุอันคู่ควรจะเป็นที่สถิตย์แห่งจิตวิญญาณชั้นสูงมากกว่าธาตุใดๆจึงครบทั้งพลังและธาตุขันธ์) พ่ออาจารย์ท่านว่าทำไว้ให้เฉพาะคนที่ "ต้องการให้เงินเข้ากับคนที่ชีวิตไม่อยากเป็นหนี้ได้ใช้" ด้วยคุณลักษณะที่เขาหนุนเรานั้นพ่ออาจารย์ท่านว่ามีแต่เงินเข้าไม่มีไหลออกมีเป้าหมายหลักในการขจัดสิ่งชั่วร้ายเลวทรามทั้งยังบันดาลให้เกิดอำนาจความยิ่งใหญ่ในชะตาชีวิต ด้วยเขาเป็นสัตว์ที่อ้าปากได้กว้างและไม่มีรูทวารจึงเป็นที่มาของการดูดทรัพย์สินอย่างเดียวไม่ให้ทรัพย์นั้นพร่องไปไหน พ่ออาจารย์ท่านว่าสองแรงทั้งแม่และลูกยากที่จะมีอะไรมาสู้ฤทธิ์ได้ ท่านทำให้ตรงตามลักษณะคือยกหัวสูงข่มศัตรูคู่แข่ง อ้าปากกว้างดูดทรัพย์ลิ้นคอยตวัดเงินทองเข้าท้อง อกตั้งตรงผึ่งผายน่าเกรงขาม ขาก้าวนำให้ชีวิตเราเดินหน้า เท้าตะปปเงิน หางกวักขึ้นเรียกโชคลาภ ด้วยไม่มีรูทวารจึงกินแล้วไม่ถ่ายออกเป็นเคล็ดให้ชีวิตเรามีแต่รับสถานเดียวและนอกจากนี้ตัวปี่เซี๊ยะเองยังสามารถสัมผัสกลิ่นของโชคลาภได้รวดเร็ว,ชัดเจนและแม่นยำจึงหาวาสนามาให้เราได้ตลอดเสมอๆ
    ปี่เซียะแม่หนุนลูกนั้น
    ให้คุณกับผู้ศรัทธาเชื่อถือโดยไม่เลือกที่รักมักที่ชังเรียกว่าเราผู้เป็นนายตัวตนจะเป็นอย่างไรเขาก็สวามิภักดิ์รักเราหมดใจ ทั้งยังเสริมบารมีให้กับเจ้าของได้ทุกชะตาราศีท่านว่าใช้เขาแล้วปล่อยวางเปลื้องปลดเรื่องปีชงกลัวดวงชะตาดวงดาวขัดแย้งกันไปได้เลย

    ด้วยมีคุณของปี่เซี๊ยะแม่ลูกทั้งยังมีกิเลนฟ้าสวรรค์รวมอยู่ในองค์เดียวกันเช่นนี้จึงเหมาะสมที่จะแบกรับกำลังเจตน์จำนงค์สวรรค์ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าพระผงรุ่นนี้ฉันบอกเธอได้คร่าวๆว่ามีกำลังมากเหนือกรรมลิขิตและพรหมลิขิตใด เพราะเจตน์จำนงค์สวรรค์นั้นคือความต้องการของอาตมันมีมาก่อนจะเกิดสมเด็จองค์ปฐมบรมศาสดาเสียอีก ทั้งยังให้คุณหนักแน่นรุนแรงกว่าแรงกรรมแรงเทพพรหมใดๆ
    ท่านลงตะกรุดโองการเจตน์จำนงค์สวรรค์ฝังไว้ ด้วยเมื่อกำลังฟ้ามีเจตน์จำนงค์ปกาศิตใดๆออกไปแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เลย หากเราอธิษฐานต่อองค์พระขอต่อเจตน์จำนงค์สวรรค์ สิ่งที่จะเกิดขึ้นนั้นย่อมอยู่เหนือลิขิตทั้งหลายอย่างแท้จริง...ถือว่าเราได้ทำสิ่งที่เป็นตำนาน จากตำนาน สืบตำนาน... ให้ชีวิตเราเป็นดั่งตำนาน

    คาถาบูชา
    อุกาสะ วันทิตวา สิริสัมพุทธัง อันตรายัง ปะนะมามิหัง อิถัญจะปูชิตัง เหฏฐายะฉะทินนา จัตตาสัตถา สาคะระมุนี ยักขะลา เวสสุวันโน อาทิปัตติราชา มหาสัตถา สาคโร ประสิทธิเมสัทธา
    อาราธนาองค์พระ อังคะสัมพุทโธ โลกะหิโตจะเสฏโฐ ธัมมะยะโก เทวิเทโว โลโกหิ หาทายะ จิเจรุนิจิตตัง เจตตสิกกัง รูปังนิพพานัง นะมะพะทะ วาโยธาตุทิสังวา จะภะกะสะ วาโตเสโน อัสสะโส นิพพานังสูญญัง นะปะทุกะ จิปะตินะ หะกะ อิคะวิติ ปติ เอหะติอิกะวิปะติ


    ท่านว่าเมื่ออาราธนาและกำองค์พระไว้ในมือจะรู้สึกได้ว่าตัวเองนั้นขนลุกขนชันผมตั้งมีกระแสพลังขับผ่านเข้าออกอย่างบอกไม่ถูกสิ่งนี้เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่คุณพระท่านเริ่มสงเคราะห์เรา เมื่อเราว่าคาถาอธิษฐานสิ่งใดแล้วมีอาการเช่นนี้แน่นอนว่าแม้เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ก็ยังทำสำเร็จได้ แต่หากอาราธนาองค์พระวันใดแล้วมีอาการพิกล รู้สึกว่าวันนี้เครียด โมโหร้าย หงุดหงิดง่าย ท่านว่าให้หยุดกิจที่จะทำเสีย อย่าทำ อย่าไปเลย ถึงทำไปก็ไม่มีโชคใดๆ

    ### พ่ออาจารย์ท่านกำชับไว้ว่าพระผงเจตน์จำนงค์สวรรค์นั้นเป็นของสูงมีค่าควรเมืองยิ่งกว่าสมบัติจักรพรรดิแม้ม้ารถคชพลหรือปราสาทแก้วใดๆ ด้วยเจตน์จำนงค์นั้นเขาจะเลือกผู้เหมาะสมและคู่ควรสำหรับตัวเขาเอง ใครที่มีชะตาต้องกันย่อมถูกกำหนดไว้ทั้งหมดแล้ว พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ได้แค่ห้าองค์เท่านั้น ท่านว่าทำยาก พอทำมารุ่นนี้แม้ตัวเราเองก็ไม่มีวาสนาได้ใช้เพราะสมเด็จองค์ปฐมท่านบัญชาไว้ให้เอาไปช่วยคนที่เดือดร้อนและเป็นคู่วาสนากันจริงๆดีกว่าด้วยตัวของท่านหวังเอาดีทางธรรมไม่ได้เดือดร้อนสิ่งใด ปล่อยให้เป็นเรื่องของคนที่อยากได้วาสนาทางโลกเขาครอบครอง ...รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้จองให้แจ้งชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิด หน้าที่การงาน ความปรารถนาหลักในชีวิตไว้ด้วย รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสให้ครบสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระผงเจตน์จำนงค์สวรรค์องค์ธาตุฆ่าวิชาทรงกิเลนฟ้าสวรรค์ (ปี่เซี๊ยะมหายันต์เรียกทรัพย์แม่หนุนลูก) บูชา 4,000 บาท


    79743533-2655383851196102-8940704845942226944-n.jpg 78655094-2259571667668589-4073387532312641536-n.jpg
    78663336-818315548589490-452504981073821696-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ธันวาคม 2019
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    พระรุ่นนี้ท่านว่าให้สายบู๊เขาใช้ นอกจากเอาไปปราบคนอื่นเหนือสิ่งใดเลยคือเอาไว้รบกับชีวิตตัวเอง ถ้ายังไม่พอใจชีวิตที่เป็นอยู่หรือคิดว่าไปได้ดีกว่านี้ก็นำมาอาราธนา
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    มีคนถามขนาดองค์พระ ผมก็ไม่รู้จะแจ้งยังไงเลยวัดข้อนิ้วดู ต้องบอกว่ารุ่นนี้ท่านทำมาไซด์เล็กจริงๆ วัดได้หนึ่งข้อนิ้วโป้งพอดิบพอดีไม่ขาดไม่เกิน องค์เล็กกว่าพระสมเด็จปกตินิดนึง เรียกได้ว่านับเป็นชุดที่ไซด์หน้าห้อยที่สุดในบรรดาเครื่องมงคลเลย
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่พรเทพ EI 4838 0246 2 TH

    พี่ศิระ EI 4838 0247 6 TH
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    มีคนสนใจเทพปี่เซี๊ยะกันมาก บางคนเล่าว่าครูไปหา..ก็ถือว่าเป็นรุ่นที่แรงครูสูงเพราะหล่อหลอมจากแผ่นยันต์ที่ตรงกับความสามารถของเขาจริง
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,482
    ค่าพลัง:
    +17,874
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้ติดตามปี่เซี๊ยะกันดีๆนะ โดยเฉพาะตะกรุดที่ท่านนำมาผูกให้ถือว่าใช้แทนของเก่าได้เลย
     

แชร์หน้านี้

Loading...