ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดเว้นกระทำห้ามทำร้ายชุดปิดตำนานตัว"แก้"(ผนึกเหล็กไหลตาไฟกบิลมุนี) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,478
    ใครที่ได้รับองค์ธรรมสภาแล้ว ด้านหลังจะเห็นผงขาวๆ อันนั้นไม่ใช่ฝุ่น ไม่ใช่รา ไม่ได้เปื้อนอะไรมา ไม่ต้องเช็ดออกนะครับ พ่ออาจารย์ท่านเอาผงสายวิชาวัดระฆังแท้ๆที่ท่านทำเจิมไว้ให้ แนะนำให้เอากาวหยอดผนึกไว้เลย อย่าไปล้างไปเช็ดออก ผงนี้แรงท่านไม่ค่อยเอาออกมาใช้หรือเจิมอะไร
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,478
    ส่วนของวันนี้ก็ตอบ PM ครบนะครับ สำหรับคนที่ติดตามรายการวันพรุ่งนี้ก็เกาะกันไว้แน่นๆ บอกได้คำเดียวว่าแม้แต่องค์ที่หล่อทะลุ พ่ออาจารย์ท่านยังเอามาเลี้ยงไว้ใช้งานเองคู่หนึ่งเลย ไม่ดีจริงท่านไม่ใช้หรือเลี้ยงบูชาเองแน่นอน

    ย้ำชัดๆว่าเป็นของใช้สำหรับคนที่มีความรับผิดชอบมาก ภาระบนบ่าเยอะ ยิ่งแบกความหวังความตั้งใจไว้เท่าไหร่ เอาว่ายิ่งหนักเท่าไหร่ก็ยิ่งดี ใครลอยตัวชีวิตสบายไม่มีภาระพ่ออาจารย์ท่านว่าห้ามใช้
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,478
    ร่วมทำบุญบูชา มงคลพญาปลายกตรีกูฏหนุนโลกแบกวัฏจักร (มัจฉาโต้วารี แท่งยามหาสะดาะ)

    " เป็นของใช้สำหรับคนที่มีความรับผิดชอบมาก ภาระบนบ่าเยอะ ยิ่งแบกความหวังความตั้งใจไว้เท่าไหร่ เอาว่ายิ่งหนักเท่าไหร่ก็ยิ่งดี ใครลอยตัวชีวิตสบายไม่มีภาระห้ามใช้ "

    อันเขาตรีกูฏดุจหินสามเส้ารองเขาพระสุเมรุ ทำหน้าที่เสมือนส่วนฐานมีภาระที่หนักหนา ใหญ่หลวง เพราะต้องแบกรับภพภูมิต่างๆไว้เป็นจำนวนมาก ทั้งยังแบ่งเขตแดนโลกต่างๆให้ขาดออกจากกันด้วย หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นสถานที่แบ่งเขตสวรรค์ มนุษย์ และบาดาล แยกดินแดนมนุษย์ เทวดา พรหม เปรต อสุรกาย พ่ออาจารย์ท่านจึงเปรียบเขาตรีกูฏเป็นรากฐานของวัฏจักรภพภูมิทั้งหมด ท่านว่าเมื่อยกตรีกูฏขึ้นก็ดุจยกเขาไกรลาส ยกเขาพระสุเมรุที่เป็นแกนผลึกจักรวาลขึ้นพร้อมๆกันด้วย เมื่อยกขึ้นจึงดุจยกได้ทั้งหมดลั่นฟ้าสะเทือนสวรรค์

    นับจากอดีตกาลเนิ่นนานผ่านพ้นมา พ่ออาจารย์ท่านว่ามนุษย์นั้นแบกรับเศษเสี้ยวกฏของวัฏสงสารเอาไว้ บางคนเกิดมาตามกรรมลิขิต มีภาระความรับผิดชอบมากกว่าคนอื่นเขา ต้องทำงานใช้ชีวิตเหมือนแบกโลกอยู่ทั้งใบแม้กระนั้นก็ยังหาประโยชน์และความสุขอะไรกับใครเขาไม่ได้ พ่ออาจารย์ท่านจึงอุปมาชีวิตคนเหล่านั้นเสมือนยอดเขาตรีกูฏ เพราะเขานั้นล้วนมีภาระหนักเทียมฟ้าที่ต้องแบกเอาไว้ตลอดเวลาเสมอกัน

    ด้วยท่านเวทนาเหล่าคนที่มีภาระหน้าที่ความรับผิดชอบหนักทั้งหลาย ท่านว่าบางคนหนักจนรู้สึกเหมือนภาระจะทับตัวตายตอนไหนก็ได้ ตรงนี้ใครไม่เคยเจอเขาก็จะไม่รู้ ทั้งๆที่เป็นคนเสมอกัน แต่ความรับผิดชอบหน้าที่กลับมีไม่เท่ากัน บางคนนั้นภาระก็หนักเกินกำลังของเขาไปมาก ยิ่งแบก ยิ่งรับ ก็ยิ่งบีบชีวิต เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงเอาเคล็ดการสร้างมัจฉาโต้วารีที่มหาพรหมยมราชได้เคยแนะนำสอนสั่งท่านไว้ ว่าให้ทำวิชานี้ให้กับคนที่หน้าที่มีปัญหามาก มีภาระความรับผิดชอบหนักได้ลอยตัว ให้ชีวิตพ้นจากเศษกรรมนั้น

    การสร้างมงคลยกตรีกูฏหนุนโลกแบกวัฏจักรมัจฉาโต้วารีนั้น พ่ออาจารย์ท่านถือุปเท่ห์เป็นกฤติยาคมแฝดสองอย่างด้วยกัน
    - ประการแรก คือความเชื่อเรื่องปลาอานนท์ ด้วยตามลัทธิพราหมณ์นั้นว่าปลาอานนท์นอนหนุนโลก เพราะมีร่างกายใหญ่โตโอฬารมากมายเหลือคณา เล่ากันว่าหากวัดความยาวของปลาอานนท์นี้นับได้เป็นพันๆโยชน์ทีเดียว โดยปกตินั้นปลาอานนมักจะนิ่งสงบและแบกโลกไว้ แต่อยู่มาก็อาจจะเกิดความเมื่อยขบ ก็เลยพลิกตัวบ้างเพื่อเป็นการเปลี่ยนอิริยาบทที่ได้แบกโลกไว้จึงทำให้เกิดแผ่นดินไหวภัยพิบัติเหนือผิวโลก ลมฟ้าแปรปรวน....เป็นต้น พ่ออาจารย์ท่านจึงถือคติที่ปลาอานนท์นั้นรองรับยอดเขาตรีกูฏอีกชั้นหนึ่งว่าเขาเป็นปลาที่มีภาระหนักมาก เพราะจะต้อง แบกน้ำหนักของโลกแลภพภูมิต่างๆไว้ ที่จะมีสิ่งใดแบกรับภาระยิ่งใหญ่หนักหนาเกินปลาอานนท์นี้เป็นไม่มี
    - ประการที่สอง คือความเชื่อดึกดำบรรพ์ของกำเนิดมนุษยชาติ ที่องค์ศรีหรินารายณ์ทรงอวตารมาเป็นปลาศะผะริ ในกาลนั้นลูกปลาน้อยได้ถูกพระมนูช้อนเอาไปเลี้ยง แต่เมื่อเอาไปเลี้ยงในภาชนะเล็กๆปลาก็โตใหญ่คับภาชนะอย่างรวดเร็ว เอาไปใส่ในสระไม่นานก็คับสระ เอาไปใส่ในคลองไม่นานก็คับคลอง เอาไปใส่ในแม่น้ำไม่นานก็โตใหญ่เต็มแม่น้ำ พ่ออาจารย์ท่านจึงอุปมาปลาศะผะรินี้แม้อยู่ในที่ไหนเปลี่ยนถิ่นไปสถานที่ใดๆแม้นมีภัยจากนาคาและมัจฉาสังหารมากมาย แต่ปลาน้อยก็กลับแคล้วคลาดรอดพ้นเติบใหญ่อุดมสมบูรณ์ชนิดโตไวไปยิ่งกว่าโตวันโตคืนเสียอีก ท่านว่าปลาศะผะรินี้มีพลังในการพัฒนาการแม้นนำมาสร้างเป็นเครื่องราง ใครได้ใช้เขาก็จะใหญ่โตคับบ้านคับเมือง ซ้ำเมื่อน้ำท่วมโลกพระมนูได้นำคนและสิ่งจำเป็นต่างๆของมนุษยชาติลงเรือใหญ่ ปลาศะผะรินี้ก็ได้ชักลากจูงเรือไปให้พ้นจากเขตอันตราย พ่ออาจารย์ท่านจึงถือว่าเป็นปลาวิเศษเพราะเขาให้ความช่วยเหลือในเวลาที่มนุษยชาติเข้าตาจนให้รอดพ้นจนอยู่รอดปลอดภัย จึงเป็นอีกคติหนึ่งที่ว่าพญาปลาต้องช่วยคน ต้องแบกภาระใหญ่ช่วยคนทั้งโลกชักจูงไปส่งให้ถึงฝั่ง ซ้ำยังซ้อนด้วยฤทธิ์อันเป็นปัจเจกแห่งนารายณ์อวตารที่อยู่ไหนก็เจริญเติบโตคับที่ คับบ้าน คับเมืองเช่นนั้น


    ด้วยท่านประสงค์ที่จะใช้เคล็ดวิชามัจฉาโต้วารีของมหาพรหมยมราชสร้างวาสนาใหม่ให้กับมนุษย์ ดุจช่วยเขายกตรีโลก แบกวัฏจักร แบกภาระ แบ่งปันกฏของกรรม ท่านจึงยกพญาปลาทั้งสองนั้นเพื่อมาทำวิชาร่วมกันทั้งปลาอานนท์และปลาศะผะริ ท่านว่าตอนเสกนั้นก็ยากเพราะต้องแบ่งจิตปลาอานนท์มาตั้งเป็นรูปนามเสียใหม่ซ้ำยังต้องเชิญองค์ศรีหรินารายณ์ให้อวตารเล่นฤทธิ์ไปพร้อมกัน ท่านว่าวิชาปลานี้จึงสำคัญมาก แต่หากจะทำให้เพียงแรงฤทธิ์แล้วก็จะเสียประโยชน์ใหญ่ไป เพราะในหลายๆครั้งของที่มีอานุภาพมาก มีฤทธิ์แรง มีเทวดารักษาแต่กลับใช้ช่วยสงเคราะห์คนไม่ได้ก็มีอยู่มากมาย ทั้งนี้ท่านจึงได้ยกพญาปลาทั้งสองอันมีวิสัยเบื้องต้นที่ต้องแบกภาระยิ่งใหญ่แทนมวลมนุษย์อยู่แล้วมาเป็นหัวใจหลักกอปรกับวิสัยปลาเวลาเจอเคราะห์กรรมแลภัยอันตรายมักจะดีดตัวพลิกตัวต่อต้านคลื่นลมแรงกรรมเสมอ พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจทำของมงคลเอาไว้ดีดชีวิตด้วยอานุภาพพญาปลาทั้งสองขึ้นมา

    พ่ออาจารย์ท่านแกะแม่พิมพ์เป็นรูปพญาปลาโอบตรีศูลอันหมายถึงโลกทั้งสาม กาลทั้งสามและวิบากกรรมตั้งแต่กรรมในอดีต ปัจจุบัน อนาคต ไม่ว่าจะด้วยกายกรรม วจีกรรม มโนกรรมท่านว่าพญาปลาของเรานี้โอบล้อมจำกัดพื้นที่ไว้ทั้งหมด เป็นคติการยกชูหนุนเขาตรีกูฏขึ้นมา ดุจพญาปลาร่วมแบ่งปันรับภาระแบกกฏวัฏจักรสงสารนั้นไว้แทนตัวเรา ไอ้ที่หนักหนาสาหัส มันก็จะเบาลง และเบาลง ค่อยๆหมดไป ทั้งยังให้ปลายกหางดุจชักลากลำเรือท่านว่าเพราะเราจะให้เขาช่วยคนที่เหนื่อยมาทั้งชีวิตแต่ยังพอมีกำลังเหลืออยู่เหล่านั้น ให้ช่วยเขาในยามเข้าตาจน ให้พญาปลานี้ชักลากนำพาส่งเขาให้ถึงฝั่งชนิดอยู่รอดปลอดภัย

    ท่านว่าปลาของเรานี้ใหญ่โตนักพอที่จะโอบโลกได้ ทั้งยังมีอายุนับกัปกัล เป็นปลาที่มีฤทธิ์มาก แม้เทวดาหมู่อมรคนธรรพ์ ฤาษีสิทธิ์วิทยา นาคา นาคี หรืออสุรกายภูติผีใดๆ ก็ล้วนแล้วแต่หลีกเลี่ยง เลือกที่จะไม่ยุ่ง ไม่เข้าใกล้เสียดีกว่า ดังนั้นคนใช้ชีวิตจึงไร้ปัญหา ไร้ซึ่งอุปสรรคใดๆ เรียกว่าแม้มีมารมาผจญก็แคล้วคลาดไปเพราะเขาไม่อยากยุ่งไม่อยากแตะต้องเราด้วยเกรงอานุภาพพญาปลานั้น

    ด้านหลังท่านได้นำแท่งยามหาสะเดาะอันมีอานุภาพแรงฝังไว้เฉพาะพญาปลาทุกตนอีกด้วย แท่งยานี้ พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าเเต่เดิมเรียกว่าเป็นส่วนหนึ่งในภาควิชาของเทพนิมิตร ท่านได้เฝ้าครูมหาพรหมคือองค์สหัมบดี บรมพรหมสูงสุดแห่งปัญจสุทธาวาสท่านจึงได้วิชานี้มา โดยใช้วิชานี้ตั้งตัว เเละทำไว้ให้ลูกศิษย์บ้างเฉพาะบางคนที่มีความประพฤติดี วิชานี้เเต่เดิมเป็นวิชาที่ผู้หวังรวยทางลัด ชอบการพนันเสี่ยงโชคนิยมกัน ซึ่งคนที่ได้ดิบได้ดีทางนี้ล้วนมีอยู่มากมาย เขาเหล่านั้นนอกจากดวงเเละโชคเเล้วยังมีของดีมีวิชาดีติดตัวมาเเต่โบราณด้วย

    วิชานี้องค์บรมพรหมท่านให้มาโดยเฉพาะ พ่ออาจารย์กล่าวว่าแก่นเเท้ของวิชานี้ต้องสวนกับกระเเสของกรรมในระดับหนึ่ง พระองค์ท่านได้มอบอักขระให้พร้อมคาถาเสกเรียกว่ามหาสะเดาะ พระองค์ท่านบอกว่าเพราะสัตว์นั้นมีกรรมเฉพาะเเต่ละบุคคล ถึงมีโชคบางทีก็รับไม่ได้ บางครั้งกรรมส่งผลหนักเเม้โชคก็ยังไม่มีเลย ซึ่งหลังจากทำตะกรุดมหาสะเดาะแล้ว พ่ออาจารย์ท่านก็เพียรลบผงคุณวิชามหาสะเดาะเก็บไว้ โดยใช้ว่านยาที่มีอานุภาพลดทอนกฏของกรรมมาปั้นทำแท่งยา ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าผงนี้แรงกว่าตอนทำตะกรุดนับร้อยเท่า

    ในจุดนี้เพื่อให้ผู้ใช้ได้เสวยศุภมงคลอันเกิดเเต่โชคลาภวาสนา พระองค์ท่านจึงให้วิชามหาสะเดาะเเก่พ่ออาจารย์ ท่านว่าเมื่อพกไว้บูชาไว้กับตัว จะสะเดาะโซ่ตรวนบ่วงพันธนาการที่กุมรัดให้หลุดออก ให้ไขว่คว้าโชคลาภได้ จะทำอะไรก็มีเเต่โชคร่ำรวยง่ายๆโชคดีเเบบนั้น ในส่วนของเวรกรรมนั้นก็ไม่ได้หายหรือสลายไปไหน เพียงเเต่คลายพันธะทั้งหมดออกชั่วคราวให้สัตว์เหล่านั้นที่ได้บูชาสามารถรับโชคได้เเต่กรรมเก่าก็ยังรับเหมือนเดิม พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าวิชานี้มันดีตรงที่เวลามีโชคพูดง่ายๆคือมีเงิน ให้เอาเงินไปทำบุญให้เจ้ากรรมนายเวร บ่วงกรรมมันก็จะบรรเทาเบาบางลง ทีนี้อะไรก็ง่ายไปหมด ทำไปเรื่อยๆ ได้เงินมาก็เเบ่งส่วนหนึ่งไปทำบุญ ได้เงินมาก็เเบ่งส่วนหนึ่งไปทำการกุศลอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรเขา เช่นนี้ก็ขึ้นชื่อว่าต่อไปบ่วงพันธนาการต่างๆก็จะลดการบีบคั้นคลายตัวจนหลุดลงนั่นเอง เมื่อทำได้เงินเเละความโชคดีมันจะยิ่งไหลมาไม่รู้จบ ซ้ำพ่ออาจารย์ท่านยังลบผงด้วยพระเวทย์เฉพาะบทที่เปิดเผยไม่ได้ของครูพรหม ท่านว่าผงนี้ต่อให้อยู่เฉยๆโชคลาภก็วิ่งเข้ามาหาเอง เเม้ปรารถนาเงินทองของมีค่าความสุขสบายใดก็ไม่ไกลเกินความปรารถนา จะเสี่ยงโชคจะพนันขันต่ออะไก็เอาเเต่พองามตามใจเถิด ให้ตั้งสัจจะกับครูไว้ว่าวันนี้อยากได้เท่าไหร่ได้เเล้วให้พอให้หยุด เเล้ววันอื่นค่อยขอเมตตาในส่วนมหากรุณาของเสด็จปู่ท้าวสหัมบดีต่อไป แท่งผงนี้ให้อธิษฐานใช้ในการเสี่ยงดวงที่ปรารถนาพ่ออาจารย์ว่าครอบคลุมทุกอย่าง จะไปสอบสัมภาษณ์ จะไปยื่นซองประมูล จะไปทำอะไรที่มันได้ชื่อว่าเสี่ยง ว่าจะได้หรือไม่ จะร้ายมากกว่าดีหรืออย่างไร ผงนี่มันสะเดาะเคราะห์ทุกข์ให้ชั่วคราว ให้วาระกรรมปิดตัว ให้วาสนามันเปิด อธิษฐานเอาเลยขึ้นชื่อว่าเสี่ยงดวงตั้งจิตอธิษฐานได้ครอบคลุมทั้งหมด

    ซ้ำยังพื้นฐานอำนาจคือการหลีกเลี่ยงเคราะห์กรรมทั้งหลาย ไม่ใช่การฝืนกฏแห่งกรรมไม่ให้เกิด แต่เป็นการสะเดาะให้คลายออกด้วยคุณวิชาเพื่อจะปัดเคราะห์กรรมทั้งหมดออกไปให้พ้นตัว ท่านว่าให้มันเกิดเป็นปกติแต่ทำอย่างไรก็ไม่ถูกต้องตัวเรา ซึ่งวิชานี้ท่านว่ามีอำนาจครอบคลุมในระบบดวงดาวโดยเฉพาะดาวบาปเคราะห์ทั้งหลายด้วย เมื่อพระเคราะห์เสวยอายุ ท่านว่าก็ปล่อยเค้าเสวยไป แต่เค้าจะทำอะไรเราไม่ได้เพราะครูท่านปัดออกหมดด้วยอาถรรพ์แห่งคุณวิชา ใครที่กลัวว่าอนาคตหรือปัจจุบันนั้นดวงจะตกหรือดวงจะแตกท่านว่าเลิกคิดได้เลย ด้วยวิชามหาสะเดาะนั้นนอกจากปัดออกแล้ว หากยังมีเคราะห์กรรมเหลือหลุดรอดเข้ามาได้เมื่อมาเจอกับมหาสะเดาะทุกอย่างก็จะสงบลง ท่านว่าไม่ต้องไปหาที่สะเดาะเคราะห์ที่ไหนอย่างใดให้เสียเวลาอีก เพราะพอเคราะห์กรรมความซวยความตกต่ำทั้งหลายมาถึงเจอคุณวิชาต่างๆเหล่านี้ ครูท่านเขาจะสะเดาะให้เราในตัวอยู่ตลอดเวลาแล้วนั่นเอง


    พญาปลานี้พ่ออาจารย์ท่านว่าสร้างยากเสกยากมาก แม้ตัวท่านเองยังเลือกเอาองค์ที่หล่อทะลุมาใช้อยู่คู่หนึ่งติดกายท่านมาเนิ่นนาน ท่านว่าพกพาเขาไปเขาก็ชอบมาเข้านิมิตให้เห็นอยู่เรื่อยๆ ยิ่งใช้ยิ่งเก่ง ยิ่งเลี้ยงยิ่งโตมีฤทธิ์มาก เพราะเขาจะแบกรับภาระปลดเปลื้องจิตวิญญาณเราให้เบาสบายอยู่ตลอดเวลา เรียกว่าอะไรที่หนักๆเอาไปลงกับปลา ตัวเรานี้ไม่เอาเลย เคราะห์กรรมอะไร เรื่องหนักหนาสาหัสอะไรเข้ามายกปลาเทิดหัวบอกเขาไว้ ว่า"พ่อปลาจ๋ารับแทนฉันหน่อยสิ " ท่านว่ากาลแห่งทุกข์และภาระหมักหมมทั้งหลายล้วนไม่ได้กล้ำกรายทีเดียว พอเรายกไปลงกะปลาแล้ว เรื่องต่างๆนั้นล่วนอัศจรรย์ทั้งสิ้น ดุจเข้าไม่ถึงตัวเรา ไม่ใช่ธุระหรือภาระของเรา ซ้ำปลานี้ท่านยังเสกไว้ให้เก่งครบถ้วนด้วยมีแท่งยามหาสะเดาะให้เสี่ยงโชคเรียกลาภกันได้อยู่เนืองๆ

    คาถาบูชา
    มัจฉาราชา กัสสะมะนา มหาสเร พ่อปลาเอ๋ย ขอท่านจงปลดเปลื้องภาระแลวิบากกรรมในตัวเรา ขอให้ตัวเราพ้นจากความเศร้าโศก ความพินาศย่อยยับอย่างใหญ่หลวง ในกาลทุกเมื่อเถิด.

    * พญาปลานี้นอกจากจะทั้งยก ทั้งหนุน ทั้งรับแทนคนใช้แล้ว ยังโต้คลื่นลมคือเล่นกับกฏแห่งกรรมได้ฉมังนัก ท่านว่ายิ่งคลื่นลมมันพัดแรงเขาก็ยิ่งแกร่งกล้าเติบโตได้ไว คนเอาไปใช้ให้อาราธนาทำพวงกุญแจหรือใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงก็ได้ **** ท่านว่าถ้าจะให้ดีควรใช้คู่หนึ่งต่อคน เพราะเขาจะกินหัวกินหางกันครบวงจรโอบล้อมวัฏสงสาร(ตรงนี้ถ้าใครเจอเคราะห์กรรมหนักบ่อยๆก็ต้องทำให้มันครอบคลุม ไม่เช่นนั้นแม้แต่ตัวท่านเองยังไม่นำติดตัวไปทุกที่เป็นคู่หนึ่งได้อย่างไร...บอกมากไม่ได้คิดกันเอง)

    ร่วมทำบุญบูชา มงคลพญาปลายกตรีกูฏหนุนโลกแบกวัฏจักร (มัจฉาโต้วารี แท่งยามหาสะดาะ) บูชา 900 บาท

    41151320_760594797621315_7709785476814602240_n.jpg 40790426_706511759713293_2225057921371209728_n.jpg 40818598_890897151110961_7644911232759103488_n.jpg
    b6cf715b056606375000157c5abe71cc.jpg
    123087468.jpg
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,478
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่วุฒิชัย EV 4403 6436 7 TH

    พี่รุ่งเรือง EV 4403 6437 5 TH

    พี่ศุภชัย EV 4403 6438 4 TH

    พี่นฤชา EV 4403 6439 8 TH

    พี่ปกรณ์เกียรติ EV 4403 6440 7 TH
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,478
    พูดคุยรอบเช้า

    อรุณสวัสดิ์ครับ


    พูดคุยรอบเช้าวันนี้ก็จะเล่าเรื่องพระยอดมงกุฏธรรมก่อน พอดีมีคนตาดีเขาเอาไปตรวจสอบแล้วมาเล่าให้ฟัง เขาว่าถ้าคนที่เคยเห็นพระวิสุทธิเทพประกายพฤกษ์ พระยอดมงกุฏก็คือพระวิสุทธิเทพนับไม่ถ้วนเรียงซ้อนกันเป็นรูปมงกุฏที่งดงามมาครอบศรีษะผู้อาราธนา...เป็นที่สุดแล้ว

    ก็ลองใช้ลองแขวนกันนะครับบอกได้คำเดียวว่ารายการนี้จะเป็นตำนานจริงๆ ส่วนเรื่องของพญาปลาเมื่อวานผมก็ชะลอการส่งของไว้ถึงรอบบ่ายแก่ๆ เพราะมีพี่ที่เขาจองพญาปลาบอกว่าต้องการใช้ด่วนให้ส่งทันที ก็รอเขาโอนให้เรียบร้อยจึงได้ออกไปส่ง

    โดยผมเอาห่อพญาปลาใส่กระเป๋ากางเกงแยกไว้ต่างหากไม่ให้ปนกับถุงใส่พระ พอออกไปถึงสามแยก ถึงสี่แยก ถึงตรงโค้งอันตราย สถานที่ต่างๆนี้ก็มีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นเหมือนๆกันตลอดคือโทรศัพท์สั่น ตอนแรกก็ไม่คิดจะรับ แต่พอเลยจุดที่เกิดเหตุไปซักพักก็ตกใจ เพราะโทรศัพท์เราก็ถืออยู่ในมือนี่เอง ดังนั้นไอ้ที่สั่นได้แรงพอๆกับโทรศัพ์ซึ่งอยู่ในกระเป๋ากางเกงก็มีแต่ปลาน้อยหนึ่งคู่แค่นั้น แถมไม่ใช่อาการสั่นแล้วหยุดเสียด้วย เพราะตอนเรารู้สึกตัวแล้วผ่านโค้งอันตรายเขาก็ยังสั่นอยู่ จนเราเอามือไปจับแล้วบอกเขาว่าไม่มีอะไรนะพ่อปลา

    ก็เลยมานั่งพิจารณาว่าทั้งโค้งทั้งแยกเหล่านี้ที่เราผ่านโดยไม่ได้ตระหนักทุกๆวัน ล้วนแต่เป็นจุดเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อย อาจจะมีภูติผีหรือวิญญาณเร่ร่อนอยู่มาก เขาคงจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุหรือกำลังหาตัวตายตัวแทน ดังนั้นพญาปลาเขาจึงสั่นเตือนให้รู้ว่ามีภัยอยู่เบื้องหน้าหรือเขาพร้อมจะสู้ศึกก็ตามที ทั้งนี้ก็อุ่นใจได้ในหลายระดับว่าฝากชีวิตไว้กับเขาปลอดภัยแน่นอน ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมพ่ออาจารย์ท่านยังต้องพกพญาปลาถึงหนึ่งคู่ไว้กับตัวตลอดเช่นกันแถมท่านยังพูดติดปากอยู่เสมอว่า"พ่อปลาจ๋ารับแทนฉันหน่อยสิ " (ต้องมีอะไรมากกว่าที่เราคิด)ขนาดแค่เราเอามาส่งยังรู้ว่าเขาไม่ธรรมดา เพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มานานมาก หากเป็นการเตือนเฉยๆก็พอเห็นบ้าง แต่เตือนถี่ๆเช่นนี้เห็นยากนัก

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,478
    ทำไมพ่ออาจารย์ท่านต้องตั้งนามว่ามัจฉาโต้วารี เดี๋ยวจะหาเวลามาเหลาให้ฟังกันนะครับ ติดตามดีๆใครไม่มีถือว่าพลาด;)
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,478
    พูดคุยวันหยุด

    อรุณสวัสดิ์นะครับ

    วันอาทิตย์ก็จะมาพุดคุยกันสบายๆ ใครจะส่งเรื่อง ฝากคำปรึกษาก็แจ้งเข้าไว้ในกล่องทาง PM นะครับ

    ส่วนวันนี้ก็จะมาพูดถึงความลับ...แบบลึกๆของมัจฉาโต้วารี

    มัจฉาโต้วารีนี้พ่ออาจารย์ท่านไม่ได้ให้อธิบายเชิงลึกแต่แรกแพราะท่านว่าเป็นของใช้ของคนที่มีวาสนา ถ้าพวกตาไม่ถึงได้ไปจะเสียของเอาเปล่าๆ อะไรที่ควรบอกควรเปิดเผยท่านจึงไม่ให้เปิดเสียหมดแต่แรก เพราะเหตุที่ว่าพญาปลานั้นมีเจ้าของทุกตัว เขาจะเลือกเจ้าของเองไม่ใช่คนไปเลือกเขา

    เกี่ยวกับพญาปลานี้พ่ออาจารย์ท่านว่าอุปมาเหมือนชีวิตคนใช้ ตั้งแต่มีเหตุให้เกิดขึ้นเป็นเบื้องต้น การดำรงค์ชีวิตก็ดำเนินไปตามกระแสกรรมที่ผันผวนกับห้วงเวลา เส้นทางของแต่ละคนนั้นท่านว่าเขาไม่ได้มีเรื่องดี ไม่ได้มีแต่สีขาว เพราะทุกชีวิตล้วนไม่ได้ถูกลิขิตขีดไว้ให้เป็นเส้นตรง ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงสับสนนั้นชีวิตคนทั้งหลายล้วนแต่แปรเปลี่ยนไปนับพันหมื่นเหตุการณ์

    ด้วยกระแสชีวิตที่สับวกวนดั่งคลื่นลมนั้น พ่ออาจารย์ท่านจึงเปรียบเทียบฉากละครชีวิตไว้เหมือนปลาที่ต้องว่ายฝ่าคลื่นโต้ลมโหมพายุที่จะประเดประดังมาอยู่เนืองๆ ถ้าคลื่นใหญ่พายุหนักปลาเล็กปลาน้อยหรือชีวิตที่ไม่มีสติไร้พลังอันสมบูรณ์ก็ย่อมจะโดนน้ำซัด โดนพายุพัดไปไกล เรียกว่าว่ายเท่าไหร่เจอพายุมาก็ต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่ไกลขึ้น และไกลมากขึ้น

    ดังนั้นพญาปลาหรือวิชามัจฉาโต้วารีนี้ พ่ออาจารย์ท่านจึงเปิดเผยให้ทราบแต่เพียงเล็กน้อยว่า เป็นของที่ใช้ต้านรับคลื่นพายุแรงลมได้ดี ดุจตัวเราเป็นปลาใหญ่ ต่อให้มหาวาตะจะพัดพาผู้อื่นไปซักเท่าใด ก็ไม่อาจเคลื่อนย้ายหรือขยับร่างกายเราได้ แม้คลื่นลมแรงก็ยังว่ายฝ่าออกไปได้สบายๆได้เดือดร้อนเนื้อตัวเช่นนั้น

    * ปลาชุดนี้ใครบูชาไว้ให้เอาไปเลี่ยมทำพวงกุญแจนะครับ หรือจะพกใส่ช่องกระเป๋ากางเกงก็ได้ ผมเชื่อว่าหลายๆคนที่โตๆกันแล้วเขาก็คงจะรู้ตัวเองดีว่าชีวิตนี้เหมือนเล่นกับคลื่นลมชนิดใดอยู่ เพราะมีแต่ตัวเองนั่นแหละที่ณุ้ว่าอยู่ในลมประเภทใด อาจจะเป็นลมที่พัดสบายตัว หรืออาจจะเป้นลมพายุที่นำความพินาศมาให้กับชีวิต ท่านว่าปลาของเรานี้ใหญ่โตนักพอที่จะโอบโลกได้ วลีนี้ท่านไม่ได้พูดไว้เปล่าๆ หากแต่พูดไว้ให้ชนที่มีปัญญาพอได้คิด ว่าขนาดของปลานั้นมันต้านคลื่นลมได้ทุกประเภทนั่นเอง

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,478
    ช่วงนี้มีแต่คนบ่นๆเรื่องเคราะห์กรรม ว่าไปดูดวงเช็คดวงกันมา บางคนก็เล่าว่าดูไว้ว่าเดือนนี้ดีทั้งเดือน บางคนก็ว่าเพิ่งหลุดเคราะห์จะดีทั้งปี หรือจะดีอีกหลายปีหลายๆคำทำนายเช็คแล้วเช็คอีกโดยรวมคือ"ดี" หลายๆคนบ่นเหมือนกันว่าพี่รู้มั๊ย คุณรู้มั๊ย กว่าจะดีได้ ต้องทนอะไรมาบ้าง แต่พอดีแล้ว ทำไมมันดีแค่ดวงแต่ชีวิตกลับตกไปแย่กว่าเดิม ทั้งนี้ทุกคนที่ว่าดวงขึ้น ดวงดีๆแล้วกลับพร้อมใจเจอเรื่องเลวร้ายขัดกับโชคชะตา

    กรณีของเคราะห์กรรมที่ไม่ตรงดวงชะตาหรือฟ้าลงผิดที่ผิดทาง บางคนไม่ใช่เรื่องของตัวเองแต่กลับซวยแทนเขาก็มี หรือเริ่มมาไม่เกี่ยวกับเราแต่ไปๆมาๆแจคพอตมาตกที่เรา เป็นเราได้ไงก็ไม่รู้ เหมือนรับกรรมแทนคนอื่น ซวยแทนชาวบ้านซ้ำเป็นเคราะห์กรรมผกผันที่แก้ปมยากทั้งๆไม่เกี่ยว ไม่รู้ และขัดกับดวงชะตาตัวเอง ไอ้ที่หลายๆคนเจอมาทำนองเหมือนจะเป็นเขาแต่กลายเป็นเราที่ซวย ทุกวันนี้ใช้กรรมหรือไปรับอะไรแทนใครรึเปล่าทำนองนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่บางคนเริ่มจะรู้สึกกัน


    *** ใครที่เจอแบบนี้บ่อยๆซ้ำซาก ก็เดี๋ยวเอาไว้ติดตามพูดคุยกันจะตอบรวมๆทีเดียว

    619172-img-1339390725-1.jpg
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,478
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    เรื่องที่พูดคุยเมื่อวานมีหลายคนบอกว่ากระทู้แทงใจดำมาก บางคนก็บอกว่าตรงเลยยังเจอเรื่องแบบนี้อยู่ ทั้งๆที่หลายคนไม่ได้ pm ขอคำปรึกษา ก็เดี๋ยววันนี้ส่งของแล้วมาติดตามพูดคุยกันนะ
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,478
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ทวีพงษ์ EV 4403 3046 5 TH

    พี่ปกรณ์เกียรติ EV 4403 3047 9 TH

    พี่รังสรรค์ EV 4403 3048 2 TH

    พี่ศิระ EV 4403 3049 6 TH

    พี่นัฐวุฒิ EV 4403 3050 5 TH
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,478
    จากเมื่อวาน หลายๆคนก็ทักมาเล่าและพูดคุยกันมากขึ้นจนเริ่มมองว่าปัญหาบางท่านมันหมักหมมและสะสมมาเรื่อยๆและดูจะแย่ลงกว่าเดิมมากขึ้นทุกที ในหลายๆกรณีตัวอย่างที่ทุกคนเล่ามาคือมันไม่จบแค่การให้คำปรึกษาไปแล้ว

    ทีนี้ก็มีบางท่านสอบถามว่ามีของเฉพาะทางไว้ใช้กับเรื่องพวกนี้มั๊ย เลยสอบถามพ่ออาจารย์ท่านไปซึ่งก็ปรากฏว่ามี ท่านว่าของสิ่งนี้ไม่ใช่วิชาทางพุทธศาสตร์ หากแต่เป็นวิชาโบราณนับพันปีที่พูดได้คร่าวๆว่าใช้เพื่อให้เคราะห์กรรม ภยันอันตรายลงมาผิดที่ผิดทาง ผิดฝาผิดตัว ยิ่งกรรมที่ผกผันหรือเป็นกรรมร่วมกับผู้อื่นและเรารับแทน สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นเลย

    ...***แต่ของชิ้นนี้สำคัญถึงขนาดที่ว่าเมื่อทำเสร็จแล้ว พญามาราธิราชถึงกับออกปากขอท่านให้เก็บเอาไว้อย่าเร่งให้ใครได้ใช้บูชา เพราะว่าอำนาจของพระเวทย์นั้นส่งผลให้คณะเทวปุตมารไม่สามารถทำงาน ทำการทดสอบกำลังใจหรือสร้างสถานการณ์ต่างๆทดสอบมนุษย์ได้ เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงเก็บมายาวนานตลอด และเมื่อเห็นว่าภัยที่มีผลสอดคล้องกัน ทั้งเป็นเรื่องอันจะแก้ไขให้ทุเลาได้เหล่านี้ประจวบเหมาะและเกิดขึ้นพอดีท่านจึงจะให้คนที่มีวาสนาเข้าถึงกันได้นำไปบูชา(กะซิบว่าของชิ้นนี้ทำยาก ติดตามดูกันดีๆ ใครเบื่อมานั่งแก้ต้องการตัวช่วยแบบแรงๆก็ห้ามพลาด) **สายวิชาที่ทำให้กรรมสนองผิดที่ผิดทาง ลงผิดฝาผิดตัวชนิดเอาดีเข้าตัวเอาชั่วไปไกลๆนั้นพ่ออาจารย์ท่านรับคำพญามารท่านไว้ว่าจะทำเพียงครั้งเดียว (ท่านว่าดีนะท้าวมาลัยเขามาขอเราตอนทำเสร็จ นี่ถ้าท่านมาดักคอตอนกำลังทำ ของแบบนี้รับรองว่าไม่มีโอกาสได้เกิดขึ้นแน่นอน)

    krishna01.jpg
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,478
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดสลับ กลับ คลาด มหาพิบัติฟ้าชำระจิตวิญญาณ(เข้าผิดคน ทุกข์ผิดตัว)

    " เราจะทำไว้ ให้กับคนที่คู่ควร ".... (อ่านให้จบทุกตัวอักษรนับเป็นวาสนาอย่างหนึ่ง)

    " ตะกรุดนี้แต่เดิมเมื่อพ่ออาจารย์ท่านเสกท่านทำเสร็จแล้ว แม้พญามาราธิราช(ท้าวมาลัย)ท่านก็ยังมาขอให้ระงับไว้ก่อน ไม่ให้ออกให้คนบูชา ด้วยว่าพลังของตะกรุดนั้นจะส่งผ่านให้เคราะห์กรรมผู้อาราธนานั้นผิดที่ผิดทาง ดวงชะตาผิดฝาผิดตัว แต้แม่คณะเทวปุตมารก็ยังทำงานไม่ได้ เรียกว่าสลับ กลับ คลาดกรรมที่ต้องโดนชำระหรือโดนเศษกรรมแทนผู้อื่น แม้บททดสอบอันแสนยาวนานของพญามาราธิราชและคณะ.... ตลอดจนกฎเกณมหาวัฏจักรบางข้อก็ไม่สามารถทำงานได้ ท่านจึงต้องระงับไว้ จนปัจจุบันนี้หลายๆคนเริ่มคร่ำครวญกันว่าถึงคราวซวยไปติดบ่วงเจอร่างแห ใช้กรรมแทนคนอื่นกันมาก ท่านจึงมีดำริให้นำตะกรุดออกให้บูชาเพื่อแก้กลให้เป็นมหาคลาดสลับกลับเคราะห์ภัยนั้นให้พ้นตัว "

    เกี่ยวกับวิชาการทำตะกรุดชนิดนี้นั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าค่อนข้างจะแรงมากด้วยทำตามพระเวทย์โบราณ แต่เดิมนั้นคนที่ประสบเคราะห์ภัยจากชะตาลิขิตที่เบี่ยงเบน หันเห ผันผวนล้วนมีอยู่มากนัก กรณีของเคราะห์กรรมที่ไม่ตรงดวงชะตาหรือฟ้าลงผิดที่ผิดทาง บางคนไม่ใช่เรื่องของตัวเองแต่กลับซวยแทนเขาก็มี หรือเริ่มมาไม่เกี่ยวกับเราแต่ไปๆมาๆแจคพอตมาตกที่เรา เป็นเราได้อย่างไรก็ไม่รู้ เหมือนรับกรรมแทนคนอื่น ซวยแทนชาวบ้านซ้ำเป็นเคราะห์กรรมผกผันที่แก้ปมยาก ถึงจะบอกว่าเราไม่เกี่ยว ไม่รู้ แต่มันก็กลายมาเป็นเคราะห์ภัยของเราไปแล้วแม้จะขัดกับดวงชะตาตัวเองก็ตาม ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะเศษกรรมที่สัมพันธ์กับคู่กรณีดลให้เป็นไป

    พ่ออาจารย์ท่านเล็งเห็นภัยในสังสารวัฏทั้งปัจจุบันและกาลเบื้องหน้า ท่านว่าเป็นจำเพาะมนุษย์ในยุคนี้ที่จะเจอบททดสอบให้ชำระเศษกรรมเหล่านั้นกันอย่างหนักหน่วง แม้เหล่าเทวดาเขาก็เตือนก็บอก หากแต่คนนั้นพาลไม่รู้และไม่ได้ยินไปเสียเอง พ่ออาจารย์ท่านว่ากาลข้างหน้าจะยิ่งหนักกันมากขึ้น วาสนาคนจะลดลง โรคภัยจะก่อตัวรุนแรง อายุขัยคนจะถดถอยลงไปเรื่อยๆ

    เมื่อแก่นเวลาของวัฏจักรชำระกฏแห่งกรรมนั้นเศษกรรมทั้งหลายเขาก็ไม่เว้น ไอ้เศษที่ว่านี่แหละเป็นปัญหาใหญ่ของชะตาวาสนามนุษย์ เพราะมันเป็นเศษบางทีจึงไม่ได้ปรากฏในชะตาลิขิตทำให้อ่านอย่างไรก็อ่านไม่ออกจากเรื่องเล็กน้อยเมื่อลุกติดไฟแล้วมันก็กลายเป็นชนวนเผาผลาญตัวเอง เผาไปลึกจนถึงจิตวิญญาณ ซ้ำเศษกรรมทั้งหลายร้อยทั้งร้อยล้วนแต่มีคู่กรณีที่ผูกมันเอาไว้ด้วยแรงอาฆาตพยาบาททั้งสิ้นดังนั้นพอเกิดผลมันจึงแรง บางคนชีวิตมาดีๆจึงไม่แปลกที่จะรู้สึกว่าถึงคราวซวยแทนคนอื่น บางคนก็โดนฉกฉวยชะตาวาสนาที่ควรจะเป็นของตัวเองทั้งชีวิตไปอย่างโจ่งแจ้ง ....หลายๆคนเริ่มรู้สึกตัว เมื่อเจอบ่อยๆ บางคราเทวดาท่านเมตตาก็เข้านิมิตให้เห็นว่านี่คือชะตาชีวิตของเราแต่มันกลับเป็นตัวเขาที่เสวยวาสนาเราอยู่ ส่วนตัวเรานี้กลับใช้ส่วนกรรมของเขาแทน บางคนถึงรู้สึกตัวได้ก็ยังอับจนหนทางแก้ไข แต่บางคนกว่าจะรู้สึกตัวเองได้ก็สายไปเสียแล้ว

    ด้วยเวทนาที่สัตว์เหล่านั้นล้วนแต่มาสว่างแต่กลับไปมืด ซ้ำเศษกรรมยังขยายผลกลายมาเป็นกรรมปัจจุบันติดตามตัวเองไปอีกหลายภพชาติ พ่ออาจารย์ท่านจึงคิดแก้ไขเศษกรรมให้ระงับผลไปทั้งยังสลัดปัดขวางเศษกรรมใหม่ๆที่พร้อมต่อแถวเรียงคิวเข้ามาซ้ำเติมห้วงชีวิตในชาติมนุษย์นั้นจนครูพระสยมได้เมตตาบอกวิธีชักเส้นสายกลบทยันต์พระเวทย์แต่โบราณที่สืบทอดและขาดหายมานานนับพันปีขึ้นมาให้สืบทอดเป็นวาสนาแก่คนในยุคนี้ พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ลงตะกรุดไว้และทำการปลุกเสกเรื่อยมา

    ตะกรุดที่ท่านตั้งใจทำม้วนให้เป็นดอกน้อยๆไม่ใหญ่โตเพื่อง่ายต่อการอาราธนาใช้งานได้นั้น ท่านว่าพกไว้ได้ทุกส่วนในร่างกายไม่มีเสื่อม ไม่จำเป็นต้องห้อยคอก็ได้ ถึงจะทำให้ดอกเล็กใช้กันง่ายแต่อานุภาพสำหรับผู้ที่เห็นภัยในสังสารวัฏนั้นท่านว่ากลับไม่นับว่าเล็กเลย ตะกรุดนี้ด้วยเรารับฏีกาของพญามาราธิราชไว้แต่เริ่ม เมื่อจะออกให้บูชาเราจึงได้ฝากเป็นธุระแก่พญามาราธิราชท่านไป ว่าให้ดลใจเปิดตา เปิดความรู้สึกในจิตวิญญาณของคนที่ถึงวาระ มีวาสนายิ่งใหญ่ที่จะหลุดพ้นจากเศษกรรมและห้วงทุกข์ปัจจุบันทันด่วนเท่านั้น จะมีแต่คนเหล่านั้นที่เห็นค่าและมาเอาไป ส่วนคนที่มามืดและก็ต้องมืดไปต่อ คนที่วาสนายังปิดตาย คนเหล่านี้ก็ให้ท่านปิดตาปิดความรู้สึกหรือบุญสัมพันธ์กับโอกาสตรงนี้ไว้ ให้เขามองผ่านๆไปเหมือนเห็นอากาศธาตุไม่ได้ฉุกคิดสะกิดใจหรือสำนึกรู้สิ่งใดๆ แม้เงาของตะกรุดคุณวิเศษนี้ก็อย่าได้พบเจอ

    พ่ออาจารย์ท่านให้เหตุผลที่ต้องฝากให้พญามาราธิราชท่านอุปถัมภ์เช่นนั้นก็ด้วยว่าของสิ่งนี้แม้จะเป็นวิชาช่วยคน แต่วาสนาของคนก็ไม่ได้เท่ากันเสมอไป บางคนต้องเป็นรากบัวเน่าตายอยู่ในโคลนตมเป็นเหยื่อของหมู่ปลากัดกินต่อไปก็มาก เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงได้ยึดสัจจะวาจาที่ให้ไว้กับครูพระสยมแต่เริ่ม ว่า " เราจะทำไว้ ให้กับคนที่คู่ควร "

    ตะกรุดสลับ กลับ คลาด มหาพิบัติฟ้าชำระจิตวิญญาณดอกนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากจะใช้ให้ตัวเราคลาดแคล้วกับเคราะห์กรรมหลักและเศษกรรมแล้ว ยังต่อต้านอกุศลกรรมในตัวเองอีกด้วย โดยปกติของคนที่อาราธนานั้น ท่านว่าเขาจะรู้สึกได้ด้วยตัวเองว่าเรื่องเคราะห์หามยามซวยทั้งหลายที่มาเกิดกับตัวเขานั้น จะถูกสลับสับเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะมันจะหนีจะย้ายจากตัวเขาไปลงอยู่กับเหล่าคนที่มีกรรมอกุศลร่วมกันแทน เรียกกลายๆว่าให้เขาเป็นตัวตายตัวแทน รับเคราะห์แทนเราก็ได้ เช่นนั้นจึงเรียกได้ว่าสลับ กลับ คลาดทั้งหมด
    - สลับ คือสับเปลี่ยนตัวตน
    - กลับ คือย้อนเจตนาและการกระทำกลับไปให้ผู้ทำ
    - คลาด คือคลาดแคล้วเนื้อตัว ไม่ได้กล้ำกรายให้ต้องทุกข์ โทษ ภัย


    นอกจากจะเปลี่ยนชีวิตให้กลับตาลปัตรแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าตรงนี้ต้องทำความเข้าใจไว้ ว่ามันกลับเฉพาะอกุศลกรรมและเคราะห์ภัยรวมไปถึงเศษกรรม หากแต่กุศลกรรมก็ยังเสวยกันไปได้อย่างปกติมิใช่บางเรื่องดีอยู่แล้วจะกลับไปเลวลง ด้วยคนใช้ตะกรุดนี้ถูกลิขิตไว้แล้วให้ต้องพุ่งขึ้น สูงขึ้น ไม่ตกต่ำลงเท่านั้น นอกจากสลับ กลับ คลาดตัวบุคคลแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่ายังย้อนกลับทุกความคิดปองร้ายและการกระทำด้วยคุณไสย อวิชชา เจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ให้กลับคืนเข้าหายังผู้กระทำด้วย

    แม้ใครจะเล่นงานเราก็เข้าผิดที่ผิดทาง ทำอะไรเราก็ทำผิดตัวผิดตนวนอยู่แบบนั้น มันจะเป็นเช่นนั้นอยู่ร่ำไป วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามันไม่ได้ไปหยุดยั้งกรรมไม่ให้เกิด แต่มันกลับสับเปลี่ยนให้ตกกับคนที่มีกรรมร่วมกัน ให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างที่ควรจะเป็นแทนนั่นเอง ท่านจึงอุปมาคุณวิเศษของตะกรุดนี้เสมอดุจว่าเสมือนหาตัวตายตัวแทนทีเป็นเจ้ากรรมนายเวรของเรามารองรับเคราะห์กรรมเรา ย้อนสนองคืนการกระทำให้เขาไปตามเจตนาและชะตาฟ้าที่ควรจะเป็นเช่นนั้น

    แต่เหนือสิ่งอื่นใดเลย ตะกรุดนี้ท่านว่ามีไว้ชำระจิตวิญญาณของผู้อาราธนาด้วย ท่านว่าคำๆนี้เป็นมิติที่กว้างและลึกมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าคนเราทุกวันนี้ผ่านการเกิดมาแล้วไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ เป็นมากันหมดตั้งแต่สัตว์เดรัจฉาน สัตว์นรก มนุษย์ เทวดา พระราชา...เรียกว่าอยู่กันมาหมดทุกภูมิ ทุกโลก ทุกโกฏิจักรวาล ไม่มีจะว่างเว้นการมีชีวิตอยู่และล้มหายตายจากแม้ซักวินาที จิตวิญญาณตัวนี้ของแต่ละคนล้วนแต่ตรากรตรำกรำชีวิตกันมาหนักหนา ใช้งานกันมามากมายจนตกตะกอนอกุศลมูลทั้งหลายแปดเปื้อนเนื้อตัว ท่านว่าคิดดูเถิด ถึงเวลาชำระมันบ้างหรือยัง หรือจะปล่อยให้ตายไปแบบเปื้อนๆ แล้วก็เกิดใหม่แบบเปื้อนๆเลอะๆเช่นนี้สั่งสมไปเรื่อยๆ

    พลังที่ชำระจิตวิญญาณนี้เป็นพลังของครูพระสยมที่จะขัดเกลาอย่างช้าๆให้จิตวิญญาณสะอาดและบริสุทธิ์ขึ้นทีละขั้นตอน แน่นอนวาการขัดเกลาและชำระจิตวิญญาณนั้นมีประโยชน์อย่างใหญ่หลวง ซ้ำยังแสดงผลชัดเจนกับตัวตนผู้อาราธนาด้วย พ่ออาจารย์ท่านกล่าวไว้ว่าทั้งจิตใจ อารมณ์ ความคิด สติปัญญา สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นตัวแปรของจิตวิญญาณทั้งสิ้น ให้มองตัวเองเถิดว่าเป็นคนอารมณ์แบบไหน ร้อนแค่ไหน แรงแค่ไหน มีความคิดอุบาทว์หรือไม่ ต่ำหรือไม่ สูงอย่างไร สมองตีบตันไร้พัฒนาการหรือไม่ ก็นั่นล่ะคือความตกต่ำของจิตวิญญาณตัวเองในกาลปัจจุบันชาตินี้ และต่อไปก็จะยิ่งเสื่อมถอยลงเรื่อยๆไปอีกหลายภพชาติหากไม่พัฒนาขัดเกลาเสีย

    ถึงเวลาชำระแล้วหรือยัง พ่ออาจารย์ท่านว่าพูดมากมันก็ไม่ได้ ไม่ดีกับตัวเราและตัวเจ้าในทุกกรณี หากแต่เพียงบอกได้คร่าวๆไว้ดังนี้ ว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะเปลี่ยนตัวเองจากข้างใน ให้ตะกรุดนี้ค่อยๆชำระจิตวิญญาณของเราให้บริสุทธิ์ขึ้นบ้าง นอกจากจะสลับ กลับ คลาดแล้วยังต้องเปลี่ยนแปลงพลังงานตั้งต้นคือจิตวิญญาณของเราชำระซักฟอกให้มันบริสุทธิ์ด้วย ท่านว่ามันต้องดีจากข้างในเช่นนี้ชีวิตถึงจะสว่าง แม้มาสว่างก็ไปสว่าง ถึงจะมามืดก็ยังไปสว่าง ดังนั้นก็ให้ไตร่ตรองดูให้จงดี

    ท่านดำริว่าคนเราต่อให้ย้ายเคราะห์กรรมพ้นตัวไปแล้ว แม้จิตวิญญาณสกปรก ฌาณสมาบัติมันก็พัฒนาไม่ได้ ชีวิตมันก็ยังมืดมัวคงตัวอยู่เท่าเดิมจะตะกายอย่างไร พยายามมากกว่าคนอื่นเท่าไหร่ก็ล้วนแต่เสียแรงเปล่าทั้งสิ้น พ่ออาจารย์ท่านจึงว่าตะกรุดนี้ท่านจึงถือเป็นของสำคัญ เพราะมันเปลี่ยนชีวิตคนได้โดยเปลี่ยนและชำระจากข้างใน ให้ดีทุกทางไปพร้อมๆกันทั้งชาติปัจจุบันไปถึงชีวิตหลังความตายและภพชาติต่อไปก็จะได้สูงขึ้นพัฒนาขึ้นเช่นนั้น กาลแห่งความเปลี่ยนแปลงนี้ท่านว่าเราถือเป็นโอกาส ด้วยเพราะวาสนามนุษย์นั้นหากไม่พบกับเทพเจ้าหรือพระอรหันต์ชี้แจงแล้วก็ย่อมดักดานต่อไปไม่สามารถชำระจิตวิญญาณตัวเองได้เลย เช่นนั้นครูพระสยมท่านจึงให้วิชาแต่โบราณนี้สืบทอดต่อไปได้ เพื่อให้คนมีโอกาสใช้ มีโอกาสได้เปลี่ยนจิตเดิม เปลี่ยนวาสนาชะตาคนสืบทอดเฉพาะผู้มีบุญสัมพันธ์กันเท่านั้น

    ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของทำยากมีขั้นตอนมาก***เพราะต้องเสกจนกระทั่งฟ้าผ่าผิด ฟ้าต้องผ่าและต้องผ่าผิดที่ผิดทางตามครูพระสยมท่านกำหนดไว้จึงจะสำเร็จ โดยสายฟ้านั้นพ่ออาจารย์ท่านเปรียบไว้กับการลงทัณฑ์ของสวรรค์ เป็นเคล็ดที่ว่าแม้ทัณฑ์สวรรค์ฟาดลงมาก็ยังไม่ถูกไม่โดนเนื้อตัวเสมอด้วยเคราะห์กรรมและเศษกรรมทั้งหลาย ท่านว่าต้องเสกจนฟ้าผ่าฟ้าฟาดลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า ฟาดอย่างไรก็ไม่ถูกไม่โดนตะกรุดและมณฑลพิธี ทำได้เพียงฟาดพื้นที่โดยรอบเท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้กว่าจะเสกสำเร็จได้จึงนับว่าเป็นของที่เสี่ยงตายทำมาให้ใช้กันโดยเฉพาะ คิดแล้วก็ยังอดใจหายไม่ได้กว่าจะทำสำเร็จจนเสกเก็บไว้ยาวๆ เพราะถ้าพลาดก็คือเราตายมันท้าทายถึงขนาดนั้น ดังนั้นจึงพลาดไม่ได้เลย ท่านว่าเมื่อสำเร็จแล้วก็ภูมิใจอย่างที่สุดว่าตัวตะกรุดเองก็ดีแบบใจหายเช่นกัน เสร็จแล้วก็มานั่งอาบนั่งคลุกด้วยว่านยาที่ท่านแช่น้ำหมากเอาไว้ด้วย ท่านว่าต้องพิถีพิถันมากเพราะเคราะห์กรรมไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ดังจะเห็นว่าเราพูดมากก็ไม่ได้ เพียงทำได้แต่อธิบายให้เธอเข้าใจเพราะพญามาราธิราชท่านขอเอาไว้แล้ว

    พ่ออาจารย์ท่านว่าให้คิดดูเอาเองเพราะตะกรุดที่เสี่ยงตายทำเช่นนี้ต่อไปย่อมไม่มีอีก ท่านทำให้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น ท่านว่าเราทำให้เพราะมีกรรมร่วมกันแต่ตอนนี้ก็หมดภาระของเราแล้ว ใครเขาจะสำนึกรู้เห็นความสำคัญอย่างไรก็ให้มาเอาไป

    *** วิธีใช้
    พ่ออาจารย์ท่านให้ยกมืออาราธนาไหว้คุณพระสยมระลึกอยู่ในใจก็สามารถพกพาได้เลย ไม่ต้องใช้คาถาอะไรทั้งสิ้น ท่านว่าสำเร็จ ศักดิ์สิทธิ์ในตัวเอง เป็นที่สุดอยู่แล้ว

    ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากใช้สลับ กลับ คลาดได้แม้แต่มหาภัยพิบัติแห่งฟ้าแล้ว นอกจากชำระจิตวิญญาณ ท่านยังเสกผูกวิชาครอบคลุมไปถึงเคราะห์ตรีกาลทั้งเคราะห์วัน เคราะห์เดือน เคราะห์ปี เรียกว่าหลุดกฏจักรราศีและวิถีดวงดาว ตรงนี้ท่านว่าบอกเขาได้แค่เราลงไว้ครบไอ้ตัวเคราะห์หน้าตามันเป็นอย่างไร ต่อไปจะไม่ได้เห็น ไม่รู้จักมันทีเดียว เอาตะกรุดไปใช้อาราธนากันให้ดี ***จำไว้ให้ขึ้นใจเพียงอย่างเดียว อย่าวิ่งเข้าไปหาเรื่อง อย่าก้าวเข้าไปเหยียบปัญหาด้วยตัวเอง ขอเพียงเท่านั้นทั้งเรื่องและปัญหามันจะไม่เข้ามาหาเราเช่นกัน

    *** ตะกรุดสลับ กลับ คลาด มหาพิบัติฟ้าชำระจิตวิญญาณนี้ พ่ออาจารย์ท่านทำไว้ทั้งหมดเจ็ดดอก ท่านว่าพอทำเสร็จต้องพลีให้ฟ้าดินไปหนึ่งดอก และตัวท่านเองก็อาราธนาใช้เองอีกหนึ่งดอก จึงมีให้บูชาเพียงห้าดอกเท่านั้น รับจองเฉพาะทาง PM รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสทางสังคมสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดสลับ กลับ คลาด มหาพิบัติฟ้าชำระจิตวิญญาณ(เข้าผิดคน ทุกข์ผิดตัว) บูชา 4,000 บาท

    41555337_1846351968775833_4252484735093178368_n.jpg

    41517398_2736934409666038_148516198114394112_n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กันยายน 2018
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,478
    อย่างที่พ่ออาจารย์พูดจริงๆ ตะกรุดสลับ กลับ คลาด มหาพิบัติฟ้าชำระจิตวิญญาณ ว่า " เราจะทำไว้ ให้กับคนที่คู่ควร " โอกาสก็เป็นของคนที่เห็นโอกาสจริงๆเพราะพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าวิชานี้ทำได้หนเดียว ทำซ้ำคนทำก็วิบัติเท่านั้น
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,478
    อรุณสวัสดิ์ครับ เมื่อวานก็เรียกได้ว่าจองกันหมดภายในพริบตาชนิดลืมหายใจกันทีเดียวกับ ตะกรุดสลับ กลับ คลาด มหาพิบัติฟ้าชำระจิตวิญญาณ ทำให้มีหลายๆคนทั้งที่ไม่ทัน กับคนที่ตัดสินใจช้าแล้วก็คนที่ขอว่ามีตะกรุดแบบนี้ที่ราคาไม่สูงมากหรือไม่ ตรงนี้ต้องบอกว่าตะกรุดชนิดนี้แบบนี้อย่างที่บอกคือหมดแล้วหมดเลยต้องรอหลุดจอง แต่หากจะถามเอาอย่างอื่นมาใช้แทนกันอันนี้ก็ติดตามกันไว้สำหรับคนที่พลาดแล้วกัน แต่ไม่คล้ายหรือไม่ใกล้เคียงกันแน่นอน

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,478
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่สุเทพ EV 4403 4711 7 TH

    พี่พรเทพ EV 4403 4712 5 TH
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,478
    ใครที่รอติดตามตะกรุดตัวอื่นที่เป็นของชุดเล็กหลักร้อยคาดว่าจะนำมาใช้แทนกัน บอกได้คร่าวๆว่าถึงใช้แทนกันไม่ได้แต่ก็ดีกันคนละทางแบบสุดๆไปเลย และเหนือสิ่งใดคือมีน้อยมาก... อันนี้ติดตามกันให้ดี
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,478
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดพระมาลัยรับสาสน์ขอให้ได้เป็น(มาลัยโปรดสวรรค์)

    'มาลัยเทวเถร' เทวะในที่นี้คือพระอริยบุคคลที่หมดกิเลสหรือพระอรหันต์เป็นวิสุทธิเทพนั่นเอง ด้วยเกียรตฺคุณอันปรากฏขจรขจายไปทั่วทั้งเกาะลังกาว่า พระมาลัยเป็นพระผู้อุดมด้วยอิทธิฤทธิ์และญานวิเศษ มีความแตกฉานในพระไตรปิฎก มีบุญญานุภาพมาก มีญาณวิเศษมาก มีเกียรติคุณมากเลื่องลือไปทั่วทุกสารทิศ เป็นองค์พระอรหันต์ขีณาสพสิ้นอาสวะกิเลสทรงธุดงควัตรสันโดษในสัลเลขธรรม มักน้อยในจตุปัจจัย บารมีส่องสว่างในโลกประดุจดังพระจันทร์วันเพ็ญ

    ทั้งโดยปกติวิสัยท่านมักจะเข้าณานสมาบัติแล้วแสดงอิทธิฤทธิ์ชําแรกพื้นปฐพีไปโปรดสัตว์นรกเสมอๆ ด้วยท่านมีอุปการคุณแก่สัตว์ทั้งหลายเป็นอเนกอนันต์ เช่นเดียวกับพระมหาโมคคัลลานะมีมหากรุณาคุณต่อสัตว์นรกทั้งปวง คือพระมาลัยเทวเถรเจ้าได้ช่วยปลดปล่อยสัตว์ในอบายภูมิทั้งหลายให้ไปบังเกิดในสุคติภูมิเช่นสวรรค์หรือเทวโลกเป็นอันมาก ดั่งพระมหาโมคคัลลานะเถรเจ้ายังไฟนรกให้ดับไป บันดาลท่อธารนํ้ำฝนให้ตกลงมาสู่สัตว์ทั้งหลายให้เย็นสรีระกายได้รับความสบายกาย และยังโลหะกุมภีอันเคี่ยวสัตว์อยู่นั้นให้แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ยังไม้งิ้วมีหนามทั้งหลายให้พินาศ ยังภูเขาไฟอันบดสัตว์นั้นให้แตกกระจัดกระจาย สัตนรกทั้งหลายได้รับความสุขสบายฉันใด พระมาลัยเถรเจ้าก็ได้แสดงอานุภาพเช่นเดียวกันกับพระมหาโมคคัลลานะเถรเจ้าฉันนั้น กระทําอิทธิฤทธิ์ ยังนํ้าในกระทะทองแดงที่เดือดพล่านให้กลับกลายเป็นหวานเย็น มีรสดังนํ้าผึ้ง ให้สัตว์นรกทั้งหลายได้ดื่มกินเป็นสุขได้ ดุจท่านเป็นที่พึ่งแก่เหล่าสัตว์นรกผู้ตกทุกข์ได้ยากอยู่ในแดนอเวจี

    พระมาลัยนั้นได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้สืบทอดความเป็นเลิศทางฤทธิ์ต่อจากพระมหาโมคคัลลานะผู้อัครสาวก นอกจากนรกแล้ว ท่านมักเร้นกายท่องเที่ยวไปในภูมิทั้งหกแม้สุคติโลกสวรรค์เพื่อทำการสนทนากับเหล่าเทวดาและพระโพธิสัตว์ทั้งอินทร์พรหมมิได้ว่างเว้น ทั้งหกภพภูมิทั่วหมื่นโลกธาตุ

    ด้วยคุณสมบัติของพระมาลัยเทวะเถระเจ้าเช่นนี้ พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ทำตะกรุดเพื่อโปรดสัตว์อันตกทุกข์ได้ยากทั้งหลาย ท่านว่าพระมาลัยนี้สำคัญนักด้วยคติจีนก็ว่าท่านเป็นองค์เดียวกับพระกษิติครรภมหาโพธิสัตว์อันมีปณิธานมุ่งรับผิดชอบการสั่งสอนสรรพสัตว์ที่อยู่ในกามภูมิทั้งหก ท่านปรารถนาช่วยสัตว์โลกให้พ้นจากนรกทั้งหมด ถึงขนาดที่ว่าหากนรกยังไม่ว่างจากสัตว์นรกก็จะยังไม่ขอบรรลุพุทธภูมิ

    พ่ออาจารย์ท่านเห็นว่าโลกทุกวันนี้ก็ไม่ต่างจากนรกบนดิน มีทั้งสุขและทุกข์คละเคล้ากันไป คนไหนสุขมากหน่อยก็เหมือนอยู่บนสวรรค์เสพย์สุขไปได้เรื่อยๆ แต่คนที่ทุกข์นั่นล่ะพวกเขาใช้ชีวิตดุจมีเส้นแบ่งแยกความเป็นคน ชนชั้น และความเป็นอยู่ออกจากกัน แม้ยังเป็นมนุษย์หลายคนก็เสวยทุกขเวทนามีความเดือดเนื้อร้อนใจดั่งตกอยู่ในขุมนรกซ้ำไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร จากปัจจัยแวดล้อมต่างๆที่คอยแผดเผาจิตใจ คอยบั่นทอนกำลังใจกันอยู่เนืองๆนี่เอง พ่ออาจารย์ท่านเห็นว่าทั้งอกุศลและชนที่โดนบาปเคราะห์กัดกินเริ่มมีปรากฏขึ้นมากและในอนาคตชนเหล่านี้จะมีทุกข์คติเป็นที่ไปนรกจะไม่ได้ว่างเว้นจากสัตว์นรกเลย

    เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงนำวิชาพระมาลัยรับสาสน์หรือพระมาลัยโปรดสวรรค์ของท่านมาทำตะกรุดเก็บไว้ ด้วยตั้งใจว่าเมื่อกาลเวลานั้นมาถึง เวลาที่ทุกขเวทนาก่อตัวแรงกล้าในกมลสันดานของสัตว์โลกทั่วไป ท่านจึงจะนำตะกรุดสำคัญนี้ออกให้คนที่ยังพอมีวาสนาเหลือรับอยู่ได้นำไปใช้ติดตัว พ่ออาจารย์ท่านว่าพระมาลัยเถระเจ้าท่านมีฤทธิ์เสมอด้วยพระโมคคัลลานะอัครสาวก ทั้งยังมีอุปนิสัยแตกต่างจากพระอรหันต์องค์อื่นทั้งหมดทั้งมวล นั่นคือท่านชอบจาริกไปในนรกภูมิ ไปถามไถ่กรรมของสัตว์นรกเหล่านั้นเพื่อหาทางปลดเปลื้องพันธนาการทั้งหลาย ส่งพวกเขาจนไปถึงสวรรค์แดนสุคติภูมิ

    เรียกได้ว่าการกระทำของท่านนั้นเป็นการเปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนความเป็นอยู่ที่ต่ำที่สุดของสัตว์ทุกขเวทนาบังเกิดแรงกล้าที่สุด เปลี่ยนภพเปลี่ยนภูมิให้ไปอยู่ในจุดที่สุขสบายขึ้น มีความเจริญขึ้นโดยลำดับ ส่งไปให้ถึงจุดหมายปลายทางเป็นบารมีเฉพาะทางของท่าน พ่ออาจารย์จึงพูดติดปากอยู่เรื่อยๆว่าตะกรุดพระมาลัยนี่ดีนะ เพราะวิชานี้เปลี่ยนชีวิตคนได้ไว เปลี่ยนนรกให้เป็นสวรรค์ได้ เปลี่ยนทุกข์ร้อนให้เป็นความสุขได้ จะใช้บารมีใครหรือพระอรหันต์องค์ไหนก็ไม่เหมือนพึ่งใบบุญในพระมาลัยองค์นี้ ถ้ายังมีทุกขเวทนาอยู่และรู้ว่าทุกข์ของตนนั้นให้ผลแรงกล้า เร่าร้อน แผดเผาจิตวิญญาณอยู่ร่ำไป ขอแค่ชนมีทุกข์มาก ท่านก็พร้อมที่จะช่วยเหลือ ยิ่งใครที่อยู่บนโลกแต่กลับเหมือนตกนรกบนดินอันนี้ยิ่งงานถนัดของท่านเลย พ่ออาจารย์ท่านว่าเราพูดมากก็ไม่ได้พูดได้แค่ว่านี่แหละวิชามาลัยโปรดสวรรค์

    ด้วยท่านมีอุปนิสัยเช่นนั้น แม้เมื่อท่านมีชีวิตอยู่ท่านก็มักทำการโปรดไปทั่วนรกภูมิตลอดจนมนุษย์และสวรรค์ ทั้งอสุรกายภูมิ เปรตวิสัยภูมิไม่มีละเว้น เพื่อยังประโยชน์ใหญ่ให้สัตว์ทั้งหลายล่วงออกจากทุกขเวทนามีสุคติภูมิเป็นที่ไป พ่ออาจารย์จึงได้ขอเมตตาและขอบารมีองค์อรหันต์สำคัญพระมาลัยเทวะเถระเจ้านี้เพื่อจะทำตะกรุดผลักดันสัตว์ที่ยังจมทุกข์อยู่

    พ่ออาจารย์ท่านทำตะกรุดพระมาลัยรับสาสน์หรือมาลัยโปรดสวรรค์นี้ด้วยเหตุผลว่า แต่เดิมทีพระมาลัยเวลาท่านไปไหน ท่านรับเป็นธุระให้ใครไม่ว่าจะเป็นบนโลกมนุษย์ ในสวรรค์ หรือนรกภูมิไม่ว่าใครจะไหว้วานอะไรท่าน จะฝากสาสน์ท่านสื่อสารไปถึงสิ่งมีชีวิตในภพภูมิอื่น ทุกเรื่องย่อมสำเร็จประโยชน์ใหญ่ทั้งสิ้น ซ้ำยังเกื้อหนุนส่งเสริมจากจุดต่ำสุดฉุดดึง ผลักดัน ขับส่งให้ขึ้นสู่ที่สูงขึ้นอย่างทันท่วงทีชนิดทันตาและคาตา ยังความสุขสบายใจให้กับผู้ไหว้วานท่านในทุกภพภูมิ พ่ออาจารย์ท่านจึงมีดำริว่าอันบารมีเฉพาะทางขององค์พระมาลัยเหนือเกล้านี้เป็นสิ่งเฉพาะทางที่ประจวบเหมาะกับทุกขเวทนาในยุคสมันนี้เหลือเกิน ด้วยสัตว์ทั้งหลายนั้นปรารถนาที่จะล่วงทุกข์แบบฉับพลันทันทีชนิดได้รู้ได้เห็นกันชาตินี้ เห็นคาตาปักใจตัวเองอย่างหมดใจ

    ท่านจึงได้ลงหัวใจพระมาลัยโปรดสวรรค์ซึ่งสืบทอดกันมาลงไว้ในแผ่นตะกั่วน้ำนมบริสุทธิ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าหัวใจพระมาลัยโปรดสวรรค์นี้แม้ใครอธิษฐานฝากคำต้องการ ไหว้วานขานกล่าวให้ท่านช่วยเหลืออย่างไร ทุกสิ่งล้วนสำเร็จได้ทันท่วงที ด้วยพระมาลัยนี้ท่านมีพวกอยู่มาก พวกของท่านในที่นี้ก็คือเทวดา พรหม โพธิสัตว์ นายนิรยบาล ตลอดจนสิ่งมีชีวิตที่ท่านสัญจรไปสนทนาทำความรู้จักทั้งหกภพภูมิต่างจากพรอรหันต์องค์อื่นๆ ถึงขนาดที่พ่ออาจารย์ท่านอุทานไว้ว่าแม้ผู้มีฤทธิ์วิเศษหรือองค์อรหันต์ใดๆก็ไม่ได้มีพวกมากเสมอด้วยพระมาลัยองค์นี้ ด้วยท่านมีฤทธิ์มาก มีพวกมาก มีกำลังมากหากเอ่ยชื่อท่านไหว้วานขานกล่าวสิ่งใด ทุกความปรารถนาล้วนสำเร็จไวดั่งใจหวังทันใจและรวดเร็วถึงปานนั้นไม่เคลื่อนคลายแม้แต่น้อย พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่าตะกรุดนี้อย่าว่าแต่เรื่องของมนุษย์เลย แม้อธิษฐานกันข้ามภพข้ามภูมิก็ยังนับว่าใช้ได้ไม่เกินเลยแต่อย่างใด

    ด้วยคติที่จะช่วยกันจนหมดทุกข์ ด้วยความเชื่อที่ว่าเมื่อรับเรื่องมาแล้วท่านจะร่วมหัวจมท้ายไปกับเราเร่งช่วยคลี่คลายปัญหาติดตามผลให้เราจนสำเร็จนั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านจึงลงวิชาสำคัญนี้ไว้พร้อมกับเชิญองค์พระมาลัยมารับทราบถ้อยคำข้อปัญหาโดยท่านรับอาราธนาว่าจะช่วยเหลือสัตว์ทั้งหลายในยุคนี้อีกหนหนึ่ง จวบจนกว่าพระศรีอาริย์จะอุบัติขึ้น

    ทั้งพ่ออาจารย์ท่านยังลงหัวใจยันต์วิชาสำคัญเสริมทับไว้อีกคำรบหนึ่งเป็นกฤติยาคมแฝด ท่านเรียกว่าวิชาขอให้ได้เป็น ท่านว่าวิชานี้มันสำคัญพอๆกับกำลังใจของคนใช้เลยเชียวนะ เพราะคนนั้นมีเรื่องเดือดร้อน มีปัญหาให้แก้ไขทุกวันเช่นนั้นถึงยังเป็นคน ด้วยวิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ว่าเธอจะอยากได้อะไร อยากเป็นอะไร ก็ให้ขอไปเถิด คนไหนชอบขอ ขยันขอ หมั่นขอนี่แหละได้เปรียบชาวบ้านเขาเพราะมันขอได้ทุกเรื่อง พ่ออาจารย์ท่านอุปมาไว้ว่าขอแล้วต้องให้ ได้แล้วต้องเป็น ไม่ขอก็ไม่ได้ ไม่ให้ก็ไม่เป็น ฉันลงยันต์นี้กำกับไว้พร้อมกับวิชามาลัยรับสาสน์ เท่ากับว่าฉันตั้งใจให้เธอขอเอากับท่าน ขอจนได้ ให้จนเป็น ด้วยอรหันตานุภาพในพระคุณเจ้าองค์นั้นจะช่วยฉุดเธอออกจากทุกข์โปรดเธอจนขึ้นสวรรค์หรือได้รับความสุขเสมอใจในประการทั้งปวงนั่นเอง

    พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้ทำยากนะ ตะกรุดตำรับนี้เป็นของโบราณเราตั้งใจจะทำครั้งเดียวเพราะคนสมัยนี้ปากมันยื่นมันยาว มันขอไปเรื่อย ขอกันไม่คิด ท่านจึงดำริว่าทำเก็บไว้ ถ้าสัตว์ผู้ยากทั้งหลายไม่เข้าตาจนหรือเดือดร้อนกันจริงจะไม่นำออกมา จนกาลล่วงผ่านไปหลายปี ท่านว่าถึงเวลาแล้ว ตั้งแต่พระคุณเจ้ามาลัยท่านรับอาราธนามา ท่านก็พร้อมที่จะออกไปช่วยเหลือชนอันตกห้วงทุกข์นั่นแต่แรกแล้ว อันตัวเราจะเก็บเอาไว้ก็จะปิดวาสนาชนผู้อื่นเสียเปล่า ท่านจึงให้นำออกให้บูชา

    เรื่องตะกรุดสำคัญนี้พ่ออาจารย์ท่านกล่าวรองรับไว้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันมีความผูกพันธ์ร่วมกันอยู่ในตัวเอง ใครรับใครได้ ใครขอเขาก็ได้ เหมือนเธอหิวเองเธอก็ต้องอาศัยปากตัวเองกิน ใช่ว่าเมื่อเธอหิวแล้วจะไปบอกให้คนอื่นกินแทนตัวเอง เช่นนั้นท้องเธอจะอิ่มหรือไม่ ตะกรุดนี้ก็เช่นกันฉันทำมาให้ใช้ของใครของมัน ถ้าเธอร้อนเธอทุกข์เธอก็ต้องขอเอง ดุจการกินใครกินใครก็อิ่ม แต่ถ้ากินมากกินไม่หยุดมันก็อิ่มมากไป อิ่มมากไปมันก็ทุกข์ ต้องเอาให้แต่พอดีๆ ค่อยๆกินพออิ่มเช่นนั้น กินอย่างไรให้อิ่มพอสมควรแก่ความสุข ตะกรุดนี้ก็เสมอกันใครมีวาสนาได้พานพบ ใครขอใครก็ได้ ค่อยๆขอ ขอแต่สิ่งที่เป็นกิจเป็นความทุกข์ของตัวเองให้คลี่คลาย ด้วยวัฏจักรนั้นย่อมมีกฏของมันอยู่ ถ้าไปขอเกินตัวภายหลังสิ่งที่ได้มาล้วนแต่จะนำทุกข์มาให้ทั้งสิ้น

    ด้วยพ่ออาจารย์ท่านว่า องค์พระมาลัยผู้อรหันต์นั้นท่านรู้บุพกรรมของคนเป็นอย่างดี ท่านเข้าถึงวิชาและดวงชะตาราศีของชนทั้งหลาย ดังนั้นตะกรุดคุณวิชานี้จึงใช้ได้ทั้งฟื้นชีวิตและพลิกดวงชะตาในดอกเดียวกัน ท่านเตือนเอาไว้ว่าให้บูชากันให้ดี "จงจำไว้ไม่ใช่ของเล่น" เห็นเป็นตะกรุดดอกหนึ่งๆเช่นนี้ แต่ละดอกล้วนมีบารมีองค์พระมาลัย มีเทวดารักษาอยู่มาก ไม่นับถือก็อย่าเอาไปเพราะครูแต่หนหลังท่านกล่าวไว้หากทำเป็นเล่นไม่นับถือแล้วเสมอปรามาสพระรัตนตรัย เป็นบาปจะตกนรกหัวแตกเจ็ดภาคเจ็ดเสี่ยงเช่นนั้น

    คาถาบูชา
    โอม จิตติ จิตตัง มาละยะจะมหาเถโร มานิมามา ติติอุนิ อิติมุลิ อิสวาสุ


    ***** วิธีใช้ ท่านให้หากระดาษแผ่นเล็กๆเขียนชื่อนามสุกลสอดไว้ภายในตะกรุด อธิษฐานบอกกล่าว ชื่อ นามสกุลตัวเอง ฝากตัวไว้กับองค์พระมาลัยแล้วจึงนำตะกรุดนั้นไปเลี่ยมแขวนคอหรือวางไว้สวดมนต์บูชาก็ได้ท่านว่าหนุนดวงค้ำชื่อค้ำสกุล ชูดวงยกตัวตนของเราให้สูงไม่ให้ตกต่ำ ทั้งบรรเทาเหตุเภทภัยต่างๆจากร้ายให้กลายเป็นดี หากไม่ประมาทชีวิตจะไม่ตายโหง ถ้าปรารถนาโชคลาภท่านว่าให้อธิษฐานกับตะกรุดขอบารมีองค์พระมาลัย แต่มีข้อแม้อยู่เพียงอย่างเดียวนั่นคือห้ามด่าบุพการีด่าพ่อด่าแม่ทั้งของตนเองและผู้อื่น ทำได้ดั่งนั้น ท่านว่าเป็นยอดทางมหาลาภยิ่งนัก จะขอได้เรื่อยๆเป็นศรีปากมีกินไม่รู้สิ้น

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดพระมาลัยรับสาสน์ขอให้ได้เป็น(มาลัยโปรดสวรรค์) บูชา 800 บาท

    pramalai002.jpg
    41626267_328362684403936_1130521115559460864_n.jpg
    41537150_267140710597458_8685702802103599104_n.jpg
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,478
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่รุ่งเรือง EV 7736 1159 4 TH

    พี่ศิระ EV 7736 11560 3 TH

    พี่ปกรณ์เกียรติ EV 7736 1161 7 TH
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,478
    ตะกรุดพระมาลัยสายวิชานี้แรงไม่เงียบเลย โบราณว่าเมื่อบังเกิดสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขึ้นนั้นฟ้ารู้ดินรู้ ถึงแม้คนจะไม่รู้ก็ตามแต่ก็มีสิ่งยืนยันเกิดขึ้นด้วยเหตุผลในตัวเอง ด้วยมีเสี่ยโรงพลาสติกคนหนึ่งเขาไลน์จองขอเหมาตะกรุดหมดเลย

    ก็แปลกใจเพราะวิชานี้ของพ่ออาจารย์คาดว่าคงจะไม่มีคนสนใจมาก จึงได้ซักไซ้ไต่ถามไปว่าอยู่ดีๆว่าทำไมถึงจะเอาทั้งหมดล่ะ เขาเล่าให้ฟังว่าตั้งแต่สมัยพ่ออาจารย์ทำเครื่องมงคลเป็นพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรไม้แกะให้บ้านของเขาไปบูชานั้น เขาก็เจริญขึ้นมามาก เรียกว่ากินดีอยู่ดีกว่าเดิม ตอนนั้นก็ได้ให้ซินแสประจำตระกูลที่บ้านเขาดูองค์พระโพธิสัตว์ที่บูชาอยู่นี่แหละ แล้วเขาก็บอกว่าให้รอ ถ้าอาจารย์คนนี้ท่านทำเครื่องรางเกี่ยวข้องกับพระกษิติครรภ์มหาโพธิสัตว์เมื่อไหร่ ให้ลื้อบูชามาแจกคนในโรงงานให้ครบ ไอ้สิ่งเล็กๆนี่แหละขอแค่เซียนตบะสูง(เค้าเรียกพ่ออาจารย์ท่านแบบนั้น)ยอมสร้างจะช่วยคนที่ฟ้ายังให้โอกาสได้อีกมาก โรงงานลื้อจะได้เปลี่ยนแปลงก้าวหน้ามากที่สุดมากกว่าสมัยรุ่นเตี่ยเสียอีก

    อย่างที่เขาว่าฟ้ารู้ดินรู้ คนไหนตามสถานการณ์ก็เป็นโอกาสคนนั้น พี่เขาเล่าว่าผมรอมาตลอดก็ไม่เห็นท่านทำซักที มาวันนี้พอเห็นตะกรุดพระมาลัยนี้แล้วก็พอดีกับความเชื่อที่ว่าองค์พระมาลัยทางเขา(สายจีน)คือพระกษิติครรภ์ แล้วก็จำที่ซินแสบอกได้ว่าท่านจะทำสิ่งเล็กๆ จึงมั่นใจว่าเป็นตะกรุดเล็กๆนี้แน่นอน

    ตรงนี้ผมก็เลยให้เขาบูชาไปส่วนหนึ่งแต่ไม่ได้ให้ไปทั้งหมด เพราะต้องตัดยอดไว้เล็กน้อยตกสี่ห้าดอก เผื่อในกระทู้นี้ใครสนใจก็จะได้จองกันบ้าง แบ่งๆกันไปใช้เผื่อให้คนอื่นได้เช่าด้วย เพราะตะกรุดขอให้ได้เป็นนี้ท่านว่าจะเป็นตำนานในสายตะกรุดลูกอมของท่าน ต่อไปใครมีเขาจะรีบเอาไปทำกระเช้าทองคล้องคอกันเองเวลาอธิษฐานแล้วได้สมใจ


    * ก็แวะมาเล่าให้ฟัง ใครชอบของเล็กๆจับเบาๆห้อยสบายแต่พุทธคุณล้น อันนี้แนะนำ
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,309
    ค่าพลัง:
    +17,478
    ช่วงนี้มีแต่คนถามหาพระขรรค์เข้ามาเพราะกดย้อนๆกลับไปอ่าน บางคนไม่ถามโอนเงินมาเลยก็มีแล้วค่อยมาบอก อันนี้ไม่มีให้จองแล้วนะครับหมดนานแล้ว แต่ก็แปลกเพราะรายการพระขรรค์นี่มีประสบการณ์มากระทุ้งตาอยู่ทุกวันเล่ามาให้อ่านกันตั้งแต่เรื่องเล็กๆไปถึงเรื่องใหญ่ๆ

    * ใครที่โอนมาแบบไม่ได้จองไม่ได้บอกกล่าวก็ต้องโอนกลับให้ แต่ขออนุญาติว่าถ้าไม่ได้ถามหรือจองมาก่อน ช่วยงดแบบโอนเงินแล้วค่อยแจ้งมานะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กันยายน 2018

แชร์หน้านี้

Loading...