ฤกษ์ดี คืออะไร

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย บ้องแบ้ว, 28 กันยายน 2016.

  1. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ฤกษ์ดี คืออะไร

    พระบรมศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภต่ออาชีวกคนหนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนาว่าด้วยเรื่องฤกษ์ดีและยามดีที่แท้จริง

    ครั้งหนึ่งกุลบุตรชาวบ้านนอกผู้หนึ่ง ไปขอกุลธิดานางหนึ่ง ในกรุงสาวัตถี ให้แก่ลูกชายของตน นัดหมายวันกันว่า ในวันโน้น จักมารับเอาตัวไป

    ครั้นก่อนถึงวันนัด จึงถามอาชีวกผู้เข้าไปสู่ตระกูลของตนที่คุ้นเคยกันว่า

    "พระคุณเจ้าผู้เจริญ วันนี้ พวกผมจักทำมงคลอย่างหนึ่ง ฤกษ์ดีไหมครับ"

    อาชีวกนั้นโกรธอยู่แล้วว่า คนผู้นี้ ครั้งแรกไม่ถามเราเลย บัดนี้ เลยวันไปแล้ว กลับมาถามเรา เอาเถิด จักต้องสั่งสอนเขาเสียบ้างจึงพูดว่า วันนี้ ฤกษ์ไม่ดี พวกท่านอย่ากระทำการมงคล ในวันนี้เลย ถ้าขืนทำจักพินาศใหญ่

    คนในตระกูลพากันเชื่ออาชีวกนั้น ไม่ไปรับตัวในวันนั้น. ฝ่ายพวกชาวเมืองที่ได้จัดการมงคลไว้พร้อมแล้ว ไม่เห็นพวกนั้นมา ก็กล่าวว่า พวกนั้นกำหนดไว้วันนี้ แล้วก็ไม่มา แม้การงานของพวกเรา ก็ใกล้จะสำเร็จแล้ว เรื่องอะไรจักต้องไปคอยพวกนั้น จักยกธิดาของเราให้คนอื่นไป แล้วก็ยกธิดาให้แก่ตระกูลอื่นไป ด้วยการมงคลที่เตรียมไว้ นั้นแหละ

    ครั้นวันรุ่งขึ้น พวกที่ขอไว้ก็พากันมาถึง แล้วกล่าวว่า พวกท่านจงส่งตัวเจ้าสาวให้พวกเราเถิด. ทันใดนั้น ชาวเมืองสาวัตถีก็พากันบริภาษพวกนั้นว่า พวกท่านสมกับที่ได้ชื่อว่า เป็นคนบ้านนอก ขาดความเป็นผู้ดี เป็นคนลามก กำหนดวันไว้แล้ว ดูหมิ่นเสีย ไม่มาตามกำหนด เชิญกลับไปตามทางที่มากัน นั่นแหละ. พวกเรายกเจ้าสาวให้คนอื่นไปแล้ว

    พวกชาวบ้านนอกก็พากันทะเลาะกับชาวเมือง ครั้นไม่ได้เจ้าสาว ก็ต้องพากันกลับไปตามทางที่มา นั่นเอง เรื่องที่อาชีวกกระทำอันตรายงานมงคลของมนุษย์เหล่านั้น ปรากฏว่ารู้กันทั่วไปในระหว่างภิกษุทั้งหลาย

    ภิกษุเหล่านั้นประชุมกันในธรรมสภา นั่งพูดกันว่า อาวุโสทั้งหลาย อาชีวกใจพาลนั้นได้กระทำอันตรายงานมงคลของตระกูลเสียแล้ว.

    พระศาสดาเสด็จมาแล้วตรัสถามว่า

    "ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ พวกเธอกำลังสนทนากันด้วยเรื่องอะไร? ครั้นภิกษุทั้งหลายกราบทูลให้ทรงทราบแล้ว

    พระพุทธองค์ตรัสว่า

    "ภิกษุทั้งหลาย มิใช่แต่ในบัดนี้เท่านั้น ที่อาชีวกกระทำอันตรายงานมงคลของตระกูลนั้นเสีย แม้ในกาลก่อน ก็โกรธคนเหล่านั้น กระทำอันตรายงานมงคลเสียแล้ว เหมือนกัน แล้วทรงนำเอา เรื่องในอดีตชาดกมาเล่าให้ฟังดังนี้ในทำนองเดียวกันเป๊ะ

    ขณะที่ชาวชนบทและชาวเมืองต่างทุ่มเถียงกัน ก็มีบุรุษผู้เป็นบัณฑิตชาวเมืองคนหนึ่งที่เดินทางไปชนบทด้วยกิจการบางอย่าง ได้ยินชาวเมืองเหล่านั้นกล่าวว่า พวกเราถามอาชีวกแล้ว จึงไม่มาเพราะฤกษ์ไม่ดีเป็นเหตุ

    บัณฑิตก็พูดว่า "ฤกษ์จะมีประโยชน์อะไร เพราะการได้เจ้าสาวก็เป็นฤกษ์อยู่แล้ว มิใช่หรือ"

    บัณฑิตได้กล่าวเป็นคาถาว่า

    “ ประโยชน์ผ่านพ้นคนโง่ ผู้มัวคอยฤกษ์ยามอยู่ ประโยชน์เป็นฤกษ์ของประโยชน์ ดวงดาวทั้งหลาย จักทำอะไรได้ ”

    พระพุทธองค์ตรัสสรุปว่า

    "เมื่อประพฤติถูกต้อง ด้วยกาย วาจา ใจ ในเวลาใด
    เวลานั้นชื่อว่า เป็นฤกษ์ดี มงคลดี
    สว่างดี รุ่งดี ขณะดี ยามดี"

    เพราะฉะนั้นหากทำการสิ่งใดด้วยความมี ศีล สมาธิ ปัญญา ไม่ประมาทในโลกธรรมทั้ง8 แล้ว ในทุกๆ วันนั้นก็จะมีแต่เรื่องดีๆ เกิดขึ้นอยู่เสมอ

    โมทนาสาธุ

    *************

    https://www.facebook.com/Sabiangbunpublishing
    ‪#‎หนังสือธรรมทาน‬ ‪#‎เสบียงบุญ‬ ‪#‎ธรรมะ‬ ‪#‎พระพุทธเจ้า #ธรรมทาน
     

แชร์หน้านี้

Loading...