ลางสังหรณ์แม่นยำ พูดเล่นแต่เป็นจริง เกิดจากอะไร

ใครรู้ช่วยบอกหน่อยครับ

 

ลางสังหรณ์แม่นยำ - เคยฝึกกสิณไฟ กสิณสีขาว กสิณสว่าง
พูดเล่นแต่เป็นจริง - สัจจะบารมี

 

บังเอิญครับ แต่เหตุที่ทำให้บังเอิญมันเกิดขึ้นจริง มีหลายปัจจัยมากครับ

 

ผมว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญครับ เป็นหลายครั้งมาก ผมคิดอยู่หลายครั้ง ว่ามันบังเอิญหรือเปล่า เดียวนี้ผมไม่เชื่อเรื่องบังเอิญ ผมว่าการเกิดมาหรือไม่ว่าเกิดเป็นอะไรมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

 

คล้ายๆกับของผมเลยครับ เดี๋ยวนี้ผมไม่ค่อยพูดง่ายๆแล้วครับ บางครั้งเขาแอบทำกับพวกแต่ผมแกล้งพูดเล่น ดันตรง เขาอาย แต่ผมบาป

 

เป็นเรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกัน เพียงแต่ใส่ใจกับการที่เกิดเรื่องที่ดูจะสอดคล้องกับที่เคยพูด เลยจับมาเป็น ประเด็นที่ตนมั่นใจว่าเป็นเรื่องขลัง..เพราะปุถุชนทั่วไป นิยมเรื่องเร้นลับ.เรื่องขลัง. เรื่องแปลกพิสดาร...ยิ่งหาคำอธิบายไม่ค่อยได้เลยยิ่งชอบและแน่ใจว่านี่แหละ เป็นเกี่ยวข้องกับความศักดิ์สิทธิ์ทีเดียว...แม้คนที่เกี่ยวข้องพอได้รับรู้เห็นจริงตามนั้นก็ย่อมตื่นเต้นแปลกใจ ไม่อาจเก็บไว้ในใจตนเพียงลำพัง จึงนำไปบอกเล่าสืบกันไป ไม่นานท่านผู้พูดจะมีชื่อว่าเป็นผู้มีวาจาศักดิ์สิทธิ์..และเป็นที่มาของการไปมาหาสู่เพื่อลาภสักการะ ดังที่ปรากฏในชุมชนขาวไทยมากมายหลายแห่ง..นี่คืิออาการปรากฏของความงมงาย เพราะขาดปัญญาไตร่ตรองด้วยดี และนิยมถือมงคลตื่นข่าวมากกว่าจะไปศึกษาพระธรรมของพระพุทธเจ้าที่เกื้อกูลแก่ปัญญาอย่างที่สุด จนความงมงายไม่อาจเกิดปรากฏได้ในพระศาสนานี้.....

เมื่อจะเอาเหตุผลกันก็ต้องถามว่า ที่ว่าพูดเล่นแล้วเกิดจริงนั้น มีพูดอะไรบ้าง?..ปรกติก็จะไม่นอกเหนือไปจากเรื่องของโลกธรรม๘ ..อันเป็นเรื่องที่เกิดได้เกือบตลอดเวลาแม้ไม่ต้องพูดอะไรๆ..

และหากมีวาจาศักดิ์สิทธิ์ จริง ก็น่าจะเกิดเหตุจริงตามที่พูดทุกครั้ง แล้วเป็นเช่นนั้นหรือไม่เล่าครับ?..หรือบางทีจริงบางทีไม่จริงเอาแน่อะไรไม่ได้?..

ถ้าทำได้ ช่วยพูดใหัเว็บพลังจิตได้รับเงินบริจาคเพื่อสนับสนุนเว็บเกิน๑๐ล้านภายในเดือนนี้ดูเถิด น่าจะดีนะครับ..... ลองดูก็ดีเผื่อจะพิสูจน์ได้ในที่ธารณชนนี้ว่า ท่านจขกท มีวาจาศักดิ์สิทธิ์..ข้าพเจ้าขอลุ้นช่วยด้วยเต็มกำลังขอรับ..

..และอาจมีเพื่อนสมาชิกผู้กำลังทุกข์เพราะเสื่อมลาภแลยศ อาจติดต่อขอความช่วยเหลือ จะได้เป็นโอกาสในการเจริญกุศลอย่างกว้างขวางของท่านจขกท ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนั้นได้ก็ขออนุโมทนาอย่างยิ่งด้วยครับ

ป.ล. การพูดเล่น เป็นมิจฉาวาจา ที่เรียกว่าพูดเพ้อเจ้อ ไม่อาจเป็นกุศลอะไรได้ จึงไม่พึงเข้าใจผิดว่าการพูดเล่นจะกลายเป็น"สัจจะบารมี"อะไรๆได้นะครับ..

 

พูดแล้วเป็นจริงเกิดจากสัจจะบารมีที่เคยสะสมมา
ไม่ใช่พูดเล่นแล้วเป็นสัจจะบารมี
ว่าง ๆ ก็หาความรู้บ้างนะ

 

เพื่อนผมเขาให้ผมไปลงเกมให้ ผมก็ไปกับเพื่อนเดินไปจะถึงบ้านเขาแล้วผมก็พูด ถ้าเมิงไม่ซื้อต้มตำกุ้งให้กินจะไม่ลงเกมให้(พูดเล่นแต่อยากกิน ถ้าลงเกมแล้วว่าจะไปซื้อ)
พอผมลงเกมให้เพื่อนแล้ว กำลังจะกลับบ้าน พ่อเพื่อนผมเขาเอาต้มยำกุ้งใส่ถุงให้ผม
ผมก็กลับบ้าน

 

ส่วนนึงคิดว่าเป็นบารมีหรือบุพกรรมบุญของแต่ละคน
แต่คิดว่าพยายามไม่พูดถึงผู้อื่นในแง่ที่ไม่ดี หรือว่า
ตำหนิต่อว่า บางทีเราก็ไ่ม่รู้ตัว แต่มันจะเป็นกรรมติด
ตัวเราอีกด้วยหนะค่ะ

 

=======

ความจริงแล้วการเกิดขึ้นของสิ่งต่างๆ ย่อมมีเหตุปัจจัย เสมอ จะด้วยกรรมในอดีตหรือกรรมในปัจจุบันให้ผล หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จิตวิญญาณ ดลบรรดาล หรืออะไรอีกมากมายครับ หากใคร่รู้สาเหตุ ความจริง ของให้ท่านเจริญสมาธิภาวนา ให้จิตสงบเกิดสมาธิ ฌาณ และญาณ ทัศนะเกิด ท่านก็จะทราบทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้

เราได้ปฏิบัติและผ่านเรื่องราวเหล่านี้มามากแล้ว เรารู้ได้ถึงเหตุแห่งนิมิตที่เกิดในสมาธิของเรา ว่า สังขาระวิญญาณของตนเป็นผู้ทำให้เกิด หรือ วิบากกรรมให้ผล หรือจิตวิญญาณของเจ้ากรรมนายเวรให้ผล หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบรรดาล หรือพยามารกระทำให้เกิด หากที่มาและสาเหตุดีงาม สะอาดบริสุทธิ์ นิมิตเหล่านั้นปรากฏจริง ย่อมเป็นของจริง หากจิตปรุงแต่เมื่อไหร่ พยามารหลอกลวงเมื่อไหร่ ย่อมเป็นโทษและไม่ใช่ของจริง

ลองทำดูนะครับ ลองปฏิบัติดูแล้วจะทราบคำตอบทุกอย่างดีที่สุดด้วยจิตตนเองครับ สาธุ

 

งั้นผมขออย่างนึงครับ หากวาจาคุณศักดิ์สิทธิ์จริง ช่วยบอกให้ผมได้เงินสิบล้านภายในเดือนนี้ทีครับ ถ้าได้จริง ผมจะแบ่งให้คุณเลย 5 ล้าน สนใจมั้ยครับ?

หรือถ้าคิดว่ามันมากเกินไป เอาอย่างนี้ พูดว่าขอให้ผมได้เงิน 100 บาท จากเพื่อนเก่าที่ไม่เคยเจอกันมาเป็นสิบปีซักคน ถ้าได้จริง ผมจะโอนให้คุณเลย 200 บาทครับ ลองดูมั้ยครับ??

 

ตรง ๆ นะครับ มีสติหน่อย อย่าหลอน คนที่เค้าวาจาศักดิ์สิทธิ์จริงเค้าไม่อวดอ้างหรอกครับ เพราะถ้าทำได้ขนาดนั้น เค้าจะรู้เองแหละครับว่ามันเกิดจากอะไร กรรมตัวไหนหรือของเก่าตัวไหนติดมา ไม่มาตั้งกระทู้เพ้อเจ้อเรียกร้องความสนใจในนี้หรอกครับ

 

ผมไม่ได้บอกว่าผมมี่วาจาศักดิ์สิทธิ์สักหน่อย มันอาจจะเกิดจากอย่างอื่นก็ได้
ถ้างั้นผมตั้งชื่อกระทุ้เป็น พูดวาจาสิทธิ์ไม่ดีกว่าหรือ ผมพิมพ์ตรงไหนว่าผมมีวาจาสิทธิ์
ถ้าผมมีวาจาสิทธิ์ผมคงไม่มาถามคนอื่นหรอกครับ ผมเกิดมาผมไม่ได้รู้ทุกอย่างนะครับ

 

ความจริงแล้วการเกิดขึ้นของสิ่งต่างๆ ย่อมมีเหตุปัจจัย เสมอ จะด้วยกรรมในอดีตหรือกรรมในปัจจุบันให้ผล หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จิตวิญญาณ ดลบรรดาล หรืออะไรอีกมากมายครับ หากใคร่รู้สาเหตุ ความจริง ของให้ท่านเจริญสมาธิภาวนา ให้จิตสงบเกิดสมาธิ ฌาณ และญาณ ทัศนะเกิด ท่านก็จะทราบทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้
อาจจะเกิดเพราะอย่างนี้ก็ได้นะครับ จากคุณ tjs

 

ง่ายๆ ก็ไม่พูดอะไรเล่นๆ นะสิ

 

เกิดจากจิตของเราเตือนเราเองคะ
ถ้าตอนนี้คุณไม่ใช่คนนั่บำเพ็ญสมาธิหรือฝึกจิตก็แสดงว่าได้มาจากหลายทาง ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
หนึ่ง บรรพบุรุษที่มีจิตของคุณ คือคุณกลับชาติมาเกิด แต่จิตเดิมก็ยังอยู่และตามคอยบอกเตือนคุณเอง
สอง คุณเคยบำเพ็ญจิตมาแต่ปางก่อนแล้วรึกได้ว่าภพหน้าจะเจอกับอะไร จึงผนึกจิตบอกเตือนล่วงหน้าไว้
คุณจึงเหมือนกับคิดได้หรือพูดได้แล้วมันเป็นตามที่คิดหรือตามที่พูด
ไม่ได้เกิดด้วยวาจาศักดิ์สิทธิ์ แต่เป็นจิตสัมพัสที่ระลึกได้ เกิดจากจิตเมื่ออดีต ฝังความทรงจำไว้ให้ ว่าต่อไปจะเจอกับเรื่องอะไรบ้าง

พูดง่ายๆก็คือ คุณรู้ว่าจะทำอะไรยังไง ต่อไป แต่คุณลืมเพราะคุณเกิดมาในชาติภพใหม่ แล้วคุณมานึกออกทีหลงตอนจะเจอหรือใกล้จะเจอกับเรื่องราวนั้นๆ ด้วยว่าจิตครั้งอดีตผนึกความทรงจำไว้ให้ เหมือนไว้คอยช่วยเหลือตัวเองนั่นแหละคะ

ถ้าตอนนี้คุณฝึกบำเพ็ญสมาธิ คุณจะสัมพัสกับจิตเก่าของคุณได้มากยิ่งขึ้น คุณจะรู้ว่าเขากำลังจะพยายามบอกเตือนอะไรกับคุณอยู่หรือเปล่า

ขอให้ทุกท่านระลึกถึงจิตแห่งตนได้เสมอนะคะ