ลำดับให้หน่อยครับ

ผมสนใจการเข้าสู่นิพพาน ประเภทที่ 3 อภิญญา 6 ครับ
แต่ไม่ทราบว่ามันเริ่มปฏิบัติยังไงครับอ่านที่การฝึกอภิญญายังงงๆ
ใช่การเริ่มฝึกกสินก่อนใช่หรือไม่ครับ
แต่กสินมันเป็นสมถะอะครับมันจะบรรลุได้ยังไงครับ

แล้วฝึกอยากนี้แตกต่างกับการฝึกสติปัฐฐาน 4 ยังไงครับ
สรุป ควรยังไงควรฟังเทปไหนก่อนครับเพราะในคลังเสียงธรรมมะมันเยอะมากผมงงครับ
ขอบคุณมากครับ

 

ผมอ่านข้อความแล้วผมก็งงเหมือนกัน(ping-love

 

ถ้าฝึกภาวนาแบบเพ่งกสิณจนได้ฌาน แล้วมาเจริญวิปัสสนาทับบนฌานที่ได้ ถ้าฝึกจนบรรลุ
จะเปนประเภทปฏิสัมภิทาญาน ถ้าแบบอภิญญาหกต้องฝึกภาวนาพุทโธแบบอานาปานสติครับ อย่างน้อยต้องได้ฌาน4 ก่อน แล้วฝึกเข้าออกฌานได้เร็ว และนั่งสมาธินานได้ที่จิตอธิษฐาน อภิญญา1 ใน6 ข้อถึงจะเกิด ก้ค่อนข้างยากเหมือนกันนะ

จิตสงบนี้ก้ยากแล้ว แต่สงบจนได้ฌานแล้วทรงฌานจนหยั่งถึงความรู้พิเศษทางอภิญญาเข้าไปด้วยจะยากขึ้นอีกขั้นหนึ่ง

ส่วนฝึกสติปัฏฐานสี่ มีไว้เพื่อรับรู้อารมณ์ขันธห้าคือกายกับใจ แล้วเจริญเพื่อให้เข้าถึงวิปัสสนาญานเน้นอารมณ์ที่เตรียมละหรือปล่อยวางด้วยอนัตตาเป้นหลัก เน้นเหนการเกิด
ดับของเวทนาและสังขารทั้งหลายสะท้อนกลับไปสู่ไตรลักษณ์ เพิ่อเปนฐานในการเข้าสู่การดับทุกข์ทั้งหลายภายในจิตและยกระดับจิตโดยยึดนิพพานเป็นอารมณ์

 

ถ้าฝึกแบบเพ่งกสินมาก่อนแล้วมาเจริญวิปัสสนา จะติดฌานเจริญยากจริงมั้ยครับ

 

RE;การฝึกอภิญญาหรือเจริญสติภาวนาดี(ก็คล้ายๆบ้างนั่นแหละต่างกันตรงปลาย)

ฝึกให้ฌานก่อนครับ ไม่ต้องกลัวหรอกว่าจะติดในฌาน ฌานจากการฝึกกสินมีความมั่นคง และอารมณที่เข้าถึงฌานนั้นสมาธิจะแน่นมาก แต่ถ้ากลัวติดสมาธิ
ในฌานจริงล่ะก้ ก้อหลังจากนั่งสมาธินิ่งๆเสร็จ ก็ให้ลองมาเดินจงกรมต่อสิ

เพราะพระสายอรัญญาวาสี เขาจะทำการนั่งฌาน กับเดินจงกรมเพื่อรู้อารมณอายตนะ สลับกันระหว่างเดินกับนั่ง ให้จิตมีสมาธิอยู่แล้วมาเจริญปัญญาภาวนาต่อ พอทำไปแล้วเกิดความอ่อนแอเบื่อหน่ายหรือหมดกำลังใจก้ให้กลับเข้าไป
นั่งนิ่งให้เปนฌานใหม่เพื่อรักษาระดับสมาธิและหล่อเลี้ยงจิตใจในอารมฌาน
เพราะอารมณ์นี้ระงับบนิวรธรรมทั้งหลายให้หมดกำลังลง ที่เล่ามาก้เล่าสนุกนะครับเปนบันเทิงธรรม คุณชอบทำแบบไหนก้ทำไปเถอะ จะเน้นไปเพื่อให้ได้ฌาน
เพื่อได้อภิญญา หรือไปสายสติปัฏฐานเจริญสติปัญญาให้ร้ถึงธรรมชาติของจิตและการปรุงแต่งของจิต จะทำแบบไหนก้แล้ว ทั้งหลายเหล่านี้มันก้พ่วงกันอยู่ทั้งนั้น ที่สำคัญเรามีความพร้อมและกำลังใจที่เบิกบานในการปฏิบัติแค่ไหนด้วยครับ

อีกอย่างจะฝึกแบบไหนก้ขึ้นกับว่าเราชอบแบบไหน ถ้าชอบแบบไหนก้ฝึกแบบนั้น
ก่อนเลยไม่ต้องลังเล และอาศัยบรรกาศความสงบในสถานที่เป้นตัวช่วยดึงจิตให้สงบด้วยนะครับ ส่วนตัวผมนั้นชอบสวดมนต์สั้นๆก่อน และภาวนาแบบสติปัฏฐาน
จริงๆก้เหมือนเพ่งกสิน หรือไม่ก้ภาวนาแบบพุทโธแหละครับ แต่ว่าเอาจิตมาจับที่
อาการเคลื่อนไหวของกาย และดูมันกลับไปกลับมาจนจิตมันคงที่ไม่สนใจเรื่องอื่นจิตไม่ฟุ้งซ่านพอไม่ฟุ้งซ่านติดๆกันเข้าจะค่อยๆสงบจนนิ่งจะเปนฌานแต่ยังไม่
ใช่ฌานหรอก ให้ประคองอารมณในขณะถ้ามีความรู้สึกทางไหนเกิดขึ้นก้ให้กำหนดจิตให้ทันกับความรู้สึกนั้นจนรู้สึกว่าควบคุมได้หมดเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นทางเวทนาอารมณ์ถ้าเกิดแล้วกำหนดจิตรับรู้ได้ทัน ถือเป็นประโยชน์และเปนอาจารย์
ทางมโนทวารทั้ง6 ที่คอยมาสอนเรา ถือได้ว่าได้ผลงานทางภาคปฏิบัติมากๆ:boo: