เรื่องเด่น วัดทักซัง ภูฏาน ความงดงามในเมฆหมอกหิมาลัย

ในห้อง 'วัดและศาสนสถาน' ตั้งกระทู้โดย ษิตา, 5 สิงหาคม 2017.

  1. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,174
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,647
    ด้วยความสูงเทียมฟ้าเช่นนี้เองทำให้วัดทักซัง อยู่ท่ามกลางเมฆหมอกสีขาวที่ล้อมรอบวัด

    10301-0-307cbe2978247787bcea01efe5f5689d.jpg


    วัดทักซัง ภูฏาน วัดเก่าแก่ที่มีความสวยงามและความศักดิ์สิทธิ์ เรามาทำความรู้จักกับ วัดทักซัง ในประเทศภูฏานกันค่ะ

    ภูฏาน (Bhutan) ประเทศเล็ก ๆ ที่ล้อมด้วยภูเขาหิมาลัยและตั้งอยู่ระหว่างอินเดียและทิเบต มันจึงเป็นประเทศที่มีความสวยงามและขึ้นชื่อในเรื่องธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีที่เที่ยวซึ่งต้องบอกว่าเป็นไฮไลท์เด็ดของภูฏาน เรียกได้ว่าหากไม่มาที่นี่ก็เหมือนมาไม่ถึงภูฏาน และสถานที่นั้นก็คือ วัดทักซัง (Taktsang Dzong)

    วัดทักซัง หรือวัดรังเสือ (Tiger's Nest in Bhutan) เป็นวัดพุทธที่มีความเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในภูฏาน โดยถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1962 จุดเด่นอยู่ที่ตัววัดนั้นตั้งอยู่ริมผาซึ่งมีความสูงกว่า 900 เมตร ในเขตปาโร ด้วยความสูงเทียมฟ้าเช่นนี้เองทำให้วัดนั้นอยู่ท่ามกลางเมฆหมอกสีขาวที่ล้อมรอบวัด อีกทั้งยังสามารถชมวิวสวย ๆ ด้านล่างได้อย่างชัดเจนในวันที่ท้องฟ้าโปร่ง โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่หมู่มวลดอกไม้ต่างพากันชูช่อสวยงาม


    10301-1-307cbe2978247787bcea01efe5f5689d.jpg


    ด้านประวัติความเป็นมานั้น มีตำนานเล่าว่า ก่อนพื้นที่บริเวณนี้จะถูกสร้างเป็นวัดนั้นมี คุรุรินโปเซ (Guru Rinpoche) ซึ่งสามารถจำแลงกายเป็นเสือได้มาอาศัยอยู่ในถ้ำแห่งนี้ ครั้นจะเทศนาสั่งสอนผู้คนท่านจะกลายร่างเป็นมนุษย์เช่นเดิม และเมื่อคำสอนได้ผลผู้คนต่างพากันเสื่อมใสในพระพุทธศาสนา จึงทำให้สถานที่นี้กลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ต่อมาจึงได้มีการสร้างวิหารขึ้นเพื่อแสดงถึงความนิยมด้านพระพุทธศาสนา และเมื่อเวลาผ่านไปเนิ่นนานทำให้ตัววิหารชำรุดทรุดโทรม จนท้ายที่สุดในปี ค.ศ. 1962 จึงมีการสร้างวัดทักซังหรือวัดรังเสือขึ้นมา และได้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 1998 จากเหตุเพลิงไหม้ ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้สมบัติล้ำค่าทางพระพุทธศาสนาและทางประวัติศาสตร์ได้มอดไหม้ไปด้วย




    10301-3-307cbe2978247787bcea01efe5f5689d.jpg


    อย่างไรก็ตามการบูรณะครั้งใหม่ก็ไม่ทำให้ชาวพุทธต้องผิดหวัง ด้วยความวิจิตรงดงามของตัววัดทั้งภายในและภายนอกนั้นยังเป็นที่กล่าวขานของนักท่องเที่ยวที่ได้ไปเยือนวัดทักซัง และแม้การเดินทางขึ้นไปจะต้องใช้สองเท้าบวกพละกำลังอย่างมาก แต่นั่นก็ไม่ใช่อุปสรรคที่ขัดขวางนักท่องเที่ยวหรือชาวพุทธแต่อย่างใด ตรงกันข้ามกลับเป็นสิ่งท้าทายให้นักท่องเที่ยวอยากพิชิตยอดเขาสูงเพื่อไปถึงวัดทักซังสักครั้ง เชื่อเลยว่าภาพที่เห็นตรงหน้าจะคุ้มค่ากับความเหนื่อยยากแน่นอน

    travel%20%284%29_9.jpg


    สำหรับใครที่สนใจเดินทางไปยังวัดทักซังนั้นก็ต้องจัดตารางเวลาให้ดี เพราะวัดมีเวลาเปิด-ปิด โดยในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนมีนาคม วัดจะเปิดตั้งแต่เวลา 08.00-13.00 น. และ 14.00-17.00 น. ส่วนในเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนกันยายนจะเปิดตั้งแต่เวลา 08.00-13.00 น. และ 14.00-18.00 น. นอกจากนี้ยังต้องลงทะเบียนและฝากสัมภาระรวมถึงกล้องถ่ายรูปไว้เพราะทางวัดไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพด้านใน อย่างไรก็ตามควรวางแผนไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และจำเป็นต้องมีไกด์นำทางเพื่อความปลอดภัยค่ะ
    -----------
    ที่มา
    http://travel.kapook.com/view108569.html
     
  2. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,487
    เที่ยวภูฏานครั้งแรก ขึ้น ทักซัง เมืองพาโร พลังแห่งศรัทธาบนยอดภูผากว่า 3,000 เมตร
    Words & Photo by เอิงเอย

    p19kmno88g1u5cbg48h2q5joa51.jpg


    ครั้งหนึ่งในชีวิต กับการเดินทางข้ามภูเขา ข้ามทะเล จนมาถึงที่นี่ “ภูฏาน” ประเทศที่ได้ชื่อว่าเมืองแห่งความสุขค่ะ ภูฏานเป็นประเทศเล็กๆ ที่อยู่ติดกับอินเดียและจีน มีพื้นที่รวมกันใกล้เคียงกับ 5 จังหวัดทางภาคเหนือของประเทศไทยเรานั่นเอง ประเทศที่แสนมีความสุขและสงบเงียบนี้เป็นดินแดนแห่งพระพุทธศาสนาที่เข้มข้น และลึกซึ้ง ทำให้ทั้งประเทศมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนที่ใดในโลก และไฮไลท์ที่สุดของการมาเที่ยวภูฏาน คือการแสวงบุญ ขึ้นไปบนยอดเขาจนถึง “ทักซัง” วัดถ้ำเสืออันศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกถึงความงดงามที่มีความสูงจากระดับพื้นดินถึง 3,000 เมตรค่ะ จะโหดหินขนาดไหน ตามเรามาปีนเขาขึ้นทักซังได้เลย !



    รู้จักทักซัง

    ทักซัง หรือ วัดถ้ำเสือ (The Tiger’s Nest) นี้ตั้งอยู่ที่เมืองพาโร ประเทศภูฏานค่ะ เป็นสถานที่แห่งศรัทธาสำคัญของประเทศ และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกด้วยความงดงามและมนต์เสน่ห์แห่งโลกตะวันออกนั่นเองค่ะ

    ทักซัง แปลว่า “รังเสือ” เล่าสืบต่อกันมาเป็นตำนานว่า กูรูรินโปเซทรงขี่นางเสือเหาะมา แล้วเข้าบำเพ็ญสมาธิอยู่ในถ้ำรังเสือนานถึงสามเดือน แล้วสำแดงกายให้เห็นในภาคกูรูโดร์จีสะกดภูติผีปิศาจร้ายแล้วเทศนาสั่งสอนผู้คนในหุบเขาพาโรจนหันมายอมรับนับถือพุทธศาสนากันนั่นเอง


    p19kmns64n1q2u1l2mhqeu2seck51.jpg

    p19kmnqbia4u5opl91mrjufk771.jpg


    หลังจากรู้จักทักซังกันคร่าวๆ แล้ว ก็ได้เวลาออกเดินทางกันแล้วค่ะ เราออกจากที่พักในเมืองพาโรตั้งแต่เวลา 7 โมงเช้าเพื่อไปถึงเชิงเขา ด้วยระยะทาง และกิตติศัพท์ต่างๆ นานาที่เคยได้ยินมาว่าโหดหินเข็ญใจสุดๆ นั้นทำให้เราเลือกที่จะขึ้นม้าโพนี่เพื่อไปครึ่งทางของทักซังค่ะ วิธีการขึ้นทักซังนั้นจะมีอยู่ 2 รูปแบบด้วยกัน คือการเดิน และนั่งม้าโพนี่ไป แต่ม้าจะไปส่งเราแค่ครึ่งทางเท่านั้น ที่เหลือก็ต้องเดินต่อ และขากลับต้องเดินลงมาเอง จะไม่มีม้าคอยมารับเราค่ะ เพราะทางเดินลงค่อนข้างลาดชัน สำหรับระยะทางนั้นจะอยู่ประมาณที่ 13 กิโลเมตรค่ะ ใครที่เดินทั้งขึ้นและลงก็รวมๆ เป็น 26 กิโลเมตรคงจะผอมเพรียวกันไปเลยงานนี้ สำหรับใครที่เลือกนั่งม้าโพนี่ไปก็จะย่นระยะการเดินไปหน่อยในขาขึ้นเขา 7 กิโลเมตร เพราะม้าที่เดินไปส่งเราที่คาเฟเตอเรียเท่านั้นค่ะ

    p19kmnqbi9pua1v7d1nmgab25un61.jpg

    p19kmnqbiab6m1m97is53741tlu81.jpg

    p19kmnqbi7m2ematclf1ee714f151.jpg

    ** ขึ้นม้าโพนี่พร้อมเดินทาง **


    ในการเดินทางครั้งนี้จะมีหัวหน้าทัวร์ และไกด์ท้องถิ่นเดินทางไปกับเราด้วย คุณฟองเบียร์ หัวหน้าทัวร์จากเมืองไทยก็จัดแจงอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้ ทั้งน้ำดื่มสำหรับติดตัว วิธีการปฏิบัติตัวเวลาอยู่บนหลังม้า ส่วนเยชิ ไกด์ท้องถิ่นก็ช่วยดูแลในเรื่องของการหาม้า และให้ข้อมูลสำคัญต่างๆ แก่เราเพิ่มเติมค่ะ เริ่มหัวใจเต้นแรงซะแล้วสิ ไม่รู้ว่าจะไหวขนาดไหน !

    พอได้ขึ้นนั่งบนหลังม้า เป็นความตื่นเต้นที่ยากจะลืมทีเดียว ม้าโพนี่จะเดินขึ้นเขาเลียบหน้าผาตามสัญชาติญาณ ทำให้หวาดเสียวสุดๆ ไปเลยค่ะ แต่ก็ไม่มีอันตรายอะไร เพราะจะมีคนเลี้ยงม้าคอยเดินไปกับเราด้วย ระหว่างทางม้าก็จะแวะพักดื่มน้ำให้หายเหนื่อยก่อนไปต่อ บางตัวก็จะดื้อหน่อยๆ คอยเดินแซงกันในช่วงทางโค้งค่ะ เป็นประสบการณ์ที่สนุกสนานพอสมควร ใช้เวลาประมาณ 45 นาที – 1 ชม.


    p19kmnub2v39imtd1v34aku1iaj51.jpg

    p19kmnub2v11eh1n9g15eulhuauv61.jpg

    ** จุดลงม้าโพนี่ **


    เมื่อมาถึงจุดลงม้า คาเฟเตอเรียจะอยู่ด้านในเราต้องเดินเข้าไปอีกหน่อย ตรงนี้จะมีที่สวดมนต์เป็นคล้ายๆ ระฆังแขวนเยอะๆ ในวัดบ้านเราที่ปกติเราจะต้องไปเดินตีระฆังให้ดังกังวานเรียกเทวดามาอวยพรให้ แต่ที่นี่ให้เดินเอามือแตะระฆังแล้วหมุนไปเรื่อยๆ ที่ระฆังจะสลักอักษรทิเบตไว้ซึ่งเป็นบทสวดนั่นเองค่ะ เรียบร้อยแล้วเราก็เดินพักผ่อนที่คาเฟเตอเรีย ซึ่งฟองเบียร์ ไกด์ผู้น่ารักของเราได้เตรียมชา กาแฟ ขนมให้เราเรียบร้อยแล้ว ที่นี่จะเป็นจุดเดียวที่มีห้องน้ำไว้คอยให้บริการนักท่องเที่ยว เพราะฉะนั้นใครจะเข้าห้องน้ำต้องตรงนี้เลยค่ะ จากจุดนี้ถือว่าขึ้นทักซังมาได้ครึ่งทางแล้ว ต้องขอบคุณม้าโพนี่ที่ช่วยส่งเรามาแสวงบุญโดยที่เรายังมีแรงมีพลังอยู่ ไม่ค่อยเหนื่อยมากเท่าไหร่ ที่นี่จะมองเห็นทักซังตั้งอยู่บนชะง่อนผาไกลลิบๆ ด้วยค่ะ


    p19kmnub2v1qsb12hoeqb8i113hu71.jpg

    p19kmnub3f70g15g224kk6tbqi81.jpg

    p19kmo0ora1b2jgkhrtn77i1eln51.jpg


    นั่งพักกันพอหายเหนื่อยก็ได้เวลาไปต่อ คราวนี้ไม่มีม้าโพนี่มาคอยช่วยแล้วต้องอาศัยแรงกายแรงใจล้วนๆ ถ้าให้เปรียบเทียบทางก็จะคล้ายๆ กับเวลาขึ้นเขาในบ้านเราค่ะ เป็นดินมีจุดที่เป็นเนินลาดชันบ้าง เป็นทางเดินยาวๆ สบายๆ บ้าง สลับกันไป ซึ่งไกด์จะนำทางเราเดินไปเรื่อยๆ เคล็ดลับในการเดินขึ้นทักซังที่ค้นพบด้วยตัวเองคือ ค่อยๆ เดิน หายใจลึกๆ ยาวๆ และอย่านั่งในทันทีทันใด เหนื่อยก็ต้องหยุดยืนสักพักให้ร่างกายได้หายใจทันค่ะ เพราะด้านบนนี้สูงมาก และอากาศนั้นเบาบางต่างออกไปจากเมืองไทย

    p19kmo2oj4oej1lbblqh1pc459b61.jpg

    p19kmo2oj46cv10h547i15u9ubl71.jpg

    p19kmo2oj41bfquq41fok1uneoa251.jpg


    ระหว่างทางเดินไปทักซังจะมีธงมนตราหลากหลายสีอยู่ทั่วทั้งขุนเขา จนบางทีก็นึกแปลกใจว่า ขึ้นไปติดธงบนเขาลูกนั้นด้วยวิธีไหน คนภูฏานเขาอาจจะมีเทคนิคที่เราไม่รู้ก็ได้ค่ะ แต่ถ้าไม่มีเทคนิคอะไรแล้วต้องเดินไปถึงบนนั้นเพื่อติดธงล่ะก็ คนที่นี่คงจะแข็งแรงพลังช้างมากแน่ๆ ค่ะ

    p19kmo4repjardmtn5c1q80dru61.jpg

    ** ธงมนต์ตรา **

    p19kmo4rep131thf818241jn015m471.jpg

    p19kmo4rep1nsf16ap1fhcbs5gv681.jpg

    ** ลามะเดินขึ้นเขาเพื่อไปทักซัง **

    p19kmo4rep1dakltlnt9q5vlj351.jpg

    ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.กว่าๆ เราก็มาถึงทักซังแล้ว ตรงจุดนี้มีนักท่องเที่ยวถ่ายรูปกันเยอะ เพราะเป็นวิวพอยน์ที่สำคัญ ใครที่ขึ้นไปถึงจุดชมวิวนี้แล้ว ยังไงก็ต้องระวังอันตรายกันก่อนถ่ายรูปด้วยนะคะ หลังจากเดินขึ้นเขามาก็จะมีบันไดทอดยาวไปจนถึงทักซังอีก 700 ขั้น นี่เรียกได้เลยว่าแรงศรัทธาล้วนๆ ทีเดียวค่ะ ไม่อย่างนั้นคงมาไม่ถึงที่นี่แน่ๆ


    p19kmo7b0fopkc23s43dsh19a261.jpg

    p19kmo9sif1gqr92mlljf781ufn51.jpg

    p19kmo7b0f7d422t3guhpg7g71.jpg

    p19kmo7b0f1ujmhub1811bisfsm51.jpg

    ** ทักซังสูง 3,000 เมตร จากพื้นดิน **



    ทักซังตั้งเด่นเป็นสง่าท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ และชะง่อนผาสูงชัน ด้านหน้าฝั่งตรงข้ามมีน้ำตกซึ่งชาวภูฏานถือว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ หรือ Holy Water เราสามารถดื่มน้ำจากน้ำตกธรรมชาติตรงนี้ได้เลย รับรองว่าไม่มีสารพิษอะไรใดๆ เพราะเป็นน้ำบริสุทธิ์สะอาดจากภูเขาค่ะ ล้างหน้าล้างตาพอชื่นใจ เราก็เดินไปที่ทักซังต่อ บริเวณนี้ห้ามนำสิ่งของใดๆ เข้าไปภายใน อนุญาตแค่เงินสำหรับทำบุญเท่านั้น โทรศัพท์มือถือ หมวก แว่นตา กระเป๋าต่างๆ ที่เรานำขึ้นไปก็ต้องขอฝากไว้ที่คุณฟองเบียร์ ไกด์ของเราให้ช่วยดูแลให้ และเยชิ ไกด์ท้องถิ่นก็พาเราเข้าไปด้านในทักซังเพื่อกราบไหว้ท่านกูรูรินโปเซ ผู้สร้างที่นี่ตามตำนานของชาวภูฏานค่ะ

    p19kmo9sifiah1qsjvqkdakise61.jpg

    ** น้ำศักดิ์สิทธิ์จากน้ำตก **

    p19kmo9sifmdg1fj917ua69e14dq71.jpg

    ด้านในทักซังมีหลายห้องด้วยกัน แต่ละห้องจะมีความสำคัญต่างๆ กันไป แต่ที่สำคัญที่สุดคือห้องสักการะท่านกูรูรินโปเซ ที่นี่คล้ายวัดไทยในบ้านเราในเรื่องของการทำบุญค่ะ มีห้องให้เราได้ไหว้พระ ได้นั่งสมาธิ และทำบุญ และในแต่ละห้องจะมีลามะมาให้พรเราด้วยน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์

    เยชิเล่าเรื่องภาพเขียนต่างๆ ตามผนังของแต่ละห้องด้วยความศรัทธา เราได้ฟังแล้วก็รู้จักประทับใจในความรักและพลังศรัทธาของเยชิที่มีต่อประเทศของเขาเอง เป็นความรู้สึกที่ดีค่ะ ตั้งแต่มาถึงประเทศภูฏานแห่งนี้ ได้เห็นความเรียบง่ายในวิถีชีวิตของผู้คน ได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ ได้รู้สึกถึงจิตวิญญาณ และรับรู้ได้ถึงความรักในบ้านเกิดของคนที่นี่ทั้งจากไกด์ท้องถิ่นของเราเอง และผู้คนตามถนนหนทาง เป็นความประทับใจที่ลืมไม่ลงเลยค่ะ

    p19kmocsb8crbs885g3pj25ko51.jpg

    p19kmocsb8obr12oh10gv12ck1eb461.jpg

    ** ลงจากทักซัง ดื่มน้ำจากลึงค์ศักดิ์สิทธิ์เพื่อสิริมงคล **



    p19kmocsb89mh1mf14d0l4u1vj171.jpg

    ** ฟองเบียร์ หัวหน้าไกด์ และ เยชิ ไกด์ท้องถิ่น **


    หลังจากลงมาถึงพื้นดินราบๆ ด้านล่างทักซังได้ ถึงแม้ขาจะสั่นนิดๆ แต่เราก็ภูมิใจตัวเองสุดๆ ที่มีพลังในการเดินขึ้นไปให้ถึงยอดเขาเพื่อกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวภูฏานได้ การเดินทางครั้งนี้ต้องยิ่งกว่าขอบคุณทั้งคุณฟองเบียร์ หัวหน้าทัวร์ของเราที่ช่วยเหลือตลอดการเดินทาง และเยชิ ไกด์ท้องถิ่นที่ให้ข้อมูลมากมาย รวมไปถึงต้องขอบคุณเพื่อนร่วมเดินทางทุกคนที่ช่วยเหลือเกื้อกูลกันเป็นอย่างดีให้ผ่านอุปสรรคในการขึ้นเขาที่โหดหินนี้ แค่แรงกาย อาจจะยังไม่พอต้องมีแรงใจอย่างเข้มแข็งด้วยเช่นกัน การเดินทางครั้งนี้จบลงด้วยรอยยิ้มและความอิ่มบุญ หวังว่าครั้งหน้าได้มาถึงภูฏานเมื่อไหร่ พลังใจจะพาเราไปถึงยอดทักซังอีกครั้ง


    -------------
    ขอบคุณที่มา
    http://travel.trueid.net/detail/42638
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 สิงหาคม 2017
  3. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,174
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,647




     

แชร์หน้านี้

Loading...