วัตถุมงคลในนิโรธสมาบัติ, ผ้ายันต์

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Muang99, 16 มีนาคม 2017.

  1. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,242
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,515
    abc
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 เมษายน 2017
  2. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,242
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,515
    พระเครื่องและวัตถุมงคล ที่ให้เช่าบูชา รับประกันแท้ 100%

    ท่านที่สนใจเช่าบูชา ลงจองในกระทู้นี้ได้เลยครับ หรือติดต่อหาผมทางมือถือ หรือทาง PM ครับ

    ท่านที่ได้จองเอาไว้ จองได้ 3 วันครับ ถ้าเลยกำหนดแล้วไม่ได้โอนเงิน ก็ขอยกเลิกสิทธิ์การจองครับ

    กรุณาช่วยค่าจัดส่ง 50 บาท

    บัญชีสำหรับโอนเงินนะครับ : ธนาคารกรุงเทพ หมายเลขบัญชี 129-5-235657 ชื่อบัญชี เมธา รุ่งพัฒนพันธ์


    ติดต่อหาผมได้ที่ มือถือ 081-2670895
    เมธา.
     
  3. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,242
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,515
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ยังเคยสั่งให้ลูกศิษย์คณะหนึ่งตามหาพระดีองค์หนึ่งที่จะมาอยู่ชายแดนอ.พญาเม็งรายและอ.เทิง......ซึ่งก็คือองค์ครูบาท่านนั่นเองครับ
     
  4. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,242
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,515
    เมื่อคราวหลวงพ่อดาบส สุมโน แห่งอาศรมไผ่มรกต ดำรงสังขารอยู่ได้เคยบอกลูกศิษย์ไว้ว่า "ถ้าสิ้นเราให้ไปหาครูบาองค์นี้" นั่นก็คือ ครูบาพรชัยนั่นเองครับ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มีนาคม 2017
  5. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,242
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,515
    สมาชิกท่านหนึ่ง ได้ PM มาบอกว่า ได้สวด "อะกะยะวะ" ที่ผมลงไว้ที่อีกกระทู้หนึ่ง ทำให้ถูกล็อตเตอร์รี่จำนวนหลายใบ

    ประสบการณ์ของผู้ที่บูชาพระเครื่องวัตถุมงคลครูบาพรชัย วรปัญโญ ที่ทำให้มีโชคลาภทางด้านการเงิน ที่ผมพอทราบมาก่อนอยู่แล้ว คือ พระผงครูบาพรชัย วรปัญโญ ซึ่งปัจจุบันราคาบูชายังไปไม่ไกล
     
  6. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,242
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,515
    vw5_7r1cjafc4ztqzelonhf2x4q2i5o9luhdk1cisep-_jfjxfg22td77d_-w455-h619-no-jpg-4092703-jpg.4099679.jpg
    0-b8-94-e0-b9-89-e0-b8-b2-e0-b8-99-e0-b8-ab-e0-b8-99-e0-b9-89-e0-b8-b211-jpg-4092710-jpg.4099680.jpg
    0-b8-94-e0-b9-89-e0-b8-b2-e0-b8-99-e0-b8-ab-e0-b8-a5-e0-b8-b1-e0-b8-8711-jpg-4092711-jpg.4099681.jpg

    8.พระหนุนทรัพย์ รากฐานมั่นคง หลวงพ่อหนุน วัดป่าพุทธโมกข์ บูชา 400 บาท


    พระหนุนทรัพย์ รากฐานมั่นคง ที่ระลึกงานวางศิลาฤกษ์พระอุโบสถ ๙ พฤษภาคม ๒๕๕๗ วัดป่าพุทธโมกข์ อ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร

    มวลสารพระหนุนทรัพย์ รากฐานมั่นคง หลวงพ่อหนุน :
    1.ผงศักดิ์สิทธิ์ มหาโภคทรัพย์
    2.เทียนชัยหลวงพ่อหนุน
    3.รัตนะนาคาธาตุ
    4.สายสิญจน์ พุทธาภิเษก หลวงพ่อหนุน 17/01/2556
    5.ปฐวีธาตุ มหาโภคทรัพย์
    6.มวลสารมงคล 500 ชนิด
    7.แร่ทรหด ร่ำรวย
    8.ทรายเสก องค์หลวงพ่อวัดท่าซุง (ทัน กันภัย)
    9.แร่พิเศษ หลวงพ่อหนุน มหาอำนาจ


    3595787-7965f87049f03c2a719808b401007d9e.jpg 3595788-bf24732efd70d4e5733d0bbd061fa8c5.jpg 3595789-07c2328a33939df92a697a8d3b5993f8.jpg 3595790-55bdf6b6feb651e84dc90395bb6b6257.jpg 3595791-05065adbce4d911919d00690a2d7e203.jpg 3595792-18cabc227938e63550a729e63619d5ed.jpg 3595794-ef956dbc35174c220ba2e190133d2768.jpg 3595795-a7d1db2cc7d58072254df305a9c09417.jpg 3595796-ef72104bae6a29ee63735242cb20febb.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มีนาคม 2017
  7. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,242
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,515
    b2230bb241cd2dc92870d67ea022d7526ac55c29_280x417_q75-jpe-3905727-jpg-4086895-jpg.4099677.jpg

    พระครูนิภาวิหารกิจ (ดำ จนฺทสโร)


    หลวงพ่อดำ จนฺทสโร (15 เมษายน พ.ศ. 2484 — 3 ธันวาคม พ.ศ. 2551) อดีตเจ้าอาวาส วัดใหม่นภาราม ผู้ที่สืบทอดวิชาการสร้างไม้ครูและพระควัมบดี (พระปิตตา) มาจากหลวงพ่อครน วัดบางแซะ (เจ้าของพระปิตตาค่านิยมหลักแสนหลักล้าน) วัตถุมงคลของหลวงพ่อดำโด่งดังไปทั่วเมืองไทย สิงคโปร์ และมาเลเซีย ปิดกันให้แซ่ดว่า ขลังยิงไม่ออก แคล้วคลาดจากอันตรายนานัปการ เป็นมหาลาภ ปลดหนี้ปลดสิน พลิกฟื้นดวงชะตาได้อย่างไม่น่าเชื่อ แม้แต่ พระมหากษัตริย์ บางรัฐของมาเลเซีย ยังแขวนพระปิตตาและถือไม้ครูของท่านด้วยความศรัทธา เนื่องจากในสมัย 10 ปีก่อน มีการทดสอบพระปิตตาของท่านในมาเลเซีย ต่อหน้ากษัตริย์แห่งรัฐนั้น ผลคือมหาอุตยิงไม่ออก เป็นที่กล่าวขานทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศที่อยู่ในเหตุการณ์ เรื่องราวทั้งหมดได้ตีพิมพ์อยู่ในหนังสือพิมพ์ ครูบาอาจารย์ของท่าน นอกจากหลวงพ่อดำ ได้ไปศึกษากับหลวงพ่อครนแล้ว ท่านยังได้ไปศึกษาเพิ่มเติมกับ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี (27 มีนาคม พ.ศ. 2430 — 5 มีนาคม พ.ศ. 2524) อีกด้วย แค่เอ่ยนามก็สามารถรับรู้ทันทีได้ว่า ท่านจะมีความเก่งกล้าเพียงใดในวิชาอาคม ส่วนสหธรรมิกของท่านได้แก่ หลวงพ่อทอง วัดสำเภาเชย (5 เมษายน พ.ศ. 2461 — 26 เมษายน พ.ศ. 2554) และพ่อท่านเหมาะ วัดรังสิตาวาส จังหวัดยะลา

    ชาติภูมิของท่าน

    ท่านมีนามเดิมว่า ดำ ไกรน้อย ท่านเกิดเมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2484 ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 ณ บ้านเลขที่ 200 หมู่ 6 ตำบลพร่อน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส เป็นบุตรของนายจันทร์และนางจันทร์ ไกรน้อย มีพี่น้องร่วมกัน 2 คน ท่านเป็นบุตรคนโต ในวัยเด็กโยมบิดานำท่านมาฝากไว้ที่สำนักเรียนที่วัดใหม่นภาราม จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยมีพระอธิการจันทร์ อดีตเจ้าอาวาสวัดใหม่นภาราม เป็นผู้ดูแลและอบรมความประพฤติ ซึ่งในวัยเด็กท่านดำก็เป็นคนที่มีความประพฤติเรียบร้อยอยู่แล้ว ไม่เกกมะเหรกเกเรเหมือนเพื่อนฝูงในวัยเดียวกัน เนื่องจากครอบครัวของท่านเป็นผู้ที่เคร่งครัดในขนบธรรมเนียมประเพณี ไทยมาตั้งแต่โบราณ เมื่อถึงเทศกาลทำบุญก็จะพากันเข้าวัดเข้าวา ทำบุญสุนทานอยู่เป็นประจำ ทำให้ท่านดำมีจิตใจที่อ่อนโยน มีเมตตาต่อสัตว์อื่น ๆ เหมือนลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น และท่านเป็นคนที่มีความขยันหมั่นเพียร เอาใจใส่ในการงานเช่น การทำไร่ไถนา รวมทั้งช่างก่อสร้างที่มีฝีมือคนหนึ่ง เมื่ออายุครบ 20 ปี ท่านจึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อปี พ.ศ. 2504 ณ พัทธสีมาวัดใหม่นภาราม โดยมีพระครูนิพัทธกาลัญญา วัดประชุมชลธาดา เป็นพระอุปัชฌาย์ พระปลัดม่วง ฐิตธัมโม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการนุ้ย วัดใหม่นภาราม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า จันทสโร หลวงพ่อดำ ได้อยู่ศึกษาพระธรรมวินัยและพระปริยัติธรรม สามารถสอบนักธรรมชั้นตรีและนักธรรมชั้นโตได้ตามลำดับ ต่อมาจึงสนใจใฝ่รู้ และได้เรียนศึกษาด้านวิปัสสนากรรมฐาน ไสยศาสตร์ คาถาอาคม ได้ศึกษาวิชาเหล่านี้จาก คำภีร์ สมุดข่อยใบราณ อันเป็นของอันเก่าแก่ภายในวัด และศึกษาหลักโดยตรงกับเจ้าอาวาส จนมีความเชี่ยวชาญทางด้านภาคปฏิบัติ ปริยัติ และปฏิเวธ ในพรรษาที่ 4 ท่านได้ย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดประชาภิรมย์ อยู่ในตัวเมืองนราธิวาส ในช่วงนี้ท่านก็สามารถสอบผ่านนักธรรมชั้นเอก จำพรรษาอยู่ที่นั่นนานถึง 10 พรรษา

    การเดินธุดงค์

    เป็นการบำเพ็ญบารมีธรรม พระธุดงค์บางรูปก็ชอบโปรดชาวบ้านด้วยการสอนให้รักษาศีล ปฏิบัติสมาธิและวิปัสสนา ให้เข้าถึงพระรัตนตรัย ให้เลิกละการนับถือภูตผีปีศาจ สิ่งเหลวไหลงมงายโดยสิ้นเชิง เพราะการนับถือผีเป็นความหลงผิด มีแต่ความทุกข์ แต่การนับถือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และยึดถือศีล 5 ศีล 8 เป็นข้อปฏิบัติ เมื่อตายแล้วจะได้ไปเกิดเป็นเทวดาอยู่บนสวรรค์ หลวงพ่อดำท่องเที่ยวธุดงค์ไปทั่วภาคเหนือเป็นเวลาหลายปี สถานที่ปลีกวิเวกส่วนมากมักจะเป็นป่าช้า หรือป่าเขาลำเนาไพร ในระหว่างการธุดงค์นี้ เมื่อได้ยินข่าวว่าครูบาอาจารย์ท่านไหนดี ก็จะไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์ขอเรียนวิปัสสนากรรมฐานบ้าง เรียนคาถาอาคมบ้าง และจนกระทั่งตำราแพทย์แผนโบราณ ท่านก็ได้เริ่มเรียน หลังจากนั้นท่านได้เดินทางกลับนราธิวาสบ้านเกิดของท่าน มาจำพรรษาวักที่ท่านคุ้นเคย คือ วัดใหม่นภาราม สืบมาจนกระทั่งมรณภาพ ในปี พ.ศ. 2528 ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ ทำหน้าที่อุปสมบทให้กุลบุตรผู้ใฝ่ธรรมในปี พ.ศ. 2543 ได้รับสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นเอกที่ พระครูนิภาวิหารกิจ แต่น่าเสียดาย ท่านได้มาถึงแก่มรณภาพในวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ด้วยวัย 67 ปี 47 พรรษาเสียก่อน ทั้งทั้งที่อายุยังไม่เยอะเลย

    ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/พระครูนิภาวิหารกิจ_(ดำ_จนฺทสโร)
     
  8. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,242
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,515
    พระกริ่ง ด้านหน้า11.jpg
    พระกริ่ง ด้านหลัง11.jpg
    พระกริ่ง ด้านล่าง22.jpg

    11.พระกริ่ง (ไม่ทราบที่) บูชา 1,400 บาท

    พระกริ่งสภาพสวย ด้านล่างอักขระยันต์สวยงาม (รายการนี้ไม่มีกล่องครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มีนาคม 2017
  9. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,242
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,515
    full-jpg.4086897.jpg

    ผมเคยไปกราบท่านเมื่อนานมาแล้ว
    ตอนนั้นท่านบอกว่าจะเกิดน้ำท่วมใหญ่ทางใต้ของไทยรวมไปถึงอินเดีย คนจะตายกันมาก
    ต่อมาก็เกิดสึนามิตามที่ท่านบอก ท่านทำนายไว้ล่วงหน้าถึง 2 ปี

    ส่วนรูปนั่งบนดอกบัวนั้น คนถ่ายถ่ายรูปท่านโดยที่ท่านนั่งอยู่บนพื้นดินธรรมดา แต่เมื่อถ่าย
    ออกมาปรากฏว่ามีรูปดอกบัวล้อมรอบตัวของท่านอย่างสวยงาม ซึ่งที่ตรงนั้นเป็นที่แห้งแล้ง
    ไม่มีทางที่จะมีดอกบัวอย่างในภาพได้เลย
    องค์นี้แหละครับพระเหนือโลก เมื่อท่านมรณะภาพ ฤๅษีเกตุแก้วได้มาช่วยจัดแจงงานศพ
    ของท่านด้วยความเคารพ (ครูบาเคยบอกกับผมว่า ท่านมีอายุหลายร้อยปีแล้วและเป็นพระ
    สหธรรมิกกับหลวงปู่สรวงที่บ้านละลม ท่านยังคุยว่าท่านอายุมากกว่าหลวงปู่สรวงด้วย)


    ที่มา : ไม่ต้องกลัวน้ำจะท่วมกรุงเทพฯและสุราษฎร์ธานีแล้วครับ
     
  10. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,242
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,515
    ความศักดิ์สิทธิ์ของผ้ายันต์ ครูบาเที่ยงธรรม

    %89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88-jpg.1057357.jpg

    กราบขออนุญาตปู่ครูบาเที่ยงธรรมนำเรื่องราวมาเผยแพร่
    ดวงชะตาเล่นตลกกับชีวิต จากชีวิตของวิศวกร ที่มั่นคง มั่งคั่งด้วยทรัพย์สิน และเงินทอง ต้องมาเป็นพ่อค้าขายของเร่ นอนกลางดินกินกลางทราย อดมื้อกินมื้อ หนีหนี้หัวซุกหัวซุน จนคิดฆ่าตัวตาย และแล้วด้วยปาฏิหารย์แห่งพลังเหนือโลกของสิ่งสักการะที่ติดตัวจนวินาทีสุดท้าย ช่วยพลิกผันทำให้เอาชนะจิตใจอันอ่อนแอและอุปสรรคปัญหา ให้หันมาตั้งหลักสู้อีกครั้งจนลืมตาอ้าปากได้และทำให้ชีวิตรุ่งเรืองอีกครั้ง เฝ้าดูบอร์ดนี้มาก็นานพอควร เลยอยากแชร์ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตน ลูกหลานปู่เข้ามาคุยกันเยอะๆนะครับ เป็นของดีที่น่าเก็บไว้อย่างมากครับ ผ้ายันต์พระเจ้าห้าพระองค์ ของปู่ครูบาเที่ยงธรรมครับ ศักดิ์สิทธิ์มากครับพลังเหนือโลกจะช่วยพลิกชีวิต สิ่งที่ไม่ดี ที่ตกต่ำขอกับปู่ได้ครับ


    ที่มา : http://palungjit.org/threads/เรื่องเล่าของคนล้มแล้วลุก.249638/
     
  11. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,242
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,515
    ผ้ายันต์ครูบาเที่ยงธรรมเป็นผ้ายันต์ พิมพ์หมึก สองหน้าครับ สมบูรณ์ หรือที่ ชาวบ้านเรียกกันว่า ผ้ายันต์รอดตายจากคลื่นยักษ์สึนามิครับ
     
  12. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,242
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,515
    full.jpg
    ในช่วงฟองสบู่แตกปี2540คนมากมายที่ประสพปัญหาเศรษฐกิจในช่วงนั้นต่างเสาะแสวงหาที่พึ่งทางใจขอบารมีครูบาอาจารย์ให้ช่วยเหลือหรือขอบารมีอำนาจพุทธคุณธรรมคุณสังฆคุณซึ่งใครมาพบหลวงปู่ล้วนเกิดความสบายใจจากธรรมะที่ฟังฟังดูเหมือนท่านพูดเล่นๆแต่เมื่อนำมาคิดตรึกตรองดูก็จะรู้ว่าทุกอย่างเป็นจริงอย่างที่ท่านพูดทุกอย่าง..กฎของพระไตรลักษณ์คืออนิจจัง..ทุกข์ขัง..อนัตตา..คือสิ่งมี่ท่านมักสอนให้ฟังอย่างสม่ำเสมอ วันหนึ่งมีพระหนุ่มๆองค์หนึ่งดูจากอายุไม่น่าเกิน30ปีพระหนุ่มองค์นี้มากับแม่ทาบ้านหนองไสล..ผู้มีญานบารมีรู้อดีตชาติและเหล่าลูกศิษย์จำนวนหนึ่งพระหนุ่มองค์นี้ลูกศิษย์เรียกท่านว่า"ปู่ฤษีภควา"เมื่อหลวงปู่เจอพระหนุ่มองค์ทั้งสองทักทายกันเหมือนเพื่อนสนิทเข้าจับไม้จับมือและสนทนากันเหมือนเพื่อนสนิททั้งๆที่ดูแล้วหลวงปู่อายุมากกว่ามากมีอาวุโสกว่าควรที่พระหนุ่มควรแสดงความเคารพแต่พระหนุ่มองค์นี้กลับพูดเล่นกับหลวงปู่อย่างสนิทสนมพูดเล่นอย่างเป็นกันเองทำให้ผมสงสัยเป็นอย่างมากได้แต่นั่งเงียบๆฟังท่านคุยกัน..หลังจากปู่ฤษีภควากลับไปผมจึงถามความเป็นมาว่าทำไมพระหนุ่มองค์นี้จึงไม่แสดงความเคารพในเรื่องอาวุโสของหลวงปู่..ท่านจึงเล่าว่าท่านกับปู่ฤษีภควาเป็นเพื่อนกันมาหลายภพหลายชาติแล้วเมือ500ปีก่อนเคยเกิดเป็นฤษีและร่วมปฏิบัติธรรมกับปู่ฤษีภควาบนเทือกเขาพนมดงรัก..หลังจากละสังขารก็ไม่ได้เจอกันอีกเลยพึ่งมาเจอกันใหม่ชาตินี้นี่ละ..แล้วท่านก็พูดขึ้นว่ากายใหม่จิตเดิม..เอ็งเข้าใจมั้ย..ผมตอบท่านว่าผมไม่เข้าใจครับท่านจึงอธิบายให้ฟังว่า..กายใหม่จิตเดิมคือนักปฏิบัติไม่ว่าจะเป็นพระหรือนักบวชเมื่อได้ฌาน4หรือสมาบัติ8จะมีอภิญญาจิตสามารถทำสิ่งที่เหนือธรรมชาติได้เช่นรู้อดีตชาติ(อตีสตังคญาน)รู้อนาคต(อนาสตังคญาน)เมื่อกายสังขารดับก็จะไปจุติใหม่เป็นคน..สัตว์..เทวดา..เทพหรือพรหมตามกำลังบุญ..บางท่านปรารถนาพุทธภูมิหรือต้องการมรรคผลนิพพาน..ในขณะที่จิตสุดท้ายจะออกจากขันธ์ท่านยังไม่บรรลุโพธิญานหรือเข้านิพพาน..ท่านก็จะอธิฐานขอกลับมาเกิดใหม่เลยเพื่อสร้างบารมีต่อทีนี้เมื่อท่านมาเกิดใหม่สัญญาเดิม(ความทรงจำ)*เหมือนไมโครชิพ..ผู้เขียน*ยังไม่ถูกลบไป..เมื่อท่านมาเกิดใหม่ท่านจึงจำเรื่องราวในอดีตได้..เอ็งเข้าหรือยัง.. #และนี่คือเหตุคำอธิบายถึงอายุของครูบาอาจารย์เช่นหลวงปู่สรวงห้าร้อยพรรษาเทวดาเดินดิน..หลวงปู่ลมัยพระโบราณผู้อยู่เหนือกาลเวลาหรือหลวงปู่คำน้อยแห่งภูกำพร้าที่เคยมีคนถามถึงอายุท่านๆจะบอกว่ามันนานมากจนท่านจำไม่ได้ว่าท่านอายุเท่าไหร่ท่านเพียงเล่าว่า"ตอนสร้างวัดพระแก้วท่านยังมายืนดูเขาสร้างอยู่เลย"

    เครดิต : https://www.facebook.com/PraNuaLok/posts/1065018386842267:0
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2017
  13. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,242
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,515
    full.jpg
    หากกล่าวถึงพระเหนือโลกที่เน้นเรื่องจิตเป็นใหญ่วินัยเป็นรองแล้วไม่กล่าวถึงหลวงปู่ครูบาเที่ยงธรรม ป่าช้าวัดเวฬุวัน อ.พยุห์ จ.ศรีษะเกษ เรื่องพระเหนือโลกก็คงไม่สมบูรณ์ในปีพ.ศ.2540ซึ่งเป็นช่วงฟองสบู่แตกธุรกิจต่างๆล้มระเนระนาดผมก็เป็นคนหนึ่งที่ประสพความเสียหายในช่วงนั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับเดินทางไปกราบพระอริยะสงฆ์มากมายทั่วประเทศทำให้พบพระเหนือโลกหลายองค์ที่แตกต่างจากพระอริยะสงฆ์ที่เคยพบเห็นมา..ไม่ว่าจะเป็นหลวงปู่สรวงห้าร้อยพรรษาเทวดาเดินดินและหลวงปู่ครูบาเที่ยงธรรม..วันแรกที่ผมพบท่านๆเปิดเพลงจีนดังลั่นวัดตอนนั้นผมนึกตำหนิท่านในใจว่าพระอะไรเปิดเพลงจีนฟังเสียงดังลั่น(ต่อมาจึงรู้ว่าไม่ใช่เพลงจีนเป็นบทสวดพระโพธิสัตว์กวนอิม)เวลาท่านพูดคุยก็ไม่สำรวมพูดเรื่องไม่น่าฟัง..ผมจึงไม่เข้าไปหาท่านโดยนั่งอยู่หลังสุดสักพักท่านจึงเรียกผมเข้าไปหาท่าน..ไอ้แว่นมึงมาหากูเรื่องจะขอให้กูช่วยเรื่องมึงกำลังจะไปมีเรื่องกับเขาใช่มั้ย..มึงจะไปทวงเงินลูกหนี้มึงๆจะได้เงินคืนแต่ไม่ครบนะมึงจะได้บางส่วนเอานี่ไปตอนไปทวงหนี้แล้วท่านก็หยิบปลัดขิกให้ตัวหนึ่งยาวประมาณ5"..แปลกมากท่านรู้ได้อย่างไรตั้งแต่เจอหน้าท่านผมยังไม่ได้พูดอะไรกับท่านสักคำตอนนี้ในใจผมเริ่มเชื่อแล้วว่าท่านไม่ธรรมดา...รุ่งเช้าผมจึงได้ไปทวงหนี้ที่ลูกหนี้ค้างผมอยู่สองล้านเจรจาอยู่ร่วมชม.ลูกหนี้ก็ไม่ยอมพูดคำเดียวอยากได้ก็ไปฟ้องเอาเพราะเขาเห็นว่าเขาได้เปรียบในเรื่องการทำสัญญากับผมเรียกว่าเขาปิดประตูแพ้..ผมแทบจะหมดความอดทนคิดในใจว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดคนเลวๆเอาเปรียบคนอย่างนี้ต้องเจอดีแน่มึงคงไม่ได้ใช้ตังที่โกงกูไปแน่..ขอตัวมันเดินกลับมาสูบบุหรี่ที่รถในใจนึกถึงคำพูดของหลวงปู่ครูบาเที่ยงธรรม"ตอนมึงไปทวงหนี้เอาของที่กูให้ติดไปด้วย"ตอนนั้นปลัดขิกอยู่ในลิ้นชักหน้ารถผมไม่ได้เอาติดตัวลงไปด้วย..โอกาสครั้งสุดท้ายแล้วลองดู..หยิบปลัดขิกขึ้นอธิฐานแล้วใส่กระเป๋ากางเกงกลับเข้าไปหาลูกหนี้อีกครั้ง..แปลกแต่จริงเรื่องมหัศจรรย์เหลือเชื่อเกิดขึ้นลูกหนี้พูดขึ้นว่า"เอาอย่างนี้แล้วกันอั๊วะให้ลื้อล้านเดียวแล้วจบกันไป..เอามั้ย"แล้วก็หยิบเช็คขึ้นมาเขียนส่งให้ผมพูดว่าเอาไปเถอะอั๊วะเขียนเช็คเงินสดให้ไม่ได้ขีดคร่อมเข้าบัญชีพรุ่งนี้เช้าไปเบิกเลย..ผมรับเช็คแบบงงๆคิดถึงคำพูดของหลวงปู่"มึงจะได้แต่ไม่ครบ" เช้าขึ้นผมรีบไปธนาคารตั้งแต่เช้าเป็นคนแรกทีธนาคารเปิดด้วยที่ลูกหนี้กับผมใช้ธนาคารเดียวกันสาขาเดียวกันพอยื่นเช็คแคชเชียร์ดูลายเซ็นก็หยิบเงินนับให้ทันทีส่งให้ผม..เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นแคชเชียร์รับสายแล้วพูดว่า"เขามาเบิกแล้ว"พอวางสายผมถามว่าเกิดอะไรขึ้น..แคชเชียร์บอกว่าคุณ.......โทรมาสั่งว่าให้อายัตเช็คใบนี้ผมบอกว่าพี่เบิกไปแล้วเขาก็กระแทกหูโทรศัพท์ทิ้งครับนี่เป็นครั้งแรกที่ผมพบกับความมหัศจรรย์จากพระเหนือโลกหลวงปู่ครูบาเที่ยงธรรม(ยังไม่จบครับโปรดติดตามเรื่องราวปาฎิหารย์ของหลวงปู่ที่ผมพบอีกหลายเรื่องในตอนหน้า)

    เครดิต : https://www.facebook.com/PraNuaLok/posts/1061692583841514:0
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2017
  14. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,242
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,515
    full.jpg

    หลังหลวงปู่ฉันท์เสร็จผมจึงเข้าไปสนทนากับท่านถึงแนวทางการปฏิบัติท่านเล่าให้ฟังว่าท่านเกิดมาหลายภพหลายชาติในอดีตท่านเคยเกิดเป็นฤษีชอบอยู่ป่าไม่ชอบอยู่รวมกับหมู่คณะในชาตินี้ท่านจึงตั้งสัจจะอธิฐานไม่ขออยู่ร่วมกับหมู่คณะและเหตุที่ท่านต้องทำตัวเป็นพระผีบ้าเพราะเหตุที่ไม่ต้องการให้คนมายุ่งกับท่าน..เอ็งเห็นมั้ยพระดังๆมีแต่คนเข้าไปหาไปกราบไหว้ขอโน่นขอนี่จนแทบไม่มีเวลาปฏิบัติยิ่งดังยิ่งทุกข์..คนที่มาหาล้วนมีแต่ความทุกข์เหมือนมึงนี่แหละ..ร้อยคนร้อยเรื่องแล้วครูบาอาจารย์ท่านก็ต้องช่วยถ้าเคยมีบุรพกรรมต่อกันยิ่งกูปฏิบัติในแนวทางช่วยเหลือคนแบบพระโพธิสัตว์ก็ต้องช่วยตามบุญตามกรรมเท่าที่ทำได้..แล้วท่านก็หันมาทางภรรยาผม..อีแหม่มมึงก็อยากขออะไรกูๆรู้นะมึงบอกมา..มึงอยากมีลูกไม่ใช่หรือ.. หลวงปู่รู้ได้อย่างไรว่าเราอยากมีลูกเพราะผมกับภรรยาแต่งงานกันร่วม10ปีไม่มีลูกสักทีไปตรวจสุขภาพหมอก็บอกปรกติดีทั้งคู่ไปเสียเงินทำกีฟ..ทำอิกซี่กับแพทย์ดังระดับประเทศเสียค่าใช้จ่ายมากมายหลายแสนบาทก็ไม่สำเร็จดังนั้นเวลาไปทำบุญไหว้พระจึงบนบานศาลกล่าวจนจำไม่ได้แล้วหลวงปู่ก็พูดว่า"กูจะขอลูกให้มึงๆอยากได้ผู้หญิงผู้ชายบอกมากูจะทำให้"ถ้าไม่ได้กูให้มึงเชือดคอกูแล้วท่านก็ให้ภรรยาผมไปขอลูกกับพระสังขจายปูนปั้นที่หลวงปู่ปั้นเองหน้าศาลารับแขกพร้อมให้ภรรยาผมว่าตาม..สาธุฟ้าดินข้าพเจ้าขออธิฐาน.........จนจบคำอธิฐานตามที่ท่านกล่าวนำที่ฟังดูเหมือนพูดเล่นจนผมเองยังอดหัวเราะไม่ได้ในคำอธิฐาน.. หลังจากผมกลับมาบ้านได้เดือนหนึ่งอยู่ๆภรรยาเกิดอยากสูบบุหรี่ขึ้นมาทั้งๆที่ปรกติเธอไม่เคยสูบผมจึงไปซื้อบุหรี่สายฝนให้เธอๆนั่งสูบจนหมดซอง..เกิดอะไรขึ้นกับเธอคิดถึงหลวงปู่จึงเดินทางไปกราบหลวงปู่ในวันรุ่งขึ้น..เมื่อถึงวัดประมาณสองโมงเย็นหลวงปู่นั่งรับแขกอยู่มียายคนหนึ่งนั่งตำหมากอยู่..ภรรยาผมกระซิบบอกผม..คุณฉันอยากกินหมากขอให้ฉันหน่อย..เฮ้ยคุณจะกินได้อย่างไรเดี๋ยวปากพังเธอก็ไม่ยอมให้ผมขอมากินจนได้เธอเคี้ยวหมากอย่างเอร็ดอร่อยเมื่อหมดเธอขออีกคำ..หลวงปู่นั่งดูแล้วหัวเราะชอบใจ..อีแหม่มลูกมึงมาแล้วมึงขอคนกูแถมให้คนๆแรกมึงอยากได้ผู้หญิงกูก็ขอผู้หญิงให้คนหลังกูแถมผู้ชายให้อีกคนหัวปีท้ายปีเลยแล้วท่านก็หัวเราะชอบใจแล้วหันมาพูดกับผมว่า..ตอนที่กูขอให้มึงไม่เชื่อใช่มั้ยว่ากูทำให้ได้ตอนนี้เชื่อหรือยัง... เมื่อกลับมาถึงกรุงเทพจึงรีบพาภรรยาไปตรวจที่รพ.พญาไท..ผลเธอตั้งครรภ์ยังไม่เชื่อพาภรรยาไปรพ.ลาดพร้าวอีกครั้ง..ผลยืนยันเธอตั้งครรภ์จริงและเมื่อลูกคลอดออกมาเป็นผู้หญิงจริงๆ..โปรดติดตามตอนต่อไป.

    เครดิต : https://www.facebook.com/PraNuaLok/posts/1062550120422427:0
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2017
  15. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,242
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,515
    art_480379-jpg.3905733.jpg
    ประวัติครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า (พระเจษฎา โชติปญฺโญ)

    ชาติกำเนิด

    ณ บ้านต๊ำน้ำล้อม ตำบลบ้านต๊ำ อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา มีสามีภรรยาคู่หนึ่งคือนายหน้อยแหน้น และนางบัวเขียว ใจลา ประกอบอาชีพทำนาและมีฐานะยากจนมาก ได้อยู่กินกันมาจนมีลูกสาว ๑ คน แต่เวลาผ่านไป ๑๐ ปียังไม่มีวี่แววว่าจะได้ลูกชายสักคน แม้ว่าจะมีการตั้งครรภ์ใหม่ก็มีเหตุต้องลงเลือดหรือแท้งไปถึง ๓ ครั้ง แต่ก็สังเกตดูว่าเป็นเด็กผู้ชายทุกครั้ง จึงได้ไปอธิษฐานกับองค์พระเจ้าตนหลวง ณ วัดศรีโคมคำ พระคู่บ้านคู่เมืองพะเยา ในคืนวันแปดเป็ง (วิสาขบูชา) พอตกกลางคืนนางบัวเขียวก็นิมิตว่า มีพญานาคตัวใหญ่ตัวหนึ่งเลื้อยออกมาจากใต้ฐานองค์พระเจ้าตนหลวง แล้วนำลูกแก้วลูกหนึ่งสวยงามแพรวพราวระยิบระยับ มีประกายงดงามประมาณค่ามิได้ ดุจดั่งลูกแก้วของพระเจ้าจักรพรรดิราชหรือลูกแก้ววิเศษของมหาเทพเบื้องบน โดยพญานาคนั้นได้คาบลูกแก้ววิเศษมาคายไว้ที่อุ้งมือขวานางบัวเขียวพร้อมกับกลิ่นหอมตลบอบอวนดั่งดอกไม้ในสวรรค์ หลังจากนั้นไม่นานนางบัวเขียวก็ตั้งท้องลูกคนที่ ๒ มีความรู้สึกอยากไปวัดไปวามากกว่าเดิม ชอบนั่งสวดมนต์ ทำสมาธิ เจริญภาวนาและทานมังสวิรัติประจำ ไม่อยากทานเนื้อสัตว์ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา จนถึงเวลาที่คลอดกุมารน้อยตรงกับวันอังคาร ที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๑๘ เวลา ๑๖.๐๙ น. ขณะนั้นฝนตกกระหน่ำครั้งใหญ่ฟ้าผ่า ฟ้าร้อง ดังกึกก้องปานว่าฟ้าจะถล่มแผ่นดินจะทลาย แผ่นดินไหว สั่นสะเทือนไปทั่ว เกิดเหตุการณ์ฟ้าผ่าที่ต้นไม้บริเวณข้างบ้านและแผ่นดินไหวจำนวน ๓ ครั้ง ในเวลาไล่เลี่ยกันไม่กี่นาทีก็เป็นเวลาที่กุมารน้อยคลอดออกมาจากครรภ์นางบัวเขียวผู้เป็นมารดา การเกิดของกุมารน้อยนี้น่าอัศจรรย์คือ นำเท้าออกมาก่อน พอเท้าออกมาถึงเข่า แผ่นดินไหวและฟ้าผ่าต้นไม้ข้างบ้านครั้งที่ ๑ พอลำตัวออกมาถึงบริเวณหน้าอก แผ่นดินไหวและฟ้าผ่าต้นไม้ข้างบ้านต้นเดิมครั้งที่ ๒ พอถึงเวลานำศีรษะออกมาแล้วนั้น แผ่นดินไหวและฟ้าผ่าต้นไม้ข้างบ้านต้นเดิมครั้งที่ ๓ แต่ฝนก็ยังตกกระหน่ำไม่หยุดจนคลอดทารกน้อยเสร็จเรียบร้อย สร้างความแปลกประหลาดใจให้กับหมอตำแยและญาติพี่น้องของผู้เป็นพ่อและแม่ราว ๒๗ หลังคาเรือนหรือประมาณ ๓๕ คน กล่าวโดยสรุปเกี่ยวกับปรากฏการณ์อัศจรรย์การให้กำเนิดกุมารน้อยนี้มีอยู่ ๙ ประการคือ

    ๑. คืนวันวิสาขบูชาก่อนที่จะปฏิสนธิในครรภ์ หลังจากอธิษฐานขอพรจากพระเจ้าตนหลวง นางบัวเขียวผู้เป็นมารดานิมิตว่า มีพญานาคตัวใหญ่เท่าต้นตาลเลื้อยออกมาจากใต้ฐานพระเจ้าตนหลวง แล้วคาบลูกแก้วอันงดงามรัศมีเปล่งปลั่งมากนักมาคายไว้ที่มือขวานางบัวเขียวพร้อมกลิ่นหอมตลบอบอวล และจะฝันซ้ำ ๆ กันทุกวันพระ
    ๒. ขณะกำเนิดนั้นกุมารน้อยเอาเท้าออกก่อนไม่เหมือนทารกอื่น
    ๓. บริเวณศีรษะมีเมือกบาง ๆ คล้ายกับหมวกอยู่ (เป็นวุ้นสีเขียวคล้ำใส ๆ)
    ๔. หลังจากล้างตัวและศีรษะแล้วที่ผมบาง ๆ ของกุมารน้อยมีคล้ายกับทองคำเปลวบาง ๆ ระยิบระยับติดอยู่เต็มไปหมด
    ๕. ขณะที่คลอดกุมารน้อยนั้นมีกลิ่นหอมมากดุจดั่งดอกไม้สวรรค์ไปทั่ว
    ๖. มีสายแห่หรือสายรกพันบริเวณคอของกุมารน้อย ๓ รอบคล้ายกับงูพันพระศอองค์พระศิวะเจ้า
    ๗. กุมารน้อยไม่ร้องไห้เหมือนทารกอื่น (หมอตำแยต้องตีก้นหลายครั้งเกรงว่าจะเป็นใบ้)
    ๘. เมื่อตัดสายรกสายสะดือแล้ว ปรากฏว่ามีลูกแก้วเม็ดเล็ก ๆ (ทางเหนือเรียกว่า คตแก้ว หรือแก้วโป่งข่าม ) อยู่บริเวณสายรกห่างจากสะดือของกุมารน้อย ๑ คืบ
    ๙. ขณะคลอดกุมารน้อยนั้นมีฝนตกหนัก ฟ้าผ่าต้นไม้ต้นเดิมและแผ่นดินไหวถึง ๓ ครั้ง (ฟ้าผ่าและแผ่นดินไหวพร้อมกัน)

    ในค่ำคืนนั้นหลังจากกุมารน้อยได้กำเนิดขึ้นมาได้ ๑ คืน ผู้เป็นบิดาคือนายแหน้น นิมิตว่า มี พ่อค้า นักธุรกิจ ต่าง ๆ ทั้งชาวไทย จีน ฝรั่ง ต่างชาติ ทหาร ตำรวจ นักการเมือง แต่ละท่านมียศสูง ๆ และร่ำรวยทั้งนั้น ต่างก็พากันล้อมกราบไหว้ลูกแก้ววิเศษ ซึ่งเมื่อมองดูด้านในของลูกแก้ววิเศษจะมีภาพพระพุทธรูปและครูบาเจ้าศรีวิชัยอยู่ภายใน โดยผู้คนเหล่านั้นที่มากราบไหว้ต่างก็มาพึ่งพาบุญบารมีของลูกแก้ววิเศษเพราะเชื่อว่าลูกแก้ววิเศษนั้นสามารถสร้างอานิสงส์ให้เขาเหล่านั้นร่ำรวย รุ่งเรือง มีฐานะดี โชคดียิ่งขึ้น และพ้นจากโรคภัยต่าง ๆ แล้วก็ตกใจตื่น หลังจากนั้นได้พิจารณาความฝันว่า “เอ แปลกนะ ต่อไปข้างหน้าลูกของเราจะต้องเป็นที่พึ่งพาของคนระดับต่าง ๆ พ่อค้า ประชาชน นักธุรกิจ ทหาร ตำรวจ ที่มียศสูง ๆ แน่นอน ประกอบกับคนที่ยังไม่รวยถ้าทำบุญบารมี ร่วมกันก็จะรวยยิ่งขึ้น”

    คำพยากรณ์ครั้งแรก

    เมื่อเวลาผ่านไป ๓ วัน ข่าวดังกล่าวทราบถึงครูบาเจ้าอินโต วัดบุญยืน พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดพะเยา ได้เดินทางไปที่บ้านของกุมารน้อย พอไปถึงบ้านก็เอ่ยขึ้นทักพ่ออุ้ยปัน ผู้เป็นตาของกุมารน้อยว่า “ พ่ออุ้ยปัน มีหน่ออริยโพธิสัตว์มาเกิดแล้วเน้อ ชาติสุดท้ายของเปิ้นแล้ว เลี้ยงไว้ดี ๆ เจ้าหน่อแก้วฟ้าไจยา มาเกิดแล้ว ต่อไปปายหน้าเปิ้น จะก้ำจูสาสะนา (ศาสนา) โผด (โปรด) คนหื้ออยู่ดีมีสุข มีทรัพย์สมบัติมากนัก (อริยทรัพย์ ๗ ประการ) คนตังหลายที่มีบารมีร่วมเปิ้นก็จะมี ทรัพย์สมบัติมากนักเช่นกัน“ พร้อมกันนั้นครูบาเจ้าอินโต ก็ค่อย ๆ ผูกข้อมือรับขวัญทารกน้อยและทำนายไว้ว่า “กุมารน้อยผู้นี้ เป็นผู้มีบุญหนัก ศักดิ์ใหญ่กลับชาติมาเกิด เป็นขวัญปากครูบาเจ้าพระอริยะต๋นบุญล้านนา (ขวัญสัจจะวาจาศักดิ์สิทธิ์ของครูบาเจ้าศรีวิชัย) นำแก้วคู่บารมีมาโผด (โปรด) คนตังหลายต่อไปข้างหน้า เด็กน้อยผู้นี้จะเป็นกำลังของพระพุทธศาสนาที่สำคัญคนหนึ่งและสามารถที่จะโปรดมวลมนุษย์ให้พ้นทุกข์ มีความสุข ความร่ำรวยด้วยลูกแก้วนี้ และวาจาสิทธิ์ของกุมารน้อย ซึ่งก็ถือว่าเป็นชาติสุดท้ายของกุมารน้อยผู้นี้ก็ว่าได้” พร้อมกับตั้งชื่อให้ไว้ว่า “หน่อแก้วฟ้าไจยา” หมายถึง "แก้วมณีมงคลแห่งชัยชนะที่ฟ้าหรือสรวงสวรรค์ประทานมาเพื่อความสุขความเจริญ ร่ำรวย" และครูบาเจ้าอินโตยังตั้งอีกชื่อหนึ่งให้ว่า “เจ้าอริยทรัพย์” หมายถึง "ผู้มีทรัพย์มากมีทั้งทรัพย์สมบัติภายในและทรัพย์สมบัติภายนอก" นอกจากนั้นแล้วครูบาเจ้าอินโตยังได้เน้นกับพ่ออุ้ยปันและญาติพี่น้องทุกคนว่า “บารมีนี้มีเฉพาะผู้ที่มาจากอดีตชาติที่ได้พึ่งพาบารมีซึ่งกันและกัน ดังนั้นการทดสอบจิตของเจ้าหน่อแก้วฟ้าไจยา เช่นการลองขอความช่วยเหลือจากแต่ละบุคคลว่าเป็นเช่นไร เคยบำเพ็ญบารมีในอดีตชาติร่วมกันหรือไม่ หรือถ้าผู้ใดให้ความเชื่อถือและช่วยเหลือเต็มที่กับเจ้าหน่อแก้วฟ้า ผู้นั้นคือผู้ที่มาจากอดีตชาติ เป็นผู้มีทรัพย์ทิพย์จากอดีตที่คอยช่วยเหลือกันมาก่อน เพราะถือว่าช่วยเหลือในชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของเจ้าหน่อแก้วฟ้าไจยาแล้ว บุคคลผู้นั้นและครอบครัวของเขาก็จะเจริญรุ่งเรือง ร่ำรวยยิ่งๆ ขึ้นไป หน้าที่กิจการงานก็จะเจริญรุ่งเรือง เป็นผู้มีโชคชัยตลอด โรคภัยไข้เจ็บก็จักไม่เบียดเบียน โรคกรรมโรคเวรก็ย่อมเบาบางลง โดยเฉพาะผู้ให้ยานพาหนะและผู้ให้ทรัพย์เงินทองในการบำเพ็ญประโยชน์ร่วมกับ เจ้าหน่อแก้วฟ้าผู้นั้นไม่อดอยาก และคล่องตัวในกิจการงานต่างๆ มีแต่ได้กับได้อย่างเดียวเท่านั้น”


    ชีวิตวัยเยาว์

    แต่ภายหลังทางอำเภอให้ใช้ชื่อในใบทะเบียนบ้านว่า "เจษฎา" เพราะชื่อ หน่อแก้วฟ้าไจยา เป็นชื่อค่อนข้างโบราณและยาวเกินไป พร้อมกันนั้นอีก ๗ วัน ครูบาศรี วัดร่องไฮ ต.บ้านใหม่ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของพะเยาอีกรูปหนึ่ง ได้มาเยี่ยมและรับขวัญเป็นลูกบุญธรรมอีกคนหนึ่ง ก็ทำนายไว้เช่นเดียวกันกับครูบาเจ้าอินโต ว่า “กุมารน้อยผู้นี้เกิดมาชดใช้กรรมเก่าก่อน ต่อไปจะถูกใส่ความ ถูกกล่าวหาว่าร้ายต่าง ๆ นานา จากเจ้ากรรมนายเวรจากอดีตชาติมาในคราบผ้าเหลืองและชาวบ้าน ซึ่งเป็นญาติของพญาสวัสดิมาร จะมาทำลายความเพียร ความดี และบารมีเก่า แต่หากกุมารน้อยผ่านบททดสอบบารมีด้วยจิตใจอันแน่วแน่ได้ เจ้ากรรมนายเวร (ผู้ใส่ร้ายป้ายสี ดูถูกดูหมิ่น) ตลอดจนมารเหล่านั้นก็จะแพ้ภัยตนเอง ฉิบหายต่าง ๆ นานาประการ ตกนรกขุมอเวจี เพราะกุมารน้อยผู้นี้เกิดมาถือว่าเป็นชาติสุดท้ายแล้ว จะเป็นผู้ที่ให้พรคนทั้งหลายให้เจริญรุ่งเรืองโดยเฉพาะพ่อค้าแม่ขาย นักธุรกิจระดับต่าง ๆ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ นักการเมือง ระดับต่าง ๆ คนทุกชนชั้น เพราะกุมารน้อยผู้นี้จะเป็นผู้มีสัจจะวาจาสิทธิ์”

    จากสาเหตุนี้ทำให้พ่ออุ้ยปัน รักและทะนุถนอมเจ้าหน่อแก้วฟ้าเสมือน "ไข่ในหิน" โดยไม่ให้ใครแม้กระทั่งญาติพี่น้องมาเล่นด้วย หรือถูกเนื้อถูกตัวเพราะทราบดีว่าเป็นเด็กที่มีความพิเศษไม่เหมือนเด็กทั่วไป เดี๋ยวจะมีรอยราคิน รอยด่างพร้อย ส่วนฝ่ายบิดาและมารดาไม่อยากจะให้บวชเรียนเพราะทางบ้านมีฐานะยากจนและกลัวจะไม่ได้พึ่งแรง จึงไม่ค่อยอนุญาตให้เจ้าหน่อแก้วฟ้าไปไหว้พระที่วัดในหมู่บ้านเท่าไหร่ และก็กลัวว่าเจ้าหน่อแก้วฟ้าจะไปจำบทสวดมนต์ของพระสงฆ์ แต่ก็ไม่วายเมื่อมีงานศพหรืองานทำบุญบ้านใหม่ในหมู่บ้าน เจ้าหน่อแก้วฟ้ามักจะไปดูพระสงฆ์เวลาให้ศีล ให้พร แล้วกลับมาฝึกสวดไปเรื่อย ๆ ตามประสาเด็ก นอกจากนั้นแล้วยังนำวี (พัด) ที่เขานำมาพัดข้าวเปลือกหลังจากเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว นำมาสวดมนต์ให้ศีลให้พรแล้วบอกว่าตนเองเป็นพระครูบาเจ้ามาเกิด เมื่อก่อนก็สวดมนต์อย่างนี้ปฏิบัติธรรมอย่างนี้

    โดยเล่าประวัติของตนเองเป็นเรื่องเป็นราวว่าตนคือครูบาเจ้าศรีวิชัยมาเกิด (จากการบอกเล่าของชาวบ้านญาติพี่น้อง ขณะนั้นเจ้าหน่อแก้วฟ้าอายุ ๔ ขวบ) ไฟฟ้าก็ยังไม่เข้าในหมู่บ้าน การสื่อสารต่าง ๆ ก็ยังไม่ถึง หนังสือก็ไม่มีให้อ่าน ทีวีไม่มีให้ดู หนังสือก็ยังไม่ทันได้เรียน แต่เจ้าหน่อแก้วฟ้าพูดเป็นเรื่องเป็นราวเหมือนดั่งเทวดาสอนให้พูดอย่างนั้น จนครั้งหนึ่งน้าไก่ซึ่งเป็นญาติของเจ้าหน่อแก้วฟ้าซึ่งเดินทางมาจากประเทศสิงคโปร์ ก็แปลกใจว่าเด็กน้อยนี้พูดอะไรแปลก ๆ จะเป็นจริงหรือ เลยตัดสินใจพาเจ้าหน่อแก้วฟ้าไปที่วัดบ้านปาง อ.ลี้ จ.ลำพูน ซึ่งเป็นวัดของครูบาเจ้าศรีวิชัย และเป็นสถานที่ที่ เจ้าหน่อแก้วฟ้าพูดถึงบ่อย ๆ เมื่อเดินทางมาถึงเจ้าหน่อแก้วฟ้าไม่รีรอ รีบลงรถแล้วก็ทำตัวเองเหมือนดั่งไกด์นำเที่ยว บอกสถานที่ต่าง ๆ ได้ถูกต้องไม่ว่าจะเป็นสถานที่ป่วย หรือเดินจงกรม ฯลฯ และทักทาย เรียกชื่อ ผู้เฒ่าผู้แก่ ที่มาต้อนรับในวันนั้นได้ถูกต้อง โดยไม่รู้จักกันมาก่อน สร้างความ ประหลาดใจให้ญาติทั้งหลายยิ่งนัก และย้ำบ่อย ๆว่า “เราจะไม่เกิดอีกแล้ว ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย”

    เมื่ออายุได้ ๕ ขวบ ก็ได้เกิดวิบากกรรมมาตัดรอน โดยเจ้าหน่อแก้วฟ้าถูกรถมอเตอร์ไซค์ชนจนขาซ้ายหัก ซึ่งเป็นเคราะห์ซ้ำกรรมซัด เพราะไม่มีเงินที่จะไปรักษาจากโรงพยาบาล ต้องใช้เวลานอนรักษาตัวแบบโบราณ ๗ เดือน ช่วงที่นอนรักษาตัวและฟักฟื้นก็ได้ร่ำเรียนวิชาอักษรล้านนา ตั๋วเมืองและคาถาอาคมเบื้องต้นจากพ่ออุ้ยปัน บัวเงิน ผู้เป็นตาและท่านเป็นลูกศิษย์ของครูบาเจ้าศรีวิชัย จนเจ้าหน่อแก้วฟ้าอ่านออกเขียนได้เป็นพื้นฐาน หลังจากนั้นเจ้าหน่อแก้วฟ้าได้เข้าศึกษาเล่าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ขณะนั้นอายุได้ ๗ ปี เวลาผ่านไปพออายุได้ ๘ ปี ช่วงที่ไปเรียนหนังสือหลังจากเลิกเรียนแล้ว เจ้าหน่อแก้วฟ้ามักจะไปนั่งสมาธิบริเวณป่าช้าหน้าโรงเรียนหรือวัดเก่าแก่บริเวณหัวนาที่มีซากปรักหักพังเพราะร่มเย็นและมีสมาธิดี นอกจากนั้นเจ้าหน่อแก้วฟ้ายังชอบปั้นพระพุทธรูปองค์เล็กองค์ใหญ่ แล้วชักชวนเพื่อน ๆ ไปไหว้และนั่งสมาธิ จากเหตุดังกล่าวนี้เป็นเหตุให้เพื่อนไม่ค่อยจะเล่นด้วยเพราะชอบอยู่กับป่าช้าและวัดเก่า ซึ่งคนทั่วไปไม่นิยมกัน และยังถูกกล่าวหาต่างๆ ว่าผีบ้าบ้าง ไม่เต็มบาทบ้าง หรือป่วยเป็นโรคจิตบ้าง ฯลฯ

    ต่อมาเจ้าหน่อแก้วฟ้ามีโอกาสพบพระธุดงค์รูปหนึ่งที่ป่าช้า ท่านนุ่งห่มจีวรสีกรักดำ อายุประมาณ ๗๐ กว่าปี หลังค่อมตัวเล็ก ท่านเมตตาสอนธรรมและวิธีการปฏิบัติธรรมให้ จนในที่สุดเจ้าหน่อแก้วฟ้าก็ชอบในการนั่งสมาธิภาวนามาตั้งแต่นั้น จนความทราบถึงผู้เป็นบิดาต้องดุด่าว่ากล่าวว่า “ทำไมทำตัวไม่เหมือนคนอื่นเขา ชอบไปแต่ป่าช้าและวัดเก่าแก่ คราวหลังถ้าไปอีกจะตีให้เจ็บตัวแน่” ด้วยฐานะทางบ้านยากจนมากแทบจะไม่มีอะไรจะกิน จำเป็นต้องทำมาหากินทุกอย่างโดยพี่สาวและพี่เขยต้องช่วยกันออกไปหาปลาหานกและพาเจ้าหน่อแก้วฟ้าไปด้วย แต่เจ้าหน่อแก้วฟ้ามักจะแอบปล่อยปลา และนกที่พี่สาวพี่เขยหามาได้เป็นประจำ จนถูกผู้เป็นบิดาดุด่าว่ากล่าวหลายครั้งหลายหน โดยครั้งสุดท้ายเจ้าหน่อแก้วฟ้าน้อยใจหนีออกจากบ้านไปพักบ้านญาติ นอกจากนั้นแล้วผู้เป็นบิดาชอบบังคับให้เจ้าหน่อแก้วฟ้ากินอาหารที่เป็นส่วนของสัตว์ต่าง ๆ แต่เจ้าหน่อแก้วฟ้าไม่ชอบเลยต้องกินข้าวพร้อมกับน้ำตาและรีบออกไปอาเจียนหลังบ้าน

    เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์

    พอจบชั้น ป.๖ ก็มีจิตคิดที่บวชทดแทนคุณบิดามารดา ซึ่งฝ่ายบิดามารดาไม่อยากจะให้บวชเพราะกลัวเจ้าหน่อแก้วฟ้าจะไม่ยอมสึกในภายหลัง แต่เจ้าหน่อแก้วฟ้าก็ได้บวชจนได้โดยมีครูบาสงบ วัดต๊ำน้ำล้อม เป็นพระอุปัชฌาย์ เนื่องจากพ่ออุ้ยนวล ทำดี (พี่ชายของยายและเป็นลูกศิษย์ครูบาเจ้าศรีวิชัยอีกคนหนึ่ง) ได้เสียชีวิต เมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๓๑ เจ้าหน่อแก้วฟ้าจึงได้ขอทดแทนคุณ คือบวชจูงศพ แล้วก็ไม่คิดจะสึก แต่ทางบิดามารดาและญาติพี่น้อง ได้ขอให้เจ้าหน่อแก้วฟ้าสึกและมาบวชเณรตามประเพณีแบบเบ้าโบราณ จึงได้สึก ๑ วันแล้วทำพิธีขวัญนาคและบรรพชาเป็นสามเณร ในวันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๓๑ โดยมีครูบาสงบ วัดต๊ำน้ำล้อม (ลูกศิษย์ครูบาแก้ว วัดปงสนุกใต้ จังหวัดลำปาง) เป็นพระอุปัชฌาย์ และเริ่มต้นร่ำเรียนนักธรรมชั้นตรี โท เอก และวิปัสสนากัมมัฏฐานจากครูบาอาจารย์ที่มีหลายท่าน เช่น

    หลวงปู่โง่น โสรโย วัดพระบาทเขารวก จ.พิจิตร
    หลวงปู่ดาบส สุมโน จ.เชียงราย
    ครูบาเจ้าปู่นริศ นรินฺโท ลานธรรมบารมีศรีปทุมแสงธรรมหนอ อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา สอนการปฏิบัติธรรมภาวนาชั้นสูง และคาถาอาคมต่าง ๆ จนหมดความรู้
    ครูบาศรี วัดร่องไฮ บ้านใหม่ จ.พะเยา สอนอักขรภาษาล้านนา และคาถายันต์ต่าง ๆ
    หลวงปู่ครูบาเจ้าดวงดี สุภทฺโท วัดท่าจำปี จ.เชียงใหม่ สอนคาถาอาคมและการปฏิบัติสมาธิ
    หลวงปู่หล้า ตาทิพย์ จ.เชียงใหม่ สอนคาถาอาคมและการใช้ทิพยญาณ การปฏิบัติธรรมชั้นสูง
    หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย
    ครูบาเจ้ากลิ่นกู้ วัดข่วงเป่าชัย จ.ลำปาง สอนการนั่งทางใน
    ครูบาคำผาย วัดพระธาตุจอมไคร้ จ.พะเยา
    ครูบาเจ้าพรหมจักร จ.ลำพูน สอนการปฏิบัติสมาธิภาวนา และคาถาหลายอย่าง
    ครูบาเจ้าชัยยะวงศา วัดพระบาทห้วยต้ม จ.ลำพูน สอนคาถาเรียกทรัพย์ เรียกเงิน
    ครูบาเจ้าคำอ้าย วัดทุ่งพร้าว อ.ดอกคำใต้ สอนคาถาอาคมต่าง ๆ
    ครูบาเจ้าน้อย วัดต๋อมใต้ จ.พะเยา สอนการปฏิบัติธรรมและคาถาอาคม
    ครูบาเจ้าเกษม เขมโก จ.ลำปาง สอนธรรมะเบื้องต้น
    ครูบาอ่อน วัดสนต้นหวีด จ.พะเยา
    หลวงปู่ฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี สอนการปฏิบัติสายมโนมยิทธิ
    หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ จ.นครปฐม สอนคาถาคงกระพัน และค้าขายดี
    ครูบาเจ้าบุญชุ่ม ญาณสํวโร ประเทศพม่า สอนการปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐาน
    ครูบาเจ้ามนตรี ธมฺมเมธี วัดพระธาตุสุโทน จ.แพร่ มีเมตตาสอนธรรมะ
    หลวงปู่ขาว พุทธรักขิตโต วัดป่าคูณคำวิปัสสนา จ.สกลนคร มีเมตตาถ่ายทอดความรู้ในการปฏิบัติภาวนา และคาถาอาคมต่างๆ จนหมดซึ่งท่านหลวงปู่ขาวบอกว่า "หมดแล้ว"
    หลวงปู่ดำ เขมโร วัดพระบาทเขาหินซ้อน จ.ฉะเชิงเทรา สอนการอธิษฐานจิตภาวนาให้สำเร็จ
    ครูบาแสงหล้า ประเทศสหภาพพม่า
    ครูบาเหนือชัย โฆสิโต (ขี่ม้าบิณฑบาตร) วัดถ้ำป่าอาชาทอง จ.เชียงราย



    คำพยากรณ์จากครูบาอาจารย์

    ขณะที่ศึกษาปฏิบัติธรรมกับพ่อแม่ครูบาอาจารย์ต่าง ๆ สามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้าก็ได้รับความอนุเคราะห์เมตตาสั่งสอน อบรมธรรม วิธีการปฏิบัติกัมมัฎฐานแต่ละรูปแบบ และถูกทดสอบภูมิธรรมมาเรื่อย ๆ นอกจากนั้นแล้วพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่มีญาณบารมีธรรมสูงได้กล่าวทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าให้สามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้าตรงกัน ๕ รูป คือ หลวงปู่ดาบส สุมโน หลวงปู่โง่น โสรโย หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี หลวงปู่ฤาษีลิง และครูบาเจ้าดวงดี สุภัทโท ไว้ว่า "สามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้านี้ หากแม้นว่าไม่ต่ออายุไว้ในพระพุทธศาสนาแล้ว ก็จักมีอายุในธาตุขันธ์ (กายเนื้อ) จวบจนอายุได้ ๓๕ ปีก็ละจะสังขาร เพราะว่าเป็นชาติสุดท้ายของท่านแล้ว แต่สำหรับสานุศิษย์ที่ต้องการพึ่งบุญบารมีและเคารพศรัทธาในวัตรปฏิบัติของท่านแล้วไซร้ ก็จงอาราธนานิมนต์ให้ท่านอยู่ได้ปีต่อปี โดยให้จัดทำกฐินอานิสงส์ให้ท่านคิดเป็นเงินกหาปนะ ๒ กหาปนะครึ่ง (คิดเป็นเงินปัจจุบันประมาณ ๓๙๙ บาท) ต่อการต่ออายุ ๑ วัน ผู้ใดทำบุญต่ออายุให้ท่านได้แต่ละปีนั้น จักได้อานิสงส์อันยิ่งใหญ่ จะมีความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน การเงิน มีอายุมั่นยืนยาว สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ แคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวง มีความสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการ เป็นเศรษฐีมหาเศรษฐีไม่อดกลั้นอดอยาก"

    แต่ก็มีอีกวิธีหนึ่งก็คือสามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้าจะต้อง "เข้ากรรม" (ศิษย์มักจะเรียกว่า "นิโรธกรรม") ถือว่าเป็นการต่ออายุธาตุขันธ์ และเป็นการต่ออายุให้พระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อไป เพราะสามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้านั้น เป็นสาวกของพระพุทธเจ้า เป็นตัวแทนของพุทธบริษัทที่จะต้องพัฒนาและนำพาพระพุทธศาสนาที่เริ่มต้นจากรากหญ้าให้เป็นรากแก้วที่แข็งแกร่ง เผยแพร่พระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองด้วยศาสนสถาน ศาสนวัตถุ ศาสนบุคคล ศาสนพิธี และศาสนธรรม เป็นหลักชัยของชาวพุทธผู้มีปัญญา ให้มีขวัญมีกำลังใจในการประพฤติปฏิบัติธรรมตามแนวของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ต่าง ๆ ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมาดีแล้วตั้งแต่ในอดีต ให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองคู่กับประเทศไทยและโลกทั้ง ๓ หรือหมื่นโลกธาตุตลอดกาลนาน

    บารมีธรรมบังเกิด

    จากความรู้ที่ครูบาอาจารย์เจ้าเมตตาสั่งสอนและชี้แนะมานี้ทำให้สามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้าสามารถปฏิบัติธรรมได้ในระดับที่ดีขึ้นตามลำดับและสามารถฝ่าฟันอุปสรรคในการปฏิบัติธรรมได้อย่างง่ายดาย ทำให้ท่านสามารถเริ่มสร้างบารมีธรรมตั้งแต่เป็นสามเณรน้อย ตามคำบอกเล่าของชาวบ้านหลายต่อหลายคนที่พบปาฏิหาริย์ เช่น เรื่องการย่นระยะทาง ซึ่งหากเป็นการเดินทางไปจังหวัดเชียงรายโดยทั่วไปแล้วจากพะเยา-เชียงราย วิ่งรถปกติจะใช้เวลาประมาณ ๒ ชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงตัวเมืองเชียงราย มีอยู่วันหนึ่งออกจากพะเยาสายไปหน่อยเวลาประมาณ ๐๘.๐๐ น. ต้องรีบไปงานมงคลที่ตัวเมืองเชียงราย ขณะนั้นเมื่อถึงทางตรงบริเวณ อ.แม่ใจ สามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้าก็บอกให้โชว์เฟอร์ขับรถช้าหน่อยแล้วหลับตาสักครู่ปรากฏว่า สร้างความแปลกประหลาดใจให้โชว์เฟอร์ยิ่งนักเพราะรถนั้นวิ่งมาถึงบริเวณห้าแยกพ่อขุนได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งถือว่าใช้เวลาแค่ครึ่งชั่วโมงกว่าทันเวลาที่ทำพิธีมงคลที่บ้านญาติธรรม จ.เชียงราย

    นอกจากนั้นแล้วเมื่อคราวสามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้าอายุ ๑๕ ปี เคยอธิษฐานจิตอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุให้เสด็จต่อหน้าสาธุชนเกือบร้อยคน ณ วัดเก่ากลางทุ่งนา สร้างปรากฏการณ์มหัศจรรย์ให้แก่ผู้พบเห็น และมีคนพบเห็นบ่อยครั้งกับการที่สามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้าไปไหนมาไหนรวดเร็วมาก เช่นการเดินจากที่หนึ่งไปสู่ที่หนึ่งได้เร็วเกินกว่าคนธรรมดาทั่วไปจะทำได้ จนชาวบ้านลือว่าสามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้าล่องหนได้ นอกจากนั้นแล้วสามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้ายังเคยทักเกี่ยวกับเรื่องลางสังหรณ์ได้อย่างแม่นยำ เช่น บอกว่าอีกไม่กี่นาทีรถจะชนคนนั้นคนนี้ก็เป็นจริงตามนั้น เรื่องการบิณฑบาตรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งเพราะมีคนหลายคนเห็นว่าท่านบิณฑบาตพร้อม ๆ กันหลายที่คล้ายกับแยกร่างได้ แต่หากมีคนถามว่าท่านใช้ฤทธิ์หรือแยกร่างได้ใช่ไหม สามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้าก็จะตอบบ่ายเบี่ยงว่า “เข้าใจผิดมั้ง ถ้าแยกร่างได้จริงเราจะแยกร่างสร้างวัดช่วยกันหิ้วปูนสร้างวัดให้เสร็จละสิแล้วหัวเราะ” มีคนเห็นท่านเวลาอยู่ในวัดหรือเดินทางไปไหนเดี๋ยวก็หนุ่มเดี๋ยวก็แก่ สร้างความแปลกประหลาดใจยิ่งนัก มักมีคนมาถามว่าหลวงตาแก่ ๆ เมื่อกี้ไปไหนเสียล่ะ สามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้าก็จะตอบว่า “หลวงตาหรือ อ้อไปแล้ว”

    การทำพิธีกรรมล้านนาต่าง ๆ ของสามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้า เช่น เสริมสิริมงคล พลิกฟ้า พลิกแผ่นดิน ยันต์ดวงตาลปัตร พลิกดวง เสริมบารมี บูชาเทียน ๙ หน้า ๙ บารมี เทียนหนุนดวง ค้ำชะตา ให้กับพ่อค้าแม่ขาย นักธุรกิจ นักการเมือง ประชาชน ทหาร ตำรวจ ถ้าไม่ติดขัดกับวิบากกรรมเก่าของเขาเองก็จะสำเร็จตามนั้น จนเป็นที่กล่าวขาน แต่หากมีใครมาถามว่าวัตถุมงคลหรือยันต์ของสามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้าดีจริงหรือ สามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้าก็ตอบว่า "แล้วแต่บุญบารมีและศีลของแต่ละบุคคลห้ามงมงาย ถ้าทำดีก็ดี มีศีลพร้อมปฏิบัติตามหลักธรรมก็ย่อมได้ดีแน่นอน" สามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้ามักจะพูดหลีกเลี่ยงแบบนี้เสมอและมักจะเก็บตัว ไม่ค่อยอยากจะให้ใครมาหามากมายเพราะไม่มีเวลาได้ ปฏิบัติธรรมในสมัยนั้น

    ออกธุดงค์ครั้งแรก

    หลังจากนั้นก็ขอลาบิดามารดาออกธุดงค์เพียงลำพังรูปเดียว แต่ปรากฏว่าทางบิดามารดาและญาติไม่ยอม สามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้าเลยตัดสินใจหนีออกธุดงค์ตั้งแต่เป็นเณรอายุ ๑๖ ปี ธุดงค์ตั้งแต่พะเยา เชียงราย เมืองแพร่ เมืองน่าน แล้วก็หลงทางป่าเพราะยังไม่ชำนาญเส้นทาง แต่ก็ได้พบเจอครูบาอาจารย์สายวิปัสสนาหลายรูปไม่ว่าจะเป็นรูปที่ยังดำรงขันธ์หรือดับขันธ์ไปแล้ว ตลอดจจนสิงสาราสัตว์ต่าง ๆ เช่น ช้าง ผีพราย เปรต คนธรรม์ พญานาค ยักษ์ ชาวบังบด แม้กระทั่งหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ฯลฯ ก็เจอมาหมดแล้ว ไม่มีอะไรฉันบางครั้งก็ต้องฉัน ใบไม้แทน บางครั้งเทวดาสงสารก็ลงมาใส่บาตรบ้าง เดินทางด้วยเท้าเปล่าไปเรื่อย ๆ จนไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน มีอยู่วันหนึ่งเป็นไข้มาลาเรียอ่อนแรงมาก ตั้งสติกำหนดไปแล้วเจอทางออกสู่ถนนใหญ่บริเวณข้างป่า รอรถคันไหนก็ไม่มีที่จะผ่านมามีแต่ช้างเป็นฝูงจำนวนหลายเชือกเดินผ่านแทบจะหมดสติ สามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้าจึงอธิษฐานไว้ในใจว่า “กรรมใดหนอที่ทำให้ข้าพเจ้ามาตกที่นั่งลำบากเช่นนี้ แม้กระทั่งคนหรือรถยานพาหนะก็ยังไม่ ปรากฏมี หากแม้นว่าใครมีบุญบารมีอันยิ่งใหญ่ร่วมกันในอดีตชาติเคยเกื้อหนุนกันมาก่อน ที่เคยเป็นเศรษฐีมหาเศรษฐีร่ำรวยเงินทองมาจากอดีตชาติ ก็ขอให้มาพบเจอข้าพเจ้าแล้วพาข้าพเจ้าไปรักษาตัว รักษาธาตุขันธ์เพื่อให้กลับมาใช้ธาตุขันธ์นี้บำเพ็ญความดีบำเพ็ญบารมีในชาติสุดท้ายนี้ เพราะเราต้องเจอผู้อุปการะคุณผู้มีบุญเหล่านั้นเรื่อย ๆ ไป ผู้ใดให้ทรัพย์ เงินทอง และยานพาหนะแก่เราแล้ว เราจะนำไป สร้างประโยชน์คุณความดีบารมีอันยิ่งในชาติสุดท้ายนี้ ก็ขออานิสงส์บุญกุศลเก่าที่สั่งสมมาจงเกื้อหนุนให้เขาเหล่านั้นที่ค้ำชูข้าพเจ้าด้วยเงินทองในการสร้างวัดศาสนา ก็ขอให้เขารุ่งเรือง ร่ำรวย ร้อยเท่าพันทวีคูณ มีบารมีแคล้วคลาดปลอดภัยจากโรคภัยทั้งปวง มีความสุขตลอดกาลเทอญ”

    พลันขณะนั้นก็มีรถอีแต๋นคันเก่า ๆ คันหนึ่งซึ่งหาบอ้อยผ่านทางนี้พอดีก็อดสงสารสามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้าไม่ได้ เลยนำส่งโรงพยาบาลสุราษฏร์ธานีแล้วติดต่อกลับมาหาญาติที่พะเยา ญาติก็เลยนิมนต์สามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้ากลับมาที่พะเยา ภายหลังทราบข่าวว่าผู้ที่นำส่งสามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้ามาส่งที่โรงพยาบาลนั้นคือนายนิยะ มาโต๊ะ ถูกหวยรางวัลที่ ๑ จำนวน ๘ ใบ รวยเป็นเศรษฐี และมีความตั้งใจตามหาสามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้ามาโดยตลอด เมื่อได้พบกันแล้วนายนิยะ มาโต๊ะได้นำรถยนต์คันใหม่มาถวายสามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้า แต่สามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้ารับมอบแล้วก็มอบให้โรงพยาบาลไว้ใช้เป็นสมบัติของราชการ ต่อมาก็ทราบข่าวอีกว่ากิจการงานของนายนิยะ มาโต๊ะ ก็เจริญรุ่งเรือง ร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีอีกคนหนึ่ง

    หลังจากสามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้ากลับจากธุดงค์แล้วใช้เวลาหลายเดือนพอสมควร ตอนนั้นอายุได้ ๑๗ ปี ผู้เป็นบิดาได้มอบสมบัติชิ้นสุดท้ายให้แก่สามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้าคือ หลวงพ่อโสธร ทองเหลือง ปี ๒๕๐๐ ให้ไว้กับตัวแทนผู้เป็นบิดาเพราะผู้เป็นบิดาจะอยู่ไม่ได้แล้วเป็นโรคน้ำท่วมปอดและมะเร็ง ปอด ผู้เป็นบิดาได้ขอร้องให้สามเณรเจ้าหน่อแก้วฟ้างดธุดงค์ ขอให้อยู่กับแม่และเรียนหนังสือต่อ ฝ่ายผู้เป็นมารดาก็ขอร้องเช่นกันและแล้วก็เกิดการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่เพราะผู้เป็นบิดาคือนายหน้อยแหน้น ใจลา ได้เสียชีวิตด้วยโรคน้ำท่วมปอดและมะเร็งปอดด้วยวัย ๕๐ ปี ในวันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๓๗ สร้างความโศกเศร้าเสียใจให้แก่ทุกคนในครอบครัวและญาติทุกคนเป็นอย่างยิ่ง

    รับนิมนต์มาวัดเกษศรี

    ต่อจวบจนอายุครบอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ตรงกับวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๓๘ โดยมีครูบาสงบ วัดต๊ำน้ำล้อม เจ้าคณะตำบลบ้านต๊ำ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์อิ่นแก้ว รตนปญฺโญ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์บุญแทน กิตติปญฺโญ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังจากอุปสมบทแล้วครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้าก็ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนและยึดถือการปฏิบัติธรรมโดยไม่ย่อหย่อน นอกจากนั้นครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้ายังได้ปฏิบัติศาสนกิจทางพระพุทธศาสนา บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม เผยแผ่ธรรมะของพระพุทธเจ้า สอนพระปริยัติธรรม และรับใช้ครูบาอาจารย์มาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งในวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๕๐ สาธุชนชาวบ้าน บ้านร้องและบ้านสีเสียด ทั้ง ๒ หมู่บ้านได้ขออาราธนานิมนต์ครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้ามาจำพรรษาและรักษาการเจ้าอาวาส ณ วัดเกษศรี (บ้านร้อง) โดยครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้าได้รับนิมนต์มาเพื่อร่วมสร้างป๋าระมี (บารมี) ตามแบบครูบาเจ้าศรีวิชัย เนื่องจากว่าในอดีตวัดเกษศรีเป็นวัดเก่าแก่ที่ชำรุดทรุดโทรมขาดการบูรณะมาช้านาน ถือว่าเป็นหน้าที่หลักของครูบาหน่อแก้วฟ้าที่จะต้องมาร่วมสร้างบารมีกับนักบุญร่วมชาติก่อนปางหลัง

    เมื่อวันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๑ ถึง วันที่ ๔ มกราคม ๒๕๕๒ ที่ผ่านมา เป็นช่วงสิ้นปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า จึงได้ตัดสินใจเข้ากรรม (นิโรธกรรม) แบบแพลอยน้ำ มีกระต๊อบบนแพ ๑ หลัง กว้างยาวเมตรครึ่ง นั่งภาวนาอยู่ที่เดียวบนแพลอยน้ำ โดยเป็นการบำเพ็ญอุกฤษฎ์ ๙ อย่างคือ
    ๑. งดฉันอาหารทุกประเภท
    ๒. งดฉันน้ำทุกประเภท
    ๓. งดถ่ายหนัก (อุจจาระ)
    ๔. งดถ่ายเบา (ปัสสาวะ)
    ๕. งดลุกจากอาสนะ (ที่นั่ง)
    ๖. งดนอนหลับ ทั้งกลางวันและกลางคืน
    ๗. งดพูดจาด้วยการปิดวาจา
    ๘. อยู่ลำพังบนแพลอยกลางน้ำ
    ๙. ปฏิบัติกรรมฐานอย่างเดียว

    เพื่อเอาอานิสงส์นี้ถือเป็นการแก้เคราะห์กรรมเก่าให้เหล่าสาธุชนทั้งหลาย เปิดทรัพย์เปิดโชคชัย บารมีสุขให้สาธุชน ทั้งหลายมีความสุข ความเจริญ รุ่งเรือง ร่ำรวย แคล้วคลาดปลอดภัยจากภัยอันตรายใด ๆ อายุมั่นขวัญยืน ค้ำชูพระพุทธศาสนาให้เจริญ รุ่งเรืองยิ่ง ๆ ขึ้นไป ก็มีสาธุชนทั้งหลายมาจากทั่วสารทิศ ที่มาชมบารมีครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า และขอพรจากท่านครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า ทำให้ ท่านสาธุชนเหล่านั้นมีโชคมีชัย รวยและปลอดภัยจากโรคภัยกันถ้วนหน้า

    หลักชัยของพุทธศานิกชน

    เมื่อก่อนคนทั้งหลายก็ยังไม่มีความเชื่อมั่นในตัวครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า เพราะว่าเป็นหนุ่มตนน้อย หน้าตายังเป็นละอ่อนอยู่ ไม่น่าจะมีความสามารถอะไร จนบางคนวิพากษ์วิจารณ์ดูหมิ่น ดูถูก พูดจาถากถางว่าจะไปสักกี่น้ำ จะทำอะไรได้เพราะอายุยังน้อยอยู่จนเวลาผ่านไป ๕ เดือน ด้วยบารมีธรรมเก่าของครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า ก็ได้จัดตั้งกลุ่มเยาวชนคนรักษ์วัดกลองสะบัดชัยขึ้น เพื่อให้มีชัยชนะและความสำเร็จเหมือนชื่อหน่อแก้วฟ้าไจยา จนเยาวชนวัดเกษศรีมีชื่อเสียงโด่งดังข้ามจังหวัด ด้วยความสามารถและความสามัคคีของกลุ่มเยาวชนเองที่มีหลักชัยคือครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้านั่นเอง

    ปัจจุบันมีสาธุชนต่างที่ใกล้และที่ไกล ต่างบ้าน ต่างอำเภอ ต่างจังหวัด และต่างประเทศมากราบนมัสการ รวมถึงถวายปัจจัยและสิ่งของเพื่อสืบทอดพระศาสนาและเป็นการร่วมบุญบารมีกับครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้าอย่างไม่ขาดสาย ทำให้ในแต่ละวันครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้าแทบไม่มีเวลาพักผ่อน ด้วยเหตุที่ครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้าเป็นผู้เจริญในเมตตาและบารมีธรรม จึงปรารถนาที่จะโปรดและให้ความช่วยเหลือแก่สรรพสัตว์ทั้งหลายไม่ว่าจะยากดีมีจน เป็นใคร มาจากไหน หากเขาเหล่านั้นเป็นผู้ตกทุกข์ได้ยากและมีความตั้งใจที่จะขอบารมีจากท่าน ครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้าก็จะโปรดให้ความอนุเคราะห์อย่างไม่เลือกชนชั้นวรรณะ โดยไม่เห็นแก่ลาภสักการะที่มีสาธุชนนำมาถวายให้แต่อย่างใด ครูบาเจ้ามักจะกล่าวว่า “อาตมาเองเป็นครูบาตนเดียวที่ยากจนที่สุด แต่รวยน้ำใจมากที่สุด” หมายถึงว่าท่านนำลาภสักการะต่าง ๆ เหล่านั้นที่ได้รับจากสาธุชน นำไปสืบสานพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนและเพื่อช่วยเหลือสังคมในด้านสาธารณกุศลจนเป็นที่ประจักษ์ อาทิ

    ชี้แนะคนที่ขาดกำลังใจ หรือ ที่พึ่งทางใจ ให้มีที่ปรึกษาชี้แนะที่ถูกทาง สอดคล้องตามหลักธรรมในพระพุทธศาสนา เพื่อให้ทางออกที่เหมาะสมและนำไปใช้แก้ไขปัญหาชีวิตประจำวัน
    สำหรับคนที่ต้องการความสุขสงบในจิตใจสามารถมาปรึกษาสนทนาธรรมและปฏิบัติธรรมตามความสามารถในสติปัญญาของตน
    สืบสานและเผยแผ่พิธีกรรมทางพระพุทธศาสนาแบบล้านนา เพื่อเป็นการรักษาประเพณีอันดีงามและเป็นการสร้างคนดีในสังคมอีกทางหนึ่ง
    นำปัจจัยสมทบการก่อสร้าง ถาวรวัตถุภายใน วัดเกษศรี ให้มีความเจริญรุ่งเรืองถือว่าเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนาวัดเกษศรีให้เจริญถาวรคู่กับบ้านเมืองภูกามยาว
    นำปัจจัยสมทบกองทุนการศึกษาพระภิกษุสามเณรภายในวัดเกษศรี ให้หมู่คณะสงฆ์และสามเณรมีความรู้และความสามารถ เพื่อเป็นกำลังสำคัญของบ้านเมืองและพระศาสนาสืบไป
    นำปัจจัยสมทบค่าภัตตาหารเช้า-เพล แด่พระภิกษุสามเณร ภายในวัดเกษศรี ให้มีกำลังกาย กำลังใจในการประพฤติวัตร ปฏิบัติธรรมตามสติกำลัง เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง
    นำปัจจัยสมทบกองทุนคณะสงฆ์ในตำบล ตำบลใกล้เคียง ในอำเภอภูกามยาว และในจังหวัดพะเยาโดยจะถวายในวันปวารณาเข้าพรรษาในแต่ละปี และใช้จ่ายในกิจการงานพระพุทธศาสนาของวัดเกษศรี
    นำปัจจัยสมทบทุนการศึกษานักเรียนที่เรียนดี แต่ยากจนในโรงเรียน ต่างๆ ในดุลพินิจ เป็นการให้โอกาสคนที่เรียนดี มีวิชาติดตัว เป็นประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง
    ๙.นำปัจจัยสมทบเพื่อการสงเคราะห์ผู้ป่วย เด็กกำพร้า คนชรา และ คนยากจน ตามชนบทต่าง ๆ ให้บรรเทาความเดือดร้อน มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

    full.jpg
    มารบ่มี บารมีบ่เกิด
    จากความตั้งใจอย่างมุ่งมั่นและแน่วแน่ของครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้าที่ได้ทำมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหลายปี ทำให้ผู้ที่มิจฉาทิฎิและมีอคติด้วยความไม่รู้และความเข้าใจที่ถูกต้องในวัตรปฏิบัติและปฏิปทาของครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า จึงพยายามที่หาเหตุบ้าง กล่าวร้ายบ้าง ต่าง ๆ นานา แต่ครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า ไม่เคยนำมาใส่ใจเพราะท่านถือว่า “มารบ่มี บารมีบ่เกิด หรือศัตรูคือยาชูกำลัง” ดูอย่างครูบาเจ้าศรีวิชัย (ต๋นบุญแห่งล้านนา) ก็ยังเจอปัญหามาอย่างมากมายนานับประการ แต่ท่านก็สามารถฝ่าฝันฟันได้จนสำเร็จในที่สุดแม้ว่าจะใช้ระยะเวลาอย่างยาวนาน ถือว่าเป็นการบำเพ็ญบารมีชั้นสูงที่ทำได้ยากประการหนึ่ง

    ทุกวันนี้ครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้าไจยา ได้รับการยอมรับว่าเป็นครูบาหนุ่มนักปฏิบัติธรรมและนักพัฒนา อย่างแท้จริง ที่สร้างบารมีโดยการให้ทานและมีเมตตากับคนทุกเพศทุกวัยทุกชนชั้นวรรณะไม่เลือกยากดีมีจน หรือเลือกที่รักมักที่ชัง ถ้าใครมาหาท่านพบปะสนทนาธรรมกับท่าน ท่านก็ยิ้มแย้มแจ่มใสทักทายปราศรัยกัน ถ้าไม่ติดธุระหรือการงานใด ท่านก็มีเมตตาช่วยเหลือพูดคุยแนะนำ สนทนาธรรม แลกเปลี่ยนความคิดเห็น นอกจากนั้นแล้วครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้ายังได้นำพิธีกรรมสำคัญ ๆ ต่าง ๆ ของทางล้านนาที่กำลังจะสูญหายไปมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับพิธีกรรมต่าง ๆ และหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา และยังช่วยเหลือสาธุชนทั่วไปโดยเป็นยาใจหรือธรรมะโอสถแก่สาธุชนทั้งหลายให้ตั้งจิตตั้งใจ เป็นคนดี ละความชั่ว ทำจิตใจให้ผ่องใส เชื่อมั่นในตัวเอง ขยันหมั่นเพียร มีสติ พึ่งตนเอง มีศีลห้า ทำตนให้ เป็นประโยชน์ต่อสังคม ฯลฯ นี่คือหลักในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า อันเป็นการสร้างบุญบารมีอันยิ่งใหญ่ แม้ว่าครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้าจะเกิดชาติสุดท้ายแล้วก็ตาม ก็ขอฝากความดีนี้ไว้ในโลก นำสัตว์ทั้งหลายที่มีบารมีร่วมกันข้ามพ้นโอฆวัฏฏะสงสาร แม้นว่าเขาเหล่านั้นยังไม่หลุดพ้นก็ขอ ให้เขาเหล่านั้นที่มีบารมีกระทำร่วมกับครูบาเจ้า ขอให้มีความสุข ความเจริญ ความรุ่งเรือง ความร่ำรวย เป็นเจ้าคนนายคน มีรถมียาน พาหนะ มีความสะดวกคล่องแคล่วในการงาน การค้าการขาย แคล้วคลาดปลอดภัยจากโรคภัย ไข้เจ็บ มีอายุมั่นขวัญยืน ความไม่มี ความไม่ได้ ขออย่าให้เกิดกับคนทั้งหลายที่บำเพ็ญบารมีมาร่วมกับครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า ขอให้เขาเหล่านั้นพบพระพุทธศาสนาทุกชาติ ทุก ๆ ภพ ด้วยเทอญ

    ที่มา : ประวัติครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า (พระเจษฎา โชติปญฺโญ)

    Facebook : ลานธรรมฯ ครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า
     
  16. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,242
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,515
    n1435434-jpg.3905734.jpg
    n1435431-jpg.3905735.jpg
    ภาพนี้ญาติธรรมคือคุณโยธินและคุณคะรีวัลย์ เดชใจ เจ้าของคะรีวัลย์ล้านนา ร้านสังฆภัณฑ์ ต.ท่าวังทอง อ.เมือง จ.พะเยา ได้มอบไว้ให้กับครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า เพื่อเผยแพร่ประสบการณ์ที่รอดตายปาฎิหารย์จากตะกรุดพระเจ้าห้าพระองค์ที่ได้บูชา เหตุเกิดราวเดือนตุลาคม 2551 ณ บริเวณทางหลวง ต.แม่กา อ.เมือง จ.พะเยา รถประสบอุบัติเหตุเสียหลักชนเข้ากับต้นไม้บริเวณใหญ่ที่ปลูกไว้บริเวณเกาะกลาง โดยผู้โดยสารในวันนั้นทุกคนปลอดภัย เรื่องที่เป็นที่ทราบกันดีของศิษย์พื้นที่และเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับตะกรุดพระเจ้าห้าพระองค์เป็นอย่างมากครับ


    เครดิต : รอดตายด้วยตะกรุดพระเจ้าห้าพระองค์
     
  17. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,242
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,515
    เรียนเชิญครับ พระปิดตามหาลาภ, พระผง-ล๊อกเก็ตครูบาพรชัย วรปัญโญ, พระหนุนทรัพย์, วัตถุมงคลในนิโรธสมาบัติ และอื่นๆ
     
  18. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,242
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,515
    b8-25b2-25e0-25b8-2599-25e0-25b8-25ab-25e0-25b8-2599-25e0-25b9-2589-25e0-25b8-25b211-jpg.4107144.jpg
    b8-25b2-25e0-25b8-2599-25e0-25b8-25ab-25e0-25b8-25a5-25e0-25b8-25b1-25e0-25b8-258711-jpg.4107145.jpg
    b8-25b2-25e0-25b8-2599-25e0-25b8-25a5-25e0-25b9-2588-25e0-25b8-25b2-25e0-25b8-258711-jpg.4107146.jpg
    18.พระกริ่งโฆสิโต รุ่นสัมมาอะระหัง สตางค์มา พระครูบาเหนือชัย บูชา 2,300 บาท

    พระกริ่งโฆสิโต รุ่นสัมมาอะระหัง สตางค์มา (รุ่นแรก) เนื้อสัมฤทธิ์ พระครูบาเหนือชัย โฆสิโต สำนักปฏิบัติธรรมถ้ำป่าอาชาทอง อ.แม่จัน จ.เชียงราย ต๊อกโค้ทหมายเลข ๒๓๖

    รายการนี้ไม่มีกล่องนะครับ เพราะแยกออกมาจากชุดใหญ่
     
  19. Muang99

    Muang99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    4,242
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +6,515
    เรียนเชิญครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 เมษายน 2017

แชร์หน้านี้

Loading...