วาจาสิทธิ์หลวงปู่ปาน

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 29 มิถุนายน 2007.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,439
    [​IMG]
    ท่านผู้ฟังทั้งหลาย วันนี้ตรงกับวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2515 เมื่อวานนี้วันที่ 30 ไปโรงพยาบาลซ่อมเครื่องจักรกลมาหน่อยหนึ่ง รู้สึกว่าร่างกายค่อยดีขึ้น วันนี้มาคุยถึงเรื่องหลวงพ่อปานใหม่ เอากันเรื่องเล็กๆ น้อยๆ นะ เรื่องเกล็ดๆ เท่าที่ชาวบ้านเขาร่ำลือกัน นั่นก็คือเรื่องล้างชาม
    เรื่องล้างชามนี่มีอยู่ว่า ในงานเทศกาลครั้งหนึ่ง เป็นงานของหลวงพ่อปานเองคนมาก หลวงพ่อปาน เวลาจัดงาน ท่านเลี้ยงชาวบ้าน คือตั้งโรงครัว เรียกว่าอาหารการบริโภคอุดมตลอดเวลา เรื่องการกินไม่ต้องห่วง ถ้าไม่เลือกกับข้าวละไม่ต้องห่วงเรื่องการกิน แกงประจำของท่าน ใครจะมีแกงอย่างอื่นท่านไม่ว่า แต่แกง 2 อย่างไม่มีไม่ได้ นั่นคือ แกงคั่วสั้มผักบุ้งกับหัวตาลต้มปลาร้า ขนมของท่านก็มี 2 อย่าง ข้าวตอกน้ำกะทิกับแมงลักละลายน้ำ เรียกว่าขนม 2 อย่าง แกง 2 อย่าง นี่ต้องมีประจำ แต่แมครัวจะทำอย่างอื่นด้วยก็ได้ ไม่เป็นไร ไม่ว่าเหมือนกัน ทีนี้การเลี้ยงคนในงานในสมัยนั้น คนนิยมกินข้าวโรงครัวมาก เพราะร้านค้าไม่ค่อยจะมี แล้วก็ชาวบ้านยังไม่ค่อยเลือกอาหาร ตามชนบทก็กินอย่างเรียกว่ากินอิ่ม ไม่ใช่กินอวด เพราะงั้นคนกินก็มีมาก คนครัวก็มากพอ แต่ว่าคนล้างชามนี่มีน้อย ชามที่เขากินแล้ว ยังล้างไม่ทัน คนที่มากินใหม่ก็ไม่มีชามจะกิน นี่เป็นเรื่องลำบากของคนทำครัว คนกินน่ะไม่หนัก ทีนี้คนล้างชามน่ะหาล้างไม่ทัน ก็ปรากฏว่าหาคนช่วยยาก อย่างอื่นมีคนทำงานเยอะ แต่คนล้างชามมีน้อย คนล้างชามสมัยนั้นก็ชื่อตาเผือด นี่อาตมารู้จักในสมัยที่แกแก่แล้ว คนนี้มีร่างกายแข็งแรงมาก เป็นสัปเหร่อประจำวัด แกก็มารายงานหลวงพ่อปาน บอกว่าหลวงพ่อขอรับ ท่านใหญ่ขอรับ กรุณาให้ใครไปช่วยล้างชามด้วยเถอะ เพราะว่าการล้างชามนี่ไม่ทันกับคนกิน จริงๆ คนกินมาก คนล้างลามน้อย ชามที่มีอยู่ก็มากเหมือนกัน แต่ว่าล้างไม่ทัน เพราะคนล้างไม่มี หลวงพ่อปานบอกว่า เวลานี้งานก็คั่งด้วยกันหมด จะหาใครมาล้างได้ล่ะ เอายังงี้ก็แล้วกัน เอาชามใส่ตะกร้าแล้วเขย่าๆ ซีมันถึงจะได้ไว ไปล้างทีละลูกๆ มันจะทันยังไง คนเขากินทีนับสิบ แล้วชามที่เขากินแล้วเขาไม่ได้ล้าง เขาไป นี่มันเปื้อนคราวหนึ่งนับสิบ ล้างทีละลูกแกจะไปล้างทันได้ยังไง ตาเผือดแกฟังยังงั้นแกก็ปฏิบัติตามคำสั่งทันที ขนชามลงท่าน้ำใส่ตะกร้าเขย่า เรียกว่าเขย่าอย่างไม่ปรานีกัน เขย่าแล้วส่ายไปส่ายมา ให้ชามเกลี้ยง ได้ผลดีมาก แล้วชามก็ไม่แตก
    คราวนี้ก็เอาละ เกิดเรื่องใหญ่ มันมีเรื่องใหม่ขึ้นมาเรื่องหนึ่ง หลวงพ่อปานแจกของก็มุงกันมากอยู่แล้ว มหรสพที่มีอยู่คนก็ล้อมกันแน่นขนัด แต่ว่านั่งอย่างมีระเบียบ ไอ้งานใหม่เพิ่มขึ้น คือตาเผือดล้างชาม ใส่ตะกร้าเขย่าเป็นงานใหม่สำหรับงานนั้น เรียกว่าเป็นมหรสพใหม่ คนมาดูกันแน่นขนัด ตาเผือดแกก็เขย่าชามหน้าตาเฉย ไม่มีความรู้สึกอะไร ชาวบ้านทั้งหลายก็พากันวิพากษ์วิจารณ์ว่าประเดี๋ยวชามก็แตกหมด บางคนก็ร้องห้ามบอกว่าลุง อย่าไปเขย่ายังงั้นซี ประเดี๋ยวชามก็แตกหมด ตาเผือดแกตอบว่ายังไง แกตอบว่านี่ชามของวัดบางนมโคนา เป็นชามของท่านใหญ่ คือหลวงพ่อปาน จะแตกหรือไม่แตกไม่ใช่เรื่องของฉัน เมื่อท่านสั่งให้ฉันเขย่า ฉันก็เขย่า หากว่าฉันไมเขย่าก็ไม่ทันพวกแกใช้ พวกแกกินกันคราวหนึ่งนับสิบๆ คน แล้วฉันจะมานั่งล้างชามทีละลูกๆ ยังไง พวกแกกินแล้วก็ไม่ล้างชามกัน ตาเผือดรู้สึกว่าแกเป็นคนปากร้ายๆ อยู่สักหน่อย แต่ว่าผลที่ปรากฏ แกเขย่าแรงๆ แล้วก็ส่ายไปส่ายมา แล้วก็เทกองเข้าไว้ พ่อไม่จัดเรียงเสียด้วย เทกองเข้าไว้ เทเสร็จแล้วก็มาเทกองรวมกัน เทใส่กระบุงใหญ่ๆ กองรวมกัน แล้วก็เอาใหม่ ที่ยังไม่ได้ล้างใส่ตะกร้าไปเขย่าอีก บรรดาประชาชนที่สนใจเข้ามาดู ชามที่ตาเผือดล้างเป็นชามก๋วยเตี๋ยว มันแตกหรือไม่แตก ก็ปรากฏว่าไม่มีชามแตกสักลูกหนึ่ง
    เรื่องนี้เป็นที่เล่าลือกันมาก คนที่เห็นในสมัยนั้น ในขณะที่ตาเผือดล้างชาม แล้วก็ยังมีชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ ก็คือ พันเอกแสวง แก้วมณี ท่านผู้นี้บอกว่าเห็นกับตาเองเลยครับ
    เรื่องนี้หลวงพ่อปานท่านจะเสกท่านจะเป่ายังไงก็ไม่เห็นท่านทำนี่ ก็เป็นอันว่าเรื่องล้างชามผ่านไปนะ เป็นสิ่งมหัศจรรย์ และข่าวมหัศจรรย์ของคนสมัยนั้น
     
  2. newhatyai

    newhatyai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,768
    ค่าพลัง:
    +6,203
    ขออนุโมทนา...สาธุ....สาธุ....สาธุ ให้ตราบเข้าถึงพระนิพพาน
    ขออนุโมทนา...สาธุ....สาธุ....สาธุ ให้ตราบเข้าถึงพระนิพพาน
    ขออนุโมทนา...สาธุ....สาธุ....สาธุ ให้ตราบเข้าถึงพระนิพพาน
    ข้าจะขอยึดหน่วงเอาซึ่งพระพุทธเจ้า พระปริยัติธรรมเจ้า พระอริยสงฆ์เจ้า แลคุณพระพุทธเจ้า แลคุณพระนวโลกุตรธรรมเจ้า แลคุณพระอริยสงฆ์เจ้าในอดีตอนาคตปัจจุบัน จงมาเป็นที่พึ่งแก่ข้าตราบเข้าสู่พระนิพพาน แลข้าจะขอนมัสการกราบไหว้ พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระอริยสงฆ์เจ้า อันเป็นอดีตอนาคตปัจจุบันสิ้นกาลนานทุกเมื่อ แลข้าพเจ้าจะข้อเป็นข้าแห่งพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระอริยสงฆ์เจ้า ขอพระพุทธเจ้าจงมาเป็นเจ้าเป็นใหญ่แก่ข้า ขอพระบาทาของพระพุทธเจ้า จงมาประดิษฐานอยู่เหนือเศียรเกล้าแห่งข้าสิ้นกาลทุกเมื่อ ขออาราธนาพระธรรเจ้าทั้งมวลนั้นจงมาประดิษฐานอยู่เหนือเศียรเกล้าแห่งข้าสิ้นกาลทุกเมื่อ ขอพระอริยสงฆ์เจ้าจงมาเป็นเจ้าเป็นหใหญ่ ข้าขอาราธนาคุรแห่งพระอริยสงฆ์
    จงประดิษฐาน อยู่เหนือเศียรเกล้าแห่งข้าสิ้นกาลทุกเมื่อ สิ่งอันอื่นที่จะได้เป็นที่พึ่งแก่ข้าหามิได้ ถ้าเว้นแต่พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระอริยสงฆ์เจ้าเป็นที่พึ่งแก่ข้าพเจ้าเที่ยงแท้นักหนา ข้าไหว้ละอองธุลีบาททั้งหลายพระลายลักษณ์สุริยฉาย มงคลทั้งหลายจงมาบังเกิดแก่ข้าด้วยคำสัจนี้เถิด อนึ่งโทษอันใดข้าได้ประมาทพลาดพลั้งไว้ในพระพุทธเจ้าอันเป็นอดีจอนาคตปัจจุบัน ขอพระพุทธเจ้าขอมาอดโทษทั้งปวงนั้นให้แก่ข้าพระพุทธเจ้านี้เถิด ข้าขอกราบไหว้พระธรรมเจ้าทั้ง 2 ประการอันประเสริฐ โทษอันใดข้าได้ประมาทพลาดพลั้งไว้ในพระธรรมเจ้าทั้ง 2 ประการ ขอพระธรรมเจ้าทั้ง 2 ประการจงมาอดโทษทั้งปวงนั้นให้แก่ข้าพระพุทธเจ้านี้เถิด ข้าขอกราบไหว้พระอริยสงฆ์เจ้าทั้ง 2 ประการอันประเสริฐ โทษอันใดข้าได้ประมาทพลาดพลั้งไว้ในพระอริยสงฆ์เจ้าทั้ง 2 ประการ ขอพระอริยสงฆ์เจ้าทั้ง 2 ประการจงมาอดโทษทั้งปวงนั้นให้แก่ข้าพระพุทธเจ้านี้เถิด
     

แชร์หน้านี้

Loading...