วาทะคำสอนของพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย TupLuang, 5 กันยายน 2008.

  1. TupLuang

    TupLuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,143
    ค่าพลัง:
    +1,371

    <CENTER>วาทะคำสอนของพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร</CENTER>
    <DD>1. บุญและบาปสิ่งใดๆ ใจถึงก่อนใจเป็นรากฐาน ใจเป็นประธาน มันสำเร็จที่ใจ <DD> <DD>2. ตัวบุญคือใจสะบาย เย็นอกเย็นใจ ตัวบาปคือใจไม่สบาย ใจเดือดใจร้อน <DD> <DD>3. เราไม่อยากเป็นกรรมเป็นเวร เราต้องตัด ตัดอารมณ์น่ะหละ ให้อยู่ในที่รู้ อยู่ตรงไหน แล้วเราก็เพ่งอยู่ตรงนั้น <DD> <DD>4.ปัญญาคือ ความรอบรู้ในกองทุกข์สังขาร <DD> <DD>5. ถ้าคนเราไม่ได้ทำ ไม่ได้หัดไม่ได้ขัด ไม่ได้เกลา ที่ไหนเล่า จะมีพระอรหันต์ในโลก <DD> <DD>6. ให้สติกำหนดที่ผู้รู้ อย่าส่งไปข้างหน้า ข้างหลัง ข้างซ้าย ข้างขวา ข้างบน ข้างล่าง อดีต อนาคต กำหนดอยู่ที่ผู้รู้แห่งเดียวเท่านั้นแหละ <DD> <DD>7. พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อยู่ที่ใจ ในใจ <DD> <DD>8. จำไว้พุทโธ ธัมโม สังโฆ ทำอะไรๆ ก็พุทโธ กลัวก็พุทโธ ใจไม่ดีก็พุทโธ ขี้เกียจก็พุทโธ ท่านให้พิจารณามูลกรรมฐานก่อนม๊ด เวลาบวชพิจารณาเพราะเหตุใด เพื่อไม่ให้หลงถือทิฐิมานะอหังการ ถือว่าเป็นตัวเป็นตน เป็นสัตว์เป็นบุคคล เป็นเรา เป็นเขา มันจึงหลง <DD> <DD>9. เราต้องปฎิบัติอย่างฝากตาย <DD> <DD>10. ศีลห้านี้ คือ ขาสอง แขนสอง ศีรษะอันหนึ่ง เรารักษาห้าอย่างนี้ไม่ให้ไปทำโทษห้า คือ อันใดเล่า ปาณานั้นก็โทษ อทินนานั่นก็โทษ กาเมนั่นก็โทษ มุสานี่นก็โทษ สุรานั่นก็โทษ พระพุทธเจ้าให้เว้น เวรมณี คือ ละเว้น <DD> <DD>11. อยากสวยให้ถือศีล อยากรวยให้ทำทาน อยากมีปัญญาชาญให้ภาวนา <DD> <DD>12. จิตของเราสงบเป็นสมาธิ มันรู้สึกสบาย ส - บ๊ - า - ย เย็นอก เย็นใจ หายทุกข์ หายยาก หายรำบากรำคาญ <DD> <DD>13. ผู้รู้ไม่ใช้ของแตกของทำลายของตายของดับ <DD> <DD>14. ถ้าใจเราดีแล้ว ทำอะไร๊ก็ดี ไปไหนๆก็ดี ทำการทำงานก็ดี ทำราชการก็ดี ครอบครัวก็ดี พี่น้องก็ดี ชาวบ้านร้านตลาดก็ดี ประเทศชาติก็ดี <DD> <DD>15. ความสุขอันใดเสมอจุดสงบไม่มี <DD> <DD>16. ธรรมของพระพุทธเจ้าแปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์นั้น อยู่ที่ตัวเรา ไม่ใช่ที่ไหนอื่น <DD> <DD>17. กรรมดีกรรมชั่ว ผู้นี้เป็นผู้กำเอาเป็นผู้ทำเอาไม่เห็นมีกรรมมาจากต้นไม้ภูเขาเหล่ากา ไม่เห็นมีกรรมมาจากฟ้าอากาศ มาจากกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม กรรมเท่านี้แหละ <DD> <DD>18. เราเกิดมามีกรรมฐานห้ามาพร้อม ทีนี้กับคนแก่พระกรรมฐานขาดไปองค์หนึ่ง ทันตาฟันไงล่ะ เด็กมันเกิดมาฟันยังไม่เกิด พระกรรมฐานขาดไปองค์หนึ่ง คนแก่ฟันหลุดหมด พระกรรมฐานก็ขาดไปองค์หนึ่ง <DD> <DD>19. วิธีอื่นไม่มีจะตัดบาปตัดกรรมตัดเวร นอกจากเรานั่งสมาธินี้ <DD> <DD>20. มโนกรรมคือความน้อมนึกระลึกกรรมอันใดไว้ เป็นบุญหรือเป็นบาป เราจะรับผลของกรรมนั้นสืบไป <DD> <DD>21. บุญคือความสุข บุญคือความเจริญ บุญคือคุณงามความดี มันตรงไหนล่ะ เงินเขาก็ไม่ได้ว่าเขามีความสุข ถามดูซิ เงินเจ้ามีความสุขไม๊ เขาเฉย ไม่ใช่เรอะ นี่แหละ ถ้าใจเราไม่สงบมันก็ไม่มีความสุขล่ะ ถ้าใจเราไม่มีความดีก็ไม่มีซี้ <DD> <DD>22. อยากรู้อะไร ตามที่เป็นจริง ให้น้อมเข้ามาภายในโอปะนะยิโก เพราะอะไรๆ มันเกิดมาจากภายใน <DD> <DD>23. สิ่งทั้งหลายทั้งหมดเกิดจากดวงใจของเรา มโนความน้อมนึก <DD> <DD>24. สมุทัย คือ มหาสมุทร จมในมหาสมุทร คือ หลงสมมติ <DD> <DD>25. เมื่อจิตสงบนิ่งแล้วเราอย่าไปหา ไปหาแล้วมันเป็นตัณหา <DD> <DD>26. เรานั้งอยู่นี่มันเกิดกี่ภพกี่ชาติแล้ว ภเว ภวา สัมภวันติ มันเที่ยวก่อภพน้อยๆ ใหญ่ๆ อยู่ มันห้ามไม่ได้ เรานั้งสมาธินี้เพื่อห้ามไม่ให้มันเกิด <DD> <DD>27. เราทำอย่างนี้เรียกปฏิบัติบูชา บูชาพระพุทธเจ้าอย่างเลิศ อย่างประเสริฐที่สุด บุญอันใดจะเท่าเรานั่งสมาธิภาวนาไม่มี <DD> <DD>28. ถ้าหยุดหาเสียเมื่อใด มาตั้งใจปฏิบัติธรรม ก็เห็นธรรมเมื่อนั้น <DD> <DD>29. เวลานี้เราเข้าใจอย่างอื่นว่าเป็นศาสนา ไปเรียนอย่างอื่นไม่ใช้โอปะนะยิกธรรม ไม่น้อมเข้ามาหาตัวเราก็ไม่เห็นซี่ <DD> <DD>30. เพ่งดู นโม อาการสามสิบสองเพ่งให้เห็นแจ่มแจ้งภควา ผู้จำแนกแจกธรรม แจกเข้าแล้วมันก็ไม่มีคน อันนั้นเป็นผม เป็นขน เป็นเล็บ เป็นฟัน เป็นผิวหนัง เป็นตับไต ไส้น้อย ไส้ใหญ่ อาหารเก่า อาหารใหม่ มันไม่ใช่ตัวตนนี่ มันไม่ใช้คนนี่ <DD> <DD>31. ธรรมะแปดหมื่นสี่พันไม่ใช่อะไร รวมแล้วได้แก่พระสูตร คือ ลมหายใจเข้า พระวินัย คือลมหายใจออก พระปรมัตถ์ผู้รู้ที่อยู่ข้างใน</DD>​
    http://goldfish.wimutti.net/tesana/ajfunva01.html
     

แชร์หน้านี้

Loading...