วิญญาณไอ้ย่ามแดง

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย สรวงพิมาน, 29 เมษายน 2017.

  1. สรวงพิมาน

    สรวงพิมาน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2017
    โพสต์:
    326
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +267
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 เมษายน 2017
  2. สรวงพิมาน

    สรวงพิมาน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2017
    โพสต์:
    326
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +267
    โรคทางจิตวิญญาณ

    ถ้าเราเป็นโรคภัยไข้เจ็บทางร่างกายนี้ เราก็ไปที่โรงพยาบาลทั่วๆ ไป ถ้าเราเป็นโรคภัยไข้เจ็บทางจิต เราก็ไปที่โรงพยาบาลปากคลองสาน หรือโรงพยาบาลอะไรทำนองนั้น

    แต่ถ้าเราเป็นโรคทางวิญญาณ เราต้องไปหาพระพุทธเจ้า นี่ไปที่โรงพยาบาลของพระพุทธเจ้า โรงพยาบาลทางทั่วๆ ไป กับโรงพยาบาลปากคลองสานนี้...ช่วยไม่ได้

    ไปหาโรงพยาบาลของพระพุทธเจ้า คือ ศึกษาเรื่องที่มันเหนือจากนั้นไป รู้ว่า...

    กิเลสคืออะไร ?

    ความทุกข์คืออะไร ?

    อะไรเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ ?

    นี่ก็หมายความว่า คนทุกคนในโลกนี้ ถ้ายังไม่เป็นพระอรหันต์ แล้วก็ยังเป็นโรคทางวิญญาณอยู่ด้วยกันทั้งนั้น.....

    jpg1.jpg

    ( ท่านพุทธทาสภิกขุ )

    ที่มา อบรมพระภิกษุนวกะในพรรษา ๒๕๑๔
    ศึกษาพุทธศาสนาจากเวทนา

    https://www.facebook.com/buddhadasaarchives/
     
  3. สรวงพิมาน

    สรวงพิมาน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2017
    โพสต์:
    326
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +267
    ความเครียด ความวิตก กังวล ความท้อแท้ สิ้นหวัง ในทางพุทธศาสนา จัดว่า เป็นโรคอย่างหนึ่ง คือ โรคทางใจ

    และโรคทางใจนี้ มีความหมายรวมไปถึง “ความโกรธ ความผูกโกรธ ความลบหลู่ ความตีเสมอ ความริษยา ความตระหนี่ ความลวง ความโอ้อวด ความกระด้าง ความแข่งดี ความถือตัว ความดูหมิ่นท่าน ความเมา ความประมาท”

    โรคทางใจเหล่านี้ ถึงที่สุดแล้ว เกิดจากความติดยึด ที่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง ปรารถนาให้ทุกอย่าง เป็นไปตามใจตน เมื่อไม่ได้ดังใจ จึงเกิดโรคเหล่านี้ขึ้นมา

    พูดอีกอย่างคือ เป็นโรคที่เกิดจาก ความยึดมั่นในตัวตน โรคทางใจเหล่านี้ ท่านพุทธทาสภิกขุ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “โรคทางวิญญาณ”

    ......................................................................................................................

    การวิจัยตลอด ๒ ทศวรรษที่ผ่านมา ชี้ว่า มีหลายโรคที่เกี่ยวข้องกับจิตใจและความ สัมพันธ์กับผู้คน ที่ชัดเจนได้แก่โรคหัวใจ คนที่มักโกรธ เครียดจัด มุ่งมั่นเอาชนะ ไม่ยอมแพ้ มีโอกาสเป็นโรคนี้ สูงกว่าคนที่มีจิตใจผ่อนคลาย

    เมื่อปี ๒๕๓๘ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ได้ทำการศึกษาคนไข้โรคหัวใจขาดเลือด จำนวนกว่า ๑,๖๐๐ คน พบว่า คนที่ไม่สามารถควบคุมความโกรธได้ มีอัตราการกำเริบ ของโรคหัวใจขาดเลือด มากกว่าถึง ๒ เท่า เมื่อเทียบกับ คนที่มีอารมณ์สงบ และสามารถควบคุมตนเองได้

    นอกจากนั้น ยังมีการค้นพบว่า การจัดการกับความเครียดที่ไม่เหมาะสม เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการตาย มากกว่าการสูบบุหรี่เสียอีก

    ......................................................................................................................

    แม้แต่โรคติดเชื้อ ก็มีอิทธิพลของอารมณ์ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เช่น ในสก็อตแลนด์ มีการพบว่าร้อยละ ๖๕ ของคนที่เป็นวัณโรค เคยประสบเหตุการณ์ที่ทำให้เครียดจัด ร้อยละ ๙๐ ของเหตุการณ์ดังกล่าว ได้แก่ การผิดหวังในความรัก ล้มเหลวในการแต่งงาน

    เมื่อคนเหล่านี้หายจากโรค ปรากฏว่า คนที่กลับมาเป็นโรคนี้ใหม่ ร้อยละ ๗๕ ประสบเหตุการณ์ที่ทำให้ทุกข์มาก ส่วนคนที่ไม่เป็นโรคนี้ มีเพียงร้อยละ ๑๒ เท่านั้น ที่ผ่านเหตุการณ์อย่างเดียวกัน


    ......................................................................................................................

    ในขณะที่ความเครียด และความวิตกกังวล มีผลในการก่อโรค ความรู้สึกผ่อนคลาย แช่มชื่นเบาสบาย ไร้วิตกกังวล ก็ย่อมช่วยให้สุขภาพดีขึ้น หายจากโรคภัยไข้เจ็บได้เร็วขึ้น หรือมีอายุยืน

    มีการวิจัยเป็นอันมาก ที่ยืนยันเรื่องนี้ เมื่อปี ๒๕๔๐ ได้มีการศึกษาผู้มีอายุระหว่าง ๕๕-๘๕ ปีจำนวนกว่า ๒,๘๐๐ คน ในอเมริกา พบว่า คนที่รู้สึกว่า ควบคุมชีวิตตนได้ มีอัตราการตายน้อยกว่า คนที่รู้สึกท้อแท้กับชีวิตถึงร้อยละ ๖๐

    ส่วนผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ที่มองโลกในแง่ดี หรือสามารถจัดการกับความโกรธได้ดี มีแนวโน้มที่จะอยู่ยืนยาว กว่าผู้ป่วยที่มีความเครียด หรือเก็บกดความโกรธเอาไว้

    ......................................................................................................................

    c6629731055f788778163c2333cb4c1b.jpg

    ความรู้สึกสงบ ผ่อนคลายนั้น ทำได้หลายอย่าง วิธีหนึ่งก็คือ การภาวนาตามศาสนา การสาธยายพระสูตร ของพระตถาคต และทำสมาธิ ในอเมริกาพบว่า ในบรรดาผู้ป่วย ที่ได้รับการผ่าตัดหัวใจนั้น คนที่มีศรัทธา และได้กำลังใจจากศาสนา มีอัตราการตายน้อยกว่า คนที่ไม่ได้สนใจศาสนา ถึง ๑ ใน ๓

    ส่วนคนที่ไปวัดสม่ำเสมอ ก็มีอัตราการตาย ด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจ น้อยกว่าคนที่ไม่ไปวัด ถึงครึ่งหนึ่ง แม้ว่า จะนำเอาพฤติกรรมการสูบบุหรี่ และปัจจัยทางเศรษฐกิจ สังคม สุขภาพ มาพิจารณาในการวิจัยแล้วก็ตาม

    ......................................................................................................................

    ด้วยเหตุนี้ ในระยะหลัง จึงมีการให้ความสำคัญกับ มิติด้านจิตใจ และสังคมมากขึ้น แม้กระทั่ง ในโรงพยาบาลที่ใช้การแพทย์แผนใหม่ โรงพยาบาลเหล่านี้ ถึงแม้จะยังใช้วิธีการรักษาร่างกายเฉพาะจุด เฉพาะส่วน เหมือนเดิม แต่ก็เพิ่มการฟื้นฟู บำบัดจิตใจขึ้นมา

    หลายแห่ง สนับสนุน และเปิดโอกาส ให้ผู้ป่วยได้สวดมนต์ ภาวนา ตามความเชื่อของตน โดยเปิดห้องสวดมนต์ หรือห้องทำสมาธิขึ้นในโรงพยาบาล ผู้บริหารโรงพยาบาลพบว่า วิธีนี้สิ้นเปลืองงบประมาณ น้อยกว่าการพึ่งพายา และเทคโนโลยี ซึ่งมีราคาแพงขึ้นทุกวัน.....

    ......................................................................................................................

    ( พระไพศาล วิสาโล )

    http://www.visalo.org/article/jitvivat254911.htm
     
  4. bonuszaa118

    bonuszaa118 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    122
    ค่าพลัง:
    +44
    ขอบคุณค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...