วิธีทำสมาธิ ให้ปราศจากอุปสรรค

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย วิษณุ12, 15 มีนาคม 2011.

  1. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,342
    ค่าพลัง:
    +6,849
    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1406072/[/MUSIC]​












    เกร็ดธรรม ​

    หลวงปู่พุธ ฐานิโย ​

    วัดป่าสาละวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา​


    นอกเหนือไปจากกรรมฐาน ๕ ประการดังที่กล่าวแล้ว
    ท่านผู้ใดจะวิตกถึงเรื่องใดเอามาเป็นเครื่องพิจารณา
    เป็นเครื่องรู้ของจิต เครื่องระลึกของสติ ก็ย่อมทำได้
    แม้แต่เรื่องราวที่ไม่เกี่ยวข้องกับคัมภีร์ ธรรมมะ
    เอายกมาเป็นหัวข้อแล้วพิจารณาไป​

    แม้แต่วิชาทางโลกที่เราเรียนมาจะเป็นศาสตร์ไหนก็ได้
    เอามาตั้งเป็นหัวข้อขึ้น แล้วพิจารณาแทนกรรมฐาน ๕
    ก็สามารถที่จะทำจิต ให้มีสติ สัมปชัญญะ
    แล้วก็จะทำให้เกิด
    มี สมาธิ มี ปีติ มี ความสุขได้เหมือนอย่างการภาวนาอย่างอื่น​

    เพราะฉนั้น ​

    อารมณ์ของการพิจารณานี่
    เราจะเอาอะไรก็ได้
    หลักฐานยังมีปรากฎในคัมภีร์ พระธรรม ​

    คนผู้ผ่าไม้เอาการผ่าไม้เป็นอารมณ์กรรมฐาน
    พิจารณาแล้วได้สำเร็จพระอรหันต์ก็มี ​

    ช่างปั้นหม้อเอาการปั้นหม้อเป็นอารมณ์กรรมฐาน
    ปั้นไปพิจารณาไปตกแต่งไปจนหม้อสำเร็จเป็นรูปทรงที่ต้องการ
    แล้วก็ปลงปัญญาลงสู่พระไตรลักษณ์ได้สำเร็จอรหันต์ก็มี​

    ผู้ที่เอาอารมณ์อื่นๆเป็นเครื่องรู้ของจิตเป็นเครื่องระลึกของสติ
    ก็สามารถที่จะทำจิตให้สงบเป็นสมาธิ
    รู้แจ้ง เห็นจริง ประจักษ์ในธรรมมะตามความเป็นจริง​

    โดยเห็นว่า ทุกสิ่งเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
    สำเร็จพระอรหันต์ได้ก็มีถมไป​

    ตัวอย่างอีกอันหนึ่ง
    ท่านจูฬปันถกเป็นบุคคลที่มีสติปัญญาความทรงจำไม่ค่อยดี
    ใครจะสอนให้ท่านท่องบ่นสาธยายอะไร
    ท่านไม่สามารถที่จะจำได้
    เรียนคาถาบทเดียวเท่านั้น ๔ เดือนก็จำไม่ได้ ​

    อยู่มาวันหนึ่ง
    พระพุทธเจ้าทรงประทานผ้าขาวให้ผืนหนึ่ง
    แล้วก็แนะนำให้บริกรรมภาวนาว่า ระโชหะระนัง ระชังหะระติ ​

    ท่านก็บริกรรมภาวนาตามพุทธดำรัส
    บริกรรมภาวนาไปมือก็ลูบผ้าขาวไป
    ลูบไปลูบมา ผ้าขาวเปลี่ยนเป็นสีดำ มัว มอ ​

    ท่านก็ปลงปัญญาลงสู่พระไตรลักษณ์
    ว่า
    ผ้าขาวอันบริสุทธิ์ สะอาดมาแต่กำเนิด
    ในเมื่อมาสู่สิ่งปฏิกูล น่าเกลียด โสโครกภายในกายของเรา
    ก็ทำให้ผ้าที่สะอาดนี้กลายเป็นผ้าที่สกปรก
    ในที่สุดก็ปลงปัญญาลงสู่พระไตรลักษณ์ ​

    รู้ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตาได้แจ่มชัด แล้วก็ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ ​

    อันนี้เป็นตัวอย่าง
    ผ้าขาว มีคำว่าธรรมมะมั๊ย
    ระโชหะระนัง ระชังหะระติ มีคำว่าธรรมมะมั๊ย
    เป็นคำพูดธรรมดา ธรรมดาของเรานี่แหล่ะ ​

    แต่พระพุทธเจ้า สอนให้ท่านจูฬปันถกบริกรรมภาวนา
    แล้วก็ได้สำเร็จพระอรหันต์​

    เพราะฉนั้น
    อารมณ์ที่เราจะเอามาพิจารณานี่ จะเอาอะไรก็ได้
    ปัญหาสำคัญอยู่ตรงที่ว่า
    เราทำสติในพิจารณาให้มันชัดเจน
    นี่คือหลักการของการปฏิบัติในขั้นนี้ ​

    ทีนี้ ประการที่สาม ถ้าหากว่าท่านผู้ใด มีปกติเป็นคนคิดมาก
    เช่น
    อย่างนัก วิชาการ นักธุรกิจ
    แล้วจิตใจของท่านย่อมคิดมาก
    เพราะ
    ท่านมีความรู้มาก และมีธุระกิจมาก ​

    ในเมื่อเป็นเช่นนั้น
    ท่านอย่าไปห้ามความคิด
    ถ้าท่านจะเป็นนักปฏิบัติ
    ให้ตั้งสติกำหนดลงที่จิต เอาสติรู้ไว้ที่จิต
    แล้วคอยจดจ้องดูว่า ความคิดอะไรจะเกิดขึ้น
    เมื่อมีความคิดเกิดขึ้น
    ทำสติรู้ตาม​

    ความคิดอะไรเกิดขึ้น ก็ทำสติรู้ตามไปเรื่อยๆ
    ความคิดอันนั้นจะเป็นเรื่องอะไรก็ได้ ​

    เรื่องบุญ เรื่องกุศล อกุศล ​

    เรื่องสวย เรื่องงาม เรื่องขี้ริ้ว ขี้เหร่ ​

    หรือเรื่องการเรื่องงานเรื่องครอบครัวเรื่องสารพัดที่จิตมันจะคิดขึ้นมา
    อย่าไปห้ามความคิด ​

    หน้าที่ของผู้ปฏิบัติ เพียงแต่ทำสติตามกำหนดรู้ความคิดไปเรื่อยๆ
    จนกระทั่ง จิตกับสติ วิ่งตามทันความคิด ​

    ในเมื่อสติตามทันความคิดเมื่อไร ความคิดมันจะหยุด
    หยุดแล้วก็จะเกิดมีสมาธิ มีปีติ มีความสุขได้เช่นเดียวกับการภาวนาอย่างอื่น ​


    หลักการภาวนาทั้ง สามหลักนี้ เราจะต้องใช้ปฏิบัติ สลับกันไป
    ในบางครั้งจิตของเรามันอยู่เฉยๆ ไม่ชอบคิดชอบอ่าน
    และไม่ชอบบริกรรมภาวนา แล้วไม่สนใจในสิ่งใด ​

    ให้วิตกเป็นหัวข้อเรื่องขึ้นมา ค้นคิด พิจารณา
    ถ้าในช่วงใดเราเกิดมีความคิดมาก
    ทำสติตามรู้ความคิด ตามรู้ความคิด ไปเรื่อย ​

    ถ้าช่วงใดจิตมันเกิดขี้เกียจ ขี้คร้าน ก็บริกรรมภาวนา มันง่ายดี
    ให้ปฏิบัติสลับกันอยู่อย่างนี้ ในหลักสามแบบนี้
    ในเมื่อท่านพากเพียร พยายามที่จะปฏิบัติตาม แบบตามที่ให้คำแนะนำนี้ ​

    จิตของท่านจะต้องเกิดมีความสงบ มีพลังแห่งสมาธิ
    มีสติปัญญารอบรู้ในสภาวะธรรม ​

    สมาธิที่เราฝึกหัดด้วยประการที่หนึ่ง อ่าประการที่สองและที่สามนี้
    ในเมื่อเราฝึกหัดสามารถทำจิตให้เป็นสมาธิได้เพราะการพิจารณา
    และการกำหนดตามรู้ความรู้สึกนึกคิดของตน ​

    เมื่อสมาธิเกิดขึ้นแล้ว
    สมาธิจะสามารถมีพลังไปสนับสนุนงานการที่เราทำอยู่ได้ ​

    เพราะการทำสมาธิแบบนี้
    มันเป็นเรื่องการทำสมาธิโดยกำหนดเอาอารมณ์ปัจจุบัน
    เป็นเครื่องรู้ของจิตเครื่องระลึกของสติ
    ในเมื่อสมาธิมันเกิดขึ้นเพราะอารมณ์ในปัจจุบัน ​

    เราก็สามารถที่จะเอาพลังสมาธิไปสนับสนุนงานการที่เราทำอยู่ได้เป็นอย่างดี ​

    และอนึ่ง การปฏิบัติโดยวิธีนี้
    เราจะไม่ประสบกับอุปสรรคในการปฏิบัติ ​

    งานและวิชาความรู้เรื่องราวต่างๆ
    จะไม่เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติสมาธิ
    สมาธิก็จะไม่ขัดขวางต่อการทำงาน​

    ในเมื่อเราฝึกฝนอบรมดีแล้ว
    เราทำอะไรอยู่ พลังของสมาธิจะไปช่วยสนับสนุนงานการที่เราทำอยู่ ​

    ท่านผู้ทำสำเร็จเป็นอย่างดีแล้ว ​

    ท่านสามารถที่จะแก้ไขปัญหาจิตใจของตัวเองได้ ​

    แก้ไขปัญหาชีวิตประจำวันได้​

    และแก้ไขปัญหางานการได้ ​

    บางทีบางท่านเป็นหมอ ก็คิดว่าจะตรวจโรคเท่านั้น ​

    จิตวูบไปปะทะร่างของคนไข้​

    ก็รายงานออกมาว่าเขาเป็นโรคอย่างนั้นควรจะให้ยาอย่างนี้ ​

    และอีกนัยหนึ่ง เพื่อเป็นประโยชน์พิเศษในการบำเพ็ญสมาธินี้ ​

    การบำเพ็ญสมาธิโดยจุดใหญ่ จุดมุ่ง
    ก็เพื่อสร้างสติของเราเอง ให้เป็นสติพละ
    ให้เป็นสตินทรี เป็นสติวินะโย
    สามารถที่จะนำจิตให้ดำเนินไปสู่ภูมิจิตภูมิธรรมได้
    อันนี้เป็นสายตรงของการทำสมาธิ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 มีนาคม 2011
  2. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,342
    ค่าพลัง:
    +6,849

    ดีแล้ว ดีแล้ว ไฟล์นี้ไว้ฟังก่อนนอน กับตอนตื่นนอนจะดียิ่งขึ้นครับ
    โหลดได้ที่ไฟล์แนบข้อความครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 11.mp3
      ขนาดไฟล์:
      13.6 MB
      เปิดดู:
      306
  3. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,342
    ค่าพลัง:
    +6,849
    ไฟล์ นี้จะช่วยให้มั่นคงในการฝึกมากขึ้นครับ มี 2ไฟล์ ต่อกัน
    ลองดู ยินดีในบุญครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • CD109-17.wma
      ขนาดไฟล์:
      1.9 MB
      เปิดดู:
      113
    • CD109-18.wma
      ขนาดไฟล์:
      1.7 MB
      เปิดดู:
      103
  4. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,276
    ค่าพลัง:
    +82,733
    กราบหลวงพ่อพุธ ฐานิโย
    และน้อมอนุโมทนาค่ะท่านปราบเทวดา​
     
  5. วิปัศย์

    วิปัศย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +1,443
    หน้าที่ของผู้ปฏิบัติ เพียงแต่ทำสติตามกำหนดรู้ความคิดไปเรื่อยๆ
    จนกระทั่ง จิตกับสติ วิ่งตามทันความคิด


    ในเมื่อสติตามทันความคิดเมื่อไร ความคิดมันจะหยุด
    หยุดแล้วก็จะเกิดมีสมาธิ มีปีติ มีความสุขได้เช่นเดียวกับการภาวนาอย่างอื่น


    กราบอนุโมทนาสาธุด้วยอย่างยิ่งครับ
     
  6. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,342
    ค่าพลัง:
    +6,849
    มะเส็ง มะเส็ง

    ไว้เจอลูกชายเมื่อไร ก่อนนอน สวดธรรมจักร ให้ลูกชายฟังบ่อยๆนะ
     
  7. paylu

    paylu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +114
    อนุโมทนาด้วยครับ ขอบคุณมากครับ ติดคาใจการนั่งมานานครับ
     
  8. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,964
    ค่าพลัง:
    +359
    เจอเเล้ว


    เจอเเล้ว กอดเอาไว้เเนบ อก ทุกวัน

    รับทราบครับ

    จะกลับไปปฎฺบัติ

    ช่วงนี้คืน วันพระใหญ่ อารมณ์ เเกจะดีเป็นพิเศษ ตีสอง ตีสาม ขึ้นมานั่งหลับตาคุยกับใครก็ไม่รู้ อ๋อเเอ๋ อ๋อเเอ๋ ทั้งคืนนนนนนนนนนน

    :boo::boo:(deejai)(deejai)
     
  9. khimiiez

    khimiiez สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2011
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +22
    ขอบคุณและอนุโมทนาด้วยครับ เป็นประโยชน์มากๆ เลยครับ

    ผมมีคำถามข้อนึงครับ ยายผมเคยสอนผมว่าถ้าเวลาเราคิดมาก ให้เราคิดถึงสถาณที่ที่เราชอบ
    แบบนี้ก็ถือว่าได้เหมือนกันใช่ไหมครับ
     
  10. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,117
    ค่าพลัง:
    +2,136
    แล้วแต่คนนะครับ บางคนอาจจะใช้วิธีนี้ได้ แต่สำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว ไม่แนะนำให้ทำวิธีนี้

    เพราะการคิดถึงสิ่งที่ชอบ จะเป็นกิเลส เป็นความเพลิดเพลิน ยิ่งทำให้จิตเตลิดไปไกลกว่าเดิมได้ง่าย
     
  11. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,342
    ค่าพลัง:
    +6,849
    ใช้ได้เหมือนกันครับ เป็นอุบายทำจิตให้สงบได้อย่างนึง

    ยกตัวอย่างเช่น

    หลวงปู่พุธ ฐานิโย เคยแนะนำว่า

    ภิกษุไปภาวนาอยู่ในป่า ใจมันกังวลถึงแต่ผู้สาว
    ครูอาจารย์จึงให้ใช้ชื่อผู้สาว มาเป็นองค์ภาวนา
    เพราะภาวนาแล้วจิตมันลงความสงบได้ง่ายดี

    อีกตัวอย่างหนึ่ง
    ผู้ภาวนาอยากจะเห็น นรก ก็ให้ใช้คำภาวนาว่า นรก นรก นรก

    ผู้ภาวนาอยากจะเห็นสวรรค์ ก็ให้ใช้คำภาวนาว่า สวรรค์


    สนใจอ่านต่อที่นี่ http://palungjit.org/threads/ตายแล้วเกิด-หลวงปู่พุธ-ฐานิโย.336833/
     
  12. รีล มาดริด

    รีล มาดริด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2012
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +720
    กระทู้ นี้ สิ ของจริง......
    ทุกท่าน ที่เข้ามาเสวนา..ล้วน เข้า ถูก ช่องทางดีแล้ว...
    กลุ่มคน ที่งมงาย หลายๆคน ผมไม่อยากเอ่ยถึง ล้วนไม่เข้าใจ
    ธรรมมะ แบบ กระทู้ นี้ เพราะ ติดของเก่ากันมาก และไม่ยอม
    ออกจาก เรื่องเก่าๆ เปรียบไป คล้าย ชาล้นแก้ว..ที่ไม่อาจรับ
    ความรู้ แท้ๆ แบบที่ต่างไปจากสิ่งที่ตนเองเคยเรียนรู้มา...

    อนุโมทนา สาธุ กับทุกท่าน ครับ ที่เข้าใจหลัก ปฏิบัติ แบบที่คุยกันใน กระทู้นี้
     
  13. khimiiez

    khimiiez สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2011
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +22
    ขอบคุณและอนุโมทนาด้วยครับ อยากบอกว่าถ้าลองใช้จะเห็นผลเร็วมาก :cool:
     
  14. banmabe

    banmabe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +102
    ขอบคุณค่ะ:cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...