== วิธีพิสูจน์พระอรหันต์ ==

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย wisarn, 16 มกราคม 2016.

  1. wisarn

    wisarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    726
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +2,503
    วิธีพิสูจน์พระอรหันต์

    ปัญหา เราจะมีวิธีพิสูจน์ได้อย่างไร ว่าภิกษุรูปใดเป็นพระอรหันต์ หรือไม่ เพราะเราไม่อาจจะทราบได้ด้วยเครื่องหมายภายนอกใด ๆ?

    พุทธดำรัสตอบ

    “.....ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ย่อมพยากรณ์อรหัตตผลว่า ข้าพเจ้ารู้ชัดว่าชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำได้ทำเสร็จ แล้วกิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธออย่างเพื่อยินดี อย่าเพื่อคัดค้าน คำกล่าวของภิกษุรูปนั้น... พึงถามปัญหาเธอว่า ดูก่อนท่านผู้มีอายุ โวหารอันพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ..... ตรัสไว้ชอบนี้มี ๔ ประการ..... คือ คำกล่าวว่าเห็นอารมณ์ที่ตนเห็นแล้ว..... ได้ยินในอารมณ์ที่ตนฟังแล้ว..... ทราบในอารมณ์ที่ตนทราบแล้ว.... รู้ชัดในอารมณ์ที่ตนรู้ชัดแล้ว.... ก็จิตของท่านผู้มีอายุ ผู้รู้อยู่เห็นอยู่อย่างไรเล่า จึงหลุดพ้นจากอาสวะ ไม่ยึดมั่นในโวหาร ๔ นี้?

    “.....ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้สิ้นอาสวะแล้ว.... พ้นวิเศษแล้วเพราะรู้ชอบจึงนับว่ามีธรรมอันสมควรจะพยากรณ์ได้ดังนี้ว่า ดูก่อนท่านผู้มีอายุ ข้าพเจ้าไม่ยินดี ไม่ยินร้าย อันกิเลสไม่อาศัย ไม่พัวพันพ้นวิเศษแล้ว พรากได้แล้วในธรรมที่ข้าพเจ้าได้เห็น มีใจอันกระทำให้ปราศจากเขตแดนได้แล้วอยู่...... พรากได้แล้วในธรรมที่ข้าพเจ้าได้ยิน..... พรากได้แล้วในธรรมที่ข้าพเจ้าได้ทราบ..... พรากได้แล้วในธรรมที่ข้าพเจ้ารู้ชัด.... จิตของข้าพเจ้าผู้รู้อยู่ เห็นอยู่อย่างนี้แล จึงได้หลุดพ้นจากอาสวะ ไม่ยึดมั่นในโวหาร ๔ นี้

    “.....ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คำกล่าวของภิกษุรูปนั้นพวกเธอควรชื่นชมอนุโมทนาสาธุ ครั้นแล้วพึงถามปัญหาให้ยิ่งขึ้นไปว่า ดูก่อนท่านผู้มีอายุอุปาทานขันธ์อันพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น..... ตรัสไว้ชอบ มี ๕ ประการ แล.... คือ รูปูปาทานขันธ์ เวทนูปาทานขันธ์ สัญญูปาทานขันธ์ สังขารูปาทานขันธ์ วิญญาณูปาทานขันธ์...... ก็จิตของท่านผู้มีอายุผู้รู้อยู่เห็นอยู่ เห็นอยู่อย่างไรเล่า จึงหลุดพ้นจากอาสวะไม่ยึดมั่นในอุปาทานขันธ์ ๕ นี้?

    “.....ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้สิ้นอาสวะแล้ว..... พ้นวิเศษแล้วเพราะรู้ชอบจึงนับว่ามีธรรมอันสมควรจะพยากรณ์ได้ดังนี้ว่า ดูก่อนท่านผู้มีอายุ ข้าพเจ้ารู้แจ้งรูปแล้วแลว่า ไม่มีกำลัง ปราศจากความน่ารัก มิใช่เป็นที่ตั้งแห่งความชื่นใจ จึงทราบชัดว่า จิตของเราหลุดพ้นแล้ว เพราะสิ้น สำรอก ดับ สละ และสลัดคืน ซึ่งอุปาทานขันธ์ที่ยึดมั่นในรูป และอนุสัยคือความตั้งใจและความปักใจมั่นในรูปได้ ข้าพเจ้ารู้แจ้งเวทนา..... รู้แจ้งสัญญา.... รู้แจ้งสังขาร..... รู้แจ้งวิญญาณแล้วแลว่า ไม่มีกำลัง ปราศจากความน่ารัก..... จึงทราบชัดว่า จิตของเราหลุดพ้นแล้ว..... ดูก่อนท่านผู้มีอายุ จิตของข้าพเจ้า ผู้รู้อยู่เห็นอยู่อย่างนี้แล จึงได้หลุดพ้นจากอาสวะ ไม่ยึดมั่นในอุปาทานขันธ์ ๕ นี้

    “.....ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ครั้นแล้วพึงถามปัญหาให้ยิ่งขึ้นไปว่า ดูก่อนท่านผู้มีอายุ ธาตุอันพระผู้มีพระภาคนั้น.... ตรัสไว้ชอบมี ๖ ประการ.... คือ ปฐวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ วาโยธาตุ อากาศธาตุ วิญญาณธาตุ ก็จิตของท่านผู้มีอายุ ผู้รู้อยู่เห็นอยู่อย่างไรเล่า จึงหลุดพ้นจากอาสวะ ไม่ยึดมั่นในธาตุ ๖ นี้

    “.....ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้สิ้นอาสวะแล้ว...... พ้นวิเศษแล้วเพราะรู้ชอบจึงนับว่ามีธรรมอันสมควรจะพยากรณ์ได้ดังนี้ว่า.....ข้าพเจ้าครองปฐวีธาตุโดยความเป็นอนัตตา มิใช่ครองอัตตาอาศัยปฐวีธาตุเลย ข้าพเจ้าครองอาโปธาตุ โดยความเป็นอนัตตา.... ครองเตโชธาตุโดยความเป็นอนัตตา...... ครองวาโยธาตุโดยความเป็นอนัตตา.... มิใช่ครองอัตตาอาศัยวิญญาณธาตุเลย จึงทราบชัดว่าจิตของเราพื้นแล้ว.... จิตของข้าพเจ้าผู้รู้อยู่เห็นอยู่อย่างนี้แล จึงได้หลุดพ้นจากอาสวะไม่ยึดมั่นในธาตุ ๖ นี้

    “.....ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ครั้นแล้วพึงถามปัญหาให้ยิ่งขึ้นไปว่า ดูก่อนท่านผู้มีอายุ ก็อายตนะภายในอาตนะภายนอก อันพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น ตรัสไว้ชอบนี้ มีอย่างละ ๖ แล คือจักษุและรูป โสตและเสียง ฆานะและกลิ่นชิวหาและรส กายและโผฏฐัพพะ มโนและธรรมารมณ์..... ก็จิตของท่านผู้มีอายุรู้อยู่เห็นอยู่อย่างไรเล่า จึงหลุดพ้นจากอาสวะ ?

    “.....ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้สิ้นอาสวะแล้ว..... พ้นวิเศษแล้วเพราะรู้ชอบจึงนับว่ามีธรรมอันสมควรจะพยากรณ์ได้ดังนี้ว่า ดูก่อนท่านผู้มีอายุ ข้าพเจ้าทราบชัดว่า จิตของเราหลุดพ้นแล้ว เพราะสิ้นสำรอก ดับสละ และสลัดคืนซึ่งความพอใจ ความกำหนัด ความยินดี ตัณหา อุปาทาน ที่ยึดมั่นและอนุสัยคือความตั้งใจ และความปักใจมั่นในจักษุในรูปในจักษุวิญญาณ และในธรรมที่พึงรู้แจ้งด้วยจักษุวิญญาณ..... ในโสต ในเสียง ในโสตวิญญาณ และในธรรมที่พึงรู้แจ้งด้วยโสตวิญญาณ...... ในฆาน ในกลิ่น ในฆานวิญญาณ และในธรรมที่พึงรู้แจ้งด้วยฆานวิญญาณ.... ในชิวหา ในรส ในชิวหาวิญญาณ และในธรรมที่พึงรู้แจ้งด้วยชิวหาวิญญาณ ในกาย ในโผฏฐัพพะ ในกายวิญญาณ และในธรรมที่พึงรู้แจ้งด้วยกายวิญญาณ ..... ในมโน ในธรรมารมณ์ ในมโนวิญญาณ และในธรรมที่พึงรู้แจ้งด้วยกายวิญญาณ..... จิตของข้าพเจ้ารู้อยู่ เห็นอยู่อย่างนี้แล จึงได้หลุดพ้นจากอาสวะ ไม่ยึดมั่นในอายตนะทั้งภายในทั้งภายนอกอย่างละ ๖ เหล่านี้.....”


    ฉวิโสธน ปญ
    สูตร อุ. ม. (๑๖๗-๑๗๑)
    ตบ. ๑๔ : ๑๒๓-๑๒๗ ตท. ๑๔ : ๑๐๔-๑๐๘
    ตอ. MLS. III : ๘๑-๘๕
    http://www.84000.org/true/065.html
     
  2. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014
    พึงถามพระที่บอกว่า เป็นพระอรหันต์ อย่างนี้ว่า

    1 ท่านเห็น ผู้หญิง หรือ ผู้ชาย แล้ว
    ยังเกิดอารมณ์อยากต่อผู้หญิง
    หรือ อารมณ์ไม่อยากต่อผู้ชายหรือไม่
    หากสำรวจดูแล้ว ยังมีอยู่
    แสดงว่า ยังไม่เป็นพระอรหันต์
    แต่อาจจะบรรลุธรรมขั้นใดขั้นหนึ่ง
    หรือ ไม่บรรลุธรรมอะไรเลยก็ได้
    และ ถ้าหากอยากรู้ว่า ถึงขั้นไหน
    ก็ให้เทียบเอากับ สังโยชน์สิบ ดู
    ก็จะรู้ได้เอง
     
  3. Greenpleace

    Greenpleace เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2012
    โพสต์:
    895
    ค่าพลัง:
    +8,768
    วันที่ปุถุชนเข้าไปพิสูจน์ พระอริยะ นอกจากจะไม่สามารถพิสูจน์ได้จริงๆ ยังเป็นวันที่จิตก้าวเข้าไปสู่อบายภูมิ 4 จากภพนี้ไปอีกนานแสนนานครับ

    เราอยากรู้ ทำได้แค่ถามจากพระพุทธเจ้าท่านครับ

    สาธุ
     
  4. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,286
    ค่าพลัง:
    +1,507
    เขียน ๑๐.๓๘

    เฮ่ย..ไม่จริงหรอก ต้องมีวิธีพิสูจน์ได้สิ
    ยุคนี้ ยุคพลังงานใหม่แล้ว รู้ป่าวน้อง
    ไม่ตกอบายหรอก รับรอง(ว่าเดา)

    อันนี้ สมมุติว่าเราโทรถามพระพุทธเจ้าแล้ว ละกันนะ เนอะ
    ในนิทานของนักรบแสงแห่งหมู่บ้านในนิทานน่ะนะ
    เค้าสร้างเครือข่ายล้านจีไว้ สื่อสารได้หมด


    นักรบแสง แห่งหมู่บ้านในนิทาน / พนม เทียนธูปดอกไม้

    .
     
  5. Greenpleace

    Greenpleace เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2012
    โพสต์:
    895
    ค่าพลัง:
    +8,768
     
  6. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,286
    ค่าพลัง:
    +1,507
    เขียน ๘.๒๙

    คิดแบบคุณคืองมงายครับ และผิดกฏกาลามสูตรด้วยนะ จะบอกให้
    พระอรหันต์ไม่ใช่คนขายชาติ โกงแผ่นดิน ปลิ้นปล้อน เห็นแก่เงินทอง ลาภยศ
    ไม่ใช่หุ่นให้ใครชักใยได้โดยง่าย ไม่ใช่พวกหวังชื่อเสียงตำแหน่ง และไม่สะสมรถยนต์หรูๆ
    ไม่ไปสอดเสือก สู่รู้เรื่องชาวบ้านด้วยอ่ะ ว่าใครได้ผลหรือไม่ โดยไม่มีเหตุอันควร
    ด้วยเหตุผลด้งกล่าว พระอรหันต์จึงไม่ใช่ของที่น่ากลัว ใครแตะไม่ได้

    นักรบแสง แห่งหมู่บ้านในนิทาน / เล็บครุฑ นารายณ์ทรง ทราบ
    .
     
  7. kengkenny2

    kengkenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    593
    ค่าพลัง:
    +289
    แล้วจะรู้ได้ไงว่าท่านมีสติเป็นอารมณ์และมีอารมณ์เป็สติ ต้องสังเกตเอาเองว่า สติที่เกิดจากอารมณ์กับอารมณ์ที่เกิดจากสตินั้นมีความต่างกัน
     
  8. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    เวลาผมไปกราบฟังธรรมครูบาอาจารย์ตามกาลนะ
    มีโอกาสก็ไป ท่านมาโปรดญาติโยมที่ กทม.ก็ไป
    สิ่งหนึ่งที่สังเกตได้คือ ก่อนกับหลังการฟังธรรม
    (ท่านก็มีถามมีตอบมีอธิบาย มีจี้ให้ออกจากมุม)
    ตอนไปอาจจะไปแบบจิตห่อๆ ไม่อาจหาญ ไม่ร่าเริง
    หรือไม่ก็ ลิงโลด ตื่นเต้น ดีใจนะ แต่พอตอนกลับนี่
    รู้สึกปลอดโปร่ง ผ่อนคลาย แจ่มใส ไม่มีกังวลใดๆ
    รู้เลยว่า ถ้าจิตปกติมันก็ต้องอย่างนี้แหละ หลุดไป
    หลงโลกหลงความคิด หนักอกหนักใจ ฟุ้งซ่าน
    เมื่อไหร่ต้องตามรู้ตัวให้ทันบ่อยๆ เอา แต่อย่าไปเอา
    เรื่องมันนะ แค่รู้ทันไป ใจไหล ใจหลง ใจนิ่ง ใจเป็น
    กลางตามรู้สึกตัวไป เกิดดับแค่นั้นเอง ยึดเมื่อไหร่
    ก็เป็นทุกข์เมื่อนั้น รู้ทันความมีกิเลสตัณหาครอบ
    หรือไม่ครอบก็รู้ทันไป
    ทีนี้ครูบาอาจารย์ท่านเป็นพระอรหันต์รึป่าวนี่หมดสงสัยเลย
     
  9. montri_p

    montri_p เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2007
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +467
    อย่าไปส่งสัยอย่าไปอยากรู้มากก็พอ แค่อยากรู้ ตามความอยากรู้ ที่เป็นพื้นฐานของมนุษย์ทั่วไปก็พอ มากไปเครียดปล่าวๆ ครับ อยากรู้แบบใช้สติประคองก็พอครับ ผมว่าให้รู้ตัวตนเองให้มากที่สุดก็พอครับ มองเห็นตัวเองให้มาก ให้ออก ให้ถ่องแท้อะครับ พอรู้เรื่องตัวเองดีที่สุดแล้ว เรื่องอื่นๆ จะรู้ตามเองครับ
     
  10. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ข้อนี้ ท่านจะสำคัญความเป็นฉะไหน

    ในท่านผู้ละอย่างสิ้นเชิงแล้ว
     
  11. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    751
    ค่าพลัง:
    +3,637


    นึกอะๆไรได้ก็ว่าไป
     
  12. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    751
    ค่าพลัง:
    +3,637
    อะไร??
     
  13. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ก็หมายสำคัญเอาว่า
    จิตดวงนี้ ไม่มีบุญบาป มาเป็นเครื่องก่อกวนรบ
    กวนจิตใจได้อีก เพราะดับความคิดปรุงแต่งที่เป็น
    เหตุให้ยินดียินร้ายได้แล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มกราคม 2016
  14. พรานยึ้ม

    พรานยึ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    613
    ค่าพลัง:
    +683
    อกุศลาธรรมา กุสลาธรรมา
     
  15. พรานยึ้ม

    พรานยึ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    613
    ค่าพลัง:
    +683
    พรานเฒ่าว่า จะไปดูทำไมละ พระท่านสอนเราให้ทำคาวมดี และส่วนตัวท่าน ข้อวัตปฎิบัติท่านดี ก็พอแล้ว พระท่านจะเป็นอะไรก็เรื่องของท่าน จริงไหม พรานว่า
     
  16. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +20,320
    พิสูจน์ อรหันต์ทำได้คือ
    1 พิสูจน์ กายของท่าน ว่าท่านดำรงกายธาตุอย่างไร เป็นไปตามแบบพระอรหันต์หรือไม่
    2พิสูจน์ วาจาของท่าน ว่าวาจาของท่านตรงต่อความเป็นอรหันต์หรือไม่
    3 พิสูจน์ความคิดจิตใจของท่าน ว่ามีความตรงต่อความเป็นอรหันต์หรือไม่

    การพิสูจน์ กาย วาจา ใจ ของพระอรหันต์ ไม่สามารถทำได้ในเวลาสั้นๆ แต่ท่านต้องใช้เวลาคลุกคลีอยู่กับท่าน แล้วท่านจึงจะทราบ การแสดงออกทาง กาย วาจา จิต ว่าตรงต่อความเป็นอรหันตบุคคลหรือไม่ครับ กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์สิ่งเหล่านี้ครับ สาธุ
     
  17. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +20,320
    ===============

    ปัญหาที่ยิ่งใหญ่คือ ท่านต้องเป็นอรหันต์ก่อน เพราะท่านย่อมจะรู้ดีว่า กาย วาจา จิต ที่ซื่อตรงต่อความเป็นอรหันต์เป็นอย่างไร เมื่อรู้เข้าใจดี ท่านรู้ กาย วาจา ใจ ของท่านที่ท่านฝึกได้แล้วทำได้แล้ว การไปดูกายวาจาจิตของพระอรหันต์ท่านอื่นก็เป็นเรื่องง่าย

    ดังนั้นสรุป ก่อนท่านจะไปดูใคร ท่านจงดูกายวาจาใจของท่านเองก่อนให้ได้ครับ สาธุ
     
  18. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    751
    ค่าพลัง:
    +3,637
    อ่อ ครับ ขอบคุณครับ
     
  19. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,171
    ค่าพลัง:
    +1,231
    วิธีแบบนี้คงใช้พิสูจน์กับมนุษย์ได้เพียงอย่างเดียว
    แต่จะไปใช้กับสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ไม่ได้ อาทิเช่น พรหม

    หรือไปถามกับปลาไหล หรือแมงกระพรุน มันคงส่ายหัวแล้วบอกว่า
    ไม่สนใจหรอก หญิงสาว ยินดีไปทำไม หันไปสนใจ นางปลาไหล หรือนางแมงกระพรุนดีกว่าเยอะ...
     
  20. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014



    หากท่านผู้ใด
    ละได้อย่างสิ้นเชิง
    จนไม่เหลือเชื้อแล้ว
    ก็จะไม่มีทั้ง ความอยากเห็น
    หรือ ความไม่อยากเห็น
    มีแต่อารมณ์เฉยๆ
    ไม่มีความยินดียินร้าย
    ต่อสิ่งที่ได้เห็น
    อย่างนี้ เรียก อรหันต์
    หมดอาสวะแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 22 มกราคม 2016

แชร์หน้านี้

Loading...