วินัยที่ไร้สามัญสำนึกหรือจะสร้างชาติได้

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย VisionPower, 12 กุมภาพันธ์ 2017.

  1. VisionPower

    VisionPower เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    1,168
    ค่าพลัง:
    +485
    วินัยสร้างชาติ หรือ สามัญสำนึกต่างหากที่จะสร้างชาติ

    ถ้าคุณคิดว่าการออกกฎบังคับลงโทษคือวินัย
    ถ้าคนออกไปจากสถานที่อื่น ที่ไม่มีบทลงโทษ
    แล้วคิดว่าคนจะยังรักษาข้อปฏิบัติเดิมนั้นได้อยู่เหรอ. อีกทั้งมีเรื่องความยืดหยุ่น
    ตามสถานการณ์ต่างๆอีกมากมาย

    แล้วอะไรที่สร้างชาติกันแน่?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2017
  2. VisionPower

    VisionPower เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    1,168
    ค่าพลัง:
    +485
    ถ้าคิดว่าการลงโทษคือวินัย.
    แล้วในสถานที่ที่ไม่มีคนไปลงโทษได้ จะทำยังงัย?

    คนก็สามารถไร้วินัยได้ ใช่มั้ย

    สามัญสำนึก, เหตุผล และคุณค่า ต่างหากที่ต้องเน้นให้มากกว่า

    เราไม่ได้อยู่ในสนามรบที่ไม่มีเวลามาพูดกันมาก จึงต้องประหยัดคำพูดประหยัดเวลา
     
  3. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,264
    ค่าพลัง:
    +5,219
    เข้าใจว่า คุณวิชั่นจะสื่ออะไร
    ถ้าจะให้แม่นยำกว่านี้
    คุณวิชั่นน่าจะใช้คำว่า "จิตสำนึก" นะครับ

    เพราะสามัญสำนึกคือ สิ่งที่เราใช้ตัดสินสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ที่เราไม่ต้องใช้เหตุผลอะไรมาก ในการตัดสินอะไรเท่าไหร่ เป็นกระบวนการทางความคิดที่ น่าจะอยู่ตรงกลางหว่าง ความเคยเข้าใจมาอย่างนี้ กับความเคยชิน คือเพราะเคยเข้าใจมาอย่างนี้ ก็เลยตัดสินสิ่งหนึ่งสิ่งใดด้วยความเคยชิน อย่างเช่น กระทู้ที่แล้ว ผมพูดว่า ผมพัฒนาจากไอ้โง่ที่ใฝ่ดี
    สามัญสำนึกของคนทั่วไปจะ "รีบ" ตัดสินผมจากสิ่งที่ผมพูดว่า อย่างนี้หมายความว่า มันต้องพัฒนาจากไอ้โงที่ใฝ่ดีไปเป็นไอ้โง่ที่ใฝ่อย่างอื่นแน่ ๆ ซึ่งถ้าเราสังเกตความคิดของตัวเองในขณะนั้น เราจะเห็นได้ว่า มันเป็นการตัดสินใจโดย แทบไม่ได้ใช้สติเข้ามากำกับเลย คือเป็นการด่วนตัดสินกันไปเองด้วยความเคยชิน คือใจคอจะไม่เอะใจกันเลย ว่า ไอ้โง่ที่ใฝ่ดีนี่คืออะไร แล้วพัฒนาอะไปเป็นอะไร เป็นไอ้โง่ที่ใฝ่ดีกว่า หรือไอ้โง่ที่ใฝ่อย่างอื่น

    ส่วนจิตสำนึกนั้น น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับ 3 สิ่ง หลัก ๆ คือ การตระหนักรู้ ในสถานะของตัวเอง ว่าตัวเองอยู่ในส่วนไหนของสังคม องค์กรณ์ และ การคิดว่าตัวเองมีส่วนร่วมหรือเป็นส่วนร่วม ใน อีเว้นท์ใด ๆ ที่จะช่วยพัฒนา สิ่งใดให้เจริญก้าวหน้า หรือ อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขสถาพร และการใช้เหตุผลที่จะกระทำการใด ๆ เพื่อความเจริญงอกงาม หรือ อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขสถาพรขององค์กรณ์นั้น ๆ ครับ*.*
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2017
  4. VisionPower

    VisionPower เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    1,168
    ค่าพลัง:
    +485
    อันที่จริง มันมีเหตุผลข้างในอยู่แล้ว
    ว่าทำไมคนถึง แซงคิวกัน, แต่งกายเสื้อหลุดนอกกางเกง, แต่งชุดอื่นมา

    มันมีเหตุผลข้างใน. ไม่ใช่ว่าการทำเหมือนกัน
    จะมีเหตุผลข้างในอันเดียวกันเสียทั้งหมด

    บางทีมันง่าย. ง่ายเสียจน. พูดไม่ออก
    และก็นั่งดูคนอื่นงม

    ราวกับเป็นเรื่องยาก
    ที่พยายามแก้ด้วยวิธีง่ายๆแทบไม่ต้องใช้หัวคิด
    และยังคาดหวังให้ได้ผลเร็ว
     
  5. VisionPower

    VisionPower เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    1,168
    ค่าพลัง:
    +485
    และก็เอาเรื่ิองเล็ก ยกมาเป็นเรื่องใหญ่
    ทั้งนี้ไม่ใช่อะไร. เพราะไม่รู้ว่าเรื่องใหญ่กว่าคืออะไร
     
  6. VisionPower

    VisionPower เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    1,168
    ค่าพลัง:
    +485
    มันน่าขัน. ที่คนพยายามแสดงความฉลาด
    โดยการเสนอวิธีต่างๆมากมาย.

    โดยไม่สนใจคิดหรือหาสาเหตุของปัญหาที่แท้จริงก่อน

    และบางคนหนักถึงขั้นอยากจะได้ผลลัพธ์ เอาอย่างใจลูกเดียว
    จึงเลี่ยงไม่ได้ ที่จะกลายเป็นการบังคับ
     
  7. VisionPower

    VisionPower เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    1,168
    ค่าพลัง:
    +485
    การไหว้เจ้าของคนจีนไหว้บรรพบุรุษ หลายบ้าน
    รุ่นลูกเริ่มไม่ไหว้แล้ว. แม้ว่าตอนอยู่กับพ่อแม่
    ก็ช่วยด้วยดีนั้นล่ะ

    แต่เพราะคุณค่าและความสำคัญมันไม่มีขึ้นในใจ
    มันก็หายไปได้

    เพราะตอนอยู่กับพ่อแม่ เขาทำเพื่อช่วยพ่อแม่ต่างหาก. พออยู่คนเดียวจะทำต่อไหม?
     
  8. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,264
    ค่าพลัง:
    +5,219
    เรียกได้ว่า คนรุ่นหลัง ๆ มา ไม่รู้จักวิธีปลูกจิตสำนึกให้คนรุ่นต่อไป เพราะคิดว่าสิ่งที่ตนทำให้ดู ตนสั่งให้ทำ ตนขอให้ช่วย จะเป็นการปลูกจิตสำนึกให้เด็ก ๆ พวกนั้น พูดกันง่าย ๆ ก็คือ เคยชินกับการเป็นผู้ใหญ่ จนเผลอลืมคิดว่า เด็กมันไม่ใช่ผู้ใหญ่ เพราะ เด็กมันเป็นเด็กครับ เด็กมันยังไม่รู้อะไร ที่เด็กมีสามัญสำนึกน้อยกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจาก มันมีประสพการณ์น้อยรู้น้อย เมื่อลืมคิดว่าเด็กมีประสพการณ์น้อยเลยสอนเด็กผิดทางที่ควรจะเป็น เมื่อเด็กไม่ทำตาม ก็ไม่พอใจ เลยต้องทำโทษ พอทำโทษแล้วเด็กทำตามก็เลยนึกว่าสอนได้ผล

    จึงสอนเป็นแค่ในระบบสั่งให้ทำ ทำให้ดู มึงต้องทำตาม ไม่ทำตามต้องโดนทำโทษ อย่างนี้มาต่อกันเรื่อย ๆ

    ทำให้เกิดช่องว่างทางความคิด จากรุ่นสู่รุ่นขึ้นมา ทีละเล็กทีละน้อย

    ผู้หลักผู้ใหญ่จะรู้มั้ย ว่าผลสัมฤทธิ์ของการสอน ไม่ใช่การที่คนที่ถูกสอนทำตาม
    แต่เป็นการเข้าใจตาม หรือ เข้าใจเอง และทำเอง
    ซึ่งอะไรที่มันไม่แน่นอน อย่างคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่ทำให้คนเข้าถึงนิพพาน
    เราไม่สามารถเอาสูตรนั้นมาใช้ได้โดยตรง ทำตามแล้วเข้าถึง สำเร็จอรหันต์ นิพพานแล้วนิพพานเลย ไม่มีเสื่อม

    แต่ในกรณี การสอนลูกหลานของชาวบ้านตาดำ ๆ นั้น สอนให้สักแต่ว่าทำอย่างนี้แล้วมันจะดีถาวรมันเป็นไปไม่ได้ เพราะคนมีมากหน้าหลายตา คนที่ไม่ใช่อริยะ ก็มักจะมีจิตใจอ่อนไหว เหมือนลมพัดยอดหญ้า ลมมาทางไหน ก็พริ้วก็ไหวไปทางนั้น ตามกระแสกิเลศไป หรือไม่ก็เหมือน ต้นไม้สูงที่อยู่ท่ามกลางป่าหญ้าตั้งตระหง่านอยู่ต้นเดียว พอเจอลมแรง ๆ มันก็หักโค่นได้ ถ้ารากที่ทำให้ยึดมั่นอยู่กับความดีงาม ซึ่งก็คือจิตสำนึก ไม่แข็งแรงพอ

    ในปัจจุบัน เด็กสมัยนี้บางคนเรียกคนอายุ 50-60 ว่า ไดโนเสาร์กันแล้ว
    เพราะผู้ใหญ่ก็สอนเด็กไม่เป็นกันจริง ๆ น่ะแหละ
    บวกกับเด็กมันขาดจิตสำนึกกันเองด้วย *.*
    บันเทิงกันทีเดียว สำหรับโลกยุค 3.5 ที่วิ่งแค่ 2


    เฮ้อ! อยากเปลี่ยนกฏจักรวาลอีกละ 555
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2017
  9. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    คนอายุ 50 ขึ้นไปควรถูกเรียกว่าไดโนเสาร์หรือไม่
    ในทัศนะของลุงเห็นว่าก็ควรในบางกรณีครับ
    เช่น
    ๑.เเก่เอาแต่ใจไร้อารีย์ เช่น วิศวะมือสังหาร เด็กซ่า ม.4
    (วิศวะคิดแบบคนไม่มีเมตตาล้าหลังนะฮะ
    วันนั้นถ้าเด็กซ่ามีระเบิดน้อยหน่าติดมาแล้วโยนเข้าในรถจะเป็นยังไงเละทั้งคนทั้งรถไหมฮะ)

    ๒.คนที่เป็นมือร่างกฎหมายอาชีพ ที่รับจ้างร่างกฎหมาย
    มาตลอด ตั้งแต่หนุ่มจนถึงอายุ 50 บ้าง 60 บ้าง70 บ้าง
    แต่ร่างมากี่ฉบับก็ไม่เคยตอบโจทย์ปัญหา
    ของประชาชนได้ซักที เพราะอะไร!?
    เพราะไปเอาชนชั้นปกครองเป็นตัวตั้งคือยกให้เป็น
    ควบคุมหรือเป็นผู้ใช้บริการ
    และให้ประชาชนเป็นฝ่ายถูกควบคุมหรือเป็นฝ่ายให้บริการ
    (ยังงี้ก็เป็นไดโนเสาร์ครับ)

    ๓.บางคนอายุมากแล้ว 60 ขึ้น มีอำนาจวาสนา
    แต่เมินตัวเองสูงลิ่ว ว่ามีธุรกิจ มีบริวาร
    มีกองกำลังติดอาวุธ มีเงินทองมากมาย
    ทุกอย่างพร้อมสมควรที่จะโค่นเจ้าเก่า
    แล้วสถาปนาตนเองเป็นเจ้าใหม่แทน
    เช่นนี้เป็นความคิดที่จะให้เด็กเรียกว่าอะไรดี
    ผู้ใหญ่แบบนี้
    ล้ำหน้า หรือว่าล้าล้าง.....

    แค่ 3 ตัวอย่างพฤติกรรมคนอายุ 60 อัพเห็นหรือยัง
    ว่าแม้แต่คน 60 กว่าด้วยกันอย่างลุง
    ยังมองว่าล้าหลัง....แล้วจะไม่ให้เด็กเรียกไดโนเสาร์
    ได้ไง...จริงมิจริง
     
  10. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    สามัญสำนึก ไม่ใช่สำนึกรักหวงแหน
    แต่สิ่งที่วัตถุเพียงด้านเดียว
    แต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับระบบคุณค่าด้วย
    คนต้องรู้เรื่องนามธรรมบ้าง เช่น ความเมตตามันคืออะไร
    ความวิจิตรสวยงาม สุนทรียะของดนตรี หรือความงดงามของศิลปะหรือสถาปัตยกรรมต่างๆ
    มันคืออะไร
    และจำเป็น
    ต้องมีอยู่ในจิตใจของผู้คน ถ้าไม่มีต้องมีกระบวน
    บ่มเพาะให้เกิดมี และถ้าไม่คิดบ่มเพาะก็จะเกิดขึ้น
    เองไม่ได้ครับ

    ทำไมต้องมีศาสนา
    ทำไมต้องมีหอศิลป์
    ทำไมต้องมีพิพิธภัณฑสถาน
    เหล่านี้เป็นสิ่งที่จะเสริมสร้างด้านคุณค่าหรือนามธรรมต่างๆ ที่เป็นจุดเริ่มต้นของจิตสำนึก
    ของประชาชนพลเมืองครับ
     
  11. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,264
    ค่าพลัง:
    +5,219
    พุทธ กะ ศิลป์ ไปด้วยกันไม่ได้

    สามัญสำนึกบอกผมว่า ลุงคุยกะผมในฐานะที่ลุงเป็นคนไทย ส่วนผมคุยกับลุงในฐานะที่ผมเป็นคนพุทธครับ

    การอธิบายสิ่งที่แต่ละคน จากการมองสิ่งหนึ่งสิ่งใด จากมุมมองคนละมุมมอง
    นี่มันต่างกันมากนะ

    ผมว่าผมต้องล้างศรัทธาออกจากหัวบางส่วนละ จะได้เห็นคุณค่าของศิลป์มากขึ้น = =
    เพราะผมมองว่าศาสนาพุทธนี่ไม่ถูกกับการหวงแหน เป็นอย่างยิ่งครับ โดยเฉพาะหวงแหนศีล ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับกามคุณ 5

    จะว่าไป พวกมะกันหรือฝรั่งนี่ เหมาะจะเรียนศาสนาพุทธมากกว่าพวกเราในบางแง่อีกนะ = = ส่วนจะอย่างไร ก็เอาไว้คุยกันวันหลัง

    เฮ้อ ถ้าสืบจากศิลป์นี่ คนไทย ผลิตบุคลากรให้เป็นแรงงานมาตั้งแต่ปู่ย่าตาทวดเลยทีเดียว = = ไม่ว่าต่อละ

    แค่คิดก็จุกอก

    ว่าแต่ลุงไม่สังเกตเหรอ ว่ารูปแบบของการถ่ายทอดศิลปะ กับ รูปแบบการสั่งสอนของคนไทย มันมาแนวเดียวกันเป๊ะ ๆ เลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2017
  12. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    ศิลปะที่เหมาะกับแต่ละยุคจะจรรโลงจิตวิญญาณ
    ให้คนในยุคนั้นๆ นะฮะ
    ถ้าถาม อ.เฉลิมชัย ดูน่าจะกระจ่างสว่างกระจ่างใจมล

    แต่ถ้ามามุขสืบจากศิลป์...ก็เป็นจริงส่วนหนึ่ง
    รวมถึงกิจกรรมทางศาสนาด้วย
    แต่เป็นแค่เปลือกและกะพี้เท่านั้นที่เอามาเป็นเครื่อง
    มือทางการปกครอง
    แต่แก่นก็ยังคงเป็นแก่น...จิตของผู้เสพเป็นตัวขี้
    วัดว่ารับได้ลึกซึ้งเพียงไร
     
  13. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    วินัยคือ ระเบียบปฏิบัติ คือ ประเพณี ที่ดีงาม

    การลงโทษ คือ การแสดงถึงการ ขาดวินัย ยิ่งบทลงโทษมาก ยิ่งแสดงถึงความล้มเหลวของ วินัยในสังคม บทลงโทษคือ สิ่งบ่งบอกว่าล้มเหลวในวินัย

    ต้องแก้ที่ วินัย(ความคิด ความเชื่อ ความเข้าใจ ปัญญา ศีลธรรม)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2017
  14. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ข้อ1...คิดแบบนี้ก็ไม่ถูกสิคุณ..วิศวะ เขามีสิ่งที่ต้อง ดูแลรับผิดชอบ คือหลาน เมีย แม่ และตัววิศวะเอง ก็อายุมากแล้ว แค่วัยรุ่น คนเดียว ก็ถือว่า ได้เปรียบกว่า วิศวะแล้ว...จะบอกว่า ทำเกินกว่าเหตุ ไม่ได้หรอก ถ้าสมมุติ ฝ่ายวัยรุ่น รุมยำ จนวิศวะ อัมพาตไป...ใครจะรับผิดชอบ ครอบครัวของเขา...วัยรุ่นต่างหากที่ แม่มัน ไม่ห้ามปรามลูก...ผมว่า น่าจะ จัดให้ครบคนจนหมดแมก น่ะ...ถึงจะ ได้หมดก็สดชื่น....หรือคนเรา ไม่มีสิทธิที่จะปกป้องตนเองหรือครับ

    ถามผม อยากมีเรื่องมั้ย ....ไม่อยาก
    ถามผม อยากให้มีคนมาหาเรื่องกับคุณมั้ย ...ก็ไม่อยาก


    แต่..ใครกัน อยากมีเรื่อง ถ้า มันไม่มีคนมาหาเรื่อง.....หรือจะต้องการ แค่ว่า ให้มันมากราบขอโทษทีหลัง จากที่เรา เจ็บ เราโดนไปแล้ว งั้นหรือ...เอาอะไรมา...คิดครับ...

    ก็อย่าหาเรื่องกันสิ รู้ระงับอารมณ์กันบ้าง คนไทยด้วยกัน...ก็วัยรุ่นทำตัวเป็นแมวหมู่ แบบนั้น...มันจะฟังเหตุผลมั้ยน่ะ...โดน ก็สมควรแล้ว เสียดาย โดนไม่ครบ คน...
     
  15. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ผมว่า ถ้า ตัววิศวะ อยู่คนเดียว เขาคงระงับ อารมณ์ได้...อยู่
    แต่นี่ ในรถ มีทั่งเด็ก คนแก่ และ ภรรยา....มันคือ สิ่งที่เขาต้องปกป้อง
    ยิ่งถ้ามีลูกของตัวเอง ยิ่งต้องปกป้อง...มันผิดตรงไหน ที่ คนแก่ ปกป้องตนเองและครอบครัว

    วัยรุ่น ใครสอนให้มัน เป็นเด็ก เกเรแบบนี้ ต่างหาก..มันสมควรตรงไหน ที่เด็ก ไป เที่ยวรังแก ผู้ใหญ่...มันไม่ถูกต้อง สมควร สักกนิดเดียว
     
  16. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ทำยังไง ประเทศชาติของเรา ถึงจะ สอนสั่งเด็ก ไม่ให้ ไร้ระเบียบวินัย
    ให้นับถือผู้สูงอายุ....ตามประเพณี ได้บ้าง...ไม่ไช่ สอนให้เด็กเป็น อันทพาล ไช้แต่แรงกำลัง กันแบบนี้ ไม่พากันใช้สมอง..นี่ขนาดเรียน ม4 แล้วนะ ยัง ไม่มีสมองเลย เรียนกันแบบไหน
     
  17. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ใครถูกใครผิด ก็ดูที่ บทบาท วัย อายุ ความรับผิดขอบสิครับ...
    ไม่ไช่เอา คำว่า ทำเกินกว่าเหตุ มาอ่าง ตอนปลายเรื่อง

    แค่นี้ ยัง ไม่มีปัญญาแยกแยะ...แล้วสังคมประเทศชาติ...จะเอาตรงไกนมาอ้าง ถึง ระเบียบ วินัย ประเพณี ความเป็นชาติ ล่ะครับ

    แม้คนไทยด้วยกัน มันยัง รังแกกันได้...เด็กเหรอ วัยรุ่นเหรอ กำลังเรียนด้วยหรือ...มีพฤติกรรมอย่างนี้หรือ มีแม่มาด้วยเหรอ.... แม่ปล่อยให้ลูกทำอย่างนี้เหรอ แม่ชอบเหรอ แม่เห็นด้วยเหรอ ประเทศชาติ ดีใจด้วยเหรอ ที่ เก่งเที่ยวรังแกคนแก่แบบนี้ น่าภูมิใจเหรอ
     
  18. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ลองคิดดูสิ ถ้าคนตัวคนเดียว มีวัยรุ่นมารุมจะกัดแบบนี้...คุณจะรับมือ ยังไง

    สมมุติเอานะ (วิศวะก็ผู้ชายแก่ตัวคนเดียวมั้ยล่ะ)....เป็นคุณ จะเอายังไง
     
  19. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,264
    ค่าพลัง:
    +5,219
    เมืองไทยมันไม่มีความสมดุลย์ระหว่างศาสตร์, ไสย, ศาสน์ และศิลป์ครับ
    เพราะตอนนี้ พุทธถอย ศาสตร์ล้าหลัง มีศิลป์กับไสยที่เฟื่องฟูมากหน่อย *.*
    แต่ผมไม่ได้เชียร์ให้ไปสนใจอย่างอื่นนอกจากศาสนาพุทธ กับศาสตร์(ความรู้แขนงต่าง ๆ) ล่ะนะ
    ส่วนศิลป์นี่ เอาไว้คลายเครียดเป็นครั้งคราวไป ไสยนี่ก็ ให้รู้ว่ามี ให้รู้ว่าใช้แล้วหลงไปอย่างนี้ ๆ ก็น่าจะพอ

    แทนที่ศิลป์จะเป็นเครืองมือชี้วัด(วาอาราม) มันจะกลับกลายเป็นเครื่องชี้มือกามคุณ 5 เปล่า ๆ ยิ่งในปัจจุบันนี่ มันวัดได้ชัดเจนเลย ว่าถ้าชอบศิลป์ มักจะไปไม่รอด ในทางธรรม

    ซึ่งดูเด็กในปัจจุบันก็รู้แล้ว ส่วนใหญ่มันอยากดังกันในสายบันเทิงกันทั้งนั้น

    อัดคลิปโชว์นั่นโชว์นี่ แกล้งคน ร้องเพลง โชว์เรือนร่าง
    >.,< ไม่ค่อยมีเด็กไทยที่ไหนอัดคลิปเผยแพร่ธรรมะ หรือ เผยแพร่ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ อะไรทำนองนั้นเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2017
  20. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ก็พระในเมืองไทย พากันไป เก่งในศาสตร์และศิลป์ จนลืม ธรรมไงครับ

    แทนที่จะเป็นตัวอย่าง ทางความคิด ความเชือ ความประพฤติปฏิบัติ ..เป็นพื้นฐานที่มีศีลธรรมของสังคม...กลับไม่เป็น...

    แต่ไปเป็นแบบอย่าง ที่ไม่ไช่ศีลธรรม..ทำตัวแข่งกับฆราวาส พาฆราวาส หลงงมงาย ฟุ่มเฟือย ตามไปด้วย

    ไหนตัวอย่างของ ผู้สมถะ...
    ไหนตัวอย่วงของ ผู้รู้จักพอ
    ไหนตัวอย่างของ ผู้รู้จักละ
    ไหนตัวอย่างของ ผู้ไม่หลงโลก
    ไหนตัวอย่างของผู้มีศีลธรรม

    ดูที่ไหน สัมผัสที่ไหน เอาตัวอย่างจากไหน....กันล่ะ

    ไปวัดไปหาพระ พระอยู่ดีกินดี ร่ำรวยกว่า ญาติโยม เสียอีก....ภาพที่เห็น คือ ผู้สะสม ผู้มั่งคั่ง ผู้มากมี ผู้สุขสบาย ผู้นั่งกินนอนกิน

    แก้ให้มัน ถูกต้องสิ..รึไม่รู้ ว่า อะไรคือความถูกต้อง
     

แชร์หน้านี้

Loading...