ว่าด้วยการทำบุญ

ปัจจุบันมีพวกมิจฉาชีพ ได้แอบอ้าง ซ่อนเร้น ล่อลวงให้ผู้ที่มีจิตอันเป็นกุศลต้องเสียเงินในการทำบุญไปกับพวกเหล่ามิจฉาชีพที่แอบแฝงมา ผมเองอยากฝากข้อคิดเล็กให้กับทุกท่านในฐานะเราเป็นชาวพุทธที่มีเจตนาเพื่อธำรงค์รักษาพระพุทธศาสนาให้ดำรงค์อยู่ ก่อนอื่นจากหลายฝ่ายที่คุยกับผมที่มีเจตนาอยากทำบุญเพื่อสร้างบุญกุศลนั้น ได้โดนเหล่ามิจฉาชีพหลอกลวง ชวนเชื่อให้บริจาคเสียเงินทองมากมายโดยกล่าวอ้างว่าท่านเป็นบุคคลโน้นบุคคลนี้กลับชาติมาเกิด ส่วนมากลักษณะนี้จะเป็นพวกที่แฝงตัวมาในคราบนักบวชในพุทธศาสนาใช้คำพูดใช่สภาวะขณะนั้นหว่านล้อมให้ท่านหลงเชื่อและบริจาคทรัพย์ขอให้ระวังให้ดี อีกประเภทหนึ่งวัดครึ่งหนึ่งแบ่งกับผู้อาศัยสภาวะนักบวชประเภทนี้จะเรียกว่าเป็นแกงค์ใหญ่รู้เห็นกับวัดและกรรมการวัดสร้างเครือข่ายมากมาย ประเภทนี้เราจะจับได้อยากนอกจากคนใกล้ชิดที่โดนหลอกลวงแล้วนำมาเปิดเผย ที่ผมกล่าวเช่นนี้มิใช่ทุกวัดจะเป็นอย่างที่ผมกล่าว มีเฉพาะบางวัด วัดที่ดีๆต้องการผู้มีจิตศรัทธราเข้าร่วมทำบุญก็มีอยู่ ขึ้นอยู่กับท่านใช้วิจจารณญานครับ ผมติดตามหลายแห่งที่ลงบอกบุญในกระทู้ในเวปนี้บางแห่งพวกเราก็น่าร่วมกันสนับสนุน บางแห่งหรือบางวัดใช้ชื่อแอบอ้างประเภทวัครึ่งกรรมการครึ่งก็มีอยู่ ผมจะไม่ยอมให้พวกมิจฉาชีพมาหลอกเอาเงินที่ผมหาด้วยหยาดเหงื่อแรงกายของผมไปให้พวกอิจฉาชีพเหล่านี้เด็ดขาดก่อนที่ผมจะทำบุญที่ไหนผมจะต้องสืบก่อนเพราะเมื่อก่อนผมเคยโดนหลอกมาแล้วเสียเงินมากมาย เพราะมัวแต่หลงคำพูดดีๆ พวกเขาเวลาอยู่หน้าเราเขาจะสร้างภาพเขาให้ดูดี ดูน่าศัทธราแต่เบื้องหลัง อย่างเลว เลวมากกว่าคนธรรมดาที่ไม่ใช่นักบวชดำเนินชีวิตเสียอีก ผมพยายามหาหลักฐานและจะพยายามหาทางดำเนินการทางกฏหมายอยู่มีหลายวัดครับ ผมจึงออกมาเตือนทุกท่านด้วยความเคารพ มิเช่นนั้นเงินที่ท่านบริจาคไปจะไม่ก่อเกิดผลบุญเลย เสียดายครับ

 

ขออนุโมทนาคุณ sompob16<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4260241", true); </SCRIPT> ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้น ก่อนอื่นก็ต้องขอบอกว่า ไม่ใช่เฉพาะคนที่เพิ่งเริ่มต้นหันเข้ามาสนใจหรือเข้ามาทำบุญทำทานเท่านั้นที่จิตจะตกทันทีที่มีเรื่องเหล่านี้ปรากฏหรือโดนกับตัวเอง แม้แต่คนที่ทำบุญทำทานมานานมากแล้ว หรือแม้แต่ผู้รักษาศีลอย่างเคร่งครัด นักปฏิบัติธรรมชั้นปานกลางหรือค่อนข้างสูง ก็จิตตกกันเป็นส่วนมาก ทำให้บางคนหันหลังให้การทำบุญทำทานไปเลยตลอดชีวิต ครอบครัวของคนที่ถูกหลอกมักใช้เหตุผลนี้มาขัดขวางงานบุญงานทาน ทำให้ครอบครัวนั้นกลายเป็นครอบครัวแตกแยกไปก็มีมาก ซึ่งไม่ดีครับ

ผมเองทำบุญทำทานมาตลอด 8 ปีหลังของชีวิตที่เหลืออยู่นี้ โดนมานับไม่ถ้วนครับ แต่ไม่เคยท้อถอย ไม่เคยเห็นว่าเป็นสิ่งที่น่าอาย บอกไปแล้วใคร ๆ เขาจะซ้ำเติมว่า ดวงมันเป็นยังไงกัน ถึงเจอะเจอมิจฉาชีพ คนไทยเป็นอย่างนี้กันมากครับ พอบอกอะไรออกไปก็มีการซ้ำเติมกันแบบนี้ ว่าคงทำกรรมไม่ดีมาในชาติก่อน จึงต้องมาเจอกันมิจฉาชีพ ส่วนคนที่ซ้ำเติมคนอื่นมักพูดว่า ดูคนนั้นซิ หรือดูผมสิ คงทำมาแต่กรรมดี จึงไม่เคยถูกมิจฉาชีพหลอกเลย พบเจอแต่พระอริยเจ้า นี่คือท่าทีที่ไม่ถูกต้องของคนไทย

นอกจากไม่เคยท้อถอยแล้ว ยิ่งศรัทธาตั้งมั่นในพระพุทธศาสนาครับ เห็นว่านี่ละครับของจริง พระพุทธศาสนานี้เป็นของจริง ของจริงที่เมื่อบวชเรียนก็ยังทำได้ยาก ไม่ใช่ง่าย ๆ พระวินัยขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตั้งไว้รัดกุม สมกับที่พระองค์มีพระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ หยั่งรู้อดีตไปถึงอนาคตอย่างไม่มีที่สุดที่ประมาณ ทรงเห็นแล้วว่า พระพุทธศาสนาจะต้องพบอะไรบ้าง จึงวางพระวินัยไว้ถึง 227 ข้อ บวกกับปาฏิโมกขสังวร คือไม่ใช่เฉพาะศีล 227 แต่ยังมีศีลปาฏิโมกขซึ่งต้องสังวรระวัง บวกกับพระไตรปิฏกอีก 84,000 พระธรรมขันธ์ สอดคล้องกันเป็นเรื่องเดียวกัน แทบจะไม่มีทางเลยที่คนธรรมดาจะแหกคอกออกไปได้ แต่พวกมิจฉาชีพพวกนี้มักเป็นคนเก่งบาลี แตกฉานพอสมควร จึงแหกออกไปได้ข้าง ๆ คู ๆ บ้างในขณะที่คนเผลอสติ แต่เมื่อสติกลับมา หรือมีคนที่มีความรู้แตกฉานมากกว่า หรืองัดพระไตรปิฏกออกมาว่ากัน ก็มักกลับคืนสู่สภาพได้ทุกครั้ง

เราจะให้คนไม่ดีเพียงไม่กี่คนมาทำให้เราไม่ได้ทำบุญทำทาน ถือศีล ปฏิบัติธรรม อดได้มรรคได้ผลกันไปเช่นนั้นหรือ ก็แค่เพียงไม่ต้องคิดถึงตรงนั้น มรรคผลยังรอท่านและครอบครัวรวมทั้งเหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลายอยู่ครับ