สถานที่ปฏิบัติธรรมในจังหวัดกาญจนบุรี

ในห้อง 'วัดและศาสนสถาน' ตั้งกระทู้โดย J.Sayamol, 24 กันยายน 2009.

  1. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    [​IMG]

    วัดป่าสุนันทวนาราม
    เลขที่ 110 หมู่ 8 บ้านท่าเตียน
    ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี 71150
    โทรศัพท์ 034-546-635


    พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก (Mitsuo Gavesako) เจ้าอาวาส

    วัดป่าสุนันทวนาราม เป็นวัดปฏิบัติสายหลวงพ่อชา สุภัทโท โดยเป็นวัดสาขาลำดับที่ 117
    ของวัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี มีจัดอบรมการเจริญอานาปานสติ อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี

    โปรดติดต่อสอบถาม : มูลนิธิมายา โคตมี
    เลขที่ 378 อาคารสงเคราะห์ สาย 20 ก.
    แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร กทม. 10120
    โทรศัพท์ (02) 676-3453, (02) 676-4323,
    (081) 834-3817, โทรสาร (02) 286-8690

    E-mail Address : <!-- e -->mayakotami@hotmail.com<!-- e -->


    วัดป่าสุนันทวนาราม เป็นวัดหนึ่งที่เข้าร่วมโครงการปฏิบัติธรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพใน
    การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามแนวนโยบายของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ


    [​IMG]

    เส้นทางไปวัดป่าสุนันทวนาราม

    1. ปากทางเข้าวัดอยู่ กม. 90 ของทางหลวงหมายเลข 323 ช่วงอำเภอไทรโยค-อำเภอทองผาภูมิ

    - ระยะทางจากกรุงเทพฯ ถึงวัดประมาณ 220 กม.
    - จากตัวเมืองกาญจนบุรี ถึงน้ำตกไทรโยคน้อยประมาณ 60 กม.
    - จากน้ำตกไทรโยคน้อย ถึงปากทางเข้าวัดประมาณ 47 กม.
    - จากปากทาง ถึงวัด 3 กม.

    2. การเดินทางโดยรถโดยสารประจำทางจากกรุงเทพฯ ไปวัดป่าสุนันทวนาราม

    - ขึ้นรถ กรุงเทพฯ-กาญจนบุรี ที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ต่อรถ กาญจนบุรี-อ.ทองผาภูมิ
    ที่สถานีขนส่ง จ.กาญจนบุรี ไปลง กม. 90 (ปากทางเข้าวัดป่าสุนันทวนาราม)
    - รถตู้จากหน้าโรงแรมรอยัล มุมถนนราชดำเนิน เชื่อมติดต่อจากท้องสนามหลวง ไปสถานีขนส่ง จ.กาญจนบุรี

    [​IMG]
    พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก


    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    ประวัติและปฏิปทาพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก
    ลานธรรมจักร &bull; แสดงกระทู้ - พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก (Mitsuo Gavesako)

    รวมคำสอนพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก
    <!-- m -->การรักษาศีล
     
  2. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    วัดป่าสุนันทวนาราม
    เลขที่ 110 หมู่ 8 บ้านท่าเตียน
    ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี 71150

    [​IMG]
    พระอุโบสถ วัดป่าสุนันทวนาราม

    [​IMG]
    ศูนย์เยาวชน

    [​IMG]
    นักเรียนนายร้อยตำรวจ เข้าอบรมปฏิบัติธรรม
     
  3. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    [​IMG]
    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
    ............................................................................


    วัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน (วัดเสือ)
    หมู่ 5 บ้านพุไม้แดง ต.สิงห์
    อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี 71150

    พระอาจารย์มหาภูสิต (จันทร์) ขันติธโร เจ้าอาวาส

    เป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมวัดป่าสาขาหลวงตามหาบัว ปฏิบัติตามแนวหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    ประวัติวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน

    วันที่ ๑๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๓๗ นอกจากจะเป็นวันอันเป็นศิริมงคลยิ่งของปวงชนชาวไทย ด้วยเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระบรมราชินีนาถ และเป็นวันคล้ายวันเกิดของพระธรรมวิสุทธิมงคล ครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่พระราชญาณวิสุทธิโสภณ (ท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน) แห่งวัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี

    ในวันนั้นหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน ได้เมตตารับถวายที่ดิน ๑๐๐ ไร่เศษ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรีราว ๓๗ กิโลเมตร ริมถนนสายกาญจนบุรี-ไทรโยค-ทองผาภูมิ หลักกิโลเมตรที่ ๒๑ แยกเข้าไป ๒ กิโลเมตร ณ หมู่ที่ ๕ บ้านพุไม้แดง ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เพื่อสร้างเป็นวัดป่าสถานที่ปฏิบัติธรรมตามปฏิปทาพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    ผู้มีจิตศรัทธาถวายที่ดินคือ คุณดวงใจ ศรีทอง ด้วยดำริศรัทธาจากการฟังเทปคำเทศนาของหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน ที่วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี จากความตอนหนึ่งที่ว่า “เดี๋ยวนี้ไปที่ไหนก็มีแต่กิเลสเข้าไปครอบครอง จะหาที่สร้างวัดก็ไม่มี” คุณดวงใจจึงได้ปรึกษากับคุณแม่สำลี ซึ่งขณะนั้นกำลังปฏิบัติธรรมอยู่ที่วัดป่าตาดด้วยกัน คุณแม่ก็สนับสนุนว่าเหมาะสมดีจะได้เป็นประโยชน์ในการจรรโลงพระพุทธศาสนาสืบไป ภายหลังได้ถวายเพิ่มเติมจนเป็นเนื้อที่ปัจจุบัน ๒๓๔ ไร่เศษ ในอาณาเขตล้อมรั้ว ๒,๒๕๖ ตารางเมตร และทางวัดไห้ซื้อที่ดินเพิ่มเติม จนเป็นเนื้อที่ในปัจจุบันรวม ๖๘๘ ไร่

    กาลต่อมาหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน จึงได้มีบัญชาให้พระอาจารย์มหาภูสิต (จันทร์) ขันติธโร ไปดูสถานที่ว่ามีความเหมาะสมในการสร้างวัดหรือไม่อย่างไร

    วันที่ ๑๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๓๗ พระอาจารย์มหาภูสิต (จันทร์) ขันติธโร ได้เข้าไปกราบนมัสการหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน ที่สำนักสงฆ์สวนแสงธรรม เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ เพื่อพาคณะศิษย์อันประกอบด้วย ผู้พิพากษา ทนายความ แพทย์ วิศวกร ตำรวจตระเวนชายแดน ราษฎรในพื้นที่พร้อมด้วยเจ้าของที่ดิน ไปดูสถานที่ที่ได้รับการถวายเป็นครั้งแรก และได้เข้าไปสำรวจอีกหลายครั้ง ซึ่งการเดินทางครั้งนั้นเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากยังไม่มีเส้นทางถนนเข้าสู่พื้นที่โดยเฉพาะ ประกอบกับเป็นช่วงฤดูฝน แต่ทางคณะฯ ได้ร่วมกันตรวจสอบพื้นที่ จัดทำผัง ถ่ายรูป และหาข้อมูลที่ต้องการ

    วันที่ ๒๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๗ คุณดวงใจ ศรีทอง ได้เข้ากราบเรียนหลวงตาฯ ณ สวนแสงธรรม ถึงความคืบหน้าในการสร้างวัดฯ หลวงตา จึงให้ชื่อวัดโดยสมบูรณ์ว่า “วัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน”

    หลวงตาฯ ได้มีเมตตาเดินทางมาเยี่ยม วัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน เป็นครั้งแรก และได้ปลูกต้นโพธิ์ไว้ที่วัด ๑ ต้น เป็นปฐมฤกษ์ ท่านได้ปรารภว่า “นี่สร้างวัดนี้แล้ว มันก็เป็นประโยชน์กว้างขวางเป็นหัวใจคน คือ วัดเป็นหัวใจชาวพุทธเรา ที่นี่เป็นที่เหมาะสมด้วยการเข้าออก ไม่ลำบากลำบน ภาวนาสบายๆ”

    [​IMG]
    พระอาจารย์มหาภูสิต (จันทร์) ขันติธโร


    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    ประวัติและปฏิปทาหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
    <!-- m --><A href="http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=7703" target=_blank>:: Œ??Ã?ѡà:: :: ͨҹ - ˅ǧ?ҁ˒?ч ?ҳʑ?ѹ⹦lt;/a><!-- m -->

    แผนที่วัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน
    <!-- m --><A href="http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=3070" target=_blank>:: Œ??Ã?ѡà:: :: ͨҹ - Ἱ?ըǑ??蒋Ň??Һч ?ҳʑ?ѹ⹠?.?ҭ???؃զlt;/a><!-- m -->

    เว็บไซต์วัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน
    <!-- m -->:: Ǒ??蒋Ň??Һч ?ҳʑ?ѹ⹠?.?ҭ???؃ՠ- Tiger Temple, Thailand ::<!-- m -->

    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
     
  4. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    [​IMG]

    สำนักปฏิบัติธรรมถ้ำแก้วสวรรค์บันดาล
    ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี 71240


    หลวงพ่อวิเชียร เจ้าอาวาส

    ถ้ำแก้วสวรรค์บันดาล ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แหล่งสถิตพระธาตุ เป็นสำนักปฏิบัติธรรม ตั้งอยู่ที่บริเวณชายแดนไทยพม่าบริเวณ 3 กม. ก่อนถึงด่านเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี บริเวณถ้ำจะเป็นภูเขาสูงชัน มีถ้ำน้อยใหญ่อยู่มากมาย ใต้ภูเขาจะมีธารน้ำลอดใสเย็นไหลผุดมาจากใต้ดินฝั่งพม่า อากาศถ่ายเทและเย็นสบาย เหมาะแก่การบำเพ็ญภาวนา

    บริเวณภายนอกมีศาลาและกุฏิที่พักสะดวกสบาย มีโรงครัวสำหรับญาติโยมทำอาหารรับประทานเอง มีห้องน้ำสะอาดและสะดวกสบาย น้ำที่ใช้อาบก็ใสและเย็นสบาย เวลากลางวันควรไปปฏิบัติธรรมในถ้ำ กลางคืนสวดมนต์ทำวัตรเย็นร่วมกับพระสงฆ์ที่ศาลาใหญ่ หลวงพ่อวิเชียร เจ้าอาวาสท่านจะสอนนั่งกรรมฐานหลังจากทำวัตรเสร็จเป็นเวลา 1-2 ช.ม. จากนั้นก็กลับศาลาที่พัก หรือจะขึ้นไปปฏิบัติธรรมในถ้ำอีกก็ได้ตามอัธยาศัย

    ประวัติความเป็นมาของถ้ำฯ ได้รับการบอกเล่าจากหลวงพ่อวิเชียร เจ้าอาวาส ว่า เมื่อ พ.ศ.2534 ท่านได้เดินธุดงค์มาพบถ้ำนี้ เห็นว่าเป็นถ้ำที่เหมาะแก่การบำเพ็ญภาวนา จึงได้ปักกลดและพำนักอยู่ในถ้ำตั้งแต่นั้นมา ต่อมาท่านชราภาพลง จึงได้ลงมาปลูกกุฏิอาศัยอยู่ด้านล่างหน้าถ้ำ ซึ่งขณะนั้นบริเวณรอบๆ ถ้ำเป็นป่าทึบ มีสัตว์ป่าชุกชุม โดยเฉพาะงูจงอางและงูเห่าดง

    และท่านยังเล่าให้ฟังอีกว่า มีเหตุการณ์อัศจรรย์เกิดขึ้นคือ ในวันหนึ่งขณะที่ท่านกำลังสวดมนต์ทำวัตรเย็นอยู่ในศาลาไม้หลังเล็กๆ ที่ท่านกับเณรซึ่งเป็นหลานของท่านเองช่วยกันสร้างขึ้นมา เพื่อใช้เป็นที่สวดมนต์ทำวัตร มองออกไปข้างนอกเห็นกลุ่มแสงคล้ายฝูงหิ่งห้อยลอยอยู่ สามเณรสงสัยว่าเป็นแสงอะไรจึงวิ่งออกไปดู ปรากฏว่ากลุ่มแสงนั้นลอยไปหากุฏิหลังเล็กๆ ของสามเณรเอง แล้วแสงนั้นก็ลอยวนกุฏิจำนวนสามรอบ แล้วลอยหายเข้าไปในกุฏิ สามเณรจึงตามเข้าไปดู เห็นกลุ่มแสงนั้นลอยวูบหายเข้าไปในสถูปไม้ที่อยู่บนหิ้งพระ จึงเปิดดูเห็นเป็นวัถตุมีลักษณะคล้ายลูกแก้วใสเล็กๆ กลมบ้างรีบ้าง ส่งแสงวูบวาบอยู่ภายในสถูป จึงวิ่งออกมาเรียกหลวงพ่อให้ไปดู จึงทราบว่าเป็นพระบรมสารีรีกธาตุเสด็จมาเป็นจำนวนมาก

    [​IMG]

    หลังจากนั้นต่อมาปรากฏว่า มีวัตถุคล้ายลูกหินสีน้ำตาล มีผิวมันเรียบ เหมือนลูกกวาด ลอยมาตกให้คณะสวดมนต์ทำวัตรเป็นจำนวนมาก จึงรู้ว่าเป็นพระธาตุเสด็จมา นับระยะเวลาที่พระธาตุเสด็จมาทุกวันนั้นเป็นเดือนๆ และหลังจากนั้นก็มีเหตุอัศจรรย์ มีคนมาสร้างเจดีย์ใหญ่บรรจุให้โดยไม่ได้บอกกล่าวให้ทำบุญ อีกทั้งต่อมา ปรากฏว่าตรงบริเวณกุฏิของสามเณร ที่พระบรมสารีริกธาตุเสด็จเข้าไปนั้น มีคณะศิษย์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง มาสร้างโบสถ์ประดิษฐาน พระพุทธรูปสมเด็จองค์พระปฐม ทับลงตรงบริเวณนั้นพอดี นับว่าเป็นสิ่งอัศจรรย์มากสำหรับสถานที่แห่งนี้

    ดังนั้นผมคิดว่าสถานที่แห่งนี้ คงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และมีความสำคัญของประเทศชาติและพุทธศาสนาของเราในอนาคต พระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุจึงเสด็จมามากมายเช่นนี้ โดยเฉพาะภายในถ้ำต่างๆ ก็เป็นที่เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม เพราะมีอากาศถ่ายเทดีมาก จึงขอแนะนำกัลยาณมิตรผู้สนใจในการแสวงหาสถานที่วิเวกสำหรับปฏิบัติธรรม และช่วยกันอนุรักษ์ไว้ให้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของพระศาสนาต่อไป

    อาณาเขตของถ้ำแก้วสวรรค์บันดาล กินบริเวณกว้าง เนื่องจากเป็นถ้ำที่อยู่ในภูเขทั้งลูก ภายในยังแบ่งเรียกเป็นถ้ำต่างๆ อีก 4 ถ้ำ คือ ถ้ำวังบาดาล ถ้ำมรกต ถ้ำแก้ว และถ้ำสวรรค์บันดาล แต่ละถ้ำมีความสลับซับซ้อน สามารถเดินเชื่อมทะลุถึงกันได้หมดทุกถ้ำ ภายในมีหินย้อยรูปทรงต่างๆ งดงามมาก เมื่อกระทบกับแสงไฟจะสะท้อนแสงแวววาวคล้ายถูกโรยไว้ด้วยกากเพชร การเข้าไปควรแต่งกายด้วยชุดที่รัดกุม เลือกสวมรองเท้าที่เหมาะสม และต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะบางถ้ำมีโขดหินที่สูงชัน บางถ้ำต้องใช้ วิธีการคลานและมุดไปตามซอกของช่องหิน และบางถ้ำที่มีระดับน้ำสูงประมาณหัวเข่า หากต้องการจะชมให้ครบหมดทุกถ้ำ จะต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมงขึ้นไป

    การเดินทาง ใช้เส้นทางอำเภอสังขละบุรี-ด่านเจดีย์สามองค์ โดยเลี้ยวขวาบริเวณศาลาพักร้อนริมทาง ที่อยู่ก่อนด่านเจดีย์สามองค์ประมาณ 1 กิโลเมตร จากนั้นขับรถไปตามถนนดินอีกประมาณ 700 เมตร เลี้ยวขวาไปตามเส้นทางอีก 200 เมตร จะถึงบริเวณสำนักสงฆ์ที่เป็นที่ตั้งของถ้ำแก้วสวรรค์บันดาล

    [​IMG]
    พระบรมสารีริกธาตุเสด็จมาโปรดที่ถ้ำแก้วฯ
    ............................................................................
     
  5. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    วัดหนองขอนเทพพนม
    หมู่ 8 บ้านหนองขอนเทพพนม
    ต.หนองปลาไหล อ.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี 71220


    สภาพโดยทั่วไป :

    วัดหนองขอนเทพพนมตั้งอยู่บนเนินเขาเตี้ยๆ บนเนื้อที่ประมาณ ๔๐ ไร่ มีต้นไม้ร่มรื่นทั่วบริเวณวัดเหมาะสำหรับการฝึกฝนปฏิบัติธรรม การปฏิบัติจะเน้นการเดินจงกรมเป็นหลัก ผู้ที่มาปฏิบัติจะต้องถือศีล ๘ โดยพระคุณเจ้าจะจัดให้มีการรับศีลทุกๆ วันก่อนทำวัตรเย็น

    กิจกรรมภายในวัด :

    ๐๔:๐๐ น. ทำวัตรเช้า
    ๐๗:๓๐ น. รับประทานอาหารเช้า
    ๑๐:๓๐ น. กิจกรรมช่วงเพล
    ๑๕:๓๐ น. เดินจงกรมรอบวัด (มีผู้นำกิจกรรม)
    ๑๘:๐๐ น. ทำวัตรเย็น

    การติดต่อขอเข้าพัก :

    ผู้ที่จะมาปฏิบัติธรรมที่วัดแห่งนี้ สามารถเข้าติดต่อที่วัดได้ทุกวัน ทางวัดมีที่พักสำหรับผ่ายหญิงและฝ่ายชาย สำหรับชุดขาว ผู้ที่สนใจสามารถนำมาเอง หรือจะยืมจากทางวัดก็ได้

    การเดินทาง :

    - โดยรถโดยสารประจำทาง

    วัดหนองขอนเทพพนม มีรถโดยสารประจำทางผ่านเพียงวันละเที่ยว (ไป-กลับ) สายอู่ทอง-หนองปลาไหล โดยรถประจำทางจะผ่านหน้าวัด (จากหนองปลาไหล ไป อู่ทอง) ประมาณ ๗ โมงเช้า และออกจากอำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี (ตรงหอนาฬิกา) ประมาณ ๑๑.๐๐ น.

    หรืออีกเส้นหนึ่ง (ไม่ผ่านวัด)

    โดยรถโดยสารประจำทางสาย กาญจนบุรี-หนองปรือ โดยมาลงที่หนองปรือ แล้วนั่งเมล์เครื่อง (มอเตอร์ไซต์) จากหนองปรือมายังวัด

    - โดยรถยนต์ส่วนตัว

    1. เส้นทาง กาญจนบุรี-บ่อพลอย-หนองปรือ เลี้ยวขวาตรงสี่แยกก่อนถือหนองปรือ เข้าไปยังหนองปลาไหล และบ้านหนองขอนเทพพนม ตามลำดับ

    2. เส้นทาง อู่ทอง-เลาขวัญ-หนองปลาไหล (สอบถามเส้นทางได้ตลอดเส้นทาง)
     
  6. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    สำนักสงฆ์เขาสามงา
    ต.หนองขาว อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี 71110

    สภาพโดยทั่วไป :

    สำนักสงฆ์เขาสามงา ตั้งอยู่บนเส้นทางกาญจนบุรี - อู่ทอง ห่างจากตัวเมืองประมาณ ๑๕ กิโลเมตร ภายในวัดมีสภาพเป็นป่าโปร่ง บนพื้นที่ประมาณ ๑๐๐ ไร่ มีที่พักไม่มากนัก เนื่องจากทางวัดไม่ได้รับบวชชีพราหมณ์เป็นกิจลักษณ์ เพียงแต่ใครมาขอบงชก็บวชให้ (ถ้าเป็นฝ่ายหญิงแนะนำว่าควรมาหลายๆ คน)

    กิจวัตรประจำวัน :

    ๐๔:๐๐ น. ทำวัตรเช้า
    ๐๘:๐๐ น. รับประทานอาหารเช้า
    ๑๑:๐๐ น. รับประทานอาหารเพล
    ๑๘:๐๐ น. ทำวัตรเย็น
    ๑๙:๐๐ น. ฟังธรรม
    ๑๙:๐๐ น. นั่งสมาธิมีพระอาจารย์นำ

    การเดินทาง :

    - โดยรถโดยสารประจำทาง

    ลงรถที่เมืองกาญจน์ฯ แล้วนั้งมอร์เตอร์ไซต์ หรือ รถเมล์ส้มรับเจ้างเข้าไป หรือจะนั่งรถสายกาญจนบุรี-สุพรรณบุรี มาลงที่หนองขาว แล้วนั่งมอร์เตอร์ไซต์รับจ้างเข้าไป

    - โดยรถยนต์ส่วนตัว

    จากตัวเมืองกาญจนบุรี เข้าสู่ถนนกาญจนบุรี-อู่ทอง ออกจากตัวเมืองมาจนถึงสถานีโทรทัศน์ช่อง ๑๑ เลี้ยวเข้าไปตามถนนข้างสถานี
     
  7. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    [​IMG]
    อุบาสิกาบงกช สิทธิผล
    ............................................................................


    สำนักปฏิบัติธรรมแดนมหามงคล (เกาะมหามงคล)
    สถาบันพัฒนาจิตบวชใจนานาชาติเพื่อสันติภาพ
    เลขที่ 149 หมู่ 1 บ้านช่องแคบ ก่อนถึงน้ำตกไทรโยคน้อย
    ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี 71150
    โทรศัพท์ 08-1862-1757

    อุบาสิกาบงกช สิทธิผล ประธานและผู้ก่อตั้ง

    ทางสำนักปฏิบัติธรรมแดนมหามงคล มีการจัดโครงการทางพระพุทธศาสนาหลากหลายโครงการ สำหรับทั้งภาคราชการ ภาคเอกชน โรงเรียน สถาบันการศึกษา และพุทธศาสนิกชนทั่วไป เช่น โครงการคุณธรรมนำชีวิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน, กิจกรรมพัฒนาจิตบวชใจ, อบรมยอดบุญเนกขัมมะจิตตภาวนา, บำเพ็ญสมาธิ เจริญมหาสติ ปฏิบัติธรรม, จัดปลูกลูกชายให้ได้เป็นยอดกตัญญู, กิจกรรมรักชีวิต รักธรรมชาติ ป่าไม้สิ่งแวดล้อม ฯลฯ รวมทั้ง กิจกรรมเกี่ยวเนื่องด้วยวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาและวันสำคัญของชาติ เป็นต้น

    [​IMG]
    [พระมหาเจดีย์ 7 ชั้น]


    สถานที่ของสำนักฯ มีความสัปปายะ สงบเงียบ ร่มรื่น งดงาม อากาศเย็น รอบล้อมด้วยต้นไม้ ป่า และภูเขา เหมาะแก่การปฏิบัติภาวนาเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับนักปฏิบัติผู้หญิงเป็นยิ่งนัก มีอาหารมังสวิรัติให้รับประทานตอนมื้อเที่ยงทุกวัน สถานที่พักแยกชายหญิงชัดเจน เจ้าหน้าที่ทุกคนมีมิตรภาพมาก

    สำหรับการเข้าไปกราบไหว้ สักการบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ณ พระมหาเจดีย์ 7 ชั้น ที่มีความสูง 80 เมตรนั้น จะต้องเดินขึ้นยอดภูเขา ด้วยการเดินเท้า 1,000 กว่าขั้นบันได ใช้เวลาเดินขึ้น-ลงประมาณ 3 ชั่วโมง และทุกคนที่จะเข้าไปเยี่ยมชมข้างในสำนักฯ จะต้องใส่ชุดขาว หากใครไม่ได้เตรียมตัวมา ด้านหน้าจะมีชุดขาวให้เปลี่ยน

    [​IMG]
    [ศาลาปฏิบัติธรรมเชิงเขา แดนมหามงคล จ.กาญจนบุรี]

    [​IMG]
    [ศาลาที่พักเชิงเขา แดนมหามงคล จ.กาญจนบุรี]


    การเดินทาง : สำนักปฏิบัติธรรมแดนมหามงคล ตั้งอยู่บนพื้นที่ติดริมแม่น้ำแคว อยู่ห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 40 กิโลเมตร เราสามารถเดินทางโดยขึ้นรถประจำทางหรือรถไฟ ดังนี้

    - รถประจำทาง สาย 8203 จากสถานีขนส่งจังหวัดกาญจนบุรี ลงรถที่บ้านช่องแคบ จากนั้นโดยสารรถมอเตอร์ไซค์ต่อไปยังแดนมหามงคล รวมระยะทางประมาณ 55 กิโลเมตร

    - รถไฟ จากสถานีรถไฟธนบุรี (บางกอกน้อย) เที่ยว 07.45 น. หรือ 13.50 น. ลงรถที่สถานีบ้านช่องแคบ (สถานีเกาะมหามงคล) ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับแดนมหามงคล คือลงก่อนถึงสถานีน้ำตกไทรโยคน้อย ค่ารถไฟประมาณ 37 บาท

    [​IMG]

    อุบาสิกาบงกช สิทธิผล

    อุบาสิกาบงกช สิทธิผล สละทางโลกตั้งแต่อายุ 29 ปี ปัจจุบันอายุ 53 ปี (เมื่อปี พ.ศ. 2550)
    แต่จะเชื่อไหมว่าหน้าตาท่านเหมือนคนอายุ 30 ปลายๆ เท่านั้น

    ผลงานและเกียรติคุณดีเด่น

    1. ท่านได้สอนวิปัสสนากรรมฐานไม่ให้ยึดวัตถุเป็นตัวตั้ง มีลูกศิษย์ทั้งคนไทยและต่างชาติจำนวนมาก โดยใช้สถานที่ปฏิบัติธรรมแดนมหามงคลเป็นศูนย์กลาง ทั้งนี้ ที่ผ่านมาอุบาสิกาบงกช ได้สร้างผลงานจนเป็นที่รู้จักกันในนานาประเทศ โดยเคยรับเชิญไปแสดงปาฐกถาพิเศษเรื่องเกี่ยวกับสันติภาพโลก ที่ยูเนสโก กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อปี 2548

    [​IMG]

    2. ได้รับปริญญาศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ในปี 2549 เพราะเป็นผู้มีความรู้ความสามารถกอปรด้วยคุณงามความดี ได้บำเพ็ญคุณูปการแก่การศึกษา พระพุทธศาสนา สังคม และประเทศชาติ เป็นอเนกประการ ควรแก่การยกย่องประกาศเกียรติคุณ ดังนี้

    ด้านพุทธศาสนา ได้ตั้งสถาบันเพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา ชื่อสถาบันพัฒนาจิตบวชใจนานาชาติเพื่อสันติภาพ ณ แดนมหามงคล บ้านช่องแคบ ตำบลวังกระแจะ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี และแดนมหามงคลชัยสันติภาพโลก ณ เมืองสาวัตถี รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย ตั้งโครงการสมทบทุนสร้าง บูรณปฏิสังขรณ์ วัด สำนักปฏิบัติธรรม มหาวิทยาลัยสงฆ์ทั้ง 2 แห่ง คือ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย รวมทั้ง มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาแห่งโลก และพระพุทธศาสนานานาชาติ

    ด้านบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ สนับสนุนอุปถัมภ์สถานีอนามัย โรงพยาบาลทุกแห่งในจังหวัดกาญจนบุรี และอีกหลายแห่งในจังหวัดสระแก้ว จังหวัดปราจีนบุรี สมทบทุนกับโรงพยาบาลต่างๆ เช่น ร.พ.ศิริราช ร.พ.จุฬาลงกรณ์ ร.พ.ศรีธัญญา ร.พ.อำเภอไทรโยค และ ร.พ.พหลพลพยุหเสนา จังหวัดกาญจนบุรี

    [​IMG]

    งานด้านสังคม มอบสถานที่สถาบันพัฒนาจิตบวชใจนานาชาติ สำหรับฝึกอบรม ประชาชน ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ โรงเรียน มหาวิทยาลัย และผู้สนใจทุกชาติ ทุกภาษา ทุกศาสนา

    เกียรติคุณพิเศษ รับรางวัลสตรีดีเด่นในพระพุทธศาสนาแห่งโลก จากองค์การสหประชาชาติ รับไตรปิฏกดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ประเทศอินเดีย รับรางวัล “ดร. อัมเบดการ์นานาชาติเพื่อสันติภาพ” รับเกียรติคุณสูงสุดในพระพุทธศาสนาฝ่ายสตรี “อัครมหาศิริสุธรรมาสินกิ” สหภาพเมียนมาร์ รับเกียรติคุณมหาอุบาสิกาผู้ทรงเกียรติคุณสูงสุดในพุทธจักรจากประเทศศรีลังกา และรับมหาอิสริยยศเหรียญทองเกียรตินิยมสูงสุดจากประเทศกัมพูชา

    3. เนื่องในโอกาสวันวิสาขบูชา ซึ่งปี 2549 เป็นปีที่ครบ 2550 ปีแห่งอายุพระพุทธศาสนา คณะสงฆ์ประเทศศรีลังกา ได้มีมติเป็นเอกฉันท์มอบรางวัล “วิศวะกีรติศรีศาสนภิมณีมโหบาสิกา” The Most Eminent Mahopashika of the Buddhist World หรือรางวัล “มหาอุบาสิกาผู้ทรงเกียรติคุณงามเด่นสูงสุดในพุทธจักร” แก่มหาอุบาสิกา ดร.บงกช สิทธิพล จากประเทศไทย โดยประธานาธิบดี มหินทะ ราชปักษา แห่งศรีลังกา เป็นผู้มอบ

    [​IMG]

    โดยคณะสงฆ์ประเทศศรีลังกาเห็นว่า มหาอุบาสิกา ดร.บงกช ได้ปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนในพระพุทธศาสนาอย่างเคร่งครัด มีความวิริยะอุตสาหะในการอุทิศเสียสละเพื่อพระพุทธศาสนาด้วยศรัทธาอย่างแรงกล้ามาโดยตลอด พร้อมทั้งได้ก่อตั้งสำนักปฏิบัติธรรม “แดนมหามงคล” ที่ จ.กาญจนบุรี ประเทศไทย และ “แดนมหามงคลชัยสันติภาพโลก” ณ เมืองสาวัตถี รัฐอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย เพื่อเผยแผ่พุทธธรรมคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    ทั้งนี้ มหาอุบาสิกา ดร.บงกช ยังได้เดินทางไปเผยแผ่พระพุทธศาสนายังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ลาว พม่า กัมพูชา สิงคโปร์ มาเลเซีย โดยตลอด ซึ่งคุณงามความดีของมหาอุบาสิกา ดร.บงกช เป็นที่ประจักษ์แก่ผู้คนในหลายประเทศ จึงทำให้รัฐบาลและคณะสงฆ์ประเทศศรีลังกา ประกาศเกียรติคุณดังกล่าว

    [​IMG]

    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    แผนที่สำนักปฏิบัติธรรมแดนมหามงคล จ.กาญจนบุรี
    <!-- m -->http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=3073
     
  8. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    [​IMG]
    พระอาจารย์สาคร ธัมมาวุโธ
    ............................................................................


    วัดเวฬุวันวนาราม (วัดเวฬุวัน)
    เลขที่ 313 หมู่ 1 ต.ท่าขนุน
    อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี 71180
    โทรศัพท์ 08-1375-7222

    พระครูภาวนาสุทธาจาร (พระอาจารย์สาคร ธัมมาวุโธ) เจ้าอาวาส

    วัดเวฬุวัน เป็นวัดปฏิบัติสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต วัดตั้งอยู่ใกล้ที่ว่าการอำเภอทองผาภูมิ

    การเดินทาง : จากกรุงเทพมหานคร มุ่งหน้าไปจังหวัดนครปฐม ถึงนครปฐมไม่ต้องเข้าเมือง ใช้สายเลี่ยงเมืองตรงไปทางป้ายราชบุรี ทางขวามือมีองค์พระปฐมเจดีย์ (แต่อาจมองไม่เห็น) แต่เห็นอาคารตึกห้างเทสโก้โลตัส หรือห้างบิ๊กซี ให้ตรงไปตามป้ายราชบุรี-กาญจนบุรี

    พอถึงป้ายราชบุรีตรงไปกาญจนบุรีเลี้ยวซ้ายขึ้นสะพาน ให้เลี้ยวซ้ายขึ้นสะพาน นับจากลงสะพานตัวนี้นับทางรถไฟที่ตัดผ่านหน้าให้ได้ 2 ทางรถไฟ พอผ่านตัวที่ 2 ให้ดูป้ายกาญจนบุรี แล้วเลี้ยวขวา

    จากที่เลี้ยวขวามาตามป้ายกาญจนบุรี วิ่งตรงไปเรื่อยๆ หลายสิบกิโลเมตร มาถึงตัวเมืองกาญจนบุรี ผ่านตัวเมือง เห็นศาลากลางจังหวัดอยู่ขวามือ และสุสานทหารสหพันธมิตรอยู่ซ้ายมือ ตรงไปอีกระยะหนึ่งจะมีป้าย “สะพานแม่น้ำแคว” อยู่ซ้ายมือเขื่อนศรีนครินทร์-เขื่อนเขาแหลม ตรงไปจะเห็นสี่แยกใหญ่อยู่ข้างหน้าเตรียมชิดซ้าย ชื่อแยกแก่งเสี้ยน มีป้ายบอกซ้ายมือไปไทรโยค ตรงไปบ่อพลอย-สุพรรณบุรี-นครปฐม เลี้ยวขวา ให้เลือกไปซ้ายมือทางไทรโยค ให้มองป้ายไทรโยคแล้วตามป้ายไทรโยคไปเรื่อยๆ ระยะทางตรงนี้หลายสิบกิโลเมตร วิ่งไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเริ่มเห็นป้ายที่บอกว่าทองผาภูมิ อีกกี่กิโลเมตรวิ่งไปตามทางทองผาภูมิเรื่อยๆ จนกว่าจะเห็นป้ายขนาดใหญ่เขียนขวางหน้าว่า “วัดเวฬุวันวนาราม” อยู่ซ้ายมือ พอเห็นป้ายให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปอีกประมาณ 4 กิโลเมตร ก็จะพบวัดเวฬุวันวนาราม (วัดเวฬุวัน)

    ระยะทางจากกรุงเทพฯ ถ้าตั้งเลขหลักกิโลเมตร น่าจะวัดได้ประมาณ 270-290 กิโลเมตรโดยประมาณ ควรออกเดินทางตั้งแต่ตอนเช้าจะได้ถึงวัดก่อนเย็น เพราะถ้ามืดแล้วไม่มีไฟฟ้าใช้ จะมองอะไรไม่เห็น ควรปรับตัวกับสภาพแวดล้อมหน่อยนึงก่อน ขอให้เตรียมไฟฉายพร้อมหยิบได้ทุกเมื่อด้วย

    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    แผนที่วัดเวฬุวัน
    <!-- m -->http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=1100
     
  9. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    [​IMG]
    พระครูวิสุทธิกาญจนคุณ (ปริญญา ญาณวิสุทฺโธ)
    ............................................................................


    วัดมโนธรรมาราม (วัดนางโน)
    หมู่ 3 ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี 71110
    โทรศัพท์ 034-504-547, 034-655-403
    โทรสาร 034-504-547

    พระครูวิสุทธิกาญจนคุณ (ปริญญา ญาณวิสุทฺโธ) เจ้าอาวาส

    พระครูวิสุทธิกาญจนคุณ (เจ้าอาวาส) 081-736-2303
    พระอดุลย์ อตุโล (กองเลขานุการ) 086-165-0092, 086-337-1931

    วัดมโนธรรมาราม (วัดนางโน) ได้รับแต่งตั้งให้เป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดกาญจนบุรี แห่งที่ 4 ตามมติที่ประชุมมหาเถรสมาคม และเป็นวัดพัฒนาตัวอย่างของกรมการศาสนา ประจำปี พ.ศ.2537 วัดตั้งอยู่ห่างจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 17 กิโลเมตร ทางวัดมีการจัดโครงการประชุมปฏิบัติธรรมบวชเนกขัมมะถือธุดงควัตร, โครงการอบรมปฏิบัติธรรมสำหรับข้าราชการและสาธุชนทั่วไป และโครงการปฏิบัติธรรมในงานประจำปีของวัด ฯลฯ เป็นประจำอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี

    [​IMG]

    ประวัติวัดมโนธรรมาราม (วัดนางโน)

    เป็นวัดเก่าแก่สร้างมาแล้วหลายร้อยปี แต่หลักฐานการก่อสร้างไม่ปรากฏชัดว่าสร้างมาตั้งแต่ พ.ศ. ใด หากมีศิลปกรรมภายในวัดคือพระปรางค์ สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น วัดนางโนมีเนื้อที่ประมาณ 30 ไร่ ด้านฝั่งตะวันตกของวัดติดลำน้ำแม่กลอง ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี สันนิษฐานกันว่าเดิมทีวัดนี้มีความเจริญรุ่งเรืองมาก่อน แต่ครั้งเกิดสงครามไทยกับพม่า ชาวบ้านจึงอพยพหลบหนีไปที่อื่น วัดจึงตกอยู่ในสภาพเป็นวัดร้างเช่นเดียวกับอีกหลายๆ วัดในเขตเมืองกาญจนบุรี

    ครั้นสงครามสงบลง ชาวบ้านจึงได้กลับถิ่นฐานเดิมและบูรณะซ่อมแซมวัด แล้วจึงนิมนต์พระภิกษุให้มาจำพรรษา ในครั้งนั้นมีผู้หญิงท่านหนึ่งชื่อ “โน” เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการบูรณปฏิสังขรณ์วัด เมื่อทุกอย่างสำเร็จลงแล้ว ชาวบ้านจึงได้เรียกวัดนี้ว่า “วัดนางโน” เรื่อยมาจนกระทั่งได้ชื่อเป็นทางการว่า “วัดมโนธรรมาราม” เมื่อวันที่ 27 กันยายน พ.ศ.2502

    วัดแห่งนี้เป็นแหล่งรวมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 9 อย่างในที่เดียวกัน ดังคำขวัญ “ชมวังมัจจฉา แม่ย่านางโน หลวงพ่อสมเด็จโต พระนอนโบราณ มนัสการหลวงพ่อแบนยึดแน่นวิปัสสนา ขอพรเมตตาพระแม่กวนอิม ได้บุญเต็มอิ่มพระสังกัจจายน์ สัพเคราะห์สูญหายพระพรหมประกาศิต ร่ำรวยในชีวิตขอพรแม่พระธรณี ล้มละลายเรื่องที่ขอพรพระประธาน”

    ปูชนียวัตถุและโบราณวัตถุที่สำคัญที่ยังมีปรากฏอยู่ในปัจจุบัน มีดังนี้
    1. พระพุทธไสยาสน์ (พระนอน)
    2. พระปรางค์
    3. พระพุทธรูปศิลาแลง
    4. พระอุโบสถหลังเก่า

    [​IMG]

    จากหนังสือวรรณคดีไทยเรื่องขุนช้างขุนแผน ตอนกำเนิดกุมารทอง บุตรนางบัวคลี่ ตอนที่ว่า
    “อุ้มเอาทารกยกจากท้อง กุมารทองมาเถิดไปกับพ่อ
    หยิบเอาย่ามใหญ่ใส่สวมคอ เอาผ้าห่อลูกชายสะพายไป
    เปิดประตูจู่ออกมานอกบ้าน รีบเดินผ่านป่าตัดเข้าวัดใต้
    ปิดประตูวิหารลั่นดาลใน ลิ่มกลอนซ่อนใส่ไว้ตรึกตรา”

    หนังสือสมุดราชบุรีของสยามรัฐพิพิธภัณฑ์ พุทธศักราช 2468 กล่าวไว้ในตำนานเรื่องเมืองกาญจนบุรี เกี่ยวกับการการปกครองท้องที่ในระเบียบใหม่เมื่อ ร.ศ.114 ถึง ร.ศ.116 ได้แบ่งอาณาเขตเมืองกาญจนบุรีไว้เป็น 3 อำเภอ คือ (1) อำเภอเมืองกาญจน์ (2) อำเภอใต้ (3) อำเภอเหนือ

    - อำเภอใต้ที่ว่านี้ ที่ว่าการอำเภอตั้งอยู่ที่ท่าไม้รวก ตำบลม่วงชุม ริมแม่น้ำแม่กลอง
    - ร.ศ.120 ย้ายที่ว่าการอำเภอไปอยู่ที่ตำบลท่าม่วงฝั่งซ้ายริมแม่น้ำแม่กลอง เปลี่ยนชื่อเป็นตำบลวังขนาย
    - พ.ศ.2490 ที่ว่าการอำเภอย้ายไปตั้งที่ริมถนนแสงชูโต ในเขตตำบลท่าม่วง เปลี่ยนชื่อเป็นอำเภอท่าม่วง จนถึงปัจจุบันนี้

    ดังนั้นจึงสันนิษฐานว่า วัดใต้ ที่กล่าวในวรรณคดีไทยเรื่องขุนช้างขุนแผน ก็คือ วัดนางโน นั่นเอง

    [​IMG]

    กฎเกณฑ์สำหรับผู้เข้ามาพำนักปฏิบัติธรรม
    ณ สำนักปฏิบัติธรรมวัดมโนธรรมาราม (วัดนางโน)

    ๑. เมื่อเข้ามาอยู่ภายในวัด ต้องปฏิบัติตามกิจวัตรและกฎเกณฑ์ของสำนัก
    ๒. ทางสำนักรับเฉพาะผู้ที่เชื่อฟังและให้ความเคารพในคณะสงฆ์ โดยมีครูอาจารย์เป็นประธาน
    ๓. ทางสำนักรับเฉพาะผู้ที่ต้องการฝึกฝนตนเองเพื่อความพ้นทุกข์
    ตามแนวทางของสำนักด้วยความสอดคล้องในพระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า
    ๔. ทางสำนักไม่ต้องการรับบุคคลที่ดีแล้วเก่งแล้ว ไม่ยอมรับกฎเกณฑ์คำสั่งสอน
    ขอนิมนต์หรือเรียนเชิญไปโปรดสัตวของท่านด้วยความสวัสดีเถิด
    ๕. ทางสำนักไม่รับผู้ที่แทรกแซงหน้าที่ผู้อื่น หรือกระทำปฏิกิริยาใดๆ
    ที่แทรกแซงหรือทำลายผู้อื่นด้วยกายและวาจา
    ๖. ทางสำนักไม่รับผู้ที่ปฏิบัติอาการใดๆ ที่เป็นการลบหลู่ในพระรัตนตรัยและกฎเกณฑ์ของสำนัก
    ๗. ถ้าคณะสงฆ์มิได้แต่งตั้งให้ท่านทำหน้าที่เป็นครูอาจารย์ของสำนัก
    ขอให้ท่านจงเก็บความรู้ของท่านเอาไว้ที่ท่านไม่ต้องแสดงแทรกแซงหน้าที่ของครูอาจารย์
    ๘. จะต้องทราบว่าวัดมโนธรรมาราม (วัดนางโน) แห่งนี้ เป็นสถานลานปฏิบัติธรรม
    ไม่ใช่สถานที่เลี้ยงสุกรและงูเหลือม พร้อมทั้งไม่ใช่สถานที่พักตากอากาศ
    เพราะฉะนั้นกลางวันไม่ใช่เวลานอน ๓ ทุ่ม ถึง ๔ ทุ่ม จึงเป็นเวลาพักผ่อนสำหรับเรา
    ๙. ห้ามกระทำการใดๆ ที่เป็นไปซึ่งความแตกแยกความสามัคคีของหมู่คณะ
    ๑๐. ถ้าหากไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์
    ครั้งที่ ๑ ให้พระเจ้าหน้าที่หัวหน้าแม่ชีตักเตือน
    ครั้งที่ ๒ ให้ลงโทษโดยอยู่ในขอบเขตพระธรรมวินัย
    ครั้งที่ ๓ ให้นิมนต์หรือเรียนเชิญออกจากพื้นที่การปฏิบัติธรรมของสำนัก
    ๑๑. ถ้าหากมีความจำเป็นที่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ไม่ได้ในวาระใด
    ให้แจ้งเหตุผลต่อพระเจ้าหน้าที่หัวหน้าแม่ชีทุกครั้ง
    ๑๒. กฎเกณฑ์ทุกข้อเป็นหน้าที่ของทุกท่านที่ต้องปฏิบัติตาม
    ยกเว้นเฉพาะบุคคลที่คณะสงฆ์พิจารณาแล้วสั่งยกไว้

    สภาพโดยทั่วไป :

    วัดตั้งอยู่ห่างจากเขื่อนวชิราลงกรณ์ (เขื่อนแม่กลอง) ประมาณ 3 กิโลเมตร อยู่บริเวณริมแม่น้ำ เป็นวัดเก่าแก่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น ทางวัดรับบวชพรามหณ์ทั้งชายและหญิง การปฏิบัติธรรมในวัดไม่เคร่งเครียดมากนัก เหมาะสำหรับการบวชแก้บน หรือบวชหาความสงบในระยะสั้นๆ (อยู่ระยะยาวต้องคุยกับเจ้าอาวาส) สำหรับชุดขาวต้องนำมาเอง หรือซื้อได้จากร้านค้าสหกรณ์ของทางวัด สามารถบริจาคเงินช่วยทางวัดได้ตามความเหมาะสมของแต่ละท่าน

    [​IMG]

    กิจวัตรประจำวัน :

    ๐๔:๐๐ น. ฝึกกรรมฐานนั่งสมาธิ และทำวัตรเช้า
    ๐๘:๐๐ น. รับประทานอาหารเช้า
    ๑๑:๐๐ น. รับประทานอาหารเพล
    ๑๘:๐๐ น. ฝึกกรรมฐานนั่งสมาธิ และทำวัตรเย็น

    ในวันพระจะต่างไปเล็กน้อย

    - รับประทานอาหารเช้าเวลาประมาณ ๐๖:๓๐ น.
    - ร่วมทำบุญและฟังธรรมประมาณ ๐๙:๐๐ น. (ผู้ที่บวชพราหมณ์จะรับพัตรเตรียมไว้สำหรับเพล)

    การติดต่อขอเข้าบวชพราหมณ์ :

    ติดต่อที่วิหารหลวงปู่แบน (ถ่ายสำเนาบัตรประชาชนหรือบัตรข้าราชการมาด้วย) ทำพิธีบวชและลาศีลที่กุฎิเจ้าอาวาสทุกวัน ห้ามนำโทรศัพท์มือถือติดตัวมา (หรือปิดโทรศัพท์)

    การเดินทาง :

    - โดยรถโดยสารประจำทาง

    รถโดยสารประจำทางผ่านทางเข้าอย่างน้อย 2 สาย คือ สายกรุงเทพฯ<->กาญจนบุรี และสายราชบุรี<->กาญจนบุรี ลงรถที่หน้าทางเข้าเขื่อนแม่กลอง (หอนาฬิกา) ที่ท่าม่วง แล้วนั่งเมล์เครื่อง (มอร์เตอร์ไซต์รับจ้าง) เข้าไป

    - โดยรถยนต์ส่วนตัว

    เข้าทางเขื่อนแม่กลอง เลยเขื่อนแล้วตรงไป จะมีป้ายบอกทางเป็นระยะๆ

    [​IMG]
    พระแม่ธรณี ณ วัดมโนธรรมาราม (วัดนางโน)


    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    แผนที่วัดมโนธรรมาราม (วัดนางโน)
    <!-- m --><A href="http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=3090" target=_blank>:: Œ??Ã?ѡà:: :: ͨҹ - Ἱ?ըǑ????Ã?Ò?(Ǒ??ҧ⹩ ?.?ҭ???؃զlt;/a><!-- m -->

    เว็บไซต์วัดมโนธรรมาราม (วัดนางโน)
    <!-- m -->WANVISA.COM<!-- m -->

    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
     
  10. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    <TABLE class=tablebg cellSpacing=1 width="100%"><TBODY><TR></TR><TR><TD align=middle>[​IMG]


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    วัดป่าญาณรังษี
    ต.ท่ากระดาษ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี 71250

    วัดป่าญาณรังษี เป็นวัดป่าปฏิบัติสายหลวงพ่อชา สุภัทโท โดยอดีตรองเจ้าอาวาส วัดราชสิทธาราม กรุงเทพมหานคร เป็นผู้สืบทอดสายวิปัสสนากัมมัฏฐาน ตามแนวของสมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) จากพระครูสังวรสมาธวัตร (หลวงปู่แป๊ะ) ปัจจุบันมี พระอาคม ญาณโสภโณ (อาจารย์วี ญาณโสภโณ) รักษาการเจ้าอาวาสวัดป่าญาณรังษี

    เข้าเยี่ยมชมได้ที่
    <!-- m -->http://watpayannarancsi.igetweb.com

    ขอบคุณข้อมูลทั้งหมดจาก .. http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=9&t=18656
     
  11. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    ยายผีป่าอยากจะผลักดันร่วมกับองค์กรต่างๆ ให้ทองผาภูมิ เป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และธรรมะ อาจารย์นิติภูมิ นวรัตน์ ที่ปรึกษา อบจ. กาญจนบุรี ท่านแนะนำว่า ให้ ๑๓ อำเภอ ทั่วเมืองกาญจน์ แบ่งโซนการท่องเที่ยวให้หลากหลาย อย่างท่าม่วง นี่ให้ปลูกตนไม้ที่มีดอกสีม่วง อย่างตะแบกและอินทนิน ให้ทั่วริมถนนและหน้าบ้าน ในตลาด เพื่อเป็นเมืองท่องเที่ยวของชาวสีม่วง และชาวรักร้าว ให้เขามาคลายเศร้า มารับสุขที่เมืองนี้

    ..................

    ส่วนทองผาภูมิ ยายผีป่าคิดเอง ก็ได้อาจารย์คิดเหมือนกันคือ

    เมืองธรรมะค่ะ

    ยายผีป่าเคยอยากให้ชาวบ้านร้านรวง ปลูกดอกไม้สีขาวให้เต็มบ้าน ริมถนน ต้นไม้อย่างพญาเสือโคร่ง ที่เหมือนซากุระนี่ เวลาบานจะขาวอมชมพู หรือดอกแคฝรั่งสีขาว ดอกคูณก็สลับกันได้ เอาตลอดเส้นทาง ริมแม่น้ำก็เอาไปลงไว้ รับรองว่าหน้าดอกไม้บาน ตรงกับช่งเข้าพรรษาหรือสงกรานต์พอดิบพอดี เราก็ทำเทศกาลท่องเที่ยว ล่องแพ แห่ไปงานบุญ สิเนาะ

    แต่ละอำเภอ ปลูกต้นไม้คนละสี

    อ้อ...ใครไปที่ทองผาภูมิ แวะวัดหลวงปู่สาย (วัดท่าขนุน) สิคะ ถ้าเมื่อยนัก แวะบ้านยายผีป่าที่พุน้ำร้อน หินดาด ก่อนกลับเข้ากรุงเทพ ที่บ้านมีการแนะนำเรื่องธรรมะที่สามารถนำมาใช้กับชีวิตจริงๆได้ด้วย มีการอบ นวดประคบสมุนไพร(กำลังดำเนินการ) มีการแนะนำสมุนไพรใกล้ตัวด้วยนะคะ

    .......................................
     
  12. nkr56

    nkr56 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +6
    ข้อมูลเพิ่มเติมวัดหนองขอนเทพพนม หนองปรือ กาญจนบุรี

    มีโอกาศได้ไปมาเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาสุดยอดมากสำหรับเส้นทางเดินจงกลม
    สมกับมีผู้ให้รายละเอียดไว้ว่าเน้นเดินจงกลมเหมาะมากสำหรับผู้ต้องการความสงบในการเดินจงกลมอย่างจริงจัง จงกลมปกติก็เดินรอบวิหารหลวงปู่ขาวแต่ถ้าจงกลมใหญ่ก็รอบวัดน่าจะอยู่ 3.5-4 กม.ต่อ1รอบใช้เวลาเดินเหมือนเดินปกติพิจารณาไปด้วยประมาณ 1ถึง1ชม.20นาทีรวมสมาทานและอุทิศส่วนกุศล(กรณีตามตารางและมีผู้นำประมาณเกือบ2ชม.)เงียบสงบร่มรื่นด้วยต้นไม้ทึบไม่หนาเกินไปมีทั้งทางลูกรังทางปูนทางดินทางทรายและทางหินอยู่ในรอบเดียวกันทุกรูปแบบโดยเพาะทางหินภูเขามีต่างระดับด้วย ต้องบอกเลยว่าที่นี่เขาสุดยอดจริงๆใครที่สติชอบเตลิดไปที่อื่นตอนเดินจงกลมต้องที่นี่สติท่านจะอยู่ที่เท้าตลอดเวลาแน่นอน

    เจ้าอาวาส พระครู ภาวนาธรรมโชติ (หลวงพ่อศรี ธมมโชโต)

    กิจกรรมภายในวัด : ล่าสุด
    03.30 น. ตีระฆัง/ทำธุระส่วนตัว
    04.00 น. นั่งสมาธิครู่นึง/ทำวัตรเช้า
    06.00 น. พระบิณฑบาตร/จัดเตรียมอาหาร และตักบาตรที่ศาลาใหญ่
    07.30 น. รับประทานอาหารเช้า
    08.15 น. เดินจงกลมรอบวัด(มีอาจารย์พระเป็นผู้นำกิจกรรม)
    10.30 น. กิจกรรมช่วงเพล/จัดเตรียมอาหาร และตักบาตรที่ศาลาใหญ่
    11.00 น. รับประทานอาหาร
    ช่วงเวลาหลังเที่ยงนี้ผู้ปฎิบัติธรรม จะนั่งสมาธิ/สวดมนต์หรือเดินจงกลมที่ศาลาใหญ่และรอบวิหารหลวงปู่ขาวตามใจชอบ
    15.00 น. เดินจงกรมรอบวัด (มีอาจารย์พระเป็นผู้นำกิจกรรม)
    18.00 น. ตีระฆัง/ทำวัตรเย็น ต้องสมาทานรับศีล 8 ทุกวันก่อนทำวัตรและต้องขอบอกว่าบทสวดแปรของที่นี่เพราะมากโดยเฉพาะบทบูชาพระพุทธสิหิงส์และอีกหลายบทซึ่งอาจไม่เคยได้ยินที่ไหนและก็นานมาก2ทุ่มทำวัดเสร็จ
    จากนั้นจะยืนสมาธิ/เดินจงกลมประมาณ 1/2 กม.กลับมานั่งสมาธิซึ่งหลวงพ่อเจ้าอาวาสจะเป็นผู้สอนวิธีปฎิบัติด้วยตัวเองซึ่งท่านย้ำว่าต้องเอาทุกอย่างไม่ใช่นั่งอย่างเดียว ขาดอย่างเดียวนอนสมาธิและอุทิศส่วนกุศลประมาณถึง 21.00น.แยกย้ายพักผ่อน

    การติดต่อขอเข้าพัก :

    ผู้ที่จะมาปฏิบัติธรรมที่วัดแห่งนี้ สามารถเข้าติดต่อที่วัดได้ทุกวัน ทางวัดมีที่พักสำหรับผ่ายหญิงและฝ่ายชาย สำหรับชุดขาว ผู้ที่สนใจสามารถนำมาเอง หรือจะยืมจากทางวัดก็ได้ มุ้งหรือกลดควรเตรียมมาด้วยจะดีมากสำหรับผู้ชายนะจะได้สะดวกตอนนอนที่กุฎรวมห้องค่อนข้างจำกัดแต่ผู้หญิงอาศัยรวมกับแม่ชีได้

    การเดินทาง :

    - โดยรถโดยสารประจำทาง

    วัดหนองขอนเทพพนม มีรถโดยสารประจำทางผ่านเพียงวันละเที่ยว (ไป-กลับ) สายอู่ทอง-หนองปลาไหล โดยรถประจำทางจะผ่านหน้าวัด (จากหนองปลาไหล ไป อู่ทอง) ประมาณ ๗ โมงเช้า และออกจากอำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี (ตรงหอนาฬิกา) ประมาณ ๑๑.๐๐ น. **ให้ย้ำว่าหนองปลาไหล
    อำเภอหนองปรือนะครับตัวกระผมเองยอมรับว่าฉลาดน้อยไปนิดนั่งรถไปหนองปลาไหล กำแพงแสนคนละซีกโลกเลย

    หรืออีกเส้นหนึ่ง
    รถตู้จากหมอชิต 2 - หนองปรือ โทรสั่งให้รับและส่งถึงที่ 180บ.ออกทุก 2 ชม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.5-4 ชม. เบอร์โทรจองที่นั่ง 087-9702802/083-8381945/088-4570172/034-67429
     
  13. namonamonamo

    namonamonamo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +367
    สาทุๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2018

แชร์หน้านี้

Loading...